51 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 สอนครั้งที่ 2-3 เรื่อง เครื่องมือช่างยนต์ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 ชื่อวิชา งานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน เวลาเรียนรวม 126 ชั่วโมง ชื่อหน่วย เครื่องมือช่างยนต์ สอนครั้งที่2-3 ชื่อเรื่อง เครื่องมือช่างยนต์ จำนวน 14 ชั่วโมง หัวข้อเรื่อง 1. เครื่องมือทั่วไป 2. เครื่องมือพิเศษ สาระสำคัญ เครื่องมือ เป็นอุปกรณ์ที่มีความสำคัญมากในการทำงาน ผู้ปฏิบัติงานจำเป็นต้องเลือก ใช้เครื่องมือให้ ถูกต้อง และเหมาะสมกับงานเครื่องมือเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในงานโดยการใช้แรงจากคน ซึ่งอาจจะใช้สำหรับขันตอก ตัด ฯลฯ ในการใช้เครื่องมือต่าง ๆ นั้น ไม่เพียงแต่จะปฏิบัติงานให้เสร็จได้อย่างรวดเร็วเพียงอย่าง เดียวแต่ควรต้อง ปฏิบัติงานโดยคำนึงถึงความปลอดภัย และการปฏิบัติงานที่ถูกต้องตามขั้นตอนการใช้เครื่องมือ ช่างยนต์ ความหมายของเครื่องมือ เครื่องมือเรียกว่า แฮดทูล(Hand tools) คืออุปกรณ์ที่ช่วยอำนวยความสะดวก ในการปฏิบัติงานให้ได้อย่าง รวดเร็วประหยัดเวลาในการทำงาน เครื่องมือเป็นพื้นฐานที่สำคัญมาก สำหรับงานซ่อม รถยนต์ไม่ว่า จะเป็นการ ถอดแยกชิ้นส่วนสำหรับการปรับแต่งเครื่องยนต์ ซึ่งเป็นงานหลักของงานซ่อมประกอบ รถยนต์ สมรรถนะหลัก สมรรถนะประจำหน่วย สามารถใช้เครื่องมือพื้นฐานในงานช่างยนต์และเครื่องมือพิเศษในงานช่างยนต์อย่างถูกต้อง เหมาะสม สมรรถนะย่อย (สมรรถนะการเรียนรู้) สมรรถนะทั่วไป (ทฤษฏี) 2.1 แสดงความรู้เกี่ยวกับเครื่องมือทั่วไป 2.2 แสดงความรู้เกี่ยวกับเครื่องมือช่างยนต์ทั่วไป 2.3 แสดงความรู้เกี่ยวกับเครื่องมือวัด 2.4 แสดงความรู้เกี่ยวกับเครื่องมือพิเศษ 2.5 แสดงความรู้เกี่ยวกับความปลอดภัยในการใช้เครื่องมือ
52 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 ชื่อวิชา งานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน เวลาเรียนรวม 126 ชั่วโมง ชื่อหน่วย เครื่องมือช่างยนต์ สอนครั้งที่2-3 ชื่อเรื่อง เครื่องมือช่างยนต์ จำนวน 14 ชั่วโมง สมรรถนะที่พึงประสงค์ (ทฤษฏี) 2.1 บอกชนิดของเครื่องมือทั่วไปได้ถูกต้อง 2.2 บอกชนิดของเครื่องมือช่างยนต์ทั่วไปได้ถูกต้อง 2.3 บอกชนิดของเครื่องมือวัดได้ถูกต้อง 2.4 บอกชนิดของเครื่องมือพิเศษได้ถูกต้อง 2.5 อธิบายหลักการใช้เครื่องมือได้ถูกต้อง สมรรถนะทั่วไป (ปฏิบัติ) 2.1 สามารถใช้เครื่องมือพื้นฐานในงานช่างยนต์อย่างถูกต้องเหมาะสม 2.2 สามารถใช้เครื่องมือพิเศษในงานช่างยนต์อย่างถูกต้องเหมาะสม กิจกรรมการเรียนการสอน ในการจัดการเรียนการสอนรายวิชางานเครื่องยนต์แก๊สโซลีนได้กำหนดกิจกรรมการเรียนการสอน ให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้โดยใช้วิธีการจัดการเรียนรู้ฐานสมรรถนะเชิงรุก (Active Learning Competency Based) ด้านเทคนิคการจัดการเรียนการสอนแบบ MAIP โดยมีขั้นตอนในการดำเนินกิจกรรมการเรียนการสอน ดังนี้ กิจกรรมการเรียนการสอน (สอนครั้งที่ 2 ) เวลา 7 ชั่วโมง/สัปดาห์ 1. ผู้สอนชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับจุดประสงค์รายวิชา สมรรถนะรายวิชา และคำอธิบายรายวิชา การ วัดและประเมินผลการเรียนรายวิชา คุณลักษณะอันพึงประสงค์ของรายวิชา และข้อตกลงในการจัดการเรียน การสอนในรายวิชา 2. ผู้สอนกล่าวนำเกี่ยวกับเครื่องมือพื้นฐานของช่างยนต์และขั้นตอนการใช้เครื่องมือพื้นฐานในงานช่าง ยนต์อย่างไร ถึงถูกต้องและเหมาะสมกับงาน 3. ผู้สอนถ่ายทอดความรู้ใน เรื่อง เครื่องมือพื้นฐานในงานช่างยนต์ 3. ผู้สอนแสดงใบงานเรื่องเครื่องมือพื้นฐานในงานช่างยนต์และอธิบายขั้นตอนวิธีการในการปฏิบัติงาน ตามใบงาน 4. ผู้สอนให้ผู้เรียนปฏิบัติงานตามใบงานเรื่องการใช้เครื่องมือพื้นฐานในงานช่างยนต์ 5. ผู้สอนประเมินผลการปฏิบัติงานของผู้เรียนและให้ผู้เรียนสรุปสาระสำคัญของเรื่องที่เรียนประจำ สัปดาห์
53 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 ชื่อวิชา งานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน เวลาเรียนรวม 126 ชั่วโมง ชื่อหน่วย เครื่องมือช่างยนต์ สอนครั้งที่2-3 ชื่อเรื่อง เครื่องมือช่างยนต์ จำนวน 14 ชั่วโมง กิจกรรมการเรียนการสอน (สอนครั้งที่ 3 ) เวลา 7 ชั่วโมง/สัปดาห์ 1. ผู้สอนชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับจุดประสงค์รายวิชา สมรรถนะรายวิชา และคำอธิบายรายวิชา การ วัดและประเมินผลการเรียนรายวิชา คุณลักษณะอันพึงประสงค์ของรายวิชา และข้อตกลงในการจัดการเรียน การสอนในรายวิชา 2. ผู้สอนกล่าวนำเกี่ยวกับขั้นตอนการใช้งานเครื่องมือพิเศษในงานช่างยนต์ 3. ผู้สอนถ่ายทอดความรู้ใน เรื่อง เครื่องมือพิเศษในงานช่างยนต์ 3. ผู้สอนแสดงใบงานเรื่องเครื่องมือพิเศษในงานช่างยนต์และอธิบายขั้นตอนวิธีการในการปฏิบัติงาน ตามใบงาน 4. ผู้สอนให้ผู้เรียนปฏิบัติงานตามใบงานเรื่องการเครื่องมือพิเศษในงานช่างยนต์ 5. ผู้สอนประเมินผลการปฏิบัติงานของผู้เรียนและให้ผู้เรียนสรุปสาระสำคัญของเรื่องที่เรียนประจำ สัปดาห์ สื่อการสอน 1.เอกสารประกอบการสอน 2.เอกสารประกอบการเรียน 3.สื่อนำเสนอ PowerPoint งานที่มอบหมาย/กิจกรรม ให้นักเรียนทำแบบฝึกเสริมทักษะตามใบงานท้ายหน่วยการเรียนที่ 2 การวัดและประเมินผล วัดผล/ประเมินผล วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์ ๑.สมรรถนะที่พึง ประสงค์ - ทำแบบฝึกเสริมทักษะ ท้ายหน่วย - แบบฝึกเสริมทักษะ ท้ายหน่วย - ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 60 ๒.คุณลักษณะอันพึง ประสงค์ (Attitude) - ประเมินคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ - แบบประเมิน คุณลักษณะอันพึง ประสงค์ - ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 80
54 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 ชื่อวิชา งานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน เวลาเรียนรวม 126 ชั่วโมง ชื่อหน่วย เครื่องมือช่างยนต์ สอนครั้งที่2-3 หน่วยที่ 2 เครื่องมือช่างยนต์ จำนวน 14 ชั่วโมง เนื้อหา หลักการทำงานของเครื่องยนต์แก๊สโซลีน (Auto Mechanic hand tools) เครื่องมือ เป็นอุปกรณ์ที่มีความสำคัญมากในการทำงาน ผู้ปฏิบัติงานจำเป็นต้องเลือก ใช้เครื่องมือให้ ถูกต้อง และเหมาะสมกับงานเครื่องมือเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในงานโดยการใช้แรงจากคน ซึ่งอาจจะใช้สำหรับขันตอก ตัด ฯลฯ ในการใช้เครื่องมือต่าง ๆ นั้น ไม่เพียงแต่จะปฏิบัติงานให้เสร็จได้อย่างรวดเร็วเพียงอย่าง เดียวแต่ควรต้อง ปฏิบัติงานโดยคำนึงถึงความปลอดภัย และการปฏิบัติงานที่ถูกต้องตามขั้นตอนการใช้เครื่องมือ ช่างยนต์ ความหมายของเครื่องมือ เครื่องมือเรียกว่า แฮดทูล(Hand tools) คืออุปกรณ์ที่ช่วยอำนวยความสะดวก ในการปฏิบัติงานให้ได้อย่าง รวดเร็วประหยัดเวลาในการทำงาน เครื่องมือเป็นพื้นฐานที่สำคัญมาก สำหรับงานซ่อม รถยนต์ไม่ว่า จะเป็นการ ถอดแยกชิ้นส่วนสำหรับการปรับแต่งเครื่องยนต์ ซึ่งเป็นงานหลักของงานซ่อมประกอบ รถยนต์ เครื่องมือมือทั่วไป (แฮนด์ทูล: Hand tools) เครื่องมือประเภทนี้ เป็นเครื่องมือพื้นฐานที่มีความจำเป็นอย่างยิ่ง สำหรับการใช้งานช่างโดยทั่ว ๆ ไปซึ่ง จะมีทั้ง ขนาดเล็กขนาดกลางและขนาดใหญ่ถ้าผู้ปฏิบัติงานไม่มีเครื่องมือประเภทนี้ ก็ไม่สามารถที่จะทำงานได้ สำเร็จ เช่น ไขควงคีม ค้อน สกัด เหล็กส่ง เป็นต้น ไขควง (สกรูไดรเวอร์: Screw driver) รูปที่ 1 ไขควงแบบต่าง ๆ การใช้ไขควง - ไม่ควรนำ ไขควงไปใช้แทนสกัด - ไม่ควรนำ ไขควงไปใช้แทนเหล็กงัด - ไม่ควรนำ ไปใช้ทดลองไฟแบตเตอรี่ - เลือกขนาดของไขควงให้พอดีกับร่องที่หัวสกรู - ถ้าจะลับปลายไขควงควรลับให้เต็มหน้าอย่าลับให้ปลายแหลมเกินไป
55 คีม (ไพรเออร์:Pliers) คีมเป็นเครื่องมือที่ใช้สำหรับงานที่ต้องการจับบีบชิ้นงานทั่ว ๆ ไป บางชนิดก็ออก แบบให้มีฟันคมเพื่อใช้ใน การตัด สำหรับใช้ในงานจักรกล และงานที่เกี่ยวกับไฟฟ้า ซึ่งจะต้องมีด้ามเป็นฉนวนหุ้มไว้เพื่อป้องกันอันตรายจาก ไฟฟ้าช็อตได้ คีมปากจิ้งจก(ลองโน๊ต ไพรเออร์: Long nose pliers) คีมปากจิ้งจกจะมีทั้งปากแบนและปากกลม จะใช้สำหรับงานขนาดเล็ก ๆ เช่น การถอดประกอบแหวนล็ อกใน หรือสลัก รูปที่ 2 คีมปากจิ้งจก คีมตัด (ไดอะโกนัลคัตเตอร์ ไพรเออร์: Diagonal cutter pliers) คีมตัดจะใช้สำหรับงานตัดเส้นลวดหรือสายไฟ เท่าที่จะตัดได้ซึ่งอาจจะเป็นด้ามเหล็กล้วนหรือมีพลาสติก หุ้มที่ด้ามคีม เพื่อเป็นฉนวนป้องกันไฟฟ้าช็อต รูปที่ 3 คีมตัด คีมปากขยายหรือคีมปากเลื่อน (คอมบิเนชั่นไพเออร์: Combination pliers) คีมปากขยายหรือคีม ปากเลื่อน จะใช้สำหรับจับงานทั่ว ๆ ไปปากคีมจะสามารถเลื่อนได้ซึ่งอาจจะใช้แทน ประแจเลื่อน หรือประแจ ปากตายในกรณีที่รีบด่วนเท่านั้น รูปที่ 4 คีมปากขยาย
56 คีมถอดแหวนล็อก(สแนปริงไพรเออร์: Snap ring pliers) คีมถอดแหวนล็อกจะมีทั้งแบบถอด แหวนล็อกในและแหวนล็อกนอกกตรงส่วนปลายของคีมจะเป็นแบบ แบนหรือแบบกลมได้โดยมีทั้งแบบปาก ตรงและปากงอ มีหลายขนาดให้เพียงพอต่อความต้องการของผู้ปฏิบัติงาน รูปที่ 5 คีมถอดแหวนล็อก คีมล็อก(ล็อกกิ้งไพรเออร: Locking plier) คีมล็อกจะใช้สำหรับชิ้นงานให้แน่น จะมีทั้งขนาด ชนิดปากตรงและปากโค้ง เพื่อใช้จับบีบชิ้นงานที่เป็น แผ่น หรือแบบทรงกลมให้แน่น ซึ่งสามารถล็อกการบีบไว้ได้โดยไม่ต้องออกแรงในการบีบตลอดเวลาในขณะจับ ชิ้นงาน รูปที่ 6 คีมล็อก การใช้คีม - ควรเลือกใช้คีมให้เหมาะสมกับชิ้นงาน - ไม่ควรใช้คีมทดลองไฟจากแบตเตอรี่ - ไม่ควรนำ คีมไปตัดเส้นลวดในขณะร้อน - ไม่ควรลับปากคีมให้มีความคมมากจนเกินไป - ไม่ควรนำ คีมไปขันสลักเกลียว - ไม่ควรนำ คีมไปตอกแทนค้อน
57 ค้อน (แฮมเมอร์: Hammer) ค้อนเป็นเครื่องมือที่ใช้สำหรับตอกชิ้นส่วนของเครื่องจักรกลต่าง ๆ และอาจจะใช้สำหรับตีขึ้นรูป หรือตีดัด ชิ้นงานให้ได้ตามความต้องการของผู้ปฏิบัติงาน ค้อนหัวกลม (บอล พีล แฮมเมอร์: Ball peen hammer) ค้อนหัวกลมมีหลายขนาดแต่ที่ใช้งานทั่ว ๆ ไป คือ ขนาด1 ปอนด์เพื่อใช้สำหรับตอกเหล็กส่ง หรือเหล็กนำ ศูนย์ รูปที่ 7 ค้อนหัวกลม ค้อนทองเหลือง (แบช แฮมเมอร์: Brass hammer) ค้อนทองเหลือง ซึ่งทำจากวัสดุที่อ่อนเพื่อใช้สำหรับ ตีชิ้นงานหรือเคาะชิ้นงานที่ไม่ต้องการให้บุบสลาย รูปที่ 8 ค้อนทองเหลือง ค้อนพลาสติก (พลาสติก แฮมเมอร์: Plastic hammer) ค้อนพลาสติกจะมีทั้งแบบเปลี่ยนหัวพลาสติกได้และแบบที่เปลี่ยนไม่ได้ใช้สำหรับตอกหรือเคาะชิ้นงานที่ อ่อนและบอบบาง รูปที่ 9 ค้อนพลาสติก
58 ค้อนหัวตัด (ครอซพีล แฮมเมอร์: Cross peen hammer) ค้อนหัวตัดใช้สำหรับงานทั่ว ๆ ไป รูปที่ 10 ค้อนหัวตัด การใช้ค้อน - ไม่ควรนำ ค้อนที่มีหัวคลอนมาใช้งาน - ในขณะที่ตอกหัวค้อนจะต้องขนานกับชิ้นงาน - ควรเลือกใช้ค้อนให้เหมาะสมกับงาน - ไม่ควรใช้ด้ามค้อนสำหรับงัด - ไม่ควรใช้ด้ามค้อนกระทุ้งชิ้นงานที่เป็นโลหะ - ด้ามค้อนต้องสะอาดอยู่เสมอไม่เปื้อนน้ำมันหรือจาระบี สกัด (โคว ชิเชล: Cold chlisel) สกัดใช้สำหรับตัดโลหะ หัวหมุดย้ำ ตัดโลหะแผ่นฝ่าหัวน๊อตที่เป็นสนิม ซึ่งใช่ประแจถอดไม่ได้แล้ว โดย ปากของสกัดจะมีหลายแบบ เช่น ปากแบน เซาะร่องลิ่ม ปากจิ้งจกครึ่งวงกลม และปากกลม สำหรับงานช่างยนต์ จะใช้อยู่ 2 ชนิด คือ สกัดปากแบน และปากจิ้งจก รูปที่ 11 สกัด
59 การใช้สกัด - ควรเลือกใช้สกัดให้เหมาะสมกับงาน - ไม่ควรใช้สกัดที่มีก้นเยิน ต้องลับก้นให้เรียบร้อยก่อนที่จะนำ มาใช้งาน - ในขณะที่ปฏิบัติงานควรระมัดระวังผู้ที่อยู่ข้างเคียงด้วย - ในขณะทำ การลับสกัดจะต้องสวมใส่แว่นตานิรภัยทุกคร้ัง เหล็กส่ง (พัลส์ : Punch) เหล็กส่งมีหลายแบบ เช่น เหล็กส่งสลัก เหล็กส่งเรียวและเหล็กปรับรูเหล็กส่งเป็นเครื่องมือที่ใช้สำหรับ ส่ง ในการถอดประกอบชิ้นส่วนต่าง ๆ ของเครื่องยนต์ รูปที่ 12 เหล็กส่ง การใช้เหล็กส่ง - ควรเลือกใช้เหล็กส่งให้เหมาะสมกับงาน - ไม่ควรใช้เหล็กส่งที่มีก้นเยิน เหล็กนำศูนย์(เซ็นเตอร์ พัลส์ : Center punch) เหล็กนำศูนย์จะใช้สำหรับตอกนำก่อนการเจาะของโลหะ ปากจะทำมุม 90 องศา ซึ่งจะทำให้ได้ตำแหน่ง ในการเจาะที่ถูกต้อง รูปที่ 13 เหล็กนำศูนย์ หลักการทำงานของเครื่องยนต์แก๊สโซลีนทั่วไป หลักการทำงานของเครื่องยนต์แก๊สโซลีนทั่วไป เป็นเครื่องมือที่ใช้สำหรับทำงานโดยใช้แรงจากคน อาจจะ ใช้ในการขัน ตอก ตัด ฯลฯ ซึ่ง เป็นเครื่องมือพื้นฐานสำหรับงานซ่อมทั่ว ๆ ไป ประแจ ((เว้นท์: Wrench) ประแจเป็นเครื่องมือหลักที่มีความสำคัญที่สุดสำหรับการซ่อมเครื่องยนต์หรือเครื่องจักรกลทั่ว ๆ ไป การ นำ ประแจมาใช้งานจะต้องเลือกขนาดของประแจให้ตรงกับขนาดน็อต สกรูหกเหลี่ยม
60 ประแจปากตาย (โอเพ่น เอ็น เว็นท์ : Open end wrench) รูปที่ 14 ประแจปากตาย ประแจแหวน (บ๊อก เว้นท์: Box Wrench) ประแจแหวนจะมีคอที่งอใช้สำหรับขัน หรือคลายน็อต สกรูและงานทั่ว ๆ ไป เหลี่ยมของประแจแหวนจะ เต็ม หน้าสัมผัส จึงทำให้เหลี่ยมไม่มนขันได้แน่น รูปที่ 15 ประแจแหวน ประแจรวม (คอมบิเนชั่นเว้นท์: Combination wrench) ประแจรวมจะถูกออกแบบข้างหนึ่ง เป็นประแจปากตาย ส่วนอีกข้างหนึ่งจะทำเป็นประแจแหวน ประแจ รวมจะใช้ขัน หรือคลายน็อต แทนประแจ แหวนในบริเวณที่แคบ ๆ รูปที่ 16 ประแจรวม ประแจแหวนหัวผ่า (แฟร์นัทเว้นท์: Flare not wrench) ประแจแหวนหัวผ่า จะมีลักษณะคล้าย ประแจแหวนแต่ผ่า ปลายออกเพื่อใช้สำหรับขันน็อตท่อไอเสีย หรือท่อน้ำมันต่าง ๆ รูปที่ 17 ประแจหัวผ่า
61 ประแจแหวนโค้ง (ฮารฟ มูน บ๊อก เว้นท์: Haif moon box wrench) ประแจแหวนโค้งใช้สำหรับงานขันตรงไม่ได้ประแจแบบนี้ จะใช้สำหรับงานเฉพาะที่เท่านั้น รูปที่ 18 ประแจแหวนโค้ง ประแจกระบอก (ซ๊อกเก็ตเว้นท์: Socket wrench) ประแจกระบอกเป็นประแจที่ใช้ร่วมกับด้ามประแจใช้สำหรับขัน หรือคลายน็อต และโบลท์ได้ดีที่สุด ขัน แน่นได้และหัวน็อตไม่เยิน หรือชำรุด รูปที่ 19 ประแจกระบอก ด้ามขันแบบสว่าน (สปีดแฮนท์: Speed Handle) ด้ามขันแบบสว่านใช้ต่อกับประแจกระบอกเพื่อใช้สำหรับขัน หรือคลายน็อต หรือโบลท์ เพื่อความรวดเร็ว แต่ไม่สามารถขันน็อตให้แน่นได้และไม่สามารถคลายน็อตที่แน่นจนเกินไปได้ รูปที่ 20 ด้ามขันแบบสว่าน ด้ามขันแบบกรอกแกรก (แร็ทเช็ทแฮนด์เดล: Ratchet handle) ด้ามกรอกแกรกเป็นด้ามประแจใช้สำหรับขัน หรือคลายน็อต และโบลท์ในบริเวณแคบ ด้ามขันชนิดนี้ไม่ ค่อย แข็งแรงจึงไม่ควรใช้งานกับงานที่แน่นมาก ๆ สามารถปรับทิศทางการหมุนได้ รูปที่ 21 ด้ามขันแบบกรอกแกรก
62 ด้ามขันแบบยาวหรือด้ามขันตรง (เฟล็กซ์แฮนด์เดล: Flex handle) ด้ามขันยาวหรือด้ามขันตรง จะใช้สำหรับต่อกับประแจกระบอกเพื่อขัน หรือคลายน็อต และโบลท์ที่แน่น มาก ๆ ซึ่งโดยทั่ว ๆ ไปจะใช้ขันแน่นครั้งสุดท้าย รูปที่ 22 ด้ามขันแบบยาวหรือด้ามขันตรง ด้ามขันแบบตัวที (สไลดิ้ง ทีแฮนด์เดิล: Sliding T handle) ด้ามขันแบบตัวทีจะใช้สำหรับต่อกับประแจกระบอกเพื่อขัน หรือคลายน็อต และโบลท์ที่ต้องการออก แรงดัน ทางด้านซ้าย และด้านขวาเท่า ๆ กัน รูปที่ 23 ด้ามขันแบบตัวที ก้านต่อ(เอ็กเทนชัน : Extension) ก้านต่อมีหลายขนาด ใช้สำหรับต่อกับประแจกระบอกและด้ามขัน เพื่อขัน หรือคลายน็อตและโบลท์ที่่อยู่ ลึก ๆ รูปที่ 24 ก้านต่อ
63 ข้อต่ออ่อน (ยูนิเวอร์ซัลจอยส์:Universal joint) ข้อต่ออ่อน ใช้สำหรับต่อสำหรับต่อกับประแจกระบอกและด้ามขันเพื่อขัน หรือคลายน็อต และโบลท์ ที่อยู่ คนละระนาบกับด้าม เพื่อหลีกเลี่ยงชิ้นส่วนที่กีดขวางขณะทำการขัน รูปที่ 25 ข้อต่ออ่อน ประแจเลื่อน (แอ็ทจัทเทเบิลเว้นท์: Adjustable wrench) ประแจเลื่อนจะใช้สำหรับงานทั่ว ๆ ไป โดยจะใช้ขัน หรือคลายน็อต และโบลท์ที่ประแจปากตายหรือ ประแจ แหวนจับไม่ได้ รูปที่ 27 ประแจเลื่อน ประแจจับแป๊บ (ไพร์เว้นท์: Pipe wrench) ประแจจับแป๊บจะใช้สำหรับงานต่อท่อทั่ว ๆไป รูปที่ 28 ประแจจับแป๊บ ประแจแอล(อัลเลน เว้นท์: Allen wrench) ประแจแอลเรียกอีกชื่อหนึ่ง ประแจหกเหลี่ยม ใช้สำหรับขันหรือคลายน็อตที่มีหัวเป็นรู รูปที่ 29 ประแจแอล
64 การเลือกใช้ประแจ 1. เลือกใช้ประแจให้ถูกต้องและเหมาะสมกับงาน 2. การขัน หรือคลายน็อตและโบลท์ควรใช้ประแจกระบอกหรือประแจแหวนไม่ควรใช้ประแจปาก ตาย นอกจากมีความจำเป็น 3. การขันน็อตหรือโบลท์ให้แน่น ควรใช้แรงขัน ที่สม่ำเสมอให้ขันจนตึงมือไม่ควรใช้ประแจต่อ เพระ อาจจะทำให้น็อตขาด เครื่องมือวัด (มีสชัวริ่ง ทูล : Measuring tool) เครื่องมือวัดไฟฟ้าเป็นเครื่องมือที่มีความสำคัญมาก สำหรับงานช่างยนต์เพราะว่าช่างยนต์ทุกคนจะต้อง ใช้เครื่องมือวัดให้ได้อย่างถูกต้อง และมีความแม่นยำ เครื่องมือวัดบางอย่างจะมีความละเอียดพอสมควร เช่น บรรทัดเหล็ก ตลับเมตร เป็นต้น สำหรับเครื่องมือวัดที่มีความละเอียด มากเช่น ไมโครมิเตอร์ (Micrometer) เวอร์ เนียแคลิปเปอร์ (Vernier Caliper) ไดอัลเกจ (Dial gauge) เป็นต้น ไมโครมิเตอร์ (Micrometer) รูปที่ 30 ไมโครมิเตอร์ ไมโครมิเตอร์ ทำหน้าที่ ใช้สำหรับวัดขนาดของชิ้นงานต่าง ๆ ที่มีขนาดเล็ก ๆ ไม่ใหญ่จนเกินไป การใช้งาน ผู้ปฏิบัติงานช่างยนต์ ควรนำไมโครมิเตอร์ไปใช้ให้เหมาะสมกับชิ้นงานและขนาดให้ถูกต้อง ควร ใช้อย่างระมัดระวังในขณะทำการวัด เพราะอาจจะหลุดมือหล่นลงบนพื้น ทำให้ชำรุดเสียหายได้ การบำรุงรักษา หลังจากเลิกใช้งาน ควรทำความสะอาดไมโครมิเตอร์แล้วชโลมน้ำมันบาง ๆ โดยใช้ผ้าที่ ไม่ มีขนเช็ด ไม่ควรใช้ลมเป่าทำความสะอาดหรือใช้น้ำยาล้าง เว้นแต่กรณีที่ถอดแยกชิ้นส่วน ออกมาการเก็บรักษา ไมโครมิเตอร์จะต้องเก็บไว้ในกล่องหรือภาชนะที่ป้องกันความชื้นและบริเวณที่ไม่ร้อนจัด เวอร์เนียร์แคลิปเปอร์ (Vernier caliper) รูปที่ 31 เวอร์เนียร์แคลิปเปอร์ เวอร์เนียร์แคลิปเปอร์ ทำหน้าที่ ใช้สำหรับวัดความโตด้านนอก ด้านใน และความลึกของชิ้นงาน เวอร์เนียร์ที่ใช้งานทั่ว ๆ ไป แบ่งออกได้ 3 ประเภท คือ
65 1. เวอร์เนียร์แคลิปเปอร์ 2. เวอร์เนียร์วัดความลึก 3. เวอร์เนียร์วัดความสูง การใช้งาน เวอร์เนียร์แคลิปเปอร์ เป็นเครื่องมือวัดที่สามารถอ่านค่าที่วัดได้ละเอียด โดยอาศยัการแบ่งเส้นให้เหลื่อม กัน การอ่านค่าที่ได้จากการวัดจะต้องอ่านให้ตรงกับขนาดที่วัดได้จริง ๆ เช่น 12.04 มิลลิเมตร ไม่ควรอ่านว่า 12 มิลลิเมตรกว่า ๆ เพราะถ้าอ่านเช่นนั้นจะไม่ทราบว่า “กว่า ” อีกเท่าไร ข้อควรระวังในการใช้เวอร์เนียร์ 1. อย่านำเวอร์เนียร์ไปวัดชิ้นงานที่กำลังร้อน 2. อย่านำเวอร์เนียร์ไปวัดชิ้นงานที่กำลังเคลื่อนที่ 3. วางหรือถือเวอร์เนียร์ด้วยความระมัดระวัง 4. อย่าลากเวอร์เนียร์ไปมาในขณะทำการวัดชิ้นงาน 5. กดปากเวอร์เนียร์ในขณะทำการวัดชิ้นงานด้วยแรงพอประมาณ 6. ชิ้นงานที่จะนำมาวัดจะต้องทำการลบคมหรือครีบก่อน 7. อย่านำเวอร์เนียร์ไปวางไว้ร่วมกับเครื่องมือที่มีคม เช่น ตะไบ ใบเลื่อย คีม เป็นต้น ควรวางเวอร์เนียร์ไว้ บนผ้าที่สะอาดหรือวางไว้บนแผ่นยางสำหรับวางเครื่องมือวัด 8. หลังจากเลิกใช้งานเวอร์เนียร์แล้วควรเลื่อนปากเวอร์เนียร์ให้สนิทกันไว้ การบำรุงรักษาเวอร์เนียร์แคลิปเปอร์หลังจากเลิกใช้งาน ควรทำความสะอาดทุกคร้ัง โดยการเช็ดด้วยผ้า สะอาดและควรเก็บ เวอร์เนียร์ไว้ให้เรียบร้อย ซึ่งอาจจะเก็บเข้าตู้เครื่องมือ หรือเก็บไว้ในกล่องที่มีความแข็งแรง ไดอัลเกจ (Dial gauge) รูปที่ 32 ไดอัลเกจ ไดอัลเกจ ใช้สำหรับวัดหาค่าความสึกหรอของชิ้นส่วนต่าง ๆ ของเครื่องจะมีหน้าปัดซึ่งมีลกัษณะคล้ายกับ นาฬิกาไว้สำหรับอ่านค่า ขาแม่เหล็กของไดอัลเกจ โดยปกติแล้วไดอัลเกจจะติดตั้งไว้กับขาแม่เหล็ก เพื่อให้ใช้ได้ อย่างสะดวกและปลอดภัย ซึ่งที่ขาแม่เหล็กอาจจะมีสวิตช์เปิด-ปิด เพื่อให้เกิดความสะดวกในการติดตั้งและสามารถ ถอดออกจากชิ้นงานได้ วิธีการวัดชิ้นงาน 1. ก่อนจะทำการวัดจะต้องทำความสะอาดชิ้นงานทุกครั้ง 2. นำขาแม่เหล็กติดตั้งในตำแหน่งที่จะทำการวัดชิ้นงาน
66 3. ปรับสเกลที่หน้าปัดให้อยู่ในตำแหน่ง 0 ก่อนทำการวัดชิ้นงาน 4. หมุนหือขยับ ชิ้นงานที่จะทำการวัดอย่างช้าๆ 5. จดบันทึกค่าที่อ่านได้จากการวัด การใช้งาน 1. ควรยึดไดอัลเกจกับขาแม่เหล็กให้แน่น 2. อย่าให้ไดอัลเกจหล่นตกพื้น เพราะอาจจะทำให้แตกหรือชำรุดเสียหายได้ 3. ควรใช้ไดอัลเกจวัดชิ้นงานอย่างระมัดระวัง เพราะเป็นเครื่องมือที่ชำรุดง่าย 4. การวัดชิ้นงานของไดอัลเกจ จะต้องทำการวัดให้อยู่ในแนวขนานกับการเคลื่อนที่ของชิ้นงานเสมอ การบำรุงรักษาไดอัลเกจ หลังจากใช้ไดอัลเกจเสร็จ ควรเช็ดทำความสะอาดแล้วเก็บไว้ในตู้เครื่องมือ หรือเก็บไว้ใน กล่องที่มีความ แข็งแรง ฟิลเลอร์เกจ (Feeler gauge) รูปที่ 33 ฟิลเลอร์เกจ ฟิลเลอร์เกจ ทำหน้าที่ใช้สำหรับวัดระยะห่างช่องว่างของอุปกรณ์ต่าง ๆ ในเครื่องยนต์ตัวอย่าง เช่น ระยะห่างของเขี้ยวหัวเทียน ระยะห่างของหน้าทองขาว ระยะห่างของปากแหวน ลูกสูบ และใช้สำหรับงานปรับตั้ง ลิ้นไอดี–ไอเสีย เป็นต้น การใช้งาน ผู้ปฏิบัติควรนำฟิลเลอร์เกจไปใช้การวัดระยะห่างให้เหมาะสมกับชิ้นงาน และขนาดที่ต้องการจะวัด โดยดู คู่มือซ่อมประกอบ จึงจะได้ค่าที่วัดได้ตรงตามค่ามาตรฐานที่กำหนดไว้ การบำรุงรักษาฟิลเลอร์เกจ เมื่อใช้งานฟิลเลอร์เกจเสร็จแล้ว ควรเช็ดด้วยผ้าให้สะอาดแล้วชโลมน้ำมันไว้เสมอควรเก็บ ไว้ในกล่อง เครื่องมือให้เรียบร้อย เครื่องมือพิเศษ (สเปเชียล ทูล : Special Tools) เครื่องมือพิเศษ หมายถึง เครื่องมือที่มีความสำคัญอีกอย่างหนึ่งกับงานช่างยนต์ซึ่ง เครื่องมือชนิดอื่นไม่ สามารถจะนำ มาใช้ได้แล้ว จึงต้องใช้เครื่องมือพิเศษเหล่านี้ เพื่ออำนวยความสะดวกในการปฏิบัติงานช่างยนต์ ใน การใช้ทุกครั้งต้องระมัดระวัง ในการใช้เป็นพิเศษ และคำนึงถึงความปลอดภัยในการใช้ด้วย ซึ่งประกอบด้วย
67 ประแจปอนด์หรือประแจวัดแรงบิด (ทอร์ก เว้นท์ : Torque Wrenches) ประแจปอนด์ ทำหน้าที่ ใช้สำหรับขันสลักเกลียวหรือการขันน็อตยึดชิ้นงานที่จำเป็นต้องขันให้แน่นตามค่า พิกัดที่กำ หนด เช่น น็อตยึดฝาสูบ น็อตยึดประกับก้านสูบ น็อตยึดประกับเพลาข้อเหวี่ยง เป็นต้น ประแจปอนด์ แบ่งออกได้ 3 ประเภท คือ 1. ประแจปอนด์แบบหน้าปัทม์ รูปที่ 34 ประแจปอนด์แบบหน้าปัทม์ ประแจปอนด์แบบหน้าปัด จะมีลกัษณะที่โคนด้ามเป็นหน้าปัดพร้อมเข็มชี้ เข็มหมุนได้สองทาง คือ ด้านขัน และด้านคลาย ซึ่งในขณะทำการขัน เข็มจะชี้บนสเกล แบ่งขีดที่หน้าปัทม์ของประแจปอนด 2. ประแจแบบเข็มชี้ รูปที่ 35 ประแจปอนด์แบบเข็มชี้ ประแจปอนดแบบเข็มชี้ จะมีการออกแบบให้วัดโดยตรงซึ่งดูจากเข็มชี้ ถ้าออกแรงในการขัน มากด้าม ประแจปอนด์จะบิดไปจากเข็มชี้มาก แล้วจึงอ่านค่าตัวเลขที่สเกลโคนด้าม เนื่องจากว่าเข็มของประแจปอนด์แบบ เข็มชี้ ติดตั้งอยู่ภายนอกโอกาสคดจึงมีมาก การใช้จึงควรต้องระมัดระวัง และเก็บบำรุงรักษาให้ดี 3. ประแจปอนด์แบบไมโครมิเตอร์ รูปที่ 36 ประแจปอนด์แบบไมโครมิเตอร์
68 ประแจปอนด์แบบไมโครมิเตอร์ จะไม่มีเข็มแต่จะอ่านค่าที่ด้าม ซึ่งจะมีสเกลคล้ายกับไมโครมิเตอร์ เมื่อขัน ถึงค่าที่ตั้งไว้ที่ด้ามประแจ จะมีเสียงดังแก๊กดังขึ้น วิธีการใช้ประแจปอนด์ 1. จะต้องทราบค่าพิกัดที่กำหนดในการขันเสียก่อน 2. เลือกใช้ประแจปอนด์ให้เหมาะสมกับงาน 3. ควรใช้วิธีการขันโดยการดึงเข้าหาตนเองเสมอ 4. การขันควรใช้แรงขัน ที่สม่ำเสมอ อย่ากระชากประแจ 5. ค่าพิกัดที่กำหนดไว้ควรขันด้วยแรงบิดเท่า ๆ กัน ประมาณ 2-3 ครั้ง อย่าขันครั้งเดียวเสร็จ การบำรุงรักษาประแจปอนด์ ควรทำความสะอาดประแจปอนด์ทุกครั้งหลังจากเลิกใช้งาน โดยการเช็ดด้วยผ้าสะอาด แล้วควรเก็บไว้ใน ห้องเครื่องมือ หรือเก็บไว้ในกล่องที่มีความแข็งแรง ปลอกรัดแหวนลูกสูบ รูปที่ 37 ปลอกรัดแหวนลูกสูบ ปลอกวัดแหวนลูกสูบ ทำหน้าที่ ใช้สำหรับบีบรัดแหวนลูกสูบ เพื่อใช้งานการประกอบ ลูกสูบกับกระบอก สูบของเครื่องยนต์ การใช้งาน นำปลอกรัดแหวนลูกสูบมา แล้วใช้ด้ามขัน ให้ปลอกรัดแหวนลูกสูบขยายตัวออกให้โตกว่าลูกสูบ แล้วนำไป ครอบลูกสูบไว้จึงใช้ด้ามขัน บีบรัดแหวนลูกสูบให้แน่น ต่อจากนั้นก็ใช้ท้อนไม้เคาะหรือกระแทก ส่งลูกสูบเข้าไปใน กระบอกสูบของเครื่องยนต์ การบำรุงรักษาปลอกรัดแหวนลูกสูบ ควรเลือกใช้ให้เหมาะสมกับขนาดความโตของลูกสูบ เมื่อใช้งานเสร็จแล้ว ควรทำความสะอาดแล้วชโลม น้ำมันไว้ เพื่อป้องกันการเป็นสนิม และควรเก็บไว้ในห้องเครื่องมือให้เรียบร้อย หรือเก็บไว้ในกล่องที่มีความแข็งแรง คีมถ่างแหวนลูกสูบ รูปที่ 38 คีมถ่างแหวนลูกสูบ
69 คีมถ่างแหวนลูกสูบ ใช้สำหรับถอดและประกอบแหวนลูกสูบเข้ากับรองแหวนลูกสูบ การใช้งาน ในการถอดแหวนลูกสูบออกมาแต่ละครั้ง อาจจะทำการเปลี่ยนแหวนลูกสูบใหม่ หรือ อาจจะถอดออกมา เพื่อเซาะร่องแหวนลูกสูบ แหวนลูกสูบเป็นชิ้นส่วนที่เปราะจึงควรใช้คีมถ่างแหวนลูกสูบด้วยความระมัดระวัง มิฉะนั้นแหวนลูกสูบอาจจะหักได้ง่าย การบำรุงรักษาคีมถ่างแหวนลูกสูบ ควรใช้ด้วยความระมัดระวัง หลังจากเลิกใช้งานควรเช็ดทำความสะอาดด้วยผ้าแห้งแล้ว ชโลมน้ำมันไว้ และเก็บไว้ในห้องเครื่องมือให้เรียบร้อย เครื่องมือกดสปริงลิ้น รูปที่ 39 เครื่องมือกดสปริงลิ้น เครื่องมือกดสปริงลิ้น ใช้สำหรับกดสปริงลิ้นเพื่อถอดหรือประกอบลิ้นไอดีและลิ้นไอเสีย ของเครื่องยนต์ การใช้งาน เมื่อนำเครื่องมือกดสปริงลิ้น มาใช้งานควรกดตัวล็อกเสมอหลังจากกดสปริงลิ้นเข้าไปเพื่อป้องกันอันตราย ที่อาจจะเกิดขึ้นได้และในขณะเอาประกับเกือกม้าออกมาแล้ว ควรค่อย ๆ ปล่อย ให้สปริงคืนตัวอย่างช้าๆ การบำรุงรักษาเครื่องมือกดสปริงลิ้น หลังจากเลิกใช้งานแล้ว ควรเช็ดทำความสะอาดเครื่องมือกดสปริงลิ้นให้เรียบร้อย แล้วชโลมน้ำมันไว้ตรง จุดที่เคลื่อนที่ และเก็บไว้ในห้องเครื่องมือ กฎความปลอดภัยในการใช้เครื่องมือ 1. ควรเลือกใช้เครื่องมือให้ถูกต้องและเหมาะสมกับงาน 2. อย่านำเครื่องมือที่มีปลายแหลมหรือมีคมไว้ในกระเป๋าเสื้อหรือกระเป๋ากางเกง 3. เครื่องมือบางชนิดในโรงงาน จะต้องมีอุปกรณ์ป้องกันอันตรายด้วย 4. ควรใช้แว่นนิรภัย เมื่อใช้เครื่องมือที่มีเศษโลหะพุ่งกระจายออกมา 5. ควรจับยึดชิ้นงานให้แน่นกับปากกาจับงาน หรือซีแค้มป์ (C-Clamp) 6. ในบริเวณที่ปฏิบัติงานจะต้องมีแสงสว่างเพียงพอและมีการระบายอากาศที่ดี
70 7. แต่งกายให้รัดกุม ไม่รุ่มร่าม 8. ควรตรวจสอบและบำรุงรักษาเครื่องมือที่เกี่ยวกับระบบไฟฟ้า เพื่อป้องกัน กระแสไฟฟ้ารั่ว 9. หลังจากเลิกใช้งาน ควรทำความสะอาดเครื่องมือให้เรียบร้อย แล้วเก็บไว้ในห้อง เครื่องมือ หรือ เก็บไว้ในกล่องที่มีความแข็งแรง 10. ในโรงฝึกงานจะต้องมีอุปกรณ์ในการปฐมพยาบาล และมีป้ายเตือนอันตรายจากการ ใช้เครื่องมือ รายการเอกสารอ้างอิงเพิ่มเติม - ข้อมูลเพิ่มเติมจากอินเตอร์เน็ต เรื่อง หลักการทำงานของเครื่องยนต์แก๊สโซลีน - สื่อมัลติมีเดีย YouTube
71 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 ชื่อวิชา งานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน เวลาเรียนรวม 126 ชั่วโมง ชื่อหน่วย หลักการทำงานของเครื่องยนต์แก๊สโซลีน สอนครั้งที่ 2-3 หน่วยที่ 2 เครื่องมือยนต์ช่างยนต์ จำนวน 14 ชั่วโมง ใบแบบฝึกหัด ตอนที่ 1 คำสั่ง จงตอบคำถามต่อไปนี้ให้ถูกต้องและสมบูรณ์ที่สุด 1. เครื่องมือ หมายถึง ……………………………………………………………………………………….……………………………………………………………………… ……………………………….……………………………………………………………………………………………………………………………… 2. เครื่องมือทั่วไป คือ ……………………………………………………………………………………….……………………………………………………………………… ……………………………………………………….……………………………………………………………………………………….…………… 3. เครื่องมือที่ใช้สำหรับ งานที่ต้องการจับบีบชิ้นงาน คือ ……………………………………………………………………………………….……………………………………………………………………… ……………………………….……………………………………………………………………………………………………………………………… 4. ค้อนชนิดใดที่เหมาะสำหรับงานเคาะชิ้นงานที่อ่อน และบอบบาง ………………………………………………………………………………………….…………………………………………………………………… ……………………………………………………….……………………………………………………………………………………….……………. 5. เครื่องมือชนิดใดใช้ตัดหัวน็อตที่เป็นสนิม ……………………………………………………………………………………………………………..………………………………………………… ……………………………………………………………………………………….………………………………………………………………………
72 ใบเฉลยแบบฝึกหัด รหัสวิชา 20101-2001 ชื่อวิชา งานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน ชื่อหน่วย หลักการทำงานของเครื่องยนต์แก๊สโซลีน หัวข้อเรื่อง/งาน หลักการทำงานของเครื่องยนต์แก๊สโซลีน เวลา 5 นาที ------------------------------ ตอนที่ 1 คำสั่ง จงตอบคำถามต่อไปนี้ให้ถูกต้องและสมบูรณ์ที่สุด 1. เครื่องมือ หมายถึง ตอบ อุปกรณ์ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการปฏิบัติงานให้ได้อย่างรวดเร็ว ประหยัดเวลาในการทำงาน 2. เครื่องมือทั่วไป คือ ตอบ เครื่องมือพื้นฐานที่มีความจำเป็นอย่างยิ่ง สำหรับการใช้งานช่างโดยทั่ว ๆ ไป ซึ่งจะมีทั้งขนาดเล็ก ขนาดกลางและขนาดใหญ่ถ้าผู้ปฏิบัติงานไม่มีเครื่องมือประเภทนี้ก็ไม่สามารถที่จะทำงานได้สำเร็จ 3. เครื่องมือที่ใช้สำหรับ งานที่ต้องการจับบีบชิ้นงาน คือ ตอบ คีม 4. ค้อนชนิดใดที่เหมาะสำหรับงานเคาะชิ้นงานที่อ่อน และบอบบาง ตอบ ค้อนพลาสติก 5. เครื่องมือชนิดใดใช้ตัดหัวน็อตที่เป็นสนิม ตอบ สกัด
73 แบบทดสอบ รหัสวิชา 20101-2001 ชื่อวิชา งานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน ชื่อหน่วย หลักการทำงานของเครื่องยนต์แก๊สโซลีน หัวข้อเรื่อง/งาน หลักการทำงานของเครื่องยนต์แก๊สโซลีน เวลา 10 นาที ------------------------------ คำสั่ง จงเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุด 1. ข้อใดไม่ใช่เครื่องมือซ่อมทั่วป ก. ประแจแหวน ข. ประแจปากตาย ค. ประแจปอนด์ ง. ประแจรวม 2. ข้อใดเป็นที่เก็บเครื่องมือซ่อมเครื่องยนต์เล็กได้อย่างถูกต้อง ก. เก็บไว้ในกล่อง ข. เก็บไว้บนโต๊ะทำงาน ค. เก็บไว้ในรถ ง. เก็บไว้ในบล็อกของเครื่องมือ 3. หลักการเลือกใช้เครื่องมือที่ถูกต้อง ก. เครื่องมือที่เหมาะสมกับงาน ข. เครื่องมือคุณภาพดี ค. เครื่องมือที่ใช้แทนกันได้ ง. เครื่องมือที่ใช้ประจำ 4. ประแจชนิดใดที่ไม่ควรใช้ขันหรือคลายนัตแน่น ๆ ก. ประแจกระบอก ข. ประแจแหวน ค. ประแจปากตาย ง. ประแจเลื่อน 5. นัตที่ไม่มีประแจอื่นใช้ได้ควรใช้เครื่องมือชนิดใด ก. คีมเลื่อนล็อค ข. คีมล็อค ค. คีมปากจิ้งจก ง. คีมปากแหลม
74 แบบทดสอบ(ต่อ) รหัสวิชา 20101-2001 ชื่อวิชา งานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน ชื่อหน่วย หลักการทำงานของเครื่องยนต์แก๊สโซลีน หัวข้อเรื่อง/งาน หลักการทำงานของเครื่องยนต์แก๊สโซลีน เวลา 10 นาที ------------------------------ 6. เครื่องมือพิเศษชนิดใดใช้ขันฝาสูบ ก. ประแจปอนด์ ข. ไดอัลเกจ ค. ซิลินเดอร์เกจ ง. ประแจบล๊อก 7. การใช้ไมโครมิเตอร์วัดงานที่ถูกต้อง ก. เช็คศูนย์วัดชิ้นงาน อ่านค่า ข. เช็คศูนย์วัดชิ้นงาน ดึงออกอ่านค่า ค. ปรับตั้งวัดชิ้นงาน อ่านค่า ง. ปรับตั้งวัดชิ้นงาน ดึงออกอ่านค่า 8. คุณสมบัติของเวอร์เนียร์คาลิเปอร์คือ ก. วัดขนาดภายในของชิ้นงานได้ถูกต้อง ข. วัดขนาดภายนอกชิ้นงานได้ดี ค. วัดขนาดชิ้นได้หลายลักษณะ ง. วัดความลึกของชิ้นงานได้ 9. ถ้าหมุนปลอกหมุนวัด 1 ช่องของไมโครมิเตอร์ช่องสเกลวดัระยะจะเคลื่อนที่เท่าใด ก. 1.00 มม. ข. 0.10 มม. ค. 0.01 มม. ง. 0.001 มม. 10. ต้องการวัดช่องว่างระหว่างชิ้นงาน เช่น งานตั้งลิ้น ควรใช้เครื่องมือชนิดใด ก. ฟิลเลอร์เกจ ข. นาฬิกาวัด ค. ไมโครมิเตอร์วัดนอก ง. ไมโครมิเตอร์วัดใน
75 1. ค 2. ง 3. ก 4. ค 5. ข 6. ก 7. ก 8. ค 9. ข 10. ก ใบเฉลยแบบทดสอบ รหัสวิชา 20101-2001 ชื่อวิชา งานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน ชื่อหน่วย ระบบไอดีและระบบไอเสียของเครื่องยนต์แก๊สโซลีน หัวข้อเรื่อง/งาน ระบบไอดีของเครื่องยนต์แก๊สโซลีน เวลา 5 นาที ------------------------------ แบบเฉลยแบบทดสอบ ตอนที่1 คำสั่งจงท าเครื่องหมายกากบาท (X) ค าตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว