The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by 032 Sukrit Wisoram, 2023-09-18 09:49:57

สะพานไม้ไอศกรีม

017 032

38 ปลั๊กพ่วง2ขา รูปภาพที่2.37 ปลั๊กพ่วง2ขา ปลั๊กที่เราเห็นกันจนชินตาเพราะมีขายกันแพร่หลายทั่วไป มักจะรองรับ ไฟที่ประมาณ 1500W ไม่เหมาะกับการใช้งานไฟสูง ๆ เหมาะกับใช้งานทั่ว ๆ ไปเช่นพัดลม ชาร์จมือถือ แบบนี้พอได้ ส่วนใหญ่มักจะมาพร้อมกับค าว่า "มอก.สายไฟ 11-2531" ซึ่งแปลว่ามี มอก.เฉพาะสายไฟ ไม่มี มอก.ทั้งตัว ครับ


39 ปลั๊กจีน รูปภาพที่2.38 ปลั๊กจีน ปลั๊กที่แอดคิดว่ามีความอันตรายที่สุด อันตรายในที่นี้เกิดจาก ภาพลักษณ์ที่ดูน่าใช้งาน ดูแข็งแรง แต่เราไม่สามารถรู้ได้เลยว่า ข้างใน งานเป็นอย่างไร ประกอบเช่นไร ส่วนใหญ่เท่าที่เห็นปลั๊กจีนมักจะใช้เหล็ก หรือเหล็กชุบสีแทนทองเหลือหรือทองแดง ท าให้มีความร้อนที่สูงขึ้นครับ ส่วนใหญ่จะเขียนว่ารองรับไฟที่ 2500W แต่เอาเข้าจริงอย่าใช้ถึงเลย อันตราย


40 ปลั๊กกรองไฟ รูปภาพที่2.39 ปลั๊กกรองไฟ ปลั๊กกรองไฟส่วนใหญ่จะเป็นปลั๊กที่มีราคาสูง เหมาะกับอุปกรณ์ประเภท เครื่องเสียง โฮมเธียร์เตอร์ ทีวี อุปกรณ์ภาพและเสียงที่มีราคาแพง (AV) เพราะจะมีฟังก์ชั่นในการกรองสัญญาณภาพและเสียงให้ไม่มีสัญญาณ รบกวน และส่วนใหญ่จะมาพร้อมกับฟังก์ชั่นกันไฟกระชากประสิทธิภาพสูง อีกด้วย โดยทั่วไปจะออกแบบมาให้รองรับก าลังไฟได้สูง 3500W


41 ปลั๊กกันไฟกระชาก รูปภาพที่2.40 ปลั๊กกันไฟกระชาก เป็นปลั๊กที่มาพร้อมฟีเจอร์กันไฟกระชาก ฟ้าผ่า,หม้อแปลงระเบิด, โดย จะใส่วงจรกันไฟกระชากมาด้วย มีการรับแรงกระชากที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่ กับจ านวนจูลล์ เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด ควรติดตั้งสายดินที่บ้าน ปกติจะ รองรับไฟที่ 10A 2500W หรือ 16A 3500W


42 ปลั๊กปรับแรงดัน รูปภาพที่2.41 ปลั๊กปรับแรงดัน จริง ๆ จะเรียกว่าปลั๊กพ่วงก็คงไม่ถูกนัก เพราะแท้จริงแล้วมันคืออุปกรณ์ ที่ชื่อว่า "Stabilizer" หรือเครื่องปรับแรงดันอัตโนมัติ แต่มีบางรุ่น ที่ดีไซน์ ให้มีรูปร่างเล็กกระทัดรัด จนดูเหมือนกับว่าเป็นปลั๊กพ่วง เหมาะกับบ้านตาม ต่างจังหวัดที่มักมีปัญหาเรื่องแรงดันไฟฟ้า การเลือกซื้อควรซื้อให้วัตต์ ครอบคลุมกับอุปกรณ์ที่ใช้งาน เช่น ทีวีกินไฟ 60W บวกกับอุปกรณ์อื่น ๆ รวมกันไม่ถึง 150W ก็เลือกซื้อสัก 350W ก็เพียงพอต่อการใช้งาน เป็นต้น


43 ปลั๊ก มอก. 2432-2555 รูปภาพที่2.42 ปลั๊ก มอก. 2432-2555 เป็นมาตรฐานใหม่ล่าสุดของปลั๊กพ่วง โดยมีข้อก าหนดหลายอย่างที่มา จากทาง ส านักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม(สมอ.) เป็นมาตรฐาน ใหม่ของปลั๊กในประเทศไทย และต้องใช้แบบเดียวกัน ต่อไปถ้าปลั๊กพ่วงไม่ เป็นไปตาม มอก.ฉบับนี้ถือว่าฝ่าฝืนและผิดกฏหมาย การให้ใบอนุญาตมี 2 พิกัด คือพิกัด 10A 2500W และ 16A 3500W 2.15 ค้อน คือเครื่องมือส าหรับตอกหรือทุบบนวัตถุอื่น ส าหรับการใช้งานเช่น การตอกตะปูการจัดชิ้นส่วนให้เข้ารูป การทุบทลายวัตถุ ค้อนอาจได้รับ การออกแบบมาให้ใช้งานเฉพาะทาง และมีรูปร่างกับโครงสร้างที่ หลากหลาย แต่มีโครงสร้างพื้นฐานที่เหมือนกันคือด้ามจับและหัวค้อน ซึ่ง


44 น้ าหนักจะค่อนไปทางหัวค้อนมากกว่า แรงที่กระทบเป้าหมายจะมากเท่าใด ขึ้นอยู่กับมวลของค้อนและความเร่งของการตอก ดังนั้นเมื่อค้อนยิ่งหนัก มากและหวดด้วยความเร่งมาก แรงที่ได้จากค้อนยิ่งมากตามไปด้วย รูปภาพที่2.43 ค้อนตอกตะปูทั่วไป รูปภาพที่2.44 ค้อนส าหรับนักธรณีวิทยา


45 รูปภาพที่2.45 ค้อนส าหรับท าเบาะหนัง รูปภาพที่2.46 ค้อนหัวกลม รูปภาพที่2.47 ค้อนหัวไม้


46 2.16 เลื่อย มีลักษณะคล้ายเลื่อยฉลุ แต่คันเลื่อยโค้งไม่มาก การใช้งานส่วน ใหญ่จะใช้ตัดโลหะทั่วไป อาทิ ตะปู นอต สกรู เหล็กฉาก หรือท่อพีวีซี แต่ ถ้าเราน าไปเลื่อยไม้จะเลื่อยได้ช้ามาก เพราะฟันเลื่อยค่อนข้างละเอียด และไม่ลึกมีให้เลือกทั้งแบบความยาวตามมาตรฐาน 12 นิ้ว และแบบ สามารถปรับความยาวตามขนาดใบเลื่อยได้ รวมถึงเลื่อยเหล็กมินิที่ใช้กับ ใบเลื่อยขนาด 12 นิ้ว เหมาะส าหรับงานที่มีพื้นที่จ ากัด สามารถเปลี่ยนใบ เลื่อยได้ รูปภาพที่2.48 เลื่อยตัดท่อ 2.17 ตลับเมตร (Tape Measure) คือ เครื่องมือช่างที่ใช้ส าหรับวัดขนาดชิ้นงานหรือวัดระยะทางได้ สะดวกและแม่นย า โดยทั่วไปแล้วตลับเมตรจะมีลักษณะเป็นตลับสี่เหลี่ยม หรือตลับวงกลมที่บรรจุเทปสายวัดไว้ด้านใน และที่ปลายสายวัดจะมีตะขอ เล็กๆ ยื่นออกมาใช้ส าหรับเกี่ยววัตถุ ช่วยให้สะดวกต่อการหาระยะและอ่าน ค่าได้อย่างรวดเร็ว ส่วนบนตลับมีปุ่มล็อกมีหน้าที่ในการหยุดสายวัดให้ค้าง อยู่ในระยะที่ต้องการได้ เพื่อให้การก าหนดต าแหน่งในระยะเดิมได้หลาย ครั้งโดยไม่จ าเป็นต้องดึงสายวัดออกมาใหม่ ท าให้ประหยัดเวลาในการ ท างานได้เป็นอย่างดี ซึ่งสเกลบนสายวัดมีคุณสมบัติที่สามารถใช้บ่งบอก ขนาดความกว้าง ความยาว ความสูง หรือความหนาให้เป็นหน่วยวัดได้ทั้ง 2 ระบบ ได้แก่ ระบบเมตริก คือ มิลลิเมตร เซนติเมตร เมตร และระบบอิมพี เรียล คือ นิ้ว ฟุต นอกจากนี้ตลับเมตรยังมีอีกหลายรูปแบบให้เลือกใช้งาน


47 เช่น ตลับเมตรขนาดเล็ก/ขนาดใหญ่ หรือตลับเมตรสายวัดไฟเบอร์กลาส สายวัดสแตนเลส เป็นต้น ซึ่งแต่ละแบบมีคุณสมบัติในการใช้งานได้ดี แตกต่างกัน ดังนั้นจึงควรเลือกรูปแบบตลับเมตรให้เหมาะกับการใช้งาน รูปภาพที่2.49 ตลับเมตร 2.18 ไม้บรรทัด ไม้บรรทัด (ฝรั่งเศส: Règle; อังกฤษ: Ruler; เยอรมัน: Lineal) เป็น อุปกรณ์ทางเรขาคณิต อาจท าจากพลาสติก ไม้อะลูมิเนียม หรือ เหล็ก ใช้ ในการวัดความยาว ส่วนใหญ่จะมี 2 สเกล คือ นิ้ว และ เซนติเมตร พบได้ หลายขนาด ส่วนใหญ่จะเป็นขนาด 15 หรือ 30 เซนติเมตร และอาจมีความ ยาวถึง 100 เซนติเมตร (1 เมตร) ส าหรับใช้วัดแบบก่อสร้าง นอกจากนี้แล้ว เราอาจใช้ไม้บรรทัดในการขีดเส้นให้ตรง ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่นักเรียน จะต้องพกไม้บรรทัด ในการสร้างรูปด้วยไม้บรรทัดและวงเวียนนั้น ไม้บรรทัดที่ใช้ไม่ จ าเป็นต้องมีสเกลวัดความยาวเหมือนไม้บรรทัดปกติ ดังนั้นเราจึงกล่าวถึง ไม้บรรทัดที่วัดความยาวไม่ได้ว่า สันตรง (Straightedge)


48 รูปภาพที่2.50 ไม้บรรทัด 2.19 มีดคัตเตอร์ - Utility Knife มีดคัตเตอร์ที่เราเห็นกันทั่วไปนั้น ในภาษาอังกฤษจะเรียกว่า Utility Knife ซึ่งค าว่า utility knife อาจจะไม่ได้หมายถึงเฉพาะมีดคัตเตอร์อย่าง เดียว แต่ยังหมายถึงมีดชนิดอื่น ๆ ด้วย มีดคัตเตอร์นั้นมีมานานแล้ว โดยใน สมัยก่อนมีดคัตเตอร์จะเป็นมีดที่มีตัวกรอบเป็นพลาสติกหรือเหล็ก และมีตัว ใบมีดที่สามารถเปลี่ยนได้ และปรับความยาวได้ เหมาะส าหรับการกรีด กล่อง เพราะสามารถปรับระดับความยาวของใบมีดได้ เพื่อไม่ให้ใบมีดกรีด โดนสินค้าที่อยู่ภายในเมื่อเปิดบรรจุภัณฑ์ โดยใบมีดของมีดคัตเตอร์ สมัยก่อนนั้น จะเป็นมีดใบเดี่ยว มีด้านคม 1 หรือ 2 ด้าน เมื่อใบมีดนั้นไม่คม ตัวคัตเตอร์ก็สามารถแกะถอดเปลี่ยนใบมีดได้ หรือจะกลับด้านใบมีดขึ้นมา ได้ก็ได้เช่นกัน


49 มีดคัตเตอร์แบบหักใบมีดได้ มีดคัตเตอร์แบบหักใบมีดได้ที่เราเห็นมากในปัจจุบันนั้น ถูกคิดค้น และ ออกจ าหน่ายในตลาดครั้งแรก ในปี 1956 โดยบริษัท Olfa Corporation โดยได้รับแรงบันดานใจมาจากเศษกระจกที่แตกและมีความคม และช็อค โกแลตแท่ง ซึ่งแบ่งบล็อกไว้ส าหรับหักทีละชิ้น เมื่อเอามารวมกัน เราก็ได้ ใบมีดที่หักเป็นล็อคๆ และทุกครั้งที่หักก็จะมีความคมเหมือนกับใบมีดใหม่ สะดวกส าหรับการใช้งาน และท าให้ไม่ต้องเปลี่ยนใบมีดบ่อย ตัวมีดคัต เตอร์กับใบมีดที่หักได้นั้น มักจะมากับตัวมีดที่มีที่หักใบมีในตัว โดย ส่วนมากแล้วที่หักใบมีดจะอยู่ในส่วนท้ายของด้ามมีด มีดคัตเตอร์บางอันก็มี ที่เก็บใบมีดอยู่ในตัวด้าม เมื่อใช้ใบมีดจนหมด ใบมีดส ารองที่ใส่ไว้ ก็จะเด้ง ออกมาทันที มีดคัตเตอร์ในยุคปัจจุบันนั้นถูกสร้างมาเพื่อให้ใช้งานได้หลากหลาย ด้วย ดีไซน์ที่น้ าหนักเบาสามารถพกพาและเก็บได้สะดวกในกระเป๋าเสื้อหรือ กางเกง มีดคัตเตอร์นั้นเหมาะส าหรับใช้กับงานทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นงานใน คลังเก็บสินค้า ออฟฟิศส านักงาน โรงงาน หรือในไซค์งานก่อสร้าง โดยตัว มีดนั้นถึงแม้จะบาง แต่สามารถตัดเทป กระดาษ เส้นลวด สายไฟ กระดาษ แข็ง กระดาษลัง ถุง ชิ้นส่วนพลาสติก ไหมพรม โฟม ยาง หนัง บรรจุภัณฑ์ ต่าง ๆ ได้ดี มีดคัตเตอร์ใหญ่ ส าหรับ Heavy Duty ในปัจจุบัน นอกจากคัตเตอร์เล็กที่เราเห็นใช้งานทั่วไปตามโต๊ะส านักงาน ต่าง ๆ ยังมีมีดคัตเตอร์ใหญ่ ส าหรับงานที่หนักขึ้น มีดคัตเตอร์ส าหรับ งาน Heavy Duty มีดคัตเตอร์แบบหมุน มีดคัตเตอร์แต่งชิ้นงาน และมีดคัต เตอร์ Safety เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้งาน และยังมีใบมีดที่พิเศษยิ่งขึ้น เช่นใบมีดสีด า ที่มีความคมกว่าใบมีดแบบปรกติ ใบมีดแบบวงกลม ใบมีด Safety หรือใบมีดเฉียง 30 องศา เพื่อให้มีปลายใบมีดเรียวเล็ก เหมาะกับ งานที่ต้องใช้ความละเอียดสูง


50 รูปภาพที่2.51 มีดคัตเตอร์ใหญ่ มีดคัตเตอร์เล็ก มีดคัตเตอร์เล็กส่วนใหญ่จะเป็นมีดคัตเตอร์อันขนาดเท่าด้ามปากกา ขนาด เล็กเหมาะแก่การพกในกระเป๋าเสื้อ มีดคัตเตอร์เล็กหลายๆรุ่น จึงมักจะมีที่ หนีบเสื้อ เพื่อให้ง่ายต่อการพกพา มีดคัตเตอร์ธรรมดา ขนาดเล็กเหมาะกับ งานทั่ว ๆไป เช่นงานตัดกระดาษ ตัดเทป เปิดกล่อง เปิดลัง ตัดเชือก ลวด และพลาสติกชิ้นเล็ก จึงเหมาะที่จะใช้งานในออฟฟิศส านักงาน ใช้ทั่วไป ในที่พัก งานไม่หนัก มีดคัตเตอร์เล็กจะใช้กับใบมีดขนาด 9 มิลลิเมตร ซึ่ง เป็นใบมีดขนาดเล็กที่สุด บางพลีสเตชั่นเนอรี่ มีจ าหน่ายมีดคัตเตอร์ขนาด เล็ก ไม่ว่าจะเป็นแบบธรรมดา ด้ามพลาสติกธรรมดา หรือมีดคัตเตอร์เล็ก เหล็กตราม้า H-111 Aroma-11 และ Scotch 45S หรือว่าจะเป็นมีดคัต เตอร์คุณภาพจากประเทศญี่ปุ่น อย่าง Olfa NT Cutter หรือ Tajima ที่มี มีดคัตเตอร์ขนาดเล็กให้เลือกหลายแบบ รวมทั้งใบมีดแบบต่าง ๆ ทั้งใบมีด


51 ธรรมดา ใบมีดแบบ Stainless ทั้งใบ ใบมีดหักไม่ได้ ใบมีดแบบเฉียง 30 องศา หรือใบมีดสีด าแบบคมพิเศษ รูปภาพที่2.52 มีดคัตเตอร์เล็ก มีดคัตเตอร์ใหญ่จะนิยมใช้กับงานที่หนักกว่ามีดคัตเตอร์เล็กธรรมดา ตัวมีด จะมีความแข็งแรง ใบมีดนั้นก็มีความหลากหลายกว่ามีดคัตเตอร์ขนาดเล็ก มีดคัตเตอร์ใหญ่จึงมักพบใช้งานกับงานในไลน์ผลิตสินค้า งานก่อสร้าง ตัด ลวด ตัดสายไฟ และยังมีหลายรุ่นให้เลือกใช้ ไม่ว่าจะเป็นมีดคัตเตอร์ใหญ่ ธรรมดา แบบพลาสติด แบบเหล็ก มีดคัตเตอร์แบบหมุน เพื่อล็อคใบมีด ไม่ให้ไหล เพื่อความปลอดภัยที่มากขึ้น หรือมีตัวล็อคที่สามารถล็อคใบมีด ได้ มีการออกแบบตัวมีดที่จับแล้วกระชับมือ เพื่อความปลอดภัยในการใช้ งาน ห้างหุ้นส่วนจ ากัด บางพลีสเตชั่นเนอรี่ นั้น มีมีดคัตเตอร์ขนาดใหญ่ หลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นของ ตรานานมีOlfa NT Cutter หรือ Tajima ทุก ยี่ห้อนั้นมีดีไซน์ที่สวยงาม และเหมาะกับการใช้งาน จับถนัดมือ มีดคัตเตอร์ ใหญ่ส่วนใหญ่จะใช้ใบมีดขนาด 18-25 มิลลิเมตร ซึ่งบางพลีนั้นจ าหน่าย ทั้งแบบธรรมดา แบบ Stainless แบบหักไม่ได้ ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกใช้ ได้ตามการใช้งาน


52 มีดคัตเตอร์ เซฟตี้ (Cutter Safety) นอกเหนือจากมีดคัตเตอร์เล็กและมีดคัตเตอร์ใหญ่แล้ว ยังมีมีคัตเตอร์แบบ พิเศษ เช่น มีดคัตเตอร์แบบ Safety หรือมีดคัตเตอร์ส าหรับแต่งชิ้นงาน มีดคัตเตอร์แบบ Safety Cutter จะมีตัวดึงใบมีดกลับเมื่อใช้งานเสร็จแล้ว เพื่อป้องกันการลืมเก็บใบมีด จนอาจเกิดอุบัติเหตุ ทางบางพลี สเตชั่นเนอรี่ มีจ าหน่ายมีดคัตเตอร์ Safety ของ Olfa รุ่น Olfa SK-4 และ Olfa SK-12 และ มีดคัตเตอร์เซฟตี้ ของ Tajima รุ่น Tajima DFC-569 และ Tajima LC-959 มีดคัตเตอร์ เซฟตี้รุ่น Olfa SK-4 จะเป็นมีดคัตเตอร์เซฟตี้แบบมาตรฐาน โดยจะใช้ใบมีดรุ่นพิเศษ SKB-2 เมื่อต้องการใช้งาน จะต้องดันมีดออกมา และเมื่อใช้งานเสร็จแล้วเพียงปล่อยมือ ใบมีดก็จะเด้นกลับเข้าไปในตัวมีด และมีดเซฟตี้อีกรุ่นของ Olfa คือ Olfa SK-12 หลักการท างานของมีดคัต เตอร์เซฟตี้รุ่นนี้จะคล้ายกันกับ SK-4 แต่ตัวมีดจะเป็นสแตนเลสทั้งด้าม เพื่อ ป้องกันการเกิดสนิม สามารถล้างได้ และสามารถใช้กับอาหารได้ ผ่าน มาตรฐาน NSF มีดคัตเตอร์ SK-12 จึงควรใช้กับใบมีดรุ่น SKB-2S ซึ่ง เป็นใบมีดสแตนเลส เพื่อให้สามารถล้างมีดได้ทั้งด้ามพร้อมกับใบมีด มีดคัต เตอร์เซฟตี้ Olfa SK-4 และ SK-12 เป็นมีดคัตเตอร์แบบ Universal สามารถใช้ได้ทั้งมือซ้ายและมือขวา มีดคัตเตอร์ Safety Tajima รุ่น LC959 Universal สามารถใช้ได้ทั้งมือซ้ายและมือขวาเช่นเดียวกับมีดเซฟตี้ Olfa มีดคัตเตอร์ รุ่น LC-959 จะใช้ใบมีดเซฟตี้แบบพิเศษ ซึ่งตัวมีด นอกจากจะสามารถดึงใบมีดกลับ เมื่อใช้งานเสร็จแล้ว ยังสามารถล็อค ใบมีดเพื่อป้องกันใบมีดหลุดออกมาเมื่อเก็บเอาไว้ในกระเป๋า สุดท้าย มีดคัต เตอร์เซฟตี้ Tajima DFC-569 เป็นมีดเซฟตี้แบบที่ไม่ต้องใช้ใบมีดแบบ พิเศษ สามารถใช้ใบมีดขนาดมาตรฐาน 18 มม.ทั่วไปได้


53 2.20 คลิปหนีบกระดาษ ใช้หนีบไม้ไอศกรีมติดกันสนิทเพื่อความทนทานของโครงสร้างไม้ไอศกรีม รูปภาพที่2.53 คลิปหนีบกระดาษ 2.21 ระดับน้ า (Spirit Level) ระดับน้ า (Spirit Level) คือ อุปกรณ์ที่ใช้ส าหรับการวัดระดับความ เอียงในแนวราบ (horizontal) และแนวดิ่ง (vertical) โดยทั่วไประดับน้ าที่ เราคุ้นเคยจะเป็นแบบที่มีของเหลวบรรจุในหลอดแก้ว ซึ่งเราจะสังเกต ฟองอากาศภายในของเหลวที่บรรจุอยู่ในหลอดแก้วให้อยู่จุดกึ่งกลาง เพื่อให้สิ่งที่ต้องการตรวจสอบอยู่ในระดับองศาที่ตรงตามต้องการ โดย เครื่องวัดระดับน ้ามีประโยชน์ในการใช้งานในหลากหลายด้านและมีหลาย ประเภท ไม่ว่าจะเป็น ระดับน้ าที่ใช้ในการก่อสร้าง หรือ ระดับน้ าที่ใช้ใน วงการอุตสาหกรรมต่างๆ


54 การตรวจสอบระดับน้ า (Checking for precision spirit level) 1. ตรวจสอบความเรียบผิวของฐานวัดงานว่ามีรอย ขูดขีด หรือผิวของ ฐานที่ไม่มีความพร้อมในการใช้งาน 2. ตรวจสอบฟองอากาศ จะต้องเป็นฟองอากาศที่ฟองเดียวหรือ หลอดแก้วไม่แตก 3. ตรวจสอบความตรงหรือถูกต้องของระดับน้ าจะต้องเตรียมฐาน ส าหรับวางระดับน้ า ที่มีผิวเรียบพอสมควรและต้องปรับตั้งให้ได้ ระนาบกับพื้นโลก เมื่อปรับตั้งได้ระนาบแล้ว น าระดับน้ าวางบนฐานที่เตรียมไว้แล้วอ่านหาค่า แล้วหมุนกลับด้าน 180 องศา แล้วอ่านค่าเปรียบเทียบกับค่าที่อ่านครั้งแรก ว่ามีความต่างกันหรือไม่ ถ้าไม่ต่างกันแสดงว่าระดับน้ ายังมีความถูกต้องอยู่ แต่ถ้าค่าที่อ่านมีความแตกต่างกันแสดงว่าระดับน้ าไม่ตรงหรือไม่ถูกต้อง แล้ว จะต้องมีการปรับตั้งระดับน้ าใหม่ รูปภาพที่2.54 ระดับน้ า


55 วิธีการปรับตั้งระดับน้ า (Adjustment for precision spirit level) ระดับน้ าที่เป็นแบบฟองอากาศและมีสเกลส าหรับบอกระดับการเอียง เป็นระดับน้ าที่มีความเที่ยงตรงกว่าระดับน้ าทั่วไปที่ใช้ส าหรับงานก่อสร้าง เพราะฉะนั้นการใช้งานจะต้องมีการตรวจเช็คก่อนน าไปใช้งาน สิ่งส าคัญ ของระดับน้ าคือการตรวจเช็คศูนย์ของระดับน้ า (ได้กล่าวไปแล้ว) และการ ปรับตั้งศูนย์ในการปรับตั้งศูนย์ของระดับน้ าทางผู้ผลิตจะมีจุดให้ปรับอยู่ แล้ว ซึ่งจะแล้วแต่ผู้ผลิตว่าจะออกแบบไว้อย่างไร ส่วนใหญ่จะอยู่ด้านบน ของตัวระดับ บางผู้ผลิตจะอยู่ด้านล่างหรือด้านข้างก็เป็นได้ ตัวอย่างการผิดพลาดของระดับน้ าในการใช้งาน กรณีที่ 1 รูปภาพที่2.55 การใช้ระดับน้ าที่ผิดพลาด การวางระดับน้ าไว้บนพื้นผิวเดียวกันทั้ง A และ B โดย B หมุนกลับ ด้านกับ A เป็นมุม 180 องศา จะเห็นได้ว่าทั้ง A และ B มีผลที่มีความ แตกต่างกัน แล้วจะรู้ได้อย่างว่าพื้นผิวมันเอียงด้านไหนสามารถค านวณได้ ดังนี้ การเอียงของพื้นผิว (A + B) / 2 = [4 + (-3)] / 2 = 0.5 การหาค่าผิดพลาดของระดับน้ า (A - B) / 2 = [ 4 - (-3)] / 2 = 3.5


56 การปรับตั้งศูนย์ กรณีที่ 1 รูปภาพที่2.56 การใช้ระดับน้ า การปรับตั้งศูนย์ในกรณีนี้ให้ปรับต าแหน่ง B ที่หมุน 180 องศา แล้ว โดยหมุนปรับจุดปรับให้ฟองอากาศวื่งกลับด้านเท่ากับค่าผิดพลาดของ ระดับน้ าที่ค านวณได้ รูปภาพที่2.57 การใช้ระดับน้ า แล้วหมุน 180 องศา เพื่อตรวจสอบดูว่าฟองอากาศในต าแหน่ง A ได้วิ่งกลับมาจรงกับต าแหน่ง B ที่ปรับไปหรือเปล่า ถ้าไม่ตรงกันให้ปรับ ใหม่อีกครั้งโดยหมุน 180 องศา มายังต าแหน่ง B แล้วปรับจุดปรับอีกครั้ง ให้สังเกตที่ต าแหน่ง A ว่าฟองอากาศวิ่งเกินต าแหน่ง B หรือไม่ ถ้าเกินให้ ปรับฟองอากาศวิ่งกลับ ถ้าไม่ถึงให้ปรับเพิ่มขึ้น จนกว่าทั้งสองด้านจะ เท่ากัน


57 รูปภาพที่2.58 การใช้ระดับน้ า กรณีที่ 2 รูปภาพที่2.59 การใช้ระดับน้ า การเอียงของพื้นผิว (A + B) / 2 = [3 + (+1)] / 2 = 2 การหาค่าผิดพลาดของระดับน้ า (A - B) / 2 = [ 3 - (+1)] / 2 = 1 การปรับตั้งศุนย์กรณีที่ 2 รูปภาพที่2.60 การใช้ระดับน้ า


58 การปรับตั้งศุนย์ในกรณีที่ 2 จะเห็นได้ว่าฟองอากาศวิ่งไปทางเดี่ยว กันและจากการค านวณค่าผิดพลาดของระดับน้ าแล้วนั้นมีค่าเท่ากับ 1 จาก การอ่านค่าของฟองอากาศทั้ง A และ B สามาถปรับได้ทั้ง A และ B คือ ปรับให้ A,B วิ่งเข้าหากัน ด้านละ 1 รูปภาพที่2.61 การใช้ระดับน้ า ส าหรับทั้ง 2 กรณี ที่ได้ยกตัวอย่างมานั้นเป็นการหาค่าความ ผิดพลาดของการเอียงของพื้นผิวและค่าผิดพลาดของระดับน้ า แต่ในการ ใช้งานคงไม่สะดวกอย่างแน่นอนส าหรับหลายๆคน จึงจ าเป็นจะต้องมีการ ปรับตั้งศูนย์ของระดับน้ าก่อนใช้งาน ทั้งนี้ในการปรับตั้งศูนย์จ าเป็นต้องมี พื้นผิวที่มีความเรียบพอสมควร ส าหรับวางระดับน้ าเพื่อปรับศูนย์ หรือจะให้ ดีเลยควรวางบนหินแกรนิต (Granit Surface Plate) แต่ถ้ามีเครื่องสอบ เทียบระดับน้ า (Spirit Level Calibrator) อยู่แล้วสามารถใช้ได้เลย รูปภาพที่2.61 การใช้ระดับน้ า


59 2.22 ฉากเหล็ก เหล็กฉาก หรือ ไม้ฉาก (อังกฤษ: Machinist square) เป็นอุปกรณ์ ช่างประเภทมือจับชนิดหนึ่ง ใช้เป็นเครื่องมือวัดระยะ ส าหรับวัดความตั้ง ฉากของมุม, ความยาว และความลาดเอียงของวัตถุ เหล็กฉาก ที่ดีไม่ควรมีค่าผิดพลาดเกิน 0.0002 นิ้ว/นิ้ว รูปภาพที่2.62 ฉากเหล็ก


60 บทที่ 3 วิธีการด าเนินงาน ในการด าเนินโครงการ ต้องน าความรู้จากทฤษฎีต่าง ๆ ดังกล่าวใน บทที่ 2 มาใช้ในการปฏิบัติงาน เพื่อให้ส าเร็จตามวัตถุประสงค์ที่วางไว้ตาม ขั้นตอนดังต่อไปนี้ 3.1 ขั้นตอนการด าเนินงาน 3.1.1 ศึกษาข้อมูลเบื้องต้น 3.1.2 ออกแบบ 3.1.1 ศึกษาข้อมูลเบื้องต้น 3.1.1.1 ศึกษาข้อมูลพื้นฐาน ซึ่งผู้จัดท าโครงการได้ศึกษาข้อมูล ที่จ าเป็นและจ าเป็นเพื่อ ออกแบบสะพานไม้ไอศกรีม ให้สามารถใช้งานได้ ดีและทนทานมากที่สุด 3.1.1.2 ศึกษาทฤษฎีหลักการออกแบบสะพานไม้ไอศกรีม (Ice cream wooden bridge)ให้ใช้งานได้ดี ประหยัดงบและทนทานต่อการใช้ งานมากที่สุด 3.1.1.3 ศึกษาข้อมูลของวัสดุ/อุปกรณ์ที่น าน ามาใช้ในกระ ประกอบสะพานไม้ไอศกรีม (Ice cream wooden bridge) 3.1.1.4 จัดหาสถานที่และอุปกรณ์ในการประกอบสะพานไม้ ไอศกรีม (Ice cream wooden bridge) 3.1.2 ออกแบบสะพานไม้ไอศกรีม (Ice cream wooden bridge) 3.1.2.1 ออกแบบสะพานไม้ไอศกรีม (Ice cream wooden bridge) วางและน าวัสดุปุปกรณ์มาประกอบให้เป็นตามที่ได้วางแผนไว้


61 รูปภาพที่3.1 แบบโครงสร้างสะพานไม้ไอศกรีม 3.2 อุปกรณ์ที่ใช้ในการปฏิบัติงาน 3.2.1 วัสดุและอุปกรณ์ ล าดับที่ รายการ จ านวน 1 ไม้ไอศกรีม 20 ซอง 2 กาวร้อน 4 หลอด 3 ไม้ลูกชิ้น 1 แพ็ค 4 เทปกาว 1 ม้วน 5 ดอกสว่าน ขนาด2.5 mm. 1 ดอก 6 คลิปหนีบกระดาษ 1 กล่อง 7 ลวด 1 ขด 8 เลื่อย 1 ใบ 9 กรรไกร 1 เล่ม 10 สว่าน 1 ตัว 11 ค้อน 1 ด้าม 12 คัตเตอร์ 1 ด้าม ตารางที่ 3.1 วัสดุและอุปกรณ์ที่ใช้ในการปฏิบัติงาน


62 13 คีม 1 ด้าม 14 กระดาษ 2 แผ่น 15 ปลั๊กไฟ 1 อัน 16 ดินสอ 1 แท่ง 17 ตลับเมตร 1 อัน 18 ไม้บรรทัด 1 อัน 3.3 ขั้นตอนการปฏิบัติงาน 3.3.1 ขั้นตอนการท าสะพานไม้ไอศกรีม (Ice cream wooden bridge) ในการท าสะพานไม้ไอศกรีมนั้นมีเครื่องมือและอุปกรณ์หลายชนิด และต้องอาศัยฝีมือเป็นอย่างมากในการตัดไม้ไอศกรีม และติดไม้ไอศกรีม เข้าหากัน ประกอบเป็นสะพานไม้ไอศกรีม เพื่อให้ได้สะพานไม้ไอศกรีม ที่ ถูกต้องตามที่วางแผนเอาไว้ 1. เตรียมวัสดุอุปกรณ์ที่จะใช้ในการประกอบสะพานไม้ไอศกรีม เช่น ไม้ ไอศกรีม กาวร้อน กรรไกร ไม้ไอติม เทปกาว ค้อน คลิปหนีบกระดาษ สว่าน ดอกสว่าน รูปภาพที่3.2 เตรียมวัสดุอุปกรณ์


63 2. ตัดปลายไม้ไอศรีมออกทั้ง 2 ด้าน ตามที่ก าหนดเอาไว้ รูปภาพที่3.3 ตัดปลายไม้ไอศรีมออกทั้ง 2 ด้าน 3. ประกอบแผ่นไม้ไอศกรีมตัดไว้ประกอบเข้าด้วยกัน รูปภาพที่3.4 ประกอบไม้ไอศกรีมเป็นชิ้นส่วน


64 4. น าคลิปหนีบกระดาษมาหนีบให้ไม้ไอศรีมติดกันแล้วจึงน าเทปกาวมา พันชิ้นส่วนของโครงสร้างสะพาน รูปภาพที่3.5 น าคลิปหนีบกระดาษมาหนีบไม้ไอศกรีม 5. เมื่อพันเสร็จแล้วน าคลิปหนีบกระดาษออกแล้วเจาะรู รูปภาพที่3.6 เจาะรูเพื่อตอกหมุดย้ า


65 6. ตัดไม้ลูกชิ้นตามความยาวที่เหมาะสม รูปภาพที่3.7 ตัดไม้ลูกชิ้นตรงหมุดย้ า 7. น าไม้ลูกชิ้นที่ตัดมาตอกใส่รูที่เจาะไว้เพื่อเป็นหมุดย้ า รูปภาพที่3.8 ตอกหมุดย้ า


66 8. ใส่กาวร้อนเพื่อความทนทานของชิ้นส่วนโครงสร้าง รูปภาพที่3.9 ใส่กาวร้อน 9. น าชิ้นส่วนแต่ละชิ้นมาประกอบกันตามแบบที่ก าหนดไว้ รูปภาพที่3.10 ประกอบชิ้นส่วนตามแบบที่ก าหนดไว้


67 10. เมื่อประกอบชิ้นส่วนเสร็จแล้ว มัดลวดเพื่อเพิ่มความแข็งแรงของ โครงสร้างสะพานไม้ไอศกรีม รูปภาพที่3.11 มัดลวดเพื่อเพิ่มความแข็งแรง 11. ติดตั้งเพลา เพื่อเป็นตัวรับหนักของตุ้ม รูปภาพที่3.12 ติดตั้งเพลา เพื่อเป็นรับน้ าหนักของตุ้ม


68 3.4 งบประมาณการใช้จ่ายในการท าโครงการ ล าดับ รายการ จ านวน หน่วย ค่าวัสดุ หมา ราคา ยเหตุ หน่วย ละ (บาท) จ านวน เงิน (บาท) 1 ไม้ไอศกรีม 20 ซอง 10 200 2 กาวร้อน 5 หลอด 10 50 3 ไม้ลูกชิ้น 1 แพ็ค 29 29 4 เทปกาว 1 ม้วน 15 15 5 ดอกสว่าน 1 ดอก 17 17 6 คลิปหนีบ กระดาษ 1 แพ็ค 40 40 7 เลื่อย 1 ใบ 8 8 รวมทั้งสิ้น 359 หมายเหตุ วัสดุและอุปกรณ์บางอย่างที่ใช้ในการท าสะพานไม้ไอศกรีมมีอยู่ แล้วผู้จัดท าไม่ต้องหา ตารางที่ 3.2 งบประมาณการใช้จ่าย ในการท าโครงการปฏิบัติงาน


69 บทที่ 4 ผลการด าเนินงาน 4.1 ผลงานที่เสร็จสมบูรณ์ รูปภาพที่ 4.1 ภาพด้านหน้าของสะพานไม้ไอศกรีม รูปภาพที่ 4.2 ภาพด้านบนของสะพานไม้ไอศกรีม


70 รูปภาพที่ 4.3 ภาพชั่งน้ าหนักของสะพานไม้ไอศกรีมครั้งที่ 1 รูปภาพที่ 4.4 ภาพก่อนการทดสอบรับน้ าหนักครั้งที่ 1


71 รูปภาพที่4.5 ภาพการวิบัติของสะพานไม้ไอศกรีมครั้งที่ 1 รูปภาพที่4.6 ภาพติดตั้งสะพานไม้ไอศกรีม เพื่อทดสอบการรับน้ าหนักครั้งที่ 2


72 รูปภาพที่4.7 ภาพก่อนการทดสอบครั้งที่ 2 รูปภาพที่4.8 ภาพเมื่อผ่านการทดสอบครั้งที่ 2


73 บทที่ 5 สรุปผล วิจารณ์ และข้อเสนอแนะ การท าโครงการเรื่องสะพานไม้ไอศกรีม (Ice cream wooden bridge)ออกแบบและสร้างสะพานไม้ไอศกรีม (Ice cream wooden bridge)เพื่อหาแนวทางท าแบบจ าลองของสะพานการหาค่าการรับน้ าหนัก ของโครงสร้างสะพาน แรงดึงของโครงสร้าง เป็นแบบจ าลองของสะพาน ให้แก่นักศึกษา สามารถน าไปใช้เป็นแบบค านวณได้หลายโอกาศในการ ออกแบบค่าแรงดึงต่างๆ โดยมีวัตถุประสงค์และผลที่คาดว่าน่าจะได้รับ 5.1 สรุปผล จากโครงการสะพานไม้ไอศกรีม (Ice cream wooden bridge) สามารถใช้งานได้จริงและเป็นประโยชน์แก่นักเรียนนักศึกษาที่มีความ สนใจในเรื่องสะพานไม้ไอศกรีม (Ice cream wooden bridge) และโครงการนี้มีผลดีมากเนื่องจากท าให้สมาชิกในกลุ่มมีการใช้เวลาว่าง ให้เกิดประโยชน์ มีความสามัคคีกันมากขึ้น สามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะ หน้าในการท างานร่วมกัน รู้จักด าเนินงานเป็นขั้นเป็นตอน และมีวิธี ปรับปรุงการท างานให้มีประสิทธิภาพให้เป็นที่น่าพอใจ 5.2 วิจารณ์ ข้อดี 5.2.1 ชิ้นงานสามารถให้ประโยชน์แก่ผู้ที่สนใจได้ 5.2.2 มีความแข็งแรงทนทานต่อการทดลอง 5.2.3 เพื่อให้เห็นการพังทลาย และการวิบัติของสะพานไม้ไอศกรีม ข้อเสีย 5.2.4 มีน้ าหนักที่มากอาจไม่สะดวกต่อเคลื่อนย้าย 5.2.5 วัสดุไม้ไอศกรีมไม่มีความแข็งแรงต่อการใช้งาน


74 5.3 ข้อเสนอแนะ การประกอบชิ้นงาน หากต้องการให้ชิ้นงานมีความแข็งแรงมากขึ้น ต้องท าการตัดส่วนโค้งของไม้ไอศกรีม และการตัดส่วนโค้งของไม้ไอศกรีม จะท าให้เสียเวลาในการประกอบโครงสะพาน และเนื่องด้วยปัญหาเศษฐกิจ ที่ส่งผลท าให้วัสดุอุปกรณ์ต่างๆ มีราคาที่แพงขึ้น ท าให้ค่าใช้จ่ายในการท า สะพานไม้ไอศกรีมมีราคาที่สูง


75 ภาคผนวก


76


77


78


79


80


81


82


83


84


85


86


87


Click to View FlipBook Version