1
ส่วนท่ี 1
บทนำ
ผู้นำชมุ ชนจิตอำสำ กศน.อำเภอหนองปรอื
จิตอาสา หรอื มีจติ สาธารณะ หมายถึงจิตของคนท่รี จู้ ักเสยี สละ ความรว่ มมือ ร่วมใจ ในการทา
ประโยชนเ์ พื่อส่วนรวม ชว่ ยลดปญั หาที่เกดิ ข้ึนในสังคม ชว่ ยกันพฒั นาคณุ ภาพชีวิตเพอ่ื เป็นหลักการในการดาเนินชีวิต
ชว่ ยแกป้ ญั หาและสร้างสรรคใ์ ห้เกดิ ประโยชน์สุขแกส่ งั คม เช่น การชว่ ยกนั ดูแลรักษาส่ิงแวดล้อมโดยการไมท่ ง้ิ ขยะลงใน
แหล่งน้า การดแู ลรกั ษาสาธารณสมบัติ เช่นหลอดไฟฟ้าทใ่ี ห้แสงสว่างตามถนนหนทาง การประหยดั นา้ ไฟฟ้า ประปาที่
เป็นของส่วนรวม โดยการใชใ้ ห้เกดิ ประโยชน์อยา่ งคุ้มค่า ตลอดจนการชว่ ยกันดูแลรักษา ใหค้ วามช่วยเหลอื ผู้ตกทุกขไ์ ด้
ยาก หรอื ผ้ทู ี่ร้องขอความชว่ ยเหลอื เท่าทจ่ี ะทาได้ ตลอดจนให้ความรว่ มมอื เพอ่ื ป้องกนั การกระทาที่จะก่อให้เกดิ ความ
เดือดรอ้ นและเสยี หาย กระทาตนไม่ขดั หรอื ผิดต่อกฎหมายเพื่อรักษาผลประโยชนข์ องส่วนรวม
การปฏิบัติเพือ่ เป็นผนู้ าชมุ ชนจิตอาสาท่ีดี ถือวา่ เปน็ คุณธรรมประการหนงึ่ ท่สี ังคมตอ้ งการและปรารถนา
ให้สมาชกิ ทกุ คนในสังคมยึดถือเปน็ คุณธรรม เป็นพฤติกรรมประจาตัว เพราะเมอ่ื ทุกคนปฏิบัติตนได้ การมสี านึกตอ่ สังคม
การทาประโยชนช์ ว่ ยเหลอื ผู้อ่นื และสังคมกจ็ ะไม่หวงั ผลตอบแทน การเป็นผนู้ าจติ อาสาเมอ่ื เราได้กระทาส่งิ ที่เป็น
ประโยชนเ์ กอื้ กูลผอู้ ื่น ด้วยจิตบรสิ ุทธ์ิ จิตใจของเรากจ็ ะอ่มิ เอบิ เปน็ สุข กลา่ วได้วา่ ความสาคัญของจติ อาสานนั้ นอกจากจะ
เปน็ ส่งิ ท่ที าให้บุคคลทางานหรอื ทากิจกรรมเพือ่ สังคมไดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ เป็นประโยชนต์ ่อสังคมและประเทศชาติแลว้
ก็ยังมีผลให้บุคคลทม่ี ีจิตอาสามีจิตใจที่เปน็ สุขอกี ด้วย
ดังน้ันนางปราณี รุ่งรัตนพงษ์พร เป็นผู้นาอาสาพัฒนาชุมชนดีเด่น อาเภอหนองปรือ จังหวัด
กาญจนบรุ ี ประจาปี 2563 เป็นบุคคลที่มีจิตอาสาตลอดระยะเวลามากกว่า10 ปี ในช่วงที่เข้ามาทาหน้าท่ีผู้นาอาสา
พัฒนาชุมชน สามารถทางานร่วมกับหน่วยงานทุกหน่วยงานได้เป็นอย่างดี มีจิตสาธารณะ และเป็นยังช่วยเหลืองาน
กศน.อย่างสม่าเสมอ โดยเข้ามาทาหน้าท่ีคณะกรรมการ กศน.ตาบลสมเด็จเจริญ เป็นบ้านหนังสือชุมชนประจาตาบล
สมเด็จเจริญ เป็นปราชญ์ชาวบ้านประจาตาบลสมเด็จเจริญ เป็นปราชญ์สัมมาชีพชุมชนบ้านห้วยแม่ระวาง ให้ความ
ร่วมกับ กศน.ตาบลสมเดจ็ เจรญิ ในการขับเคลอ่ื นงานและกิจกรรมทุกอย่าง นางปราณี รุ่งรัตนพงษพ์ ร สมควรท่ีจะได้รับ
รางวัล ผนู้ าจติ อาสาดีเดน่ ดังมีรายละเอยี ดดงั น้ี
2
ส่วนท่ี 2
ขอ้ มลู ท่วั ไป
ตอนที่ 1 ข้อมลู ทั่วไป
1. ชือ่ (นาย / นาง /นางสาว ) ปราณี นามสกลุ ร่งุ รัตนพงษพ์ ร อายุ 55 ปี
2. ท่ีอยปู่ ัจจบุ นั เลขท่ี 6/8 หมู่ท่ี 3 ตาบลสมเดจ็ เจริญ
อาเภอหนองปรือ จังหวัดกาญจนบรุ ี
3. อาชีพ เกษตรกร , ผนู้ าชมุ ชน ตาแหน่ง ผูน้ าอาสาพัฒนาชมุ ชนดเี ดน่
สถานท่ีทางาน บา้ นห้วยแม่ระวาง
ตาบลสมเด็จเจรญิ อาเภอหนองปรือ จังหวัดกาญจนบุรี
โทรศพั ทม์ ือถือ 081-1984835 LINE ปราณี รงุ่ รตั นพงษพ์ ร
ช่อื บัญชีผู้ใชง้ าน Facebook ปราณี รุ่งรัตนพงษพ์ ร
4. ปจั จุบนั กาลงั ศึกษา หลกั สูตร/สาขา - ในระดบั -
เม่อื ว/ด/ป - ช่ือสถานศกึ ษา - จังหวดั -
5. สาเร็จการศกึ ษา จาก กศน. หลักสูตรการศกึ ษาข้นั พื้นฐาน ในระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย
เม่อื ว/ด/ป 22 ตลุ าคม 2552
ชอ่ื สถานศกึ ษา ศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอาเภอหนองปรือ จังหวัดกาญจนบุรี
3
ส่วนที่ 3
ผลกำรปฏบิ ตั งิ ำน
1.เปน็ แกนนำในกำรพฒั นำหมบู่ ำ้ น/ตำบล โดยเปน็ ผรู้ ิเริม่ สรำ้ งสรรค์ ประสำนงำน ดำเนนิ กำร
รว่ มกบั ชำวบำ้ น มีผลกำรทำงำนโดดเดน่ เปน็ ทีย่ อมรบั ของสงั คม
ด้ำนควำมสำมำรถเป็นแบบอยำ่ งทีด่ ี
ครวั เรอื นประสบผลสาเร็จในการประกอบสมั มาชีพสามารถเปน็ แบบอย่างได้ ครัวเรอื นมีอาชพี หลกั คอื การทา
เกษตรกรรม ซง่ึ สามารถเลยี้ งดคู รอบครวั ได้อยา่ งดี และยังมกี ารแบง่ เวลาเพอื่ ประกอบอาชพี เสริมได้ โดยการเลือก
อาชีพการสานตะกรา้ จากเชอื กมดั ฟางเป็นอาชพี เสรมิ และงานอดเิ รก ทาใหม้ ีรายได้เพิม่ ขึ้น สง่ ผลให้เกดิ การเรยี น มีทกั ษะ
1. มกี ารรวมกล่มุ กันของสมาชิกเพ่อื ประกอบอาชพี สามารถสรา้ งรายไดเ้ สรมิ จนสามารถเปน็ ที่ศกึ ษาเรยี นรู้
ดงู านใหก้ ับครัวเรือนอ่ืนได้
2. เป็นวทิ ยากรถา่ ยทอดความรู้เกย่ี วกบั อาชีพในชุมชนของตนเอง และชมุ ชนอืน่ ได้
3. เปน็ แกนนาในการประกอบอาชีพในการรวบรวมผลติ ภัณฑ์ตา่ งๆของสมาชกิ จากทุกหมูบา้ น เพอ่ื นาไป
จาหน่ายในโครงการหว้ ยองคตอนั เนื่องมาจากพระราชดาริ ทาใหส้ มาชิกมรี ายได้เพิ่มขน้ึ ท้งั ตาบล
4. เปน็ วิทยากรถา่ ยทอดความรู้ และเป็นแกนนาช่วยสง่ เสรมิ ใหค้ นในชมุ ชนมกี ารออม
4. แนะนาสมาชิกในครัวเรือนใหฝ้ ากเงนิ กับธนาคาร และกลุ่มออมทรพั ยเ์ พ่ือการผลิตบ้านห้วยแม่ระวาง
4
ด้ำนกำรป้องกันและแกไ้ ขปญั หำยำเสพติด
1. ปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างท่ีดีแก่เยาวชน ไมย่ งุ่ เกีย่ วกบั ยาเสพตดิ ทกุ ชนิด โดยรว่ มเปน็ คณะกรรมการหมู่บ้าน
(กม.) เข้าร่วมจัดเวทปี ระชาคมหมู่บา้ นเพือ่ ค้นหาและแยกแยะผ้เู ก่ยี วขอ้ งยาเสพติด จดั กิจกรรมรณรงค์ปอ้ งกันและแกไ้ ข
ยาเสพติด
2. เปน็ แกนนาในการรณรงคต์ ่อต้านให้คนในชุมชนไม่เกี่ยวขอ้ งกบั สง่ิ ผดิ กฎหมายตา่ งๆ โดยเขา้ รว่ มโครงการ
หมูบ่ า้ นรักษาศีล 5 เป็นคณะกรรมการศนู ยป์ ระสานงานพลังแผน่ ดินเอาชนะยาเสพติด
3. เข้ารว่ มในการตั้งจุดตรวจร่วมกับฝ่ายปกครอง ตารวจ หรือเจ้าหนา้ ทข่ี องรัฐ
4. อยเู่ วรยามหรอื รกั ษาความปลอดภัยในหมบู่ า้ น หรือการรักษาความปลอดภัยในชุมชนของราษฎรในงานหรอื
กิจกรรมตา่ งๆที่จดั ขน้ึ ในหม่บู ้าน เป็นต้น
5. ส่งเสริมการรกั ษาความสงบเรียบร้อยในหมู่บา้ นและป้องกนั ภยั พบิ ัตติ า่ งๆมกี ารจัดตงั้ ชุดรกั ษาความปลอดภยั
หมบู่ า้ น (ชรบ.) ตรวจตราบุคคลแปลกหน้า ตรวจอาวุธ ยานพาหนะ ยาเสพติด สิง่ ผิดกฎหมายเพอ่ื ใหห้ มูบ่ ้านปลอดจาก
อาชญากรรม หรือแหลง่ อบายมุข
6. มกี ารจัดตัง้ เครอื ข่ายข่าว ครอบคลุมทกุ หมบู่ า้ น ในการป้องกนั เหตุรา้ ย ปอ้ งกนั เหตุการณ์ที่กระทบความมัง่ คง
ของชาติ การก่อการรา้ ย การกอ่ อาชญากรรม และรายงานขา่ ว ใหน้ ายอาเภอทราบอยเู่ สมอ
7. ปอ้ งกันและแกไ้ ขปญั หายาเสพติด โดยใช้กลไกของคณะกรรมการหมู่บา้ น ดว้ ยการสรา้ งพลงั สังคมและพลัง
ชมุ ชนเอาชนะยาเสพติด การดาเนนิ การใหผ้ ู้เสพ/ผูต้ ิดยาเสพติด แบบบูรณาการการดาเนินการแก้ไข
5
ด้ำนกำรจดั กำรเรียนรู้ รับผิดชอบตาแหน่งประธานศูนย์เรียนรู้ชุมชนบ้านห้วยแม่ระวางโดยได้ดาเนินการจัด
กิจกรรมการเรียนรู้เพ่ือเป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับคนในชุมชนคือการเพาะเห็ดฟาง และการสานตะกร้าจากเชือกมัดฟาง
การทาขนม เพอื่ เป็นการเพิ่มรายได้ โดยใชว้ ิธีการวางแผนสาหรับการประกอบอาชีพที่สามารถเพ่ิมรายได้อีกทั้งส่งเสริม
และแนะนาให้ชาวบ้านในชมุ ชนมีความรู้ในดา้ นการนาเอาหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ในชุมชน สามารถ
ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้จากการประกอบเสริมจากกลุ่มท่ีได้ร่วมกันจัดต้ังข้ึนโดยใช้วิธีการสารวจข้อมูลครัวเรือน ชุมชน/
ตาบลว่ามีรายได้ รายจ่ายเท่าไหร่ และใช้วิธีการส่งเสริมให้จัดทาบัญชีครัวเรือน เพ่ือจะได้มีวิธีและแนวทางในการลด
รายจ่าย ซ่งึ ปัจจุบนั ประชาชนในชุมชนสามารถลดรายจ่ายลงไปไดม้ ากเมือ่ เทยี บกับในอดีต
6
ดำ้ นกำรสง่ เสริมวิถีประชำธปิ ไตย
1. รว่ มเป็นอาสาสมัครประชาธิปไตย เป็นคณะกรรมการการเลือกตง้ั ประจาหนว่ ยเลือกตงั้ ให้ความรว่ มมือ
ดาเนนิ กจิ กรรมของกลุ่ม/องค์การต่างๆในชมุ ชน
2. ร่วมกจิ กรรมรณรงค์เผยแพร่ความรู้ดา้ นประชาธิปไตย ในการปฏบิ ัตหิ นา้ ที่ได้รบั ความร่วมมอื จากชาวบา้ นใน
ชมุ ชนเป็นอย่างดี (การทางานเป็นทีม)
3. เป็นผู้นาท่ีมีความคดิ ริเริ่ม และสรา้ งสรรค์ ซ่งึ เปน็ ประโยชน์ ต่อหมบู่ ้านมสี ว่ นร่วมในการพัฒนาโรงเรียนหรอื
วดั เปน็ ประจา
4. เป็นคณะกรรมการท่ีปรึกษากรรมการสถานศึกษาของโรงเรยี น และเปน็ คณะกรรมการดาเนนิ งาน
โครงการหว้ ยองคตอนั เน่อื งมาจากพระราชดาริและหน่วยงานตา่ งๆเพอื่ ชว่ ยเหลอื และแบง่ เบาภาระงานของ
หนว่ ยงาน
7
ด้ำนกำรอนรุ กั ษท์ รัพยำกรธรรมชำตแิ ละสิ่งแวดล้อม
1. เป็นวิทยากรถา่ ยทอด และเผยแพร่ความรูใ้ หป้ ระชาชนมสี ว่ นร่วมในการอนุรักษ์และฟ้ืนฟู
ทรพั ยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดล้อม การป้องกันการเกดิ ไฟป่า ภยั แลง้
2. เป็นแกนนาในการวางแผนและจัดกิจกรรมอนุรกั ษแ์ ละฟนื้ ฟทู รพั ยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม
และกจิ กรรมสาธารณประโยชน์ เช่น รณรงค์ปลูกแฝกท้ังตาบลสมเดจ็ เจริญ การปลูกปา่
3. ดาเนนิ การดา้ นการดูแลทรพั ยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มในโอกาสวนั สาคัญตา่ งๆ
4. มีการปลกู ต้นไมบ้ ริเวณบา้ น เช่นผกั สวนครัวร้ัวกินได้ หรอื ไมก้ ระถาง
5. รกั ษาความสะอาดสถานที่สาธารณะ เชน่ ถนน ศาลาเอนกประสงค์หมู่บ้าน เป็นต้น
6. ดูแลรกั ษาแหลง่ น้า ลาคลอง หรือที่สาธารณะ เชน่ ไมท่ งิ้ ขยะลงในแม่นา้ ลาคลอง การทาฝายชะลอนา้
8
ด้านการขบั เคล่อื นปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง
1. ส่งเสรมิ ให้ชาวบ้านในพน้ื ทน่ี าหลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง และโดยดาเนินงานตามโครงการอัน
เนอื่ งมาจากพระราชดารมิ าเปน็ แนวทางในการดาเนินชวี ิต ใหเ้ ป็นรปู ธรรม
2. ร่วมกบั ทกุ ภาคส่วนทง้ั ในชมุ ชนและนอกชุมชนท่ีมีสว่ นเก่ียวข้องนาหลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียงมา
ประยุกต์ใช้กบั ชุมชน /ตาบลสมเด็จเจรญิ
9
2 มบี ทบำทตำมภำรกจิ หลกั ของผนู้ ำจิตอำสำและต้องมีหน้ำทป่ี ฏบิ ตั งิ ำนในหมบู่ ำ้ นทไ่ี ดร้ บั กำรคดั เลอื ก
ระเบียบกระทรวงมหำดไทยว่ำดว้ ยกำรอำสำพัฒนำชุมชนปี 2547 ขอ้ 16
2.1 กระตนุ้ ใหอ้ งคก์ รประชำชนรสู้ ภำพปญั หำของหมบู่ ำ้ นและสำมำรถวำงแผนเพอื่ แกไ้ ขปญั หำ
ได้เองรวมทงั้ กำรกระตนุ้ ใหป้ ระชำชนรจู้ ักชว่ ยตนเองและเขำ้ มำมีส่วนรว่ มในกำรพฒั นำหมบู่ ้ำนของตน
ได้อย่ำงมปี ระสทิ ธภิ ำพ
ด้ำนกำรปฏบิ ตั ติ นเป็นผู้นำจิตอำสำ โดยกระทาตนเปน็ ตัวอยา่ งทีด่ ีมาตลอดในการน้ี นางปราณี รุ่งรัตนพงษ์พร
รับฟังปัญหาและนาความเดือดร้อนทุกข์สุข และความต้องการท่ีจาเป็นของราษฎรในหมู่บ้าน แจ้งต่อส่วนราชการ
หน่วยงานของรฐั องค์กรสว่ นปกครองส่วนทอ้ งถิน่ หรือองค์กรอืน่ ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง เพอื่ ใหก้ ารแกไ้ ขหรอื ชว่ ยเหลือ เชน่ รายงาน
ปัญหาความเดอื ดรอ้ นของราษฎรในหมูบ่ า้ นแจ้งต่อหน่วยราชการท่เี กีย่ วข้อง ทาใหท้ ราบถงึ สภาพปัญหาการที่มีชาวบ้านมี
โรคภยั ไขเ้ จบ็ ที่เกดิ จากอาหารการกินเลย เพ่ือหาทางแก้ปัญหาโดยปลูกจิตสานึกชาวบ้านรักสุขภาพ โดยการออกกาลัง
กายเป็นประจาและปลกู พืชผักปลอดสารพษิ ปลกู ข้าวทาข้าวซอ้ มมือไว้กินเองในครัวเรือนเพื่อลดโรคภัยไข้เจ็บที่เกิดจาก
อาหารท่ีกินเขา้ ไปแล้วสะสมอยใู่ นรา่ งกายดงั มรี ายละเอยี ดดงั น้ี
10
2.2 ริเร่มิ และสนบั สนนุ กำรดำเนนิ งำนพฒั นำ โดยเปน็ ทป่ี รกึ ษำกลมุ่ เยำวชน กล่มุ สตรี
กล่มุ อำสำสมัคร ตลอดจนองคก์ รประชำชน และกจิ กรรมกำรพฒั นำต่ำงๆ
1. สารวจและคัดเลือกเด็ก จดั ทาประวัติเดก็ ตรวจสอบข้อมูล/รบั รองข้อมลู เด็ก และรวบรวมเพอ่ื เสนอขอรับ
ทุนจากกองทุนพัฒนาเดก็ ชนบท
2. เปน็ ทป่ี รึกษาคณะกรรมการกองทนุ พฒั นาบทบาทสตรตี าบลสมเด็จเจรญิ
3. เขา้ ร่วมกจิ กรรมโครงการแก้ไขปญั หาด้านอาชพี เพ่อื หาแนวทางในการช่วยเหลือชาวบา้ นในชุมชน
4. รว่ มส่งเสริมทุกๆกจิ กรรมของกลุ่มสตรสี นับสนนุ ส่งเสริมและรว่ มปฏิบัตงิ าน กับหนว่ ยงานตา่ งๆในการพัฒนา
หมู่บา้ น ตาบลของตนเป็นอย่างดี
11
มีความคดิ ริเริ่มในการกาหนดโครงการต่างๆเพือ่ ตอบสนองต่อความต้องการของราษฎรในพน้ื ที่ โดยรว่ มกนั ทา
กิจกรรมจิตอาสา การป้องกนั ภัยและช่วยเหลือภัยแลง้ รว่ มกบั ประชาชนเพอื่ ปลูกต้นไมก้ ับหนว่ ยงานทีเ่ ก่ยี วข้อง
12
เปน็ ผนู้ าซึง่ ทานุบารุงไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตรยิ ์ เปน็ ผนู้ าซึ่งรักษาไว้ซึ่งวัฒนธรรมและ
ประเพณี
13
สง่ เสรมิ กจิ กรรมกำรปลกู ป่ำในใจคน
โดยมีการปลูกจิตสานึกให้แกราษฎรในพ้ืนที่หมู่บ้าน ตาบล ในการรักผืนป่าและทรัพยากรธรรมชาติ เช่น
การรณรงค์หรือจัดโครงการให้ราษฎรมีจิตสานึกในการรักทรัพยากรชุมชน ให้ราษฎรได้ลงมือปฏิบัติและมีส่วนร่วมใน
โครงการ หรือปลูกต้นไม้บริเวณบ้าน หรือตามแนวทางถนนในหมู่บ้านถือเป็นการปลูกจิตสานึกการอนุรักษ์และ
สง่ิ แวดล้อมในพน้ื ทชี่ มุ ชน เป็นตน้
ส่งเสริมให้ประชาชนจัดเกบ็ ขยะมูลฝอย บรเิ วณภายนอก/ภายใน อาคารบ้านเรือนและสนับสนนุ องค์กร
ปกครองส่วนท้องถ่นิ กาจัดขยะอย่างเป็นระบบ
สรา้ งความสมานฉันท์และความสามัคคใี หเ้ กิดข้นึ ในหมู่บ้าน รวมทั้งการสง่ เสรมิ วัฒนธรรมและประเพณี
ในทอ้ งที่ เช่น การจัดกิจกรรมใหร้ าษฎร มสี ่วนร่วมในการดาเนินกร เพอื่ เสริมสร้างความสามคั คีในตาบล หมู่บ้าน การ
ส่งเสรมิ สร้างความเขา้ ใจแกร่ าษฎรในหมบู่ ้าน ตาบล เพอื่ สร้างความปรองดองสมานฉันท์ การบาเพ็ญสาธารณประโยชน์
ในโอกาสสาคญั ตา่ งๆ เป็นตน้
14
2.3 ช่วยเหลอื สนับสนนุ กำรดำเนนิ งำนตำมแผนงำนโครงกำรหรอื กิจกรรมพฒั นำหมบู่ ้ำน
ปฏิบัติหน้าท่ีด้วยความซ่ือสัตย์สุจริต และจริงใจต่อราษฎร รวมท้ังมีความเพียรพยายามในการปฏิบัติหน้าท่ี
โดยการศึกษาทาความเขา้ ใจใหถ้ อ่ งแท้ เช่น ปฏบิ ัตหิ น้าท่ที ่ีได้รบั มอบหมายให้ประสบความสาเร็จ หากยังไม่มีความพร้อม
ในการทาภารกิจ ต้องมีความพยายามในการศึกษาทาความเขา้ ใจกบั ภารกจิ เพอ่ื ให้สามารถทาได้สาเรจ็
1. ร่วมประชุมเพ่ือวางแผนการตั้งจุดเฝ้าระวังการเข้าออกของทุกทางภายในหมู่บ้านเพื่อคัดกรองและป้องกัน
คนนอกพืน้ ทท่ี ี่เข้ามาในหมบู่ า้ น ซึง่ อาจจะทาใหม้ ีการตดิ และแพร่ระบาดเชื้อไวรสั โควดิ -19
2. ให้การช่วยเหลือดูแลผู้เส่ียงสูงท่ีต้องกักตัวอยู่บ้าน 14 วัน ประชาชนในหมู่บ้านร่วมกับ อสม.มีการดูแล
ชว่ ยเหลอื จดั หาและส่งเสบียงอาหารใหท้ ุกคนท่ีต้องกกั ตวั เพื่อเฝ้าระวังการติดเชื้อจากเช้ือไวรัสโควิด-19
3. ร่วมประชมุ เพ่ือวางแผนสารวจข้อมูลผู้ประสบปัญหาสงั คม
15
2.4 เป็นผปู้ ระสำนงำนระหวำ่ งองคก์ รประชำชนกบั หน่วยงำนของรัฐ องค์กรเอกชนหรือเอกชนอนื่ ๆ
1. ลงเยี่ยมผูป้ ่วยตดิ เตียงร่วมกบั สานักงานพัฒนาชุมชน
2. นาเรอ่ื งทไ่ี ดร้ บั มอบหมายมาจากอาเภอแจง้ ให้ชาวบ้านทราบในที่ประชมุ
3. ใหค้ วามช่วยเหลอื และสนับสนนุ การปฏิบตั ิงานของหน่วยงานต่างๆในพื้นทีเ่ ป็นอย่างดี
4. คอยให้ความช่วยเหลือและสนบั สนนุ การปฎิบัตงิ านของหน่วยงานตา่ งๆ
5. เปน็ ประธานและคณะกรรมการกองทนุ หม่บู ้าน อีกทง้ั ส่งเสริมใหช้ าวบา้ นรู้จกั ออมเงิน
6. นาทีมงานรว่ มประชมุ สญั จรเพอ่ื ทราบปัญหาในแต่ละหมูบ่ ้านและแก้ปญั หาได้อย่างตรงจุด
16
2.5 ปฏบิ ัตหิ น้ำทอ่ี น่ื ตำมทเ่ี วทปี ระชำคมคณะกรรมกำรหมบู่ ้ำนองคก์ ำรบรหิ ำรส่วนตำบลหรอื ทำง
รำชกำรมอบหมำย
ประสานหรืออานวยความสะดวกแก่ราษฎรในหมูบ่ า้ น ในการตดิ ต่อหรอื รบั บริการกบั ส่วนราชการหน่วยงานของ
รัฐ หรือองคก์ รปกครองส่วนท้องถิ่นเพ่ือส่งเสริมการดาเนินงานในชมุ ชน เมอ่ื ได้รบั การมอบหมายภารกจิ เร่งด่วนให้
ดาเนนิ งานคดั กรองสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชือ้ โควดิ -19 ภายในตาบลสมเด็จเจรญิ ภายใต้มาตรการการควบคมุ
การแพรเ่ ชื้อของโรคระบาด การจัดหาอาหารให้ผเู้ สย่ี งสูงทต่ี ้องถกู กักตัวภายในหมู่บา้ น
17
สว่ นท่ี 4
สรปุ ผล
เปน็ ชุมชนทไ่ี ด้รบั กำรยกย่องว่ำเป็นชุมชนแบบอยำ่ งท่ีมีกำรดำเนินงำนด้ำนจติ อำสำ
ชมุ ชนจิตอาสาบ้านห้วยแมร่ ะวางไดด้ าเนนิ ตามพระราโชบายของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลท่ี 10
โดยประชาชนในหมบู่ ้านเปน็ จติ อาสาพัฒนา คือเข้าร่วมในกิจกรรมต่างๆทีส่ ว่ นราชการแจ้งให้หม่บู า้ นจัดหรอื เข้าร่วม
โครงการเพือ่ ต้องการพฒั นาท้องถน่ิ ในชุมชนใหม้ ีคณุ ภาพชวี ิตที่ดี มีความเป็นอยู่ที่ดีข้ึน ไม่ว่าจะเปน็ กจิ กรรมบาเพ็ญ
สาธารณประโยชน์ การอนุรกั ษธ์ รรมชาติและสง่ิ แวดล้อม การอานวยความสะดวกในการดารงชีวิตประจาวัน การ
ประกอบอาชีพรวมทั้งการสาธารณสขุ มีการเฝ้า ตรวจ เตอื น และเตรยี มการรองรับภัยพิบตั ิทัง้ ท่เี กดิ จากธรรมชาติ
และทีเ่ กิดจากสาเหตุอ่นื ๆ ท่ีสง่ ผลกระทบต่อประชาชนในพ้นื ทโ่ี ดยรวม และการเข้าช่วยเหลอื บรรเทาความเดอื ดร้อนของ
ประชาชนจากภัยพิบัติ ไม่ว่าจะเป็น อุทกภัย วาตภยั อคั คีภัย รวมทง้ั การร่วมปฏบิ ัตงิ านกับส่วนราชการทีเ่ กยี่ วขอ้ งในการ
ช่วยเหลอื หรืออานวยความสะดวกแกป่ ระชาชนที่มารว่ มงาน การนอ้ มนาพระราชดาริของพระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทร
มหาภมู ิพลอดุยเดชฯ บรมนารถบพิตร มาเป็นแนวทางในการดาเนินชวี ติ โดยยดึ หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง เพอื่ ให้
สามารถดารงชีวิตอยา่ งย่ังยืนภายใต้กระแสโลกาภิวัฒน์และความเปลีย่ นแผลงต่าง การวางรากฐานการดาเนนิ ชีวติ จงึ เป้น
สง่ิ จาเปน็ อยา่ งยง่ิ ท่ตี อ้ งปลกู ฝงั ให้เกดิ ขึน้ กบั ทุกคนในสงั คมไทยโดยเฉพาะอย่างย่งิ เยาวชน นกั ศกึ ษา กศน.อาเภอหนอง
ปรือซึ่งจะเป็นอนาคตของชาติตอ่ ไป
18
รายงานถอดบทเรยี นผู้นาชุมชนจิตอาสาดีเดน่
เป็นผู้นำชมุ ชนจิตอำสำต้นแบบในกำรบริหำรจดั กำรจิตอำสำพฒั นำ ทมี่ ีวัตถุประสงค์พฒั นาท้องถน่ิ ของแต่ละชุมชน
ให้มคี ุณภาพชีวติ และความเป็นอยู่ท่ดี ีข้ึน มาเปน็ แนวทางในการดาเนนิ ชีวิตโดยยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
นางปราณี รุ่งรตั นพงษพ์ ร ผู้นาชุมชนจิตอาสาที่ประสบผลสาเร็จในการปฏิบัตติ นสามารถเปน็ แบบอยา่ งได้
ไมว่ า่ จะดา้ นกิจกรรมบาเพ็ญสาธารณประโยชน์ การอนุรักษธ์ รรมชาตแิ ละส่ิงแวดล้อม การอานวยความสะดวก และความ
ปลอดภัยในการดารงชีวติ การประกอบอาชพี รวมทั้งการสาธารณสุข โดยสามารถเห็นไดจ้ ากผลงานเชงิ ประจักษ์ด้าน
รูปภาพ รางวัล และการจดั กิจกรรมภายในชมุ ชน โดยใช้หลักจิตอาสา จิตสาธารณะเป็นแนวทางในการดาเนนิ งาน
นางปราณี ร่งุ รัตนพงษ์พร เปน็ บุคคลทีม่ ีความรับผดิ ชอบ ความใส่ใจต่อสงั คม ปฏิบัติตนเพอ่ื ชว่ ยเหลอื
ให้บรกิ ารแก่บคุ คลอ่ืน สามารถปฏิบัตภิ ารกิจของสงั คมเพอื่ ผลประโยชนข์ องสว่ นรวม สามารถเปน็ คนกลางไกลเ่ กลี่ยข้อ
ขดั แยง้ เพอ่ื ยตุ ิปัญหา โดยการแสวงหาทางออกรว่ มกนั การใช้เหตุผลในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกนั ให้มาก
ทสี่ ดุ เพอ่ื หาข้อยตุ ิสร้างการเขา้ ร่วมรับรู้ ตดั สินใจ และผนกึ กาลงั เพ่อื ให้เกดิ การยอมรบั จากทกุ ฝ่าย เพ่ือให้ทกุ คนใน
ชมุ ชนมีบทบาทและความสาคัญเทา่ ๆกนั
นางปราณี รงุ่ รัตนพงษ์พร มจี ติ สานึกท่ีตระหนกั ถึงความสาคัญในการอยู่รว่ มกนั มเี ทคนิคและวธิ กี ารพูดคยุ
คานึงถึงผู้อืน่ ทีอ่ ยรู่ ่วมกนั เสมอ สรา้ งความสัมพันธใ์ หร้ ู้สึกวา่ เปน็ คนกล่มุ เดยี ว ไม่แปลกแยก แตกต่าง ทุกคนมีความสาคัญ
เท่ากนั หมด มนษุ ย์ข้ึนชื่อวา่ เป็นสตั ว์สังคม จาเป็นตอ้ งอยูร่ ว่ มกนั มีการพง่ึ พาอาศยั กัน และการมารวมกันของคนหมมู่ ากก็
มักจะนาไปส่คู วามขดั แยง้ ในเวลาต่อมา ดงั น้ันจงึ จาเป็นต้องมีกฏเกณฑ์ หรือหลกั ยึดเพอ่ื ให้คนในสังคมยึดถอื และปฏบิ ัติ
เพ่ือใหเ้ กิดความเป็นธรรม และนาความเจรญิ มาสู่สงั คม
19
บทสรปุ ผบู้ รหิ ำร
สานักงาน กศน. ไดน้ อ้ มนาพระราโชบายของสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ ัว มาเปน็ แนวทางเพอ่ื ใหผ้ ู้ทีไ่ ด้รับการอบรมมี
ความรู้ ความเข้าใจ มีจิตสาธารณะที่พร้อมอาสาสมคั รในการบาเพญ็ ประโยชนต์ ่อสว่ นรวม และร่วมกันปกปอ้ งเชดิ ชู
สถาบันพระมหากษัตริย์ สร้างความรักความสามคั คีของประชาชน และขยายผลโครงการอันเนือ่ งมาจากพระราชดาริใน
พนื้ ท่ี อนั จะสง่ ผลใหบ้ ุคลากรในสงั กดั มีความรักชาติ เกดิ ความสามัคคเี ป็นรากฐานที่เหนยี วแน่นในการพัฒนาประเทศใหม้ ี
ความมัน่ คง
กศน.อาเภอหนองปรือ ได้ส่งเสรมิ และสนับสนนุ เพื่อใหบ้ ุคลากร เข้ารว่ มรบั การอบรมจิตอาสาตามนโยบาย ของ
สานักงาน กศน. เพอ่ื ใหบ้ ุคลากรได้นาความรทู้ ีไ่ ด้รับมาตอ่ ยอด เป็นแนวทางในการดาเนนิ งานและใหม้ ีความปรองดอง
สมานฉนั ท์ มีความเขา้ ใจ เกิดความสมัครสมานสามัคคีเปน็ อันหนึ่งอันเดียวกนั และยึดมั่นในการปกครองระบอบ
ประชาธิปไตยอันมพี ระมหากษตั ริยท์ รงเป็นประมขุ
กศน.อาเภอหนองปรือมุง่ หวังเปน็ อยา่ งย่ิงว่า บุคลากรทเ่ี ขา้ ร่วมอบรมจิตอาสาครง้ั น้ี จะนาความรไู้ ปใชเ้ ปน็
แนวทางในการปฏิบัติตน ปฏบิ ตั ิงาน เป็นจิตอาสาที่ดี เป็นผู้ท่ีมีจติ สาธารณะ มีจิตของคนทีร่ ้จู ักความเสียสละ ความ
ร่วมมือร่วมใจในการทาประโยชนใ์ หส้ ว่ นรวม จะชว่ ยลดปญั หาทอี่ าจเกดิ ขึ้นในสงั คม ชว่ ยกนั พัฒนาคุณภาพชีวติ เพ่อื เปน็
หลักการในการดาเนินชีวติ ช่วยแก้ปัญหาและสรา้ งสรรค์ใหเ้ กิดประโยชน์แกส่ ังคมตอ่ ไป