ประมวลกฎหมาย
แพง และพาณิชย
รายวชิ าต๋ัวเงินและบญั ชเี ดนิ สะพัด
BILLS AND CURRENT ACCOUNT
หมวด ๑
บทเบ็ดเสรจ็ ทัว่ ไป
01/
ทีมา ความหมายของสญั ญาตวั
เงินและประเภทของตวั เงิน
สารบัญ
แหง บทเบด็
02/
ขอ้ ความทีมีผลในตวั เงิน และ
ลกั ษณะของการลงลายมือชือ
ในตวั เงิน
03/
การใชเ้ งินตามตวั เงินตอ้ งทาํ
เมือตวั เงินถึงกาํ หนดโดยมิให้
ใหว้ นั ผอ่ น
เสรจ็ ทัว่ ไป
04/
ผทู้ รง การสลกั หลงั อีกทงั
เรืองใบประจาํ ต่อ
บทที่๑
ทีมา ความหมายของสญั ญาตวั เงิน
และประเภทของตวั เงิน
ทม่ี า ความหมายของสญั ญาต๋วั เงนิ
ในสมยั ก่อน ตวั เงินเป็นตราสารทีพฒั นาขึนจากแนวปฏิบตั ิของพอ่ คา้ เพือความ
สะดวกในการชาํ ระหนี กล่าวคือเมือพอ่ คา้ ทอ้ งถินหนึงซือสินจากพอ่ คา้ อีกทอ้ งถินหนึง
แทนทีผซู้ ือสินคา้ จะชาํ ระเงินค่าสินคา้ เป็นเงินสด ผซู้ ือสินคา้ กช็ าํ ระหนีโดยวธิ ีออก
ตราสารใหผ้ ขู้ ายสินคา้ ไปเกบ็ เงินจากพอ่ คา้ อีกคนหนึงซึงอยใู่ นทอ้ งถินเดียวกบั ผขู้ าย
วธิ ีการดงั กล่าวเกิดขึนเพือความสะดวกในการชาํ ระหนีซึงกนั และกนั แนวปฏิบตั ินี
ปฏิบตั ิกนั มานานจนกลายเป็นธรรมเนียมของพอ่ คา้ ทีเรียกกนั วา่ กฎหมายพอ่ คา้
(Merchant Law) และไดว้ วิ ฒั นาการเป็นกฎหมายพาณิชย์ ซึงมีววิ ฒั นการควบคู่มากบั
กฎหมายแพง่ ตามปกติ เช่น กฎหมายตวั เงินเป็นตน้
ในทางบญั ชี ตวั เงิน หมายถึง เอกสาร หรือหลกั ฐานทีแสดงการเป็นหนีกนั ระหวา่ ง
ลูกหนีกบั เจา้ หนี ซึงมีความน่าเชือถือมากกวา่ ลูกหนี การคา้ ในการประกอบธุรกิจมีการ
ซือขายสินคา้ หรือสินทรัพยเ์ ป็นจาํ นวนมากทงั การซือขายเป็นเงินสดและสินเชือใน
กรณีซือขายกนั จาํ นวนไม่มาก และเวลาการชาํ ระเงินเป็นระยะเวลาสนั ๆ ผซู้ ือกจ็ ะบนั
ทึกไวใ้ นบญั ชีเจา้ หนีการคา้ ส่วนผขู้ ายกจ็ ะบนั ทึกไวใ้ นบญั ชีลูกหนีการคา้ แต่ถา้ ซือขาย
กนั เป็นจาํ นวนมากเวลาการใหเ้ ครดิตนาน
การทีผขู้ ายจะมีความมนั ใจวา่ จะไดร้ ับเงินจากลูกหนีแน่นอนนนั คือการชาํ ระเป็น
ตวั เงิน เพราะตวั เงินเป็นหลกั ประกนั ในการเรียกเกบ็ เงินไดด้ ีกวา่ ลูกหนีการคา้ ซึงทาง
ดา้ นผซู้ ือจะบนั ทึกไวใ้ นบญั ชีตวั เงินจ่าย และทางดา้ นผขู้ ายจะบนั ทึกไวใ้ นบญั ชีตวั เงิน
มาตรา 898 อนั ต๋ัวเงินตามความหมายแหงประมวลกฎหมายน้มี ี
สามประเภท ๆ หนง่ึ คือต๋วั แลกเงิน ประเภทหนงึ่ คอื ต๋ัวสัญญาใช
เงิน ประเภทหน่ึง คอื เช็ค
ในมาตรา 898 ขา้ งตน้ ไดจ้ าํ แนกตวั เงินออกไปเป็น 3 ประเภท กล่าวคือ
ซึงตวั แลกเงินนีจะบญั ญตั ิ ตวั สญั ญาใชเ้ งินไดบ้ ญั ญตั ิ ตามมาตรา 987 เชค็ มีผู้
ไวใ้ นตามมาตรา 908 ตวั แลก ไวใ้ นตามมาตรา 982 ตว้ เกียวขอ้ งในการออกตวั 3 ฝ่ าย
เงินมีผเู้ กียวขอ้ งในการออกตวั สญั ญาใชเ้ งินมีผเู้ กียวขอ้ งใน คือ ผสู้ งั จ่าย ธนาคาร และผรู้ ับ
3 ฝ่ าย คือ ผสู้ งั จ่าย ผจู้ ่ายและ การออกตวั 2 ฝ่ าย คือ ผอู้ อก เงิน โดยผสู้ งั จ่ายสงั ธนาคาร
ผรู้ ับเงิน โดยผสู้ งั จ่ายออกตวั ตวั และผรู้ ับเงิน โดยผอู้ อกตวั ใหใ้ ชเ้ งินจาํ นวนหนึงเมือ
สงั ผจู้ ่ายใหใ้ ชเ้ งินจาํ นวนหนึง ใหค้ าํ มนั สญั ญาวา่ จะใชเ้ งิน ทวงถามแก่ผรู้ ับเงินหรือตาม
แก่ผรู้ ับเงินหรือตามคาํ สงั ของ จาํ นวนหนึงแก่ผรู้ ับเงิน หรือ คาํ สงั ของผรู้ ับเงิน
ผรู้ ับเงิน ตามคาํ สงั ของผรู้ ับเงิน
ผูออกตว๋ั
ผจู า ย ธนาคาร
ผูส ัง่ จา ย ผรู ับเงิน ผรู บั เงนิ ผสู ่ังจา ย ผรู ับเงนิ
ขอ้ สงั เกต
ตามกฎหมายองั กฤษเชด็ ถือวา่ เป็นตวั แลกเงิน โดยมีผเู้ กียวขอ้ งในการออกตวั ฝ่ ายเหมือนกนั อยา่ งไรกต็ ามไดม้ ีการ
ออกกฎหมายเกียวกบั เชค็ เพิมเดิมไปจากตวั แลกเงินปกติเนืองจากววิ ฒั นาการของหลกั กฎหมายเกียวกบั เชค็ ตามกฎหมาย
องั กฤษจะเป็นกฎหมายผบู้ ริโภค(Consumer Law) มากกวา่ ทีจะเป็นกฎหมายพาณิชย(์ Commercial Law)อยา่ งตวั แลกเงิน
บทที่๒
ขอ้ ความทีมีผลในตวั เงิน และลกั ษณะ
ของการลงลายมือชือในตวั เงิน
มาตรา 899 ขอ้ ความในตวั เงินมีผลกเ็ ฉพาะแต่ขอ้
ความทีฎหมายกาํ หนดใหเ้ ขียนไวไ้ ด้
ขอ้ ความอนั ใดซึงมิไดม้ ีบญั ญตั ิไวใ้ น เท่านนั หากเขียนขอ้ ความเกินเลยไปจากที
ประมวลกฎหมายลกั ษณะนี ถา้ เขียนลงใน กฎหมายกาํ หนดไวข้ อ้ ความนนั ไม่มีผล
อยา่ งใดในตวั เงิน
ตวั เงิน ท่านวา่ ขอ้ ความอนั นนั หาเป็นผล
อยา่ งหนึงอยา่ งใดแก่ตวั เงินนนั ไม่
มาตรา 899 มีทีมาจากแนวคิดวา่ ตวั เงิน
เป็นตราสารเปลียนมือซึงอาจโอนกนั ไป
ไดเ้ รือยๆ ดงั นนั ขอ้ สญั ญาซึงผเู้ ป็นคู่
สญั ญาจะตอ้ งเขา้ มาผกู พนั จึงควรมีแต่
เฉพาะเรืองสาํ คญั ตามทีกฎหมายกาํ หนด
ใหเ้ ท่านนั เช่น รายการตามตวั เป็นตน้
หากกฎหมายเปิ ดโอกาสใหค้ ู่สญั ญา
สามารถเขียนขอ้ ตกลงไวใ้ นสญั ญาตวั เงิน
ไดท้ ุกเรืองแลว้ กจ็ ะเป็นการขดั กบั สภาพ
ของตราสารเปลียนมือซึงตอ้ งการใหส้ ิทธิ
หนา้ ทีมีความชดั เจนทาํ ใหโ้ อนกนั ไดอ้ ยา่ ง
คล่องตวั
ดงั นนั จึงมีหลกั การตามมาตรา 899 วา่
ขอ้ ความในตวั เงินจะมีผลกฉ็ พาะแต่
ขอ้ ความทีกฎหมายกาํ หนดใหเ้ ขียนไว้
เท่านนั หากเขียนขอ้ ความเกินลงไปจากที
กฎหมายกาํ หนดไวข้ อ้ ความนนั ไม่มีผล
อยา่ งใดในตวั เงิน
ตัวอยางฎีกาทีเ่ ก่ียวของ
ฎีกาที 4201/2530
ขอ้ ความตามตราประทบั ดา้ นหลงั ตวั สญั ญาใชเ้ งินทีมีใจความวา่ ตวั สญั ญาใชเ้ งินจะ
สมบูรณ์ต่อเมือเชค็ เรียกเกบ็ เงินไดเ้ รียบร้อยแลว้ เป็นขอ้ ความทีขดั ต่อมาตรา (2) จึงไม่มีผล
บงั คบั ตามมาตรา 899 ทีวา่ ขอ้ ความอนั ใดซึงมิไดบ้ ญั ญตั ิไวใ้ นกฎหมายลกั ษณะตวั เงิน ถา้ เขียน
ลงในตวั เงิน ขอ้ ความนนั หาเป็นผลอยา่ งหนึงอยา่ งใดแก่ตวั เงินนนั ไม่
ขอ้ เทจ็ จริงตามคาํ พิพากษาฎีกาขา้ งตน้ เป็นกรณีทีลูกคา้ ประสงคจ์ ะฝากเงินกบั บริษทั เงินทุน
ซึงการฝากเงินจะตอ้ งทาํ โดยวธิ ีบริษทั เงินทุนออกตวั สญั ญาใชเ้ งินใหแ้ ก่ลูกคา้ ในการฝากเงินดงั
กล่าวลูกคา้ ไดอ้ อกเชค็ ใหแ้ ละบริษทั เงินทุนไดอ้ อกตวั สญั ญาใชเ้ งินใหล้ ูกคา้ โดยบริษทั เงินทุน
ระบุขอ้ ความวา่ ตวั สญั ญาใชเ้ งินจะสมบูรณ์ต่อเมือเชค็ เรียกเกบ็ เงินไดเ้ รียบร้อยแลว้ ต่อมา
ตวั แทนเชิดของบริษทั เงินทุนไดย้ กั ยอกเงินตามเชด็ เป็นของตนเอง บริษทั เงินทุนจึงปฏิเสธการ
จ่ายเงินตามตวั สญั ญาใชเ้ งินโดยอา้ งวา่ ตวั สญั ญาใชเ้ งินยงั ไม่สมบูรณ์เนืองจากไดร้ ะบุเนือความ
ขา้ งตน้ ไว้ ศาลฎีกาไดต้ ดั สินวา่ ขอ้ ความดงั กล่าวไม่มีผลตามมาตรา 899
ฎีกาที 3509/2542
เชค็ เป็นตราสารเปลียนมือทีตอ้ งการความเชือถือในระหวา่ งผสู้ งั จ่ายและผทู้ รงทงั หลาย เมือ
นาํ เชค็ ไปเรียกเกบ็ เงินแลว้ จะมีการจ่ายเงินตามเชค็ ขอ้ กาํ หนดเงือนไขใดๆ อนั เป็นการหา้ ม
หรือจาํ กดั การจ่ายเงินจะพึงมีไดจ้ ึงตอ้ งเป็นไปตามบทบญั ญตั ิของกฎหมาย การทีจาํ เลยมีเสน้ สี
ดาํ ไวใ้ นช่องวนั ที การกระทาํ ดงั กล่าวไม่มีบทบญั ญตั ิของกฎหมายใหอ้ าํ นาจไวว้ า่ กระทาํ ได้
ขอ้ ความดงั กล่าวจึงหาเป็นผลอยา่ งหนึงอยา่ งใดแก่เชค็ นนั ตามมาตรา 899 จึงถือวา่ จาํ เลยออก
เชค็ โดยมิไดล้ งวนั ออกเชด็ ไว้ เมือโจทกไ์ ดร้ ับเชด็ และนาํ เขา้ บญั ชีโจทกห์ รือเจา้ หนา้ ทีธนาคาร
จึงลงวนั ทีในเชค็ ไดต้ ามมาตรา 910 วรรคทา้ ย ประกอบมาตรา 989
ตามมาตรา 899 กาํ หนดแต่เพียงใหข้ อ้ ความทีเกินเลยไปจากทีกฎหมายกาํ หนดไว้ ไม่มีผล
อยา่ งใดในตวั เงินเท่านนั โดยไม่ทาํ ใหต้ วั เงินเสียไป ถึงแมว้ า่ จะมีขอ้ ความทีเกินเลยไปดงั กล่าว
ผทู้ รงตวั เงินกย็ งั อาจฟ้องบงั คบั ตามตวั ไดอ้ ยู่ ดงั นนั ในทางปฏิบตั ิจึงมกั จะเขียนขอ้ ความอืนไวใ้ น
ตวั เงินดว้ ยเพือเป็นพยานหลกั ฐานอนั จะเป็นประโยชนใ์ นการนาํ สืบตามตวั
แมว้ า่ ขอ้ ความทีเกินเลยไปนนั จะไม่มีผลอยา่ งหนึงอยา่ งใดตามกฎหมายตวั เงิน แต่อาจมีผล
โดยใชเ้ ป็นพยานหลกั ฐานตามกฎหมายอืนได้
มาตรา 900
บุคคลผลู้ งลายมือชือของตนในตวั เงินยอ่ มจะตอ้ งรับผดิ ตามเนือความในตวั เงินนนั
ถา้ ลงเพียงแต่เครืองหมายอยา่ งหนึงอยา่ งใด เช่น แกงไดหรือลายพิมพน์ ิวมืออา้ งเอาเป็น
ลายมือชือในตวั เงินไซร้ แมถ้ ึงวา่ จะมีพยานลงชือรับรองกต็ าม ท่านวา่ หาใหผ้ ลเป็นลง
ลายมือชือในตวั เงินนนั ไม่
เนอ่ื งจากต๋วั เงินเปนตราสารเปลี่ยนมือซง่ึ มคี สู ัญญาได
โดยไมจ ํากัด ดงั น้ันเพื่อใหเปน ทย่ี ตุ วิ าใครบา งทแ่ี สดง
เจตนาเปน คสู ัญญาตามตั๋ว จึงมหี ลกั วา ใหยตุ ิจากการแสดง
เจตนาโดยลงลายมอื ชอื่ ในตว๋ั ทง้ั น้เี พือ่ จะไดยตุ วิ า บคุ คลน้ัน
ไดแ สดงเจตนาจริง
ตามมาตรา 900 วรรคแรกบคุ คลผูลงลายมอื ชอ่ื ของตน
ในตัว๋ เงนิ จะตอ งรับผิดตามเน้อื ความในต๋ัวเงินน้ัน ซง่ึ ใน
ทาํ นองตรงกันขาม ผูท ไี่ มไ ดลงลายมือช่อื ในต๋วั เงนิ แมจ ะมี
ขอ สัญญาวาจะรบั ผดิ อยางใดกต็ ามกไ็ มม ีความรบั ผดิ ตามตั๋ว
เงิน สว นจะรับผดิ ตามลกั ษณะอ่ืนกเ็ ปนอกี เรอ่ื งหนึ่ง
ตวั อยา่ ง
หนึง และสอง เป็นลูกหนีร่วมกนั ซือสินคา้ จากสาม จาํ นวน 10,000 บาท ในการซือสินคา้ ดงั
กล่าว หนึง และสอง ไดต้ กลงกนั วา่ ให้ หนึง ออกเชค็ สงั ธนาคารจ่ายเงิน 10,000 บาท ให้ สาม ไป
ก่อน แลว้ สอง จะนาํ เงินชาํ ระคืนหนึง 5,000 บาทในภายหลงั เมือ สาม นาํ เชค็ ไปเบิกเงินจาก
ธนาคารผจู้ ่าย ธนาคารปฏิเสธการใชเ้ งิน เช่นนีหาก สาม ประสงคจ์ ะฟ้องใหร้ ับผดิ ตามเชค็ กต็ อ้ ง
ฟ้อง หนึง เท่านนั ไม่สามารถฟ้อง สอง ใหร้ ับผดิ ตามเชด็ ไดเ้ นืองจาก สอง ไม่ไดล้ งลายมือชือใน
ตวั จึงไม่ตอ้ งรับผดิ ตามเนือความในตวั อยา่ งไรกต็ าม หาก สาม ประสงคจ์ ะฟ้องตามมูลหนีเดิม
ตามสญั ญาซือขายกส็ ามารถฟ้องไดท้ งั หนึง และ สอง
เรียกได้ ปฏิเสธการใชเ้ งิน
เพราะไดล้ ง
เรียกไม่ได้ ลายมือชือในตวั
ธนาคาร
สอง หนึง สาม
ผสู้ งั จ่าย ผรู้ ับเงิน
ภาษาทีลงลายมือชืออาจเป็ น ลายมือชืออาจมีทงั ชือตวั ชือ
ภาษาไทย หรือภาษาต่าง สกลุ หรือมีแต่ชือตวั ไม่มีชือ
ประเทศกไ็ ด้ และแมจ้ ะเขียน สกลุ กไ็ ด้ และอาจเป็นชือเล่น
หวดั จนอ่านไม่ออกกย็ งั ถือ ชือสมมติ หรือนามแฝงกไ็ ด้
เป็ นลายมือชืออยู่
ประการที่ 1 การเซ็นชือยหี อ้ ตามธรรม
เนียมของคนจีนกถ็ ือเป็นการลง
ประการท่ี 2 ลายมือชือ เพราะลายมือชืออาจ
เป็นชืออืนซึงไม่ใช่ชือตวั หรือชือ
สกลุ ของบุคคลนนั กไ็ ด้
(ฎีกาที 1215/2500)
ขอ้ ควร
พิจารณาใน การลงลายมือชืออาจใชล้ ายพิมพน์ ิวมือ
แกงได ตราประทบั หรือเครืองหมายในทาํ นองเดียว
การลง ประการท่ี 3
ลายมอื ชือใน กนั แทนได้ โดยใหพ้ ยานลงลายมือชือรับรองไวด้ ว้ ยสอง
คนตามมาตรา วรรคสอง อยา่ งไรกต็ ามในเรืองตวั เงินมี
ตวั เงิน ประการท่ี 4 มาตรา 900 วรรคสอง บญั ญตั ิยกเวน้ มาตรา 9 วรรคสองไว้
วา่ ไม่อาจใชแ้ กงไดหรือลายพิมพน์ ิวมือแทนได้ แมว้ า่ จะมี
ประการท่ี 5 พยานลงชือรับรองไวก้ ต็ าม เนืองจากนิตินโยบายทีตอ้ งการ
ใหค้ นอ่านออกเขียนไดเ้ ท่านนั ทีจะเขา้ มา
เป็นคู่สญั ญาตามตวั ได้
ตราประทบั นนั มีปัญหาวา่ จะ
ใชต้ ราประทบั ลงในตวั เงิน
แทนการลงลายมือชือไดห้ รือ แนวทีสอง เห็นวา่ ไม่อาจใชต้ ราประทบั แทน
การลงลายมือชือในตวั เงินได้ เนืองจากลายพิมพน์ ิวมือ
ไม่ต่อปัญหานีมีความเห็นต่าง แกงได หรือตราประทบั จะมีลกั ษณะเดียวกนั คือเป็น
เครืองหมายอยา่ งหนึงอยา่ งใดซึงอ่านแลว้ กจ็ ะไม่ทราบวา่
แนวทีหนึง เห็นวา่ มาตรา 900 กนั เป็นสองแนว เป็นผใู้ ด อีกทงั ตวั บทตามมาตรา 900 วรรคสอง ใชค้ าํ วา่
วรรคสอง เป็นบทยกเวน้ จึงตอ้ งตีความ เช่น แกงได หรือลายพิมพน์ ิวมือ ซึงเป็นการยกตวั อยา่ งอนั
โดยเคร่งครัดเมือมาตรา 900 วรรคสอง แสดงวา่ อาจมีกรณีอืนๆ ในทาํ นองเดียวกนั อีก ดงั นนั จึง
กล่าวแต่เฉพาะลายพิมพน์ ิวมือและแกงได ควรหมายความรวมถึงตราประทบั ดว้ ยเพราะมีสาระ
โดยไม่กล่าวถึงตราประทบั ดงั นนั ตรา
ประทบั จึงอาจใชแ้ ทนการลงลายมือชือ เดียวกนั คือเป็นเครืองหมายอยา่ งหนึงอยา่ งใด
ซึงอ่านแลว้ กจ็ ะไม่ทราบวา่ เป็นผใู้ ด
ในตวั เงินได้
มาตรา 901
ถาบคุ คลคนใดลงลายมอื ชอ่ื ของตนในต๋วั เงนิ และมไิ ดเขียนแถลงวา กระทําการแทน
บุคคลอีกคนหนงึ่ ไซร ทานวา บุคคลคนน้ันยอ มเปน ผูรับผดิ ตามความในต๋วั เงนิ นน้ั
การลงลายมือชือในฐานะทีเป็นตวั แทน โดยหลกั กฏหมายตวั การตวั แทน เมือตวั แทนไดก้ ระทาํ
การตามทีไดร้ ับมอบอาํ นาจแลว้ ตวั แทนยอ่ มพน้ ไปซึงความรับผดิ ในผลของการกระทาํ ทีตนได้
กระทาํ ไวก้ บั บุคคลภายนอก และตวั การจะตอ้ งขา้ ผกู พนั แทนตามมาตรา 820
อยา่ งไรกต็ ามในเรืองตวั เงิน มาตรา 901 ไดก้ าํ หนดหลกั เกณฑเ์ พิมเติมวา่ ตวั แทนซึงไดล้ งลายมือ
ชือจะตอ้ งเขียนแถลงวา่ ตนไดก้ ระทาํ การแทนบุคคลอืนดว้ ย หากไม่ไดเ้ ขียนไวน้ อกจากตวั การจะ
ตอ้ งรับผดิ ตามหลกั กฎหมายตวั การตวั แทนแลว้ ตวั แทนซึงไดล้ งลายมือชือในตวั เงินจะตอ้ งรับผดิ
ตามเนือความในตวั นนั ดว้ ย
เหตุทีกฎหมายกาํ หนดไวเ้ ป็นพิเศษใหต้ วั แทนตอ้ งร่วมรับผดิ ตามเนือความในตวั ดว้ ย เนืองจาก
ตวั เงินเป็นตราสารเปลียนมือซึงอาจโอนไปไดเ้ รือยๆ ดงั นนั ผทู้ ีไดร้ ับตวั ไวอ้ าจไม่รู้ถึงความเป็น
ตวั การตวั แทนระหวา่ งคู่สญั ญาก่อนนนั แต่ทีบุคคลภายนอกรับตวั ไวน้ นั อาจเพราะเชือในฐานะ
ทางการเงินของตวั แทน หากใหต้ วั แทนปฏิเสธไดว้ า่ ตนไม่ตอ้ งรับผดิ เพราะตนทาํ แทนตวั การยอ่ ม
ทาํ ใหบ้ ุคคลภายนอกเสียหาย
ในการระบุเขียนแถลงวา่ กระทาํ การแทนบุคคลอีกคนหนึงตามมาตรา
901 กฎหมายไม่ไดก้ าํ หนดแบบตายตวั
1 ขอ้ ความทีต้อง 2
จะตอ้ งมีขอ้ ความใหเ้ ป็นที จะตอ้ งระบุชือบุคคลทีคน
เขา้ ใจวา่ กระทาํ แทนบุคคลอีก ระบุไวช้ ดั เจนใน ประสงคจ์ ะทาํ การแทน กล่าว
คนหนึง
ตัวเงิน คือตอ้ งระบุวา่ ตวั การคือใคร
เช่น "กระทําการแทน" "เปนตัวแทน" หากไม่ระบุไวว้ า่ ตวั การคือใคร
"ทําการแทน" "ในฐานะจัดการแทน" "on ตวั แทนผลู้ งลายมือชือนนั ยงั ไม่
behalf of" "For..."เปนต้น
ตัวอยา่ ง หลุดพนั ความรับผิด
ตวั แลกเงิน วนั ที 1 ธนั วาคม 2562
ถึง นายหนึง
กรุณาจ่ายเงิน สีแสนบาทถว้ น (400,000)
ใหแ้ ก่ นายสอง
ในวนั ที 1 มกราคม 2563 นายสาม
ทาํ การแทน นายสี
มาตรา ถา้ ตวั เงินลงลายมือชือของบุคคลหลายคน มีทงั
บุคคลซึงไม่อาจจะเป็นคู่สญั ญาแห่งตวั เงินนนั ไดเ้ ลย
902 หรือเป็นไดแ้ ต่ไม่เตม็ ผลไซร้ ท่านวา่ การนียอ่ มไม่
กระทบกระทงั ถึงความรับผดิ ของบุคคลอืน ๆ นอก
นนั ซึงคงตอ้ งรับผดิ ตามตวั เงิน
บุคคลที่หลดุ
พน จาก
ความรบั ผดิ
บคุ คลซงึ่ ไมอ าจ
เปน คูสัญญาแหง
ต๋วั เงินได
ในกรณีทีตวั เงินมีลายมือชือของบุคคล
หลายคน ถา้ ลายมือชือบางรายการไดล้ ง
โดยบุคคลซึงไม่อาจเป็นสญั ญาแห่งตวั เงิน บคุ คลซึ่งเปน คู
นนั ได้ หรือเป็นไดแ้ ต่ไม่เตม็ ผล ลายมือชือ สญั ญาแหง ต๋ัวเงนิ
ดงั กล่าวยอ่ มไม่กระทบกระทงั ถึงความรับผดิ ของ ไดแ ตไมเตม็ ผล
บุคคลอืน ๆ ซึงคงตอ้ งรับผดิ ตามตวั เงินมาตรา 902
กล่าวคือผทู้ รงตวั เงินยงั ใชส้ ิทธิไล่เบียบุคคลอืนตามตวั ได้
ตามปกติ ผลู้ งลายมือชืออืนจะอา้ งวา่ ตวั เองไม่ตอ้ งรับผดิ
เนืองจากมีลายมือชือของบุคคลซึงไม่อาจเป็นคู่สญั ญาตามตวั ได้
หรือเป็นไดแ้ ต่ไม่เตม็ ผลปรากฏอยใู่ นตวั ไม่ได้
บคุ คลซ่ึงไมอาจเปน คู บคุ คลซึง่ เปน คสู ัญญาแหง
สัญญาแหง ตว๋ั เงนิ ได
ต๋วั เงินไดแ ตไมเ ต็มผล
หมายถึงบุคคลซึงไม่มีสิทธิทีจะลงลายมือชือใหน้ ิติกรรม
มีผลผกู พนั เช่น บุคคลธรรมดาซึงลงลายมือชือไวโ้ ดยไม่ หมายถึงบุคคลซึงบกพร่องเรืองความสามารถในการ
ไดแ้ สดงเจตนา นิติบุคคลซึงผแู้ ทนนิติบุคคลไดก้ ระทาํ แสดงเจตนาทาํ นิติกรรม นิติกรรมซึงบุคคลดงั กล่าว
การนอกขอบวตั ถุประสงคข์ องบริษทั บุคคลลม้ ละลาย กระทาํ ไปจะตกเป็นโมฆียะซึงอาจถูกบอกลา้ งใหเ้ ป็น
โมฆะ หรืออาจใหส้ ตั ยาบนั ใหม้ ีผลสมบูรณ์กไ็ ด้ เช่น ผู้
เป็ นตน้ เยาว์ คนไร้ความสามารถ นิติบุคคลซึงผแู้ ทนไดล้ งลายมือ
ชือนอกขอ้ จาํ กดั อาํ นาจ เป็นตน้
ขโมยกระดาษ ีท ีมลายเ ็ซนของส้ม แตงโม ววั
กรอกขอ้ ความเป็นตวั
นก
สญั ญาใชเ้ งิน (ผเู้ ยาว)์
หมี
สม้ เลมอน มด
ไม่ไดแ้ สดงเจตนาลง แมว ปลา
ลายมือชือ
สม้ ไดป้ ากกาใหม่มาดา้ มหนึงจึงลองเขียนปากกา โดยลง แมว ออกตวั แลกเงินสงั ววั จ่ายเงินใหแ้ ก่ นก ซึงเป็นผู้
ลายมือชือ สม้ ไวบ้ นกระดาษเปล่า ต่อมา แตงโม นาํ กระดาษ เยาว์ นก สลกั หลงั โอนตวั ให้ หมี หมีสลกั หลงั โอนต่อให้ มด
ทีมีลายมือชือ สม้ กรอกขอ้ ความเป็นตวั สญั ญาใชเ้ งินโดยมี และมดสลกั หลงั โอนต่อใหป้ ลา
เนือความวา่ "สม้ สญั ญาวา่ จะใชเ้ งินใหแ้ ก่แตงโม" และ
แตงโม ไดส้ ลกั หลงั โอนตวั สญั ญาใชเ้ งินดงั กล่าวให้ เลมอน ถึงแมว้ า่ นก เป็นผเู้ ยาวซ์ ึงเป็นบุคคลทีสามารถเป็นคู่
สญั ญาแห่งตวั เงินได้ แต่ไม่เตม็ ผล และต่อมาแมผ้ แู้ ทนโดย
จากขอ้ เทจ็ จริงสม้ ไม่ไดแ้ สดงเจตนาทาํ นิติกรรม สม้ จึง ชอบธรรมไดบ้ อกลา้ งนิติกรรมแลว้ กต็ าม แต่ แมว, หมี, มด
ไม่ตอ้ งรับผดิ ตามเนือความในตวั ยงั คงตอ้ งรับผดิ ต่อปลาอยู่ แมว หมี มดจะอา้ งวา่ ตนไม่ตอ้ ง
รับผดิ เพราะ นกเป็นผเู้ ยาวไ์ ม่มีสิทธิสลกั หลงั โอนตวั เมือ นก
ตวั สญั ญาใชเ้ งินมีลายมือชือ สม้ ซึงไม่อาจเป็นคู่สญั ญา ไดส้ ลกั หลงั โอนตวั ทาํ ใหก้ ารโอนตวั เสียไปทงั ฉบบั ยอ่ มไม่
ตามตวั ได้ ยอ่ มไม่กระทบกระทงั ถึงความสมบูรณ์ของ ได้ อยา่ งไรกต็ าม นกซึงเป็นผเู้ ยาวย์ อ่ มหลุดพน้ ความรับผดิ
ลายมือชืออืน เมือ เลมอน นาํ ตวั มาเบิกเงินจาก สม้ ไม่ได้
เลมอน ยอ่ มใชส้ ิทธิไล่เบียให้ แตงโม ตอ้ งรับผดิ ตามตวั ได้ นก เป็นผเู้ ยาวซ์ ึงเป็นบุคคลผซู้ ึงเป็นคู่สญั ญาแห่งตวั ไดแ้ ต่
แตงโม จะอา้ งวา่ เมือลายมือชือ สม้ ไม่สมบูรณ์จึงถือวา่ ไม่ ไม่เตม็ ผล หากต่อมาแมผ้ แู้ ทนโดยชอบธรรมไดใ้ หส้ ตั ยาบนั
สมบูรณ์เป็นตวั เงิน ตนจึงไม่ตอ้ งรับผดิ อา้ งเช่นนีไม่ได้ ตาม นิติกรรมระหวา่ ง นก กบั หมี ทาํ ใหน้ ิติกรรมระหวา่ งสมบูรณ์
มาตรา 902 เช่นนี แมว นก หมี มดยอ่ มตอ้ งรับผดิ ต่อปลา
บทท๓่ี
การใชเ้ งินตามตวั เงินตอ้ งทาํ เมือตวั
เงินถึงกาํ หนดโดยมิใหใ้ หว้ นั ผอ่ น
การผอนวันใชเงนิ
วนั ถึงกาํ หนดใชเ้ งินตามตวั เป็นสาระสาํ คญั ของตวั เงินพราะเป็นวนั เริมตน้ ของ
กฎเกณฑข์ อ้ อืน เช่น ระยะเวลาทาํ คาํ คดั คา้ น ดงั นนั กฎหมายจึงมิใหม้ ีวนั ผอ่ น
ตามทีไดบ้ ญั ญตั ิไวใ้ นมาตรา 903
ขอ แตกตางระหวางวันผอน
กบั การผอนเวลา
วนั ผอ น การผอนเวลา
(Day of Grace) (Extention of time)
มาตรา 903 ในการใชเ งนิ ตามตั๋วเงิน มาตรา 948 ถา ผูทรงตัว๋ แลกเงินยอม
ทา นมใิ หใหวันผอ น ผอนเวลาใหแกผ ูจ า ยไซร ทานวา ผทู รงสน้ิ สทิ ธิ
ทจี่ ะไลเบยี้ เอาแกผเู ปนคูสญั ญาคนกอน ๆ ซ่ึง
วนั ผอ่ นมีประวตั ิมาจากกฎหมายองั กฤษ ซึงในสมยั เดิม มไิ ดตกลงในการผอนเวลานนั้
เมือเจา้ หนียนื ตวั ใหผ้ จู้ ่ายใชเ้ งินแลว้ ผจู้ ่ายมีสิทธิทีจะชาํ ระ
หนีภายใน 3 วนั นบั จากทีผทู้ รงยนื ตวั ใหช้ าํ ระเงิน ทงั นีเพือ การผอ่ นเวลา(Extention of Time) เกิดขึนจากขอ้ ตกลง
ใหผ้ จู้ ่ายมีโอกาสตรวจสอบวา่ ตนควรชาํ ระหนีตามตวั หรือ ระหวา่ งคู่สญั ญาในตวั ดงั นนั จึงเป็นสิทธิโดยขอ้ ตกลงหรือ
ไม่ระยะเวลา 3 วนั ดงั กล่าวเป็นสิทธิของผจู้ ่ายโดยกฎหมาย โดยสญั ญา และแตกต่างจากวนั ผอ่ นเพราะวนั ผอ่ นเป็นสิทธิ
และช่วงเวลา 3 วนั ดงั กล่าวเรียกวา่ Day of Grace ต่อมาตาม ของผจู้ ่ายโดยกฎหมาย แต่การผอ่ นเวลาเกิดโดยขอ้ ตกลง
กฎหมายองั กฤษไดย้ กเลิกหลกั Day of Grace เสีย ในการ หรือโดยสญั ญาในกรณีตวั แลกเงิน หากผทู้ รงยอมผอ่ นเวลา
ยกเลิกขนบธรรมเนียมซึงเป็นหลกั กฎหมายเดิมจึงตอ้ ง ใหผ้ จู้ ่าย ผทู้ รงยอ่ มสินสิทธิไล่เบียเอาแก่ผเู้ ป็นสญั ญาคน
บญั ญตั ิใหช้ ดั แจง้ ดงั นนั ตามพระราชบญั ญตั ิตวั แลกเงินของ ก่อนๆซึงมิไดต้ กลงในการผอ่ นเวลานนั ตามมาตรา 948 แต่
องั กฤษจึงบญั ญตั ิวา่ "ในการใชเ้ งินตามตวั มิใหม้ ีวนั ผอ่ น" ในเรืองวนั ผอ่ นมาตรา 903 บญั ญตั ิไวว้ า่ ไม่ใหม้ ีวนั ผอ่ น
กฎหมายไทยตามมาตรา 903 กบ็ ญั ญตั ิเป็นหลกั ทวั ไป ดงั นีผจู้ ่ายจึงไม่มีสิทธิตามกฎหมายทีจะอา้ งวา่ ตนจะใชเ้ งิน
เหมือนดงั กฎหมายองั กฤษวา่ การใชเ้ งินตามตวั มิใหม้ ีวนั ในวนั อืนไดน้ อกเหนือจากวนั ถึงกาํ หนดใชเ้ งินทีระบุไว้
ผอ่ น หมายถึงวา่ เมือผทู้ รงตวั นาํ ตวั ไปยนื ใหผ้ จู้ ่ายใชเ้ งิน
แลว้ หากผจู้ ่ายประสงคจ์ ะจ่ายเงิน ผจู้ ่ายตอ้ งชาํ ระในวนั นนั
ผจู้ ่ายจะอา้ งสิทธิวา่ จะชาํ ระในอีก 3 วนั ไม่ได้ เพราะตาม
มาตรา 903 ไม่ใหส้ ิทธินนั
กรณตี วั อยางระหวางวนั ผอน
กับการผอ นเวลา
วนั ผอน การผอ นเวลา
(Day of Grace) (Extention of time)
ผจู้ ่าย ผจู้ ่าย
นาํ ตวั มายนื ใหใ้ ชเ้ งินตามมาตรา 941
ผสู้ งั จ่าย ผรู้ ับเงิน ผสู้ งั จ่าย
ผทู้ รง
ผรู้ ับสลกั หลงั ผรู้ ับเงิน ผรู้ ับสลกั หลงั ผทู้ รง
หนึง ออกตวั แลกเงินในวนั ที 1 ตุลาคม 2550 สงั เอ ออกตวั แลกเงินในวนั ที 1 ตุลาคม 2550 สงั บี
สอง จ่ายเงินให้ สาม โดยใหต้ วั ถึงกาํ หนดในวนั ที 1 จ่ายเงินให้ ซี โดยใหต้ วั ถึงกาํ หนดในวนั ที 1
กรกฎาคม 2551 ต่อมา สาม สลกั หลงั โอนให้ สี และ กรกฎาคม 2551 ต่อมาซี สลกั หลงั โอนให้ ดี ดีสลกั
สีกส็ ลกั หลงั โอนต่อให้ หา้ ในวนั ถึงกาํ หนด หา้ นาํ ตวั หลงั โอนต่อใหเ้ อส หากในวนั ที 1 มิถุนายน 2551 บี
มายนื ให้ สองใชเ้ งินตามมาตรา 941 และ เอส ไดม้ าตกลงผอ่ นเวลากนั วา่ เดิมถึงกาํ หนดใช้
เมือ สอง ไดร้ ับการยนื ตวั ใหใ้ ชเ้ งินแลว้ สองจะ เงินในวนั ที 1 กรกฎาค 2551 ใหผ้ อ่ นเวลาวนั ถึง
อา้ งวา่ เป็นสิทธิของตนทีจะจ่ายเงินในวนั ที 4 กาํ หนดออกไปเป็นวนั ที 10 กรกฎาคม 2551 เช่นนี
กรกฎาคม 2551 ไม่ได้ เนืองจากกฏหมายปัจจุบนั ตาม เป็นการผอ่ นเวลาตามมาตรา 948 ซึงเอ และ ดี
มาตรา 903 บญั ญตั ิวา่ การใชเ้ งินตามตวั มิใหม้ ีวนั ผอ่ น ยนิ ยอมดว้ ยในการผอ่ นเวลากย็ งั คงตอ้ งรับผดิ อยู่ แต่
หาก สอง ไม่ใชเ้ งินในวนั ดงั กล่าว หา้ อาจทาํ คาํ ถา้ หาก ซี ไม่ยนิ ยอมดว้ ยในการผอ่ นเวลากห็ ลุดพนั
คดั คา้ นแลว้ ใชส้ ิทธิไล่เบียไดท้ นั ที ความรับผดิ ซึงหลกั เกณฑด์ งั กล่าวเป็นเรืองการผอ่ น
เวลาตามมาตรา 948 ไม่ใช่วนั ผอ่ นตามมาตรา
บทที๔่
ผทู้ รง การสลกั หลงั อีกทงั เรืองใบ
ประจาํ ต่อ
ผ้ ู ท ร งผทู้ รงคือผถู้ ือหรือผคู้ รอบครองตวั เงินผทู้ รง
ลกั ษณะสาํ คญั ดงั ทีกล่าวมานนั ถา้ ขาดอยา่ งใด
จะอยใู่ นฐานะเป็นเจา้ หนีตามมูลหนีในตวั เงิน อยา่ งหนึงไปไม่เรียกวา่ เป็นผทู้ รง เช่น ผสู้ งั จ่าย
กล่าวไดว้ า่ คือผทู้ ีมีตวั ไวค้ รอบครองเป็นคน ออกตวั จ่ายดาํ แต่ตวั หายไปเสียก่อน ดาํ ไม่มีตวั ใน
สุดทา้ ย ความครอบครองดาํ ไม่ใช่ผทู้ รง หรือผทู้ ีเกบ็ ตวั
หายไดก้ ม็ ิใช่ผทู้ รงแมจ้ ะเป็นตวั ผถู้ ือทีโอนได้
สิทธิของผทู้ รง
ดว้ ยการส่งมอบกต็ ามเพราะมิไดร้ ับการส่งมอบ
สิทธิทางหนี สิทธิทางทรัพย์ จากผมู้ ีสิทธิในตวั เงิน มิใช่ผคู้ รอบครองตวั โดย
มีสิทธิทีจะเรียกร้องเงิน สามารถทีจะนาํ ตวั เงินทีอยู่ สุจริต ผยู้ ดึ ถือตวั เงินไวแ้ ทนผอู้ ืนถือวา่ ครอบ
หรือสามารถเรียกร้องให้ ในความครองครองของ
ใครกต็ ามรับผดิ ตามเนือ ผทู้ รงนนั โอนหรือส่งมอบ ครองแทนไม่เป็นผทู้ รง ผทู้ รงในแต่ละฐานะยอ่ ม
ความในตวั เงินทีผทู้ รงถืออยู่
ใหใ้ ครกไ็ ด้ เกิดขึนได้ ดงั นี
ผทู้ รงในฐานะเป็นผรู้ ับเงิน
มาตรา 904
เกิดขึนในกรณีผสู้ งั จ่ายระบุชือหรือยหี อ้ ผรู้ ับเงินลงไวใ้ น
ตวั เรียกวา่ “ตวั ระบุชือ”
ผทู้ รง
บี ผจู้ ่าย
อนั ผทู รงนัน้ หมายความวา เอ ผสู้ งั จ่าย ซี ผรู้ ับเงิน
บคุ คลผูมีตว๋ั เงนิ ไวใ นครอบครอง
โดยฐานเปนผูรบั เงิน หรอื เปนผูรบั ผทู้ รงในฐานะเป็นผรู้ ับสลกั หลงั
สลกั หลงั ถาและเปนต๋ัวเงินส่งั จา ย เกิดขึนในกรณีตวั ระบุชือนนั ถูกสลกั หลงั โอนใหผ้ อู้ ืนรับ
ใหแ กผ ถู อื ๆ ก็นบั วา เปนผูทรง ประโยชนต์ ่อไป
เหมือนกัน
สลกั หลงั ตวั ผทู้ รง
ลกั ษณะสาํ คญั ของผทู้ รงตวั โอนให้ ดี ต่อไป
บี ผจู้ ่าย
เอ ผสู้ งั จ่าย ซี ผรู้ ับเงิน ผรู้ ับสดลี กั หลงั
ผทู้ รงในฐานะเป็นผถู้ ือ
เกิดขึนในกรณีทีผสู้ งั จ่ายออกตวั เงิน โดยไม่ไดร้ ะบุชือ
ผรู้ ับเงิน แต่ระบุวา่ ใหจ้ ่ายเงินแก่“ผถู้ ือ” หรือระบุชือผรู้ ับ
เงินแต่ไม่ขีดฆ่าคาํ วา่ “หรือผถู้ ือ”ออก โดยตวั ผถู้ ือนี มี
เฉพาะตวั แลกเงิน กบั เชค็ เท่านนั
ผทู้ รง
ไดค้ รอบครองตวั เงินไวใ้ น ธนาคาร
ฐานะใดฐานะหนึง
ใน ๓ ฐานะ คือ เอ ผสู้ งั จ่าย ซี หรือผถู้ ือ
มีตวั เงินไวใ้ น ผรู้ ับเงิน กล่าวไดว้ า่ จากมาตรา 904 ตวั เงินมี 2 ประเภท คือ
ครอบครอง ผรู้ ับสลกั หลงั
ฐานะเป็นผถู้ ือ ตวั ระบุชือและตวั ผถู้ ือ ซึงวธิ ีการโอนนนั ต่างกนั
กล่าวคือ ตวั ระบุชือโอนโดยการสลกั หลงั และส่ง
มอบ ส่วนตวั ผถู้ ือโอนโดยการส่งมอบอยา่ งเดียว
ตวั อยา งฎกี าทเ่ี กี่ยวขอ ง
ผยู้ ดึ ถือตวั เงินไวแ้ ทนผอู้ ืนถือวา่ ครอบครองแทนไม่เป็นผทู้ รง
ฎีกาที 1084/2542
จาํ เลยสงั จ่ายเชค็ พิพาทมอบแก่โจทกเ์ พือชาํ ระหนี โจทกจ์ ึงเป็นผทู้ รงเชค็ พิพาท เมือเชค็ ถึง
กาํ หนดแมโ้ จทกจ์ ะนาํ เขา้ บญั ชีมารดาเพือเรียกเกบ็ เงินและถูกธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน กเ็ ป็น
เพียงการนาํ เชค็ เขา้ เรียกเกบ็ เงินโดยอาศยั บญั ชีของมารดาแทนเท่านนั เมือไม่ปรากฏขอ้ เทจ็ จริง
ในคดีวา่ โจทกไ์ ดม้ อบหรือโอนสิทธิอนั เกิดแต่เชค็ พิพาทใหแ้ ก่มารดาโจทกแ์ ลว้ โจทกก์ ย็ งั คง
เป็นผทู้ รงเชค็ พิพาทอยใู่ นขณะทีธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินโจทกจ์ ึงเป็นผเู้ สียหายมีอาํ นาจฟ้อง
คดีได้
การเป็นผทู้ รงถือวา่ เป็นผทู้ รงทงั ฉบบั
ฎีกาที 183/2526
จาํ เลยออกเชค็ 300,000 บาท ชาํ ระหนีโจทก์ โจทกส์ ่งมอบเชค็ นนั ชาํ ระหนี 200,000 บาท ให้
ก. ถือไดว้ า่ โจทกส์ ่งมอบเชค็ ทงั ฉบบั ก.จึงเป็นผทู้ รงเชค็ ทงั ฉบบั ส่วนขอ้ ตกลงมีอยอู่ ยา่ งไร
เป็นเรืองระหวา่ งโจทกก์ บั ก. เมือ ก. นาํ เชค็ ไปเขา้ บญั ชีเพือเรียกเกบ็ เงิน และธนาคารปฏิเสธ
การจ่ายเงิน ก. ซึงเป็นผทู้ รงเชค็ จึงเป็นผเู้ สียหายแต่ผเู้ ดียวโจทกห์ าใช่ผเู้ สียหายดว้ ยไม่
การรับโอนเชค็ มาหลงั ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินกเ็ ป็นผทู้ รงเช่นเดียวกนั
ฎีกาที 4383/2545
ผทู้ รงเชค็ ทีจะมีอาํ นาจฟ้องผสู้ งั จ่ายใหใ้ ชเ้ งินตามเชค็ ไม่ไดจ้ าํ กดั เฉพาะผทู้ รงเชค็ ขณะที
ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินเท่านนั ผทู้ ีรับโอนเชค็ มาโดยสุจริตหลงั จากธนาคารปฏิเสธการจ่าย
เงินกเ็ ป็นผทู้ รงเชค็ ทีมีอาํ นาจฟ้องผสู้ งั จ่ายใหใ้ ชเ้ งินตามเชค็ ได้ โจทกจ์ ะเป็นผทู้ รงเชค็ พิพาท
ขณะทีธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินหรือไม่กต็ าม แต่เมือโจทกเ์ ป็นผทู้ รงเชค็ พิพาทขณะยนื ฟ้อง
โจทกย์ อ่ มมีอาํ นาจฟ้องจาํ เลยได้
ผทู้ รงเชค็ ถึงแก่ความตายก่อนเชค็ ถึงกาํ หนดทายาทเป็นผทู้ รงต่อไปเพราะเป็นทรัพยมรดก
ฎีกาที 3619/2543
เชค็ พิพาทในคดีนีทงั สองฉบบั ถึงกาํ หนดภายหลงั จากที ป. ถึงแก่ความตายสิทธิตามเชค็ จึงเป็น
มรดกตกไดแ้ ก่โจทกท์ งั สามซึงเป็นทายาทผตู้ ายทนั ที ตามป.พ.พ. มาตรา 1599 โจทกท์ งั สามจึง
เป็นผทู้ รงเชค็ พิพาทโดยชอบดว้ ยกฎหมายเมือธนาคารตามเชค็ ปฏิเสธการจ่ายเงินตามเชค็ พิพาท
ยอ่ มถือไดว้ า่ โจทกท์ งั สามไดร้ ับความเสียหายและเป็นผเู้ สียหายโดยตรงมีอาํ นาจฟ้องคดีนี
มาตรา 905
ภายในบงั คับแหง่ บทบญั ญตั ิมาตรา 1008 บุคคลผไู้ ดต้ ัวเงินไวใ้ นครอบครอง ถ้าแสดงให้
ปรากฏสทิ ธดิ ว้ ยการสลักหลังไมข่ าดสาย แมถ้ ึงวา่ การสลักหลังรายทีสดุ จะเปนสลักหลังลอย
ก็ตาม ท่านใหถ้ ือวา่ เปนผทู้ รงโดยชอบดว้ ยกฎหมาย เมอื ใดรายการสลักหลังลอยมสี ลักหลังราย
อืนตามหลังไปอีก ท่านใหถ้ ือวา่ บุคคลผทู้ ีลงลายมอื ชอื ในการสลักหลังรายทีสดุ นนั เปนผไู้ ดไ้ ปซงึ
ตัวเงินดว้ ยการสลักหลังลอย อนงึ คําสลักหลังเมอื ขดี ฆา่ เสยี แล้ว ท่านใหถ้ ือเสมอื นวา่ มไิ ดม้ เี ลย
ถ้าบุคคลผหู้ นงึ ผใู้ ดต้องปราศจากตัวเงินไปจากครอบครอง ท่านวา่ ผทู้ รงซงึ แสดงใหป้ รากฏ
สทิ ธขิ องตนในตัวตามวธิ กี ารดงั กล่าวมาในวรรคก่อนนนั หาจาํ ต้องสละตัวเงินไม่ เวน้ แต่จะไดม้ า
โดยทจุ รติ หรอื ไดม้ าดว้ ยความประมาทเลินเล่ออยา่ งรา้ ยแรง
อนงึ ขอ้ ความในวรรคก่อนนี ใหใ้ ชบ้ งั คับตลอดถึงผทู้ รงตัวเงินสงั จา่ ยใหแ้ ก่ผถู้ ือดว้ ย
ตามมาตรา 904 ผทู้ รงซึงไดค้ รอบครองตวั ไวใ้ นฐานะผรู้ ับสลกั หลงั จะตอ้ งไดร้ ับตวั มาโดยการสลกั หลงั ไม่ขาด
สาย โดยมาตรา 905 วรรคแรก ไดบ้ ญั ญตั ิถึงลกั ษณะของการสลกั หลงั ไม่ขาดสายซึงทาํ ใหผ้ มู้ ีตวั ไวใ้ นครอบครอง
เป็นผทู้ รงโดยชอบดว้ ยกฎหมาย อยา่ งไรกต็ ามโดยหลกั แลว้ ผทู้ รงโดยชอบดว้ ยกฎหมายกค็ ือผทู้ รงนนั เอง การสลกั
หลงั ไม่ขาดสายหมายความวา่ การสลกั หลงั แต่ละทอดนนั ไดก้ ระทาํ ไปอยา่ งต่อเนืองและกระทาํ โดยผมู้ ีสิทธิในตวั
เงิน อีกทงั ผรู้ ับสลกั หลงั ทุกคนสามารถอา้ งไดว้ า่ ไดร้ ับสลกั หลงั มาจากใคร
โดยกล่าวไดว้ า่ มาตรา วรรคแรก พดู ถึงวธิ ีการสลกั หลงั ซึงการสลกั หลงั มีสองวธิ ีคือ
1. การสลกั หลงั โดยระบุชือผรู้ ับประโยชน์ เรียกวา่ สลกั หลงั เฉพาะ
โอนใหเ้ กาหลี
ลงชือ อีรัค
เช่น อีรัค สลกั หลงั และระบุชือ เกาหลี เป็นผรู้ ับสลกั หลงั
2. การสลกั หลงั โดยไม่ระบุชือผรู้ ับประโยชน์ เรียกวา่ สลกั หลงั ลอย เมือรับสลกั หลงั มาแลว้ หากจะโอนตวั ต่อตอ้ ง
โอนใหถ้ ูกตามวธิ ีการของตวั เงินเพราะตอ้ งดว้ ยแสดงใหป้ รากฏสิทธิดว้ ยการสลกั หลงั ไม่ขาดสาย ดงั นี
1.ผรู้ ับโอนตวั มาจากการสลกั หลงั ลอยอาจโอนตวั ต่อไปโดยไม่ตอ้ งลงลายมือชือของผสู้ ลกั หลงั กไ็ ดต้ ามมาตรา
920 (3)
2.เมือผทู้ รงไดร้ ับโอนตวั มาจากการสลกั หลงั ลอย ผทู้ รงอาจสลกั หลงั ลอยแลว้ โอนตวั ต่อไปอีกกไ็ ด้ หรือสลกั
หลงั โดยระบุชือผรู้ ับสลกั หลงั แลว้ โอนตวั ต่อไปอีกกไ็ ด้
ญีป่ ุน ส่งมอบ
จีน ลาว ส่งมอบ เนปาล
เช่น ญีป่ ุน ไดร้ ับโอนตวั มาจาก จีน ญีป่ ุนอาจโอนตวั
โดยการส่งมอบไปยงั ลาว และลาวส่งมอบไปยงั
เนปาลกไ็ ดโ้ ดยไม่ตอ้ งลงลายมือชือ ญีป่ ุน ,
ลอนดอน ในกรณีเช่นนีถือวา่ เนปาลเป็นผทู้ รงโดย
ชอบดว้ ยกฎหมายโดยถือวา่ การสลกั หลงั ไม่ขาดสาย
ในช่วง จีน - ญีป่ ุน -ลาว
มาตรา 905 วรรคสองและวรรคสาม ดูประกอบ ๑๐๐๘มาตรา ๙๐๕ วรรค ๒ มุ่งคุม้ ครองผทู้ รงตวั
เงินทีสุจริตและไม่ประมาทเลินเล่ออยา่ ร้ายแรงในการไดต้ วั เงินนนั มา เป็นการคุม้ ครองผรู้ ับโอนตวั
โดยไม่คาํ นึงถึงผโู้ อนวา่ จะสุจริตหรือบกพร่องเพียงใด เพียงแต่ผทู้ รงสามารถพิสูจนไ์ ดว้ า่ ตนสุจริตและ
การโอนไม่ขาดสายกไ็ ม่จาํ ตอ้ งคืนตวั ใหแ้ ก่เจา้ ของเดิม หลกั ดงั กล่าวเป็นหลกั ตราสารเปลียนมือซึงเป็น
ขอ้ ยกเวน้ หลกั ผรู้ ับโอนไม่มีสิทธิดีกวา่ ผโู้ อน โดยมาตรา อยภู่ ายใตบ้ งั คบั ของมาตรา ดงั นนั
หากตวั มีลายมือชือปลอมจึงตอ้ งใชม้ าตรา 1008 มาใชบ้ งั คบั
ตวั อยา่ งที 1
ญีป่ ุน ชิลี
สลกั หลงั ลอย
จีน บรูไน ลาว เกาหลี อินเดีย
จีน ออกตวั สงั ญีป่ ุน จ่ายเงินใหแ้ ก่ บรูไน บรูไนไดล้ งลายมือชือในตวั โดยสลกั หลงั
ลอยและตงั ใจจะโอนตวั ให้ ชิลี ต่อมา ลาว ขโมยตวั ฉบบั นนั แลว้ สลกั หลงั โอนให้ เกาหลี
เกาหลีสลกั หลงั โอนต่อใหอ้ ินเดีย
ตามตวั อยา่ งจะเห็นไดว้ า่ อินเดียเป็นผทู้ รงโดยชอบดว้ ยกฎหมาย เพราะสามารถแสดง
ใหป้ รากฏไดว้ า่ มีการสลกั หลงั ไม่ขาดสาย ดงั นนั บรูไน ซึงตวั ไดห้ ลุดมือไป จะมาเรียกให้
อินเดีย คืนตวั ใหต้ นไม่ได้
การสลกั หลงั ลอย
ตามมาตรา 919
มาตรา 920วรรคหน่ึง
เฉพาะ
มาตรา 920วรรคสอง
เฉพาะ สงมอบ
ที่วา ง
ลอย เฉพาะ ลอย
ตวั อยา่ งที 2
ญีป่ ุนทาํ ตวั หายไป
จีนเกบ็ ตวั ได.้ และปลอม
ลายมือชือญีป่ ุน
ธนาคาร
เฉพาะ เฉพาะ ส่งมอบ
ชิลี อินเดีย ญีป่ ุน จีน บรูไน
บรูไน สุจริตมิไดป้ ระมาทเลินเล่ออยา่ งร้ายแรง ต่อมา ญีป่ ุน เจา้ ของเชค็ เดิมทราบวา่ เชค็
อยกู่ บั บรูไน จึงมาทวงคืน เมือบรูไนสามารถพิสูจนส์ ิทธิไดว้ า่ ตนสุจริตและการโอนไม่
ขาดสาย บรูไนไม่ตอ้ งคืน แต่หากบรูไนไม่สุจริตเช่นเจา้ ของเชค็ ประกาศลงหนงั สือพิมพ์
แลว้ หรือบรูไนรู้แลว้ วา่ จีน เกบ็ เชค็ มาได้ บรูไนตอ้ งคืนเชค็ ใหญ้ ีป่ ุนไป หรือหากการโอน
นนั ขาดสาย
เห็นไดว้ า่ เมือญีป่ ุนรับโอนตวั สลกั หลงั เฉพาะมา แต่จีนส่งมอบต่อใหบ้ รูไนการโอน
ขาดสาย บรูไนตอ้ งคืนตวั ใหแ้ ก่ญีป่ ุน หากจีนผเู้ กบ็ ตวั ได้ ปลอมลายมือชือญีป่ ุนดว้ ย
บรูไนตอ้ งคืนตวั ใหแ้ ก่ญีป่ ุนตามมาตรา 905 วรรค 2 ประกอบมาตรา 1008 ผใู้ ดจะ
อาศยั อา้ งอิงแสวงสิทธิจากลายมือปลอมไม่ได้
ส่วนการสลกั หลงั แบบขาดสาย หรือขาดช่วงนนั สามารถเกิดขึนได้ กรณี
1.ขาดสายเพราะ โอนตวั เงินระบุชือไม่ถูกตอ้ ง ตามมาตรา วรรคหนึง. มาตรา .
มาตรา กบั มาตรา กรณีนีผทู้ รงไล่เบียใครตามตวั เงินไม่ได้ ฟ้องไดแ้ ต่มูลหนีเดิม ตาม
มาตรา 1005
2.ขาดสายเพราะลายมือชือผสู้ ลกั หลงั รายใดรายหนึงเป็นลายมือชือปลอม ตามมาตรา วรรค
หนึง ประกอบมาตรา วรรคหนึง กรณีนีผทู้ รงฟ้องไล่เบียผปู้ ลอมได้ ตามมาตรา
มาตรา 906
คาํ วา คสู ญั ญาคนกอ น ๆ นน้ั รวมท้งั ผสู ัง่ จา ย หรือผูออกตัว๋ เงิน
และผสู ลกั หลงั คนกอน ๆ ดว ย
มาตรา เม่อื ใดไมม ีทใี่ นตั๋วเงินซึ่งจะสลักหลังไดตอ ไปไซร ทา นอนุญาตให
เอากระดาษแผนหน่ึงผนึกตอ เขากบั ต๋ัวเงินเรยี กวาใบประจาํ ตอ นับ
907 เปนสวนหนึง่ แหงต๋ัวเงินนน้ั
การสลกั หลังในใบประจาํ ตอคร้งั แรกตองเขยี นคาบบนต๋ัวเงนิ เดมิ
บาง บนใบประจาํ ตอบา ง
เนืองจากตวั เงินอาจมีการสลกั หลงั โอนกนั ต่อไปไดห้ ลายทอด ดงั นนั เมือไม่มีทีในตวั
เงินหลงั ต่อไปได้ กฎหมายอนุญาตใหเ้ อากระดาษแผน่ หนึงผนึกต่อเขา้ กบั ตวั เงิน ในกรณี
นีกระดาษแผน่ นีเรียกวา่ "ใบประจาํ ต่อ"
ในการสลกั หลงั ในใบประจาํ ต่อครังแรกตอ้ งเขียนคาบบนตวั เงินเดิมบา้ ง บนใบ
ประจาํ ต่อบา้ งตามมาตร 907 วรรคทา้ ย เหตุทีตอ้ งเขียนคาบไวด้ งั กล่าวกเ็ พราะจะได้
พิสูจนไ์ ดว้ า่ ใบประจาํ ต่อดงั กล่าวเป็นส่วนหนึงของตวั เงินจริง มิฉะนนั หากใบประจาํ ต่อ
เกิดหลุดไปจากตวั เงินอาจเกิดขอ้ ถกเถียงไดว้ า่ เป็นส่วนหนึงของตวั ฉบบั ใด
สลกั หลงั ให้ หนองนาํ
คลอง
สลกั หลงั ให้
นอาํ ่าตวก
สลกั หลงั ให้
ทบะึงเล
บึง จะสลกั หลงั ต่อให้ ทะเล แต่เนืองจากในตวั เงินเดิมไม่มีทีสลกั หลงั ต่อไปได้ กฏ
หมายเปิ ดโอกาสใหน้ าํ กระดาษมาผนึกเขา้ กบั ตวั เงินที บึง เป็นผทู้ รงอยู่ กระดาษทีนาํ มา
ผนึกนีเรียกวา่ "ใบประจาํ ต่อ" และหาก บึง ประสงคจ์ ะสลกั หลงั ต่อกต็ อ้ งเขียนคาบบนตวั
เงินเดิมบา้ งบนใบประจาํ ต่อบา้ ง
บรรณานุกรม
ศาสตราจารย์ ดร.สหธน รัตนไพจิตร. (๒๕๖๒). คาํ อธิบายกฎหมายตวั เงิน.
กรุงเทพฯ :บริษทั สาํ นกั พิมพว์ ญิ ญชน จาํ กดั .
อาจารยพ์ รทิพย์ นิมเสมอ. บญั ชีการเงิน:ตวั เงิน. สืบคน้ เมือ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๖๓.
จาก https://sites.google.com/a/ttc.ac.th/financill_acc/5-taw-ngein.
อาจารยธ์ นากร โกมลวานิช. (๒๕๕๔). คาํ อธิบายกฎหมายตวั เงิน. กรุงเทพมหานคร
:สูตรไพศาล.
ไพฑูรย์ คงสมบูรณ์. (๒๕๔๘). คาํ อธิบายกฎหมายลกั ษณะตวั เงิน. กรุงเทพฯ :
สาํ นกั พิมพน์ ิติธรรม.
วลิ าวณั ย์ อุ่นเรือน. (๒๕๕๕). สรุปกฏหมายตวั เงิน. สืบคน้ เมือ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๖๓.
จาก https://www.gotoknow.org/posts/413137.
ดร.ณฐั นนั ท์ สุดประเสริฐ. (๒๕๕๕). การพิสูจนค์ วามเป็นผทู้ รง มาตรา ๙๐๕. สือ
คน้ เมือ ๒๕ ตุลาคม ๒๕๖๓. จากhttp://natjar2001law.blogspot.com/2011/05/blog-
post.html.
ตวั๋ เปน สญั ญาอยางหน่งึ
ตองทําหนงั สือเปน ตราสาร
มวี ตั ถุแหงนี้เปน การชาํ ระเงนิ
เงนิ เปน ตราสารเปล่ียนมอื ได
ไมใ ชการแปลงหน้ใี หม
มีคสู ัญญาหลายฝายไมจํากัด
โดย นางสาวรุสมาสวี โมงสะอะ รหสั นิสิต
รายวชิ าตวั เงินและบญั ชีเดินสะพดั รหสั วชิ า 0801311
ภาคเรียนที ปี การศึกษา 2563 คณะนิติศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ทกั ษิณ วทิ ยาเขตสงขลา