The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

03ส่วนเนื้อหาบทที่6-7

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

03ส่วนเนื้อหาบทที่6-7

03ส่วนเนื้อหาบทที่6-7

32 แผนการจัดการเรียนรู้มุ่งเน้นสมรรถนะ หน่วยที่ 6 ชื่อหน่วย ต้นทุนมาตรฐานการวิเคราะห์วัตถุดิบและค่าแรงงาน สอนครั้งที่ 13-14 ชั่วโมงรวม 8 จำนวนชั่วโมง 10 1. สาระสำคัญ ต้นทุนมาตรฐาน (Standard Costs) หมายถึง ต้นทุนที่กำหนดขึ้นมาล่วงหน้า (Budgeted Cost) อย่างมีหลักเกณฑ์มี ทั้งต้นทุนวัตถุดิบ ค่าแรงงานและค่าใช้จ่ายการผลิต ภายใต้กระบวนการผลิตที่มีประสิทธิภาพ การกำหนดมาตรฐาน มักกำหนดสำหรับการผลิตสินค้า 1 หน่วย โดยกำหนดตามส่วนประกอบของต้นทุนผลิต คือ วัตถุดิบทางตรง ค่าแรงทางตรง และค่าใช้จ่ายการผลิต การกำหนดมาตรฐานของวัตถุดิบและค่าแรงงานจะประกอบด้วย มาตรฐานด้านปริมาณ และมาตรฐานด้านราคา ส่วนค่าใช้จ่ายการผลิตคำนวณโดยการประมาณการข้อมูลในอดีต 2. สมรรถนะประจำหน่วย 2.1 แสดงความรู้เกี่ยวกับต้นทุนมาตรฐาน 2.2 วิเคราะห์ผลแตกต่างวัตถุดิบและค่าแรง 2.3 บันทึกบัญชีวิเคราะห์ผลแตกต่างวัตถุดิบและค่าแรง 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 3.1 ด้านความรู้ 3.1.1 อธิบายความหมายของต้นทุนมาตรฐาน ได้ 3.1.2. การจำแนกประเภทของต้นทุนมาตรฐานได้ 3.1.3 บอกประโยชน์ของต้นทุนมาตรฐานได้ 3.1.4 อธิบายวิธีการกำหนดต้นทุนมาตรฐานได้ 3.2 ด้านทักษะ 3.2.1 วิเคราะห์ผลต่างของวัตถุดิบได้ 3.2.2 วิเคราะห์ผลต่างของค่าแรงงานได้ 3.2.3 บันทึกบัญชีผลต่างของวัตถุดิบได้ 3.2.4 บันทึกบัญชีผลต่างของค่าแรงงานได้


33 แผนการจัดการเรียนรู้มุ่งเน้นสมรรถนะ หน่วยที่ 6 ชื่อหน่วย ต้นทุนมาตรฐานการวิเคราะห์วัตถุดิบและค่าแรงงาน สอนครั้งที่ 13-14 ชั่วโมงรวม 8 จำนวนชั่วโมง 10 3.3 คุณลักษณะที่พึงประสงค์(คุณธรรมจริยธรรม ค่านิยม และหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง) 3.3.1 ความรับผิดชอบ 3.3.2 ความตรงต่อเวลา 3.3.3. ความสนใจใฝ่รู้ 3.3.4 ความสามัคคี 3.3.5 ความมีวินัย 3.3.6 ความสุภาพ 3.3.7 ความประหยัด 4. เนื้อหาสาระการเรียนรู้(พอสังเขป) 1.ความหมายของต้นทุนมาตรฐานและต้นทุนงบประมาณ 2.ประเภทของต้นทุนมาตรฐาน 3.ประโยชน์ของต้นทุนมาตรฐาน 4. การกำหนดต้นทุนมาตรฐาน 5. การวิเคราะห์ผลแตกต่างวัตถุดิและค่าแรง 6. การบันทึกบัญชีผลแตกต่างวัตถุดิบและค่าแรง ความหมายของต้นทุนมาตรฐานและต้นทุนตามงบประมาณ ต้นทุนมาตรฐาน (Standard Costs) หมายถึง ต้นทุนการผลิตที่กำหนดขึ้นมาล่วงหน้า (Budgeted Cost) อย่าง มีหลักเกณฑ์สำหรับการผลิตสินค้า 1 หน่วย หรือการกำหนดมาตรฐานของวัตถุดิบและค่าแรงงานจะประกอบด้วย มาตรฐานด้านปริมาณ ( Quantity Standard ) และมาตรฐานด้านราคา ( Price Standard ) ส่วนค่าใช้จ่ายการผลิต คำนวณโดยการประมาณการจากข้อมูลในอดีต ณ ระดับกำลังการผลิตที่กำหนด การวิเคราะห์ผลแตกต่างวัตถุดิบและค่าแรงป็นการวิเคราะห์ผลแตกต่างระหว่างจำนวนวัตถุดิบหรือจำนวนชั่วโมง ที่ใช้ในการผลิตจริงกับวัตถุดิบหรือจำนวนชั่วโมงที่กำหนดไว้ตามมาตรฐาน สำหรับใช้เป็นบรรทัดฐานในการควบคุม ภายใต้กระบวนการผลิตที่มีประสิทธิภาพ ต้นทุนตามงบประมาณ หมายถึง ต้นทุนที่ได้จากการทำงบประมาณการผลิตหรืองบประมาณรายจ่ายไว้ล่วงหน้า หรือวางแผนการใช้จ่ายเงินล่วงหน้าในช่วงเวลาหนึ่งในอนาคต โดยอาศัยข้อมูลในอดีต การคาดคะเนเหตุการณ์ และภาวะ ทางเศรษฐกิจในอนาคต


34 แผนการจัดการเรียนรู้มุ่งเน้นสมรรถนะ หน่วยที่ 6 ชื่อหน่วย ต้นทุนมาตรฐานการวิเคราะห์วัตถุดิบและค่าแรงงาน สอนครั้งที่ 13-14 ชั่วโมงรวม 8 จำนวนชั่วโมง 10 ประเภทของต้นทุนมาตรฐาน 1. มาตรฐานตามอุดมคติหรือมาตรฐานตามทฤษฎี (Ideal or Theoretical Standard) เป็นมาตรฐานที่ กำหนดขึ้นโดยอิงกับการปฏิบัติงานที่มีประสิทธิภาพสูงสุด แม้ว่ามาตรฐานตามอุดมคติเป็นมาตรฐานที่สามารถบรรลุได้ ยาก แต่พนักงานสามารถใช้เป็นตัวเปรียบเทียบวัดเพื่อมุ่งสู่ความเป็นเลิศ 2. มาตรฐานที่พอปฏิบัติได้ในปัจจุบัน (Current Attainable Standard or Normal Standard ) เป็น ระดับมาตรฐานที่กำหนดภายใต้กระบวนการผลิตที่มีประสิทธิภาพ แต่เป็นต้นทุนมาตรฐานที่กำหนด ณ ระดับการผลิต ต่ำกว่าระดับอุดมคติ โดยเผื่อเวลาสำหรับหน่วยสูญเสียหรือการสิ้นเปลื่องและเผื่อเวลาสำหรับการซ่อมแซมเครื่องจักร และอุปกรณ์ต่าง ๆ ไว้ ประโยชน์ของต้นทุนมาตรฐาน 1. ช่วยให้ฝ่ายบริหารสามารถประเมินผลการปฏิบัติงานของฝ่ายปฏิบัติ 2. ช่วยในการทำงบประมาณ 3. ช่วยในการควบคุมต้นทุน 4. เป็นแนวทางในการตั้งราคาขาย 5. ช่วยการบันทึกบัญชีได้ง่ายขี้น การกำหนดมาตรฐาน การกำหนดมาตรฐานแยกเป็น 2 ด้าน 1. มาตรฐานด้านปริมาณ (Quantity standard ) 2. มาตรฐานด้านราคา (Price or Rate Standard) มาตรฐานของวัตถุดิบ 1. มาตรฐานด้านจำนวน เป็นการกำหนดจำนวนวัตถุดิบที่ต้องใช้ในการผลิต 1 หน่วย 2. มาตรฐานด้านราคาวัตถุดิบ เป็นการกำหนดมาตรฐานสำหรับการซื้อวัตถุดิบ 1 หน่วย มาตรฐานค่าแรงงาน 1. มาตรฐานจำนวนชั่วโมงการผลิต เป็นการกำหนดจำนวนชั่วโมงที่ใช้ในการผลิตสินค้า 1 หน่วย 2. มาตรฐานอัตราค่าแรงงาน เป็นการกำหนดอัตราค่าแรงงานต่อชั่วโมงสำหรับการผลิตสินค้า 1 หน่วย มาตรฐานค่าใช้จ่ายการผลิต การกำหนดมาตรฐานของค่าใช้จ่ายการผลิต ใช้วิธีการคำนวณเป็นอัตราการผลิตคิดเข้างาน ณ ระดับการผลิตที่ เหมาะสมและมีประสิทธิภาพ


35 แผนการจัดการเรียนรู้มุ่งเน้นสมรรถนะ หน่วยที่ 6 ชื่อหน่วย ต้นทุนมาตรฐานการวิเคราะห์วัตถุดิบและค่าแรงงาน สอนครั้งที่ 13-14 ชั่วโมงรวม 8 จำนวนชั่วโมง 10 การกำหนดอัตราค่าใช้จ่ายการผลิตคิดเข้างาน เริ่มต้นจากการเลือกระดับกำลังการผลิตที่ต้องการใช้ในระดับ มาตรฐาน และประมาณค่าใช้การการผลิตกผันแปรและค่าใช้จ่ายการผลิตคงที่ณระดับกำลังการผลิตนั้น ๆ จากนั้นเลือก เกณฑ์ที่มีความสัมพันธ์กับค่าใช้จ่ายการผลิต เช่น ชั่วโมงแรงงาน ชั่วโมงเครื่องจักร เป็นต้น อัตราค่าใช้จ่ายคิดเข้างาน = ค่าใช้จ่ายการผลิต เกณฑ์ทีใช้ การวิเคราะห์ผลต่างด้านราคาและปริมาณของวัตถุดิบ ผลต่างราคา (Price Variance) วัดความแตกต่างระหว่างราคาของวัตถุทางตรงที่กิจการจ่ายซื้อไปจริงและราคา มาตรฐานสำหรับปริมาณวัตถุทางตรงที่ซื้อมาจริง ผลต่างด้านราคา = (ราคาที่ซื้อตามมาตรฐาน – ราคาที่ซื้อจริง) x จำนวนที่ซื้อจริง PV = (SP - AP)x AQ ผลต่างปริมาณ (Quantity Variance) หรือผลต่างการใช้ (Usage Variance) ของวัตถุดิบวัดความแตกต่าง ระหว่างปริมาณวัตถุทางตรงที่เบิกใช้จริงในการผลิตและปริมาณวัตถุทางตรงที่ยอมให้ ณ ระดับการผลิตจริง ผลต่างด้านจำนวน = (จำนวนที่ใช้ตามมาตรฐาน – จำนวนที่ใช้จริง)xราคาตามมาตรฐาน QV = (SQ - AQ) SP ตัวอย่าง บริษัท กีรติจำกัด กำหนดมาตรฐานวัตถุดิบในการผลิตสินค้า 1 หน่วย เป็นดังนี้ วัตถุดิบ 2 ก.ก.@ 10 บาท ระหว่างเดือนกิจการซื้อวัตถุดิบ 12,000 ก.ก. @ 9.75 บาท ผลิตสินค้าได้ 5,000 หน่วย ใช้วัตถุดิบไปทั้งสิ้น 10,100 ก.ก. ผลต่างด้านจำนวน = (จำนวนที่ใช้ตามมาตรฐาน – จำนวนที่ใช้จริง)xราคาตามมาตรฐาน QV = (SQ - AQ) SP = (5,000 x 2) – 10,100 x10 = (10,000 -10,100) x10 = 1,000 U ผลต่างด้านราคา = (ราคาที่ซื้อตามมาตรฐาน – ราคาที่ซื้อจริง) x จำนวนที่ซื้อจริง PV = (SP - AP)x AQ = (10- 9.75)x12,000 = 3,000 F ผลต่างอัตราค่าแรงและผลต่างประสิทธิภาพของแรงงานทางตรง


36 แผนการจัดการเรียนรู้มุ่งเน้นสมรรถนะ หน่วยที่ 6 ชื่อหน่วย ต้นทุนมาตรฐานการวิเคราะห์วัตถุดิบและค่าแรงงาน สอนครั้งที่ 13-14 ชั่วโมงรวม 8 จำนวนชั่วโมง 10 ผลต่างอัตราค่าแรง (Rate Variance) วัดความแตกต่างระหว่างอัตราค่าแรงงานที่จ่ายจริงและอัตราค่าแรงงาน ตามมาตรฐานคำนวณจากชั่วโมงแรงงานที่ใช้ในการผลิตจริง ผลต่างอัตราค่าแรงงาน = (จำนวนที่ช.มใช้ตามมาตรฐาน – จำนวนช.ม.ที่ใช้จริง)xอัตราค่าแรงตามมาตรฐาน RV = (SH - AH) x SP ผลต่างประสิทธิภาพ (Efficiency Variance) วัดความแตกต่างระหว่างชั่วโมงแรงงานที่ใช้ในการผลิตจริงและ ชั่วโมงแรงงานมาตรฐานที่ยอมให้ ณ ระดับการผลิตจริง คำนวณจากอัตราค่าแรงงานมาตรฐาน ผลต่างอัตราค่าแรงงาน = (อัตราค่าแรงงานตามมาตาฐาน – อัตราค่าแรงงานจริง)xชั่วโมงแรงงานใช้จริง EV = (SR- AP) x AH ตัวอย่าง บริษัท กานดา จำกัด กำหนดมาตรฐานค่าแรงงานสำหรับการผลิตสินค้า 1 หน่วยดังนี้ แรงงาน 4 ชั่วโมง @ 12 บาท ระหว่างเดือนกิจการผลิตสินค้าได้ 3,000 หน่วยใช้ชั่วโมงแรงงานทางตรงไปทั้งสิ้น 12,500 ชั่วโมง จ่ายค่าแรงงานไป 143,750 บาท ผลต่างประสิทธิภาพแรงงาน = (จำนวนชั่วโมงแรงงานที่ใช้ตามมาตาฐาน – ชั่งโมงแรงงานจริง)x อัตราค่าแรงตามมาตรฐาน EV = (SH – AH) x SR = (3,000x4) – 12,500 x 12 = (12,000 – 12,500)x12 = 6,000 U ผลต่างอัตราค่าแรงงาน = (อัตราค่าแรงงานตามมาตาฐาน – อัตราคค่าแรงงานจิรง)xชั่วโมงแรรงานใช้จริง RV = (SR- AP) x AH = (12-11.50)x 12,500 = 6,250 F 5. กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ 5.1 การนำเข้าสู่บทเรียน 5.1.1. ทบทวนความรู้จากบทที่ผ่านมา การปันส่วนต้นทุนให้ผลิตภัณฑ์หลัก 5.1.2. ครูบอกหัวข้อเรื่อง สมรรถนะการเรียนรู้ประจำหน่วย และจุดประสงค์ในการเรียนรู้ 5.1.3 ให้นักศึกษาทำแบบทดสอบก่อนเรียนเพื่อประเมินความรู้เดิมของนักศึกษา เรื่องการบัญชีต้นทุน มาตรฐาน โดยเน้นให้นักศึกษามีความซื่อสัตย์ต่อตนเองไม่ดูเพื่อน 5.1.4 . เฉลยแบบประเมินผลให้นักศึกษาแลกกันตรวจกระดาษคำตอบของเพื่อน เพื่อบันทึกคะแนนที่ทำได้


37 แผนการจัดการเรียนรู้มุ่งเน้นสมรรถนะ หน่วยที่ 6 ชื่อหน่วย ต้นทุนมาตรฐานการวิเคราะห์วัตถุดิบและค่าแรงงาน สอนครั้งที่ 13-14 ชั่วโมงรวม 8 จำนวนชั่วโมง 10 5.2 การเรียนรู้ 5.2.1 ครูตั้งคำถามกับนักศึกษา หลักการบัญชีผลิตภัณฑ์หลัก 5.2.2 ให้นักศึกษา ศึกษาความหมายต้นทุนมาตรฐาน ประเภทต้นทุนมาตรฐาน และประโยชน์ต้นทุนมาตรฐาน 5.2.2 อธิบายต้นทุนมาตรฐาน การวิเคราะห์ผลแตกต่างวัตถุดิบ จากตัวอย่างที่กำหนดให้ครูสังเกตพฤติกรรม การเรียนรายบุคคล 5.1.2. นักศึกษาช่วยกันการวิเคราะห์ผลแตกต่างวัตถุดิบ จากตัวอย่างที่กำหนดให้ 5.1.3 ให้นักศึกษาวิเคราะห์ผลแตกต่างแรงงาน ในตัวอย่างที่กำหนดให้ ให้นักศึกษาตอบคำถามรายบุคคล 5.2.3. นักศึกษาศึกษาการบันทึกบัญชีผลแตกต่างวัตถุดิบและค่าแรง จากตัวอย่าง 5.2.4. อธิบายสาระสำคัญต้นทุนมาตรฐาน การวิเคราะห์ผลแตกต่างวัตถุดิบและค่าแรง และการบันทึกบัญชี 5.2.54. ให้นักศึกษาทำการทดสอบเรื่อง การบัญชีต้นทุนมาตรฐานของวัตถุดิบและค่าแรงงาน 5.3 การสรุป 1. อธิบายสรุปสาระสำคัญเรื่องต้นทุนมาตรฐาน การวิเคราะห์ผลแตกต่างวัตถุดิบและค่าแรง ตัวอย่างที่ศึกษา พร้อมซักถามความเข้าใจของนักศึกษาเป็นรายบุคคลเกี่ยวกับเนื้อหาที่เรียนไปแล้วทั้งหมด 2. มอบหมายงานทำแบบฝึกหัด ต้นทุนมาตรฐาน การวิเคราะห์ของวัตถุดิบและค่าแรงงาน 5.4 การวัดและประเมินผล มีการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ เรื่อง โดยใช้เครื่องมือ ดังนี้ 1. แบบฝึกหัด เรื่อง การบัญชีต้นทุนมาตรฐานของวัตถุดิบและค่าแรงงาน จำนวน 6 ข้อ 2. แบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง การบัญชีต้นทุนมาตรฐานของวัตถุดิบและค่าแรงงาน จำนวน 10 ข้อ 3. นักศึกษาวิเคราะห์ผลแตกต่างวัตถุดิบและค่าแรงงาน 6. สื่อการเรียนรู้/แหล่งการเรียนรู้ 6.1 สื่อสิ่งพิมพ์


38 แผนการจัดการเรียนรู้มุ่งเน้นสมรรถนะ หน่วยที่ 6 ชื่อหน่วย ต้นทุนมาตรฐานการวิเคราะห์วัตถุดิบและค่าแรงงาน สอนครั้งที่ 13-14 ชั่วโมงรวม 8 จำนวนชั่วโมง 10 หนังสือบัญชีต้นทุน 2 วนิดา เกื้อกูล, สำนักพิมพ์เมืองไทย หนังสือบัญชีต้นทุน 2 ดวงมณี โกมารทัต โรงพิมพ์จุฬาลงกรณ์ หนังสือบัญชีต้นทุน ธัญญร ศรีวิเชียร โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยมหาสารคาม หนังสือการบัญชีบริหาร นภาภรณ์ พลนิกรกิจ ห้างหุ้นส่วนจำกัดอภิชาตการพิมพ์ หนังสือการบัญชีบริหาร สุปราณี ศุภระเศรณี ศูนย์หนังสือจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 6.2 สื่อโสตทัศน์ (ถ้ามี) Power Point นำเสนอ เรื่อง ต้นทุนมาตรฐาน Youtube การบัญชีต้นทุนมาตรฐาน 6.3 หุ่นจำลองหรือของจริง (ถ้ามี) - 6.4 อื่นๆ (ถ้ามี) - แหล่งเรียนรู้ สำนักวิทยบริการ วิทยาลัยอาชีวศึกษามหาสารคาม - แหล่งเรียนรู้ ห้องสมุดภาควิชาการบัญชี วิทยาลัยอาชีวศึกษามหาสารคาม 7. เอกสารประกอบการจัดการเรียนรู้ (ใบความรู้ ใบงาน ใบมอบหมายงาน ฯลฯ) - ใบงานเรื่อง การบัญชีต้นทุนมาตรฐานของวัตถุดิบและค่าแรงงาน 8. การบูรณาการ /ความสัมพันธ์กับวิชาอื่น สัมพันธ์กับรายวิชา การบัญชีบริหาร การบัญชีต้นทุนมาตรฐานสำหรับวัตุดิบและค่าแรงงานทางตรง ต้นทุน มาตรฐาน เป็นต้นทุนที่กำหนดขึ้นล่วงหน้าอย่างมีหลักเกรฑ์ ภายใต้การผลิตที่ประสิทธิภาพ 9. การวัดและประเมินผล การวัดผล 9.1 ก่อนเรียน - แบบทดสอบก่อนเรียน โดยใช้ Google Form จำนวน 10 ข้อ 9.2 ขณะเรียน 9.2.1 กิจกรรมพัฒนาการเรียนรู้ เช่น การทำใบงาน ถาม-ตอบ 9.2.2 การสังเกตพฤติกรรมด้านจิตพิสัยรายบุคคล 9.2.3 การสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม 9.3 หลังเรียน


39 แผนการจัดการเรียนรู้มุ่งเน้นสมรรถนะ หน่วยที่ 6 ชื่อหน่วย ต้นทุนมาตรฐานการวิเคราะห์วัตถุดิบและค่าแรงงาน สอนครั้งที่ 13-14 ชั่วโมงรวม 8 จำนวนชั่วโมง 10 แบบทดสอบหลังเรียน โดยใช้ Google Form จำนวน 10 ข้อ การประเมินผล ก่อนเรียน - แบบทดสอบก่อนเรียนหน่วยที่ 5 เรื่อง การบัญชีต้นทุนมาตรฐานของวัตถุดิบและค่าแรงงาน - เกณฑ์การให้คะแนน : ถูก 1 ข้อ ได้ 1 คะแนน - เกณฑ์การตัดสินการผ่านสมรรถนะ : คะแนนรวมเกินร้อยละ 50 ขณะเรียน 1. สังเกตพฤติกรรมรายบุคคลและรายกลุ่ม 2. สังเกตการณ์แสดงความคิดเห็น 3. ถาม-ตอบเป็นรายบุคคล 4. ตรวจแบบฝึกหัด หลังเรียน - แบบทดสอบหลักงเรียนหน่วยที่ 5 เรื่อง การบัญชีต้นทุนมาตรฐานของวัตถุดิบและค่าแรงงาน - เกณฑ์การให้คะแนน : ถูก 1 ข้อ ได้ 1 คะแนน - เกณฑ์การตัดสินการผ่านสมรรถนะ : คะแนนรวมเกินร้อยละ 50 - แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม คุณลักษณะอันพึงประสงค์และบูรณาการหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียง คะแนนขึ้นอยู่กับการประเมินตามสภาพจริง 10. บันทึกหลังสอน 10.1 ผลการใช้แผนการจัดการเรียนรู้ ............................................................................................................................. ................................................................ ................................................................................................................................................................... ......................... 10.2 ผลการเรียนรู้ของนักเรียน นักศึกษา ............................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................... .......................................................................... 10.3 แนวทางการพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ แบบทดสอบก่อนเรียน ข้อสอบปรนัย 10 ข้อ ให้เลือกคำตอบที่ถูกที่สุดเพียงข้อเดียว


40 แผนการจัดการเรียนรู้มุ่งเน้นสมรรถนะ หน่วยที่ 6 ชื่อหน่วย ต้นทุนมาตรฐานการวิเคราะห์วัตถุดิบและค่าแรงงาน สอนครั้งที่ 13-14 ชั่วโมงรวม 8 จำนวนชั่วโมง 10 1.การวิเคราะห์ผลแตกต่างด้านราคาวัตถุดิบวิเคราะห์ตามข้อใด ก.(จำนวนจริง-จำนวนมาตรฐาน)xราคาจริง ข.(จำนวนซื้อ-จำนวนเบิกใช้)xราคาจริง ค.(ราคามาตรฐาน-ราคาจริง)xจำนวนมาตรฐาน ง.(ราคามาตรฐาน-ราคาจริง)xจำนวนที่ซื้อ จ.(จำนวนมาตรฐาน-จำนวนจริง)xราคามาตรฐาน 2.การวิเคราะห์ผลแตกต่างด้านจำนวนวัตถุดิบวิเคราะห์ตามข้อใด ก.(จำนวนจริง-จำนวนมาตรฐาน)xราคาจริง ข.(จำนวนซื้อ-จำนวนเบิกใช้)xราคาจริง ค.(ราคามาตรฐาน-ราคาจริง)xจำนวนมาตรฐาน ง.(ราคามาตรฐาน-ราคาจริง)xจำนวนที่ซื้อ จ.(จำนวนมาตรฐาน-จำนวนจริง)xราคามาตรฐาน 3. การวิเคราะห์ผลแตกต่างอัตราค่าแรงงานวิเคราะห์ตามข้อใด ก.(ชั่วโมงจริง-ชั่วโมงมาตรฐาน)xอัตราจริง ข.(ชั่วโมงมาตรฐาน-ชั่วโมงจริง)xอัตรามาตรฐาน ค.(อัตรามาตรฐาน-อัตราจริงxชั่วโมงมาตรฐาน ง.(อัตราจริง-อัตรามาตรฐาน)x=ชั่วโมงจริง จ.อัตรามาตรฐานxชั่วโมงมาตรฐาน 4. . การวิเคราะห์ผลแตกต่างประสิทธิภาพแรงงานวิเคราะห์ตามข้อใด ก.(ชั่วโมงจริง-ชั่วโมงมาตรฐาน)xอัตราจริง ข.(ชั่วโมงมาตรฐาน-ชั่วโมงจริง)xอัตรามาตรฐาน ค.(อัตรามาตรฐาน-อัตราจริงxชั่วโมงมาตรฐาน ง.(อัตราจริง-อัตรามาตรฐาน)x=ชั่วโมงจริง จ.อัตรามาตรฐานxชั่วโมงมาตรฐาน 5.ผลแตกต่างที่วิเคราะห์ได้ถ้าผลแตกต่างที่ไม่น่าพอใจจะบันทึกบัญชีแบบใดและนำไปปรับปรุงกับบัญชีใด ก.เดบิต ต้นทุนการผลิต เครดิต ผลแตกต่าง ข.เดบิต ผลแตกต่าง เครดิต ต้นทุนการผลิต ค.เดบิต ต้นทุนขาย เครดิต ผลแตกต่าง


41 แผนการจัดการเรียนรู้มุ่งเน้นสมรรถนะ หน่วยที่ 6 ชื่อหน่วย ต้นทุนมาตรฐานการวิเคราะห์วัตถุดิบและค่าแรงงาน สอนครั้งที่ 13-14 ชั่วโมงรวม 8 จำนวนชั่วโมง 10 ง. เดบิต ขาย เครดิต ผลแตกต่าง จ. เดบิต ค่าใช้จ่ายการผลิต เครดิต ผลแตกต่าง 6.ต้นทุนตามงบประมาณมีความหมายตามข้อใด ก.ต้นทุนที่ประมาณการไว้ในแผนการใช้จ่ายเงินของกิจการในช่วงระยะเวลาหนึ่งในอนาคต ข.การกำหนดต้นทุนการผลิตรวมของสินค้าที่ผลิตทั้งหมดในแต่ละงวด ภายใต้กระบวนการผลิตที่มีประสิทธิภาพ ค.การใช้ระบบต้นทุนปกติในการคำนวณต้นทุนการผลิตของสินค้า 1 หน่วย ง.การผลิตสินค้า 1 หน่วย ภายใต้กระบวการผลิตที่มีประสิทธิภาพ จ.ต้นทุนการผลิตสินค้า 1 หน่วย ที่กำหนดขึ้นล่วงหน้า ณ ระดับการผลิตที่กำหนด ภายใต้กระบวนการผลิตที่มี ประสิทธิภาพ จงใช้ข้อมูลต่อไปนี้ ตอบคำถามข้อ 8- 10 บริษัทราชาวดี จำกัด มีข้อมูลเกี่ยวกับการผลิตที่เกิดขึ้นจริงดังนี้ 1..ซื้อวัตถุดิบ 25,000 กิโลกรัม กิโลกรัมละ 4.75 บาท 2. เบิกวัตถุดิบไปใช้ 21,000 กรัม 3. ชั่วโมงแรงงาน 12,000 ชั่วโมง ค่าแรงงานรวม 360,000 บาท 4. สินค้าสำเร็จรูปที่ผลิตได้ 5,000 หน่วย กิจการกำหนดมาตรฐานสำหรับการผลิตสินค้า 1 หน่วย ไว้ดังนี้ วัตถุดิบ 4 กิโลกรัม กิโลกรัมละ 5 บาท ค่าแรงงาน 2 ชั่วโมง ชั่วโมงละ 28 บาท 7.จำนวนวัตถุดิบที่ใช้ตามมาตรฐานเป็นจำนวนเท่าไร ก. 25,000 กิโลกรัม ข. 21,000 กิโลกรัม ค. 20,000 กิโลกรัม ง. 10,000 กิโลกรัม จ. 5,000 กิโลกรัม 8.ผลแตกต่างทางด้านจำนวนเป็นเท่าไร ก. 5,000 U ข. 4750 U ค. 5000 F ง. 5250 U จ. 6,250 F 9.ผลแตกต่างประสิทธิภาพแรงงานจำนวนเท่าไร ก. 56,000 u ข. 56,000 F ค. 24,000 F ง. 24,000 u จ. 14,000 u 10.ประโยชน์ของต้นทุนมาตรฐานคือข้อใด ก.ช่วยในการคำนวณต้นทุนขาย


42 แผนการจัดการเรียนรู้มุ่งเน้นสมรรถนะ หน่วยที่ 6 ชื่อหน่วย ต้นทุนมาตรฐานการวิเคราะห์วัตถุดิบและค่าแรงงาน สอนครั้งที่ 13-14 ชั่วโมงรวม 8 จำนวนชั่วโมง 10 ข.ช่วยในการคำนวณต้นทุนสินค้าคงเหลือ ค.ช่วยในการตั้งราคาขาย ง.ทำให้อัตรากำรขั้นต้นมีอัตราที่สม่ำเสมอใกล้เคียงทุกงวด จ.ทำให้กิจการสามารถกำหนดจำนวนหน่วยที่ผลิตได้สอดคล้องกับจำนวนหน่วยขายในแต่ละงวดบัญชี แบบทดสอบการบัญชีต้นทุน 2(บทที่6) ข้อสอบปรนัย 10 ข้อ ให้เลือกคำตอบที่ถูกที่สุดเพียงข้อเดียว 1.ประโยชน์ของต้นทุนมาตรฐานคือข้อใด ก.ช่วยในการคำนวณต้นทุนขาย ข.ช่วยในการคำนวณต้นทุนสินค้าคงเหลือ ค.ช่วยในการตั้งราคาขาย ง.ทำให้อัตรากำรขั้นต้นมีอัตราที่สม่ำเสมอใกล้เคียงทุกงวด จ.ทำให้กิจการสามารถกำหนดจำนวนหน่วยที่ผลิตได้สอดคล้องกับจำนวนหน่วยขายในแต่ละงวดบัญชี 2.การวิเคราะห์ผลแตกต่างด้านราคาวัตถุดิบวิเคราะห์ตามข้อใด ก.(จำนวนจริง-จำนวนมาตรฐาน)xราคาจริง ข.(จำนวนซื้อ-จำนวนเบิกใช้)xราคาจริง ค.(ราคามาตรฐาน-ราคาจริง)xจำนวนมาตรฐาน ง.(ราคามาตรฐาน-ราคาจริง)xจำนวนที่ซื้อ จ.(จำนวนมาตรฐาน-จำนวนจริง)xราคามาตรฐาน 3.การวิเคราะห์ผลแตกต่างด้านจำนวนวัตถุดิบวิเคราะห์ตามข้อใด ก.(จำนวนจริง-จำนวนมาตรฐาน)xราคาจริง ข.(จำนวนซื้อ-จำนวนเบิกใช้)xราคาจริง ค.(ราคามาตรฐาน-ราคาจริง)xจำนวนมาตรฐาน ง.(ราคามาตรฐาน-ราคาจริง)xจำนวนที่ซื้อ จ.(จำนวนมาตรฐาน-จำนวนจริง)xราคามาตรฐาน 4. การวิเคราะห์ผลแตกต่างอัตราค่าแรงงานวิเคราะห์ตามข้อใด ก.(ชั่วโมงจริง-ชั่วโมงมาตรฐาน)xอัตราจริง ข.(ชั่วโมงมาตรฐาน-ชั่วโมงจริง)xอัตรามาตรฐาน ค.(อัตรามาตรฐาน-อัตราจริงxชั่วโมงมาตรฐาน ง.(อัตราจริง-อัตรามาตรฐาน)x=ชั่วโมงจริง


43 แผนการจัดการเรียนรู้มุ่งเน้นสมรรถนะ หน่วยที่ 6 ชื่อหน่วย ต้นทุนมาตรฐานการวิเคราะห์วัตถุดิบและค่าแรงงาน สอนครั้งที่ 13-14 ชั่วโมงรวม 8 จำนวนชั่วโมง 10 จ.อัตรามาตรฐานxชั่วโมงมาตรฐาน 5. . การวิเคราะห์ผลแตกต่างประสิทธิภาพแรงงานวิเคราะห์ตามข้อใด ก.(ชั่วโมงจริง-ชั่วโมงมาตรฐาน)xอัตราจริง ข.(ชั่วโมงมาตรฐาน-ชั่วโมงจริง)xอัตรามาตรฐาน 6.ผลแตกต่างที่วิเคราะห์ได้ถ้าผลแตกต่างที่ไม่น่าพอใจจะบันทึกบัญชีแบบใดและนำไปปรับปรุงกับบัญชีใด ก.เดบิต ต้นทุนการผลิต เครดิต ผลแตกต่าง ข.เดบิต ผลแตกต่าง เครดิต ต้นทุนการผลิต ค.เดบิต ต้นทุนขาย เครดิต ผลแตกต่าง ง. เดบิต ขาย เครดิต ผลแตกต่าง จ. เดบิต ค่าใช้จ่ายการผลิต เครดิต ผลแตกต่าง 7.ต้นทุนตามงบประมาณมีความหมายตามข้อใด ก.ต้นทุนที่ประมาณการไว้ในแผนการใช้จ่ายเงินของกิจการในช่วงระยะเวลาหนึ่งในอนาคต ข.การกำหนดต้นทุนการผลิตรวมของสินค้าที่ผลิตทั้งหมดในแต่ละงวด ภายใต้กระบวนการผลิตที่มีประสิทธิภาพ ค.การใช้ระบบต้นทุนปกติในการคำนวณต้นทุนการผลิตของสินค้า 1 หน่วย ง.การผลิตสินค้า 1 หน่วย ภายใต้กระบวการผลิตที่มีประสิทธิภาพ จ.ต้นทุนการผลิตสินค้า 1 หน่วย ที่กำหนดขึ้นล่วงหน้า ณ ระดับการผลิตที่กำหนด ภายใต้กระบวนการผลิตที่มี ประสิทธิภาพ จงใช้ข้อมูลต่อไปนี้ ตอบคำถามข้อ 8- 10 บริษัทราชาวดี จำกัด มีข้อมูลเกี่ยวกับการผลิตที่เกิดขึ้นจริงดังนี้ 1..ซื้อวัตถุดิบ 25,000 กิโลกรัม กิโลกรัมละ 4.75 บาท 2. เบิกวัตถุดิบไปใช้ 21,000 กรัม 3. ชั่วโมงแรงงาน 12,000 ชั่วโมง ค่าแรงงานรวม 360,000 บาท 4. สินค้าสำเร็จรูปที่ผลิตได้ 5,000 หน่วย กิจการกำหนดมาตรฐานสำหรับการผลิตสินค้า 1 หน่วย ไว้ดังนี้ วัตถุดิบ 4 กิโลกรัม กิโลกรัมละ 5 บาท ค่าแรงงาน 2 ชั่วโมง ชั่วโมงละ 28 บาท 8.จำนวนวัตถุดิบที่ใช้ตามมาตรฐานเป็นจำนวนเท่าไร 8.จำนวนวัตถุดิบที่ใช้ตามมาตรฐานเป็นจำนวนเท่าไร


44 แผนการจัดการเรียนรู้มุ่งเน้นสมรรถนะ หน่วยที่ 6 ชื่อหน่วย ต้นทุนมาตรฐานการวิเคราะห์วัตถุดิบและค่าแรงงาน สอนครั้งที่ 13-14 ชั่วโมงรวม 8 จำนวนชั่วโมง 10 ก. 25,000 กิโลกรัม ข. 21,000 กิโลกรัม ค. 20,000 กิโลกรัม ง. 10,000 กิโลกรัม จ. 5,000 กิโลกรัม 9.ผลแตกต่างทางด้านจำนวนเป็นเท่าไร ก. 5,000 U ข. 4750 U ค. 5000 F ง. 5250 U จ.6,250 F 10.ผลแตกต่างประสิทธิภาพแรงงานจำนวนเท่าไร ก. 56,000 u ข. 56,000 F ค. 24,000 F ง. 24,000 u ง. 14,000 u เฉลย ข้อ1. ค. ข้อ2. ง. ข้อ3. จ. ข้อ 4. ง. ข้อ5. ข. ข้อ6. ข้อ7. ก. ข้อ 8.ค. ข้อ9.ก. ข้อ10.ก.


45 แผนการจัดการเรียนรู้มุ่งเน้นสมรรถนะ หน่วยที่ 7 ชื่อหน่วย ต้นทุนมาตรฐานการวิเคราะห์ค่าใช้จ่ายการผลิต สอนครั้งที่ 15-16 ชั่วโมงรวม 8 จำนวนชั่วโมง 8 1. สาระสำคัญ การวิเคราะห์ผลแตกต่างค่าใช้จ่ายการผลิต เป็นการวิเคราะห์ผลแตกต่างระหว่างค่าใช้จ่ายการผลิตที่ เกิดขึ้นจริง กับค่าใช้จ่ายการผลิตคิดเข้างาน และค่าใช้จ่ายการผลิตตามงบประมาณ โดยกิจการจะกำหนด ค่าใช้จ่ายการผลิตคิดเข้างาน จากการกำหนดระดับกำลังการผลิตที่เหมาะสม แล้วจัดทำงบประมาณค่าใช้จ่าย การผลิต ณ ระดับกำลังการผลิตระดับนั้น ทั้งค่าใช้จ่ายการผลิตคงที่ และค่าใช้จ่ายการผลิตแปรได้จากนั้นจึง คำนวณอัตราค่าใช้จ่ายการผลิตคิดเข้างานและใช้อัตรานั้นเป็นอัตราค่าใช้จ่ายการผลิตตามมาตรฐาน และกิจการ กำหนดงบประมาณระดับกำลังการผลิต หลาย ๆ ระดับ เนื่องจากในการผลิตจริงชั่วโมงการผลิตที่เกิดขึ้นอาจเกิด ได้หลายระดับ การใช้งบประมาณยืดหยุ่น (Flexible Budget) เพื่อเลือกระดับการผลิตมาประมาณค่าใช้จ่าย การผลิตตามมาตรฐาน จะถูกต้องมากที่สุด เนื่องจากงบประมาณยืดหยุ่นเป็นงบประมาณที่จัดทำขึ้นภายใต้ช่วง ของระดับกิจกรรมไม่ได้แสดงงบประมาณ ณ ระดับใดระดับหนึ่งเพียงระดับเดียวเท่านั้น ทำให้กิจการสามารถ เลือกใช้ระดับกิจกรรมของงบประมาณยืดหยุ่นได้ให้ตรงหรือใกล้เคียงกับระดับกิจกรรมจริงได้ การคำนวณอัตรา ค่าใช้จ่ายการผลิตมาตรฐานก็จะใกล้เคียงข้อมูลจริงและสามารถวัดผลการปฏิบัติงานได้อย่างถูกต้องด้วย 2. สมรรถนะประจำหน่วย 2.1 แสดงความรู้เกี่ยวกับต้นทุนมาตรฐาน 2.2 วิเคราะห์ผลแตกต่างค่าใช้จ่ายการผลิต 2.3 บันทึกบัญชีวิเคราะห์ผลแตกต่างวัตถุดิบและค่าแรง 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 3.1 ด้านความรู้ 3.1.1 อธิบายความหมายของต้นทุนมาตรฐาน ได้ 3.1.2. การจำแนกประเภทของต้นทุนมาตรฐานได้ 3.1.3 บอกประโยชน์ของต้นทุนมาตรฐานได้ 3.1.4 อธิบายวิธีการกำหนดต้นทุนมาตรฐานได้


46 แผนการจัดการเรียนรู้มุ่งเน้นสมรรถนะ หน่วยที่ 7 ชื่อหน่วย ต้นทุนมาตรฐาน ค่าใช้จ่ายการผลิต สอนครั้งที่ 15- 16 ชั่วโมงรวม 12 จำนวนชั่วโมง 12 3.2 ด้านทักษะ 3.2.1 วิเคราะห์ผลต่างของมาตรฐานของวัตถุดิบได้ 3.2.2 วิเคราะห์ผลต่างของมาตรฐานของค่าแรงงานได้ 3.2.3 บันทึกบัญชีผลต่างของวัตถุดิบและค่าแรงงานได้ 3.2.4 บันทึกบัญชีผลต่างของค่าแรงงานได้ 3.3 คุณลักษณะที่พึงประสงค์(คุณธรรมจริยธรรม ค่านิยม และหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง) 3.3.1 ความรับผิดชอบ 3.3.2 ความตรงต่อเวลา 3.3.3. ความสนใจใฝ่รู้ 3.3.4 ความสามัคคี 3.3.3. ความสนใจใฝ่รู้ 3.3.4 ความสามัคคี 3.3.5 ความมีวินัย 3.3.6 ความสุภาพ 3.3.7 ความประหยัด 4. เนื้อหาสาระการเรียนรู้(พอสังเขป) 1.การวิเคราะห์ผลแตกต่างค่าใช้จ่ายในการผลิต 2.การบันทึกบัญชีผลแตกต่างค่าใช้จ่ายการผลิต ค่าใช้จ่ายการผลิตทำหน้าที่ในการเปลี่ยนสภาพวัตถุดิบทางตรงให้เป็นสินค้าสำเร็จรูป การวิเคราะห์ผลแตกต่างเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายการผลิต การวิเคราะห์ผลแตกต่างเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายการผลิต เป้นผลแตกต่างระหว่างค่าใช้จ่ายในการผลิตจริงกับ ค่าใช้จ่ายในการผลิตคิดเข้างาน ผลแตกต่างค่าใช้จ่ายการผลิต=ค่าใช้จ่ายการผลิต-ค่าใช้จ่ายการผลิตคิดเข้างาน ผลแตกต่างการผลิตคงที่= ค่าใช้จ่ายการผลิตคงที่-ค่าใช้จ่ายการผลิตคงที่คิดเข้างาน การวิเคราะห์ผลแตกต่างค่าใช้จ่ายการผลิต มีดังนี้ 1.การวิเคราะห์ผลแตกต่างเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายการผลิตแบบ 2 อย่าง ได้แก่ 1.1 ผลแตกต่างเกี่ยวกับงบประมาณ 1.2 ผลแตกต่างเกี่ยวกับกำลังการผลิต


47 แผนการจัดการเรียนรู้มุ่งเน้นสมรรถนะ หน่วยที่ 7 ชื่อหน่วย ต้นทุนมาตรฐาน ค่าใช้จ่ายการผลิต สอนครั้งที่ 15- 16 ชั่วโมงรวม 12 จำนวนชั่วโมง 12 2. การวิเคราะห์ผลแตกต่างเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายการผลิตแบบ 3 อย่าง ได้แก่ 2.1 ผลแตกต่างเกี่ยวกับการจ่ายเงิน 2.2 ผลแตกต่างเกี่ยวกับประสิทธิภาพ 2.3 ผลแตกต่างเกี่ยวกับกำลังการผลิต 3. การวิเคราะห์ผลแตกต่างเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายการผลิตแบบ 4 อย่าง ได้แก่ 3.1 ผลแตกต่างเกี่ยวกับการจ่ายเงิน 3.2 ผลแตกต่างเกี่ยวกับประสิทธิภาพ 3.3 ผลแตกต่างเกี่ยวกับงบประมาณ 3.4 ผลแตกต่างเกี่ยวกับกำลังการผลิต 1.การวิเคราะห์ผลแตกต่างเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายการผลิตแบบ 2 อย่าง ได้แก่ 1.1 ผลแตกต่างเกี่ยวกับงบประมาณ เป็นผลแตกต่างระหว่างค่าใช้จ่ายการผลิตคงที่เกิดขึ้นจริงกับ ค่าใช้จ่ายการผลิตคงที่ ตามงบประมาณยืดหยุ่น ณ ระดับกำลังการผลิตตามมาตรฐานที่กำหนด ผลแตกต่างงบประมาณ=ค่าใช้จ่ายในการผลิตคงที่-ค่าใช้จ่ายในการผลิตคงที่ตามงบประมาณ ค่าใช้จ่ายในการผลิตคงที่ คือ ค่าใช้จ่ายในการผลิตคงที่ที่เกิดขึ้นจริง สามารถวัดมูลค่าเป็นตัวเงินได้ ค่าใช้จ่ายในการผลิตคงที่ตามงบประมาณ คือ ค่าใช้จ่ายการผลิตคงที่ที่กำหนดจากงบประมาณยืดหยุ่น ณ กำลัง การผลิตที่มีประสิทธิภาพ ผลแตกต่างเกี่ยวกับกำลังการผลิต เป็นผลแตกต่างระหว่างค่าใช้จ่ายการผลิตคงที่ตามงบประมาณกับค่าใช้จ่าย การผลิตคงที่คิดเข้างานตามมาตรฐาน ผลแตกต่างเกี่ยวกับกำลังการผลิต = ค่าใช้จ่ายการผลิตคงที่ตามงบประมาณ - ค่าใช้จ่ายการผลิตคงที่คิดเข้างาน 2. การวิเคราะห์ผลแตกต่างเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายการผลิตแบบ 3 อย่าง การวิเคราะห์ผลแตกต่างเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายการผลิตแบบ 3 อย่าง เป็นการวิเคราะห์ผลแตกต่างที่เกิด จากค่าใช้จ่ายการผลิตผันแปร และค่าใช้จ่ายการผลิตคงที่ ได้แก่ 2.1 ผลแตกต่างเกี่ยวกับการจ่ายเงิน(Overhead Spending Variance = OSV) เป็นผลแตกต่าง ระหว่างค่าใช้จ่ายการผลิตที่เกิดขึ้นจริง กับงบประมาณการผลิต ณ กำลังการผลิตจริง หรือ ชั่วโมงจริง ผลแตกต่างเกี่ยวกับการจ่ายเงิน = ค่าใช้จ่ายการผลิตที่เกิดขึ้นจริง - งบประมาณการผลิต ณ กำลังการผลิตจริง หรือ ชั่วโมงจริง SOV = (FC+VC) –(FC ตามงบประมาณ +AH x SR (oH-vc) ค่าใช้จ่ายการผลิตที่เกิดขึ้นจริง ประกอบด้วย ค่าใช้จ่ายการผลิตคงที่ และค่าใช้จ่ายผันแปร


48 แผนการจัดการเรียนรู้มุ่งเน้นสมรรถนะ หน่วยที่ 7 ชื่อหน่วย ต้นทุนมาตรฐาน ค่าใช้จ่ายการผลิต สอนครั้งที่ 15- 16 ชั่วโมงรวม 12 จำนวนชั่วโมง 12 2.2 ผลแตกต่างเกี่ยวกับประสิทธิภาพ(Overhead efficiency Variance = OEV) เป็นการวิเคราะห์ เกี่ยวกับประสิทธิภาพในการทำงานของคนงาน ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายในการผลิตผันแปร ผลแตกต่างโดยการนำ ชั่วโมงการทำงานจริง คูณ ด้วยอัตราค่าใช้จ่ายการผลิตผันแปรตามมาตรฐานและชั่วโมงมาตรฐานการทำงาน คูณ อัตราค่าใช้จ่ายการผลิตผันแปรตามาตรฐาน งบประมาณการผลิต ณ กำลังการผลิตจริง หรือ ชั่วโมงจริง หมายถึง ค่าใช้จ่ายการผลิตผันแปร ณ ชั่วโมงจริง คูณ ด้วยอัตราค่าใช้จ่ายการผลิตผันแปรมาตรฐานและค่าใช้จ่ายการผลิตคงที่ ณ กำลังการผลิตตามปกติตาม งบประมาณยืดหยุ่น ผลแตกต่างเกี่ยวกับประสิทธิภาพ = ค่าใช้จ่ายการผลิตผันแปร ณ ชั่วโมงจริง – ด้วยอัตราค่าใช้จ่ายการผลิตผัน แปร ณ มาตรฐาน OEV = (AHxSRoH-vc) - (SHxSRoH-vc) 2.3 ผลแตกต่างเกี่ยวกับกำลังการผลิต(Overhead Capacity Variance = OCV) เป็นผลแตกต่าง ค่าใช้จ่ายผลิตคงที่ตามงบประมาณ กับ ค่าใช้จ่ายการผลิตคงที่คิดเข้างานตามมาตรฐาน(1.2) 3. การวิเคราะห์ผลแตกต่างเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายการผลิตแบบ 4 อย่าง ได้แก่ 3.1 ผลแตกต่างจากค่าใช้จ่ายการผลิตคงที่ เป็นการวิเคราะห์ผลแตกต่างค่าใช้จ่ายการผลิตคงที่ที่เกิด ขึ้นกับค่าใช้จ่ายการผลิตคงที่มาตรฐาน ได้แก่ 1. ผลแตกต่างเกี่ยวกับงบประมาณเหมือน ข้อ 1.1 2. ผลแตกต่างเกี่ยวกับกำลังการผลิต ข้อ 1.2 3.2 ผลแตกต่างค่าใช้จ่ายการผลิตผันแปร เป็นผลแตกต่างค่าใช้จ่ายการผลิตผันแปรที่เกิดขึ้นจริง กับ ค่าใช้จ่ายการผลิตผันแปรตามมาตรฐาน ได้แก่ 1. ผลแตกต่างเกี่ยวกับการจ่ายเงิน 2. ผลแตกต่างเกี่ยวกับประสิทธิภาพ


49 แผนการจัดการเรียนรู้มุ่งเน้นสมรรถนะ หน่วยที่ 7 ชื่อหน่วย ต้นทุนมาตรฐาน ค่าใช้จ่ายการผลิต สอนครั้งที่ 15- 16 ชั่วโมงรวม 12 จำนวนชั่วโมง 12 ตัวอย่างที่ 1 บริษัทสา จำกัด ได้จัดทำงบประมาณยืดหยุ่น สำหรับเดือนมกราคม 2562 เพื่อเลือกระดับการผลิต ในการกำหนดอัตราค่าใช้จ่ายการผลิตมาตรฐาน กำลังการผลิต 60% 80% 100% ระดับการผลิต(หน่วย) 3,000 4,000 5,000 ช.ม.แรงงานทางตรง 6,000 8,000 10,000 ค่าใช้จ่ายการผลิตผันแปร วัตถุดิบทางอ้อม 1,800 2400 3000 0.30 ค่าแรงทางอ้อม 3,600 4800 6000 0.60 วัสดุโรงงานใช้ไป 1,800 2400 3000 0.30 ค่าซ่อมแซมเครื่องจักร 3,000 4000 5000 0.50 ค่ากำลังไฟฟ้า 4,500 6000 7500 0.75 ค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ด 300 400 500 0.05 รวมค่าใช้จ่ายการผลิตผันแปร 15,000 20,000 25,000 2.50 ค่าใช้จ่ายการผลิตคงที่ ค่าบำรุงรักษาเครื่องจักร 3,000 3,000 3,000 ค่าควบคุมตรวจตรา 22,000 22,000 22,000 ค่าเสื่อมราคา-เครื่องจักร 6,000 6,000 6,000 ค่าเสื่อมราคา-อุปกรณ์ 3,000 3,000 3,000 ค่าภาษีทรัพย์สิน 3,500 3,500 3,500 ค่าประกันโรงงาน 2,500 2,500 2,500 ค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ด 1,000 1,000 1,000 ค่าเช่าโรงงาน 7,000 7,000 7,000 รวมค่าใช้จ่ายคงที่ 48,000 48,000 48,000 รวมค่าใช้จ่ายการผลิต 63,000 68,000 73,000 ค่าใช้จ่ายการผลิตต่อช.ม.แรงงานทางตรง 10.50 บาท 8.50 บาท 7.30 บาท อัตราค่าใช้จ่ายการผลิตมาตรฐาน =ค่าใช้จ่ายการผลิตรวม/ช.ม.แรงงานทางตรง =68,000/8,000=8.50 บ/ช.ม.แรงงงานทางตรง อัตราค่าใช้จ่ายผลิตผันแปร =ค่าใช้จ่ายการผลิตผันแปร/ช.ม.แรงงานทางตรง


50 แผนการจัดการเรียนรู้มุ่งเน้นสมรรถนะ หน่วยที่ 7 ชื่อหน่วย ต้นทุนมาตรฐาน ค่าใช้จ่ายการผลิต สอนครั้งที่ 15- 16 ชั่วโมงรวม 12 จำนวนชั่วโมง 12 =20,000/8,000=2.50 บ/ช.ม.แรงงงานทางตรง อัตราค่าใช้จ่ายผลิตคงที่ =48,000/8,000=6 บาท/ช.ม.แรงงงานทางตรง ตัวอย่างที่2 บริษัท ร้อยดาว จำกัด กำหนดต้นทุนมาตรฐาน ในการผลิตสินค้าสำเร็จรูป 1 หน่วยดังนี้ วัตถุดิบทางตรง 50 ชิ้น ชิ้นละ 5 บาท=250 ค่าแรงทางตรง 2 ช.ม. ช.ม.ละ 20 บาท=40 ค่าใช้จ่ายในการผลิต ช.ม.ละ 2 บาท กำหนดอัตราค่าใช้จ่ายในการผลิต ณ ระดับปกติ 15,000 ช.ม. ซึ่งมีค่าใช้จ่ายการผลิตคงที่ ช.ม.ละ 0.50 บาท ค่าใช้จ่ายการผลิตผันแปร ช.ม.ละ 1.50 บาท ต้นทุนการผลิต เกิดขึ้นจริง ประกอบด้วย วัตถุดิบทางตรง 42,000 ชิ้นละ 5.25 บาท ค่าแรงงานทางตรง 14,500 ช.ม. ละ 19 บาท ค่าใช้จ่ายผลิตคงที่ 9,200 บาท ค่าใช้จ่ายผลิตผันแปร 21,200 บาท กิจการผลิตสินค้า 8,000 หน่วย จำนวนช.ม.แรงงานทางตรง 14,500 ช.ม. วิเคราะห์ค่าใช้จ่ายการผลิต ดังนี้ ช.ม.แรงงานมาตรฐาน = 8,000x2 = 16,000 ช.ม. ช.ม.แรงงานจริง =14,500 ช.ม. ช.ม.แรงงานตามงบประมาณ =15,000 ช.ม อัตราค่าใช้จ่ายการผลิตผันแปรตามมาตรฐาน =1.50 บาท อัตราค่าใช้จ่ายการผลิตคงที่ตามมาตรฐาน =0.50 บาท อัตราค่าใช้จ่ายการผลิตมาตรฐานรวม = 2 บาท อัตราค่าใช้จ่ายการผลิตคงที่ตามงบประมาณ = 15,000 บาท x 050 บาท = 7,500 บาท การวิเคราะห์ผลแตกต่าง 1 ทาง ดังนี้ ค่าใช้จ่ายการผลิตตามมาตรฐาน ค่าใช้จ่ายผลิตจ่ายจริง 16,000x2=(8,000x2x2) (9,200+21,200) 32,000 30,400 ผลแตกต่างรวม 1,600 F การวิเคราะห์ผลแตกต่าง 2 ทาง ดังนี้ ค่าใช้จ่ายการผลิตตามมาตรฐาน ค่าใช้จ่ายตามงบประมาณ ณ ช.ม.มาตรฐาน ค่าใช้จ่ายผลิตจ่ายจริง 16,000x2 (15,000x0.50)=7,500+24,000 (16,000x1.50) (9,200+21,200) 32,000 31,500 30,400


51 แผนการจัดการเรียนรู้มุ่งเน้นสมรรถนะ หน่วยที่ 7 ชื่อหน่วย ต้นทุนมาตรฐาน ค่าใช้จ่ายการผลิต สอนครั้งที่ 15- 16 ชั่วโมงรวม 12 จำนวนชั่วโมง 12 ผลต่างจำนวน 500 F ผลต่างควบคุมได้ 1,100 F ผลต่างรวม 1,600 F การวิเคราะห์ผลแตกต่าง 3 ทาง ดังนี้ ค่าใช้จ่ายการผลิตตามมาต ตามงปม ณช.ม.มาตรฐาน ตามงปมณ ช.ม.จ่ายจริง ค่าใช้จ่ายผลิต จ่ายจริง 16000x2 (15,000x0.50)+(16,000x1.50) (15,000x0.50)+(14,500x1.5) (9,200+21,200) 32,000 31,500 7,500+21,750=29,250 30,400 ผลต่างจำนวน500F ผลต่างประสิทธิภาพ 2,250 F ผลต่างการใช้จ่าย 1,150U 5. กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ 5.1 การนำเข้าสู่บทเรียน 5.1.1. ทบทวนความรู้จากบทที่ผ่านมา การปันส่วนต้นทุนให้ผลิตภัณฑ์หลัก 5.1.2. ครูบอกหัวข้อเรื่อง สมรรถนะการเรียนรู้ประจำหน่วย และจุดประสงค์ในการเรียนรู้ 5.1.3 ให้นักศึกษาทำแบบทดสอบก่อนเรียนเพื่อประเมินความรู้เดิมของนักศึกษา เรื่องการบัญชีต้นทุน มาตรฐาน ค่าใช้จ่ายการผลิต โดยเน้นให้นักศึกษามีความซื่อสัตย์ต่อตนเองไม่ดูเพื่อน 5.1.4 . เฉลยแบบประเมินผลให้นักศึกษาแลกกันตรวจกระดาษคำตอบของเพื่อน เพื่อบันทึกคะแนน ที่ทำได้ 5.2 การเรียนรู้ . 1. ครูตั้งคำถามให้นักศึกษาตอบ เรื่องลักษณะต้นทุนมาตรฐาน 2. ให้นักศึกษา ยกตัวอย่าง บอกประโยชน์ของต้นทุนมาตรฐาน 3. อธิบายการวิเคราะห์ผลแตกต่างค่าใช้จ่ายการผลิต ซึ่งเป็นการเปรียบเทียบระหว่างค่าใช้จ่ายการผลิต จริง ค่าใช้จ่ายการผลิตมาตรฐานและ ค่าใช้จ่ายการผลิตตามงบประมาณ 4. แบ่งกลุ่มนักศึกษากลุ่มละ 4 คน ในกลุ่มประกอบด้สย คนเก่ง ปานกลาง และพอใช้ อธิบายวิธีเรียนโดย ใช้กระบวนการกลุม ให้นักศึกษาทุกคนในกลุ่มศึกษาเนื้อหาที่กำหนด ให้สมาชิกในกลุ่มช่วยเหลือกัน คนที่เรียน เก่งคอยช่วยเหลือเพื่อน และเมื่อนักศึกษาเนื้อเรื่อง การบันทึกบัญชีการวิเคราะห์ผลแตกต่างค่าใช้จ่ายผลิต ให้ คนใดคนหนึ่งนำเสนดให้เพื่อนฟัง คอยให้ความช่วยเหลือเมื่อนักศึกษามีข้อสงสัย


52 แผนการจัดการเรียนรู้มุ่งเน้นสมรรถนะ หน่วยที่ 7 ชื่อหน่วย ต้นทุนมาตรฐาน ค่าใช้จ่ายการผลิต สอนครั้งที่ 15- 16 ชั่วโมงรวม 12 จำนวนชั่วโมง 12 5. สุ่มนักศึกษามาอธิบายการวิเคราะห์ผลแตกต่างค่าใช้จ่ายการผลิต และการบันทึกบัญชีต้นทุนมาตรฐาน 6. ครูและนักศึกษาร่วมกันอธิบายลักษณะะสำคัญ และการบันทึกบัญชีการวิเคราะห์ผลแตกต่างค่าใช้จ่าย การผลิตแบบ 1 ทาง 2 ทางและ 3 ทางจากโจทย์ที่กำหนดให้ 7. อธิบายสรุปลักษณะสำคัญต้นทุนมาตรฐาน และการบันทึกบัญชีการวิเคราะห์ผลแตกต่างค่าใช้จ่ายการ ผลิต 5.3 การสรุป 5.3.1ให้นักศึกษาสรุปลักษณะสำคัญต้นทุนมาตรฐาน และการบันทึกบัญชีการวิเคราะห์ผลแตกต่าง ค่าใช้จ่ายการผลิต 5.3.2 เปิดโอกาสให้ซักถาม 5.3.3 มอบหมายงานทำแบบฝึกหัด ต้นทุนมาตรฐาน ค่าใช้จ่ายการผลิต 5.4 การวัดและประเมินผล มีการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ เรื่อง ต้นทุนมาตรฐานค่าใช้จ่ายการผลิต โดยใช้เครื่องมือ ดังนี้ 1. แบบฝึกหัด เรื่อง ต้นทุนมาตรฐานค่าใช้จ่ายการผลิต จำนวน 6 ข้อ 2. แบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง ต้นทุนมาตรฐานค่าใช้จ่ายการผลิต จำนวน 10 ข้อ 3. การอภิปรายคำตอบหรือเนื้อหา เรื่อง การวิเคราะห์ความสัมพันธ์ ปริมาณ และกำไร 6. สื่อการเรียนรู้/แหล่งการเรียนรู้ 6.1 สื่อสิ่งพิมพ์ หนังสือบัญชีต้นทุน 2 วนิดา เกื้อกูล, สำนักพิมพ์เมืองไทย หนังสือบัญชีต้นทุน 2 ดวงมณี โกมารทัต โรงพิมพ์จุฬาลงกรณ์ หนังสือบัญชีต้นทุน ธัญญร ศรีวิเชียร โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยมหาสารคาม หนังสือการบัญชีบริหาร นภาภรณ์ พลนิกรกิจ ห้างหุ้นส่วนจำกัดอภิชาตการพิมพ์ หนังสือการบัญชีบริหาร สุปราณี ศุภระเศรณี ศูนย์หนังสือจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 6.2 สื่อโสตทัศน์ (ถ้ามี) - 6.3 หุ่นจำลองหรือของจริง (ถ้ามี) - 6.4 อื่นๆ (ถ้ามี) - แหล่งเรียนรู้ สำนักวิทยบริการ วิทยาลัยอาชีวศึกษามหาสารคาม - แหล่งเรียนรู้ ห้องสมุดภาควิชาการบัญชี วิทยาลัยอาชีวศึกษามหาสารคาม


53 แผนการจัดการเรียนรู้มุ่งเน้นสมรรถนะ หน่วยที่ 7 ชื่อหน่วย ต้นทุนมาตรฐาน ค่าใช้จ่ายการผลิต สอนครั้งที่ 15- 16 ชั่วโมงรวม 12 จำนวนชั่วโมง 12 7. เอกสารประกอบการจัดการเรียนรู้ (ใบความรู้ ใบงาน ใบมอบหมายงาน ฯลฯ) - ใบความรู้เรื่อง ต้นทุนมาตรฐาน ค่าใช้จ่ายการผลิต - ใบงานเรื่อง การวิเคราะห์ต้นทุนมาตรฐาน ค่าใช้จ่ายการผลิต 8. การบูรณาการ /ความสัมพันธ์กับวิชาอื่น - 9. การวัดและประเมินผล การวัดผล 9.1 ก่อนเรียน - แบบทดสอบก่อนเรียน โดยใช้ Google Form จำนวน 10 ข้อ 9.2 ขณะเรียน 9.2.1 กิจกรรมพัฒนาการเรียนรู้ เช่น การทำใบงาน ถาม-ตอบ 9.2.2 การสังเกตพฤติกรรมด้านจิตพิสัยรายบุคคล 9.2.3 การสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม 9.3 หลังเรียน แบบทดสอบหลังเรียน โดยใช้ Google Form จำนวน 20 ข้อ การประเมินผล ก่อนเรียน สังเกตจากแบบทดสอบก่อนเรียนหน่วยที่ 7 เรื่อง ความสัมพันธ์ของต้นทุน ปริมาณ และกำไร เกณฑ์การให้คะแนน : ถูก 1 ข้อ ได้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินการผ่านสมรรถนะ : คะแนนรวมเกินร้อยละ 50 ขณะเรียน 1. สังเกตพฤติกรรมรายบุคคลและรายกลุ่ม 2. สังเกตการณ์แสดงความคิดเห็น 3. ถาม-ตอบเป็นรายบุคคล 4. ตรวจแบบฝึกหัด หลังเรียน สังเกตจากแบบทดสอบหลังเรียนหน่วยที่ 7 เกณฑ์การให้คะแนน : ถูก 1 ข้อ ได้ 1 คะแนน


54 แผนการจัดการเรียนรู้มุ่งเน้นสมรรถนะ หน่วยที่ 7 ชื่อหน่วย ต้นทุนมาตรฐาน ค่าใช้จ่ายการผลิต สอนครั้งที่ 15- 16 ชั่วโมงรวม 12 จำนวนชั่วโมง 12 เกณฑ์การตัดสินการผ่านสมรรถนะ : คะแนนรวมเกินร้อยละ 50 10. บันทึกหลังสอน 10.1 ผลการใช้แผนการจัดการเรียนรู้ ............................................................................................................................. ................................................... ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................... ............................. ................................................................................................................................................................................ 10.2 ผลการเรียนรู้ของนักเรียน นักศึกษา ........................................................................................................ ........................................................................ ............................................................................................................................. ................................................... ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................... ............................. ................................................................................................................................................................................ 10.3 แนวทางการพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ ........................................................................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................................................... .....................................................................................................................................................................................................................


55 แผนการจัดการเรียนรู้มุ่งเน้นสมรรถนะ หน่วยที่ 7 ชื่อหน่วย ต้นทุนมาตรฐาน ค่าใช้จ่ายการผลิต สอนครั้งที่ 15- 16 ชั่วโมงรวม 12 จำนวนชั่วโมง 12 แบบทดสอบก่อนเรียน ข้อสอบปรนัย 10 ข้อ ให้เลือกคำตอบที่ถูกที่สุดเพียงข้อเดียว .1.ข้อใดคือผลแตกต่างระหว่างค่าใช้จ่ายการผลิตตามมาตรฐานกับค่าใช้จ่ายการผลิตตามงบประมาณ ณ ชั่วโมง มาตรฐาน ก. ผลแตกต่างเนื่องจากจำนวน ข. ผลแตกต่างประสิทธิภาพ ค. ผลแตกต่างเนื่องจากกำลังการผลิตว่างเปล่า ง. ผลแตกต่างการใช้จ่าย จ. ผลแตกต่างกำลังผลิต 2..ต้นทุนมาตรฐานมีความหมายตามข้อใด ก.การใช้ระบบต้นทุนปกติในการคำนวณต้นทุนการผลิตของสินค้า 1 หน่วย ข.การผลิตสินค้า 1 หน่วย ภายใต้กระบวนการผลิตที่มีประสิทธิภาพที่สุด ค.ต้นทุนที่ประมาณการไว้ในแผนการใช้จ่ายเงินของกิจการในช่วงระยะเวลาหนึ่งในอนาคต ง. การกำหนดต้นทุนการผลิตรวมของรวมของสินค้าที่ผลิตทั้งหมดในแต่ละงวด ภายใต้กระบวนการ ผลิตที่มีประสิทธิภาพที่สุด จ. ต้นทุนการผลิตสินค้า 1 หน่วย ที่กำหนดขึ้นล่วงหน้า ณ ระดับการผลิตที่กำหนดภายใต้กระบานการ ผลิตที่มีประสิทธิภาพที่สุด 3. ข้อใดคือผลแตกต่างระหว่างระหว่างค่าใช้จ่ายการผลิตตามงบประมาณ ณ ชั้วโมงจริงกับค่าใช้จ่ายการผลิต ตามงบประมาณ ณ ชั้วโมงมาตรฐาน ก. ผลแตกต่างเนื่องจากจำนวน ข. ผลแตกต่างประสิทธิภาพ ค. ผลแตกต่างเนื่องจากกำลังการผลิตว่างเปล่า ง. ผลแตกต่างการใช้จ่าย จ. ผลแตกต่างกำลังผลิต จงใช้ข้อมูลต่อไปนี้ตอบคำถามข้อ4-9 บริษัทชุมพล จำกัด มีข้อมูลเกี่ยวกับการผลิตดังนี้ - ระดับการผลิตปกติ 10,000 ชั่วโมง - ประมาณการค่าใช้จ่ายการผลิตคงที่ 5,000 บาท และค่าใช้จ่ายการผลิตผันแปร 10,000 บาท ข้อมูลที่เกิดขึ้นจริงมีดังนี้ ค่าใช้จ่ายการผลิต ประกอบด้วย - ค่าใช้จ่ายคงที่ 5,250 บาท - ค่าใช้จ่ายผันแปร 10,950 บาท จำนวนสินค้าสำเร็จรูปที่ผลิตได้ 5,100 บาท


56 แผนการจัดการเรียนรู้มุ่งเน้นสมรรถนะ หน่วยที่ 7 ชื่อหน่วย ต้นทุนมาตรฐาน ค่าใช้จ่ายการผลิต สอนครั้งที่ 15- 16 ชั่วโมงรวม 12 จำนวนชั่วโมง 12 - จำนวนชั่วโมงแรงงาน 9,500 ชั่วโมง กิจการกำหนดมาตรฐานสำหรับการผลิตสินค้า 1 หน่วย ไว้ดังนี้ - วัตถุดิบ 4 กิโลกรัม กิโลกรัมละ 5 บาท - ค่าแรงงาน 2 ชั่วโมง ชั่วโมงละ 28 บาท -ค่าใช้จ่ายการผลิต 2 ชั่วโมงๆ 1.50 บาท (อัตราค่าใช้จ่ายผลิตคงที่ ช.ม.ละ 0.50 บาท อัตราค่าใช้จ่าย ผลิตผันแปร ช.ม.ละ 1บาท) 4. ค่าใช้จ่ายการผลิตคงที่ตามงบประมาณเป็นจำนวนเงินเท่าไหร่ ก. 5,100 บาท ข. 10,000 บาท ค. 9,500 บาท ง .4,750 บาท จ. 5,000 บาท 5. ชั่วโมงมาตรฐานเป็นจำนวนเท่าไร ก.10,200 ช.ม. ข. 5,100 ช.ม. ค. 5,000 ช.ม. ง. 10,000 ช.ม. จ. 9,500 ช.ม. 6.ชั่วโมงงบประมาณเป็นจำนวนเท่าไร ก.10,200 ช.ม. ข. 5,100 ช.ม. ค. 5,000 ช.ม. ง.9,500 ช.ม. จ.10,000 ช.ม. 7.ค่าใช้จ่ายการผลิตตามมาตรฐานเป็นจำนวนเท่าไหร่ ก. 10,950 บาท ข.15,300 บาท ค. 16,200 บาท ง. 10,000 บาท จ.. 5,000 บาท 8. ผลแตกต่างที่ควบคุมได้เป็นจำนวนเท่าไหร่ ก. 1,000 U ข. 1,000F ค. 700 F ง.100F จ. 100U 9. ผลแตกต่างที่ควบคุมได้ ข้อ9. บันทึกบัญชีตามข้อใด ก. เดบิต ผลแตกต่างที่ควบคุมได้ 100 ข. เดบิต ผลแตกต่างที่ควบคุมได้ 700 ค. เครดิต ผลแตกต่างที่ควบคุมได้ 100 ง. เดบิต ผลแตกต่างที่ควบคุมได้ 1,000 จ. เครดิต ผลแตกต่างที่ควบคุมได้ 1,000


57 แผนการจัดการเรียนรู้มุ่งเน้นสมรรถนะ หน่วยที่ 7 ชื่อหน่วย ต้นทุนมาตรฐาน ค่าใช้จ่ายการผลิต สอนครั้งที่ 15- 16 ชั่วโมงรวม 12 จำนวนชั่วโมง 12 10.ข้อใดคือผลแตกต่างระหว่างค่าใช้จ่ายการผลิตจ่ายจริงกับค่าใช้จ่ายการผลิตตามงบประมาณ ณ ชั้วโมง มาตรฐาน ก. ผลแตกต่างเนื่องจากจำนวน ข. ผลแตกต่างประสิทธิภาพ ค. ผลแตกต่างเนื่องจากกำลังผลิตว่างเปล่า ง. ผลแตกต่างการใช้จ่าย จ.ผลแตกต่างกำลังผลิต แบบทดสอบหลังเรียนการบัญชีต้นทุน 2(บทที่7) ข้อสอบปรนัย 10 ข้อ ให้เลือกคำตอบที่ถูกที่สุดเพียงข้อเดียว 1.ต้นทุนมาตรฐานมีความหมายตามข้อใด ก.การใช้ระบบต้นทุนปกติในการคำนวณต้นทุนการผลิตของสินค้า 1 หน่วย ข.การผลิตสินค้า 1 หน่วย ภายใต้กระบวนการผลิตที่มีประสิทธิภาพที่สุด ค.ต้นทุนที่ประมาณการไว้ในแผนการใช้จ่ายเงินของกิจการในช่วงระยะเวลาหนึ่งในอนาคต ง. การกำหนดต้นทุนการผลิตรวมของรวมของสินค้าที่ผลิตทั้งหมดในแต่ละงวด ภายใต้กระบวนการ ผลิตที่มีประสิทธิภาพที่สุด จ. ต้นทุนการผลิตสินค้า 1 หน่วย ที่กำหนดขึ้นล่วงหน้า ณ ระดับการผลิตที่กำหนดภายใต้กระบานการ ผลิตที่มีประสิทธิภาพที่สุด 2.ข้อใดคือผลแตกต่างระหว่างค่าใช้จ่ายการผลิตตามมาตรฐานกับค่าใช้จ่ายการผลิตตามงบประมาณ ณ ชั่วโมง มาตรฐาน ก. ผลแตกต่างเนื่องจากจำนวน ข. ผลแตกต่างประสิทธิภาพ ค. ผลแตกต่างเนื่องจากกำลังการผลิตว่างเปล่า ง. ผลแตกต่างการใช้จ่าย จ. ผลแตกต่างกำลังผลิต 3. ข้อใดคือผลแตกต่างระหว่างค่าใช้จ่ายการผลิตจ่ายจริงกับค่าใช้จ่ายการผลิตตามงบประมาณ ณ ชั้วโมง มาตรฐาน ก. ผลแตกต่างเนื่องจากจำนวน ข. ผลแตกต่างประสิทธิภาพ ค. ผลแตกต่างเนื่องจากกำลังผลิตว่างเปล่า ง. ผลแตกต่างการใช้จ่าย จ.ผลแตกต่างกำลังผลิต 4. ข้อใดคือผลแตกต่างระหว่างระหว่างค่าใช้จ่ายการผลิตตามงบประมาณ ณ ชั้วโมงจริงกับค่าใช้จ่ายการผลิต ตามงบประมาณ ณ ชั้วโมงมาตรฐาน ก. ผลแตกต่างเนื่องจากจำนวน ข. ผลแตกต่างประสิทธิภาพ ค. ผลแตกต่างเนื่องจากกำลังการผลิตว่างเปล่า ง. ผลแตกต่างการใช้จ่าย


58 แผนการจัดการเรียนรู้มุ่งเน้นสมรรถนะ หน่วยที่ 7 ชื่อหน่วย ต้นทุนมาตรฐาน ค่าใช้จ่ายการผลิต สอนครั้งที่ 15- 16 ชั่วโมงรวม 12 จำนวนชั่วโมง 12 จ. ผลแตกต่างกำลังผลิต จงใช้ข้อมูลต่อไปนี้ตอบคำถามข้อ5-10 บริษัทชุมพล จำกัด มีข้อมูลเกี่ยวกับการผลิตดังนี้ - ระดับการผลิตปกติ 10,000 ชั่วโมง - ประมาณการค่าใช้จ่ายการผลิตคงที่ 5,000 บาท และค่าใช้จ่ายการผลิตผันแปร 10,000 บาท ข้อมูลที่เกิดขึ้นจริงมีดังนี้ ค่าใช้จ่ายการผลิต ประกอบด้วย - ค่าใช้จ่ายคงที่ 5,250 บาท - ค่าใช้จ่ายผันแปร 10,950 บาท จำนวนสินค้าสำเร็จรูปที่ผลิตได้ 5,100 บาท - จำนวนชั่วโมงแรงงาน 9,500 ชั่วโมง กิจการกำหนดมาตรฐานสำหรับการผลิตสินค้า 1 หน่วย ไว้ดังนี้ - วัตถุดิบ 4 กิโลกรัม กิโลกรัมละ 5 บาท - ค่าแรงงาน 2 ชั่วโมง ชั่วโมงละ 28 บาท -ค่าใช้จ่ายการผลิต 2 ชั่วโมงๆ 1.50 บาท (อัตราค่าใช้จ่ายผลิตคงที่ ช.ม.ละ 0.50 บาท อัตราค่าใช้จ่าย ผลิตผันแปร ช.ม.ละ 1บาท) 5. ค่าใช้จ่ายการผลิตคงที่ตามงบประมาณเป็นจำนวนเงินเท่าไหร่ ก. 5,100 บาท ข. 10,000 บาท ค. 9,500 บาท ง .4,750 บาท จ. 5,000 บาท 6. ชั่วโมงมาตรฐานเป็นจำนวนเท่าไร ก.10,200 ช.ม. ข. 5,100 ช.ม. ค. 5,000 ช.ม. ง. 10,000 ช.ม. จ. 9,500 ช.ม. 7.ชั่วโมงงบประมาณเป็นจำนวนเท่าไร ก.10,200 ช.ม. ข. 5,100 ช.ม. ค. 5,000 ช.ม. ง.9,500 ช.ม. จ.10,000 ช.ม. 8.ค่าใช้จ่ายการผลิตตามมาตรฐานเป็นจำนวนเท่าไหร่ ก. 10,950 บาท ข.15,300 บาท ค. 16,200 บาท ง. 10,000 บาท จ.. 5,000 บาท


59 แผนการจัดการเรียนรู้มุ่งเน้นสมรรถนะ หน่วยที่ 7 ชื่อหน่วย ต้นทุนมาตรฐาน ค่าใช้จ่ายการผลิต สอนครั้งที่ 15- 16 ชั่วโมงรวม 12 จำนวนชั่วโมง 12 9. ผลแตกต่างที่ควบคุมได้เป็นจำนวนเท่าไหร่ ก. 1,000 U ข. 1,000F ค. 700 F ง.100F จ. 100U 10. ผลแตกต่างที่ควบคุมได้ ข้อ9. บันทึกบัญชีตามข้อใด ก. เดบิต ผลแตกต่างที่ควบคุมได้ 100 ข. เดบิต ผลแตกต่างที่ควบคุมได้ 700 ค. เครดิต ผลแตกต่างที่ควบคุมได้ 100 ง. เดบิต ผลแตกต่างที่ควบคุมได้ 1,000 จ. เครดิต ผลแตกต่างที่ควบคุมได้ 1,000 เฉลย1.จ. 2.ค 3.ง. 4.ข. 5.จ. 6.ก. 7.จ 8.ข. 9.ก. 10.ง.


60 แผนการจัดการเรียนรู้มุ่งเน้นสมรรถนะ หน่วยที่ 8 ชื่อหน่วย การวิเคราะห์ต้นทุน ปริมาณ และกำไร สอนครั้งที่ 17- 18 ชั่วโมงรวม 12 จำนวนชั่วโมง 12 1. สาระสำคัญ การวางแผนกําไร (Profit Planning) เป็นหน้าที่ทางการบริหารที่สําคัญที่ผู้บริหารต้องให้ความ สนใจ เนื่องจากการวางแผนที่ดีจะช่วยให้กิจการสามารถบรรลุเป้าหมายกําไรสูงสุดได้อย่างมี ประสิทธิภาพมากขึ้นทั้งนี้ เครื่องมือหรือเทคนิคที่จะช่วยผู้บริหารในการวิเคราะห์เพื่อวางแผนกําไรได้ดีก็ คือ การวิเคราะห์ความสัมพันธ์ ระหว่างต้นทุน-ปริมาณ-กําไร (Cost-Volume-Profit Analysis) ซึ่งเป็น วิธีการวิเคราะห์ถึงผลกระทบที่จะเกิด ขึ้นกับกําไรเมื่อต้นทุนหรือปริมาณการขายมีการเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ เพื่อให้การวางแผนกําไรของผู้บริหารสามารถ กําหนดแนวทางในการจัดการกับต้นทุน รายได้ และกําไร ของกิจการได้ว่า กิจการต้องมีการผลิตและจําหน่าย สินค้าเป็นปริมาณเท่าไรและต้องจัดการกับต้นทุน อย่างไร กิจการจึงจะไม่ขาดทุนหรือจึงจะได้กําไรตาม เป้าหมายที่วางไว้ โดยหลักการพื้นฐานของการ วิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างต้นทุน-ปริมาณ-กําไร ก็คือ การ วิเคราะห์จุดคุ้มทุน (Break-even Point Analysis) ที่จะให้ข้อมูลที่สามารถนําไปประยุกต์ใช้กับการตัดสินใจ ทางการบริหารจัดการได้หลายด้าน คือ 1. กิจการต้องขายสินค้าเป็นจํานวนเท่าไร จึงจะคุ้มทุน 2. กิจการต้องขายสินค้าเป็นจํานวนเท่าไร จึงจะได้กําไรตามที่ต้องการ 3. กําไรของกิจการจะเป็นเท่าไร ถ้าราคาขายหรือปริมาณการขายเปลี่ยนแปลง 4. ส่วนผสมการขายควรจะเปลี่ยนแปลงอย่างไร กิจการจึงจะคุ้มทุนหรือมีกําไรตาม เป้าหมาย 5. ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงส่วนผสมการขาย จะกระทบกําไรของกิจการอย่างไร 2. สมรรถนะประจำหน่วย 2.1 แสดงความรู้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของต้นทุน ปริมาณ และกำไร 2.2 ปฏิบัติการตามกระบวนการความสัมพันธ์ของต้นทุน ปริมาณ และกำไร 2.3 วิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างต้นทุน จำนวน และกำไร 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 3.1 ด้านความรู้ 1. อธิบายลักษณะพฤติกรรมของต้นทุนได้ 2. วิเคราะห์และประมาณต้นทุนได้ 3. การวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของต้นทุน ปริมาณ และกำไร


61 แผนการจัดการเรียนรู้มุ่งเน้นสมรรถนะ หน่วยที่ 8 ชื่อหน่วย การวิเคราะห์ต้นทุน ปริมาณ และกำไร สอนครั้งที่ 17- 18 ชั่วโมงรวม 12 จำนวนชั่วโมง 12 3.2 ด้านทักษะ 3.2.1. วิเคราะห์และประมาณต้นทุนได้ 3.2.2 วิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างต้นทุน ปริมาณ และกำไรได้ 3.2.3 บันทึกบัญชีต้นทุน ปริมาณ และกำไร 3.3 คุณลักษณะที่พึงประสงค์(คุณธรรมจริยธรรม ค่านิยม และหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง) 3.3.1 ความรับผิดชอบ 3.3.2 ความตรงต่อเวลา 3.3.3. ความสนใจใฝ่รู้ 3.3.4 ความสามัคคี 3.3.5 ความมีวินัย 3.3.6 ความสุภาพ 3.3.7 ความประหยัด 4. เนื้อหาสาระการเรียนรู้(พอสังเขป) 1.ลักษณะพฤติกรรมของต้นทุน 2.การวิเคราะห์และประมาณต้นทุน 3.การวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างต้นทุน จำนวน และกำไร ลักษณะพฤติกรรมของต้นทุน 1 ต้นทุนผันแปร (Variable Costs) หมายถึง ต้นทุนที่จะมีต้นทุนรวมเปลี่ยนแปลงไปตามสัดส่วนของ การเปลี่ยนแปลงในระดับกิจกรรมหรือปริมาณการผลิต ในขณะที่ต้นทุนต่อหน่วยจะคงที่เท่ากันทุก ๆ หน่วย โดยทั่วไปแล้วต้นทุนผันแปรนี้จะสามารถควบคุมได้โดยแผนกหรือหน่วยงานที่ทำให้เกิดต้นทุนผันแปรนั้น 2 ต้นทุนคงที่ (Fixed Costs) คือ ต้นทุนที่มีพฤติกรรมคงที่ หมายถึง ต้นทุนรวมที่มิได้เปลี่ยนแปลงไป ตามระดับของการผลิตในช่วงของการผลิตระดับหนึ่ง แต่ต้นทุนคงที่ต่อหน่วยก็จะเปลี่ยนแปลงในทางลดลงถ้า ปริมาณการผลิตเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ต้นทุนคงที่ยังแบ่งออกเป็นต้นทุนคงที่อีก 2 ลักษณะ คือ ต้นทุนคงที่ ระยะยาว (Committed Fixed Cost) เป็นต้นทุนคงที่ที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ในระยะสั้น เช่น สัญญาเช่า ระยะยาว ค่าเสื่อมราคา เป็นต้น และต้นทุนคงที่ระยะสั้น (Discretionary Fixed Cost) จัดเป็นต้นทุนคงที่ที่ เกิดขึ้นเป็นครั้งคราวจากการประชุมหรือตัดสินใจของผู้บริหาร เช่น ค่าโฆษณา ค่าใช้จ่ายในการค้นคว้าและวิจัย เป็นต้น สำหรับในเชิงการบริหารแล้วต้นทุนคงที่ส่วนใหญ่มักจะควบคุมได้ด้วยผู้บริหารระดับสูงเท่านั้น


62 แผนการจัดการเรียนรู้มุ่งเน้นสมรรถนะ หน่วยที่ 8 ชื่อหน่วย การวิเคราะห์ต้นทุน ปริมาณ และกำไร สอนครั้งที่ 17- 18 ชั่วโมงรวม 12 จำนวนชั่วโมง 12 3. ต้นทุนผสม (Mixed Costs) หมายถึง ต้นทุนที่มีลักษณะของต้นทุนคงที่และต้นทุนผันแปรรวมอยู่ ด้วยกัน ในช่วงของการดำเนินกิจกรรมที่มีความหมายต่อการตัดสินใจ โดยต้นทุนผสมนี้จะแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ ต้นทุนกึ่งผันแปร และต้นทุนกึ่งคงที่ 3.1 ต้นทุนกึ่งผันแปร (Semi variable cost) หมายถึง ต้นทุนที่จะมีต้นทุนส่วนหนึ่งคงที่ทุกระดับ ของกิจกรรม และมีต้นทุนอีกส่วนหนึ่งจะผันแปรไปตามระดับของกิจกรรม เช่น ค่าโทรศัพท์ ค่าโทรสาร เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ในบางครั้งก็เป็นการยากที่จะระบุได้ว่าต้นทุนส่วนใดเป็นต้นทุนผันแปร ดังนั้นจึงจำเป็นต้องใช้ เทคนิคในการประมาณต้นทุนเข้ามาช่วยในการวิเคราะห์ ซึ่งเทคนิคในการประมาณต้นทุนจะได้ศึกษาต่อไปใน ส่วนของการบัญชีต้นทุนที่เกี่ยวกับการใช้ข้อมูลเพื่อการตัดสินใจ 3.2 ต้นทุนกึ่งคงที่ (Semi fixed cost) หมายถึง ต้นทุนที่จะมีจำนวนคงที่ ณ ระดับกิจกรรมหนึ่ง และจะเปลี่ยนไปคงที่ในอีกระดับกิจกรรมหนึ่ง เช่น เงินเดือน ผู้ควบคุมคนงาน ค่าเช่าบางลักษณะ เป็นต้น การวิเคราะห์และประมาณต้นทุน การนําความสัมพันธ์ของต้นทุน ปริมาณ กําไรมาใช้นั้น จําเป็นจะต้องจําแนกต้นทุนคงที่และต้นทุนผัน แปรออกอย่างชัดเจน ในกรณีที่ไม่สามารถจําแนกต้นทุนให้เป็นต้นทุนคงที่หรือต้นทุนผันแปรได้ทันทีอาจใช้ สมการทางคณิตศาสตร์มาช่วยในการจําแนกต้นทุนผสมที่มีลักษณะเป็นสมการเส้นตรง (y = a + bx) ได้ เทคนิค ที่ใช้มีหลายวิธีแต่ที่นิยมและง่ายต่อการใช้งานได้แก่ 1) วิธีสูง – ต่ำ (The High-low method) 2) วิธีแผนภาพ (The scatter graph method) และ 3) วิธีสมการถดถอยอย่างง่าย (Simple regression analysis) 1. วิธีสูง - ต่ำ (The High-low method) เป็นวิธีที่ใช้จําแนกต้นทุนคงที่และต้นทุนผันแปรออกจากต้นทุนผสม โดยใช้ข้อมูล 2 ข้อมูลต้นทุนผสม จากระดับกิจกรรมต่ำสุด และระดับกิจกรรมสูงสุด โดยคัดเลือกข้อมูลต้นทุนผสม ณ ระดับสูงสุด และต่ำสุดมา คํานวณอัตราต้นทุนผันแปร จากสมการ อัตราต้นทุนผันแปร = ต้นทุนผสม ณ ระดับกิจกรรมสงสด - ต้นทุนผสม ณ ระดับกิจกรรมต่ำสุด ระดับกิจกรรมสูงสุด - ระดับกิจกรรมต่ำสุด จากนั้นคํานวณหาต้นทุนคงที่ จากสมการ ต้นทุนคงที่ = ต้นทุนผสม ณ ระดับสูงสุด (หรือต่ำสุด) - ต้นทุนผันแปร ณ ระดับสูงสุด (หรือต่ำสุด)


63 แผนการจัดการเรียนรู้มุ่งเน้นสมรรถนะ หน่วยที่ 8 ชื่อหน่วย การวิเคราะห์ต้นทุน ปริมาณ และกำไร สอนครั้งที่ 17- 18 ชั่วโมงรวม 12 จำนวนชั่วโมง 12 ตัวอย่าง บริษัท คานารักษ์ จํากัด กําลังวิเคราะห์และจําแนกต้นทุนค่าบํารุงรักษาเครื่องจักร โดยค่า บํารุงรักษา เครื่องจักรจะมีความสัมพันธ์กับจํานวนหน่วยผลิตในลักษณะสมการเส้นตรง บริษัทฯ จึงนําข้อมูลที่ เกิดขึ้น ในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมาทําการวิเคราะห์และจําแนก ดังนี้ เดือน จํานวนผลิต (หน่วย) ต้นทุนรวม (บาท) มกราคม 1,000 44,000 กุมภาพันธ์ 1,500 47,000 มีนาคม 2,100 61,500 เมษายน 1,800 59,000 พฤษภาคม 750 31,125 ระดับกิจกรรมสูงสุดคือเดือนมีนาคม และระดับกิจกรรมต่ำสุดคือเดือนพฤษภาคม เมื่อนําข้อมูลมา คํานวณอัตรา ต้นทุนผันแปร เป็นดังนี้ อัตราต้นทุนผันแปร = ต้นทุนผสม ณ ระดับกิจกรรมสูงสุด – ต้นทุนผสม ณ ระดับกิจกรรมต่ำสุด ระดับกิจกรรมสงสด – ระดับกิจกรรมต่ำสุด


64 แผนการจัดการเรียนรู้มุ่งเน้นสมรรถนะ หน่วยที่ 8 ชื่อหน่วย การวิเคราะห์ต้นทุน ปริมาณ และกำไร สอนครั้งที่ 17- 18 ชั่วโมงรวม 12 จำนวนชั่วโมง 12 การวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างต้นทุน ปริมาณ และกำไร การวิเคราะห์ต้นทุน ปริมาณ และกําไร เป็นเครื่องมือที่สําคัญอย่างหนึ่งที่ฝ่ายบริหารขององค์กรนํามาใช้ ในการวางแผนและตัดสินใจ ซึ่งการวางแผนกําไร (Profit planning) นับเป็นงานหนึ่งที่ผู้บริหารจะต้องสนใจและ ให้ ความความสําคัญ การวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างต้นทุน ปริมาณ และกําไร (Cost-volume-profit analysis) จึง เป็นวิธีการวิเคราะห์เพื่อนํามาใช้ในการวางแผนกําไร นอกจากนี้ ยังช่วยในการตัดสินใจของฝ่ายบริหารในการ วางแผนการดําเนินงานระยะสั้นได้เป็นอย่างดี เช่น การหาปริมาณขายที่คุ้มทุน การกําหนดราคาสินค้า การ กําหนดส่วนผสมการขายสินค้า เป็นต้น ในการดําเนินงานขององค์กรฝ่ายบริหารมักจะพบกับการตัดสินใจในปัญหาต่าง ๆ เช่น ควรจะกําหนด ราคาสินค้าเท่าไร ควรจะขายสินค้าในปริมาณเท่าไร จึงจะทําให้กิจการคุ้มทุน หรือถ้าราคาสินค้าเปลี่ยนแปลงไป จากเดิมควรจะขายสินค้าให้ได้เท่าไรจึงจะไม่ขาดทุน เป็นต้น ซึ่งการนําเทคนิคการวิเคราะห์เกี่ยวกับการ เปลี่ยนแปลงในราคา ปริมาณ และกําไร มาใช้จะช่วยให้การวางแผนกําไรขององค์กรเป็นไปตามเป้าหมายที่ กําหนดไว้ ปัจจัยที่เกี่ยวข้องในการวางแผนกําไร คือ ราคาขาย (Price) ปริมาณ (Quantity) ต้นทุนคงที่ (Fixed Cost) ต้นทุนผันแปร (Variable Cost) และสัดส่วนของการขายผลิตภัณฑ์ ปัจจัยดังกล่าวข้างต้นจะมีผลกระทบ โดยตรงต่อ


65 แผนการจัดการเรียนรู้มุ่งเน้นสมรรถนะ หน่วยที่ 8 ชื่อหน่วย การวิเคราะห์ต้นทุน ปริมาณ และกำไร สอนครั้งที่ 17- 18 ชั่วโมงรวม 12 จำนวนชั่วโมง 12 กําไรสุทธิขององค์กร ดังนั้น หากปัจจัยเหล่านี้เปลี่ยนแปลงไปกําไรที่กิจการต้องการย่อมเปลี่ยนแปลง ตามไป ด้วย ข้อสมมติฐาน และกําไรส่วนเกิน ในการวิเคราะห์ต้นทุน ปริมาณ และกําไร จะวิเคราะห์ภายใต้ข้อสมมติฐาน ดังนี้ 1. ต้นทุนต้องสามารถแยกได้เป็นต้นทุนคงที่หรือต้นทุนผันแปร หากมีต้นทุนผสม (Mixed Costs) ต้อง สามารถแยกต้นทุน เป็นต้นทุนคงที่ และต้นทุนผันแปรได้ 2. รายได้และต้นทุนมีความสัมพันธ์ที่เป็นเส้นตรงตลอดช่วงที่มีความหมาย (Relevant range) ในช่วงที่ มีความหมายนี้ ไม่ว่าจะผลิตหรือจําหน่ายในปริมาณเท่าไร ต้นทุนผันแปรต่อหน่วย ต้นทุนคงที่ และราคาขายต่อ หน่วยจะไม่เปลี่ยนแปลง 3. ระดับของสินค้าคงเหลือต้นงวดและปลายงวดไม่มีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งในการวิเคราะห์จะสมมติให้ ปริมาณการขายเท่ากับปริมาณการผลิตพอดี 4. สัดส่วนการขายจะคงที่ในทุกระดับการขาย กรณีที่ขายสินค้าหลายชนิด เช่น ขายสินค้า 2 ชนิด คือ สินค้า ก และสินค้า ข ซึ่งเมื่อขายสินค้า ก ได้ 1 หน่วย จะขายสินค้า ข ได้ 3 หน่วยเสมอ เป็นต้น 5. ต้นทุนจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับปริมาณเพียงปัจจัยเดียว ซึ่งในความเป็นจริงต้นทุนไม่ได้ขึ้นอยู่กับ ปริมาณเพียงอย่างเดียวเพราะยังมีปัจจัยอื่นอีกที่มีผลกระทบต่อต้นทุน เช่น การเปลี่ยนแปลงกรรมวิธีการผลิต การขาดแคลนวัตถุดิบ เป็นต้น การวิเคราะห์เกี่ยวกับกําไรส่วนเกิน (Contribution margins) เป็นการวิเคราะห์เพื่อหาส่วนเกินระหว่าง ยอดขายหรือรายได้กับต้นทุนผันแปรที่จะไปชดเชยต้นทุนคงที่ ซึ่งเป็นต้นทุนประเภทหนึ่งที่เกิดขึ้นในกิจการ และ หากรายได้ส่วนเกินที่ได้สามารถชดเชยต้นทุนคงที่แล้ว รายได้ส่วนเกินที่เหลือก็คือส่วนที่เป็นกําไรให้กับ กิจการ การแสดงความสัมพันธ์ดังกล่าวเป็นลักษณะการแสดงข้อมูลเสนอต่อฝ่ายบริหารของกิจการ (Internal financial report) ตามระบบต้นทุนผันแปร (Variable costing) เพื่อนําไปใช้ในการตัดสินใจเกี่ยวกับการ วางแผนทางด้าน กําไรและการวิเคราะห์จุดคุ้มทุนของกิจการ การวิเคราะห์เกี่ยวกับกําไรส่วนเกินสามารถพิจารณาได้จากกําไรส่วนเกินรวม กําไรส่วนเกินต่อหน่วย และอัตรากําไรส่วนเกินซึ่งฝ่ายบริหารสามารถนําข้อมูลเกี่ยวกับกําไรส่วนเกินไปใช้ในการตัดสินใจในการ ดําเนินงานได้ ดังนี้ 1. กําไรส่วนเกินรวม (Total contribution margin) การวิเคราะห์กําไรส่วนเกินรวม เป็นการวิเคราะห์ เพื่อพิจารณาในลักษณะภาพรวม ซึ่งสามารถคํานวณได้จาก ยอดขาย – ต้นทุนผันแปรวม = กําไรส่วนเกิน กําไรส่วนเกิน = ยอดขาย – ต้นทุนผันแปรรวม


66 แผนการจัดการเรียนรู้มุ่งเน้นสมรรถนะ หน่วยที่ 8 ชื่อหน่วย การวิเคราะห์ต้นทุน ปริมาณ และกำไร สอนครั้งที่ 17- 18 ชั่วโมงรวม 12 จำนวนชั่วโมง 12 2. กําไรส่วนเกินต่อหน่วย (Unit contribution margin) การวิเคราะห์กําไรส่วนเกินต่อหน่วย เป็น การ วิเคราะห์เพื่อพิจารณาว่า ในการขายสินค้า 1 หน่วย หลังจากหักจากต้นทุนผันแปรต่อหน่วยแล้วจะมีกําไร ส่วนเกินที่เหลือนําไปชดเชยต้นทุนคงที่ได้เท่าไร หรือต้องขายสินค้าที่หน่วยจึงจะทําให้มีกําไรส่วนเกินเพียง พอที่จะชดเชยต้นทุนคงที่ทั้งหมดได้ ซึ่งสามารถคํานวณได้จาก ราคาขายต่อหน่วย – ต้นผันแปรต่อหน่วย = กําไรส่วนเกินต่อหน่วย กําไรส่วนเกินต่อหน่วย = ราคาขายต่อหน่วย - ต้นทุนผันแปรต่อหน่วย 3. อัตรากําไรส่วนเกิน (Contribution margin ratio) การวิเคราะห์อัตรากําไรส่วนเกินเป็นการ เปรียบเทียบกําไรส่วนเกินที่เกิดขึ้นว่าเป็นร้อยละเท่าไรของยอดขาย ซึ่งสามารถคํานวณได้ 2 วิธี ดังนี้ 1) การคํานวณหาอัตรากําไรส่วนเกินโดยใช้ยอดขายและต้นทุนผันแปรรวม อัตรากําไรส่วนเกิน = ยอดขาย - ต้นทุนผันแปรรวม ยอดขาย = กําไรส่วนเกินรวม ยอดขาย 2) การคํานวณหาอัตรากําไรส่วนเกิน โดยใช้ราคาขายต่อหน่วยและต้นทุนผันแปรต่อหน่วย อัตรากําไรส่วนเกิน = ราคาขายต่อหน่วย - ต้นทุนผันแปรต่อหน่วย ราคาขายต่อหน่วย = กำไรส่วนเกินต่อหน่วย ราคาขายต่อหน่าย ตัวอย่าง บริษ อภิรักษ์ จํากัด ขายสินค้าจํานวน 10,000 หน่วย ราคาขายหน่วยละ 450 บาท มี รายละเอียด ต้นทุนดังนี้ ต้นทุนการผลิต วัตถุดิบ 150 บาทต่อหน่วย ค่าแรงงานทางตรง 100 บาทต่อหน่วย ค่าใช้จ่ายการผลิตผันแปร 50 บาทต่อหน่วย ค่าใช้จ่ายการผลิตคงที่ 200,000 บาท ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร ค่าใช้จ่ายผันแปร 50 บาทต่อหน่วย ค่าใช้จ่ายคงที่ 250,000 บาท แสดงการคํานวณหากําไรส่วนเกินในลักษณะต่างๆ ได้ดังนี้


67 แผนการจัดการเรียนรู้มุ่งเน้นสมรรถนะ หน่วยที่ 8 ชื่อหน่วย การวิเคราะห์ต้นทุน ปริมาณ และกำไร สอนครั้งที่ 17- 18 ชั่วโมงรวม 12 จำนวนชั่วโมง 12 กําไรส่วนเกินต่อหน่วย = ราคาขายต่อหน่วย - ต้นทุนผันแปรต่อหน่วย = 450 - 350 = 100 บาทต่อหน่วย กําไรส่วนเกินรวม = ยอดขาย - ต้นทุนผันแปรรวม = (10,000 x 450) - (10,000 x 350) = 1,000,000 บาท หรือ กําไรส่วนเกินรวม = กําไรส่วนเกินต่อหน่วย x จํานวนหน่วยที่ขาย = 100 บาทต่อหน่วย x 10,000 หน่วย = 1,000,000 บาท อัตรากําไรส่วนเกิน ใช้ยอดขายและต้นทุนผันแปรรวม = ยอดขาย - ต้นทุนผันแปรรวม ยอดขาย = 4,500,000 - 3,500,000 4,500,000 = 0.2222 หรือ 22.22 % หรือ ใช้ราคาขาย -ต้นทุนผันแปรต่อหน่วย = ราคาขายต่อหน่วย - ต้นทุนผันแปรต่อหน่วย ราคาขายต่อหน่วย = 450 - 350 450 = 0.2222 หรือ 22.22 % การวิเคราะห์จุดคุ้มทุน การวิเคราะห์จุดคุ้มทุน เป็นการวิเคราะห์ถึงความสัมพันธ์ของค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับต้นทุนสินค้า จํานวน สินค้าที่ขาย และกําไรจากการขายสินค้าเพื่อดูว่ากิจการจะต้องผลิตและขายสินค้าเป็นจํานวนเท่าใดจึงจะคุ้มทุน พอดี ซึ่งจํานวนหน่วยของสินค้าที่ขายหรือปริมาณยอดขายจะทําให้ยอดขายหรือรายได้ของกิจการเท่ากับต้นทุน ที่เกิดขึ้นทั้งหมดพอดี เรียกว่า “จุดคุ้มทุน” (Break even point) ซึ่งช่วยให้ผู้บริหารสามารถตัดสินใจได้ เนื่องจาก เมื่อสามารถจําหน่ายได้สูงกว่านี้ไปกําไรจะเกิดขึ้น และถ้าขายยังไม่ถึงจุดนี้ก็จะเกิดการขาดทุน ผู้บริหารอาจใช้ จุดคุ้มทุนเป็นพื้นฐานในการตัดสินใจเกี่ยวกับการกําหนดราคาขาย ปริมาณขาย และกําไรได้ ซึ่งถ้าหาก ตั้งราคา ขายให้สูงขึ้นจุดคุ้มทุนก็จะเกิดขึ้นเร็ว หรือถ้าต้องการกําไรจํานวนหนึ่ง ควรจะผลิตและขายสินค้าเป็น


68 แผนการจัดการเรียนรู้มุ่งเน้นสมรรถนะ หน่วยที่ 8 ชื่อหน่วย การวิเคราะห์ต้นทุน ปริมาณ และกำไร สอนครั้งที่ 17- 18 ชั่วโมงรวม 12 จำนวนชั่วโมง 12 จํานวน เท่าไร ในการคํานวณหาจุดคุ้มทุนนั้นจะมีปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ราคาขาย ต้นทุนผันแปร ต้นทุนคงที่ จํานวน สินค้าที่ขาย และสัดส่วนของการขายสินค้า ทั้งนี้สามารถวิเคราะห์ได้หลายลักษณะ ดังนี้ การวิเคราะห์จุดคุ้มทุนด้วยแผนภูมิ การวิเคราะห์จุดคุ้มทุนด้วยแผนภูมิ เป็นการวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่าง ต้นทุน ปริมาณ และกําไร โดย แสดงออกมาในลักษณะของแผนภูมิหรือกราฟ ที่แสดงให้เห็นถึงรายได้หรือยอดขาย ต้นทุนรวม และกําไรที่ จะ เกิดขึ้น ณ ระดับปริมาณการขาย โดยการกําหนดให้แกนตั้งแสดงระดับของจํานวนเงิน และแกนนอนแสดง ระดับของปริมาณการขาย ในแผนภูมิจะประกอบด้วยเส้นรายได้รวม (ยอดขาย) และเส้นต้นทุนรวม โดยที่เส้น ต้นทุนรวมนี้จะได้จากเส้นต้นทุนผันแปรรวมกับเส้นต้นทุนคงที่ ซึ่งการใช้แผนภูมิแสดงความสัมพันธ์ของต้นทุน ปริมาณ และกําไรนี้เป็นวิธีแบบหยาบ ตัวอย่าง บริษัท พรนุรักษ์ จํากัด ผลิตและขายสินค้า โดยมีข้อมูลเกี่ยวกับ ต้นทุนและการขาย ดังนี้ ราคาขาย 30 บาทต่อหน่วย ต้นทุนผันแปร 18 บาทต่อหน่วย ต้นทุนคงที่รวม 24,000 บาท หน่วยขาย ยอดขาย ต้นทุนผันแปร ต้นทุนคงที่ รวมต้นทุน กำไรสุทธิ 500 15,000 9,000 24,000 33,000 -18,000 1,000 30,000 18,000 24,000 42,000 -12,000 1,500 45,000 27,000 24,000 51,000 -6,000 2,000 60,000 36,000 24,000 60,000 0 2,500 75,000 45,000 24,000 69,000 6,000 3,000 90,000 54,000 24,000 78,000 12,000


69 แผนการจัดการเรียนรู้มุ่งเน้นสมรรถนะ หน่วยที่ 8 ชื่อหน่วย การวิเคราะห์ต้นทุน ปริมาณ และกำไร สอนครั้งที่ 17- 18 ชั่วโมงรวม 12 จำนวนชั่วโมง 12 จากกราฟจะพบว่าจุดคุ้มทุน คือ จุดที่เส้นรายได้รวมตัดกับเส้นต้นทุนรวม ซึ่งมียอด ขาย 60,000 บาท หรือปริมาณ 2,000 หน่วย โดยที่เส้นรายได้รวมจะมีความชัน (Slope) เท่ากับราคาขายของสินค้าแต่ละหน่วย คือ 30 บาท (การขายสินค้าเพิ่มขึ้น 1 หน่วย จํานวนเงินเพิ่มขึ้น 30 บาท) เส้นต้นทุนผันแปรก็จะมีความชัน เท่ากับ ต้นทุนผันแปรต่อหน่วย คือ 18 บาท ซึ่งจุดที่เส้นรายได้รวมตัดกับเส้นต้นทุนรวมก็คือ จุดคุ้มทุน นั่นคือ จุดที่ ปริมาณการขายมีรายได้รวมเท่ากับต้นทุนรวมพอดี ส่วนของพื้นที่ที่อยู่สูงกว่าจุดคุ้มทุน คือ ส่วนที่เกิดกําไร ซึ่งมี กําไร 12 บาทต่อหน่วย (30 – 18) และส่วนของพื้นที่ที่อยู่ต่ํากว่าจุดคุ้มทุน คือ ส่วนที่เกิดขาดทุน จากแผนภูมิสามารถอ่านค่าได้ว่าจุดคุ้มทุน คือ 60,000 บาท (จากการลากเส้นตรงจากจุดคุ้มทุนไปยัง แกนตั้ง) และปริมาณขาย ณ จุดคุ้มทุน คือ 2,000 หน่วย (จากการลากเส้นตรงจากจุดคุ้มทุนไปยังแกนนอน) หมายความว่า บริษัทจะต้องขายให้ได้ปริมาณดังกล่าวจึงจะไม่ขาดทุนหรือเท่าทุนพอดี พิสูจน์ได้ดังนี้ ขาย (2,000 หน่วย x 30) 60,000 บาท หัก ต้นทุนผันแปร (2,000 x 18) 36,000 บาท กําไรส่วนเกิน 24,000 บาท หัก ต้นทุนคงที่ 24,000 บาท กําไรก่อนภาษี 0 บาท หากต้องการทราบถึงส่วนที่เป็นต้นทุนผันแปร ก็คือ ช่วงห่างระหว่างเส้นต้นทุนรวมกับเส้นต้นทุนคงที่ นั่นเองนอกจากนี้ อาจแสดงด้วยกราฟ ปริมาณและกําไรได้อีกวิธีหนึ่ง ซึ่งเป็นวิธีที่จะช่วยให้ฝ่ายบริหาร สามารถ มองเห็นแนวทาง ที่จะนําไปใช้ในการวางแผนกําไรของกิจการได้ชัดเจนขึ้น ดังภาพที่ 2.6


70 แผนการจัดการเรียนรู้มุ่งเน้นสมรรถนะ หน่วยที่ 8 ชื่อหน่วย การวิเคราะห์ต้นทุน ปริมาณ และกำไร สอนครั้งที่ 17- 18 ชั่วโมงรวม 12 จำนวนชั่วโมง 12 5. กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ 5.1 การนำเข้าสู่บทเรียน - ให้นักศึกษาทำแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยที่ 8 5.2 การเรียนรู้ . 1. ครูให้นักศึกษาอ่านเนื้อหาสาระเรื่องความหมายของต้นทุนผันแปร ต้นทุนคงที่ ต้นทุนกึ่งผันแปรและ ต้นทุนกึ่งคงที่ บันทึกสาระสำคัญในสมุดแบบฝึกปฏิบัติ 2. ครูและนักศึกษาร่วมกันอภิปรายสาระสำคัญที่บันทึกพร้อมให้คะแนนครูสังเกตพฤติกรรมการเรียน รายบุคคล 3. ให้นักศึกษาศึกษาสูตรการวิเคราะห์ต้นทุนที่ใช้ในการแยกต้นทุนรวมออกเป็นต้นทุนคงที่และต้นทุนผัน แปร บันทึกสาระสำคัญ 4. ครูและนักศึกษาร่วมกันอภิปรายสาระสำคัญที่บันทึก พร้อมให้คะแนน 5. ให้นักศึกษาศึกษาตัวอย่าง บริษัทชุมพรอุตสาหกรรม จำกัด จากประมวลสาระเกี่ยวกับการวิเคราะห์ ต้นทุนวิธีสูง-ต่ำ และบันทึกสาระในสมุดแบบฝึกปฏิบัติ 6. ครูและนักศึกษาร่วมกันอภิปรายสาระสำคัญที่บันทึกและ จากตัวอย่างการวิเคราะห์วิธีสูง-ต่ำ ของบริษัท ชุมพรอุตสาหกรรม จำกัด โดยครูเป็นผู้ตั้งคำถามเกี่ยวกับเนื้อหาที่ศึกษาให้นักศึกษาตอบ พร้อมให้คะแนน 7. ให้นักศึกษาศึกษาตัวอย่าง บริษัทชุมพรอุตสาหกรรม จำกัด จากเนื้อหาสาระเกี่ยวกับการวิเคราะห์ ต้นทุนวิธีสมการถดถอยและบันทึกสาระในสมุดแบบฝึกปฏิบัติ


71 แผนการจัดการเรียนรู้มุ่งเน้นสมรรถนะ หน่วยที่ 8 ชื่อหน่วย การวิเคราะห์ต้นทุน ปริมาณ และกำไร สอนครั้งที่ 17- 18 ชั่วโมงรวม 12 จำนวนชั่วโมง 12 8. ครูและนักศึกษาร่วมกันอภิปรายสาระสำคัญที่บันทึกและ จากตัวอย่างการวิเคราะห์วิธีสมการถดถอย ของ บริษัทชุมพรอุตสาหกรรม จำกัด โดยครูเป็นผู้ตั้งคำถามเกี่ยวกับเนื้อหาที่ศึกษาให้นักศึกษาตอบ พร้อมให้ คะแนน 5.3 การสรุป ครูอธิบายสรุปเนื้อหาที่นักศึกษาศึกษาจากเนื้อหาสาระทั้งหมด พร้อมซักถามนักศึกษาเป็นรายบุคคล 5.4 การวัดและประเมินผล มีการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ เรื่อง ต้นทุนมาตรฐานค่าใช้จ่ายการผลิต โดยใช้เครื่องมือ ดังนี้ 1. แบบฝึกหัด เรื่อง ต้นทุนมาตรฐานค่าใช้จ่ายการผลิต จำนวน 6 ข้อ 2. แบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง ต้นทุนมาตรฐานค่าใช้จ่ายการผลิต จำนวน 10 ข้อ 3. การอภิปรายคำตอบหรือเนื้อหา เรื่อง การวิเคราะห์ความสัมพันธ์ ปริมาณ และกำไร 6. สื่อการเรียนรู้/แหล่งการเรียนรู้ 6.1 สื่อสิ่งพิมพ์ หนังสือบัญชีต้นทุน 2 วนิดา เกื้อกูล, สำนักพิมพ์เมืองไทย หนังสือบัญชีต้นทุน 2 ดวงมณี โกมารทัต โรงพิมพ์จุฬาลงกรณ์ หนังสือบัญชีต้นทุน ธัญญร ศรีวิเชียร โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยมหาสารคาม หนังสือการบัญชีบริหาร นภาภรณ์ พลนิกรกิจ ห้างหุ้นส่วนจำกัดอภิชาตการพิมพ์ หนังสือการบัญชีบริหาร สุปราณี ศุภระเศรณี ศูนย์หนังสือจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 6.2 สื่อโสตทัศน์ (ถ้ามี) - 6.3 หุ่นจำลองหรือของจริง (ถ้ามี) - 6.4 อื่นๆ (ถ้ามี) - แหล่งเรียนรู้ สำนักวิทยบริการ วิทยาลัยอาชีวศึกษามหาสารคาม - แหล่งเรียนรู้ ห้องสมุดภาควิชาการบัญชี วิทยาลัยอาชีวศึกษามหาสารคาม 7. เอกสารประกอบการจัดการเรียนรู้ (ใบความรู้ ใบงาน ใบมอบหมายงาน ฯลฯ) - ใบความรู้เรื่อง การวิเคราะห์ความสัมพันธ์ ปริมาณ และกำไร - ใบงานเรื่อง การวิเคราะห์ความสัมพันธ์ ปริมาณ และกำไร


72 แผนการจัดการเรียนรู้มุ่งเน้นสมรรถนะ หน่วยที่ 8 ชื่อหน่วย การวิเคราะห์ต้นทุน ปริมาณ และกำไร สอนครั้งที่ 17- 18 ชั่วโมงรวม 12 จำนวนชั่วโมง 12 8. การบูรณาการ /ความสัมพันธ์กับวิชาอื่น - 9. การวัดและประเมินผล การวัดผล 9.1 ก่อนเรียน - แบบทดสอบก่อนเรียน โดยใช้ Google Form จำนวน 10 ข้อ 9.2 ขณะเรียน 9.2.1 กิจกรรมพัฒนาการเรียนรู้ เช่น การทำใบงาน ถาม-ตอบ 9.2.2 การสังเกตพฤติกรรมด้านจิตพิสัยรายบุคคล 9.2.3 การสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม 9.3 หลังเรียน แบบทดสอบหลังเรียน โดยใช้ Google Form จำนวน 20 ข้อ การประเมินผล ก่อนเรียน สังเกตจากแบบทดสอบก่อนเรียนหน่วยที่ 7 เรื่อง ความสัมพันธ์ของต้นทุน ปริมาณ และกำไร เกณฑ์การให้คะแนน : ถูก 1 ข้อ ได้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินการผ่านสมรรถนะ : คะแนนรวมเกินร้อยละ 50 ขณะเรียน 5. สังเกตพฤติกรรมรายบุคคลและรายกลุ่ม 6. สังเกตการณ์แสดงความคิดเห็น 7. ถาม-ตอบเป็นรายบุคคล 8. ตรวจแบบฝึกหัด หลังเรียน สังเกตจากแบบทดสอบหลักงเรียนหน่วยที่ 6 เรื่อง เกณฑ์การให้คะแนน : ถูก 1 ข้อ ได้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินการผ่านสมรรถนะ : คะแนนรวมเกินร้อยละ 50


73 แผนการจัดการเรียนรู้มุ่งเน้นสมรรถนะ หน่วยที่ 8 ชื่อหน่วย การวิเคราะห์ต้นทุน ปริมาณ และกำไร สอนครั้งที่ 17- 18 ชั่วโมงรวม 12 จำนวนชั่วโมง 12 10. บันทึกหลังสอน 10.1 ผลการใช้แผนการจัดการเรียนรู้ ............................................................................................................................. ................................................... ...................................................................................................................................................... .......................... ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................... ............................. ...................................................................................................................................... .......................................... 10.2 ผลการเรียนรู้ของนักเรียน นักศึกษา ............................................................................................................................................................................. ... ............................................................................................................................. ................................................... ................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................. ................... ................................................................................................................ ................................................................ 10.3 แนวทางการพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ ............................................................................................................................. ................................................... ............................................................................................................................. ................................................... ...............................................................................................................................................................................


74 แผนการจัดการเรียนรู้มุ่งเน้นสมรรถนะ หน่วยที่ 8 ชื่อหน่วย การวิเคราะห์ต้นทุน ปริมาณ และกำไร สอนครั้งที่ 17- 18 ชั่วโมงรวม 12 จำนวนชั่วโมง 12 ใบงานการบัญชีต้นทุน เรื่องจุดคุ้มทุน 1. จงเติมตัวเลขในช่องว่างให้ถูกทุกต้อง จากข้อมูลที่ให้มาเพื่อหาจุดคุ้มทุน ยอดขาย ราคาขาย/หน่วย ต้นทุนผันแปร/หน่วย ต้นทุนคงที่ กำไรส่วนเกิน/หน่วย อัตรากำไรส่วนเกิน% ก............... 50 25 50,000 ……………… ………………… ข. 6,000 60 .………. …..……. 30 ………………… ค. .......... .................. 45 60,000 15 ...................... ง............ 80 20 30,000 …………. ………………….. จ. 20,000 100 ………….. ….………. 40 ………………….. 2. ต่อไปเป็นข้อมูลต้นทุนค่าซ่อมแซมรถทัวร์ ที่เกิดขึ้นของบริษัท ปลอดภัยทัวร์ จำกัด ที่ดำเนินกิจการบริการ ท่องเที่ยวในช่วง 6 เดือนแรกของปี 25x1 เป็นดังนี้ ให้ทำ : 1. ใช้วิธี High – Low ประมาณต้นทุนผันแปรต่อหน่วยระยะทาง 1 กิโลเมตร และต้นทุนคงที่ร่วมต่อ เดือน 2. เขียนสมการของพฤติกรรมต้นทุนตามตารางค่าซ่อมแซมรถทัวร์ของบริษัท ปลอดภัยทัวร์ จำกัด 3. ประมาณการค่าซ่อมแซมรถทัวร์ถ้าในระหว่างเดือน รถทัวร์จะใช้ในการเดินทาง 20,000 กิโลเมตร เดือน ระยะทาง (กม.) ค่าซ่อมแซมรถทัวร์ (บาท) ม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. มิ.ย. 14,000 12,000 10,000 15,000 9,000 7,000 13,400 11,750 10,400 14,900 9,150 7,500


75


Click to View FlipBook Version