The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองเเดง

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by plagly43, 2024-03-19 04:12:35

กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองเเดง

กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองเเดง

กาพย์ห่อโคลง ประพาสธารทองแดง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2


กาพย์ห่อโคลง ประพาสธารทองแดง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2


ความเป็นมา เจ้าฟ้าธรรมธิเบศรไชยเชษฐสุริยวงศ์ทรง พระนิพนธ์กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดงขึ้นใน โอกาสตามเสด็จสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ พระราชบิดา ไปนมัสกาพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี โดยเสด็จทางชลมารคออกจากอยุธยาไปตามแม่น้้า ลพบุรี ไปขึ้นที่ท่าเจ้าสนุก แล้วเสด็จทางสถลมารค ไปตามถนนส่องกล้องจนถึงพระพุทธบาท


ความเป็นมา ขณะที่ประทับอยู่ที่พระพุทธบาทได้เสด็จประพาสธารทองแดง พระนิพนธ์ที่เกี่ยวกับการเสด็จไปพระพุทธบาทของเจ้าฟ้าธรรมธิเบศร จึงมี 2 ตอน คือ ตอนที่ 1 เป็นกาพย์เห่เรือ เป็นการพรรณนาช่วงที่ เสด็จทางชลมารค และกาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง เป็น การพรรณนาช่วงที่เสด็จประพาสธารทองแดง ซึ่งเป็นธารน้้าใน บริเวณเขาพระพุทธบาท


จุดมุ่งหมายการแต่ง เพื่อความเพลิดเพลินในการชมธรรมชาติ ระหว่างการเดินทาง ไปพระพุทธบาทที่จังหวัดสระบุรี


ประวัติผู้แต่ง เจ้าฟ้าธรรมธิเบศรไชยเชษฐ์สุริยวงศ์ มีพระนามที่เรียก กันเป็นสามัญว่า “เจ้าฟ้ากุ้ง” เป็นพระราชโอรสองค์ใหญ่ ในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศแสะสมเด็จพระพันวสาใหญ่ เมื่อสมเด็จพระชนกนาถสวยราชย์แล้ว โปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาพระองค์ขึ้นเป็นเจ้าฟ้าต่างกรม พระนามว่า เจ้าฟ้ากรมขุนเสนาพิทักษ์


ลักษณะค้าประพันธ์ เจ้าฟ้าธรรมธิเบศรทรงพระนิพนธ์เป็นกาพย์ห่อโคลง คือ ใช้กาพย์ยานี หนึ่งบท ซึ่งมี 4 วรรค สลับกับโคลงสี่สุภาพหนึ่งบท มี 4 บาท เนื้อความ กาพย์ในแต่ละวรรค บรรจุลงในโคลงแต่ละบท ตามล้าดับและเกือบทุกบท ของโคลง ค้าต้นบาทของโคลงมักจะเป็นค้าต้นวรรคของกาพย์


ลักษณะค้าประพันธ์ กาพย์ยานี 11 โคลงสี่สุภาพ


กาพย์ห่อโคลง


ลักษณะค้าประพันธ์ เครื่องสูงเพราเพริศพราย ชมชุมสายซ้ายขวาเคียง ธงไชยธงฉานเรียง ปี่กลองชนะตะเต่องครึม กลองทองตีครุ่มครึ้ม เดินเรียง ท้าตะเติงเติงเสียง ครุ่มครื้น เสียงปี่รี่เรื่อยเพียง การเวก แตร้นแตร่นแตรฝรั่งขึ้น หวู่หวู้เสียงสังข์


กาพย์ห่อโคลงประพาสธาร ทองแดง เรื่องย่อ กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง ด้าเนินเรื่องตามแบบฉบับ ของนิราศ คือ พรรณนาถึงการเดินทาง แต่ไม่ได้คร่้าครวญถึง การพลัดพรากจากนางอันเป็นที่รัก เนื้อเรื่องพรรณนาการตามเสด็จ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศทางสถลมารคไปนมัสการรอยพระพุทธบาท จากท่าเจ้าสนุก ผ่านต้าบลธารทองแดง ซึ่งมีธารน้้าเล็ก ๆ สายหนึ่งชื่อ ว่า “ธารทองแดง” อันเป็นที่ตั้งของพระต้าหนักธารเกษมที่ประทับของ พระเจ้าแผ่นดิน จนกระทั่งถึงเขาพระพุทธบาท ปัจจุบันอยู่ในเขตอ้าเภอ พระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี


กาพย์ห่อโคลงประพาสธาร ทองแดง เรื่องย่อ การด้าเนินเรื่องเริ่มด้วยการพรรณนาชมขบวนเสด็จ จากนั้นชมสัตว์ นานาชนิด ทั้งสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม สัตว์ปีก สัตว์น้้า และพรรณไม้สกุลต่าง ๆ ในลักษณะธรรมชาติศึกษา สะท้อนภาพความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ ในที่นี้คัดมาให้นักเรียนได้เรียนเพียง 24 บท เริ่มด้วยการพรรณนา ลักกษณะของขบวนเสด็จซึ่งอยู่ตอนต้นเรื่อง จ้านวน 4 บท พรรณนาสัตว์บก และสัตว์น้้า จ้านวน 17 บท ส้าหรับตอนท้ายเรื่อง บอกพระประวัติและ พระประสงค์ในการประพันธ์ จ้านวน 3 บท


เนื้อเรื่อง ประพาสธารทองแดง กาพย์ห่อโคลง


เที่ยวเล่นเป็นเกษมสุข แสนสิ่งสนุกปลุกใจหวัง เร่ร่ายผายผาดผัง หัวริกรื่นชื่นชมไพร สนุกเกษมเปรมหน้าเหลือบ ลืมหลัง แสนสนุกปลุกใจหวัง วิ่งหรี้ เดินร่ายผายผันยัง ชายป่า หัวร่อรื่นชื่นชี้ ส่องนิ้วชวนแล จากค าประพันธ์ หมายถึง การเที่ยวเล่นในครั้งนี้เป็นการเที่ยวที่มีความสุข สนุกสนานและตื่นเต้นมาก จนท าให้ลืมเรื่องต่าง ๆ ที่ผ่านมา ทุกคนเดินอย่าง รวดเร็วไปยังชายป่า ส่งเสียงหัวเราะต่อกระซิกกันอย่างรื่นเริง และต่างก็ชี้ชวนให้ ชมธรรมชาติ อันสวยงาม


จากค าประพันธ์ หมายถึง เลียงผาอยู่บนภูเขา มีรูปร่างคล้ายแพะ หนวด คล้ายพู่ดูงดงาม มีเขาแบนปลายเขาโค้งไปข้างหน้า ขนหยาบและมีกลิ่นเหม็นสาบ อย่างรุนแรงเช่นเดียวกับแพะ เลียงผาอยู่ภูเขา หนวดพรายเพราเขาแปล้ปลาย รูปร่างอย่างแพะหมาย ขนเหม็นสาบหยาบเหมือนกัน เลียงผาอยู่พ่างพื้น ภูเขา หนวดพู่ดูเพราเขา ไปล่ท้าย รูปร่างอย่างแพะเอา มาเปรียบ ขนเหม็นสาบหยาบร้าย กลิ่นกล้าเหมือนกัน


จากค าประพันธ์ หมายถึง กระจงเป็นสัตว์ที่มีตัวขนาดเล็ก วิ่งไปมาดูน่ารัก น่าเอ็นดู มีตาหูและตีนกีบเหมือนกวาง มีเขี้ยวน้อยสีขาว 2 เขี้ยว แต่ไม่มีเขา กระจงกระจิดเตี้ย วิ่งเรี่ยเรี่ยน่าเอ็นดู เหมือนกวางอย่างตาหู มีเขี้ยวน้อยสร้อยแนมสอง กระจงกระจิดหน้า เอ็นดู เดินร่อยเรี่ยงามตรู กระจ้อย เหมือนกวางอย่างตาหู ตีนกีบ มีเคี่ยวขาวน้อยช้อย แนบข้างเคียงสอง


จากค าประพันธ์ หมายถึง ฝูงลิงทั้งตัวเล็กตัวใหญ่พากันขย่มต้นมะม่วงอยู่ ยวบยาบ ฝูงชะนีร้องกู่หาคู่ของมัน ฝูงค่างก็กระโดดไปมาระหว่างต้นไม้ ฝูงลิงต่าง พากันร้องตะคอกเสียงครอกแครก พร้อมทั้งกระโดดไล่ไขว่คว้ากันบนปลายต้นยาง ฝูงลิงใหญ่น้อยกระจุ้ย ชะนีอุ่ยอุ้ยร้องหา ฝูงค่างหว่างพฤกษา ค่างโจนไล่ไขว่ปลายยาง ฝูงลิงยวบยาบต้น พวาหนา ฝูงชะนีมี่กู่หา เปล่าข้าง ฝูงค่างหว่างพฤกษา มาสู่ ครอกแครกไล่ไขว่คว้าง โลดเลี้ยวโจนปลิว


จากค าประพันธ์ หมายถึง งูเขียวตัวเป็นเงามันแสดงท่าเหมือนพ่นพิษ ถูก ตุ๊กแกคาบไว้ ในขณะเดียวกันงูเขียวก็รัดตุ๊กแกจนต้องอ้าปาก และเข้าไปล้วงตับ ตุ๊กแกกินเป็นอาหาร งูเขียวรัดตุ๊กแก ตุ๊กแกแก่คางแข็งขยัน กัดงูงูยิ่งพัน อ้าปากง่วงล้วงตับกิน งูเขียวแลเหลื้อมพ่น พิษพลัน ตุ๊กแกคางแข็งขยัน คาบไว้ กัดงูงูเร่งพัน ขนดเครียด ปากอ้างูจึงได้ ลากล้วงตับกิน


จากค าประพันธ์ หมายถึง นกยูงทองย่องเยื้องย่าง แล้วร าแพนหางเชิดหน้า ขึ้น เห็นปากงอนอ่อนช้อย แสดงอาการร าเล่นด้วยการยกปีกขึ้นป้องตามเพลง ยูงทองย่องเยื้องย่าง ร้ารางชางช่างฟ่ายหาง ปากหงอนอ่อนส้าอาง ช่างร้าเล่นเต้นตามกัน ยูงทองย่องย่างเยื้อง ร้าฉวาง รายร่ายฟ่ายเฟื่องหาง เฉิดหน้า ร้าเล่นเต้นงามหง้า ปีกป้องเป็นเพลง


จากค าประพันธ์ หมายถึง ไก่ฟ้าหน้าสุกใสมีปากแหลม หัวมีสีแดง ก าลัง แทงเดือยขึ้นมา ปีกหางและล าตัวมีลวดลายงามเหมือนอย่างคนแกล้งแต่งสี ให้มัน ไก่ฟ้าอ้าสดแสง หัวสุกแดงแทงเดือยแนม ปีกหางต่างสีแกม สีแต้มต่างอย่างวาดเขียน ไก่ฟ้าหน้าก่้ากล้า ปากแหลม หัวแดงเดือยแนม เนื่องแข้ง ปีกหางต่างสีแกม ลายลวด ตัวด่างอย่างคนแกล้ง แต่งแต้มขีดเขียน


จากค าประพันธ์ หมายถึง มองเห็นหนูจะเข้าไปในรูงู งูจึงขู่หนูเสียงฟู่ ๆ งูจึงสู้กับหนู หนูก็สู้กับงู อย่างเต็มก าลัง สัตว์ทั้งสองต่างก็รู้เชิงซึ่งกันและกัน ขณะต่อสู้ต่างท าหน้ามู่ทู่ใส่กัน ดูหนูสู่รูงู งูสุดสู้หนูสู้งู หนูงูสู้ดูอยู่ รูปงูทู่หนูมูทู ดูงูขู่ฝูดฝู้ พรูพรู หนูสู่รูงูงู สุดสู้ งูสู้หนูหนูสู้ งูอยู่ หนูรู้งูงูรู้ รูปถู้มูทู


จากค าประพันธ์ หมายถึง นกแก้วร้องแจ้ว ๆ เร่หาคู่ โดยเข้าไปใกล้หมู่ นกสาลิกา ส่วนนกกระตั้ว 2 ตัวผัวเมียก าลังสมสู่กันอยู่ ในขณะที่นกสัตวา จะต้องฝ่านกแขกเต้าเข้าไปหานกโนรี ซึ่งเป็นพวกพ้องของมัน นกแก้วแจ้วเสียงใส คลอไคล้คู่หมู่สาลิกา นกตั้วผัวเมียคลา ฝ่าแขกเต้าเหล่าโนรี นกแก้วแจ้วรี่ร้อง เร่หา ใกล้คู่หมู่สาลิกา แวดเคล้า นกตั้วผัวเมียมา สมสู่ สัตวาฝ่าแขกเต้า พวกพ้องโนรี


จากค าประพันธ์ หมายถึง ต้นซ้องนางคลี่ และสไบนางสีดา ต่างก็ยื่น เลื้อยห้อยลงมา แต่ค่าคบไม้น้อยใหญ่ เมื่อยามลมพัดจะแกว่งไปมาดูสวยงาม นัก กระจายสยายซร้องนาง ผ้าสไบบางนางสีดา ห่อห้อยย้อยลงมา แต่ค่าไม้ใหญ่สูงงาม กระจายสยายคลี่ซร้อง นงพงา สไบบางนางสีดา ห่อห้อย ยื่นเลื้อยเฟื้อยลงมา โบยโบก แต่ค่าไม้ใหญ่น้อย แกว่งเยื้องไปมา


จากค าประพันธ์ หมายถึง เถาหัวลิง ต้นหมากลิง และลิงบางตัวก็ขั้นต้น หูลิงท าหน้าหลอกคู่ของมัน บ้างก็ขึ้นไต่กระไดลิงขย่มเล่น บ้างก็ตะโกนฉวย ชมพู่คว้ามาฉีกเล่นตามภาษาลิง หัวลิงหมากลางลิง ต้นลางลิงแลหูลิง ลิงไต่กระไดลิง ลิงโลดคว้าประสาลิง หัวลิงหมากเรียกไม้ ลางลิง ลางลิงหูลิงลิง หลอกขู้ ลิงไต่กระไดลิง ลิงห่ม ลิงโลดฉวยชมผู้ ฉีกคว้าประสาลิง


จากค าประพันธ์ หมายถึง น้ าในล าธารใสสะอาดไหลรินมา หมู่ปลา นานาชนิด ต่างหากันว่ายไปมา กินจอกและสาหร่าย โดยว่ายตามกันมา เป็นหมู่ ๆ และผุดให้เห็นตัวด้วย ธารไหลใสสะอาด มัจฉาชาติดาษนานา หวั่นว่ายกินไคลคลา ตามกันมาให้เห็นตัว ธารไหลใสสะอาดน้้า รินมา มัจฉาชาตินานา หวั่นหว้าย จอกสร่ายกินไคลคลา เชยหมู่ ตามคู่มาคล้ายคล้าย ผุดให้เห็นตัว


กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง คุณค่าที่ได้รับ 1. คุณค่าในด้านธรรมชาติวิทยา กาพย์ห่อโคลง ประพาสธารทองแดงได้ให้ความรู้ในทางธรรมชาติวิทยา โดยเฉพาะ เรื่องสัตว์และต้นไม้ วรรณคดีเรื่องนี้นับเป็นต้าราทางพฤกษาศาสตร์และ สัตวศาสตร์ได้ โดยได้ให้ความรู้เกี่ยวกับสัตว์ต่าง ๆ และพันธุ์ไม้ต่าง ๆ ที่มีอยู่ในเมืองไทยอย่างละเอียดละออ บางอย่างที่หายาก ไม่เคยได้ยินได้ รู้ ก็ได้มารู้กันเมื่อได้อ่านได้ศึกษา กวีได้บรรยายรายละเอียดต่างๆ ทั้ง ชื่อ รูปร่าง ลักษณะ ขนาด สี เสียง พฤติกรรม และกลิ่นด้วย นอกจากนี้ยังบอกอาการอันเป็นธรรมชาติของสัตว์ ตัวอย่างเช่น


จากค าประพันธ์ จะเห็นได้ว่ากวีให้ความรู้เกี่ยวกับเลียงผาว่าเป็นสัตว์ที่อาศัย อยู่แถบเขตภูเขา มีรูปร่างคล้ายแพะ หนวดคล้ายพู่ มีเขาแบนปลายเขาโค้งไป ข้างหน้า ขนหยาบและมีกลิ่นเหม็นสาบอย่างรุนแรงเช่นเดียวกับแพะ ถือได้ว่า ผู้อ่านได้ความรู้ในด้านธรรมชาติวิทยาเกี่ยวกับสัตว์อย่างชัดเจน เลียงผาอยู่พ่างพื้น ภูเขา หนวดพู่ดูเพราเขา ไปล่ท้าย รูปร่างอย่างแพะเอา มาเปรียบ ขนเหม็นสาบหยาบร้าย กลิ่นกล้าเหมือนกัน คุณค่าที่ได้รับ


กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง คุณค่าที่ได้รับ 2. คุณค่าในด้านวรรณศิลป์ การเดินความหรือการใช้ ค้าเนื้อความในแต่ละบทสร้างจินตภาพได้อย่างแจ่มชัด เลือกสรรค้ามา ใช้ได้เหมาะกับเนื้อความและเสียง การพรรณนาท้าได้อย่างแจ่มแจ้งจับใจ บอกรูปพรรณสัณฐานสัตว์อย่างชัดเจน บอกให้รู้ถึงความเป็นอยู่ของสัตว์ ประหนึ่งว่าผู้อ่านได้เห็นตัวจริงของสัตว์นั้น ๆ ซึ่งบทประพันธ์ส่วนมากจะ เอาชื่อสัตว์มาเรียงกัน หรือบอกลักษณะอาการเหมือนสิ่งไม่มีชีวิต มีการ พรรณนาการใช้เสียงธรรมชาติของสัตว์นั้น ๆได้อย่างเด่นชัดที่สุด ตัวอย่างเช่น


จากตัวอย่างค าประพันธ์จะเห็นได้ว่ากวีสะท้อนด้านการใช้วรรณศิลป์ด้วยการ เล่นสัมผัสสระทุกค า คือสระ อู ท าให้บทประพันธ์มีความไพเราะ แปลกใหม่มาก ยิ่งขึ้น และผู้อ่านอาจรู้สึกสนุกเวลาอ่านเพราะต้องท ารูปปากกลมในการอ่านออก เสียงสระอูอยู่ตลอดเวลา ดูหนูสู่รูงู งูสุดสู้หนูสู้งู หนูงูสู้ดูอยู่ รูปงูทู่หนูมูทู ดูงูขู่ฝูดฝู้ พรูพรู หนูสู่รูงูงู สุดสู้ งูสู้หนูหนูสู้ งูอยู่ หนูรู้งูงูรู้ รูปถู้มูทู คุณค่าที่ได้รับ


กาพย์ห่อโคลง ประพาสธารทองแดง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จบ……


Click to View FlipBook Version