The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Punz Phatnari, 2023-06-21 00:02:47

ชีวภาค

ชีวภาค

ชีวภาค (BLOSPHERE) คืออะไร?


คำ นำ รายงานเล่มนี้จัดทำ ขึ้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของวิชา ภูมิศาสตร์ เพื่อให้ได้ศึกษาหาความรู้ ในเรื่องชีว ภาคและได้ศึกษาอย่างเข้าใจเพื่อเป็น ประโยชน์กับการเรียน ผู้จัดทำ หวังว่า รายงานเล่มนี้จะเป็นประ โยชน์กับผู้ อ่าน หรือนักเรียน นักศึกษาที่กำ ลังหาข้อมูลเรื่องนี้ อยู่ หากมีข้อแนะนำ หรือข้อผิดพลาดประการใดผู้ จัดทำ ขอน้อน้มรับไว้และขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย คณะผู้จัดทำ


สารบัญ ระบบชีวนิเวศ ความหลากหลายทางชีวภาพ 1 ความหลากหลายในชนิดของสิ่งมีชีวิต 2 ความหลากหลายทางชีวนิเวศวิทยา แหล่งอ้างอิง หน้าน้ 1 6 6 7 เรื่อง 10


4.1 ระบบชีวนิเวศ ระบบนิเวศบนโลกมีหลายรูปแบบขึ้นอยู่กับลักษณะ ภูมิประเทศและภูมิอากาศของแต่ละท้องถิ่น ซึ่งมีผลต่อ สิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในบริเวณนั้น ๆ ระบบนิเวศของสิ่งมี ชีวิตในแต่ละพื้นที่ เรียกว่า ชีวนิเวศ หรือไบโอม (biomes) จากแผนที่แสดงเขตชีวนิเวศแบ่งเป็น 9 กลุ่มใหญ่ ๆ ซึ่ง ความแตกต่างของสภาพอากาศ และลักษณะพื้นที่ใน แต่ละภูมิภาคของโลก ทำ ให้เกิดระบบนิเวศหรือถิ่นที่อยู่ อาศัยของสิ่งมีชีวิต ที่แตกต่างกัน สิ่งมีชีวิตแต่ละพื้นที่ ได้ผ่านการคัดสรรตามธรรมชาติในกระบวนการ วิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต เช่น เขตร้อนชื้นแถบ ศูนย์สูตรหรือเขตร้อนซึ่งเป็นเขตที่มีความสำ คัญอย่าง ยิ่งในเรื่องความหลากหลายทางชีวภาค เช่น ป่าป่แอมะ ซอน ประเทศบราซิล เป็นพื้นที่ที่มีความหลากหลายของ พันธุ์พืชและสัตว์สูงมาก 1


1.ป่าป่ ฝนเขตร้อน หรือ ป่าป่ดิบชื้น เป็นป่าป่ ไม่ผลัดใบ เขียวชอุ่มตลอดปี ปริมาณฝนและความชื้นสูง อุณหภูมิเฉลี่ย 20 - 25 องศาเซลเซียส มี ฝนตกชุกเฉลี่ย 2400 มม./ปี พบมากในเขตร้อนใกล้เส้นศูนย์สูตร เช่น ป่าป่ ในเกาะบอร์เนียว ประเทอินโดนีเซีย มาเลเซีย และภาคใต้ ของประเทศไทย ป่าป่เซลวาส บริเวณลุ่มแม่น้ำ แอมะซอนในทวีป อเมริกาใต้และบริเวณลุ่มน้ำ แม่น้ำ คองโกในทวีปแอฟริกาป่าป่มีความ หลากหลายของสิ่งมีชีวิตสูง ทั้งพันธ์ุพืช สัตว์ป่าป่นก และแมลง 2.ป่าป่ ไม้ผลัดใบ บริเวณป่าป่ ไม้ผลัดใบเขตร้อนจะผลัดใบในฤดูแล้งและผลิ ใบใหม่ในฤดูฝน ส่วนบริเวณเขตอบอุ่นจังผลัดใบในฤดูใบไม้ร่วงและผลิ ใบใหม่ในฤดูใบไม้ผลิ มีปริมาณฝนเฉลี่ย 760 - 1500 มม./ปี อุณหภูมิ เฉลี่ย 15 - 30 องศาเซลเซียส ในเขตร้อนพบป่าป่เบญจพรรณหรือปลา เต็งรัง ซึ่งเป็นป่าป่ โปร่งที่มีต้นไม้ขึ้นกระจัดกระจายหลายชนิด ในเขต อบอุ่นพบมากในทวีปยุโรปออสเตรเลีย และประเทศญี่ปุ่นปุ่พันธุ์ไม้ที่พบ เช่น โอ๊ก เชสต์นัต สัตว์ที่พบ เช่น สุนัขจิ้งจอก กวาง 2


3.ทุ่งหญ้าเขตอบอุ่น เป็นบริเวณที่มีทุ่งหญ้าปกคลุมทั่วไปในเขต ละติจูด 10-30 องศาเหนือและใต้ ฝนตกเฉลี่ย 250-760 มม./ปี ฤดู ร้อนอากาศร้อนมาก พบต้นไม้น้อน้ยชนิดส่วนใหญ่เป็นพืชตะกูลหญ้า สูงตั้งแต่ 50-200 ซม. ในทวีปอเมริกาเหนือ เรียกว่า ทุ่งหญ้าแพรรี ทวีปอเมริกาใต้ เรียกว่า ทุ่งหญ้าปัมปัส และทวีปเอเชียบริเวณแมนจูเรีย ตอนใต้ของไซบีเรีย ประเทศรัสเซีย เรียกว่า ทุ่งหญ้าสเตปป์ มีธัญพืช ต่างๆ และมีทุ่งหญ้าที่สมบูรณ์ 4.ทุ่งหญ้าเขตร้อน มีฝนตกเฉลี่ย 700-1,500 มม./ปี อุณหภูมิ เฉลี่ย 20-30 องศาเซลเซียน มีฤดูแล้งยาวนาน พบเป็นบริเวณ กว้างในทวีบแอฟริกา อเมริกาใต้ และทางเหนือของประเทศ ออสเตรเลีย มีต้นหญ้ายาว และมีไม้ต้น ไม้พุ่ม กระจัดกระจาย หรือเป็นกลุ่มๆ บางแห่งมีลักษณะเป็นทุ่งหญ้าปนป่าป่ โปร่ง ในทวีป แอฟริกา เรียกว่า ทุ่งหญ้าสะวันนา สัตว์ที่พบ เช่น สิงโต ม้าลาย ควายป่าป่ 3


5.เมดิเตอร์เรเนียน มีไม้พุ่มเตี้ยที่ทนอากาศแห้งแล้งในฤดูร้อนได้ ในฤดู หนาวมีอากาศอบอุ่นและได้รับความชื้นจากทะเล ประมาณฝนเฉลี่ย 650มม./ปี โดยรอบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และทางตะวันตกเฉียงใต้ของ สหรัฐอเมริกาพบไม้พุ่มเปลือกหนา ใบเล็ก ผิวมัน เขียวชอุ้มตลอดปี เช่น โอ๊ก ซีดาร์ สัตว์ที่พบ เช่น แพะป่าป่แกะป่าป่นอกจากนี้ยังพบสัตว์เลื้อยคลาน หลายชนิด เช่น งู เต่า 6.เทือกเขาสูง มีพื้นที่สูงกว่า3,000 เมตร อุณหภูมิลดลงตามความสูงของพื้นที่ มีอากาศเบาบางแต่มีลมแรง บางครั้งมีหิมะปกคลุม เทือกเขาที่สำ คัญของโลก เช่น หิมาลัยในทวีปเอเชีย เทือกเขาแอลป์ในทวีปยุโรป สัตว์ที่พบ ได้แก่ สาด เท้ากลีบสายพันธุ์ต่างๆเช่น แพ้ภูเขา จามรี พบพืชระดับล่างเป็นส่วนใหญ่ เพราะทนกับสภาพอากาศหนาวเย็นได้และพบไม้พุ่มขนาดเล็ก 7.ทะเลทราย มีปริมาณฝนน้อน้ยมาก เฉลี่ยน้อน้ยกว่า 250 มม./ปี กลางวันมีอุณหภูมิ เฉลี่ยสูงกว่า 35 องศาเซลเซียส ส่วนกลางคืนมีอากาศหนาวเย็น ทะเลทรายที่สำ คัญ เช่น ทะเลทรายสะฮาลาในทวีปแอฟริกา ทะเลทรายอาหรับในเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ พืชพรรณที่พบ เช่น พืชใบเล็ก รากแตกกระจาย ขึ้นห่างๆกัน สัตว์ที่พบต้องทนความ แห้งแล้งได้ เช่น อูฐ จิ้งจอกทะเลทราย บางบริเวณเป็นพื้นที่โอเอซิส ที่มีน้ำ ใต้ดินอยู่ จึงมีน้ำ เพียงพอต่อการปลูกพืชบางชนิด เช่นปาล์ม อินทผลัม 4


8.ป่าป่สน หรือไทกา เป็นป่าป่ ในแถบซีกโลกเหนือที่มีสภาพอากาศน้ำ เย็น อุณหภูมิเย็นจัดถึง-40 องศาเซลเซียส มีปริมาณฝนเฉลี่ย 1,000 มม./ปี มีฤดูหนาวยาวนานและอากาศอบอุ่น ในช่วงระยะสั้นๆ พบมาก ในทวีปเอเชียบริเวณที่มีราบไซบีเรีย ประเทศรัสเซีย ทวีปยุโรปตอน เหนือทวีปอเมริกาเหนือในประเทศแคนาดา พบพืชตระกูลสน สัตว์ที่ พบมีขนหรือชั้นไขมันหนา เพื่ออยู่ในสภาพอากาศเย็น เช่น กวางมูส กวางเรนเดียร์ 9.ทุนดรา เป็นทุ่งหิมะอยู่เหนือเส้นละติจูดที่ 60 องศาเหนือ ไปจนถึง บริเวณขั้วโลกมีอากาศหนาวเย็นตลอดปี อุณหภูมิเฉลี่ยลบ -5 ถึง - 40องศาเซลเซียส ปริมาณฝนเฉลี่ย 250 มม./ปี พื้นที่ส่วนใหญ่ ปกคลุมด้วยน้ำ แข็ง ช่วงฤดูร้อนฝนตกน้อน้ย ในฤดูหนาวมีช่วงเวลา กลางคืนที่ยาวนาน พบสิ่งมีชีวิตไม่กี่ชนิด เช่นแมวน้ำ ลายพิณ หมีขั้ว โลกหมาป่าป่หิมะ นกฮูกหิมะ กวางเรนเดียร์ กวางคารึบู พืชที่พบเช่น ไล เคน มอสส์ หญ้าเซดจ์ 5


4.2 ความหลากหลายทางชีวภาพ(biological diversity) ความหลากหลายทางชีวภาค คือ การมีชนิดพันธุ์ของสิ่งมี ชีวิตหลากหลายชนิดอยู่ร่วมกัน ณ สถานที่หนึ่ง หรือระบบ นิเวศใดนิเวศหนึ่งซึ่งมีมากมายและแตกต่างกันทั่วโลก ความหลากหลายทางชีวภาพเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของ สิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม และการเปลี่ยนแปลงของสิ่งมี ชีวิตนี้เป็นกระบวนการที่เกิดอย่างช้าๆอาศัยระยะเวลาที่ ยาวนานจึงเห็นผล 1) ความหลากหลายในชนิดของสิ่งมีชีวิต สามารถพิจารณาความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตในระบบ นิเวศได้ 2 ลักษณะ คือ 1.1 จำ นวนชนิดของสิ่งมีชีวิตในพื้นที่ หมายถึง จำ นวน ชนิดของสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ต่อหน่วยพื้นที่สิ่งมีชีวิตอาจ แตกต่างกันได้ 1.2 สัดส่วนของสิ่งมีชีวิตในพื้นที่ หมายถึง สัดส่วนของ สิ่งมีชีวิตแต่ละชนิดที่พบเป็นตัวแทนในระบบนิเวศสิ่งมี ชีวิตในระบบนิเวศบอกถึงคุณภาพของสภาพแวดล้อมที่ แตกต่างตามกลไกของการเกิดระบบนิเวศบางระบบนิเวศมี สัดส่วนของสิ่งมีชีวิตที่ไม่สมดุลมีคงสมแตกต่างกัน เช่น ใน ป่าป่มีสัตว์นักล่าจำ นวนมากส่งผลกระทบต่อจำ นวนสิ่งมีชีวิต ที่เป็นผู้ล่าผลที่เกิดขึ้นของสิ่งมีชีวิตนี้ เรียกว่า สัดส่วนไม่ สมดุลของสิ่งมีชีวิต การเพิ่มขึ้นหรือลดลงของจำ นวนเเละชนิดของสิ่งมีชีวิต ขึ้นอยู่กับการแก่งแย่งแข่งขันกันในการใช้ทรัพยากรชนิด เดียว เช่น อาหาร ที่อยู่อาศัย หรือคู่สืบพันธุ์ ผลของการ แก่งแย่งกันอาจทำ ให้สิ่งมีชีวิตที่อ่อนแอกว่าต้องตายหรือ ต้องอพยพย้ายออกไปจากระบบนิเวศ 6


2)ความหลากหลายทางชีวนิเวศวิทยา โลกประกอบด้วยระบบนิเวศแบบต่างๆ กลุ่มสิ่งมีชีวิต และสภาพ แวดล้อมมีความสัมพันธ์และมีอิทธิพล ทำ ให้ สิ่งมีชีวิตต้องมีการ ปรับตัว ทั้งกายภาพและทางชีวภาพ เพื่อให้สามารถดำ รงชีวิตอยู่ในระบบ นิเวศนั้นได้อย่าง เหมาะสม ลักษณะความหลากหลายทางชีวนิเวศวิทยา จำ แนกได้ดังนี้ 2.1 ความหลากหลายของถิ่นที่อยู่ คือ ความแตกต่าง ของถิ่นกำ เนิดที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติเช่น ในพื้นที่ ภาคใต้ของไทย ทั้งทิวเขา ที่ราบชายฝั่งทะเล ทำ ให้เกิด ต้นกำ เนิดตามธรรมชาติ เช่น ลำ ธาร ป่าป่ชายเลน ก็ แนว ปะการัง ซึ่งในถิ่นกำ เนิดลักษณะต่างๆ มีสิ่งมีชีวิตที่แตก ต่าง กันไป เช่น ปลา สัตว์สะเทินน้ำ สะเทินบก พื้นที่ใดมีความอุดมสมบูรณ์มณ์ากของแหล่งน้ำ และ อาหาร ย่อมเป็นพื้นที่ที่มีความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต เช่น ในป่าป่ดิบชื้น เป็นป่าป่ ในเขตร้อน และมีความชุ่มชื้น สูง พบความ หลากหลายของสิ่งมีมากกว่าป่าป่สน ซึ่งเป็น ป่าป่ ในเขตหนาว ที่มีความชื้นต่ำ และมีพืชหลัก คือ ต้นสน เท่านั้น 7


ถิ่นกำ เนิดลักษณะต่างๆ มีสิ่งมีชีวิตอาศัยแตกต่าง กันไปและจะปรับตัวให้เข้ากับ ลักษณะทางกายภาพของพื้นที่ เพื่อให้สามารถดำ รงชีวิตอยู่ได้ เช่น • ปลาตีน อาศัยอยู่บริเวณป่าป่ชายเลน โดยมีผิวหนัง และเหงือก เพื่อเก็บความชุ่มชื้น และ กล้ามเนื้อบริเวณครีบที่แข็งแรงเพื่อ ใช้ในการเคลื่อนที่บนพื้นโคลนคล้ายลักษณะการเดิน เพื่อ หากินในช่วงเวลาน้ำ ลด • อูฐ อาศัยอยู่ตามภูมิประเทศแนวทะเลทราย จึงมีชน ตายาว และเปลือกตาปิดสนิทเมื่อหลับตา เพื่อป้อป้งกันทราย โหนก ของอูฐเป็นที่เก็บไขมัน เพื่อให้เป็นแหล่งพลังงาน และระบาย ความร้อน อูฐสามารถทนทานต่อการสูญเสียน้ำ ในร่างกายได้ดี เนื่องจากมีตาที่ยาวกว่าสัตว์ชนิดอื่น และ ปากอูฐมีความหนา จึงสามารถกินต้นกระบองเพชร 8


• แพะภูเขา อาศัยอยู่ตามเทือกเขาสูง มีกีบเท้าที่ใหญ่และ กล้าม เนื้อที่แข็งแรงทำ ให้สามารถยึดเกาะกับหน้าน้ผาที่สูง และ ชันมากได้ นอกจากนี้ ภูมิประเทศที่มีลักษณะเฉพาะตัวสูง เช่น หมู่เกาะ มี ขนาดเล็กกว่าทำ ให้มีความหลากหลายทางชีวภาพน้อน้ยกว่าแผ่นดิน ใหญ่ แต่มีแนวโน้มน้ที่จะพบสิ่งมีชีวิตเฉพาะถิ่นมากกว่า เช่น มังกรโค โมโด ในประเทศอินโดนีเซีย 2.2 ความหลากหลายของการแทนที่ คือ การเปลี่ยนแปลง ความหลากหลายที่เกิดจากระบบ นิเวศเดิม ถูกทำ ลาย ด้วยวิธีการต่างๆ การเกิดปรากฏการณ์ธณ์รรมชาติ ไฟป่าป่น้ำ ท่วม แผ่นดินไหว หรือ การบุกรุกโดยมนุษนุย์เพื่อแผ้วถางป่าป่ทำ เกษตรกรรม เมื่อระบบ นิเวศหนึ่งถูกทำ ลาย จะทำ ให้เกิดเป็นพื้นที่ว่าง จะเกิดการ เปลี่ยนแปลงแทนที่โดยสิ่งมีชีวิตชนิดต่างๆ ทำ ให้เกิดเป็นระบบ นิเวศใหม่ เช่น เกิดสึนามิซัดชายฝั่งทะเล พื้นที่ป่าป่ชายเลนเสียหาย ทำ ให้เกิดความหลากหลายของถิ่นกำ เนิดถูกทำ ลายลง (เหตุการณ์สึณ์ สึนามิพัดถล่มเกาะซีเมอลูเอ ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อ พ.ศ.2547 ทำ ให้ป่าป่ชายเลน และแนวปะการังถูกทำ ลาย เกิดปะการังและความหลากหลายของถิ่นกำ เนิดใหม่ขึ้นแทน) 9


แหล่งที่มาอ้างอิง หนังสือเรียนวิชาภูมิศาสตร์ ม.4-6 กลุ่มสาระสังคม ศาสนา และวัฒนธรรม มาจาก 10


จัดทำ โดย นายเพชร ปรีชาญาณ เลขที่ 5 นส.ชุติมนต์ ชิ้นหนึ่ง เลขที่ 15 นส.ปนิรชา มะโนรา เลขที่ 16 นส.พัฒน์นน์รี เทียนทอง เลขที่ 17 นส.รุ้งลาวรรณ ทองขาว เลขที่ 18 นส.สุทธิดา ระงับไพร เลขที่ 20 นายอภิรักษ์ ฤทธิไตรรัตน์ เลขที่ 29 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่6/2 เสนอ ครูบุพผา ดีเจริญ รายงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชาสังคมศึกษา (ส33101) ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 โรงเรียนตากฟ้าฟ้วิชาประสิทธิ์


Click to View FlipBook Version