ข การพัฒนาสื่อการเรียนการสอนตามระดับการศึกษา โดย นางสาวกัลยา คลองจันทร์ นางสาวปิยมล ยิ้มพวง นางสาววรัชยา อมัยภักดี นางสาวเสาวลักษณ์ ค าโสดา นางสาวอรปรียา โสตแนว คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง
ข ค าน า หนังสืออีเล็กทรอนิกส์ (E-book) จัดท าขึ้นเพื่อประกอบการ การเรียน การสอน รายวิชา PR64604 สื่อ แหล่งเรียนรู้และนวัตกรรมส าหรับครูประถมศึกษา กลุ่มวิชาชีพครู ตามหลักสูตร มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง พุทธศักราช 2564 เปิดสอนส าหรับนักศึกษาระดับปริญญาตรี ภายในหนังสืออีเล็กทรอนิกส์ (E-book) ประกอบไปด้วย การพัฒนาสื่อการเรียนการสอนตาม ระดับการศึกษา สื่อการเรียนการสอนส าหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษา ตัวอย่างสื่อการเรียนการสอน ส าหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษา สื่อการเรียนการสอนส าหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นและตอน ปลาย ตัวอย่างสื่อการเรียนการสอนส าหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นและตอนปลาย ผู้เขียนขอขอบพระคุณ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.จรินทร์ งามแม้น ที่กรุณาให้ความอนุเคราะห์อย่าง ดียิ่งในทุกขั้นตอนจนท าให้การจัดท าหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-book) เล่มนี้ส าเร็จลงได้ด้วยดี และหวังเป็น อย่างยิ่งว่าหนังสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (E-book) เล่มนี้จะมีส่วนอย่างส าคัญต่อความส าเร็จในการศึกษาและประ วิชาชีพของผู้เรียน ต่อไป วันที่ 30 เมษายน 2566 ก
ข สารบัญ เรื่อง หน้า ค าน า ก สารบัญ ข บทที่ 4 การพัฒนาสื่อการเรียนการสอนตามระดับการศึกษา ความหมายของสื่อการเรียนการสอน 1 การจ าแนกสื่อการเรียนการสอน 2 คุณสมบัติของสื่อการเรียนการสอน 5 หลักการเลือกสื่อการเรียนการสอน 7 หลักการใช้สื่อการเรียนการสอน 9 ความหมายของการพัฒนาสื่อการเรียนการสอน 9 แนวทางการพัฒนาสื่อการเรียนการสอน 10 สื่อการเรียนการสอนราคาเยา 11 ความหมายของสื่อการเรียนการสอนราคาเยา 12 หลักการออกแบบและการสร้างสื่อการเรียนการสอนราคาเยา 13 ข้อสนับสนุนในการใช้สื่อการเรียนการสอนราคาเยา 14 การพัฒนาสื่อการเรียนการสอนเฉพาะตามระดับการศึกษา 15 สื่อการเรียนการสอนส าหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษา 16 ตัวอย่างสื่อการเรียนการสอนส าหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษา 17 สื่อการเรียนการสอนส าหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นและตอนปลาย 28 ตัวอย่างสื่อการเรียนการสอนส าหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นและตอนปลาย 29 สรุป 36 ค าถามทบทวน 37 บรรณานุกรม 38 ข
ข บทที่ 4 การพัฒนาสื่อการเรียนการสอนเฉพาะตามระดับการศึกษา การผลิตสื่อการเรียนการสอนราคาเยา กระบวนการเรียนการสอนมีลักษณะเช่นเดียวกับกระบวนการสื่อสาร (Communication Process) ที่มีการถ่ายทอดเนื้อหาสาระจากฝ่ายส่งไปยังฝ่ายรับ และการสื่อสารที่ดีนั้นควรจะเป็นการ สื่อสารแบบสองทาง (Two-way Communication) ซึ่งจ าเป็นต้องอาศัยสื่อที่ช่วยให้เกิดการสื่อสารกันได้ ใน 2 ทิศทางด้วย เช่น โทรศัพท์E-mail การประชุม การอภิปราย และการบรรยาย เป็นต้น แต่ถ้าสื่อที่ใช้ ในการติดต่อสื่อสารกัน ไม่อ านวยให้โต้ตอบกันได้ก็จะเกิดการติดต่อสื่อสารในลักษณะที่เรียกว่าการสื่อสาร แบบทางเดียว (One-way communication) ซึ่งสื่อที่ใช้ในการติดต่อกัน ได้แก่ หนังสือพิมพ์ แผ่นพับ โปสเตอร์ วิทยุ โทรทัศน์ และการบรรยาย เป็นต้น ในกระบวนการเรียนการสอนระดับอุดมศึกษาเราใช้การ ติดต่อสื่อสารทั้ง 2 ลักษณะดังกล่าวควบคู่กันไป ขึ้นอยู่กับจุดประสงค์การสอน เนื้อหาและวิธีการสอนใน แต่ละครั้งอย่างไรก็ตามการเรียนการสอนที่ช่วยส่งเสริมให้ผู้เรียนได้รับความรู้และประสบการณ์ใน สาขาวิชาที่เรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้น ควรจะมีลักษณะที่เป็นการสื่อสารแบบสอง ทางดังนี้ ผู้สอน สื่อการเรียนการสอน ผู้เรียน รูปแบบการสื่อสารเพื่อการศึกษา รูปแบบการสื่อสารเพื่อการศึกษา จะเห็นได้ว่า ทั้งกระบวนการสื่อสารและกระบวนการเรียนการ สอน จ าเป็นต้องอาศัยสื่อในการถ่ายทอดหรือติดต่อกันระหว่างบุคคล ถ้าขาดสื่อแล้ว การติดต่อกันหรือ การเรียนการสอนไม่สามารถเกิดขึ้นได้เลย (ไพศาล สุวรรณน้อย, 2553) ความหมายของสื่อการเรียนการสอน สื่อนับเป็นสิ่งที่มีบทบาทส าคัญอย่างมากในการสอนตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน เนื่องจากเป็น ตัวกลางที่ช่วยให้การสื่อสารระหว่างผู้สอนและผู้เรียนด าเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจ ความหมายของเนื้อหาบทเรียนให้ตรงกับผู้สอนต้องการ ไม่ว่าสื่อนั้นจะอยู่ในรูปแบบใดก็ตามล้วนแต่เป็น ทรัพยากรที่สามารถอ านวยความสะดวกในการเรียนรู้ได้ทั้งสิ้น และค าว่า สื่อ (medium, pl.media) เป็น ค ามาจากภาษาลาตินว่า “ระหว่าง” สิ่งใดก็ตามที่บรรจุข้อมูลสารสนเทศหรือเป็นตัวกลางข้อมูลส่งผ่านจาก ผู้ส่งหรือแหล่งส่งไปยังผู้รับเพื่อให้ผู้ส่งและผู้รับสามารถสื่อสารกันได้ตรงตามวัตถุประสงค์ (กิดานันท์ มลิ ทอง, 2553)
ข ในการเรียน เมื่อผู้สอนน าสื่อมาใช้ประกอบการสอนเรียกว่า “สื่อการสอน” และเมื่อน ามาให้ ผู้เรียนใช้เรียกว่า “สื่อการเรียน” โดยเรียกรวมกันว่า “สื่อการเรียนการสอน” หรืออาจจะเรียกสั้นๆ ว่า “สื่อการสอน” สื่อการสอน (Instructional Media) หมายถึง สิ่งต่างๆ ที่ใช้เป็นเครื่องมือ หรือช่องทางส าหรับ ท าให้การสอนของครูไปถึงผู้เรียน และท าให้ผู้เรียนเรียนรู้ตามจุดประสงค์ หรือจุดมุ่งหมายที่วางไว้เป็น อย่างดี สื่อที่ใช้ในการสอนนี้ อาจจะเป็นวัตถุสิ่งของที่มีตัวตนหรือไม่มีตัวตนก็ได้ เช่น วัตถุสิ่งของตาม ธรรมชาติ ปรากฎการณ์ตามธรรมชาติ วัตถุสิ่งของที่คิดประดิษฐ์หรือสร้างขึ้นส าหรับการสอน ค าพูดท่าทาง วัสดุและเครื่องมือสื่อสาร กิจกรรมหรือกระบวนการถ่ายทอดความรู้ต่างๆ ความหมาย ความส าคัญของสื่อการสอน และประเภทของสื่อการสอน นักวิชาการในวงการ เทคโนโลยีทางการศึกษา โสตทัศนศึกษา และวงการการศึกษา ได้ให้ค าจ ากัดความของ “สื่อการสอน” ไว้ อย่างหลากหลาย เช่น ชอร์ส กล่าวว่า เครื่องมือที่ช่วยสื่อความหมายจัดขึ้นโดยครูและนักเรียน เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ เครื่องมือการสอนทุกชนิดจัดเป็นสื่อการสอน เช่น หนังสือในห้องสมุด โสตทัศนวัสดุต่างๆ เช่น โทรทัศน์ วิทยุ สไลด์ ฟิล์มสตริป รูปภาพ แผนที่ ของจริง และทรัพยากรจากแหล่งชุมชน บราวน์ และคณะ กล่าวว่า จ าพวกอุปกรณ์ทั้งหลายที่สามารถช่วยเสนอความรู้ให้แก่ผู้เรียนจน เกิดผลการเรียนที่ดี ทั้งนี้รวมถึง กิจกรรมต่างๆ ที่ไม่เฉพาะแต่สิ่งที่เป็นวัตถุหรือเครื่องมือเท่านั้น เช่น การศึกษานอกสถานที่ การแสดง บทบาทนาฏการ การสาธิต การทดลอง ตลอดจนการสัมภาษณ์และการ ส ารวจ เป็นต้น เปรื่อง กุมุท กล่าวว่า สื่อการสอน หมายถึงสิ่งต่างๆ ที่ใช้เป็นเครื่องมือหรือช่องทางส าหรับท าให้ การสอนของครูถึงผู้เรียนและท าให้ผู้เรียนเรียนรู้ตามวัตถุประสงค์หรือจุดมุ่งหมายที่ครูวางไว้ได้เป็นอย่างดี ชัยยงค์ พรหมวงศ์ ให้ความหมาย สื่อการสอนว่า วัสดุอุปกรณ์และวิธีการประกอบการสอนเพื่อใช้ เป็นสื่อกลางในการสื่อความหมายที่ผู้สอนประสงค์จะส่ง หรือถ่ายทอดไปยังผู้เรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ยังมีค าอื่นๆ ที่มีความหมายใกล้เคียงกับสื่อการสอน เป็นต้นว่า สื่อการเรียน หมายถึง เครื่องมือ ตลอดจนเทคนิคต่างๆ ที่จะมาสนับสนุนการเรียนการสอน เร้า ความสนใจผู้เรียนรู้ให้เกิดการเรียนรู้ เกิดความเข้าใจดีขึ้น อย่างรวดเร็ว สื่อการศึกษา คือ ระบบการน าวัสดุและวิธีการมาเป็นตัวกลางในการให้การศึกษาความรู้แก่ผู้เรียน โดยทั่วไป โสตทัศนูปกรณ์ หมายถึง วัสดุทั้งหลายที่น ามาใช้ในห้องเรียน หรือน ามาประกอบการสอนใดๆ ก็ ตาม เพื่อช่วยให้การเขียน การพูด การอภิปรายนั้นเข้าใจแจ่มแจ้งยิ่งขึ้น การจ าแนกสื่อการเรียนการสอน สื่อต่างๆ ที่เป็นตัวกลางในการส่งผ่านข้อมูลสารสนเทศจากผู้สอนไปยังผู้เรียน หรือเป็นสิ่งที่ผู้เรียน ใช้ศึกษาความรู้ด้วยตนเอง นักวิชาการได้จ าแนกสื่อการสอนตามประเภท ลักษณะ และวิธีการใช้ดังนี้ สื่อโสตทัศน์สื่อที่บรรจุหรือถ่ายทอดข้อมูลเพื่อให้เกิดการเรียนรู้ด้วยการได้ยินเสียงและเห็นภาพ 2
ข โรเบิร์ต อี. เดอ คีฟเฟอร์ (Robert E. de Kieffer) (De Kieffer, 1965:9-64) ได้แบ่งสื่อการสอน ออกเป็น 3 ประเภท 1. สื่อไม่ใช้เครื่องฉาย (non-projected materials) เป็นสื่อที่ใช้ในการสื่อสารทางทัศนะโดยไม่ ต้องใช้เครื่องฉายร่วมด้วย แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ สื่อภาพ (illustrative materials) ถ่ายทอด เนื้อหาได้ด้วยตัวเองเช่น ภาพกราฟิก กราฟ แผนภาพ แผนที่ ของจริง ของจ าลอง ฯลฯ กระดานสาธิต (demonstration boards) ใช้ในการน าเสนอเนื้อหา เช่น กระดานชอล์ก กระดานนิเทศ กระดานแม่เหล็ก กระดานผ้าส าลี ฯลฯ และกิจกรรม (activities) เป็นเทคนิควิธีการเพื่อการเรียนรู้ เช่น การศึกษานอก สถานที่ การจัดนิทรรศการ 2. สื่อใช้เครื่องฉาย (projected materials and equipment) เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เพื่อ การสื่อสารด้วยภาพหรือทั้งภาพและเสียงปรากฏขึ้นบนจอภาพ เช่น เครื่องฉายภาพข้ามศีรษะใช้กับแผ่น โปร่งใส เครื่องฉายสไลด์ใช้กับแผ่นฟิล์มสไลด์ หรือให้ทั้งภาพและเสียง เช่น เครื่องฉายภาพยนตร์ใช้กับฟิล์ม ภาพยนตร์ เครื่องเล่นดีวีดีใช้กับแผ่น วีซีดีและดีวีดี 3. สื่อเสียง (audio materials and equipment) เป็นวัสดุและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เพื่อการ สื่อสารด้วยเสียง เช่น เครื่องเล่นซีดีใช้กับแผ่นซีดี เครื่องเล่น/บันทึกเทปใช้กับเทปเสียง หรืออาจเป็น อุปกรณ์ในการถ่ายทอดสัญญาณเสียงดังเช่นวิทยุที่รับสัญญาณเสียงจากแหล่งส่งโดยไม่ต้องใช้วัสดุใดๆ ใน การน าเสนอเสียง สื่อแบ่งตามประสบการณ์การเรียนรู้รูปแบบการเรียนรู้ของคนเราแบ่งเป็น 3 รูปแบบ ได้แก่ การ ฟัง การดู และการกระท าโดยแบ่งเป็นขั้นตอนต่างๆ ดังนี้ - ประสบการณ์ตรง เป็นการให้ประสบการณ์ที่เป็นจริงมากที่สุด ด้วยการเห็น สัมผัสจับต้อง ลิ้ม รส ได้ยิน และได้กลิ่น เพื่อให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมโดยตรง เช่น สัมผัสขนสัตว์เพื่อรับรู้ความอ่อนนุ่ม รับประทานมะนาวเพื่อรับรู้รสเปรี้ยว ฯลฯ อยู่ในสถานการณ์จริง เช่น อยู่ใต้ดินโดยเดินทางด้วยรถไฟใต้ดิน ฯลฯ หรือด้วยการกระท าของตนเอง เช่น การจัดดอกไม้ ท ากับข้าว เหล่านี้เป็นต้น - ประสบการณ์รอง เป็นการเรียนรู้โดยให้ผู้เรียนเรียนจากสิ่งที่ใกล้เคียงความเป็นจริงที่สุด เช่น ตึกระฟ้า เรือด าน้ า หอไอเฟล หรือเป็นสื่อที่อยู่ภายในสิ่งมีชีวิตหรือวัตถุที่ไม่สามารถผ่าออกดูได้ ในกรณีนี้ จะใช้ของจ าลองแทน เช่นโครงกระดูก กล้องถ่ายรูป หรือหากไม่สามารถไปในสถานที่จริงหรืออยู่ใน สถานการณ์จริงได้จะใช้การจ าลองก็ได้ เช่น การลงบัตรเลือกตั้ง การนั่งในห้องนักบินจ าลอง ฯลฯ - ประสบการณ์นาฏกรรมหรือการแสดง เป็นการแสดงบทบาทสมมุติหรือการแสดงละคร ด้วยยุค สมัย เวลา และสถานที่ เช่นเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์หรือเรื่องราวที่เป็นนามธรรม โดยให้ผู้เรียนมีส่วน ร่วมเพื่อเรียนรู้จากการสวมบทบาทสมมติในการแสดงนั้น - การสาธิต เป็นการแสดงหรือกระท าประกอบค าอธิบายของความจริง แนวคิดหรือกระบวนการ เช่น การตัดเย็บเสื้อผ้า การปรุงอาหาร - การศึกษานอกสถานที่ เป็นการให้ผู้เรียนพบเห็นและเรียนรู้จากประสบการณ์ภายนอกสถานที่ เรียน เช่น เยี่ยมชมอุทยานประวัติศาสตร์เพื่อดูวัตถุและสถานที่โบราณ ไปสวนสัตว์เพื่อดูสัตว์นานาชนิด - นิทรรศการ เป็นการจัดแสดงสิ่งของต่างๆ การจัดป้ายนิเทศ ฯลฯ เพื่อให้สารประโยชน์และ ความรู้แก่ผู้เรียน เช่น ในการจัดนิทรรศการวันเข้าพรรษา อาจมีการใช้ภาพกราฟิกทั้งภาพถ่าย ภาพวาด ประกอบข้อความตัวอักษร เสนอภาพเคลื่อนไหวด้วยแผ่นวีซีดี 3
ข - โทรทัศน์โดยใช้ทั้งโทรทัศน์การศึกษาและโทรทัศน์การสอนเพื่อให้ข้อมูลความรู้แก่ผู้เรียนหรือ ผู้ชมที่อยู่ทางบ้าน การสอนอาจจะเป็นการสอนสดหรือบันทึกลงวีดิทัศน์ก็ได้ - ภาพยนตร์เป็นภาพเคลื่อนไหวและเสียงที่บันทึกเรื่องราวเหตุการณ์ลงบนฟิล์ม (ปัจจุบันเป็น การใช้แผ่นวีซีดี/ ดีวีดี) เพื่อให้ผู้เรียนได้รับประสบการณ์ทั้งภาพและเสียง - การบันทึกเสียง วิทยุ ภาพนิ่ง สื่อเสียงและภาพอาจใช้ได้ทั้งการเรียนรายบุคคลหรือเป็นกลุ่ม สื่อ ในขั้นตอนนี้จะให้ประสบการณ์น้อยกว่าสื่อโสตทัศน์ - ทัศนสัญลักษณ์สื่อในขั้นตอนนี้เป็นการน าเสนอสัญลักษณ์ทางทัศนะ เช่น แผนที่ แผนภูมิ แผนภาพ กราฟ หรือเครื่องหมายซึ่งเป็นสิ่งที่เป็นสัญลักษณ์แทนความเป็นจริง - วจนสัญลักษณ์เป็นขั้นจุดยอดซึ่งน าเสนอประสบการณ์ขั้นที่เป็นนามธรรมที่สุดในลักษณะ สัญลักษณ์ทางวาจาหรือกิริยาซึ่งจะไม่เกี่ยวข้องกับลักษณะทางกายภาพ เมื่อประมวลสื่อที่ใช้ใน ประสบการณ์ของเดล ท าให้สามารถจ าแนกสื่อการสอนออกเป็น 3 ประเภท คือ 1. วัสดุ (software) หมายถึง สิ่งที่เก็บความรู้อยู่ในตัวเองซึ่งจ าแนกย่อยได้เป็น 2 ลักษณะ ได้แก่ วัสดุประเภทที่สามารถถ่ายทอดความรู้ได้ด้วยตนเองโดยไม่จ าเป็นต้องอาศัยอุปกรณ์ช่วย เช่น แผนที่ ลูกโลก รูปภาพ หุ่นจ าลอง ฯลฯ วัสดุประเภทที่ไม่สามารถถ่ายทอดความรู้ได้ด้วยตนเอง จ าเป็นจะต้อง อาศัยอุปกรณ์อื่นช่วย เช่น แผ่นซีดี ฟิล์มภาพยนตร์ สไลด์ ฯลฯ 2. อุปกรณ์ (hardware) หมายถึง สิ่งที่เป็นตัวกลางหรือตัวผ่านท าให้ข้อมูลหรือความรู้ที่บันทึก ในวัสดุสามารถถ่ายทอดออกมาให้เห็นภาพหรือได้ยินเสียง เช่น เครื่องฉายสไลด์ เครื่องฉายแผ่นโปร่งใส เครื่องฉายภาพยนตร์ เครื่องเล่นแผ่นซีดี เป็นต้น 3. เทคนิคและวิธีการ (techniques and methods) หมายถึง สื่อที่มีลักษณะเป็นแนวความคิด หรือรูปแบบขั้นตอนในการเรียนการสอน โดยสามารถน าสื่อวัสดุและอุปกรณ์ใช้ช่วยในการสอนได้ เช่น เกม และการจ าลอง การสอนแบบจุลภาค การสาธิต เป็นต้น นักจิตวิทยาท่านหนึ่ง คือ เจโรม บรุนเนอร์ (Jerome Bruner) ได้ออกแบบโครงสร้างของกิจกรรมการสอนไว้ โดยประกอบด้วยมโนทัศน์ด้านการ กระท าโดยตรง (enactive) การเรียนรู้ด้วยภาพ (iconic) และการเรียนรู้ด้วยนามธรรม (abstract) เมื่อ เปรียบเทียบกรวยประสบการณ์ของเดลมีลักษณะที่ใกล้เคียงและเป็นคู่ขนานกัน เมื่อพิจารณาจากกรวย ประสบการณ์ของเดลจากฐานของกรวยขึ้นไป ดังนี้ ขั้นที่ 1-6 ผู้เรียนเรียนโดยได้รับประสบการณ์ด้วยตนเองจากการกระท า การมีส่วนร่วมในรูปแบบ ต่างๆ ของประสบการณ์ที่เป็นจริง และการสังเกตจากของจริงหรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ซึ่งเปรียบเทียบ ได้กับการเรียนรู้ด้วยการกระทบ ขั้นที่ 7-9 ผู้เรียนสังเกตเหตุการณ์หรือรับประสบการณ์จากการถ่ายทอดโดยสื่อประเภทภาพและ เสียง เช่น โทรทัศน์ วิทยุ ภาพนิ่ง เสมือนเป็นการเรียนรู้ด้วยภาพขั้นที่ 10-11 ผู้เรียนได้รับประสบการณ์จากสัญลักษณ์ในรูปแบบของตัวอักษรเครื่องหมายหรือค าพูด ซึ่ง มีลักษณะเป็นนามธรรมมากที่สุด สื่อแบ่งตามทรัพยากรการเรียนรู้ ทรัพยากร หมายถึง สิ่งทั้งปวงอันมีค่า ทรัพยากรการเรียนรู้ (learning resources) จึงหมาย รวมถึงทุกสิ่งที่มีอยู่ในโลกนี้ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่เกิดเองโดยธรรมชาติหรือสิ่งที่คนประดิษฐ์ขึ้นมาเพื่อน ามาใช้ใน การเรียนรู้ 4
ข - คน (people) ในทางการศึกษาโดยตรงนั้น หมายถึง บุคลากรที่อยู่ในระบบของโรงเรียน ได้แก่ ครู ผู้บริหาร ผู้แนะน าการศึกษา ผู้ช่วยสอน หรือผู้ที่อ านวยความสะดวกด้าน “ผู้เชี่ยวชาญ” ซึ่งถึงแม้จะ มิใช่นักการศึกษา แต่สามารถจะช่วยอ านวยความสะดวกหรือเชิญมาเป็นวิทยากรเพื่อเสริมการเรียนรู้ได้ใน การให้ความรู้แต่ละด้าน อาทิเช่น ศิลปิน นักการเมือง นักธุรกิจ ช่างซ่อมรถยนต์ ฯลฯ - วัสดุ (materials) วัสดุในการศึกษาโดยตรงจะเป็นประเภทที่บรรจุเนื้อหาบทเรียน - อาคารสถานที่ (setting) หมายถึง ตัวตึก ที่ว่าง สิ่งแวดล้อม เช่น ห้องประชุม ห้องโถง ฯลฯ - เครื่องมือและอุปกรณ์ (tools and equipment) เป็นทรัพยากรทางการเรียนรู้เพื่อช่วยใน การผลิตหรือใช้ร่วมกับทรัพยากรอื่นๆ - กิจกรรม (activities) โดยทั่วไปกิจกรรมที่ใช้ในการเรียนการสอนมักเป็นการด าเนินงานที่จัดขึ้น เพื่อ กระท าร่วมกับทรัพยากรอื่นๆ หรือเป็นเทคนิควิธีการพิเศษเพื่อการเรียนการสอน เช่น เกม การสัมมนา การจัดทัศนศึกษา ฯลฯ คุณสมบัติของสื่อการเรียนการสอน สื่อการสอนมีคุณสมบัติพิเศษ 3 ประการ คือ 1. สามารถจัดยึดประสบการณ์กิจกรรมและการกระท าต่างๆ ไว้ได้อย่างคงทนถาวร ไม่ว่าจะเป็น เหตุการณ์ในอดีตหรือปัจจุบัน ทั้งในลักษณะของรูปภาพ เสียง และสัญลักษณ์ต่างๆ สามารถน าไปใช้ได้ ตามความต้องการ 2. สามารถจัดแจงจัดการและปรุงแต่งประสบการณ์ต่างๆ ให้ใช้ได้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของ การเรียนการสอนเพราะสื่อการสอนบางชนิด สามารถใช้เทคนิคพิเศษเพื่อเอาชนะข้อจ ากัดในด้านขนาด ระยะทาง เวลา และความเป็นนามธรรมของประสบการณ์ตามธรรมชาติได้ 3. สามารถแจกจ่ายและขยายของข่าวสารออกเป็นหลายๆ ฉบับเพื่อเผยแพร่สู่คนจ านวนมาก และ สามารถใช้ซ้ าๆ ได้หลายๆ ครั้ง ท าให้สามารถแก้ปัญหาในด้านการเรียนการสอนต่างๆ ทั้งการศึกษาใน ระบบโรงเรียนและนอกระบบโรงเรียนได้เป็นอย่างดี คุณค่าของสื่อการเรียนการสอน สื่อการสอนนับว่าเป็นสื่อส าคัญในการเรียนรู้ เนื่องจากเป็นตัวกลางในการถ่ายทอด เนื้อหาจาก ผู้สอนไปยังผู้เรียน หรือเป็นให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ด้วยตนเอง ดังนั้น สื่อการสอนจึงน ามาใช้ประโยชน์ได้ทั้งกับ ผู้เรียนและผู้สอน ดังนี้ สื่อกับผู้เรียน สื่อการเรียนการสอนมีความส าคัญและคุณค่าต่อผู้เรียน ดังนี้ - เป็นสิ่งช่วยให้เกิดการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะช่วยให้ผู้เรียนสามารถ เข้าใจเนื้อหา บทเรียนที่ยุ่งยากซับซ้อนได้ง่ายขึ้นในระยะเวลาอันสั้น และช่วยให้เกิดความคิดรวบยอดในเรื่องนั้นได้อย่าง ถูกต้องและรวดเร็ว 5
ข - สื่อจะช่วยกระตุ้นและสร้างความเข้าใจให้กับผู้เรียน ท าให้เกิดความรู้สนุกสนานและไม่รู้สึกเบื่อ หน่ายการเรียน ผู้เรียนมีความเข้าใจตรงกันหากเป็นเรื่องของนามธรรมและยากต่อความเข้าใจ และช่วยให้ เกิดประสบการณ์ร่วมกันในวิชาที่เรียน - สื่อช่วยให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียน ท าให้เกิดมนุษยสัมพันธ์อันดี ในระหว่างผู้เรียน ด้วยกันเองและกับผู้สอนด้วย - สร้างเสริมลักษณะที่ดีในการศึกษาค้นคว้าหาความรู้ ช่วยให้ผู้เรียนเกิดความคิด สร้างสรรค์ และ ช่วย แก้ปัญหาเรื่องของความแตกต่างระหว่างบุคคล จากการใช้สื่อรายบุคคล สื่อกับผู้สอน สื่อการเรียนการสอนมีความส าคัญและคุณค่าต่อผู้สอนดังนี้ - การใช้วัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ประกอบการเรียนการสอน เป็นการช่วยให้บรรยากาศในการสอน น่าสนใจยิ่งขึ้น ท าให้ผู้สอนมีความกระตือรือร้นในการสอนมากกว่าวิธีการที่เคยใช้การบรรยายแต่เพียง อย่างเดียว และเป็นการสร้างความเชื่อมั่นในตัวเองให้เพิ่มขึ้นด้วย - ช่วยแบ่งเบาภาระของผู้สอนในด้านการเตรียมเนื้อหาเพราะสามารถน าสื่อมาใช้ซ้ าได้ และบางที อาจให้นักเรียนศึกษาเนื้อหาจากสื่อได้เอง - เป็นการกระตุ้นให้ผู้สอนตื่นตัวอยู่เสมอในการเตรียมและผลิตวัสดุและเรื่องราวใหม่ๆ เพื่อใช้เป็น สื่อการสอน ตลอดจนคิดค้นเทคนิควิธีการต่างๆ เพื่อให้การเรียนรู้น่าสนใจยิ่งขึ้น (กิดานัน มลิทอง, 2553) นอกจากนี้ คุณค่าของสื่อการเรียนการสอนสามารถจ าแนกได้ 3 ด้าน คือ 1. คุณค่าด้านวิชาการ 1.1 ท าให้ผู้เรียนเกิดประสบการณ์ตรง 1.2 ท าให้ผู้เรียนเรียนรู้ได้ดีกว่าและมากกว่าไม่ใช้สื่อการสอน 1.3 ลักษณะที่เป็นรูปธรรมของสื่อการสอน ช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจความหมายของสิ่งต่างๆ ได้ กว้างขวางและเป็นแนวทางให้เข้าใจสิ่งนั้นๆ ได้ดียิ่งขึ้น 1.4 ส่วนเสริมด้านความคิดและการแก้ปัญหา 1.5 ช่วยให้ผู้เรียนเรียนรู้ได้ถูกต้อง และจ าเรื่องราวได้มากและได้นาน 1.6 สื่อการสอนบางชนิด ช่วยเร่งทักษะในการเรียนรู้ เช่น ภาพยนตร์ ภาพนิ่ง เป็นต้น 2. คุณค่าด้านจิตวิทยาการเรียนรู้ 2.1 ท าให้เกิดความสนใจ และต้องเรียนรู้ในสิ่งต่างๆ มากขึ้น 2.2 ท าให้เกิดความคิดรวบยอดเพียงอย่างเดียว 2.3 เร้าความสนใจ ท าให้เกิดความพึงพอใจ และยั่วยุให้กระท ากิจกรรมด้วยตนเอง 3. คุณค่าด้านเศรษฐกิจการศึกษา 3.1 ช่วยให้ผู้เรียนที่เรียนช้า เรียนได้เร็วและมากขึ้น 3.2 ประหยัดเวลาในการท าความเข้าใจเนื้อหาต่างๆ 6
ข 3.3 ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้เหมือนกันครั้งละหลายๆ คน 3.4 ช่วยขจัดปัญหาเรื่องเวลา สถานที่ ขนาด และระยะทาง อย่างไรก็ตาม สื่อการสอนจะมีคุณค่าต่อเมื่อผู้สอนได้น าไปใช้อย่างเหมาะสมและถูกวิธี ดังนั้น ก่อนที่จะน าสื่อแต่ละอย่างไปใช้ ผู้สอนควรจะศึกษาถึงลักษณะและคุณสมบัติของสื่อการสอน ข้อดีและ ข้อจ ากัดอันเกี่ยวเนื่องกับตัวสื่อและการใช้สื่อแต่ละอย่าง ตลอดจนการผลิตและการใช้สื่อให้เหมาะสมกับ สภาพการเรียนการสอนด้วย ทั้งนี้เพื่อให้การจัดการเรียนการสอนบรรลุผลตามจุดมุ่งหมายและ วัตถุประสงค์ที่วางไว้ หลักการเลือกสื่อการเรียนการสอน การเลือกสื่อการสอนเพื่อน ามาใช้ประกอบการสอน เพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้อย่างมี ประสิทธิภาพนั้น เป็นสิ่งส าคัญยิ่ง โดยผู้สอนจะต้องตั้งวัตถุประสงค์นั้นเป็นตัวชี้น าในการเลือกสื่อการสอน ที่เหมาะสมต่อการเรียนรู้ นอกจากนี้ยังมีหลักการอื่นๆ เพื่อประกอบการพิจารณา คือ 1. เลือกสื่อการสอนที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์การเรียนรู้ผู้สอนควรศึกษาถึงวัตถุประสงค์การ เรียนรู้ที่หลักสูตรก าหนดไว้ วัตถุประสงค์ในที่นี้หมายถึงวัตถุประสงค์เฉพาะในแต่ละส่วนของเนื้อหาย่อย ไม่ใช่วัตถุประสงค์ในภาพรวมของหลักสูตร เช่น หลักสูตรก าหนดวัตถุประสงค์ไว้ว่า หลังการเรียนผู้เรียน ควรจ าแนกรสเปรี้ยวและรสหวานได้ ดังนั้น งานการเรียนรู้ควรเป็นประสบการณ์ตรง ผู้สอนควรพิจารณา ว่าสื่อการสอนที่เหมาะสมจะใช้กับการให้ประสบการณ์ตรงได้แก่ อะไรบ้าง ซึ่งจากตัวอย่าง อาจเลือกใช้ ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว กับขนมหวานให้ผู้เรียนได้ชิมรสด้วยตนเอง เป็นต้น 2. เลือกสื่อการสอนที่ตรงกับลักษณะของเนื้อหาของบทเรียน เนื้อหาของบทเรียนอาจมีลักษณะ แตกต่างกันไป เช่น เป็นข้อความ เป็นแนวคิด เป็นภาพนิ่ง / ภาพเคลื่อนไหว เป็นเสียง เป็นสี ซึ่งการเลือก สื่อการสอนควรเลือกให้เหมาะสมกับลักษณะของเนื้อหา ตัวอย่างเช่น การสอนเรื่องสีต่างๆ สื่อก็ควรจะ เป็นสิ่งที่แสดงออกได้ถึงลักษณะของสีต่างๆ ตามที่สอนดังนั้นควรเลือกสื่อการสอนที่ให้เนื้อหาสาระ ครอบคลุมตามเนื้อหาที่จะสอน มีการให้ข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง และมีรายละเอียดมากเพียงพอที่จะให้ผู้เรียน เกิดการเรียนรู้ตามวัตถุประสงค์ที่ก าหนดไว้ 3. เลือกสื่อการสอนให้เหมาะสมกับลักษณะของผู้เรียน ลักษณะเฉพาะตัวต่างๆ ของผู้เรียนเป็น สิ่งที่มีอิทธิพลต่อการรับรู้สื่อการสอน ในการเลือกสื่อการสอนต้องพิจารณาลักษณะต่างๆ ของผู้เรียน เช่น อายุ เพศ ความถนัด ความสนใจ ระดับสติปัญญา วัฒนธรรมและประสบการณ์เดิม ตัวอย่างเช่น การสอน ผู้เรียนที่เป็นนักเรียนระดับประถมศึกษาควรใช้เป็นภาพการ์ตูนมีสีสันสดใส ในขณะที่การสอนนักเรียน ระดับมัธยมศึกษาอาจใช้เป็นภาพเหมือนจริงได้ ซึ่งข้อมูลเกี่ยวกับการเลือกสื่อให้เหมาะสมกับลักษณะ ผู้เรียนนั้นควรศึกษาจากผลงานวิจัย 4. เลือกสื่อการสอนให้เหมาะสมกับจ านวนของผู้เรียน และกิจกรรมการเรียนการสอนในการ สอนแต่ละครั้งจ านวนของผู้เรียนและกิจกรรมที่ใช้ในการเรียนสอน ในห้องก็เป็นสิ่งส าคัญที่ต้องน ามา พิจารณาควบคู่กันในการใช้สื่อการสอน เช่น การสอนผู้เรียนจ านวนมาก จ าเป็นต้องใช้วิธีการสอนแบบ บรรยาย ซึ่งสื่อการสอนที่น ามาใช้อาจเป็นเครื่องฉายต่างๆ และเครื่องเสียง เพื่อให้ผู้เรียนมองเห็นและได้ 7
ข ยินอย่างทั่วถึง ส่วนการสอนผู้เรียนเป็นรายบุคคล อาจเลือกใช้วิธีการสอนแบบค้นคว้าสื่อการสอนอาจเป็น หนังสือบทเรียนแบบโปรแกรม หรือบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เป็นต้น 5. เลือกสื่อการสอนที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม สภาพแวดล้อมในที่นี้อาจได้แก่ อาคาร สถานที่ ขนาดพื้นที่ แสงไฟฟ้า เสียงรบกวน อุปกรณ์อ านวยความสะดวกหรือบรรยากาศ สิ่งเหล่านี้ควร น ามาประกอบการพิจารณาเลือกใช้สื่อการสอน ตัวอย่างเช่น การสอนผู้เรียนจ านวนมากซึ่งควรจะใช้เครื่อง ฉายและเครื่องเสียง แต่สถานที่สอนเป็นลานโล่ง มีหลังคา ไม่มีผนังห้อง มีแสงสว่างจากภายนอกส่องเข้า มาถึง ดังนั้นการใช้เครื่องฉายที่ต้องใช้ความมืดในการฉาย ก็ต้องหลีกเลี่ยงมาเป็นเครื่องฉายประเภทที่ สามารถฉายโดยมีแสงสว่างได้ เป็นต้น 6. เลือกสื่อการสอนที่มีลักษณะน่าสนใจและดึงดูดความสนใจ ควรเลือกใช้สื่อการสอนที่มี ลักษณะ น่าสนใจและดึงดูดความสนใจผู้เรียนได้ ซึ่งอาจจะเป็นเรื่องของเสียงสีสัน รูปทรง ขนาด ตลอดจนการ ออกแบบและการผลิตด้วยความประณีตสิ่งเหล่านี้จะช่วยท าให้สื่อการสอนมีความน่าสนใจและดึงดูดความ สนใจของผู้เรียนได้ อาจก่อให้เกิดบรรยากาศการเรียนรู้ที่สนุกสนาน น่าสนใจ หรือสร้างความพึงพอใจ ให้แก่ผู้เรียน 7. เลือกสื่อการสอนที่มีวิธีการใช้งาน เก็บรักษา และบ ารุงรักษาได้สะดวก ในประเด็นสุดท้าย ของการพิจารณา ควรเลือกสื่อการสอนที่มีวิธีการใช้งานได้สะดวก ไม่ยุ่งยาก และหลังใช้งานควรเก็บรักษา ได้ง่ายๆ ตลอดจนไม่ต้องใช้วิธีการบ ารุงรักษาที่สลับซับซ้อนหรือมีค่าใช้จ่ายในการบ ารุงรักษาสูง แนวคิดการเลือกสื่อการสอนของโรมิสซอว์สกี้(Romiszowski) Romiszowski (1999) ได้เสนอแนวทางอย่างง่ายในการพิจารณาเลือกใช้สื่อการสอนไว้ว่า ในการ เลือกสื่อการสอนนั้นมีปัจจัยหลายอย่างที่มีผลต่อการเลือกสื่อที่จ าเป็นต้องน ามาพิจารณาปัจจัยเหล่านั้น ได้แก่ 1. วิธีการสอน (Instructional Method) การเลือกวิธีการสอนเป็นปัจจัยแรกที่ควบคุมการเลือก สื่อ หรืออย่างน้อยที่สุดก็เป็นสิ่งที่จ ากัดทางเลือกของการใช้สื่อการสอนในการน าเสนอ เช่น ถ้าเลือกใช้ วิธีการสอนแบบอภิปรายกลุ่ม (Group Discussion) เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ซึ่งกันและกันระหว่าง 2. งานการเรียนรู้ (Learning Task) สิ่งที่มีอิทธิพลต่อทางเลือกในการเลือกสื่อการสอนอีกประการ หนึ่งคือ งานการเรียนรู้ส าหรับผู้เรียน เพราะสิ่งนี้จะเป็นสิ่งที่จ ากัดหรือควบคุมการเลือกวิธีการสอน เช่น การฝึกอบรมผู้ตรวจการ หรือทักษะการบริหารงาน 3. ลักษณะของผู้เรียน (Learner Characteristics) ลักษณะพิเศษเฉพาะของผู้เรียนก็เป็นปัจจัย หนึ่งที่มีอิทธิพลโดยตรงต่อการเลือกสื่อการสอน ตัวอย่างเช่น การสอนผู้เรียนที่เรียนรู้ได้ช้า โดยการใช้ หนังสือหรือเอกสารเป็นสื่อการสอน จะเป็นสิ่งที่ยิ่งท าให้เกิดปัญหาอื่นๆ ตามมาในกระบวนการเรียนการ สอน ผู้เรียนกลุ่มนี้ควรเรียนรู้จากสื่ออื่นๆ ที่ท าการรับรู้และเรียนรู้ได้ง่ายกว่านั้น 4. ข้อจ ากัดในทางปฏิบัติ (Practical Constrain) ข้อจ ากัดในทางปฏิบัติในที่นี้หมายถึง ข้อจ ากัด ทั้งทางด้านการจัดการ และทางด้านเศรษฐศาสตร์ ซึ่งเป็นปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อทางเลือกในการเลือกใช้ วิธีการสอนและสื่อการสอน เช่น สถานที่ใช้สื่อการสอน สิ่งอ านวยความสะดวก ขนาดพื้นที่ งบประมาณ เป็นต้น 8
ข 5. ผู้สอนหรือครู (Teacher) สื่อการสอนแต่ละชนิดไม่ว่าจะมีข้อดีอย่างไร แต่อาจไม่ถูกน าไปใช้ เพียงเพราะผู้สอนไม่มีทักษะในการใช้สื่อนั้นๆ นอกจากประเด็นในเรื่องทักษะของผู้สอนแล้ว ประเด็นใน เรื่องทัศนคติของผู้สอนก็เป็นสิ่งที่มีอิทธิพลต่อการเลือกสื่อการสอนเช่นกัน แนวคิดการเลือกสื่อการสอนของเคมพ์และสเมลไล (Jerrold E. Kemp และ Don C. Smelle) Jerrold E. Kemp และ Don C. Smelle (1989) เสนอว่า นอกจากง านการเรียนรู้หรือ สถานการณ์การเรียนรู้ซึ่งเป็นสิ่งส าคัญที่ก าหนดถึงสื่อที่จะเลือกใช้แล้ว สิ่งส าคัญประการต่อมาในการ พิจารณาเลือกใช้สื่อการสอนคือ คุณลักษณะของสื่อ ซึ่งผู้สอนควรศึกษาคุณลักษณะของสื่อแต่ละชนิด ประกอบในการเลือกสื่อการสอนด้วย คุณลักษณะของสื่อ (Media Attributes) หมายถึง ศักยภาพของสื่อ ในการแสดงออกซึ่งลักษณะต่างๆ เช่น การเคลื่อนไหว สี และเสียง เป็นต้น หลักการใช้สื่อการเรียนการสอน 1. เตรียมตัวผู้สอน เป็นการเตรียมความพร้อมของตัวผู้สอนในการใช้สื่อการสอน โดยการท า ความเข้าใจในเนื้อหาที่มีในสื่อ ขั้นตอนและวิธีการใช้สื่อ เป็นต้น 2. เตรียมจัดสภาพแวดล้อม เช่น สถานที่ ห้องเรียน ห้อง Lab วัสดุอุปกรณ์ เครื่องไม้เครื่องมือ และสิ่งอ านวยความสะดวกต่างๆ 3. เตรียมตัวผู้เรียน เพื่อให้มีความพร้อมที่จะเรียน อาจมีการทดสอบ มีการอธิบายวิธีการใช้สื่อ อุปกรณ์ เครื่องมือต่างๆ บอกวัตถุประสงค์ แนะน าหรือให้ความคิดรวบยอดของเนื้อหาในสื่อนั้นๆ เป็นต้น 4. การใช้สื่อให้เหมาะกับขั้นตอนและวิธีการตามที่ได้เตรียมไว้แล้ว และควบคุมการน าเสนอสื่อ เพื่อให้การเรียนการสอนเป็นไปอย่างราบรื่น 5. การติดตามผล (Follow Up) หลังจากการใช้สื่อการสอนแล้ว ควรมีการติดตามผลเพื่อเป็น การทดสอบว่า ผู้เรียนเข้าใจบทเรียน และเรียนรู้จากสื่อที่น าเสนอไปนั้นอย่างถูกต้องหรือไม่ เช่น การให้ ผู้เรียนตอบค าถาม อภิปราย ท ารายงาน เป็นต้น เพื่อผู้สอนจะได้ทราบจุดบกพร่อง สามารถ น ามาแก้ไข ปรับปรุงส าหรับการสอนในครั้งต่อไป ความหมายของการพัฒนาสื่อการเรียนการสอน การพัฒนา คือ การท าให้เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น เจริญขึ้น การพัฒนา คือ การท าให้เปลี่ยนแปลง การพัฒนา คือ การท าให้ดีขึ้น 9
ข การพัฒนา คือ ท าให้เจริญขึ้น (นิพัฒน์ ชัยวรมุขกุล, 2555) พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2525 ได้ให้ความหมายของ “พัฒนา” ว่าคือ “ท าให้ เจริญ” ดังนั้น การพัฒนาจึงหมายถึง การท าให้เจริญ “การพัฒนา” หมายถึง ความเจริญก้าวหน้าโดยทั่วๆ ไป เช่น การพัฒนาชุมชน พัฒนาประเทศ คือ การท าสิ่งเหล่านั้นให้ดีขึ้น เจริญขึ้น สนองความต้องการของ ประชาชนส่วนใหญ่ให้ได้ดียิ่งขึ้น หรืออาจกล่าวได้ว่า “การพัฒนา” เป็นกระบวนการของการเคลื่อนไหว จากสภาพที่ไม่น่าพอใจไปสู่สภาพที่น่าพอใจ การพัฒนาเป็นกระบวนการที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ไม่หยุดนิ่ง การพัฒนามีความสัมพันธ์โดยตรง กับความเปลี่ยนแปลง กล่าวคือ การพัฒนา หมายถึง กระบวนการของการเปลี่ยนแปลงที่มีการวางแผนไว้ แล้ว คือการท าให้ลักษณะเดิมเปลี่ยนไป โดยมุ่งหมายว่า ลักษณะใหม่ที่เข้ามาแทนที่นั้นจะดีกว่าลักษณะ เก่า แต่โดยธรรมชาติแล้วการเปลี่ยนแปลงย่อมเกิดปัญหาในตัวมันเอง เพียงแต่ว่าจะมีปัญหามาก หรือ ปัญหาน้อย ดังนั้น การพัฒนาสื่อการเรียนการสอน จึงหมายถึง การท าให้สิ่งต่างๆ ที่ใช้เป็นเครื่องมือ หรือ ช่องทางส าหรับท าให้การสอนของครูไปถึงผู้เรียนเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น เจริญขึ้น ซึ่งส่งผลให้ผู้เรียน เรียนรู้ตามจุดประสงค์หรือจุดมุ่งหมายที่วางไว้เป็นอย่างดี แนวทางการพัฒนาสื่อการเรียนการสอน ในปัจจุบันเป็นยุคของการแข่งขันอย่างเสรี จากพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ได้ เปิดโอกาสให้มีการแข่งขันอย่างเสรีและเป็นธรรมในการผลิตสื่อการเรียนการสอนทุกประเภท ทุกสาระการ เรียนรู้และทุกช่วงชั้น อาจกล่าวได้ว่าเป็นหนทางที่จะน าไปสู่การพัฒนาสื่อการเรียนการสอนให้ก้าวหน้า อย่างรวดเร็ว แต่ผู้ผลิตรายใหญ่มักจะได้เปรียบในการแข่งขันทางการตลาดมากกว่าผู้ผลิตรายย่อย ดังนั้น ถึงมีการเปิดโอกาสให้มีการแข่งขันเสรีแต่ก็ไม่ใช่แนวทางในการพัฒนาเนื้อหาสาระของสื่อได้อย่างแท้จริง สิ่งส าคัญคือ การก าหนดนโยบายเพื่อควบคุมคุณภาพและราคาให้ชัดเจน รวมทั้งการน านโยบายไปปฏิบัติ ใช้อย่างถูกต้องเหมาะสมและเคร่งครัด เพื่อการพัฒนาสื่อการเรียนการสอนให้เกิดความก้าวหน้าต่อ การศึกษาไทยอย่างแท้จริง ในการพัฒนาสื่อการเรียนการสอนเพื่อใช้ในการด าเนินการจัดการศึกษาในสถานศึกษาขึ้นใช้เอง โดยครูผู้สอนนั้น นับเป็นปัจจัยส าคัญ เพราะครูผู้สอนจะเป็นผู้ที่สามารถวิเคราะห์ถึงความยากง่าย ความ เหมาะสมต่อการเรียนรู้ของผู้เรียน แต่การที่จะพัฒนาสื่อให้มีประสิทธิภาพต่อการเรียนรู้นั้นจะต้องมี กระบวนการที่มีขั้นตอนและมีระบบ เพื่อให้สื่อการเรียนการสอนนั้นมีคุณค่าต่อการศึกษาสูงสุด ดังนั้น ครูผู้สอนจึงควรพิจารณาปัจจัยเพื่อการพัฒนาสื่อดังต่อไปนี้ ปัจจัยทางด้านเนื้อหา - สาระเนื้อหามีความซับซ้อน ผู้เรียนมีความเข้าใจแตกต่างกัน - สาระเนื้อหาไม่สามารถอธิบายให้เกิดรูปธรรมได้ - สาระเนื้อหาวิชานั้นมีขั้นตอน มีกระบวนการที่ใช้เวลานาน - สาระเนื้อหาวิชานั้นมีขั้นตอน มีกระบวนการที่ใช้เวลารวดเร็วเกินไป 10
ข - สาระเนื้อหาวิชานั้นต้องสอดคล้องกับจุดประสงค์เชิงพฤติกรรมของบทเรียนที่ผู้เรียน เมื่อเรียนรู้ แล้วมีความสามารถอะไรบ้าง ปัจจัยทางด้านการผลิต - เลือกประเภทหรือรูปแบบของสื่อที่จะผลิต : อาทิ ชุดการสอน บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน วิดีทัศน์ - ความพร้อมด้านสาระเนื้อหา - ความพร้อมด้านเครื่องมือ และเทคโนโลยี - ความพร้อมด้านผู้ผลิต / พัฒนา : อาทิ ผู้เชี่ยวชาญเนื้อหา ผู้เชี่ยวชาญด้านสื่อ นักวัดผล ช่าง เทคนิค - ความพร้อมด้านแผนการผลิต : ความเหมาะสมต่อวัยของการเรียนรู้ ล าดับขั้นตอนการสร้าง กระบวนการถ่ายทอดเนื้อหา การตรึงพฤติกรรม กิจกรรมการเรียนรู้ - ความพร้อมด้านงบประมาณ ปัจจัยด้านการน าไปใช้งาน - ความพร้อมของเครื่องมือ และเทคโนโลยีในการเรียนรู้อุปกรณ์ เครื่องมือที่น ามาใช้ ประกอบการ เรียนรู้ - ความพร้อมของสภาพแวดล้อม เสียง แสง - ความพร้อมของผู้เรียนและครูผู้สอน ปัจจัยทางด้านการเรียนรู้ - ลักษณะเฉพาะการเรียนรู้ของตัวสื่อ เรียนรู้ด้วยตนเอง หรือควบคุมพฤติกรรม / ล าดับเนื้อหา โดย ครูผู้สอน - วิธีการใช้งาน ความ ยาก ง่าย การใช้ประกอบกับเครื่องมือหรืออุปกรณ์อื่นของการใช้สื่อ - กระบวนการเรียนรู้ การเข้าถึงและการถ่ายทอดเนื้อหา - การซึมซับความรู้ - การตรึงพฤติกรรมต่อการเรียนรู้ นอกจากนี้ ครูผู้สอนควรจะได้ประเมินการใช้สื่อประกอบการเรียนรู้ว่า มีข้อบกพร่อง หรือส่วนใด ที่ควรปรับปรุงแก้ไข เพื่อใจได้ด าเนินการวางแผนการพัฒนาสื่อการเรียนรู้ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นต่อไป สื่อการเรียนการสอนราคาเยา มีสื่อการเรียนการสอนอยู่หลายชนิดที่เราสามารถจัดหามาให้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายหรือเสีย ค่าใช้จ่ายเพียงเล็กน้อย สื่อลักษณะนี้ได้แก่จ าพวกจุลสาร แผ่นปลิว หนังสือ โปสเตอร์ รายงาน สถิติ 11
ข แผนภูมิ ภาพนิ่ง แผ่นภาพการ์ตูน ฯลฯ โดยมีหน่วยงานต่างๆ ของรัฐบาล เอกชน สมาคมและองค์กรต่างๆ เป็นผู้ผลิตขึ้น โรงเรียนสามารถขอใช้สื่อเหล่านี้มาประกอบการเรียนการสอนได้ แต่หากผู้สอนต้องการผลิต สื่อการเรียนการสอนเอง โดยมีงบประมาณจ ากัดหรือมีข้อจ ากัดในเรื่องอื่นๆ ก็สามารถที่จะผลิตสื่อ ราคาเยาได้เอง โดยมีขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยาก และเหมาะสมกับผู้สอนที่มีเวลาจ ากัด ความหมายของสื่อการเรียนการสอนราคาเยา สื่อราคาเยา หมายถึง วัสดุทุกสิ่งทุกอย่างที่ผู้สอนหามาประกอบการสอน โดยเป็นสิ่งที่หาง่าย อยู่ รอบตัวและมักจะพบเห็นเสมอ เช่น กรวด หิน ดิน ทราย ใบไม้ ดอกไม้ เป็นต้น สื่อราคาเยาไม่ใช่ความคิดใหม่ เป็นความคิดที่มีกันมานานแล้ว แต่กระบวนการผลิตและการ น ามาใช้ได้ท าเป็นล าดับขั้นตอนที่ชัดเจนและมีแนวปฏิบัติเพิ่มมากขึ้น ความได้เปรียบของสื่อราคาเยาจะอยู่ ที่การช่วยให้การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนนั้นง่ายขึ้น เพราะสื่อเหล่านี้ผู้สอนและผู้เรียนพบเห็นใน ท้องถิ่นแล้ว สื่อราคาเยานอกจากจะหมายถึง สื่อที่มีราคาถูกแล้วยังหมายถึงสื่อต่างๆ ที่มีอยู่ตามธรรมชาติไม่ ต้องซื้อหาด้วยราคาแพง สิ่งที่ครูคิดประดิษฐ์ขึ้นด้วยวัสดุราคาถูก หรือหาได้ง่าย รวมถึงสื่อสิ่งของได้เปล่า จากการแจกจ่ายเผยแพร่ของหน่วยงาน ซึ่งสื่อราคาเยามีหลายประเภท ดังนี้ 1. สิ่งที่มีอยู่แล้วในท้องถิ่น สิ่งธรรมชาติสามารถน าใช้ประกอบการเรียนการสอนในรูปของของ จริง ใช้ได้โดยไม่ต้องดัดแปลงปรุงแต่ง เช่น ดิน หิน ทราย ต้นไม้ ใบไม้ แม่น้ า ผลไม้ สนามหญ้า แม่น้ า ป้าย ฯลฯ ซึ่งจ าแนกได้เป็น 1.1 พืช ใช้เป็นสื่อการสอนได้มากมายทั้งในการสอนที่เป็นเนื้อหาเกี่ยวกับพืชโดยตรง หรือใช้ส่วน ของพืช หรือสร้างความเข้าใจในการสอนเรื่องอื่น เป็นของจริงที่หาง่ายที่สุด แต่มักจะถูกมองข้าม ตัวอย่าง ที่พบเห็นได้ เช่น ครูต้องสอนให้นักเรียนทราบและเข้าใจถึงรูปร่าง ลักษณะ หน้าที่ส่วนประกอบต่างๆ ของ ต้นไม้ อันได้แก่ ราก ล าต้น กิ่ง ใบ ดอก ผล แทนที่ครูจะให้นักเรียนได้ศึกษาจากต้นไม้จริงๆ ซึ่งมีอยู่ทั่วไป ในโรงเรียน ครูกลับใช้วิธีเขียนรูปต้นไม้บนกระดานชอล์ค เพื่อใช้อธิบายส่วนประกอบ ในขณะที่บริเวณ โรงเรียน หรือแม้แต่ข้างห้องเรียนที่ก าลังสอนอยู่ มีต้นไม้เป็นจ านวนมาก ที่เปิดโอกาสให้ครูน าเด็กออกไป สัมผัสกับต้นไม้จริง ซึ่งจะท าให้บรรยากาศของการเรียนดีกว่าการนั่งในห้อง ส่วนของพืชที่จะใช้ ประกอบการสอนได้นั้นน่าจะใช้ได้ทุกส่วน นับตั้งแต่ รากแบบต่างๆ ล าต้น กิ่ง ก้าน ใบ ดอก ผล เมล็ด เส้น ใย ขึ้นอยู่กับครูผู้สอนจะพิจารณาเลือกให้เหมาะสม เช่น ต้นกล้วยและก้านกล้วย 1.2 สัตว์อาจเป็นส่วนของสัตว์ เช่น เปลือกหอย ปะการัง หนังสัตว์ เขาสัตว์ งา ขน เกล็ด หรือ แม้แต่สัตว์ทั้งตัวที่หาง่ายและไม่เป็นอันตราย ไก่ ปลา ปู กบ นก ก็สามาถน ามาใช้เป็นของจริงประกอบการ สอนได้ทั้งสิ้น 12
ข 1.3 แร่ธาตุ เช่น หิน ดิน ทราย สินแร่ ในธรรมชาติ โดยเฉพาะดิน หิน มักจะมีอยู่ทั่วไป ครูอาจ น าเข้ามาในห้องเรียนหรือน านักเรียนออกไปศึกษาก็ได้ 1.4 ปรากฎการณ์ทางธรรมชาติเช่น แสงแดด กระแสลม กระแสน้ า ฝนเมฆหมอก 2. สื่อราคาเยาที่ครูคิดประดิษฐ์ขึ้นวัสดุจากธรรมชาติที่หาได้ง่าย วัสดุเหลือใช้เศษวัสดุ หรือ วัสดุราคาถูก เช่น ขวดเปล่า กระป๋อง เศษผ้า ถุงเท้า หลอดไฟฟ้า หลอดกาแฟ กระดาษหนังสือพิมพ์ วัสดุ จากต้นไม้ สิ่งเหล่านี้ครูสามารถน ามาปรุงแต่ง ดัดแปลง ให้เป็นสื่อการเรียนการสอนที่มีคุณค่าได้ โดยอาศัย ทักษะงานฝีมือ เพียงเล็กน้อยสื่อการเรียนการสอนที่ประดิษฐ์มาจากวัสดุราคาเยาจะมีคุณภาพหรือมีคุณค่า ต่อการเรียนการสอนมากน้อยเพียงใดนั้น ขึ้นอยู่กับตัวครูผู้ผลิตและผู้ใช้เป็นส าคัญว่าจะมีคุณสมบัติ มี ความสามารถดีเพียงใด คุณสมบัติของครู หรือผู้ประดิษฐ์และใช้วัสดุราคาเยาดีมีดังนี้ 2.1 เป็นผู้มีความคิดสร้างสรรค์ 2.2 มีทักษะในงานช่างและงานฝีมือ เพราะการประดิษฐ์เศษวัสดุ ย่อมต้องอาศัยทักษะความรู้ ความช านาญทางช่างหรือการฝีมือที่ละเอียดอ่อนอยู่บ้าง 2.3 มีความรักและตั้งใจที่จะท า 2.4 มีความรู้ความเข้าใจหลักสูตรเนื้อหาวิชา และจิตวิทยา การเรียนรู้เป็นอย่างดี 2.5 รู้จักสภาพธรรมชาติของท้องถิ่น เพื่อที่จะให้สามารถแสวงหาวัสดุจากสถานที่ต่างๆ ในท้องถิ่น มาใช้ได้มากที่สุด 3. สื่อการสอนได้เปล่าหน่วยงาน องค์การหลายแห่งทั้งภาครัฐบาล และเอกชน ได้จัดท าสื่อเพื่อ การเผยแพร่ ความรู้ต่างๆ เช่น โปสเตอร์ รูปภาพ แผ่นปลิว จุลสาร หรือแม้วัสดุอุปกรณ์ที่มีราคาสูงเช่น เทปเสียง เทปภาพภาพสไลด์ ออกเผยแพร่แจกจ่าย เช่น ส านักงานสาธารณสุขจังหวัด โรงพยาบาล สถานี อนามัย ไปรษณีย์ บริษัท ห้างร้าน สถานทูต สถานกงสุลแนวปฏิบัติในการผลิตและจัดหาสื่อจากท้องถิ่น หลักการออกแบบและการสร้างสื่อการเรียนการสอนราคาเยา ตัวอย่างการเลือกสื่อการสอนที่พบเห็นได้เสมอ เช่น ครูสอนคณิตศาสตร์เกี่ยวกับการนับจ านวน การบวก การลบ และต้องการวัสดุเป็นชิ้นๆ ก้อนๆ จ านวนหนึ่ง เพื่อให้นักเรียนได้ลงมือนับจ านวน แทนที่ ครูจะนึกถึงก้อนดิน หิน หรือวัสดุอื่นอีกมาก ที่หาได้ไม่ยากในท้องถิ่น มาให้นักเรียนนับ แต่ครูกลับนึกถึง ก้อนแม่เหล็กเป็นอันดับแรก และพยายามเรียกร้องให้มีการจัดซื้อกระดานแม่เหล็กมาใช้สอนนับจ านวน กรณีเช่นนี้เราได้นับจ านวนก้อนหินดูจะก่อให้เกิดการเรียนรู้ได้มากกว่าการนับชิ้นส่วนบนกระดานแม่เหล็ก เสียอีก ถ้าก้อนหินหาได้ง่ายนักเรียนทุกคนสามารถหามาได้ง่าย เปิดโอกาสให้นักเรียนมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ โดยมีหลักการดังนี้ 1. มีการศึกษาส ารวจสภาพท้องถิ่นล่วงหน้า เพื่อหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับแหล่งวัสดุต่าง ในเรื่องชนิด จ านวน วิธีการได้มา 13
ข 2. เปิดโอกาสนักเรียนตลอดจนถึงผู้ปกครองนักเรียน มีส่วนในการน าวัสดุอุปกรณ์จากท้องถิ่นมา ใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อการเรียนการสอน 3. พิจารณาประเมินคุณค่า ของสื่อวัสดุที่น ามาใช้ เปรียบเทียบกับการใช้สื่อในลักษณะอื่น เพื่อ หาทางเลือกที่เหมาะสมในการใช้สื่อประกอบการสอนเนื้อหานั้นๆ ในครั้งต่อไป 4. พิจารณาให้เหมาะสม ในเรื่องการน าสื่อ จากท้องถิ่นเข้ามาใช้ห้องเรียนกับการน านักเรียน ออกไปศึกษานอกห้องเรียนว่าจะคุ้มค่า เสี่ยงอันตรายหรือไม่ วัสดุกับเทคนิคการออกแบบ วัสดุการสอน หมายถึง วัสดุทุกสิ่งทุกอย่างที่ครูพึงหามาใช้ ประกอบการเรียนการสอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิ่งที่หาได้ง่ายในท้องถิ่น ซึ่งครูผู้สอนส่วนหนึ่งมักจะมองข้าม ไป เมื่อนึกถึงวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ส าหรับการเรียนการสอนสักเรื่องหนึ่ง ก็มักจะนึกถึงเฉพาะสื่อส าเร็จรูป จ าพวกรูปภาพ แผนภูมิสไลด์ ที่มีผลิตขายเป็นธุรกิจการค้า ราคาค่อนข้างสูง สิ่งของที่หาได้ง่ายส าหรับการ สอนบางเนื้อหา เช่น ใบไม้ ก้อนหิน ดิน ทราย บางครั้งมีคุณค่ายิ่งกว่าสื่อข้างต้นเสียอีก ถ้ารู้จักน ามาใช้ อย่างเหมาะสมเพราะสิ่งเหล่านี้เป็นของจริง ซึ่งเรายอมรับกันว่ามีคุณค่าสูงสุด ส าหรับการเรียนการสอน ข้อสนับสนุนในการใช้สื่อการเรียนการสอนราคาเยา ผู้สอนมีความจ าเป็นในการจัดหาสื่อการเรียนการสอนราคาเยามาประกอบการเรียนการสอน เนื่องจาก 1. ความจ าเป็นด้านเศรษฐกิจของชาติในข้อนี้นักศึกษาตลอดถึงครูผู้สอน ผู้บริหารการศึกษา ทั้งหลายย่อมทราบและตระหนักกันอยู่แล้วว่าประเทศของเรา เป็นประเทศก าลังพัฒนาหลายๆ ด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการลงทุน เพื่อการพัฒนาไปเป็นประเทศอุตสาหกรรมใหม่ ต้องกู้ เงินจากต่างประเทศปีละมากๆ ต้องจ่ายเงินกลับให้ต่างชาติรวมเงินต้นและดอกเบี้ยในแต่ละปีเป็นจ านวน เงินมหาศาล ในด้านการศึกษาเองก็มีโครงการที่กู้เงินจากต่างประเทศมาด าเนินการอยู่เป็นจ านวนไม่น้อย เมื่อสภาพการณ์ เป็นเช่นนี้ การพิจารณาจัดหาสื่อหรือเทคโนโลยีการศึกษามาใช้จึงควรค านึงถึงเรื่องการ ประหยัดไว้ให้มาก 2. ฐานะการเงินของโรงเรียน การพัฒนาด้านเทคโนโลยีการศึกษา ได้ก่อให้เกิดสิ่งประดิษฐ์ในรูป วัสดุ เครื่องมือประกอบการสอนใหม่ๆ อย่างมากมายเป็นที่สนใจของครูผู้สอน และผู้บริหารการศึกษา ทั่วไป มีความพยายามที่จะจัดซื้อจัดหาเทคโนโลยีหลายรูปแบบ ก่อให้เกิดปัญหาทั้งในโรงเรียนขนาดใหญ่ที่ มีงบประมาณด าเนินมาก และโรงเรียนขนาดเล็กที่งบประมาณมีอย่างจ ากัดในโรงเรียนขนาดใหญ่ เช่น โรงเรียนในตัวเมืองมีนักเรียนมาก มีงบประมาณมากพอที่จะจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์ที่ทันสมัย เข้ามาไว้ใน โรงเรียน แต่เทคโนโลยีด้านวัสดุ และเครื่องมือต่างมีการพัฒนาเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาประกอบกับ ความต้องการที่ดูจะไม่มีที่สิ้นสุด ท าให้โรงเรียนเห็นว่า ยังขาดแคลนวัสดุ อุปกรณ์ที่ทันสมัยอยู่ตลอดไป งบประมาณที่ว่ามีมากแล้วก็กลับไม่เพียงพอส าหรับการจัดซื้ออุปกรณ์บางอย่างซื้อไม่ได้ด้วยเงินบ ารุง การศึกษาหรืองบประมาณแผ่นดิน โรงเรียนบางแห่งก็มีวิธีการหาเงินจากแหล่งอื่นมาจัดซื้อ เช่น เรียกร้อง ให้มีการบริจาค จากผู้ปกครองของนักเรียน สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ปกครองที่มีฐานะยากจนกันอยู่ 14
ข ทั่วไปในโรงเรียนขนาดเล็กงบประมาณมีจ ากัด ก็มีความพยายามเช่นเดียวกัน ที่จะจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์ที่ ทันสมัยให้ทัดเทียมกับโรงเรียนขนาดใหญ่ บางแห่งขาดการวางแผนที่ชัดเจนว่า จะซื้อวัสดุอุปกรณ์นั้นๆ มา เพื่ออะไร คุ้มค่าหรือไม่ มีค่าใช้จ่ายในการใช้และการบ ารุงรักษาตามมามากน้อยเพียงใด เมื่อซื้อมาแล้วใช้ ไม่คุ้มค่าเก็บไว้นานก็เสื่อมสภาพ เนื่องจากไม่ได้รับการดูแลอย่างถูกวิธีเช่น โรงเรียนบางแห่งพยายามหา ทุนจัดซื้อเครื่องฉายภาพยนตร์ 16 ม.ม. แต่เมื่อซื้อมาแล้วมีโอกาสใช้เพียง 2 - 3 ครั้งต่อปี เนื่องจากมี ปัญหาการจัดหาหรือยืมฟิล์มมาฉาย 3. วัสดุอุปกรณ์ส าเร็จรูปมีราคาสูง ตัวอย่างราคาวัสดุอุปกรณ์ในปี พ.ศ.2537 ราคาสไลด์ การศึกษาขนาด 2"x 2" เรื่องหนึ่งจ านวน 30 ภาพ ราคาขายส าหรับสไลด์ที่ผลิตขึ้นโดยหน่วยงาน ภายในประเทศประมาณ 400-600 บาท ถ้าผลิตมาจากต่างประเทศ ราคาจะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว แม้ว่า ครูผู้สอนจะสามารถผลิตสไลด์เองค่าใช้จ่ายก็จะใกล้เคียงกับที่ซื้อส าเร็จรูป เนื่องจากวัตถุดิบ เช่นฟิล์มและ ค่าล้างฟิล์ม มีราคาสูง เครื่องฉายสไลด์มีราคาตั้งแต่ 8,000 - 30,000 บาท วิดีโอเทป รายการทางการ ศึกษา 1 ม้วน ราคาตั้งแต่ 250-1,200 บาท เครื่องเล่นวิดีโดเทปราคาตั้งแต่ 8,000 บาท ถึงหลายหมื่นบาท สื่ออื่นๆ เช่น แผนที่ ลูกโลก หุ่นจ าลอง ล้วนแต่ราคาสูงๆ ทั้งสิ้น เมื่อเป็นเช่นนี้ เราจึงควรหันมาพิจารณาสื่อ ราคาเยา ที่สามารถผลิตหรือหาได้ง่ายจากท้องถิ่นแทนที่จะเรียกร้องหาวัสดุอุปกรณ์อันทันสมัยอย่างเดียว 4. สื่อส าเร็จรูปไม่สอดคล้องกับสภาพชีวิตและสังคม สื่อส าเร็จรูปที่ผลิตจ าหน่าย อาจใช้วิธีการ สื่อความหมายบนพื้นฐานของประเพณีวัฒนธรรมและสภาวะแวดล้อมทางกายภาพที่แตกต่างไปจากสภาพ ชีวิตและสังคมของนักเรียนในห้อง การสื่อความหมายอาจไม่ได้ผลเท่าที่ควร ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเช่น การ ใช้ภาพยนตร์การศึกษาที่ผลิตจากต่างประเทศ 5. คุณสมบัติของสื่อที่จะส่งผลต่อการเรียนรู้สื่อส าเร็จรูปทั้งหลายเป็นเพียงประสบการณ์จ าลอง เท่านั้น คุณค่าด้านการเรียนรู้จึงมีข้อจ ากัด ส่วนสื่อราคาเยาที่หาได้ในท้องถิ่นนั้น เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้รับ ประสบการณ์ตรงอย่างกว้างขวางเพราะมีโอกาสที่จะใช้สื่อที่เป็นของจริงได้มาก การพัฒนาสื่อการเรียนการสอนเฉพาะตามระดับการศึกษา หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน จัดระดับการศึกษาออกเป็น 3 ระดับ ดังนี้ 1. ระดับประถมศึกษา (ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6) การศึกษาระดับนี้เป็นการศึกษาช่วงแรกของภาคบังคับ มุ่งเน้นทักษะพื้นฐานด้านการอ่าน การ เขียน การคิดค านวณ ทักษะการคิดพื้นฐาน การติดต่อสื่อสาร กระบวนการเรียนรู้ทางสังคม และพื้นฐาน ความเป็นมนุษย์ การพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างสมบูรณ์ และสมดุลทั้งในด้านร่างกาย สติปัญญา อารมณ์ สังคม และวัฒนธรรม โดยเน้นการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการ 2. ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น (ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3) เป็นช่วงสุดท้ายของการศึกษาภาคบังคับ มุ่งเน้นให้ผู้เรียนได้ส ารวจความถนัดและความสนใจของ ตนเอง ส่งเสริมการพัฒนาบุคลิกภาพส่วนตน มีทักษะในการคิดอย่างมีวิจารณญาณ คิดสร้างสรรค์ และการ คิดแก้ปัญหา มีทักษะในการด าเนินชีวิต มีทักษะการใช้เทคโนโลยีเพื่อเป็นเครื่องมือในการเรียนรู้ ตลอดจน ใช้เป็นพื้นฐานในการประกอบอาชีพและการศึกษาต่อ 15
ข 3. ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6) การศึกษาในระดับนี้เน้นการเพิ่มพูนความรู้และทักษะเฉพาะด้าน สนองตอบความสามารถ ความ ถนัด และความสนใจของผู้เรียนแต่ละคนทั้งด้านวิชาการและวิชาชีพ มีทักษะในการใช้วิทยาการและ เทคโนโลยี ทักษะกระบวนการคิดขั้นสูง สามารถน าความรู้ไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ในการศึกษาต่อ และการประกอบอาชีพ มุ่งพัฒนาตนและประเทศตามบทบาทของตน สามารถเป็นผู้น าและผู้ให้บริการ ชุมชนในด้านต่างๆ เนื่องจากการศึกษาแต่ละระดับมีการมุ่งเน้นผู้เรียนในด้านที่แตกต่างกัน เพื่อให้เกิดประสิทธิผล สูงสุดแก่ตัวผู้เรียน และผู้เรียนสามารถน าไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ในอนาคต ดังนั้น การผลิตและ พัฒนาสื่อการเรียนการสอนให้เหมาะสมกับการศึกษาในแต่ละระดับชั้น จึงส าคัญต่อการพัฒนาด้านการ จัดการเรียนการรู้เป็นอย่างยิ่ง สื่อการเรียนการสอนส าหรับนักเรียนระดับประถมศึกษา สื่อการเรียนการสอนมีบทบาทต่อการเรียนของนักเรียนระดับประถมศึกษา (ชัยยงค์พรหมวงศ์, 2525 : 24 – 25) ดังต่อไปนี้ 1. สื่อการสอนเป็นตัวกระตุ้นความสนใจของเด็กต่อเรื่องที่จะเรียน เมื่อเด็กเกิดความสนใจก็จะเกิด ความพยายามเรียนรู้เรื่องนั้นขึ้นมาเอง โดยครูไม่ต้องเสียเวลาพูดหรืออธิบายมากมายนัก 2. สื่อการสอนเป็นเครื่องมือที่จะให้เด็กได้เรียนรู้ด้วยการลงมือปฏิบัติ โดยที่เด็กจะเรียนรู้ได้ดีที่สุด ด้วยการลงมือท า หากไม่มีสื่อการสอนให้เป็นเครื่องมือ เด็กก็ไม่ทราบว่าจะท าอะไร เพราะการบอกให้เด็ก ลงมือท ากิจกรรมนั้นเพียงแต่การบอกให้ท าโดยไม่มีเครื่องมือช่วย ย่อมเป็นเรื่องยาก 3. สื่อการสอนช่วยให้ประสบการณ์รูปธรรมแก่เด็ก เพราะสื่อการสอนจะช่วยให้เด็กเห็นภาพ ได้ ยินเสียงหรือทั้งสองอย่างเห็นการเคลื่อนไหว มีโอกาสเห็นของจริง หรือจ าลอง และบางครั้งอาจได้รับ ประสบการณ์ตรงเกี่ยวกับสิ่งที่เรียน 4. ในการเรียนแนวคิดบางอย่าง นักเรียนจะเรียนได้ดีจากการดูตัวอย่างหรือตัวแบบ สื่อการสอน จึงมีบทบาทเป็นตัวแบบที่ดีส าหรับการเรียนของเด็กและสามารถท าให้เด็กเรียนได้รวดเร็วขึ้น หากไม่มีสื่อ การสอนเป็นตัวแบบ จะท าให้ครูเสียเวลาอธิบาย เนื่องจากนักเรียนไม่เข้าใจ 5. สื่อการสอนในรูปของกิจกรรมหรือวิธีการต่างๆ จะท าให้เกิดบรรยากาศของความเป็นกันเอง โดยครูมีเวลาสังเกตและใกล้ชิดกับนักเรียนที่ต้องการครูมากขึ้น เพราะครูไม่จ าเป็นต้องสอนโดยการพูด หรืออธิบายตลอดเวลา ครูจะไม่เหนื่อย แต่จะรู้สึกสนุกสนานไปกับการเรียนของเด็ก ครูจะมีความสุข บรรยากาศในห้องก็จะดีขึ้น 6. สื่อการสอนช่วยสร้างสภาพการณ์ที่เปิดกว้างต่อการเรียนรู้ของเด็ก โดยการจัดสื่อในรูปของชุด การสอนที่มีการเตรียมการล่วงหน้า ครูจึงเปิดโอกาสให้เด็กได้เกิดการเรียนรู้ ได้ซักถามคิดค้นสิ่งใหม่ๆ โดย 16
ข ที่ครูไม่ต้องเกรงว่าจะสอนเด็ก และตอบค าถามเด็กไม่ได้ เพราะสื่อการสอนทุกชนิดจะมีค าตอบ และวิธีการ แก้ปัญหาต่างๆ ไว้แล้ว สื่อการเรียนการสอนมีบทบาทต่อการเรียนรู้ของเด็กประถมศึกษา ในด้านต่างๆ สื่อเป็นแม่แบบที่ ส าคัญส าหรับการเรียนของผู้เรียนโดยเฉพาะด้านการกระตุ้นความสนใจของผู้เรียน เป็นเครื่องมือที่ให้เด็ก ได้เรียนรู้จากการลงมือปฏิบัติด้วยตัวเอง สื่อยังสามารถสร้างบรรยากาศในการเรียนให้มีความอบอุ่นเป็น กันเอง ตัวอย่างสื่อการเรียนการสอนของนักเรียนระดับประถมศึกษา สื่อการเรียนการสอนทั่วไป สื่อการสอนท ามือ วิชา ภาษาอังกฤษ เรื่อง Rooms in the house ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 (ภาพจาก “สื่อการสอนท ามือ by ครูปลา”) 17
ข สื่อการสอนท ามือ วิชา ภาษาอังกฤษ เรื่อง Food ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 (ภาพจาก “สื่อการสอนท ามือ by ครูปลา”) สื่อการสอนท ามือ วิชา ภาษาอังกฤษ เรื่อง Tenses ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 (ภาพจาก “สื่อการสอนท ามือ by ครูปลา”) 18
ข สื่อการสอนท ามือ วิชา ภาษาอังกฤษ เรื่อง Classroom Objects ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 (ภาพจาก “สื่อการสอนท ามือ by ครูปลา”) สื่อการสอนท ามือ วิชา ภาษาอังกฤษ เรื่อง Animals ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 (ภาพจาก “สื่อการสอนท ามือ by ครูปลา”) 19
ข สื่อการสอนท ามือ วิชา ภาษาอังกฤษ เรื่อง Classroom Objects ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 (ภาพจาก “สื่อการสอนท ามือ by ครูปลา”) สื่อการสอนท ามือ วิชา ภาษาอังกฤษ เรื่อง ค ากริยา 3 ช่อง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 (ภาพจาก “สื่อการสอนท ามือ by ครูปลา”) 20
ข สื่อการสอนท ามือ วิชา สังคมศึกษา เรื่อง วันส าคัญทางศาสนา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 (ภาพจาก “สื่อการสอนท ามือ by ครูปลา”) สื่อการสอนท ามือ วิชา ภาษาอังกฤษ เรื่อง Classroom Objects ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 (ภาพจาก “สื่อการสอนท ามือ by ครูปลา”) 21
ข สื่อการสอนท ามือ วิชา คณิตศาสตร์ เรื่อง การบอกเวลา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 (ภาพจาก “สื่อการสอนท ามือ by ครูปลา”) สื่อการสอนท ามือ วิชา ภาษาไทย เรื่อง การประสมค า ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 (ภาพจาก “สื่อการสอนท ามือ by ครูปลา”) สื่อการสอนท ามือ วิชา ภาษาไทย เรื่อง ไตรยางศ์ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 22
ข (ภาพจาก “คลังสื่อท ามือ by ครูพิมพ์ชนก”) สื่อการสอนท ามือ วิชา คณิตศาสตร์ เรื่อง เรขาคณิต ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5-6 (ภาพจาก “ครูประถม.คอม”) 23
ข สื่อการเรียนการสอนราคาเยา สื่อการสอนท ามือ วิชา คณิตศาสตร์ เรื่อง เรขาคณิต ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5-6 (ภาพจาก “p-ject.com ไอเดียสื่อการสอนคณิตศาสตร์”) ผลิตจากวัสดุเหลือใช้ “ไม้ไอศกรีม” สื่อการสอนท ามือ วิชา ภาษาอังกฤษ เรื่อง รูปร่าง (Shapes) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 (ภาพจาก “p-ject.com ไอเดียสื่อการสอนภาษาอังกฤษ”) ผลิตจากวัสดุเหลือใช้ “เศษผ้า” 24
ข สื่อการสอนท ามือ วิชา ภาษาอังกฤษ เรื่อง Ask and Answer ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5-6 (ภาพจาก “p-ject.com ไอเดียสื่อการสอนภาษาอังกฤษ”) ผลิตจากวัสดุเหลือใช้ “ไม้ไอศกรีม” สื่อการสอนท ามือ วิชา คณิตศาสตร์ เรื่อง เศษส่วน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 (ภาพจาก “p-ject.com ไอเดียสื่อการสอนคณิตศาสตร์”) ผลิตจากวัสดุเหลือใช้“จานกระดาษ” 25
ข สื่อการสอนท ามือ วิชา สังคมศึกษา เรื่อง ทวีป ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 (ภาพจาก “p-ject.com ไอเดียสื่อการสอนสังคมศึกษา”) ผลิตจากวัสดุเหลือใช้ “เศษกระดาษ” สื่อการสอนท ามือ วิชา การงานอาชีพ เรื่อง งานประดิษฐ์ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 (ภาพจาก “p-ject.com ไอเดียสื่อการสอนงานประดิษฐ์”) ผลิตจากวัสดุเหลือใช้ “กล่องนม” 26
ข สื่อการสอนท ามือ วิชา คณิตศาสตร์ เรื่อง การเปรียบเทียบค่าตัวเลข ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-3 (ภาพจาก “p-ject.com ไอเดียสื่อการสอนคณิตศาสตร์”) ผลิตจากวัสดุเหลือใช้ “เศษกระดาษ กล่องกระดาษใช้แล้ว” สื่อการสอนท ามือ วิชา ภาษาอังกฤษ เรื่อง Words ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 (ภาพจาก “p-ject.com ไอเดียสื่อการสอนภาษาอังกฤษ”) ผลิตจากวัสดุเหลือใช้ “ฝาขวดน้ า” 27
ข สื่อการเรียนการสอนส าหรับนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้นและตอนปลาย สื่อการเรียนการสอนที่ดีส าหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นและตอนปลาย มีดังนี้ 1. เนื้อหาสอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดของหลักสูตรแกนกลาง 2. เนื้อหาถูกต้องตามหลักวิชาทันสมัย ยากง่ายเหมาะสมกับวัยและระดับชั้น ไม่ขัดต่อความมั่นคง และความสงบเรียบร้อยของชาติ 3. ภาษาถูกต้องเหมาะสม ชัดเจน สื่อความหมายให้เข้าใจได้ง่าย 4. กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนสอดคล้องกับจุดประสงค์ของบทเรียน ดึงดูดความสนใจของผู้เรียน ส่งเสริมกระบวนการคิด การลงมือปฏิบัติ แก้ปัญหา สรุปหลักความคิด สร้างองค์ความรู้ 5. กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ส่งเสริมให้คิดทบทวนความเข้าใจในบทเรียน ชัดเจน ปฏิบัติได้ 6. มีผังมโนทัศน์ของหน่วย ค าศัพท์ส าคัญ เรื่องน่ารู้ ประโยชน์จากการเรียนรู้ และค าถามประกอบ กิจกรรม เพื่อช่วยให้เรียนรู้ได้เร็ว เข้าใจชัดเจนขึ้น และน าไปใช้ได้จริง 7. มีภาพ ตาราง แผนภูมิ แผนผังความคิดประกอบเนื้อหา ช่วยให้เกิดความเข้าใจชัดเจนยิ่งขึ้น 8. มีบทสรุปและอภิธานศัพท์ เพื่อช่วยการเรียนรู้ให้รวดเร็วและถูกต้อง 9. มีการใช้วิทยาการและเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อให้ผู้เรียนเกิดทักษะกระบวนการคิดขั้นสูง สามารถน าความรู้ไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ในการศึกษาต่อและการประกอบอาชีพ 10. มีการประเมินทั้งด้านเนื้อหา กระบวนการ คุณธรรม จริยธรมเป็นระยะๆ ทุกหน่วย และเมื่อ จบรายวิชา เพื่อให้นักเรียนได้ทบทวนความรู้และตรวจสอบผลสัมฤทธิ์ของตนเองได้ 28
ข ตัวอย่างสื่อการเรียนการสอนของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้นและตอนปลาย สื่อการเรียนการสอนทั่วไป สื่อการสอนท ามือ วิชา ศิลปะ (นาฏศิลป์) เรื่อง หลักการชมการแสดง ระดับชั้นมัธยมศึกษา (ภาพจาก “สื่อการสอน by ครูเล็ก อรวรรณ”) สื่อการสอนท ามือ วิชา ศิลปะ (นาฏศิลป์) เรื่อง หลักการชมการแสดง ระดับชั้นมัธยมศึกษา (ภาพจาก “สื่อการสอน by ครูเล็ก อรวรรณ”) สื่อการสอนท ามือ วิชา คณิตศาสตร์ เรื่อง ตัวประกอบ ระดับชั้นมัธยมศึกษา (ภาพจาก “สื่อการสอน by Sunisa”) 29
ข สื่อการสอนท ามือ วิชา สังคมศึกษา เรื่อง กฎหมายแพ่งและอาญา ระดับชั้นมัธยมศึกษา (ภาพจาก “สื่อท ามือ by เขมจ้า”) 30
ข สื่อการสอน วิชา สังคมศึกษา เรื่อง 10 รัชกาลของไทย ระดับชั้นมัธยมศึกษา (ภาพจาก “สื่อการสอน ครูนเรศ เพื่อการศึกษา”) 31
ข สื่อการสอนท ามือ วิชา สังคมศึกษา เรื่อง ภาษีนิติบุคคล ระดับชั้นมัธยมศึกษา (ภาพจาก “สื่อการสอนท ามือ by ครูปลา”) สื่อคอมพิวเตอร์ช่วยสอน วิชา วิทยาศาสตร์ เรื่อง ระบบประสาท ระดับชั้นมัธยมศึกษา (ภาพจาก “สื่อการสอน by ครูโอ๋”) 32
ข สื่อคอมพิวเตอร์ช่วยสอน วิชา วิทยาศาสตร์ เรื่อง วงจรไฟฟ้า ระดับชั้นมัธยมศึกษา (ภาพจาก “สื่อการสอน by ครูโอ๋”) สื่อการเรียนการสอนราคาเยา สื่อการสอน วิชา วิทยาศาสตร์ เรื่อง เซลล์ของสิ่งมีชีวิต ระดับชั้นมัธยมศึกษา (ภาพจาก “รักษ์ศักดิ์ สิทธิวิไล NSTDA”) ผลิตจากวัสดุเหลือใช้ “ไม้จิ้มฟัน / เยลลี่ / เศษกระดาษ” 33
ข สื่อการสอน วิชา การงานอาชีพ เรื่อง เกษตรทฤษฎีใหม่ ระดับชั้นมัธยมศึกษา (ภาพจาก “เจนจิรา”) ผลิตจากวัสดุธรรมชาติ “ทราย / ต้นใบ / ใบไม้ / เศษไม้” 0 34
ข สื่อการสอน วิชา ฟิสิกส์ เรื่อง Black Box ระดับชั้นมัธยมศึกษา (ภาพจาก “ครูสุรศักดิ์ ศรีสุวงศ์ โรงเรียนเกษมสีมาวิทยาคาร จ.อุบลราชธานี”) ผลิตจากวัสดุเหลือใช้ “กล่องขนม / เชือก” 0 35
ข สรุป กล่าวโดยสรุปคือ สื่อเป็นสิ่งที่มีบทบาทส าคัญอย่างมากในการสอนตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน เนื่องจากเป็นตัวกลางที่ช่วยให้การสื่อสารระหว่างผู้สอนและผู้เรียนด าเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วย ให้ผู้เรียนเข้าใจความหมายของเนื้อหาบทเรียนให้ตรงกับผู้สอนต้องการ ไม่ว่าสื่อนั้นจะอยู่ในรูปแบบใด ก็ตามล้วนแต่เป็นทรัพยากรที่สามารถอ านวยความสะดวกในการเรียนรู้ได้ทั้งสิ้น เพื่อให้ผู้ส่งและผู้รับ สามารถสื่อสารกันได้ตรงตามวัตถุประสงค์ และโดยเฉพาะในปัจจุบันเป็นยุคของการแข่งขันอย่างเสรี จากพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ได้เปิดโอกาสให้มีการแข่งขันอย่างเสรีและเป็น ธรรมในการผลิตสื่อการเรียนการสอนทุกประเภท ทุกสาระการเรียนรู้และทุกช่วงชั้น อาจกล่าวได้ว่า เป็นหนทางที่จะน าไปสู่การพัฒนาสื่อการเรียนการสอนให้ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว แต่ผู้ผลิตรายใหญ่ มักจะได้เปรียบในการแข่งขันทางการตลาดมากกว่าผู้ผลิตรายย่อย ดังนั้น ถึงมีการเปิดโอกาสให้มีการ แข่งขันเสรีแต่ก็ไม่ใช่แนวทางในการพัฒนาเนื้อหาสาระของสื่อได้อย่างแท้จริง สิ่งส าคัญคือ การก าหนด นโยบายเพื่อควบคุมคุณภาพและราคาให้ชัดเจน รวมทั้งการน านโยบายไปปฏิบัติใช้อย่างถูกต้อง เหมาะสมและเคร่งครัด เพื่อการพัฒนาสื่อการเรียนการสอนให้เกิดความก้าวหน้าต่อการศึกษาไทย อย่างแท้จริง 36
ข ค าถามทบทวน 1. สื่อการเรียนการสอนมีประโยชน์อย่างไร สามารถน ามาใช้ได้อย่างไรบ้าง จงยกตัวอย่าง 2. การใช้สื่อการเรียนการสอนควรมีหลักการอย่างไร 3. การพัฒนาสื่อการเรียนการสอนมีความส าคัญอย่างไร 4. เราสามารถน าสิ่งใดมาประดิษฐ์เป็นสื่อราคาเยาได้บ้าง จงยกตัวอย่าง 5. สื่อการเรียนการสอนทีบทบาทต่อการเรียนของนักเรียนระดับประถมศึกษาอย่างไรบ้าง 37
ข บรรณานุกรม การประเมินสื่อการเรียนการสอน. [online] Available : https://amtasanee.wordpress.com/ (วันที่ค้นข้อมูล: 24 ธันวาคม 2562). ประเภทและลักษณะการประเมินผลสื่อการเรียนรู้. [online] Available : https://sites.google.com/site/innovation0503111social. (วันที่ค้นข้อมูล: 25 ธันวาคม 2562). หลักการและขั้นตอนการใช้และการประเมินสื่อการเรียนการสอน. [online] Available : http://oknation.nationtv.tv/blog/Apinya0936. (วันที่ค้นข้อมูล: 25 ธันวาคม 2562). 38