The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

มเหศักดิ์หลักเมืองขอนแก่น : สัณฐานกากบาทเกิดจากความเชื่อหรือรูปทรงที่ถูกออกแบบ
โดย บุตรดา คนชม
สาขาวิจัยศิลปะ วัฒนธรรม และการออกแบบ คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

บทความ - มเหศักดิ์หลักเมืองขอนแก่น : สัณฐานกากบาทเกิดจากความเชื่อหรือรูปทรงที่ถูกออกแบบ

มเหศักดิ์หลักเมืองขอนแก่น : สัณฐานกากบาทเกิดจากความเชื่อหรือรูปทรงที่ถูกออกแบบ
โดย บุตรดา คนชม
สาขาวิจัยศิลปะ วัฒนธรรม และการออกแบบ คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น

มเหศักด์ิหลักเมืองขอนแก่น : สัณฐานกากบาท ประเภทคือ 1. อาคาร ได้แก่ สถูปเจดีย์ โบสถ์
วหิ าร ศาลา หอไตร เป็นตน้ 2. สิ่งก่อสร้างอื่นๆ
เกดิ จากความเช่ือหรือรูปทรงทถ่ี ูกออกแบบ ไดแ้ ก่ กาแพงเมือง สระน้า บ่อน้า เส้นทางสัญจร
นางสาวบุตรดา คนชม ร่องรอยทางสถาปัตยกรรมและผงั เมืองเป็นตน้

สถาปัตยกรรมไทยในอดีตท่ียงั ปรากฏ สุ ท ธิ ว ง ศ์ พ ง ศ์ ไ พ บู ล ย์ ไ ด้ ศึ ก ษ า
หลกั ฐานอยมู่ ากในปัจจุบนั เป็นสถาปัตยกรรมทาง สถาปัตยกรรมพ้ืนบ้าน และจาแนกลกั ษณะทาง
พระพุทธศาสนา ซ่ึงถือกาเนิดมาภายหลังจาก สถาปัตยกรรมออกตามประโยชน์ใชส้ อย
ศาสนาพุทธแพร่เขา้ มายงั ดินแดนสุวรรณภูมิหรือ ซ่ึงสรุปไดด้ งั น้ี
ประเทศไทยจากประเทศอินเดีย โดยมีการ
ก่อสร้างอาคารต่างๆ เพื่อเป็ นสัญลกั ษณ์และเพื่อ ๑. อาคารบา้ นเรือนสาหรับที่อยอู่ าศยั
ประกอบกิจกรรมทางศาสนา ได้แก่ สถูปหรือ ๒. ศาสนสถาน เช่น กุฏิ อุโบสถ วิหาร
เจดีย์ โบสถ์หรืออุโบสถ วิหาร กุฏิ ศาลา เป็ นตน้ ศาลเจา้ มสั ยดิ เป็นตน้
(ธาดา สุทธิธรรม, 2542) นักวิชาการได้กล่าวถึง ๓. สาธารณสถาน เช่น ศาลาริมน้า ศาลา
ความหมายของสถาปั ตยกรรมไว้ซ่ึ งพอจะ กลางถนน เป็นตน้
ประมวลไดด้ งั น้ี ๔ . อ นุ ส ร ณ์ ส ถ าน เช่ น บั ว เจ ดี ย์
ศาลหลักเมือง ศาลอันเป็ นท่ีสิ งสถิตของสิ่ ง
โชติ กลั ยาณมิตร ไดก้ ล่าวถึงความหมาย ศกั ด์ิสิทธ์ิ เป็นตน้
ของสถาปั ตยกรรมไว้ว่าหมายถึง “อาคารท่ี ๕. โรงประกอบพิธีกรรมเฉพาะอย่าง
สร้างสรรค์ข้ึนโดยสถาปนิกซ่ึงมีความชดั เจนใน เช่น เมรุเผาศพ ปะราพิธี เป็นตน้
รสนิยมทางศิลป วทิ ยาการทางวสั ดุ ประสบการณ์ ๖. พลบั พลา
ทางธรรมชาติ และประสบการณ์ในดา้ นสังคม มี ๗. โรงมหรสพ เช่น โรงหนังตะลุง โรง
ความงาม และสามารถสนองประโยชน์ใช้สอย โนรา โรงกาหลอ เป็นตน้
ไดส้ มบูรณ์ตามความมุ่งหมายที่ต้งั ไวเ้ พื่ออาคาร ๘. สิ่งท่ีทาข้ึนชั่วคราวตามคติความเช่ือ
น้นั ” และธาดา สุทธิธรรม ไดก้ ล่าวถึงความหมาย หรือประเพณีบางอยา่ ง เช่น เรือพระ (ในประเพณี
ของสถาปัตยกรรมไวว้ า่ สถาปัตยกรรม หมายถึง ลากพระ) เรือในประเพณีลอยเรือของชาวเล เป็ น
สิ่งก่อสร้างที่เกิดจากน้ามือมนุษยเ์ พ่ือประโยชน์ ตน้
ใชส้ อยอยา่ งใดอยา่ งหน่ึง หากมนุษยส์ ามารถเขา้ ใ น บ ท ค ว า ม น้ี จ ะ ข อ ก ล่ า ว ถึ ง
ไปใช้งานได้ เรียกวา่ อาคาร (building) มิฉะน้นั ก็ สถาปั ตยกรรมแบบอนุ สรณ์ สถาน ซ่ึ งก็คือ
จะ เรี ย ก ว่า ส่ิ งป ลู ก ส ร้ างห รื อ ส่ิ งก่ อ ส ร้ าง ศาลหลักเมือง ประจาจังหวดั ขอนแก่น ซ่ึงจะ
(structure) สถาปัตยกรรมสามารถแบ่งออกเป็ น 2

พิจารณาไปที่รูปทรงของตวั อาคาร ซ่ึงหากมอง ยดึ เหน่ียวจิตใจของชาวบา้ นชาวเมืองเป็ นหลกั ชยั
จากมุมสู งจะพบว่า ผังของตัวอาคารเป็ นรู ป เป็ นที่รวมจิตใจของชาวบ้านชาวเมือง เป็ น
กากบาท ผูเ้ ขียนจึงไดท้ าการศึกษาขอ้ มูลเกี่ยวกบั ประห น่ึ งหัวใจของเมื อง เป็ น เคร่ื องแส ดง
องค์ประกอบของตวั อาคารศาลหลกั เมืองเพ่ือให้ หลักฐานท่ีพักพิงอาศัยของชาวบ้านชาวเมือง
ตอบคาถามขอ้ สันนิษฐานท่ีว่า สัณฐานกากบาท (พระเทพกิตติรังษี,2550)
ของตัวอาคารเกิดจากความเชื่อที่มาจากอาคาร
อโรคยาศาล หรือเกิดจากรูปทรงที่ถูกออกแบบ ประวตั ิศาลหลกั เมืองขอนแก่น แต่เดิมอยู่
บา้ นโนนเมือง อาเภอชุมแพ จงั หวดั ขอนแก่น ริ
ศาลหลักเมืองมีความสัมพันธ์กับการ เวณโดยรอบเป็ นเนินสูง มีพ้ืนท่ีประมาณ ๒๐ ไร่
สร้างบ้านแปลงเมือง ตามพงศาวดารได้มีการ ล้อมรอด้วยคลองสองช้ัน มีสะพานข้ามและมี
กล่าวถึงความเป็ นมาของการสร้างศาลหลกั เมือง ทางออกทางเดียว ชาวอาเภอชุมแพเรียกพ้ืนที่ตรง
ของชนชาติไทยวา่ ปรากฏให้เห็นการจดั สร้างมา
ต้งั แต่คร้ัง กรุงสุโขทยั กรุงศรีอยุธยา กรุงธนบุรี น้ีว่า “ กู่ ” ก่อนจะไปถึงกู่จะมีรูปพระนอนสลกั
มาจนถึงกรุงรัตนโกสินทร์ สาหรับประเพณีการ
สร้างศาลหลกั เมืองน้ัน สมเด็จพระเจา้ บรมวงศ์ ลงนหิน ปัจจุบันบริเวณน้ีเป็ นวดั ป่ า เม่ือปี พ.ศ.
เธอกรมพระยาดารงราชานุภาพ ได้อธิบายว่า ๒๔๙๘ ประมาณเดือน ๔ มีคนแก่มากราบเรียน
“กานสร้างศาลหลกั เมือง” เป็ นประเพณีพราหมณ์ ท่านเจ้าคุณพระราชสารธรรมมุนี (หลวงพ่อกนั
ท่ีมาแต่อินเดีย ประเทศไทยต้งั หลกั เมืองข้ึนตาม หา) เจา้ คณะจงั หวดั ขอนแก่น วดั ศรีนวลเล่าวา่ มี
ความเช่ือธรรมเนียมพราหมณ์ อยู่วัน ห น่ึ งเขาได้ไป น อน พักอยู่โรงน าฝั น
ประหลาดวา่ เห็นคนแก่นุ่งห่มชุดขาวบน่ วา่ “อยาก
มีคนกล่าววา่ “หลกั เมือง” จดั เป็นตวั อยา่ ง ไปอยใู่ นเมือง” วนั ท่ีสองฝันอีกวา่ “อยากไปอยใู่ น
สาคัญในกรณี ศึกษาเพื่อเข้าใจศักยภาพของ เมือง” แลว้ พูดต่อวา่ “อยากไปอยูเ่ ป็ นม่ิงขวญั ของ
สังคมไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งศกั ยภาพด้านการ เมือง” พอคืนที่สามก็ได้ฝันลักษณะเดิมอีก
ปกครอง ให้สอดผสานอุดมการณ์ผ่านพิธีกรรม จากน้นั พอต่ืนเชา้ ข้ึนมาจึงรู้สึกร้อนรนทนไมไ่ ด้ ก็
เพื่ อ รั ก ษ าเส ถี ย ร ภ าพ แ ล ะ ส ร้ าง ดุ ล ย ภ าพ แ ห่ ง เลยเดินทางมาเล่าใหท้ ่านพระครูฟัง และท่านพระ
อานาจ (ชลธิชา สตั ยาวฒั นา, 2533) ศาลหลกั เมือง ครูก็ไดถ้ ามวา่ “ลกั ษณะตรงน้นั เป็ นอยา่ งไร” คน
แยกอ อก เป็ น ๒ คา คื อ “ศาล ” ห ม ายถึ ง ที่ แก่ก็ตอบว่า “เป็ นกู่เก่า มีป่ าขนาดใหญ่ตน้ ไมข้ ้ึน
เทพารักษส์ ถิต ส่วนคาวา่ “หลกั ” ไดแ้ ก่ เสาท่ีปัก หนาทึบ มีเสหินและใบเสมาเป็ นจานวนมาก”
ไวเ้ ป็ นเคร่ืองอาศยั เครื่องยึดเหน่ียวจิตใจ คาว่า ท่านพระครูก็เอ่ยปากวา่ “ถา้ เป็ นมิ่งเป็ นขวญั เมือง
“หลกั เมือง” ก็คือ เสาที่ปักไวเ้ ทพารักษส์ ถิตเป็ นท่ี ก็ตอ้ งเป็ นหลกั เมือง” เหตุการณ์อญั เชิญหลกั เมือง
ออกจากกู่ไดเ้ กิดอาเพศฝนตกหนกั มีฟ้าฝ่ าลงมา

โดนเสาหลกั เมือง จนในท่ีสุดท่านเจา้ คุณเลยไป ช้ันฐาน เป็ นฐานไฟท่ีลาดบัวคว่าบัว
อญั เชิญดว้ ยตวั เอง ไดน้ าหมอลา หนงั มาฉลองท่ี หงาย ยอ่ มุมรอบระเบียงตวั อาคาร พ้ืนผวิ ท้งั หมด
วดั พระนอนหน่ึงคืน โดยเสาหลกั เมือง หลกั ท่ี ๑ กรุหินแกรนิตสีดา
อยทู่ ่ี อาเภอเมือง จงั หวดั ขอนแก่น

สถาปัตยกรรมศาลหลกั เมืองหลงั ใหม่
ลกั ษณะตวั อาคารมีศิลปะและสถาปัตยกรรมไทย
ประยุกต์ ทรวดทรง และสัดส่วนประกอบงาน
ศิลปะ เป็ นการอนุรักษว์ านสถาปัตยกรรมที่สาคญั
ของทอ้ งถิ่นอีสาน ขนาดและรูปทรงเป็ นอาคาร
โถงจตุรมุข กวา้ งขวางโอ่โถง โดยมีขนาดตัว
อาคาร ๑๓.๐๐ x ๑๓.๐๐ เมตร โครงสร้างเป็ น
คอนกรีตเสริมเหล็ก มีพ้ืนท่ีภายในเป็ นห้องโถง
รวม ๗๓.๐๐ ตารางเมตร ยอ่ มุมตวั อาคารโดยรอบ
มีระเบียงย่ืนท้งั สี่ด้าน ความสูงจากพ้ืนลานรอบ
อาคารถึงยอดฉตั รทองคา ๒๗.๕๐ เมตร

บันได เป็ นบนั ไดสามข้นั มีราวบนั ไดกรุ
หินอ่อน จดั เป็นทางเขา้ อาคารท้งั ส่ีดา้ น

เสาอาคาร เป็ นเสาสี่เหลี่ยมโดยมีเหล่ียม
ดา้ นนอกโคง้ เอียง มีบวั ฐานและบวั ปลายเสา ผิว
เสาโดยรอบกรุกระเบ้ืองเซรามิค

พื้ น อ าค าร สู งจาก ระ ดับ ล าน รอ บ
โดยทัว่ ไป ๘๕ เซนติเมตร พ้ืนภายในห้องโถง
กลางปูดว้ ยหินอ่อนสีขาว ภายนอกเป็ นระเบียงปู
ดว้ ยหินแกรนิตสีดา

ผนังอาคาร เป็ นผนงั ก่ออิฐฉาบปูน มีช่อง
ระบายลมเป็ นรูปกลีบดอกไม้ ผนงั กรุหินอ่อนท้งั
ภายในและภายนอก โดยเฉาะผนงั ภายในหอ้ งโถง

กลางมีบัวเชิงผนังเป็ นผิวเซรามิคสี เบญจรงค์
ลวดลายขิดพ้ืนเมืองลอ้ มลายดอกจาปา

บานประตู เป็ นประตูบานปิ ด-เปิ ดกระจก
นิรภยั สีฟ้าสกดั ลายไทย

ซุ้มประตู ทางเขา้ ท้งั สี่ด้านครอบประตู หลังคา เป็ นทรงจว่ั จตั ุรมุขหลงั คาซ้อน ๓
ด้วยซุ้มเรือนแก้ว ๒ ช้ัน ตัวซุ้มและเสากรอบ ช้ัน มุงหลังคาด้วยกระเบ้ืองเซรามิค หลังคา
ประตูเป็ นเซรามิคข้ึนรูป โดยหน้าบนั มีลวดลาย ตอนล่างคลุมระเบียงและชายคาของตวั อาคารเป็ น
เซรามิคลายเครือเถาว์ หลังคาปี กนกหยกั เข้ามุมประจบทุกเหล่ียมตัว
อาคารและระเบียงเชิงชายและเชิงบวั หงายรับขอบ
หลังคาทุกช้ัน เป็ นกระเบ้ืองเซรามิคข้ึนรู ป-
ลวดลายบวั หงาย ปลายกระเบ้ืองชายคาโดยรอบ
ทุกช้ันเป็ นลวดลายกระเบ้ืองเซรามิคสีทองรูป

กระจบั ต่อเน่ืองกันโดยตลอดครอบสันหลังคา
ท้งั หมดเป็นปูนฉาบสี

ช้ัน เค ร่ื องยอด เป็ น รู ป เจดี ย์ศิ ล ป ะ ฝ้าเพดาน ภายนอกส่วนรอบอาคารเป็ น
พ้ืนเมืองอีสาน สัณฐานเป็ นเจดียจ์ าลองจากองค์ ฝ้าเพดานฉาบปูนสี ฝ้าภายในเป็ นส่วนใตร้ ะเบียง
พระธาตุขอนแก่น ซ่ึงเป็ นสิ่งศักด์ิสิทธ์ิประจา มุข และห้องโถงกลางเป็ นฝ้ากรุซีเมนตโ์ ครงเคร่า
เมืองขอนแก่นประกอบดว้ ยองคป์ ลียอดพระธาตุ เหล็ก ทาสีน้ามนั เฉพาะฝ้าเพดานห้องโถงเป็ นฝ้า
ยอ่ มุมไมส้ ิบสองปลายสุดประดบั ดว้ ยฉตั รทองห้า หยกั มุม จดั แบ่งฝ้าเป็ น ๓ ระดับช้ัน จดั ประดับ
ช้นั และยอดฉตั รทองคา ๙ กิโลกรัม องคเ์ จดียท์ รง ตกแต่งเป็ นลวดลายแบ่งช่องฝ้าเพดานลายเส้น
ตีนหีบ (ระฆงั ควา่ ) สองช้นั ยอ่ มุม ช้นั แตล่ ะช้นั คน่ั ลวดนูน-ปูนป้ันปิ ดทองลายรักร้อยปิ ดทับด้วย
ด้วยเส้นลวดลายบวั และลูกแก้ว ช้ันฐานตีนหีบ ประจายามและปี กลายทอง ทุกมุมเพดานมีปูนป้ัน
(องค์เจดีย์) เป็ นฐานบัวคว่า ๓ ช้ัน หยักมุม ปิ ดทองลายปี กค้างคาวแผ่นฝ้าเพดานทั่วไป
ลดหลนั่ กนั ประดับด้วยดาวเพดานเป็ นรู ปดาวล้อม จุด
ศูนยก์ ลางเพดานแขวนโคมระยา้ คริสตลั

มาถึงตรงน้ีพอจะพิจารณาได้ว่าเพราะ
เหตุใดผงั ของศาลหลกั เมืองขอนแก่นถึงเป็ นแบบ
กากบาท จากขอ้ มูลการออกแบที่กล่าวมาอาคาร
ศาล ห ลัก เมื องห ลังน้ี ออก เพ่ื อการอนุ รัก ษ์
สถาปัตยกรรมที่สาคัญของท้องถิ่นอีสาน เมื่อ
พิจารณาแล้ว ผงั กากบาทที่ปรากฏน้ันเพราะตวั
อาคารมีลักษณะย่อมุมไม้สิ บสองอีกท้ัง เป็ น
จตั ุรมุขย่ืนออกมา ซ่ึงไม่ได้เกิดจากคติความเชื่อ
จากรู ป แบ บของอโรคยาศาล แม้ว่าอาคาร
ศาลหลกั เมืองน้ีจะเป็นของพราหมณ์

เอกสารอ้างองิ
ชลธิรา สัตยาวฒั นา. (2533) : 188 ชลธิรา

สัตยาวฒั นา. “ใจบา้ น ใจเมือง และใจคน: ปัญหา
การสืบสาวกาเนิดและเอกลกั ษณ์ไทย”

โชติ กัลยาณมิตร. สถาปัตยกรรมแบบ
ไทยเดิม. 2539

พระเทพกิตติรังษี. หนังสือท่ีระลึกงาน
ฉลองสมโภชศาลหลกั เมืองขอนแก่น. 2550

แก้วตา จันทรานุ สรณ์ . หลัก
เมือง หลกั ชยั หลกั รวมใจ ไทขอนแก่น. 2556

ธาดา สุทธิธรรม. สถาปัตยกรรมไทย.
2542

สุทธิวงศ์ พงศไ์ พบูลย.์ สทิงพระ, อาเภอ,
ในสารานุกรมภาคใต.้ 2529


Click to View FlipBook Version