The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

e book สากล เบน

e book สากล เบน

e-bookเล่มนี้ เป็นส่วนหน่ึงของวิชาดนตรีสากล
( ร ห ั ส วิช า ) ศ3 0 2 0 7 ช ั้ น ม ั ธ ย ม ศึ ก ษ า ปี ที่ 6 / 1 โ ด ย
มีจุดประสงค์เพ่ือศึกษาความรู้ที่ได้จากเร่ือง การส่ือสาร
ถ่ายทอดดนตรีสากล ซ่ึงรายงานน้ีมีเน้ือหาเกี่ยวกับความ
รจู้ าก ดนตรสี ากล

ผู้ จ ั ด ท า ไ ด้ เ ลื อ ก ห ั ว ข้ อ น้ี ใ น ก า ร ท า e-book
เน่ืองมาจากเป็นเร่ืองที่น่าสนใจผู้จัดทาหวังว่า e-bookเล่มนี้
จะใหค้ วามรู้ และเป็นประโยชนแ์ กผ่ ู้อา่ นทกุ ๆ ทา่ น

สารบัญ 4

ความเช่อื ในดนตรีสากล และ ความสาคัญ....................................................................................................1

ความเช่อื การแตง่ กายในดา้ นดนตร.ี ...........................................................................................................5
มารยาทในการฟังดนตรี...............................................................................................................................8
ประโยชนข์ องดนตรีสากล............................................................................................................................11
หลักการฟังดนตรีสากล................................................................................................................................13
อา้ งองิ .........................................................................................................................................................18

ความสาคญั ของ 1
ดนตรสี ากล
WORD
ดนตรเี ป็นสว่ นหน่ึงของวิถีชีวิตมนษุ ย์ มนษุ ย์
ก น า ด น ต รี ม า ใ ช้ ป ร ะ โ ย ช น์ ต ้ั ง แ ต่ ยุ ค ก่ อ น
วัติศาสตร์ หลังจากที่มนษุ ย์รู้จักการจดบันทึกข้อมูล
าให้คนรุ่นหลังได้ทราบประวัติความเป็นมาของ
ตรี การศึกษาประวัติศาสตร์ดนตรี ทาให้เราเข้าใจ
ษย์ด้วยกันมากข้ึน เข้าใจวิถีชีวิตความเป็นอยู่ และ
จการสืบทอดทางวัฒนธรรมดนตรี
ศกึ ษาวิชาประวตั ิดนตรีตะวนั ตกหลายคนคงคิดวา่ เป็นเร่อื งไกลตั วเหลอื
และมักมีคาถามเสมอวา่ จะศึกษาไปทาไมคาตอบกค็ ือ ดนตรตี ะวันตกเป็น
เหง้าของดนตรีท่ีเราไดย้ นิ ได้ฟังกันทุกวันนี้ ความเป็นมาของดนตรีหรือ
วัติศาสตร์ดนตรีนนั้ หมายถงึ การมองยอ้ นหลังไปใน อดีตเพ่ือพยายามทา
มเขา้ ใจกับแง่มมุ ต่าง ๆ ของอดตี ในแตล่ ะสมัยนบั เวลายอ้ นกลับไปเป็นเวลา
ยพนั ปีจากสภาพส สังคมทแ่ี วดล้อมทัศนะคติและรสนิยมของผู้สรา้ งสรรค์
ผฟู้ ังดนตรใี นแตล่ ะสมัยนั้นแตก ต่างกันอย่างไรจากการลองผดิ ลองถกู ลอง
ลองอกี การจินตนาการตาม แนวคิดของผู้ ประพันธเ์ พลงจนกระทง่ั
นกรองออกมาเป็นเพลงใหผ้ ู้คนไดฟ้ ังกนั จนถึง ปัจจบุ นั น้ี

2

ความเช่อื มารยาท หลักการฟัง
ในดนตรีสากล ในการฟังดนตรี ดนตรสี ากล

ความเช่อื ประโยชน์
ของดนตรสี ากล
การแตง่ กายใน

ด้านดนตรี

ความเช่ือ ในดนตรีสากล 3

MOOD คณุ คา่

และความ
งาม

ของดนตรี
สากล

ดนตรีเป็นส่วนหน่ึ งของวิถีชีวิตมนุษย์ มนุษย์รู้จักน 4
ดนตรีเข้ามาใช้ประโยชน์ต้ังแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์หลังจากท่ี
มนุษย์รู้จักการจดบันทึกข้อมูลจึงทาให้คนรุ่นหลังได้ทราบประวัติ
ความเป็นมาของดนตรีการศึกษาประวัติศาสตร์ดนตรีทาให้เรา
เข้าใจมนุษย์ด้วยกันมากข้ึน เข้าใจวิถีชีวิตความเป็นอยู่และเข้าใจ
การสืบทอดทางวัฒนธรรมดนตรี

ดนตรีเป็นศิลปะอย่างหน่ึงท่ีมนุษย์ได้สร้างสรรค์ปรุงแต่งข้ึน และ
ได้เป็นเพ่ือนทางจิตใจของมนุษย์มาช้านานแล้ว คาถามที่ว่าศิลปะแขนงน้ี
เร่ิมต้นข้ึนเม่ือใด ไม่มีผู้ใดสามารถให้คาตอบได้ แต่ว่าอาศัยหลักฐานและข้อ
อิงทางมานุษยวิทยา (anthropology)แล้วก็จะกล่าวได้ว่า ดนตรีเร่ิมมาตั้งแต่
ยุคก่อนประวัติศาสตร์นานนักหนาแล้ว มีหลักฐานว่าอารยธรรมของดนตรีใน
ซีกโลกตะวันออกนั้น เกิดข้ึนมาก่อนดนตรีในซีกโลกตะวันตกประมาณ
2,000 ปี ส่ิงหน่ึ งที่ทาให้เกิดดนตรีข้ึนคร้ังแรก คือ “ความหวาดกลัว”
ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ไม่ว่าการเกิดกลางวันหรือกลางคืน การ
ผลดั เปลีย่ นของฤดกู าล ฟา้ แลบ ฟา้ รอ้ ง ฝนตก นา้ ท่วม แผ่นดินไหว ฯลฯ ล้วน
เป็นส่ิงที่สร้างความประหวั่นพร่ันพรึงและความกังวลใจให้แก่มนษุ ย์ในยุคน้ัน
เป็นอันมาก พวกเขามีความเขา้ ใจว่า ปรากฏการณต์ า่ งๆเหล่าน้ีมีทั้งพระเจ้าที่ดี
และร้ายอยู่ในตวั ไมเ่ พียงแต่เท่านี้มนษุ ย์ยังมีความเช่ือวา่ ความงอกงามของพืช
พันธ์ุธัญชาติ การพ้นภยันตรายจากสัตว์ร้าย การฟ้ ืนหายจากโรคภัยไข้เจ็บ
ฯลฯ ก็ล้วนเป็นความกรุณาปรานีที่ได้รับจากพระเจ้าทั้งส้ิน ฉะนั้นการท่ีจะเอา
ใจและตอบแทนบญุ คณุ พระเจา้ ตา่ งๆกจ็ ะทาได้โดยการบวงสรวง การเต้น การ
ร้อง และการแสดงส่งิ ท่เี ขาปรารถนาจะให้เกดิ ข้นึ

ความเช่ือ ดา้ นการ 5
แต่งกาย

ยุคกลาง (Middle Ages ) สมัยเรเนสซองส์ หรอื สมยั ฟ้ ืนฟูศิลปวิทยา
เร่มิ ประมาณปี ค.ศ. 400 - 1400 ใน
เร่ิมประมาณ ค.ศ. 1400 – 1600 เพลงศาสนายังมี
สมัยกลางน้ี โบสถ์เป็นศูนย์กลางทั้งทางด้าน ความสาคัญอยู่เช่นเดิม เพลงสาหรับประชาชนทั่วไป เพ่ือให้ความ
ดนตรี ศิลปะ การศึกษาและการเมือง วิวัฒนาการ บันเทิง ความสนุกสนาน ก็เกิดข้ึนด้วย การประสานเสียงได้รับการ
ของดนตรีตะวันตกมีการบันทึกไว้ต้ังแต่เร่ิมแรก พัฒนาให้กลมกลืนข้ึน เพลงศาสนาเป็นรากฐานของทฤษฎีการ
ของคริสต์ศาสนา บทเพลงทางศาสนาซ่ึงเกิดข้ึน ประสานเสียง เพลงในยุคน้ีแบ่งเป็นสองแบบ ส่วนใหญ่จะเป็นแบบท่ี
จ า ก ก ร า ป ร ะ ส ม ป ร ะ ส า น ร ะ ห ว่ า ง ด น ต รี โ ร ม ั น
โบราณกบั ดนตรียวิ โบราณ เพลงแต่งเพ่ือพิธีทาง เรียกว่า อิมมิเททีฟโพลีโฟนี (Imitative Polyphony) คือ มีหลายแนว
ศาสนาคริสต์เป็นส่วนใหญ่ โดยนาคาสอนจาก และแต่ละแนวจะเร่ิมไม่พร้อมกัน ทุกแนวเสียงมีความสาคัญแบบท่ี
พระคัมภีร์มาร้องเป็นทานอง เพ่ือให้ประชาชนได้ สองเรียกว่า โฮโมโฟนี (Homophony) คือ มีหลายแนวเสียงและ
เกิดอาราณซ์ าบซ้งึ และมศี รทั ธาแก่กล้าในศาสนา บรรเลงไปพร้อมกัน มีเพียงแนวเสียงเดียวท่ีเด่น แนวเสียงอ่ืนๆ เป็น
ไมใช่เพ่ือความไพเราะของทานอง หรือความ เพยี งเสียงประกอบ เพลงในสมัยนี้ ยังไม่มีการแบ่งจังหวะท่ีแน่นอน คือ
ส นุ ก ส น า น ข อ ง จ ั ง ห ว ะ เ ม่ื อ ศ า ส น า ค ริ ส ต์ ยังไม่มีการแบ่งห้องออกเป็น 3/4 หรือ 4/4 เพลงส่วนใหญ่ก็ยัง
แพร่กระจายไปท่ัวโลก ประเทศต่างๆ ได้นาบท เก่ียวข้องกับคริสต์ศาสนาอยู่เพลงประกอบข้ันตอนต่างๆ ของพิธีทาง
เพลงที่ชาติตนเองคุ้นเคยมาร้องในพิธีสักการะ ศาสนาทส่ี าคญั คอื เพลงแมส (Mass) และโมเต็ท (Motet) คาร้องเป็น
พระเจ้า ดังน้ันเพลงท่ีใช้ร้องในพิธีของศาสนา ภาษาละติน เพลงท่ีไม่ใช่เพลงศาสนาก็เร่ิมนิยมกันมากข้ึน ได้แก่
คริสต์จึงแตกต่างกันไปตามภ มิภาค2. ยุคเรเนส เพลงประเภท แมดรกิ ัล (Madrigal) ซ่งึ มีเน้ือร้องเก่ียวกับความรัก หรือ
ซ อ ง ส์ ห รื อ ยุ ค ฟ้ ื น ฟู ศิ ล ป วิ ท ย า ( The ยกย่องบุคคลสาคัญ และมักจะมีจังหวะสนุกสนาน นอกจากนี้ยังใช้
Renaissance Period) ภาษาประจาชาติของแตล่ ะชาตแิ ละเช้ือชาตทิ นี่ บั ถือ

6

01 02

ยุคคลาสสิค ( Classic Period ; ค.ศ. สมัยเรเนสซองส์ หรอื สมัยฟ้ ืนฟูศลิ ปวิทยา
1750 -1825)
วัฒนธรรมการแต่งกายของคน
การละครสมัยนี้ มักจะแสดง ช ้ั น สู ง ใ น ส ม ั ย น ั้ น ท ั้ ง ด้ า น เ ส้ื อ ผ้ า
เป็นประเภทโศกนาฏกรรม (Tragedy มา เคร่ืองนุ่งห่ม และความนิยมในการไว้ผม
จากคาภาษากรีก Tragoidos ซ่ึงแยกออก ยาวหวีแสกกลางตามสมัยนิยม ในแฟชั่น
ไดเ้ ป็น 2 คา คอื Tragos แปลว่า แพะ และ แบบฟลอเรนไทน์ในอิตาลี นอกจากที่
Oidos แปลว่า นักร้อง สันนิษฐานว่าพวก ปรากฏให้เห็นในภาพโมนาลิซา ยังเห็นได้
นักร้องอาจแต่งกายด้วยหนังแพะ หรือ ในภาพอ่นื ๆ ของเขาอกี
แพะคือรางวัลสาหรับเพลงท่ีดีที่สุด ) เร่ือง
ท่ีแสดงส่วนใหญ่มักเป็นเร่ืองเก่ียวกับเทพ นอกจากนี้ ภาพโมนาลิซายังเป็นภาพที่เล
เจ้ากรีก โดยเฉพาะเทพเจ้า ไดโอนิ ซุส โอนาร์โด ดา วินชี ถ่ายทอดบุคลิกของ
นอกจากนั้นก็เป็นเร่ืองราวเกี่ยวกับวีรบุรุษ ตนเองแฝงไว้ในใบหนา้ ของโมนาลิซา ซ่ึง
ในสมัยโฮเมอร์ ส่วนใหญ่มักจบด้วยความ จะมลี กั ษณะเคา้ โครงรปู หนา้ ทคี่ ลา้ ยกัน
เศร้า นักแต่งละครโศกนาฏกรรม ที่มี
ช่ือเสียงในสมัยน้ี ได้แก่ อีสคิลุส มีชีวิตอยู่
ระหว่างปี 524–456 ก่อนคริส์ตกาล ละคร
ที่มีช่ือเสียงของเขา คือ โพรเมเตอุส ,
บาวด,์ โซเฟอคลสิ , ยูรพิ ดิ สิ

7

8

มารยาทในการฟัง
ดนตรี

1. ฟังอย่างตง้ั ใจ เป็นการ 2. ฟังอย่างเขา้ ใจ เป็นการ 9

ฟังเพ่ือจาแนกเสยี งดนตรี ฟังโดยศึกษาองค์ประกอบ 3. การมสี มาธิในการชม
วา่ เสียงทีไ่ ดย้ ินน้นั เป็น ของเสยี งดนตรหี รือบท
ทานองของเพลงใด ใช้ เพลงทฟ่ี ัง คือ จงั หวะ การแสดง ขณะชมการ
ทานองใดเป็นหลัก มแี นว แสดงควรมีสมาธใิ นการ
การประสานเสยี งอยา่ งไร ทานอง การประสานเสยี ง
และจงั หวะเป็นรูปแบบใด และรูปแบบของเพลงให้ ชมการแสดงอย่าง
รวมทัง้ แยกแยะและบอก พิจารณาวา่ องคป์ ระกอบ จริงจัง เพ่ือให้เข้าถงึ ความ
ชนิดเคร่อื งดนตรที ี่
บรรเลงได้ ครบถ้วนหรอื มี ไพเราะ คณุ ค่าของบท
ความสัมพนั ธ์สอดคลอ้ ง เพลง ซ่ึงทาให้ผู้ชมเกดิ
ความซาบซ้ึงในบทเพลง
กันอยา่ งไรบ้าง
น้นั ๆ

10

4. การปรบมอื เป็น 5. การงดใช้เคร่ืองมอื
มารยาทที่สาคญั ของผูช้ ม ส่ือสาร มกั จะไดย้ ินเสียง
จากเคร่ืองมอื ส่อื สารเหลา่ น้ี
การแสดงดนตรีท่คี วร อยูเ่ สมอ สภาพเชน่ น้ีไม่
ปรบมอื เป็นเวลานานเม่อื มี ควรเกดิ ข้นึ ในขณะชมการ
แสดงดนตรปี ระเภทนี้
การบรรเลงเพลงแต่ละ
เพลงจบ

6.การนาเดก็ เข้ามาชมการ
แสดง ไม่ควรนาเด็กอายุต่า
กวา่ ๕ ปี เขา้ ชมการแสดง

ยกเวน้ บางรายการท่ี
อนญุ าต เป็นกรณีพิเศษ

11

8.งดการนาอาหาร และ เคร่อื งด่มื ทุกประเภท
เขา้ ไปในหอประชุม เพราะนอกจาก

อาหารบางประเภทจะสง่ กล่ินรบกวนผอู้ ่ืน
ตลอดจนการแกะหีบห่อและการขบเคี้ยวจะ

ทาใหเ้ กดิ เสียงดัง

7.การถา่ ยภาพการแสดง ไมค่ วรนากล้องถ่ายภาพ
กล้องถา่ ยวีดิโอ เขา้ ไปบันทกึ การแสดง
ในหอประชุม เวน้ แต่จะไดร้ บั อนญุ าตเป็นกรณีพิเศษ
เพราะการแสดงของตา่ งประเทศหลายประเทศมี
ลิขสิทธ์เิ ฉพาะ ไม่อนญุ าตให้มีการบันทึกไปเผยแพร่

12

ประโยชน์
ของดนตรี

13

ประโยชนท์ ั่วไป ประโยชนเ์ ฉพาะผู้บรรเลง
1. เสยี งดนตรีเป็นส่งิ ทก่ี ลอ่ มหวั ใจของ
1. ได้ช่ือว่าเป็นผู้ทาประโยชน์ทั่วไป
คนให้อ่อนโยน เยือกเย็นดับทุกข์ได้ ดังกล่าวมาแล้ว
ชั่วขณะ ปลุกใจให้ร่ืนเริงกล้าหาญ ส่ิง
เหลา่ น้ียอ่ มเกิด แกบ่ คุ คลผฟู้ ังท่ัวๆไป 2. เป็นอาชพี ในทางทช่ี อบอันหน่ึง
3 . เ ป็ น ผู้ ร ั ก ษ า แ ล ะ เ ผ ย แ พ ร่
2. เป็นเคร่อื งทีท่ าให้โลกครกึ คร้ืน วัฒนธรรมของชาติ
3. การแสดงมหรสพต่างๆ เป็นต้นว่า 4. จะเป็นผู้มีอารมณ์เยือกเย็น สุขุม
โขนละคร ดนตรีก็เป็นผู้ประกอบให้น่าดู กวา่ ปกติ
สนกุ สนานข้นึ สมอารมณผ์ ดู้ แู ละผูแ้ สดง 5. มีเคร่ืองกล่อมตนเองเม่ือยาม
4. ทาความสมบูรณ์ให้แก่ฤกษ์และพิธี ทกุ ข์ ปลุกตนเองเม่ือยามเหงา
ตา่ งๆ ท้งั ของประชาชนและของชาติ 6. เป็นเคร่อื งฝึกสมองอยู่ในตัว
5. เป็นเคร่ืองประกอบในการสงคราม 7. จะเป็นผู้มีเกียรติยศช่ือเสียง
ซ่ึ ง เ ค ย ใ ช้ ไ ด้ ผ ล ม า แ ล้ ว ห ล า ย ช า ติ ปรากฏแกโ่ ลก
โดยเฉพาะชาตไิ ทยคราวสมเด็จพระพทุ ธ 8. ทาการสมาคมให้กว้างขวางได้
ยอดฟา้ จฬุ า โลก เม่ือยังดารงพระยศเป็น เป็นอย่างดี ต้ังแต่ชั้นต่าจนถึงช้ัน
เจ้าพระยาจักรีทรงรักษาเมืองพิษณุโลก สงู สุด
ต่อสู้ อะแซหวุ่นกี้ ก็ได้ทรงใช้ดนตรีเป็น
เคร่อื งประกอบอบุ าย เป็นต้น
6 . ท า ใ ห้ โ ล ก เ ห็ น ว่ า ช า ติ ไ ท ย มี
ว ั ฒ น ธ ร ร ม เ ป็ น อ ั น ดี ช า ติ ใ ด ท่ี มี
วัฒนธรรมของตนอยู่อย่างดีย่อมเป็นท่ี
ยกยอ่ งของชาตทิ ้ังหลาย

14

ประโยชน์ของดนตรีตอ่ สงั คมมนษุ ย์
1. ดา้ นการศกึ ษา

ด้านการศกึ ษานาเสยี งดนตรีมาใชป้ ระกอบในการสอนแบบสร้างสรรค์ทางศิลปะผลปรากฏว่าเสียงดนตรี สามารถ
ส่งเสริมพัฒนาการทางอารมณ์ เสริมสร้างความคิดจินตนาการ ช่วยกระตุ้นให้มีการแสดงออกในทางสร้างสรรค์
ส่งเสริมให้มีความสัมพันธ์ระหว่างประสาทหู กล้ามเน้ือมือ ให้สอดคล้องกับการใช้ความคิด ทาให้หายเหน่ือย และ
ผอ่ นคลายความตงึ เครียด

2.ดา้ นการแพทย์
ด้านการแพทย์ใช้เสียงดนตรีกระตุ้นทารกในครรภ์มารดา ผลปรากฏว่าเด็กมีปฏิกิริยาตอบรับกับเสียงเพลง ทั้ง
ทางพฤติกรรมและร่างกายท่ีดี เสียงเพลงท่ีน่มุ นวลจะทาให้เด็กมีอาการสงบเงียบ ร่างกายเจริญเติบโตข้ึนและยัง
ช่วยให้ระบบหายใจและระบบย่อยอาหารดีข้ึนการ นาเสียงดนตรีมาบาบัดรักษาผู้ปว่ ยปัญญาอ่อน โดยเฉพาะการ
ใช้ดนตรีลดหรือบรรเทาความเจ็บปวดหลังการผ่าตัดของผู้ปว่ ยใน 48 ช่ัวโมงแรก ผลปรากฏว่าช่วยให้ผู้ปว่ ยผ่อน
คลายภาวะทางอารมณ์ได้เป็นอย่างดี ดังท่ีผู้ใช้นามปากกาว่า คุณทองจีน บ้านแจ้ง เขียนไว้ในเร่ือง แกะสะเก็ด
คลาสสิค ในหนังสือ ชาวกรุง ฉบับที่ 5 พ.ศ.2522 ว่า “หมอชาวกรีกโบราณท่านหน่ึงช่ือว่า แอสคลีปีอุส
(Asclepius)ไดใ้ ชด้ นตรบี รรเลงให้ผ้ปู ว่ ยหลังการผ่าตดั แล้วฟัง ปรากฏว่าชว่ ยทุเลาอาการเจ็บปวดได้ดี”

3. ด้านสังคม
ด้านสังคมมีการใช้จังหวะดนตรีมากาหนดควบคุมการทางาน เพ่ือให้เกิดความพร้อมเพรียง เช่นการพายเรือ
จังหวะยก-สง่ ของ เป็นต้น การใช้ดนตรปี ลุกเร้าอารมณใ์ ห้เกิดความรัก ความสามัคคีในหมู่คณะ เช่นเพลงปลุกใจ
เพลงเชียร์เป็นต้น ใช้ เสียงดนตรีเพ่ือสร้างบรรยากาศในการประกอบพิธีกรรมต่างๆ ให้ดูศักด์ิสิทธ์ิ เคร่งขรึม
น่าเช่ือถือ หรือส่ืออารมณ์ความรู้สึกที่ร่าเริง เบิกบาน สนุกสนาน ในงานเล้ียงสังสรรค์ งานฉลองต่างๆ เป็นต้น
นอกจากนัน้ ยงั เป็นการสรา้ งงาน อาชีพ ใหก้ ับบคุ คลในสงั คมอยา่ งมากมายทั้งทางตรงและทางอ้อม เช่น นักดนตรี
นักร้อง ครูสอนดนตรี นักประพันธ์เพลง นักผลิตรายการคอนเสิร์ต นักดนตรีบาบัดผู้อานวยการเพลงหรือ
วาทยกรนกั เขียนทางดนตรี นักประดษิ ฐเ์ คร่อื งดนตรี และผซู้ อ่ มหรอื ปรับเสยี งเคร่อื งดนตรี เป็นตน้

3. ด้านสังคม 15
ด้านสังคมมีการใช้จังหวะดนตรีมากาหนดควบคุมการทางาน เพ่ือให้เกิดความพร้อมเพรียง เช่นการพายเรือ
จังหวะยก-ส่งของ เป็นต้น การใช้ดนตรปี ลกุ เร้าอารมณใ์ ห้เกดิ ความรกั ความสามัคคใี นหมู่คณะ เช่นเพลงปลุก
ใจ เพลงเชียร์เป็นต้น ใช้ เสียงดนตรีเพ่ือสร้างบรรยากาศในการประกอบพิธีกรรมต่างๆ ให้ดูศักด์ิสิทธ์ิ เคร่ง
ขรมึ น่าเช่อื ถือ หรอื ส่ืออารมณค์ วามรสู้ กึ ท่ีรา่ เริง เบกิ บาน สนกุ สนาน ในงานเล้ียงสงั สรรค์ งานฉลองตา่ งๆ เป็น
ตน้ นอกจากน้ันยงั เป็นการสร้างงาน อาชีพ ใหก้ ับบุคคลในสังคมอยา่ งมากมายทั้งทางตรงและทางอ้อม เช่น นัก
ดนตรี นักร้อง ครูสอนดนตรี นักประพันธ์เพลง นักผลิตรายการคอนเสิร์ต นักดนตรีบาบัดผู้อานวยการเพลง
หรือวาทยกรนกั เขยี นทางดนตรี นกั ประดิษฐ์เคร่อื งดนตรี และผู้ซอ่ มหรือปรบั เสยี งเคร่ืองดนตรี เป็นต้น

4. ดา้ นจิตวทิ ยา
ด้านจิตวิทยา ใช้เสียงดนตรีปรับเปลี่ยนนิสัยก้าวร้าวของมนุษย์ รักษาโรคสมาธิสั้น โดยเฉพาะเด็กจะทาให้มี
สมาธิยาวข้ึน อ่อนโยนข้ึน โดยใช้หลักทฤษฎีอีธอส (Ethos) ของ ดนตรี ซ่ึงเช่ือว่าดนตรีมีอานาจในการที่จะ
เปลี่ยนนิสัยของ มนุษย์ จนกระท่ังในบางกรณีสามารถรักษาโรคให้หายได้ ปัจจุบัน มีนักดนตรีบาบัดผู้ซ่ึงมี
ความสามารถฟ้ ืนฟูและบาบดั รักษาความเจ็บปว่ ยท้งั ทางรา่ งกายและจิตใจ ทางานในด้านนี้

5. ดา้ นกีฬา
ด้านกีฬาใช้ดนตรีประกอบกิจกรรมกีฬา เช่น ยิมนาสติกกิจกรรมเข้าจังหวะ การเต้นแอโรบิ ค เป็นต้น
นอกจากนั้นยังมีกิจกรรมต่างๆมากมาย ท่ีใช้ดนตรีเป็นส่วนประกอบในการดาเนินการท้ังทางตรงและทางอ้อม
อาจกล่าวไดว้ ่าดนตรีเป็นส่วนประกอบท่ีขาดเสยี มไิ ด้ในกจิ กรรมของสงั คมมนษุ ย์

ชีวิตคนเราเกิดมาในช่วงระยะเวลาหน่ึงมีดนตรีเข้ามาเกี่ยวข้องในชีวิตต้ังแต่การเกิด แก่ เจ็บ ตาย
หรือว่าทุกอิริยาบถที่แสดงออกทางอินทรีย์ 5 ก็มีความเก่ียวข้องกับดนตรี ในชีวิตคนเราพูดถึงปัจจัยสี่ในการ
ดารงชีวิตแต่ในปัจจุบันอาจมีปัจจัย 5 เข้ามาเก่ียวข้องคือ โทรศัพท์มือถือก็มีเสียงเพลงเรียกว่าแสดงออกความ
เป็นอัตตาของตนเอง ในสังคมด้านธรุ กิจเพลงกส็ ามารถทารายไดม้ หาศาลให้กับผู้ประกอบการ ทุกเทศกาลงาน
ตา่ ง ๆ ชีวติ มีความสุข ความทุกข์ ดใี จ ฉลองความสาเรจ็ ก็มบี ทเพลงเขา้ มาเกยี่ วข้อง

16

หลักการฟัง
ดนตรีสากล

1. หลกั การฟังและวเิ คราะห์ 03 17
เสียงดนตรี
2.การรับรู้เร่อื งองค์ประกอบและความไพเราะ
เสียงดนตรี คอื เสียงการขบั ร้อง ของดนตรี
และเสียงการบรรเลงเคร่อื งดนตรี การฟังเสียงดนตรตี ามหลกั นักเรยี นจาเป็นต้อง
- เสียงทานองเพลง รบั รถู้ งึ องค์ประกอบของดนตรีและความไพเราะ
- เสยี งประสาน ของดนตรแี ละบทเพลง ดังน้ี
- เสียงจงั หวะประกอบ 2
หลักการฟังดนตรี - จังหวะ คอื ความชา้ -เร็วของบทเพลง
หลักการฟังดนตรี - ทานอง คอื เสยี งสงู -ต่า ทถี่ กู เรยี บเรยี งใหอ้ ยู่
ฟังเพ่อื ความสนกุ สนานเพลดิ เพลนิ แนวระดับตา่ ง ๆ
หรอื ฟังเพ่อื ผอ่ นคลายอารมณ์ - การประสานเสียง คือ การขบั ร้องและบรรเลง
รบั ร้ถู ึงความไพเราะของเพลง ดนตรพี รอ้ ม ๆ กัน
- รูปแบบของบทเพลง คือ โครงสร้างตาม
ได้มากข้ึน จงั หวะและทานองของ
หลกั การฟังมี 2 ประการคือ เพลง
1ฟังอย่างตั้งใจ องค์ประกอบของดนตรี
2ฟังอย่างเขา้ ใจ - ความไพเราะของเสยี งดนตรี เป็นความ
ไพเราะของเสยี งการขบั ร้อง
- ความไพเราะของบทเพลง เช่น เพลงไทย
เพลงลกู ทุ่ง เพลงไทยสากล เพลงร็อก เป็นต้น
ความไพเราะของเสียงดนตรีและบทเพลง

อ้างองิ 18

https://prezi.com
https://sites.google.com
https://sites.google.com/a/simuang.ac.th/
prawatisastr.

THANK
YOU


Click to View FlipBook Version