The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

อธิบายเกี่ยวกับระบบโครงสร้างของกระดูก และไขข้อ และหน้าที่การทำงานของระบบกระดูกแลข้อต่อ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by , 2022-03-08 01:05:47

ระบบโครงกระดูก

อธิบายเกี่ยวกับระบบโครงสร้างของกระดูก และไขข้อ และหน้าที่การทำงานของระบบกระดูกแลข้อต่อ

Keywords: ระบบกระดูก

ระบบโครงกระดูก

Skeletal system

Biology
By

Teacher Mew - Natthariga

คำนำ

E-Book เรอ่ื ง "ระบบโครงกระดูก" ฉบบั บน้ี จดั ทำขน้ึ เพอ่ื ใชป้ ระกอบกำรเรยี นกำรสอนวชิ ำชวี วทิ ยำ
ชนั้ มธั ยมศกึ ษำปีท่ี 6 โรงเรยี นชวี วทิ ยำลยั ซงึ่ มเีนอ้ื หำตรงตำมหลกั สูตรแกนกลำงกำรศกึ ษำขนั้ พน้ื ฐำน พุทธศกั รำช
2551 (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560) มำตรฐำนกำรเรยี นรู้ ว 4 เขำ้ ใจกำรย่อยอำหำรของสตั ว์และมนุษย์ กำร
หำยใจและกำรแลกเปลยี่ นแก๊ส กำรลำเลยี งสำรและกำรหมุนเวยี นเลอื ด ภูมคิ ุ้มกนั ของร่ำงกำย กำรขบั ข่ำย กำรรบั ร้แู ละ
กำรตอบสนอง กำรเคลอ่ื นท่ี กำรสบื พนั ธุและกำรเจรญิ เตบิ โต ฮอร์โมนกบั กำรรกั ษำดุลยภำพ และพฤตกิ รรมของสตั ว์
รวมทง้ั กำรนำควำมร้ไู ปใชป้ ระโยชน์ ตวั ชว้ี ดั ว 4 ม.6/10 สบื ค้นขอ้ มมูล และอธบิ ำยโครงสร้ำงของกระดูกและ
กลำ้ มเนอ้ื ทเ่ีกย่ี วขอ้ งกบั กำรเคลอ่ื นไหวและกำรเคลอ่ื นทข่ี องมนุษย์ , ว 4 ม.6/11 สงั เกต และอธบิ ำยกำรทำงำนของ
ขอ้ ต่อชนดิ ต่ำงๆ และกำรทำงำนของกลำ้ มเนอ้ื โครงร่ำงทเ่ีกย่ี วขอ้ งกบั กำรเคลอ่ื นไหวและกำรเคลอ่ื นทข่ี องมนุษย์

ผูจ้ ดั ทำหวงั ว่ำ E-Book ฉบบั บนจ้ี ะเป็นประโยชนต์ ่อนกั เรยี นทุกคน ทก่ี ำลงั ศกึ ษำในเรอื่ ง "ระบบโครง
กระดูก" และจะสำมำรถช่วยใหน้ กั เรยี นบรรลุตำมวตั ถุประสงค์กำรเรยี นร้ตู ำมมำตรฐำนกำรเรยี นรู้

ครหู มวิ - ณฐั รกิ ำ บุญพำ
กุมภำพนั ธ์ 2564

สารบญั 4. ส่วนประกอบของกระดูก
5. ขอ้ ต่อ
1. วตั ถุประสงค์กำรเรยี นรู้
2. ระบบโครงกระดูกของคน 6. แบบฝึ กหดั
3. โครงสร้ำงภำยในของกระดูก 7. เฉลยแบบฝึ กหดั

หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 7

เรอ่ื ง ระบบโครงกระดูก

ตวั ชว้ี ดั จุดประสงค์กำรเรยี นรู้ สำระกำรเรยี นรู้

ว 4 ม.6/10 สบื ค้นขอ้ มมูล และอธบิ ำย นกั เรยี นสำมำรถอธบิ ำยระบบของ ระบบโครงกระดูก จำแนนประเภทเป็นกระดูก
โครงสร้ำงของกระดูกและกลำ้ มเนอ้ื ทเี่กยี่ วขอ้ ง กระดูก โครงสร้ำงภำยในของกระดูก แกน กระดูกรยำงค์
กบั กำรเคลอ่ื นไหวและกำรเคลอื่ นทข่ี องมนุษย์ ส่วนประกอบของกระดูก และประเภท - ภำยในกระดูกมโีพรงกระดูกอยู่ ซง่ึ
ของขอ้ ต่อได้ ภำยในมไีขกระดูก
ว 4 ม.6/11 สงั เกต และอธบิ ำยกำร - ส่วนประกอบของกระดูกคอื กระดูกแขง็
ทำงำนของขอ้ ต่อชนดิ ต่ำงๆ และกำรทำงำน กระดูกอ่อน และเสน้ เอน็ ยดึ กระดูก
ของกลำ้ มเนอ้ื โครงร่ำงทเ่ีกยี่ วขอ้ งกบั กำร - ขอ้ ต่อของกระดูกแบง่ ออกเป็น ขอ้ ต่อท่ี
เคลอ่ื นไหวและกำรเคลอ่ื นทข่ี องมนุษย์ เคลอ่ื นไหวไมไ่ ด้ ขอ้ ต่อทเ่ีคลอื่ นไหวได้
เลก็ นอ้ ย และขอ้ ต่อทเี่คลอ่ื นไหวได้มำก

ระบบโครงกระดกู ของคน

มจี านวนทั้งส้ิน 206 ช้ิน แบง่ ออกเป็ น 2 ประเภท ได้แก่

กระดูกรยำงค์ (Appendicular skeleton)
มจี ำนวน 126 ชน้ิ เป็นกระดูกทแ่ี ยก

ออกมำจำกกระดูกแกน ประกอบไปด้วย กระดูก
แขน 60 ชน้ิ , กระดูกสะบกั 2 ชน้ิ , เชงิ กรำน

2 ชน้ิ และไหปลำร้ำ 1 ชน้ิ

กระดูกแกน (Axial skeleton)
มจี ำนวน 80 ชน้ิ ได้แก่ กระดูกกะโหลก

ศรี ษะ 29 ชน้ิ และท่อนสนั หลงั อกี 51 ชน้ิ
( กระดูกสนั หลงั 26 ชน้ิ , กระดูกซโี่ครง
24 ชน้ิ และกระดูกหนำ้ อกอกี 1 ชน้ิ รวมเป็น
51 ชน้ิ

โครงสรา้ งภายในของกระดกู

ภำยในโพรงกระดูก (Marrow Carvity) ซงึ่ ภำยในมไีขกระดูก (Bone
Marrow) บรรจุอยู่ โดยเฉพำอย่ำงยง่ิ ในกระดูกท่อนยำว คอื กระดูกแขน ขำ
ไขกระดูกทำหนำ้ ทส่ี ร้ำงเมด็ เลอื ดแดง และเมด็ เลอื ดขำว ผวิ ด้ำนนอกของ
กระดูกมเียอ่ื หุม้ กระดูก (Periosteum) ซงึ่ เป็นเซลลก์ ระดูกและเสน้ เลอื ดดำ
ทำหนำ้ ทน่ี ำเลอื ดมำเลย้ี งเซลลก์ ระดูก และช่วยใหก้ ลำ้ มเน้อื และเอน็ ยดึ ตดิ กระดูก
ได้ โดยกระดูกแต่ละชน้ิ เชอื่ มต่อกนั ด้วยขอ้ ต่อ (Joint) ทปี่ ลำยกระดูก และขอ้
ต่อมกี ระดูกอ่อน (Cartilage) เคลอื บอยู่ และยงั มนี ้ำไขขอ้ (Synovial
Fluid) อยู่ระหว่ำงกระดูกอ่อนทข่ี อ้ ต่อเพอื่ ช่วยลดกำรเสยี ดสขี องกระดูก

ส่วนประกอบของกระดกู

แบ่งเป็ น 3 ส่วน ดังน้ี

1. กระดูก (Bone)
กระดูกเป็นเนอ้ื เยอื่ ค้ำจุน (Supporting tissue) ทแี่ ขง็ ทสี่ ุด แบ่งตำมลกั ษณะโครงสร้ำงได้เป็น 2 พวกคอื

(1) กระดูกฟองน้ำ (Spongy Bone) เป็นกระดูกทม่ี รี พู รุนคลำ้ ยฟองน้ำ พบทส่ี ่วนปลำยทง้ั สองขำ้ งของกระดูกยำว ส่วนผวิ นอกตรงส่วน ปลำย
กระดูก จะมกี ระดูกอ่อนหุม้ อยู่ ส่วนทเ่ีป็นรูพรุนจะมไีขกระดูกบรรจุอยู่ เป็นทสี่ ร้ำงเมด็ เลอื กใหแ้ ก่ร่ำงกำย

(2) กระดูกแขง็ (Compact Bone) หมำยถงึ กระดูกส่วนทแี่ ขง็ แรง จะพบอยู่บรเิวณผวิ นอกส่วนกลำงๆ ของกระดูกยำว มเีนอ้ื กระดูกมำกกว่ำช่องว่ำง
ในภำคตดั ขวำงจะเหน็ เป็นชนั้ ๆ ดงั น้ี
- เยอื่ หุม้ กระดูก (Periosteum) มลี กั ษณะบำงเหนยี ว เป็นส่วนทมี่ หี ลอดเลอื ดฝอยเพอ่ื นำอำหำรไปเลย้ี งกระดูก

และชนั้ ในสุดของเยอื่ หุม้ กระดูกจะมเีซลลอ์ อสทโีอบลำสต์ (Osteoblast) เป็นเซลลท์ ชี่ ่วยเพม่ิ จำนวนเซลลก์ ระดูก
- เนอ้ื กระดูก นบั เป็นโครงสร้ำงทแ่ี ขง็ แรงทส่ี ุดของร่ำงกำย
- ช่องว่ำงในร่ำงกำย (Medullary Cavity) เป็นช่องว่ำงทม่ี ไีขกระดูกบรรจุอยู่
- ไขกระดูก (Bone Marrow) มสี เีหลอื ง ประกอบด้วยเซลลไ์ ขมนั จำนวนมำก ไขกระดูก มี 2 ชนดิ คอื ไขกระดูกแดง เป็นทส่ี ร้ำงเมด็ เลอื ด เรม่ิ

สร้ำงประมำณกลำงวยั เดก็ เมอ่ื วยั ร่นุ จะถูกแทนทโ่ีดยเซลลไ์ ขมนั กลำยเป็นไขกระดูกเหลอื ง และ ไขกระดูกเหลอื งเป็นพวกเซลลไ์ ขมนั
อำจเปลย่ี นกลบั เป็นไขกระดูกแดงได้

2. กระดูกอ่อน (Cartilage)

กระดูกอ่อน จดั เป็นเนอ้ื เยอื่ เกย่ี วพนั ชนดิ พเิศษ ทม่ี เีมทรกิ ซ์แขง็ กว่ำเนอ้ื เยอ่ื เกย่ี วพนั ชนดิ อน่ื ๆ ยกเวน้ กระดูกแขง็ หนำ้ ทสี่ ำคญั ของกระดูกอ่อน

คอื รองรบั ส่วนทอ่ี ่อนนุม่ ของร่ำงกำย เนอื่ งจำกผวิ ของกระดูกอ่อนเรยี บ ทำใหก้ ำรเคลอ่ื นไหวได้สะดวกป้อ

กำรเสยี ดสี กระดูกอ่อนจะพบทปี่ ลำยหรอื หวั ของกระดูกทปี่ ระกอบเป็นขอ้ ต่อต่ำงๆ และยงั เป็น ต้นกำเนดิ ของกระดูกแขง็ ทวั่ ร่ำงกำย

ควำมแตกต่ำงในแงข่ องปรมิ ำณและชนดิ ของ fiber ทอี่ ยู่ภำยใน matrix มผี ลใหค้ ุณสมบตั ขิ องกระดูกอ่อนแตกต่ำงกนั ไป ทำให้สำมำรถ จำแนกชนดิ

ของกระดูกอ่อนได้เป็น 3 ชนดิ

(1) กระดูกอ่อนโปร่งใส (Hyaline

(2) กระดูกอ่อนยดื หยุ่น (Elastic Cartilage) Cartมilaลี gกั eษ)ณะใสเหมอื นแก้ว เพรำะมเีมทรกิ ซ์
โปร่งใส เป็นชนดิ ทพ่ี บมำกทส่ี ุดในร่ำงกำย

เป็นกระดูกอ่อนทย่ี ดื หยุ่นได้ดี มเีมทรกิ ซ์เป็นพวก เป็นต้นกำเนดิ โครงกระดูกส่วนมำกในร่ำงกำย
(3) กระดูกอ่อนเสน้ ใย (Fibrous Cartilage) เสน้ ใย ยดื หยุ่นมำกกว่ำเนอื่ งจำกมี คลอลำเจนไฟเบอร์ เช่น กระดูกซโี่ครงด้ำนหนำ้ ตรงส่วนรอยต่อ

พบในร่ำงกำยนอ้ ยมำก เป็นกระดูกอ่อนทมี่ ี พบได้ทใ่ีบหู ฝำปิดกลอ่ งเสยี งหลอดยูสเตเชยี น กบั กระดูกหนำ้ อกบรเิวณส่วนหวั ของกระดูก

สำรพน้ื นอ้ ยแต่มเีสน้ ใยมำก พบได้ทห่ี มอนรอง ยำว เช่น จมูก กลอ่ งเสยี ง หลอดลม รหู ู

กระดูกสนั หลงั ปลำยเอน็ ตรงส่วนทย่ี ดึ กบั กระดูก ชน้ั นอก หลอดลมขว้ั ปอด

และตรงรอยต่อทก่ี ระดูกกบั หวั หน่ำว

3. เส้นเอ็นยึดกระดกู
เอ็น ความหมายตามพจนานกุ รมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 หมายถึง กล่มุ หรือมัดเน้ือเยื่อ

เก่ียวพนั ซ่ึงเรียงตัวในทิศทางเดียว เห็นได้ชัด และไมม่ ีกล้ามเน้ือยึดท่ีปลาย ชาว บ้านเรียกว่า เส้นเอ็น ทาง
การแพทย์ ไม่มีคาว่า เอ็น แต่จะเป็ น เอ็นกระดกู (Ligament) และ เอ็นกล้ามเน้ือ (Tendon)

- Ligament (เอ็นยึดข้อ) คือเน้ือเย่ือท่ีอยู่รอบข้อ มีหน้าที่บังคับให้ข้อเคลื่อนท่ีได้ในเฉพาะทิศทางของแต่
ละข้อ ยกตัวอย่างหัวเข่า ธรรมดาแล้วทาได้แค่ งอ กับ เหยียด จะพบั ไปข้างๆไม่ได้ เพราะ ligament กันไว้

ถ้ามีการบาดเจ็บ เช่นนักรักบ้ีถกู แท็คต่าๆจากข้างขาแรงๆ แรงปะทะจะทาให้ข้อเข่าพบั ไปทางข้าง เกิดการ
ฉีกขาดของ ligament นอกจากจะปวดมาก บวมมาก แล้วเวลาหาย (ถ้าปล่อยไม่รักษา) หัวเข่าข้างนั้นจะไมม่ ี
เสถียรภาพ อาจเดินไม่ได้ หรือเดินได้แต่ต้องระวังเพราะหัวเข่าพบั เอาง่ายๆ ข้อเท้าแพลงก็เกิดจากการฉีกขาด
ของ ligament ข้อเท้า

- Tendon (เอ็นยีดกระดกู ) เป็ นเน้ือเย่ือพเิ ศษมีหน้าที่คล้ายเป็ นเชือกโยงระหว่างกล้ามเน้ือกับกระดกู
กล้ามเน้ือยืดหดได้แต่ใหญ่เทอะทะ Tendon ยืดหดไมไ่ ด้แต่เล็กกว่ากล้ามหลายสิบเท่า เหนียวมาก เป็ นส่วน
ปลายของกล้าม ทาให้กล้ามสามารถส่งการยืดหดไปยังกระดกู เพอ่ื ให้กระดกู เคลื่อนท่ีได้

ข้อต่อ (Joint)

กระดูกแต่ละชน้ิ ทที่ ำงำนร่วมกนั จะถูกเชอ่ื มต่อกนั โดยขอ้ ต่อและเอน็ ต่ำงๆ ซง่ึ มี
หนำ้ ทเ่ีชอ่ื มต่อกระดูกตง้ั แต่ 2 ชน้ิ ขน้ึ ไป โดยเอน็ (Ligament) เป็นตวั ยดึ
เกำะระหว่ำงกระดูกแต่ละชน้ิ ใหต้ ่อเชอื่ มกนั เป็นโครงร่ำงของมนุษย์ และเป็นส่วน
หนงึ่ ของกำรเคลอ่ื นไหวของมนุษย์ สว่ นบรเิวณทกี่ ระดูกมำต่อกนั นนั้
เรยี กว่ำ ข้อต่อ (Joint) ซงึ่ มลี กั ษณะกำรต่อแตกต่ำงกนั ตำมหนำ้ ทแ่ี ละกำร
ทำงำนของอวยั วะนนั้ ๆ ขอ้ ต่อแบ่งออกเป็น 3 ชนดิ ได้แก่

1.ขอ้ ต่อทเ่ีคลอื่ นไหวไม่ได้ (Completely Immovable Joint)
เป็นขอ้ ต่อของกระดูกทม่ี ลี กั ษณะแบน ขอบหยกั จะถูกเชอ่ื มกนั

โดย Fibrous Tissue และช่องตำมรอยต่อจะมเีสน้ ใยของเนอ้ื เยอ่ื
เกย่ี วพนั แทรกอยู่ เช่น กระดูกกะโหลกศรี ษะ กระดูกหน้ำ เป็นต้น

2.ขอ้ ต่อทเ่ีคลอ่ื นไหวได้ (Slightly Movable Joint)
เป็นลกั ษณะของขอ้ ต่อทก่ี ระดูกทงั้ สองชน้ิ มำเชอื่ มต่อกนั แลว้ สำมำรถเคลอ่ื นไหว

ไปมำได้เลก็ นอ้ ย มี 2 ลกั ษณะ คอื
- แบบทก่ี ระดูกมำต่อกนั โดยกระดูกอ่อนเป็นตวั เชอื่ ม เช่น ขอ้ ต่อกระดูกสนั หลงั
- แบบกระดูกต่อกนั โดยมเีอน็ ยดึ เช่น ขอ้ ต่อทปี่ ลำยกระดูกขำท่อนลำ่ ง

“ 3.ขอ้ ต่อทเ่ีคลอ่ื นไหวได้อย่ำงอสิ ระ (Freely Movable Joint) เป็นขอ้ ต่อทพี่ บมำกทสี่ ุด ขอ้ ต่อชนดิ นท้ี ำใหอ้ วยั วะสว่ นนน้ั ๆ มกี ำรเคลอ่ื นไหวได้มำก ซงึ่ เป็นขอ้ ต่อท่ี
เกดิ จำกกระดูก 2 ชน้ิ ขน้ึ ไปมำต่อกนั โดยทหี่ วั และทำ้ ยของกระดูกแต่ละชน้ิ จะหุม้ ด้วยกระดูกอ่อนเพอ่ื ลดกำรเสยี ดทำน มเีอน็ ยดึ กระดูกทง้ั สองอยู่ มลี กั ษณะเป็นถุง ใน
ถุงมเียอ่ื บำงๆ ช่วยขบั ของเหลวสำหรบั หลอ่ ลน่ื ขอ้ ต่อลกั ษณะนส้ี ำมำรถแบง่ ตำมลกั ษณะและควำมสำมำรถได้ดงั น้ี
- ขอ้ ต่อรปู เดอื ย (pivot joint) เป็นขอ้ ต่อทม่ี กี ระดูกชน้ิ หนง่ึ หมุนอยู่ในวงของกระดูกอกี ชน้ิ หนง่ึ ขอ้ ต่อชนดิ นส้ี ำมำรถเคลอ่ื นไหวได้แบบเดยี ว คอื บดิ หมุนได้ครงึ่
รอบ เช่น ขอ้ ต่อของกระดูกคอชน้ิ ท่ี 1 และชน้ิ ที่ 2 (atlantoaxial joint) ขอ้ ต่อ ขอ้ มอื บรเิวณ รอยต่อของปลำยแขน (radio-ulnar joint)
- ขอ้ ต่อรปู บำนพบั (hinge joint) เป็นขอ้ ต่อทเี่คลอ่ื นไหวทำมุมได้ทำงเดยี วคลำ้ ยกบั บำนพบั ประตู เช่น ขอ้ ต่อทขี่ อ้ ศอก (elbow joint) หรอื ขอ้ ต่อของขำกรรไกร
ลำ่ ง (temporomandibular joint)
- ขอ้ ต่อรปู อำนมำ้ (saddle joint) เป็นขอ้ ต่อทส่ี ำมำรถเคลอ่ื นไหวได้ 2 ทศิ ทำง มลี กั ษณะเหมอื นอำนมำ้ ประกบกนั ขอ้ ต่อประเภทนพ้ี บในขอ้ ต่อระหว่ำงกระดูกโคน
นว้ิ หวั แม่มอื กบั ขอ้ มอื
- ขอ้ ต่อแบบปุ่ม (condyloid joint) มลี กั ษณะคลำ้ ยขอ้ ต่อแบบลูกกลมในเบำ้ แต่เคลอื่ นไหวได้นอ้ ยกว่ำ เช่น ขอ้ ต่อระหว่ำงกระดูกฝ่ ำมอื กบั กระดูกนว้ิ มอื
- ขอ้ ต่อเพลน (plane joint) หรอื ขอ้ ต่อไกลดงิ (gliding joint) เป็นขอ้ ต่อระหว่ำงกระดูกทม่ี หี นำ้ ตดั เรยี บ ทำใหเ้ กดิ กำรเคลอื่ นไหวในลกั ษณะเลอื่ นถูกนั ไปมำ
พบในขอ้ ต่อทกี่ ระดูกขอ้ มอื และขอ้ ต่อกระดูกขอ้ เทำ้
- ขอ้ ต่อรูปบอลในเบำ้ (ball and socket joint) ขอ้ ต่อชนดิ นป้ี ลำยกระดูกขำ้ งหนงึ่ มลี กั ษณะกลม สอดเขำ้ ไปในปลำยของกระดูกอกี ชน้ิ หนง่ึ ทม่ี ี
”ลกั ษณะเป็นเบำ้ ซง่ึ ทำใหม้ กี ำรเคลอ่ื นไหวได้มำกทสี่ ุดเกอื บทุกทศิ ทำง กระดูกทม่ี ขี อ้ ต่อชนดิ น้ี คอื ขอ้ ต่อกระดูกสะโพก ข้อต่อกระดูกหวั ไหล่



แบบฝึ กหดั Exercise
ของนอ้ งกระดูก ( Bone )

แบบฝึ กหัดท่ี 1 จงโยงเส้นเช่ือมความสัมพนั ธ์ให้ถกู ต้อง

pivot joint เป็นกระดูกอ่อนทยี่ ดื หยุ่นได้ดี มเีมทรกิ ซ์เป็นพวกเสน้ ใย ยดื หยุ่นมำกกว่ำเนอ่ื งจำกมี คลอลำเจน
ไฟเบอร์ พบได้ทใี่บหู ฝำปิดกลอ่ งเสยี งหลอดยูสเตเชยี น
Elastic Cartilage
เป็นขอ้ ต่อระหว่ำงกระดูกทม่ี หี นำ้ ตดั เรยี บ ทำใหเ้ กดิ กำรเคลอ่ื นไหวในลกั ษณะเลอ่ื นถูกนั ไปมำ
Completely Immovable พบในขอ้ ต่อทกี่ ระดูกขอ้ มอื และขอ้ ต่อกระดูกขอ้ เทำ้
Joint
ขอ้ ต่อรูปเดอื ย
plane joint
เป็นขอ้ ต่อของกระดูกทมี่ ลี กั ษณะแบน ขอบหยกั จะถูกเชอื่ มกนั โดย Fibrous Tissue
และช่องตำมรอยต่อจะมเีสน้ ใยของเนอ้ื เยอ่ื เกย่ี วพนั แทรกอยู่ เช่น กระดูกกะโหลกศรี ษะ
กระดูกหนำ้ เป็นต้น

แบบฝึ กหัดท่ี 2 ให้อธิบายเกี่ยวกับกระดกู แกนและกระดกู ระยาง

กระดูกแกน (Axial skeleton)
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................

กระดูกรยำงค์ (Appendicular skeleton)
..............................................................................................................................................
..............................................................................................................................................
..............................................................................................................................................
..............................................................................................................................................
...........................................................................................................................

เฉลยแบบฝึ กหดั Exercise
ของนอ้ งกระดูก ( Bone )

pivot joint จงโยงเส้นเช่ือมความสัมพนั ธ์ให้ถกู ต้อง

Elastic Cartilage เป็นกระดูกอ่อนทย่ี ดื หยุ่นได้ดี มเีมทรกิ ซ์เป็นพวกเสน้ ใย ยดื หยุ่นมำกกว่ำเนอื่ งจำกมี คลอลำเจน
ไฟเบอร์ พบได้ทใ่ีบหู ฝำปิดกลอ่ งเสยี งหลอดยูสเตเชยี น
Completely Immovable
Joint เป็นขอ้ ต่อระหว่ำงกระดูกทมี่ หี นำ้ ตดั เรยี บ ทำใหเ้ กดิ กำรเคลอ่ื นไหวในลกั ษณะเลอื่ นถูกนั ไปมำ
พบในขอ้ ต่อทกี่ ระดูกขอ้ มอื และขอ้ ต่อกระดูกขอ้ เทำ้
plane joint
ขอ้ ต่อรูปเดอื ย

เป็นขอ้ ต่อของกระดูกทมี่ ลี กั ษณะแบน ขอบหยกั จะถูกเชอ่ื มกนั โดย Fibrous Tissue
และช่องตำมรอยต่อจะมเีสน้ ใยของเนอ้ื เยอ่ื เกย่ี วพนั แทรกอยู่ เช่น กระดูกกะโหลกศรี ษะ
กระดูกหนำ้ เป็นต้น

แบบฝึ กหัดท่ี 2 ให้อธิบายเกี่ยวกับกระดกู แกนและกระดกู ระยาง
กระดูกแกน (Axial skeleton)
มจี ำนวน 80 ชน้ิ ได้แก่ กระดูกกะโหลกศรี ษะ 29 ชน้ิ และท่อนสนั หลงั อกี 51 ชน้ิ
( กระดูกสนั หลงั 26 ชน้ิ , กระดูกซโี่ครง 24 ชน้ิ และกระดูกหนำ้ อกอกี 1 ชน้ิ รวมเป็น 51 ชน้ิ

กระดูกรยำงค์ (Appendicular skeleton)
มจี ำนวน 126 ชน้ิ เป็นกระดูกทแ่ี ยกออกมำจำกกระดูกแกน ประกอบไปด้วย กระดูกแขน 60 ชน้ิ ,

กระดูกสะบกั 2 ชน้ิ , เชงิ กรำน 2 ชน้ิ และไหปลำร้ำ 1 ชน้ิ

บรรณำนุกรม

กระทรวงศกึ ษำธกิ ำร. (2551). หลกั สูตรแกนกลำงกำรศกึ ษำขน้ั พน้ื ฐำน พุทธศกั รำช 2551. กรุงเทพฯ : โรงพมิ พ์
ชุมนุมสหกรณ์กำรเกษตรแห่งประเทศไทย จำกดั .

กระทรวงศกึ ษำธกิ ำร. (2560). ตวั ชว้ี ดั และสำระกำรเรยี นร้แู กนกลำง กลุม่ สำระกำรเรยี นร้วู ทิ ยำศำสตร์ (ฉบบั ปรบั ปรงุ
พ.ศ.2560)หลกั สูตรแกนกลำงกำรศกึ ษำขน้ั พน้ื ฐำน พุทธศกั รำช 2551. กรุงเทพฯ : โรงพมิ พช์ ุมนุมสหกรณ์กำรเกษตรแห่ง
ประเทศไทย จำกดั .

สถำบนั ส่งเสรมิ กำรสอนวทิ ยำศำสตร์พน้ื ฐำนและเทคโนโลย.ี คู่มอื ครรู ำยวชิ ำพน้ื ฐำนวทิ ยำศำสตร์ ชนั้ มธั ยมศกึ ษำปี่ที่ 6 ตำม
มำตรฐำนกำรเรยี นร้แู ละตวั ชว้ี ดั และสำระกำรเรยี นร้แู กนกลำง กลุม่ สำระกำรเรยี นร้วู ทิ ยำศำสตร์ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ.2560)หลกั สูตร
แกนกลำงกำรศกึ ษำขนั้ พน้ื ฐำน พุทธศกั รำช 2551. กรงุ เทพฯ : โรงพมิ พช์ ุมนุมสหกรณ์กำรเกษตรแหง่ ประเทศไทย จำกดั .

Resource

ประวตั ผิ ูจ้ ดั ทำ

ชอื่ : นำงสำว ณฐั รกิ ำ บุญพำ
ชอื่ เลน่ : ครูหมวิ
ตำแหนง่ : นกั ศกึ ษำสำขำวทิ ยำศำสตร์ทวั่ ไปและชวี วทิ ยำ
สถำนทท่ี ำงำน : มหำวทิ ยำลยั รำชภฏั อุดรธำนี
อเีมล : [email protected]

THANK YOU


Click to View FlipBook Version