The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

สรุปวิวัฒนาการละครไทย

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Yada Pispeng, 2022-11-26 03:52:52

วิวัฒนาการละครไทย

สรุปวิวัฒนาการละครไทย

ววิิววััฒฒนนาากกาารร
ลละะคครรไไททยย

จัดทำโดย นางสาวญาดา พิศเพ็ง ม.๖/๑ เลขที่ ๒๐
เสนอ คุณครูสุภิศา แสงอาวุธ

ววิิววััฒฒนนาากกาารรลละะคครรไไททยย

สมัยน่านเจ้า ๑
สมัยสุโขทัย ๑
สมัยอยุธยา ๒
สมัยธนบุรี ๒
สมัยรัตนโกสิ นทร์ ๓

รัชกาลที่ ๑ ๓
รัชกาลที่ ๒ ๔
รัชกาลที่ ๓ ๔
รัชกาลที่ ๔ ๕
รัชกาลที่ ๕ ๕
รัชกาลที่ ๖ ๕
รัชกาลที่ ๗ ๖
รัชกาลที่ ๘ ๖
รัชกาลที่ ๙ ๗
อ้างอิง

สมัยน่านเจ้า



สมัยอาณาจักรน่านเจ้า ไทยมีนิยายเรื่องหนึ่งคือ (นามาโนห์รา)
“มโนห์รา” ซึ่งปัจจุบันนี้ก็ยังมีอยู่ หนังสือทีเขียนบรรยายถึง ที่มา FILMSUPICHA
เรื่องของชาวจีนตอนใต้ และเขียนถึงนิยายการเล่นต่างๆ

ของจีนตอนใต้ มีอยู่เรื่องหนึ่งที่ชื่อเหมือนกับนิยายของไทย คือเรื่อง

“นามาโนห์รา” คำว่า “นามาโนห์รา” เพี้ยนมาจากคำว่า “นางมโนห์รา” ของไทย

การละเล่นของไทยในสมัยน่านเจ้า นอกจากเรื่องมโนห์รา ยังมีการแสดงระบำต่างๆ
เช่น ระบำหมวก ระบำนกยูง

สมัยสุโขทัย

พบหลักฐาน กล่าวถึงการละเล่นเทศกาลกฐินไว้ การละครและฟ้อนรำ ปรากฏอยู่ในศิลาจาลึก
ของพ่อขุนรามคำแหง กล่าวว่า เมื่อจักเข้ามาเรียงกันแต่อรัญญิกพู้นเท้าหัวลานด้วยเสียงพาทย์
เสียงพิณ เสียงเลื้อน เสียงขับ ใครจักมักเหล้น เหล้นใครจักมักหัว หัวใครจักมักเลื้อน เลื้อน

รับวัฒนธรรมจากชนชาติอื่น ๆ เข้ามา ผสมผสาน
กับศิลปะวัฒนธรรมดั้งเดิมของไทย และทำให้ศิลปะ
การละเล่น พื้นเมืองของไทย คือ รำและระบำได้มี
วิวัฒนาการขึ้น

มีการบัญญัติศัพท์ขึ้นใหม่ เพื่อนใช้เรียกศิลปะ
การแสดงของไทย ว่า “โขน ละคร ฟ้อนรำ”
มีการแสดงละครที่เป็นเรื่องที่แน่นอน คือ
เรื่อง มโนราห์

(ภาพจารึกประวัติศาสตร์สมัยสุโขทัย)
ที่มา FILMSUPICHA



สมัยอยุธยา ต้นกำเนิดมาจากการเล่นโนรา และละครชาตรีที่นิยม
กันในภาคใต้ของประเทศไทย ละครชาตรีที่ปักษ์ใต้เป็นต้น
(การแสดงโนราห์ ชาตรี) กำเนิดละครรำในสมัยกรุงศรีอยุธยา ส่วนระบำหรือฟ้อน
ที่มา FILMSUPICHA นั้น เป็นศิลปะโดยอุปนิสัยของคนไทยสืบมา

แต่เดิมละครรำของไทยในสมัยกรุ งศรีอยุธยานั้ น
มี ๓ ประเภท คือ ละครชาตรี ละครนอก และละครใน
ละครชาตรีนั้นเป็นของเดิมละครนอกเกิดขึ้นโดยแก้ไขจาก
ละครชาตรี แต่ละครในคือ ละครผู้หญิง เมื่อครั้งสมัยของ
สมเด็จพระนารายณ์มหาราช ซึ่งแต่งในสมัยพระเจ้าอยู่หัว
บรมโกศ เพราะฉะนั้นละครผู้หญิงน่าจะเกิดใน
สมัยสมเด็จพระเพทราชา

บทละครที่ใช้แสดงกันในสมัยกรุงศรีอยุธยามีอยู่ ๒๒ เรื่อง
เช่น อิเหนา ไกรทอง สังข์ทอง เป็นต้น

สมัยธนบุรี

ตัวละครและบทละครครั้งกรุงเก่าสูญหายไปมาก ส่วนละครนอกเป็นของราษฎร
เล่นกันในพื้นเมืองแพร่หลาย

สมเด็จพระเจ้ากรุ งธนบุรีได้เสด็จยาตราทัพไปปราบก๊กเจ้านครศรีธรรมราชทำให้
ได้ทั้งละครผู้หญิง เครื่องประดับเงินทอง ทั้งละครผู้หญิง เครื่องประดับเงินทอง

สมเด็จพระเจ้ากรุ งธนบุรีโปรดให้มีละครผู้หญิงมาแสดงสมโภชพระบรมธาตุ
ที่เมืองนครศรีธรรมราช และได้ทรงสนพระทัยในนาฏศิลป์และวรรณกรรม

ทรงพระราชนิพนธ์บทละครเรื่อง รามเกียรติ์ ๒
ขึ้นด้วยพระองค์เอง ๕ ตอน คือ

ตอนหนุมานเกี้ยวนางวานรินทร์
ตอนท้าวมาลีวราชว่าความ
ตอนทศกัณฐ์ตั้งพิธีทรายกรด(เผารู ปเทวดา)
ตอนพระลักษณ์ถูกหอกกบิลพัท และ
ตอนปล่อยม้าอุปการ

(การเมืองไทยสมัยพระเจ้ากรุ งธนบุรี)
ที่มา FILMSUPICHA

สมัยรัตนโกสิ นทร์

สมัยรัชกาลที่ ๑

พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช
ทรงฟื้ นฟูและรวบรวมตำราฟ้อนรำขึ้น
ทรงโปรดให้มีการฝึกหัดโขน
ละครผู้หญิงให้มีแต่ในเขตพระราชวังเท่านั้น
ละครนอกเป็นผู้ชายล้วน
มีบทละครที่ปรากฏตามหลักฐานอยู่ 4 เรื่อง คือ อุณรุฑ
รามเกียรติ์ ตอน นารายณ์ปราบนนทก ดาหลัง และอิเหนา

(ละครใน เรื่อง อุณรุฑ )
ที่มา FILMSUPICHA

สมัยรัชกาลที่ ๒

พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย

เป็นสมัยที่วรรณคดีเจริญรุ่งเรื่องเป็นยุคทองแห่ง

ศิลปะการละคร

มีบทละครในที่เกิดขึ้น ได้แก่ เรื่องอิเหนา ซึ่งวรรณคดี

สโมสรยกย่องว่าเป็นยอดของบทละครรำ (บทละคร เรื่อง อิเหนา )
และเรื่องรามเกียรติ์ ที่มา FILMSUPICHA

บทละครนอก ได้แก่ เรื่องไกรทอง คาวี ไชยเชษฐ์ สังข์ทอง และมณีพิชัย

เมื่อพระราชนิพนธ์บทละครเรื่องใดก็โปรดให้เจ้าฟ้ากรมหลวงพิทักษ์ มนตรีผู้ทรงรอบรู้ใน

กระบวนรำนำไปทดลองรำดูก่อน ถ้าตอนใดท่ารำขัดข้องหรือไม่ได้ท่ารำที่งดงาม ก็ทรง

แก้ไขบทใหม่จนกว่าจะกลมกลืนจึงยุติ



สมัยรัตนโกสิ นทร์

สมัยรัชกาลที่ ๓

พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว
ทรงโปรดให้เลิกการแสดงละครของหลวง ส่งผลให้เกิดคณะ
ละครของเจ้านายและขุนนางขึ้นแพร่หลายและที่หัดละครผู้
หญิงโดยไม่ได้รับพระบรมราชานุญาติ

(ทรงยกเลิก ละครหลวง )
ที่มา FILMSUPICHA

สมัยรัชกาลที่ ๔

พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (ละครหลวงในรัชกาลที่ ๔ )
ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ฟื้ นฟูละครหลวงขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ที่มา FILMSUPICHA
อนุญาตให้ราษฎรฝึกละครในได้ ห้ามบังคับผู้คนมา
ฝึกละคร ถ้าจะมาขอให้มาด้วยความสมัครใจ
โปรดให้ตั้งภาษีมหรสพขึ้นเป็นครั้งแรก เรียกว่า
ภาษีโขน ละคร

สมัยรัชกาลที่ ๕

พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
กำเนิดละครดึกดำบรรพ์ และละครพันทาง ละครร้อง ละครพูด
ทรงส่ งเสริมการละครโดยเลิกกฏหมายการเก็บอากรมหรสพ
ให้กิจการละครเฟื่ องฟูขึ้นกลายเป็นอาชีพได้

ละครพันทาง เรื่อง พระลอ ) ๔
ที่มา FILMSUPICHA

สมัยรัตนโกสิ นทร์

สมัยรัชกาลที่ ๖

พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
โขน ละคร ดนตรี ปี่ พาทย์เจริญถึงขีดสุด
โปรดเกล้าฯ ให้ตั้งกรมมหรสพขึ้น เพื่อบำรุงวิชา
การนาฏศิลปะ และการดนตรี และยังทรงเป็นบรม
ครู ของเหล่าศิ ลปิน
ทรงพระราชนิพนธ์บทโขน ละคร ฟ้อนรำ ไว้เป็น
จำนวนมาก

(โขน ในรัชกาลที่๖ )
ที่มา FILMSUPICHA

สมัยรัชกาลที่ ๗

พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว
มีการยกเลิกกรมมหรสพและตั้งเป็นกองมหรสพ
จากนั้นได้ย้ายไปขึ้นอยู่กับกรมศิลปากร
ในสมัยนี้มีละครแนวใหม่เกิดขึ้นคือ ละครเพลง
หรือที่เป็นที่รู้จักกันว่า “ละครจันทโรภาส”
ตลอดทั้งมีละครหลวงวิจิตรวาทการเกิดขึ้น

(ละครหลวงวิจิตรวาทการ เรื่อง อานุภาพพ่อขุนรามคำแหง )
ที่มา FILMSUPICHA



สมัยรัตนโกสิ นทร์

สมัยรัชกาลที่ ๘

พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล
หลวงวิจิตรวาทการเป็นผู้ริเริ่มก่อตั้งสถาบันการสอนศิลปะ
การแสดงโขน ละคร ดนตรี ปี่ พาทย์ ควบคู่ไปกับการสอน
วิชาสามัญ คือ “วิทยาลัยนาฏศิลป”
มีการแสดงละครปลุกใจ ให้รักชาติ และมีลักษณะที่แตกต่าง
จากละครที่มีอยู่เดิม จึงเรียกว่า “ละครหลวงวิจิตรวาทการ”
เช่น เรื่อง เลือดสุพรรณ

(ละครเรื่อง เลือดสุพรรณ )
ที่มา FILMSUPICHA

สมัยรัชกาลที่ ๙ (พิธีไหว้ครู )
ที่มา FILMSUPICHA
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
โปรดเกล้าฯ ให้บันทึกภาพยนตร์สีส่วนพระองค์ ๖
บันทึกท่ารำหน้าพาทย์องค์พระพิราพ ท่ารำเพลงหน้า
พาทย์ของพระ นาง ยักษ์ ลิง
โปรดเกล้าฯ ให้จัดพิธีไหว้ครูมอบท่ารำองค์พระพิราพ
ให้แก่ศิลปินกรมศิลปากร
ทางรัฐบาลยังให้การสนับสนุนส่ งเสริมและเชิดชู
เกียรติบุคคลที่อยู่ในแวดวงศิลปะการแสดงโดย
กำหนดให้ วันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ของทุกปี
เป็นวันศิลปินแห่งชาติ

อ้างอิง

เนื้อหาจาก HTTPS://WWW.KANLAKORNTHAI-BPI4465.COM/
รูปภาพจาก FILMSUPICHA

ขอขอบคุณ


Click to View FlipBook Version