นางสาว กาญจนา สุสวดโม้ เลขที่ ๑๖ นางสาว พัชราภา สีดาเคน เลขที่ ๑๘ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ จัดทำ โดย เสนอ อาจารย์ มธุกร สีทะนารัตน์ E-Book เล่นนี้จัดทำ ขึ้นในรายงานภาษาไทยเพิ่มเติม ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๖ โรงเรียนเขื่อนพิทยาสรรค์
คำ นำ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์เล่มนี้เป็นส่วนหนึ่ง ของวิชาภาษาไทยเพิ่มเติม คณะผู้จัดทำ ได้จัด ทำ การศึกษาเรื่องตำ นานรัก ขูลูนางอั้ว โดยมี วัตถุประสงค์ที่จะทำ ให้เกิดความรู้ที่เกี่ยวข้อง กับขูลูนางอั้ว คณะผู้จัดทำ หวังอย่างยิ่งว่า หนังสือเล่มนี้จะให้ความรู้และประโยชน์แก่ผู้ อ่านทุกๆท่าน หากมีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ ผู้จัดทำ นางสาว กาญจนา สุสวดโม้ นางสาว พัชราภา สีดาเคน
สารบัญ เรื่อง หน้า คำ นำ สารบัญ ก ข ผู้แต่ง ที่มา ตำ นานของไม้ดอก ๒ ชนิด เนื้อเรื่อง ตำ นานแรก ตำ นานสอง ข้อคิด ๑ ๒ ๓ - ๔-๕ ๖-๙ ๑๐
“ขูลูนางอั้ว” เรื่องโศกนาฏกรรมรัก ผู้แต่ง จัดพิมพ์และจำ หน่ายที่ ไม่ปรากฏผู้แต่ง เพราะวรรณกรรม พื้นบ้านส่วนใหญ่เป็นการแต่งตาม แนวของนิทานชาดก บริษัท ขอนแก่น คลังนานาธรรม จำ กัด
วรรณกรรมพื้นบ้านอีสานเรื่องนี้อาจมีการเล่า แตกต่างกันไปในแต่ละท้องถิ่น เป็นตำ นานรัก เศร้าระหว่างท้าวขูลูกับนางอั้ว ความซึ้งรันทด ของตำ นานได้ทำ ให้ชื่อของทั้งคู่กลายมาเป็น ชื่อของกล้วยไม้ป่าที่เร้นลับหายาก และเชื่อ กันว่า “มีดอกนางอั้วขึ้นที่ใด ที่นั่นจะมีดอกขู ลูเกิดขึ้นในบริเวณเดียวกันอยู่เสมอ” ที่มา
ตำ นานของไม้ดอก ๒ ชนิด เถ้าอัฐิของท้าวคูลูได้เกิดเป็นดอกไม้ดินในชื่อ “ดอกคูลู” มีสีม่วงเหมือนดอกอัญชัญ ส่วนอัฐิ นางอั้วเกิดเป็นไม้ดอกตระกูลว่าน มีสีขาว คล้ายดอกมหาหงส์ ในชื่อ “ดอกนางอั้ว” ที่น่า แปลกใจก็คือ ที่ใดมีดอกนางอั้วขึ้น ก็จะมีดอก คูลูเกิดขึ้นในบริเวณเดียวกันเสมอ
เนื้อเรื่อง ตำ นานแรก ว่ากันว่ามีหมู่บ้านหมู่บ้านหนึ่งชื่อว่า บ้านโคกกง และอีก หมู่บ้านหนึ่งชื่อ บ้านทุ่งมน สองหมู่บ้านนี้ติดกัน รักใคร่ สามัคคีกันดี มีเพื่อนฮักเพื่อนแพง(เสี่ยวกัน)สองครอบครัว ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อน 2 ครอบครัวสัญญากันไว้ว่า ถ้า ใครมีลูกชายจะให้เป็นเพื่อนกัน หากอีกฝ่ายเป็นหญิงจะให้ แต่งงานกัน โดยไม่มีเงื่อนไข วันหนึ่งฝ่าย นางกาสี อยู่บ้านโคกกง ซึ่งมีสวนส้ม กำ ลังสุก เหลือง ส่วนฝ่ายบ้านทุ่งมน เกิดอยากกินผลส้มเลยชวนพวก มาขอผลส้มกินแต่ นางกาสีหวงไม่ยอมยกให้ จนเกิดผิดใจ กันระหว่างเพื่อน ก็เลยเลิกคบค้ากัน ขนาดว่าจะไม่ให้ลูก หลานคบค้าสมาคมกัน และแค้นใจมาก
๑๘ ปีต่อมา ฝ่ายนางกาสี มีลูกชายชื่อ ขูลู ส่วน อีกฝ่าย มีลูกสาวชื่อ นางอั้ว ทั้งสองเกิดรักใคร่ ชอบกัน โดยที่ไม่ฟังคำ คัดค้านจากฝ่ายพ่อแม่ทั้ง สองฝ่ายเลยแม้แต่น้อย พ่อของนางอั้ว กลัว ลูกสาวไปปล่อยตัวปล่อยใจจนเกินงามให้ ขูลู เลยออกอุบายให้นางอั้วแต่งงานกับ ขุนลาง หลานเจ้าสัว มหาเศรษฐีปล่อยเงินกู้ผู้กว้างขวาง และเอารัดเอาเปรียบในหมู่บ้านทุ่งมน วันหนึ่ง ขุน ลางกับน้าชาย ได้ทวงเรื่องหนี้สินที่พ่อนางอั้วเคย หยิบยืมไป แต่ก็ไม่มีให้ในที่สุด น้าชายของขุนลาง บังคับให้นางอั้วแต่งงานเพื่อชดใช้หนี้ นางไม่ ยินยอมเพราะมีใจให้ขูลูอยู่ จึงตัดสินใจ ในคืน ก่อนเข้าพิธีแต่งงานหนึ่งวันกับขุนลาง มอบกาย ให้ขูลูจากนั้นก็ตัดสินใจผูกคอตาย พอขูลูรู้ข่าว การตาย จึงใช้มีดแทงตัวตายตามนางอั้วไป
ตำ นานที่สอง ท้าวขูลูเป็นโอรสเมืองกาสี และนางอัวเดี่ยมเป็นธิดา ของเมืองกายนคร พระมารดาของทั้งสองเมืองเป็น เพื่อนกัน และได้ให้คำ มั่นสัญญาว่าถ้าฝ่ายใดได้ลูกชาย ลูกสาวก็จะยกให้แต่งงานกัน ท้าวขูลูกับนางอั้วเคี่ยม เกิดปีเดียวกัน เมื่อเจริญเติบโตนางอั้วเคี่ยมมีความ งดงามมาก จนเล่าลือไปถึงขุนลาง ซึ่งเป็นเจ้าเมืองขอม ภูเขาก่ำ ที่เป็นชนเผ่าที่ยังไม่เจริญ ต่อมาเมื่อท้าวขูลูเจริญวัยอยากมีคู่ครองก็ลามารดามา เมืองกายนคร แล้วได้มีใจต่อนางอั้วเคี่ยม ท้าวขูลู ประทับอยู่เมืองกายนครระยะหนึ่ง ก็ลากลับเมือง เพื่อ ส่งผู้ใหญ่มาสู่ขอ
ขุนลางหัวหน้าเผ่าชนภูเขาก็ได้ส่งผู้ใหญ่มา สู่ขอนางอั้วเคี่ยม พระมารดานางอั้วเคี่ยมได้ รับปาก เป็นเพราะนางไม่พอใจมารดาท้าวขูลู ซึ่งเป็นเพื่อนกัน เมื่อครั้งตั้งครรภ์นางอั้ว เคี่ยม นางได้ไปเที่ยวอุทยานของเมืองกาสี เมื่อเห็นส้มเกลี้ยงก็อยากกิน แต่มารดาของ ท้าวขูลูไม่ให้ อ้างว่าส้มเกลี้ยงไม่สุกดี จึง ทำ ให้นางน้อยใจและตัดความเป็นเพื่อนกัน นางอั้วเคี่ยมทราบว่ามารดารับปากการสู่ขอ ของขุนลาง นางก็เสียใจและไม่ยอมรับ
ฝ่ายท้าวขูลูได้บอกบิดามารดามาสู่ขอนางอั้วเคี่ยม แม่สื่อของขูลูนำ สินสอดมาสูขอครั้งแรก มารดานา งอั้วเคี่ยมไม่ยอมตกลงอ้างว่าได้ตกลงกับขุนลางไว้ ก่อนแล้ว ท้าวขูลูก็ขอให้แม่สื่อมาขอนางอั้วเคี่ยม อีกครั้ง และได้พูดทวงสัญญาคำ มั่นที่จะให้ บุตร – ธิดา อภิเษกสมรสกัน แต่มารดาของนางอั้วเคี่ยมได้ กล่าวถึงความโกรธเมื่อครั้งส้มเกลี้ยงจึงคืนสัญญา ทั้งหมด เมื่อจนหนทางมารดาท้าวขูลูจึงอ้อนวอน ขอให้ทำ พิธีเสี่ยงสายแนน (แนน หมายถึงรกห่อหุ้ม ทารกแรกเกิด) ว่าเป็นเนื้อคู่กันหรือไม่ ผลการ เสี่ยงทายว่า สายแนนของทั้งสองคนนั้นเกี่ยวพันกัน ดีอยู่ในตอนต้น แต่ตอนปลายยอดด้วนและแยก ออกจากกัน ซึ่งแสดงว่าเป็นเนื้อคู่กันแต่จะอยู่กันไม่ ยืดยาว ต้องพลัดพรากจากกันในที่สุด โดยบอกว่า ทั้งสองต้องตายจากกัน ฝ่ายท้าวขูลูจึงจำ ใจยกทัพ กลับเมือง
ฝ่ายขุนลางก็ส่งคนมาทาบทามเพื่อกำ หนดวัน อภิเษก เมื่อข่าวกำ หนดแต่งงานถึงหูอั้วเคี่ยม ทำ ให้ นางเศร้าโศกเสียใจ นางจึงสั่งนางทาสาไปเชิญท้าว ขูลูมาพบนาง ฝ่ายมารดานางอั้วเคี่ยมทราบว่าธิดา ได้ลักลอบพบกับท้าวขูลูที่สวนอุทยาน นางโกรธ มากจึงด่าว่านางอั้วเคี่ยมว่าไปเล่นชู้ นางเสียใจ มากจึงพูกคอตายที่อุทยาน เมื่อความทราบถึงเจ้า เมืองและพระมารดาต่างก็เสียพระทัย และนำ พระ ศพเข้าเมืองบำ เพ็ญกุศล ส่วนขุนลางมาพบเห็นเข้าก็เสียใจเสียดายในตัวนา งอั้ว ก็พลันเกิดธรณีสูบร่าง เพราะเป็นคนใจบาป สร้างกรรมชั่วเอาไว้มาก ฝ่ายท้าวขูลูเมื่อทราบการ ตายของนางอั้วเคี่ยมในระหว่างยกทัพกลับ ก็เกิด เสียใจ จึงคว้ามีดแทงคอตัวเองตาย สุดท้าย วิญญาณของสองหนุ่มสาวได้ไปพบกันบนสวรรค์
ข้อคิด ที่ใดมีรัก ที่นั้นจะไม่มีทุกข์ ถ้า เราเปิดใจฟังความคิด เห็นซึ่งกันและกัน มีเหตุผล
กลุ่มของพวกเรา ขอจบการนำ เสนอ ตำ นานรัก ขูลูนางอั้ว เพียงเท่านี้ค่ะ