คำนำ
หนังสืออิเล็กทรอนิกส์(E-Book) นี้จัดทาข้ึนเพื่อ ประกอบการเรียนการสอน ในรายวิชา
ประวัติศาสตร์ สามารถค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ ผู้จัดทาได้รวบรวมข้อมูลเก่ียวกับแหล่งเรียนรู้ของ
จังหวัดสระแก้ว เพื่อให้นักเรียนมีความรู้ ความเข้าใจในประวัติศาสตร์ความเป็นมาของจังหวัดสระแก้ว
มากยิง่ ข้ึน นาเสนอในรปู แบบท่ีน่าสนใจ มภี าพประกอบให้มคี วามรู้ความเขา้ ใจมากย่งิ ข้ึน
โรงเรียนบ้านคลองสบิ สาม
สารบญั
หนา้
ประวัติศาสตร์จงั หวัดสระแกว้ ___________________________________________________1
การเกิดชมุ ชนและการตง้ั ถน่ิ ฐาน_________________________________________________ 1
สมัยอยธุ ยา ธนบุรี และรตั นโกสินทร์______________________________________________ 2
สมยั หลงั เปล่ียนแปลงการปกครอง_______________________________________________ 2
ภูมศิ าสตร์ ท่ีต้งั และอาณาเขต___________________________________________________ 2
ภมู ิประเทศ________________________________________________________________ 2
ภูมิอากาศ_________________________________________________________________ 3
การเมอื งการปกครอง_________________________________________________________3
ประชากร กล่มุ ชาตพิ ันธ์ุ_______________________________________________________3
การศึกษา_________________________________________________________________ 4
การสาธารณสุข_____________________________________________________________ 4
การขนส่ง_________________________________________________________________ 5
การทอ่ งเทีย่ ว_______________________________________________________________5
ประวตั ศิ าสตร์ จังหวดั สระแกว้
สระแกว้ เป็นจงั หวดั หน่ึงในภาคตะวนั ออกของประเทศไทย แยกออกมาจาก
จังหวัดปราจีนบุรีเมื่อ พ.ศ. 2536 โดยในปัจจุบันถือเป็นจังหวัดท่ีมีพ้ืนที่มากที่สุดใน
ภาคตะวันออก และเปน็ อีกหนง่ึ จังหวดั พรมแดนทีม่ กี ารตดิ ต่อค้าขายเปน็ อย่างมาก
สระแกว้ เปน็ ชือ่ ทีม่ าจากชอ่ื สระน้าโบราณซ่ึงอยู่ในพื้นท่อี า้ เภอเมืองสระแก้ว มี
อยู่จ้านวน 2 สระ ในสมัยกรุงธนบุรีราว พ.ศ. 2323 สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์
ศึก เป็นแม่ทัพยกทัพไปตีกัมพูชา (เขมร) ได้แวะพักกองทัพท่ีบริเวณสระน้าท้ังสอง
แห่งน้ี กองทัพได้อาศัยน้าจากสระใช้สอยและได้ขนานนามสระท้ังสองว่า "สระแก้ว-
สระขวัญ" และได้น้าน้าจากสระทั้งสองแห่งนี้ใช้ในการประกอบพิธีถือน้าพิพัฒน์สัต
ยา โดยถอื วา่ เปน็ น้าบรสิ ุทธ์ิ
การเกิดชุมชนและการต้ังถ่นิ ฐาน
ประมาณ 4,000 ปีกอ่ น บริเวณอ่าวไทยยังเป็นทะเลโคลนตมเว้าลึกเข้ามาใน
แผน่ ดินมากกว่าปัจจุบนั พืน้ ท่ีทเี่ ป็นจงั หวดั สระแก้วยงั ไม่มผี คู้ นอยู่อาศัย เป็นเพียงแค่
ทางผ่าน ต่อมาเร่ิมมีคนมาต้ังถน่ิ ฐานจนขยายใหญ่ขึ้นเป็นหมู่บ้าน ผู้คนพากันต้ังหลัก
แหล่งบริเวณเชิงเขา ซึ่งปัจจุบันคือ อ้าเภอตาพระยา อ้าเภอโคกสูง อ้าเภอวัฒนา
นคร อา้ เภออรญั ประเทศ อา้ เภอเมืองสระแก้ว และอ้าเภอเขาฉกรรจ์ โดยเฉพาะบน
สองฝงั่ ลา้ น้าพระปรงและพระสะทึง จากน้ันผู้คนได้กระจายออกไปอยู่บริเวณท่ีดอน
กลางทะเลโคลนตม ท่ีปัจจุบันคือ อ้าเภอบ้านสร้าง อ้าเภอเมืองปราจีนบุรี อ้าเภอ
ประจันตคาม ในจงั หวดั ปราจนี บุรี
พ.ศ. 1000 ชุมชนทตี่ ัง้ ถนิ่ ฐานบริเวณเมืองสระแก้วได้พัฒนาเปน็ ชุมชนทหี่ นาแน่นขึน้ โดยแบง่ ออกเปน็ สองกลุ่ม คือ กลุ่มล้าน้า
พระปรง-พระสะทึง มวี ฒั นธรรมแบบสวุ รรณภูมิสมัยก่อนประวัติศาสตร์ และแบบทวาราวดี มี
ศูนย์กลางอยู่ที่เขาฉกรรจ์ และกลุ่มล้าห้วยพรมโหด มีวัฒนธรรมแบบขอม ศูนย์กลางอยู่ท่ี
ปราสาทเขาน้อย-เขารังและบ้านเมืองไผ่ (ปจั จบุ ันอยู่ในเขตอ้าเภออรญั ประเทศ)
การค้นพบโครงกระดูกมนุษย์ยุคทวารวดี ที่บ้านโคกมะกอก ต้าบลเขาสามสิบ อ้าเภอ
เขาฉกรรจ์
สมัยโบราณ สระแก้วมีความส้าคัญในด้านเป็นเส้นทางคมนาคมทางตะวันตก -
ตะวนั ออก (ระหว่างเมืองชายฝั่งทะเลอ่าวไทยกับกัมพูชา) และทางเหนือ-ใต้ (ระหว่างเมืองใน
ล่มุ น้าโขง ชี มูล กับเมืองชายฝ่ังทางจันทบุรี) กระท่ังหลัง พ.ศ. 1500 รัฐพ้ืนเมืองต่าง ๆ ในสุวรรณภูมิมีการปรับตัวเนื่องจากการท้า
การค้ากบั จีน ประกอบกบั ภมู ปิ ระเทศบรเิ วณอ่าวไทยเปล่ียนแปลงกลายเป็นแผ่นดินตื้นเขินข้ึน เส้นทางคมนาคมทางน้าเปลี่ยนแปลง
ผคู้ นจึงอพยพยา้ ยถน่ิ ออกจากสระแก้ว
บรเิ วณลมุ่ น้าบางปะกงมีกลมุ่ บ้านเมืองเกิดข้ึนราว พ.ศ. 1900 เป็นชุมชนขนาดเล็ก ผู้คนเสาะหาของป่าเพ่ือส่งส่วยให้แก่ราช
ธานตี ่าง ๆ ต่อมาพัฒนาเปน็ เมอื งชายแดน เปน็ เสน้ ทางเดินทพั ผา่ นไปยังกัมพูชา
ในสมยั อาณาจักรสวุ รรณภูมิและอาณาจกั รทวารวดี สระแก้วเป็นชมุ ชนทีม่ ีความส้าคัญแห่งหนึ่ง มีฐานะเป็นเมืองขึ้นของเมือง
ปราจีนบรุ ี (เมอื งประจมิ ในสมยั โบราณ)
ประวตั ศิ าสตร์จงั หวดั สระแก้ว KLONG13 1
สมัยอยุธยา ธนบุรี และรตั นโกสนิ ทร์
สระแกว้ เป็นเมอื งชายแดน จงึ เปน็ ทางผา่ นของกองทัพในการทา้ สงครามกับประเทศเพอ่ื นบ้านอยู่บอ่ ยครง้ั
โดยในสมัยอยุธยา สมเด็จพระนเรศวรมหาราช คร้งั ยังเป็นสมเด็จพระมหาอปุ ราช ได้ยกทัพมาปราบปรามอรริ าชศตั รทู ล่ี กั ลอบเขา้ โจมตี
กวาดต้อนผู้คนบริเวณชายแดน มีการตั้งค่ายคูเมืองและปลูกยุ้งฉางไว้ท่ีท่าพระท้านบ ซ่ึงเช่ือว่าเป็นที่ต้ังอ้าเภอวัฒนานครในปัจจุบัน
ต่อมาในชว่ งก่อนกรุงศรีอยธุ ยาแตก พระเจ้าตากทรงหนีพม่าไปเมืองจันทบุรี โดยพาไพรค่ นสนทิ หนีฝ่ากองทัพพมา่ ไปทางทิศตะวันออก
ผ่านบริเวณ ดงศรีมหาโพธิ์ อันเป็นเขตป่าต่อเนื่องจากที่ราบลุ่ม ขึ้นไปถึงที่ลุ่มดอนของเมืองสระแก้ว แล้วไปยังชลบุรี ระยอง และ
จนั ทบรุ ี
ในสมัยกรงุ ธนบุรี เจา้ พระยาจักรี พร้อมบุตรชาย ยกทัพไปเสียมราฐและได้แวะพักแรมในบริเวณที่ปัจจุบันเรียกว่า สระแก้ว
สระขวัญ อันเป็นท่ีมาของช่ือจังหวัด และในช่วงต้นกรุงรัตนโกสินทร์ เจ้าพระยาบดินทร์เดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ขุนพลแก้วในสมัย
พระบาทสมเดจ็ พระนั่งเกลา้ เจา้ อยู่หัว ไดพ้ ักทพั กอ่ นยกไปปราบญวน โดยเม่ือเสร็จศึกญวนแล้ว ได้สร้างบริเวณท่ีพักน้ันเป็นวัดตาพระ
ยา ซ่งึ ตง้ั อยใู่ นอา้ เภอตาพระยาในปจั จบุ ัน
สมัยหลงั เปลี่ยนแปลงการปกครอง
สระแก้วเคยมีฐานะเป็นต้าบลขึ้นอยู่ในการปกครองของอ้าเภอกบินทร์บุรี จังหวัดกบินทร์บุรี ซึ่งทางราชการได้ตั้งเป็นด่าน
สา้ หรับตรวจคนและสินคา้ เข้า-ออก มีขา้ ราชการตา้ แหน่งนายกองทา้ หน้าทเี่ ป็นนายด่าน จนถึง พ.ศ. 2452 ทางราชการจึงได้ยกฐานะ
ขึน้ เป็นกงิ่ อ้าเภอ ชอื่ วา่ กง่ิ อาเภอสระแกว้ โดยใช้ชอ่ื สระน้าเป็นชอื่ กงิ่ อ้าเภอ ขึ้นกับอ้าเภอกบนิ ทร์บรุ ี (ในตอนน้ันจังหวัดกบินทร์บุรีถูก
ยบุ รวมกับจงั หวัดปราจนี บุรีเรยี บร้อยแลว้ ) ต่อมาเมอ่ื วนั ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2501 ได้มีพระราชกฤษฎีกายกฐานะขึ้นเป็นอ้าเภอชื่อ
ว่า อาเภอสระแกว้ ข้นึ อยู่ในการปกครองของจังหวดั ปราจีนบุรี และในวันท่ี 1 ธนั วาคม พ.ศ. 2536 ไดร้ ับการยกฐานะเป็นจังหวัด เป็น
จังหวัดล้าดับที่ 74 ของประเทศไทย โดยเป็นหน่ึงในสามจังหวัดท่ีได้รับจัดต้ังยกฐานะเป็นจังหวัดขึ้นในปีน้ัน พร้อมกั บจังหวัด
หนองบวั ลา้ ภูและจงั หวดั อ้านาจเจริญ
ภูมศิ าสตร์
ที่ตง้ั และอาณาเขต
สระแกว้ เป็นจังหวดั ชายแดนดา้ นตะวนั ออกตอนบนของประเทศ ตัง้ อยู่ระหวา่ งเส้นรุ้ง
ท่ี 13 องศา 15 ลิปดา ถึง 14 องศา 15 ลิปดาเหนือ กับประมาณเส้นแวงที่ 101 องศา 45
ลปิ ดา ถงึ 103 องศาตะวันออก โดยมอี าณาเขตติดต่อกบั จังหวดั ใกล้เคยี งดงั น้ี
ทศิ เหนอื ตดิ กับจงั หวดั บุรีรมั ย์และจงั หวดั นครราชสีมา
ทิศตะวันออก ติดกบั ปอยเปต จงั หวัดบนั ทายมชี ยั ประเทศกมั พูชา
ทศิ ใต้ ตดิ กับจงั หวดั จันทบรุ ี
ทิศตะวนั ตก ตดิ กบั จงั หวดั ปราจีนบรุ ีและจังหวัดฉะเชงิ เทรา
ภูมปิ ระเทศ
สภาพท่ัวไป พืน้ ทจี่ งั หวัดสระแก้วโดยรวมเปน็ พน้ื ท่ีราบถึงที่ราบสูงและมีภูเขาสูงสลับซับซอ้ น มีระดับความสูงจากน้าทะเล 74
เมตร โดยทางด้านทศิ เหนอื มีทิวเขาบรรทัดซง่ึ เป็นตน้ ก้าเนดิ ของแมน่ ้าบางปะกง มีลักษณะเปน็ ปา่ เขาทบึ ได้แก่ บริเวณอุทยานแห่งชาติ
ปางสดี าเปน็ แหล่งต้นนา้ ล้าธาร ทางดา้ นทิศใต้ มีลักษณะเป็นท่ีราบเชิงเขา มีสภาพเป็นป่าโปร่ง ส่วนใหญ่ถูกบุกรุกแผ้วถางป่าเพื่อท้า
การเกษตร ท้าใหเ้ กิดสภาพป่าเสื่อมโทรม ตอนกลางมีลักษณะเป็นท่ีราบ ได้แก่ อ้าเภอวังน้าเย็น อ้าเภอวังสมบูรณ์ ซ่ึงเป็นเขตติดต่อ
จงั หวดั จนั ทบรุ ี ทางด้านทิศตะวนั ตก มีลักษณะเป็นทร่ี าบถงึ ที่ราบสงู และมสี ภาพเปน็ ปา่ โปรง่ ท้าไร่ ท้านา และทางด้านทิศตะวันออก
นับตง้ั แต่อ้าเภอวฒั นานคร มลี กั ษณะเป็นสนั ปันนา้ และพื้นที่ลาดไปทางอ้าเภอเมืองสระแก้วและอ้าเภออรัญประเทศ เข้าเขตประเทศ
กัมพูชา
ประวตั ศิ าสตร์จงั หวดั สระแก้ว KLONG13 2
ลาคลองสายสาคัญมีดังนี้
1. คลองพระปรง มีต้นก้าเนิดจากเขาในอ้าเภอวัฒนานคร แล้วไหลไปรวมกับแม่น้าหนุมานในเขตอ้าเภอกบินทร์บุรี จังหวัด
ปราจนี บุรี กลายเปน็ แมน่ า้ ปราจนี บุรี ความยาว 180 กโิ ลเมตร
2. คลองพระสะทึง มีตน้ กา้ เนิดจากเขาทึง่ ลึ่งในอา้ เภอมะขาม และเขาตะกวดในอ้าเภอโป่งน้ารอ้ น จังหวัดจนั ทบรุ ี ไหลไปลงแม่น้า
พระปรงท่ีบา้ นปากร่วม ตรงแนวแบ่งเขตระหว่างอ้าเภอเมืองสระแกว้ จงั หวัดสระแกว้ กับอา้ เภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี
ความยาว 164 กโิ ลเมตร
3. คลองน้าใส มีต้นก้าเนิดจากเขาตาเลาะและเขาตาง็อกในอ้าเภอวัฒนานคร และภูเขาในประเทศกัมพูชา ความยาว 74
กิโลเมตร ใช้เป็นเส้นเขตแดนระหวา่ งไทยกบั กมั พูชา
4. คลองพรมโหด มตี ้นก้าเนิดจากเขาในต้าบลช่องกลุ่ม อา้ เภอวัฒนานคร ไหลไปลงคลองลึก อ้าเภออรญั ประเทศ ท่ีหลักเขตแดน
ท่ี 50 ความยาว 62 กโิ ลเมตร ถอื เป็นแนวเขตอนุรกั ษ์ของไทยและกัมพชู า
จงั หวดั สระแก้วมีอุทยานแห่งชาตทิ ัง้ หมด 2 แห่ง ไดแ้ ก่ อทุ ยานแห่งชาติปางสีดา และอุทยานแห่งชาติตาพระยา ซ่ึงทั้งคู่ได้รับ
การจดทะเบยี นเป็นแหลง่ มรดกโลก
ภมู ิอากาศ
สภาพภูมิอากาศแบ่งออกได้เปน็ 3 ฤดกู าล
ฤดรู ้อน เริ่มตน้ แต่เดือนกุมภาพันธ์-เมษายน
ฤดฝู น ต้ังแต่เดือนพฤษภาคม-ตลุ าคม ปรมิ าณน้าฝนเฉลยี่ 1,296-1,539 มลิ ลเิ มตร
ฤดหู นาว ต้งั แตเ่ ดือนพฤศจิกายน-มกราคม อากาศเยน็ และมีหมอกในตอนเชา้
อุณหภูมโิ ดยเฉล่ียอยทู่ ี่ 27.5-28.78 องศาเซลเซยี ส
การเมืองการปกครอง
การปกครองแบง่ ออกเปน็ 9 อ้าเภอ 59 ต้าบล 731 หมบู่ ้าน
1. อ้าเภอเมอื งสระแกว้
2. อ้าเภอคลองหาด
3. อ้าเภอตาพระยา
4. อ้าเภอวังน้าเย็น
5. อา้ เภอวฒั นานคร
6. อา้ เภออรญั ประเทศ
7. อ้าเภอเขาฉกรรจ์
8. อ้าเภอโคกสูง
9. อา้ เภอวังสมบูรณ์
ประชากร
กลุ่มชาติพันธ์ุ
จงั หวดั สระแก้วเปน็ ศูนยร์ วมของคนหลายเช้ือชาตซิ ่งึ อพยพเข้ามาพา้ นกั อาศัยในจังหวดั
ชาวเขมรอพยพเขา้ มาในสระแกว้ เน่ืองจากเจา้ พระยาอภยั ภเู บศร์ (ชมุ่ อภยั วงศ์) ผสู้ ้าเร็จราชการเมืองพระตะบอง อพยพชาว
เขมรให้เขา้ มาในฝง่ั ไทยภายหลงั เหตุการณ์ทไี่ ทยเข้าปกครองกัมพูชาและจดั ต้ังมณฑลบูรพาข้ึน แลว้ ถกู ฝร่ังเศสยึดกมั พชู ารวมทั้งมณฑล
บูรพาคืนไปได้ นอกจากน้ีเม่อื เกดิ สงครามเวียดนามและสงครามกัมพูชาข้ึน ก็มีการอพยพชาวกัมพูชาเข้ามาในบริเวณชายแดนฝ่ังไทย
เพ่มิ ขึ้น โดยเฉพาะในเขตอ้าเภออรญั ประเทศ
ชาวเวียดนามหรือญวนอพยพมายังจังหวัดสระแก้ว เพ่ือหนีภัยสงครามเวียดนามในยุคท่ีเวียดนามใต้แตก โดยเดินทางผ่าน
ประเทศกมั พูชาเข้ามา สว่ นใหญ่อาศัยอยู่ในอ้าเภออรัญประเทศ
ชาวลาวมหี ลายกลุ่ม เช่น กลุม่ ไทยโยนกหรอื ลาวพุงดา้ เป็นกลุ่มล้านนาเดิม อาศัยอยู่ที่อ้าเภอวังน้าเย็น รวมทั้งชาวญ้อท่ีมีถิ่น
ฐานเดิมอยู่ที่สิบสองปันนา แล้วไปต้ังรกรากที่แขวงไชยบุรีของลาว ต่อมาถูกทัพไทยกวาดต้อนลงมาที่อ้าเภอท่าอุเทน จังหวัด
ประวตั ศิ าสตร์จงั หวดั สระแก้ว KLONG13 3
นครพนม โดยบางส่วนได้อพยพตอ่ มายังอา้ เภออรัญประเทศ นอกจากนี้ยังมีชาวอีสานอพยพเข้ามาประกอบอาชีพในเกือบทุกอ้าเภอ
ของจงั หวัดสระแกว้
การศึกษา ระดบั อาชีวศกึ ษา
อดุ มศกึ ษา
มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏวไลยอลงกรณ์ วทิ ยาเขตสระแกว้ (อ้าเภอ วิทยาลยั เทคนคิ สระแกว้ อ้าเภอวัฒนานคร
เมอื งสระแก้ว) วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีสระแกว้
วทิ ยาลัยชุมชนสระแกว้ อ้าเภอเมืองสระแก้ว ต้าบลผ่านศกึ อ้าเภออรญั ประเทศ
มหาวทิ ยาลยั บรู พา วิทยาเขตสระแก้ว (ตง้ั อย่ทู ีอ่ ้าเภอวัฒนา
นคร) วิทยาลัยเทคโนโลยอี รัญประเทศ (สถาบนั เอกชน) ต้าบลบ้าน
ด่าน อ้าเภออรญั ประเทศ
วิทยาลยั โพธิวิชชาลัย มหาวทิ ยาลัยศรีนครินทรวโิ รฒ จงั หวัด
สระแก้ว (ตง้ั อยทู่ อี่ า้ เภอวัฒนานคร) วทิ ยาลยั เทคนิควังน้าเย็น อา้ เภอวงั น้าเย็น
วทิ ยาลยั เทคโนโลยี ไฮเทค สระแก้ว (สถาบันเอกชน) ต้าบลทา่
เกษม อา้ เภอเมืองสระแกว้
วทิ ยาลัยเทคโนโลยีสระแก้ว (สถาบนั เอกชน) ตา้ บลศาลา
ล้าดวน อ้าเภอเมอื งสระแกว้
การสาธารณสขุ
ด้านการสาธารณสุขจงั หวดั สระแก้ว ประกอบไปด้วย
โรงพยาบาลรฐั บาล 10 แหง่ (โรงพยาบาลสงั กัดกระทรวงกลาโหม 1 แหง่ ) และโรงพยาบาลเอกชน 1 แห่ง
โรงพยาบาลรฐั บาล 10 แห่ง
1. โรงพยาบาลสมเดจ็ พระยุพราช สระแก้ว (โรงพยาบาลสมเด็จพระยพุ ราชแห่งแรก) อา้ เภอเมืองสระแกว้
2. โรงพยาบาลคลองหาด
3. โรงพยาบาลตาพระยา
4. โรงพยาบาลวงั น้าเย็น
5. โรงพยาบาลวัฒนานคร
6. โรงพยาบาลจติ เวชสระแก้วราชนครนิ ทร์ อ้าเภอวฒั นานคร
7. โรงพยาบาลอรญั ประเทศ
8. โรงพยาบาลเขาฉกรรจ์
9. โรงพยาบาลวังสมบรู ณ์
10. โรงพยาบาลโคกสงู
โรงพยาบาลสงั กัดกระทรวงกลาโหม 1 แห่ง
1. โรงพยาบาลค่ายสรุ สงิ หนาท อา้ เภออรญั ประเทศ
โรงพยาบาลเอกชน 1 แห่ง
1. โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ อนิ เตอรเ์ นช่นั แนล อรญั ประเทศ
สา้ นกั งานสาธารณสขุ จังหวดั 1 แห่ง และส้านักงานสาธารณสุขอ้าเภอ 9 แหง่
โรงพยาบาลสง่ เสริมสขุ ภาพตา้ บล 107 แหง่
สถานกี าชาดที่ 6 อรญั ประเทศ จงั หวัดสระแก้ว
โรงพยาบาลสมเดจ็ พระยุพราชสระแกว้
ภาพมุมสงู โรงพยาบาลสมเดจ็ พระยุพราชสระแก้ว
ประวตั ศิ าสตร์จงั หวดั สระแก้ว KLONG13 4
การขนสง่
สถานีรถไฟดา่ นพรมแดนบา้ นคลองลึก เปน็ สถานสี ุดทา้ ยกอ่ นเขา้ สูเ่ ขตประเทศกัมพูชา
การขนส่งทางถนน จังหวัดสระแก้วมีถนนส้าคัญหลายสาย ซึ่งเชื่อมต่อไปยังจังหวัดต่าง ๆ ได้แก่ ถนนสุวรรณศร เช่ือมต่อกับ
จังหวัดปราจีนบุรี, ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 348 เชื่อมต่อกับจังหวัดบุรีรัมย์ และทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 317 เช่ือมต่อกับ
จังหวัดจันทบุรี นอกจากน้ียังมีรถโดยสารให้บริการในหลายเส้นทาง โดยเส้นทางส่วนใหญ่จะผ่านอ้าเภออรัญประเทศ ซ่ึงเป็นพื้นที่
การค้าท่สี า้ คัญ การขนส่งทางราง มีทางรถไฟสายตะวันออกพาดผา่ น โดยขบวนรถทใ่ี หบ้ รกิ ารมีเฉพาะรถธรรมดาเทา่ นั้น เส้นทางสายน้ี
ไปเช่ือมต่อกับสายปอยเปตของกัมพูชาที่สถานีรถไฟด่านพรมแดนบ้านคลองลึก โดยได้มีพิธีเปิดเดินรถระหว่างประเทศเม่ือวันที่ 22
เมษายน พ.ศ. 2562
ระยะทางจากตัวจงั หวัดไปอาเภอต่างๆ[
อา้ เภอเขาฉกรรจ์ 22 กโิ ลเมตร
อ้าเภอวฒั นานคร 31 กโิ ลเมตร
อา้ เภอวงั นา้ เย็น 41 กโิ ลเมตร
อ้าเภอวงั สมบูรณ์ 53 กิโลเมตร
อา้ เภออรัญประเทศ 55 กโิ ลเมตร
อ้าเภอคลองหาด 59 กิโลเมตร
อา้ เภอโคกสงู 68 กโิ ลเมตร
อา้ เภอตาพระยา 98 กโิ ลเมตร
การท่องเท่ียว
สถานทท่ี ่องเที่ยวสว่ นใหญใ่ นจังหวัดสระแกว้ ปราสาทหินสดก๊ กอ๊ กธม
เปน็ สถานที่ทางประวัติศาสตร์ มรี ่องรอยอารย
ธรรมโบราณปรากฏอยู่ในรปู ของปราสาทหนิ
แหลง่ หนิ ตัด และซากสิ่งกอ่ สร้าง กรมศิลปากร
สา้ รวจพบปราสาทขอมในจังหวดั สระแก้วมากถึง
40 แหง่ ตัง้ เรยี งรายอยูบ่ นเสน้ ทางผ่านช่องเขา
หนั ไปทางทศิ ตะวนั ออก (หนั หน้าเข้าหานครวดั )
จากหลกั ฐาน พบว่าปราสาทเหล่าน้ีมอี ายอุ ย่ใู น
ราวพทุ ธศตวรรษที่ 12-18 แสดงถึงความสัมพันธข์ องผู้คนจากสองฝั่งภูเขาท่ไี ร้
เส้นเขตแดนในอดีต และตัวปราสาทยังเป็นศนู ยก์ ลางของชมุ ชนโบราณอีกด้วย
ปราสาทหินทส่ี า้ คัญในจังหวัดสระแก้ว ได้แก่ อุทยานประวัติศาสตร์สดก๊ ก๊อกธม ปราสาทหนิ สดก๊ ก๊อกธม ตง้ั อยทู่ ่ีอ้าเภอโคกสูง เป็น
ปราสาทอารยธรรมเขมรท่มี ีขนาดใหญท่ ีส่ ุดในภาคตะวนั ออก โดยส้านักศิลปากรที่ 5 ปราจนี บุรี ได้ด้าเนินงานและประสานงานกบั
จงั หวัดสระแกว้ เพื่อบรหิ ารจดั การและปรับภมู ทิ ศั นเ์ ป็นอุทยานประวัติศาสตรแ์ ห่งใหม่ แห่งที่ 11 ของประเทศไทย
ยงั มีปราสาทเขาน้อยสีชมพู ตง้ั อยูท่ อี่ า้ เภออรัญประเทศ มีการค้นพบจารึกเขาน้อยและ
ทับหลงั ศลิ ปะสมโบรไ์ พกกุ
ปราสาทเขาน้อยสีชมพู KLONG13 5
ประวตั ศิ าสตร์จงั หวดั สระแก้ว
อทุ ยานแหง่ ชาติท่สี าคัญในจงั หวัดสระแก้ว ได้แก่
อุทยานแห่งชาติปางสีดา ตัง้ อยู่ในทอ้ งที่
อ้าเภอตาพระยา อ้าเภอวฒั นานคร อ้าเภอ
เมืองสระแกว้ จงั หวดั สระแก้ว และอ้าเภอ
นาดี จงั หวัดปราจีนบรุ ี
อทุ ยานแห่งชาติตาพระยา ตัง้ อยู่ในท้องที่ของอา้ เภอโนนดินแดง อา้ เภอละหาน
ทราย อ้าเภอบา้ นกรวด จังหวดั บุรีรมั ย์และ อา้ เภอตาพระยา จงั หวดั สระแกว้
การท่องเท่ยี วชายแดนไทย-กัมพูชา
ตลาดชายแดนบ้านคลองลึก หรือทรี่ ูจ้ ักกันท่ัวไปในช่อื ตลาดโรงเกลือ อ้าเภออรัญ
ประเทศ
ตลาดการคา้ ชายแดนบา้ นเขาดิน อา้ เภอคลองหาด
แคนตาลูป ของฝากขึน้ ช่อื จังหวัดสระแกว้
โครงการในมูลนิธิชัยพัฒนา โรงเรียนกาสรกสิวิทย์ อ้าเภอเมืองสระแก้ว สมเด็จพระ
กนิษฐาธริ าชเจา้ กรมสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณา
โปรดเกล้าฯ ให้มูลนิธิชัยพัฒนาจัดต้ังข้ึน เพ่ือให้เป็นสถานท่ีฝึกกระบือ และเป็นแหล่ง
เรียนใหแ้ ก่ผู้ทสี่ นใจได้เรยี นร้วู ฒั นธรรมเกษตรทอ้ งถ่นิ และภูมปิ ญั ญาชาวบ้าน ตามหลัก
เศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลท่ี 9 (พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหา
ภมู พิ ลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพติ ร)
ประวตั ศิ าสตร์จงั หวดั สระแก้ว KLONG13 6
สวนน้า/อา่ งเกบ็ นา้ /สถานทพี่ ักผ่อนหย่อนใจ
สวนน้า Dreamer water park สวนน้าแห่งแรกในจังหวัด
สระแก้ว ต้ังอยู่ที่ อ้าเภออรัญประเทศ ก่อนถึงชายแดนไทย-กัมพูชา
เพียง 2 กิโลเมตร มีเคร่ืองเล่นขนาดมาตรฐานสากล มีโซน Wave
pool ทีส่ ามารถทา้ คลน่ื น้าเหมอื นอย่ใู นทะเล และโซนอื่นๆ ฯลฯ เป็น
สถานทพ่ี ักผ่อน
เขื่อนพระปรง อ่างเก็บน้าขนาดใหญท่ ส่ี ดุ ของจังหวัดสระแก้ว มี
ความจุถึง 97 ล้านลูกบาศก์เมตร จนเกือบจะเรียกว่าเขื่อน เป็นหนึ่ง
ในโครงการพระราชดา้ ริของในหลวงรัชกาลท่ี 9 ตง้ั อยทู่ ีต่ า้ บลช่องกมุ่ อา้ เภอวฒั นานคร
อา่ งเก็บน้าหว้ ยยาง อา่ งเก็บน้าขนาดใหญ่ ตง้ั อยู่ท่ี ต้าบลทัพราช อ้าเภอ
ตาพระยา เป็นหนึง่ ในโครงการพระราชด้าริของในหลวงรชั กาลที่ 9
อ่างเก็บน้าท่ากระบาก ตั้งอยู่ระหว่างเขตติดต่อ ต้าบลท่าแยก อ้าเภอ
เมืองสระแก้ว กับต้าบลหนองตะเคียนบอน อ้าเภอวัฒนานคร อยู่เลยอุทยาน
แห่งชาติปางสีดา ประมาณ 8 กิโลเมตร เป็นอ่างเก็บน้าที่สร้างข้ึนตาม
พระราชด้าริของในหลวงรชั กาลที่ 9
สวนรกุ ขชาตเิ ขาฉกรรจ์ ตง้ั อยทู่ ่ีต้าบลเขาฉกรรจ์ อา้ เภอเขาฉกรรจ์ เปน็ ภูเขา
หนิ ปนู ทีม่ คี วามโดดเดน่ ตระหง่านอย่างเห็นได้ชดั และยงั เปน็ ทตี่ ัง้ ของวดั ถ้าเขา
ฉกรรจ์ บรเิ วณวัดยังมีลิงป่าอาศยั อยูน่ บั พันเปน็ จา้ นวนมาก นกั ทอ่ งเท่ยี วสามารถ
ใหอ้ าหารลงิ ได้ มีบนั ไดประมาณ 300 ข้นั เพอ่ื ข้ึนยอดเขาไปดูจุดชมววิ
การท่องเทย่ี ววดั /การกราบสักการะสิ่งศักด์สิ ทิ ธ์ิ
วัดรนี มิ ิตร ตง้ั อยูท่ ตี่ ้าบลบ้านแกง้ อ้าเภอเมืองสระแกว้ มพี ระรูปเหมือน สมเด็จพระพุฒา
จารย์ (โต พฺรหฺมร้สี) องค์ขนาดใหญ่ มีรูปป้ันพญานาคขนาดใหญ่ ให้ประชาชนสักการะ
เหมาะแก่การพกั ผอ่ น และเหมาะแก่นักทอ่ งเท่ียวท่ชี นื่ ชอบการถา่ ยรปู เชงิ ธรรมะ
ศาลหลักเมืองสระแก้ว ต้ังอยู่ KLONG13 7
ภายในสวนกาญจนาภิเษก ต้าบล
ทา่ เกษม อ้าเภอเมืองสระแกว้
ประวตั ศิ าสตร์จงั หวดั สระแก้ว
วัดแม่ย่าซอม ต้ังอยู่ที่ต้าบลคลองหาด อ้าเภอคลองหาด เป็นวัดที่ใหญ่และ
สวยงาม มพี ระราหูองคใ์ หญท่ ีส่ ุดในประเทศ มีพระพิฆเนศองค์ขนาดใหญ่ มีหลวง
พ่อทันใจ ทีห่ ลายๆ คนมักจะไปขอโชคลาภอยู่เสมอ และจะต้องกลับมาแก้บนอีก
ครงั้ เพราะต่างก็สมหวังในสิง่ ทขี่ อ
วัดพุทธิสาร ต้ังอยู่ที่ต้าบลหนองหมากฝ้าย อ้าเภอวัฒนานคร วัดนี้ตั้งอยู่ใน
หมู่บ้านหนองหมากฝา้ ย ซึ่งค่อนขา้ งไกลจากอา้ เภอวฒั นานคร แม้จะเป็นวัดขนาด
เลก็ แตเ่ ปน็ วดั เกา่ แก่เหมาะกบั ผู้ทชี่ ืน่ ชอบการถ่ายภาพโบราณสถานเน่ืองจากวัดนี้
มีโบสถไ์ ม้โบราณ อายกุ วา่ 120 ปี เป็นโบสถ์ไมท้ ่ใี ชก้ ารสลกั ในการสร้าง ไม่ใช้ตะปู
ในการก่อสร้างโบสถ์ท้ังหลัง ภายในวัดมีรูปเหมือนพระครูศีลคุณวัฒนาทร หรือ
หลวงปู่โห ส้าหรับให้พุทธศาสนิกชนกราบไว้เพ่ือความเป็นสิริมงคล (หลวงปู่โห
ทา่ นเปน็ เกจิดงั แห่งปราจีนบุรีในอดตี (คร้ังเมอื่ ต้งั แตท่ ี่จงั หวดั สระแกว้ ยงั เป็นอา้ เภอหนง่ึ ที่ข้นึ กบั จงั หวัดปราจนี บุรอี กี ดว้ ย นอกจากนี้ทุก
วันพฤหสั และวนั อาทิตย์ ราวๆ เวลา 16.00 น. ชมนวัตวิถีชีวิตชาวบ้านมีการน้าสินค้าพื้นบ้านมาขายเป็นตลาดนัดชุมชนเล็กๆภายใน
วัดอีกดว้ ย
ประวตั ศิ าสตร์จงั หวดั สระแก้ว KLONG13 8