หนงั สอื เรยี น รายวิชาพน้ื ฐาน ม.๕ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี ๕
วภารษราไณทยคดีวจิ ักษ์
กลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย
ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พื้นฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑
o ธัญธร เวทยว์ รี ะพงศ์ ๐๒๗ สาขาวิชาภาษาไทย วทิ ยาลยั การฝึกหดั ครู
หนังสือเรียน รายวชิ าพืน้ ฐาน ภาษาไทย
วรรณคดวี จิ กั ษ์
ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี ๕
กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย
ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑
ผูเ้ รียบเรียง นายธญั ธร เวทย์วรี ะพงศ์
คำนำ
หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย วรรณคดีวิจักษ์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ นี้ เป็นส่วนหนึ่งใน
รายวิชาหนงั สือเรยี นภาษาไทย รหัสวชิ า ๑๕๔๓๕๐๘ ของนกั ศกึ ษาชั้นปีท่ี ๓ ภาคการศึกษาที่ ๑ ปีการศึกษา
๒๕๖๒ ถอื เป็นแบบเรียนจำลองมไิ ด้สร้างขึ้นเพื่อนำไปใช้ในการเรียนการสอน แตม่ ีวตั ถปุ ระสงค์เพ่ือฝึกทักษะ
ในการนำเนื้อหามาสู่กระบวนการสร้างสื่อการเรียนรู้ โดยเฉพาะแบบเรียนรายวิชาภาษาไทย และทำความ
เขา้ ใจองคป์ ระกอบของแบบเรียนอีกดว้ ย ซ่ึงผู้จดั ทำได้เลอื กสร้างแบบเรยี นวรรณคดี โดยเลอื กวรรณกรรมเร่ือง
“ใบไม้ที่หายไป ช่วงปี พ.ศ. ๒๕๑๖-๒๕๑๙” เพื่อใช้เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างแบบเรียน อิงตามหลักสูตร
แกนกลางการศึกษาข้ึนพ้ืนฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑
หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย วรรณคดีวิจักษ์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ มีเนื้อหามุ่งเน้นให้
ผู้เรียนไดศ้ ึกษาวรรณกรรมท่ีแสดงให้เห็นถึงคุณค่าของวรรณกรรมด้านต่าง ๆ เช่น คุณค่าด้านอารมณ์ คุณค่า
ดา้ นคุณธรรมและความงดงามดา้ นภาษา มวี ิธีการนำเสนออย่างน่าสนใจ อ่านเพลินและชวนตดิ ตาม นอกจากนี้
ยังสง่ เสริมและกระตุน้ ใหผ้ ู้เรียนร้จู กั ใชท้ กั ษะการคดิ อย่างมเี หตุผล ทำใหเ้ กดิ ความเข้าใจถึงความรู้สึกนกึ คิดและ
วิถีชีวิตของบรรพบุรุษ นำไปสู่การตีแผ่ความจริงในสังคมการเมืองไทยสมัยนั้นให้คนรุ่นหลังได้ย้อนอดีตอัน
ยาวนานทน่ี ่าเศร้าท่ีเคยผ่านมาและกลายเป็นประวตั ิศาสตร์ทนี่ ่าศึกษา
ผู้จดั ทำหวังเป็นอย่างยง่ิ ว่า การสร้างแบบเรียน “หนังสอื เรียน รายวิชาพนื้ ฐาน ภาษาไทย วรรณคดีวิ
จักษ์ ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ่ี ๕” ในครั้งนี้จะเปน็ ประโยชนแ์ ละเปน็ ตวั อย่างในการสรา้ งแบบเรียนเพื่อวัตถุประสงค์
ดังกลา่ ว ให้แก่ผทู้ ี่สนใจและนกั ศกึ ษาท่ศี กึ ษาในรายวิชานต้ี อ่ ไป
นายธญั ธร เวทย์วีระพงศ์
6 ตลุ าคม 2563
แนวการใชห้ นงั สือเรยี น
หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย วรรณคดีวิจักษ์ เล่มนี้ เป็นบทวิเคราะห์วรรณกรรมพร้อม
ทั้งตัวบทวรรณกรรมที่เลือกมาให้นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ ได้ศึกษา โดยพิจารณาจากการอิงสาระและ
มาตรฐานการเรียนรู้ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขึ้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ สาระที่ 5 มาตรฐาน
ท 5.1 ซ่งึ มีจุดมุ่งหมายใหน้ กั เรียนเขา้ ใจและแสดงความคดิ เหน็ วิจารณ์วรรณคดแี ละวรรณกรรมไทยอย่างเห็น
คณุ คา่ และนำมาประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ จริงได้
เน้ือหาในหนังสือเรียน รายวิชาพ้ืนฐาน ภาษาไทย วรรณคดีวิจักษ์ เล่มนี้ แบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรก
เป็นบทนำ ซึ่งเป็นความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับกวีนิพนธ์ เรื่อง ใบไม้ที่หายไป และประวัติผู้แต่ง ส่วนที่สองเป็น
แนวทางในการศกึ ษาวรรณกรรมเรอ่ื งน้ี โดยแบง่ เนอ้ื หาเป็น 5 ส่วน ดงั น้ี
1. บทวิเคราะหว์ รรณกรรม
2. ตัวบทวรรณกรรม ซ่ึงคัดสรรมาบางตอน
3. คุณคา่ ของวรรณกรรรม
4. คำอธบิ ายศพั ท์และขอ้ ความ
5. กิจกรรม “ชวนคิดพินิจคุณค่า” ซึ่งแบ่งเป็น 3 หัวข้อ คือ วิเคราะห์เนื้อหา พิจารณาภาษาการ
ประพันธ์ และเลือกสรรนำไปใช้
นอกจากนี้ ยังมีภาคผนวกประวัติศาสตร์เหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 และเหตุการณ์ 6 ตุลาคม
2519 ที่ปรากฏในหนังสือเรยี นเลม่ นดี้ ว้ ย
อนึ่ง ผู้เรียนพึงทราบว่า การอ่านวรรณกรรมโดยทั่วไปจะตีความตามทรรศนะของผู้อ่านด้วย บท
วเิ คราะห์วรรณกรรมในหนงั สอื เรียนเลม่ น้ี จึงเปน็ เพียงตัวอยา่ งการอ่านตีความเพ่ือให้ผู้เรยี นได้ใช้เป็นแนวทาง
ในการศกึ ษาวรรณกรรมตอ่ ไป ผูเ้ รยี นอาจมคี วามคิดเห็นต่างไปจากในบทวิเคราะหน์ ้ีกไ็ ด้ แต่ก็ควรอธิบายที่มา
ของความคิดเห็นนนั้ ๆ ได้ ความคิดเห็นท่หี ลากหลายยอ่ มนำไปสกู่ ารอภิปรายแลกเปลี่ยนทรรศนะกนั อันเป็น
จดุ ประสงค์หนึ่งของการศกึ ษาวรรณคดีและวรรณกรรม
สว่ นคำอธิบายศัพท์และขอ้ ความในหนงั สือเรยี นเลม่ น้ีเป็นการอธิบายความหมายตามบริบทท่ีปรากฏ
ในเรอ่ื ง หากจำไปใช้ที่อ่ืนควรพจิ ารณาบริบทใหม่ดว้ ย เพราะอาจมคี วามหมายทตี่ ่างไปได้
สารบัญ
ใบไม้ทห่ี ายไป
บทนำ
ความรู้เบ้อื งต้นเกี่ยวกบั กวีนพิ นธ์ เรื่อง ใบไมท้ หี่ ายไป ....................... 3
ลกั ษณะคำประพนั ธ์ ........................................................................... 4
ประวัตผิ ้แู ตง่ ...................................................................................... 4
ใบไมท้ ห่ี ายไป ๒๕๑๖-๒๕๑๙
บทวเิ คราะห์ ................................................................................. 6
เรื่องยอ่ .................................................................................. 6
แนวคดิ ของเรอ่ื ง .................................................................... 6
การตั้งชอ่ื เร่ือง ....................................................................... 9
กลวธิ ีการนำเสนอเร่ือง .......................................................... 9
ภาษาทีใ่ ช้ในเร่อื ง ................................................................... 10
ใบไม้ท่หี ายไป ๒๕๑๖-๒๕๑๙ ....................................................... 11
คณุ คา่ ของวรรณกรรรม ................................................................ 14
คณุ ค่าดา้ นเนอ้ื หา .................................................................. 14
คุณคา่ ด้านวรรณศลิ ป์ ............................................................ 14
คุณคา่ ดา้ นสังคม .................................................................... 16
คำอธิบายศพั ทแ์ ละข้อความ ......................................................... 19
ชวนคดิ พนิ ิจคณุ คา่ ...................................................................... 21
ภาคผนวก
เหตกุ ารณ์ 14 ตลุ าคม 2516 ........................................................... 23
เหตุการณ์ 6 ตลุ าคม 2519 .............................................................. 24
ใบไม้ทหี่ ายไป
รางวลั วรรณกรรมสร้างสรรค์ยอดเย่ียมแหง่ อาเซยี น
(ประเภทกวนี พิ นธ์) พ.ศ. ๒๕๓๒
จริ ะนนั ท์ พติ รปรชี า
บทนำ
ใบไมท้ ่หี ายไป
จิระนันท์ พิตรปรีชา
๓
บทนำ
๑. ความรู้เบื้องตน้ เกย่ี วกับกวนี ิพนธ์ เรอื่ ง ใบไมท้ หี่ ายไป
“ใบไม้ที่หายไป” เป็นกวีนิพนธ์ แต่งโดยจิระนันท์ พิตรปรีชา เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงในชีวิตตอน
หน่ึงของผปู้ ระพนั ธ์ ระหว่าง พ.ศ. 2513-2529 ตง้ั แตเ่ ปน็ นักศกึ ษาผอู้ ุดมการณ์สงู และตัดสินใจร่วมขบวนสู้
ของนักศึกษาประชาชนรุ่น 14 ตลุ าคม 2516 กลวธิ ีการแต่งเปน็ กลอนสุภาพ ใช้คำเรียบกระชบั แต่เตม็ ไปด้วย
พลงั ความบรสิ ทุ ธขิ์ องหนุ่มสาว ภาษามีรปู แบบกะทัดรัด และผู้เขียนไม่ไดว้ จิ ติ รบรรจงกับการสัมผัสมากเกินไป
แตก่ ไ็ มไ่ ด้ละท้ิงการสมั ผัสในวรรค และการใชค้ ำซำ้ กลอนจงึ มคี วามไพเราะ
ผลงาน “ใบไม้ท่ีหายไป” ส่งผลสะเทอื นในวงกวา้ ง อาจมีผลสะทอ้ นตอ่ วิถีชีวิตหรือสถานภาพในสังคม
ซึ่งหลายคนก็คิดว่าเป็นเร่ืองได้มากกว่าเสียเพราะเป็นการตีแผ่ความจริงในสังคมการเมืองไทยสมัยนั้นใหค้ นรุ่น
หลังได้ย้อนอดีตอันยาวนานที่น่าเศร้าที่เคยผา่ นมาและกลายเปน็ ประวตั ิศาสตรท์ ี่น่าศึกษาและไม่น่าเชื่อว่าหัว
เลี้ยวหัวต่อตรงนี้มีกลุ่มเยาวชนหนุ่มสาวและกลุ่มพระจันทร์เสี้ยว กาพย์กลอนอนั เป็นตัวแทนของสาวกลุม่ นี้ก็
คือ บทกวีของสุจิตต์ วงษ์เทศ ที่ชื่อ กูเป็นนิสิตนักศึกษา (๒๕๑๑) และบทกวีของวิทยากร เชียงกูล ที่ว่า ฉันจึง
มาตามหาความหมาย ในเพลงเถื่อนสถาบัน (๒๕๑๑) ผสานกับความคึกคะนองของกลุ่มปริทัศน์เสวนาของ
ส.ศิวรักษ์ กระทั่งเกิดกลุ่มสภาหน้าโดมและกลุ่มโซตัส (SOTUS) ตลอดจนสถาบันของคนหนุ่มสาวแห่งอื่นก็
ตื่นตัวและเติบโตขึ้นอย่างหนักแน่น โดยได้สรุปยุคสมัยของผู้เขียนไว้อย่างกระชับและงดงาม “ดอกไม้” ของ
ผู้เขียน คือ หนุ่มสาว คือ พลังศรัทธา บริสุทธิ์ กล้าหาญ เป็นจิตสำนึกทีถ่ ูกปลุกขึน้ มาในยามสังคมมืดมนผ้คู น
หมักหมม และใบไม้ที่หายไป ได้รับรางวัลวรรณกรรมสร้างสรรค์ยอดเยี่ยมแห่งอาเซียน (ประเภทกวีนิพนธ์)
เมอื่ ปี พ.ศ. 2532
ใบไม้ทหี่ ายไป ๒๕๑๖-๒๕๑๙ มบี ทกวีแหง่ ชวี ติ รวมอยู่ในชว่ งนท้ี ง้ั สนิ้ 6 บท ได้แก่
๑. ดอกไม้จะบาน ๒. สุสานทราย
๓. บนั ทึกลับกระบอื หนมุ่ ๔. ไฟ – วญิ ญาณ; งาน – ชีวิต
๕. ปณิธานหน่มุ สาว ๖. อหังการของดอกไม้
ซึ่งในแต่ละบทก็มีการประพนั ธท์ ีแ่ ตกต่างกันไป ผู้ประพันธ์มีความ
กล้าที่จะเปิดเผยและถ่ายทอดประสบการณ์จากความมุ่งมั่นในอุดมการณ์
ตลอดจนความหวังของตนเองที่จะประสบความสำเร็จ ใช้ภาษา ถ้อยคำ
และกลวธิ ีการเขยี นทีม่ ีพลังถ่ายทอดอารมณแ์ ละความคิดของตนเองสู่ผู้อ่าน
อีกท้ังยังสามารถผสานจินตนาการใหก้ ลมกลืนไดก้ ับประสบการณ์ในชีวิต
ในดา้ นเทคนิคนน้ั ผปู้ ระพันธไ์ มเ่ คยเป็นพวกอนุรกั ษ์นิยม ผู้ประพันธ์
เขยี นกลอนเม่ือนกึ จะเขียน และก็เขียนตามที่ผูป้ ระพนั ธ์เห็นว่าควรจะเขียน
อยา่ งไร ไมเ่ หน็ ท่ีไหนทเ่ี กาะแนอ่ ย่กู บั “กรอบ” อยา่ งใดอยา่ งหนงึ่ หรือหลาย
อย่าง แต่ไม่ใช่ว่าจิระนันท์ไม่มี “กรอบ” หากเป็น “กรอบ” ของจิระนันท์
เอง นัน่ คอื …ไมม่ กี รอบที่ตายตัว
๔
๒. ลกั ษณะคำประพนั ธ์
ใบไม้ที่หายไปนอกจากจะใช้คำที่เรียบง่ายที่ไม่ประดิษฐ์อะไรมากแล้ว การใช้รูปแบบฉันทลักษณ์ยัง
เป็นอกี หน่ึงเสน่ห์ของกวีนพิ นธ์เร่ืองนี้ท่ีแสดงถึงความง่ายในการใช้ โดยผู้แตง่ เลอื กใชก้ ลอนและกาพย์เป็นส่วน
ใหญ่ แม้บทกลอนช่วงแรก ๆ นั้นจะมีท่วงทำนอนและสำนวนนักกลอนรุ่นพี่อยู่บ้าง แต่กาลเวลาขัดเกลาจน
ผู้แต่งสามารถสร้างทำนองของตัวเองให้สอดคล้องกับเนื้อหาและอารมณ์ได้ ตัวอย่างเช่น เมื่อผู้แต่งรู้สึกว่า
ถูกเอารัดเอาเปรียบ หรือการใช้อำนาจเผด็จการซึ่งเป็นวัฒนธรรมที่สั่งสมมายาวนานในสังคมไทย ผู้แต่งจึง
เลือกใชก้ ลอนบทละครว่า
มาจะกล่าวบทไป ถงึ กระบือฝงู ใหญอ่ นาถา
ถกู ขงั คอกแคบคับอัปรา จนตายด้านชนิ ชามานานแล้ว
(บันทกึ ลับกระบือหน่มุ )
ในบทกวที ี่ตอ้ งการลีลาที่รวดเร็ว ผแู้ ตง่ เลอื กใช้คำประพนั ธป์ ระเภทกลอนสี่ และคำประพันธ์ประเภท
กาพย์ยานี 11 ส่วนบทกวีท่ตี ้องการเล่าเร่ือง ผแู้ ตง่ เลอื กใชค้ ำประพันธ์ประเภทกลอนเพลงยาว
๓. ประวตั ิผแู้ ตง่
จิระนันท์ พิตรปรีชา มีชื่อเล่นว่า “จี๊ด” เกิดเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2498 ที่อำเภอเมือง
จังหวัดตรัง มีความสนใจในการประพันธ์ตั้งแต่เด็ก จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้นจากโรงเรียนสภา
ราชินี จังหวัดตรัง และจบการศึกษาระดับมัธยมตอนปลายจากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา จากนั้นศึกษาต่อที่
คณะวทิ ยาศาสตร์ แผนกเตรียมเภสชั จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั และไดร้ ับเลอื กใหเ้ ป็นดาวจฬุ าฯ พ.ศ. 2515
ใน พ.ศ. 2516 เป็นหนึ่งในผู้นำนักศึกษาที่ร่วมโครงการส่งเสริมประชาธิปไตยของศูนย์ส่งเสริม
ประชาธปิ ไตย (ศสป.) ซ่งึ รัฐบาลนายสญั ญา ธรรมศกั ด์ิ ต้ังขึน้ หลงั เหตุการณ์ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2516 โดยการ
ดูแลของทบวงมหาวิทยาลัย โดยมีนายประพันธ์พงศ์ เวชชาชีวะ เป็นรัฐมนตรี ทั้งนี้ได้รับการชักชวนจาก
นายวริ ตั ิ ศกั ดิ์จริ พาพงษ์ ผนู้ ำนกั ศกึ ษาที่เป็นนิสิตรุ่นพี่จากจุฬาลงกรณม์ หาวิทยาลยั กิจกรรมแรก คือ การจัด
อบรมอาสาสมัครส่งเสริมประชาธิปไตยที่จิตตภาวนั วิทยาลัย อำเภอบางละมงุ จงั หวดั ชลบุรี เมื่อเดือนมีนาคม
พ.ศ. 2517 หลังจากนั้นเธอได้มีบทบาทในการแต่งคำประพันธ์เพื่ออ่านบนเวทีการชุมนุมเรียกร้องสิทธิ
เสรีภาพของผู้ใช้แรงงานและกลุ่มสตรีต่าง ๆ ในยุคที่ประชาธิปไตยเบ่งบาน และต้องหนีเข้าป่าไปเข้าร่วมกับ
พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยหลังจากเกิดเหตุการณ์ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2519 จิระนันท์ พิตรปรีชา มีช่ือ
จดั ตง้ั ในปา่ ว่า สหายใบไม้ โดยมีทีม่ าจากชอื่ เลน่ (พยาธิใบไม้ หรือ พยาธิตวั จด๊ี ) หลังจากออกจากปา่ ในปี พ.ศ.
2523 จริ ะนันท์ พิตรปรีชา ไดไ้ ปศกึ ษาตอ่ ที่มหาวทิ ยาลัยคอรเ์ นล ประเทศสหรัฐอเมรกิ า โดยสำเร็จการศึกษา
ระดับปริญญาตรี เกียรตินิยมจากสาขารฐั ศาสตร์ สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท สาขาประวัตศิ าสตร์ และ
สำเร็จการศึกษาระดับปรญิ ญาเอก สาขาประวตั ศิ าสตรเ์ อเชียตะวนั ออกเฉียงใต้
ชีวิตครอบครัว จิระนันท์ พิตรปรีชา สมรสกับรองศาสตราจารย์เสกสรรค์ ประเสริฐกุล หรือสหายไท
อดีตผนู้ ำนักศึกษาท่ีรว่ มต่อสู้มาด้วยกันตง้ั แต่อยู่ในป่า ทงั้ คมู่ บี ตุ รชาย 2 คน ช่ือนายแทนไท ประเสริฐกุล และ
นายวรรณสงิ ห์ ประเสริฐกุล นอกจากนเี้ ร่อื งราวของจิระนนั ท์ พติ รปรีชากับสามีได้ถูกนำไปสร้างเปน็ ภาพยนตร์
เร่ือง 14 ตลุ า สงครามประชาชน เมื่อปี พ.ศ. 2544 และเรือ่ ง ฟา้ ใสใจชืน่ บาน พ.ศ. 2552
ใบไม้ท่ีหายไป
๒๕๑๖-๒๕๑๙
จิระนนั ท์ พติ รปรชี า
๖
บทวเิ คราะห์
๑. เรอ่ื งย่อ
เรือ่ งราวท่ีสะทอ้ นความคิด ความหวงั และปลุกจติ สำนึกของหนุม่ สาวในยุค 14 ตุลาคม พ.ศ. 2516
ให้เชื่อมั่นในศรัทธาอันบริสุทธิ์ของตนเองว่าสามารถเปลี่ยนแปลงสังคมที่มืดมนให้สว่างไสวด้วยพลังของ
หนุม่ สาว กวนี พิ นธเ์ รอ่ื งนเี้ ป็นเรอ่ื งราวเชิงบนั ทึกของชวี ติ ตอนหนง่ึ ของผู้ประพันธ์ ตง้ั แตไ่ ดเ้ ริม่ เข้าไปร่วมขบวน
จวบจนกระทั่งได้ตระหนกั ความจริงของชวี ิตท่ถี ูกธรรมชาติกำหนด สาระของบันทึกนี้มีท้ังความใฝ่ฝัน ปรัชญา
ชีวิต และอุดมการณ์ของคนหนุ่มสาว ซึ่งเหตุการณ์ที่ตามมาคือกลุ่มนักศึกษาได้หนีเข้าป่าเข้าร่วมกับพรรค
คอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย การใช้ชีวิตในป่า เธอต้องพบกับความยากลำบาก คิดถึงบ้าน การค้นหา
ความหมายของชีวิตที่เต็มไปด้วยขวากหนาม แต่เธอก็สามารถทำตามอุดมการณ์ของตัวเองจนสำเร็จ และ
กลายเปน็ วีรกรรมและตำนานท่ีตรงึ ตราตรึงใจยุคสมัยน้นั “เปลย่ี นมือทีอ่ ่อนน่ิมเป็นลมิ่ เหลก็ ”
๒. แนวคิดของเรอ่ื ง
ในวรรณกรรมเร่ือง “ใบไม้ทีห่ ายไป” ของจริ ะนันท์ พติ รปรชี า มีแนวคดิ หลักทต่ี ้องการพูดถึงความไม่
เป็นธรรมของการเมืองไทยเปน็ เหตทุ ำใหม้ ผี ู้คนบรสิ ทุ ธิ์ตอ้ งตายอยา่ งน่าใจหาย ดงั บทกวที ี่ปรากฏในวรรณกรรม
เร่อื งน้ี ตวั อยา่ งเช่น
ลม้ ลงด้วยความช้ำ ย้ำลงดว้ ยคำเยาะหยัน
ซ้ำเติมดว้ ยการฟาดฟัน ทิ้งฉันเปน็ ศพซบดิน
รอวันเน่าเปือ่ ยผปุ น่ เกล่ือนกล่นเป็นกากซากสนิ้
อทุ ศิ ความพา่ ยแพ้แก่ดนิ เพ่อื วิญญาณพืชพนั ธงุ์ อกงาม
ลม้ ไปคลุกคำยำ่ หยาม
…ฉนั แพ้แลว้ ฉนั ย่อมยอมใจ
ยอมรบั ความออ่ นแอแทจ้ ริง
โดยลำพัง โดยลำพงั ยังพยายาม (พินยั กรรม)
ผู้แต่งได้พูดถึงเหตุการณ์ความรุนแรงที่พรากชีวิตของผู้คนเหล่านั้นจากครอบครัวโดยไม่มีวันที่เขา
เหล่านั้นจะหวนกลับคืนมา เหตุการณ์ในครั้งนั้นได้สะท้อนให้เห็นถึงความโหดร้ายทารุณของรัฐบาลในยคุ นั้น
รัฐบาลไมใ่ ช่แค่ปิดลมหายใจของคนเหลา่ นั้นเพียงอย่างเดียวสำหรบั คนท่ียังมีลมหายใจก็เปรยี บเสมือนกับคนท่ี
ตายทง้ั เป็นในเวลาเดยี วกนั สว่ นบทกวที ่ีสะท้อนความโหดร้ายของเหตุการณ์ท่ีเกดิ ข้ึนตังอย่าง ในบทกวที ่วี ่า
เธออ่านนิยายใฝ่ฝนั สงสยั คา่ ยุติธรรมห์ ายไปไหน
การตอ่ สูเ้ พ่อื ส่ิงนจี้ ะมีใคร เธอกา้ วไปคน้ ความจรงิ (องิ นยิ าย)
(ปณิธานหนุ่มสาว)
๗
สิง่ ผกู มัดศรัทธาเบ้อื งหนา้ นั้น คอื ความฝนั ฝงั ใจเคยใหลหลง
เอาศกั ดิ์ศรชี วี ามาวางลง เป็นเดมิ พนั แกมทะนงกง่ึ จงใจ
ไมเ่ คยมรี ้งุ งามในความฝนั ไม่มีวันสขุ ปล้ืมลมื หมองไหม้
ไมต่ ้องการหวานล้ำนำ้ คำใคร ไม่อยากไดส้ ิง่ มายาค่านิยม
โลกทีต่ ้องรับรอู้ ยเู่ ดยี๋ วนี้ การราวเี ขน่ ฆา่ น่าขนื่ ขม
ในสงั คมทค่ี วามกลา้ คือราคี
ความจรงิ ใจไร้นยิ ามลอยตามลม
ดว้ ยสองมือม่ันหมายการคลายคล่ี
แสวงโชคโลกทรรศนอ์ นั สตั ยซ์ ่ือ จะลา้ งสีลบโศกที่โลกรู้
ความคิดในวัยเยาวเ์ ท่าท่มี ี
โดยมาตราความพอดีถา้ มอี ยู่
ลบชอ่ งวา่ งทางชนชนั้ แกป้ ัญหา เกมตอ่ สกู้ ็สดุ ส้ินหมดกลิ่นคาว
จะปรับหมดุ ยตุ ิธรรมคำ้ ตราชู (จดุ หมาย)
จากบทกวีที่ยกมาเปน็ ตัวอย่างข้างต้นแสดงให้เห็นถึงอุดมการณ์อันสงู ส่งของกลุม่ นักศกึ ษาทีป่ ระเทศ
อย่างแท้จริง หากแต่เข้ามาเพื่อกอบโกยผลประโยชน์ใส่ตนและพวกพ้อง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นน้ีสามารถยกมา
เปน็ ประวัตศิ าสตร์ทีไ่ ม่อาจลมื เลือนให้หายไปไดใ้ นสงั คมไทยตัง้ แต่อดีตจนถึงปัจจุบันเหตกุ ารณ์น้ียังอยู่ในความ
ทรงจำของคนไทยเสมอมาพยายามเรียกร้องความเป็นธรรมให้แกส่ ังคมไทยว่านายกรฐั มนตรีในสมยั นั้นไม่ได้
เขา้ มาเพอื่ ตอ้ งการบรหิ าร
แนวทางการเมืองในวรรณกรรมเรื่องเป็นการมุ่งเสนอภาพลบ ในเรื่องของการเมืองไทยในอดีตที่ไม่
สามารถแสดงบทบาทหน้าท่ีได้อย่างมีประสิทธิภาพ บทบาทที่แสดงออกมาล้วนเป็นการทำเพื่อตัวเองทั้งสิ้น
โดยไม่สนใจว่าประชาชนจะเป็นอย่างไร นับว่าเป็นการสะท้อนความล้มเหลวของการเมืองไทยในยุคนั้นที่มี
ประชาธิปไตยซึ่งไม่สามารถแก้ปัญหาและทำงานเพื่อประชาชนได้เหมือนอย่างที่เคยหาเสียงไว้ ไม่เคยจดจำ
สัญญาที่ใหไ้ ว้กบั ประชาชน คำทหี่ าเสียงกก็ ลายเป็นเพยี งนามธรรมท่ไี มส่ ามารถจับต้องไดม้ เี พียงคำพูดท่ีผ่านมา
เหมือนดั่งลม ไม่มีผลงานที่เป็นรูปธรรมที่ประชาชนจะปลื้มปีติกับงานที่รัฐบาลสร้างสรรค์ขึ้น มีเพียงหยาด
น้ำตาของความเสยี ใจท่ีประชาชนไว้ใจกลบั กลายเปน็ คนเดียวกบั คนทีพ่ รากวิญญาณไปจากรา่ งของเขาเสียเอง
ผปู้ ระพันธ์ผ้ถู ่ายทอดความจริงผ่านปลายปากกา
ผูท้ ี่เขยี นกวีนพิ นธ์นั้นมกั จะมีวรรคทอง หรือบทกวีอนั เปน็ ดง่ั ตัวแทนของกวีอยู่ เชน่ สจุ ติ ต์ วงเทศ หรือ
วิทยากรณ์ เชยี งกูล แม้ท้งั สองจะดหู า่ งเหนิ งานบทกวีไป แต่บทกวีกย็ งั กลา่ วขวัญเป็นตวั แทนของบุคคลท้ังสอง
อยรู่ ำ่ ไป เหมือนเม่ือกล่าวถึงวิสา คญั ทัพ กจ็ ะนกึ ถึง “ประชาชนต้องเปน็ ใหญ่ในแผ่นดิน” ของเขาเสมอ
จิระนันท์ พิตรปรีชา มีกวีนิพนธ์ที่เป็นมงกุฎกวีของเขา มงกุฎกวีของจีระนันท์นีม้ ิได้สวมด้วยมือใคร
ยุคสมัยเท่านั้นที่สรา้ งเขามาพรอ้ มกบั มงกุฎกวี เพราะกวีคือผลึกของความรู้สกึ นกึ คดิ ยุคสมัยของจิระนันท์ได้
เจยี ระไนจิระนันทม์ าอย่างนี้
ช่วงอายุ 10 ขวบ เป็นช่วงวัยพื้นฐานที่ชี้อนาคตชีวิตของคนได้ ช่วงสิบกว่าขวบของจิระนันท์ตกราว
พ.ศ. ๒๕๑o ตอนนั้นเด็กหญิงจิระนันท์ยังเป็นเด็กช่างอ่าน ช่างเขียน และช่างเรียนรู้ อาศัยอยู่เมืองตรัง เด็ก
ต่างจงั หวดั คือเด็กภธู รไมใ่ ชน่ ครบาลน้นั ได้เปรียบเดก็ เมืองหลวงท้งั ความใฝ่ฝันและความทะเยอทะยาน เขา้ สู่ยุค
จะเริ่มแสวงหา ตกช่วงคาบลูกคาบดอกระหว่าง “เฟื่องการรบ” กับ “ชักธงรบ” ยุคท่ีกวีนิพนธ์เล่นฉันทลักษณ์
กันอย่างแม่นยำ
๘
ดงั นัน้ การเริ่มยุคแสวงหาจึงมีกวีไมก่ ี่คนนี้แหละท่ีเป็นผนู้ ำในการประสานมือด้านรูปแบบเข้ากับเน้ือหา
ใหม่ได้อย่างน่าท่ึง สุรศักดิ์ ศรีประพันธ์ เป็นคนหนึ่งในจำนวนน้อยนี้ และจิระนันท์ก็เริ่มจะเติบโตขึ้นมาภายใต้
อิทธพิ ลน้ี กวีนพิ นธข์ องจิระนันทจ์ งึ ไดร้ บั อทิ ธพิ ลท้งั รปู แบบและเนอ้ื หาของยุคนน้ั เต็มท่ีเชน่ จากบท “หว้ งคำนงึ ”
หมอบพับเพียบเลียบริมน้ำปร่ิมฝั่ง ตะแคงฟังนยิ ายเพลินจากเนนิ หญา้
ระบำมดคดเคยี้ วลับเคียวตา
หยาดน้ำฟ้าลากลงิ้ ทงิ้ ใบบอน
(ห้วงคำนึง)
ลักษณะสลักเสลาเกลากลอนของจิระนันท์เช่นนี้น่าสนใจนักเพราะถัดจากนี้เมื่อถึงยุค “ชักธงรบ”
เตม็ ที่ กย็ ิง่ มนี กั กลอนนอ้ ยคนเขา้ ไปอกี ที่ยืนมาพร้อมรบอยู่ในเกราะของรูปแบบและเน้อื หาได้อย่างเปน็ เอกภาพ
และทรงพลัง ภารกจิ ในสถานการณ์สรู้ บทำให้จิระนันท์เตบิ โตเร็ว ไม่สมกับท่ีจิระนันท์บอกว่า
ดอกไม้ บานใหค้ ุณค่า
จงบานช้าช้า แต่วา่ ยั่งยืน
(ดอกไมบ้ าน)
หนุม่ สาวยคุ นนั้ มีส่วนผลักดันประวัติศาสตรใ์ หเ้ คลื่อนไปเท่ากับทก่ี ระแสธารประวัตศิ าสตร์ก็ผลักดันให้
หนุ่มสาวของเราเติบโตเรว็ ด้วย ช่วงผ่าน “มหาวิทยาลัยคนกล้าหาญ” ในป่าเขาทำให้จิระนันท์ได้ข้อสรุปเป็น
บทกวี “เศษธลุ ี”
ปรารถนาเปน็ ธลุ ีทุรน ดีกวา่ ทนกลน้ั ใจอยใู่ ต้น้ำ
(เศษธลุ ี)
บทนี้ของจริ ะนนั ท์กย็ ังเปน็ ตัวแทนของผ้ผู า่ น “มหาวทิ ยาลัยคนกล้าหาญ” อีกนัน่ เอง
“ใบไม้ท่ีหายไป” ประชาธปิ ไตยที่ล้มเหลวของเหตกุ ารณ์ 14 ตลุ าฯ
เธออา่ นนยิ ายใฝ่ฝัน สงสัยค่ายุติธรรม์หายไปไหน
การต่อสูเ้ พอ่ื ส่ิงนจี้ ะมใี คร
เธอกา้ วไปค้นความจรงิ (องิ นิยาย)
(ปณธิ านหนมุ่ สาว)
ลบู เลอื ดลื่นผื่นทากฝากแผลพษิ เพ่งพินจิ ฟ้าหม่นคน้ ดาวใส
จนดึกดนื่ ต่ืนดาฟ้ายังไกล หมดอาลยั ในอารมณ์ ขม่ ตานอน
จนร่งุ สาง………… เตรยี มเดินทางเถือ่ นเหมือนวนั กอ่ น
หากรับร้ภู ูลาดตรงลงนคร วันสดุ ท้ายในดงดอน…ใช่, วนั นี้
(ตะวนั ตกดนิ ที่ซบั ฟา้ ผา่ )
๙
จากบทกวี ปณิธานหนุ่มสาว และตะวันตกดินที่ซับฟ้าผ่า ที่ยกมากล่าวข้างต้น เป็นภาพสะท้อน
เหตกุ ารณใ์ นยคุ 14 ตุลาฯ ได้อย่างชดั เจนซึ่งในบทแรกเป็นเรอ่ื งราวของกลุ่มนกั ศึกษาทสี่ งสัยในความไมเ่ ป็นธรรม
ทเี่ กดิ ขึ้นในสังคมไทย จึงเริม่ ทจี่ ะค้นหาความจริงท่พี วกเขาสงสยั จนนำมาสู่บทกลอน ตะวันตกดินที่ซับฟ้าผ่าที่
เมื่อคนหนุ่มสาวตามหาความสงสัยในความไม่เป็นธรรม ในที่สุดก็พบกบั ความสญู เสยี ครั้งยิ่งใหญ่เมือ่ หนุ่มสาว
ยคุ นน้ั รวมกลุ่มเรียกรอ้ งความเปน็ ธรรม แตด่ ว้ ยเร่อื งราวทเ่ี ร้ือรงั เป็นจุดนำพาให้เกดิ เหตกุ ารณ์ความรุนแรงข้ึน
เกดิ การนองเลือด และจากเหตกุ ารณ์การนองเลอื ดในครงั้ น้นั ทำให้ผู้ทีม่ ชี วี ิตรอดจากการถูกเขน่ ฆ่าต้องหลบหนี
เข้าป่า และเม่ือเหตกุ ารณ์ผา่ นพน้ ไป กม็ ีนโยบาย 66/2523 ของพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ จงึ ทำใหก้ ลุ่มหนุ่ม
สาวในยคุ นัน้ ไดก้ ลับเขา้ มาในประเทศ แต่ด้วยภาพเหตุการณท์ เ่ี กิดข้ึนยงั เปน็ รอยแผลในจิตใจทย่ี ากจะลืมเลือน
จงึ ทำให้จริ ะนนั ท์ ผทู้ ี่อยใู่ นเหตกุ ารณ์ในครั้งน้ันทร่ี อดชวี ิต นำมาถ่ายทอดผ่านวรรณกรรมเรอื่ ง “ใบไมท้ หี่ ายไป”
๓. การตง้ั ช่ือเรอ่ื ง
ชอื่ เรื่อง “ใบไม้ที่หายไป” เปน็ การนำเอาเร่ืองของชีวิตขบวนนกั ศึกษาท่ีตอ้ งวายชีวีเพ่ือต้องการเรียกร้อง
ความยุติธรรมกับมาสู่สังคมไทย จึงได้นำ “ใบไม้” มาเปรียบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนคำว่า “ที่หายไป” ก็
หมายถึงนักศกึ ษาท่ีวายชีวีในเหตุการณ์คร้ังน้ัน เชน่
ขอเพียงอุทิศความตาย เป็นเคร่ืองหมายสัจจะ เย่อหยง่ิ
ผลไิ ม้ใบออ่ นซอ้ นอิง แตกกง่ิ ตอ่ กา้ นต้านเวลา
รีบก้าวตอ่ ไปขา้ งหน้า
ทีร่ กั …รีรอรอ้ งร่ำทำไม? หากคุณค่าฉนั สบื ต่อ ฉนั พอใจ
ทิง้ ฉันไว้ ทงิ้ ฉนั ไว้ จะตายช้าชา้ (พินยั กรรม)
๔. กลวธิ ีการนำเสนอเรื่อง
ผูแ้ ตง่ นำเหตุการณท์ ่ีเกิดขน้ึ ในสังคมและชีวิตความเป็นอยู่ท่ีผู้ประพนั ธ์ได้สมั ผัสมาจากความเป็นจริงท้ัง
หมดแลว้ นำมาถ่ายทอดผา่ นกวนี พิ นธ์เล่มน้เี พ่ือเปน็ ส่ือกลางในการตีแผ่เรื่องราวท่เี กิดข้ึน เพือ่ ให้เห็นภาพสะท้อน
ทางสงั คมการเมอื ง อารมณค์ วามรู้สกึ และความกล้าหาญของบุคคลในเหตุการณ์ท่ีเกิดขึน้ กวนี ิพนธเ์ รื่องนี้มีการ
ใชก้ ลวิธีส่ือผ่านบทกวีท่ีแฝงไปด้วยความศรัทธา ความปวดร้าวเศร้าในจิตใจเพื่อส่ือสารความคิดความรู้สึกไปยัง
ผูอ้ ่านให้ผู้อ่านเขา้ ใจแจ่มชัดในเหตุการณ์ทีเ่ กิดข้นึ เชน่
วถิ ีบาปสาปสง่ ลงมาหรอื ? เพลิงกระพือผลาญชีวันอนั ใดหนอ
ดินเป้อื นเลือดราดฟา้ นำ้ ตาคลอง รันทดท้อเพลงตรมชว่ั งมงาย
กระแสกรรมรำ่ ไรเร่ิมไหลบ่า หล่งั มายาหล้าลม่ จมสลาย
ท่วมความคิดทน้ ความความหวงั พังทลาย ทกุ สิ่งคล้ายเศษสวะถกู ชะพา
โลกอสตั ยบ์ ัดนี้ถงึ ที่สุด ชาวโลกหยุดเมามวั กลั้วโมหา
เลอื ดรนิ ล้างแล้วลบกลบพสุธา ฟ้าสฟี ้าสว่างวาม “ความเป็นธรรม”
(สนั ตภิ พ)
๑๐
๕. ภาษาท่ีใช้ในเร่ือง
สำนวนภาษาท่ีใชส้ ่ือความหมายชัดเจน ประพนั ธไ์ ด้ซ้งึ กินใจใช้ภาษาที่เข้าใจงา่ ยภาษาในการส่ืออารมณ์
ออกมาผ่านบทกวไี ด้อยา่ งลงตัว เช่น
ขอปลอบขวญั ทกุ คนที่ลน้ ทกุ ข์ ด้วยแววสุกสกาวใสในเวหา
จะกลอ่ มเกลาชาวดนิ ทกุ วญิ ญาณ์ ให้เย็นตาเตมิ ยิม้ อม่ิ อารมณ์
(ปรัชญาราตรี)
การบรรยายภาพทำได้ดีเม่ืออ่านแลว้ ทำให้เกิดมโนภาพชัดเจน ชวนเกิดเกดิ ความรู้สึกเศร้ากับเหตุการณ์
ที่เกิดข้ึนเพราะเป็นการบรรยายภาพเหตกุ ารณ์ในชวี ิตจริง ตัวอยา่ งเชน่
แผน่ ดินใหม่ตระหงา่ นหลงั การล้าง สนิ้ ทกุ อยา่ งท่เี คยเผยและผัน
โลกอยูบ่ นฐานบรรทัดปจั จุบนั และแดนฝันสันติน้ี ไม่มี “คน”
(สนั ตภิ พ)
สรรพส์ าระ
คำส่ังสำนกั นายกรัฐมนตรที ี่ ๖๖/๒๕๒๓
ภาพปกหนังสอื คำสั่งสำนัก คำส่ังสำนักนายกรฐั มนตรที ี่ 66/2523 หรือคำสั่ง
นายกรฐั มนตรที ี่ ๖๖/๒๕๒๓
ของพลเอกเปรม ตณิ สูลานนท์ ที่ 66/2523 หรือคำสั่งที่ 66/23 เป็นคำสั่งรัฐบาลไทยท่ี
เมอื่ วันท่ี ๒๓ เมษายน ๒๕๒๓ กำหนดนโยบายสำคัญในการต่อสู้กับการก่อการกำเริบ
คอมมิวนิสต์ช่วงปลายสงครามเย็น คำสั่งดังกล่าวออกเมื่อ
วันที่ 23 เมษายน 2523 และลงนามโดยนายกรัฐมนตรี
พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ คำสั่งนีท้ ำใหม้ กี ารเปล่ียนแปลง
นโยบายจากท่าทีทหารสายแข็งที่ดำเนินมาแต่รัฐบาลฝ่าย
ขวาธานินทร์ กรัยวิเชียร (ครองอำนาจ 2519 ถึง 2520)
มาสู่สายกลางมากขึ้นซึ่งให้ความสำคัญมาตรการทาง
การเมืองเหนือการปฏิบัติทางทหารอยา่ งเป็นทางการ คำสั่ง
นี้กำหนดให้มีการจัดการความอยุติธรรมทางสงั คม และการ
ส่งเสริมการมีส่วนร่วมทางการเมืองและกระบวนการ
ประชาธิปไตย มีการออกกฎหมายนิรโทษกรรมสอดคล้องกับ
คำสั่งอนุญาตให้ผู้แปรพักตร์ผละขบวนการก่อการกำเริบ
ซงึ่ เม่ือประกอบกับการเส่ือมลงของการสนับสนุนจากต่างชาติ
นำไปสกู่ ารเส่อื มลงของพรรคคอมมวิ นสิ ตแ์ หง่ ประเทศไทย
๑๑
ใบไม้ทีห่ ายไป
๒๕๑๖-๒๕๑๙
๑. ดอกไม้จะบาน ดอกไม้จะบาน
จะบานในใจ
ดอกไม้ หน่มุ สาวจะใฝ่
บรสิ ทุ ธ์กิ ล้าหาญ
จุดไฟศรทั ธา
สีขาว ตอ่ ส้มู ายา
แน่วแนแ่ ก้ไข
เข้าหามวลชน
เรยี นรู้ อทุ ศิ ยอมตน
ก้าวไปขา้ งหน้า เพ่ือผลประชา
ชีวิต บานให้คณุ คา่
ฝ่าความสับสน แต่วา่ ย่ังยนื
ดอกไม้ และท่ีอ่นื อนื่
จงบานช้าช้า ยน่ื ใหม้ วลชน
(ผลิ (หนงั สือปฐมนเิ ทศนิสติ ใหมจ่ ุฬาฯ), ๒๕๑๖)
ทีน่ ี่
ดอกไม้สดชนื่
๒. สุสานทราย ทรายละเอียดพบสายแดดแผดรังสี
ลามสรุ ยี ส์ ดุ ระยะทะเลทราย
ตรงรอยตอ่ สขี าวเส้นยาวเหยยี ด เดนิ โดยสารเวลาหาจุดหมาย
ระยับไหวในละอองทองธาตรี อาจละลายหลอมรอ้ นกอ่ นถึงมนั
ปรากฏชดั , ธารใสเหมือนในฝนั
คนสญั จรอ่อนลา้ กร้านกวา่ กรา้ น ภาพอาถรรพณพ์ ลันดบั ไปกบั ตา
ความหวงั ตรงเส้นขาว ยาว, ท้าทาย วนในแวดวงเก่า-เขลา, ไรค้ า่
มีแต่ลา้ รอตายรอสายธาร
แล้วสเี ขียวแสนงามยามร้อนจัด (มิถุนายน ๒๕๑๖)
คนใกลต้ ายตะกายวงิ่ หาส่งิ นน้ั
ทะเลทรายรปู ขวานกรา้ นลมแดด
ผู้แสวงหวนั่ ไหวไกลเกนิ คว้า
๓. บันทกึ ลับกระบอื หนุ่ม ๑๒
มาจะกล่าวบทไป ถงึ กระบือฝงู ใหญ่อนาถา
ถกู ขงั คอกแคบคบั อัปรา จนตายด้านชนิ ชามานกั แล้ว
ด่าวา่ โงเ่ ง่าทั้งเถาแถว
เขาใหก้ นิ เศษกากซากเน่า สขี่ าตาแป๋วไว้ไถนา
หลอกล่อลวงใช้ไมร่ แู้ กว เค่ยี วเขญ็ เปน็ นายควายเบ่งิ บ้า
ตวั ไหนกลา้ ปฏิวัติ-ซดั ดว้ ยปืน
มีควายยอ่ มมคี นบนหลงั ควาย งมงายตามประสาหนา้ ต้องฝืน
เขาทวงคุณขนุ เลี้ยงอย่างเล่ยี งนา เพราะมนั ขืนดัดจริตจะขวิดคน
ไมอ่ ยากทำเชือ่ งเช่ือเม่อื เขาพ่น
กูก็เปน็ ควาย… เกลยี ดสายสนตะพายอยากคลายทงิ้
แต่เลือดกหู ลายหยดเคยรดพนื้ กยู นื ฟงั คำกลำ้ น่งิ
จับกูพงิ ยงิ เปา้ ใหพ้ น้ เวร
วนั น้กี ูเกดิ เบ่อื (นิสติ นักศึกษา กรกฎาคม ๒๕๑๖)
แอกหนกั ขึน้ ทกุ วันมนั เกนิ ทน
นกน้อยปรารถนาบินให้ถึง
“เขาแหลมหรอื จะสูด้ าบปลายปืน” มาเกลอื กกลึงรอยไถในลุ่มนา
ทางเดยี วหรอื ที่มจี ริง ไมห่ นลี มคล่ืนฝืนฝ่า
รักษามใิ ห้ลม่ ถมมวลชน
๔. ไฟ - วิญญาณ; งาน - ชีวติ เพลงนกรอ้ งเฉยี บเข้มเตม็ ขน้
สาปอธรรมทุกข์ทนอปั ยศ
ทะเล ภเู ขา เทาท้องฟา้ ปราการเบอื้ งหน้าปรากฏ
คาบธลุ จี ากหาวดาวดึงส์ จักฝ่าไปปลดพันธนา
วนั โลกอาบอมิ่ งามตามคณุ ค่า
ท้าทายอหงั การท์ ่าที สบื ตำนานสะทา้ นฟา้ ผาดินดาว
สองปีกนม้ี ีกำลังปกบังฟ้า ปีกนกหลุบหร่เี หนบ็ หนาว
และปวดรา้ วกับเลอื ดเนอื้ เม่ือหมดแรง
และสำเนียงอมตะจะถก่ี ้อง (คณะวทิ ยาศาสตร์ จฬุ าฯ)
กลอ่ มนำ้ ตาแห้งคาตาคนจน
กล้าหาญ กล้าหาญ
ปราการฐานันดรห์ ลัน่ ลด
ฝันถึงสจั จะอิสรภาพ
คนคอื คนลกุ ฟืน้ คืนชีวา
พรงุ่ นีแ้ ลว้ พรงุ่ นี้...
ถอนใจรับดบั ฝนั อันสกาว
๑๓
๕. ปณธิ านหนุ่มสาว
เบ้ืองหนา้ คอื หญิงสาว พล้ิวอาภรณส์ ขี าว ไรเ้ ดียงสา
มดี วงดาววาวใสในแววตา โปรยประกายปรารถนาเป็นดอกไม้
เธออ่านนิยายใฝฝ่ ัน สงสัยคา่ ยตุ ธิ รรม์หายไปไหน
การตอ่ สูเ้ พอื่ ส่ิงนี้จะมีใคร เธอกา้ วไปคน้ ความจรงิ (องิ นิยาย)
เขาคือชายหนมุ่ รอ้ นรุ่มแกรง่ กลา้ หาความหมาย
โดยยดึ มนั่ การต่อสู้ลกู ผู้ชาย ท้าทายภยั ผองโลกหมองมัว
ถกเถียงหยันหยามความช่วั
เขาตะโกนสุดเสียง
เพ่อื พบตัวมคี า่ นา่ พอใจ
ชายหน่มุ วิง่ สวนทางกบั ความกลวั จูงมือกนั ก้าวสูห่ นไหน?
ชายหน่มุ กบั หญิงสาว
หรอื สร้างสรรคบ์ นั ไดไกลถงึ ฟา้
เพียงหลงทางไม่มที างไป “ชวี ติ ที่มอบไวแ้ กป้ ัญหา
...นี่คือคำตอบ เบอ้ื งหน้าคอื อะไรไม่พรั่นเลย”
ตอ้ งสู้ ต้องทำ รับคำทา้ (นสิ ติ นกั ศึกษา ธันวาคม ๒๕๑๖)
๖. อหงั การของดอกไม้
สตรมี ีสองมือ มั่นยึดถือในแกน่ สาร
เกลยี วเอ็นจักเป็นงาน มใิ ช่รา่ นหลงแพรพรรณ
ไว้ปา่ ยปืนความใฝฝ่ ัน
สตรีมสี องตนี
มหิ มายมั่นกนิ แรงใคร
ยนื หยัดอย่รู ่วมกนั เพ่ือเสาะหาชีวติ ใหม่
สตรมี ดี วงตา
มิใช่คอยชมอ้ ยชวน
มองโลกอย่างกวา้ งไกล เปน็ ดวงไฟไม่ผันผวน
สตรมี ดี วงใจ ดว้ ยเธอลว้ นกค็ ือคน
สร้างสมพลงั มวล ล้างรอยผดิ ด้วยเหตผุ ล
มใิ ช่ปรนกามารมณ์
สตรมี ีชวี ติ
คณุ คา่ เสรชี น มใิ ชแ่ ยม้ คอยคนชม
ความอุดมแหง่ ผืนดิน !
ดอกไม้มหี นามแหลม (ประชาธปิ ไตย ๔ พฤศจกิ ายน ๒๕๑๖)
บานไวเ้ พือ่ สะสม
๑๔
คณุ คา่ ของวรรณกรรรม
๑. คุณค่าดา้ นเน้ือหา
อาจกล่าวได้ว่า ใบไม้ที่หายไป เป็นกวีนิพนธแ์ ห่งชีวิต เพราะจิระนันท์ พิตรปรีชาได้คัดสรรผลึกของ
ความรู้สกึ นกึ คิด จำนวน 34 ชนิ้ เรียงรอ้ ยถึงเหตกุ ารณ์ที่ผ่านเข้ามาในชวี ติ โดยแบ่งออกเป็น 5 ชว่ งเวลา
ระหว่างปี 2513-2515 จิระนันท์ พิตรปรีชา คือสาวน้อยวัยแรกแย้มผู้มองโลกด้วยความฝันอัน
งดงาม ดุจดังที่ว่า nature is a joy forever ในบท ห้วงคำนงึ
ระหว่างปี 2516-2519 จิระนันท์ พิตรปรีชา คือผู้พลิกภาพลักษณ์ของดาวจุฬาฯ มาสู่สาวที่มี
อดุ มการณม์ ุ่งม่นั หวงั จะแก้ไขปญั หาสังคม ซึง่ ในตอนน้มี เี รื่องของเหตกุ ารณ์ 14 ตลุ า วนั มหาวปิ โยค เก่ยี วเนอ่ื ง
อยอู่ ีกดว้ ย
ระหว่างปี 2520-2522 จิระนันท์ พติ รปรีชา คอื ทหารป่าท่ีเชื่อม่ันว่าตัดสนิ ใจถูกต้องแล้วที่อุทิศตน
เพ่ือตอ่ สกู้ ับความอยุตธิ รรมตา่ ง ๆ และตอนน้นั ยังลังเลวา่ ทิศทางที่มคี นกำหนดใหแ้ ลว้ และจะเดินตามไปนัน้ ถูก
หรือไม่
ระหว่างปี 2522-2523 จริ ะนันท์ พิตรปรีชา เจบ็ ชำ้ จากความพ่ายแพ้และผิดหวัง เริ่มต้ังคำถามกับ
ตนเองถึงความถูกผิดใหมอ่ ีกคร้งั และท่ามกลางความโดดเดี่ยวถงึ ท่ีสุด จิระนนั ท์เลือกทจ่ี ะรบั บทบาทของความ
เปน็ แม่อกี บทหนง่ึ ดว้ ย
ช่วงสุดทา้ ยระหว่างปี 2524-2528 จริ ะนันท์ พติ รปรชี า คอื นกั ศกึ ษาวชิ าประวัตศิ าสตร์ของมหาลัย
ชั้นนำในประเทศสหรฐั อเมรกิ า เป็นชว่ งเวลาของการรกั ษาบาดแผลในชวี ิต ใครค่ รวญทบทวนถึงอดีตอย่างสุขุม
พร้อมเขา้ ใจธรรมชาตแิ ละสจั จะแห่งชีวติ ดีข้ึน
ในเร่ืองนี้มีการใช้ภาษาทเ่ี ข้าใจง่าย แตส่ ะเทอื นอารมณ์ผ้อู ่านเปน็ อย่างมาก แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจ
ในการคัดสรรบทกวีหลากหลายอารมณ์ แตใ่ นขณะเดยี วกันยังเรียงรอ้ ยถงึ จินตนาการและอุดมการณ์อย่างเต็ม
เปยี่ มตามจังหวะชีวิตของจิระนนั ท์อย่างต่อเนอ่ื ง
๒. คณุ คา่ ด้านวรรณศิลป์
สำนวนภาษาทใ่ี ช้สอื่ ความหมายมีความชัดเจน ประพันธไ์ ด้ลึกซ้งึ กนิ ใจใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย ใชภ้ าษาใน
การสอ่ื อารมณอ์ อกมาผา่ นบทกวีได้อย่างลงตัว เชน่
ขอปลอบขวัญทกุ คนที่ล้นทุกข์ ด้วยแววสุกสกาวใสในเวหา
จะกลอ่ มเกลาชาวดินทุกวิญญาณ์ ใหเ้ ย็นตาเตมิ ย้ิมอ่มิ อารมณ์
(ปรชั ญาราตรี)
การบรรยายภาพในบทกวีสามารถสื่อออกมาได้อย่างดี เมื่ออ่านบทกวีแล้วทำให้เกิดมโนภาพชัดเจน
ชวนเกดิ ความรูส้ ึกเศร้ากบั เหตุการณท์ ่ีเกดิ ขึ้น เพราะเป็นการบรรยายภาพเหตุการณใ์ นชีวติ จริง ตัวอยา่ งเชน่
๑๕
แผน่ ดนิ ใหม่ตระหงา่ นหลังการลา้ ง สนิ้ ทุกอย่างท่เี คยเผยและผัน
โลกอยู่บนฐานบรรทดั ปัจจุบัน และแดนฝนั สันติน้ี ไมม่ ี คน
(สนั ตภิ พ)
นอกจากน้ี ภาษาทใ่ี ชย้ ังมจี ุดเดน่ ในการนำเอาสุนทรียภาพทางด้านเสียงในวรรณกรรม และสนุ ทรียภาพ
ทางด้านความหมายในวรรณกรรมมาใชใ้ นการประพันธ์
สนุ ทรียภาพทางด้านเสยี งในวรรณกรรม มดี ังน้ี
๑. การเล่นคำเพ่ือนเน้นเสยี ง ในวรรณกรรมเร่ืองน้ีเป็นกลวิธีทกี่ ่อให้เกิดประโยชน์ท้ังคุณภาพทาง
เสียงและทางความหมายในขณะเดยี วกัน ตัวอย่างเชน่
ไมเ่ คยมรี งุ้ งามในความฝนั ไม่มวี ันสุขปล้มื ลืมหมองไหม้
ไม่ต้องการหวานลำ้ นำ้ คำใคร ไม่อยากได้สง่ิ มายาคา่ นยิ ม
(จุดหมาย)
๒. การซ้ำคำ ในวรรณกรรมเรื่องนี้เป็นกลวิธีที่สร้างความไพเราะและส่ือความหมายด้านอารมณ์
ยำ้ อารมณ์ความรู้สึกใหเ้ ดน่ ชดั หนกั แนน่ ตวั อยา่ งเชน่
เหม่อมองฟ้าสฟี า้ กว้างกวา่ กว้าง คิ้วรงุ้ คา้ งเนตรสูรยม์ นุ่ หมอกเสย
แยม้ เสี้ยวเมฆยิม้ แดดสแี สดเอย หัตถ์ลมเชยเผยแก้มแพลมยิ้มพลัน
(หว้ งคำนึง)
สนุ ทรยี ภาพทางดา้ นความหมายในวรรณกรรม มีดงั นี้
๑. อุปลักษณ์ ในวรรณกรรมเรื่องนี้เป็นกลวิธกี ารเปรียบเทียบของสองสิ่งว่าเป็นสิ่งเดียวกันหรอื
เทา่ กนั ตัวอยา่ งเชน่
สิง่ ผกู มัดศรทั ธาเบื้องหนา้ นัน้ คอื ความฝนั ฝังใจเคยใหลหลง
เอาศกั ดิ์ศรชี ีวามาวางลง เป็นเดิมพันแกมทะนงกงึ่ จงใจ
(จุดหมาย)
๒. อุปมา ในวรรณกรรมเรือ่ งนเ้ี ปน็ กลวิธีการเปรียบเทยี บของสองสงิ่ ว่าเหมอื นกัน ตวั อยา่ งเช่น
ผ่านปีเดอื นเหมอื นคืนตนื่ จากหลบั ดม่ื ดำ่ กบั ชีวติ นิมิตใหม่
ก็คือฟน้ื ตนื่ ตนนามคนไทย ท่ีฝันใฝ่สรา้ งสังคมอุดมการณ์
(ความในใจจากภเู ขา)
๑๖
๓. คุณคา่ ดา้ นสงั คม
สังคมใน “ใบไม้ที่หายไป” เป็นสังคมที่เกิดขึ้นรอบตัวของผู้แต่งเอง โดยในเรื่องได้สื่อความหมายถึง
อุดมการณ์ได้อยา่ งลึกซึง้ และรุนแรง สังคมในยคุ รัฐบาลที่โหดรา้ ยและรุนแรง พรากชีวติ คนไปเป็นจำนวนมาก
เป็นการเขยี นสะท้อนความล้มเหลวทางการเมอื งของประเทศไทย ปดิ ลมหายใจของประชาชน ในขณะเดยี วกัน
เหมือนกำลังฆา่ ประชาชนให้ตายทง้ั เป็น
ภาพลบทางการเมืองต่าง ๆ ถูกเสนอลงในบทกวีเล่มนี้ มกี ารกระตุน้ พลังขบั เคล่ือนของหนุ่มสาวอย่าง
เปน็ รปู ธรรม ปรากฏใน “ปณิธานหนมุ่ สาว” ดงั บทกวีท่ีวา่
...น่ีคือคำตอบ “ชวี ติ ท่มี อบไวแ้ กป้ ัญหา
ตอ้ งสู้ ต้องทำ รับคำท้า เบอื้ งหน้าคอื อะไรไมพ่ รัน่ เลย”
(ปณิธานหนุม่ สาว)
และในช่วงน้ันเองผูแ้ ต่งได้แสดงถึงภาพลักษณ์ใหม่ของผูห้ ญงิ ศักดิ์เสรขี องผู้หญิงในฐานะมนษุ ย์ไม่ใช่
เพศท่สี องรองจากชาย ปรากฏใน “อหงั การของดอกไม้” ดังบทกวีที่วา่
สตรมี ดี วงใจ เป็นดวงไฟไมผ่ นั ผวน
สรา้ งสมพลังมวล ดว้ ยเธอลว้ นก็คอื คน
(อหังการของดอกไม้)
การต่อสู้อย่างเปน็ รูปธรรมเริ่มมีให้เห็นเด่นในชัดในช่วงปี 2520-2522 เป็นบทปลุกใจให้กับเพือ่ น
ผองที่มีอดุ มการณ์เดียวกนั ทถ่ี ูกย่ำยีจากความไมเ่ ป็นธรรม ปรากฏใน “หนมุ่ สาวคอื กาพย์กลอนแห่งปา่ เขา” ดัง
บทกวีทว่ี า่
ดอกไมป้ ่าสีมว่ งอ่อนบานต้อนรบั ผู้มาจบั ปืนสกู้ ชู้ าติหน่งึ
เป็นแถวแถวสดุ แนวภดู ูตะลงึ มาเถดิ มา...ข้าวใหม่นง่ึ ยงั ร้อนรอ
(หนุ่มสาวคือกาพย์กลอนแหง่ ป่าเขา)
ตอ่ มาในช่วงปี 2522-2523 ไม่มกี ารพรรณนาถงึ ความงามของธรรมชาติแล้ว แต่กลบั พรรณนาถึงด้าน
ลบของธรรมชาติแทน เพื่อเป็นพื้นภูมิของบรรยากาศแห่งสารที่ต้องการจะสื่อ ปรากฏใน “กล่อมลูกยามไกล”
ดังบทกวที ีว่ า่
ฟา้ รอ้ งครนื สะอน้ื โหย โบยลมบน เมฆสดี ำ เดือนดบั พยบั ฝน
ใบไมห้ ลน่ ลอยร่วง ควงควา้ ง...คว้าง...
(กล่อมลูกยามไกล)
จากบทกวีข้างต้น เป็นการปูบรรยากาศความน่ากลัวของธรรมชาติ แต่นักรบในป่าก็ยังไม่พรั่นที่จะ
ทำงานสู้ เชน่ เดียวกับเปน็ การบอกถึงความอดทนของคนทีอ่ าศัยอยูใ่ นป่า
๑๗
อีกด้านหน่ึงก็มีความรกั แท้ที่แม่มีตอ่ ลูก คนเป็นแมท่ ำให้ผู้อา่ นได้เข้าใจความรู้สึกอย่างลึกซึ้ง ปรากฏ
การบรรยายความเจ็บปวดขณะคลอดลูก ตลอดจนความชื่นชมความสัมพันธ์ทางสายเลือดนี้ ผู้เขียนบรรยาย
ออกมาได้งดงามและกินใจในบท “ชีวิต” การเลือกใช้คำอย่างล้ำลึกและถ่ีถ้วน จนสามารถเก็บความรู้สึกของ
จริ ะนนั ท์ได้จนหมด และแจกความรสู้ ึกของคนเปน็ แมใ่ ห้แก่ผอู้ ่านได้รบั รอู้ ย่างซาบซงึ้
และในท่ามความสุขความทุกขร์ ้อน มีแมเ่ ฝา้ อาทรสอนถูกผดิ
ในโอบอุม้ อุ่นไออันใกล้ชิด แม่คือมติ รคอื เมตตาค่าเกนิ คำ...
เจบ็ รา้ วราวเลอื ดเดือดเร่ง ขาเกร็งถบี คอนนอนต่ำ
ฟากล่นั สน่ั ร่างครางซำ้ มอื กำมือกมุ ชุ่มชน้ื
วูบลึกนึกซง้ึ ถึงชวี ิต นอ้ ยนิดในครรภ์พลันชื่น
กล้ากอ่ ตอ่ หวงั ยั่งยืน เตม็ ตน้ื ตนื่ เต้นเปน็ แม่คน
(ชีวิต)
หนังสือกวีนิพนธ์ “ใบไม้ที่หายไป” เล่มนี้ถือเป็นหนังสือที่บันทึกประวัติศาสตร์แห่งอารมณ์และ
ความร้สู ึกของคนรว่ มยุคสมยั ในสังคมนั้น เก็บไว้ใหช้ นรนุ่ หลังไดอ้ า่ น ถอื เปน็ บทสรปุ ความทรงจำของผู้เขียนซ่ึง
มีบาดแผลตกสะเกด็ อยไู่ มน่ อ้ ย
วรรณกรรมยุค ๑๔ ตุลาคม ทั้งแนว “ศิลปะเพื่อการปฏิวัติ ศิลปะเพื่อกรรมกรชาวนา”
และ “ศิลปะเพื่อชีวิต ศิลปะเพื่อประชาชน” แทบจะทั้งหมดได้แต่ยืนสงบนิง่ มีฝุ่นจับหนาเตอะ
อยู่บนชั้นหนังสือในห้องสมุดต่าง ๆ ... กระนั้นก็ดี ดูเหมือนว่าจะมีอยู่เล่มหนึ่งที่หาได้ประสบ
ชะตากรรมดังกล่าวข้างต้น ทั้งยังได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ขึ้นในวงการวรรณกรรมไทย
กลายเป็นตำนานจนถึงวันนี้ เพราะเป็นหนังสือรวมบทกวีเล่มเดียวท่ีมียอดจำหน่ายเป็นแสน
เลม่ ขน้ึ ไป หนังสือเล่มน้นั คือ “ใบไมท้ ี่หายไป” ของจิระนนั ท์ พิตรปรีชา
ชศู ักดิ์ ภทั รกลุ วณชิ ย์
อา่ น (ไม)่ เอาเรอ่ื ง I สำนักพมิ พอ์ า่ น I มีนาคม ๒๕๕๘
๑๘
ปกณิ กะ
รางวลั วรรณกรรมสรา้ งสรรคย์ อดเยยี่ มแหง่ อาเซยี น
ร า ง ว ั ล ว ร ร ณ ก ร ร ม ส ร ้ า ง ส ร ร ค ์ ย อ ด เ ย ี ่ ย ม แ ห่ ง ภาพสัญลกั ษณ์ของรางวลั วรรณกรรม
สร้างสรรคย์ อดเย่ียมแหง่ อาเซียน
อาเซียน (Southeast Asian Writers Award) มีชื่อย่อว่า
รางวัลซีไรต์ (S.E.A. Write) เริ่มก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2522
เป็นรางวัลประจำปีที่มอบให้แก่กวีและนักเขียนใน 10
ประเทศรัฐสมาชิกแห่งสมาคมประชาชาติแห่งเอเชีย
ตะวันออกเฉียงใต้ในปจั จุบัน
โดยงานเขียนที่ไดร้ บั รางวลั เปน็ ผลงานท่ีได้รับการ
ยกย่องอย่างกว้างขวาง และมงี านเขียนหลากหลายรูปแบบ
ที่ได้รบั รางวลั อยา่ งเช่น กวนี พิ นธ์ เร่อื งสนั้ นวนิยาย ละคร
เวที คติชนวิทยา รวมไปถึงงานเขียนด้านสารคดีและงาน
เขียนทางด้านศาสนา พิธีจะถูกจัดขึ้นในกรุงเทพมหานคร
โดยมพี ระบรมวงศานวุ งศ์ทรงเปน็ ประธานในพธิ ี
นับตั้งแต่มีการก่อตั้งรางวัลซีไรต์ขึ้น สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังคง
ประกอบด้วยรัฐสมาชิกเพียง 5 ประเทศ ได้แก่ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และไทย
ตอ่ มา ในปี พ.ศ. 2527 บรูไนได้เข้าร่วมเป็นสมาชกิ ของสมาคมประชาชาติแหง่ เอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้
เวียดนามเข้ารว่ มในปี พ.ศ. 2538 ลาวและพม่าเข้าร่วมในปี พ.ศ. 2540 และกมั พูชาเข้ารว่ มหลังสุด
ในปี พ.ศ. 2542 ท้งั นเี้ พอ่ื สรา้ งความสัมพนั ธอ์ นั ดีโดยใช้วรรณศิลป์ ซึ่งได้ดำเนนิ มาครบ 41 ปี ในปี
พ.ศ. 2563 นี้ มีนักเขียนไทยได้รับรางวัลมาแล้ว 42 คน ใน 3 ประเภทวรรณกรรม คือ นวนิยาย
กวนี พิ นธ์ เร่อื งส้ัน
ผู้ได้รับรางวัลนวนิยายเป็นคนแรก ในปี พ.ศ. 2522 คือ คำพูน บุญทวี จากผลงาน “ลูก
อีสาน” ผู้ได้รับรางวลั กวีนิพนธ์เป็นคนแรก ในปี พ.ศ. 2523 คือ เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ จากผลงาน
“เพยี งความเคล่ือนไหว” และผู้ไดร้ ับรางวัลเร่ืองสัน้ เปน็ คนแรก ในปี พ.ศ. 2524 คือ อศั ศริ ิ ธรรมโชติ
จากผลงาน “ขนุ ทอง...เจ้าจะกลับมาเม่ือฟ้าสาง”
โดยมวี ัตถุประสงค์ ดังน้ี
1. เพอื่ ใหเ้ ป็นทร่ี จู้ ักถึงความสามารถด้านสร้างสรรค์ของนักเขยี นในกลุม่ ประเทศอาเซยี น
2. เพื่อให้ทราบถึงโภคทรัพย์ทางวรรณกรรม ทรัพย์สินทางปัญญาวรรณศิลป์แห่งกลุ่ม
ประเทศอาเซยี น
3. เพือ่ รบั ทราบ รับรอง สง่ เสริมและจรรโลงเกียรติ อจั ฉรยิ ะ ทางวรรณกรรมของนักเขียน
ผ้สู รา้ งสรรค์
4. เพื่อส่งเสริมความเข้าใจและสัมพันธภาพอันดีในหมู่นักเขียนและประชาชนทั่วไปใน
กลุม่ ประเทศอาเซยี น
๑๙
คำอธบิ ายศัพท์และข้อความ
กรา้ น มีผิวด้าน, มีผวิ ไมส่ ดใส
กามารมณ์
แกว กามคณุ , อารมณ์ที่น่าใคร่
เขลา
ชม้อย เบาะแส, ระแคะระคาย, ในคำว่า ร้แู กว
ดัดจริต
ดาวดงึ ส์ ขาดไหวพริบ, รู้ไมถ่ ึง, รไู้ มเ่ ทา่ ทัน, ไม่เฉยี บแหลม, ไมฉ่ ลาด
เดยี งสา
ชอ้ นตาชำเลอื งดเู พอื่ เรียกร้องให้สนใจ
แน่วแน่
บรสิ ุทธ์ิ แสร้งทำกิรยิ าหรือวาจาใหเ้ กนิ ควร
ปฏิวตั ิ ชอื่ สวรรค์ชั้นที่ ๒ แหง่ สวรรค์ ๖ ช้ัน มีพระอนิ ทร์เป็นใหญใ่ นช้ันน้ี
ปรน รู้ภาษา, รู้ความ, รู้ผิดร้ชู อบตามปรกตสิ ามญั , (มกั ใชใ้ นความปฏเิ สธ), เชน่
ปรารถนา เดก็ ยังไม่ร้เู ดยี งสา
แผด อาการที่ใจมุ่งมน่ั อยกู่ ับส่งิ ใดส่ิงหนึ่ง เช่น ตั้งใจแน่วแน่, แนแ่ น่ว กว็ ่า
ผันผวน
พรน่ั แท้, ไม่มีอะไรเจือปน, เช่น ทองบริสุทธิ์, ปราศจากมลทิน, ปราศจาก
พันธนา ความผดิ , เชน่ เปน็ ผบู้ รสิ ทุ ธ์ิ, หมดจดไม่มีตำหนิ เช่น เพชรบริสุทธิ์ เครอ่ื ง
มายา แกว้ บรสิ ทุ ธ์ิ
ยืนหยัด การเปลี่ยนแปลงระบบ เช่น ปฏิวัติอุตสาหกรรม, การเปลี่ยนแปลง
รงั สี ระบอบการบรหิ ารบา้ นเมอื ง เชน่ ปฏวิ ัติการปกครอง
แวดวง บำรงุ เลีย้ งดูใหส้ มบูรณ์
มุ่งหมาย, อยากได้, ตอ้ งการ
ฉายแสงกล้า (ใชแ้ กแ่ ดด)
กลับไปกลับมา, ป่นั ป่วน
รูส้ กึ หวน่ั กลัว เชน่ พร่ันใจ
การผกู , การมดั , การจำขัง
มารยา, การลวง, การแสร้งทำ, เล่หก์ ล
สู้ไมย่ อมถอย เช่น เขายืนหยดั สูไ้ ดต้ ลอด ๕ ยก
แสง, แสงสวา่ ง
วงการ, กลุ่มทีส่ ังกดั อยู่, เช่น ในแวดวงนกั การเมอื ง ในแวดวงนักธรุ กิจ
ศรทั ธา ๒๐
สนตะพาย ความเชื่อ, ความเลื่อมใส, เช่น สิ้นศรัทธา ฉันมีศรัทธาในความดขี องเขา
บางทกี ็ใชเ้ ข้าค่กู ับคำ ประสาทะ เปน็ ศรัทธาประสาทะ
สัจจะ กิริยาที่เอาเชือกร้อยช่องจมูกวัวควายท่ีเจาะ ซึ่งเรียกว่า ตะพาย, ใช้โดย
สญั จร ปริยายแก่คนว่า ถูกสนตะพาย หรือ
แสวง ยอมให้เขาสนตะพาย หมายความว่า
หยัน ถูกบังคบั ใหย้ อมทำตามดว้ ยความจำ
หยาม ใจ ความหลง หรอื ความโง่เขลาเบา
หลุบหรี่ ปญั ญา
อนาถา ความจรงิ , ความจริงใจ, เชน่ ทำงานร่วมกันต้องมีสจั จะต่อกัน
อหงั การ์
อปั ยศ ผา่ นไปมา เช่น ทางสญั จร
อัปรา
อาถรรพณ์ ที่ยวหา, คน้ หา, เสาะหา
อิสรภาพ เยาะ, เยย้
อทุ ศิ
แอก ดูหมิ่น, ดูถกู
มาจากคำว่า หลุบลู่ หมายถึง ลู่ลงมา, ปกลงมา, ที่ปกลงมาอย่างไม่
เรยี บร้อย
ไม่มที พี่ ึ่ง, กำพรา้ , ยากจน, เข็ญใจ
มาจากคำวา่ อหงั การ หมายถงึ การยึดวา่ เป็นตวั เรา
เส่ือมเสียช่อื เสยี ง, นา่ อบั อายขายหนา้
อา่ นวา่ อับ-ปะ-รา หมายถึง แพ้
สิ่งสืบเนื่องจากคัมภีร์อถรรพเวท, การทำพิธีตามตำราไสยศาสตร์เพ่ือให้
เกดิ สิรมิ งคลป้องกนั ภยนั ตราย หรอื ทำอนั ตรายผอู้ นื่ เช่น ทำพธิ ีฝงั เสาหิน
หรอื ฝงั บตั รพลี ซ่ึงเรียกวา่ ฝงั อาถรรพ์
ความเป็นใหญ่, ความเปน็ ไทแกต่ ัว
ทำเพ่อื , สละให้โดยเจาะจง
ไม้วางขวางบนคอวัวหรือควายใช้ไถนา
คราดนา หรอื เทยี มเกวียน เป็นต้นในทนี่ ้ี
หมายถึง การถูกกดข่ี ในคำวา่ ปลดแอก
๒๑
ชวนคิดพินิจคณุ ค่า
๑. วเิ คราะหเ์ นอ้ื หา
1. อ่านเรื่องใบไม้ท่ีหายไป ชว่ งปี พ.ศ. 2516-2519 แลว้ แบง่ กล่มุ เรยี บเรียงเปน็ รอ้ ยแกว้
โดยลำดับความเน้อื หาโดยใชส้ ำนวนภาษาของนักเรยี น
2. วิเคราะหบ์ คุ ลกิ ภาพของตัวละคร คือ จริ ะนันท์ พติ รปรชี า
3. วเิ คราะหส์ ภาพสังคมของประเทศไทย ในช่วงปี พ.ศ. 2516-2519
4. อธบิ ายคณุ คา่ ดา้ นสงั คมทีป่ รากฏในใบไม้ที่หายไป ช่วงปี พ.ศ. 2516-2519
5. นกั เรยี นได้ขอ้ คิดใดบา้ งจากเร่อื งใบไม้ที่หายไป ชว่ งปี พ.ศ. 2516-2519
๒. พิจารณาภาษาการประพันธ์
1. ภาษาทใ่ี ชใ้ นเร่ืองใบไม้ท่ีหายไป มีความแตกต่างอยา่ งไรกับภาษาท่ใี ชใ้ นกวีนพิ นธ์ปัจจุบนั
2. คำประพันธต์ อ่ ไปน้ใี ชถ้ ้อยคำสื่ออารมณค์ วามร้สู กึ อย่างไร
เบื้องหน้าคอื หญงิ สาว พลว้ิ อาภรณ์สีขาว ไรเ้ ดยี งสา
มีดวงดาววาวใสในแววตา โปรยประกายปรารถนาเป็นดอกไม้
เธออ่านนยิ ายใฝฝ่ นั สงสยั ค่ายุตธิ รรมห์ ายไปไหน
การต่อสู้เพื่อสิ่งน้ีจะมีใคร เธอกา้ วไปค้นความจรงิ (อิงนิยาย)
เขาคือชายหนุ่ม รอ้ นรมุ่ แกรง่ กล้าหาความหมาย
โดยยึดม่ันการต่อส้ลู ูกผู้ชาย ทา้ ทายภยั ผองโลกหมองมัว
เขาตะโกนสดุ เสียง ถกเถยี งหยนั หยามความช่วั
ชายหนุม่ วง่ิ สวนทางกบั ความกลวั เพอื่ พบตวั มคี ่านา่ พอใจ
ชายหน่มุ กับหญงิ สาว จงู มือกนั ก้าวสู่หนไหน?
เพยี งหลงทางไม่มีทางไป หรือสร้างสรรคบ์ ันไดไกลถงึ ฟา้
...น่ีคอื คำตอบ “ชวี ิตท่ีมอบไว้แกป้ ัญหา
ต้องสู้ ตอ้ งทำ รบั คำท้า เบือ้ งหน้าคอื อะไรไมพ่ รัน่ เลย”
3. เลอื กกวนี ิพนธ์บททน่ี กั เรยี นเหน็ วา่ มีความเปรียบเทียบทคี่ มคายและอธิบายว่ากวเี ปรียบอะไรบา้ ง
และอธิบายว่าชอบเพราะเหตุใด
๓. เลือกสรรนำไปใช้
1. แตง่ คำประพนั ธ์ประเภทกลอนสภุ าพ เพื่อเล่าเหตุการณ์ปัจจุบนั หรอื สะทอ้ นสงั คมปัจจุบนั
กำหนดความยาวตามความเหมาะสม
2. เขยี นเรยี งความเรอื่ ง “บทบาทของเยาวชนไทยในยคุ ปัจจุบัน”
3. จงอภิปรายในหัวข้อ “ถ้าการเมอื งดี...”
ภาคผนวก
ใบไมท้ ี่หายไป
จริ ะนนั ท์ พิตรปรชี า
๒๓
๑๔ ตลุ า ๒๕๑๖ สู่ ๖ ตุลา ๒๕๑๙
ประชาสเู้ ผด็จการ
๑. เหตกุ ารณ์ ๑๔ ตลุ าคม ๒๕๑๖
วันมหาวิปโยค เป็นเหตุการณ์การปราบปรามผู้ประท้วงบริเวณพระบรมมหาราชวังและถนนราช
ดำเนนิ อยา่ งรนุ แรงโดยรัฐบาลนายกรัฐมนตรีจอมพลถนอม กติ ติขจร จนมผี ู้เสียชีวิตหลายสิบคน บาดเจ็บกว่า
800 คน และมีผู้สูญหายอีกเป็นจำนวนมาก การประท้วงนั้นเกิดขึ้นเนื่องจากสาเหตุหลายประการ คือ
ประเทศไทยได้อยู่ภายใต้ระบอบเผด็จการทหารมานานเกือบ 15 ปีตั้งแต่สมัยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์
ประกอบกับข่าวการฉ้อราษฎร์บังหลวงหลายอย่างในรัฐบาล รวมทั้งรัฐประหารตัวเองในปี 2514 ข่าวการ
ลักลอบล่าสัตว์ป่าในเขตอุทยานแห่งชาติ นำไปสู่การเรียกร้องรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตย มีการตีพิมพ์
"บันทึกลบั จากทุง่ ใหญ่" ทำให้เกิดความสนใจในหมู่ประชาชน นำไปสกู่ ารเดินแจกใบปลิวของนิสิตนักศึกษาใน
กรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ 6–9 ตุลาคม มีนักเคลื่อนไหวทางการเมืองและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรถกู
ทหารจบั กมุ ซึ่งตอ่ มาบุคคลเหล่านไ้ี ด้ชอื่ ว่า “13 ขบถรฐั ธรรมนูญ” ทำใหเ้ กิดการประท้วงใหญ่เริ่มตั้งแต่วันที่
9 ตลุ าคมที่มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ สู่การเดนิ ประทว้ งในถนนราชดำเนนิ โดยมปี ระชาชนทยอยเขา้ ร่วมหลาย
แสนคน วนั ท่ี 13 ตุลาคม รัฐบาลจอมพลถนอมประกาศยอมรับข้อเรยี กรอ้ งของผปู้ ระทว้ งวา่ จะรา่ งรัฐธรรมนญู
ทำใหผ้ ู้ชุมนมุ บางสว่ นสลายตวั
ในวันที่ 14 ตุลาคม 2516 ผู้ประท้วงบางส่วนเดินทางไปพระบรมมหาราชวังเพื่อขอพบผู้แทน
พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยู่หัว เม่อื ตกลงสลายตัวแล้วจู่ ๆ ก็เกิดเหตุระเบิดแถวพระบรมมหาราชวงั และเร่ิมการ
ปราบปรามการประทว้ งอย่างรนุ แรงโดยมีการระดมรถถงั และเฮลิคอปเตอร์ ฝา่ ยผ้ปู ระทว้ งมีผเู้ ข้าร่วมเพ่ิมเป็น
ประมาณ 500,000 คน จนฝ่ายความมั่นคงถอนกำลังออกไปในช่วงเย็น และในเวลา 19.15 น.
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเผยแพร่พระราชดำรัสทางโทรทัศน์ว่ารัฐบาลทหารลาออกแล้ว หลังจากนั้นมี
เหตกุ ารณ์ปะทะกนั อีกเล็กน้อยในวนั ท่ี 15 ตลุ าคม แต่ผู้ชุมนุมสลายตวั เม่อื ทราบวา่ บุคคลสำคญั ในรัฐบาลสาม
คนทเี่ รียกวา่ “3 ทรราช” เดนิ ทางออกนอกประเทศแล้ว
หลังเหตุการณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ ัวทรงแต่งต้ัง สัญญา ธรรมศักดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี เป็น
การเรม่ิ ต้นของ “ยุคการทดลองประชาธิปไตย”
๒๔
๒. เหตกุ ารณ์ ๖ ตุลาคม ๒๕๑๙
สืบเนื่องจากการที่ 3 ทรราชออกไปนอกประเทศไทยแล้ว หลังจากนั้น จอมพลถนอม กิตติขจร ได้
กลับมาบวชทีว่ ดั ราชบพิตร ส่งผลให้เกิดความไม่พอใจแกป่ ระชาชนเป็นอย่างมาก คุณชุมพร ทุมไมย และคุณ
วิชัย เกษศรีพงศ์ษา ช่างการไฟฟ้าทั้งสอง ได้แสดงความไม่พอใจโดยการติดโปสเตอร์ต่อต้านการกลับมาของ
จอมพลถนอม กิตติขจร วันตอ่ มา ทง้ั สองถูกฆ่าแขวนคออย่างปริศนา ท่ีประตูแดง จังหวดั นครปฐม
เหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้นักศึกษาชมรมการละคร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ออกมาแสดงละคร
เพื่อทวงความยุตธิ รรมแก่ช่างการไฟฟ้าทัง้ สองคน กลับถูกส่ือมวลชน “ดาวสยาม” ถ่ายภาพคนที่แสดงละคร
แขวนคอ ว่าหน้าคล้ายฟ้าชาย และพาดหัวข่าวชักจูงประชาชนว่านักศึกษาหมิ่นเบื้องสูง จะล้มสถาบัน
หนังสือพิมพ์ฉบับนี้ ประกอบกับการประชาสัมพันธ์ของวิทยุยานเกราะของทหาร ที่ชักชวนประชาชนออกไป
ปกปอ้ งชาติ ศาสนา พระมหากษตั ริย์
ในเวลาเพียงครึง่ วนั ปลกุ ระดมประชาชนท่ีรักสถาบันออกมาปราศรยั และสง่ เสยี งเชียร์ใหท้ หารเข้าไป
ฆา่ ประชาชนถงึ ในมหาวทิ ยาลัย กลุ่มคนในนัน้ มี กลุ่มลกู เสือชาวบ้าน, นวพล-กระทิงแดง, ทหารและตำรวจอีก
มากมาย ที่เข้าไปทำร้าย เผาทั้งเป็น ข่มขืน นักศึกษาและประชาชนเพียงในนั้น โดยมีประชาชนที่อ้างว่ารัก
สถาบันกำลงั ส่งเสยี งเชยี ร์และปรบมอื ด้วยความดีใจกับคนตายนบั รอ้ ยศพตรงหน้า
เหตกุ ารณ์ดงั กลา่ วจบลงด้วยความสูญเสยี อย่างรา้ ยแรง ประชาชนผู้บรสิ ทุ ธท์ิ ้ังหลายได้ตายลงอย่างน่า
อนาถ แต่ผู้ที่เข่นฆ่าประชาชนกลับถูกยกย่องสรรเสริญ ราชวงศ์จักรีไปงานศพและเยี่ยมเยียนกลุ่มลูกเสือ
ชาวบ้านทฆ่ี ่าประชาชน น่ันจงึ เป็นเหตุทน่ี ักวิชาการต่างประเทศต่างกก็ ำลังพูดกนั ว่า ผทู้ ่ีอยู่เบ้ืองหลังในการส่ัง
ฆา่ ประชาชน คือสถาบนั พระมหากษตั ริย์
ไมม่ อี ำนาจใดในโลกหลา้
ผู้ปกครองตา่ งมาแล้วสาปสญู
ไมม่ ใี ครลำ้ เลิศนา่ เทดิ ทนู
ประชาชนสมบูรณน์ ริ นั ดรไ์ ป
เม่ือยืนหยัดตอ่ สผู้ กู้ ดข่ี
ประชาชนยอ่ มมีชวี ติ ใหม่
เมอื่ ท้องฟา้ สีทองผอ่ งอำไพ
ประชาชนย่อมเปน็ ใหญ่ในแผน่ ดิน
สิบสีต่ ลุ า, วสิ า คญั ทพั