ณัฐติพร พันธ์ ทัศน์ ม.๔/๖ เลขที่ ๔
1
!
?
สถาปัตยกรรมไทย หมายถึง ศิลปะการก่อสร้างของไทยอันได้แก่
อาคาร บ้านเรือน วัดโบสถ์วิหารและสิ่งก่อสร้างอื่น ๆ และแต่ละท้อง
ถิ่นจะมีความแตกต่างกันไปตามสภาพทางภูมิศาสตร์ และคตินิยมของ
แต่ละคนท้องถิ่น แต่สิ่งก่อสร้างทางศาสนาพุทธจะมีลักษณะที่ไม่แตก
ต่างกันมาก เนื่องจากมีความเชื่อและความศรัทธาที่เหมือนกัน
สถาปัตยกรรมที่นิยมนำมาเป็นหัวข้อในการศึกษามักเป็นสถูป เจดีย์
โบสถ์ วิหารหรือพระราชวังเนื่องจากเป็นสิ่งก่อสร้างที่คงทน มีการพัฒนา
รูปแบบมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน มีความเป็นมาที่สำคัญควรแก่การศึกษา
และได้รับการสรรค์สร้างจากช่างฝีมือที่เชี่ยวชาญ
2
๑สถาปั ตยกรรมที่ใช้เป็ นที่อยู่อาศัย
ได้แก่ บ้าน เรือน ตำหนัก วังและพระราชวัง เป็นต้น
: บ้านหรือเรือนเป็นที่อยู่อาศัยของสามัญชนธรรมดาทั่วไป ซึ่งมี
ทั้งเรือนไม้และเรือนปูน เรือนไม้มีอยู่ ๒ ชนิด คือเรือนเครื่องผูก เป็น
เรือนไม้ไผ่ปูด้วยฟากไม้ไผ่หลังคามุงด้วยใบจากหญ้าคาหรือใบไม้ และ
อีกชนิดคือเรือนเครื่องสับ เป็นไม้จริงทั้งเนื้ออ่อนและเนื้อแข็งตาม
แต่ละท้องถิ่นหลังคามุงด้วยกระเบื้องดินเผา พื้นและฝาเป็นไม้จริง
ทั้งหมด ลักษณะเรือนไม้ของไทย มีความแตกต่างกันแล้วแต่ท้องถิ่น
แต่ลักษณะสำคัญที่ร่วมกันคือเป็นเรือนไม้ชั้นเดียวใต้ถุนสูง หลังคา
ทรงจั่วเอียงลาดชัน
เรือนเครื่องสับหรือเรียกอีกชื่อว่า เรือนไทย เรือนเครื่องผูก
3
สถาปั ตยกรรมที่ใช้เป็ นที่อยู่อาศัย
: ตำหนักและวัง เป็นเรือนที่อยู่ของชนชั้นสูงพระราชวงศ์หรือ
ใช้เรียกที่ประทับชั้นรองของพระมหากษัตริย์ สำหรับพระราชวังที่
เป็นที่พักของพระมหากษัตริย์ พระที่นั่ง เป็นอาคารที่มีท้องพระโรง
ซึ่งมีที่ประทับสำหรับออกว่าราชการหรือกิจการอื่นๆ
พ ร ะ ร า ช ตํ า ห นั ก ภู พิ ง ค ร า ช นิ เ ว ศ น์
พ ร ะ ที่ นั่ ง จั ก รี ม ห า ป ร า ส า ท
4
๒ สถาปั ตยกรรมที่เกี่ยวข้องศาสนา
ส่วนใหญ่อยู่ในวัด ซึ่งประกอบไปด้วยสถาปัตยกรรมหลายอย่างได้แก่
โบสถ์ เป็นที่กระทำสังฆกรรมของพระภิกษุวิหาร ใช้ประดิษฐาน
พระพุทธรูปสำคัญ และกระทำสังฆกรรมด้วยเหมือนกัน , กุฏิ เป็นที่
อยู่ของพระภิกษุสามเณร , หอไตร เป็นที่เก็บรักษาพระไตรปิฎกและ
คัมภีร์สำคัญทางศาสนา , หอระฆังและหอกลองเป็นที่ใช้เก็บระฆัง
หรือกลองเพื่อตีบอกโมงยาม หรือเรียกชุมนุมชาวบ้าน สถูป เป็นสิ่ง
ก่อสร้างมีรูปโอคว่ำซึ่งก่อไว้สำหรับบรรจุของควรบูชา ที่เป็นที่ระลึก
อันเกี่ยวข้องกับศาสนา แบ่งได้ ๔ ประเภท คือ
๑.ธาตุเจดีย์ หมายถึง พระบรมธาตุ และเจดีย์ที่บรรจุพระบรม
สารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า
๒.ธธรรมเจดีย์ หมายถึง พระธรรมพระวินัย คำสั่งสอนทุกอย่าง
ของพระพุทธเจ้า
๓.บริโภคเจดีย์ หมายถึง สิ่งของเครื่องใช้ของ
พระพุทธเจ้า หรือ พระภิกษุสงฆ์ได้แก่ เครื่องอัฐบริขารทั้งหลาย
๔.อุเทสิกเจดีย์ หมายถึง สิ่งก่อสร้างที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกถึง
องค์พระพุทธเจ้า เช่นสถูปเจดีย์ ธรรมจักร ต้นโพธิ์ เป็นต้น
วัดราชนัดดารามวรวิหาร
สถาปั ตยกรรมส่วนใหญ่ในวัดราชนัดดารามนี้ก็ยังเป็ นแบบ
ไทย พระอุโบสถเป็ นมี ช่อฟ้ า ใบระกา หน้าบันลงรักปิ ดทอง
ประดับด้วยกระจกงดงาม ภายในประดิษฐานพระประธาน
พระนามว่า "พระเสฏฐตมมุนี" ส่วนพระวิหารก็เป็ นศิลปะแบบ
ไทยเช่นกัน ภายในมีพระพุทธรูปปางห้ามสมุทรเป็ นประธาน
พระนามว่า "พระพุทธชุติธรรมนราสพ"
5
ความสัมพันธ์ระหว่างวรรณคดีกับสถาปัตยกรรมเป็น
ความสัมพันธ์ที่มองเห็นได้น้อยที่สุดหากเทียบกับศิลปะแขนง
อื่นๆ เพราะสถาปัตยกรรมเป็นศิลปะที่คำนึงถึงประโยชน์ใช้สอย
ค่อนข้างสูง จึงเป็นเรื่องที่จะนำไปประยุกต์ได้ แต่วรรณคดีไทย
หลายเรื่องก็ได้นำเอาสาระสำคัญของเรือนเครื่องผูกมาเป็นส่วน
ประกอบเหตุการณ์หรือเป็นส่วนเชื่อมโยงเนื้อความให้ดำเนิน
เรื่องไปได้หรือเพื่อระบุตำแหน่งที่ตัวบุคคลในเรื่องปรากฏขึ้น
ตามเนื้อเรื่อง และเนื่องจากเรือนเครื่องผูกเป็นเรือนของชาว
บ้าน เป็นงานสถาปัตยกรรมสามัญธรรมดา จึงไม่อยู่ในสายตา
และความสนใจของนักวิชาการ จึงหาข้อมูลและเรื่องราวได้
ยาก ซึ่งการที่กวีหลายท่านได้นำเอาสาระสำคัญของเรือนเครื่อง
ผูกมาใส่ไว้ในบทประพันธ์แต่ละเรื่องนั้น นับว่าเป็นการสร้างคุณ
ประโยชน์ให้เรือนเครื่องผูกมากขึ้นอีกทั้งวรรณคดีเรื่องนั้นๆยัง
สามารถเป็นแหล่งสืบค้นข้อมูลเรือนเครื่องผูกได้ค่อนข้างดี
และนอกจากการนำสาระของเรือนเครื่องผูกมาใส่ในบท
ประพันธ์ในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
รัชกาลที่ ๒ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ซึ่งเป็นยุคทองของวรรณคดี
ไทย เมื่อว่างเว้นจากการสงคราม พระองค์จะทำนุบำรุง
ประเทศชาติในด้านศิลปะ วรรณคดีและสถาปัตยกรรมอยู่เสมอ
ดังนั้นความรุ่งเรืองของวรรณคดีในสมัยนั้นก็นำไปสู่
สถาปัตยกรรมไทยหลากหลายเรื่องเช่นกัน
6
๑.การเผยแพร่ความรู้ สร้างความเข้าใจ และตระหนักในคุณค่าของ
ศิลปกรรมแก่ประชาชนเพื่อให้เกิดความซาบซึ้งเห็นความสำคัญใน
การอนุรักษ์ศิลปกรรมของชาติ ควรเผยแพร่ข้อมูลในรูปแบบที่ทุกคน
สามารถเข้าถึงได้และเข้าใจได้ง่าย
๒. การอนุรักษ์ โดยการปลุกจิตสำนึกให้คนในท้องถิ่นตระหนักถึง
คุณค่าแก่นสาระและความสำคัญของวรรณคดี รวมทั้งสนับสนุนให้
มีพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นหรือพิพิธภัณฑ์ชุมชนขึ้น เพื่อแสดงสภาพชีวิต
และความเป็นมาของชุมชน อันจะสร้างความรู้และความภูมิใจใน
ชุมชนท้องถิ่นด้วย
๓.ส่งเสริมให้ทุกคนเห็นคุณค่า ร่วมกันรักษาเอกลักษณ์ทาง
วัฒนธรรมของชาติและของท้องถิ่นเพื่อสร้างความเข้าใจและมั่นใจ
แก่ประชาชนในการปรับเปลี่ยนและตอบสนองกระแสวัฒนธรรม
อื่นๆ อย่างเหมาะสม
๔.ร่วมกันดูแลและไม่ทำลายสถาปัตยกรรมต่างๆที่จัดเป็นที่ท่องเที่ยว
ให้เข้าชมในปัจจุบันเพื่อที่จะสืบสานให้สถาปัตยกรรมไทยเหล่านั้นคง
อยู่สืบไป