อิเหนา
ตอน ศึกกะหมังกุหนิง
สารบัญ
เรื่อง อิเหนา ตอน ศึกกะหมังกุหนิง
แผนภาพ วงศ์อสัญแดหวา ๑
แผนภาพ เมืองหมันหยา ๒
แผนภาพ เมืองกะหมังกุหนิง ๓
แผนภาพ ระตูล่าสำ ๓
ตัวละคร
๔
ประวัติความเป็นมา ๕
เนื้อเรื่องย่อ ๖
สรุปข้อคิด ๘
สมาชิกกลุ่ม
๙
วงศ์อสัญแดหวา (วงศ์เทวัญ)
ท้าวปะตาระกาหลา
ท้าวกุเรปัน ท้าวดาหา ท้าวกาหลัง ท้าวสิงหัดส่าหรี
ลิกู นิหลาอระตา ดาหราวาตี ลิกู ประไหมสุหรี ประไหมสุหรี
ประไหมสุหรี
ประไหมสุหรี
กระหรัดตะปาตี อิเหนา บุษบา บุษบารากา สการะหนึ่งหรัด สุหรานากง จินดาสาหรี่
วิยะดา สียะตรา
เส้นสีเขียว = คนรัก ๑
เส้นสีฟ้า = หมั้น
เมืองหมันหยา
ระตูหมันหยา
นิหลาอระตา ดาหราวาตี จิดาส่าหรี
ท้าวกุเรปัน ท้าวดาหา โอรสท้าวมังกัน
อิเหนา วิยะดา บุษบา สียะตรา จิตะหราวาตี
๒
เมืองกะหมังกุหนิง
ระตูกะหมังกุหนิง
ท้าวกะหมังกุหนิง ท้าวปาหยัง ท้าวประหมัน
วิหยาสะกำ เมืองล่าสำ
ระตูล่าสำ
ท้าวล่าสำ จรกา
๓
ตัวละคร สีเขียว = คนรัก
สีน้ำตาล = ลูก
สีฟ้าอ่อน = หมั้น
สีเทา = พี่น้อง
สีน้ำเงิน = คนสนิท
สีแดง =เกลียด
ท้าวดาหา ท้าวกุเรปัน
ระตูล่าสำ ระตูจรกา ระเด่นบุษบา อิเหนา จินตะหราวาตี
(ระเด่นมนตรี)
ท้าวกะหมังกุหนิง วิหยาสะกำ สังคามาระตา
๔
ประวัติความเป็นมา
เรื่องอิเหนามีมาตั้งแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานีมี
เรื่องเล่ากันว่าพระราชธิดาสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศคือ
เจ้าฟ้าหญิงกุณฑลและเจ้าฟ้าหญิงมงกุฎทรงได้นาง
ข้าหลวงมาจากปัตตานีนางข้าหลวงคนนี้ได้เล่านิทานปันหยี
หรือเรื่องอิเหนาของชวาถวายเจ้าฟ้าหญิงกุณฑลทรงนำเค้า
เรื่องมาแต่งเป็นบทละครเรื่องดาหลัง (อิเหนาใหญ่) ส่วนเจ้า
ฟ้าหญิงมงกุฎทรงแต่งเรื่องอิเหนา(อิเหนาเล็ก)
ต่อมาในสมัยรัตนโกสินทร์พระบาทสมเด็จพระพุทธ-เลิศ
หล้านภาลัยได้ทรงพระราชนิพนธ์เรื่องอิเหนาเป็นบทละคร
สำหรับใช้แสดงละครรำ
๕
เนื้อเรื่องย่อ
เรื่องอิเหนา ตอน ศึกกะหมังกุหนิง
ในแผ่นดินชวา มีกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่สืบเชื้อสายมาจากวงศ์เทวัญ
(เทวดา) ๔ พระองค์ ได้แก่ ท้าวกุเรปัน ท้าวดาหา ท้าวกาหลัง และ
ท้าวสิงหัดส่าหรี ทุกพระองค์ต่างเป็นกษัตริย์ปกครองนคร ๔ นคร
ตามชื่อของตนเอง ท้าวกุเรปันมีโอรสรูปงามนามว่า ‘อิเหนา’ ส่วน
ท้าวดาหาก็มีพระธิดาคือ ‘บุษบา’ ผู้ทรงโฉม ตามประเพณีของ
กษัตริย์วงศ์เทวัญ ท้าวกุเรปันและท้าวดาหาจึงตุนาหงัน (หมั้นหมาย)
อิเหนาและบุษบาไว้ตั้งแต่เกิด แต่เมื่ออิเหนาโตเป็นหนุ่มอายุ ๑๕ ปีก็
ไปพบรักกับจินตะหราวาตี ธิดาของท้าวหมันหยาที่พบในงานพระเมรุ
ของพระอัยยิกา (ยาย)
อิเหนาคลั่งไคล้นางจินตะหราวาตีมากจนไม่ยอมกลับบ้านกลับ
เมือง รวมถึงปฎิเสธการหมั้นหมายกับนางบุษบาด้วย ท้าวดาหาจึง
โกรธมากและประกาศว่าจะยกบุษบาให้ใครก็ได้ที่มาสู่ขอ เมื่อระตูจร
กาได้ทราบข่าวจึงให้ระตูล่าสำ พี่ชายของตนไปสู่ขอนางบุษบา ท้าว
ดาหาก็ต้องยกให้แม้จะไม่เต็มใจนักเพราะจรกานั้นรูปชั่วตัวดำ แต่ใน
ขณะเดียวกัน ‘วิหยาสะกำ’ โอรสของท้าวกะหมังกุหนิงตามกวางทอง
(องค์ปะตาระกาหลาแปลง) ได้พบรูปวาดของนางบุษบา (เป็นภาพที่
องค์ปะตาระกาหลาจงใจให้ภาพที่จรกาสั่งให้ช่างวาดภาพไปวาดนั้น
ปลิวมาตกในป่าภาพหนึ่งจากภาพที่วาดไว้ ๒ ภาพ) ขณะออกประพาส
ป่าและหลงใหลในตัวบุษบาเป็นอย่างมาก
๖
ท้าวกะหมังกุหนิงจึงไปสู่ขอนางบุษบาจากท้าวดาหา แต่ก็ถูกปฎิ
เสธเนื่องจากท้าวดาหายกนางบุษบาให้จรกาไปแล้ว ท้าวกะมังกุหนิง
โกรธมากจึงยกทัพมาล้อมกรุงดาหาเพื่อชิงตัวนางบุษบา ท้าวดาหา
จึงได้ขอความช่วยเหลือจากท้าวกุเรปัน ท้าวกาหลัง ท้าวสิงหัดส่าหรี
และจรกาให้ยกทัพมาช่วยกันรบ ท้าวกุเรปันสั่งให้อิเหนามาช่วยรบที่
กรุงดาหาและเป็นที่มาของ อิเหนา ตอน ศึกกะหมังกุหนิง
ซึ่งในท้ายที่สุดอิเหนาก็ยกทัพมากับกะหรัดตะปาตี (พี่ชายคนละ
แม่) ทำให้ท้าวดาหาดีใจมากเพราะเชื่อมั่นว่าอิเหนาต้องรบชนะ แต่
ด้วยความที่อิเหนาเคยทำให้ท้าวดาหาโกรธเรื่องปฏิเสธการแต่งงาน
กับบุษบาจนทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นมา อิเหนาจึงตัดสินใจสู้รบให้
ชนะก่อนแล้วค่อยเข้าไปเฝ้าท้าวดาหา เมื่อท้าวกะหมังกุหนิงยกทัพมา
ใกล้ดาหาก็เกิดการต่อสู้กับกองทัพของอิเหนา ในที่สุดสังคามาระตา
ก็สังหารวิหยาสะกำ ส่วนอิเหนาสังหารท้าวกะหมังกุหนิงตายใน
สนามรบด้วยกริชเทวา
แต่เรื่องวุ่นวายก็ยังไม่จบเพียงเท่านี้ เพราะเมื่ออิเหนารบชนะ
ก็ได้เข้าเฝ้าท้าวดาหาและได้พบกับนางบุษบา อิเหนาเมื่อได้พบนาง
บุษบาก็หลงรักนางทันทีและรู้สึกเสียดายมาก จากที่ก่อนหน้านี้
อิเหนามีความเห็นว่า ความหลงใหลในตัวบุษบาของจรกาและวิหยาสะ
กำนั้นนำไปสู่การสู้รบแย่งชิงนางบุษบา ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้น
เลย แต่เมื่อได้พบนางบุษบาอิเหนาก็กลับหลงรักนางเสียเอง แถม
ยังพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้นางบุษบามาครองจนนำไปสู่ความ
วุ่นวายต่าง ๆ และเหตุการณ์นี้ก็เป็นที่มาของสำนวน ‘ว่าแต่เขา
อิเหนาเป็นเอง’ ที่เราได้ยินกันอยู่บ่อย ๆ
๗
สรุปข้อคิด
เรื่องอิเหนา ตอน ศึกกะหมังกุหนิง
๑. การเอาแต่ใจตัวเอง อยากได้อะไรก้ต้องได้ ควรระงับ
ความยากของตัวเองเอาไว้
๒. การใช้อารมณ์ ควรรู้จักควบคุมอารมณ์ของตัวเอง
อาจทำให้ขาดสติ และเกิดปัญหาตามมาได้
๓. ใช้กำลังในการแก้ไขปัญหา ควรใช้เหตุและผลในการ
แก้ไขปัญหา เพราะอาจทำให้เดือดร้อนต่อผู้อื่นได้
๔. การรู้จักประมาณตนเอง พอใจในสิ่งตนมี จะทำให้เรา
ใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข
๕. การทำอะไรโดยไม่ยั้งคิด หรือคำนึงถึงผลที่จะตามมา
ควรคิดให้รอบคอบก่อน
๘
สมาชิก
นางสาว ชญกรณ์ หอทอง เลขที่ ๒
นาย อติรุจ สุวรรณประทีป เลขที่ ๔
นาย ณภัทร สว่างกิจ เลขที่ ๘
นาย ธนัท บุตรดาวงษ์ เลขที่ ๑๗
นางสาว เพ็ญนภา พูนสวัสดิ์ เลขที่ ๑๘
ชั้นมัธยมปีที่ ๔ ห้อง ๗
๙