The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

คู่มือการจัดที่ดินเพื่อประชาชน (ปี 2554)

สำนักจัดการที่ดินของรัฐ

Keywords: ด้านบริหารงานที่ดิน

คู่มือ

การจัดท่ดี ิน
เพื่อประชาชน

กรมที่ดิน ส่วนจดั ท่ดี นิ เพื่อประชาชน
สานักจดั การท่ดี นิ ของรฐั

คานา

กรมท่ีดินมีภารกิจรับผิดชอบการจดั ที่ดินตามประมวลกฎหมายท่ีดินและตามนโยบาย
ของรัฐบาลในการแกไ้ ขปัญหาความยากจน การปฏิบตั ิภารกิจดังกล่าวประกอบด้วยข้ันตอนและวิธี การ
ตามกฎหมาย ระเบียบและคาส่ังต่าง ๆ บางเร่ืองยงั ปฏิบัติไม่เป็ นไปในแนวทางเดียวกนั บางเร่ืองเจา้ หนา้ ที่
ยงั ปฏิบตั ิไม่ถกู ตอ้ ง จนอาจทาใหเ้ กิดความเสียหายแก่ทางราชการ และเจา้ หน้าท่ีผปู้ ฏิบัติอาจได้รับผลกระทบ
โดยไม่มีเจตนาท่ีจะใหเ้ กิดความเสียหายดงั กล่าว เพ่ือให้การปฏิบัติของหน่วยงานเป็ นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
และประสิทธิผล และบุคลากรมีการปฏิบตั ิตามนโยบาย กฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคบั ต่าง ๆ ของหน่วยงานอย่าง
ถูกต้องและครบถ้ว น จึงได้จัดทาคู่มื อการจัดท่ี ดินเ พ่ือประชาชน เพ่ือเ ป็ นแนว ทางการปฏิ บัติ งาน
ของเจา้ หนา้ ที่และผทู้ ี่เกี่ยวขอ้ ง

คู่มือการจัดที่ดินเพ่ือประชาชนน้ีประกอบดว้ ย ข้ันตอนและวิธีปฏิบตั ิเกี่ยวกับการจัดที่ดิน
ตามประมวลกฎหมายท่ีดินและตามนโยบายของรัฐบาล รวมท้ังระเบียบ คาส่ัง ท่ีเก่ียวข้องกับการจดั ท่ีดิน
และประเด็นวินิจฉยั ทางปฏิบตั ิที่ควรทราบ จึงหวงั ว่าคูม่ ือน้ีจะมีประโยชน์ต่อผทู้ ่ีเกี่ยวข้องในการปฏิบตั ิงานให้
บรรลุเป้ าหมาย

อน่ึ ง ข้ันตอนและวิ ธี ปฏิ บัติตามคู่มือน้ี เ ป็ นข้ันตอนที่ เป็ นหลักการปฏิ บัติ ที่ ส าคัญ
ส่วนท่ีเป็นรายละเอียดปลีกยอ่ ยบางเร่ืองรวมท้งั วิธีปฏิบตั ิบางประการ เช่น วิธีการรังวดั และคานวณเน้ือที่กรณี
ขอจบั จองที่ดิน ซ่ึงมิไดน้ ามาจดั พิมพน์ ้นั เนื่องจากปัจจุบนั กรมท่ีดินไดก้ าหนดระเบียบปฏิบตั ิและมีเครื่องมือที่
ใชใ้ นการรังวดั ที่สามารถปฏิบัติไดล้ ะเอียดและรวดเร็วกว่าแต่ก่อน อย่างไรก็ตามหากมีผสู้ นใจอยากทราบ
รายละเอียดสามารถดไู ดจ้ ากหนงั สือรวมระเบียบคาสง่ั ของกรมท่ีดิน

ส่วนจดั ที่ดินเพอ่ื ประชาชน
สานกั จดั การท่ีดินของรัฐ

สารบญั หน้า

คานา ๑
การจดั ที่ดินเพือ่ ประชาชน ๓
การจดั ที่ดินผืนใหญ่ ๗
การจดั ท่ีดินแปลงเลก็ ๑๑
การจดั ท่ีดินโครงการอนั เนื่องมาจากพระราชดาริ
โครงการพฒั นาเพ่ือความม่ันคงและโครงการหม่บู ้านป้ องกนั ตนเองชายแดน ๑๔
การออกใบจอง ๑๘
การส่งั ใหอ้ อกจากท่ีดิน ๒๑
การอทุ ธรณ์คาสง่ั อธิบดี ๒๓
การเพิกถอนและจาหนา่ ยใบจอง
ระเบียบ คาสั่ง ๒๕

 โครงการจดั ท่ีดินเพื่อประชาชนอยอู่ าศัยและประกอบการทามาหาเล้ียงชีพ ๓๒
ตามควรแกอ่ ตั ภาพ ๔๑

 ระเบียบว่าดว้ ยการจัดที่ดินเพ่ือประชาชน ๔๔
 ระเบียบคณะกรรมการจดั ท่ีดินแหง่ ชาติ ฉบบั ที่ ๘ (พ.ศ. ๒๕๒๙)
๔๕
ว่าดว้ ยการควบคุมการจัดที่ดินของทบวงการเมือง ๔๙
 ระเบียบของคณะกรรมการจดั ที่ดินแห่งชาติ ฉบบั ท่ี ๑๑ (พ.ศ. ๒๕๓๐) ๕๑

ว่าดว้ ยการควบคุมการจัดท่ีดินของทบวงการเมือง ๕๒
 คาส่งั ท่ี ๑๑๕๐/๒๔๙๘ เรื่อง การออกใบจองและหนังสือรับรองการทาประโยชน์
 ระเบียบกรมท่ีดิน วา่ ดว้ ยการเพิกถอนและจาหน่ายใบจองจากทะเบียนท่ีดิน พ.ศ. ๒๕๒๗ ๔๓
 คาสง่ั กระทรวงมหาดไทย ท่ี ๔๗๗/๒๔๙๘ เร่ืองแตง่ ต้งั พนกั งานเจา้ หน้าท่ี
๕๔
ตามมาตรา ๓๐ และมาตรา ๓๓ แหง่ ประมวลกฎหมายที่ดิน ๕๕
 คาสง่ั กระทรวงมหาดไทย ท่ี ๕๑/๒๕๓๓ เร่ือง แต่งต้งั พนกั งานเจา้ หนา้ ท่ี ๕๗

ตามมาตรา ๓๐ และมาตรา ๓๓ แหง่ ประมวลกฎหมายท่ีดิน
 คาสง่ั กระทรวงมหาดไทย ท่ี ๑๕๒/๒๕๔๐ เรื่อง แต่งต้ังพนกั งานเจา้ หนา้ ท่ี

ตามมาตรา ๓๐ และมาตรา ๓๓ แหง่ ประมวลกฎหมายท่ีดิน
 คาสง่ั กรมท่ีดินท่ี ๒๒๔๔/๒๕๓๕เร่ือง มอบอานาจใหผ้ วู้ ่าราชการจงั หวดั ปฏิบัติราชการแทน
 คาสั่งกรมที่ดินท่ี ๒๑๘๕/๒๕๔๖ เร่ือง มอบอานาจใหผ้ วู้ า่ ราชการจงั หวัดปฏิบตั ิราชการแทน
 หนงั สือกระทรวงมหาดไทย ที่ ๙๗๑๖/๒๔๙๙ ลงวันท่ี ๓ พฤษภาคม ๒๔๙๙

เรื่อง การจดั ท่ีดินเพ่ือประชาชนตามประมวลกฎหมายที่ดิน (ป่ าส่วนกลาง)

 คาส่ังกระทรวงมหาดไทยท่ี ๑๓๓๑/๒๕๐๗ เร่ือง การยื่นอทุ ธรณ์ตอ่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ๕๙

ตามความในมาตรา ๓๒ แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน

 แบบรายงานการใชจ้ ่ายเงนิ งบประมาณจดั ท่ีดิน (แบบ ๑) ๖๐

 แบบรายงานผลงานจดั ท่ีดิน (แบบ ๒) ๖๑

 แบบรายงานผลงานจดั ทาสาธารณูปโภค (แบบ ๓) ๖๓

 แบบรายงานการปฏิบตั ิงานของชา่ งแผนท่ี (แบบ ๖) ๖๖

 แบบรายงานปิ ดหน่วยจดั ท่ีดิน (แบบ ๘) ๖๘



การจดั ทดี่ ินเพื่อประชาชน
_______________

การจัดท่ีดินเพ่ือประชาชนเป็ นภารกิจที่กรมท่ีดินมีหน้าท่ีรับผิดชอบตามประมวลกฎหมายท่ีดิน
และตามนโยบายของรัฐบาล โดยมีวตั ถุประสงค์เพ่ือแกไ้ ขปัญหาความยากจน อันเนื่องมาจากการไม่มีท่ีดินทากิน
หรื อมีที่ดินไม่เพียงพอแก่การทากิน พร้อมท้งั จัดสร้างสาธารณูปโภคข้ันพ้ืนฐานที่จาเป็ น ได้แก่ ถนน
และแหล่งน้ า เพ่ือให้ผูร้ ับการจัดที่ดินสามารถใช้ที่ดินให้เกิดประโยชน์มากท่ีสุด ซ่ึงมีผลให้สามารถ
ลดความรุนแรงในการบุกรุกท่ีดินของรัฐ ประชาชนได้รับการพฒั นาคุณภาพชีวิตและความเป็ นอยทู่ ี่ดีข้ึน
ท้งั ยงั เป็นการสร้างความมน่ั คงและความเขม้ แข็งใหแ้ ก่ชุมชน

๑. การจัดทดี่ ินตามประมวลกฎหมายทดี่ ิน

อธิบดีกรมท่ีดินมีอานาจนาท่ีดินซ่ึงมิไดม้ ีบุคคลใดมีสิทธิครอบครองและมิใช่ที่สงวนหวงห้าม
ตามที่กาหนดไวใ้ น หมวด ๒ ของระเบียบว่าดว้ ยการจัดที่ดินเพื่อประชาชน ไปจดั ให้ประชาชนอยู่อาศยั -
และทากิน ตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา ๓๐ และมาตรา ๓๓ ดงั น้ี

๑.๑ การจัดท่ีดินผืนใหญ่ ได้แก่การนาท่ีดินของรัฐซ่ึงมีเน้ือที่ติดต่อกันต้งั แต่ ๑,๐๐๐ ไร่
ไปจดั ใหร้ าษฎร โดยดาเนินการรังวดั วางผงั แบ่งแปลง และจัดสร้างสาธารณูปโภคพ้ืนฐานไดแ้ ก่ ถนน สระน้า
และบุกเ บิกปรับพ้ืนท่ี เพ่ือส่งเ สริ มให้มี การใช้ท่ี ดินในการประกอบอาชีพมี รายได้ในการดารงชี พ
ตามควรแก่อตั ภาพ

๑.๒ การจัดที่ดินแปลงเล็ก ไดแ้ ก่การนาที่ดินของรัฐซ่ึงมีเน้ือท่ีต่ากว่า ๑,๐๐๐ไร่ และแปลงท่ีดิน
ต้ังอยู่กระจัดกระจายไม่ติดต่อกันหรื อที่หัวไร่ปลายนาของราษฎรไปให้ราษฎรจับจองเพ่ืออยู่อาศัย-
และทาประโยชน์

๒.การจดั ทด่ี ินตามนโยบายของรัฐบาล

การจัดที่ดินตามนโยบายของรัฐบาล ปัจจุบันเป็ นการนาที่ดิ นของรัฐซ่ึ งไม่สามารถ
ออกหนังสื อแส ดงสิ ทธิ ตามประมว ลกฎ หมายท่ี ดินไปจัดให้ราษ ฎรท่ี ยากจนอยู่อาศัยและทากิ น
ซ่ึงผรู้ ับการจดั ที่ดินจะไดร้ ับสิทธิทากิน โดยกรมท่ีดินไดด้ าเนินงานตามโครงการตา่ ง ๆ ไดแ้ ก่

๒.๑ โครงการอันเนอ่ื งมาจากพระราชดาริ เป็ นการจดั ท่ีดินแบบบูรณาการโดยส่วนราชการ
ที่เกี่ยวขอ้ งไดป้ ระสานการดาเนินงานสนับสนุนปัจจัยดา้ นต่าง ๆ แก่ราษฎรในพ้ืนท่ีที่อยใู่ นท้องถ่ินทุรกันดาร
ได้มี ที่ ดิ นส าหรับเ ป็ นท่ี อยู่อาศัยและประกอบการเ กษ ตรกรรมเ ป็ นหลักแหล่ง กรมที่ ดิ นได้รับ
การประสานงานรับผิดชอบในการรังวดั ทาแผนที่แปลงที่ดินทากินและอย่อู าศยั และจดั ทาสาธารณูปโภคพ้ืนฐาน
ไดแ้ ก่ ถนนลาลอง และสระน้า



๒.๒ โครงการพัฒนาเพื่อความม่ันคง เป็ นการดาเนินงานตามมติคณะรัฐมนตรี เพ่ือช่วย
สนับสนุนการดาเนินงานด้านความม่ันคงในพ้ืนที่ตลอดแนวชายแดนไทย - พม่า และชายแดนไทย - ลาว
และช่วยแก้ปัญหาของราษฎรที่ขาดแคลนปัจจยั พ้ืนฐานในด้านแหล่งน้าและท่ีดินทากิน รวมท้ังเป็ นการ
สนบั สนุนนโยบายของรัฐบาลในดา้ นการต่อต้านยาเสพติด การค้าส่ิงผิดกฎหมาย และการลักลอบเข้าเมือง

๒.๓ โครงการหม่บู ้านป้ องกนั ตนเองชายแดน เป็ นการจดั ท่ีดินให้แก่ราษฎรที่อยูต่ ามบริเวณ
แนวชายแดน เพ่ือส่งเสริ มให้ราษฎรมีรายได้และมีความเป็ นอยู่ที่ดีข้ึน เป็ นการสร้างความเข้มแข็ง
ใหแ้ กช่ มุ ชนในพ้นื ท่ีดงั กล่าว

นอกจากน้ัน กรมท่ีดินยงั ได้ดาเนินการจดั ที่ดินเพ่ือช่วยเหลือราษฎรท่ีได้รับผลกระทบ
จากภัยพิบัติ ท่ีเกิดจากธรรมชาติ โดยจัดหาท่ีดินสาหรับสร้างบ้านเรื อนอยู่อาศัยและประกอบอาชี พ
เกษตรกรรมแห่งใหม่ พร้อมท้งั จัดสร้างสาธารณูปโภคพ้ืนฐาน เพื่อเป็ นการช่วยเหลือเยียวยาแก่ประชาชน
ผเู้ ดือดร้อนอีกทางหน่ึง

เน่ืองจากการจดั ท่ีดินตามนโยบายดังกล่าว ส่วนใหญ่เป็ นท่ีดินของรัฐท่ีอนุญาตหรือผ่อนผนั
ให้ประชาชนอยอู่ าศยั และทากิน ดังน้ัน จึงไม่ให้กรรมสิทธ์ิแก่ผูท้ ี่ไดร้ ับการจัดท่ีดิน แต่วิธีการและข้ันตอน
การปฏิบตั ิกด็ าเนินการเช่นเดียวกับการจดั ที่ดินตามกฎหมาย มีการวางผงั รังวดั ทาแผนที่ และสร้างสาธารณูปโภคพ้ืนฐาน
เพียงแต่ไม่มีการออกใบจองตามประมวลกฎหมายที่ดิน

ข้ันตอนการจดั ทด่ี ินผืนใหญ่ ๓

จงั หวดั สารวจท่ีดินและ
จดั ทาโครงการจดั ท่ีดิน

กรมท่ีดนิ จัดทาคาขอตง้ั ประมาณ กรมที่ดินส่งเร่ืองใหส้ านกั งานนโยบาย
รายจ่ายประจาปี และแผนทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม
เสนอคณะกรรมการจดั ท่ีดินแหง่ ชาตพิ ิจารณาอนุมตั ิ

กรมท่ีดนิ ส่งเจา้ หนา้ ท่ีพร้อมเคร่ืองจกั รกลไปดาเนินการ

จงั หวดั ประกาศใหป้ ระชาชนทราบเขต
และท่ีตง้ั ของท่ีดินไมน่ ้อยกวา่ หน่ึงเดือน

ผปู้ ระสงคเ์ ขา้ อยอู่ าศยั และทากิน
ยน่ื คาร้องภายในกาหนดประกาศ

จงั หวดั แตง่ ตง้ั คณะกรรมการคดั เลือกบุคคล
คดั เลือกบุคคล

จดั ใหบ้ คุ คลที่ไดร้ ับการคดั เลอื ก
เขา้ อยอู่ าศยั และทากิน

พนกั งานเจา้ หนา้ ท่ีออกใบจอง

ผวู้ า่ ราชการจงั หวดั รายงาน
ปิ ดหน่วยจดั ท่ีดินใหอ้ ธิบดีทราบ



การจัดทด่ี ินผืนใหญ่
---------------------------------

๑. การสารวจท่ีดิน

 จังหวัดจัดการสารวจท่ีดินเพื่อใหท้ ราบถึงที่ต้ัง อาณาเขตและเน้ือที่ตามลักษณะท่ีดิน
ที่สามารถนามาจดั ใหแ้ ก่ประชาชนตามระเบียบวา่ ดว้ ยการจดั ท่ีดินเพ่อื ประชาชน หมวด ๒

 ที่ต้งั ของท่ีดินอยทู่ อ้ งที่ตาบลใด ห่างไกลจากทางคมนาคมท้ังทางบกและทางน้าเท่าไร
หา่ งไกลจากท่ีชมุ ชนเพยี งใด

 ลกั ษณะของดินมีความสมบูรณ์หรือความแหง้ แล้งประการใด เหมาะสาหรับใช้ประโยชน์
อย่างใด สมควรที่ทางราชการจะสงวนไว้เพื่อทรัพยากรธรรมชาติหรื อประโยชน์
ของสาธารณชน หรือประโยชนใ์ นราชการอยา่ งไร เพียงใด

 ประสานหน่วยราชการที่เก่ียวข้องพิจารณาการใชท้ ่ีดินตามมาตรการกาหนดช้ันคุณภาพลุ่มน้า
ความเหมาะสมของดินและแผนการใช้ที่ดิน ตามระเบียบว่าด้วยการควบคุมการจัดท่ีดิน-
ของทบวงการเมือง

 ทาบัญชี สารวจและแผนที่ โดย สังเ ขปแสดงภูมิ ประเ ทศและอาณ าเขตข้างเคี ยง
และจัดการวางผงั แบ่งแปลงโดยประมาณ เพ่ือหาขอ้ มูลในการจดั ทาโครงการจัดที่ดิน
ใหเ้ ป็นไปโดยถกู ตอ้ ง

๒.การจดั ทาโครงการจัดทด่ี ิน

๒.๑ จังหวัดจัดทาโครงการจัดท่ีดินเพ่ือเสนอคณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติพิจารณา
โดยโครงการจดั ท่ีดินตอ้ งมีสาระสาคญั ตามระเบียบของคณะกรรมการจดั ที่ดินแห่งชาติ ว่าด้วยการควบคุม -
การจดั ท่ีดินของทบวงการเมือง ดงั น้ี

(๑) ช่ือทบวงการเมืองท่ีจะจดั ที่ดิน
(๒) ผลการพิจารณาของกรมพฒั นาที่ดินและการพิจารณาการใช้ท่ีดินตามมาตรการ

กาหนดช้นั คุณภาพลุม่ น้าของประเทศ
(๓) ท่ีต้งั เน้ือท่ี อาณาเขต และสภาพที่ดินท่ีจะดาเนินการจดั ที่ดิน
(๔) ผลการสารวจการถือครองในพ้นื ท่ีที่จะดาเนินการจดั ท่ีดิน
(๕) จานวนเน้ือที่ที่จะจดั แบง่ ใหป้ ระชาชนเขา้ ครอบครอง
(๖) หลกั เกณฑ์และวิธีการในการคดั เลือกบคุ คลท่ีจะรับการจดั ที่ดิน
(๗) เงื่อนไขท่ีผไู้ ดร้ ับการจดั ที่ดินจะตอ้ งปฏิบตั ิ
(๘) การใหส้ ิทธิในท่ีดินแก่ผไู้ ดร้ บั การจดั ท่ีดิน
(๙) การจดั ใหม้ ีสาธารณูปโภคต่าง ๆ
(๑๐) กาหนดเวลาการจดั ท่ีดิน ตลอดจนระยะเวลาดาเนินการ



(๑๑) งบประมาณในการดาเนินการ
(๑๒) หลักเ กณ ฑ์ในการให้ผู้ได้รับการจัดที่ ดิ นชดใช้ทุนท่ี รัฐบาลได้ลงไปใน

ในการจดั ที่ดิน
(๑๓) แผนผงั แสดงพ้นื ท่ีท่ีจะดาเนินการจัดท่ีดิน พร้อมท้งั แสดงบริเวณท่ีจะจดั แบ่งที่ดิน
เป็ นที่อย่อู าศัยประกอบการทามาหาเล้ียงชีพ สมบัติส่วนกลาง และสาธารณูปโภคโดยใช้มาตราส่วน
ท่ีสามารถใชพ้ จิ ารณาไดส้ ะดวก

ในกรณีที่ทบวงการเมือง ประสงค์จะเปลี่ยนแปลงสาระสาคัญของโครงการ
ท่ีได้รับอนุมัติ แล้ว ให้เ สนอรายการที่ประสงค์ จะเปลี่ยนแปลง พร้อมท้ังเ หตุผลและคว ามจาเป็ น
ใหค้ ณะกรรมการพจิ ารณาอนมุ ตั ิ เมื่อคณะกรรมการอนุมตั ิใหเ้ ปลี่ยนแปลง จึงใหด้ าเนินการตามน้นั ได้

๒.๒ เม่ือไดร้ ับแจง้ ความประสงค์พร้อมท้ังโครงการจดั ที่ดินจากจงั หวัดแลว้ กรมท่ีดินจะได้
ดาเนิ นการจัดทาคาขอจัดต้ังงบประมาณ รายจ่ ายประจาปี พร้อมท้ังส่ งเรื่ องให้ส านักงานนโยบาย-
และแผนทรพั ยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม เพ่ือนาเสนอคณะกรรมการจดั ที่ดินแหง่ ชาติพจิ ารณาต่อไป

๓. การดาเนินการจดั ทด่ี ิน

๓.๑ เมื่อคณะกรรมการจดั ที่ดินแห่งชาติอนุมตั ิโครงการ และไดร้ ับการจัดสรรงบประมาณ
รายจ่ายแล้ว กรมที่ดิ นจะได้จัดส่งเจ้าหน้าท่ีและเครื่ องจักรกลออกไปดาเนินการ โดยดาเนินการวางผงั แบ่งแปลง
ตามโครงการที่คณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติอนุมัติ พร้อมท้ังจัดสร้างสาธารณูปโภคประกอบด้วย
ถนนสายหลกั ถนนสายซอย ท่อระบายน้า ขดุ สระน้า

๓.๒ ในขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ดาเนินการจัดท่ี ดินจะต้องประกาศ เรื่ องการจัดที่ดิ น
เพ่ือให้ประชาชนทราบที่ต้ังอาณาเขตและเน้ือท่ีจัดท่ีดิน และเพื่อใหป้ ระชาชนผูป้ ระสงค์จะขอรับการจดั ท่ีดิน
ยื่นคาขอจับจองท่ีดิน โดยประกาศตามแบบ จ .ด. ๑ มีกาหนดไม่น้อยกว่า ๑ เดือน ให้ปิ ดไว้ในที่เปิ ดเผย
ณ ท่ีว่าการอาเภอ หรื อกิ่งอาเภอ ๑ ฉบับ ท่ีบ้านกานันหรือผใู้ หญ่บ้าน ๑ ฉบับ และในที่ดินที่จัด ๑ ฉบับ
หากเป็นการสมควรจะประกาศโดยวิธีอื่นดว้ ยกไ็ ด้

๓.๓ ให้บุคคลที่ประสงค์จะเขา้ อยู่อาศยั หรือประกอบการทามาหาเล้ียงชีพในที่ดินท่ีจัดไว้
ยน่ื คาร้องตอ่ เจา้ หนา้ ที่ในการจดั ท่ีดินน้นั ภายในกาหนดประกาศของเจา้ หนา้ ที่ตามแบบ จ.ด. ๒

๓.๔ เม่ือครบกาหนดประกาศรับบุคคลเข้าอยูอ่ าศัยหรือประกอบการทามาหาเล้ียงชีพแล้ว
ให้เจ้าหน้าท่ี ในการจัดท่ี ดิ นแต่งต้ังคณะกรรมการข้ึ นคณะหน่ึ งมี จานวนไม่น้อยกว่า ๓ นาย เรี ยกว่า
คณะกรรมการคัดเลือกบุคคล และให้คณะกรรมการคัดเลือกบุค คลมีหน้าท่ีพิจารณาคัดเลือกบุคคล
ตามหลกั เกณฑ์ที่กาหนดตามระเบียบว่าดว้ ยการจดั ที่ดินเพอ่ื ประชาชน หมวด ๓

๓.๕ บุคคลใดประสงค์จะได้รับการจัดให้เขา้ อยอู่ าศยั หรือประกอบการทามาหาเล้ียงชีพ
ในที่ดินแปลงใด ใหจ้ ดั เข้าอยู่อาศัยหรือประกอบการทามาหาเล้ียงชีพในที่ดินแปลงน้ัน แต่ถา้ บุคคลหลายคน
ประสงค์ที่ดินแปลงเดียวกนั ก็ให้ใช้วิธีจับสลาก เวน้ แต่ในกรณีท่ีมีความจาเป็ นเพื่อประโยชน์ความมนั่ คง



และความปลอดภัยของประเทศชาติ คณะกรรมการคดั เลือกอาจจะพิจารณาคัดเลือกบุคคลให้อยู่ในท่ีดิน
ตามท่ีเห็นสมควรกไ็ ด้

๓.๖ ในกรณีท่ีดินท่ีจะจัดใหเ้ ขา้ อยูอ่ าศัยหรือประกอบการทามาหาเล้ียงชีพ มีไม่เพียงพอ
กบั จานวนบุคคลซ่ึงคณะกรรมการคดั เลือกบุคคลไดค้ ดั เลือกไวแ้ ลว้ ใหค้ ณะกรรมการตดั เลือกพิจารณาคัดเลือก
อีกช้นั หน่ึงตามหลกั เกณฑ์ ดงั น้ี

(๑) ใหพ้ ิจารณาให้บุคคลท่ีมีภูมิลาเนาอยู่ในทอ้ งท่ีน้นั ไดเ้ ข้าอยู่อาศัยหรือประกอบการ
ทามาหาเล้ียงชีพกอ่ น เม่ือมีท่ีดินเหลืออยจู่ ึงจดั ใหบ้ ุคคลที่มีภมู ิลาเนาอยใู่ นทอ้ งท่ีอื่นตอ่ ไป

(๒) ถา้ ที่ดินจะจดั แบ่งมีนอ้ ยไม่พอแก่การจดั แบ่งให้ทัว่ ถึงอีกก็ใหค้ ณะกรรมการคัดเลือกบุคคล
จดั ใหม้ ีการจบั สลากเพ่ือใหไ้ ดจ้ านวนบคุ คลพอดีกบั จานวนที่ดินท่ีจะแบง่ ส่วนบุคคลที่เหลือก็ให้สอบถามความ
ประสงค์ว่า ถา้ มีที่ดินเหลือจากการจดั แบ่งในทอ้ งที่อื่นแลว้ ทางการจะจัดให้เขา้ อย่อู าศัยหรือประกอบการทามา
ห า เ ล้ี ย ง ชี พ จ ะ ขั ด ข้ อ ง ห รื อ เ ต็ ม ใ จ ห รื อ ไ ม่ แ ล้ ว บั น ทึ ก ถ้ อ ย ค า ไ ว้ เ ป็ น ห ลั ก ฐ า น
เพ่ือพิจารณาตอ่ ไป

๓.๗ เมื่อได้จดั ให้บุคคลใดเข้าอยอู่ าศัยหรือประกอบการทามาหาเล้ียงชีพในที่ดินแปลงใด
และบุคคลผูน้ ้ันได้ปฏิบัติตามระเบียบของคณะกรรมการจัดท่ีดินแห่งชาติแลว้ ใหเ้ จ้าหน้าที่ในการจดั ท่ีดิน
ดาเนินการติดต่อให้พนักงานเจ้าหน้าท่ีตามความในมาตรา ๓๐ แห่งประมวลกฎหมายท่ีดิน ออกใบจอง
ใหบ้ ุคคลน้นั ถือไวเ้ ป็นหลกั ฐาน

๔. การรายงาน

๔.๑ เม่ือจงั หวดั ประกาศรับคาขอและคัดเลือกบุคคล ให้หวั หน้าหน่วยจดั ท่ีดินประสานงาน
จัดทารายงานในแบบ ๒ และรายงานการปฏิบัติงานช่างแผนที่ตามแบบ ๖ กับรายงานผลงานจัดทา
สาธารณูปโภคตามแบบ ๓ ใหจ้ งั หวดั รายงานกรมท่ีดินประจาเดือน

๔.๒ เ มื่อหน่ว ยจดั ที่ดินได้ปฏิบัติงานเสร็จสิ้นแล้ว ให้รายงานผลการดาเนินการให้
ผวู้ ่าราชการจงั หวดั ทราบและขอปิ ดหน่วยจดั ท่ีดิน เมื่อผวู้ ่าราชการจังหวดั ได้พิจารณาปิ ดหน่วยจดั ท่ีดินแล้ว
ใหร้ ายงานอธิบดีทราบตามแบบ ๘



ข้ันตอนการจดั ทด่ี ินแปลงเล็ก

กรมทดี่ ิน
แจง้ จังหวดั จัดทาแผนงานและงบประมาณ

จังหวดั อาเภอ
สั่งการใหอ้ าเภอดาเนนิ การ  ทาการสารวจทีด่ ินท่ีอยใู่ นลกั ษณะทจี่ ะจัดใหจ้ ับจอง
 ทาแผนท่สี ังเขป
 ทาบญั ชีสารวจทด่ี ิน
 จดั ทาแผนงานจัดทีด่ ินและประมาณการคา่ ใช้จา่ ย

จงั หวดั ต้งั คณะกรรมการคัดเลือกที่ดินส่วนจงั หวัดพิจารณาแผนทส่ี งั เขป บญั ชีสารวจทีด่ ิน และแผนงานจดั ทด่ี ิน
แปลงเลก็

กรณอี นุมัติ กรณไี ม่อนมุ ตั ิ
สง่ กรมท่ีดิน แจ้งให้อาเภอทราบ

กรมท่ดี ิน อาเภอ
 ตรวจสอบแผนงาน/งบประมาณ
 อธิบดีพิจารณาอนุมตั ิแผนงาน และงบประมาณ  จังหวดั สัง่ อาเภอดาเนินการ
 แจ้งจงั หวดั ดาเนินการตามแผนงานทไี่ ดร้ ับอนมุ ตั ิ  ประกาศใหร้ าษฎรทราบ
 โอนงบประมาณใหจ้ งั หวัด
เพ่ือยน่ื คาขอจบั จอง
 รับคาขอสอบสวนคุณสมบตั ิ

 ต้ังคณะกรรมการคดั เลอื ก
บุคคล

กรณไี ด้รับการคัดเลือกจากคณะกรรมการคัดเลือกบุคคล กรณีไม่ได้รับการคดั เลือก
 อาเภอสง่ั ให้เจา้ หนา้ ทีไ่ ปทาการรงั วดั ชนั สูตรสอบสวน  ทาหนงั สือแจง้ ผู้ขอ
 ประกาศหาผูค้ ดั คา้ น
 ออกใบจอง

รายงานผลให้กรมท่ดี ินทราบ



การจดั ทดี่ ินแปลงเลก็

-----------------------------------------

๑. การสารวจทีด่ ิน

๑.๑ กรมท่ีดินเวียนหนังสื อแจง้ ให้จังหวัดท่ีมีความประสงค์จะดาเนินการจัดที่ดิน
ดาเนินการสารวจที่ดินที่อยใู่ นลกั ษณะท่ีจะจดั ใหป้ ระชาชนจบั จอง (ตามระเบียบว่าด้วยการจัดท่ีดินเพื่อประชาชน
หมวด ๒)

๑.๒ อาเภอหรือกิ่งอาเภอสารวจท่ีดินแลว้ กรอกลงตามบญั ชีสารวจและทาแผนท่ีแสดงท่ีต้ัง
ของท่ีดินที่จะนามาจดั พรอ้ มท้งั จดั ทาแผนงาน/โครงการจดั ท่ีดินและประมาณการคา่ ใชจ้ ่าย

๑.๓ อาเภอเสนอแผนงาน/โครงการและงบประมาณ พร้อมบญั ชีสารวจท่ีดินและแผนท่ี
สงั เขปไปยงั จงั หวดั

๒.การคดั เลือกทด่ี ิน

๒.๑ เจา้ พนกั งานที่ดินจงั หวัดเสนอแผนงาน/โครงการต่อผูว้ ่าราชการจงั หวัดต้ังคณะกรรมการ
คดั เลือกที่ดิน

๒.๒ เม่ือคณะกรรมการคดั เลือกที่ดินพิจารณาอนุมตั ิแลว้ ให้เจ้าพนกั งานท่ีดินจงั หวัด
เสนอแผนงาน/โครงการจดั ท่ีดิน พรอ้ มประมาณการงบประมาณต่อผวู้ ่าราชการจงั หวดั เพ่ือลงนามหนังสือ
นาส่งกรมที่ดิน

หมายเหตุ

๑. ใหเ้ สนอแผนงาน/โครงการท่ีจะจดั ท่ีดินในปี งบประมาณถดั ไปลว่ งหน้า ๑ ปี งบประมาณ
๒. แผนที่สังเขปท่ีเสนอคณะกรรมการคดั เลือกท่ีดินพิจารณาควรประสานงานกับป่ าไม้
เพอ่ื พิจารณาและรับรองรูปแผนที่ รวมท้งั การตรวจสอบเขตปฏิรูปที่ดิน

๓. การจัดทาโครงการและงบประมาณ

๓.๑ กรมท่ีดินตรวจสอบแผนงาน/โครงการของจงั หวดั และจดั ทาคาขอจดั ต้งั งบประมาณรายจ่าย
๓.๒เมื่ออธิบดีพจิ ารณาอนุมตั ิแผนงาน/โครงการ กรมท่ีดินจะแจ้งให้จงั หวดั ทราบก่อนเริ่มตน้
ปี งบประมาณ เพื่อเตรียมการเร่ืองต่าง ๆ และกรมท่ีดินจะโอนเงินงบประมาณให้จงั หวัด เม่ือได้รับอนุมัติ
งบประมาณรายจ่าย



๔. การดาเนนิ การ

๔.๑ เม่ือผวู้ ่าราชการจงั หวดั ไดร้ บั แผนงาน/โครงการที่กรมที่ดินอนุมัติแลว้ ส่ังให้เจ้าพนกั งาน-
ท่ีดินจงั หวดั /เจา้ พนกั งานที่ดินจงั หวดั สาขา/เจา้ หนา้ ท่ีบริหารงานท่ีดินอาเภอ/กิ่งอาเภอจดั ทาแผนการปฏิบตั ิงาน

๔.๒ เจา้ พนกั งานท่ีดินจงั หวดั /เจา้ พนกั งานท่ีดินจังหวดั สาขา/นายอาเภอหรือปลดั อาเภอ
ผเู้ ป็ นหัวหน้าประจากิ่งอาเภอประกาศใหร้ าษฎรทราบ(ตามแบบ จ.ด.๑) เพื่อใหผ้ ปู้ ระสงค์จะขอจบั จอง
มายน่ื คาขอ มีกาหนดไม่นอ้ ยกว่าหน่ึงเดือน

๔.๓ เม่ือมีผูม้ าแสดงความประสงค์จะขอจับจอง ให้จัดการให้ผขู้ อยื่นคาขอจับจอง
ตามแบบ (จ.ด. ๒)

๔.๔ เม่ือรับคาขอแล้วให้สอบสวนคุณสมบัติของผจู้ บั จอง โดยบนั ทึกการสอบสวน
ลงในแบบพมิ พด์ า้ นหลงั คาขอ (จ.ด.๒) แลว้ ลงช่ือผสู้ อบสวนไวเ้ ป็ นหลักฐานและเขียนใบรับคาขอ (จ.ด.๕)
มอบใหผ้ ขู้ อ ๑ ฉบบั เกบ็ ติดไวใ้ นตน้ ข้วั ใบรับ ๑ ฉบบั

๔.๕ ในตอนเย็นทุกวนั ให้นาเล่มใบรับเร่ืองราวขอจบั จองที่ดิน (จ.ด.๕) มากรอกลงในบัญชี
รับทาการและคมุ เรื่อง (ท.ด.๑๔) ใหค้ รบทุกรายการและกรอกใหเ้ สร็จทกุ รายในวนั น้นั

๔.๖ เมื่อประกาศครบกาหนดแลว้ ใหอ้ าเภอต้งั คณะกรรมการคดั เลือกบุคคล
๔.๗ คณะกรรมการตัดเลือกบุคคล พิจารณาคัดเลือกบุคคลซ่ึงมีคุณสมบัติ ตามระเบียบ-
วา่ ดว้ ยการจดั ท่ีดินเพอ่ื ประชาชน หมวด ๓
๔.๘ เจ้าพนกั งานท่ีดินจังหวดั /เจา้ พนักงานท่ีดินจงั หวดั สาขา/นายอาเภอหรือปลัดอาเภอ
ผเู้ป็นหวั หนา้ ประจาก่ิงอาเภอสั่งใหเ้ จา้ หนา้ ท่ีออกไปรังวดั ชันสูตรสอบสวนที่ดิน ตามคาขอที่ผา่ นการคัดเลือก
คุณสมบตั ิของบคุ คลแลว้

๕. การรังวัดชันสูตรสอบสวนและออกใบจอง

๕.๑ การรังวดั รงั วดั เป็นรายแปลงท่ีขอจบั จองเพื่อทราบแนวเขตและเน้ือท่ี
๕.๒ การชนั สูตร ใหท้ าการชนั สูตรว่าที่ดินมีไม้มีค่า มีแร่โลหะธาตุ มีทรัพยากรธรรมชาติ
อยา่ งใด หรือไม่ เป็ นที่ดินควนดิน เขาหิน หรือท่ีราบ ลกั ษณะของดินเป็ นอย่างไร เหมาะสมที่จะทาประโยชน์
อยา่ งไรบา้ ง
๕.๓ การสอบสวน ให้ทราบว่าเป็ นท่ีดินอยู่ในหรื อนอกเขตท่ีทางราชการ จาแนกไว้เป็ น
ป่ าไม้ถาวรเป็ นที่สาธารณประโยชน์ท่ีราษฎรใชป้ ระโยชน์ร่วมกัน หรื อเป็ นที่ดินท่ีมีผูค้ รอบครอง
ทาประโยชน์อยแู่ ลว้ ทาประโยชนเ์ พียงใดหรือไม่
๕.๔ ให้กรอกข้อความลงในแบบรังวัดชันสูตรสอบสวน (จ.ด.๗) โดยให้ผขู้ อ กานัน
ผใู้ หญ่บา้ น พยาน และผรู้ ังวดั ชนั สูตรสอบสวนลงชื่อรับรองดว้ ย
๕.๕ รายใดชนั สูตรสอบสวนเสร็จแลว้ ให้พิมพ์ประกาศ (ท.ด.๒๕) เป็ นแปลง ๆ ใหแ้ ล้วเสร็จ
โดยเร็วแลว้ ส่งประกาศไปติดตามสถานที่ตา่ ง ๆ ตามระเบียบปฏิบตั ิวา่ ดว้ ยการออกใบจอง

๑๐

๕.๖ เมื่อครบกาหนดประกาศแลว้ ไมม่ ีการขัดขอ้ งหรือคดั คา้ น และที่ดินน้ันอยูใ่ นลกั ษณะ
ที่จะพงึ อนญุ าตใหจ้ บั จองไดต้ ามระเบียบแลว้ เจา้ หนา้ ที่ดาเนินการเขียนใบจอง (น.ส.๒)

๕.๗ เม่ือไดจ้ ดั ทาใบจองแล้วเสนอพนักงานเจา้ หน้าท่ีลงนามประทบั ตราและดาเนินการ
แจกใบจองผขู้ อต่อไป

หมายเหตุ

๑. ในกรณีท้องที่ใดมีการประกาศกระทรวงมหาดไทยยกเลิกอานาจหนา้ ท่ีนายอาเภอ
หรือปลดั อาเภอผเู้ป็นหวั หนา้ ประจาก่ิงอาเภอในการปฏิบตั ิการตามประมวลกฎหมายท่ีดินตามความในมาตรา ๑๙
แห่งพระราชบญั ญตั ิแกไ้ ขเพมิ่ เติมประมวลกฎหมายที่ดิน (ฉบบั ที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๒๘ แล้วใหเ้ จา้ พนกั งานที่ดิน-
จงั หวดั และหรือเจา้ พนกั งานท่ีดินจงั หวดั สาขา แลว้ แต่กรณีเป็นพนกั งานเจา้ หนา้ ท่ีในการออกใบจอง ตามคาส่ัง
กระทรวงมหาดไทยที่ ๕๑/๒๕๓๓ ลงวนั ที่ ๑ กุมภาพนั ธ์ ๒๕๓๓ เรื่องการแต่งต้ังพนักงานเจ้าหนา้ ที่
ตามมาตรา ๓๐ และมาตรา ๓๓ แห่งประมวลกฎหมายที่ดินและคาสั่งกระทรวงมหาดไทย ที่ ๑๕๒/๒๕๔๐
ลงวนั ที่ ๑๙มีนาคม๒๕๔๐เร่ืองแต่งต้งั พนกั งานเจา้ หนา้ ที่ ตามมาตรา ๓๐ และมาตรา ๓๓ แห่งประมวลกฎหมายท่ีดิน

๒. การออกใบจองปัจจุบันดาเนิ นการตามกฎกระทรวงฉบับที่ ๔๓ (พ.ศ. ๒๕๓๗)
กล่าวคือ กรณีออกใบจองในทอ้ งท่ีซ่ึงรัฐมนตรียงั ไม่ได้ประกาศยกเลิกอานาจหน้าที่ในการปฏิบัติการ
ตามประมวลกฎหมายท่ีดินของหัวหน้าเขต นายอาเภอหรื อปลดั อาเภอผูเ้ ป็ นหวั หน้าประจาก่ิงอาเภอ
ใหใ้ ชแ้ บบ น.ส.๒ ส่วนในทอ้ งที่อ่ืนใหใ้ ชแ้ บบ น.ส.๒ ก.

๖. การรายงานผล

๖.๑ อาเภอ สานักงานท่ีดิ นจังหวัดสาขารายงานผลการจัดที่ดินและค่าใช้จ่ายเงิน
งบประมาณประจาเดือนตามแบบ จ.ด. ๙ ตอ่ จงั หวดั

๖.๒ จงั หวดั รวบรวม จ.ด. ๙ ส่งกรมที่ดินภายในวันที่ ๕ ของทุกเดือนถัดไปตามแบบ จ.ด. ๑๐
๖.๓ เมื่ออาเภอ สานักงานที่ดินจังหวัดสาขาดาเนินการแจกใบจองแล้ว ใหร้ ายงานผล
การแจกใบจอง (จ.ด. ๑๒) ไปจงั หวดั เพื่อรวบรวมรายงานกรมที่ดินภายในวนั ท่ี ๕ ของเดือนถดั ไปเป็ นประจา
ทกุ เดือนจนกวา่ จะแจกใบจองเสร็จสิ้น
๖.๔ อาเภอ/สานักงานท่ีดินจงั หวดั สาขารายงานผลการปฏิบัติงานประจาปี งบประมาณ
พร้อมสรุปผลการดาเนินการและจดั ทาบญั ชีรายชื่อผไู้ ดร้ บั การแจกใบจอง (จ.ด. ๑๓)

๑๑

ข้ันตอนการจัดท่ีดนิ โครงการอันเนือ่ งมาจากพระราชดาริ
โครงการพัฒนาเพื่อความมนั่ คง โครงการหม่บู ้านป้ องกันตนเองชายแดน

หน่วยงานรับผิดชอบ
 พิจารณากาหนดพ้ืนที่โครงการจดั ที่ดิน
 จดั ทาแผนงาน/โครงการจดั ท่ีดิน

กรมทีด่ ิน
 จดั ทาคาขอต้ังงบประมาณรายจ่ายประจาปี
 จดั ทาคาสั่งแต่งต้ังเจา้ หนา้ ที่ปฏิบัติงาน
 จดั สรรงบประมาณ เครื่องจกั รกล

เจา้ หนา้ ท่ีหน่วยจดั ท่ีดิน รายงานตวั ตอ่ จงั หวดั อาเภอ
และประสานงานส่วนราชการท่ีเกี่ยวขอ้ ง

หนว่ ยจดั ที่ดิน สารวจพ้ืนที่ เพื่อสร้างท่ีพกั ที่ทาการชวั่ คราว

หน่วยจดั ท่ีดินปฏิบตั ิงานจดั ที่ดินตามโครงการ

วางผงั แบ่งแปลง สอบสวนสิทธิ จดั ทาสาธารณูปโภค บุกเบิกปรบั พ้นื ท่ี

หวั หนา้ หน่วยรายงานงบเดือน

เสร็จสิ้นโครงการ หวั หนา้ หนว่ ยเสนอผวู้ า่ ราชการจงั หวดั ขออนุมตั ิปิ ดหนว่ ย

ผวู้ า่ ราชการจงั หวดั อนุมตั ิปิ ดหน่วยและแจ้งกรมที่ดิน

หวั หน้าหนว่ ยส่งมอบพ้นื ที่ใหเ้ จา้ ของโครงการ

๑๒

การจดั ทด่ี ินโครงการอันเน่ืองมาจากพระราชดาริ
โครงการพฒั นาเพื่อความม่ันคง โครงการหมู่บ้านป้ องกันตนเองชายแดน

-----------------------------------------------

๑. การจดั ทาแผนงาน/โครงการ

๑.๑ หน่วยงานที่ รับผิดชอบ เช่น กองทัพภาค สานักงาน กปร. พิจารณากาหนดพ้ืนท่ี
และเป้ าหมายในการจัดที่ดิน ถา้ ที่ดินที่จะจัดทาโครงการมีหน่วยงานท่ีมีอานาจหน้าที่ดูแลรักษาจะต้อง
ประสานงานในการขอเขา้ พ้นื ที่กอ่ น

๑.๒ จดั ทาแผนงาน/โครงการส่งใหก้ รมที่ดิน เพอ่ื จดั ทาแผนยทุ ธศาสตร์
๑.๓ กรมท่ีดินจดั ทาแผนงาน/โครงการและคาขอจัดต้งั งบประมาณรายจ่ายประจาปี
กรณี ท่ีหน่วยงานที่รับผิดชอบโครงการให้การสนับสนุนงบประมาณ ให้จัดส่งแผนงาน /โครงการ
และคาขอจดั ต้งั งบประมาณรายจา่ ยใหห้ นว่ ยงานดงั กลา่ วดว้ ย

๒.การเตรียมการปฏบิ ัติ

เม่ือไดร้ ับอนุมตั ิงบประมาณรายจา่ ยประจาปี ตามแผนงาน/โครงการแล้ว กรมที่ดินจะจัดส่ง
เจา้ หนา้ ท่ีไปปฏิบตั ิงานโดยดาเนินการดงั น้ี

๒.๑ จดั ทาแผนการปฏิบตั ิงานจดั ที่ดิน
๒.๒ จดั ทาคาสั่งแตง่ ต้งั เจา้ หนา้ ท่ีปฏิบตั ิงานโครงการจดั ที่ดิน
๒.๓ จัดทาคาสั่งจัดเคร่ืองจกั รกลและแต่งต้งั เจา้ หนา้ ท่ีดูแลรักษาเครื่องจักรกลประจา
หน่วยจดั ที่ดิน
๒.๔ จดั ทาประมาณการค่าใชจ้ ่ายของหน่วยจดั ที่ดิน

๓. การเตรียมงานในพ้นื ที่

๓.๑ เม่ือเดินทางไปถึงจังหวดั พ้ืนที่ท่ีจะดาเนินงานใหห้ วั หนา้ หน่วยจดั ท่ีดินนาเจา้ หน้าที่
ของหนว่ ยทกุ คนไปรายงานตวั ตอ่ เจา้ พนกั งานท่ีดินจงั หวดั

๓.๒ เจ้าพนักงานท่ีดินจังหวัดนาหัวหน้าหน่วยจัดที่ดินไปรายงานตัวต่อผวู้ ่าราชการจงั หวัด
๓.๓ หัวหน้าหน่วยจัดที่ดินไปพบนายอาเภอ /กานันและผูใ้ หญ่บ้านท้องที่ซ่ึ งท่ีดิ น
น้นั ต้งั อยู่ พร้อมท้ังช้ีแจงวตั ถุประสงค์ของการมาทางานใหท้ ราบและขอความอนุเคราะห์ในเร่ืองต่าง ๆ
เพ่อื ใหก้ ารปฏิบตั ิงานไดส้ าเร็จลลุ ว่ งไปดว้ ยดี
๓.๔ สารวจบริ เวณท่ีจะจัดต้ังที่ทาการหน่วย ท้ังน้ี ใหค้ านึงถึงความปลอดภัยและ
การคมนาคมท่ีจะติดตอ่ กบั อาเภอและจงั หวดั ไดส้ ะดวกรวดเร็วดว้ ย

๑๓

๔. การปฏบิ ัติงานจัดทด่ี ิน

๔.๑ ช่างรังวัดทาการสารวจตรวจสอบรอบแปลงที่ดินโดยสังเขป เพ่ือทราบแนวเ ขต
และระยะโดยประมาณ

๔.๒สารวจภมู ิประเทศและระดบั โดยสงั เขป เพ่ือประกอบการพิจารณาวางผงั จัดแบ่งที่ ดิน
ใหเ้ ป็นท่ีอยอู่ าศยั และที่สาหรบั ประกอบการเกษตรกรรม รวมท้งั การจดั สร้างสาธารณูปโภค

๔.๓ ดาเนินการรงั วดั ทาแผนท่ีและสอบสวนการถือครองท่ีดิน
๔.๔ จดั ทาถนนสายหลกั ถนนสายซอย ขดุ สระน้า และบุกเบิกปรับพ้ืนที่

๕. การรายงานและงบเดือน

๕.๑ การรายงานต่างๆใหร้ ายงานผา่ นเจา้ พนกั งานที่ดินจงั หวดั ทกุ เร่ือง เม่ือเจา้ พนกั งานที่ดินจงั หวัด
เหน็ สมควรแลว้ ใหเ้ สนอผวู้ ่าราชการจงั หวดั เพ่ือส่งไปยงั กรมที่ดิน

๕.๒งบเดือนต่างๆใหท้ าตามแบบ๑,๒,๓ และ ๖ และให้ทาเป็ น๓ ชุดเก็บไว้ ณ หน่วยจดั ที่ดิน
๑ชุด สานกั งานท่ีดินจงั หวดั ๑ ชุด ส่งกรมท่ีดิน ๑ ชดุ

๕.๓ การส่งงบเดือนต้องเสนอเจา้ พนักงานท่ีดินจงั หวัดภายในวันท่ี ๑ ของเดือนถัดไป
และใหจ้ งั หวดั ส่งถึงกรมท่ีดินภายในวนั ที่ ๕ ของเดือนถดั ไป

๖. การปิ ดหน่วยและส่งมอบพ้ืนที่

๖.๑ เมื่อดาเนินการจดั ที่ดินเสร็จสิ้นภารกิจตามแผนงาน/โครงการแล้วใหห้ ัวหนา้ หน่วยจดั ท่ีดิน
ทารายงานการปิ ดหน่วยเสนอผวู้ ่าราชการจงั หวดั เพื่อขออนุมตั ิปิ ดหนว่ ยจดั ที่ดินแล้วส่งรายงานการปิ ดหน่วย
ใหก้ รมที่ดินทราบต่อไป

๖.๒ หัวหน้าหน่วยจัดที่ดินส่งมอบงานพร้อมระวางแผนที่ รายการรังวัดและพ้ืนท่ี
ดาเนินการใหแ้ กส่ ่วนราชการเจา้ ของโครงการรบั ไปดาเนินการต่อไป

๑๔

การออกใบจอง
___________________

เน่ืองจากกฎหมายท่ีใชบ้ งั คบั อยกู่ อ่ นน้ัน เปิ ดโอกาสใหป้ ระชาชนจบั จองเป็ นเจ้าของท่ีดิน
จึงมีประชาชนท่ีมี กาลงั ความสามารถมีโอกาสบุกเบิกก่นสร้างจับจองเป็ นเจ้าของที่ดินอย่างกว้างขวาง
แตก่ ็มีประชาชนอีกจานวนไมน่ อ้ ยที่ยงั ไมม่ ีที่ดินทากินเป็ นของตนเอง ดงั น้ัน เหตุผลสาคญั ในการใชบ้ งั คับ
ประมวลกฎหมายที่ดินประการหน่ึง ก็เพ่ือให้รัฐดาเนินการจัดที่ดินให้แก่ประชาชนท่ียากจน ยงั ไม่มี
ท่ีดินทากินและอยู่อาศยั เป็ นของตนเอง หรือมีน้อยไม่เพียงพอแก่การทากิน พร้อมท้งั ให้ความช่วยเหลือ
จดั สรา้ งสาธารณูปโภคพ้ืนฐาน ให้การช่วยเหลือแนะนาในการปรับปรุงที่ดินและอ่ืน ๆ เพ่ือให้ผูท้ ่ีได้รับ
การจดั ที่ดินสามารถใชท้ ่ีดินใหเ้ กิดประโยชน์มีผลผลิตและรายไดเ้ พียงพอแกก่ ารเล้ียงชีพ

เม่ือไดจ้ ดั ใหบ้ ุคคลใดเขา้ อยอู่ าศยั และทากินในท่ีดินแล้วพนักงานเจา้ หน้าท่ีจะออกใบจอง
ใหไ้ ว้เป็ นหลักฐานก่อน และเม่ือบุคคลที่ได้จัดให้เขา้ ครอบครองท่ีดินได้ทาประโยชน์ และได้ปฏิบัติ
ตามระเบียบ ขอ้ บงั คบั ขอ้ กาหนด และเงื่อนไขท่ีคณะกรรมการจัดท่ีดินแห่งชาติกาหนดโดยครบถ้วนแลว้
กส็ ามารถขอใหอ้ อกหนงั สือแสดงสิทธิในท่ีดินได้

๑. วิธีการออกใบจอง

ประมวลกฎหมายท่ีดินบญั ญตั ิเรื่องการออกใบจองไวใ้ นมาตรา ๓๐ และมาตรา ๓๓ แต่มิได้
กลา่ วถึงวิธีการปฏิบตั ิ ดงั น้นั กระทรวงมหาดไทยจึงไดม้ ีคาสง่ั ที่ ๑๑๕๐/๒๔๙๘ ลงวนั ที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๔๙๘
เรื่ อง การออกใบจองและหนงั สือรับรองการทาประโยชน์ วางระเบียบปฏิบัติว่าด้วยการออกใบจอง
ตามมาตรา ๓๐ และมาตรา ๓๓ แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน นอกจากน้นั คณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติ
ยงั ไดว้ างระเบียบปฏิบตั ิในการออกใบจองตามมาตรา ๓๐ แหง่ ประมวลกฎหมายที่ดิน ไวใ้ นโครงการจดั ท่ีดิน-
เพ่ือประชาชนอยอู่ าศยั และประกอบการทามาหาเล้ียงชีพตามควรแก่อตั ภาพ กล่าวคือ

๑.๑ เม่ือไดจ้ ดั ใหบ้ ุคคลใดเขา้ อยู่อาศัยหรือประกอบการทามาหาเล้ียงชีพในที่ดินแปลงใด
และบคุ คลน้นั ไดป้ ฏิบตั ิตามระเบียบของคณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติแล้ว ให้เจ้าหน้าท่ีในการจัดท่ีดิน
ดาเนินการติดต่อใหพ้ นกั งานเจา้ หน้าท่ีตามความในมาตรา ๓๐ แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ออกใบจอง
ใหบ้ คุ คลน้นั

๑.๒ เมื่อไดม้ ีประกาศให้ประชาชนทราบถึงเขตและที่ต้ังของที่ดินที่จะจดั ให้ประชาชน
จบั จองตามมาตรา ๓๓ แห่งประมวลกฎหมายท่ีดินแล้ว ให้ผู้ประสงค์จะจับจองย่ืนคาขอตามแบบ
ของคณะกรรมการจัดท่ีดินแห่งชาติต่อพนักงานเจา้ หนา้ ที่ โดยปฏิบตั ิตามระเบียบ ข้อบังคับ ขอ้ กาหนด
และเง่อื นไขที่คณะกรรมการจดั ดินแห่งชาติกาหนดไว้

๑๕

เม่ือพนกั งานเจา้ หนา้ ท่ีไดร้ บั คาขอแลว้ ใหด้ าเนินการรังวดั ชนั สูตรสอบสวนและประกาศ
คาขอจบั จองมีกาหนด ๓๐ วนั เม่ือไม่มีการขัดขอ้ งและพิจารณาเห็นสมควรแล้ว จึงดาเนินการออกใบจอง
ใหต้ อ่ ไป

๒.พนกั งานเจ้าหน้าท่ี

เพือ่ ปฏิบตั ิการตามประมวลกฎหมายที่ดิน กระทรวงมหาดไทยได้มีคาสั่ง ที่ ๔๗๗/๒๔๙๘
ลงวันท่ี ๑๓ พฤษภาคม ๒๔๙๘ แต่งต้ังนายอาเภอหรือปลดั อาเภอผูเ้ ป็ นหัวหน้าประจาก่ิงอาเภอท้องท่ี
ซ่ึ งที่ ดิ นน้ันต้ังอยู่เ ป็ นพนักงานเ จ้าหน้าที่ ออกใบจองตามความในมาตรา ๓๐ และมาตรา ๓๓
แห่งประมวลกฎหมายท่ีดิน ต่อมากระทรวงมหาดไทยได้ยกเลิกอานาจหน้าท่ีเก่ียวกบั การปฏิบัติการ
ตามประมวลกฎหมายที่ดินของผอู้ านวยการเขตในกรุงเทพมหานคร และนายอาเภอในบางทอ้ งท่ีตามความ
ในมาตรา ๑๙ แห่งพระราชบัญญตั ิแก้ไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายท่ีดิน (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๒๘
กระทรวงมหาดไทยจึงมีคาส่ัง ท่ี ๕๑/๒๕๓๓ ลงวันที่ ๑ กุมภาพนั ธ์ ๒๕๓๓ แต่งต้ังให้เจ้าพนักงานท่ีดินจงั หวัด
เป็ นพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา ๓๐ และมาตรา ๓๓ แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน เฉพาะในทอ้ งท่ี
ซ่ึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยประกาศยกเลิกอานาจหน้าที่ในการปฏิบตั ิการตามประมวลกฎหมายที่ดิน
ของหวั หนา้ เขต นายอาเภอหรือปลดั อาเภอผเู้ ป็นหวั หนา้ ประจากิ่งอาเภอ

แต่เนื่องจากมีปัญหาเก่ียวกบั เร่ืองพนักงานเจา้ หน้าที่ในการออกใบจองตามมาตรา ๓๐
และมาตรา ๓๓ แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ที่หลายจังหวัดยังปฏิบตั ิไม่เป็ นไปในแนวทางเดียวกัน
กระทรวงมหาดไทยจึงมีคาสัง่ ท่ี ๑๕๒/๒๕๔๐ ลงวนั ที่ ๑๙ มีนาคม ๒๕๔๐ แกไ้ ขคาส่ังกระทรวงมหาดไทย
ที่ ๕๑/๒๕๓๓ลงวนั ที่ ๑กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๓๓ โดยแต่งต้งั ให้เจ้าพนกั งานที่ดินจงั หวัด และหรือเจ้าพนกั งานท่ีดิน
จงั หวดั สาขาแลว้ แตก่ รณี เป็นพนกั งานเจา้ หนา้ ที่ตามมาตรา ๓๐ และมาตรา ๓๓ แห่งประมวลกฎหมายท่ีดิน
เฉพาะในท้องที่ ซ่ึ งรัฐมนตรี ว่าการกระทรวงมหาดไทยประกาศยกเลิกอานาจหน้าที่ในการปฏิบัติการ
ตามประมวลกฎหมายท่ีดินของหวั หนา้ เขต นายอาเภอ หรือปลดั อาเภอผเู้ ป็นหวั หนา้ ประจากิ่งอาเภอ

ส่วนทอ้ งท่ีใดท่ียงั ไมม่ ีประกาศกระทรวงมหาดไทยยกเลิกอานาจหนา้ ท่ีในการปฏิบตั ิการ
ตามประมวลกฎหมายที่ดินของนายอาเภอหรือปลดั อาเภอผูเ้ ป็ นหวั หน้าประจาก่ิงอาเภอ พนักงานเจา้ หน้าท่ี
ออกใบจองในท้องท่ีน้นั ๆ ยงั คงเป็ นผูไ้ ดร้ ับการแต่งต้งั ตามคาสั่งกระทรวงมหาดไทย ท่ี ๔๗๗/๒๔๙๘
ลงวนั ท่ี ๑๓ พฤษภาคม ๒๔๙๘ คือ นายอาเภอหรือปลดั อาเภอผเู้ ป็นหวั หนา้ ประจาก่ิงอาเภอ

๓. แบบใบจอง

แบบใบจองที่ใชใ้ นคร้ังแรก คือแบบ น.ส.๒ ท้ายกฎกระทรวงฉบับที่ ๕ (พ.ศ. ๒๔๙๗)
ลงวันท่ี ๙ ธันวาคม ๒๔๙๗ ซ่ึงออกตามความในพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. ๒๔๙๗

๑๖

ต่อมาไดม้ ีการออกกฎกระทรวงฉบบั ท่ี ๔๓ (พ.ศ.๒๕๓๗) ลงวนั ที่ ๒๒กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๓๗ ให้ยกเลิกกฎกระทรวง
ฉบับที่ ๕ (พ.ศ. ๒๔๙๗) และไดก้ าหนดแบบใบจองข้ึนใหม่ ๒ แบบ คือ แบบ น.ส.๒ และ น.ส.๒ ก.
โดยมีขอ้ แตกตา่ งในการใช้ ดงั น้ี

๓.๑ การออกใบจองในทอ้ งที่ซึ่ งรัฐมนตรียงั ไม่ไดป้ ระกาศยกเลิกอานาจหนา้ ท่ี
ในการปฏิบัติการตามประมวลกฎหมายท่ีดินของหัวหน้าเขต นายอาเภอหรือปลัดอาเภอผเู้ ป็ นหวั หนา้ -
ประจาก่ิงอาเภอ ตามมาตรา ๑๙ แห่งพระราชบญั ญตั ิแกไ้ ขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายท่ีดิน (ฉบับท่ี ๔)
พ.ศ. ๒๕๒๘ ใหใ้ ชแ้ บบ น.ส.๒

๓.๒ การออกใบจองในทอ้ งที่อ่ืนใหใ้ ช้แบบ น.ส. ๒ ก.
ส่วนใบแทนใบจองใหใ้ ช้แบบ น.ส.๒ หรือ น.ส.๒ ก. แลว้ แต่กรณี

๔. การทาทะเบยี น การโอน

ตามคาสั่งกระทรวงมหาดไทย ที่ ๑๑๕๐/๒๔๙๘ ลงวนั ที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๔๙๘ นอกจาก
กาหนดวิธีดาเนินการออกใบจองดงั กล่าวแล้ว ยงั ได้วางระเบียบการจัดทาทะเบียนและการจดทะเบียน
โอนมรดกท่ีดินตามใบจอง ดงั น้ี

๔.๑ การทาทะเบียน
(๑) ใหม้ ีสมดุ บญั ชีรบั คาขอใบจองและหนังสือรับรองการทาประโยชน์โดยใชบ้ ญั ชี

แบบหมายเลข ๖ ลงรวมในเล่มเดียวกนั ไม่ตอ้ งแยกประเภท ให้ทาเป็ น พ.ศ. ต้งั ต้นเลขที่ ๑ เรียงต่อไป
จนส้ิ น พ.ศ. น้ัน ข้ึน พ.ศ. ใหม่ ให้ข้ึนต้นเลขท่ี ๑ ไปใหม่ โดยให้เว้นหน้าและเขียน พ.ศ. ไว้ให้ทราบว่า
เป็น พ.ศ. อะไร บญั ชีหนา้ หน่ึงใหใ้ ชเ้ พยี ง ๕ ราย และใหน้ าเลขที่ในบญั ชีช่องท่ี ๑ มาลงในคาขอช่องฉบบั ที่ .......

(๒) สมุดทะเบียนใบจองหรื อใบเหยียบย่าและหนงั สือรับรองการทาประโยชน์
ใหใ้ ชท้ ะเบียนการครอบครองท่ีดิน ซ่ึงอาเภอหรือกิ่งอาเภอไดล้ งรายการรบั แจง้ การครอบครองที่ดินไว้แล้วน้ัน
ลงต่อกนั ไปแต่ละหมู่บ้าน ตาบล ให้เขียนเล่มท่ีไวท้ ี่ปกหนา้ เป็ นเล่ม ๑ เล่ม ๒ ต่อกนั ไปจนหมดสมุดทะเบียน
ท่ีมีอยใู่ นอาเภอน้นั

โดยท่ีการทาทะเบียนการครอบครองแยกทาเป็ นหมู่ ๆ และเป็ นตาบล ไม่ปะปนกัน
หมู่ใดตาบลใดลงรายการเต็มในเล่มหน่ึง ๆ จาเป็ นจะต้องลงต่อไปในเล่มใด หนา้ ใด ให้เขียนไว้ในแผน่ สุดท้าย
ของหมนู่ ้นั ตาบลน้นั วา่ ยกไปต่อเลม่ ใด หนา้ ใด และในเลม่ ใหม่กใ็ หเ้ ขียนไว้ในแผ่นต้นของหมู่น้นั ตาบลน้ัน
วา่ ยกมาจากเล่มใด หนา้ ใด เพ่อื ใหโ้ ยงถึงกนั และคน้ หาไดง้ า่ ย

(๓) วิธีการกรอกรายการในสมดุ ทะเบียนการครอบครองใหป้ ฏิบตั ิดงั น้ี
(๓.๑) ในกรณีออกใบจองหรือใบเหยียบย่า ใหล้ งสมุดทะเบียนการครอบครอง

เรียงตอ่ ไปตามลาดับเลขท่ีสาหรับท่ีดินในหมู่น้นั ในช่อง ๔ ใหเ้ ขียนว่า “ออกใบจอง” หรือ “ออกใบเหยียบย่า”
แลว้ เซ็นชื่อพนกั งานเจา้ หนา้ ที่พรอ้ มดว้ ยวนั เดือน ปี กากบั ไว้

๑๗

(๓.๒) ในกรณีออกหนังสือรับรองการทาประโยชน์ ให้นาสมุดทะเบียนการครอบครอง
ท่ีมีการออกใบจองหรื อใบเหยียบย่า หรื อท่ีแจ้งการครอบครอง (ส.ค.๑) ไว้น้ัน ๆ มาหมายเหตุ เพ่ิมในช่อง ๔
ว่า “การออกหนงั สือรบั รองการทาประโยชน์” แลว้ เซ็นชื่อพนกั งานเจา้ หนา้ ที่พรอ้ มดว้ ยวนั เดือน ปี กากบั ไว้

(๔) การกรอกเล่ม..........หนา้ .........ของทะเบียนในแบบ น.ส.๒ และแบบ น.ส.๓
ใหใ้ ชเ้ ลขตามสมดุ ทะเบียนการครอบครองน้นั ๆ เช่น เลม่ ๑ หนา้ ๑ เล่ม ๒ หนา้ ๑ เป็นตน้

(๕) การเก็บเอกสารต่าง ๆ ท่ีเกี่ยวกับใบจองหรือใบเหยียบย่าและหนงั สือรับรอง -
การทาประโยชนใ์ หป้ ฏิบตั ิ ดงั น้ี

(๕.๑) ในกรณีออกใบจองหรือใบเหยียบย่า ให้เก็บเอกสารต่าง ๆ รวมไว้ในสารบบ
ส.ค.๑ โดยเกบ็ เรียงเลขท่ีตามลาดบั หมู่บา้ น ต่อจากสารบบ ส.ค. ๑

(๕.๒) ในกรณี หนังสื อรับรองการทาประโยชน์สาหรับที่ดินที่ได้ลงทะเบียน
การครอบครองและมีสารบบ ส.ค. ๑ ไว้แล้ว ให้เก็บเอกสารต่าง ๆ พร้อมหนังสือรับรองการทาประโยชน์
ฉบบั พนักงานเจ้าหนา้ ท่ีรวมไวใ้ นสารบบ ส.ค. ๑ และให้เก็บหนงั สือรับรองการทาประโยชน์ไว้เป็ น แผ่นที่ ๒
ตอ่ จากส.ค.๑หรือใบจอง หรือใบเหยียบย่าแลว้ แตก่ รณี

ส่วนที่ดินที่ไดอ้ อกใบเหยียบย่าไปก่อนวนั ที่พระราชบัญญตั ิใหใ้ ชป้ ระมวลกฎหมายท่ีดิน
พ.ศ. ๒๔๙๗ ใชบ้ งั คบั ใหน้ าเอกสารในสารบบใบเหยียบยา่ เดิมมารวมเก็บไวใ้ นสารบบ ส.ค.๑

(๕.๓) เมื่อไดเ้ ก็บเอกสารต่าง ๆ ไว้ในสารบบใบแจ้งการครอบครองซ่ึงได้เก็บรวม
ตามเลขท่ีของหมบู่ า้ นเป็นหมู่ ๆ และเป็นตาบล ๆ แลว้ เลม่ ..............หน้า............ของสารบบในแบบ น.ส. ๒
และ น.ส. ๓ จึงเป็ นอันไม่ต้องใช้ แต่ให้เขียนหมู่ที่ลงในช่องสารบบ เล่ม .................และเขียนเลขที่
ตามสมุดทะเบียนการครอบครองลงในช่องสารบบหน้า..........ในแบบ น.ส. ๒ ส่วนแบบ น.ส. ๓ ให้เขียนเลขท่ี
ตามทะเบียนครอบครองลงในชอ่ งเล่มโดยแกไ้ ขตามควรแก่กรณี

๔.๒ การโอน
(๑) ในกรณีจดทะเ บีย นโอนมรดกที่ดินตามใบ จองหรือใบเ หยียบย่าก็ดี

จดทะเ บียนโอนที่ดินตามหนังสื อรับรองการทาประโยชน์ก็ดี ให้จดแจ้งการโอนไว้ในหลังใบจอง
หรือใบเหยียบย่าหรือหนังสื อรับรองการทาประโยชน์แล้วแต่กรณี ใหป้ รากฏประเภทการโอน ชื่อผรู้ ับโอน
วนั เดือนปี ท่ีโอนและพนกั งานเจา้ หนา้ ท่ีลงช่ือประทบั ตราประจาตาแหน่งเป็ นสาคัญ ถ้ามีคู่ฉบับก็ให้จดแจง้
ในคู่ฉบบั ดว้ ย

ส่วนสมุดทะเบียนการครอบครองในช่อง ๕ ให้ขีดฆ่าช่ือผถู้ ือเดิมดว้ ยเส้นแดง
แลว้ เขียนชื่อผรู้ บั โอนต่อทา้ ยไปใตช้ ่ือผรู้ ับโอนใหเ้ ขียนอกั ษรย่อประเภทการโอนและวัน เดือน ปี ท่ีโอนกากบั ไว้
ดว้ ยอกั ษรแดง

(๒) ในกรณีขาดอายใุ บจองหรือใบเหยียบย่าหรือเวนคืน ใหข้ ีดฆ่าทะเบียนด้วยเส้นแดง
และหมายเหตวุ ่า “ขาดอาย”ุ หรือ “เวนคืน” ส่วนใบจอง ใบเหยียบย่า และหนังสือรับรองการทาประโยชน์
ใหเ้ รียกเก็บเขา้ สารบบโดยหมายเหตุทานองเดียวกนั ถา้ เรียกเกบ็ ไมไ่ ด้ ใหห้ มายเหตไุ วด้ ว้ ย

๑๘

การส่ังให้ออกจากทดี่ ิน
_______________________

การจดั ท่ีดินมีเจตนารมณ์เพอ่ื ช่วยเหลือประชาชน ซ่ึงไม่มีที่อยูอ่ าศยั และทากินหรือมีน้อย
ไม่เพยี งพอแก่การทากิน ใหม้ ีที่ดินอยูอ่ าศัยและประกอบการทามาหาเล้ียงชีพเป็ นของตนเอง จึงไดก้ าหนด
หลกั เกณฑ์หรือเงื่อนไขไวส้ าหรับผทู้ ่ีประสงค์ขอรับการจัดท่ีดินถือปฏิบตั ิไว้ตามบทบญั ญตั ิมาตรา ๓๒
แหง่ ประมวลกฎหมายที่ดิน และตามระเบียบของคณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติ หากผทู้ ี่ได้รับการจดั ที่ดิน
คนใดไม่ปฏิบตั ิตามท่ีกาหนด ใหอ้ ธิบดีมีอานาจส่งั ใหบ้ คุ คลน้นั ออกไปจากท่ีดินและใหข้ าดสิทธิอนั จะพึงได้
ตามระเบียบ ขอ้ บงั คบั ท้งั หลายทนั ที

กรณีอธิบดีใชอ้ านาจสงั่ ใหอ้ อกจากที่ดินตามบทบญั ญตั ิ มาตรา๓๒ แหง่ ประมวลกฎหมายท่ีดินน้นั
กฎหมายไดก้ าหนดมูลเหตุที่จะใช้อานาจ ไว้กว้าง ๆ คือ บุคคลท่ีได้รับการจัดให้เข้าครอบครองที่ดิน
ไม่ปฏิบตั ิตามระเบียบ ขอ้ บงั คบั ขอ้ กาหนด หรือเงื่อนไขของคณะกรรมการ ส่วนกรณีท่ีอธิบดีใชอ้ านาจส่ัง
ใหอ้ อกจากที่ดิน ตามระเบียบวา่ ดว้ ยการจดั ท่ีดินเพอ่ื ประชาชนในหมวด ๖ เน่ืองจากไม่ทาประโยชน์ในที่ดิน
ตามที่กาหนด การใชอ้ านาจของอธิบดีแตล่ ะกรณีมีขอ้ แตกตา่ งกนั กลา่ วคือ

กรณีอธิบดีใช้อานาจส่ังให้ออกจากที่ดินตามหมวด ๖ ว่าด้วยการทาประโยชน์ในท่ีดิน
และการส้ินสิทธิในท่ีดินตามใบจอง ตามระเบียบ ฯ ขอ้ ๑๕ กาหนดใหผ้ ถู้ ือใบจองเริ่มทาประโยชน์ในท่ีดิน
ที่ได้รับการจัดใหเ้ ข้าครอบครองภายในหกเดือน นับต้งั แต่วันท่ีไดร้ ับใบจอง หากไม่เร่ิมทาประโยชน์
ภายในระยะเวลาท่ีกาหนด ตามระเบียบ ฯ ขอ้ ๑๖ใหเ้ จา้ หนา้ ที่ในการจัดที่ดินสอบสวนรายงานตามลาดับ
ไปยงั อธิ บดีกรมท่ีดิน เพ่ือพิจารณาสั่งให้ผนู้ ้ันออกไปจากที่ดินตามประมวลกฎหมายที่ดิน เมื่อผูน้ ้ัน
ได้รับทราบคาสั่งหรื อควรจะได้รับทราบคาสั่งอธิ บดีกรมท่ีดินแล้ว เป็ นอันขาดสิ ทธิ ในการอยู่อาศัย
หรือประกอบการทามาหาเล้ียงชีพในที่ดินท่ีจดั แบ่งตามใบจองน้ัน เว้นแต่จะมีเหตุผลสมควร ใหเ้ จา้ หน้าท่ี
ในการจดั ที่ดินสอบสวนช้ีแจงเหตผุ ลไปยงั พนกั งานเจา้ หน้าที่ผูอ้ อกใบจองพิจารณา เม่ือพนักงานเจ้าหนา้ ท่ี
พิจารณาอนมุ ตั ิแลว้ ใหม้ ีสิทธิตามใบจองน้นั ต่อไปได้ และใหถ้ ือเสมือนว่าเป็นผรู้ บั ใบจองใหม่

นอกจากกรณี ขาดสิ ทธิ ในที่ดินเพราะเหตุไม่เริ่ มทาประโยชน์ในที่ดินภายในระยะเวลา
ท่ีกาหนดแลว้ ตามระเบียบ ฯ ขอ้ ๑๘ ยงั ใหอ้ ธิบดีพจิ ารณาสง่ั ใหข้ าดสิทธิเพราะเหตุทาประโยชน์ไม่แล้วเสร็จ
ภายใน๓ปี หรือภายในเวลาท่ีคณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติกาหนด เฉพาะส่วนท่ียงั ไม่ไดท้ าประโยชน์อีกด้วย

๑๙

ส่วนกรณีอธิบดีใชอ้ านาจส่ังใหอ้ อกจากท่ีดินตามหมวด ๗ อนั เนื่องมาจากบุคคลท่ีได้รับ
การจดั ที่ดินไม่ปฏิบัติตามข้อบงั คบั ระเบียบ ขอ้ กาหนด หรือเง่ือนไขของคณะกรรมการจดั ท่ีดินแห่งชาติ
ใหเ้ จา้ หนา้ ที่ในการจดั ท่ีดินสอบสวนรายงานตามลาดบั ไปยงั อธิบดีกรมที่ดิน เพื่อพิจารณาสั่งใหบ้ ุคคลน้ัน
ออกไปจากท่ีดิน และเมื่ออธิบดีมีคาสง่ั ดงั กลา่ วแลว้ ใหผ้ ทู้ ่ีไดร้ บั การจดั ท่ีดินน้นั พร้อมด้วยบริวารออกไปจาก
ท่ีดินภายในกาหนดตามคาสง่ั เวน้ แตจ่ ะไดม้ ีการอทุ ธรณ์คาส่ังตามมาตรา๓๒วรรคสอง แห่งประมวลกฎหมายท่ีดิน
จึงใหป้ ฏิบตั ิตามคาส่ังของรฐั มนตรีวา่ การกระทรวงมหาดไทยต่อไป

๑. วิธีดาเนินการ

๑.๑ อาเภอ/กิ่งอาเภอ/สานกั งานที่ดินจังหวัด/สานักงานที่ดินสาขาทอ้ งที่ที่ที่ดินน้ันต้ังอยู่
แล้วแต่กรณี เห็นว่าผถู้ ือใบจองรายใดไม่ปฏิบัติตามระเบียบ ข้อบังคับ ข้อกาหนด หรือเงื่อนไขของ
คณะกรรมการ ใหส้ อบสวนผถู้ ือใบจองแต่ละรายถึงสาเหตุการไม่ปฏิบัติหรือการทอดท้ิงไม่ทาประโยชน์
หรือทาประโยชน์ไม่แล้วเสร็จเพราะเหตุใด ต้งั แต่เมื่อใด ในกรณีที่ไม่สามารถสอบสวนผูถ้ ือใบจอง
ไดใ้ หส้ อบสวนผปู้ กครองทอ้ งท่ีแทน

๑.๒ใหอ้ าเภอ/ก่ิงอาเภอ/สานกั งานท่ีดินสาขาเสนอความเหน็ พรอ้ มกบั ส่งใบจองและสารบบใบจอง
และเอกสารที่เกี่ยวขอ้ งใหจ้ งั หวดั พจิ ารณา

๑.๓ เม่ือจงั หวดั (สานกั งานท่ีดินจงั หวดั ) มีความเหน็ ประการใด ก็ใหเ้ สนอความเห็นพร้อม
เอกสารเรื่องราวใหผ้ วู้ ่าราชการจงั หวัดพิจารณา (อธิบดีไดม้ อบอานาจใหผ้ วู้ ่าราชการจังหวัดปฏิบัติราชการแทน)

กรณีที่จ งั ห ว ัดเ ห็น คว รสั่งให ผ้ ูถ้ ือใ บ จองออกไปจากที่ดิ นตามมาต รา ๓๒
แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ใหจ้ ดั ทาคาสัง่ เสนอไปดว้ ย

๑.๔ เม่ือผวู้ า่ ราชการจงั หวัดพิจารณาเห็นควรใหผ้ ูถ้ ือใบจองออกไปจากที่ดินและลงนามคาส่ัง
ดงั กลา่ วแลว้ ใหจ้ งั หวดั แจง้ อาเภอ/ก่ิงอาเภอ/สานกั งานที่ดินสาขา เพื่อดาเนินการตอ่ ไป

๑.๕ ใหอ้ าเภอ/กิ่งอาเภอ/สานกั งานท่ีดินสาขา แจง้ ใหผ้ ถู้ ือใบจองทราบและปฏิบัติตามคาส่ัง
และใหแ้ จง้ ไปดว้ ยวา่ คาส่ังอธิบดีดงั กล่าวเป็นคาสง่ั ทางปกครอง หากผถู้ ือใบจองไม่พอใจก็มีสิทธิย่ืนอุทธรณ์
ต่อรัฐมนตรีวา่ การกระทรวงมหาดไทยไดภ้ ายในกาหนดสามสิบวนั นบั แต่วันที่ไดร้ ับคาสั่ง ตามมาตรา ๓๒
วรรคสอง แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน

๒. ผู้มีอานาจออกคาส่ั ง

เพ่ือใหก้ ารปฏิบัติราชการเก่ียวกับการออกคาสั่งใหผ้ ูท้ ่ีได้รับการจัดเขา้ ครอบครองที่ดิน
ตามมาตรา ๓๐ และมาตรา ๓๓ แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ออกไปจากท่ีดินและให้ขาดสิทธิอนั จะพึงได้
ตามระเบียบ ข้อบังคับท้ังหลายตามความในมาตรา ๓๒ แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ดาเนินไปด้วย
ความสะดวกรวดเร็ว อธิ บดีกรมที่ดินได้มีคาสั่ง ที่ ๒๒๔๔/๒๕๓๕ ลงวันท่ี ๒๘ ธันวาคม ๒๕๓๕
มอบอานาจให้ผวู้ ่าราชการจังหวัดเป็ นผู้ปฏิบัติราชการแทนในการออกคาส่ังให้ผูม้ ีสิ ทธิ ตามใบจอง

๒๐

ซ่ึงไดร้ บั อนุญาตจากพนกั งานเจา้ หนา้ ที่ใหเ้ ขา้ ครอบครองที่ดินตามมาตรา ๓๐ หรือได้รับอนุญาตให้จับจองที่ดิน
ตามมาตรา ๓๓ แห่งประมวลกฎหมายท่ีดิน ที่ไม่ปฏิบัติตามระเบียบ ข้อบงั คับ ข้อกาหนด หรื อเง่ือนไข
ของคณะกรรมการจัดท่ีดินแห่งชาติ ออกไปจากที่ดินท่ีรัฐจัดให้ตามใบจองและใหข้ าดสิทธิอันพึงจะได้
ตามระเบียบ ข้อบังคับท้งั หลายทันที สาหรับที่ดินที่อยใู่ นเขตจงั หวดั น้ัน ๆ โดยคาส่ังดังกล่าว มีผลต้งั แต่
วนั ที่ ๔ มกราคม ๒๕๓๖ เป็นตน้ ไป

ต่อมาอธิบดีเห็นว่า คณะรัฐมนตรี ไดม้ ีมติเม่ือวันท่ี ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๔๖ เห็นชอบ
เร่ืองการมอบอานาจใหผ้ วู้ า่ ราชการจงั หวดั แบบบรู ณาการ เพ่อื ใหก้ ารบริหารงานเป็ นไปอยา่ งมีประสิทธิภาพ
ต้งั แต่วนั ที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๔๖ เป็ นต้นไป ตามข้อเสนอของสานักงานคณะกรรมการพฒั นาระบบราชการ
(ก.พ.ร.) ได้แก่ เร่ื องการมอบอานาจด้านการส่ังการ การอนุญาต การอนุมัติ และการปฏิบัติ ราชการ
หรื อการดาเนินการอ่ืน ๆ ด้านการบริ หารงานบุคคล และด้านการบริ หารงบประมาณ ดังน้ัน เพ่ือให้
การบริ หารงานแบบบูรณาการของผู้ว่าราชการจังหวดั เป็ นไปอย่างมีประสิ ทธิ ภาพ คล่องตวั รวดเร็ว
สามารถบริ หารงานแก้ไขปัญหาพฒั นาพ้ืนที่ได้อยา่ งมีประสิทธิ ภาพ และตอบสนองความต้องการ
ของประชาชน อาศยั อานาจตามความในมาตรา ๓๘ (๗) แห่งพระราชบญั ญตั ิระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน
พ.ศ.๒๕๓๔และที่แกไ้ ขเพ่ิมเติมและหนังสือสานกั งาน ก.พ.ร. ที่ นร ๑๒๐๓/ว ๒ ลงวนั ที่ ๒๒ กันยายน ๒๕๔๖
อธิ บดีจึงมีคาสั่ง ที่ ๒๑๘๕/๒๕๔๖ ลงวันท่ี ๒๔ ตุลาคม ๒๕๔๖ มอบอานาจให้ผวู้ ่าราชการจังหวัด
ทกุ จงั หวดั ปฏิบตั ิราชการแทนอธิบดีกรมท่ีดินในการออกคาส่ังตามมาตรา ๓๒ แหง่ ประมวลกฎหมายที่ดิน

๒๑

การอุทธรณ์คาสั่งอธิบดี
_______________

แม้กฎหมายจะให้อธิ บดีมีอานาจส่ังให้ผูท้ ่ีได้รับการจดั ท่ีดินซ่ึงไม่ปฏิบตั ิตามระเบียบ
ข้อบงั คับ ขอ้ กาหนด หรือเงื่อนไขของคณะกรรมการจัดที่ ดินแห่งชาติ ออกไปจากที่ดินที่รัฐจดั ให้
และใหข้ าดสิทธิอนั จะพึงได้ตามระเบียบ ข้อบังคับท้งั หลายทันที ตามความในมาตรา ๓๒ แห่งประมวล-
กฎหมายที่ดินแต่เพ่ืออานวยความเป็ นธรรม จึงให้ผทู้ ่ีได้รับการจัดที่ดินสามารถใช้สิ ทธิ อุทธรณ์ได้
ตามมาตรา ๓๒ วรรคสองโดยยน่ื อทุ ธรณ์ต่อรฐั มนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยภายในกาหนด ๓๐ วัน นับต้งั แต่
วนั ท่ีบุคคลน้ันไดร้ ับทราบคาส่ังของอธิบดี เมื่อได้ย่ืนอุทธรณ์ภายในกาหนดแล้วรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
จะตอ้ งวินิจฉยั และส่งั การอยา่ งใดอยา่ งหน่ึงว่าจะใหบ้ ุคคลน้นั มีสิทธิในที่ดินน้นั ตอ่ ไปหรือใหข้ าดสิทธิตามคาสั่ง
ของอธิบดีกรมที่ดินภายใน๖๐วนั นบั แต่วนั ท่ีไดร้ ับอุทธรณ์ ถ้ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยมิไดว้ ินิจฉัย
สั่งการอย่างใดอย่างหน่ึงภายในกาหนดดงั กล่าว ก็ให้ถือว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยส่ังใหบ้ ุคคลน้ัน
มีสิ ทธิ ในท่ีดินน้นั ต่อไป ในกรณีเช่นน้ีหรื อในกรณีรัฐมนตรี ว่าการกระทรวงมหาดไทยสั่งให้มีสิ ทธิ
ครอบครองที่ดินต่อไปก็ให้ถือเส มือนว่าเป็ นผู้รับใบจองใหม่ ซ่ึ งจะต้องปฏิบัติตามระเ บียบของ
คณะกรรมการจัดท่ีดินแห่งชาติ หากผูม้ ีสิทธิในที่ดินไม่ปฏิบตั ิตาม อธิบดีกรมที่ดินก็มีสิทธิจะออกคาสั่ง
ใหอ้ อกไปจากท่ีดินตามมาตรา ๓๒ แห่งประมวลกฎหมายที่ดินไดอ้ ีก การอุทธรณ์ตามมาตรา ๓๒ วรรคสอง
แหง่ ประมวลกฎหมายท่ีดินดงั กลา่ ว เม่ือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มีคาส่ังอย่างใดอยา่ งหน่ึงแล้ว
ใหถ้ ือวา่ เป็นท่ีสุด

๑. วิธีดาเนนิ การ
เพื่อใหก้ ารพิจารณาอุทธรณ์ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยตามความในมาตรา ๓๒

แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน เป็นไปโดยสะดวกและรวดเร็ว กระทรวงมหาดไทยไดม้ ีคาส่ัง ที่ ๑๓๓๑/๒๕๐๗
ลงวนั ที่ ๙ พฤศจิกายน ๒๕๐๗ วางระเบียบปฏิบตั ิวา่ ดว้ ยการย่นื อทุ ธรณ์ ดงั น้ี

๑.๑ ให้ผมู้ ีสิทธิอุทธรณ์ยื่นอุทธรณ์เป็ นหนงั สือต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
โดยยน่ื ตอ่ นายอาเภอทอ้ งที่หรือปลดั อาเภอผเู้ ป็นหวั หนา้ ประจากิ่งอาเภอท้องท่ีซ่ึงท่ีดินน้ันต้ังอยูแ่ ลว้ แต่กรณี
และเม่ือไดร้ บั อุทธรณ์แลว้ ใหน้ ายอาเภอหรือปลดั อาเภอผเู้ ป็นหวั หนา้ ประจากิ่งอาเภอน้ันรีบทาการสอบสวน
เพ่ิมเติมเพื่อหาข้อเท็จจริงตามคาร้องโดยด่วน และบันทึกความเห็นเสนอเร่ื องท้ังหมดให้ถึงจังหวัด
ภายในสิบหา้ วนั นบั แตว่ นั ไดร้ ับอทุ ธรณ์

๑.๒ ในการรับอุทธรณ์ดงั กล่าวในข้อ ๑.๑ ให้เจา้ หน้าที่อาเภอหรือก่ิงอาเภอแลว้ แต่กรณี
ลงบญั ชีรบั หนงั สือตามระเบียบงานสารบรรณ เพ่ือเป็นหลกั ฐานวา่ ไดร้ บั อุทธรณ์วนั ใด

๒๒

๑.๓ เมื่ อจังหวัดได้รับอุทธรณ์และเร่ื องราวท้ังหมดจากอาเภอหรื อก่ิงอาเภอดังกล่าว
ในข้อ ๑.๑ แล้ว ให้รีบพิจารณาเป็ นเร่ืองด่วนมาก และจดั ส่งอุทธรณ์พร้อมด้วยความเห็นและเรื่ องท้งั หมด
ไปกรมที่ดินภายในสิบหา้ วนั นบั แต่วนั ที่ไดร้ ับเรื่องจากอาเภอ หรือกิ่งอาเภอ แลว้ แต่กรณี

๑.๔ การจดั ส่งเอกสารเกี่ยวกบั เรื่องน้ี ใหจ้ ดั ส่งโดยทางไปรษณียล์ งทะเบียน
หมายเหตุ ท้อง ท่ี ใดท่ี มี ประกา ศกระทรว งมห าดไทยยกเ ลิ ก อานาจหน้าที่ ใ นการปฏิ บัติ กา ร
ตามประมวลกฎหมายท่ีดินของนายอาเภอหรือปลัดอาเภอผูเ้ ป็ นหวั หนา้ ประจากิ่งอาเภอ การยื่นอุทธรณ์ดังกล่าว
ใหย้ น่ื ตอ่ เจา้ พนกั งานที่ดินจงั หวดั หรือเจา้ พนกั งานท่ีดินจงั หวดั สาขาที่ที่ดินต้งั อยแู่ ลว้ แต่กรณี

๒. การนบั ระยะเวลาอทุ ธรณ์
เนื่องจากมีปัญหาทางปฏิบัติ กรณีท่ีอธิบดีกรมที่ดินมีคาสั่งตามมาตรา ๓๒ วรรคหน่ึง

แห่งประมวลกฎหมายที่ดินใหบ้ คุ คลซ่ึงเขา้ ครอบครองที่ดินที่รัฐจดั ใหร้ าษฎรเพ่อื เป็ นที่อยอู่ าศยั และทามาหาเล้ียงชีพ
ออกจากที่ดินที่ไดร้ ับอนุญาตใหค้ รอบครอง และบุคคลน้นั อุทธรณ์คาส่ังของอธิบดีกรมท่ีดินตามมาตรา ๓๒
วรรคสอง แห่งประมวลกฎหมายที่ดิ น โดยปฏิ บัติตามคาสั่งกระทรวงมหาดไทย ท่ี ๑๓๓๑/๒๕๐๗
เร่ืองการยื่นอุทธรณ์ต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยตามความใน มาตรา ๓๒ แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน
ลงวนั ท่ี ๙ พฤศจิกายน ๒๕๐๗ กรมที่ดินจึงขอให้สานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาให้ความเห็นว่า
การยื่นอุทธรณ์ต่อนายอาเภอท้องที่ซ่ึงท่ีดินน้นั ต้ังอยู่ จะตอ้ งนับระยะเวลาวินิจฉัยอุทธรณ์ของรัฐมนตรี -
ว่าการกระทรวงมหาดไทยต้งั แต่เม่ือใด

สานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกามีหนงั สือดว่ นที่สุดท่ี นร๐๖๐๑/๑๓๓ ลงวันท่ี ๒๑มกราคม๒๕๓๕
เหน็ วา่ การท่ีมาตรา๓๒วรรคสองไดก้ าหนดให้ถือว่าถ้ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยมิไดว้ ินิจฉยั อุทธรณ์
ภายใน ๖๐ วนั นบั แตว่ นั ไดร้ ับอุทธรณ์ บคุ คลน้นั มีสิทธิครอบครองที่ดินตอ่ ไปน้นั เป็ นการเร่งรัดใหร้ ัฐมนตรี
ตอ้ งสง่ั การโดยเร็วภายในระยะเวลาท่ีกฎหมายกาหนดไวเ้ ท่าน้นั ดงั น้ันเม่ือปรากฏว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ไดอ้ อกคาส่ังกระทรวงมหาดไทยที่ ๑๓๓๑/๒๕๐๗ เร่ือง การอุทธรณ์ต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ตามความในมาตรา ๓๒ แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ลงวันที่ ๙ พฤศจิกายน ๒๕๐๗ กาหนดให้ผมู้ ีสิทธิอุทธรณ์
ยื่นอุทธรณ์ตอ่ นายอาเภอทอ้ งท่ีหรือปลดั อาเภอผเู้ ป็นหวั หนา้ ประจาก่ิงอาเภอทอ้ งท่ีซ่ึงที่ดินน้นั ต้ังอยแู่ ละให้มี
การลงบัญชีรับเพ่ือเป็ นหลักฐานว่ารับอุทธรณ์วันใด จึงต้องถือว่ารัฐมนตรี ว่าการกร ะทรวงมหาดไทย
มอบหมายใหน้ ายอาเภอ ฯ หรือปลดั อาเภอ ฯ รับอุทธรณ์แทน และจะต้องเริ่มนบั ระยะเวลาวินิจฉัยอุทธรณ์
ต้งั แตว่ นั ที่นายอาเภอฯหรือปลดั อาเภอฯดงั กล่าวรบั อทุ ธรณ์เป็นตน้ ไป

๒๓

การเพกิ ถอนและจาหน่ายใบจอง
-----------------------------

ใบจองเป็ นหนังสือแสดงการยอมให้เข้าครอบครองที่ดินช่ัวคราว ซ่ึ งกฎหมายกาหนดให้
พนกั งานเจา้ หนา้ ที่ออกใหแ้ กบ่ คุ คลท่ีไดร้ บั การจดั ใหค้ รอบครองท่ีดินของรัฐ หรือบุคคลท่ีไดร้ ับอนุญาตให้จบั จอง
ที่ดินตามความในมาตรา๓๐ และมาตรา๓๓ แห่งประมวลกฎหมายท่ีดินโดยปฏิบตั ิตามระเบียบว่าดว้ ยการจดั ที่ดิน-
เพื่อประชาชนการออกใบจองบางแปลงอาจจาเป็ นต้องมีการเพิกถอนหรือจาหน่าย ดังน้นั กรมท่ีดินจึงได้กาหนด
ระเบียบเกี่ยวกับการเพิกถอนและจาหน่ายใบจองออกจากทะเบียนที่ดิน กรณีท่ีไดม้ ีการออกใบจองไปโดยมิชอบ
และกรณีผถู้ ือใบจองไม่ปฏิบตั ิตามระเบียบข้อบังคบั ข้อกาหนดหรื อเง่ือนไขของคณะกรรมการจดั ท่ีดินแห่งชาติ
ซ่ึงจะต้องส่ังให้ออกไปจากที่ดินตามมาตรา ๓๒ แห่งประมวลกฎหมายที่ดินไว้ตามระเบียบกรมท่ีดิน
ว่าดว้ ยการเพิกถอนและจาหนา่ ยใบจองออกจากทะเบียนที่ดิน พ.ศ. ๒๕๒๗

๑. การเพิกถอนใบจอง

เม่ือปรากฏขอ้ เทจ็ จริงแก่พนกั งานเจา้ หนา้ ที่ว่า ไดอ้ อกใบจองไปโดยไม่ชอบด้วยระเบียบ
วา่ ดว้ ยการจดั ที่ดินเพือ่ ประชาชน พ.ศ. ๒๔๙๗ หมวด ๒ หมวด ๓ และหมวด ๔ ใหด้ าเนินการ ดงั น้ี

๑.๑ ให้พนกั งานเจ้าหน้าท่ีผอู้ อกใบจองทาการสอบสวนพยานหลักฐานและมีหนงั สื อ
แจ้งใหผ้ ูถ้ ือใบจองทราบ พร้อมกับขอให้ส่งใบจองและเอกสารอื่น (ถ้ามี) คืนมาเพ่ือทาการเพิกถอน
โดยใหส้ ่งหนงั สือแจง้ ทางไปรษณียล์ งทะเบียนตอบรับตามที่อยูท่ ่ีปรากฏหลกั ฐานทางสานักงานที่ดินอาเภอ
หรือกิ่งอาเภอแลว้ แตก่ รณี หากไม่สามารถแจง้ ใหท้ ราบได้ ก็ใหส้ ่งตามท่ีอยทู่ ี่พนักงานเจา้ หน้าที่สอบถาม
ไดค้ วามจากนายทะเบียนอาเภอ หรือนายอาเภอทอ้ งท่ีแลว้ แต่กรณีอีกคร้ังหน่ึง

๑.๒ ในกรณีที่ไม่อาจเรียกใบจองมาดาเนินการได้ ให้ถือว่าใบจองสูญหายให้พนักงานเจ้าหน้าที่
ดาเนินการออกใบแทนใบจอง ตามกฎกระทรวงฉบับที่ ๔๓ (พ.ศ. ๒๕๓๗) ข้อ ๑๗ โดยอนุโลมแต่ไม่ต้อง
สอบสวนและใหถ้ ือว่าหนงั สือแจง้ ตาม ขอ้ ๑.๑ เป็นคาขอออกใบแทน

๑.๓ เม่ือไดร้ บั ใบจองหรือได้ออกใบแทนใบจองตาม ข้อ ๑.๒ แลว้ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่
ผอู้ อกใบจองมีคาสั่งเพิกถอนใบจอง พร้อมกบั ใหห้ มายเหตุดว้ ยวิธีขีดเส้นคู่ขนานลงบนดา้ นหน้าใบจอง
แลว้ เขียนดว้ ยอกั ษรสีแดงวา่ “ใบจองฉบบั น้ีไดเ้ พิกถอนตามคาสั่งนายอาเภอหรือปลดั อาเภอผเู้ ป็ นหวั หน้า-
ประจาก่ิงอาเภอทอ้ งที่ หรือเจา้ พนกั งานที่ดินจงั หวดั หรือเจา้ พนกั งานท่ีดินจงั หวดั สาขา...................................
ลงวนั ท่ี................เดือน.................พ.ศ. .....................” และใหพ้ นักงานเจา้ หน้าที่ลงช่ือพร้อมด้วย วัน เดื อน ปี
กากบั ไว้ แลว้ นาคาสงั่ เพิกถอนใบจองรวมไวใ้ นสารบบท่ีดินแปลงน้นั

๒๔

๑.๔ เม่ือได้ดาเนินการตาม ข้อ ๑.๓ แล้ว ให้พนักงานเจ้าหนา้ ท่ีหมายเหตุการเพิกถอน
ตามขอ้ ๑.๓ ในทะเบียนการครอบครองที่ดินด้วยอักษรสีแดงไว้ด้วย แล้วรายงานการเปล่ียนแปลง
ทางทะเบียนใหก้ รมที่ดินทราบเพื่อแก้ไขทะเบียนการครอบครองที่ดินให้ถูกตอ้ งตรงกัน พร้อมท้ังแจ้งให้
ผถู้ ือใบจองทราบถึงการเพกิ ถอนใบจองดงั กล่าวดว้ ย ท้งั น้ี ใหแ้ จง้ ตามวิธีการเช่นเดียวกบั ขอ้ ๑.๑

๒. การจาหน่ายใบจอง

ในกรณีท่ีผถู้ ือใบจองไม่เร่ิมทาประโยชน์ในท่ีดินที่จดั แบ่งใหภ้ ายในหกเดือนนบั แต่ได้รับใบจอง
หรือในกรณีที่ไมป่ ฏิบตั ิตามขอ้ บงั คบั ระเบียบ ขอ้ กาหนด หรือเง่ือนไขของคณะกรรมการจัดท่ีดินแห่งชาติ
ตามนยั แห่งหมว ด ๖ และหมว ด ๗ ของระเ บียบว่าดว้ ยการจดั ท่ีดินเพื่อประชาชน พ.ศ. ๒๔๙๘
ซ่ึงพนกั งานเจ้าหนา้ ท่ีสอบสวนแล้วเห็นควรเสนอไปยงั อธิบดีกรมที่ดิน เพ่ือพิจารณาส่ังใหผ้ นู้ ้นั ออกไป
จากที่ดินและใหส้ ้ินสิทธิในท่ีดินตามมาตรา ๓๒ แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ใหพ้ นกั งานเจา้ หนา้ ท่ีผอู้ อกใบจอง
ดาเนินการดงั น้ี

๒.๑ ใหพ้ นกั งานเจา้ หนา้ ที่แจง้ รายชื่อผถู้ ือใบจองท่ีไม่ปฏิบัติตามระเบียบและส่งสานวน
การสอบสวนท้งั หมดพรอ้ มท้งั ความเหน็ ไปยงั ผวู้ า่ ราชการจงั หวดั (ผใู้ ชอ้ านาจแทนอธิบดี)

๒.๒ เม่ื อผู้ว่าราชการจังหวัดได้มี คาส่ังให้ผู้ถื อใบจองน้ันออกไปจากท่ีดิ นแล้วให้
พนกั งานเจา้ หนา้ ที่ส่งสาเนาคาสงั่ ใหผ้ ถู้ ูกส่ังใหอ้ อกจากที่ดินทราบ โดยส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับ
ตามท่ีอยู่ท่ีปรากฏหลักฐานที่สานักงานที่ดินอาเภอหรือก่ิงอาเภอ เช่น ใบสารบบท่ีดินหรื อตามที่อยู่ที่
ผู้ถือใบจองแจ้งการเปล่ียนแปลงหรื อการยา้ ยท่ี อยู่ไว้เป็ นลายลักษ ณ์อักษรต่อพนักงานเจ้าหน้าที่
หากไมส่ ามารถแจง้ ใหท้ ราบได้ ใหส้ ่งตามท่ีอยทู่ ่ีพนกั งานเจา้ หนา้ ที่สอบถามไดค้ วามจากนายทะเบี ยนอาเภอ
หรื อนายทะเบียนท้องที่แล้วแต่กรณีอีกคร้ังหน่ึง ในกรณี ไม่อาจส่งสาเนาคาสั่งดังกล่าวให้ทราบได้
ใหพ้ นกั งานเจา้ หน้าท่ีปิ ดคาสั่งไว้ในที่เปิ ดเผย ณ ท่ีว่าการอาเภอหรือกิ่งอาเภอท้องท่ี ซ่ึงท่ีดินน้ันต้งั อยู่
และในบริเวณท่ีดินตามใบจองน้ัน อีกฉบบั หน่ึง โดยใหม้ ีพยานรู้เห็นการปิ ดสาเนาคาส่ังอย่างน้อย ๒ คน
กบั ใหบ้ นั ทึกถอ้ ยคาพยานเป็นหลกั ฐานติดเร่ืองไวด้ ว้ ย

๒.๓ เมื่อได้ดาเนิ นการตามข้อ ๒.๒ แล้ว ให้พนักงานเจ้าหน้าที่จาหน่ายใบจอง
โดยปฏิบตั ิเชน่ เดียวกนั การเพกิ ถอนใบจอง ขอ้ ๑.๑ - ขอ้ ๑.๔

ระเบยี บ คาส่ัง

๒๕

โครงการ
จัดทด่ี ินเพ่ือประชาชนอย่อู าศัย และประกอบการทามาหาเลยี้ งชีพ

ตามควรแก่อัตภาพ

อาศยั อานาจตามความในมาตรา๒๐(๑)แห่งประมวลกฎหมายที่ดินคณะกรรมการจดั ที่ดินแห่งชาติ
กาหนดโครงการจดั ท่ีดิน เพอ่ื ประชาชนอยอู่ าศยั และประกอบการทามาหาเล้ียงชีพตามควรแกอ่ ตั ภาพ ดงั ตอ่ ไปน้ี

ส่วนท่ี ๑
การสารวจท่ดี ิน

ขอ้ ๑.ในกรณีท่ีคณะกรรมการฯยงั ไม่ได้จัดใหม้ ีการสารวจท่ีดินเพื่อพิจารณาวางโครงการจดั ที่ดิน
ตามความในมาตรา ๒๕ แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ใหจ้ ังหวัดพิจารณาวางโครงการจัดที่ดินของแต่ละ
จงั หวดั ข้ึนไว้ โดยดาเนินการดงั ตอ่ ไปน้ี

๑. ใหส้ ั่งนายอาเภอทุกอาเภอจดั การสารวจที่ดินของรัฐในเขตท้องท่ีเพื่อทราบถึงรายการ
ดงั ต่อไปน้ี

ก. เขตและเน้ือที่ของ
(๑) ที่ดินซ่ึงมิไดม้ ีบุคคลใดมีสิทธิครอบครอง และมิใช่สาธารณสมบัติของแผน่ ดิน

อนั ราษฎรใชป้ ระโยชนร์ ่วมกนั หรือมิใช่ที่สงวนหวงหา้ ม หรือมิใชท่ ี่เขา ท่ีภเู ขา
(๒) ที่ดินอันเป็นสาธารณสมบตั ิของแผน่ ดิน ท่ีราษฎรไดเ้ คยใชป้ ระโยชน์ร่วมกนั

แต่ปรากฏว่าราษฎรมิไดใ้ ชป้ ระโยชนต์ ่อไปแลว้ หรือรฐั หาท่ีดินอ่ืนให้ราษฎรใชป้ ระโยชน์ร่วมกนั แทนแลว้
(๓) ที่ดินซ่ึงมีผเู้ วนคืนสิทธิในที่ดินใหแ้ กร่ ฐั หรือทอดทิ้งไม่ทาประโยชน์หรือปล่อย

ใหเ้ ป็นที่รกรา้ งว่างเปลา่ ตกเป็นของรฐั ตามประมวลกฎหมายท่ีดิน
ข. ท่ีต้งั ของท่ีดิน อยทู่ ้องท่ีตาบลใด ห่างไกลจากทางคมนาคมท้ังทางบกและทางน้ า

เพยี งใด ห่างไกลจากท่ีชุมนุมชนเพยี งใด
ค. ลกั ษณะของที่ดิน มีความอุดมสมบูรณ์หรือความแหง้ แล้งประการใด เหมาะสาหรับ

ใชท้ าประโยชน์อยา่ งใด สมควรที่ทางราชการจะสงวนไว้เพ่ือทรัพยากรธรรมชาติ หรื อเพ่ือประโยชน์
ของสาธารณชน หรือเพื่อประโยชนใ์ นราชการอยา่ งใด เพียงใด

ง. มีภยั ธรรมชาติ อาทิเช่น ไขจ้ บั สั่นหรือไม่
๒. เม่ือได้จดั การสารวจท่ีดินแลว้ ให้นายอาเภอจดั ทาแผนท่ีสังเขปแสดงภูมิประเทศ
และแนวเขตข้ึนไวเ้ ป็นแห่ง ๆ กบั ให้ทาบญั ชีสารวจที่ดินตามแบบทา้ ยโครงการน้ีเสนอไปยงั ผูว้ ่าราชการจงั หวดั
การพิจารณาเสนอดงั กลา่ วน้ี เม่ือกระทาแลว้ เม่ือมีการเปลี่ยนแปลงประการใดก็ใหพ้ จิ ารณาเสนอใหม่ได้

๒๖

ส่วนท่ี ๒
การเลอื กที่ดิน

ข้อ ๒. เมื่อผวู้ ่าราชการจังหวัดได้รับแผนที่สังเขปและบญั ชีสารวจจากนายอาเภอแล้ว
ให้จดั ต้ังคณะกรรมการข้ึนพิจารณาเลือกที่ดิน เพื่อจดั ให้ราษฎรจบั จอง หรื อจัดให้อยู่อาศัยและประกอบ
การทามาหาเล้ียงชีพประกอบดว้ ยผวู้ ่าราชการจังหวัดเป็ นประธานกรรมการ ป่ าไม้จงั หวัด กสิ กรรมจงั หวดั
นายช่างเขตหรือแขวงการทาง สหกรณ์จังหวัด สหกรณ์ท่ีดิน นายอาเภอท้องท่ีซ่ึงที่ดินน้นั ต้งั อยู่ เจ้าหนา้ ที่-
ฝ่ ายการเกษตรและอื่นๆ ท่ีเก่ียวขอ้ งตามสมควรเป็ นกรรมการ ถ้าในท้องท่ีใดอย่ใู นเขตชลประทานหรื อ
ในจังหวัดใดมีเจา้ หน้าที่กรมชลประทานประจาอยู่ ก็ให้ต้ังเจา้ หน้าที่กรมชลประทานเป็ นกรรมการร่วมด้วย
และใหต้ ้งั เจา้ พนกั งานท่ีดินจงั หวดั เป็นกรรมการและเลขานุการ ถา้ จงั หวดั ใดไม่มีเจา้ พนกั งานท่ีดินจงั หวดั ก็ให้
ต้งั ปลดั จงั หวดั เป็นกรรมการและเลขานุการ

ขอ้ ๓. ใหค้ ณะกรรมการมีหนา้ ที่พิจารณาคดั เลือกท่ีดินตามหลกั เกณฑ์ ดงั น้ี
ก. ท่ีดินซ่ึ งไม่ควรจดั ให้ประชาชนจับจองหรื อจัดให้อยูอ่ าศัย และประกอบ

การทามาหาเล้ียงชีพเป็นนิคม คือ
(๑) ท่ีดินท่ีออกโฉนดที่ดินตามประมวลกฎหมายที่ดินไม่ได้ นอกจากท่ีดิน

ตามขอ้ ๑ (ก) (๒)
(๒) ที่ดินซ่ึงทบวงการเมืองอาทิ กระทรวงกลาโหม กระทรวงคมนาคม กรมป่ าไม้

และกรมโลหะกิจ มีความประสงค์จะสงวนไวใ้ ชร้ าชการ หรือเพื่อทรพั ยากรธรรมชาติ
(๓) ที่ดินซ่ึงทางราชการเห็นว่าควรสงวนไว้ เพื่อประโยชน์ของสาธารณชน

อาทิ ท่ีเล้ียงสัตว์ ท่ีสาธารณะประจาตาบลและหมบู่ า้ น ท่ีสงวนไวเ้ พอ่ื ความชุ่มช้ืนของพ้ืนดินตามธรรมชาติ
ข. ที่ดินซ่ึงควรจดั ใหป้ ระชาชนจบั จองหรือจดั ใหอ้ ยอู่ าศยั และประกอบการทามา-

หาเล้ียงชีพใหพ้ จิ ารณาดงั น้ี
(๑) ลกั ษณะของที่ดินเหมาะสมท่ีจะใชป้ ระกอบการทามาหาเล้ียงชีพ เช่น ถ้าจะ

เป็นที่เพาะปลกู ก็เป็นที่มีน้าบริบูรณ์ หรือพอจะแกไ้ ขดดั แปลงใหม้ ีน้าเพียงพอแกก่ ารเพาะปลูกได้ เป็นตน้
(๒) ตามปกติไม่เป็ นที่ซ่ึ งได้รับอนั ตรายจากภัยธรรมชาติ อาทิ ไข้จบั สั่น หรื อ

หากจะมีบา้ งก็มีทางดดั แปลงแกไ้ ขได้
(๓) เป็นที่ซ่ึงมีทางคมนาคมสะดวก หรือถา้ ไมม่ ีก็อาจจดั ทาข้ึนได้
(๔) ท่ีหวั ไร่ปลายนา สมควรให้ราษฎรจบั จองเพื่อจะขยายเขตการทามาหากิน

ออกไป หรือเป็นท่ีดินซ่ึงอยใู่ นบริเวณที่มีการอนญุ าตใหจ้ บั จองเป็นกลุม่ กอ้ นอยแู่ ลว้
ขอ้ ๔. ให้คณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกที่ดินซ่ึงจะจดั ให้ประชาชนจบั จองหรือจดั ให้

อยอู่ าศยั และประกอบการทามาหาเล้ียงชีพ โดยแบง่ เป็นสองประเภท ดงั น้ี

๒๗

ก. ที่ดินแปลงเล็กแปลงน้อย ไม่ต่อเน่ืองกัน เช่น ที่หวั ไร่ปลายนาหรือท่ีดินซ่ึงมีเน้ือท่ี
ต่ากว่า๑,๐๐๐ไร่ลงมา สาหรับให้ราษฎรขออนุญาตจับจอง ตามความในมาตรา ๓๓ แห่งประมวลกฎหมายท่ีดิน

ข. ที่ดินผนื ใหญ่ มีเน้ือท่ีต้งั แต่ ๑,๐๐๐ ไร่ ข้ึนไป สาหรับให้ทบวงการเมืองหรือจังหวัด
หรืออาเภอจดั ใหร้ าษฎรอยอู่ าศยั และประกอบการทามาหาเล้ียงชีพ

ขอ้ ๕. เมื่อคณะกรรมการคดั เลือกท่ีดิน ตามนยั ขอ้ ๔ เสร็จแลว้ ใหเ้ สนอผวู้ ่าราชการจงั หวัด
พิจารณาดาเนินการใหเ้ ป็นไปตามโครงการน้ี และคดั สาเนาส่งไปใหก้ ระทรวงมหาดไทยเพอื่ ทราบ

ส่วนท่ี ๓
การเลอื กบุคคล

ข้อ ๖. ให้ทบว งการเมื อง หรื อผู้ว่าราชการจังหวัด หรื อนายอาเ ภอแล้วแต่กรณี
ซ่ึงมีหนา้ ที่จดั ท่ีดินประกาศใหป้ ระชาชนทราบถึงเขตและที่ต้งั ของที่ดิน ท่ีจะจัดให้ประชาชนจบั จองหรือจัด
ให้เป็ นท่ีอยู่อาศัยและทามาหาเล้ียงชีพ แล้วแต่กรณี เป็ นแห่ง ๆ และจัดให้คนไทยที่ไม่มีท่ีอยู่อาศัย
อันเป็ นของตนเองหรือไม่มีที่ดินสาหรับทามาหาเล้ียงชีพของตนเอง หรือมีแต่ไม่พอใหเ้ ขา้ ครอบครอง
และประกอบการทามาหาเล้ียงชีพของตนเอง หรือมีแต่ไม่พอใหเ้ ข้าครอบครองและประกอบการทามาหาเล้ียงชีพ
โดยกาหนดคณุ สมบตั ิ ดงั น้ี

ก. มีสญั ชาติไทย
ข. บรรลนุ ิติภาวะแลว้
ค. มีร่างกายสมบูรณ์ไม่เจ็บป่ วยทุพพลภาพ หรือไร้ความสามารถ หรือสติฟ่ันเฟื อน
ไม่สมประกอบหรือเป็นโรคติดตอ่ อนั น่ารังเกียจ เวน้ แต่จะเป็ นหัวหน้าครอบครัวท่ีอย่ใู นลกั ษณะมีความจาเป็ น
ซ่ึงทางการพิจารณาเห็นสมควร
ง. มีความขยนั ขนั แข็งการประกอบอาชีพ
จ. มีความประพฤติดี ไม่เป็นคนเสเพลหรืออนั ธพาล
ฉ. มีความสามารถประกอบการเกษตรกรรมได้
ช. ไม่มีที่ดินเป็นของตนเองหรือมีอยแู่ ลว้ แต่เป็นจานวนนอ้ ยไมพ่ อทามาหาเล้ียงชีพ
ซ. ยอมรับปฏิบตั ิตามระเบียบ ขอ้ บงั คบั ขอ้ กาหนด และเง่ือนไข ท่ีคณะกรรมการ-
จดั ที่ดินแหง่ ชาติหรือเจา้ หนา้ ท่ีกาหนด
ขอ้ ๗. ในกรณีท่ีผวู้ ่าราชการจังหวัดหรือนายอาเภอ จดั ใหผ้ วู้ ่าราชการจงั หวัดหรือนายอาเภอ
แต่งต้งั คณะกรรมการคดั เลือกผูข้ ออนุญาตจบั จองหรือผูข้ อเข้าอยูอ่ าศยั และประกอบการทามาหาเล้ียงชีพ
ประกอบดว้ ยปลดั จงั หวดั หรือนายอาเภอทอ้ งท่ีแลว้ แต่กรณี เป็นประธานกรรมการและหัวหนา้ ส่วนราชการ
ในจงั หวดั หรืออาเภอแลว้ แต่กรณี ไม่นอ้ ยกว่าสองนายเป็นกรรมการ ส่วนในกรณีท่ีทบวงการเมืองจัดน้นั การ
แต่งต้งั คณะกรรมการคดั เลือกบุคคลให้เป็ นไปตามโครงการท่ีคณะกรรมการจัดท่ีดินแห่งชาติจะได้อนุมัติ
โดยให้คณะกรรมการที่ผู้ว่าราชการจังหวัดหรื อนายอาเภ อแต่งต้ังหรื อคณะกรรมการตามโครงการ

๒๘

ที่คณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติจะไดอ้ นุมัติ มีหน้าท่ีคดั เลือกบุคคลซ่ึงเข้าหลกั เกณฑ์ตามขอ้ ๖ และเป็ น
บคุ คลท่ีมีภมู ิลาเนาอยใู่ นทอ้ งท่ีน้นั ไดเ้ ขา้ อยอู่ าศยั และทาประโยชน์ก่อน ต่อเม่ือมีท่ีดินเหลืออยู่ จึงจัดใหบ้ ุคคล
ท่ีมีภมู ิลาเนาอยใู่ นทอ้ งที่อื่นตอ่ ไป

ส่วนท่ี ๔
เจ้าหน้าทีใ่ นการจัดที่ดิน

ขอ้ ๘. ใหน้ ายอาเภอทอ้ งที่เป็นเจา้ หนา้ ที่ในการจดั ที่ดินตามขอ้ ๔ (ก)
ขอ้ ๙. ใหก้ รมที่ดินหรือผวู้ ่าราชการจงั หวัด หรือนายอาเภอ เป็ นเจ้าหนา้ ที่ในการจดั ท่ีดิน
ตามข้อ ๔ (ข) โดยให้ปฏิบัติตามโครงการน้ีและตามระเบียบ ข้อบังคับ ข้อกาหนด และเง่ือนไข
ท่ีคณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติกาหนด ก่อนที่จะดาเนินการใหเ้ สนอโครงการและแผนผงั การจัดท่ีดิน
รวมถึงรายการดงั ตอ่ ไปน้ี ไปยงั คณะกรรมการจดั ท่ีดินแหง่ ชาติดว้ ยคือ

(๑) จานวนที่ดินท่ีจะแบ่งใหค้ รอบครอง
(๒) หลกั เกณฑส์ อบสวนคดั เลือกผเู้ ขา้ ครอบครอง
(๓) วิธีที่ผเู้ ขา้ ครอบครองพึงปฏิบตั ิ
(๔) การชว่ ยเหลือในดา้ นสาธารณูปโภคและอื่น ๆ ตลอดจนงบประมาณค่าใชจ้ ่าย
ท่ีจาเป็ นระยะแรก
(๕) หลกั เกณฑก์ ารชดใชท้ นุ ที่ไดล้ งไปในที่ดินน้นั และการเรียกค่าธรรมเนียมบางอยา่ ง
(๖) กิจกรรมท่ีจาเป็นสาหรับการจดั แบ่งท่ีดิน
เมื่อคณะกรรมการจดั ที่ดินแหง่ ชาติอนุมตั ิโครงการแลว้ จึงใหด้ าเนินการตอ่ ไปได้
ขอ้ ๑๐. ในกรณีท่ีกรมประชาสงเคราะห์ หรือกรมสหกรณ์ที่ดินจัดตามกฎหมายอื่นให้เสนอโครงการ
แผนผงั การจดั ที่ดินและรายการโดยอนุโลมเช่นเดียวกับข้อ ๙. เสนอไปยงั คณะกรรมการจัดท่ีดินแห่งชาติ
เพ่อื พิจารณาสงวนที่ดินใหต้ ามความประสงค์ต่อไป
ขอ้ ๑๑.ถา้ ท่ีดินน้นั เป็นสาธารณสมบตั ิของแผน่ ดินตามขอ้ ๑ (ก) (๒) ให้เจ้าหน้าที่ในการจัดท่ีดิน
ส่งสาเนาหลกั ฐานการหวงหา้ ม และแผนที่แสดงเขตที่ดินที่จะจัดแบ่ง เพื่อดาเนินการออกพระราชกฤษฎีกา
ถอนสภาพการหวงหา้ มท่ีดินน้นั ดว้ ย

ส่วนที่ ๕
การจัดแบ่งทดี่ ิน

ขอ้ ๑๒. การจดั แบ่งที่ดินตามข้อ ๔ (ก) ใหน้ ายอาเภอดาเนินการดงั น้ี
ก. ทาแผนผงั การจดั แบ่งท่ีดินใหเ้ รียบร้อยกอ่ นที่จะอนุญาตใหร้ าษฎรจบั จอง
ข. ถา้ เป็นท่ีดินแปลงใหญ่ ใหพ้ ิจารณาสงวนท่ีดินไวเ้ พ่ือจัดให้มีสาธารณูปโภค

และอ่ืน ๆ เชน่ หอประชุม สนามกีฬา และที่พกั ผอ่ น บ่อน้า สะพาน ถนน ชลประทาน เป็นตน้

๒๙

ค. การจัดแบ่งท่ีดินให้บุคคลที่คัดเลือกแล้วครอบครองทาประโยชน์ให้ปฏิบัติ
ตามวิธีการแบ่งท่ีดินตามขอ้ ๑๓ โดยอนุโลม

ข้อ ๑๓. การจดั แบ่งท่ีดินตามข้อ ๔ (ข) ให้กรมที่ดิน ผวู้ ่าราชการจงั หวดั หรือนายอาเภอ
ดาเนินการดงั น้ี

ก. ทาการสารวจสิทธิที่ดินของราษฎรท่ีเขา้ ครอบครองทาประโยชนอ์ ยกู่ อ่ นแลว้
ข. ทาการสารวจรงั วดั เขต วางผงั ทาแผนท่ี และพิจารณาจัดแบ่งที่ดินใหร้ าษฎร
โดยพิจารณาสงวนท่ีดินไว้เป็ นสมบัติส่วนกลาง เพื่อจัดให้มีสาธารณูปโภคและอ่ืน ๆ ตามความเหมาะสม
กบั เน้ือที่ดิน เช่น ที่ทาการเจา้ หน้าท่ี บ้านพกั เจ้าหน้าท่ี โรงเก็บพสั ดุและผลิตผลโรงเรียน สถานีตารวจ
สุขศาลา หอประชมุ สนามกีฬา และท่ีพกั ผอ่ น ไร่นาตวั อยา่ ง บ่อน้า สะพาน ถนน ชลประทาน เป็นตน้
ค. โดยปกติใหจ้ ดั แบ่งท่ีดินใหแ้ ต่ละครอบครัวตามสมควรแก่อตั ภาพโดยเสมอกนั
ท้งั น้ี ภายใตก้ าหนดสิทธิการมีที่ดินของบุคคลตามประมวลกฎหมายท่ีดิน
ง. ผทู้ ี่มีสิ ทธิในที่ดินบริ เวณที่จะจัดแบ่งโดยชอบด้วยกฎหมายอย่กู ่อนแล้ว
แตเ่ ป็นพ้นื ท่ีผืนเล็ก และไม่เป็นระเบียบตามแผนผงั ถา้ สมคั รเขา้ รับการจดั แบ่งด้วย ก็ให้พิจารณาจัดแบ่งให้
ตาม ขอ้ ค. แต่ถา้ ไมส่ ามารถท่ีจะจดั แบ่งในเขตที่ดินท่ีมีสิทธิอยูเ่ ดิมได้ ก็ใหแ้ นะนาให้บุคคลผูน้ ้นั เวนคืน
ท่ีดินที่มีสิทธิอยเู่ ดิมเสียกอ่ นการจดั แบ่ง
จ. เม่ือเจา้ หนา้ ท่ีไดพ้ ิจารณาจดั แบ่งที่ดินให้แก่บุคคลใดแลว้ ให้ควบคุมให้บุคคลน้นั
ปฏิบตั ิตามระเบียบ ขอ้ บงั คบั ขอ้ กาหนด และเงื่อนไขท่ีคณะกรรมการจดั ที่ดินแห่งชาติ หรือเจา้ หน้าที่กาหนด
โดยเคร่งครัด

ส่วนที่ ๖
การช่วยเหลือ

ขอ้ ๑๔. สาหรบั ท่ีดินแปลงเลก็ แปลงนอ้ ย เชน่ หวั ไร่ปลายนา ใหเ้ จา้ หนา้ ที่ดาเนินการแนะนา
และควบคุมใหผ้ ขู้ ออนญุ าตจบั จองทาประโยชน์ในท่ีดินจริงจัง ระมดั ระวงั มิให้จบั จองเพ่ือหวงั จะขายท่ีดิน
ต่อไปในเมื่อที่ดินมีราคาในภายหนา้ และให้การช่วยเหลือแนะนาในการปรับปรุงท่ีดินให้มีคุณภาพ
เช่นการใชป้ ๋ ยุ ท่ีเหมาะกบั พนั ธ์ุขา้ ว และพนั ธ์ุพชื อื่น ๆ พนั ธุ์ข้าวและพนั ธุ์พืชต่าง ๆ ควรจะคดั เลือกใช้แต่พนั ธุ์ท่ีดี

ข้อ๑๕. ส าหรับที่ดินแปลงซ่ึ งมีเ น้ือที่ต่ ากว่า ๑,๐๐๐ ไร่ลงมา ให้คัดเ ลือกผู้ที่มีทุน
และแรงงานพอที่จะช่วยตวั เองได้เข้าจบั จอง และใหผ้ ู้จับจองร่วมกนั สละทรัพยแ์ ละแรงงานจดั ให้มี
สาธารณูปโภคและอ่ืน ๆ เจ้าหนา้ ที่เพียงแต่ใหค้ วามช่วยเหลือ ควบคุมและแนะนาใหด้ าเนินการไปตาม
โครงการของเจา้ หนา้ ท่ีและทางการใหค้ วามช่วยเหลือที่จาเป็น

ข้อ ๑๖. สาหรับที่ดินแปลงซ่ึ งมีเน้ือท่ีต้ังแต่ ๑,๐๐๐ ไร่ข้ึนไป ให้คัดเลือกผูท้ ่ีไม่มีทุนพอ
ที่จะดาเนินการไดต้ ามลาพงั ไดเ้ ขา้ ครอบครองและประกอบการทามาหาเล้ียงชีพ โดยให้ความช่วยเหลือ
ในดา้ นสาธารณูปโภคและอื่นๆจากเงนิ บารุงทอ้ งที่หรือเงินงบประมาณตามโครงการ การช่วยเหลือดงั กล่าวแลว้
ถา้ เป็นประโยชนเ์ ฉพาะตวั ผไู้ ดร้ ับการช่วยเหลือ เช่น การปรับพ้ืนที่ใหห้ รือการจัดให้มีน้าประปาหรือไฟฟ้ า

๓๐

แต่ละครอบครัว กใ็ หผ้ ไู้ ดร้ บั ประโยชนช์ ดใชท้ ุนที่ไดล้ งไปและใหพ้ ิจารณาดาเนินการเป็นระยะๆตามความเหมาะสม
แก่สภาพของพ้ืนท่ีและการจดั ท่ีดินเป็นแห่ง ๆ ไปอาทิ เช่น

ก. ที่ดินแห่งใดควรจะต้องจัดให้มีสาธารณูปโภคและอ่ืน ๆ เช่น บ่อ สระน้ า
หรือทางคมนาคม ก่อนไปต้งั ครอบครัว ก็ใหด้ าเนินการโดยขอใหผ้ ทู้ ่ีจะเขา้ อยอู่ าศยั และทามาหาเล้ียงชีพ
สละแรงงานช่วยเหลือ โดยทางการจดั หาเคร่ืองมือ เครื่องใชแ้ ละเครื่องบริโภคจ่ายใหใ้ นระหว่างจดั ทา

ข. ต้ังเงินทุนไว้ช่ว ยเหลือโดยวิธี ให้ยืมเมื่อมีความจาเป็ น เช่น ให้ยืมเป็ น
คา่ ปลูกสร้างท่ีพกั อาศยั คา่ เครื่องมือ เครื่องใช้ในการประกอบอาชีพ โดยมีหลักทรัพยห์ รือบุคคลค้าประกนั
ใหช้ ดใชเ้ งนิ คืนภายในกาหนดเวลา และเรียกดอกเบ้ียพอสมควร

ค. จดั เคร่ื องทุ่นแรง เช่น รถแทรคเตอร์ และเครื่ องถอนตอ เครื่ องยนต์สูบน้ า
ในการบุกเบิกป่ า ปรับพ้ืนท่ี ถอนตอไม้ และทาเกษตรกรรม เพ่ือประหยดั การใช้แรงคนให้ได้ผลงานมาก
และเสียเวลานอ้ ย โดยคิดค่าใชจ้ ่ายจากราษฎรพอสมควรเป็นเงนิ เชื่อ กาหนดใหช้ าระหน้ีเมื่อจาหน่ายพชื ผลได้

ง. จดั ให้มีทางคมนาคมติดต่อภายในบริเวณและติดต่อกับทางหลวงแผน่ ดิน
เพือ่ ประโยชน์ในการลาเลียงพืชผล

จ. จดั ใหม้ ีน้าใช้ในการประกอบการอาชีพและน้าบริโภค เช่น ขุดคลอง คู สระ
บ่อขงั น้าฝน บ่อน้าบาดาล ประปา

ฉ. ส่งเสริมการเกษตร โดยจดั ใหม้ ีเจา้ หนา้ ที่เทคนิคทางเกษตรประจาให้คาแนะนา
ส่งเสริมการใชป้ ๋ ุยเพอื่ ใหพ้ ้ืนดินมีคุณภาพ จดั หาและแนะนาใหใ้ ชพ้ นั ธุ์ขา้ ว พนั ธุ์พืช พนั ธุ์ไม้ และพนั ธ์ุสัตว์ที่ดี
เหมาะสมแกส่ ภาพของพ้นื ดินและภูมิประเทศใหป้ ลูกและเล้ียงช่วยเหลือทาการป้ องกันและปราบโรคระบาดสัตว์
และโรคพชื ต่าง ๆ ในเมื่อคราวจาเป็น

ช. จดั ทาไร่ นา เล้ียงสตั ว์ เป็นส่วนกลางเพ่อื เป็นตวั อยา่ ง
ซ. ส่งเสริมอุตสาหกรรมในครอบครัว เพื่อให้ราษฎรทามาหาเล้ียงชีพเป็ นการเพ่ิมพูนรายได้
ในเวลาวา่ งจากการประกอบเกษตรกรรม โดยจดั ใหเ้ จา้ หนา้ ท่ีเทคนิคอตุ สาหกรรมในครอบครัวให้คาแนะนา
ส่งเสริมเป็นคร้งั คราว
ฌ. จดั ใหม้ ีเวชภณั ฑ์ หรือมีสุขศาลา แพทย์ และนางพยาบาล พร้อมดว้ ยเวชภณั ฑ์
ไวป้ ระจาใหค้ วามช่วยเหลือราษฎร
ญ. จดั รักษาความปลอดภยั โดยดาเนินการดงั น้ี

(๑) ใหแ้ บง่ ครอบครวั ออกเป็นเขต ๆ เขตหน่ึงประมาณ ๒๐ ครอบครัว แลว้ ให้
หัวหน้าครอบครัวในเขตแต่ละเขตเลือกหัวหน้าครอบครัวชาย ซ่ึ งอ่านและเขียนหนังสื อไทยได้
เป็ นหวั หนา้ เขตคนหน่ึงและผชู้ ่วยคนหน่ึง มีหนา้ ท่ีช่วยปกครองดูแลและรักษาความปลอดภัยให้เป็ นไป
ตามขอ้ บงั คบั ของเจา้ หนา้ ท่ีและให้ผไู้ ด้รับแต่งต้ังเป็ นหัวหนา้ เขตหรือผชู้ ่วยก็ดีอยู่ในตาแหน่ง คร้ังละ ๒ ปี
นบั แต่วันได้รับหมายต้งั เม่ือครบกาหนดแลว้ ให้ทาการเลือกใหม่ตามนัยข้างต้น ในระหว่างท่ียงั มิได้
แตง่ ต้งั ผใู้ ดแทน ใหผ้ ทู้ ี่ทาหนา้ ที่เดิมปฏิบตั ิหนา้ ที่ไปก่อน

๓๑

(๒) จดั ใหม้ ีเจา้ หนา้ ที่ตารวจหรือสถานีตารวจและเจา้ หนา้ ท่ีตารวจอยปู่ ระจา
ฎ. จัดใหม้ ีสถานศึกษาแก่บุตรหลานราษฎร จัดใหร้ าษฎรปฏิบัติกิจทางศาสนา
เป็นคร้งั คราว หรือจดั ใหม้ ีวดั หรือสานกั สงฆ์
ฏ. จัดต้ังร้านชาเพ่ือจาหน่ายเครื่องอุปโภคบริโภคในราคาเยา และรับซ้ือพืชผล
ที่ราษฎรผลิตได้ หรือจดั หาตลาดจาหน่ายใหร้ าษฎรไดร้ ับความสะดวก
ฐ. ถ้าพืชผลของราษฎรและของประชาชน ในบริเวณใกลเ้ คียงมีจานวนมากพอ
ที่จะต้งั เป็นโรงงานอุตสาหกรรมอยา่ งใดอยา่ งหน่ึงได้ ก็ใหต้ ิดต่อกบั กระทรวงอุตสาหกรรม เพ่ือส่งเสริม
ใหเ้ อกชนต้งั โรงงานอตุ สาหกรรมหรือจดั ใหม้ ีโรงงานอุตสาหกรรมเพ่ือรบั ซ้ือพืชผล
ฑ. จดั ให้มีหอวิทยุสาธารณะ ไฟฟ้ า ตลาดชุมนุมการค้า และสถานมหรสพ
เพอ่ื ความเพลิดเพลินบนั เทิงใจของราษฎรในยามว่าง
ฒ. จดั ต้งั ทุนสวสั ดิการสาหรับราษฎรเพอ่ื ช่วยเหลือในการคลอดบุตรเจ็บป่ วยหรือตาย
ณ. ส่งเสริมใหร้ ูจ้ กั หลักการประหยดั เช่นฝากเงินท่ีหามาได้ไวก้ บั ธนาคารออมสิน เป็นตน้
ด. ช่วยเหลือในดา้ นสาธารณูปโภคและอ่ืน ๆ ที่จาเป็ นตามท่ีเห็นสมควรและเหมาะสม
แก่สภาพของทอ้ งที่น้นั ๆ
ต. สารวจรังวดั จดั แบง่ ท่ีดินใหร้ าษฎรไวโ้ ดยเรียบร้อยทุกรายไป เพ่ือใหม้ ีกาลงั ใจ
ในการทามาหาเล้ียงชีพ และมีโอกาสไดก้ รรมสิทธ์ิในที่ดินท่ีไดร้ ับแบ่งโดยแทจ้ ริง เมื่อตนไดท้ าประโยชน์
ในท่ีดินโดยสมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายท่ีดินแลว้
ขอ้ ๑๗.โดยที่การดาเนินการชว่ ยเหลือตามตัวอยา่ งในข้อ ๑๖. ยอ่ มจดั ทาไม่ไดใ้ นระยะเดียวกัน
จึงใหเ้ จา้ หนา้ ที่พจิ ารณาวา่ ในปี ใดควรจะจดั การช่วยเหลืออยา่ งใด ประการใด แล้วจดั ทาโครงการเป็ นปี ๆ
เสนอไปยงั กระทรวงมหาดไทย เพือ่ พิจารณาต้งั งบประมาณ โครงการดงั กล่าวแลว้ ใหม้ ีรายการดงั น้ี
ก. ชื่อโครงการ เหตุผล และความมงุ่ หมาย
ข. รายการและวิธีการดาเนินการ
ค. กาหนดเวลาดาเนินการ
ง. งบประมาณคา่ ใชจ้ ่ายตามระยะเวลาของโครงการ
จ. วิธีการชดใช้เงินทุนที่ได้ลงไปในท่ีดินน้ัน หรือจดั ใหเ้ ป็ นบริการสาธารณะ
โดยไม่ตอ้ งใหช้ ดใชเ้ งนิ ทนุ ท่ีไดล้ งไป
ฉ. แสดงผลอนั จะบงั เกิดข้ึนจากโครงการน้นั เมื่อสาเร็จแลว้

วนั ท่ี ๒๖ มีนาคม ๒๔๙๘
(ลงช่ือ) พลเรือโท สุนาวินวิวฒั

(หลวงสุนาวินวิวฒั )
ประธานกรรมการจดั ที่ดินแห่งชาติ

๓๒

ระเบียบว่าด้วยการจัดทดี่ ินเพ่ือประชาชน
-----------------------------------

อาศยั อานาจตามความในมาตรา๒๐(๖) มาตรา ๒๗ และมาตรา ๓๓ แห่งประมวลกฎหมายท่ีดิน
คณะกรรมการจดั ที่ดินแหง่ ชาติวางระเบียบ วา่ ดว้ ยการจดั ท่ีดินเพ่อื ประชาชน ดงั ต่อไปน้ี

หมวด ๑
ข้อความทวั่ ไป

ขอ้ ๑. ระเบียบน้ีเรียกว่า “ระเบียบว่าดว้ ยการจดั ที่ดินเพื่อประชาชน”
ขอ้ ๒. ใหใ้ ชร้ ะเบียบน้ี ต้งั แตบ่ ดั น้ีเป็นตน้ ไป

หมวด ๒
ลักษณะของทีด่ ินท่ีจะจัดให้ประชาชน

ข้อ ๓. ท่ีดินท่ีจะจดั ให้ประชาชนอยูอ่ าศัยหรือประกอบการทามาหาเล้ียงชีพตามความ
ในมาตรา๒๐(๑) และมาตรา๒๗ แห่งประมวลกฎหมายที่ดินตอ้ งเป็นท่ีดินของรฐั ซ่ึงอยใู่ นลกั ษณะดงั ตอ่ ไปน้ี คือ

(๑) ท่ีดินซ่ึงมิไดม้ ีบคุ คลใดมีสิทธิครอบครอง และมิใช่สาธารณสมบัติของแผน่ ดิน
อนั ราษฎรใชป้ ระโยชน์ร่วมกนั หรือมิใช่ที่สงวนหวงหา้ ม หรือมิใชท่ ี่เขา ท่ีภเู ขา

(๒) ท่ีดินอันเป็ นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน ท่ีราษฎรเคยใช้ประโยชน์ร่วมกัน
แต่ปรากฏว่าราษฎรมิได้ใช้ประโยชน์ต่อไปแล้ว หรือรัฐหาท่ีดินอ่ืนใหร้ าษฎรใช้ประโยชน์ร่วมกนั แทน
และไดม้ ีพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่สาธารณประโยชน์น้นั แลว้

(๓) ที่ดินซ่ึ งมีผูเ้ วนคืนสิ ทธิ ในท่ีดินให้แก่รัฐ หรื อทอดทิ้งไม่ทาประโยชน์
หรือปลอ่ ยใหเ้ ป็นที่รกร้างวา่ งเปลา่ จนตกเป็นของรัฐตามประมวลกฎหมายที่ดิน

หมวด ๓
คุณสมบัตขิ องบุคคลท่ีจะจัดให้เข้าอย่อู าศัยหรือประกอบการทามาหาเลยี้ งชีพ

ขอ้ ๔. บคุ คลที่จะจดั ใหเ้ ขา้ อยอู่ าศยั หรือประกอบการทามาหาเล้ียงชีพ จะต้องเป็ นบุคคลธรรมดา
ซ่ึงมีคณุ สมบตั ิและอยใู่ นลกั ษณะขอ้ กาหนดโดยครบถว้ นดงั น้ี คือ

(๑) มีสญั ชาติไทย
(๒) บรรลนุ ิติภาวะแลว้ หรือเป็นหวั หนา้ ครอบครัว
(๓) มีร่างกายสมบรู ณ์ ไม่ทพุ พลภาพ หรือไร้ความสามารถ หรือมีสติฟั่นเฟื อนไม่สมประกอบ
หรือเป็นโรคติดตอ่ อนั นา่ รงั เกียจ เวน้ แตจ่ ะเป็นหวั หนา้ ครอบครัวที่อยู่ในลักษณะมีความจาเป็ น ซ่ึงทางการ
พิจารณาเหน็ สมควรยกเวน้

๓๓

(๔) มีความขยนั ขนั แขง็ ในการประกอบอาชีพ
(๕) มีความประพฤติดี ไมเ่ ป็นคนเสเพลหรืออนั ธพาล
(๖) มีความสามารถประกอบการอาชีพเก่ียวกบั ที่ดินท่ีจดั ใหไ้ ด้
(๗) ไม่มีที่ดินเป็นของตนเองหรือมีอยแู่ ลว้ แต่เป็นจานวนนอ้ ยไม่พอเล้ียงชีพ
(๘) ตอ้ งรับปฏิบัติตามขอ้ บังคับ ระเบียบ ข้อกาหนด และเง่ือนไขท่ีคณะกรรมการ -
จดั ท่ีดินแหง่ ชาติกาหนด

หมวด ๔
การดาเนินการจัดทดี่ ินให้ประชาชน

ขอ้ ๕. ในการจัดท่ีดินให้ราษฎรอยู่อาศัย หรือประกอบการทามาหาเล้ียงชีพให้เป็ นไป
ตามโครงการท่ีคณะกรรมการจัดท่ีดินแห่งชาติกาหนด และใหก้ รมพฒั นาที่ดินดาเนินการสารวจดิน
การวินิจฉยั คุณภาพของท่ีดินจาแนกสมรรถนะท่ีดิน และวางแผนการใช้ท่ีดินให้ถูกตอ้ งตามหลักวิชาการ
กอ่ นที่จะดาเนินโครงการจดั ที่ดินใหป้ ระชาชน

ขอ้ ๖. โดยปกติใหจ้ ดั แบ่งที่ดินใหแ้ ต่ละครอบครัวตามสมควรแก่อตั ภาพท้งั น้ีภายใต้กาหนด
สิทธิการมีท่ีดินของบคุ คลตามประมวลกฎหมายท่ีดิน

ข้อ ๗. ก่อนท่ีจะจดั ที่ดินให้ประชาชนอยู่อาศยั หรื อประกอบการทามาหาเล้ียงชีพให้เจ้าหนา้ ที่
ในการจดั ที่ดินตามโครงการของคณะกรรมการจดั ท่ีดินแห่งชาติ หรืออธิบดีกรมที่ดินซ่ึงเป็นเจา้ หน้าที่ในการจัดท่ีดิน
ตามมาตรา๒๗ แหง่ ประมวลกฎหมายที่ดินแลว้ แต่กรณี ประกาศกาหนดเขตและท่ีต้งั ของที่ดินที่จะจัดใหป้ ระชาชน
อยู่อาศัยหรื อประกอบการทามาหาเล้ี ยงชี พ ตลอดจนวิ ธี การรับบุคคลเข้าอยู่อาศัยให้ประชาชนทราบ
ตามแบบจ.ด.๑ ทา้ ยระเบียบน้ี

ขอ้ ๘. ประกาศตามความในขอ้ ๗ น้ัน ให้ปิ ดไวใ้ นที่เปิ ดเผย ณ ที่ว่าการอาเภอหรื อ
ก่ิงอาเภอ ๑ ฉบับ ที่บ้านกานันหรือผใู้ หญ่บ้าน ๑ฉบับ และในที่ดินท่ีจัด ๑ ฉบบั หากเป็ นการสมควรจะประกาศ
โดยวิธีอ่ืนดว้ ยกไ็ ด้

ขอ้ ๙. การกาหนดวันรับสมัครบุคคลเข้าอยูอ่ าศัยหรื อประกอบการทามาหาเล้ียงชีพ
ตอ้ งประกาศใหป้ ระชาชนทราบล่วงหนา้ มีกาหนดไมน่ อ้ ยกวา่ หน่ึงเดือน

ขอ้ ๑๐. บุคคลใดประสงค์จะเข้าอยู่อาศัยหรื อประกอบการทามาหาเล้ียงชีพในที่ดิน
ท่ีจดั ไว้ใหย้ ื่นคาร้องต่อเจ้าหน้าที่ในการจัดท่ีดินน้ันภายในกาหนดประกาศของเจา้ หนา้ ที่ตามแบบจ.ด.๒
ทา้ ยระเบียบน้ี

ขอ้ ๑๑. เมื่อครบกาหนดประกาศรับบุคคลเข้าอยู่อาศัยหรือประกอบการทามาหาเล้ียงชีพ
แลว้ หน้าที่ในการจัดที่ดินแต่งต้ังคณะกรรมการขึ้นคณะหน่ึงมีจานวนไม่นอ้ ยกว่าสามนาย เรียกว่า
คณะกรรมการคดั เลือกบุคคลและใหค้ ณะกรรมการคดั เลือกบุคคลมีหนา้ ที่พิจารณาคดั เลือกบุคคล
ตามหลักเกณฑ์แห่งระเบียบน้ี

๓๔

ขอ้ ๑๒. บคุ คลใดประสงค์จะไดร้ ับการจดั ใหเ้ ขา้ อยอู่ าศยั หรือประกอบการทามาหาเล้ียงชีพ
ในที่ดิน แปลงใดใหจ้ ัดเข้าอยู่อาศยั หรือประกอบการทามาหาเล้ียงชีพในท่ีดินแปลงน้นั แต่ถ้ามีบุคคล
หลายคนประสงค์ที่ดินแปลงเดียวกัน ก็ใหใ้ ชว้ ิธีจับสลาก เว้นแต่ ในกรณีท่ีมีความจาเป็ นเพ่ือประโยชน์
ความมั่นคงและความปลอดภยั ของประเทศชาติคณะกรรมการคัดเลือกอาจจะพิจารณาคัดเลือกบุคคล
ใหอ้ ยใู่ นท่ีดินตามท่ีเห็นสมควรกไ็ ด้

ข้อ ๑๓. ในกรณี ท่ีที่ดินจะจดั ให้เข้าอยู่อาศัย หรือประกอบการทามาหาเล้ียงชีพมีไม่พอ
กบั จานวนบุคคล ซ่ึ งคณะกรรมการคัดเลือกบุคคลได้คัดเลือกไว้แล้ว ใหค้ ณะกรรมการคัดเลือกบุคคล
พจิ ารณาคดั เลือกอีกช้นั หน่ึงตามหลกั เกณฑ์ดงั น้ี

(๑) ให้พิจารณ าให้บุคคลที่มีภูมิลาเนาอยู่ในท้องท่ีน้ันได้เข้าอยู่อาศัยหรื อ
ประกอบการทามาหาเล้ียงชีพก่อน เม่ือมีท่ีดินเหลืออยจู่ ึงจดั ใหบ้ ุคคลท่ีมีภูมิลาเนาอยใู่ นทอ้ งท่ีอื่นตอ่ ไป

(๒) ถา้ ที่ดินท่ีจะจดั แบง่ มีนอ้ ยไมพ่ อแก่การจดั แบ่งใหท้ วั่ ถึงอีก ก็ใหค้ ณะกรรมการ-
คดั เลือกบคุ คลจดั ใหม้ ีการจบั สลาก เพอ่ื ใหไ้ ดจ้ านวนบคุ คลพอดีกบั จานวนที่ดินที่จะแบง่

ส่วนบุคคลท่ีเหลือก็ให้สอบถามความประสงค์ว่า ถ้ามีท่ีดินเหลือจากการจัดแบ่ง
ในทอ้ งที่อ่ืนแล้ว ทางการจะจดั ให้เข้าอยู่อาศัยหรือประกอบการทามาหาเล้ียงชีพจะขดั ข้องหรือเต็มใจหรือไม่
แลว้ บนั ทึกถอ้ ยคาไวเ้ ป็นหลกั ฐานเพือ่ พิจารณาต่อไป

หมวด ๕
การออกใบจอง

ขอ้ ๑๔. เม่ือไดจ้ ดั ใหบ้ ุคคลใดเขา้ อยอู่ าศยั หรือประกอบการทามาหาเล้ียงชีพในที่ดินแปลงใด
และบุคคลน้ันไดป้ ฏิบัติตามระเบียบของคณะกรรมการจัดท่ีดินแห่งชาติแล้วใหเ้ จ้าหนา้ ท่ีในการจัดท่ีดิน
ดาเนินการติดต่อให้นายอาเภอท้องท่ีหรื อปลัดอาเภอผู้เป็ นหัวหน้าประจาก่ิงอาเภอซ่ึงที่ดินน้ันต้ังอยู่
ซ่ึงเป็ นพนักงานเจ้าหน้าท่ีตามความในมาตรา ๓๐ แห่งประมวลกฎหมายที่ดินออกใบจองให้บุคคลน้ัน
ยึดถือไวเ้ ป็นหลกั ฐาน

หมวด ๖
การทาประโยชน์ในทด่ี ินและการสิ้นสิทธิในท่ดี ินตามใบจอง

ขอ้ ๑๕. ใหผ้ ถู้ ือใบจองเริ่มทาประโยชนใ์ นที่ดินที่จดั แบ่งภายในหกเดือนนบั แตว่ ันไดร้ ับใบจอง
ขอ้ ๑๖. ถา้ ผถู้ ือใบจองไม่เร่ิมทาประโยชน์ในท่ีดินท่ีจดั แบ่งให้ภายในหกเดือนนบั แต่วัน
ไดร้ บั ใบจอง ใหเ้ จ้าหน้าที่ในการจดั ที่ดินสอบสวนรายงานตามลาดบั ไปยงั อธิบดีกรมท่ีดิน เพื่อพิจารณา
ส่ังใหผ้ ู้น้ันออกไปจากที่ดินตามมาตรา ๓๒ แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน เม่ือผู้น้ันไดร้ ับทราบคาสั่ง
หรือควรจะไดร้ ับทราบคาสั่งอธิบดีกรมท่ีดินแลว้ เป็นอนั ขาดสิทธิในการอยอู่ าศยั หรือประกอบการทามาหาเล้ียงชีพ
ในที่ดินท่ีจดั แบ่งตามใบจองน้นั เวน้ แต่จะมีเหตุผลสมควรก็ให้เจ้าหนา้ ที่ในการจัดที่ดินสอบสวนช้ีแจงเหตุผล

๓๕

ไปยงั พนักงานเจ้าหน้าท่ีผอู้ อกใบจองพิจารณา เม่ือพนักงานเจ้าหนา้ ท่ีพิจารณาอนุมตั ิแล้ว ให้มีสิ ทธิ
ในท่ีดินตามใบจองน้นั ตอ่ ไปได้ และใหถ้ ือเสมือนว่าเป็นผรู้ ับใบจองใหม่ ซ่ึงจะตอ้ งปฏิบตั ิตามนยั ขอ้ ๑๕

ขอ้ ๑๗. ผถู้ ือใบจองตอ้ งทาประโยชนใ์ หแ้ ลว้ เสร็จภายใน ๓ ปี นับต้งั แต่วนั ท่ีไดร้ ับใบจอง
แตถ่ า้ ในทอ้ งที่ใดมีความจาเป็น ซ่ึงไม่สามารถจะทาประโยชนใ์ หแ้ ลว้ เสร็จภายใน ๓ ปี ได้ ก็ใหเ้ สนอเหตุผล
ให้พนักงานเจ้าหน้าที่เสนอคณะกรรมการจัดท่ีดินแห่งชาติ พิจารณากาหนดอายุการทาประโยชน์
เกินกวา่ ๓ ปี ได้

การทาประโยชน์ให้แล้วเสร็จตามความหมายในข้อน้ี ให้หมายถึงการทาประโยชน์
ประมาณ ๓ ใน ๔ ส่วน

ขอ้ ๑๘. ถา้ ผถู้ ือใบจองทาประโยชน์ไม่แล้วเสร็จภายใน ๓ ปี นบั ต้ังแต่วนั ท่ีได้รับใบจอง
หรือภายในระยะเวลาที่คณะกรรมการจดั ที่ดินแห่งชาติกาหนดไว้ แล้วแต่กรณี ให้เจา้ หน้าท่ีในการจดั ที่ดิน
สอบสวนรายงานตามลาดับ เสนอไปยงั อธิบดีกรมที่ดิน เพ่ือพิจารณาส่ังให้ผูน้ ้ันขาดสิ ทธิ อันพึงได้
ตามมาตรา ๓๒ แห่งประมวลกฎหมายท่ีดิน เม่ือผนู้ ้ันไดร้ ับทราบคาสั่งหรือควรจะไดร้ ับทราบคาสั่งอธิบดี-
กรมท่ีดินแลว้ ใหผ้ ถู้ ือใบจองน้นั เป็นอนั ขาดสิทธิในการครอบครองและทาประโยชน์ในท่ีดินเฉพาะส่วนท่ียงั
ไม่ไดท้ าประโยชนต์ ามสมควรแก่เน้ือที่

หมวด ๗
การส่ังให้ออกจากที่ดิน

ขอ้ ๑๙. บคุ คลใดท่ีไดร้ ับการจดั แบง่ ท่ีดินจากทางการแล้ว ปรากฏว่าไม่ปฏิบัติตามขอ้ บงั คบั
ระเบียบ ขอ้ กาหนด หรือเง่อื นไขของคณะกรรมการจดั ที่ดินแห่งชาติ ใหเ้ จ้าหน้าท่ีในการจัดท่ีดินสอบสวน
รายงานตามลาดบั ไปยงั อธิบดีกรมท่ีดิน เพื่อพิจารณาสั่งใหบ้ ุคคลออกไปจากท่ีดินตามความในมาตรา ๓๒
แหง่ ประมวลกฎหมายท่ีดินต่อไป

ขอ้ ๒๐. เมื่ออธิบดีกรมท่ีดินสั่งใหผ้ ูใ้ ดออกไปจากท่ีดินที่ครอบครองแลว้ ให้บุคคลน้ัน
พร้อมดว้ ยบริวารออกไปจากท่ีดินครอบครองภายในกาหนดตามคาส่ัง เว้นแต่จะได้มีการอุทธรณ์คาสั่ง
ตามมาตรา๓๒วรรค ๒ แหง่ ประมวลกฎหมายท่ีดิน จึงใหป้ ฏิบตั ิตามคาสงั่ ของรฐั มนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยตอ่ ไป

หมวด ๘
การรับรองการทาประโยชน์

ขอ้ ๒๑. เม่ือผูถ้ ือใบจองได้ทาประโยชน์ในท่ีดินน้นั โดยปฏิบัติตามข้อบังคับ ระเบียบ
ข้อกาหนด หรือเงื่อนไขของคณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติ และได้ชดใช้เงินค่าบริการในการจัดท่ีดิน
ดว้ ยวิธีผอ่ นส่งเสร็จส้ินแลว้ ใหย้ ืน่ คาขอหนงั สือรบั รองการทาประโยชน์ ตามกฎกระทรวงมหาดไทย ฉบบั ท่ี ๕
(พ.ศ.๒๔๙๗)ออกตามความในพระราชบญั ญตั ิใหใ้ ชป้ ระมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. ๒๔๙๗ ในการย่ืนคาขอดงั กล่าว
ใหย้ ื่นผา่ นเจา้ หนา้ ที่ในการจดั ที่ดิน

๓๖

หมวด ๙
การจับจองที่ดิน

ขอ้ ๒๒. ในกรณีที่ใหร้ าษฎรไดจ้ บั จองที่ดินตามนยั มาตรา ๓๓ แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน
ใหน้ าระเบียบหมวด ๒ ถึงหมวด ๘ มาใชบ้ งั คบั โดยอนโุ ลม

ในการประกาศใหป้ ระชาชนทราบถึงเขตและท่ีต้งั ของท่ีดินที่จะจดั ใหป้ ระชาชนจบั จอง
สาหรับที่ดินแปลงเล็กแปลงนอ้ ยดงั กล่าวน้ี ใหเ้ จา้ หนา้ ที่ประกาศเป็นรายตาบลหรือรายอาเภอแลว้ แต่
จะเหน็ สมควร

ใหไ้ ว้ ณ วันที่ ๒๔ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๙๘

(ลงช่ือ) จอมพล ป. พิบลู สงคราม
(ป. พบิ ลู สงคราม)

ประธานคณะกรรมการจดั ท่ีดินแห่งชาติ
(ราชกิจจานเุ บกษา เลม่ ๗๒ ตอนท่ี ๖๘ ลงวนั ท่ี ๖ กนั ยายน ๒๔๙๘)

๓๗

(จ.ด.๑)
ประกาศ
เร่ือง จัดทดี่ ินให้ประชาชนเข้าอย่อู าศัยและประกอบการทามาหาเลยี้ งชีพตามควรแก่อัตภาพ

ดว้ ย...............................จะจัดที่ดินให้ประชาชนเข้าอยู่อาศัยและประกอบการทามาหาเล้ียงชีพ
ตามควรแก่อตั ภาพ ตามโครงการที่ไดร้ ับอนมุ ตั ิจากคณะกรรมการจดั ท่ีดินแหง่ ชาติตามประมวลกฎหมายท่ีดิน

ท่ีดินท่ีจะจดั ใหป้ ระชาชนอยอู่ าศยั และประกอบการทามาหาเล้ียงชีพน้ีอยใู่ นทอ้ งที่...............

ตาบล....................อาเภอ................................จงั หวดั ................................มีอาณาเขตดงั น้ี

ทิศเหนือ จด.............................ยาวประมาณ.................................

ทิศตะวนั ออก จด.............................ยาวประมาณ.................................

ทิศใต้ จด.............................ยาวประมาณ.................................

ทิศตะวนั ตก จด.............................ยาวประมาณ.................................

ผสู้ มคั รจะตอ้ งมีคณุ สมบตั ิและอยใู่ นลกั ษณะขอ้ กาหนด ดงั น้ี

(๑) มีสญั ชาติไทย

(๒) บรรลนุ ิติภาวะแลว้ หรือเป็นหวั หนา้ ครอบครวั

(๓) มีร่ างกายส มบูรณ์ ไม่ทุพพลภาพ หรื อไร้คว ามสามารถ หรื อมี สติ ฟ่ันเฟื อน

ไม่สมประกอบหรือเป็นโรคติดต่ออนั น่ารังเกียจ เวน้ แต่จะเป็ นหวั หน้าครอบครัวท่ีอยู่ในลกั ษณะมีความจาเป็ น

ซ่ึงทางการพจิ ารณาเหน็ สมควร

(๔) มีความขยนั ขนั แขง็ ในการประกอบอาชีพ

(๕) มีความประพฤติดี ไม่เป็นคนเสเพล หรืออนั ธพาล

(๖) มีความสามารถประกอบการอาชีพเกี่ยวกบั ที่ดินท่ีจดั ใหไ้ ด้

(๗) ไม่มีท่ีดินเป็นของตนเอง หรือมีอยแู่ ลว้ แต่เป็นจานวนนอ้ ยไมพ่ อเล้ียงชีพ

(๘) บคุ คลท่ีไดร้ บั มอบท่ีดินจะตอ้ งชดใช้ค่าบริการต่าง ๆ ท่ีเจา้ พนกั งานทาให้เป็ นประโยชน์-

เฉพาะตวั โดยวิธีผอ่ นส่งใหเ้ สร็จสิ้นกอ่ นวนั ยน่ื คาขอหนงั สือรับรองการทาประโยชน์

จึงขอประกาศใหป้ ระชาชนทราบทวั่ กนั หากผใู้ ดประสงค์จะเข้าอยู่อาศัยและประกอบการ-
ทามาหาเล้ียงชีพในท่ีดินตามท่ีกล่าวแล้วน้ัน ให้ไปแจ้งความประสงค์หรื อติดต่อสอบถามรายละเอียด
ไดท้ ี่............................... ณ ที่......................................จนถึงวนั ที่...............................เป็นหมดเขต

ประกาศ ณ วนั ท่ี................................เดือน..................................พ.ศ..................................

เจา้ หนา้ ท่ีในการจดั ที่ดิน

๓๘

เขียนที่.....................................................
วนั ที่.......................เดือน.....................พ.ศ............................

เรียน เจา้ หนา้ ท่ีในการจดั ที่ดิน

ขา้ พเจา้ ไดน้ าประกาศฉบบั ท่ี................./....................ลงวนั ที่....................เดือน....................
พ.ศ. ......................ไปปิ ด ณ ........................เม่ือวนั ที่...................เดือน...........................พ.ศ. ..........................
แลว้ จึงเรียนมาเพื่อทราบ

(ลงช่ือ) ...........................................ผปู้ ิ ดประกาศ
(ลงชื่อ) ...........................................พยาน
(ลงชื่อ) ...........................................พยาน

๓๙
(จ.ด.๒)

เรื่องราวขอจบั จองเขา้ อยอู่ าศยั เพอ่ื ประกอบการทามาหาเล้ียงชีพในท่ีดินตาบล................................................

ฉบบั ท่ี...............................................
เขียนที่...................................................

วนั ที่................เดือน.....................พ.ศ. ........................
ขา้ พเจา้ ..............................................อายุ..................ปี สัญชาติ..............................................
เช้ือชาติ......................................บุตร...........................................อยทู่ ่ีบา้ น........................................................
เลขที่...................หมทู่ ี่..............ตาบล.................................อาเภอ.............................จงั หวดั .............................
ขอยนื่ เรื่องราวตอ่ ...........................................................ดังต่อไปน้ี

ขอ้ ๑. ขา้ พเจา้ มีความประสงค์ขอจบั จองเข้าอยู่อาศยั เพ่ือประกอบการทามาหาเล้ียงชีพในที่ดิน

ตาบล........................อาเภอ............................จงั หวดั ............................ตามประกาศของ..................................

ลงวนั ที่...................................................................

ข้อ ๒. ข้าพเจา้ มีคุณสมบัติครบถ้วนตามความประสงค์ ของทางราชการและยินยอม

ที่จะปฏิบตั ิตามขอ้ บงั คบั ระเบียบ ขอ้ กาหนด และเงอื่ นไขซ่ึงทางราชการวางไวท้ กุ ประการ

ขอ้ ๓. ท่ีดินตามท่ีกลา่ วในขอ้ ๑ ใหม้ ีหลกั ฐานดงั ต่อไปน้ี

ทิศเหนือ ประมาณ............................จด..................................

ทิศตะวนั ออก ประมาณ............................จด..................................

ทิศใต้ ประมาณ............................จด..................................

ทิศตะวนั ตก ประมาณ............................จด..................................

รวมเน้ือที่ประมาณ........................ไร่..........................งาน.......................วา

(รายการตามขอ้ ๓. น้ี ถา้ เป็ นกรณีตามมาตรา ๓๐ พนกั งานเจา้ หนา้ ท่ีเป็ นผกู้ รอกขอ้ ความ ถา้ เป็ นกรณี

ตามมาตรา ๓๓ ผขู้ อเป็นผกู้ รอกขอ้ ความ)

ลงชื่อ.................................ผขู้ อ

ลงชื่อ.................................กานนั ผใู้ หญบ่ า้ น เจา้ หนา้ ท่ีในการจดั ท่ีดิน

บันทึกการสอบสวนคณุ สมบัติของผ้ขู อ

เขียนท่ี....................................................
วนั ที่................เดือน.....................พ.ศ. ........................
ไดส้ อบสวนและตรวจสอบคุณสมบตั ิของ..........................................................................แลว้ ปรากฏว่า
๑. ผขู้ อมีเช้ือชาติ...................................................สัญชาติ....................................................
๒. ผขู้ อบรรลุนิติภาวะแลว้ หรือเป็นหวั หนา้ ครอบครวั

๔๐

๓. มีร่างกายสมบูรณ์ ไมท่ พุ พลภาพ หรือไร้ความสามารถ หรือมีสติฟ่ันเฟื อนไม่สมประกอบ
หรือเป็นโรคติดต่ออนั น่ารังเกียจ........................................................................................................................

๔. มีความขยนั ขนั แขง็ ในการประกอบอาชีพหรือไม่...........................................................
๕. มีความประพฤติดี หรือเป็นคนเสเพล หรืออนั ธพาล.......................................................
๖. มีความสามารถประกอบการอาชีพเกี่ยวกบั ท่ีดินที่จดั ใหห้ รือขอจบั จองหรือไม่.........................
๗. ผขู้ อเคยมีท่ีดินเป็นของตนเองบา้ งหรือไม่ ก่ีแปลง เน้ือที่เทา่ ใดอยทู่ ่ีใดใชป้ ระโยชน์อยา่ งไร
ทาเองหรือใหผ้ อู้ ื่นทา.....................................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................................................................

ลงช่ือ..............................................ผสู้ อบสวน ตาแหน่ง....................................................
ลงช่ือ..............................................ผสู้ อบสวน ตาแหน่ง....................................................

คาส่ัง

ไดพ้ จิ ารณาแลว้ เหน็ วา่ ................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................................................................

ลงชื่อ...................................................................พนกั งานเจา้ หนา้ ที่ไดอ้ อกใบจองใหแ้ ลว้
ทะเบียนเลม่ .........................................................หนา้ .............................................................
สารบบเลม่ ...........................................................หนา้ .............................................................
ลงชื่อ......................................................................ผขู้ อ
ลงช่ือ......................................................................พนกั งานเจา้ หนา้ ท่ี

๔๑

ระเบียบของคณะกรรมการจดั ท่ีดินแห่งชาติ
ฉบับที่ ๘ (พ.ศ. ๒๕๒๙)

ว่าด้วยการควบคุมการจัดทด่ี ินของทบวงการเมอื ง
--------------------------------------

อาศัยอานาจตามความในมาตรา ๒๐ แห่งประมวลกฎหมายท่ีดิน ซ่ึ งแก้ไขเพิ่มเติม
โดยพระราชบญั ญตั ิแกไ้ ขเพ่มิ เติมประมวลกฎหมายท่ีดิน (ฉบบั ที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๒๖ คณะกรรมการจดั ท่ีดินแห่งชาติ
วางระเบียบไวด้ งั ตอ่ ไปน้ี

ข้อ ๑. ระเบียบน้ีเรียกว่า “ระเบียบของคณะกรรมการจดั ที่ดินแห่งชาติ ฉบบั ที่ ๘ (พ.ศ. ๒๕๒๙)
ว่าดว้ ยการควบคุมการจดั ท่ีดินของทบวงการเมือง”

ขอ้ ๒. ระเบียบน้ีใหใ้ ชบ้ งั คบั ต้งั แต่วนั ถดั จากวนั ประกาศในราชกิจจานเุ บกษาเป็นตน้ ไป
ขอ้ ๓. ในระเบียบน้ี
“การจดั ท่ีดินของทบวงการเมือง” หมายความว่า การดาเนินการของทบวงการเมืองใด ๆ
ในการนาท่ีดินไปจัดใหป้ ระชาชนอยอู่ าศัยหรือประกอบการทามาหาเล้ียงชีพตามประมวลกฎหมายที่ดิน
กฎหมายว่าด้วยการปฏิรู ปท่ี ดินเพ่ือเ กษ ตรกรรม กฎหมายว่าด้ว ยการจัดที่ดิ นเ พ่ือการครองชี พ
หรือตามกฎหมายอ่ืน
“เลขาธิการ” หมายความว่า เลขาธิการคณะกรรมการจดั ท่ีดินแห่งชาติ

หมวด ๑
การจัดทาโครงการจัดทด่ี ิน

ข้อ ๔. ทบวงการเมืองใดประสงค์จะดาเนินการจดั ท่ีดินแปลงใดให้จัดทาโครงการ
การจดั ที่ดินแปลงน้นั เสนอต่อคณะกรรมการเพื่อพิจารณาอนุมตั ิ โดยย่ืนต่อเลขาธิการ เม่ือคณะกรรมการอนุมตั ิ
ใหด้ าเนินการจดั ท่ีดินแปลงใดไดแ้ ลว้ จึงใหท้ บวงการเมืองดาเนินการจดั ท่ีดินแปลงน้นั ได้

ขอ้ ๕. ก่อนเสนอโครงการการจดั ท่ีดินแปลงใด ที่ดินแปลงน้นั จะต้องได้รับการสารวจดิน
วินิจฉยั คณุ ภาพของที่ดิน จาแนกสมรรถนะที่ดิน และวางแผนการการใชท้ ่ีดินจากกรมพฒั นาท่ีดินกอ่ น

(ความในขอ้ ๕ ถูกยกเลิก โดยระเบียบของคณะกรรมการฯ ฉบบั ท่ี ๑๑ (พ.ศ. ๒๕๓๐) ฯ
และใหใ้ ชค้ วามตอ่ ไปน้ีแทน)

ขอ้ ๕. ก่อนเสนอโครงการจดั ที่ดินแปลงใด ที่ดินแปลงน้นั จะต้องไดร้ ับการพิจารณาการใช้
ที่ดินใหส้ อดคลอ้ ง และเป็นไปตามมาตรการการใชท้ ี่ดินของการกาหนดช้นั คุณภาพลุ่มน้าของประเทศตามที่
คณะกรรมการสิ่งแวดลอ้ มแหง่ ชาติกาหนด โดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี รวมท้งั ไดร้ ับการสารวจ
ความเหมาะสมของดินและวางแผนการใชท้ ี่ดินจากกรมพฒั นาท่ีดินกอ่ น

๔๒

ขอ้ ๖. โครงการการจดั ที่ดินอยา่ งนอ้ ยตอ้ งมีสาระสาคญั ดงั ตอ่ ไปน้ี
(๑) ชื่อทบวงการเมืองที่จะจดั ท่ีดิน
(๒) ผลการพิจารณาของกรมพฒั นาที่ดินตามขอ้ ๕
(๓) ท่ีต้งั เน้ือที่ อาณาเขต และสภาพท่ีดินที่จะดาเนินการจดั ท่ีดิน
(๔) ผลการสารวจการถือครองในพ้นื ที่ที่จะดาเนินการจดั ท่ีดิน
(๕) จานวนเน้ือท่ีท่ีจะจดั แบง่ ใหป้ ระชาชนเขา้ ครอบครอง
(๖) หลกั เกณฑ์และวิธีการในการคดั เลือกบุคคลท่ีจะรบั การจดั ท่ีดิน
(๗) เงอ่ื นไขที่ผไู้ ดร้ บั การจดั ท่ีดินจะตอ้ งปฏิบตั ิ
(๘) การใหส้ ิทธิในท่ีดินแก่ผไู้ ดร้ ับการจดั ที่ดิน
(๙) การจดั ใหม้ ีสาธารณูปโภคตา่ ง ๆ
(๑๐) กาหนดเวลาการจดั ท่ีดิน ตลอดจนระยะเวลาดาเนินการ
(๑๑) งบประมาณในการดาเนินการ
(๑๒) หลักเ กณ ฑ์ในการให้ผู้ได้รับการจัดท่ีดิ นชดใช้ทุนที่ รัฐบาลได้ลงไป

ในการจดั ที่ดิน
(๑๓) แผนผงั แสดงพ้นื ที่ที่จะดาเนินการจดั ท่ีดิน พร้อมท้งั แสดงบริเวณที่จะจดั แบ่ง

ที่ดินเป็นที่อยอู่ าศยั ประกอบการทามาหาเล้ียงชีพ สมบตั ิส่วนกลาง และสาธารณูปโภค โดยใชม้ าตราส่วน
ท่ีสามารถใชพ้ ิจารณาไดส้ ะดวก

ขอ้ ๗. ในการอนุมัติโครงการของคณะกรรมการตามข้อ ๔ คณะกรรมการจะกาหนด
หลกั เกณฑ์และเงอ่ื นไขใด ๆ ท่ีเห็นสมควรใหท้ บวงการเมืองดาเนินการดว้ ยกไ็ ด้

หมวด ๒
การควบคุมการจัดท่ีดินตามโครงการ

ขอ้ ๘. ใหท้ บวงการเมืองเร่ิมดาเนินการจัดท่ีดินตามโครงการที่ไดร้ ับอนุมตั ิโดยไม่ชักช้า
เม่ือเร่ิมดาเนินการจดั ท่ีดินแลว้ ใหท้ บวงการเมืองรายงานผลการดาเนินการใหค้ ณะกรรมการทราบตามแบบ
และระยะเวลาท่ีคณะกรรมการกาหนด

ข้อ ๙. การจัดท่ีดินของทบวงการเมืองตามโครงการใด จะต้องดาเนินการให้เป็ นไป
ตามโครงการท่ีคณะกรรมการอนมุ ตั ิ

ขอ้ ๑๐. ในกรณีที่ทบวงการเมืองประสงคจ์ ะเปล่ียนแปลงสาระสาคญั ของโครงการที่ไดร้ ับ
อนุมตั ิแลว้ ใหเ้ สนอรายการท่ีประสงค์จะเปล่ียนแปลง พร้อมท้งั เหตุผลและความจาเป็ นใหค้ ณะกรรมการ
พิจารณาอนมุ ตั ิ เมื่อคณะกรรมการอนมุ ตั ิใหเ้ ปลี่ยนแปลงแลว้ จึงใหด้ าเนินการตามน้นั ได้

๔๓

ขอ้ ๑๑. ในการควบคมุ ใหก้ ารจดั ที่ดินดาเนินไปตามโครงการท่ีไดร้ ับอนุมตั ิ คณะกรรมการ
อาจมีมติใหร้ ฐั มนตรี

(๑) มีหนงั สือเรียกเจา้ หนา้ ท่ีของทบวงการเมืองมาช้ีแจงข้อเท็จจริงหรือแสดงความคิดเห็น
เกี่ยวกับการจัดที่ดิน และใหส้ ่งเอกสารหลักฐาน หรื อส่ิ งอ่ืนที่เก่ียวขอ้ งมาประกอบการพิจารณาของ
คณะกรรมการ

(๒) แต่งต้ังพนักงานเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบการดาเนินการจัดท่ีดินยงั สถานที่
ดาเนินการจดั ท่ีดิน

ขอ้ ๑๒. ทบวงการเมืองใดประสบปัญหาหรืออปุ สรรคในการจดั ที่ดินตามโครงการที่ไดร้ ับอนุมตั ิ
ใหเ้ สนอปัญหาและอุปสรรคต่อคณะกรรมการเพื่อทราบและพิจารณาดาเนินการแกไ้ ขหรือให้ความช่วยเหลือได้

บทเฉพาะกาล

ขอ้ ๑๔. ทบวงการเมืองใดดาเนินการจดั ที่ดินอยใู่ นวันที่ระเบียบน้ีประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ใหด้ าเนินการต่อไปไดโ้ ดยไม่อยู่ภายใต้บังคับแห่งระเบียบน้ี แต่ต้องแจ้งจานวนและรายละเอียดเกี่ยวกับ
โครงการการจดั ที่ดินที่กาลงั ดาเนินการอยตู่ อ่ คณะกรรมการภายในหกสิบวันนับแต่วนั ท่ีระเบียบน้ีใช้บังคับ
และตอ้ งรายงานผลการดาเนินการให้คณะกรรมการทราบตามแบบและระยะเวลาที่คณะกรรมการกาหนด
จนกวา่ จะดาเนินการจดั ที่ดินตามโครงการน้นั ๆ เสร็จ

ประกาศ ณ วนั ท่ี ๑๔ มกราคม พ.ศ. ๒๕๒๙
(ลงชื่อ) พลเอก สิทธิ จิรโรจน์
(สิทธิ จิรโรจน์)
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ประธานคณะกรรมการจดั ที่ดินแห่งชาติ

๔๔

ระเบียบของคณะกรรมการจัดทีด่ ินแห่งชาติ
ฉบับที่ ๑๑ (พ.ศ. ๒๕๓๐)

ว่าด้วยการควบคุมการจัดทดี่ ินของทบวงการเมอื ง
--------------------------------------

อาศัยอานาจตามความในมาตรา ๒๐ แห่งประมวลกฎหมายท่ีดิน ซ่ึ งแก้ไขเพ่ิมเติม
โดยพระราชบญั ญตั ิแกไ้ ขเพ่มิ เติมประมวลกฎหมายท่ีดิน (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๒๖ คณะกรรมการจดั ที่ดินแห่งชาติ
วางระเบียบไวด้ งั ตอ่ ไปน้ี

ให้ยกเลิกความในข้อ ๕ แห่งระเบียบของคณะกรรมการจัดท่ีดินแห่งชาติ ฉบับที่ ๘
(พ.ศ. ๒๕๒๙) วา่ ดว้ ยการควบคมุ การจดั ท่ีดินของทบวงการเมือง และใหใ้ ชค้ วามต่อไปน้ีแทน

“ขอ้ ๕. กอ่ นเสนอโครงการการจดั ท่ีดินแปลงใด ท่ีดินแปลงน้ันจะตอ้ งไดร้ ับการพิจารณา
การใชท้ ่ีดินใหส้ อดคลอ้ ง และเป็นไปตามมาตรการการใชท้ ่ีดินของการกาหนดช้ันคุณภาพลุ่มน้าของประเทศ
ตามท่ีคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติกาหนดโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี รวมท้งั ไดร้ ับการ
สารวจความเหมาะสมของดินและวางแผนการใชท้ ี่ดินจากกรมพฒั นาท่ีดินกอ่ น”

ใหไ้ ว้ ณ วนั ที่ ๑๗ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๓๐
(ลงช่ือ) ไสว พฒั โน
(นายไสว พฒั โน)

รัฐมนตรีช่วยว่าการฯ ปฏิบตั ิราชการแทน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ประธานคณะกรรมการจดั ท่ีดินแห่งชาติ

๔๕

คาสั่งที่ ๑๑๕๐/๒๔๙๘
เร่ือง การออกใบจองและหนงั สือรับรองการทาประโยชน์

โดยท่ีเหน็ สมควรวางระเบียบปฏิบตั ิ ว่าดว้ ยการออกใบจองตามมาตรา ๓๐ และมาตรา ๓๓
แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน และออกหนงั สือรับรองการทาประโยชน์ตามกฎกระทรวงมหาดไทย ฉบับท่ี ๒
ฉบบั ท่ี ๕ (พ.ศ. ๒๔๙๗) ออกตามความในพระราชบัญญัติให้ใชป้ ระมวลกฎหมายท่ีดิน พ.ศ. ๒๔๙๗
จึงวางระเบียบไวด้ งั ตอ่ ไปน้ี

หมวด ๑
การออกใบจอง

ขอ้ ๑. วิธีดาเนินการออกใบจองตามมาตรา๓๐แหง่ ประมวลกฎหมายท่ีดินใหพ้ นักงานเจา้ หน้าที่
ออกใบจองเม่ือไดร้ บั เรื่องการจดั ใหผ้ เู้ ขา้ ครอบครองที่ดินจากเจา้ หนา้ ที่ในการจดั ท่ีดินแลว้

ขอ้ ๒. วิธีดาเนินการเพอ่ื ออกใบจองตามมาตรา ๓๓ แห่งประมวลกฎหมายท่ีดิน เม่ือได้มี
ประกาศใหป้ ระชาชนทราบถึงเขตและท่ีต้งั ของท่ีดินท่ีจะจดั ใหป้ ระชาชนจบั จองแล้ว ใหผ้ ปู้ ระสงค์จะจบั จอง
ยน่ื คาขอตามแบบของคณะกรรมการจดั ท่ีดินแห่งชาติตอ่ พนกั งานเจา้ หนา้ ที่โดยปฏิบัติตามระเบียบ ขอ้ บังคับ
ขอ้ กาหนด และเง่อื นไขที่คณะกรรมการจดั ที่ดินแห่งชาติกาหนดไว้

เมื่อพนกั งานเจา้ หนา้ ที่ไดร้ ับคาขอแลว้ ให้ดาเนินการรังวดั ชนั สูตรสอบสวนและประกาศ
คาขอจบั จองในที่เปิ ดเผย ณ ที่ว่าการอาเภอหรือกิ่งอาเภอ ๑ ฉบบั ณ สานกั งานเทศบาลหรือบ้านกานนั ๑ ฉบบั
และในที่ดินน้นั ๑ ฉบบั มีกาหนด ๓๐ วัน โดยใช้ประกาศแบบหมายเลข ๘ เม่ือไม่มีการขัดขอ้ งและพิจารณา
เห็นสมควรแลว้ จึงดาเนินการออกใบจองใหต้ อ่ ไป

ขอ้ ๓. ใบจองท่ีออกใหผ้ ขู้ อตามขอ้ ๑ ขอ้ ๒ ใหท้ าตามแบบ น.ส. ๒ โดยใหผ้ ขู้ อลงนามรบั ไว้

หมวด ๒
การออกหนังสือรับรองการทาประโยชน์

ข้อ ๔. หนังสือรับรองการทาประโยชน์ (น.ส.๓) ที่ออกให้ตามกฎกระทรวงมหาดไทย
ฉบบั ท่ี ๒ และฉบบั ที่ ๕ (พ.ศ. ๒๔๙๗) ให้ทาเป็ นคู่ฉบบั รวม ๒ ฉบับ มอบใหผ้ ขู้ อหน่ึงฉบับโดยให้ผขู้ อ
ลงนามรับไว้ในคาขอ และเก็บรักษาไว้ ณ สานักงานที่ดินหน่ึงฉบับ โดยเขียนท่ีมุมขวาด้านบนว่า
“ฉบบั พนกั งานเจา้ หนา้ ที่” “ฉบบั ผถู้ ือ”

ขอ้ ๕. การนาพิสูจน์ยังท่ีดินเป็ นหน้าที่ของผขู้ อท่ีจะนาพิสูจน์ให้ได้ความว่า ผู้ขอได้
ครอบครองและทาประโยชน์ตามสมควรแก่สภาพของที่ดินในท้องถิ่น ตลอดจนกิจการที่ไดท้ าประโยชน์
ตามกฎกระทรวง ฉบับท่ี ๒ ข้อ ๔ โดยผู้ขอจะต้องให้ถ้อยคาไว้ให้ครบถ้วนตามแบบพิสู จน์และต้อง


Click to View FlipBook Version