๓
หนา ๒๖
ยอหนาสอง บรรทัดท่ี ๓ ใหเพิ่มคําวา “วรรคเกา” ตอทายจากมาตรา ๖๑ และแกไข “ขอ ๑”
เปน “ขอ ๒”
ยอหนาสอง ขอ (๑) บรรทัดท่ี ๒ ใหแกไขคําวา “หรือผูซ่ึงอธิบดีมอบหมายเห็นสมควรเปน
ประธาน ผูวาราชการกรุงเทพมหานครหรือผูแทน ผูอํานวยการเขตซึ่งที่ดินนั้นตั้งอยูหรือผูแทน และผูแทน
สวนราชการอ่ืนท่ีเกี่ยวของตามท่ีเห็นสมควร เปนกรรมการและขาราชการต้ังแตระดับหา (เดิม) ขึ้นไปใน
สํานักงานที่ดินกรุงเทพมหานคร หรือสํานักงานที่ดินกรุงเทพมหานครสาขา เปนกรรมการและเลขานุการ”
เปน “หรือผูซ่ึงอธิบดีมอบหมายซึ่งดํารงตําแหนงรองอธิบดีหรือผูตรวจราชการกรมที่ดินเห็นสมควร เปน
ประธานกรรมการ ผูวาราชการกรุงเทพมหานคร ผูอํานวยการเขตซ่ึงท่ีดินนั้นตั้งอยู และผูแทนสวนราชการ
อื่นท่ีเกี่ยวของตามที่เห็นสมควร เปนกรรมการ และใหอธิบดีหรือผูซึ่งอธิบดีมอบหมายซึ่งดํารงตําแหนงรอง
อธบิ ดหี รือผูตรวจราชการกรมที่ดินแตงตั้งขาราชการซ่ึงดํารงตําแหนงประเภทท่ัวไปต้ังแตระดับชํานาญงาน
ขึ้นไปหรือขาราชการซึ่งดํารงตําแหนงประเภทวิชาการตั้งแตระดับชํานาญการขึ้นไปในสํานักงานที่ดิน
กรงุ เทพมหานครหรือสาํ นกั งานท่ีดินกรุงเทพมหานครสาขา เปน กรรมการและเลขานุการ”
หนา ๒๖ - ๒๗
ขอ (๒) บรรทัดท่ี ๒ ใหแกไขคําวา “หรือผูซ่ึงอธิบดีมอบหมายเห็นสมควร เปนประธาน
นายอําเภอหรือปลัดอําเภอผูเปนหัวหนาประจํากิ่งอําเภอซ่ึงท่ีดินนั้นตั้งอยูหรือผูแทน ตัวแทนคณะผูบริหาร
ทองถิ่นหรือผูบริหารทองถ่ินซึ่งที่ดินนั้นตั้งอยูหรือผูแทน และผูแทนสวนราชการอื่นท่ีเก่ียวของตามท่ี
เห็นสมควร เปนกรรมการ และขาราชการตง้ั แตร ะดับหา (เดิม) ขน้ึ ไปในสาํ นักงานทด่ี นิ จังหวัดหรอื สาํ นกั งาน
ท่ีดินจังหวัดสาขา เปนกรรมการและเลขานุการ (หากจะตองเพิกถอนหรือแกไขรายการจดทะเบียนสิทธิและ
นิติกรรมเก่ียวกับอสังหาริมทรัพยหรือการจดแจงเอกสารรายการทะเบียนอสังหาริมทรัพยดวย จะตองต้ัง
ขาราชการระดับหา (เดิม) ข้ึนไป ในสํานักงานท่ีดินจังหวัดหรือสํานักงานที่ดินจังหวัดสาขา เพ่ิมอีกคนหนึ่ง
เปนกรรมการ)” เปน “หรือผูซึ่งอธิบดีมอบหมายซึ่งดํารงตําแหนงรองอธิบดีหรือผูตรวจราชการกรมท่ีดิน
เห็นสมควร เปนประธานกรรมการ นายอําเภอหรือปลัดอําเภอ ผูเปนหัวหนาประจําก่ิงอําเภอซ่ึงที่ดินนั้น
ตั้งอยู ตัวแทนคณะผูบริหารทองถิ่นหรือผูบริหารทองถ่ินซ่ึงที่ดินนั้นตั้งอยู และผูแทนสวนราชการอ่ืนที่
เกย่ี วของตามทีเ่ หน็ สมควร เปนกรรมการ และใหอธบิ ดหี รือผซู ่งึ อธิบดีมอบหมายซึง่ ดํารงตาํ แหนงรองอธิบดี
หรือผตู รวจราชการกรมทดี่ ินแตงตั้งขาราชการซึ่งดํารงตําแหนงประเภทท่ัวไปต้ังแตระดับชํานาญงานขึ้นไป
หรือขาราชการซึ่งดํารงตําแหนงประเภทวิชาการต้ังแตระดับชํานาญการข้ึนไปในสํานักงานที่ดินจังหวัดหรือ
สํานักงานที่ดินจังหวัดสาขา เปนกรรมการและเลขานุการ (หากจะตองเพิกถอนหรือแกไขการจดทะเบียน
สิทธิและนิติกรรมเก่ียวกับอสังหาริมทรัพยหรือการจดแจงเอกสารรายการจดทะเบียนอสังหาริมทรัพยดวย
จะตองตั้งขาราชการซ่ึงดํารงตําแหนงประเภททั่วไป ต้ังแตระดับชํานาญงานขึ้นไป หรือขาราชการซ่ึงดํารง
๔
ตําแหนงประเภทวิชาการตั้งแตระดับชํานาญการขึ้นไปในสํานักงานท่ีดินจังหวัด หรือสํานักงานที่ดินจังหวัด
สาขา เพอื่ อีกคนหนงึ่ เปนกรรมการ โดยใหก รรมการคนหนึ่งเปน เลขานกุ าร)”
หนา ๒๗
ยอหนาหน่ึง บรรทัดท่ี ๑ ใหแกไขคําวา “กรณีท่ีดินมีอาณาเขตติดตอ คาบเก่ียว หรืออยูในเขต
ปาสงวนแหงชาติ เขตอุทยานแหงชาติ เขตรักษาพันธุสัตวปา เขตหามลาสัตวปา หรือเขตที่ไดจําแนกใหเปน
เขตปา ไมถ าวรตามมติคณะรฐั มนตรีใหแ ตงตัง้ ผแู ทนกรมปาไม เปนกรรมการดวย” เปน “ในกรณที ่ีท่ีดินนั้นมี
อาณาเขตติดตอ คาบเกี่ยว หรอื อยใู นเขตทไี่ ดจ าํ แนกใหเ ปน เขตปาไมถ าวรตามมติคณะรัฐมนตรี เขตปาสงวน
แหง ชาติ เขตอุทยานแหงชาติ เขตรักษาพันธุสัตวปาหรือเขตหามลาสัตวปา ใหแตงตั้งผูแทนกรมพัฒนาท่ีดิน
ผูแทนกรมปา ไม หรือผแู ทนกรมอทุ ยานแหง ชาติ สตั วปา และพนั ธุพืช เปนกรรมการดว ย แลว แตก รณ”ี
หนา ๒๘
ยอหนาแรก บรรทัดท่ี ๑ และ ขอ ๒.๔ ใหแกไขคําวา “หรือผูซ่ึงอธิบดีมอบหมาย” เปน “หรือผู
ซึ่งอธบิ ดมี อบหมายซึ่งดาํ รงตาํ แหนงรองอธิบดหี รือผูตรวจราชการกรมทด่ี ิน”
หนา ๒๙
ขอ ๔.๑ บรรทัดท่ี ๓ ใหแกไขคําวา “รายการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม” เปน “การจด
ทะเบยี นสิทธิและนติ กิ รรมเกยี่ วกับอสังหาริมทรัพย”
หนา ๓๒
บรรทัดที่ ๒ และขอ ๙ บรรทัดที่ ๒ ใหแกไขคําวา “หรือผูซึ่งอธิบดีมอบหมาย” เปน “หรือผูซึ่ง
อธบิ ดีมอบหมายซึ่งดาํ รงตาํ แหนงรองอธิบดหี รือผตู รวจราชการกรมทีด่ ิน”
หนา ๓๓
ขอ ๑๑ บรรทัดท่ี ๒ ใหแกไขคําวา “อธิบดี” เปน “อธิบดีหรือผูซึ่งอธิบดีมอบหมายซ่ึงดํารง
ตาํ แหนงรองอธบิ ดหี รือผตู รวจราชการกรมทด่ี ิน”
หนา ๓๔
ขอ ๑๒ ยอ หนา แรก แกไข “ขอ ๖” เปน “ขอ ๗”
บรรทัดที่ ๓ และบรรทัดสุดทายของขอ ๖ ใหแกไขคําวา “หรือผูซ่ึงอธิบดีมอบหมาย” เปน
“หรือผซู ง่ึ อธิบดมี อบหมายซึ่งดาํ รงตําแหนง รองอธบิ ดหี รือผตู รวจราชการกรมทด่ี ิน”
๕
หนา ๓๕
ยอหนาสาม บรรทัดท่ี ๑ แกไขจาก “ขอ ๑๑ และขอ ๑๒” เปน “ขอ ๑๒ และขอ ๑๓” และ
แกไขคําวา “ของกฎกระทรวงกําหนดหลกั เกณฑและวิธกี ารในการตงั้ คณะกรรมการสอบสวนฯ พ.ศ. ๒๕๔๔
ท่ีใหอธิบดีหรือผูซึ่งอธิบดีมอบหมาย” เปน “ของกฎกระทรวงกําหนดหลักเกณฑและวิธีการในการสอบสวน
และการพิจารณาเพิกถอนหรือแกไขการออกโฉนดท่ีดินหรือหนังสือรับรองการทําประโยชน การจดทะเบียน
สิทธิและนิติกรรม หรือการจดแจงเอกสารรายการจดทะเบียน โดยคลาดเคล่ือนหรือไมชอบดวยกฎหมาย
พ.ศ. ๒๕๕๓ ทีใ่ หอธบิ ดีหรือผูซ ึ่งอธิบดีมอบหมายซึง่ ดาํ รงตาํ แหนงรองอธบิ ดหี รอื ผูตรวจราชกรมทีด่ ิน”
ยอหนา สาม บรรทัดที่ ๖ แกไ ขจาก “ขอ ๗,ขอ ๘ และขอ ๙” เปน “ขอ ๘,ขอ ๙และขอ ๑๐”
ยอหนาสี่ ขอ ๑ บรรทัดท่ี ๙ แกไขคําวา “ผูซ่ึงอธิบดีมอบหมาย เปน “อธิบดีหรือผูซึ่งอธิบดี
มอบหมายซึ่งดํารงตําแหนงรองอธิบดีหรือผูตรวจราชการกรมที่ดิน” และบรรทัดท่ี ๑๐ ให
แกไ ขจาก “ขอ ๖” เปน “ขอ ๗”
หนา ๓๖
ขอ ๒ ยอหนาแรก บรรทัดท่ี ๓และบรรทัดท่ี ๘ ใหแกไขคําวา “ผูซ่ึงอธิบดีมอบหมาย” เปน
“ผูซ ึง่ อธิบดมี อบหมายซง่ึ ดาํ รงตาํ แหนงรองอธิบดหี รือผูตรวจราชการกรมท่ดี ิน”
หนา ๓๗
บรรทดั แรก แกไ ขจาก “ขอ ๙และขอ ๑๒” เปน “ขอ ๑๐ และขอ ๑๑”
ขอ ๓ บรรทัดท่ี ๗ ใหแกไขคําวา “หรือผูซึ่งอธิบดีมอบหมาย” เปน “หรือผูซ่ึงอธิบดีมอบหมาย
ซง่ึ ดํารงตําแหนง รองอธบิ ดีหรือผูต รวจราชการกรมทด่ี ิน”
ขอ ๓ ยอหนาท่ี ๒ บรรทัดแรก ใหแกไขคําวา “หรือผูซ่ึงอธิบดีมอบหมาย” เปน “หรือผูซ่ึง
อธิบดีมอบหมายซงึ่ ดาํ รงตําแหนงรองอธิบดหี รือผตู รวจราชการกรมทด่ี ิน”
หนา ๓๘
ชวงที่ ๔ ยอหนาแรก บรรทัดที่ ๒ และยอหนาสอง บรรทัดที่ ๑ ใหแกไขคําวา “หรือผูซึ่งอธิบดี
มอบหมาย” เปน “หรือผูซึง่ อธิบดีมอบหมายซงึ่ ดํารงตาํ แหนง รองอธิบดีหรือผูตรวจราชการกรมท่ดี ิน”
หนา ๓๙
ยอหนาสุดทาย บรรทัดที่ ๒ ,๓ และ๔ ใหแกไขคําวา “หรือผูซ่ึงอธิบดีมอบหมาย” เปน “หรือผู
ซง่ึ อธบิ ดมี อบหมายซึ่งดาํ รงตําแหนงรองอธิบดีหรอื ผตู รวจราชการกรมที่ดิน”
๖
หนา ๖๔
๒ กฎกระทรวง บรรทัดที่ ๒ ใหแกไข จาก “กฎกระทรวงกําหนดหลักเกณฑและวิธีการใน
การต้ังคณะกรรมการสอบสวนฯ พ.ศ. ๒๕๔๔” เปน “กฎกระทรวงกําหนดหลักเกณฑและวิธีการใน
การสอบสวนและการพิจารณาเพิกถอนหรือแกไขการออกโฉนดท่ีดินหรือหนังสือรับรองการทําประโยชน
การจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม หรือการจดแจงเอกสารรายการจดทะเบียนโดยคลาดเคล่ือนหรือไมชอบ
ดวยกฎหมาย พ.ศ. ๒๕๕๓” และแกไข หมวด ๑,หมวด ๒, หมวด ๓ ในหนา ๖๔,๖๕,๖๖,๖๗ โดยใหใช
ความตาม หมวด ๑,หมวด ๒,หมวด ๓ ของกฎกระทรวงกําหนดหลักเกณฑและวิธีการในการสอบสวนและ
การพิจารณาเพิกถอนหรือแกไขการออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทําประโยชน การจดทะเบียน
สิทธิและนิติกรรม หรือการจดแจงเอกสารรายการจดทะเบียนโดยคลาดเคล่ือนหรือไมชอบดวยกฎหมาย
พ.ศ. ๒๕๕๓