หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 หน่วยการเรียนรู้ที่ 6 หน่วยการเรียนรู้ที่ 7 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เล่ม 2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 8
ตัวชี้วัด แสงและการมองเห็น • ออกแบบการทดลองและด าเนินการทดลองด้วยวิธีที่เหมาะสมในการอธิบายกฎการสะท้อนของแสง • เขียนแผนภาพการเคลื่อนที่ของแสง แสดงการเกิดภาพจากกระจกเงา • อธิบายการหักเหของแสงเมื่อผ่านตัวกลางโปร่งใสที่แตกต่างกัน และอธิบายการกระจายแสงของแสงขาวเมื่อผ่านปริซึมจากหลักฐานเชิงประจักษ์ • เขียนแผนภาพการเคลื่อนที่ของแสง แสดงการเกิดภาพจากเลนส์บาง • อธิบายปรากฏการณ์ที่เกี่ยวกับแสง และการท างานของทัศนอุปกรณ์จากข้อมูลที่รวบรวมได้ • เขียนแผนภาพการเคลื่อนที่ของแสง แสดงการเกิดภาพของทัศนอุปกรณ์และเลนส์ตา • อธิบายผลของความสว่างที่มีต่อดวงตาจากข้อมูลที่ได้จากการสืบค้น • วัดความสว่างของแสงโดยใช้อุปกรณ์วัดความสว่างของแสง • ตระหนักในคุณค่าของความรู้เรื่อง ความสว่างของแสงที่มีต่อดวงตา โดยวิเคราะห์สถานการณ์ปัญหาและเสนอแนะการจัดความสว่างให้เหมาะสมในการท ากิจกรรมต่าง หน่วยการเรียนรู้ที่ 7
เรามองเห็นสิ่งต่างๆ ได้อย่างไร
การสะท้อนของแสง • การสะท้อนของแสง เกิดจากแสงเดินทางไปตกกระทบกับผิวของวัตถุที่แสงไม่สามารถเดินทางผ่านได้ ท าให้แสงที่ตกกระทบผิวของวัตถุนั้น เกิดการสะท้อนกลับหมด ลักษณะการสะท้อนของแสงจะ สะท้อนกลับมากหรือน้อย จะขึ้นอยู่กับลักษณะของผิวของวัตถุที่แสงตกกระทบ ผิวเรียบเป็นมัน ผิวขรุขระ
กฎการสะท้อนของแสง การสะท้อนของแสง ไม่ว่าจะเป็นการสะท้อนจากวัตถุผิวเรียบเป็นมันหรือผิวขรุขระ เมื่อพิจารณาที่จุดจุดหนึ่ง บนผิววัตถุ จะเป็นไปตามกฎการสะท้อนของแสง ดังนี้ ผิวราบ ผิวโค้งนูน ผิวโค้งเว้า 1. มุมตกกระทบจะมีค่าเท่ากับมุมสะท้อน (θi = θr) 2. รังสีตกกระทบ รังสีสะท้อน และเส้นแนวฉาก จะอยู่ในระนาบเดียวกัน
1 กระจกเงาราบ การเกิดภาพจากกระจกเงา • ภาพที่เกิดขึ้นจะเป็นภาพเสมือนหัวตั้งที่มีขนาดเท่ากับวัตถุ • ภาพที่เห็นในกระจกจะกลับด้านจากซ้ายเป็นขวาและขวาเป็นซ้าย • ในกรณีที่วัตถุมีขนาดหรือมีความสูง ความสูงของภาพจะเท่ากับความสูงของวัตถุเสมอ วัตถุ ภาพ X = ขนาดของกระจกที่น้อยที่สุด ระยะวัตถุอยู่ห่างจาก ผิวกระจกเงาราบ เรียกว่า ระยะวัตถุ ระยะที่ภาพอยู่ห่างจาก ผิวกระจกเงาราบ เรียกว่า ระยะภาพ
2 กระจกเงาโค้ง การเกิดภาพจากกระจกเงา • ภาพเสมือนหัวตั้งขนาดใหญ่กว่าวัตถุ • ภาพจริงหัวกลับขนาดเล็กกว่าวัตถุ • ภาพจริงหัวกลับขนาดใหญ่กว่าวัตถุ ขึ้นอยู่กับต าแหน่งของวัตถุ • ภาพเสมือนหัวตั้งที่มีขนาดเล็กกว่าวัตถุ • สามารถมองเห็นภาพได้ในมุมกว้างกว่า กระจกเงาราบ กระจกเงาเว้า กระจกเงานูน
การเขียนภาพจากกระจกเงาโค้ง กระจกเงาเว้า กระจกเงานูน ลากเส้นรังสีตกกระทบจากปลายวัตถุถึงผิวกระจก โดยให้ขนานกับเส้นแกนมุขส าคัญ จะได้รังสีสะท้อนจากผิวกระจก ผ่านไปยังจุดโฟกัส (F) 1
การเขียนภาพจากกระจกเงาโค้ง กระจกเงาเว้า กระจกเงานูน ลากเส้นรังสีตกกระทบจากปลายวัตถุผ่านจุดศูนย์กลางความโค้ง (C) ถึงผิวกระจก จะได้รังสีสะท้อนจากผิวกระจก ย้อนกลับไปยังทิศทางเดิม 2
การเขียนภาพจากกระจกเงาโค้ง กระจกเงาเว้า กระจกเงานูน ลากเส้นรังสีตกกระทบจากปลายวัตถุผ่านจุดโฟกัส (F) ถึงผิวกระจก จะได้รังสีสะท้อนจากผิวกระจก ซึ่งขนานกับ เส้นแกนมุขส าคัญ เมื่อลากเส้นรวมทั้งหมดแล้ว จุดตัดของรังสีที่สะท้อนหรือจุดที่สามารถลากเส้นเสมือนตัดกัน จุดนั้นจะเป็นจุดที่เกิดภาพขึ้น 3 ภาพ ภาพ C F วัตถุ วัตถุ F C
1 ถ้าตั้งวัตถุไว้ที่ระยะที่มากกว่าจุด ศูนย์กลางของความโค้ง (C) จะท าให้เกิด ภาพจริงหัวกลับที่มีขนาดเล็กกว่าวัตถุ 2 ถ้าตั้งวัตถุไว้ที่ระยะระหว่างจุดโฟกัส (F) และจุดศูนย์กลางของความโค้ง (C) ท าให้เกิดภาพจริงหัวกลับที่มีขนาดใหญ่ กว่าวัตถุ 3 ถ้าตั้งวัตถุไว้ที่ระยะน้อยกว่าจุดโฟกัส (F) จะท าให้เกิดภาพเสมือนหัวตั้งที่มีขนาด ใหญ่กว่าวัตถุ ลักษณะการเกิดภาพจากกระจกเงาโค้ง กระจกเงาเว้า วัตถุ วัตถุ ภาพ C F วัตถุ ภาพ C F ภาพ C F
ลักษณะการเกิดภาพจากกระจกเงาโค้ง กระจกเงานูน ไม่ว่าจะอยู่ต าแหน่งใดของกระจก ภาพที่เกิดจากกระจกเงานูนจะได้เพียง ชนิดเดียว คือ ภาพเสมือนหัวตั้งขนาดเล็กกว่าวัตถุ ภาพ
การหักเหของแสง • เมื่อแสงเคลื่อนที่จากตัวกลางหนึ่งไปสู่อีกตัวกลางหนึ่ง แสงจะสะท้อนกลับไปยังตัวกลางเดิม และบางส่วน จะเคลื่อนที่ผ่านเข้าไปในตัวกลางใหม่ด้วยอัตราเร็วและทิศทางการเคลื่อนที่ของแสงที่เปลี่ยนแปลงไป • การหักเหของแสงจะเบนมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับความหนาแน่นของตัวกลางที่แสงเคลื่อนที่ผ่าน
ดรรชนีหักเห • เป็นอัตราส่วนระหว่างอัตราเร็วแสงในสุญญากาศกับอัตราเร็วแสงในตัวกลางใด ในการหักเหของแสง ดรรชนีหักเหของวัตถุแต่ละชนิดจะสัมพันธ์กับอัตราเร็วของแสง ที่เปลี่ยนไปตามความหนาแน่นของตัวกลาง เมื่อวางหลอดน้ าลงในแก้วที่มีน้ าอยู่ จะเห็นส่วนของหลอดน้ าที่จมอยู่ในน้ าโค้งงอ และมีขนาดใหญ่กว่าส่วนที่อยู่เหนือน้ า เพราะแสงจากหลอดน้ า เกิดการหักเหขณะเคลื่อนที่ผ่านอากาศและน้ าเข้าสู่ตา
การสะท้อนกลับหมดของแสง • การสะท้อนกลับหมด เป็นปรากฏการณ์ของการสะท้อนและการหักเหของแสง เมื่อให้แสงตกกระทบตามรังสีตกกระทบ A มุมตกกระทบจะเท่ากับ θA ซึ่งรังสี A′ คือ รังสีหักเห • มุมตกกระทบที่ท าให้มุมหักเหท ามุม 90 องศากับเส้นแนวฉาก เรียกว่า มุมวิกฤต ถ้าเพิ่มขนาดของมุมตกกระทบให้ใหญ่ขึ้นกว่า มุมวิกฤตจะไม่มีรังสีหักเหเกิดขึ้น แต่จะเห็นรังสีสะท้อนแทน เรียกปรากฏการณ์นี้ว่า เกิดการสะท้อนกลับหมด การเพิ่มขนาดมุมตกกระทบให้ใหญ่ขึ้นจนเป็นมุมวิกฤต จะได้รังสีตั้งฉากกับเส้นแนวฉาก การเพิ่มขนาดมุมตกกระทบให้ใหญ่กว่ามุมวิกฤต จะเกิดการสะท้อนกลับหมดของแสง A′ B′ B′ B A B C C′ θB θA θB เส้นแนวฉาก เส้นแนวฉาก
เลนส์นูน (convex lens) เลนส์เว้า (concave lens) การเกิดภาพจากเลนส์ ท าหน้าที่รวมแสง แสงจะหักเหรวมกันที่จุดโฟกัส ภาพที่เกิดให้ทั้งภาพจริงและภาพเสมือน มีทั้งขนาดเล็กและใหญ่กว่าวัตถุ ท าหน้าที่กระจายแสง แสงจะหักเหกระจายออกและไม่ตัดกัน ภาพที่เกิดเป็นภาพเสมือนเพียงอย่างเดียว ขนาดเล็กกว่าวัตถุ
การเขียนต าแหน่งภาพจากเลนส์ เลนส์นูน เลนส์เว้า A′ B A′ B เขียนรังสีตกกระทบ (A) จากจุดปลาย ของวัตถุไปตกกระทบเลนส์ โดยให้รังสี ตกกระทบขนานกับเส้นแกนมุขส าคัญของ เลนส์จะท าให้มีรังสีหักเห A′ เกิดขึ้น โดยหักเหผ่านจุดโฟกัสของเลนส์ 1 เขียนรังสีตกกระทบอีกเส้นหนึ่ง (B) จากจุดปลายของวัตถุไปตกกระทบ ที่จุดกึ่งกลางของเลนส์ แล้วลากผ่านทะลุเลนส์ออกไป 2 ต าแหน่งที่แนวรังสีทั้งสองตัดกัน คือ ต าแหน่งของภาพที่เกิดจากการหักเห ของเลนส์ 3 ภาพ A C F F C วัตถุ Cวัตถุ Fภาพ F C
เลนส์นูน 1 ถ้าตั้งวัตถุไว้ที่ระยะที่มากกว่าจุด ศูนย์กลางของความโค้ง (C) จะท าให้เกิด ภาพจริงหัวกลับที่มีขนาดเล็กกว่าวัตถุ 2 ถ้าตั้งวัตถุไว้ที่ระยะระหว่างจุดโฟกัส (F) และจุดศูนย์กลางของความโค้ง (C) จะ ท าให้เกิดภาพจริงหัวกลับที่มีขนาดใหญ่ กว่าวัตถุ 3 ถ้าตั้งวัตถุไว้ที่ระยะน้อยกว่าจุดโฟกัส (F) จะท าให้เกิดภาพเสมือนหัวตั้งที่มี ขนาดใหญ่กว่าวัตถุ ลักษณะการเกิดภาพจากเลนส์ ภาพ วัตถุ C F F C C วัตถุ F F C ภาพ C F F C ภาพ วัตถุ
www.aksorn.com/interactive3D/PP964 การหักเหของแสงในเลนส์นูน ระบบ Android ระบบ iOS
ลักษณะการเกิดภาพจากเลนส์ เลนส์เว้า เกิดภาพได้เพียงชนิดเดียว คือ ภาพเสมือนหัวตั้งที่มีขนาดเล็กกว่าวัตถุ ไม่ว่าวัตถุจะอยู่ต าแหน่งใด c วัตถุ F ภาพ F c
การหักเหของเลนส์เว้า ระบบ Android ระบบ iOS www.aksorn.com/interactive3D/PP961
ปรากฏการณ์ที่เกี่ยวกับแสง • แสงจากดวงอาทิตย์ เรียกว่า แสงขาว (white light) เมื่อแสงขาวตกกระทบผิวด้านหนึ่งของปริซึมสามเหลี่ยม แสงที่หักเห ผ่านออกมาทางผิวด้านตรงข้ามนั้นแยกออกเป็นแสงสีต่าง เรียงชิดติดกันเป็นแถบสี เรียกว่า สเปกตรัมของแสงขาว และ เรียกปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ว่า การกระจายแสง (dispersion of light) สเปกตรัมของแสงขาว ปริซึมสามเหลี่ยม แสงที่มนุษย์สามารถมองเห็นได้ หรือแสงขาว
การผสมสี ระบบ Android ระบบ iOS www.aksorn.com/interactive3D/PP963
รุ้งปฐมภูมิ เกิดจากแสงอาทิตย์ตกกระทบทางด้านบนของหยดน้ า หักเหผ่านผิวหยดน้ าเข้าสู่หยดน้ าแล้วกระจายออกเป็น แสงสีต่าง ๆ สามารถมองเห็นสีแดงอยู่ด้านบนและ สีม่วงอยู่ด้านล่าง เกิดการสะท้อนกลับหมดเพียง ครั้งเดียวแล้วหักเหผ่านกลับออกมาจากหยดน้ า รุ้งทุติยภูมิ เกิดจากแสงอาทิตย์ตกกระทบทางด้านล่างของหยดน้ า เกิดการสะท้อนกลับหมด 2 ครั้ง สามารถมองเห็น สีม่วงอยู่ด้านบนและสีแดงอยู่ด้านล่าง • ปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดขึ้นบนท้องฟ้าด้านตรงข้ามกับดวงอาทิตย์หลังฝนตกใหม่ หรือขณะฝนตกปรอย แสงอาทิตย์ที่เป็นแสงขาว เมื่อกระทบหยดน้ าในอากาศจะหักเหผ่านเข้าไปในหยดน้ าและเกิดการสะท้อนกลับหมดภายในหยดน้ า แล้วหักเหผ่านกลับออกมาจากหยดน้ า กระจายออกเป็นแสงสีต่าง ซึ่งเป็นสเปกตรัมของแสงขาว การเกิดรุ้งมี 2 แบบ รุ้ง
• เป็นการเกิดวงแหวนของแถบสีรอบดวงอาทิตย์หรือดวงจันทร์ โดยในวงแหวนของแถบสีประกอบด้วยแถบสีวงกลมของแสงสี ต่าง เรียงซ้อนกันคล้ายรุ้ง เกิดขึ้นเมื่อมีเมฆซีร์รัส (cirrus) มาบังดวงอาทิตย์หรือดวงจันทร์ การทรงกลดที่เกิดรอบดวงอาทิตย์ เรียกว่า ดวงอาทิตย์ทรงกลด (sun halo) และการทรงกลดที่เกิดรอบดวงจันทร์ เรียกว่า ดวงจันทร์ทรงกลด (moon halo) ดวงอาทิตย์ทรงกรด (sun halo) ดวงจันทร์ทรงกรด (moon halo) การทรงกลด
• เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดจากการหักเหของแสงผ่านชั้นบรรยากาศที่มีความหนาแน่นต่างกัน หรือเป็นผลจากความแตกต่างของ อุณหภูมิของอากาศในชั้นบรรยากาศ • มิราจเกิดจากอากาศบนพื้นถนนร้อนกว่าอากาศด้านบนท าให้แสงที่มาจากดวงอาทิตย์หักเหโค้งเหนือพื้นถนนแล้วเข้าตาเรา มิราจ
ทัศนอุปกรณ์ แว่นตา แว่นตาส าหรับผู้มีสายตายาว ท ามาจากเลนส์นูน จะช่วยรวมแสงให้ตกที่จอตาได้พอดี แว่นตาส าหรับผู้มีสายตาสั้น ท ามาจากเลนส์เว้า จะช่วยกระจายแสงให้ตกที่จอตาได้พอดี เมื่อมองวัตถุในระยะไกลตา (จุด N′) แสงที่หักเหผ่านเลนส์ตาจะตกพอดี ที่จอตา เมื่อมองวัตถุในระยะใกล้ตา (จุด N) แสงที่หักเหผ่านเลนส์ตาจะตกเลย จอตา เมื่อสวมแว่นตาที่ท าจากเลนส์นูน เลนส์จะช่วยรวมแสงให้ตกที่จอตา พอดี เมื่อมองวัตถุในระยะใกล้ตา (จุด O) แสงที่หักเหผ่านเลนส์ตาจะตกพอดีที่จอตา เมื่อมองวัตถุในระยะไกลตา (จุด O′) แสงที่หักเหผ่านเลนส์ตาจะตกไม่ถึงจอตา เมื่อสวมแว่นตาที่ท าจากเลนส์เว้า เลนส์ จะช่วยกระจายแสงให้ตกที่จอตาพอดี
• ส่องเพื่อส ารวจร่างกายตัวเอง • ส่วนประกอบของกล้องปริทรรศน์ หรือกล้องเพอริสโคป • กระจกสังเกตการณ์ในร้านค้า • กระจกติดรถยนต์และรถจักรยานยนต์ • กระจกมองทางโค้ง หรือกระจกโค้งจราจร • ส่วนประกอบของกล้องจุลทรรศน์ • กระจกส่องดูภายในช่องปากของทันตแพทย์ • กระจกส าหรับโกนหนวดหรือกระจกส าหรับ แต่งหน้า กระจก กระจกเงาราบ กระจกเงานูน กระจกเงาเว้า การประยุกต์ใช้งานของกระจกประเภทต่าง ๆ
อาศัยหลักการการหักเหของแสงผ่านเลนส์นูนเพียง 1 อัน โดยวางวัตถุไว้หน้าเลนส์ให้ระยะวัตถุน้อยกว่าความยาวโฟกัส • ถ้าเลื่อนวัตถุออกห่างจากเลนส์จะได้ภาพเสมือนหัวตั้งขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิม • ถ้าเลื่อนวัตถุเข้าหาเลนส์จะได้ภาพเสมือนหัวตั้งขนาดเล็กกว่าเดิมแต่ใหญ่กว่าวัตถุ • ถ้าเลื่อนวัตถุให้ชิดติดกับเลนส์ จะได้ภาพเสมือนหัวตั้งขนาดเท่าวัตถุ แว่นขยาย
อยู่ใกล้ตา มีความยาวโฟกัสมากกว่าเลนส์ใกล้ วัตถุ ภ าพที่เกิดขึ้นจ ากเลนส์ใกล้ต าเป็น ภาพเสมือนหัวตั้ง ขนาดใหญ่กว่าวัตถุ เลนส์ใกล้ตา อยู่ใกล้วัตถุ มีความยาวโฟกัสสั้น ภาพที่ เกิดจากเลนส์ใกล้วัตถุเป็นภาพจริงหัว กลับ ขนาดใหญ่กว่าวัตถุ โดยภาพที่ เกิดขึ้นท าหน้าที่เป็นวัตถุของเลนส์ใกล้ตา เลนส์ใกล้วัตถุ ภาพที่เกิดจากเลนส์ใกล้ตา เป็นภาพเสมือนขนาดใหญ่ กว่าวัตถุ วัตถุบนแผ่นสไลด์โปร่งใส ภาพเกิดจากเลนส์ใกล้วัตถุ กล้องจุลทรรศน์ แหล่งก าเนิด
อยู่ใกล้ตา ภาพที่เกิดขึ้นจากเลนส์ใกล้ตา เป็นภาพเสมือนหัวกลับ ขนาดขยาย เลนส์ใกล้ตา อยู่ใกล้วัตถุ มีความยาวโฟกัสมากกว่าเลนส์ ใกล้ตา โดยภาพที่เกิดขึ้นจากเลนส์ใกล้วัตถุ ท าหน้าที่เป็นวัตถุของเลนส์ใกล้ตา เลนส์ใกล้วัตถุ รังสีจากส่วนยอดของวัตถุ ถือว่าเป็นรังสีขนาน เพราะ วัตถุอยู่ไกลมาก ภาพที่ตามองเห็น จะเป็นภาพเสมือน ขนาดใหญ่อยู่ที่ระยะไกลมาก ภาพที่เกิดจากเลนส์ใกล้วัตถุ จะเป็นวัตถุของเลนส์ใกล้ตา กล้องโทรทรรศน์
ตาและการมองเห็น ส่วนประกอบของตา จอตา (retina) กระจกตา (cornea) รูม่านตา (pupil) เซลล์รูปกรวย (cone cell) โฟเวีย (fovea) เซลล์รูปแท่ง (rod cell) เลนส์ตา (len) ม่านตา (iris) ช่วยให้มองเห็นภาพได้ชัดเจน ทางผ่านของแสงเข้าสู่ตา ทางผ่านของแสงเข้าสู่เลนส์ตา ควบคุมปริมาณแสงที่จะผ่านไป สู่เลนส์ตา ท าให้แสงหักเหแล้วไปตกบนจอตา รับแสงเพื่อท าให้เห็นรูปร่างของวัตถุ รับสีเพื่อท าให้เห็นสีต่าง ของวัตถุ
1 แสงจากวัตถุ ผ่านกระจกตา 2 ม่านตาหดหรือ ขยายตัว เพื่อปรับ ปริมาณแสงที่เข้าตา 3 แสงหักเห ผ่านเลนส์ตาไปตก บนจอตา 5 เกิดกระแสประสาท ส่งไปยังสมอง ท าให้มองเห็นภาพ 1 2 3 4 เซลล์รูปแท่งและ เซลล์รูปกรวยรับแสง และสีของวัตถุ 4 โฟเวีย (fovea) กลไกการมองเห็นภาพ 5
สายตาปกติ สายตาสั้น สายตายาว แสงจากวัตถุที่ผ่านระบบหักเหแสงของตา จะรวมกันแล้วตกลงบนจอตาพอดี สาเหตุ แก้ไข กระจกตาโค้งมากกว่าปกติ แสงจากวัตถุจึงตก ไม่ถึงจอตา สวมแว่นตาที่ท าจากเลนส์เว้า เพื่อกระจายแสง ให้ตกที่จอตาพอดี สาเหตุ แก้ไข กระจกตาโค้งน้อยกว่าปกติ แสงจากวัตถุจึงตก ไม่ถึงจอตา สวมแว่นตาที่ท าจากเลนส์นูน เพื่อรวมแสงให้ไป ตกที่จอตาพอดี ที่ระยะอนันต์ ที่ระยะ 25 เซนติเมตร จากตา
• มีแหล่งก าเนิดที่ส าคัญ 2 แหล่ง คือ ดวงอาทิตย์และหลอดไฟ • ค่าความสว่างของแสงมีหน่วยเป็น ลักซ์ (lux) • แหล่งก าเนิดแสงที่ต่างกันจะให้ค่าความสว่างไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับแหล่งก าเนิดแสง • การหาความสว่างที่จุดใดจุดหนึ่งบนพื้นผิวหนึ่ง ท าได้โดยวัดค่าความสว่างด้วยมาตรความสว่างหรือลักซ์มิเตอร์ (lux meter) • การจัดความสว่างของแสงให้เหมาะสมกับสถานที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการท างาน ถนอมสายตา และลดความเมื่อยล้าของดวงตา ความสว่างของแสง
การดูวัตถุที่มีความสว่างมาก การดูวัตถุที่มีความสว่างน้อย เช่น ดวงอาทิตย์ หลอดไฟฟ้า สปอตไลต์ แสงจากการ เชื่อมโลหะ ไม่ควรดูโดยตรง เพราะแสงจากวัตถุที่เข้าสู่ตา มีความเข้มสูงมากจนท าให้เกิดอันตรายร้ายแรงได้ เช่น การอ่านหนังสือในที่ที่มีแสงสว่างน้อยหรือในที่มืด จะท าให้เกิดความเสียหายต่อสายตาได้ เนื่องจากจะต้องเพ่งสายตา เป็นเวลานาน ดังนั้น ควรอ่านหนังสือในบริเวณที่มีแสงสว่าง เพียงพอ การถนอมสายตา
สรุป การสะท้อนของแสง การสะท้อนของแสงเกิดจากการที่แสงเดินทางไปตกกระทบกับผิวของวัตถุที่แสงไม่สามารถเดิน ทางผ่านได้ ท าให้แสงที่ตกกระทบผิวของวัตถุนั้น เกิดการสะท้อนกลับหมด ซึ่งกฎการสะท้อน ของแสง กล่าวว่า มุมตกกระทบจะมีค่าเท่ากับมุมสะท้อนเสมอ ลักษณะการสะท้อนของแสงขึ้นอยู่กับชนิดและลักษณะผิววัตถุ ผิวขรุขระ ผิวเรียบ การเกิดภาพจากกระจก กระจกเงานูน สามารถรับแสงได้กว้าง กว่ากระจกเงาราบ เกิดภาพเสมือนหัวตั้งที่มี ขนาดเล็กกว่าวัตถุ กระจกเงาเว้า สามารถสะท้อนแสงให้เข้ามา ตัดภายในรัศมีความโค้งของ กระจก สามารถเกิดภาพได้ หลายแบบ ขึ้นอยู่กับระยะห่าง ระหว่างวัตถุกับกระจก กระจกเงาราบ เกิดภาพสะท้อนในกระจก เป็นภาพเสมือนหัวตั้งที่มี ขนาดเท่ากับวัตถุ การหักเหของแสง เมื่อแสงเคลื่อนที่จากตัวกลางหนึ่งไปอีกตัวกลางหนึ่งแสงจะสะท้อนกลับไปยังตัวกลางเดิม และบางส่วนจะเคลื่อนที่ผ่านเข้าไปยังตัวกลางใหม่ด้วยอัตราเร็วและทิศทางการเคลื่อนที่ของแสง ที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งท าให้เกิดการหักเหของแสงขึ้น การเกิดภาพจากเลนส์เว้า การเกิดภาพจากเลนส์นูน
สรุป ปรากฏการณ์ที่เกี่ยวกับแสง แสงจากดวงอาทิตย์เป็นแสงขาว เมื่อใช้ปริซึมแยกแสงที่เป็นองค์ประกอบของแสงขาว จะได้เป็นแถบสีต่าง 7 สี เรียงติดกัน เรียกว่า สเปกตรัมของแสงขาว และเรียกปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ว่า การกระจายแสง ทัศนอุปกรณ์ ทัศนอุปกรณ์เป็นอุปกรณ์ที่สร้างขึ้นมาใช้งาน โดยอาศัยความรู้เรื่องหลักการทางแสง และความรู้เกี่ยวกับการเกิดภาพจากอุปกรณ์พื้นฐาน เช่น เลนส์ กระจกเงาราบ กระจกเงาเว้า ตัวอย่างของทัศนอุปกรณ์ เช่น แว่นขยาย แว่นตา ตาและการมองเห็น มองเห็นวัตถุ เกิดจากแสงตกกระทบสิ่งต่าง แล้ว เกิดการสะท้อนเข้าสู่ตา ผ่านเข้ามาใน ดวงตา ท าให้เกิดภาพบนจอตาที่อยู่ ด้านหลังของดวงตา แล้วส่งข้อมูลของ วัตถุที่มองเห็นผ่านเส้นประสาทไปสู่ สมอง สมองจะแปลข้อมูลเป็นภาพของ วัตถุนั้น ความสว่าง คุณสมบัติอย่างหนึ่งของการรับรู้ภาพ มีแหล่งก าเนิดที่ส าคัญ 2 แหล่ง คือ ดวงอาทิตย์และหลอดไฟ ค่าความ สว่างของแสงมีหน่วยเป็น ลักซ์ (Lux) เกิดจากการที่แสงแดดส่องผ่านละอองน้ าหลังฝนตก แล้วเกิดการกระจายของแสง และการสะท้อนกลับ หมด รุ้ง เกิดจากบรรยากาศชั้นล่างสุดและกลุ่มเมฆ รวมทั้ง อากาศเย็นจัดจนท าให้ละอองน้ าแข็งตัวเป็นเกล็ด น้ าแข็ง เมื่อแสงท ามุมกับเกล็ดน้ าแข็ง เกิดการหักเห และการสะท้อนของแสง เกิดเป็นแถบสีรุ้ง ทรงกลด เกิดจากการหักเหของแสงผ่านชั้นบรรยากาศที่มี ความหนาแน่นต่างกัน หรือเป็นผลต่างของอุณหภูมิ ของอากาศในชั้นบรรยากาศ มิราจ