เรื่อ รื่ ง วัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่นปุ่ จัดทำ โดย นายณัฐชานนท์ เนตรทิพย์ เลขที่2ที่ 3 ชั้นมัธยมศึกษาปี่ที่ปี่ ที่5ที่ /8 คุณครูผู้ฝึกสอน คุณครูพรลภัส อ่ำ หงษ์ เนื้อหาในฉบับนี้เป็นส่วนหนึ่งในรายวิชาภาษาญี่ปุ่ญี่ ปุ่นระดับชั้น มัธยมศึกษาปี่ที่ปี่ ที่5ที่ ภาคเรียนที่2ที่ปีที่ปี ที่กที่ารศึกษา2565 โรงเรียนปัวปัอำ เภอปัวปัจังหวัดน่าน
คำ นำ รายงานเล่มนี้จัดทำ ขึ้นขึ้เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของ รายวิชาภาษาญี่ปุ่ญี่ ปุ่นชั้นมัธยมศึกษาปีที่ปี ที่5ที่เพื่อให้ได้ศึกษา ความรู้ในเรื่องวัฒนธรรมของประเทศญี่ปุ่ญี่ ปุ่น เพื่อได้ ศึกษาอย่างเข้าใจและเพื่อได้เป็นประโยชน์กับการเรียน ในรายวิชานี้ ผู้จัดทำ หวังว่ารายงานฉบับนี้จะสร้างประโยชน์ไม่มาก ก็น้อยให้กับผู้อ่านเพื่อให้ได้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยกี่วกับประเทศ ญี่ปุ่ญี่ ปุ่นเพิ่มพิ่มากขึ้นขึ้หากมีข้อผิดพลาดประการใดก็ขออภัยมานะที่ นี้ด้วย ผู้จัดทำ นาย ณัฐชานนท์ เนตรทิพย์ 19 มกราคม2566
สารบัญ เรื่อ รื่ ง คำ นำ สารบัญบั ความเชื่อ ชื่ และความนิยนิม อาหารและเครื่อ รื่ งดื่ม ดื่ กีฬกีาและงานอดิเดิรก คำ ถาม บรรณานุกนุรม ก ข 1-12 13-17 18-29 30-31 32 1)กิโมโน 2)ฮานามิ 3)ชินโต 4)เซ็น 5)โทริอิ 6)วาบิซาบิ 7)ละครโนห์ 8)คาบูกิ 9)บุนรากุ 10)ชามิเซ็น 11)ดารุมะ 12)แมวกวัก 1)การชงชา 2)ซูชิ 3)ซาชิมิ 4)วากาชิ 5)สาเก 1)คาราเต้ 2)ซูโม่ 3)คิวโดหรือการยิงธนู 4)เคนโด้ 5)ยูโด 6)การเขียนพู่กันแบบญี่ปุ่น 7)การจัดสวนญี่ปุ่น 8)โอมาโมริ 9)ไฮกุ 10)คารุตะ 11)โอริงามิ 12)หมากรุกญี่ปุ่นหรือโชงิ 13)อิเคบานะ
ความเชื่อและความนิยม 着物กิโมโน 1 เราคงคุ้นเคยกันดีกับชุดกิโมโน (Kimono) ซึ่งซึ่เป็นชุดแต่ง กายประจำ ชาติของญี่ปุ่ญี่ ปุ่น กิโมโนมีลักษณะเป็นเสื้อคลุมขนาดยาว ที่มีที่มีแขนเสื้อกว้างมาก ใช้สายคาดที่เที่รียกว่าโอบิ (Obi) รัดเสื้อคลุม ให้อยู่กับตัว มีลวดลายที่งที่ดงามบนเนื้อผ้าที่ถัที่ถักทอมาอย่างประณีต ซึ่งซึ่ปัจปัจุบันนี้ชุดกิโมโนไม่เพียงแค่เป็นชุดที่ใที่ส่กันไปร่วมงาน เทศกาลและพิธีสำ คัญต่างๆ เท่านั้น แต่กลายเป็นแฟชั่นยอดนิยม ที่ชที่าวต่างชาติจำ นวนมากให้ความสนใจด้วย มีอึกหนึ่งชุดคล้ายกันที่ชที่าวต่างชาติมักจะจำ สับสน นั่น คือยูตาตะ (Yukata) ซึ่งซึ่เป็นชุดที่อที่อกแบบมาแบบมีความ พิธีการน้อยกว่ากิโมโน ไม่มีซับใน และสามารถใส่ได้ด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องมีใครช่วย
ความเชื่อและความนิยม 2 花見ฮานามิ เมื่อเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ กิจกรรมที่ห้ที่ห้ามพลาดเลยคือการไปชม ดอกซากุระ เป็นประเพณีการชมดอกไม้ของประเทศญี่ปุ่ญี่ ปุ่นที่เที่รียกว่า ฮานามิ (Hanami) ได้รับความนิยมทั้งคนญี่ปุ่ญี่ ปุ่นและนักท่องเที่ยที่ว ด้วย ทุกคนต่างเฝ้ารอการไปทำ กิจกรรมตามจุดชมซากุระในที่ต่ที่ต่างๆ เราจะได้เห็นคนญี่ปุ่ญี่ ปุ่นนำ เสื่อหรือผ้าไปเพื่อปูพื้นสำ หรับนั่ง พร้อมกับ อาหารและเครื่องดื่มเพื่อรับประทานและสังสรรค์กันบริเวณใต้ต้น ซากุระ ตามจุดชมซากุระแต่ละแห่งก็จะมีการออกร้านกันอย่างคึกคัก และคราคร่ำ ไปด้วยนักท่องเที่ยที่วที่มที่าชมความงามและถ่ายรูปดอก ซากุระ จุดชมซากุระยอดนิยมของนักท่องเที่ยที่วก็อย่างเช่น สวน สาธารณะอุเอโนะ (Ueno Park) หรือปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle) เป็นต้น
ความเชื่อและความนิยม 神道ชินชิ โต 3 ชินโต (Shinto) เป็นหลักความเชื่อในการดำ เนินชีวิตของ ชาวญี่ปุ่ญี่ ปุ่นมายาวนานตั้งแต่โบราณกาล คำ ว่าชินโตแปลได้ว่าวิถี แห่งเทพเจ้า ซึ่งซึ่สอดคล้องกับแนวคิดเรื่องการบูชาเทพเจ้าที่เที่รียก ว่าเทพเจ้าแปดล้านองค์ (Yaoyorozu no Kami) เนื่องจากคน ญี่ปุ่ญี่ ปุ่นมีความเชื่อว่ามีเทพเจ้าจำ นวนนับไม่ถ้วนสถิตอยู่ใน ธรรมชาติทุกหนทุกแห่ง ไม่ว่าจะเป็น ภูเขา แม่น้ำ ต้นไม้ ก้อนหิน หนึ่งในข้อสรุปสำ คัญของชินโตนั้น นิยมสรุปว่า การบูชาธรรมชาติ เป็นรากฐานของชินโต ไม่ว่าจะต้นไม้ ลำ ธาร ก้อนหิน ล้วนแล้วแต่ มีเทพเจ้า หรือคามิ (Kami) สิงสถิตอยู่
ความเชื่อและความนิยม サインเซ็น ซ็ 4 เซ็น (Zen) เป็นนิกายหนึ่งในพระพุทธศาสนาฝ่ายมหายาน ที่มีที่มีความนิยม อย่างมากในญี่ปุ่ญี่ ปุ่น มีการผสมผสานแนวคิดของพุทธศาสนาฝ่ายมหายานจาก อินเดียและปรัชญาจากลัทธิเต๋าของจีน เซ็นมีรากศัพท์มาจากคำ ว่าฌาน (Jhana) ที่แที่ปลว่าสมาธิ เซ็นจะไม่บูชาสิ่งศักดิ์สิดิ์สิทธิ์หธิ์รืออิทธิฤทธิ์ปธิ์าฏิหารย์ แต่ยึดถือหลักปฏิบัติธรรม ที่ช่ที่ช่วยในการกล่อมเกลาจิตใจ โดยจะเน้นที่กที่ารฝึกปฏิบัติ ฝึกการใช้ปัญปัญา และนั่งสมาธิเพื่อให้เกิดความรู้แจ้ง โดยความรู้แจ้งเป็นหนึ่งในจุดหมายของ เซ็น ในภาษาญี่ปุ่ญี่ ปุ่นเรียกว่าซาโตริ (Satori) ซึ่งซึ่มีความหมายใกล้เคียงกับคำ ว่า ตรัสรู้ หนึ่งในสัญลักษณ์ของเซ็น ที่สที่ามารถจับต้องได้ ก็คือสวนหินแบบญี่ปุ่ญี่ ปุ่นที่ เรียกว่า คะเรซันซุย (Kare Sansui) หรือที่ชที่าวต่างชาตินิยมเรียกกันว่าสวน เซ็น (Zen Garden
ความเชื่อและความนิยม 鳥居โทริอิริอิ 5 นี่คือสิ่งที่เที่ห็นได้เป็นประจำ สำ หรับคนชอบเที่ยที่วศาลเจ้าชินโต นอกจาก ภูเขาไฟฟูจิและดอกซากุระแล้ว สิ่งที่เที่หมือนเป็นสัญลักษณ์อีกอย่างของ ญี่ปุ่ญี่ ปุ่นก็คือโทริอิ (Torii) นี่เอง โทริอิเป็นซุ้มประตูที่เที่ป็นเสาขนาดใหญ่ 1 คู่ ด้านบนมีไม้ท่อนขนาดเล็กกว่า วางพาดขวาง 1 คู่ และมักนิยมทาสีแดงชาด เป็นความเชื่อของชินโตที่ตั้ที่ ตั้ งไว้ เพื่อให้เป็นที่รู้ที่รู้ว่าหลังเสาโทริอินี้เป็นอาณาเขตของเทพเจ้า มักพบเห็นเสา โทริอิได้ตามศาลเจ้า และสถานที่ที่ที่ที่เที่ชื่อว่ามีสิ่งศักดิ์สิดิ์สิทธิ์สธิ์ถิตอยู่ อย่างเช่น ตามป่า ภูเขา ทะเลสาบ
ความเชื่อและความนิยม わびさびวาบิซบิาบิ 6 วาบิซาบิ (Wabi-Sabi) เป็นอีกหนึ่งแนวคิดของศาสนาพุทธนิกาย เซ็น (Zen) ประกอบขึ้นขึ้จากคำ 2 คำ คือ “วาบิ” หมายถึง ความเรียบ ง่าย สมถะ และคำ ว่า “ซาบิ” คือความเงียบสงบ ใจที่นิ่ที่นิ่ง เป็นปรัชญาที่ ทำ ให้เราเห็นว่า 1. ทุกสิ่งล้วนไม่สมบูรณ์แบบ 2. แต่ในความไม่สมบูรณ์แบบ ก็มีความงามในตัวของมันเองซ่อนอ วาบิซาบิสามารถนำ มาปรับใช้ในชีวิตประจำ วันได้ โดยเราจะได้เห็น ผ่านสิ่งต่างๆ เช่นชีวิตประจำ วันที่เที่รียบง่าย การออกแบบงานศิลปะ เครื่องใช้ต่างๆ และสถาปัตปัยกรรม เป็นต้น
ความเชื่อและความนิยม 能ละครโนห์ 7 โนห์ (Noh) เป็นละครเวทีแบบเก่าแก่ของญี่ปุ่ญี่ ปุ่น จุดเด่น คือนักแสดงจะสวม "หน้ากากละครโนห์" เพื่อสวมบทบาทเป็น ตัวละครต่างๆ โดยจะแบ่งออกเป็นหน้ากากของผู้ชาย ผู้หญิง เทพเจ้า แต่ละตัวจะมีบทบาทแตกต่างกันออกไปเช่น นัก ปราชญ์ ปิศปิาจ คนบ้า และตัวละครในเทพนิยาย และแต่งกาย แบบโบราณที่สที่วยงามขึ้นขึ้แสดงบนเวที มีการร้องผสมกัน ระหว่างเสียงสวดมนต์กับการเล่าเรื่อง และมีการบรรเลงดนตรี สลับด้วยในบางช่วง เรื่องที่นำที่นำมาเล่ามักจะมาจากนวนิยายอิง ประวัติศาสตร์ หรือเรื่องราวของนักรบ
ความเชื่อและความนิยม 歌舞伎คาบูกิ 8 ละครคาบูกิ (Kabuki) เป็นศิลปะการแสดงแบบดั้งเดิม ที่คที่าด กันว่าเกิดขึ้นขึ้ ในศตวรรษที่ 17 และได้พัฒนาจนกลายเป็นละครยอด นิยมของผู้คนในสมัยเอโดะ โดยในอดีตจะมีนักแสดงเป็นผู้ชายล้วน ร่ายรำ และเล่าเรื่องโดยมีวงดนตรีบรรเลงประกอบ เนื้อเรื่องที่นิที่นิยม แสดงจะเกี่ยกี่วกับสังคมซามูไร ตำ นานวีรบุรุษ เวทมนต์ เรื่องราวชีวิต ของชาวเมือง และเรื่องเศร้า เป็นต้น
ความเชื่อและความนิยม 文楽บุนรากุ 9 บุนรากุ (Bunraku) เป็นละครหุ่นแบบเก่าแก่ที่มีที่มีชื่อเสียง ของญี่ปุ่ญี่ ปุ่น การแสดงบุนรากุจะมีการบรรเลงดนตรีประกอบด้วยซามิ เซ็น (Shamisen) นักเชิดหุ่นมักจะใส่ชุดสีดำ เพื่อให้กลมกลืนกับ ฉากหลังที่มัที่มักมีสีดำ การเชิดหุ่นต้องใช้ฝีมือมากเพราะหุ่นแต่ละตัว จะมีความยาวประมาณ 1-1.5 เมตร ค่อนข้างใหญ่ และมีน้ำ หนัก มาก การแสดงหุ่นดูแล้วเหมือนการแสดงของคนจริงๆ มีคนพากย์ หุ่นคอยเล่าเรื่องราวที่เที่ป็นมหากาพย์แบบสวดที่เที่รียกว่าโจรุริ (Joruri) โดยเรื่องที่เที่ล่าก็มาจากมหากาพย์ชื่อดังที่เที่ป็นเรื่องราวของ วีรบุรุษนักรบ
ความเชื่อและความนิยม 三味線ชามิเมิซ็น ซ็ 10 ชามิเซ็น (Shamisen) เป็นเครื่องดนตรีที่มีที่มีชื่อเสียงมาก ของญี่ปุ่ญี่ ปุ่น ใช้ประกอบการแสดงพื้นบ้านหลายชนิด เช่นบุนรากุ และคาบูกิ ชื่อชามิเซ็นแปลว่า "สามสาย" เป็นเครื่องสายประเภท พิณที่มีที่มีสามสายตามชื่อ ลำ ตัวเป็นทรงสี่เหลี่ยลี่ม และในอดีตนิยม หุ้มด้วยหนังของหมาหรือแมว แต่ในปัจปัจุบันไม่นิยมทำ กันแล้ว เสียงของซามิเซนที่ดีที่ดีบรรเลงนั้นเปี่ยปี่มด้วยพลัง โดยทั่วไป ซามิเซ็นจะเล่นประกอบการร้องหรือการเล่าเรื่อง อย่างในการ แสดงละครคาบูกิและละครหุ่นบุนรากุ ซามิเซ็นนั้นถือว่าเป็น ตัวแทนของเครื่องดนตรีในยุคเอโดะที่สำที่สำคัญอย่างยิ่งยิ่และผู้ที่ สนใจในวัฒนธรรมญี่ปุ่ญี่ ปุ่นจะมีโอกาสได้พบเห็นบ่อยมาก
ความเชื่อและความนิยม だるまดารุม รุ ะ 11 ถ้าพูดถึงตุ๊กตาตัวกลมๆ สีแดง มีตาข้างเดียวของญี่ปุ่ญี่ ปุ่น น่า จะมีคนนึกออกว่าเป็นตุ๊กตาดารุมะ (Daruma) ซึ่งซึ่จัดว่าเป็น เครื่องรางยอดนิยมของคนญี่ปุ่ญี่ ปุ่นเลยทีเดียว ดารุมะเป็นตุ๊กตาไม้ ลักษณะกลมคล้ายตุ๊กตาล้มลุก ไม่มีแขนและขา มีคิ้วคิ้มีหนวดเครา แต่ไม่มีลูกตาสีดำ หน้าตาคล้ายคลึงกับพระโพธิธรรม ส่วนใหญ่ เป็นสีแดง แต่ก็มีสีอื่นด้วย และมักมีความหมายที่เที่ป็นพรอันเป็น มงคลต่างๆ การที่ดที่ารุมะไม่มีลูกตาดำ ก็เพราะเอาไว้สำ หรับให้เจ้าของ เป็นคนแต้มสีเองตอนขอพร โดยแต้มที่ตที่าขวา เมื่อขอพร และเมื่อ ได้พรสำ เร็จสมปรารถนาแล้วก็แต้มสีที่ตที่าซ้ายแล้วนำ ไปวางไว้บนหิ้งหิ้ ให้ดารุมะหันไปทางทิศใต้
ความเชื่อและความนิยม 招き猫แมวกวักวั 12 แมวกวักญี่ปุ่ญี่ ปุ่นหรือมาเนกิ เนโกะ (Maneki Neko) เป็นสิ่งมงคลเกี่ยกี่วกับความเชื่อในเรื่องโชคลาภของคนญี่ปุ่ญี่ ปุ่น เป็นตุ๊กตารูปปั้นปั้แมวที่อที่ยู่ในท่านั่ง มีหลายขนาด สวมใส่ ปลอกคอพร้อมกระดิ่งดิ่ห้อยที่คที่อ ยกขาหน้าขึ้นขึ้ ในลักษณะ กวักขาข้างใดข้างหนึ่งหรือบางตัวก็กวักทั้ง 2 ข้าง มีความเชื่อ ว่าถ้ายกขาขวาจะกวักเรียกเงินทองและโชคลาภ ยกขาซ้ายจะ เรียกลูกค้าเข้าร้าน และถ้ายกขาทั้งสองข้างจะเรียกทั้งลูกค้า และเงินทอง เป็นต้น
อาหารและเครื่อ รื่ งดื่ม 13 醸造茶การชงชา พิธีชงชา หรือที่ญี่ที่ญี่ปุ่ญี่ ปุ่นเรียกว่าซะโด (Sadou) หรือ ฉะโด (Chadou) แปลว่าวิถีแห่งชา เป็นพิธีกรรมที่เที่ป็น เอกลักษณ์อย่างหนึ่งของญี่ปุ่ญี่ ปุ่นที่แที่ฝงให้เห็นวัฒนธรรม และวิถีชีวิตของชาวญี่ปุ่ญี่ ปุ่นที่มีที่มี ความเรียบง่าย ประณีต และพิถีพิถัน ชาที่นำที่นำมาใช้ชงนั้นเป็นชาบดจนเป็นผง ละเอียดเรียกว่ามัทฉะ (Matcha) ขั้นตอนการชงคือตัก มัทฉะใส่ถ้วย ตักน้ำ ร้อนจากหม้อต้มใส่ลงไป ใช้ไม้ คนจนชาเป็นฟองก็เป็นอันเสร็จ จากนั้นก็ยกถ้วยชา เสิร์ฟให้กับแขก ซึ่งซึ่มักจะดื่มคู่กับขนมหวานชิ้น ชิ้ เล็กๆ เพื่อตัดความขมของชา
อาหารและเครื่อ รื่ งดื่ม 14 寿司ซูชิ ถ้าพูดถึงอาหารญี่ปุ่ญี่ ปุ่น หลายๆ คนคงนึกถึงซูชิ (Sushi) ด้วยรูป ลักษณ์ที่น่ที่น่ารับประทานบวกกับรสชาติที่เที่ป็นเอกลักษณ์ของญี่ปุ่ญี่ ปุ่น ทำ ให้ปัจปัจุบันซูชิได้รับความนิยมไปทั่วโลก ส่วนประกอบหลักของซูชิ ประกอบด้วยข้าวผสมน้ำ ส้มสายชู นำ มาปั้นปั้เป็นก้อนเล็กๆ ขนาดพอดีคำ จัดวางอาหารทะเล ปลา หอย กุ้ง ปลาหมึกไข่ปลา และอื่นๆ ลงบนข้าวปั้นปั้แบบพอดีคำ แบบนี้ เรียกว่านิงิริซูชิ (Nigirisushi) เป็นซูชิแบบที่คที่นนิยมที่สุที่สุด นอกจากนี้ซูชิก็ยังมีอีกหลายแบบ เช่นซูขิที่นำที่นำวัตถุดิบมาม้วน แล้วห่อด้วยสาหร่ายเรียกว่า มากิซูชิ (Maki Sushi) เป็นต้น
อาหารและเครื่อ รื่ งดื่ม 15 刺身ซาชิมิชิ มิ อีกหนึ่งวัฒนธรรมด้านอาหารของญี่ปุ่ญี่ ปุ่นก็คือซาชิมิ (Sashimi) ซึ่งซึ่ ได้รับ ความนิยมจากชาวต่างชาติไม่แพ้ซูชิ ซาชิมิเป็นการรับประทานเนื้อสัตว์ ดิบไม่ผ่านการปรุงรส ซึ่งซึ่จะต่างกับซูชิตรงที่ไที่ม่มีข้าวเป็นส่วนประกอบ ซาชิมิจะเป็นเนื้อสัตว์สดๆ ส่วนใหญ่จะเป็นเนื้อของปลาทะเล นำ มาหั่น หรือแล่จนเป็นชิ้นชิ้บาง รับประทานง่าย มักจะทานควบคู่กับเครื่องปรุง รสที่ช่ที่ช่วยกลบกินคาวของเนื้อดิบได้ อย่างเช่น โซยุ วาซาบิ ขิงดอง หัว ไชเท้าขูดเส้น เป็นต้น ซาชิมิที่เที่ห็นบ่อยที่สุที่สุดแน่นอนว่าคือเนื้อปลา แต่นอกจากปลาแล้วเนื้อ สัตว์อย่างอื่นเช่น เนื้อม้า ที่นำที่นำมาหั่นบางๆ ก็เรียกว่าซาชิมิได้เช่นกัน
อาหารและเครื่อ รื่ งดื่ม 16 わかしวากาชิ วากาชิ (Wagashi) เป็นคำ เรียกรวมๆ ของขนมหวานดั้งเดิมของ ญี่ปุ่ญี่ ปุ่นทุกชนิด แปลได้ตามชื่อเรียก ซึ่งซึ่เป็นการผสมคำ ว่า wa ที่ หมายถึงญี่ปุ่ญี่ ปุ่น และ kashi ที่หที่มายถึงขนมหวาน รวมกันเป็นขนม หวานแบบญี่ปุ่ญี่ ปุ่น ส่วนใหญ่ วากาชิ จะหมายถึงขนมหวานที่มีที่มีาแต่โบราณ หรือได้รับความนิยมมากในอดีต เช่นในสมัยเอโดะ วัตถุดิบ ของวากาชิก็มักใช้ของที่มีที่มีการเพาะปลูกในญี่ปุ่ญี่ ปุ่นมาแต่ โบราณ ใครที่ชที่อบทานอาจจะเคยสังเกตเห็นว่า ไส้ของขนม ญี่ปุ่ญี่ ปุ่นโบราณหลายชนิดมักทำ จากถั่วแดงหรือถั่วขาว เป็นต้น วากาชิยอดนิยมก็อย่างเช่น โดรายากิ (Dorayaki) หรือขนมแป้ง ทอดไส้ถั่วแดง ที่คที่นไทยรู้จักกันดีจากการ์ตูนโดราเอมอนนั่นเอง (Doraemon)
อาหารและเครื่อ รื่ งดื่ม 17 酒สาเก สาเก (Sake) หรือนิฮงชู (Nihonshu) คือเหล้าญี่ปุ่ญี่ ปุ่นที่ทำที่ทำจากข้าว ได้รับ ความนิยมมากทั้งในประเทศและต่างประเทศ สามารถดื่มได้ทั้งแบบเย็น หรือนำ มาอุ่นให้ร้อนแล้วค่อยดื่มก็ได้ นำ ไปใช้ในการประกอบอาหารก็ได้ รสชาติของสาเกก็มีหลากหลายมากตั้งแต่หวานไปจนถึงขม เพราะหัวใจ ของการทำ สาเกอยู่ที่เที่ชื้อโคจิ (Koji) ที่นำที่นำมาใช้หมักกับข้าว ซึ่งซึ่เป็นสูตรลับ ของแต่ละตระกูล อันนี้ก็แล้วแต่คนว่าชอบรสชาติแบบไหนกัน นอกจากนี้ สาเกยังมีชื่อเรียกที่ต่ที่ต่างไปตามฤดูกาลด้วย เช่น ฤดูชมดอกซากุระก็เรียกว่า ฮานามิสาเก (Hanami Zake) ชมหิมะตกก็เรียกยูคิมิสาเก (Yukimi Zake) เป็นต้น คำ ว่าสาเก ในภาษาญี่ปุ่ญี่ ปุ่นจริงๆแล้ว เป็นคำ เรียกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมๆ ทุกชนิด ถ้าคนญี่ปุ่ญี่ ปุ่นพูดคำ ว่าสาเก ก็อาจจะหมายถึงอยากดื่มเหล้า เบียร์ หรือเครื่องดื่มอื่นๆ ก็ได้ ส่วนเครื่องดื่มเหล้าหมักจากข้าวแบบญี่ปุ่ญี่ ปุ่นที่ชที่าวต่างชาติอย่างเราเรียกว่า "สาเก" คนญี่ปุ่ญี่ ปุ่นจะเรียกว่า นิฮงชู (Nihonshu)
กีฬาและงานอดิเรก 17 空手คาราเต้ คาราเต้ (Karate) แปลได้ว่า วิถีแห่งมือเปล่า เป็นศิลปะ การต่อสู้ประเภทหนึ่งของญี่ปุ่ญี่ ปุ่น มีการผสมผสานกันระหว่างการ ต่อสู้ของชาวโอกินาวะและการได้รับอิทธิพลจากทักษะการต่อสู้ แบบจีนที่ใที่ช้ฝ่ามือ วิธีการต่อสู้คือใช้สมาธิดึงพลังจากทั่วร่างกาย มารวมให้เป็นหนึ่งก่อนทำ การโจมตีโดยใช้มือและเท้าต่อยและเตะ เข้าที่ส่ที่ส่วนต่างๆ ของร่างกายคู่ต่อสู้ และอีกสิ่งสำ คัญของคาราเต้ คือการฝึกจิตใจให้มีความว่างเปล่า สามารถละเว้นจากความ ปรารถนา ความมีทิฐิและกิเลสต่างๆ ได้
กีฬาและงานอดิเรก 18 相撲ซูโม่ ซูโม่ (Sumo) เป็นกีฬาประจำ ชาติของญี่ปุ่ญี่ ปุ่น และ กีฬายอดนิยมของนักท่องเที่ยที่วต่างชาติในญี่ปุ่ญี่ ปุ่น ที่หที่ลาย คนอยากไปดูซักครั้ง ซูโม่พัฒนามาจากศิลปะการต่อสู้เก่าแก่และมีความ เกี่ยกี่วเนื่องกับเรื่องของเทพเจ้า นักกีฬาซูโม่จะเป็นผู้ชายที่ มีลักษณะร่างกายใหญ่โตอ้วนท้วนสมบูรณ์ เต็มไปด้วย กล้ามเนื้อ และมีพละกำ ลังมาก ทำ ผมทรงมัดจุกแบบสมัย เอโดะ สวมผ้าเตี่ยตี่วที่เที่รียกว่ามาวาชิ (Mawashi) ต่อสู้ด้วย มือเปล่าโดยใช้คิมาริเทะ (Kimarite) ซึ่งซึ่เป็นคำ เรียกท่า ต่อสู้ของซูโม่ที่มีที่มีอยู่ 82 ท่า ผสมผสานกันออกท่าจับ เหวี่ยวี่ง ทุ่ม สกัด บิด หมุน ซูโม่ตัดสินแพ้ชนะกันตรงที่ว่ที่ว่า ใครจะล้มลงก่อน หรือใครหลุดออกนอกเวทีดินที่เที่รียกว่า โดเฮียว (Dohyo) ก่อนกัน
กีฬาและงานอดิเรก 19 弓道การยิงยิธนู คิวโด (Kyudo) แปลว่าวิถีแห่งธนู เป็นการยิงธนูที่ เกิดจากการฝึกฝนต่อสู้เพื่อสงครามของชาวญี่ปุ่ญี่ ปุ่นสมัยก่อน จนพัฒนามาเป็นกีฬาดังเช่นในปัจปัจุบัน อุปกรณ์ที่ใที่ช้มีคันธนูที่เที่รียกว่ายูมิ (Yumi) และลูกธนู ไม้ไผ่ที่เที่รียกว่ายะ (Ya) คิวโดถือเป็นศิลปะการต่อสู้ที่สที่วยงาม มากอย่างหนึ่งของญี่ปุ่ญี่ ปุ่น มีความหมายลึกซึ้งซึ้มากกว่าแค่ ปล่อยลูกศรจากคันธนูไปปักปัที่เที่ป้า เพราะหลักของคิวโดคือ การฝึกจิตใจและสมาธิให้นิ่ง และปัจปัจุบันยังคงมีการนำ การ ยิงธนูไปใช้ในการประกอบพิธีสำ คัญและเทศกาลต่างๆ
กีฬาและงานอดิเรก 20 剣道เคนโด้ เคนโด้ (Kendo) แปลว่าวิถีแห่งดาบ เป็นศิลปะการ ต้อสู้ป้องกันตัวของคนญี่ปุ่ญี่ ปุ่น มีกระบวนท่าการต่อสู้ที่รที่วดเร็ว รุนแรง เด็ดขาด และต่อเนื่อง มีรากฐานมาจากการใช้ดาบ ของพวกซามูไรในสมัยก่อน และมีหลักฐานว่าฝึกฝนกันมา มากกว่าพันปี อุปกรณ์ที่ใที่ช้สำ หรับเคนโด้ได้แก่ ดาบไม้ ชุด ฝึกที่เที่รียกว่าเคโคงิ (Keiko-gi) กางเกงฮากามะ (Hakama) และชุดเกราะเครื่องแบบที่ปที่ระกอบด้วยเสื้อเกราะหน้าอก หน้ากาก ที่ป้ที่ ป้องกันแขน และที่ป้ที่ ป้องกันสะโพก
กีฬาและงานอดิเรก 21 柔道ยูโด ยูโด (Judo) เป็นศิลปะการป้องกันตัวประเภทหนึ่งของ ญี่ปุ่ญี่ ปุ่น แปลได้ว่าวิถีแห่งความยืดหยุ่น มีที่มที่าจากศิลปะการต่อสู้ที่ เรียกว่าจูจุตสึ (Jujutsu) หรือยิวยิตสูนั่นเอง โดยนำ มาปรับใช้โดย เน้นการฝึกสมาธิให้แน่วแน่บวกกับการใช้พลังกายอย่างมี ประสิทธิภาพเพื่อต่อสู้ให้ชนะ ยูโดนั้นไม่ได้ใช้อุปกรณ์ในการต่อสู้แต่ใช้เพียงมือเปล่า โดยใช้เทคนิคหลัก 3 แบบ คือ การทุ่ม (Nage-waza) การจับล็อก หรือทําให้จํานน (Katame-waza) และเทคนิคเกี่ยกี่วกับการชก ต่อย ทุบ ตี ถีบถอง ส่วนต่างๆของร่างกาย (Atemi-waza)
กีฬาและงานอดิเรก 22 筆文字การเขียขีนพู่กั พู่ กันแบบญี่ปุ่ญี่ ปุ่ น ปุ่ การเขียนพู่กัน (Shodou) เป็นศิลปะการเขียนตัวอักษร ด้วยลายมือที่สที่วยงามซึ่งซึ่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ แสดงให้เห็น ความงดงามของตัวอักษร ทั้งอักษรคันจิ (Kanji) และตัวอักษร คานะ (Kana) อุปกรณ์ที่ใที่ช้ประกอบด้วยกระดาษญี่ปุ่ญี่ ปุ่นและพู่กัน ซึ่งซึ่ ในอดีตพู่กันมักทำ มาจากขนของสัตว์เช่นขนแกะ ขนม้า เป็นต้น โดยจุ่มพู่กันที่ทำที่ทำจากขนสัตว์ลงในหมึกดำ แล้วเขียนตัว หนังสือลงไป การตวัดพู่กันเขียนนี้ต้องใช้สมาธิความประณีต และใส่ความรู้สึกลงไปในขณะเขียนเพื่อให้ออกมาเป็นผลงาน ศิลปะที่มีที่มีความหมาย
กีฬาและงานอดิเรก 23 日本庭園造園การจัดจัสวนแบบญี่ปุ่ญี่ ปุ่ น ปุ่ สวนแบบญี่ปุ่ญี่ ปุ่น (Teien หรือ Nihon-Teien) ได้รับ อิทธิพลมาจากสวนของจีนที่เที่ข้ามาพร้อมกับการเผยแผ่พุทธ ศาสนา การจัดสวนจึงเริ่มริ่ต้นจากในวัด ต่อมาก็ได้รับเอาความ เป็นสวนแบบเซ็น มาผสมผสานและสร้างเอกลักษณ์ของตัว เอง การจัดสวนญี่ปุ่ญี่ ปุ่นให้ความสำ คัญกับการจัดองค์ประกอบ ของภูมิทัศน์โดยในสวนจะต้องมีน้ำ ตก ลำ ธาร สระน้ำ หรือ เกาะกลางน้ำ และสะพานข้าม มีพืชพันธุ์ต่างๆ หินประดับ ตะเกียงหินตั้งตามจุดต่างๆ และทางเดินชมสวน
กีฬาและงานอดิเรก 24 おまもりโอมาโมริ โอมาโมริ (Omamori) มีความหมายว่าปกป้อง คุ้มครอง เป็นเครื่องรางของศาลเจ้าในญี่ปุ่ญี่ ปุ่น มีหลายรูปแบบ ทั้งแบบดั้งเดิมที่เที่ป็นถุงผ้าขนาดเล็กซึ่งซึ่น่าจะคุ้นตากันดี และ ปัจปัจุบันยังมีทำ เป็นสติ๊กติ๊เกอร์ พวงกุญแจ สายคล้องมือถือ และอีกหลายแบบที่เที่หมาะกับวิถีชีวิตคนสมัยใหม่ คนที่มที่า ไหว้ขอพรที่ศที่าลเจ้ามักซื้อเอาไปพกติดตัวเพื่อเสริมสิริมงคล โอมาโมริมีหลายความหมาย และมีหลายสี โอมาโมริ มักจะแบ่งประเภทชัดเจนว่าเน้นให้โชคลาภด้านไหนเป็น พิเศษ เช่น ด้านการงาน ด้านการค้าขาย ด้านสุขภาพ ด้าน การเรียน ด้านความรัก ด้านการเดินทางปลอดภัย เป็นต้น
กีฬาและงานอดิเรก 25 俳句ไฮกุ ไฮกุ (Haiku) คือบทกวีญี่ปุ่ญี่ ปุ่น มาจากบทกวีดั้งเดิม ของญี่ปุ่ญี่ ปุ่นที่เที่รียกว่า ไฮไค (Haikai) หรือ เร็งกุ (Renku) ไฮ กุมีมานานกว่า 400 ปีแปีล้ว และมีบทบาทมากในช่วงปลาย คริสต์ศตวรรษที่ 19 หนึ่งบทกลอนประกอบด้วยคำ กลอน รวมทั้งหมด 17 พยางค์ เขียนแบ่งเป็น 3 วรรค วรรคแรก 5 พยางค์ วรรคที่สที่อง 7 พยางค์ และวรรคที่สที่าม 5 พยางค์ ตามลำ ดับ พรรณนาถึงสภาพจิตใจ จิตวิญญาณและความ รู้สึกที่ลึที่ลึกซึ้งซึ้เนื้อหาเน้นความเรียบง่าย ไม่ยึดติดตาม แบบแผน มีความอิสระไร้ข้อจำ กัด เป็นไปตามกระแสธรรม ชาติเรื่อยๆ และมีความสั้นกระชับ
กีฬาและงานอดิเรก 26 かるたคารุต รุ ะ หลายๆ คนอาจจะเคยผ่านตามาบ้างในละครหรือ การ์ตูนญี่ปุ่ญี่ ปุ่นที่มีที่มีฉากเล่น ไพ่คารุตะ (Karuta) คารุตะนั้นที่ จริงแล้วมาจากคำ ภาษาโปรตุเกสที่หที่มายถึง "ไพ่" และญี่ปุ่ญี่ ปุ่น เองก็มีคารุตะหลากหลายชนิด คารุตะที่น่ที่น่าจะเป็นที่นิที่นิยมที่สุที่สุดคือ ไพ่จับคู่บทกลอน 100 บทของญี่ปุ่ญี่ ปุ่น โดยกติกาการเล่นคือจะมีคนหนึ่งอ่าน กลอนวรรคแรกบนไพ่อ่านที่เที่รียกว่าโยมิฟุดะ (Yomifuda) แล้วผู้เล่นคนอื่นๆ ที่มที่าร่วมเล่น ก็ต้องแย่งกันหยิบไพ่ที่เที่รียก ว่าโทริฟุดะ (Torifuda) ที่เที่ป็นกลอนวรรคหลัง มาจับคู่กัน
กีฬาและงานอดิเรก 27 折り紙โอริงริามิ ถ้าพูดถึงการละเล่นญี่ปุ่ญี่ ปุ่นโอริงามิน่าจะเป็นหนึ่งในตัวเลือก แรกที่คที่นจะนึกถึง โอริงามิ (Origami) เป็นเป็นศิลปะในการ พับกระดาษของญี่ปุ่ญี่ ปุ่น มาจากคำ ว่าพับ (Ori) และคำ ว่ากระดาษ (Kami) โดยใช้กระดาษแผ่นสี่เหลี่ยลี่มจัตุรัสขนาดตั้งแต่ 2.5 เซนติเมตร ไปจนถึง 25 เซนติเมตรที่เที่ป็นสีเดียวกัน หรือต่างสีกัน หรือจะเป็นกระดาษที่มีที่มีลวดลายต่างๆ ก็ได้ มาทำ การพับทบไปจน เป็นรูปร่างต่างๆ เช่น นก ปลา กบ และอีกมากมาย
กีฬาและงานอดิเรก 28 将棋หมากรุก รุ ญี่ปุ่ญี่ ปุ่ น ปุ่ โชงิ (Shogi) คือหมากรุกญี่ปุ่ญี่ ปุ่น เป็นเกมกระดานที่ไที่ด้รับความ นิยมมาตั้งแต่โบราณจนกระทั่งปัจุปัจุบันก็ยังมีผู้นิยมเล่นกันเยอะ โชงิ เริ่มริ่ ได้รับความสนใจเล่นกันมากในสมัยเฮอันเรียกว่าเฮอันโชงิ (Heian Shogi) และแพร่หลายในสมัยเอโดะ จนมีการก่อตั้งชมรม โชงิขึ้นขึ้อุปกรณ์ที่ใที่ช้ในการเล่นโชงิคือกระดานขนาด 9×9 ช่อง และ ตัวหมากทั้งหมด 40 ตัว หมากแต่ละตัวจะมีตัวอักษรคันจิเขียน กำ กับไว้ด้านบน ลักษณะการเล่นเหมือนจำ ลองการทำ สงคราม โดย ผู้เล่น 2 ฝ่ายทำ สงครามกัน โดยที่แที่ต่ละฝ่ายก็จะมีขุนพล ทหาร แม่ทัพ และตัวหมากต่างๆ ทำ การสู้รบเพื่อที่จที่ะเป็นผู้ชนะในศึก
กีฬาและงานอดิเรก 29 生け花อิเคบานะ อิเคบานะ (Ikebana) เป็นศิลปะของการจัดดอกไม้แบบ ญี่ปุ่ญี่ ปุ่น เน้นความเรียบง่ายและความเป็นธรรมชาติเป็นหลัก พัฒนามาจากการจัดดอกไม้ถวายในพิธีกรรมต่างๆ การจัดอิเค บานะจะไม่ใช้ดอกไม้เยอะ จัดลงในภาชนะรูปทรงต่างๆ ขึ้นขึ้อยู่ กับการออกแบบของผู้จัดว่าจะให้มีทรงสูง เป็นพุ่มดอกไม้ หรือ เป็นอิเคบานะขนาดเล็ก แล้วจัดให้มีความสมดุลโดยนำ กิ่งกิ่ ไม้ ใบไม้ รากไม้ ต้นหญ้ามาใช้เป็นองค์ประกอบในการจัดรวมกับ ดอกไม้ด้วย โดยหนึ่งในเป้าหมายคือการทำ ให้มีความเป็น ธรรมชาติมากที่สุที่สุด
30 คำ ถาม ข้อ1:ข้อใดที่มี ที่ มีประเภทกีฬาและงานอดิเรกทุกอัน ก.คารุตะ ดารุมะ แมวกวัก ข.ชินโต สวนญี่ปุ่ ญี่ ปุ่ น ไฮกุ ค.คิวโด ยูโด เคนโด้ ข้อ2:โชติShogi หมายถึงอะไร ก.หมากรุกฝรั่ง ข.หมากรุกญี่ปุ่ ญี่ ปุ่ น ค.มากรุกญี่ปุ่ ญี่ ปุ่ น ข้อ3:Origamiจะใช้กระดาษขนาดเท่าไหร่ถึงเท่าไหร่ ก.20ซม.-30ซม ข.2ซม-20ซม ค.2.5ซม-25ซม ข้อ4:ชุดอะไรเป็นชุดประจำ ชาติของประเทศญี่ปุ่ ญี่ ปุ่ น ก.ยูกะตะ ข.กิโมโน
31 คำ ถาม ข้อ5:นักกีฬาซูโม่มักทำ ทรงผมแบบใด ตอบ ข้อ6:เทพเจ้าหรือคามิ มักอยู่ที่ไที่ หน ก.ต้นไม้ ก้อนหิน ภูเขา แม่น้ำ ข.ต้นไม้ อากาศ ก้อนหิน แม่น้ำ ข้อ7:เครื่องเคียงที่มั ที่ มั กนำ มารับประทานคู่กับซาชิมิ มีอะไรบ้าง ตอบ ข้อ8:โดรายากิ จัดเป็นขนมอะไร ก.วากาชิ ข.มิงากิ ข้อ9:นอกจากภูเขาไฟฟูจิและดอกซากุระแล้ว สิ่งที่ เหมือนเป็นสัญลักษณ์อีกอย่างของญี่ปุ่ ญี่ ปุ่ นคืออะไร ตอบ ข้อ10:มัทฉะนิยมทานคู่กับอะไร ก.ของคาว ข.ของหวาน ค.ของเล่น
32 เฉลย 1.ตอบค.คิวโด ยูโด เคนโด้ 2.ตอบข.หมากรุกญี่ปุ่ ญี่ ปุ่ น 3.ตอบค.2.5ซม.-25ซม. 4.ตอบข.กิโมโน 5.ตอบทรงผมมัดจุกแบบสมัยเอโดะ 6.ตอบก.ต้นไม้ ก้อนหิน ภูเขา แม่น้ำ 7.ตอบโชยุ วาซาบิ ขิงดอง หัวไชเท้า ขูดเส้น 8.ตอบก.วากาชิ 9.ตอบโทริอิ 10.ตอบข.ของหวาน
33 บรรณานุก นุ รม https://allabout-japan.com/th/article/9794/