The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

เอกสารวิชาการโรคทุเรียน

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

เอกสารวิชาการโรคทุเรียน

เอกสารวิชาการโรคทุเรียน

Keywords: โรคทุเรียน,สารป้องกันกำจัดโรคพืช,ทุเรียน

7

กำรจดั กำรโรคทุเรยี นรอบ 12 เดือน

พน้ื ทกี่ ำร ภำคตะวนั ออก
ผลติ
ฤดกู ำล หนาว รอ้ น ฝน หนาว
เดือน
ม.ค. ก.พ. ม.ี ค. เม.ย. พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค.
ระยะกำร
เจริญ ระยะพฒั นาของผล ระยะผลแก่และ การเตรียมตน้ ระยะออก
เกบ็ เกี่ยว (ระยะการเจริญทางใบ) ดอกและติด
โรคพืชและ
ควำม ผล
ผดิ ปกติที่
อำจพบ รำแป้ง โรคผลเน่ำ โรครำกเน่ำโคนเน่ำ ใบจดุ

การหกั โค่นของลาต้นและผลรว่ ง รำกเน่ำโคนเนำ่ รำสชี มพู ใบไหม้

ใบจดุ ใบไหม้ การหักโคน่ ใบติด ราแปง้

โรครากเนา่ โคน ผลร่วง ใบจุด ใบไหม้ รากเน่าโคน
เนา่

ใบจุด ใบไหม้ ใบจุดสนมิ ใบจดุ สาหรา่ ย

ราสชี มพู ราดา

พนื้ ทก่ี ำร ภำคใต้
ผลติ

ฤดกู ำล ฝน รอ้ น ฝน

เดือน ม.ค. ก.พ. ม.ี ค. เม.ย. พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค.

ระยะกำร ระยะออกดอกและ ระยะพฒั นาของผล ระยะผลแก่ การเตรียมตน้
เจรญิ ติดผล
และเกบ็ เกย่ี ว (ระยะการเจริญทางใบ)

โรครำกเน่ำโคนเนำ่ รำแป้ง โรคผลเนำ่ โรครำกเน่ำโคนเนำ่

โรคพืชและ อาการขาดน้า โรครากเน่าโคนเนา่ รากเน่าโคนเนา่ ใบติด
ควำม ราสชี มพู การหกั โคน่ การหักโค่น รำสชี มพู

ผดิ ปกตทิ ี่ ใบจดุ สนิม ผลรว่ ง ผลรว่ ง ใบจุดสนิม ใบจุดสาหรา่ ย
อำจพบ ใบจดุ สาหร่าย ใบจดุ ใบไหม้ ใบจุด ราดา

ราแป้ง ใบไหม้

48

เดอื นมกรำคม

ระยะพฒั นำของผล
1. กำรใหน้ ำ้

เมื่อเริ่มติดผลได้ 1 สัปดาห์ ค่อย ๆ เพิ่มปริมาณการให้น้าขึ้นเร่ือย ๆ สามารถให้น้าในอัตราปกติหลังการติด
ผล 3 สปั ดาห์ การใหน้ า้ ต้องให้อยา่ งเพียงพอและสม่าเสมอตลอดชว่ งพฒั นาการของผลทุเรยี น
2. กำรใสป่ ุ๋ย

ใสป่ ุ๋ยหลังการตัดแต่งผลคร้ังสดุ ท้าย เพอื่ ส่งเสริมพัฒนาการของผล โดยใส่ปยุ๋ เมือ่ ผลมีอายุ 7 สัปดาห์ ร่วมกับ
การพน่ โพแทสเซยี มไนเตรท เพือ่ ควบคุมการแตกใบอ่อน
3. กำรตดั แต่งผล

ตัดแต่งผลท่ีมีขนาด ถ้าตรวจพบผลที่มีพัฒนาการผิดปกติ มีขนาดเล็ก หนามแดง หรือมีโรคแมลงเข้าทาลาย
ใหต้ ัดทงิ้ เม่ือผลเรมิ่ โตควรดาเนนิ การโยงผล
4. สำรวจกำรเขำ้ ทำลำยและดำเนนิ กำรป้องกนั กำจัดโรคพชื ที่สำคัญ

4.1 โรครำกเน่ำและโคนเน่ำ ตรวจแปลงอย่างสม่าเสมอ เม่ือพบอาการของโรค ตัดแต่งส่วนที่เป็นโรคนาไป
ทาลายนอกแปลงปลูก แล้วพ่นด้วยสารป้องกันกาจัดโรคพืช หากพบอาการโรคบนก่ิงหรือที่โคนต้น ถากหรือขูดผิว
เปลือกบริเวณที่เป็นโรคออก แล้วทาแผลดว้ ยดว้ ยสารป้องกนั กาจดั โรคพืช โดยสามารถใช้ตามคาแนะนาในการป้องกัน
กาจัดโรครากเน่าโคนเน่า เช่น ฟอสอีทิล-อะลูมิเนียม (fosetyl-aluminum) 80% WP อัตรา 30-40 กรัมต่อน้า 20
ลิตร หรอื เมทาแลกซลิ (metalaxyl) 25% WP อัตรา 30-50 กรัมตอ่ นา้ 20 ลติ ร

4.2 รำแป้ง พบได้ในช่วงท่ีอากาศแห้งแลง้ และเย็น หากพบอาการ พ่นสารป้องกันกาจัดโรคพืช โปรคลอราซ
(prochloraz) 45% EC อัตรา 20 มลิ ลลิ ิตรตอ่ นา้ 20 ลิตร หรือตามคาแนะนาในการป้องกันกาจัดโรคราแป้ง

4.3 ใบจุด ใบไหม้ พบได้ท้ังในช่วงฤดูฝนและฤดูแล้ง แต่อาการจะพบมากในช่วงฤดูแล้ง หากพบอาการ พ่น
สารป้องกันกาจัดโรคพืช อะซอกซีสโตรบิน (azoxystrobin) 25% SC อัตรา 10 มิลลิลิตรต่อน้า 20 ลิตร หรือตาม
คาแนะนาในการปอ้ งกนั กาจัดโรคใบจดุ ใบไหม้

4.4 กำรหกั โค่นของลำตน้ และผลร่วง ควรมกี ารโยงก่ิงและผลทุเรยี นเพอ่ื ป้องกนั การรว่ งของผล

49

ระยะออกดอก ระยะดอกบำน และติดผล
1. กำรใหน้ ้ำ

งดน้าในช่วงปลายฝน เพ่ือชักนาการออกดอก จากนั้นจึงค่อย ๆ เพ่ิมปริมาณน้าข้ึนเรื่อย ๆ และต้องให้น้า
อยา่ งเพยี งพอและสมา่ เสมอตลอดชว่ งพัฒนาการของผลทุเรยี น
2. กำรใส่ปุย๋

ใสป่ ุ๋ยทางดินโดยใส่ปุ๋ยเคมรี ่วมกบั ปุ๋ยอินทรีย์ ก่อนสิ้นฤดูฝนประมาณ 1 เดือน เพ่ือสง่ เสรมิ การออกดอก
3. สำรวจกำรเข้ำทำลำยและดำเนนิ กำรปอ้ งกนั กำจดั โรคทสี่ ำคัญ

3.1 โรครำกเน่ำและโคนเน่ำ ตรวจแปลงอย่างสม่าเสมอ เม่ือพบอาการของโรค ตัดแต่งส่วนที่เป็นโรคนาไป
ทาลายนอกแปลงปลูก แล้วพ่นด้วยสารป้องกันกาจัดโรคพืช หากพบอาการโรคบนก่ิงหรือที่โคนต้น ถากหรือขูดผิว
เปลือกบรเิ วณทเ่ี ปน็ โรคออก แลว้ ทาแผลด้วยดว้ ยสารป้องกันกาจัดโรคพืช โดยสามารถใชต้ ามคาแนะนาในการป้องกัน
กาจัดโรครากเน่าโคนเน่า เช่น ฟอสอีทิล-อะลูมิเนียม (fosetyl-aluminum) 80% WP อัตรา 30-40 กรัมต่อน้า 20
ลติ ร หรือ เมทาแลกซลิ (metalaxyl) 25% WP อัตรา 30-50 กรัมตอ่ น้า 20 ลิตร

3.2 รำแป้ง พบได้ในช่วงท่ีอากาศแห้งแล้งและเย็น หากพบอาการ พ่นสารป้องกันกาจัดโรคพืช โปรคลอราซ
(prochloraz) 45% EC อตั รา 20 มลิ ลลิ ติ รต่อน้า 20 ลติ ร หรอื ตามคาแนะนาในการปอ้ งกันกาจัดโรคราแปง้

3.3 ใบจุดสนิม หรือใบจุดสำหร่ำย พบได้ท้ังในช่วงฤดูฝน หรือในสภาพที่มีความชื้นสูง หากพบอาการ พ่น
สารป้องกันกาจัดโรคพืช คอปเปอร์ออกซีคลอไรด์ (copper oxychloride) 85% WP อัตรา 50 กรัมต่อน้า 20 ลิตร
หรือตามคาแนะนาในการปอ้ งกนั กาจัดโรคใบจุดสนิม หรอื ใบจุดสาหรา่ ย

3.4 รำสชี มพู มักพบในช่วงหน้าฝน เมอ่ื พบการเขา้ ทาลาย ทาการพน่ สารปอ้ งกันกาจัดโรคพชื ตามคาแนะนา
ในการปอ้ งกนั กาจดั โรคราสีชมพู

3.4 อำกำรขำดนำ้ ใบทเุ รียนแสดงอาการเห่ียว และร่วง รวมถึงดอกทุเรยี นอาจรว่ งได้ หากมีการขาดน้าอย่าง
รนุ แรงอาจทาให้ตน้ ทุเรียนตายได้ ควรให้นา้ ทุเรยี นในชว่ งฤดแู ลง้ ให้เพียงพอ จัดหาแหล่งน้าและให้นา้ เหมาะสมสาหรับ
การเจริญเตบิ โตของทเุ รียนในระยะนี้

50

เดอื นกุมภำพันธ์

ระยะพฒั นำของผล
1. กำรใหน้ ำ้

เม่ือเร่ิมติดผลได้ 1 สัปดาห์ ค่อย ๆ เพิ่มปริมาณการให้น้าขึ้นเรื่อย ๆ สามารถให้น้าในอัตราปกติหลังการติด
ผล 3 สปั ดาห์ การให้นา้ ตอ้ งให้อย่างเพยี งพอและสมา่ เสมอตลอดชว่ งพฒั นาการของผลทเุ รยี น
2. กำรใสป่ ุ๋ย

ใสป่ ุ๋ยหลังการตดั แต่งผลครง้ั สุดท้าย เพื่อสง่ เสริมพัฒนาการของผล โดยใสป่ ุ๋ยเมื่อผลมีอายุ 7 สปั ดาห์ รว่ มกับ
การพ่นโพแทสเซยี มไนเตรท เพ่ือควบคุมการแตกใบออ่ น
3. กำรตัดแตง่ ผล

ตัดแต่งผลที่มีขนาด ถ้าตรวจพบผลที่มีพัฒนาการผิดปกติ มีขนาดเล็ก หนามแดง หรือมีโรคแมลงเข้าทาลาย
ให้ตดั ทง้ิ เม่ือผลเรมิ่ โตควรดาเนนิ การโยงผล
4. สำรวจกำรเขำ้ ทำลำยและดำเนินกำรป้องกันกำจดั โรคพืชทสี่ ำคัญ

4.1 โรครำกเน่ำและโคนเน่ำ ตรวจแปลงอย่างสม่าเสมอ เม่ือพบอาการของโรค ตัดแต่งส่วนที่เป็นโรคนาไป
ทาลายนอกแปลงปลูก แล้วพ่นด้วยสารป้องกันกาจัดโรคพืช หากพบอาการโรคบนกิ่งหรือที่โคนต้น ถากหรือขูดผิว
เปลอื กบรเิ วณท่ีเปน็ โรคออก แลว้ ทาแผลด้วยด้วยสารปอ้ งกันกาจดั โรคพชื โดยสามารถใช้ตามคาแนะนาในการป้องกัน
กาจัดโรครากเน่าโคนเน่า เช่น ฟอสอีทิล-อะลูมิเนียม (fosetyl-aluminum) 80% WP อัตรา 30-40 กรัมต่อน้า 20
ลติ ร หรือ เมทาแลกซลิ (metalaxyl) 25% WP อัตรา 30-50 กรัมตอ่ นา้ 20 ลิตร

4.2 รำแป้ง พบได้ในช่วงที่อากาศแห้งแลง้ และเย็น หากพบอาการ พ่นสารป้องกันกาจัดโรคพืช โปรคลอราซ
(prochloraz) 45% EC อตั รา 20 มิลลิลิตรตอ่ น้า 20 ลติ ร หรอื ตามคาแนะนาในการป้องกันกาจัดโรคราแป้ง

4.3 ใบจุด ใบไหม้ พบได้ท้ังในช่วงฤดูฝนและฤดูแล้ง แต่อาการจะพบมากในช่วงฤดูแล้ง หากพบอาการ พ่น
สารป้องกันกาจัดโรคพืช อะซอกซีสโตรบิน (azoxystrobin) 25% SC อัตรา 10 มิลลิลิตรต่อน้า 20 ลิตร หรือตาม
คาแนะนาในการปอ้ งกันกาจัดโรคใบจดุ ใบไหม้

4.4 กำรหกั โค่นของลำตน้ และผลร่วง ควรมีการโยงก่ิงและผลทเุ รียนเพ่ือปอ้ งกันการร่วงของผล

51

ระยะออกดอก ระยะดอกบำน และติดผล
1. กำรให้น้ำ

งดน้าในช่วงปลายฝน เพ่ือชักนาการออกดอก จากน้ันจึงค่อย ๆ เพ่ิมปริมาณน้าข้ึนเร่ือย ๆ และต้องให้น้า
อยา่ งเพยี งพอและสมา่ เสมอตลอดช่วงพฒั นาการของผลทเุ รียน
2. กำรใส่ปุ๋ย

ใสป่ ุ๋ยทางดนิ โดยใสป่ ุ๋ยเคมีร่วมกบั ปุ๋ยอินทรยี ์ ก่อนสิน้ ฤดฝู นประมาณ 1 เดอื น เพ่อื สง่ เสริมการออกดอก
3. สำรวจกำรเข้ำทำลำยและดำเนินกำรป้องกันกำจัดโรคทส่ี ำคัญ

3.1 โรครำกเน่ำและโคนเน่ำ ตรวจแปลงอย่างสม่าเสมอ เมื่อพบอาการของโรค ตัดแต่งส่วนท่ีเป็นโรคนาไป
ทาลายนอกแปลงปลูก แล้วพ่นด้วยสารป้องกันกาจัดโรคพืช หากพบอาการโรคบนก่ิงหรือท่ีโคนต้น ถากหรือขูดผิว
เปลือกบริเวณท่เี ป็นโรคออก แล้วทาแผลด้วยด้วยสารปอ้ งกนั กาจัดโรคพืช โดยสามารถใชต้ ามคาแนะนาในการป้องกัน
กาจัดโรครากเน่าโคนเน่า เช่น ฟอสอีทิล-อะลูมิเนียม (fosetyl-aluminum) 80% WP อัตรา 30-40 กรัมต่อน้า 20
ลิตร หรือ เมทาแลกซิล (metalaxyl) 25% WP อัตรา 30-50 กรมั ตอ่ น้า 20 ลติ ร

3.2 ใบจุดสนิม หรือใบจุดสำหร่ำย พบได้ทั้งในช่วงฤดูฝน หรือในสภาพท่ีมีความชื้นสูง หากพบอาการ พ่น
สารป้องกันกาจัดโรคพืช คอปเปอร์ออกซีคลอไรด์ (copper oxychloride) 85% WP อัตรา 50 กรัมต่อน้า 20 ลิตร
หรอื ตามคาแนะนาในการป้องกันกาจดั โรคใบจดุ สนมิ หรอื ใบจดุ สาหรา่ ย

3.3 รำสชี มพู มกั พบในช่วงหน้าฝน เมอ่ื พบการเข้าทาลาย ทาการพ่นสารป้องกนั กาจดั โรคพืช ตามคาแนะนา
ในการป้องกนั กาจัดโรคราสชี มพู

3.4 อำกำรขำดน้ำ ใบทเุ รยี นแสดงอาการเหย่ี ว และรว่ ง รวมถงึ ดอกทเุ รียนอาจรว่ งได้ หากมีการขาดน้าอย่าง
รุนแรงอาจทาให้ต้นทเุ รยี นตายได้ ควรให้น้าทเุ รยี นในช่วงฤดูแล้งให้เพียงพอ จดั หาแหล่งน้าและใหน้ า้ เหมาะสมสาหรับ
การเจริญเติบโตของทุเรียนในระยะน้ี

52

เดอื นมีนำคม

ระยะพฒั นำของผล
1. กำรใหน้ ้ำ

การให้น้าตอ้ งให้อย่างเพยี งพอและสม่าเสมอตลอดชว่ งพฒั นาการของผลทเุ รียน
2. กำรใส่ปุ๋ย

ใสป่ ๋ยุ หลงั การตัดแต่งผลครง้ั สดุ ท้าย เพ่ือสง่ เสริมพัฒนาการของผล โดยใส่ปยุ๋ เม่อื ผลมีอายุ 7 สปั ดาห์ รว่ มกับ
การพน่ ด้วยโพแทสเซยี มไนเตรท เพื่อควบคุมการแตกใบออ่ น
3. กำรตัดแต่งผล

ตัดแต่งผลที่มีขนาด ถ้าตรวจพบผลท่ีมีพัฒนาการผิดปกติ มีขนาดเล็ก หนามแดง หรือมีโรคแมลงเข้าทาลาย
ใหต้ ัดทิง้ เมอื่ ผลเริ่มโตควรดาเนินการโยงผล
4. สำรวจกำรเขำ้ ทำลำยและดำเนนิ กำรป้องกันกำจดั โรคพชื ทีส่ ำคญั

4.1 โรครำกเน่ำและโคนเน่ำ ตรวจแปลงอย่างสม่าเสมอ เม่ือพบอาการของโรค ตัดแต่งส่วนท่ีเป็นโรคนาไป
ทาลายนอกแปลงปลูก แล้วพ่นด้วยสารป้องกันกาจัดโรคพืช หากพบอาการโรคบนก่ิงหรือที่โคนต้น ถากหรือขูดผิว
เปลอื กบรเิ วณท่เี ป็นโรคออก แลว้ ทาแผลดว้ ยด้วยสารป้องกนั กาจดั โรคพืช โดยสามารถใช้ตามคาแนะนาในการป้องกัน
กาจัดโรครากเน่าโคนเน่า เช่น ฟอสอีทิล-อะลูมิเนียม (fosetyl-aluminum) 80% WP อัตรา 30-40 กรัมต่อน้า 20
ลิตร หรอื เมทาแลกซลิ (metalaxyl) 25% WP อัตรา 30-50 กรัมต่อน้า 20 ลิตร

4.2 ใบจุด ใบไหม้ พบได้ทั้งในช่วงฤดูฝนและฤดูแล้ง แต่อาการจะพบมากในช่วงฤดูแล้ง หากพบอาการ พ่น
สารป้องกันกาจัดโรคพืช อะซอกซีสโตรบิน (azoxystrobin) 25% SC อัตรา 10 มิลลิลิตรต่อน้า 20 ลิตร หรือตาม
คาแนะนาในการป้องกนั กาจัดโรคใบจุด ใบไหม้

4.3 รำแป้ง พบได้ในช่วงท่ีอากาศแห้งแล้งและเย็น หากพบอาการ พ่นสารป้องกันกาจัดโรคพืช โปรคลอราซ
(prochloraz) 45% EC อตั รา 20 มิลลิลติ รต่อน้า 20 ลติ ร หรอื ตามคาแนะนาในการปอ้ งกนั กาจดั โรคราแป้ง

4.4 กำรหักโคน่ ของลำตน้ และผลร่วง ควรมีการโยงกิง่ และผลทุเรียนเพอื่ ปอ้ งกันการร่วงของผล

53

เดือนเมษำยน

ระยะพัฒนำของผล
1. กำรใหน้ ำ้

การให้นา้ ต้องใหอ้ ย่างเพียงพอและสมา่ เสมอตลอดช่วงพัฒนาการของผลทุเรียน
2. กำรตดั แต่งผล

ตัดแต่งผลท่ีมีขนาด ถ้าตรวจพบผลที่มีพัฒนาการผิดปกติ มีขนาดเล็ก หนามแดง หรือมีโรคแมลงเข้าทาลาย
ให้ตัดทิ้ง เมอ่ื ผลเร่ิมโตควรดาเนินการโยงผล
3. สำรวจกำรเขำ้ ทำลำยและดำเนินกำรปอ้ งกันกำจดั โรคพืชที่สำคญั

3.1 โรครำกเน่ำและโคนเน่ำ ตรวจแปลงอย่างสม่าเสมอ เมื่อพบอาการของโรค ตัดแต่งส่วนที่เป็นโรคนาไป
ทาลายนอกแปลงปลูก แล้วพ่นด้วยสารป้องกันกาจัดโรคพืช หากพบอาการโรคบนกิ่งหรือท่ีโคนต้น ถากหรือขูดผิว
เปลือกบรเิ วณทเี่ ป็นโรคออก แล้วทาแผลดว้ ยด้วยสารปอ้ งกนั กาจัดโรคพืช โดยสามารถใช้ตามคาแนะนาในการป้องกัน
กาจัดโรครากเน่าโคนเน่า เช่น ฟอสอีทิล-อะลูมิเนียม (fosetyl-aluminum) 80% WP อัตรา 30-40 กรัมต่อน้า 20
ลิตร หรอื เมทาแลกซิล (metalaxyl) 25% WP อตั รา 30-50 กรัมต่อนา้ 20 ลติ ร

3.2 ใบจุด ใบไหม้ พบได้ท้ังในช่วงฤดูฝนและฤดูแล้ง แต่อาการจะพบมากในช่วงฤดูแล้ง หากพบอาการ พ่น
สารป้องกันกาจัดโรคพืช อะซอกซีสโตรบิน (azoxystrobin) 25% SC อัตรา 10 มิลลิลิตรต่อน้า 20 ลิตร หรือตาม
คาแนะนาในการป้องกนั กาจัดโรคใบจุด ใบไหม้

3.3 รำแป้ง พบได้ในช่วงท่ีอากาศแห้งแล้งและเย็น หากพบอาการ พ่นสารป้องกันกาจัดโรคพืช โปรคลอราซ
(prochloraz) 45% EC อัตรา 20 มิลลิลติ รตอ่ นา้ 20 ลิตร หรอื ตามคาแนะนาในการป้องกันกาจัดโรคราแปง้

3.4 กำรหักโคน่ ของลำต้นและผลร่วง ควรมกี ารโยงก่งิ และผลทเุ รียนเพื่อปอ้ งกันการร่วงของผล

54

เดือนพฤษภำคม

ระยะผลแก่และเก็บเกี่ยว
1. กำรเกบ็ เกย่ี วผลผลิต

ทาการเก็บเกี่ยวตามอายุผลของแต่ละพันธุ์ ห้ามตัดทุเรียนอ่อน การนับอายุผลเก็บเก่ียว ให้นับตั้งแต่วันท่ีดอก
บาน จนถึงวันท่ที าการเกบ็ เก่ยี ว
2. กำรใหน้ ำ้

การให้นา้ ตอ้ งให้อยา่ งเพยี งพอและสม่าเสมอ
3. สำรวจกำรเขำ้ ทำลำยและดำเนินกำรป้องกันกำจัดโรคท่สี ำคญั

3.1 โรครำกเน่ำและโคนเน่ำ ตรวจแปลงอย่างสม่าเสมอ เม่ือพบอาการของโรค ตัดแต่งส่วนท่ีเป็นโรคนาไป
ทาลายนอกแปลงปลูก แล้วพ่นด้วยสารป้องกันกาจัดโรคพืชหากพบอาการโรคบนกิ่งหรือท่ีโคนต้น ถากหรือขูดผิว
เปลอื กบรเิ วณท่ีเปน็ โรคออก แลว้ ทาแผลด้วยดว้ ยสารปอ้ งกันกาจดั โรคพชื โดยสามารถใชต้ ามคาแนะนาในการป้องกัน
กาจัดโรครากเน่าโคนเน่า เช่น ฟอสอีทิล-อะลูมิเนียม (fosetyl-aluminum) 80% WP อัตรา 30-40 กรัมต่อน้า 20
ลติ ร หรือ เมทาแลกซลิ (metalaxyl) 25% WP อตั รา 30-50 กรมั ต่อนา้ 20 ลติ ร

3.2 ใบจุด ใบไหม้ พบได้ท้ังในช่วงฤดูฝนและฤดูแล้ง แต่อาการจะพบมากในช่วงฤดูแล้ง หากพบอาการ พ่น
สารป้องกันกาจัดโรคพืช อะซอกซีสโตรบิน (azoxystrobin) 25% SC อัตรา 10 มิลลิลิตรต่อน้า 20 ลิตร หรือตาม
คาแนะนาในการป้องกันกาจัดโรคใบจุด ใบไหม้

3.3 รำสชี มพู มกั พบในชว่ งหนา้ ฝน เมอ่ื พบการเข้าทาลาย ทาการพน่ สารปอ้ งกันกาจดั โรคพืช ตามคาแนะนา
ในการป้องกันกาจัดโรคราสชี มพู

3.4 กำรหกั โคน่ ของลำตน้ และผลรว่ ง ควรมีการโยงก่งิ และผลทเุ รยี นเพอื่ ปอ้ งกนั การร่วงของผล

55

ระยะพฒั นำของผล
1. กำรให้นำ้

การให้น้าตอ้ งใหอ้ ย่างเพียงพอและสม่าเสมอตลอดชว่ งพัฒนาการของผลทเุ รยี น
2. กำรตดั แตง่ ผล

ตัดแต่งผลที่มีขนาด ถ้าตรวจพบผลท่ีมีพัฒนาการผิดปกติ มีขนาดเล็ก หนามแดง หรือมีโรคแมลงเข้าทาลาย
ใหต้ ดั ท้งิ เมอ่ื ผลเร่ิมโตควรดาเนินการโยงผล
3. สำรวจกำรเขำ้ ทำลำยและดำเนนิ กำรป้องกันกำจดั โรคพืชท่ีสำคญั

3.1 โรครำกเน่ำและโคนเน่ำ ตรวจแปลงอย่างสม่าเสมอ เม่ือพบอาการของโรค ตัดแต่งส่วนท่ีเป็นโรคนาไป
ทาลายนอกแปลงปลูก แล้วพ่นด้วยสารป้องกันกาจัดโรคพืช หากพบอาการโรคบนกิ่งหรือที่โคนต้น ถากหรือขูดผิว
เปลอื กบริเวณท่ีเปน็ โรคออก แล้วทาแผลดว้ ยดว้ ยสารป้องกันกาจัดโรคพืช โดยสามารถใชต้ ามคาแนะนาในการป้องกัน
กาจัดโรครากเน่าโคนเน่า เช่น ฟอสอีทิล-อะลูมิเนียม (fosetyl-aluminum) 80% WP อัตรา 30-40 กรัมต่อน้า 20
ลิตร หรือ เมทาแลกซลิ (metalaxyl) 25% WP อตั รา 30-50 กรัมตอ่ นา้ 20 ลิตร

3.2 ใบจุด ใบไหม้ พบได้ทั้งในช่วงฤดูฝนและฤดูแล้ง แต่อาการจะพบมากในช่วงฤดูแล้ง หากพบอาการ พ่น
สารป้องกันกาจัดโรคพืช อะซอกซีสโตรบิน (azoxystrobin) 25% SC อัตรา 10 มิลลิลิตรต่อน้า 20 ลิตร หรือตาม
คาแนะนาในการปอ้ งกันกาจัดโรคใบจดุ ใบไหม้

3.3 รำแป้ง พบได้ในช่วงท่ีอากาศแห้งแลง้ และเย็น หากพบอาการ พ่นสารป้องกันกาจัดโรคพืช โปรคลอราซ
(prochloraz) 45% EC อตั รา 20 มิลลิลิตรตอ่ น้า 20 ลิตร หรอื ตามคาแนะนาในการป้องกันกาจดั โรคราแป้ง

3.4 กำรหกั โคน่ ของลำตน้ และผลร่วง ควรมกี ารโยงกง่ิ และผลทเุ รียนเพื่อป้องกนั การร่วงของผล

56

เดอื นมถิ ุนำยน

ระยะผลแก่และเก็บเกย่ี ว
1. กำรเกบ็ เก่ยี วผลผลติ

ทาการเกบ็ เกยี่ วตามอายุผลของแตล่ ะพันธ์ุ หา้ มตัดทุเรยี นอ่อน การนับอายผุ ลเกบ็ เกยี่ ว ให้นบั ตง้ั แตว่ นั ท่ีดอก
บาน จนถงึ วนั ท่ที าการเก็บเกีย่ ว
2. กำรใหน้ ำ้

การให้น้าตอ้ งใหอ้ ย่างเพียงพอและสมา่ เสมอ
3. สำรวจกำรเขำ้ ทำลำยและดำเนินกำรป้องกนั กำจดั โรคทีส่ ำคญั

3.1 โรครำกเน่ำและโคนเน่ำ ตรวจแปลงอย่างสม่าเสมอ เม่ือพบอาการของโรค ตัดแต่งส่วนท่ีเป็นโรคนาไป
ทาลายนอกแปลงปลูก แล้วพ่นด้วยสารป้องกันกาจัดโรคพืช หากพบอาการโรคบนกิ่งหรือท่ีโคนต้น ถากหรือขูดผิว
เปลือกบริเวณที่เป็นโรคออก แล้วทาแผลด้วยด้วยสารปอ้ งกนั กาจัดโรคพชื โดยสามารถใชต้ ามคาแนะนาในการป้องกัน
กาจัดโรครากเน่าโคนเน่า เช่น ฟอสอีทิล-อะลูมิเนียม (fosetyl-aluminum) 80% WP อัตรา 30-40 กรัมต่อน้า 20
ลติ ร หรอื เมทาแลกซิล (metalaxyl) 25% WP อตั รา 30-50 กรัมต่อนา้ 20 ลติ ร

3.2 ใบจุด ใบไหม้ พบได้ทั้งในช่วงฤดูฝนและฤดูแล้ง แต่อาการจะพบมากในช่วงฤดูแล้ง หากพบอาการ พ่น
สารป้องกันกาจัดโรคพืช อะซอกซีสโตรบิน (azoxystrobin) 25% SC อัตรา 10 มิลลิลิตรต่อน้า 20 ลิตร หรือตาม
คาแนะนาในการปอ้ งกนั กาจัดโรคใบจุด ใบไหม้

3.3 รำสีชมพู มกั พบในชว่ งหน้าฝน เมอื่ พบการเข้าทาลาย ทาการพ่นสารป้องกนั กาจัดโรคพชื ตามคาแนะนา
ในการป้องกนั กาจดั โรคราสชี มพู

3.4 กำรหกั โค่นของลำตน้ และผลร่วง ควรมกี ารโยงก่ิงและผลทุเรียนเพอ่ื ป้องกันการรว่ งของผล

57

ระยะพัฒนำของผล
1. กำรให้นำ้

การใหน้ ้าต้องให้อยา่ งเพียงพอและสม่าเสมอตลอดชว่ งพัฒนาการของผลทุเรยี น
2. กำรตัดแตง่ ผล

ตัดแต่งผลที่มีขนาด ถ้าตรวจพบผลท่ีมีพัฒนาการผิดปกติ มีขนาดเล็ก หนามแดง หรือมีโรคแมลงเข้าทาลาย
ให้ตัดท้ิง เม่ือผลเริม่ โตควรดาเนนิ การโยงผล
3. สำรวจกำรเขำ้ ทำลำยและดำเนินกำรปอ้ งกนั กำจัดโรคพืชที่สำคญั

3.1 โรครำกเน่ำและโคนเน่ำ ตรวจแปลงอย่างสม่าเสมอ เมื่อพบอาการของโรค ตัดแต่งส่วนท่ีเป็นโรคนาไป
ทาลายนอกแปลงปลูก แล้วพ่นด้วยสารป้องกันกาจัดโรคพืช หากพบอาการโรคบนกิ่งหรือที่โคนต้น ถากหรือขูดผิว
เปลอื กบริเวณทเี่ ปน็ โรคออก แล้วทาแผลด้วยดว้ ยสารปอ้ งกันกาจัดโรคพชื โดยสามารถใชต้ ามคาแนะนาในการป้องกัน
กาจัดโรครากเน่าโคนเน่า เช่น ฟอสอีทิล-อะลูมิเนียม (fosetyl-aluminum) 80% WP อัตรา 30-40 กรัมต่อน้า 20
ลติ ร หรอื เมทาแลกซลิ (metalaxyl) 25% WP อัตรา 30-50 กรมั ต่อน้า 20 ลิตร

3.2 ใบจุด ใบไหม้ พบได้ท้ังในช่วงฤดูฝนและฤดูแล้ง แต่อาการจะพบมากในช่วงฤดูแล้ง หากพบอาการ พ่น
สารป้องกันกาจัดโรคพืช อะซอกซีสโตรบิน (azoxystrobin) 25% SC อัตรา 10 มิลลิลิตรต่อน้า 20 ลิตร หรือตาม
คาแนะนาในการปอ้ งกนั กาจัดโรคใบจุด ใบไหม้

3.3 กำรหกั โค่นของลำตน้ และผลร่วง ควรมีการโยงกง่ิ และผลทเุ รียนเพื่อป้องกนั การร่วงของผล

58

เดือนกรกฎำคม

กำรเตรียมต้น (ระยะกำรเจรญิ ทำงใบ)
1. กำรเตรียมตน้

หลังเก็บเกี่ยว ใหร้ บี ตดั แตง่ กงิ่ ที่เปน็ โรค ก่ิงแหง้ กงิ่ แขนง ทารอยแผลดว้ ยสารเคมีปอ้ งกนั กาจัดเชอื้ รา
2. กำรใหน้ ำ้

ตอ้ งใหน้ า้ อยา่ งเพียงพอและสม่าเสมอ โดยให้นา้ เมอ่ื ฝนท้งิ ช่วงเกนิ 7 วนั
3. สำรวจกำรเข้ำทำลำยและดำเนินกำรป้องกันกำจัดโรคท่ีสำคญั

3.1 โรครำกเน่ำและโคนเน่ำ ตรวจแปลงอย่างสม่าเสมอ เม่ือพบอาการของโรค ตัดแต่งส่วนท่ีเป็นโรคนาไป
ทาลายนอกแปลงปลูก แล้วพ่นด้วยสารป้องกันกาจัดโรคพืช หากพบอาการโรคบนกิ่งหรือที่โคนต้น ถากหรือขูดผิว
เปลือกบริเวณทีเ่ ป็นโรคออก แลว้ ทาแผลด้วยดว้ ยสารปอ้ งกนั กาจัดโรคพชื โดยสามารถใช้ตามคาแนะนาในการป้องกัน
กาจัดโรครากเน่าโคนเน่า เช่น ฟอสอีทิล-อะลูมิเนียม (fosetyl-aluminum) 80% WP อัตรา 30-40 กรัมต่อน้า 20
ลติ ร หรือ เมทาแลกซิล (metalaxyl) 25% WP อัตรา 30-50 กรมั ต่อน้า 20 ลิตร

3.2 ใบจุด ใบไหม้ พบได้ทั้งในช่วงฤดูฝนและฤดูแล้ง แต่อาการจะพบมากในช่วงฤดูแล้ง หากพบอาการ พ่น
สารป้องกันกาจัดโรคพืช อะซอกซีสโตรบิน (azoxystrobin) 25% SC อัตรา 10 มิลลิลิตรต่อน้า 20 ลิตร หรือตาม
คาแนะนาในการปอ้ งกนั กาจัดโรคใบจุด ใบไหม้

3.3 รำสีชมพู มักพบในช่วงหน้าฝน เมื่อพบการเข้าทาลาย ทาการพ่นสารป้องกนั กาจดั โรคพืช ตามคาแนะนา
ในการปอ้ งกันกาจัดโรคราสีชมพู

3.4 ใบจุดสนิม หรือใบจุดสำหร่ำย พบได้ทั้งในช่วงฤดูฝน หรือในสภาพที่มีความชื้นสูง หากพบอาการ พ่น
สารป้องกันกาจัดโรคพืช คอปเปอร์ออกซีคลอไรด์ (copper oxychloride) 85% WP อัตรา 50 กรัมต่อน้า 20 ลิตร
หรือตามคาแนะนาในการป้องกนั กาจดั โรคใบจดุ สนิม หรอื ใบจุดสาหร่าย

3.5 ใบติด พบในแปลงทั่วไปท่ีมีความชื้นสูง มักเกิดกับต้นทุเรียนท่ีทรงพุ่มหนา หากพบอาการ พ่นสาร
ป้องกันกาจัดโรคพืช คอปเปอร์ออกซีคลอไรด์ (copper oxychloride) 85% WP อัตรา 50 กรัมต่อน้า 20 ลิตร หรือ
ตามคาแนะนาในการป้องกันกาจัดโรคใบตดิ

3.6 รำดำ พบในแปลงท่ัวไปท่ีมีความชื้นสูงและในช่วงท่ีมีการระบาดของเพล้ียหอย เพลี้ยแป้ง การป้องกัน
กาจัดตามคาแนะนาในการปอ้ งกันกาจดั โรคราดา

59

ระยะผลแก่และเกบ็ เก่ยี ว
1. กำรเก็บเกี่ยวผลผลิต

ทาการเกบ็ เกีย่ วตามอายผุ ลของแตล่ ะพนั ธุ์ ห้ามตัดทุเรียนอ่อน การนับอายผุ ลเก็บเก่ียว ใหน้ บั ต้ังแตว่ นั ท่ีดอก
บาน จนถงึ วนั ทที่ าการเกบ็ เก่ยี ว
2. กำรให้น้ำ

การให้น้าตอ้ งให้อยา่ งเพยี งพอและสม่าเสมอ
3. สำรวจกำรเขำ้ ทำลำยและดำเนินกำรปอ้ งกันกำจัดโรคทสี่ ำคญั

3.1 โรครำกเน่ำและโคนเน่ำ ตรวจแปลงอย่างสม่าเสมอ เมื่อพบอาการของโรค ตัดแต่งส่วนที่เป็นโรคนาไป
ทาลายนอกแปลงปลูก แล้วพ่นด้วยสารป้องกันกาจัดโรคพืช หากพบอาการโรคบนกิ่งหรือที่โคนต้น ถากหรือขูดผิว
เปลอื กบรเิ วณทเี่ ปน็ โรคออก แล้วทาแผลด้วยด้วยสารปอ้ งกันกาจดั โรคพชื โดยสามารถใชต้ ามคาแนะนาในการป้องกัน
กาจัดโรครากเน่าโคนเน่า เช่น ฟอสอีทิล-อะลูมิเนียม (fosetyl-aluminum) 80% WP อัตรา 30-40 กรัมต่อน้า 20
ลติ ร หรือ เมทาแลกซลิ (metalaxyl) 25% WP อตั รา 30-50 กรมั ตอ่ นา้ 20 ลติ ร

3.2 โรคผลเน่ำ มีเช้ือสาเหตุชนิดเดียวกับโรครากเน่าและโคนเน่า ดังนั้นเพ่ือให้การป้องกันกาจัดโรคได้ผลดี
ควรทาการปอ้ งกนั กาจัดโรครากเน่าโคนเนา่ ไปพร้อมกัน

3.3 ใบจุด ใบไหม้ พบได้ท้ังในช่วงฤดูฝนและฤดูแล้ง แต่อาการจะพบมากในช่วงฤดูแล้ง หากพบอาการ พ่น
สารป้องกันกาจัดโรคพืช อะซอกซีสโตรบิน (azoxystrobin) 25% SC อัตรา 10 มิลลิลิตรต่อน้า 20 ลิตร หรือตาม
คาแนะนาในการป้องกนั กาจัดโรคใบจดุ ใบไหม้

3.4 กำรหกั โค่นของลำต้นและผลรว่ ง ควรมีการโยงกิ่งและผลทุเรียนเพอ่ื ป้องกนั การร่วงของผล

60

เดอื นสิงหำคม

กำรเตรียมต้น (ระยะกำรเจริญทำงใบ)
1. กำรเตรียมตน้

หลังเก็บเกี่ยว ใหร้ ีบตดั แต่งกงิ่ ที่เปน็ โรค ก่ิงแหง้ ก่งิ แขนง ทารอยแผลดว้ ยสารเคมีปอ้ งกนั กาจัดเชอื้ รา
2. กำรใหน้ ำ้

ตอ้ งใหน้ า้ อยา่ งเพยี งพอและสม่าเสมอ โดยใหน้ า้ เมื่อฝนท้งิ ช่วงเกิน 7 วนั
3. สำรวจกำรเข้ำทำลำยและดำเนนิ กำรป้องกันกำจดั โรคทสี่ ำคญั

3.1 โรครำกเน่ำและโคนเน่ำ ตรวจแปลงอย่างสม่าเสมอ เมื่อพบอาการของโรค ตัดแต่งส่วนท่ีเป็นโรคนาไป
ทาลายนอกแปลงปลูก แล้วพ่นด้วยสารป้องกันกาจัดโรคพืช หากพบอาการโรคบนก่ิงหรือที่โคนต้น ถากหรือขูดผิว
เปลือกบริเวณทีเ่ ป็นโรคออก แลว้ ทาแผลด้วยดว้ ยสารปอ้ งกนั กาจัดโรคพืช โดยสามารถใชต้ ามคาแนะนาในการป้องกัน
กาจัดโรครากเน่าโคนเน่า เช่น ฟอสอีทิล-อะลูมิเนียม (fosetyl-aluminum) 80% WP อัตรา 30-40 กรัมต่อน้า 20
ลติ ร หรือ เมทาแลกซิล (metalaxyl) 25% WP อตั รา 30-50 กรัมต่อนา้ 20 ลิตร

3.2 ใบจุด ใบไหม้ พบได้ทั้งในช่วงฤดูฝนและฤดูแล้ง แต่อาการจะพบมากในช่วงฤดูแล้ง หากพบอาการ พ่น
สารป้องกันกาจัดโรคพืช อะซอกซีสโตรบิน (azoxystrobin) 25% SC อัตรา 10 มิลลิลิตรต่อน้า 20 ลิตร หรือตาม
คาแนะนาในการปอ้ งกนั กาจัดโรคใบจุด ใบไหม้

3.3 รำสีชมพู มักพบในช่วงหน้าฝน เมื่อพบการเขา้ ทาลาย ทาการพ่นสารปอ้ งกันกาจดั โรคพืช ตามคาแนะนา
ในการปอ้ งกันกาจัดโรคราสีชมพู

3.4 ใบจุดสนิม หรือใบจุดสำหร่ำย พบได้ทั้งในช่วงฤดูฝน หรือในสภาพที่มีความชื้นสูง หากพบอาการ พ่น
สารป้องกันกาจัดโรคพืช คอปเปอร์ออกซีคลอไรด์ (copper oxychloride) 85% WP อัตรา 50 กรัมต่อน้า 20 ลิตร
หรือตามคาแนะนาในการป้องกนั กาจดั โรคใบจดุ สนมิ หรือใบจดุ สาหร่าย

3.5 ใบติด พบในแปลงท่ัวไปที่มีความชื้นสูง มักเกิดกับต้นทุเรียนท่ีทรงพุ่มหนา หากพบอาการ พ่นสาร
ป้องกันกาจัดโรคพืช คอปเปอร์ออกซีคลอไรด์ (copper oxychloride) 85% WP อัตรา 50 กรัมต่อน้า 20 ลิตร หรือ
ตามคาแนะนาในการปอ้ งกันกาจัดโรคใบตดิ

3.6 รำดำ พบในแปลงทั่วไปท่ีมีความชื้นสูงและในช่วงที่มีการระบาดของเพล้ียหอย เพลี้ยแป้ง การป้องกัน
กาจัดตามคาแนะนาในการป้องกันกาจดั โรคราดา

61

ระยะผลแก่และเกบ็ เก่ยี ว
1. กำรเก็บเกี่ยวผลผลิต

ทาการเกบ็ เกีย่ วตามอายผุ ลของแตล่ ะพนั ธุ์ ห้ามตัดทุเรียนอ่อน การนับอายผุ ลเก็บเก่ียว ใหน้ บั ต้ังแตว่ นั ท่ีดอก
บาน จนถงึ วนั ทที่ าการเกบ็ เก่ยี ว
2. กำรให้น้ำ

การให้น้าตอ้ งให้อยา่ งเพยี งพอและสม่าเสมอ
3. สำรวจกำรเขำ้ ทำลำยและดำเนินกำรปอ้ งกันกำจัดโรคทสี่ ำคญั

3.1 โรครำกเน่ำและโคนเน่ำ ตรวจแปลงอย่างสม่าเสมอ เมื่อพบอาการของโรค ตัดแต่งส่วนที่เป็นโรคนาไป
ทาลายนอกแปลงปลูก แล้วพ่นด้วยสารป้องกันกาจัดโรคพืช หากพบอาการโรคบนกิ่งหรือที่โคนต้น ถากหรือขูดผิว
เปลอื กบรเิ วณทเี่ ปน็ โรคออก แล้วทาแผลด้วยด้วยสารปอ้ งกันกาจดั โรคพชื โดยสามารถใชต้ ามคาแนะนาในการป้องกัน
กาจัดโรครากเน่าโคนเน่า เช่น ฟอสอีทิล-อะลูมิเนียม (fosetyl-aluminum) 80% WP อัตรา 30-40 กรัมต่อน้า 20
ลติ ร หรือ เมทาแลกซลิ (metalaxyl) 25% WP อตั รา 30-50 กรมั ตอ่ นา้ 20 ลติ ร

3.2 โรคผลเน่ำ มีเช้ือสาเหตุชนิดเดียวกับโรครากเน่าและโคนเน่า ดังนั้นเพ่ือให้การป้องกันกาจัดโรคได้ผลดี
ควรทาการปอ้ งกนั กาจัดโรครากเน่าโคนเนา่ ไปพร้อมกัน

3.3 ใบจุด ใบไหม้ พบได้ท้ังในช่วงฤดูฝนและฤดูแล้ง แต่อาการจะพบมากในช่วงฤดูแล้ง หากพบอาการ พ่น
สารป้องกันกาจัดโรคพืช อะซอกซีสโตรบิน (azoxystrobin) 25% SC อัตรา 10 มิลลิลิตรต่อน้า 20 ลิตร หรือตาม
คาแนะนาในการป้องกนั กาจัดโรคใบจดุ ใบไหม้

3.4 กำรหกั โค่นของลำต้นและผลรว่ ง ควรมีการโยงกิ่งและผลทุเรียนเพอ่ื ป้องกนั การร่วงของผล

62

เดอื นกนั ยำยน

กำรเตรียมต้น (ระยะกำรเจริญทำงใบ)
1. กำรดูแล หลังเก็บเก่ียว ให้รีบตัดแต่งกิ่งท่ีเป็นโรค กิ่งแห้ง กิ่งแขนง ทารอยแผลด้วยสารเคมีป้องกันกาจัดเช้ือรา
ต้องให้น้าอยา่ งเพียงพอและสมา่ เสมอ โดยใหน้ ้าเมื่อฝนทิ้งชว่ งเกิน 7 วนั
2. สำรวจกำรเข้ำทำลำยและดำเนินกำรปอ้ งกันกำจัดโรคท่ีสำคัญ

2.1 โรครำกเน่ำและโคนเน่ำ ตรวจแปลงอย่างสม่าเสมอ เมื่อพบอาการของโรค ตัดแต่งส่วนที่เป็นโรคนาไป
ทาลายนอกแปลงปลูก แล้วพ่นด้วยสารป้องกันกาจัดโรคพืช หากพบอาการโรคบนกิ่งหรือท่ีโคนต้น ถากหรือขูดผิว
เปลอื กบริเวณท่ีเป็นโรคออก แล้วทาแผลด้วยด้วยสารปอ้ งกนั กาจัดโรคพชื โดยสามารถใชต้ ามคาแนะนาในการป้องกัน
กาจัดโรครากเน่าโคนเน่า เช่น ฟอสอีทิล-อะลูมิเนียม (fosetyl-aluminum) 80% WP อัตรา 30-40 กรัมต่อน้า 20
ลิตร หรอื เมทาแลกซลิ (metalaxyl) 25% WP อตั รา 30-50 กรัมตอ่ นา้ 20 ลติ ร

2.2 รำสชี มพู มกั พบในชว่ งหนา้ ฝน เมอื่ พบการเข้าทาลาย ทาการพ่นสารป้องกนั กาจัดโรคพืช ตามคาแนะนา
ในการป้องกนั กาจดั โรคราสชี มพู

2.3 ใบจุดสนิม หรือใบจุดสำหร่ำย พบได้ท้ังในช่วงฤดูฝน หรือในสภาพท่ีมีความช้ืนสูง หากพบอาการ พ่น
สารป้องกันกาจัดโรคพืช คอปเปอร์ออกซีคลอไรด์ (copper oxychloride) 85% WP อัตรา 50 กรัมต่อน้า 20 ลิตร
หรือตามคาแนะนาในการปอ้ งกันกาจัดโรคใบจดุ สนิม หรอื ใบจดุ สาหรา่ ย

2.4 ใบติด พบในแปลงท่ัวไปท่ีมีความช้ืนสูง มักเกิดกับต้นทุเรียนที่ทรงพุ่มหนา หากพบอาการ พ่นสาร
ป้องกันกาจัดโรคพืช คอปเปอร์ออกซีคลอไรด์ (copper oxychloride) 85% WP อัตรา 50 กรัมต่อน้า 20 ลิตร หรือ
ตามคาแนะนาในการป้องกนั กาจดั โรคใบตดิ

2.5 รำดำ พบในแปลงทั่วไปท่ีมีความช้ืนสูงและในช่วงที่มีการระบาดของเพลี้ยหอย เพลี้ยแป้ง การป้องกัน
กาจัดตามคาแนะนาในการปอ้ งกันกาจัดโรคราด

63

เดอื นตลุ ำคม

กำรเตรยี มตน้ (ระยะกำรเจรญิ ทำงใบ)
1. กำรดูแล หลังเก็บเกี่ยว ให้รีบตัดแต่งก่ิงที่เป็นโรค ก่ิงแห้ง ก่ิงแขนง ทารอยแผลด้วยสารเคมีป้องกันกาจัดเชื้อรา
ต้องใหน้ า้ อย่างเพียงพอและสม่าเสมอ โดยใหน้ ้าเมอ่ื ฝนทิง้ ช่วงเกิน 7 วนั
2. สำรวจกำรเข้ำทำลำยและดำเนินกำรปอ้ งกนั กำจัดโรคทสี่ ำคญั

2.1 โรครำกเน่ำและโคนเน่ำ ตรวจแปลงอย่างสม่าเสมอ เม่ือพบอาการของโรค ตัดแต่งส่วนท่ีเป็นโรคนาไป
ทาลายนอกแปลงปลูก แล้วพ่นด้วยสารป้องกันกาจัดโรคพืช หากพบอาการโรคบนกิ่งหรือที่โคนต้น ถากหรือขูดผิว
เปลือกบริเวณทีเ่ ปน็ โรคออก แล้วทาแผลด้วยด้วยสารปอ้ งกนั กาจดั โรคพชื โดยสามารถใช้ตามคาแนะนาในการป้องกัน
กาจัดโรครากเน่าโคนเน่า เช่น ฟอสอีทิล-อะลูมิเนียม (fosetyl-aluminum) 80% WP อัตรา 30-40 กรัมต่อน้า 20
ลิตร หรอื เมทาแลกซิล (metalaxyl) 25% WP อตั รา 30-50 กรมั ต่อนา้ 20 ลติ ร

2.2 รำสีชมพู มกั พบในช่วงหนา้ ฝน เมือ่ พบการเข้าทาลาย ทาการพน่ สารปอ้ งกันกาจัดโรคพชื ตามคาแนะนา
ในการปอ้ งกันกาจัดโรคราสชี มพู

2.3 ใบจุดสนิม หรือใบจุดสำหร่ำย พบได้ท้ังในช่วงฤดูฝน หรือในสภาพท่ีมีความช้ืนสูง หากพบอาการ พ่น
สารป้องกันกาจัดโรคพืช คอปเปอร์ออกซีคลอไรด์ (copper oxychloride) 85% WP อัตรา 50 กรัมต่อน้า 20 ลิตร
หรือตามคาแนะนาในการปอ้ งกันกาจัดโรคใบจดุ สนิม หรอื ใบจดุ สาหร่าย

2.4 ใบติด พบในแปลงท่ัวไปท่ีมีความชื้นสูง มักเกิดกับต้นทุเรียนที่ทรงพุ่มหนา หากพบอาการ พ่นสาร
ป้องกันกาจัดโรคพืช คอปเปอร์ออกซีคลอไรด์ (copper oxychloride) 85% WP อัตรา 50 กรัมต่อน้า 20 ลิตร หรือ
ตามคาแนะนาในการป้องกันกาจัดโรคใบตดิ

2.5 รำดำ พบในแปลงทั่วไปที่มีความช้ืนสูงและในช่วงที่มีการระบาดของเพล้ียหอย เพล้ียแป้ง การป้องกัน
กาจัดตามคาแนะนาในการป้องกันกาจดั โรคราดา

64

เดอื นพฤศจิกำยน

ระยะออกดอก ระยะดอกบำน และติดผล
1. กำรให้น้ำ

งดน้าในช่วงปลายฝน เพ่ือชักนาการออกดอก จากน้ันจึงค่อย ๆ เพ่ิมปริมาณน้าข้ึนเร่ือย ๆ และต้องให้น้า
อยา่ งเพียงพอและสมา่ เสมอตลอดช่วงพัฒนาการของผลทุเรียน
2. กำรใสป่ ๋ยุ

ใส่ปยุ๋ ทางดนิ โดยใส่ป๋ยุ เคมีร่วมกบั ปยุ๋ อินทรีย์ กอ่ นสน้ิ ฤดูฝนประมาณ 1 เดอื น เพอ่ื ส่งเสริมการออกดอก
3. สำรวจกำรเขำ้ ทำลำยและดำเนินกำรป้องกนั กำจัดโรคท่สี ำคญั

3.1 โรครำกเน่ำและโคนเน่ำ ตรวจแปลงอย่างสม่าเสมอ เม่ือพบอาการของโรค ตัดแต่งส่วนที่เป็นโรคนาไป
ทาลายนอกแปลงปลูก แล้วพ่นด้วยสารป้องกันกาจัดโรคพืช หากพบอาการโรคบนกิ่งหรือท่ีโคนต้น ถากหรือขูดผิว
เปลือกบริเวณทีเ่ ป็นโรคออก แล้วทาแผลด้วยดว้ ยสารปอ้ งกนั กาจดั โรคพืช โดยสามารถใชต้ ามคาแนะนาในการป้องกัน
กาจัดโรครากเน่าโคนเน่า เช่น ฟอสอีทิล-อะลูมิเนียม (fosetyl-aluminum) 80% WP อัตรา 30-40 กรัมต่อน้า 20
ลติ ร หรือ เมทาแลกซิล (metalaxyl) 25% WP อัตรา 30-50 กรัมตอ่ นา้ 20 ลติ ร

3.2 ใบจุด ใบไหม้ พบได้ท้ังในช่วงฤดูฝนและฤดูแล้ง แต่อาการจะพบมากในช่วงฤดูแล้ง หากพบอาการ พ่น
สารป้องกันกาจัดโรคพืช อะซอกซีสโตรบิน (azoxystrobin) 25% SC อัตรา 10 มิลลิลิตรต่อน้า 20 ลิตร หรือตาม
คาแนะนาในการปอ้ งกันกาจดั โรคใบจุด ใบไหม้

3.3 รำแป้ง พบได้ในช่วงที่อากาศแห้งแล้งและเย็น หากพบอาการ พ่นสารป้องกันกาจัดโรคพืช โปรคลอราซ
(prochloraz) 45% EC อตั รา 20 มลิ ลลิ ิตรตอ่ นา้ 20 ลิตร หรือตามคาแนะนาในการป้องกันกาจดั โรคราแปง้

3.4 อำกำรขำดนำ้ ใบทุเรยี นแสดงอาการเห่ียว และร่วง รวมถงึ ดอกทุเรียนอาจรว่ งได้ หากมกี ารขาดน้าอย่าง
รนุ แรงอาจทาให้ต้นทุเรยี นตายได้ ควรใหน้ า้ ทเุ รยี นในชว่ งฤดแู ล้งใหเ้ พยี งพอ จดั หาแหล่งน้าและให้นา้ เหมาะสมสาหรับ
การเจริญเตบิ โตของทุเรียนในระยะน้ี

65

กำรเตรยี มต้น (ระยะกำรเจริญทำงใบ)
1. กำรดูแล หลังเก็บเก่ียว ให้รีบตัดแต่งกิ่งท่ีเป็นโรค กิ่งแห้ง ก่ิงแขนง ทารอยแผลด้วยสารเคมีป้องกันกาจัดเชื้อรา
ตอ้ งใหน้ ้าอย่างเพียงพอและสม่าเสมอ โดยใหน้ า้ เม่ือฝนท้งิ ชว่ งเกิน 7 วัน
2. สำรวจกำรเขำ้ ทำลำยและดำเนินกำรปอ้ งกันกำจัดโรคที่สำคัญ

2.1 โรครำกเน่ำและโคนเน่ำ ตรวจแปลงอย่างสม่าเสมอ เม่ือพบอาการของโรค ตัดแต่งส่วนที่เป็นโรคนาไป
ทาลายนอกแปลงปลูก แล้วพ่นด้วยสารป้องกันกาจัดโรคพืช หากพบอาการโรคบนก่ิงหรือที่โคนต้น ถากหรือขูดผิว
เปลือกบรเิ วณที่เป็นโรคออก แลว้ ทาแผลดว้ ยด้วยสารปอ้ งกันกาจัดโรคพืช โดยสามารถใช้ตามคาแนะนาในการป้องกัน
กาจัดโรครากเน่าโคนเน่า เช่น ฟอสอีทิล-อะลูมิเนียม (fosetyl-aluminum) 80% WP อัตรา 30-40 กรัมต่อน้า 20
ลิตร หรือ เมทาแลกซิล (metalaxyl) 25% WP อัตรา 30-50 กรัมตอ่ นา้ 20 ลติ ร

2.2 รำสีชมพู มักพบในช่วงหนา้ ฝน เม่อื พบการเขา้ ทาลาย ทาการพ่นสารปอ้ งกันกาจดั โรคพชื ตามคาแนะนา
ในการปอ้ งกันกาจัดโรคราสชี มพู

2.3 ใบจุดสนิม หรือใบจุดสำหร่ำย พบได้ท้ังในช่วงฤดูฝน หรือในสภาพท่ีมีความช้ืนสูง หากพบอาการ พ่น
สารป้องกันกาจัดโรคพืช คอปเปอร์ออกซีคลอไรด์ (copper oxychloride) 85% WP อัตรา 50 กรัมต่อน้า 20 ลิตร
หรือตามคาแนะนาในการป้องกนั กาจดั โรคใบจดุ สนิม หรือใบจุดสาหร่าย

2.4 ใบติด พบในแปลงทั่วไปที่มีความช้ืนสูง มักเกิดกับต้นทุเรียนท่ีทรงพุ่มหนา หากพบอาการ พ่นสาร
ป้องกันกาจัดโรคพืช คอปเปอร์ออกซีคลอไรด์ (copper oxychloride) 85% WP อัตรา 50 กรัมต่อน้า 20 ลิตร หรือ
ตามคาแนะนาในการป้องกันกาจดั โรคใบตดิ

2.5 รำดำ พบในแปลงท่ัวไปที่มีความช้ืนสูงและในช่วงท่ีมีการระบาดของเพล้ียหอย เพล้ียแป้ง การป้องกัน
กาจดั ตามคาแนะนาในการปอ้ งกนั กาจัดโรคราดา

66

เดือนธันวำคม

ระยะออกดอก ระยะดอกบำน และติดผล
1. กำรใหน้ ำ้

งดน้าในช่วงปลายฝน เพ่ือชักนาการออกดอก จากนั้นจึงค่อย ๆ เพ่ิมปริมาณน้าข้ึนเร่ือย ๆ และต้องให้น้า
อย่างเพยี งพอและสมา่ เสมอตลอดช่วงพฒั นาการของผลทุเรยี น
2. กำรใส่ปุย๋

ใส่ปยุ๋ ทางดนิ โดยใสป่ ุย๋ เคมีรว่ มกับป๋ยุ อินทรยี ์ กอ่ นสนิ้ ฤดูฝนประมาณ 1 เดอื น เพอื่ ส่งเสรมิ การออกดอก
3. สำรวจกำรเขำ้ ทำลำยและดำเนินกำรป้องกันกำจดั โรคทีส่ ำคัญ

3.1 โรครำกเน่ำและโคนเน่ำ ตรวจแปลงอย่างสม่าเสมอ เม่ือพบอาการของโรค ตัดแต่งส่วนท่ีเป็นโรคนาไป
ทาลายนอกแปลงปลูก แล้วพ่นด้วยสารป้องกันกาจัดโรคพืช หากพบอาการโรคบนก่ิงหรือท่ีโคนต้น ถากหรือขูดผิว
เปลอื กบริเวณท่เี ป็นโรคออก แลว้ ทาแผลดว้ ยด้วยสารปอ้ งกนั กาจัดโรคพชื โดยสามารถใชต้ ามคาแนะนาในการป้องกัน
กาจัดโรครากเน่าโคนเน่า เช่น ฟอสอีทิล-อะลูมิเนียม (fosetyl-aluminum) 80% WP อัตรา 30-40 กรัมต่อน้า 20
ลิตร หรอื เมทาแลกซลิ (metalaxyl) 25% WP อตั รา 30-50 กรมั ตอ่ นา้ 20 ลิตร

3.2 ใบจุด ใบไหม้ พบได้ท้ังในช่วงฤดูฝนและฤดูแล้ง แต่อาการจะพบมากในช่วงฤดูแล้ง หากพบอาการ พ่น
สารป้องกันกาจัดโรคพืช อะซอกซีสโตรบิน (azoxystrobin) 25% SC อัตรา 10 มิลลิลิตรต่อน้า 20 ลิตร หรือตาม
คาแนะนาในการป้องกนั กาจดั โรคใบจุด ใบไหม้

3.3 รำแป้ง พบได้ในช่วงที่อากาศแห้งแลง้ และเย็น หากพบอาการ พ่นสารป้องกันกาจัดโรคพืช โปรคลอราซ
(prochloraz) 45% EC อตั รา 20 มลิ ลิลิตรตอ่ นา้ 20 ลิตร หรือตามคาแนะนาในการป้องกันกาจดั โรคราแปง้

3.4 อำกำรขำดน้ำ ใบทเุ รยี นแสดงอาการเหี่ยว และร่วง รวมถึงดอกทุเรียนอาจร่วงได้ หากมีการขาดนา้ อย่าง
รนุ แรงอาจทาใหต้ น้ ทเุ รียนตายได้ ควรให้น้าทุเรียนในช่วงฤดูแลง้ ให้เพียงพอ จดั หาแหลง่ นา้ และให้นา้ เหมาะสมสาหรับ
การเจริญเตบิ โตของทเุ รียนในระยะน้ี

67

กำรเตรยี มต้น (ระยะกำรเจริญทำงใบ)
1. กำรดูแล หลังเก็บเก่ียว ให้รีบตัดแต่งกิ่งท่ีเป็นโรค กิ่งแห้ง กิ่งแขนง ทารอยแผลด้วยสารเคมีป้องกันกาจัดเชื้อรา
ตอ้ งใหน้ ้าอย่างเพียงพอและสม่าเสมอ โดยใหน้ า้ เมื่อฝนทิง้ ชว่ งเกิน 7 วัน
2. สำรวจกำรเขำ้ ทำลำยและดำเนินกำรปอ้ งกันกำจดั โรคท่สี ำคญั

2.1 โรครำกเน่ำและโคนเน่ำ ตรวจแปลงอย่างสม่าเสมอ เม่ือพบอาการของโรค ตัดแต่งส่วนที่เป็นโรคนาไป
ทาลายนอกแปลงปลูก แล้วพ่นด้วยสารป้องกันกาจัดโรคพืช หากพบอาการโรคบนก่ิงหรือที่โคนต้น ถากหรือขูดผิว
เปลือกบรเิ วณที่เป็นโรคออก แลว้ ทาแผลดว้ ยด้วยสารปอ้ งกันกาจัดโรคพืช โดยสามารถใช้ตามคาแนะนาในการป้องกัน
กาจัดโรครากเน่าโคนเน่า เช่น ฟอสอีทิล-อะลูมิเนียม (fosetyl-aluminum) 80% WP อัตรา 30-40 กรัมต่อน้า 20
ลิตร หรือ เมทาแลกซิล (metalaxyl) 25% WP อัตรา 30-50 กรมั ตอ่ นา้ 20 ลติ ร

2.2 รำสีชมพู มักพบในช่วงหนา้ ฝน เม่อื พบการเขา้ ทาลาย ทาการพ่นสารปอ้ งกันกาจดั โรคพชื ตามคาแนะนา
ในการปอ้ งกันกาจัดโรคราสชี มพู

2.3 ใบจุดสนิม หรือใบจุดสำหร่ำย พบได้ทั้งในช่วงฤดูฝน หรือในสภาพท่ีมีความช้ืนสูง หากพบอาการ พ่น
สารป้องกันกาจัดโรคพืช คอปเปอร์ออกซีคลอไรด์ (copper oxychloride) 85% WP อัตรา 50 กรัมต่อน้า 20 ลิตร
หรือตามคาแนะนาในการป้องกนั กาจดั โรคใบจดุ สนมิ หรอื ใบจุดสาหร่าย

2.4 ใบติด พบในแปลงทั่วไปที่มีความช้ืนสูง มักเกิดกับต้นทุเรียนท่ีทรงพุ่มหนา หากพบอาการ พ่นสาร
ป้องกันกาจัดโรคพืช คอปเปอร์ออกซีคลอไรด์ (copper oxychloride) 85% WP อัตรา 50 กรัมต่อน้า 20 ลิตร หรือ
ตามคาแนะนาในการป้องกันกาจดั โรคใบตดิ

2.5 รำดำ พบในแปลงท่ัวไปที่มีความชื้นสูงและในช่วงท่ีมีการระบาดของเพล้ียหอย เพล้ียแป้ง การป้องกัน
กาจดั ตามคาแนะนาในการปอ้ งกนั กาจัดโรคราดา

68

กำรส่งออกทุเรยี นไปสำธำรณรัฐประชำชนจีน

ทุเรียน เปน็ สินค้าตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ วา่ ด้วยการส่งสนิ ค้าออกไปนอกราชอาณาจักร (ฉบบั ที่ ๙๑)
พ.ศ.๒๕๔๒ ซงึ่ กาหนดให้ผสู้ ง่ ออกผลทุเรียนสดออกไปนอกราชอาณาจักร ตอ้ งจดทะเบยี นเปน็ ผสู้ ่งออกผลทเุ รียนสด
ออกไปนอกราชอาณาจกั รกับกรมวิชาการเกษตร

กำรส่งทเุ รยี นไปสำธำรณรฐั ประชำชนจีน จงึ ตอ้ งจดทะเบยี นเปน็ ผู้ส่งออก ดังนี้
๑.จดทะเบียนเป็นผู้ส่งออกผลทุเรียนสดออกไปนอกราชอาณาจักร ตามประกาศกรมวิชาการเกษตร เรื่อง
หลกั เกณฑ์ วธิ กี าร และเง่ือนไขการจดทะเบยี นเปน็ ผู้ส่งผลทเุ รียนสดออกไปนอกราชอาณาจักร พ.ศ. ๒๕๕๖ โดยการ
สง่ ออกต้องจัดท าสติ๊กเกอรต์ ดิ ข้ัวผลทุเรียนตามแบบแนบท้ายประกาศ
๒.จดทะเบียนเป็นผู้ส่งออกผักและผลไม้ไปสาธารณรัฐประชาชนจีน ตามประกาศกรมวิชาการเกษตร เร่ือง
หลักเกณฑ์ วิธีการ และเง่ือนไขการจดทะเบียนผู้ส่งออกผักและผลไม้ พ.ศ. ๒๕๕๓ โดยผลผลิตที่ส่งออก ต้องมาจาก
แปลงทีไ่ ด้รบั การรับรอง GAP และใช้โรงคดั บรรจุที่ไดร้ บั การรับรอง GMP
กำรขอใบรับรองสขุ อนำมยั พืช และกำรปฏบิ ัตติ ำมเงื่อนไขกำรนำเข้ำ ดังนี้
การสง่ ออกทเุ รียนจากไทยไปจนี (ไม่ผา่ นประเทศท่สี าม) อา้ งอิงพิธีสารระหว่างกระทรวงเกษตร และสหกรณ์
แห่งราชอาณาจักรไทยและกระทรวงควบคุมคุณภาพและตรวจสอบกักกันโรคแห่งสาธารณรัฐ ประชาชนจีน ว่าด้วย
ข้อกาหนดด้านการกักกันโรคและตรวจสอบสาหรับสินค้าผลไม้เมืองร้อนท่ีส่งออกจาก ประเทศไทยไปสาธารณรัฐ
ประชาชนจีน กาหนดให้ทเุ รยี น (Durio zibethinus) ตอ้ งปฏบิ ตั ติ ามเงอื่ นไขการนาเขา้ ดังน้ี
๑. ทุเรยี นตอ้ งปลอดจากศัตรูพชื ควบคุมของจนี
๒. ต้องมาจากสวนท่ีผ่านการรับรองมาตรฐานเกษตรดีท่ีเหมาะสม (GAP) และโรงคัดบรรจุท่ี ผ่านการรับรอง
คณุ ภาพและมาตรฐานตามระบบการผลิตที่ดี (GMP)
๓. ตอ้ งไมม่ ีดนิ ใบ และก่ิง
๔. ภาชนะบรรจุต้องใหม่ สะอาด และติดฉลากโดยแสดงรายละเอียด ดังน้ี ชื่อผู้ส่งออก ชื่อผลไม้ หมายเลข
ทะเบียนสวน หมายเลขทะเบียนโรงคัดบรรจุ วันท่ีผลิต ระบุข้อความ “Export to the People’s Republic of
China” เปน็ ภาษาองั กฤษหรอื ภาษาจนี
๕. ทเุ รยี นตอ้ งกากับด้วยใบรับรองสุขอนามยั พชื และระบุข้อความรบั รองพิเศษ
“ This fruit is in compliance with the Protocol on Inspection and Quarantine Conditions of Tropical
Fruits to be Exported from Thailand to China”
กำรสง่ ออกทเุ รียนจำกไทยไปจนี ผ่ำนประเทศท่สี ำม ตำมเสน้ ทำง R9 (ดำ่ นตรวจพชื มุกดำหำร–ดำ่ นผิงเสียง)
อ้างอิงพิธีสารว่าด้วยข้อกาหนดในการกักกันโรคและตรวจสอบสาหรับการขนส่งผลไม้ไทยที่ส่งออก ผ่าน
ประเทศที่สามเข้าสู่สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แห่งราชอาณาจักรไทย และ
กระทรวงควบคุมคุณภาพและตรวจสอบกักกนั โรคแหง่ สาธารณรฐั ประชาชนจนี และประกาศกรมวิชาการเกษตร เร่อื ง
หลักเกณฑ์วิธีการและเง่ือนไขการขอและการออกใบรับรองสุขอนามัยพืชสาหรับผลไม้ทีส่ ่งออกผา่ น ประเทศที่สามเข้า
สสู่ าธารณรฐั ประชาชนจีน พ.ศ.๒๕๕๒ กาหนดให้ทเุ รียน (Durio zibethinus) ตอ้ งปฏิบตั ิ ตามเง่ือนไขการนาเขา้ ดงั นี้
๑. ตอ้ งจดทะเบยี นเป็นผู้ส่งออกผลไมไ้ ทยไปจีนโดยผา่ นประเทศทส่ี าม
๒. ต้องมาจากสวนที่ผ่านการรับรองมาตรฐานเกษตรดีท่ีเหมาะสม (GAP) และโรงคัดบรรจุท่ี ผ่านการรับรอง
คณุ ภาพและมาตรฐานตามระบบการผลิตทดี่ ี (GMP)
๓. ทเุ รียนตอ้ งปลอดจากศตั รพู ืชควบคุมของจีน

69

๔. กลอ่ งบรรจุต้องใหม่ สะอาด และระบุข้อความ ดังนี้
หมายเลขทะเบียนผู้ส่งออก พื้นที่ปลูกและหมายเลขทะเบียนสวน (GAP) หมายเลขทะเบียนโรงคัดบรรจุ
(GMP) ระบขุ ้อความ “Export to the People’s Republic of China” เปน็ ภาษาอังกฤษหรือภาษาจนี
๕. ต้องบรรจุในตู้คอนเทนเนอร์ควบคุมอุณหภมู ิตลอดการขนสง่
๖. ตอ้ ง seal ต้คู อนเทนเนอร์ด้วย seal ของกรมวชิ าการเกษตร
๗. ทุเรียนตอ้ งก ากบั ดว้ ยใบรบั รองสขุ อนามัยพชื และระบขุ อ้ ความรับรองพิเศษ
“ This fruit is in compliance with the Protocol on Inspection and Quarantine Conditions of Tropical
Fruit to be exported from Thailand to China and the Protocol on the Inspection and Quarantine
Requirement for Thai Fruit Export from Thailand to China through Territories of Third Countries” ระบุ
หมายเลขตคู้ อนเทนเนอร์ และระบหุ มายเลข seal ๖ หลัก
กำรสง่ ออกทเุ รยี นจำกไทยไปจนีตำมเส้นทำง R3 (ด่ำนตรวจพืชเชยี งของ - โมห่ ำน (จน)ี - บ่อเตน็ (ลำว))
อ้างอิงพิธีสารว่าด้วยข้อกาหนดในการกักกันโรคและตรวจสอบสาหรับการส่งออกและนาเข้าผลไม้ ผ่าน
ประเทศที่สามระหว่างราชอาณาจักรไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีนและประกาศกรมวิชาการเกษตร เรื่อง
หลักเกณฑว์ ิธีการและเงื่อนไขการนาเขา้ และส่งออกผลไมร้ ะหวา่ งราชอาณาจกั รไทยและสาธารณรัฐ ประชาชนจีนผา่ น
สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว พ.ศ.๒๕๕๔ กาหนดให้ทุเรียน (Durio zibethinus) ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไข
การนาเข้า ดังน้ี
๑. ตอ้ งจดทะเบยี นเปน็ ผสู้ ่งออกผลไม้ไทยไปจีน (ผา่ นลาว)
๒. ต้องมาจากสวนท่ีผ่านการรับรองมาตรฐานเกษตรดีท่ีเหมาะสม (GAP) และโรงคัดบรรจุที่ ผ่านการรับรอง
คุณภาพและมาตรฐานตามระบบการผลติ ทีด่ ี (GMP)
๓. ทุเรียนต้องปลอดจากศัตรูพืชควบคุมของจีน ๔. กล่องบรรจุต้องใหม่ สะอาด และระบุข้อความ ดังน้ี ช่ือผู้
ส่งออก ช่ือผลไม้ หมายเลขทะเบียนสวน (GAP) หมายเลขทะเบียนโรงคัดบรรจุ (GMP) วันท่ีบรรจุ ระบุข้อความ
“Export to the People’s Republic of China” เป็นภาษาองั กฤษ หรือ ภาษาจีน
๕. ต้องบรรจุในตู้คอนเทนเนอรค์ วบคมุ อุณหภมู ติ ลอดการขนส่ง
๖. ต้อง seal ตู้คอนเทนเนอร์ดว้ ย seal ของกรมวิชาการเกษตร
๗. ทเุ รยี นตอ้ งก ากับด้วยใบรับรองสุขอนามยั พืชและระบุขอ้ ความรบั รองพเิ ศษ
“ This fruit is in compliance with the Protocol on Inspection and Quarantine Conditions of Tropical
Fruits to be exported from Thailand to China and the Protocol on the Inspection and Quarantine
Requirement for Exportation and Importation of Fruits between Thailand and China through
Territories of the Third Countries” ระบุหมายเลขตู้คอนเทนเนอร์ และระบุหมายเลข seal ๖ หลกั

ทีม่ ำของข้อมูลและกำรตดิ ต่อ :
การจดทะเบยี นเปน็ ผู้ส่งออก : กลมุ่ จดทะเบียนและออกใบรบั รอง กองพฒั นาระบบและรับรองมาตรฐานสินคา้ พชื กรมวชิ าการเกษตร

การขอใบรบั รองสุขอนามยั พชื : กลุ่มบรกิ ารส่งออกสนิ ค้าเกษตร หรอื ด่านตรวจพืช สานักควบคุมพชื และวสั ดุการเกษตร กรมวชิ าการเกษตร

70

บรรณำนุกรม

.......คำแนะนำกำรป้องกันกำจดั โรคพชื ดว้ ยสำรเคมี. กองโรคพชื และจลุ ชีววิทยา กรมวชิ าการเกษตร กระทรวงเกษตร
และสหกรณ์. 171 หนา้ .

…….2542. โรคไม้ผล. กองโรคพชื และจุลชีววิทยา กรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ.์ 120 หนา้ .
นิพนธ์ วิสารทานนท์. 2542. โรคไม้ผลเขตร้อนและกำรป้องกันกำจัด. บริษทั เจ ฟลิ ม์ โปรเซส จากดั . กรุงเทพฯ.172 หน้า.
สาลี่ ชนิ สถติ และ พูลสวสั ด์ิ อาจละกะ. 2542. การปอ้ งกันกาจัดโรครากเนา่ ทุเรยี นเนอ่ื งจากเชื้อไฟทอปรอรา โดยใช้

วิธีผสมผสาน. เอกสารวชิ าการ ฝ่ายฝกึ อบรมและถ่ายทอดเทคโนโลยี สานกั วจิ ัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 6
กรมวชิ าการเกษตร. จันทบุรี. 14 หนา้ .
สานักวจิ ยั พฒั นาการอารักขาพชื . 2561. การป้องกนั กาจัดโรครากเนา่ โคนเนา่ และปัญหาศตั รูพชื อืน่ ๆ ของทเุ รยี น
สานักวจิ ัยพัฒนาการอารกั ขาพืช สานกั วจิ ยั และพัฒนาการเกษตรเขตที่ 6 สถาบนั วิจยั พืชสวน กรมวชิ าการ
เกษตร. กรุงเทพฯ. 61 หนา้ .
สานกั งานเศรษฐกจิ การเกษตร. 2562. สถิติการเกษตรของประเทศไทย ปี 2561. สานกั งานเศรษฐกจิ การเกษตร
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์, กรงุ เทพมหานคร. 186 น.http://impexp.oae.go.th/service/export.php
สืบคน้ เมอื่ 12 กมุ ภาพนั ธ์ 2562
ศนู ย์วิจยั พืชสวนจันทบุร.ี 2551. เทคโนโลยกี ารผลติ ทุเรยี นใหม้ คี ุณภาพ. เอกสารวิชาการ หน่วยถ่ายทอดเทคโนโลยี
ศนู ยว์ ิจัยพืชสวนจันทบรุ ี สถาบนั วิจยั พืชสวน กรมวิชาการเกษตร. จนั ทบรุ .ี 52 หนา้ .
อรพรรณ วเิ ศษสงั ข.์ 2552. คมู่ ือกำรใชส้ ำรป้องกนั กำจัดโรคพืช. โรงพิพมช์ ุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย
จากัด. กรงุ เทพฯ. 128 หนา้ .
Elliott, M.L. and T.K. Broschat. 2012. Detection of thiabendazole fungicide in coconut palm using
bioassay. Systematic Fungicide 56: 21-27.
Guest, D. and B. Grant. 1991. The complex action of phosphonates as antifungal agents. Biological
Reviews 66: 139–187.
FRAC. 2019. FRAC Code List© 2019: Fungal control agents sorted by cross resistance pattern and
mode of action (including FRAC Code numbering). FRAC. Retrieved on August 2019 from
https://www.frac.info/docs/default-source/publications/frac-code-list/frac-code-list-
2019.pdf?sfvrsn=98ff4b9a_2.

71

กรด-ดา่ ง ดรรชนี จลุ ินทรียป์ ฏปิ กั ษ์
กรดนวิ คลอิ ิค ชีวภัณฑ์
กรดอะมิโน 72 เชอื้ รา
กรดฮิวมิค ซัลเฟอร์
กลไก ซโู อสปอร์
กลว้ ย ไซเพอรเ์ มทริน
กาแฟ ไซฟลูทริน
กามะถัน เดททาเมทริน
กามะหยี่ โดโลไมท์
กิ่งแขนง ไดคลอร์วอส
กงิ่ แหง้ ไดโคโฟล
ขอบหยัก ไดฟลูเบนซรู อน
เขตกรรม ไดฟลูมรู อน
คลอร์ไพรฟิ อส ไดเมโทเอท
คลอร์ฟลูอาซูรอน ไดอะซินอน
คลอร์ไฟรฟิ อส ไตรโคเดอร์มา
คลอรโ์ รเบนซิเลท ไตรฟลอกซสี โตรบนิ
คลอรอ็ กซ์ ไตรฟอสเฟต
คลอโรทาโลนิล ไตรอะโซฟอส
คลาไมโดสปอร์ ไตรอะดมิ ิฟอน
ความตา้ นทาน ถว่ั เหลือง
คอปเปอรอ์ อกซีคลอไรด์ ทรงพุ่ม
คอปเปอร์ไฮดอกไซด์ ทองแดง
คารบ์ ารลิ ทีบูโคนาโซล
คาร์เบนดาซมิ ทุเรยี น
ควิ ปรสั ออกไซด์ ทเุ รียนกวน
แคบทาโพล ทุเรียนแช่เย็นจนแขง็
แคปแทน ทุเรยี นสด
แคลเซยี ม ทุเรียนอบแหง้
แคลเซียมคลอไรค์ ไทแรม
โคเอนไซม์ ไทโอดิคารบ์
เงาะ แนฟทาลีนแอซิทามนี

แนฟทาลีนแอซิทกิ โพแทสเซียม
ไนโตรเจน โพแทสเซยี มซลั เฟต
ไนโตรเจน โพแทสเซยี มไนเตรท
บอร์โดมกิ เจอร์ โพรคลอราซ
เบตา-ไซฟลูทริน โพรพาไกด์
เบโนมลิ โพรฟโิ นฟอส
แบคทีเรยี ไพราโซฟอส
แบคทเี รยี BT ฟลูไตรอะฟอล
โบรอน ฟลูเฟนนอกซรู อน
ใบจุดโฟมอบซสี ฟอสโพไลปดิ
ใบจุดสาหร่าย ฟอสฟอรสั
ใบติด ฟอสโฟนิก-แอซดิ
ใบไหม้ ฟอสอที ิล-อะลมู ิเนียม
ใบไหม้โรค เฟนิโทรไทออน
ไบเฟนทริล ภาคตะวนั ออก
ปฏิปกั ษ์ ภาคใต้
ปากใบ มด
ปโิ ตรเลยี มสเปรย์ออยล์ มะเขือเทศ
ปยุ๋ คอก มะนาว
ปยุ๋ ฟอสฟอรัส มะมว่ ง
ปุ๋ยหมัก มงั คด
ปนู ขาว มาลาไทออน
ปูนแดง เมทาแลกซิล
ผลเน่า เมทิดาไทออน
ผลรว่ ง เมโทมลิ
ผสมผสาน แมกนเี ซียม
ฝนุ่ แปง้ แมกนีเซยี มซลั เฟต
พันธ์กุ ระดุม แมงกานีส
พนั ธุช์ ะนี แมนโคเซบ
พิรมิ ิฟอส-เมทิล ยิบซมั
เพนทโิ อแรด โยงกง่ิ
เพลีย้ แป้ง ราคอร์ทีเชยี ม
เพลี้ยหอย ราแป้ง

73

ราไฟทอปธอรา พาล์มโิ วรา สังกะสี
โรคใบจุด สารปฏิชวี นะ
โรคใบจดุ สารป้องกนั กาจดั เชือ้ รา
โรคใบจุดสนิม สารป้องกันกาจดั แบคทีเรีย
โรคใบจดุ สาหรา่ ย สารป้องกันกาจดั ไส้เดือนฝอย
โรคใบติด ไส้เดือนฝอย
โรคใบตดิ ทเุ รยี น หนามแดง
โรคใบไหม้ เหลก็
โรคผลเน่า ออสโมซสิ
โรครากเน่าโคนเนา่ อะซอกซสี โตรบนิ
โรครากเน่าโคนเนา่ ทเุ รียน อะดโี นซิน
โรคราดา อะมีทราซ
โรคราแปง้ ทเุ รียน อินทรียวตั ถุ
โรคราสชี มพู อิมดิ าโคลพริด
โรคใบจดุ เอนไซม์
ลองกอง แอกริมัยซนิ
ลิกนิน แอกร-ิ สเตรป
แลมป์ดา-ไซฮาโลทริน แอนแทรคโนส
ไวรสั NPV แอปเปลิ
สเตรปโตมยั ซิน แอมโมเนียม
สเตอโรล แอมโมเนยี มซลั เฟต
ส้ม แอลกอฮอล์
สม้ เขียวหวาน ไอโพรไดโอน
สม้ จุก ฮอรโ์ มน
สละ เฮกซะโคนาโซล

74

Algal Spot Index fosetyl-aluminium

anatagonism 75 Fungicide Resistance Action

Anthracnose Committee

azinphos-ethyl Fusariums sp.
azoxystrobin
Hexaconazole
Bacillus subtilis
Leaf Blight
benomyl
Leaf Spot
carbamate
carbaryl malathion

carbendazim mancozeb

Cephaleuros virescens metalaxyl
chlorpyrifos
methidathion
clorox
mevinphos
Colletotrichum gloeosporioides
copper hydroxide monocrotophos
copper oxychloride
Nectriaceae
Cortricium salmonicolor
Oidium sp.
cuprous oxide omethoate

cyfluthrin organophosphate
cyhalothrin parathion
cypermethrin
parathion methyl
delthamethrin
diazinon permethrin
dicrotophos Phomopsis durionis
phosalone
dimethoate
phosphate
endrosulfan Phosphonic acid

EPN phytophthora
Phytophthora palmivora
ethion
Pink Disease
feeder root
pirimiphos ethyl
fenitrothion pirimiphos methyl
Polychaeton sp.
fenvalerate Powdery Mildew
food grade
prochloraz

profenofos rosette
propiconazole
prothiophos Sooty Mould
pyrazophos tebuconazole
pyrethroid
Rhizoctonia Leaf Fall triazophos
Rhizoctonia solani Trichoderma

Tripospermum sp.

76

ทำเนยี บผูท้ รงควำมรแู้ ละผ้เู ช่ียวชำญด้ำนโรคทเุ รยี น
สำนักวิจัยพัฒนำกำรอำรักขำพชื

1. ชือ่ -สกุ ล นางสาวศรสี ุรางค์ ลิขติ เอกราช
ตาแหนง่ อดตี ผ้เู ชี่ยวชาญด้านโรคพืช
ท่ีอยู่ เลขท่ี 508 หมูบ่ ้านชลนิเวศน์ ถนนประชาช่ืน แขวงลาดยาว เขตจตจุ กั ร
กรุงเทพมหานคร 10900
E-mail [email protected]
โทรศพั ท์ 081-866-8405
ความเชี่ยวชาญ ด้านโรคทเุ รยี น

2. ชอ่ื -สกุ ล นายอดุ ร อุณหวุฒิ
ตาแหน่ง ทีป่ รกึ ษากรมวิชาการเกษตรด้านกักกนั พืช
ทอ่ี ยู่ 52/075 หมู่บ้านเมืองเอก ถนนพหลโยธนิ ตาบลหลักหก อาเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี 12000
E-mail [email protected]
โทรศัพท์ 081-927-7290
ความเชย่ี วชาญ ดา้ นกักกนั พชื

3. ชื่อ-สุกล นางปญั จพร เลิศรัตน์
ตาแหน่ง ผู้เชย่ี วชาญดา้ นดินและปุ๋ย กองวิจยั พัฒนาปัจจยั การผลติ ทางการเกษตร
ท่อี ยู่ กลุ่มวจิ ยั ปฐพวี ทิ ยา กองวิจัยพฒั นาปัจจยั การผลิตทางการเกษตร กรมวิชาการเกษตร
เลขที่ 50 ถนนพหลโยธนิ แขวงลาดยาว เขตจตจุ กั ร กรงุ เทพมหานคร 10900
E-mail -
โทรศัพท์ -
ความเชย่ี วชาญ ด้านดินและปุ๋ยในไมผ้ ล

77

คณะทำงำนกำรจดั กำรองค์ควำมรู้
“โรคทุเรียน”

นางวไิ ลวรรณ พรหมคา ผอู้ านวยการสานกั วิจัยพฒั นาการอารักขาพืช ทป่ี รกึ ษา
นางสาวพรพิมล อธปิ ญั ญาคม
นางณัฎฐมิ า โฆษติ เจรญิ กุล ผเู้ ชยี่ วชาญด้านโรคพชื ประธานคณะทางาน
นางบญุ ทิวา วาทิรอยรัมย์
นางสาวสณุ ีรัตน์ สีมะเด่ือ นักวชิ าการโรคพชื ชานาญการพิเศษ รองประธานคณะทางาน
นางสาวชนินทร ดวงสอาด
นางสาวมะโนรัตน์ สุดสงวน นกั วิชาการเกษตรชานาญการพิเศษ คณะทางาน
นางสาวอมรรชั ฏ์ คดิ ใจเดียว
นายสรุ ศักด์ิ แสนโคตร นักวชิ าการโรคพืชชานาญการ คณะทางาน

นักวิชาการโรคพชื ชานาญการ คณะทางาน

นกั วิชาการโรคพชื ปฏิบัติการ คณะทางาน

นักวชิ าการโรคพืชชานาญการ คณะทางานและเลขานุการ

นกั วิชาการเกษตรปฏิบตั กิ าร คณะทางานและผู้ชว่ ยเลขานุการ

78


Click to View FlipBook Version