SUFUN 27th Booklet

ค่ายสู่ฝันวันเป็นหมอ ครั้งที่ 27
วันที่ 12, 13 และ 16 กุมภาพันธ์ 2565

สมุดค่ายนี้มีวัตถุประสงค์ในการจัดทำขึ้นเพื่อเป็นของที่ระลึก
แก่ผู้เข้าร่วมค่ายสู่ฝันวันเป็นหมอ ครั้งที่ 27 คณะแพทยศาสตร์
มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ห้ามคัดลอก เผยแพร่ และ
จัดจำหน่ายเป็นอันขาด

คณะผู้จัดทำสมุดค่าย ค่ายสู่ฝันวันเป็นหมอ ครั้งที่ 27
คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ

"

คุณลักษณะของการเป็นแพทย์นั้น
คือความเชื่อถือและไว้ใจ

๑. ท่านต้องมีความเชื่อในความสามารถของตนเอง คือความมั่นใจ
๒. ท่านต้องมีความไว้ใจระหว่างแพทย์ คือความเป็นปึกแผ่น
๓. ท่านต้องได้ความเชื่อถือจากคนไข้ของท่าน คือความไว้ใจของคณะชน

"

สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก
ลายพระหัตถ์ ถึงสมาชิกสโมสรแพทย์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

"

จุดหมายปลายทางอาจยังเห็นไม่ชัดนัก
แต่ถึงอย่างไรก็จะเดินไปเรื่อย ๆ
เหนื่อยก็พัก หายเหนื่อยก็ไปต่อ
แต่จะไม่ยอมเดินถอยหลังแน่นอน

"

นายแพทย์วรวิทย์ ตันติวัฒนทรัพย์
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลอุ้มผาง อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก
ศิษย์เก่าคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ รุ่นที่ 1



สารบัญ

เรื่อง

1. กำหนดการ
2.พระราชประวัติสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชนก
3. ประวัติค่ายสู่ฝันวันเป็นหมอ
4.สารจากคณบดี คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
5.สารจากประธานค่ายสู่ฝันวันเป็นหมอ ครั้งที่ 1
6.สารจากรองคณบดีฝ่ายพัฒนาศักยภาพนิสิต คณะแพทยศาสตร์

มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
7.สารจากอาจารย์ที่ปรึกษาค่ายสู่ฝันวันเป็นหมอ ครั้งที่ 27
8.สารจากประธานสโมสรนิสิตคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
9.สารจากประธานค่ายสู่ฝันวันเป็นหมอ ครั้งที่ 27
10.สารจากหัวหน้าค่ายสู่ฝันวันเป็นหมอ ครั้งที่ 27
11.คำแนะนำในการใช้ ZOOM Application

กำหนดการ

วันเสาร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2565

เวลา กิจกรรม

9.30 - 10.00 CHECK IN
10.00 - 10.30 พิธีเปิด
10.30 - 10.40 พัก
10.40 - 12.00 A WHOLE NEW WORLD
12.00 - 13.00 พักกลางวัน
13.00 - 13.30 CHECK IN
13.30 - 15.30 ROAD TO MED SWU
15.30 - 15.40 พัก
15.40 - 16.30 CATCH ME IF YOU CAN
16.30 - 17.00 ประเมินผลกิจกรรมประจำวัน

*หมายเหตุ : กำหนดการอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม*

กำหนดการ

วันอาทิตย์ที่ 13 กุมภาพันธ์ 2565

เวลา กิจกรรม

9.30 - 10.00 CHECK IN และ Q & A
10.00 - 11.00 PRE - CLINICAL JOURNEY PART 1
11.00 - 11.10 พัก
11.10 - 12.00 PRE - CLINICAL JOURNEY PART 2
12.00 - 13.00 พักกลางวัน
13.00 - 13.30 CHECK IN
13.30 - 14.30 มะลึกกึ๊กกึ๋ยย์
14.30 - 14.40 พัก
14.40 - 16.00 CLINICAL JOURNEY
16.00 - 16.30 แฟนพันธุ์ทาง

*หมายเหตุ : กำหนดการอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม*

กำหนดการ

วันพุธที่ 16 กุมภาพันธ์ 2565

เวลา กิจกรรม

9.30 - 10.00 CHECK IN
10.00 - 10.45 LAB กริ๊ง
10.45 - 11.00 พัก
11.00 - 12.00 วัดปะหล่ะ ?
12.00 - 13.00 พักกลางวัน
13.00 - 13.30 CHECK IN
13.30 - 14.30 MED TALK
14.30 - 14.40 พัก
14.40 - 15.30 MED TALK
15.30 - 16.00 กิจกรรมอำลา
16.00 - 16.30 พิธีปิด

*หมายเหตุ : กำหนดการอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม*

พระราชประวัติ
สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม
พระบรมราชชนก
พระบิดาการแพทย์แผนปัจจุบันของไทย

สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ทรงเป็นพระ
โอรสในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่
หัว และสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ทรงพระ
ราชสมภพวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2434

พระองค์ทรงสำเร็จการศึกษาจาก Imperial German Naval College
ทรงเข้ารับราชการในราชนาวีไทย และ ได้เสด็จมาจังหวัดเชียงใหม่เพื่อทรงเปิด
โรงพยาบาลแมคคอร์มิค พระองค์ทรงมีพระราชดำริว่ากิจการแพทย์และ
สาธารณสุขมีความสำคัญต่อประเทศไทยในขณะนั้นเป็นอย่างมาก และนับวันจะ
ยิ่งสำคัญขึ้น พระองค์จึงทรงลาออกจากข้าราชการของกองทัพเรือเพื่อมาช่วย
งานในโรงพยาบาลศิริราช ทรงอุทิศทั้งพระวรกาย พระปรีชาสามารถ และพระ
ราชทรัพย์ส่วนพระองค์เข้าช่วยเหลือเพื่อวางรากฐานให้กับกิจการแพทย์และ
สาธารณสุขของประเทศ

พระองค์ทรงวิริยอุตสาหะ ทรงศึกษาวิชาสาธารณสุขศาสตร์และวิชา
แพทยศาสตร์โดยได้รับปริญญา CPH และปริญญา Doctor of Medicine (MD)
จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด สหรัฐอเมริกา พระองค์มิได้ทรงคำนึงถึงความสุขส่วน
พระองค์แม้แต่น้อย ทรงปลูกฝังอุดมคติของการเป็นแพทย์ดังพระราชดำรัส ที่ว่า
I don't want you to be only a doctor, but I also want you to be a
man. ด้วยน้ำพระทัยอันสูงส่งเป็นแบบอย่างในการอุทิศพระองค์เพื่อประเทศ
ชาติและการแพทย์ไทยประชาชนชาวไทยจึงซาบซึ้งและเทิดทูนพระเกียรติคุณ
ดังพระราชสมัญญานามว่า "พระบิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบันของไทย" และ
กำหนดให้วันที่ 24 กันยายน ของทุกปี ซึ่งเป็นวันคล้ายวันสวรรคตของพระองค์
เป็น "วันมหิดล"

สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก

ประวัติคณะแพทยศาสตร์
มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ

คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ได้รับการอนุมัติให้จัด
ตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2528 เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแพทย์ เกิดขึ้น
จากความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒกับกรุงเทพมหานคร โดย
ในช่วงแรกนั้น มีคณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช
เป็นฐานการศึกษาในระดับชั้นคลินิก และได้รับความร่วมมือจากโรงพยาบาล
ตำรวจ และโรงพยาบาลส่วนภูมิภาคในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขเป็นสถาบัน
สมทบจัดการเรียนการสอน ต่อมาในปีพ.ศ. 2535 ได้มีการสร้างโรงพยาบาลเป็น
ของตนเองเพื่อรองรับการขยายขนาดของคณะแพทยศาสตร์และนำไปสู่ความเป็น
เลิศทางวิชาการ โดยสร้างศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยาม
บรมราชกุมารี เป็นการเฉลิมพระเกียรติในวโรกาสทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ
สามรอบ ณ บริเวณพื้นที่ของมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ องครักษ์ ซึ่งก่อสร้าง
เสร็จในปี พ.ศ. 2542 และใช้มาจนถึงปัจจุบัน

ประวัติค่ายสู่ฝันวันเป็นหมอ

ค่ายสู่ฝันวันเป็นหมอเริ่มจัดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2537 โดยนิสิต
คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ รุ่นที่ 10 นำโดยนิสิต
แพทย์ วรพล อร่ามรัศมีกุล (ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็น ผู้ช่วยอธิการบดี
ฝ่ายองครักษ์และพัฒนาองครักษ์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ) โดยมี
วัตถุประสงค์เพื่อให้นักเรียนที่มีความสนใจเกี่ยวกับวิชาชีพแพทย์ที่แท้
จริง โดยผ่านกิจกรรมในค่าย และเป็นแนวทางการตัดสินใจในการเลือก
เข้าศึกษาต่อในคณะแพทยศาสตร์ ค่ายสู่ฝันวันเป็นหมอนี้จะจัดขึ้นเป็น
ประจำทุกปี และในปีนี้ (พ.ศ. 2565) ถือว่าเป็นการจัดค่ายสู่ฝันวันเป็น
หมอครั้งที่ 27 แล้ว

สารจากคณบดี คณะแพทยศาสตร์
มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ

โครงการค่ายสู่ฝันวันเป็นหมอ ครั้งที่ 27 เพื่อให้เป็นข้อคิดของนักเรียนที่รัก
ทุกคน ข้อคิดใดไม่น่าจะมีอะไรดีกว่าพระราชดำรัสที่สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร
อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก องค์บิดา แห่งการแพทย์แผนปัจจุบันและการ
สาธารณสุขไทย แพทย์ทุกท่านยึดถือเป็นคติสอนใจส่วนหนึ่งที่นักเรียน ควรทราบ
ใจความว่า ขอให้ถือผลประโยชน์ส่วนตัวเป็นที่สอง ประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์เป็น
กิจที่หนึ่ง ลาภ ทรัพย์ และเกียรติยศจะตกมาแก่ท่านเอง ถ้าท่านทรงธรรมะแห่ง
อาชีพไว้ให้บริสุทธิ์ และอาชีพแพทย์นั้น มีเกียรติ แพทย์ที่ดีจะไม่ร่ำรวย แต่ไม่อด
ตาย ถ้าใครอยากร่ำรวย ก็ควรไปเป็นอย่างอื่น ไม่ใช่แพทย์ อาชีพแพทย์นั้นจำต้อง
ยึดมั่นในอุดมคติ เมตตากรุณาคุณ

การเรียนวิชาชีพแพทย์ นักเรียนต้องสนใจและเรียนรู้เป็นอย่างยิ่ง เพราะ
การจะเป็นแพทย์ประกอบวิชาชีพ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความรู้ทางวิชาการ การฝึกเทคนิค
การสื่อสาร การตรวจร่างกาย การให้คำปรึกษา แต่จะต้องมีคุณสมบัติด้าน
คุณธรรม วิจารณญาณที่ดีพอที่นำความรู้วิชาการ ทักษะ เทคนิคใช้ให้ถูกต้อง
เหมาะสม

ในปัจจุบันวัตถุนิยมเป็นเสมือนพายุที่โถมเข้ามาการไม่ยึดมั่นวิชาชีพและ
จรรยาบรรณเป็นเหตุให้การรักษาไม่ได้มาตรฐาน การสื่อสารทั้งวาจาและท่าทาง
(non-verbal communication) ไม่เหมาะสม นำไปสู่การฟ้องร้องและความไม่เชื่อ
มั่นในวิชาชีพแพทย์ เป็นความเสื่อมในตัวแพทย์เอง และอาจสร้างความเสื่อมใน
วิชาชีพโดยรวมด้วย นักเรียนที่รักทุกคนลองถามใจตนเองจริง ๆ ว่าจะมาเรียน
แพทย์เพื่ออะไร และจะมาธำรงศักดิ์ศรีวิชาชีพหรืออย่างอื่น โครงการนี้นักเรียนที่
สนใจในอาชีพแพทย์ จะได้เรียนรู้ทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ มีโอกาสสัมผัสสภาพจริง
ของการทำงานแพทย์ พยาบาล และการดูแลผู้ป่วยที่มีความทุกข์ทางกาย ทางจิต
เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ

ในนามคณะแพทยศาสตร์ ขอขอบคุณผู้ช่วยศาสตราจารย์นายแพทย์
ชัชวาลย์ เจริญธรรมรักษา รองคณบดีฝ่ายพัฒนาศักยภาพนิสิตและผู้เกี่ยวข้องทุก
ท่านที่จัดโครงการดี ๆ และเป็นประโยชน์ ขอให้การจัดโครงการค่ายสู่ฝันวันเป็น
หมอ ครั้งที่ 27 ประสบความสำเร็จตามความมุ่งหมายทุกประการ

รองศาสตราจารย์ นายแพทย์ไพโรจน์ จงบัญญัติเจริญ
คณบดีคณะแพทยศาสตร์

สารจากประธานค่ายสู่ฝัน
วันเป็นหมอ ครั้งที่ 1

สวัสดีครับน้องนักเรียนผู้เข้าร่วมโครงการค่ายสู่ฝันวันเป็นหมอครั้งที่ 27
ทุกคน ก่อนอื่นขอต้อนรับน้องทุกคนเข้าสู่ “คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัย
ศรีนครินทรวิโรฒ” แห่งนี้ ซึ่งคณะแพทยศาสตร์ของเราเป็นคณะแพทย์ที่ก่อตั้งขึ้น
ใน ปีพ.ศ. 2558 ถือเป็นคณะแพทย์ลำดับที่ 8 ของกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์ใน
ประเทศไทย ปัจจุบันมีฐานการเรียนการสอนที่ประสานมิตรและองครักษ์ และมี
โรงพยาบาลในการเรียนการสอนในระดับคลินิก 2 แห่งคือ ศูนย์การแพทย์สมเด็จ
พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีและศูนย์การแพทย์ปัญญานันทภิขุ
ชลประทาน มศว

สำหรับการเติบโตของค่ายสู่ฝันวันเป็นหมอนี้ มีการจัดมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่
ปีพ.ศ. 2537 ค่ายดีที่ต้องบอกต่อ ค่ายที่นักเรียนทุกคนมาแล้วจะได้รับประสบการณ์
ที่ดีกลับไป ซึ่งกระผมเป็นผู้ริเริ่มจัดโครงการค่ายสู่ฝันวันเป็นหมอ และเป็นประธาน
ค่ายสู่ฝันวันเป็นหมอครั้งที่ 1

ถึงแม้จะผ่านมาถึงค่ายครั้งที่ 27 แล้วแต่วัตถุประสงค์ของการจัดค่าย
ทุก ๆ ปีที่ผ่านมาไม่เคยเปลี่ยน คือเพื่อทำให้น้องนักเรียนทุกคนที่มาได้เก็บเกี่ยว
ประสบการณ์ที่ดี ๆ รวมทั้งสิ่งที่จะทำให้น้องได้นำมาพิจารณาในการตัดสินใจต่อ
อนาคตที่กำลังจะเข้ามา เลือกเก็บมุมมองและเสี้ยวหนึ่งของการเรียนแพทย์ และ
คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒแห่งนี้ ไปช่วยในการตัดสินใจว่า
อนาคตแบบนี้เหมาะสมกับตัวน้องหรือไม่

ถึงแม้ว่าปีนี้ค่ายนี้จะจัดเป็นรูปแบบ online เนื่องจากสถานการณ์ Covid 19
ซึ่งทำให้กิจกรรมต่าง ๆ มีการเปลี่ยนรูปแบบออกไป แต่กระผมก็เชื่อว่าในระยะสาม
วันต่อจากนี้ค่ายนี้น่าจะช่วยจุดประกายความฝันหรือทำให้เห็นภาพฝันของน้อง ๆ
ชัดขึ้น สำหรับน้องบางคนอาจทำให้น้องรู้จักตนเองมากขึ้น และค้นพบว่าอาชีพ
แพทย์และการเรียนแบบนี้เหมาะสมกับตนเองหรือไม่ การเรียนแพทย์สิ่งที่สำคัญก็
คือต้องมีแรงบันดาลใจและมีทัศนคติที่ดีต่อวิชาชีพ ถ้ามันใช่ก็ต้องสู้ต่อเพื่อให้ความ
ฝันนั้นเป็นจริง แต่ถ้าไม่ใช่ก็อยากให้น้องได้ก้าวไปสู่หนทางที่เหมาะสมกับตัวน้องต่อ
ไป

ค่ายนี้เป็นค่ายที่อบอุ่นมากเพราะเต็มไปด้วยความรักและความตั้งใจ รวมทั้ง
ความรู้สึกดี ๆ ของพี่ ๆ นิสิตแพทย์ คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
ทุกคนที่ร่วมในการจัดงานครั้งนี้ และหวังว่าน้องๆทุกคนที่มาเข้าค่ายก็จะสัมผัสสิ่งดี ๆ
เหล่านั้นได้ สุดท้ายขอขอบคุณนิสิตแพทย์ทุกคน เจ้าหน้าที่ และอาจารย์ทุกท่านที่ได้
ร่วมมือในการโครงการนี้ และทำให้ค่ายสู่ฝันวันเป็นหมอนี้ยังดำเนินอยู่เพื่อดำรงถึง
เจตนารมณ์ที่จะทำให้ได้นักเรียนแพทย์ที่ดีต่อไป

ผศ.นพ.วรพล อร่ามรัศมีกุล
อดีตประธานค่ายสู่ฝันวันเป็นหมอครั้งที่ 1 และ 5
ศิษย์เก่านิสิตแพทย์คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ รุ่นที่ 10
ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายองครักษ์และพัฒนาองครักษ์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ

สารจากรองคณบดีฝ่ายพัฒนา
ศักยภาพนิสิต คณะแพทยศาสตร์
มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ

สวัสดีครับน้อง ๆ ค่ายสู่ฝันรุ่นที่ 27 ทุกคน ขอใช้คำว่าน้องค่ายนะครับ
เพราะว่าพี่ก็เป็นเด็กค่ายสู่ฝันวันเป็นหมอคนหนึ่งที่ได้เรียนรู้และเข้าใจตนเองจาก
การมาร่วมงานค่ายสู่ฝันวันเป็นหมอครั้งที่ 2 ถึงแม้ว่าเราจะห่างกัน 25 รุ่นก็ตามแต่
พี่ก็รู้สึกได้ถึงความเป็นน้องค่ายของพี่นะ คงต้องบอกว่าในตอนแรกก่อนที่จะมาเข้า
ค่ายอาจารย์แนะแนวที่โรงเรียนเป็นคนแนะนำพี่ว่าถ้าอยากรู้ว่าเรียนหมอดีไหม
เรียนหมอต้องเรียนอะไรต้องเจออะไรบ้าง ลองไปเข้าค่ายดูสิจะได้รู้ว่าตัวเองเหมาะ
สมไหม พี่จึงได้เข้ามาเป็นเด็กค่ายสู่ฝัน และได้เข้ามาเป็นประธานค่ายสู่ฝันวันเป็น
หมอครั้งที่ 3 ในปีต่อมา

ค่ายนี้ไม่ใช่ค่ายขายฝัน แต่เป็นค่ายที่อยากให้น้อง ๆ ทุกคนได้รู้จักกับการ
เรียนหมออย่างแท้จริง ได้รู้ว่าหมอต้องเรียนอะไร ต้องทำงานอย่างไร ชีวิตการเรียน
กับท่านอาจารย์ใหญ่เราจะไหวไหม เราจะต้องเจออะไรเวลาขึ้นเรียนที่โรงพยาบาล
เพื่อให้น้องสามารถบอกกับตนเองได้ว่าเราเหมาะที่จะเรียนหมอหรือไม่ พี่ ๆ คาดหวัง
ว่าน้อง ๆ จะได้คำตอบนี้จากการได้เข้ามาสัมผัสค่ายถึงแม้ว่าปีนี้จะไม่สามารถเข้ามา
ดูเข้ามาเห็นการเรียนจริง ๆ ได้แต่พี่เชื่อว่าพี่ ๆ ค่ายเขาได้เตรียมการอย่างเต็มที่เพื่อ
ให้น้อง ๆ ได้ประสบการณ์และข้อมูลเพียงพอต่อการตัดสินใจว่าเราเหมาะกับการ
เรียนหมอหรือไม่

หมอเป็นวิชาชีพที่มีเกียรติเพราะถ้าน้องเป็นหมอน้องจะสามารถช่วยเหลือ
ชีวิตคนได้ น้องจะสามารถทำให้คนป่วยที่ทุกข์ทรมานกลับมาใช้ชีวิตปกติได้อีกครั้ง
แต่น้องก็สามารถทำให้คนป่วยที่มีโอกาสหายกลับมีอาการที่แย่ลงได้หรือแม้แต่เสีย
ชีวิตได้โดยไม่สมควรถ้าน้องขาดความรอบคอบ ขาดความรับผิดชอบ ขาดความ
เอาใจใส่ต่อผู้ป่วย ดังนั้นหมอจึงถูกคาดหวังจากสังคมอย่างมากที่จะต้องเป็นผู้มี
ความสามารถ มีคุณธรรมจริยธรรมและเสียสละความสุขของตนเองจนบางครั้งก็
อาจจะลืมไปว่าหมอก็เป็นมนุษย์คนหนึ่ง ยิ่งในปัจจุบันแล้วยุคที่ข้อมูลข่าวสารมี
มากมาย ผู้ป่วยสามารถหาข้อมูลต่าง ๆ ได้ซึ่งมีทั้งข้อมูลที่ถูกต้องและข้อมูลที่เป็น
เท็จทำให้การทำงานของหมอในอนาคตก็จะมีความยากขึ้น หมอจึงเป็นอาชีพที่ไม่
สามารถอยู่นิ่งหรือหยุดเรียนรู้ได้ และหลาย ๆ คนก็มีความกังวลว่า อนาคต
เทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างก้าวกระโดด โดยเฉพาะปัญญาประดิษฐ์ (AI) จะเข้ามา
แทนที่หมอหรือไม่เพราะ AI คงจะสามารถประมวลความรู้และแม่นยำกว่ามนุษย์
มากนัก เหมือนกับที่ประเทศจีนมีการเริ่มใช้ AI มารักษาผู้ป่วยที่ไม่รุนแรงโดยไม่
ต้องไปโรงพยาบาลแล้ว

สำหรับพี่ พี่เชื่อว่าถึงอนาคต AI จะเก่งมากมายแค่ไหนแต่สิ่งหนึ่งที่ AI ไม่
สามารถทดแทนหมอได้ก็คือการสื่อสารด้วยความเข้าใจ ความเห็นอกเห็นใจและการ
ให้กำลังใจผู้ป่วย ดังนั้นแล้วถ้าน้อง ๆ คิดว่าจะเป็นหมอในอนาคตขอให้ยึดหลักการ
ทำงานที่ว่า เอาใจเขามาใส่ใจเรา แล้วน้องจะเป็นหมอที่ AI ไม่สามารถทดแทนได้

สุดท้ายนี้พี่ขอให้น้อง ๆ ทุกคนนำความรู้และข้อมูลที่ได้ไปตัดสินใจว่าน้อง
เหมาะที่จะเรียนหมอหรือไม่ น้องยอมรับข้อเสียของการเรียนหมอต่าง ๆ ได้หรือไม่
มีอาชีพอะไรที่เราอยากเป็นมากกว่าไหม เพราะคนที่จะตัดสินใจได้ดีที่สุดคือตัวน้อง
เอง ไม่ใช่พ่อแม่ ครู หรือหมอดูบอก และเมื่อเราตัดสินใจได้แล้วว่าเราชอบ เรา
เหมาะที่จะเป็นอะไร จงมุ่งมั่นตั้งใจต่อสู้กับอุปสรรคตรงหน้าเพราะมันคือทางที่เรา
เลือกเองเพื่อจะไปให้ถึงความฝันของเรา เส้นทางข้างหน้าพี่เชื่อว่าได้ถูกกำหนดไว้
แล้วด้วยโชคชะตาของเรา สิ่งใดที่เกิดขึ้นล้วนดีเสมอ เพราะฉะนั้นอย่าท้อ เรา
เหนื่อยได้ พักได้แล้วกลับมาสู้ต่อเพื่อทำฝันของเราให้เป็นจริง พี่ขอให้น้องค่ายของพี่
ทุกคนได้พบกับเป้าหมายของชีวิตตนเองและเป็นสิ่งที่เหมาะสมกับตัวเรา ไม่ว่าจะ
เป็นอาชีพอะไรล้วนมีคุณค่าเสมอ และถ้าเป้าหมายในชีวิตของน้องคือ “หมอ”
ก็หวังว่าเราจะได้พบกัน

ผศ.นพ.ชัชวาลย์ เจริญธรรมรักษา
​ น้องค่ายสู่ฝันวันเป็นหมอครั้งที่ 2
​ ประธานค่ายสู่ฝันวันเป็นหมอครั้งที่ 3
รองคณบดีฝ่ายพัฒนาศักยภาพนิสิต คณะแพทยศาสตร์ มศว

สารจากอาจารย์ที่ปรึกษาค่ายสู่ฝัน
วันเป็นหมอ ครั้งที่ 26

"โตขึ้นอยากเป็นอะไร" ผมเชื่อว่าน้อง ๆ จะเกือบทุกคนถูกถามด้วยคำถามนี้
และบ่อยครั้งเราก็ไม่แน่ใจว่า เราอยากเป็นอะไร อยากประกอบอาชีพอะไรเมื่อเรา
เรียนจบ ค่ายสู่ฝันวันเป็นหมอ เป็นหนึ่งกิจกรรมที่จะช่วยให้น้อง ๆ ได้มีโอกาสเรียน
รู้เกี่ยวกับการเรียนของนิสิตแพทย์ การประกอบอาชีพของแพทย์ และเชื่อว่าจะเป็น
กิจกรรมที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับน้อง ๆ ผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกคน ได้ค้นพบตัวตน
ได้เข้าใจความต้องการในการเรียน การประกอบอาชีพของตนเอง และที่สำคัญ
กิจกรรมนี้จะเป็นกิจกรรมที่เปิดโลกทัศน์ของน้อง ๆ ได้รู้จักเพื่อนใหม่ ๆ อีกด้วย ขอ
ให้สนุกครับ

อาจารย์ ดร.น.สพ.รัฐจักร รังสิวิวัฒน์
อาจารย์ประจำภาควิชากายวิภาคศาสตร์

สารจากประธานสโมสรนิสิตคณะ
แพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัย
ศรีนครินทรวิโรฒ

สวัสดีครับพี่ดิวนะครับ ประธานสโมสรนิสิตคณะแพทยศาสตร์
มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ อันดับแรกขอแสดงความยินดีกับน้อง ๆ ทุกคนที่มี
โอกาสได้มาเข้าร่วมค่ายสู่ฝันวันเป็นหมอในครั้งนี้นะครับ ถือเป็นครั้งแรกที่ค่ายนี้จัด
เป็นออนไลน์พี่เชื่อว่าน้อง ๆ ทุกคนคงได้รับความรู้และความประทับใจไม่ต่างจาก
ที่มาที่คณะ เพราะพี่ ๆ ปี 1 ที่จัดงานในครั้งนี้ตั้งใจทำกันมาก การมาค่ายในครั้งนี้
น้อง ๆ หลายคนคงมีวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน ทั้งคนที่อยากเป็นหมอ คนที่กำลัง
ลังเลอยู่ว่าจะเป็นหมอดีไหม หรือคนที่กำลังมาลองค้นหาตัวเองว่าจะชอบเส้นทาง
สายนี้ไหม หวังว่าการมาเข้าร่วมในครั้งนี้คงให้คำตอบในตัวน้องไม่มากก็น้อยนะครับ
ค่ายนี้เป็นเพียงส่วนเล็ก ๆ ของการเรียนหมอหรือการเป็นหมอ ชีวิตจริงยังมีเรื่อง
ราวอีกมากมายที่ไม่สามารถถ่ายทอดให้น้อง ๆ ได้หมดภายใน 2 วัน พี่ว่าสิ่งสำคัญ
ของชีวิตมัธยมคือการรู้ว่าเราไม่อยากทำอะไรมากกว่า เพราะบางทีเราไม่รู้เลยว่าเรา
จะชอบอะไร หรือมันเป็นสิ่งที่เราชอบจริงไหม เลือกตัดสินใจด้วยตัวเองอย่าให้
ความคาดหวังทางสังคมหรือใคร ๆ มาเป็นตัวบอกว่าเราควรจะทำอะไรหรือเป็น
อะไร แค่สิ่งที่เราจะทำมันดีต่อตัวเราและไม่เดือดร้อนใครก็พอ มันคือชีวิตเราอ่ะ
YOLO !

สำหรับพี่ความรู้สึกในวันที่อยากเป็นหมอ วันที่ได้เข้ามาเรียน และตอนที่อยู่
ปี 5 นี้มันแตกต่างกันสิ้นเชิง มันยังต้องค้นหาตัวเองเรื่อย ๆ นะ ไม่ใช่ว่าเข้ามาเรียน
แล้วทุกอย่างจะจบ เส้นทางมันอีกยาวไกลมาก พอจินตนาการแล้วเหนื่อย ฮา ๆ
จริง ๆ ไม่ว่าจะทำอะไรมันก็คงเหนื่อยเป็นธรรมดา แต่สิ่งที่ทำให้มันไปต่อได้คือ
passion กับสิ่งที่น้องทำ

พี่เชื่อว่าตอนนี้น้องหลาย ๆ คนคงเหนื่อยกับการอ่านหนังสือเตรียมสอบ
ไหนจะเรียนออนไลน์อีก ไม่ได้ไปเจอใครเลย ไหนจะความกดดันจากครอบครัว
เพื่อน อย่าลืมหาความสุขให้ตัวเอง เติมไฟให้ตัวเราเดี๋ยวมันหมดซะก่อน ตอนพี่
มัธยมอ่านหนังสือแล้วเหนื่อยหมดไฟ พี่ก็เปิดเพลงความเชื่อ ของพี่ตูน บอดี้แสลม
คือเนื้อเพลงมันโคตรตรงและปลุกใจสุด ๆ แต่ตอนนี้ไม่รู้น้องจะยังอินไหม ฮา ๆ
สุดท้ายนี้ฝากน้อง ๆ กลับไปถามคำถามกับตัวเราว่า อีก 10 ปีข้างหน้าเราจะทำ
อะไรอยู่ว่ะ ถ้าน้องเห็นภาพตัวเองพี่คิดว่าน้องกำลังมาทางที่ใช่ล่ะ แต่ถ้าไม่เห็นภาพ
ก็ไม่เป็นไรมันเป็นเรื่องปกติ เพราะถ้าถามพี่ตอนนี้ก็ตอบไม่ได้เหมือนกัน เราก็หาคำ
ตอบไปเรื่อย ๆ ล่ะกัน โชคดีจะตาย เรามีโอกาสได้ลองทำหลาย ๆ อย่างเพื่อค้นหา
ตัวเอง สู้ ๆ บอกตัวพี่เองและตัวน้องด้วย ฮา ๆ

นิสิตแพทย์สุทธิพล เนตรวงศ์
ประธานสโมสรนิสิตคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ

สารจากประธานค่ายสู่ฝัน
วันเป็นหมอ ครั้งที่ 27

สวัสดีค่ะน้อง ๆ ทุกคน พี่นิสิตแพทย์ผลแก้ว เกิดลาภผล หรือพี่เบล นิสิต
แพทย์ชั้นปีที่ 3 นะคะ ก่อนอื่นเลยขอแสดงความยินดีกับน้อง ๆ ทุกคนที่ได้รับการ
คัดเลือก มาเข้าร่วมค่ายสู่ฝันวันเป็นหมอครั้งที่ 27 ในครั้งนี้ ค่ายสู่ฝันวันเป็นหมอ
เป็นค่ายที่จัดขึ้นจากความตั้งใจของพี่ ๆ นิสิตแพทย์ มศว ทุกคน ที่อยากจะเป็น
ส่วนหนึ่งในการช่วยน้อง ๆ ในการค้นหาตัวเอง ว่าจริง ๆ แล้วคณะแพทย์เป็นคณะ
ที่ใช่สำหรับเราหรือเปล่า ก่อนที่จะทำการตัดสินใจสอบคัดเลือกเข้ามาในคณะจริง ๆ
ค่ายนี้มีการทำงานร่วมกันของทั้งนิสิตแพทย์ฝั่งพรีคลินิก และคลินิก โดยมีความ
ตั้งใจเดียวกันที่อยากจะทำให้ค่ายนี้เป็นค่ายที่น้อง ๆ ประทับใจและได้ประโยชน์
กลับไปให้มากที่สุด ระยะเวลา 3 วันในค่ายสู่ฝันนี้ จะมีกิจกรรมต่าง ๆ มากมายที่
จะช่วยให้น้องเห็นภาพรวมของการเรียน และชีวิตการเป็นนิสิตแพทย์เพิ่มมากขึ้น
ถึงแม้ว่าจะจัดในรูปแบบของกิจกรรมออนไลน์ แต่ความตั้งใจและข้อมูลที่พวกพี่
เตรียมมาให้ในแต่ละกิจกรรมก็ถูกจัดเตรียมขึ้นมาอย่างตั้งใจ ไม่แพ้กับกิจกรรมปีที่
ผ่าน ๆ มาอย่างแน่นอน

ระยะเวลา 3 วันในค่ายสู่ฝันวันเป็นหมอนี้ พี่อยากให้น้อง ๆ ทุกคนตั้งใจ
เก็บเกี่ยวประสบการณ์ ความรู้ และมิตรภาพจากค่ายนี้กลับไปให้ได้มากที่สุดเท่าที่
จะทำได้ และเมื่อได้เห็นภาพของการเป็นนิสิตแพทย์ที่เพิ่มมากขึ้นแล้ว ขอให้น้องนำ
ข้อมูลและภาพรวมที่ได้เห็นจากค่ายนี้ ไปใช้ช่วยในการตัดสินใจว่าตนเองอยาก
ศึกษาเล่าเรียนในวิชาชีพแพทย์จริง ๆ หรือไม่ และหากน้อง ๆ สามารถตัดสินใจได้
ว่าจะเดินทางใดต่อในอนาคต พี่ขอให้น้องเชื่อมั่นในตนเอง และเริ่มลงมือทำจริง
วางแผนการอ่านหนังสือเตรียมตัวสอบ จัดสรรเวลาให้ดี และพยายามทำตามความ
ฝันของตนเองให้สำเร็จ ถึงแม้ว่าจะจบค่ายไปแล้ว แต่มิตรภาพและความสัมพันธ์พี่
น้องจากค่ายสู่ฝันวันเป็นหมอ ก็จะอยู่กับน้องตลอดไป หากในอนาคต น้อง ๆ
ประสบกับปัญหา ต้องการคำปรึกษา อย่าลืมว่ายังมีพวกพี่อยู่ตรงนี้เสมอ พวกพี่
พร้อมที่จะเป็นกำลังใจ ให้คำปรึกษา คำแนะนำเท่าที่พวกพี่จะทำได้ ขอให้น้องอย่า
ย่อท้อต่ออุปสรรคที่จะผ่านเข้ามาในช่วงการตามหาตนเอง และสอบเข้า
มหาวิทยาลัย ไม่ว่าวิชาชีพแพทย์นี้จะเป็นหนทางที่น้องเลือกหรือไม่ก็ตาม พวกพี่ก็
จะคอยเป็นกำลังใจและนึกถึงน้อง ๆ อยู่เสมอ ยินดีที่ได้รู้จักน้อง ๆ ทุกคนนะคะ
หวังว่าเราจะได้เจอกันอีกในอนาคตน้า :)

นิสิตแพทย์ผลแก้ว เกิดลาภผล
ประธานค่ายสู่ฝันวันเป็นหมอ ครั้งที่ 27

สารจากหัวหน้าค่ายสู่ฝัน
วันเป็นหมอ ครั้งที่ 27

สวัสดีค่ะน้อง ๆ ค่ายสู่ฝัน พี่ชื่อ นางสาวพริมา อินทพิบูลย์ หรือจะเรียกว่า
พี่พรีมก็ได้น้า ก่อนอื่นพี่ขอแสดงความยินดีให้กับน้อง ๆ ทุกคนที่ได้มาเข้าร่วมค่ายสู่
ฝันในครั้งนี้นะคะ พี่ ๆ ดีใจมากที่น้อง ๆ ให้ความสนใจกับค่ายสู่ฝันเป็นอย่างมาก
และตั้งใจทำข้อสอบกันอย่างเต็มที่ สุดท้ายน้อง ๆ ก็ผ่านมันมาได้ ถือว่าเป็นความ
สำเร็จก้าวหนึ่งในการตามหาตัวเองเลยนะ !

นอกจากน้องๆที่ตั้งใจแล้ว พี่ ๆ กับอาจารย์ทุกคนก็ตั้งใจและทุ่มเทแรงกาย
แรงใจในการทำค่ายสู่ฝันครั้งนี้มาก ๆ ในเวลาสามวันนี้ น้อง ๆ จะได้เรียนรู้อะไร
หลาย ๆ อย่างเกี่ยวกับวิชาชีพแพทย์ ทั้งการเรียนในชั้นพรีคลินิก (ปี 1-3 ) และชั้น
คลินิก (ปี 4-6 ) การสอบ ได้ฟังประสบการณ์จากศิษย์เก่า ศิษย์ปัจจุบันและ
อาจารย์หลาย ๆ ท่าน และได้รู้จักมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒมากขึ้น นอกจากนี้
น้อง ๆ ก็จะได้ทำกิจกรรมคลายเครียดกับพี่ ๆ และเพื่อน ๆ ในค่าย นอกจากจะได้
ความรู้แล้วยังได้ความสนุกอีกด้วย ไม่แน่นะคะ หลังจากจบค่ายนี้ไปน้อง ๆ อาจจะ
ได้เพื่อนสนิทคนใหม่กลับไปก็ได้นะ :)

พี่ ๆ และอาจารย์หวังว่าค่ายสู่ฝันของพวกเราจะสามารถช่วยน้อง ๆ ในการ
ตามหาทางเดินที่ใช่ให้ตัวเองได้ไม่มากก็น้อยนะคะ พี่อยากให้น้อง ๆ ใช้เวลาใน
ค่ายนี้อย่างคุ้มค่า ให้สมกับความพยายามในการทำแบบทดสอบเข้าค่ายของน้อง
พี่ขอให้น้อง ๆ ทุกคนได้พบเจอกับความสนุก ความรู้ใหม่ ๆ รวมถึงประสบการณ์
และมิตรภาพดี ๆ ในค่ายสู่ฝันครั้งนี้นะคะ
แต่ก่อนจะเริ่มกิจกรรมกัน พี่มีข้อความที่อยากฝากถึงนักผจญภัยทุก ๆ คนด้วย

-"A little magic can take you a long way." ด้วยเวทมนตร์เพียง
หยิบมือ ก็สามารถพาเธอไปได้ไกล ไม่ว่าน้อง ๆ จะมาจากที่ไหน พี่ ๆ หวังว่า การ
ผจญภัยในโลกเวทมนตร์ครั้งนี้จะเป็นเสมือนมนต์วิเศษที่ช่วยให้น้อง ๆ ได้พบเจอกับ
ทางเดินของตัวเองนะคะ-

นิสิตแพทย์พริมา อินทพิบูลย์
หัวหน้าค่ายสู่ฝันวันเป็นหมอครั้งที่ 27

คำแนะนำในการใช้ ZOOM Application

วิธีเข้าใช้งานโปรแกรม Zoom
1. ติดตั้งโปรแกรม Zoom บนอุปกรณ์

1. การติดตั้งบน PC/Notebook
ไปที่ zoom.us เพื่อดาวน์โหลดและติดตั้งได้เลย

2. การติดตั้งบน Smartphone/Tablet
สามารถดาวน์โหลดผ่าน Appstore หรือ Google Play

2. ผู้เข้าร่วมจะได้รับอีเมลเชิญ การประชุม หรือลิงก์เข้าห้องประชุม
1. เข้าร่วมผ่านลิงก์
- คลิกลิงก์ที่ได้รับ










- จะมีหน้าต่างนี้ขึ้น ให้กด “เปิด Zoom Meetings”

คำแนะนำในการใช้ ZOOM Application

2. เข้าร่วมผ่าน Meeting ID
- กดที่ไอคอน “Join”

- นำเลขที่ได้รับมากรอกในช่อง กรอกชื่อ แล้วกด “Join”

- กรอก Password แล้วกด “Join Meeting”

คำแนะนำในการใช้ ZOOM Application

เมื่อคลิกลิงก์ หรือใส่เลขห้องแล้ว ผู้เข้าร่วมประชุมจะต้องรอจนกว่าเจ้าของห้อง
(Host) จะอนุญาตให้เข้าร่วมการประชุม โดยระหว่างรอสามารถทดสอบเสียงได้
โดยการคลิกที่ “Test Computer Audio”

แนะนำหน้าต่าง เมนูต่าง ๆ ระหว่างใช้งาน

Participants : แสดงจำนวนผู้เข้าร่วมประชุม ผู้เข้าร่วมสามารถเปิด/ปิด ไมค์
เปิด/ปิด กล้อง ของตัวเองได้

Chat : ผู้ร่วมประชุมสามารถใช้ช่องทางแชทพูดคุยกับผู้ร่วมประชุมด้วยกัน
หรือจะเลือกคุยเป็นรายบุคคลได้

Leave Meeting : เมื่อจบการประชุม หรือต้องการออกจากห้องประชุม

รายชื่อผู้จัดทำค่าย

ประธานค่าย

นางสาว พริมา อินทพิบูลย์

รองประธานค่าย เลขาค่าย

นาย รัติชิต ศรไพศาล นางสาว ลักษิกา จิรากร

ฝ่ายกิจกรรม

1. นาย ณัฐดนย์ ​ ต​ันติพงศ์อนันต์ 13. นางสาว ณัฐชา ​ ​นิยมพัฒนาพาณิชย์

2. นาย เตชินท์​ สุขประกอบ 14. นาย ณัฐนนท์​ จันทร์สิริสถาพร

3. นาย กณิ​ศ ซื่อพัฒนะ 15. นางสาว ณิชกานต์ พัฒนะอิ่ม

4. นาย กฤตภาส ​ขัตติยานุวัฒน์ 16. นาย ธนธรณ์ ​ลิมป์พิทักษ์พงศ์

5. นาย กฤตภาส​ สัตบุตร 17. นาย ธนิศร์ ​ เจริญวัฒนวโรดม

6. นางสาว จรรยวรรธ​ สักคุณา 18. นาย ธาริต ​คุณัญญาพร

7. นางสาว จินต์ภาณี​ ด​ วงอุดม 19. นาย ธิบดี​ ​งามสุขเกษมศรี

8. นาย เจตน์สพัชญ์ ตั้งวินิต 20. นาย ธีญภัทร ​ เจริญวัฒนานนท์

9. นางสาว ชญาภา​ พ​ิริยวานิช 21. นางสาว นริศรา ​ แซ่ลี้

10. นางสาว ชลิตา​ ​ลอยประสงค์ 22. นาย ศุภณัฐ​ อมรสิริพาณิชย์

11. นาย ชิษณุพงศ์ อ​ ารีประยูรกิจ 23. นาย สมาธิ​ โรจน์ชีวิน

12. นาย ณทรรศน์​ ว​ัจนพรศาล 24. นาย สุภณ​ ​โง้วศิริกูล

ฝ่ายทุน ฝ่ายประชาสัมพันธ์

1. นางสาว เฌอณัช ​ ​จงกิจเขมทัต 1. นางสาว ฑิมพิกา ​ ​กิตติวรารัตน์
2. นาย ณัฐพล ​ เพชรเกื้อ 2. นางสาว ณัชชา ​อิงคณิสร
3. นางสาว ศิรดา ​ ชาตะวราหะ 3. นางสาว ธีรยา ​ สุวรรณอำภา
4. นาย ศุภกฤต ​ ​ปานดำ 4. นางสาว นัยน์ปพร ​ ชูโชติ
5. นาย สัมมา ​ ปิ่นเจริญ 5. นางสาว นิจจารีย์ ​ สรรพกิจ
6. นางสาว อภิชญา ​ เ​หล็กดี 6. นาย ปกป้อง ​ เมืองไพศาล
7. นางสาว อรกช ​เอสุจินต์ 7. นาย เสฏฐพัฒน์ ​ ปรีชาศิลปกุล

ฝ่ายพี่กลุ่ม

1. นาย กษิดิศ ​ นนทพรหม ​19. นางสาว พิชชาภา ​ ตั้งศรีไพโรจน์

2. นาย ณภัทร ​ ศิลปี 20. นางสาว พิมพ์รัชนี ​ สุนสะธรรม

3. นาย ณรงค์เดช ​ รุ่งเรืองชัยบูรณ์ 21. นางสาว ภัทรภร นิธินรางกูร

4. นาย ณัฐพสิษฐ์ ​ เลิศกิตศิริ 2​ 2. นางสาว ภัทรียา ​ อัศวชนะการ

5. นางสาว ณัฐรดา ​ เขตต์อนันต์ 23. นางสาว ภัศรา ทับจินดา

6. นางสาว ณัฐวรา ​ ไทยถิรโรจน์ 24. นางสาว ภาวรินทร์ ม่วงสี

7. นางสาว ณิชาภัทร ​ ดุษฎี 25. นางสาว มนต์ชิตา ​ โสธน

8. นาย ด​ ลภทร์ ​ จันทร์วรานนท์ 26. นางสาว เมลดา ​ แอ่งสมบัติ

9. นางสาว ดวงกมล ​ มนัสธรรม 27. นายร พิวิชญ์ ​จารุทิกร

10. นางสาว ธชพรรณ ​ วิสุทธิ์วัฒนศักดิ์ 28. นางสาว ลัลนา ​ ตีระวัฒนานนท์

11. นางสาว ธนัชพร ​ ทวีทรัพย์ไพศาล 29. นาย วรภัทร์ ​ เจริญวนิชชากร

12. นางสาว ธนัตถ์ภรณ์ ลักษสุภาวณิชย์ 30. นางสาว วิสุตา ​ เกาไศยพงษ์

13. นางสาว นวรัตน์ ​ กาญจนวัฒนกูล 31. นาย ศดิศอัฑฒ์ เ​ลิศทรัพย์อนันต์

14. นางสาว นันทิชา ​ สังฆะมงคลกิจ​ 32. นางสาว ศิริญญาธร พัสกรพินิจ

15. นางสาว ปวริศา กอสุวรรณ 33. นางสาว ศิริหทัย ​ บุญประสิทธิพันธ์

16. นางสาว ปิยพัชร ศ​ รีใหม่ 34. นางสาว ศุภศิริ ​ฉวีวัฒนสกุล

17. นาย พชรพงษ์ ​ อิงค์ปัญญา 35. นางสาว สุธาวีร์ ​ บุญลิขิต

18. นางสาว พรณิชา โสวเลิศรัชต์ 36. นางสาว อริสา ​ โกยวาณิชย์

ฝ่ายศิลป์ ฝ่ายพิธีการ

1. นางสาว เฌอณัช ​ จ​ งกิจเขมทัต 1. นาย ปวริศ ​พงษ์ชัยไกรกิติ
2. นาย ณัฐพล ​ เพชรเกื้อ 2. นางสาว ณัฐธิดา ​ นิมิตสุรชาติ
3. นางสาว ศิรดา ​ ชาตะวราหะ 3. นางสาว นภัสสร ​ เกษมธรรมคุณ
4. นาย ศุภกฤต ​ ​ปานดำ 4. นาย ภัทเรศร์ ​ บุญโรจน์พงศ์
5. นาย สัมมา ​ ปิ่นเจริญ 5. นาย ภูมินทร์ ร​ัชตะปิติ
6. นางสาว อภิชญา ​ เ​หล็กดี 6. นางสาว มนต์สินี อุณหพัฒน์
7. นางสาว อรกช ​เอสุจินต์

ฝ่ายสันทนาการ

1. นางสาว ณัฐชนก ​ศรไชยธนะสุข 15. นาย พาทิศ ​ ชาตะสุภณ
2. นางสาว ณัฐธัญญา ทรงอธิกมาศ 16. นาย พิเสฏฐ ​ เกตุรวม
​3. นางสาว พริมา ​สามลฤกษ์ 17. นาย พุฒิเมธ ​ สละกลม
4. นาย วงศธร ​ อ่อนรักษา 18. นาย ภูมิรพี ​ พิมพานทอง
5. นาย กฤตมุข ​ เชื้อบ้านเกาะ 19. นางสาว วทานิยา ​ อัศวลิขิตเพชร
6. นาย กษิดิ์เดช ​ ไชยยศ 20. นาย วัชราวุฒิ ​ทรงอาจ
7. นางสาว กัลยกร ​ คงทอง 21. นาย วิทย์วศิน ฝังกิจ
8. นางสาว เจนิษา ​ เพ็ชร์เล็ก 22. นางสาว ศรสวรรค์ ลือชาพงศ์ทิพย์
9. นางสาว ชลธร ​ พันธุ์สุวรรณ 23. นางสาว ศุภัชฌา ฉันทศิลป
10. นาย ณัฐวริษฐ แ​ จ้งหมื่นไวย์ 2​ 4. นาย สรวิชญ์ ​ บุญเรือง
11. นางสาว ณิชกมล ​ โค้วสิรภัค 25. นาย สหภูมิ ห​ ล้าพรม
12. นางสาว ณิชาภา ​ วราทวีธำรง 26. นาย อชิระ ​ สรเลขกิตติ
13. นางสาว บัวชมพู ​ ปิ่นเกล้า 27. นางสาว อวภาส์ ศรนรินทร์
14. นาย ปิยะพงษ์ ​เจี้ยมดี 28. นางสาว เอมวิกา แสงคำกุล

ฝ่ายเทคนิค ฝ่ายเอกสาร

1. นาย ซึบาสะ ​ นากายามา 1. นางสาว ฐิติชญา ​ วีระกรพานิช

2. นางสาว ฐิติมน ​ ศรีตระกูล 2. นางสาว ณัฎฐ์พัศญา นาคะโยธินสกุล

3. นาย นพดล ท​ วีชัยทศพล 3. นางสาว ณัฐรดา​​ หนูแดง​

4. นางสาว ปรีด์เปรม อภิรักษชัยกูร 4. นาย ประเวศ ​ ลิปภานนท์

5. นาย พฤช ​ อิ่มด้วง 5. นาย วัชรพล ​ บุญชู

6. นาย พีรดนย์ ​ ทุมสท้าน 6. นางสาว อริชญาช์ รัตนงาม

7. นางสาว มณฑกาญจน์ เกษมสุข ฝ่ายเหรัญญิก

8. นาย วรเวทย์ ​ ชาติวิชิต

9. นาย ศุภกร ก​ รองทอง 1. นางสาว ชุติกาญจน์ ​ อึ๋งเจริญ

10. นางสาว ศุภวรรณ ​ ศรีวัชระ 2. นางสาว บุญญา ​ ฉันทาวิวัฒน์

11. นางสาว สิตานันท์ ​ ศรีสุภาสิตานนท์ 3. นาย รัชย์เทพ ธีรสิรินธร์ท​ องสิน

ฝ่ายโสต

1. นางสาว กุลนิษฐ์ ​ เ​มธาวีระนนท์
2. นาย จิราวัฒน์ ​ปิยะรัตน์
3. นาย เจษฎาธร ​ อัจฉริยะประดิษฐ์
4. นางสาว ชนิดาภา ​ นาคชาติ
5. นาย ชัชภูมิ ​ทิพย์อัมพร
6. นาย ฐานวีร์ ​เพ็ญเพชรเจตน์
7. นางสาว ณัฐฐิมา ​ สุวรรณ
8. นางสาว ธาตา​ ​สิริพัฒนากุล
9. นาย นนทพัทธ์ ​ ฉัตรแก้ว
10. นางสาว พิมพ์นารา สุขสมัย
11. นางสาว วรอนงค์ ​ หทัยพิทักษ์
12. นางสาว วิมลสิริ ​ ทวีสุขเสถียร
13. นาย ศักยภาพ ​ ภู่แดง
14. นาย อรรถเศรษฐ์ อุนนาภิรักษ์