The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

กลอนดอกสร้อยรำพึงในป่าช้า

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by matatoojung, 2021-12-19 09:23:23

กลอนดอกสร้อยรำพึงในป่าช้า

กลอนดอกสร้อยรำพึงในป่าช้า

กลอนดอกสรอ้ ย
รำพึงในปำ่ ช้ำ

ท22102 ม.2

ผูส้ อน ครศู รสวรรค์ ชำนำม

กลอนดอกสรอ้ ย
รำพึงในป่ ำชำ้

ท่ีมาของเร่ือง

พระยาอุปกิตศิลปสาร (นิ่ม กาญจนาชีวะ) พระยาอุปกิตศิลปสาร

เป็นผูป้ ระพนั ธก์ ลอนดอกสรอ้ ยรำพึงในป่ ำชำ้ โดย
นำมำจำกกวนี ิพนธอ์ งั กฤษของ ทอมสั เกรย์
(Thomas Gray) ในเร่ือง Elegy Writtenin

a Country Churchyard

โดยแตง่ เป็นกลอนดอกสรอ้ ยจำนวน ๓๓ บท
แตท่ ่คี ดั มำใหน้ ักเรียนศึกษำมี ๒๑ บท

ผงั กลอนดอกสรอ้ ย

ท่ีมาของเรื่อง

คาว่า elegy (บทรอ้ ยกรองกาสรด) เป็ นการ
ราพึงถึงความตายของมนุษยซ์ ่ึงแสดงสจั ธรรมของชีวิต

ว่ามนุษยท์ ุกคน อาจหลีกหนีความตายไปได้

แตง่ โดยไดเ้ คำ้ โครงเร่ืองมำจำกโคลงภำษำองั กฤษ

ซ่ึงเสถียรโกเศศ ไดแ้ ปลและเรียบเรียงไว้
แลว้ พระยาอปุ กิตศิลปะสารได้ ประพนั ธจ์ ำกตน้ ฉบบั ของ

เสฐียรโกเศศ โดยแตง่ เป็นกลอนดอกสรอ้ ย

Thomas Gray

ท่ีมาของเร่ือง

Thomas Gray เสถยี รโกเศศ พระยำอุปกติ ศิลปะสำร
แตง่ แปล แตง่ รอ้ ยกรอง

ที่มาของเร่ือง พระยำอุปกติ ศลิ ปะสำรนำคำประพนั ธน์ ้ีมำประยุกต์
ใหเ้ ขำ้ กบั ควำมเป็นไทย เชน่
ตน้ ไอวที ่ขี ้ึนปกคลุมบำ้ น
ตน้ ไอวี (Ivy) = เถาวลั ย์
ตน้ เอลม์ (Elm) = ตน้ โพธิ์
แมลงบีตเทิล (Beetle) = จ้ิงหรีดเรไร
จอหน์ แฮมพเ์ ด็น (John Hampden) = ชาวบา้ นบางระจนั
จอหน์ มิลตนั (John Milton) = ศรีปราชญ์

เน้ือเรื่องย่อ

กลำ่ วถึงบุคคลผูห้ น่ึงน่งั อยูใ่ นป่ ำชำ้ ยำมพลบค่ำ เหน็ ฝูงววั ควำยกำลงั เดนิ กลบั ท่ี
อยู่ ทำ่ มกลำงแสงพระจนั ทร์ จึงเหน็ ท่ฝี งั ศพชดั เจน ศพเหลำ่ นั้นคือศพของชำวนำชำวไร่
และเน่ืองจำกอำกำศหนำว มเี สยี งระฆงั เสยี งนกแสกรอ้ ง ย่งิ ทำใหบ้ ุคคลผูน้ ้ันรูส้ ึกวงั เวง
ใจ รำพึงถึงดวงวิญญำณ ไมว่ ำ่ จะเป็นนกั รบ กวนี กั กำรเมือง ซ่ึงในท่สี ุดกน็ อนจมกองดนิ
เชน่ เดยี วกนั ไมว่ ำ่ ศพไพร่หรือศพผูด้ ตี ำ่ งกม็ จี ุดจบเดยี วกนั คือควำมตำย แมบ้ ำงคนจะ
เสยี ดำยอำลยั ชวี ติ ไมอ่ ยำกตำย แตก่ ไ็ มม่ ใี ครฝืนควำมจริงขอ้ น้ีได้

ถอดความ

๑. วงั เอย๋ วงั เวง หง่างเหงง่ ! ยา่ คา่ ระฆงั ขาน
ฝงู วัวควายผา้ ยลาทวิ ากาล ค่อยคอ่ ยผา่ นทอ้ งทงุ่ มุง่ ถนิ ตน
ชาวนาเหนอื ยอ่อนตา่ งจรกลบั ตะวนั ลบั อบั แสงทกุ แหง่ หน
ทง้ิ ทุง่ ใหม้ ดื มัวทวั มณฑล และทง้ิ ตนตเู ปลียวอยเู่ ดยี ว เอย.

เสียงระฆงั ยา่ ดงั หง่างแหง่ง มาท่าใหเ้ กดิ ความ คา่ ศพั ทส์ ่าคัญ
วังเวงใจยิงนกั ในขณะทีฝงู ววั ควายกเ็ คลอื นจากทอ้ งทุง่ ผา้ ย = เคลอื นจากที
ลาเวลากลางวนั เพอื มงุ่ กลบั ถนิ ทีอยขู่ องมนั ฝา่ นพวก ทิวากาล = เวลากลางวัน
ชาวนาทัง้ หลายรู้ศึกเหนอื ยออ่ นจากการทา่ งานตา่ งพา
กันกลบั ถนิ พา่ นกั ของตนเมือตะวนั ลบั ขอบฟ้ากไ็ มม่ แี สง
สว่าง ท่าใหท้ อ้ งทงุ่ มดื ไปทวั บรเิ วณและทง้ิ ใหข้ ้าพเจ้าเปลา่
เปลยี วอยเู่ พยี งผเู้ ดยี ว

๒. ยามเอย๋ ยามน้ี ปถพีมดื มัวทัวสถาน
อากาศเยน็ เยอื กหนาวคราววกิ าล สงัดปานป่าใหญไ่ รส้ า่ เนยี ง
มกี ็แตเ่ สยี งจงั หรดี กระกรีดกรงิ ! เรไรหรงิ ! รอ้ งขรมระงมเสียง
คอกควายววั รวั เกราะเปาะแปะ ! เพียง รู้วา่ เสียงเกราะแว่วแผ่วแผ่ว เอย.

ยามน้แี ผน่ ดนิ มดื ไปทัว อากาศเยน็ ยะเยอื กหนาว เพราะเปน็ เวลากลางคนื และปา่
ใหญแ่ หง่ นเ้ี งียบสงดั มีแตจ่ งิ้ หรดี และเรไร รอ้ งกันเซง็ แซ่ไปหมด เจา้ ของคอกววั ควายตา่ ง
ก็รัวเกราะเสยี งเปาะๆ ท่าใหร้ ้วู า่ เปน็ เสยี งเกราะดงั แว่วมาแตไ่ กล

ค่าศัพทส์ ่าคัญ
ปถพี = แผน่ ดนิ คราววกิ าล = เวลากลางคืน

๓. นกเอย๋ นกแสก จับจอ้ งร้องแจก๊ เพยี งแถกขวญั
อยบู่ นยอดหอระฆงั บงั แสงจนั ทร์ มีเถาวลั ยร์ งุ รงั ถงึ หลงั คา
เหมอื นมนั ฟ้องดวงจนั ทรใ์ ห้ผันดู คนมาส่ซู อ่ งพกั มนั รักษา
ถอื เปน็ ทรี โหฐานนมนานมา ให้เสอื มผาสกุ สนั ต์ของมนั เอย.

นกแสกน้องแจก๊ ๆ เพือทา่ ใหเ้ สยี ขวญั มนั จบั อย่บู นหอระฆงั ทีมเี ถาวัลย์พันรงุ รงั
มาถึงหลงั คาและบดบงั แสงจนั ทรอ์ ยู่ เหมอื นมนั จะฟอ้ งดวงจนั ทรว์ ่าใหห้ นั มาดผู คู้ นทจี มสู่
ทีอยู่ทีมันรกั ษาไว้ ซงึ ถอื เปน็ ทีเฉพาะสว่ นตวั มานาน ท่าใหม้ นั ไมม่ คี วามสขุ

ค่าศัพทส์ ่าคญั
นกแสก = ชอื นกชนดิ หนึงมกั อาศยั ตามต้นไมห้ รอื ชายคา

แถกขวญั = ท่าให้ตกใจ เสยี ขวญั ซ่อง = ทีอยู่

๔. ต้นเอ๋ยต้นไทร สูงใหญร่ ากยอ้ ยห้อยระยา้
และต้นโพธพิ์ มุ่ แจ้แผ่ฉายา มีเนนิ หญา้ ใตต้ น้ เกลอื นกลน่ ไป
ล้วนรา่ งคนในเขตประเทศน้ี ดุษณีนอนราย ณ ภายใต้
แห่งหลมุ ลกึ ลานสลดระทดใจ เรายงิ ใกลห้ ลมุ นน้ั ทกุ วัน เอย.

ตน้ ไทรใหญท่ ีมรี ากหอ้ ยยอ้ ยและตน้ โพธ์ิพุม่ เตยี้ ๆทีมกี ิงทอดแผอ่ อกไปโดยรอบ มี
เนินหญา้ เกลอื นไปทวั ใต้ต้นเปน็ ทีฝงั ศพของคนละแวกนี้ ซึงนอนอยู่เกลอื นไปในหลมุ ลกึ
ดูแลว้ นา่ สลดใจและตวั เราเองกเ็ ขา้ ใกลห้ ลมุ นน้ั ไปทกุ วัน

คา่ ศพั ทส์ า่ คัญ
แจ้ = ลกั ษณะของตน้ ไมเ้ ตย้ี ๆทมี กี ิงทอดแผอ่ อกไปโดยรอบ
ฉายา = เงา ร่มไม้ ดษุ ณี = อาการนิงซึงแสดงถงึ การยอมรบั

๕. หมดเอ๋ยหมดหว่ ง หมดดวงวญิ ญาณลาญสลาย
ถงึ ลมเช้าชวยชนื รนื สบาย เตือนนกแอ่นลมผายแผดส่าเนยี ง
อย่ตู ามโรงมงุ ฟางข้างขา้ งนั้น ท้ังไกข่ ันแข่งดเุ หว่าระเรา้ เสียง
โอ้เหมือนปลกุ รา่ งกายนอนรายเรยี ง พน้ สา่ เนียงทจี ะปลุกใหล้ กุ เอย.

หมดหว่ งเนอื งจากดวงวญิ ญาณไดส้ ลายไปแลว้ ถงึ แม้ลมยามเชา้ จะพดั ใหส้ ดชนื
เตือนใหน้ กแอน่ ลมแผดรอ้ งไปตามโรงนา ท้งั ไก่และดุเหวา่ รอ้ งเสยี งเหมอื นปลกุ ร่างกายที
นอนเรียงใหต้ นื ข้นึ แตพ่ วกนน้ั กลบั ไมไ่ ดย้ นิ

ค่าศพั ทส์ ่าคญั
ลาญ = แตกหัก ทา่ ลาย ผาย = เคลือนจากที

๖. ทอดเอย๋ ทอดทิ้ง ยามหนาวผงิ ไฟลอ้ มอยู่พรอ้ มหนา้
ทิง้ เพอื นยากแม่เหยา้ หาขา้ วปลา ทกุ เวลาเชา้ เยน็ เปน็ นิรนั ดร์
ทิ้งทั้งหนนู อ้ ยนอ้ ยรอ่ ยรอ่ ยรบั เห็นพ่อกลบั ปลม้ื เปรมเกษมสนั ต์
เขา้ กอดคอฉอเลาะเสนาะกรรณ สารพนั ทอดทงิ้ ทกุ สิง เอย.

ยามหนาวเคยนงั ผงิ ไฟอยูพ่ ร้อมหนา้ กนั แต่กลับมาทิง้ กนั ทั้งเพือนยาก แม่เรือนที
เคยหุงขา้ วให้ ทิ้งลูกทเี คยกอดพอ่ ดว้ ยความดใี จ ทงิ้ หมดทกุ สงิ ทกุ อยา่ ง

คา่ ศัพทส์ ่าคัญ
นิรันดร์ = ตลอดไปไมเ่ วน้ วา่ ง เกษมสันต์ = ชืนชมยนิ ดี

๗. กองเอ๋ยกองขา้ ว กองสงู ราวโรงนายงิ น่าใคร่
เกิดเพราะการเก็บเกยี วด้วยเคยี วใคร ใครเลา่ ไถคราดพน้ื ฟื้นแผน่ ดนิ
เช้าก็ขบั โคกระบอื ถอื คนั ไถ สา่ ราญใจตามเขตประเทศถิน
ยดึ หางยามยักไปตามใจจนิ ต์ หางยามผนิ ตามใจเพราะใคร เอย.

เห็นกองขา้ วสงู ราวกบั โรงนา ช่างนา่ ยนิ ดยี ิงนกั กองขา้ งนเี้ กดิ เพราะการเกบ็ เกยี ว
ด้วยเคยี วของใคร หรือใครเปน็ คนไถคราดพลกิ ฟน้ื ฝนื แผ่นดนิ นขี้ น้ึ มา เชา้ กถ็ อื คนั ไถพรอ้ ม
กับไลว่ วั ควายอย่างสบายใจอย่ใู นท้องนา โดยจับหางคนั ไถไถนาตามใจของตน หางไถหนั
ไปในทศิ ทางต่างๆเพราะใครเลา่

จนิ ต์ = คดิ คา่ ศัพทส์ ่าคัญ
ผนิ = พลกิ กลบั หางยาม = หางไถตอนทมี อื ถอื

๘. ตัวเอ๋ยตัวทะยาน อยา่ บันดาลดลใจใหใ้ ฝฝ่ ัน
ดถู ูกกจิ ชาวนาสารพนั และความครอบครองกนั อันชนื บาน
เขาเป็นสขุ เรยี บเรยี บเงยี บสงดั มีปวัตติ์เป็นไปไม่วติ ถาร
ขออยา่ ไดเ้ ยย้ เยาะพดู เราะราน ดูหมนิ การเปน็ อยเู่ พอื นตู เอย.

ผู้ทีอยากมฐี านะทีสงู กวา่ ทเี ปน็ อยู่ ขออย่าดลบันดาลใจใหม้ ีการดถู กู การกระทา่
ตา่ งๆของชาวนาและความเปน็ อยอู่ นั ชนื บานของเขา เขาอยู่กนั อย่างมคี วามสขุ อยา่ งเรยี บ
ง่าย โดนมคี วามเปน็ ไปไมเ่ กนิ วิสยั ปรกตขิ องมนษุ ย์ ขอจงอยา่ ไปพดู จาเยาะเยย้ หรอื ดหู มนิ
การเปน็ อยู่ของเขาเอง

คา่ ศพั ทส์ ่าคญั
ตวั ทะยาน = อยากมฐี านะหรอื ภาวะสูง ดีกวา่ ทเี ปน็ อยู่
ปวัตน์ = ความเป็นไป วิตถาร =นอกแบบ นอกทาง เกินวสิ ัยปกติ

๙. สกุลเอ๋ยสกลุ สงู ชักจูงจติ ฟชู ศู ักดศ์ิ รี
อ่านาจน่าความสงา่ อา่ อินทรยี ์ ความงามนา่ ให้มไี มตรกี นั
ความรา่ รวยอวยสขุ ให้ทกุ อยา่ ง เหล่านี้ตา่ งรอตายทา่ ลายขนั ธ์
วถิ แี ห่งเกยี รตยิ ศท้งั หมดน้นั แต่ล้วนผันมาประจบหลมุ ศพ เอย.

คนทมี ชี าตติ ระกลู สงู ทา่ ใหจ้ ิตใจของตนพองโตขึ้นโดยคิดว่าตนมีศกั ดศิ์ รีเหนือคน
อนื คนมอี า่ นาจนา่ ความสง่างามมาใหแ้ กช่ วี ิต คนทีมีหนา้ ตางดงามทา่ ใหค้ นอนื รักใคร่
คนมฐี านะร่ารวยย่อมหาความสขุ ไดท้ ุกอยา่ ง แต่ทุกคนตา่ งกร็ อความแตกดบั ของร่างกาย
ดว้ ยกันทง้ั น้ัน วถีแหง่ เกยี รตยิ ศทง้ั หมด ลว้ นจบลงทีความตายดว้ ยกนั ทง้ั สน้ิ

ค่าศพั ทส์ า่ คญั
อนิ ทรีย์, ขนั ธ์ = ร่างกาย

๑๐. ตวั เอ๋ยตวั หยงิ เจ้าอยา่ ชิงติซากวา่ ยากไร้
เหน็ จมดนิ นา่ สลดระทดใจ ทีระลกึ สงิ ไรกไ็ มม่ ี
ไม่เหมือนอยา่ งบางศพญาตติ บแตง่
สร้างสานการบญุ หนนุ พลี เครืองแสดงเกยี รตยิ ศเลศิ ประเสริฐศรี

เป็นอนสุ าวรียส์ งา่ เอย.

ผูค้ นเยอ่ หยิงท้งั หลายขออย่าตา่ หนวิ ่าซากศพผู้ยากไร้เหลา่ นเ้ี ลย แม้เห็นจมดินนา่ สลด
ใจ ไมม่ ีของประดบั อะไรสกั อย่างกต็ ามที ไม่เหมอื นอยา่ งบางศพทญี าตติ บแตง่ ดว้ ยเครือง
แสดงเกียรตยิ ศอยา่ งดี โดยมกี ารสรา้ งอนสุ าวรยี อ์ นั สงา่ งามเพอื เปน็ การสรวงบชู า

คา่ ศัพทส์ า่ คญั
พลี อา่ นวา่ พะ-ลี = การบชู าบวงสรวง

๑๑. ทเี อ๋ยทรี ะลกึ ถึงอธกึ งามลบในภพพน้ื
ก็ไม่ชวนชพี ทดี ับใหก้ ลบั คนื เสียงชมชนื เชดิ ชคู ณุ ผู้ตาย
เสียงประกาศเกียรติเอกิ เกรกิ ลนั จะกระเทือนถงึ กรรณนั้นอยา่ หมาย
ลว้ นเปน็ คณุ แกผ่ ู้ยงั ไม่วางวาย ชูเกยี รตญิ าติไปภายภาคหนา้ เอย.

ทีระลกึ ทสี ร้างขึ้น ถึงแม้จะงามเลิศเลอสกั เพยี งใด กไ็ มส่ ามารถท่าให้ผตู้ ายฟนื้
คืนชีวิตข้ึนมาได้ เสยี งชนื ชมเชดิ ชใู นคุณงามความดขี องผตู้ าย รวมทัง้ เสยี งประกาศถงึ
เกยี รตยิ ศอยา่ งแพรห่ ลายกนั ทวั จะไปเจ้าหขู องผตู้ ายนน้ั กห็ าไม่ ทุกอยา่ งลว้ นเปน็ คณุ
แกผ่ ทู้ ยี งั มชี วี ิตอยู่ และเปน็ การเชดิ ชเู กยี รตยิ ศของญาตพิ นี อ้ งทมี ชี วี ิตอยตู่ อ่ ไป

ค่าศพั ทส์ า่ คญั
อธึก = ยิงใหญ่ มาก
เอิกเกรกิ = แพร่หลายรกู้ นั ทัว กรรณ = หู

๑๒. รา่ งเอ๋ยรา่ งกาย ยามตายจมพน้ื ดาษดนื หลาม
อย่าดถู กู ถนิ นีว้ ่าทีทราม อาจขนึ้ ชอื ลือนามในกอ่ นไกล
อาจจะเปน็ เจดยี ์มพี ระศพ แห่งจอมภพจกั รพรรดกิ ษัตริย์ใหญ่
ประเสริฐดว้ ยสัตตรตั น์จรสั ชยั ณ สมัยกอ่ นกาลบรุ าณ เอย.

รา่ งกายของคนทงั้ หลายเมอื ตายและจะจมพ้ืนดนิ อยู่เต็มไปหมด ขอจงอยา่ ดถู กู
ถินนว้ี า่ ไมด่ ี เพราะอาจเปน็ ถนิ ทมี ชี อื เสยี งมาในสมัยก่อนกเ็ ปน็ ได้ คอื เป็นสถานที
กอ่ สรา้ งพระเจดียบ์ รรจพุ ระศพของพระมหากษตั ริย์ผยู้ ิงใหญ่ อันประกอบดว้ ย ๗ ประการ
ของจักรพรรดิ ในสมยั โบราณนานมาแลว้

คา่ ศพั ทส์ า่ คัญ

สตั ตรัตน์ = ในทนี ้ีหมายถงึ แกว้ ๗ ประการของจกั รพรรดิ มชี า้ งแกว้ นางแกว้ ขุนพลแกว้ ขนุ คลงั แกว้
ม้าแกว้ แก้วมณี จักรแกว้ แก้วเจด็ ประการมี สุวรรณ-ทอง หิรัญ-เงนิ มุกดา ประพาฬ-โกเมน ไพทรู ย์

วิเชยี ร-เพชร มณี-ทบั ทิม

๑๓. ความเอย๋ ความรู้ เป็นเครอื งชชู ีท้ างสวา่ งไสว
หมดโอกาสทีจะชต้ี ่อนไ้ี ป ละหว่ งใยอยากรลู้ งสดู่ นิ
อันความยากหากใหไ้ รศ้ ึกษา ย่นปัญญาความรอู้ ยแู่ คถ่ นิ
หมดทกุ ขข์ ลุกแต่กจิ คดิ หากิน กระแสวญิ ญาณงนั เพยี งนน้ั เอย.

ความรเู้ ปน็ เครืองชนี้ า่ ทางไปสคู่ วามก้าวหนา้ แตต่ อนนี้หมดโอกาสทจี ะชน้ี า่ ทาง
ต่อไปแลว้ จ่าต้องละความหว่ งใยทงั้ หมดลงไปสคู่ วามตาย อันความยากจนท่าใหไ้ มไ่ ดร้ ับ
การศึกษา ไดร้ ับวชิ าความรอู้ ยเู่ ฉพาะในทอ้ งถนิ ของตน ตอนนห้ี มดทกุ ขท์ ีจะขลกุ อยู่แต่
ในการท่ามาหากนิ เสยี ที เพราะวิญญาณของเราคงจะหยุดอยู่เพียงเท่านี้

ค่าศพั ทส์ ่าคญั
ขลกุ = ง่วนอยู่

๑๔. ดวงเอ๋ยดวงมณี มกั จะลล้ี ับอยใู่ นภผู า
หรือใตท้ อ้ งห้องสมทุ รสุดสายตา ก็เสือมซาส้ินชมนยิ มชน
บุปผชาตชิ สู แี ละมกี ลิน อยู่ในถนิ ทไี กลเช่นไพรสณฑ์
ไมม่ ใี ครได้เชยเลยสกั คน ยอ่ มบานหลน่ เปลา่ ดายมากมาย เอย.

ดวงแกว้ หรอื สงิ ทมี ีคา่ มกั จะอยใู่ นทีลลี้ บั เช่น ในภูเขาหรอื อยใู่ ตท้ อ้ งสมทุ รซงึ อยู่
สดุ สายตาของมนุษย์ ท่าใหก้ ลายเปน็ สงิ ไรค้ ่าไมม่ ผี ใู้ ดไดช้ นื ชม เปรยี บเสมอื นดอกไม้ที
สสี วยและกลนิ หอมทีอยู่หา่ งไกล เช่น ในปา่ กไ็ มม่ ใี ครไดเ้ ชยชมเลยสกั คน ย่อมบาน
หล่นไปเปลา่ ๆ อยา่ งมากมายนา่ เสยี ดายเปน็ ยิงนกั

คา่ ศพั ทส์ า่ คญั
ไพรสณฑ์ = แนวปา่ , เขตป่า.

๑๕. ซากเอ๋ยซากศพ อาจเป็นซากนักรบผูก้ ลา้ หาญ
เช่นชาวบา้ นบางระจนั ขันรา่ บาญ กบั หมมู่ า่ นมาประทษุ อยธุ ยา
ไมเ่ ชน่ นน้ั ทา่ นกวเี ช่นศรปี ราชญ์ นอนอนาถเลห่ ใ์ บไ้ รภ้ าษา
หรือผกู้ บู้ า้ นเมอื งเรอื งปญั ญา อาจจะมานอนจมถมดนิ เอย.

ซากศพท้ังหลายเหลา่ นี้ อาจะเปน็ ซากศพของนกั รับผกู้ ลา้ หาญ เช่น ชาวบา้ น
บางระจันทอี าสาสรู้ บกบั กองทพั พม่าทมี าท่ารา้ ยกรุงศรีอยธุ ยา หรอื ศพทา่ นกวีปราชญท์ ี
นอนนงิ ไมพ่ ดู ไมจ่ า หรือศพผกู้ บู้ ้านเมอื งอนื ๆ ซึงอาจจะมาสนิ้ ชวี ติ ณทีนี้

คา่ ศัพทส์ า่ คญั
ร่าบาญ = รบ ม่าน = ชนชาติพมา่

ประทษุ = ทา่ รา้ ย

๑๘. มกั เอย๋ มกั ใหญ่ กน่ แตใ่ ฝ่ฝนั ฟุ้งตามมงุ่ หมาย
อ่าพรางความจรงิ ใจไมแ่ พรง่ พราย ไมค่ วรอายกต็ อ้ งอายหมายปิดบงั
มุ่งแต่โปรยเครอื งปรงุ จรงุ กลนิ คือความฟมู ฟายสนิ ลนิ้ โอหงั
ลงในเพลงิ เกยี รตศิ ักดิ์ประจักษด์ งั เปลวเพลงิ ปลงั หอมกลบตลบ เอย.

พวกมกั ใหญใ่ ฝส่ งู จะทา่ แต่สงิ ทตี นใฝฝ่ นั มงุ่ หมายๆไว้และปดิ ปงั ความจริงบางอยา่ งโดนไม่
เปดิ เผยใหใ้ ครทราบ แมจ้ ะเปน็ สงิ ทไี มม่ ใี ครอบั อาย มุ่งแต่แสดงใหเ้ หน็ รูปลกั ษณ์
ภายนอกวา่ ดี มกี ารใชจ้ า่ ยทรัพย์เกินฐานะ พูดจาอวดดเี พอื แสดงความมเี กียรตสิ งู ส่ง
ของตนอนื เหน็ อันเปน็ การปกปดิ ความเปน็ จรงิ ของตนเองไว้

ค่าศพั ทส์ า่ คญั
ฟูมฟาย = สุรยุ่ สุรา่ ย ใช้จ่ายเกินฐานะ

๑๙. ห่างเอ๋ยห่างไกล ห่างจากพวกมกั ใหญฝ่ กั ใฝ่หา
แตส่ ิงซึงเหลวไหลใส่อาตมา ความมกั นอ้ ยชาวนาไมน่ อ้ มไป
เพอื นรกั ษาความสราญฐานวิเวก รม่ เช้อื เฉกหบุ เขาลา่ เนาไศล
สนั โดษดับฟุ้งซา่ นทะยานใจ ตามวสิ ยั ชาวนาเย็นกวา่ เอย.

ขอจงอยหู่ า่ งไหลจากพวกมักใหญใ่ ฝส่ งู ซงึ ทา่ แต่สิงเหลวไหลใสต่ ัวเอง โดยไมด่ คู วามมัก
น้อยของชาวนาเปน็ ตวั อยา่ ง ฉะนน้ั เพอื รกั ษาความสบายใจและความวเิ วกร่มเยน็ เฉกเชน่
อยูใ่ นหบุ เขาลา่ เนาไพร ควรถือสนั โดษดบั ความฟงุ้ ซ่านใจ ตามแบบของชาวนาไวจ้ ะดกี วา่

คา่ ศพั ทส์ า่ คัญ
ชือ้ = เย็น รม่ ช้ืน
สันโดษ = ความยนิ ดหี รอื พอใจเทา่ ทีตนมอยู่หรอื เปน็ อยู่, มักน้อย

๒๐. ศพเอ๋ยศพไพร่ ไม่มีใครขนึ้ ชอื ระบอื ขาน
ไม่เกรงใครนนิ ทาวา่ ประจาน ไม่มกี ารจารกึ บนั ทึกคณุ
ถงึ บางทมี บี า้ งเปน็ อยา่ งเลศิ กไ็ ม่ฉดู ฉาดเชดิ ประเสริฐสุนทร์
พอเตือนใจไดบ้ า้ งในทางบญุ เปน็ เครอื งหนนุ น่าเหตสุ ังเวช เอย.

ศพของคนธรรมดาสามญั ไมม่ ใี ครเขายกยอ่ งหรือกลา่ วถงึ ฉะนนั้ จึงไมต่ อ้ งไปเกรง
กลวั วา่ ใครเขาจะนนิ ทา เพราะไมม่ กี ารเขยี นจารึกบนั ทึกคณุ ความดไี ว้ ถึงจะมบี า้ งกไ็ มเ่ ชดิ
ชกู นั อย่างเต็มที ทา่ พอเปน็ เครอื งเตอื นใจในการทา่ ความดี หรอื เปน็ เครอื งหนนุ นา่
เพือใหเ้ กิดสงั เวชใจเท่านน้ั

คา่ ศพั ทส์ า่ คญั
สนุ ทร์ = พระอนิ ทร.์

๒๑. ศพเอ๋ยศพสูง เปน็ เครอื งจูงจติ ให้เลอื มใสศานต์
จารกึ คา่ สา่ นวนชวนสกั การ ผิดกับฐานชาวนาคนสามญั
ซึงอย่างดกี ็มกี วเี ถือน จากรกึ ชอื ปีเดอื นวนั ดับขันธ์
อุทศิ สงิ ซงึ สรา้ งตามทางธรรม์ ของผนู้ นั้ ผูน้ แี้ ก่ผี เอย.

ศพของคนดี เปน็ สิงทจี งู ใหเ้ ลือมใส มีการจารกึ ค่าสกั การะ ผดิ กบั ศพของชาวนา
ธรรมดา ซงึ อย่างดที สี ุดกม็ แี คก่ วสี มคั รเลน่ ซงึ จะจารึกเอาไวเ้ พยี งแค่วนั เดอื นปีทลี ว่ งลบั
อุทศิ สงิ ของทางธรรมใหแ้ กผ่ ตู้ าย

ค่าศัพทส์ ่าคัญ
กวเี ถอื น = กวชี าวบา้ น คนทีมคี วามรรู้ ะดับชาวบา้ น

๒๒. ห่วงเอ๋ยหว่ งอะไร ไม่ยงิ ใหญเ่ ทา่ หว่ งดวงชวี ติ
แมค้ นลมื สิงใดไดส้ นทิ ก็ยังคดิ ขึน้ ไดเ้ มอื ใกลต้ าย
ใครจะยอมละทงิ้ ซึงสงิ สขุ เคยเปน็ ทุกข์ห่วงใยเสยี ไดง้ า่ ย
ใครจะยอมละแดนแสนสบาย โดยไมช่ ายตาใฝอ่ าลัย เอย.

หว่ งอะไรไมเ่ ทา่ หว่ งชวี ิต แม้นคนทลี มื ทุกสงิ ก็ยังคดิ ไดเ้ มอื ใกลต้ าย ใครจะยอมละทง้ิ
สงิ ทีทา่ ใหม้ คี วามสขุ ถา้ ผูเ้ คยมีความทุกขก์ ย็ ิงไมเ่ สยี ใหง้ า่ ยๆ ใครจะยอมจากทอี ยู่แสน
สบาย โดยไมห่ นั หลงั อาลยั ไปมอง

คา่ ศัพทส์ ่าคญั
แดน = อาณาเขตทแี บง่ กา่ หนดไว้อยา่ งชดั เจนหรอื โดยหมายรกู้ ัน

๒๓. ดวงเอ๋ยดวงจิต ลมื สนิทกิจการงานท้งั หลาย
ยอ่ มละชพี เคยสขุ สนุกสบาย เคยเสยี ดายเคยวติ กเคยปกครอง
ละทงิ้ ถนิ ทสี ่าราญเบกิ บานจิต ซึงเคยคดิ ใฝ่เฝา้ เปน็ เจา้ ของ
หมดวิตกหมดเสยี ดายหมดหมายปอง ไม่ผินหลงั เหลยี วมองดว้ ยซ้่า เอย.

ขอใหด้ วงจิตของเรา จงลมื กิจการงานทั้งหลายทีเคยสขุ สนกุ สบาย เคยเสียดาย
เคยวิตกและเคยปกครอง ต้องละถนิ ทเี คยใหค้ วามสขุ สา่ ราญบานใจ และฝนั ใฝอ่ ยากเปน็
เจ้าของ ขอจงหมดความวิตก หมดความเสียดายหมดสงิ ทปี รารถนา โดนไมห่ นั หลกั เหลยี ว
ไปมองมนั อกี เลย

ค่าศพั ทส์ า่ คญั
ผิน = หนั , ผัน, หิน, พลิก, กลบั .

บทวิเคราะห์ คุณคำ่ ดำ้ นแนวคดิ

การแสดงสจั ธรรมของชีวิต คือ ความไม่เที่ยงแทแ้ น่นอน ทกุ คนไม่สามารถ
หลีกเล่ียงความตายได้ การดาเนินชีวิตจึงควรรจู้ กั ปล่อยวาง ไม่ควรยึดติดกบั ส่ิงดด

“ดวงเอย๋ ดวงจติ ลืมสนิทกจิ กำรงำนทง้ั หลำย

ยอ่ มละชพี เคยสุขสนุกสบำย เคยเสยี ดำยเคยวิตกเคยปกครอง

ละถ่นิ ท่สี ำรำญเบกิ บำนจติ ซ่ึงเคยคดิ ใฝ่เฝ้ ำเป็นเจำ้ ของ

หมดวิตกหมดเสยี ดำยหมดหมำยปอง ไมผ่ นิ หลงั เหลยี วมองดว้ ยซำ้ เอย”

บทวิเคราะห์ คุณคำ่ ดำ้ นเน้ือหำ

เม่ืออำ่ นกลอนดอกสรอ้ ยรำพึงในป่ ำชำ้ จะใหค้ วำมรูส้ ึกและอำรมณ์ คือ อารมณส์ ะเทือนดจเก่ียวกบั ชีวิต
ความตาย วงั เวงดจ บรรยากาศดนยามดกลค้ า่ ยิ่งทาดหเ้ กิดความรสู้ ึกสะเทือนดจมากข้ึน

ซ่ึงนับวำ่ กวสี ำมำรถทำใหผ้ ูอ้ ำ่ นเกดิ ควำมรูส้ ึกร่วมไปกบั บทกวไี ดเ้ ป็นอยำ่ งดี

“วงั เอย๋ วงั เวง หง่างเหง่ง! ยา่ คา่ ระฆงั ขาน

ฝงู ววั ควายผา้ ยลาทิวากาล ค่อยค่อยผ่านทอ้ งทุ่งมุ่งถิ่นตน

ชาวนาเหนื่อยอ่อนต่างจรกลบั ตะวนั ลบั อบั แสงทุกแห่งหน

ท้ิงท่งุ ดหม้ ืดมวั ทวั่ มณฑล และท้ิงตนตเู ปล่ียวอยู่เดียวเอย”

บทวิเคราะห์ คุณคำ่ ดำ้ นเน้ือหำ

ตวั อยำ่ งบทวิเครำะหก์ ลอนดอกสรอ้ ยรำพึงในป่ ำชำ้

“นกเอย๋ นกแสก จบั จอ้ งรอ้ งแจก๊ เพียงแถกขวญั
อย่บู นยอดหอระฆงั บงั แสงจนั ทร์ มีเถาวลั ยร์ งุ รงั ถึงหลงั คา
เหมือนมนั ฟ้ องดวงจนั ทรด์ หผ้ นั ดู คนมาส่ซู ่องพกั มนั รกั ษา
ถือเป็ นที่รโหฐานนมนานมา ดหเ้ ส่ือมผาสุกสนั ตข์ องมนั เอย”

กลำ่ วถึงเสยี งจ้ิงหรีดเรไรรอ้ ง มเี สยี งเกรำะแวว่ ๆ เสยี งนกแสกรอ้ งบน
หอระฆงั หลงั คำมเี ถำวลั ยร์ ุงรัง นอกจำกทำใหเ้ หน็ ภำพแลว้ ยงั สะทอ้ นควำมเงยี บเหงำ

วงั เวง จนทำใหเ้ กดิ อำรมณส์ ะเทือนใจ

บทวิเคราะห์ คุณคำ่ ดำ้ นรรณศิลป์

บทวิเคราะห์ คุณคำ่ ดำ้ นวรรณศิลป์

ตวั อยำ่ งบทกลอนท่มี กี ำรใชค้ ำเลยี นเสยี งธรรมชำติ

“ยามเอย๋ ยามน้ี ปถพีมืดมวั ทวั่ สถาน

อากาศเย็นเยือกหนาวคราววิกาล สงดั ปานป่ าดหญ่ไรส้ าเนียง

มีก็แต่จงั หรีดกระกรีดกริ่ง! เรไรหริ่ง! รอ้ งขรมระงมเสียง

คอกควายววั รวั เกราะเปาะเปาะ! เพียง รวู้ ่าเสียงเกราะแว่วแผ่วแผ่วเอย”

ความรจู้ ากวรรณคดี
1. ทุกคนตอ้ งตำย

และทุกสถำนท่ยี อ่ มเคยมผี ูเ้ สยี ชวี ติ

๒. เม่ือตำยแลว้ ไมส่ ำมำรถนำส่ิงใดไป
ได้ จึงควรละวำงไมย่ ึดติดกบั ส่ิงตำ่ ง ๆ

๑. อยำ่ ลุม่ หลงในส่ิงท่มี แี ละอยำ่ ทะเยอทะยำนจนเกนิ

ขอ้ คิดนาชีวิต ตวั เพรำะสุดทำ้ ยเรำกต็ อ้ งตำยจำกส่ิงเหลำ่ น้ันไป

๒. เม่ือยงั มชี วี ติ อยูค่ วรใชช้ วี ิตอยูก่ บั ครอบครัวใหม้ คี วำมสุข และทำแตค่ วำมด


Click to View FlipBook Version