วงโยธวาทิตในประเทศไทย
และ ในต่างประเทศ
จัดทำโดย
นางสาวศศิประภาพร เหลืองสะอาด ม.6/11
คำนำ
รายงานเล่มนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของวิชา ชุมนุม
วงโยธวาทิต เพื่อให้ใด้ศึกษาหาความรู้ในเรื่องราววงโยธ
วาทิตในประเทศไทยและต่างประเทศ โดยได้ศึกษาผ่าน
แหล่งความรู้ต่าง ๆ อาทิเช่น ตำรา หนังสือ หนังสือพิมพ์
วารสาร ห้องสมุด และแหล่งความรู้จากเว็บไซต์ต่างๆ โดย
รายงานเล่มนี้ต้องมีเนื้อหาเกี่ยวกับ ประวัติวงโยธวาทิต ใน
ประเทศไทยและต่างประเทศ,เครื่องดนตรีในวงโยธวาทิต
ผู้จัดทำคาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการจัดทำเอกสารฉบับนี้
จะมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ที่สนใจศึกษาเรื่องวงโยธวาทิต
ในประเทศไทยและต่างประเทศเป็นอย่างดี
นางสาวศศิประภาพร เหลืองสะอาด
ผู้จัดทำ
สารบัญ
คำนำ 1
สารบัญ 4
วงโยธวาทิตในประเทศไทย 6
พระเจนดุริยางค์ 10
วงโยธวาทิตในต่างประเทศ 11
ประเภทของเครื่องดนตรีในวงโยธวาทิต
เครื่องเป่าหรือเครื่องลมที่ทำด้วยไม้ 16
(Woodwind Instruments)
เครื่องเป่าที่ทำด้วยทองเหลือง 21
(Brass Instruments)
เครื่องประกอบจังหวะ
(Percussion Instruments)
เอกสารอ้างอิง
ภาคผนวก
1
วงโยธวาทิตในประเทศไทย
หากจะพูดถึงวงดุริยางค์ในประเทศไทย ที่มีประวัติ
ยาวนาน คือตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๔ วงดุริยางค์ในสมัยนั้น
ไม่ได้มีรูปร่างหน้าตาเช่นปัจจุบันแต่มีลักษณะเริ่มแรกเป็น
แตรวง (Brass Band) โดยในสมัยรัชกาลที่ ๔ การทหาร
ของไทยได้รับการฝึกอย่างต่างชาติซึ่งมีนายทหารจากต่าง
ชาติเข้ามาทำการฝึกให้ จากจุดนี้เองทำให้ก่อกำเนิดแตรวง
ขึ้นในประเทศไทย ครูฝึกทหารที่เข้ามาช่วยในการฝึกนั้น
เป็นนักเป่าแตร คือ ร้อยเอกอิมเปย์ (Impey) และ น็อกซ์
(Thomas G. Knox) ซึ่งได้นำแตรเดี่ยวเข้ามาและสอนให้
กับทหารไทยจึงทำให้เกิดแตรวงในยุคแรกขึ้น
ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ ๕ ได้มีสัมพันธไมตรีกับนานา
ประเทศเป็นอย่างดี บ่อยครั้งได้เสร็จพระราชดำเนินไป
เจริญสัมพันธไมตรีกับมิตรต่างประเทศด้วยพระองค์เอง
เมื่อพระองค์เสร็จไปต่างชาติมีเพลงบรรเลงเคารพหรือ
เพลงชาติ เช่น เพลง God Save The Queen ของอังกฤษ
แต่ของไทยยังไม่มีเพลงที่แสดงเป็นเอกลักษณ์ของความ
เป็นไทย พระองค์จึงมีรับสั่งให้จัดหาเพลงเคารพหรือเพลง
ชาติขึ้น ตั้งแต่นั้นมาเพลงสรรเสริญพระบารมีจึงใช้เป็น
เพลงเคารพ ใน พ.ศ. ๒๔๖๑ ได้พระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้
พระเจ้าน้องยาเธอกรมหมื่นอดิศรอุดมเดช เป็นผู้บังคับการ
และก่อตั้งแตรวงทหารหน้าขึ้นเป็นครั้งแรก
2
ซึ่งต่อมาแตรวงทหารนี้ได้เจริญรุ่งเรืองมาเป็นกอง
ดุริยางค์ทหารบก ในปัจจุบันพระองค์ได้สนับสนุนให้เจ้า
นายเล็กๆ ทรงเล่นละครและการละเล่นต่างๆ ที่มีดนตรี
ประกอบอยู่เสมอ ทำให้เจ้านายเล็กๆ เป็นผู้รักศิลปะและ
การดนตรี เป็นผลสืบเนื่องทำให้วงการศิลปะและดนตรีใน
ประเทศเจริญขึ้นอย่างมาก บุคคลที่ทำให้วงการดนตรี
สากลเจริญรุ่งเรืองในยุคนั้น คือ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์
เธอเจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิจ
ทรงเป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า
เจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระปิตุจฉาหม่อมเจ้าหญิงสุขุมาล
มารศรี
ทูลกระหม่อมบริพัตรครั้งยังทรงพระเยาว์ ได้ศึกษา
วิชาการทหารในพระบรมมหาราชวัง ต่อมาได้เสด็จไป
ศึกษา ณ ทวีปยุโรป พระองค์เป็นผู้ที่รักและสนใจในการ
ดนตรีเป็นอย่างมากหลังจากทรงสำเร็จการศึกษาด้านการ
ทหารจากประเทศอังกฤษและวิศวกรรมชั้นสูงจากประเทศ
เยอรมีแล้ว จึงเสด็จกลับประเทศไทย ทรงเข้าดำรง
ตำแหน่งเสนาธิการทหารบกอยู่ประมาณ ๙ เดือน
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้โปรดเกล้าฯ
ให้ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารเรือ
3
จากจุดนี้เองทูลกระหม่อมบริพัตรได้ทรงสร้างผลงาน
ทางดนตรีขึ้น ใน พ.ศ. ๒๔๔๘ ได้ทรงนิพนธ์เพลงซึ่งมีแนว
บรรเลงแบบของไทยและแนวบรรเลงแบบสากลขึ้น นับเป็น
เพลงไทยเพลงแรกที่มีการเรียบเรียงเสียงประสานตาม
แบบอย่างของดนตรีสากล บทเพลงที่สำคัญๆ ซึ่งทรง
นิพนธ์ขึ้นได้แก่ วอลท์ซเมขลา วอลท์ซประชุมพล มณฑา
ทอง (เพลงในจังหวะ Polka ซึ่งเป็นจังหวะเต้นของพวก
ยุโรป) มาร์ชดำรง ตลอดจน มาร์ชบริพัตร ซึ่งนับว่าเป็น
เพลงมาร์ชที่มีความสง่างามและไพเราะมากเพลงหนึ่ง
นอกจากนี้พระองค์ทรงนิพนธ์เพลงไทยเดิมขึ้นโดยเฉพาะ
ให้กับวงดุริยางค์อาทิ เพลงโหมโรงมะลิเลื้อย เพลงแขก
มอญบางขุนพรหม และเพลง แขกสาย เป็นต้น มีนักดนตรี
เครื่องเป่าที่มีความสามารถเกิดขึ้นมากในสมัยนี้ เช่น นาย
สุด ศรีชา เป็นผู้ที่เป่าแตร Cornet ได้ไพเราะ และนายเคี้ยง
ซึ่งมีความชำนาญในการเป่าโอโบ (Oboe) ภายหลังได้
พระราชทานนามสกุลว่า “โอบายวาท” ในสมัยพระบาท
สมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวเป็นสมัยที่ศิลปะและการ
ดนตรีเจริญรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก ผู้ที่มีบทบาทต่อการ
พัฒนาวงดุริยางค์ในสมัยนี้คือ “พระเจนดุริยางค์”
พระเจนดุริยางค์ 4
พระเจนดุริยางค์มีส่วนในการพัฒนาวงโยธวาทิต
โดยได้จัดตั้งวงโยธวาทิตกองดุริยางค์ทหารอากาศ
พ.ศ. ๒๔๘๓ ก่อตั้งวงดุริยางค์สากล (วงโยธวาทิต) ของ
กรมตำรวจ พ.ศ. ๒๔๙๓ เป็นผู้วางรากฐานวงโยธวาทิต
ระดับมัธยมศึกษา พ.ศ. ๒๕๐๐ และมีผลงานการเรียบเรียง
เสียงประสานสำหรับวงโยธวาทิตหลายเพลง ได้แก่
๑. เพลงชาติไทย
๒. เพลงสรรเสริญพระบารมี
๓. เพลงมาร์ชราชวัลลภ
๔. เพลงสายฝน
๕. เพลงยามเย็น
๖. เพลงเทวาพาคู่ฝัน
๗. เพลงมาร์ชธงชัยเฉลิมพล
๘. เพลงอาทิตย์อับแสง
๙. เพลงแก้วตาขวัญใจ
๑๐. เพลงชะตาชีวิต
๑๑. เพลงมหาจุฬาลงกรณ์
5
สำหรับวงโยธวาทิตในใช้ประเทศไทยนั้นราว
พ.ศ.2444ได้ตั้งวงขึ้นเพื่อสำหรับใช้บรรเลงประกอบกิจการ
ทหารจึงเรียกว่า “โยธวาทิต” โดยสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระ
นครสวรรค์วรพินิจ ก่อนหน้าหน้านั้นเรียกว่าแตรวงหรือแก
รวง แต่แตรวงจะเข้ามาในเมืองไทยปีใดนั้น ไม่เป็นที่
ประจักษ์แน่ชัด เท่าที่ค้นพบก็ราว พ.ศ. 2394 มีแตรวงของ
ทหารฝรั่งเข้ามาในเมืองไทยต่อมาใน พ.ศ.2141พระบาท
สมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่5เสด็จฯ
ประพาสเมืองชวา ทรงพระราชดำริว่า ควรมีการแต่งเพลง
ประจำชาติ ในที่สุดก็ได้เพลงสรรเสริญพระบารมีบรรเลง
โดยวงโยธวาทิต
วงโยธวาทิตนิยมใช้บรรเลงในกองทหารต่างๆ เพื่อ
ประกอบกิจกรรมของหาร เมื่อมีการแข่งขันกีฬาเพื่อความ
สามัคคีของกลุ่มต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นทหาร ข้าราชการ
นักเรียน ฯลฯ ให้เกิดการรวมพลังในระยะแรกๆ ก็เรียกทับ
ศัพท์ว่า วงพาเหรด
ในปัจจุบันสถานศึกษาเริ่มนิยมลักษณะการจัดการจัด
แบบวงโยธวาทิตกันมาก โดยเฉพาะในโรงเรียนระดับ
มัธยมศึกษานิยมมาก และมักจะมีการประกวดแข่งขัน
ดนตรีประเภทนี้ได้แพร่ขยายเข้าไปในโรงเรียนระดับ
ประถมศึกษาก็มีอยู่มากเช่นกัน แต่การจัดวงดนตรีจะแตก
ต่างกันออกไป เพราะเด็กระดับมัธยมกับระดับประถม
ศึกษา มีความสามารถเฉพาะตัวจำกัด
6
วงโยธวาทิตในต่างประเทศ
สหรัฐอเมริกาใช้คำว่า Marching Band ซึ่งไม่ว่าราก
ศัพท์จากภาษาต่างประเทศจะกล่าวอย่างไรแต่ใน
ประเทศไทยเรียกว่าวงโยธวาทิต ที่ผสมวงโดยมีเครื่อง
ดนตรีหลัก 3 กลุ่ม คือ
1. กลุ่มเครื่องลมไม้ (Woodwind Instruments
2. กลุ่มเครื่องทองเหลือง (Brass Instruments)
3. กลุ่มเครื่องกระทบ (Percussion Instruments)
แต่เดิมนั้น คำว่า Band จะใช้เรียกวงดนตรีที่มีลักษณะ
เฉพาะของ พระเจ้าชาร์ลที่ 2 ซึ่งในสมัยนั้นจะหมายถึงวง
ดนตรีที่มีขนาดใหญ่ ในปัจจุบันเราใช้คำว่า Band ต่อท้าย
วงดนตรีที่มีลักษณะการผสมเครื่องดนตรีในรูปแบบต่างๆ
กัน เช่น Wind Band, Military Band, Concert Band,
Symphonic Band, หรือ Jazz Band เป็นต้น ตามราก
ศัพท์เดิม Banda นั้น หมายถึง วงดนตรีที่ประกอบด้วย
กลุ่มเครื่องทองเหลือง และเครื่องกระทบ
7
ตามหลักฐานที่ปรากฏชาวโรมันชาวยิว ใช้แตรทรัมเป็ต
เป็นเครื่องดนตรีประกอบกิจกรรมการทหารในราวคริสต์
ศตวรรษที่ 11 ประมาณ พ.ศ.1007 – 1107แตรที่ทำด้วย
เขาสัตว์ แต่ทรัมเป็ตเป็นขลุ่ย (Pipe) กลอง ฉาบ ใช้ใน
สงครามระหว่างแขกมุสลิมซราเซนซึ่งอาศัยอยู่ในแถบ
ตะวันออก กับกลุ่มที่นับถือศาสนาคริสต์ที่อาศัยอยู่ในแถบ
ยุโรป ในประเทศสก็อตแลนด์ ขลุ่ยประเภทเดียวกันนี้ใ
ช้เป่าปลุกใจทหารในระหว่าง พ.ศ.1407 – 1507รูปแบบ
การจัดวงเริ่มมีแนวนิยมคือทรัมเป็ตและกลอง ลักษณะการ
จัดวงแบนนี้จึงเป็นสัญลักษณ์เฉพาะของทหารสาหรับใน
ซีกโลกแถบตะวันออกเท่านั้น
หลังจากสมัยโรมันและสงครามครูเสดวงโยธวาทิตได้
ซบเซาลง และมากระเตื้องขึ้นอีกกครั้งในราวต้นพุทธ
ศตวรรษที่ 23 (ประมาณ พ.ศ.2250) เมื่อพระเจ้าหลุยส์ที่
14แห่งฝรั่งเศส (1638 – 1715) โปรดให้ลุลลี (Luli) จัดตั้งวง
ขึ้นประกอบด้วยโอโบ บาสซูนและกลอง
8
ในขณะนั้นพระเจ้าแฟรเดริกที่ 2 แห่งรัสเซีย พ.ศ.
2255-2329 ผู้ทรงบารมีพระทัยรักดนตรีและทรงเป็นนัก
เป่าฟลุท ได้ตั้งวงโยธวาทิตขึ้นใน พ.ศ.2306 ซึ่งประกอบ
ด้วยโอโบ 2เลา ฮอร์น 2 คัน บาสซูน2เลา และกลอง ครั้น
มาถึงระหว่างต้นถึงกลางพุทธศวรรษที่ 24
นักดนตรีชาวยุโรปต่างพากันสนใจดนตรีตรุกีเป็นอันมาก
ราวๆพ.ศ.2343วงโยธวาทิต ของชาวตรุกีประกอบด้วย
เครื่องประกอบจังหวะเพิ่มขึ้น เช่นฉาบเหล็กสามเหลี่ยม
กลอดเค็นสปีนหรือที่รู้จักกันในนามนิ๊งหน่อง และเครื่อง
ดนตรีเครื่องเคาะตรุกีเครเชนท์ส่วนวงโยธวาทิต
ขิงพระเจ้านโปเลียนนั้นได้เพิ่มปิคโคโก 1 เลา คลาริเน็ต
เสียงสูง 1 เลา คลาริเน็ตธรรมดา 16 เลา บาสซูน 4 เลา
ทรอมโบน 3 คัน กลองเล็ก 2 ใบ กลองใหญ่ 1 ใบ เหล็ก
สามเหลี่ยม 1 อัน ฉาบ 1 คู่ และเครื่องเคาะตุรกีเครเซนท์ 1 คู่
9
เหตุการณ์ที่สำคัญๆสำหรับวงโยธวาทิต คือ
เมื่อวันที่ 12พฤษภาคม 1838 วงโยธวาทิต ปรัสเซีย
บรรเลงต้อนรับจักรพรรดิรัสเซียที่กรุงเบอร์ลิน โดยมีวง
ดนตรีที่ประกอบไปด้วยเครื่องเป่า 1,000คน กลอง 200คน
และใน พ.ศ. 2309 อดอล์ฟแซกซ์ นักประดิษฐ์ชาวเบลเยี่ยม
ซึ่งเป็นผู้ควบคุมวงโยธวาทิตของฝรั่งเศส ได้นาเอาเครื่อง
ดนตรีประเภทที่เขาคิดค้นและประดิษฐ์ขึ้น คือแซกโซโฟน
และแตรตระกูลฮอร์นมาใช้บรรเลงในวง ในประเทศ
สหรัฐอเมริกานั้นเริ่มใช้วงโยธวาทิตราว พ.ศ.2318 (1775)
ที่เมืองฟอร์ททิดอน เดอโรกา โดยใช้กลองและขลุ่ยผิว
บรรเลงเป็นสัญญาณเรียวแถว การพัฒนาวงโยธวาทิต
เจริญสูงสุดในสมันนั้นของแพทริกเอส.กิลเมอร์และ5 จอห์น
ฟิลิปซูซา ทั้งสองคนเป็นผู้อานวยการวงดนตรีอีกทั้งยังได้
เป็นนักจัดรายการดนตรีที่มีผลงานในการแพร่วงโยธวาทิต
เป็นอย่างมากโดยเฉพาะซูซาได้ประพันธ์เพลงมาร์ชให้กับ
วงโยธวทิต จนได้รับการสดุดีว่าเป็นราชาแห่งเพลงมาร์ช
(THE KING OF MARCH)
10
ประเภทของเครื่องดนตรี
ในวงโยธวาทิต
วงโยธวาทิตเป็นวงดนตรีที่ประกอบด้วยเครื่องเป้าและมี
เครื่องประกอบจังหวะ เข้าเสริมเพื่อควบคุมจังหวะ จึงเป็นวงตน
ตรีที่เหมาะสมสำหรับการเดินสวนสนามของทหาร การเดิน
พาเหรดของนักกี่ฬา เพราะเสียงดนตรีที่ทุกคนได้ยินจะทำให้เกิด
ความเข็มแข็ง เต็มเปี่ ยมไปด้วยพลัง ปลุกเร้าให้ทุกคนมีความ
ฮึกเหิมที่จะต่อสู้และแสดงถึงความเป็นระเบียบ
ประเภทของเครื่องดนตรีในวงโยธวาทิต ประกอบด้วยเครื่อง
ดนตรี 3 ประเภท
1. เครื่องเป่าหรือเครื่องลมที่ทำด้วยไม้(Woodwind Instruments)
⦁ พิคโคโล่(piccolo) ⦁ โอโบ(Oboe)
⦁ บาสซูน(Bassoon) ⦁ คลาริเน็ต(Clarinet)
⦁ อัลโตแซกโซโฟน(Alto Saxophone) ⦁ เทเนอร์แซกโซโฟน(Tenor Saxophone)
⦁ บาริโทนแซกโซโฟน(Baritone Saxophone ) ⦁ ฟลู้ต(Flute)
⦁ อัลโตคลาริเน็ต(Alto Clarinet)
2. เครื่องเป่าที่ทำด้วยทอง 3.เครื่องประกอจังหวะ
เหลือง(Brass Instruments) (Percussion Instruments)
⦁ คอร์เน็ต(Cornet) ⦁ กลองเล็ก
⦁ ทรอมโบน(Trombone) (Snare drum or side drum)
⦁ เฟรนซ์ฮอร์น(French Horn) ⦁ กลองเทเนอร์(Tenor drum)
⦁ กลองใหญ่(Bass drum) ⦁
⦁ บาริโทน(Baritone)
⦁ ยูโฟเนียม(Euphonium) ฉาบ(Cymbals)
⦁ ไซโลโฟน(Xylophone )
⦁ ทูบา(Tuba) ⦁ กลอคเคิ่นสปีล(Glockenspiel)
⦁ ซูซาโฟน(Susaphone) ⦁ ทรัยแองเกิ้ล(Triangle)
⦁ กลองทอมบา(Tomba)
⦁ กลองทิมปานี(Timpani)
11
เครื่องเป่าหรือเครื่องลมที่ทำด้วยไม้
(Woodwind Instruments)
12
พิคโคโล่ (piccolo)
โอโบ (Oboe)
13
บาสซูน (Bassoon)
คลาริเน็ต (Clarinet)
14
อัลโตแซกโซโฟน (Alto Saxophone)
เทเนอร์แซกโซโฟน (Tenor Saxophone)
15
บาริโทนแซกโซโฟน (Baritone Saxophone )
ฟลู้ต (Flute)
อัลโตคลาริเน็ต
(Alto Clarinet)
16
เครื่องเป่าที่ทำด้วยทองเหลือง
(Brass Instruments)
17
คอร์เน็ต (Cornet)
ทรอมโบน (Trombone)
18
เฟรนซ์ฮอร์น (French Horn)
บาริโทน (Baritone)
20
ยูโฟเนียม(Euphonium)
ทูบา (Tuba) ซูซาโฟน
(Susaphone)
21
เครื่องประกอบจังหวะ
(Percussion Instruments)
22
กลองเล็ก (Snare drum or side drum)
กลองเทเนอร์ (Tenor drum)
23
กลองใหญ่ (Bass drum)
ฉาบ (Cymbals)
24
ไซโลโฟน (Xylophone )
กลอคเคิ่นสปีล (Glockenspiel)
25
ทรัยแองเกิ้ล (Triangle)
กลองทอมบา (Tomba)
กลองทิมปานี(Timpani)
เอกสารอ้างอิง
https://sites.google.com/site/athitnuk/prawati-
wng-yo-th-wathit
http://marchingbang.blogspot.com/2012/01/blog
-post.html
http://degyo.blogspot.com/p/blog-page_81.html
หนังสือ แนวทางการจัดประกวดวงโยธวาทิต
ภาคผนวก
ภาพที่ 1 พระเจนดุริยางค์ ภาพที่ 2 พระเจนดุริยางค์
ภาพที่ 3 วงโยธวาทิตในต่างประเทศ
ภาพที่ 4 พระเจ้าหลุยส์ที่ 14แห่งฝรั่งเศส
ภาพที่ 5 พระเจ้าแฟรเดริกที่ 2 แห่งรัสเซีย
ภาพที่ 6 จอห์น ฟิลิปซูซา
ภาพ เครื่องเป่าหรือเครื่องลมที่ทำด้วยไม้
ภาพ เครื่องเป่าที่ทำด้วยทองเหลือง
ภาพ เครื่องประกอบจังหวะ