The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

การศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนในการผลิตคอนเฟลกคาราเมลเพื่อจำหน่าย

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by S pooh, 2023-09-18 02:44:47

การศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนในการผลิตคอนเฟลกคาราเมลเพื่อจำหน่าย

การศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนในการผลิตคอนเฟลกคาราเมลเพื่อจำหน่าย

การศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนในการผลิตคอนเฟลกคาราเมลเพื่อจำหน่าย นางสาวกุลิสรา พุ่มเจริญ รหัสประจำตัว 63202011102 นายซิตษณุพงษ์รอดหลำ รหัสประจำตัว 63202011110 นางสาวณิชาพร ขันทอง รหัสประจำตัว 63202011113 ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ สาขาวิชา การบัญชี สาขางาน การบัญชี ห้อง 1 ครูที่ปรึกษา นางสาวจารุณี จุลบุตร วิทยาลัยเทคนิคพิจิตร อาชีวศึกษาจังหวัดพิจิตร สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565


ใบรับรองโครงงาน รายวิชา โครงงาน รหัสวิชา 20201-8501 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 ชื่อโครงงาน การศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนในการผลิตคอนเฟลกคาราเมลเพื่อจำหน่าย ผู้รับผิดชอบโครงงาน 1. นางสาวกุลิสรา พุ่มเจริญ รหัสประจำตัว 63202011102 2. นายซิตษณุพงษ์ รอดหลำ รหัสประจำตัว 63202011110 3. นางสาวณิชาพร ขันทอง รหัสประจำตัว 63202011113 ครูที่ปรึกษา นางสาวจารุณี จุลบุตร ปีการศึกษา 2565 ได้รับอนุมัติให้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษารายวิชาโครงงาน สาขาวิชา การบัญชี หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ พุทธศักราช 2562 คณะกรรมการสอบโครงงาน ลงชื่อ..............................................ประธาน (นางสาวจารุณี จุลบุตร) ลงชื่อ..............................................กรรมการ (นางสาวกรรัตน์ คำดา) ลงชื่อ..............................................กรรมการและเลขานุการ (นางสาวอรวลัญช์ น้อยสมวงษ์) ลงชื่อ..............................................หัวหน้าแผนกวิชาการบัญชี (นางสกาวรัตน์ บุญศิลป์) ลงชื่อ..............................................รองผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการ (นายอิศรา อยู่ยิ่ง) ลงชื่อ..............................................ผู้อำนวยการวิทยาลัย (นายชัยณรงค์ คัชมาตย์)


ก ชื่อผลงาน : การศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนในการผลิตคอนเฟลกคาราเมลเพื่อจำหน่าย ผู้จัดทำ : 1. นางสาวกุลิสรา พุ่มเจริญ 2. นายซิตษณุพงษ์ รอดหลำ 3. นางสาวณิชาพร ขันทอง ครูที่ปรึกษา : นางสาวจารุณี จุลบุตร สาขาวิชา : การบัญชี สาขางาน : การบัญชี ปีการศึกษา : 2565 บทคัดย่อ ในการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ของการวิจัย คือ 1. เพื่อศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนจากการทำคอนเฟลกคาราเมล 2. เพื่อศึกษาถึงผลกำไรขาดทุนจากการทำคอนเฟลกคาราเมล 3. เพื่อศึกษาความพึงพอใจของผู้บริโภคที่มีต่อการบริโภคคอนเฟลกคาราเมล โดยมีสมมติฐานในการวิจัย คือ ประชากรที่ใช้ในการศึกษาทำโครงงานผลิตคอนเฟลก เพื่อจำหน่าย กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ประกอบด้วย นักเรียน นักศึกษา แผนกวิชาการบัญชี วิทยาลัยเทคนิคพิจิตร จำนวน 50 คน กำหนดกลุ่มตัวอย่างโดยเลือกจากนักเรียน นักศึกษา ที่สนใจ คอนเฟลกคาราเมล เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรม การบริโภคคอนเฟลกคาราเมลของผู้บริโภค ค่าสถิติที่ใช้ในการวิจัย คือ วิเคราะห์ข้อมูล โดยใช้สถิติ พื้นฐาน การแจกแจงความถี่ และค่าร้อยละ ผลการวิจัยมีดังนี้ 1. ต้นุทนที่ใช้ในการผลิตคอนเฟลกคาราเมลเฉลี่ย 35.74 บาทต่อกระปุก 2. ค่าใช้จ่ายที่ใช้ในการผลิตคอนเฟลกคาราเมล 8.24 บาทต่อกระปุก 3. ความพึงพอใจในการบริโภคคอนเฟลกคาราเมล ในภาพรวมอยู่ในระดับพึงพอใจมากและ เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด 3 อันดับแรกได้แก่ 1. ปัจจัยด้านบุคคลและการ ส่งเสริมการขาย 2. ปัจจัยด้านผลิตภัณฑ์ 3. ปัจจัยด้านราคา


ข กิตติกรรมประกาศ การจัดทำโครงงานครั้งนี้ สำเร็จลุล่วงได้เป็นอย่างดีด้วยความอนุเคราะห์และความกรุณาให้ คำปรึกษา ตั้งแต่ต้นจจนเสร็จสมบูรณ์ ตลอดจนให้ความรู้และประสบการณ์ที่ดีให้แก่ข้าพเจ้าจาก นางสาวอรวลัญช์ น้อยสมวงษ์ ครูผู้สอนวิชาโครงงาน ผู้จัดทำโครงงานขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูง มา ณ โอกาสนี้ ขอกราบขอบพระคุณ นางสาวจารุณี จุลบุตร ครูที่ปรึกษาโครงงาน ที่ได้กรุณาให้ คำแนะนำ และให้คำปรึกษามาตลอดจนให้ความช่วยเหลือแก้ไขข้อบกพร่องต่าง ๆ เพื่อให้จัดทำ โครงงานฉบับนี้ให้มีความสมบูรณ์ ผู้จัดทำโครงงานขอขอบพระคุณคณะครูอาจารย์ทุกท่านที่ได้ ประสิทธิ์ประสาทวิชา บ่มเพราะจนผู้ศึกษาสามารถนำเอาหลักการมาประยุกต์ใช้และอ้างอิงในการ จัดทำโครงงานครั้งนี้ อีกทั้ง บิดา มารดา ญาติ พี่น้องและเพื่อน ๆ ของผู้จัดทำโครงงาน ซี่งให้กำลังใจและความช่วยเหลือมาโดยตลอด คุณค่าอันพึงมีจากการศึกษาค้นคว้าวิจัยอิสระฉบับนี้ ขอมอบเพื่อบูชาคุณบิดา มารดา ครูอาจารย์ และผู้มีพระคุณทุกท่าน กุลิสรา พุ่มเจริญ ซิตษณุพงศ์ รอดหลำ ณิชาพร ขันทอง


ค สารบัญ หน้า บทคัดย่อ ก กิตติกรรมประกาศ ข สารบัญ ค สารบัญตาราง ง สารบัญภาพ จ บทที่ 1. บทนำ 1.1 ความสำคัญของโครงงาน/หลักการและเหตุผล 1 1.2 วัตถุประสงค์ในการศึกษา 2 1.3 ขอบเขตในการศึกษา 2 1.4 นิยามศัพท์เฉพาะ 3 2. เอกสารงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง 2.1 หลักการแนวคิดเกี่ยวกับต้นทุน 4 2.2 หลักการแนวคิดเกี่ยวกับผลตอบแทน 10 2.3 เอกสารงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง 11 2.4 กรอบแนวคิดในการจัดทำโครงงาน 15 3. วิธีการดำเนินงาน 3.1 กลุ่มเป้าหมายในการศึกษา 16 3.2 เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา 16 3.3 วิธีการดำเนินการศึกษา 16 3.4 การเก็บรวบรวมข้อมูล 17 3.5 การวิเคราะห์ข้อมูล 17 3.6 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล 17


ค สารบัญ (ต่อ) หน้า 4. ผลการวิเคราะห์ข้อมูล 4.1 ข้อมูลต้นทุนและผลตอบแทนในการผลิตคอนเฟลกคาราเมล 18 4.2 ข้อมูลสภาพทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม 23 4.3 ข้อมูลปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมการบริโภคคอนเฟลกคาราเมล 25 4.4 ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการผลิตคอนเฟลกคาราเมล 26 5. สรุป อภิปรายผลและข้อเสนอแนะ 5.1 สรุปผลการศึกษา 27 5.2 อภิปรายผล 28 5.3 ข้อเสนอแนะ 29 บรรณานุกรม 30 ภาคผนวก ภาคผนวก ก เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาแบบสอบถามความคิดเห็น 34 เกี่ยวกับปัจจัยที่มีผลต่อผู้สนใจคอนเฟลกคาราเมล ภาคผนวก ข แบบเสนอหัวข้อและเค้าโครง โครงงานศึกษาต้นทุนและ 40 ผลตอบแทนในการผลิตคอนเฟลกคาราเมลเพื่อการจำหน่าย ภาคผนวก ค แสดงภาพการลงพื้นที่เก็บข้อมูล ความคิดเห็นเกี่ยวกับปัจจัย 47 ที่มีผลต่อพฤติกรรมการบริโภคคอนเฟลกคาราเมล ภาคผนวก ง บัญชี การศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนในการผลิต 55 คอนเฟลกคาราเมลเพื่อการจำหน่าย ภาคผนวก จ แสดงภาพการพบครูผู้สอนและครูที่ปรึกษาโครงงาน 69 ประวัติผู้จัดทำโครงงาน 62


ง สารบัญตาราง ตารางที่ หน้า ตารางที่ 4.1.1 แสดงการแบ่งประเภทต้นทุนที่ทำการศึกษา 18 ตารางที่ 4.1.2 แสดงต้นทุนค่าวัตถุดิบในการผลิตคอนเฟลกคาราเมล 19 ตารางที่ 4.1.3 แสดงต้นทุนค่าแรงงานในการผลิตคอนเฟลกคาราเมล 19 ตารางที่ 4.1.4 แสดงต้นทุนค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปาที่ใช้ในการผลิต 20 คอนเฟลกคาราเมล ตารางที่ 4.1.5 แสดงต้นทุนค่ารถและค่าเดินทางที่ใช้ในการผลิต 20 คอนเฟลกคาราเมล ตารางที่ 4.1.6 แสดงข้อมูลสินทรัพย์ และค่าเสื่อมอุปกรณ์ 20 ตารางที่ 4.1.7 แสดงข้อมูลต้นทุนค่าใช้จ่ายในการผลิต 21 ตารางที่ 4.1.8 แสดงข้อมูลในการผลิตคอนเฟลกคาราเมล 21 ตารางที่ 4.1.9 แสดงต้นทุนของราคาขายต่อกระปุกของผลิตภัณฑ์ 22 คอนเฟลกคาราเมล ตารางที่ 4.1.10 แสดงกำไรขั้นต้นจากการผลิตคอนเฟลกคาราเมลต่อกระปุก 22 ตารางที่ 4.1.11 แสดงการคำนวณหาอัตราผลตอบแทนจากการผลิต 23 คอนเฟลกคาราเมล ตารางที่ 4.2.1 แสดงจำนวนและค่าร้อยละของสภาพทั่วไปของ 23 ผู้ตอบแบบสอบถาม ตารางที่ 4.2.2 แสดงจำนวนและค่าร้อยละของเพศทั่วไปของ 24 ผู้ตอบแบบสอบถาม ตารางที่ 4.2.3 แสดงจำนวนและค่าร้อยละของอายุและผู้ตอบแบบสอบถาม 24 ตารางที่ 4.2.4 แสดงจำนวนและค่าร้อยละของอาชีพผู้ตอบแบบสอบถาม 24 ตารางที่ 4.3 แสดงว่าค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 25 ความคิดเห็นบริโภคเกี่ยวกับปัจจัยที่มีผลต่อการบริโภค คอนเฟลกคาราเมล ตารางที่ 4.4 ข้อมูลเกี่ยวกับการผลิตคอนเฟลกคาราเมล 26


จ สารบัญภาพ ภาพที่ หน้า 1. แสดงแนวคิดในการจัดทำโครงงาน 15 2. ภาพการส่งเว็บไซต์ให้นักศึกษาตอบแบบสอบถามออนไลน์ 34 3. ภาพการส่งเว็บไซต์ให้นักศึกษาตอบแบบสอบถามออนไลน์ 34 4. วัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตคอนเฟลกคาราเมล 48 5. อุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิตคอนเฟลกคาราเมล 48 6. วิธีการทำที่ 1 49 7. วิธีการทำที่ 2 49 8. วิธีการทำที่ 3 50 9. วิธีการทำที่ 4 50 10. วิธีการทำที่ 5 51 11. วิธีการทำที่ 6 51 12. วิธีการทำที่ 7 52 13. วิธีการทำที่ 8 52 14. นำคอนเฟลกใส่บรรจุภัณฑ์ 53 15. นำคอนเฟลกใส่บรรจุภัณฑ์เรียบร้อย 53 16. ภาพการจำหน่ายสินค้า 54 17. ภาพการจำหน่ายสินค้า 54 18. ภาพการจำหน่ายสินค้า 55 19. ภาพการจำหน่ายสินค้า 55 20. ภาพพบครูวิชาโครงงาน วันที่ 22 พฤศจิกายน 2565 70 21. ภาพพบครูวิชาโครงงาน วันที่ 22 พฤศจิกายน 2565 70 22. ภาพพบครูที่ปรึกษา วันที่ 23 พฤศจิกายน 2565 71 23. ภาพพบครูที่ปรึกษา วันที่ 23 พฤศจิกายน 2565 71


บทที่ 1 บทนำ 1.1 ความเป็นมาและความสำคัญ คอนเฟลกมีต้นกำเนิดมาจากกรุ๊ปศาสนาเซเวนธ์เดย์ แอดเวนติสต์ ที่อยากกินของมังสวิรัติ จำพวกใหม่ จึงทดสอบนำเมล็ดพืชหลายแบบมาทำดูยกตัวอย่างเช่น ข้าวสาลี ข้าวโอ๊ต ข้าวบาร์เลย์ ในปี ค.ศ.1894 ดร.จอห์น ฮาร์วีย์ เคลล็อกก์ (Dr.John Harvey Kellogg) แพทย์ในเมืองมิชิแกน แล้วก็สมาชิกกรุ๊ปแอดแวนทิสต์ได้นำเมล็ดพืชต่าง ๆ มาทำเป็นของกินให้ผู้ป่วย โดยไม่ใส่แอลกอฮอล์ คาเฟอีน รวมทั้งสารยาสูบ ปรากฏว่าเป็นของกินที่มีคุณประโยชน์ก็จริงแต่ว่ารสจืดจางมากมาย สมาชิก คนหนึ่งซึ่งเป็นคนอบขนมปังกรอบ รวมทั้งเคลล็อกก์ ก็เลยมีความคิดว่าจำต้องเพิ่มเติมรสให้อาหาร จำพวกนี้มีรสชาติให้ได้ความมากยิ่งกว่านี้แต่ว่าระหว่างนั้น เคลล็อกก์ รวมทั้ง วิล คีธ เคลล็อกก์ น้องชายบังเอิญลืมเมล็ดข้าวสาลีไว้บนเตา เมื่อกลับมาพบว่าเมล็ดข้าวสาลีเหี่ยวย่นไปแล้ว ด้วยความ เสียดายก็เลยยัดใส่ลงไปในเครื่องบดหวังยืดให้เป็นแผ่น ปรากฏว่าเมล็ดข้าวได้แปลงเป็นราวกับเกล็ดปิ้ง แล้วรสดียิ่งขึ้นต่อมาได้มีการเพิ่มเติมน้ำตาล งา คาราเมลแล้วก็ผลไม้จำพวกเบอร์รี่ต่าง ๆ ลงไปในคอน เฟลกเพื่อเพิ่มรสชาติและสารอาหารเพิ่มมากขึ้น คอนเฟลก อัลมอนด์ เมล็ดฟักทองอบสุก งาขาวอบสุก ลูกเกดดำ โดยวัตถุดิบเหล่านี้ จะนำไปอบกับคาราเมล ซึ่งคาราเมลก็จะประกอบไปด้วย เนยสดเค็ม น้ำตาลทราย นมข้นจืด และเกลือ คอนเฟลกเป็นขนมหวานที่อุดมไปด้วยวิตามิน ไฟเบอร์ แร่ธาตุ และใยอาหาร ซึ่งมาจากธัญพืชแบบเต็มเมล็ด (โฮเกรน) ที่อุดมด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ครบถ้วน ข้อดีของคอนเฟลกคาราเมล คือ ทำง่ายขั้นตอนไม่ยุ่งยากและสามารถดัดแปลงทำขายเพื่อเป็นการสร้าง รายได้เสริมได้อีกด้วย ในปัจจุบันเราจะเห็นได้ว่าคนไทยในสมัยนี้นิยมรับวัฒนธรรมอาหารการกินของชาวต่างชาติเข้า มาอย่างแพร่หลาย เช่น คอนเฟลกคาราเมลที่เป็นที่ชื่นชอบของชาวสาวกขนมหวานหรือขนมขบเคี้ยว เป็นอย่างมาก ซึ่งคอนเฟลกคาราเมลจะมีรสชาติหวาน กรุบกรอบจากเนื้อคอนเฟลกและถั่วต่าง ๆ ผู้คน ส่วนใหญ่มักรับประทานเป็นอาหารว่างระหว่างวัน สามารถรับประทานได้เรื่อย ๆ แต่มีราคาค่อนข้างสูง และอาจจะหวานเกินไปสำหรับผู้ที่กำลังลดความอ้วน ผู้ที่เป็นเบาหวาน หรือผู้บริโภคที่ไม่ชอบ รับประทานหวาน


2 จากปัญหาดังกล่าวคณะผู้จัดทำมีความสนใจและมองเห็นช่องทางธุรกิจที่จะทำธุรกิจคอนเฟลก เพื่อศึกษาต้นทุน ผลตอบแทนในการทำคอนเฟลกคาราเมล และความพึงพอใจของผู้บริโภค ดังนั้นใน การศึกษาครั้งนี้จึงมุ่งหวังที่จะศึกษาความเป็นไปได้ของโครงงานเป็นแนวทางในการวางกลยุทธ์ทาง การตลาดให้เหมาะสมความพึงพอใจและพฤติกรรมของผู้บริโภคในการศึกษาครั้งนี้จะให้ความสำคัญ กับปัจจัยเหล่านี้เป็นหลัก เพราะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจเลือกทานอีกด้วย 1.2 วัตถุประสงค์การศึกษา 1.2.1 เพื่อศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนจากการทำคอนเฟลกคาราเมล 1.2.2 เพื่อศึกษาถึงผลกำไรขาดทุนจากการทำคอนเฟลกคาราเมล 1.2.3 เพื่อศึกษาความพึงพอใจของผู้บริโภคที่มีต่อการบริโภคคอนเฟลกคาราเมล 1.3 ขอบเขตของโครงงาน 1.3.1 ด้านตัวแปร - 1.3.2 ด้านเนื้อหา การวิจัยครั้งนี้เป็นการศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนในการทำคอนเฟลกคาราเมล ดังนี้ 1) ศึกษาต้นทุนการผลิตคอนเฟลกคาราเมลตั้งแต่ขั้นตอนการเตรียมการทำ จนไปถึงขั้นตอนการจัดจำหน่าย และวิเคราะห์โครงสร้างต้นทุนในการ ทำคอนเฟลกคาราเมล 2) ศึกษาผลตอบแทนที่ได้รับจากการลงทุนทำคอนเฟลกคาราเมล 1.3.3 ด้านเวลา ตุลาคม 2565 - กุมภาพันธ์ 2566 1.3.4 แบบร่าง (ถ้ามี) -


3 1.4 นิยามศัพท์เฉพาะ ต้นทุน หมายถึง ต้นทุนทั้งสิ้นที่ใช้ในการซื้อคอนเฟลกและถั่วต่าง ๆ มาแปรรูปให้เป็น คอนเฟลกคาราเมลเพื่อจำหน่าย ผลตอบแทน หมายถึง อัตรากำไรต่อทุน อัตรากำไรต่อยอดขาย อัตราผลตอบแทนจาก เงินลงทุนและอัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์


บทที่ 2 เอกสารงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง การศึกษาในครั้งนี้ เป็นการศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนในการผลิตคอนเฟลกคาราเมล เพื่อจำหน่าย ผู้จัดทำได้ศึกษาหลักการ แนวคิด ทฤษฎีและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องดังนี้ 2.1 หลักการแนวคิดเกี่ยวกับต้นทุน 2.2 หลักการแนวคิดและผลตอบแทน 2.3 งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง 2.4 กรอบแนวคิดในการศึกษา 2.1 หลักการแนวคิดเกี่ยวกับต้นทุน ต้นทุนมีความหมายสำหรับฝ่ายบริหารเป็นอย่างยิ่งในการตัดสินใจเกี่ยวกับการผลิตหรือการซื้อสินค้า การกำหนดราคาขาย การยกเลิกผลิตภัณฑ์ การเลือกกรรมวิธีการผลิต และประเภทสินค้าดังนั้นข้อมูล เกี่ยวกับต้นทุนสินค้าจะต้องแสดงต้นทุนอย่างละเอียด จึงจะช่วยผู้บริหารให้สามารถวิเคราะห์ทางเลือก ต่าง ๆ ได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพสูงสุด 2.1.1 ความหมายของต้นทุน ดวงมณี โกมารทัต ให้ความหมายการบัญชีต้นทุน (Cost Accounting) เป็นการบัญชีที่ บันทึกและจัดทำรายงานการวัดค่าของต้นทุนในการผลิตสินค้าและการให้บริการ ขอบเขตงานของการ บัญชีต้นทุนจึง ได้แก่ การรวบรวมข้อมูลต้นทุน บันทึกแยกประเภท แบ่งสรร หรือ ปันส่วน สะสม และจัดทำรายงาน เกี่ยวกับต้นทุนในลักษณะต่าง ๆ ตามความประสงค์ของฝ่ายจัดการ สมนึก เอื้อจิระพงษ์พันธ์ ให้ความหมายการบัญชีต้นทุน (Cost Accounting) จัดเป็นวิธีการ ทางบัญชีที่จะทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลทางด้านต้นทุนของธุรกิจ ประเภทอุตสาหกรรม โดยมีวัตถุประสงค์ พื้นฐานในการจัดทำรายงานทางการเงิน ตลอดจนวิเคราและจำแนกข้อมูลเพื่อใช้ในการบริหารต้นทุน (Cost Management) ตามความต้องการของผู้บริหาร


5 คณะอนุกรรมการบัญญัติศัพท์บัญชีได้ให้คำนิยาม ของการบัญชีต้นทุน (Cost Accounting) ไว้ว่า การบัญชีต้นทุน เป็นสาขาหนึ่งของการบัญชีเกี่ยวกับการจำแนก การบันทึก การปันส่วน การสรุป และ การรายงาน การประมาณการต้นทุนหรือต้นทุนที่คาดไว้ และยังรวมถึงวิธีการออกแบบ จัดระบบ ต้นทุนการแบ่งแยกต้นทุน การเปรียบเทียบต้นทุน และการเสนอให้ความหมายของข้อมูลแก่ผู้บริหาร เพื่อใช้เป็นำเครื่องช่วยในการควบคุม การปฏิบัติงานทั้งในปัจจุบันจนถึงอนาคตข้างหน้า สรุป “การบัญชีต้นทุน” หมายถึง การบัญชีที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับการสะสม รวบรวม จำแนก วิเคราะห์และจัดระบบข้อมูลด้านต้นทุน ทั้งที่เกดขึ้นในอดีต ปัจจุบัน รวมทั้งการคาดการณ์ ต้นทุนที่ คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต 2.1.2 การจำแนกประเภทของต้นทุน ต้นทุนต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจะมีความแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของการนำต้นทุนไปใช้ของ ฝ่ายบริการ ต้นทุนมีความหมายกว้างและครอบคลุมไปถึงการตัดสินใจของผู้บริหารในด้านต่าง ๆ และมี มากมายหลายชนิด และแต่ละชนิดจะให้ความหมายที่แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับผู้บริหารให้ทำการตัดสินใจ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้น ต้นทุนที่เกิดขึ้นสามารถจำแนกประเภทต้นทุนตามวัตถุประสงค์ที่จะ นำไปใช้ได้หลายประการ คือ 2.1.3 การจำแนกต้นทุนตามลักษณะส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ ส่วนประกอบของต้นทุนที่ใช้ในการผลิตสินค้าหรือผลิตภัณฑ์แต่ละชนิด ( Cost of a Manufactured Product) จะประกอบด้วยวัตถุดิบทางตรง ค่าแรงงานทางตรง และค่าใช้จ่ายการผลิต ซึ่งถ้าพิจารณาในด้านทรัพยากรที่เป็นส่วนประกอบของสินค้าแล้ว ประกอบด้วย 1) วัตถุดิบ (Materials) วัตถุดิบนับว่าเป็นส่วนประกอบสำคัญของการผลิตสินค้าหรือ ผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปโดยทั่วไป ซึ่งต้นทุนที่เกี่ยวกับการใช้วัตถุดิบในการผลิตสินค้าอาจจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ คือ 1.1 วัตถุดิบทางตรง (Direct materials) หมายถึง วัตถุดิบหลักที่ใช้ในการผลิต และสามารถระบุได้อย่างชัดเจนว่าใช้ในการผลิตสินค้าชนิดใดชนิดหนึ่งในปริมาณและต้นทุนเท่าใด รวมทั้งจัดเป็นวัตถุดิบส่วนใหญ่ที่ใช้ในการผลิตสินค้าชนิดนั้น ๆ เช่น ไม้แปรรูปจัดเป็นวัตถุดิบทางตรงของ การผลิตเฟอร์นิเจอร์ ผ้าที่ใช้ในอุตสาหกรรมเสื้อผ้า ยางดิบที่ใช้ในการผลิตยางรถยนต์ แร่เหล็กที่ใช้ใน อุตสาหกรรมถลุงเหล็ก กระดาษที่ใช้ในธุรกิจสิ่งพิมพ์ เป็นต้น 1.2 วัตถุดิบทางอ้อม (Indirect materials) หมายถึง วัตถุดิบต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยทางอ้อมกับการผลิตสินค้า แต่ไม่ใช่วัตถุดิบหลักหรือวัตถุดิบส่วนใหญ่ เช่น ตะปู กาว กระดาษ ทรายที่ใช้เป็นส่วนประกอบของการทำเครื่องหนังหรือเฟอร์นิเจอร์ นำมันหล่อลื่นเครื่องจักร เส้นด้ายที่ใช้ ในการตัดเย็บเสื้อผ้า เป็นต้น โดยปกติแล้ว วัตถุดิบทางอ้อมอาจจะถูกเรียกว่า “วัสดุโรงงาน” ซึ่งจะถือ เป็นค่าใช้จ่ายการผลิตชนิดหนึ่ง


6 2) ค่าแรงงาน (Labor) ค่าแรงงาน หมายถึง ค่าจ้างหรือผลตอบแทนที่จ่ายให้แก่ลูกจ้างหรือคนงานที่ทำ หน้าที่เกี่ยวข้องกับการผลิตสินค้า โดยปกติแล้วค่าแรงงานจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ ค่าแรงงาน ทางตรง (Direct labor) และค่าแรงงานทางอ้อม (Indirect labor) 2.1 ค่าแรงงานทางตรง (Direct labor) หมายถึง ค่าแรงงานต่าง ๆ ที่จ่ายให้แก่ คนงานหรือลูกจ้างที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับการผลิตสินค้าสำเร็จรูปโดยตรง รวมทั้งเป็นค่าแรงงานที่มีจำนวน มากเมื่อเทียบกับค่าแรงงานทางอ้อมในการผลิตสินค้าหน่วยหนึ่ง ๆ และจัดเป็นค่าแรงงานส่วนสำคัญใน การแปรรูปวัตถุดิบให้เป็นสินค้าสำเร็จรูป เช่น คนงานที่ทำงานเกี่ยวกับการควบคุมเครื่องจักรที่ใช้ในการ ผลิตก็ควรถือเป็นแรงงานทางตรง พนักงานในสายการประกอบ เป็นต้น 2.2 ค่าแรงงานทางอ้อม (Indirect labor) หมายถึง ค่าแรงงานที่ไม่เกี่ยวข้องกับ ค่าแรงงานทางตรงที่ใช้ในการผลิตสินค้า เช่น เงินเดือนผู้ควบคุมโรงงาน เงินเดือนพนักงานทำความ สะอาดเครื่องจักร และโรงงาน พนักงานตรวจสอบคุณภาพ ช่างซ่อมบำรุง ตลอดจนต้นทุนที่เกี่ยวข้อง กับคนงาน เช่น ค่าภาษีที่ออกให้ลูกจ้าง สวัสดิการต่าง ๆ เป็นต้น ซึ่งค่าแรงงานทางอ้อมเหล่านี้จะถือ เป็นส่วนหนึ่งของค่าใช้จ่ายการผลิต 3) ค่าใช้จ่ายการผลิต (Manufacturing Overhead) ค่าใช้จ่ายการผลิต หมายถึง แหล่งรวบรวมค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการผลิต สินค้าซึ่งนอกเหนือจากวัตถุดิบทางตรง ค่าแรงงานทางตรง เช่น วัตถุดิบทางอ้อม ค่าแรงงานทางอ้อม ค่าใช้จ่ายในการผลิตทางอ้อมอื่น ๆ ได้แก่ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเช่า ค่าเสื่อมราคา ค่าประกันภัย ค่าภาษี เป็นต้น แต่อย่างไรก็ตามค่าใช้จ่ายเหล่านี้ก็จะต้องเป็นค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการดำเนินการผลิตในโรงงาน เท่านั้น ไม่รวมถึงเงินเดือน ค่าเช่า ค่าไฟฟ้า ค่าเสื่อมราคา ที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงานในสำนักงาน ดังนั้น ค่าใช้จ่ายการผลิตจึงถือเป็นที่รวมของค่าใช้จ่ายในการผลิตทางอ้อมต่าง ๆ (Cost pool of indirect manufacturing costs) นอกจากนี้ ยังจะพบว่าในบางกรณีก็มีการเรียก ค่าใช้จ่ายการผลิต ในชื่ออื่น ๆ เช่น ค่าใช้จ่ายโรงงาน (Factory Overhead) โสหุ้ยการผลิต (Manufacturing Burden) ต้นทุนผลิตทางอ้อม (Indirect Costs) เป็นต้น 2.1.4 การจำแนกต้นทุนตามความสัมพันธ์กับระดับของกิจกรรม การจำแนกต้นทุนความสัมพันธ์กับระดับของกิจกรรมนี้ บางครั้งเราก็เรียกว่า การจำแนกต้นทุนตามพฤติกรรมของต้นทุน ซึ่งมีลักษณะที่สำคัญ คือ เป็นการวิเคราะห์จำนวนของ ต้นทุนที่จะมีการเปลี่ยนแปลงไปตามปริมาณการผลิต หรือระดับของกิจกรรมที่เป็นตัวผลักดันให้เกิด ต้นทุน ในการผลิตทั้งที่เกี่ยวกับการวางแผน การควบคุม การประเมิน และวัดผลการดำเนินงาน การจำแนกต้นทุนตามความสัมพันธ์กับระดับของกิจกรรม เราสามารถที่จะจำแนกต้นทุนได้ 3 ชนิด คือ ต้นทุน ผันแปร ต้นทุนคงที่ ต้นทุนผสม อย่างไรก็ตามแนวคิดในการจำแนกต้นทุนใน 3 ชนิดนี้ เป็นการจำแนกต้นทุนที่อยู่ในช่วงของต้นทุนที่มีความหมายต่อการตัดสินใจ นั่นก็คือเป็นช่วงที่ต้นทุนคงที่ รวมและต้นทุนผันแปรต่อหน่วย ยังมีลักษณะคงที่หรือไม่เปลี่ยนแปลง


7 1) ต้นทุนผันแปร (Variable Costs) หมายถึง ต้นทุนที่จะมีต้นทุนรวมเปลี่ยนแปลง ไปตามสัดส่วนของการเปลี่ยนแปลงในระดับกิจกรรมหรือปริมาณการผลิต ในขณะที่ต้นทุนต่อหน่วยจะ คงที่เท่ากันทุก ๆ หน่วย โดยทั่วไปแล้วต้นทุนผันแปรนี้จะสามารถควบคุมได้โดยแผนกหรือหน่วยงานที่ทำ ให้เกิดต้นทุนผันแปรนั้น ในเชิงการบริหารนั้น ต้นทุนผันแปรจะเข้ามามีบทบาทอย่างมาก ต่อการ ตัดสินใจของฝ่ายบริหาร เช่น การกำหนดราคาสินค้าของกิจการ ก็จะต้องกำหนดให้ครอบคลุมทั้งส่วนที่ เป็นต้นทุนผันแปร และต้นทุนคงที่ทั้งหมด ในกรณีที่กิจการจะทำการผลิตและจำหน่ายสินค้าในส่วนที่ นอกเหนือจากกำลังการผลิตปกติ แต่ไม่เกินกำลังการผลิตสูงสุดของกิจการ การตัดสินใจกำหนดราคา สินค้าในใบสั่งซื้อพิเศษนี้ ก็ไม่ควรที่จะต่ำกว่าต้นทุนผันแปรต่อหน่วย 2) ต้นทุนคงที่ (Fixed Costs) คือ ต้นทุนที่มีพฤติกรรมคงที่ หมายถึง ต้นทุนรวมที่ มิได้เปลี่ยนแปลงไปตามระดับของการผลิตในช่วงของการผลิตระดับหนึ่ง แต่ต้นทุนคงที่ต่อหน่วยก็จะ เปลี่ยนแปลงในทางลดลงถ้าปริมาณการผลิตเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ต้นทุนคงที่ยังแบ่งออกเป็นต้นทุนคงที่ อีก 2 ลักษณะ คือ ต้นทุนคงที่ระยะยาว (Committed Fixed Cost) เป็นต้นทุนคงที่ที่ไม่สามารถ เปลี่ยนแปลงได้ในระยะสั้น เช่น สัญญาเช่าระยะยาว ค่าเสื่อมราคา เป็นต้น และต้นทุนคงที่ระยะสั้น (Discretionary Fixed Cost) จัดเป็นต้นทุนคงที่ที่เกิดขึ้นเป็นครั้งคราวจากการประชุมหรือตัดสินใจของ ผู้บริหาร เช่น ค่าโฆษณา ค่าใช้จ่ายในการค้นคว้าและวิจัย เป็นต้น สำหรับในเชิงการบริหารแล้วต้นทุน คงที่ส่วนใหญ่มักจะควบคุมได้ด้วยผู้บริหารระดับสูงเท่านั้น 3) ต้นทุนผสม (Mixed Costs) หมายถึง ต้นทุนที่มีลักษณะของต้นทุนคงที่และ ต้นทุนผันแปรรวมอยู่ด้วยกัน ในช่วงของการดำเนินกิจกรรมที่มีความหมายต่อการตัดสินใจ โดยต้นทุน ผสมนี้จะแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ ต้นทุนกึ่งผันแปร และต้นทุนกึ่งคงที่หรือต้นทุนเชิงขั้น 4) ต้นทุนกึ่งผันแปร (Semi variable cost) หมายถึง ต้นทุนที่จะมีต้นทุนส่วนหนึ่ง คงที่ทุกระดับของกิจกรรม และมีต้นทุนอีกส่วนหนึ่งจะผันแปรไปตามระดับของกิจกรรม เช่น ค่าโทรศัพท์ ค่าโทรสาร เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ในบางครั้งก็เป็นการยากที่จะระบุได้ว่าต้นทุนส่วน ใดเป็นต้นทุนผันแปร ดังนั้นจึงจำเป็นต้องใช้เทคนิคในการประมาณต้นทุนเข้ามาช่วยในการวิเคราะห์ ซึ่งเทคนิคในการประมาณต้นทุนจะได้ศึกษาต่อไปในส่วนของการบัญชีต้นทุนที่เกี่ยวกับการใช้ข้อมูลเพื่อ การตัดสินใจ 5) ต้นทุนเชิงขั้น (Step cost) หรือต้นทุนกึ่งคงที่ (Semi fixed cost) หมายถึง ต้นทุนที่จะมีจำนวนคงที่ ณ ระดับกิจกรรมหนึ่งและจะเปลี่ยนไปคงที่ในอีกระดับกิจกรรมหนึ่ง เช่น เงินเดือน ผู้ควบคุมคนงาน ค่าเช่าบางลักษณะ เป็นต้น


8 2.1.5 การจำแนกต้นทุนตามหน้าที่งามหรือตามแผนกที่เกิดต้นทุน การจำแนกต้นทุนตามหน้าที่งานหรือตามแผนกงานที่เกิดต้นทุน เป็นการจำแนกโดย พิจารณาต้นทุนที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงานหรือปฏิบัติงานของหน้าที่งานฝ่ายต่าง ๆ ของแต่ละแผนกที่ ทำตามงานที่ได้รับมอบหมายจึงแบ่งต้นทุนส่วนประกอบที่เกี่ยวข้องกับ ต้นทุนการผลิตสินค้าและต้นทุนที่ ไม่เกี่ยวข้องกับการผลิต 1) ต้นทุนการผลิต หมายถึง ต้นทุนที่เกี่ยวกับการผลิตสินค้าเพื่อแปรสภาพวัตถุดิบให้ เป็นสินค้าสำเร็จรูปออกมาเพื่อจำหน่าย ซึ่งก็คือต้นทุนผลิตภัณฑ์ประกอบด้วยต้นทุนวัตถุดิบทางตรง และต้นทุนค่าใช้จ่ายการผลิต ซึ่งผ่านกระบวนการผลิตเป็นสินค้าสำเร็จรูป หรือต้นทุนผลิตภัณฑ์นั้นเอง 2) ต้นทุนที่ไม่เกี่ยวข้องกับการผลิต หมายถึง ต้นทุนที่เกิดจากการนำเนินงานของ สวนที่ได้ทำการผลิตสินค้าเป็นต้นทุนที่สนับสนุนให้มีการขายสินค้า แบ่งได้ออกเป็นค่าใช้จ่าย ในการดำเนินงานประกอบด้วย ค่าใช้จ่ายในการขายและค่าใช้จ่ายในการบริหารทั่วไป เช่น ค่าโฆษณา ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ได้แก่ ค่าใช้จ่ายทางการเงิน และต้นทุนทางการเงิน เช่น ต้นทุนจากการขายสินทรัพย์ ถาวรและดอกเบี้ยเงินกู้ เป็นต้น 2.1.6 การจำแนกต้นทุนตามงวดบัญชีจากช่วงเวลาที่ทำไร การจำแนกต้นทุนตามงวดบัญชีจากช่วงเวลาที่ทำกำไร เป็นการวัดผลการดำเนินงาน สำหรับงวดบัญชีหนึ่ง โดยเปรียบเทียบรายได้และค่าใช้จ่ายของงวดบัญชีเดี่ยวกัน จึงต้องมีการพิจารณา ว่าต้นทุนจำนวนใดได้ประโยชน์ และการหมดประโยชน์ต้องตัดเป้นค่าใช้จ่ายประจำงวดแต่หากจำนวนใด ยังไม่ได้ประโยชน์ถือเป็นสินทรัพย์ไปงวดหน้า จำแนกเป็นต้นทุนผลิตภัณฑ์และต้นทุนตามงวดเวลา 1) ต้นทุนผลิตภัณฑ์ หมายถึง ต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการผลิตผลิตภัณฑ์ทั้งทางตรง ทางอ้อม เป็นต้น ทุนที่ใช้แล้วมิได้หมดไปแต่จะแสดงอยู่ในรูปของต้นทุนการผลิตหรือต้นทุนผลิตภัณฑ์ ประกอบด้วยต้นทุนวัตถุดิบทางตรง ต้นทุนแรงงานทางตรง และต้นทุนค่าใช้จ่ายการผลิต 2) ต้นทุนตามงวดเวลา หมายถึง ต้นทุนที่ไม่เกี่ยวข้องกับการผลิต เป็นต้นทุนหรือ ค่าใช้จ่ายที่มิได้เกิดขึ้นโดยตรงทางการผลิตสินค้า เป็นต้นทุนที่ใช้แล้วหมดไปในแต่ละงวดต้นทุนส่วนนี้จะ ถือเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อนำไปหักออกจากรายได้ให้ได้กำไรสุทธิ เช่น เงินเดือนพนักงานค่าโฆษณา ค่านายหน้า ค่าขนส่งสินค้า และค่าเสื่อมราคา เป็นต้น 2.1.7 การจำแนกต้นทุนตามความสัมพันธ์การผลิต การจำแนกต้นทุนตามวิธีนี้มีลักษณะคล้ายกับการจำแนกต้นทุนตามส่วนประกอบของ การผลิต ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการจำแนกต้นทุนเพื่อใช้ในการวางแผนและการควบคุมมากกว่าที่จะจำแนก เพื่อคำนวณต้นทุนของสินค้า คือ ต้นทุนขั้นต้นกับต้นทุนแปรสภาพ 1) ต้นทุนขั้นต้น หมายถึง ต้นทุนที่เป็นส่วนประกอบสำคัญของการผลิตประกอบด้วย ต้นทุนวัตถุดิบทางตรงและต้นทุนแรงงานทางตรง ซึ่งต้นทุนขั้นต้นจะมีความสัมพันธ์โดยตรงกับการผลิต 2) ต้นทุนแปรสภาพ หมายถึง ต้นทุนที่เกิดจากการแปรสภาพวัตถุดิบไปเป็นสินค้า สำเร็จรูปประกอบด้วยต้นทุนแรงงานทางตรงและค่าใช้จ่ายในการผลิต


9 2.1.8 การจำแนกต้นทุนตามวัตถุประสงค์ของหน่วยต้นทุน การจำแนกต้นทุนตามวัตถุประสงค์ของหน่วยต้นทุน เป็นการแยกโดยพิจารณาถึง ต้นทุนที่เกิดขึ้นว่าสามารถระบุต้นทุนเข้าหน่วยวัดต้นทุนได้ชัดเจน เช่น ผลิตภัณฑ์หรือสายผลิตภัณฑ์หรือ ค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมเครื่องจักเป็นต้นทุนของแผนกผลิตจำแนกได้เป็น 1) ต้นทุนทางตรง (Direct cost) หมายถึง ต้นทุนที่ฝ่ายบริหารสามารถที่จะระบุ ได้ว่าต้นทุนใดเป็นของหน่วยต้นทุน (Cost Object) ใดนั่นเอง เช่น วัตถุดิบทางตรงและค่าแรงงาน ทางตรงที่ใช้ในการผลิตงานผลิตชิ้นใดชิ้นหนึ่ง หรือค่าเสื่อมราคาเครื่องจักรในแผนกประกอบ ก็คือต้นทุน ทางตรงของแผนกประกอบนั่นเอง 2) ต้นทุนทางอ้อม (Indirect cost) หมายถึง ต้นทุนร่วม (Common cost) ที่เกิดขึ้นโดยไม่สามารถระบุได้ว่าเกิดจากหน่วยต้นทุนใด โดยปกติแล้วต้นทุนทางอ้อมนี้จะถูกแบ่งสรร ให้แก่หน่วยต้นทุนต่าง ๆ ด้วยเทคนิควิธีในการจัดสรรต้นทุน (Allocation techniques) ซึ่งโดยทั่วไป ต้นทุนเกี่ยวกับการผลิตนั้น ต้นทุนทางอ้อมก็หมายถึงค่าใช้จ่ายการผลิตของสินค้า 2.1.9 การจำแนกต้นทุนตามลักษณะของความรับผิดชอบ 1) ต้นทุนที่ควบคุมได้ (Controllable cost) หมายถึง ต้นทุน หรือ ค่าใช้จ่ายที่ สามารถระบุหรือกำหนดได้ว่า หน่วยงานใดหรือบุคคลใดบุคคลหนึ่งเป็นผู้รับผิดชอบโดยตรง กล่าวอีกนัย หนึ่งก็คือ มีอำนาจ หน้าที่ หรือมีความสามารถที่จะทำให้ต้นทุนจำนวนนั้นเพิ่มขึ้น หรือลดลงจากการ ตัดสินใจของตน ซึ่งถ้าจะพิจารณาให้มากขึ้นก็พอที่จะสรุปได้ว่า ต้นทุนที่ควบคุมได้ในหน่วยงานหรือ ผู้บริหารคนใดคนหนึ่ง ก็อาจจะเป็นต้นทุนที่ควบคุมไม่ได้ในอีกหน่วยงานหรือผู้บริหารอีกคนหนึ่งก็ได้ 2) ต้นทุนที่ควบคุมไม่ได้ (Uncontrollable Cost) หมายถึง ต้นทุน หรือค่าใช้จ่าย ที่ไม่อยู่ภายใต้อำนาจหน้าที่ ที่หน่วยงานหรือผู้บริหารในระดับนั้น ๆ จะควบคุมไว้ได้ นั่นคือไม่สามารถที่ จะกำหนดต้นทุนประเภทนี้ให้เพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ โดยปกติต้นทุนที่ควบคุมไม่ได้ของผู้บริหารระดับล่างก็ มักจะเกิดจากการตัดสินใจของผู้บริหารระดับสูง นั่นเอง 2.1.10 การจำแนกต้นทุนตามลักษณะของการวิเคราะห์ปัญหาเพื่อตัดสินใจ ในการดำเนินธุรกิจผู้บริหารมักจะต้องประสบปัญหาต่าง ๆ มากมายและที่สำคัญก็คือ ผู้บริหารจะต้องพยายามทำการตัดสินใจแก้ไขปัญหา หรือเลือกทางเลือกที่ดีที่สุด ข้อมูลทางด้านต้นทุนที่ เข้ามามีบทบาทในการตัดสินใจจึงมักจะถูกจำแนกเป็น 1) ต้นทุนจม (Sunk Cost) หมายถึง ต้นทุนที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ (Unavoidable Cost) หรือไม่สามารถที่จะทำการเปลี่ยนแปลงได้ไม่ว่าผู้บริหารจะทำการตัดสินใจอย่างไร ดังนั้น ต้นทุนจมจึงเป็นต้นทุนที่เกิดขึ้นจากการตัดสินใจในอดีต ซึ่งจะไม่มีผลกระทบต่อการตัดสินใจในปัจจุบัน เช่น ค่าเช่าที่เป็นสัญญาเช่าระยะยาว ค่าเสื่อมราคาสินทรัพย์ประจำ เป็นต้น ถึงแม้ว่าต้นทุนจมจะไม่มี ผลต่อการตัดสินใจในปัจจุบัน แต่ผู้บริหารก็ควรที่จะทำการตัดสินใจเลือกทางเลือกที่สามารถใช้ประโยชน์ จากต้นทุนจมให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้


10 2) ต้นทุนที่หลีกเลี่ยงได้ (Avoidable Cost) หมายถึง ต้นทุนที่สามารถประหยัดได้ จากการตัดสินใจเลือกทางใดทางหนึ่ง ต้นทุนที่หลีกเลี่ยงได้มักจะมีบทบาทที่สำคัญต่อการตัดสินใจของ ผู้บริหารเสมอ 3) ต้นทุนเสียโอกาส (Opportunity Cost) คือ ผลประโยชน์หรือผลตอบแทนที่ กิจการจะได้รับจากการตัดสินใจเลือกทางเลือกหนึ่งแต่กับต้องสูญเสียไป จากการที่เลือกตัดสินใจในอีก ทางเลือกหนึ่ง เช่น ถ้ากิจการมีเงินจำนวนหนึ่งและสามารถนำไปฝากธนาคารได้ดอกเบี้ยปีละ 20,000 บาท แต่ถ้ากิจการต้องการนำเงินที่มีอยู่นั้นไปลงทุนทำธุรกิจ การที่กิจการเลือกลงทุนทำธุรกิจทำให้สูญเสีย ดอกเบี้ยที่จะได้รับ 20,000 บาท ถือว่าถ้ากิจการเลือกทำธุรกิจก็จะมีต้นทุนเสียโอกาสเกิดขึ้น 20,000 บาท โดยปกติต้นทุนเสียโอกาสจะไม่มีการบันทึกลงบัญชีของกิจการเพราะมิได้เป็นต้นทุนที่เกิดขึ้นจริง แต่เป็นต้นทุนที่ถูกสมมติเพื่อการตัดสินใจ 4) ต้นทุนส่วนที่แตกต่าง (Differential Cost) หมายถึง ต้นทุนที่เกิดการ เปลี่ยนแปลงไปจากการตัดสินใจเลือกกระทำอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งอาจจะเปลี่ยนแปลงในทางเพิ่มขึ้นหรือ ลดลงก็ได้ (Incremental Cost or Decremental Cost) โดยปกติต้นทุนประเภทนี้จะเกิดก็ต่อเมื่อมีการ เปลี่ยนแปลงวิธีการปฏิบัติแบบเดิม มาเป็นวิธีการปฏิบัติแบบใหม่ เช่น ถ้าผู้บริหารกำลังทำการตัดสินใจ ว่าควรที่จะซื้อเครื่องจักรรุ่นใหม่ เข้ามาทำการผลิตแทนเครื่องจักรเก่าที่มีอยู่หรือไม่ ทั้งนี้เครื่องจักรใหม่ อาจจะต้องลงทุนสูง แต่ก็สามารถที่จะประหยัดต้นทุนผันแปรต่อหน่วยลงไปได้ ซึ่งผู้บริหารจะต้องทำการ ตัดสินใจโดยพิจารณาจากต้นทุนส่วนที่แตกต่างรวมสุทธิ (Net Total Differential Cost) 5) ต้นทุนเพิ่มต่อหน่วย (Marginal Cost) หมายถึง ต้นทุนที่จะเพิ่มขึ้นจากการผลิต เพิ่มขึ้นหนึ่งหน่วย ซึ่งมีลักษณะคล้ายคลึงกับต้นทุนส่วนเพิ่ม (Incremental Cost) แต่ต้นทุนส่วนเพิ่มต่อ หน่วยเป็นการพิจารณาส่วนที่เพิ่มจากการเพิ่มของการผลิตเพียง 1 หน่วย ตามที่กล่าวแล้ว ช่วยผู้บริหาร เพื่อการตัดสินใจได้เช่นกัน 2.2 หลักการแนวคิดและผลตอบแทน ผู้ลงทุนต่างมุ่งหวังในสิ่งเดียวกันคือผลตอบแทนจากการลงทุนซึ่งเป็นผลตอบแทนที่ผู้ลงทุน ได้รับ ณ จุดที่ยอมรับได้และคุ้มค่ากับการลงทุน ผลตอบแทนในการศึกษานี้หมายถึงรายได้จากการขาย พริกไทยของเกษตรกร ทั้งนี้การศึกษาเกี่ยวกับผลตอบแทนสามารถใช้วิธีการวิเคราะห์ผลตอบแทนได้ หลายวิธี ในการศึกษาผลตอบแทนของการลงทุนปลูกพริกไทยแบบอินทรีย์ในครั้งนี้ ผู้ศึกษาเลือกใช้ อัตราส่วนทางการเงิน 3 ตัว เพื่อการวิเคราะห์ได้ดังนี้ 2.2.1 อัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin, GPM) คือ กำไรขั้นต้นหารด้วยยอดขาย (หน่วยเป็นเปอร์เซ็นต์) อัตรากำไรขั้นต้นบอกถึง ความสามารถของกิจการในการตั้งราคาสินค้า ความสามารถของกิจการในการหาสินค้าราคาต้นทุนเหมาะสม และกิจการที่ดีจะต้องมีอัตรากำไรขั้นต้น เพิ่มขึ้นหรือคงที่ รวมทั้งกิจการสามารถขึ้นราคาสินค้าได้ในระยะยาว ตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้น (คมสัน ขจรชีพพันธุ์งาม. 2549)


11 2.2.2 อัตราผลตอบแทนของสินทรัพย์ (Return of Assets, ROA) เป็นความสัมพันธ์ระหว่าง กำไรสุทธิต่อสินทรัพย์รวมของกิจการ ROA เป็นเครื่องมือวัดที่มีประโยชน์ที่สุด สำหรับการวัดประสิทธิผล ของการใช้ทรัพยากร โดยไม่ได้คำนึงว่าทรัพยากรเหล่านั้นมีการจัดหาเงินทุนมาลงทุนด้วยวิธีใด (คมสัน ขจรชีพพันธุ์งาม. 2549) 2.2.3 อัตราผลตอบแทนจากเงินลงทุน (Return on investment, ROI) ถูกใช้ในการ กล่าวถึงธุรกิจในแง่ความสามารถในการทำกำไร แต่ไม่มีคำจำกัดความมาตรฐานสำหรับ ROI เนื่องจาก “การลงทุน” อาจถูกตีความได้จากหลายมุมมอง ดังนั้น เมื่อใช้คำว่า “ผลตอบแทนจากการลงทุน” ต้องแสดงให้เห็นว่ามีการคำนวณการลงทุนอย่างไร (คมสัน ขจรชีพพันธุ์งาม. 2549) ในการศึกษาครั้งนี้ ROI คือ สัดส่วนของกำไรต่อค่าใช้จ่ายที่ใช้ในการลงทุน “กำไร” ในความหมายนี้ คือ กำไรรวมที่หักค่าใช้จ่ายทั้งหมดแล้ว เช่น ค่าวัตถุดิบ ค่าใช้จ่ายในการขาย ค่าจ้างพนักงาน และต้นทุนหรือเงินลงทุน เงินลงทุนในการศึกษานี้ หมายรวมถึงเงินที่จ่ายออกไปเพื่อให้ ได้มาซึ่งผลผลิต รวมถึงค่าวัสดุสิ้นเปลืองอื่น ค่าซ่อมบำรุง และการซื้อสินทรัพย์เพื่อใช้ในการผลิต 2.3 งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง งานวิจัยครั้งนี้ ทำการศึกษาเรื่อง คอนเฟลกบาร์สตอเบอรี่ มหาลัยราชภัฎพิบูลสงคราม ผลจากการวิจัยนี้ได้รับการสนับสนุนจากศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 3 ในด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ นวัตกรรมจากอุสาหกรรมอาหารแปรรูปสู่การผลิตพาณิชย์ให้กับผู้ประกอบการ จังหวัดพิจิตร ซึ่งเป็น ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์คอนเฟลกเคลือบคาราเมลนักวิจัยได้ศึกษาความเป็นไปได้ร่วมกับ ผู้ประกอบการในการพัฒนาผลิตภัณฑ์นวัตกรรม คอนเฟลกบาร์รสสตอเบอรี่ ซึ่งมีแนวคิดต่อยอด วัตถุดิบเดิม ๆ คือ คอนเฟลก พัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ขนมขบเคี้ยวที่มีลักษณะเป็นแผ่นบาง กรอบไม่เหนียว รับประทานเป็นอาหารว่างมีกลิ่นรสสตรอเบอรี่ และมีคุณค่าทางโภชนาการ สร้าง ความแปลกใหม่ของผลิตภัณฑ์ขนมขบเคี้ยวจากรูปแบบเดิม อีกทั้งยังจตอบสนองต่อกระแส ความต้องการของตลาดผลิตภัณฑ์ขนมขบเคี้ยวในปัจจุบันที่ให้พลังงานลพกพาได้สะดวก งานวิจัยนี้ ได้พัฒนาสูตรคอนเฟลกบาร์สตรอเบอรี่ โดยศึกษาอัตราส่วนของปริมาณน้ำเชื่อมรสชาติสตรอเบอรี่ เข้มข้น น้ำตาลทราย และกูลโคสไซรัปที่แตกต่างกันตรวจสอบคุณภาพผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาแล้วเพื่อใช้เป็น ฐานข้อมูลทางการค้า และการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ให้พร้อมในการจัดจำหน่ายในเชิงพาณิชย์ พบว่า ผลิตภัณฑ์คอนเฟลกบาร์ สตรอเบอรี่ที่พัฒนาได้ มีปริมาณความขึ้นร้อยละ 9.75 เท่าร้อยละ 2.30 ไขมัน 367.13 กิโลแคลอรี่และมีค่า Water activity 0.504 ดังนั้น ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่าทาง โภชนาการครบทั้ง 5 หมู่ คือ น้ำ ไขมัน โปรตีน เส้นใยและคาร์โบไฮเดรต ผลการทดสอบความชอบ ผลิตภัณฑ์ด้านความกรอบและการติดฟัน อยู่ในช่วงความชอบปานกลางได้รับการจดทะเบียน อย. เป็นที่เรียบร้อยแล้วและมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีการพัฒนาผลิตภัณฑ์คอนเฟลกบาร์สตรอเบอรี่


12 รสสตรอเบอรี่สู่ผู้ประกอบการ ปัจจุบันมีการผลิตและจัดจำหน่ายในเชิงพาณิชย์เป็นที่เรียบร้อยในราคา กล่องละ 60 บาท (ผู้ช่วยศาสตราจารย์ดร. อุทัยวรรณฉัตรธง. 2560) งานวิจัยครั้งนี้ได้ทำการศึกษาเรื่อง การพัฒนาผลิตภัณฑ์ธัญพืชแท่งที่มีคุณค่าทางโภชนาการ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาอัตราส่วนของส่วนผสมและสภาวะการผลิตที่เหมาะสมในการผลิตธัญพืชแท่ง และอายุการเก็บรักษาธัญพืชแท่ง ขั้นตอนแรกศึกษาผลของอุณหภูมิ (50 60 และ 70 องศาเซลเซียส) และเวลาในการอบแห้ง (12 และ 4 ชั่วโมง) ต่อคุณลักษณะด้านต่าง ๆ ของข้าวเหนียวดำ พบว่า การอบแห้งที่อุณหภูมิ 70 องศาเซลเซียส เวลา 4 ชั่วโมง มีปริมาณความชื้นหลังทอดและค่า aw ต่ำสุด และมีอัตราการพองตัวสูงสุด จึงเลือกข้าวพองที่สภาวะการอบแห้ง 70 องศาเซลเซียส เวลา 4 ชั่วโมง ใช้ผลิตธัญพืชแท่ง จากนั้นศึกษาปริมาณกระเจี๊ยบแดง (ร้อยละ 5 10 และ 15) และกล้วยน้ำว้าอบแห้ง (ร้อยละ 5 10 และ 15) ที่เหมาะสมต่อธัญพืชแท่ง พบว่าธัญพืชแท่งเติม กระเจี๊ยบร้อยละ 10 กล้วยน้ำว้าอบแห้งร้อยละ 15 มีคะแนนความชอบด้าน กลิ่น ความกรอบ และความชอบโดยรวมสูงสุด จึงเลือกอัตราส่วนกระเจี๊ยบแดงร้อยละ 10 กล้วยน้ำว้าร้อยละ 15 เพื่อ ใช้ในการทดลองขั้นต่อไป หลังจากนั้นทำการศึกษาปริมาณน้ำฟักข้าว (ร้อยละ10 15 และ 20) และอุณหภูมิในการอบ (60 และ 70 องศาเซลเซียส) ต่อลักษณะคุณภาพด้านต่าง ๆ ของธัญพืชแท่ง พบว่าธัญพืชแท่ง ที่เติมน้ำข้าวฟักร้อยละ 10 และอบอุณหภูมิ70 องศาเซลเซียส มีคุณลักษณะ เหมาะสมที่สุด คือ มีปริมาณความชื้น ไขมัน ใยอาหาร โปรตีน และคาร์โบไฮเดรต (ณัฐณิชา ทวีแสงและคณะ. 2560) งานวิจัยครั้งนี้ ศึกษาเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารขบเคี้ยวจากธัญพืชโดยการใช้ วัตถุดิบหลักใน ท้องถิ่น มาหาอัตราส่วนที่เหมาะสมเพื่อให้ผลิตภัณฑ์เป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค และศึกษาความเป็นไป ได้ทางการตลาดของผลิตภัณฑ์ธัญพืชอัดแท่งพบว่า วัตถุดิบในท้องถิ่นมีหลายชนิดส่วนผสมหลัก ได้แก่ ข้าวพองและธัญพืชอื่น ๆ เช่น ขนุน กล้วย ลูกเดือยข้าวโพด เป็นต้น นาข้าวเหนียวถั่ว เขียวถั่วแดง เดือยมาแช่น้ำ และนึ่ง จากนั้นอบด้วยเครื่องอบสมร้อนแบบ ถาดอุณหภูมิ 60 องศาเซลเซียส เอาข้าวเหนียวมาทอดเป็นข้าวพองคั่วงาดำ และงาขาว เตรียมคาราเมลแล้วนำมาผสมตามสูตรให้เข้ากัน แล้วเอาใส่พิมพ์ เพื่อทำการขึ้นรูป จากนั้นนำไปอบในตู้อบลมร้อนแบบถาด นาน 30 นาที วางให้เย็น แล้วบรรจุถุงพลาสติก โดยมีตลาดเป้าหมายเป็นผู้บริโภคอายุ 20 – 34 ปี มูลค่าตลาดรวมใน 2 จังหวัด คือ สงขลาและสตูล ประมาณ 5,873,480 บาท ส่วนแบ่งของตลาด ประกอบกับสินค้าที่ สามารถทดแทนธัญพืชอัดแท่งมีเป็นจำนวนมาก ผู้บริโภคจึงหันไปให้ความสนใจในสินค้าประเภทอื่นที่ง่าย สะดวก และ มีราคาถูกกว่าขณะเดียวกับศักยภาพ ของกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรผักกูดรุ่งเรืองมีความ พร้อมค่อนข้างน้อย แม้จะมีความได้เปรียบในด้านวัตถุดิบบางประเภท แต่ก็มีข้อจำกัดในหลายด้าน เช่น งบประมาณ เครื่องมือ สถานที่ โดยเฉพาะบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถในการดำเนินการด้าน การผลิต รวมถึง การแทรกเข้าตลาดก็มีข้อจำกัดมากเช่นกัน ปัจจุบัน “ธัญพืช” ถูกยกย่องให้เป็นหนึ่งใน “อาหารเพื่อสุขภาพ” เนื่องจากธัญพืชจะให้ คุณค่าทางอาหารด้านพลงังาน เมล็ดธัญพืชจะประกอบด้วย


13 สารอาหารหลัก คือ คาร์โบไฮเดรต ประมาณ 77 - 78% โปรตีน 9 - 16% ไขมัน 1 - 5% เส้นใยอาหาร 2 - 10% และแร่ธาตุ 1 - 7 % นอกจากนี้ยงัมีวิตามิน เอนไซม์ และสารอาหาร อื่น ๆ ซึ่งเป็นหนึ่งในอาหารที่ช่วยป้องการเกิดโรคเบาหวานและโรคหัวใจได้ จากผลการศึกษาของ คณะวิจัยจาก Brigham and Women’s Hospital and Harvard Medical School ยืนยันว่าการ รับประทานเมล็ดธัญพืชแบบแท่งเมล็ดจะ 42% 35% 16% 7% นอกจากนี้แป้งในธัญพืชเต็มไปด้วย คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน ซึ่งระบบการย่อยอาหารจะค่อย ๆ ย่อยสลายเป็นน้ำตาลแล้วเปลี่ยนเป็นพลังงาน ใหญ่แก่เซลล์และส่วนต่าง ๆ ของร่างกายช้า ๆ จึงไม่ทำให้เกิดปัญหาระบบน้ำตาลในเลือดสูงจนเกินไป จึงช่วยป้องกันโรคเบาหวานและยังช่วยลดคอเลสเตอรอล และป้องกันโรคหลอดเลือดอุดตันและโรคหัวใจ ได้ที่สำคัญที่สุดคือ การรับประทานธัญพืชทำให้เราห่างไกล “โรคอ้วน” ได้อย่างแน่นอน (กัญวนา ศรีสุข และคณะผู้วิจัย. 2551) งานวิจัยเกี่ยวกับการใช้เกล็ดข้าวไรซ์เบอร์รี่อบกรอบทดแทนข้าวโอ๊ตในธัญพืชอัดแท่งมี วัตถุประสงค์ในการวิจัยเพื่อศึกษาสูตรพื้นฐานของธัญพืชอัดแท่ง และศึกษาปริมาณที่เหมาะสมของการใช้ เกล็ดข้าวไรซ์เบอร์รี่อบกรอบทดแทนข้าวโอ๊ตในปริมาณ 0% 50% 75% และ 100% โดยการวาง แผนการทดลองแบบสุ่มในบล็อกสมบูรณ์ (Randomized Complete Block Design, RCBD) ประเมินคุณภาพ ทางประสาทสัมผัสในด้านลักษณะปรากฏ สี กลิ่น รสชาติเนื้อสัมผัส และความชอบ โดยรวม ด้วยวิธีการชิมแบบให้คะแนนความชอบ 9 ระดับ (9 - Point Hedonic Scale ) โดยอาจารย์และนักศึกษาที่ยังไม่ผ่าน การฝึกฝนการชิม สาขาวิชาอาหารและโภชนาการคณะเทคโนโลยี คหกรรมศาสตร์มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมลพระนคร เป็นผู้ชิมจำนวน 40 คน ในการศึกษาสูตร พื้นฐานของธัญพืชอัดแท่งและ 80 คน ในการศึกษาปริมาณที่เหมาะสมของเกล็ดของข้าวไรซ์เบอร์รี่ ตามลำดับ นำมาวิเคราะห์ความแปรปรวน (Analysis of Variance, ANOVA) และเปรียบเทียบความ แตกต่างของค่าเฉลี่ยโดยใช้วิธี Duncan’s New Multiple Range Test, DMRT ภายหลังการศึกษา พบว่าการศึกษาสูตรพื้นฐาน สูตรที่ 3 มีความแตกต่างกับสูตรที่ 1 และ 2 กันอย่างมีนัยสำคัญทาง สถิติในทุก ๆ ด้าน ผู้ชิมให้คะแนนความชอบอยู่ในระดับชอบมากเนื่องจากมีการเกาะตัวดีไม่กระจายตัว มากกว่าสูตรอื่น ๆ ส่วนการศึกษาปริมาณที่เหมาะสมของการใช้เกล็ดข้าวไรซ์เบอร์รี่อบกรอบทดแทน ข้าวโอ๊ต พบว่าสูตรที่ทดแทน 50% มี ความแตกต่างกับสูตรที่ทดแทน 0% 75% และ 100% อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับความเชื่อมั่น ผู้ชิมคะแนนความชอบสูตรที่ทดแทน 50% อยู่ในระดับ ชอบปานกลาง และชอบมากเนื่องจากมีลักษณะเนื้อสัมผัสไม่นิ่มไม่แข็งจนเกินไป หากทดแทนในปริมาณ 75% และ 100% พบว่ามีความกรอบแข็งมากเพิ่มมากขึ้นจึงทำให้การใช้เกล็ดข้าวไรซ์เบอร์รี่อบกรอบ ในปริมาณ 50% ของน้ำหนักข้าวโอ๊ตทั้งหมด ทดแทนข้าวโอ๊ตเป็นปริมาณที่เหมาะสมในการทำธัญพืช อัดแท่ง (ชยธร จันทร์เรีย และทิฐินันท์ อารมณ์เกลี้ยง. 2557)


14 งานวิจัยครั้งนี้ ศึกษาการเพิ่มมูลค่าให้กับธัญพืชและสมุนไพรที่เหลือใช้ให้เกิดประโยชน์เป็น การช่วยลดปริมาณขยะและให้ทางเลือกใหม่กับลูกค้าได้อีกทางหนึ่งด้วย โดยการนำวัตถุดิบมาแปรรูป การทำในรูปแบบซีเรียลบาร์รสต้มยำ โดยใช้น้ำตาลเป็นส่วนประกอบช่วยให้ตัวผลิตภัณฑ์ขึ้นรูปและ ยึดเกาะเป็นรูปแบบบาร์ได้ ทำการเคี่ยวน้ำตาลและควบคุมอุณหภูมิ มีการปรุงรสชาติให้เป็น รสชาติต้มยำที่รู้จักกันเพื่อพัฒนาธัญพืชให้มีความแปลกใหม่ หลังจากที่ได้ผลิตภัณฑ์ซีเรียลบาร์รสต้มยำ คณะผู้จัดทำได้สำรวจความความพึงพอใจที่มีต่อผลิตภัณฑ์โดยใช้แบบสอบถามความพึงพอใจ โดยกลุ่ม ตัวอย่างเป็นบุคคลทั่วไปจำนวน 30 คน พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง คิดเป็น ร้อยละ 53.33 มีอาชีพเป็นนักเรียน/นักศึกษาคิดเป็นร้อยละ 56.67 และวุฒิการศึกษาปริญญาตรี คิดเป็นร้อยละ 86.67 มีความพึงพอใจด้านลักษณะทางประสาทสัมผัสเป็นสีของผลิตภัณฑ์อยู่ในระดับ มากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 4.50 ด้านรสชาติ เป็นรสต้มยำความเปรี้ยวของผลิตภัณฑ์ คิดเป็นร้อยละ 4.27 ด้านเนื้อสัมผัสเป็นความชอบโดยรวมคิดเป็นร้อยละ 4.52 ซีเรียลบาร์รสต้มยำบรรจุภัณฑ์ มีความสวยงาม รสชาติสามารถรับประทานได้และมีรสชาติอร่อยถูกปากคนส่วนมากมีประโยชน์ ต่อร่างกาย ดังนั้นจึงสรุปได้ว่าโครงงานซีเรียลบาร์รสต้มยำมีความพึงพอใจในระดับมาก มีคะแนนเฉลี่ย รวม 3.98 (กาญจนา เนืองนิตย์ และคณะวิจัย. 2562)


15 2.4 กรอบแนวคิดในการวิจัยทำโครงงาน ภาพที่ 1 แสดงแนวคิดในการจัดทำโครงงาน ต้นทุน ต้นทุนส่วนประกอบของการผลิตคอนเฟลกคาราเมล 1. ค่าวัตถุดิบ 2. ค่าแรงงาน 3. ค่าใช้จ่ายในการผลิต ผลตอบแทน ก ำไร (ขำดทุน) จำกกำรผลิตคอนเฟลกคำรำเมลได้ จำกกำรขำยหัก ต้นทุนในกำรผลิตคอนเฟลกคำรำเมล ก ำไรขั้นต้น การวิเคราะห์ ต้นทุนและผลตอบแทน โครงสร้างต้นทุนในการผลิต คอนเฟลกคาราเมล อัตราผลตอบแทน 1. อัตรากำไรขั้นตันต่อต้นทุน 2. อัตรากำรขั้นต้นต่อยอดขาย


บทที่ 3 วิธีการดำเนินงาน การศึกษาดำเนินงานครั้งนี้ เป็นการศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนในการผลิตคอนเฟลกคาราเมล เพื่อจำหน่ายของนักเรียน นักศึกษา แผนกวิชาการบัญชี วิทยาลัยเทคนิคพิจิตร ผู้จัดทำโครงงานได้ดำเนินการตามลำดับขั้นตอน ดังนี้ 3.1 กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการศึกษา 3.2 เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา 3.3 วิธีการดำเนินการศึกษา 3.4 การเก็บรวบรวมข้อมูล 3.5 การวิเคราะห์ข้อมูล 3.6 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล 3.1 กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการศึกษา กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในโครงงานการผลิตคอนเฟลกคาราเมลเพื่อจำหน่าย ได้แก่ นักเรียน นักศึกษา แผนกวิชาการบัญชี วิทยาลัยเทคนิคพิจิตร จำนวน 50 คน กำหนดกลุ่มตัวอย่างโดยเลือก จากนักเรียน นักศึกษา ที่สนใจคอนเฟลกคาราเมล 3.2 เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ แบบสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับปัจจัยที่มีผลต่อ พฤติกรรมการบริโภคคอนเฟลกคาราเมลของผู้บริโภค 3.3 วิธีการดำเนินการศึกษา ผู้จัดทำโครงงาน ได้ดำเนินการศึกษาตามขั้นตอนต่าง ๆ ซึ่งมีรายละเอียดการสร้าง แบบสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุนผลิตคอนเฟลกคาราเมล ของนักเรียน นักศึกษา แผนกวิชาการบัญชี วิทยาลัยเทคนิคพิจิตร ดำเนินการ ดังนี้ 3.3.1 ศึกษาแนวคิดทฤษฎีจากเอกสาร ตำรา สืบค้นข้อมูลละงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับ การศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนเพื่อสร้างและพัฒนาแบบสอบถาม โดยแบ่งเป็น 3 ตอน


17 ตอนที่ 1 สอบถามสถานภาพและข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม ตอนที่ 2 สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับการทำคอนเฟลกคาราเมล ตอนที่ 3 สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับต้นทุนและผลตอบแทนของการทำคอนเฟลกคาราเมล 3.3.2 นำร่างแบบสอบถามเสนอต่อครูที่ปรึกษาโครงงาน เพื่อขอคำปรึกษา และตรวจสอบ คำถามเพื่อให้ได้แบบสอบถาม และแบบสัมภาษณ์ที่ถูกต้องตามเหมาะสม 3.3.3 นำแบบสอบถามที่ปรับปรุง แล้วเสนอต่อครูที่ปรึกษาโครงงานอีกครั้งก่อนนำไปใช้ ในการเก็บรวบรวมข้อมูล 3.4 การเก็บรวบรวมข้อมูล ผู้จัดทำโครงงานได้ดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลโดยการดำเนินการตามขั้นตอน ดังนี้ 3.4.1 นำแบบสอบถามไปเก็บข้อมูล นักเรียน นักศึกษา แผนกวิชาการบัญชี วิทยาลัยเทคนิคพิจิตร ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการศึกษา 3.4.2 นำเสนอข้อมูลที่ได้มาทำการวิเคราะห์ 3.5 การวิเคราะห์ ได้ดำเนินการวิเคราะห์ข้อมูลตามลำดับ ดังนี้ 3.5.1 การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณ โดยเก็บรวบรวมข้อมูลมาทำประมวลผล 3.5.2 การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพ ในการวิเคราะห์เนื้อหา ประกอบด้วย 4 ขั้นตอน ได้แก่ การตีข้อมูล (Interpretation) การเปรียบเทียบข้อมูล (Constant Comparison) การสังเคราะห์ข้อมูล (Data Synthesis) และการสรุปผล (Generalization) 3.6 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูลผู้รายงานได้ใช้สถิติวิเคราะห์ข้อมูลต่าง ๆ ดังนี้ 3.6.1 ค่าความถี่ (Frcqucncy) 3.6.2 ค่าร้อยละ (Percentage) 3.6.3 หาค่าเฉลี่ย (Mean)


บทที่ 4 ผลการวิเคราะห์ข้อมูล การดำเนินการศึกษาครั้งนี้ เป็นการศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนในการผลิตคอนเฟลกคาราเมล เพื่อจำหน่าย เป็นการศึกษาและเก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบบันทึกต้นทุนและแบบสอบถามผู้ศึกษา นำเสนอผลวิเคราะห์ตามลำดับ ดังนี้ 4.1 ข้อมูลต้นทุนและผลตอบแทนของการประกอบการร้านคอนเฟลกคาราเมล 4.2 ข้อมูลสภาพทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม 4.3 ข้อมูลปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมการบริโภคคอนเฟลกคาราเมล 4.4 ข้อมูลเกี่ยวกับการทำคอนเฟลกคาราเมล 4.1 ข้อมูลต้นทุนและผลตอบแทนของกิจการคอนเฟลกคาราเมล 4.1.1 ข้อมูลเกี่ยวกับต้นทุนในการผลิตคอนเฟลกคาราเมล การศึกษาครั้งนี้ ผู้ศึกษาและรวบรวมข้อมูลจากการผลิตคอนเฟลกคาราเมล โดยต้นทุนในการผลิตคอนเฟลกคาราเมลแบ่งตามส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ ประกอบด้วย ค่าแรงงาน ค่าวัตถุดิบ ค่าใช้จ่าย ดังในตารางที่ 4.1.1 - 4.1.7 ตารางที่ 4.1.1 แสดงการแบ่งประเภทต้นทุนที่ทำการศึกษา ค่าวัตถุดิบ ค่าแรงงาน ค่าใช้จ่ายในการผลิต 1. คอนเฟลก 1. ค่าแรงงานตนเอง 1. ค่ารถและค่าเดินทาง 2. ถั่วต่างๆกับผลไม้อบแห้ง 2. ค่าเสื่อมราคาอุปกรณ์ 3. น้ำตาล 3. ค่าบรรจุภัณฑ์ 4. เกลือป่น 4. ค่าน้ำประปา 5. น้ำผึ้ง 5. ค่าไฟฟ้า 6. เนยจืด 7. กลิ่นวนิลา


19 ตารางที่ 4.1.2 แสดงต้นทุนค่าวัตถุดิบในการผลิตคอนเฟลกคาราเมล (จำนวนการผลิต คอนเฟลกคาราเมล 50 กระปุก) ผลิตภัณฑ์ วัตถุดิบ จำนวน (หน่วย) ราคา (บาท) คอนเฟลกคาราเมล 1. คอนเฟลก 2,500 กรัม 475.00 บาท 2. ถั่วต่างๆกับผลไม้อบแห้ง 1,000 กรัม 300.00 บาท 3. น้ำตาล 1,200 กรัม 30.00 บาท 4. เกลือป่น 12 ช้อนชา 10.00 บาท 5. น้ำผึ้ง 500 กรัม 180.00 บาท 6. เนยจืด 1,000 กรัม 250.00 บาท 7. กลิ่นวนิลา 12 ช้อนชา 30.00 บาท รวม 1,275.00 บาท ต้นทุนเฉลี่ยต่อหน่วย 25.50 บาท จากตารางที่ 4.1.2 แสดงต้นทุนค่าวัตถุดิบในการผลิตคอนเฟลกคาราเมล (สำหรับคอนเฟลก คาราเมล 50 กระปุก) พบว่าอันดับแรกคือ คอนเฟลก จำนวน 2,500 กรัม ในราคา 475 บาท ถั่วต่างๆกับผลไม้อบแห้ง 1,000 กรัม ในราคา 300 บาท รองลงมาคือ เนยจืด 1,000 กรัม ในราคา 250 บาท น้ำผึ้ง 500 กรัม ในราคา 180 บาท น้ำตาล 1,200 กรัม ในราคา 30 บาท กลิ่นวนิลา 12 ช้อนชา ในราคา 30 บาท และ เกลือป่น 12 ช้อนชา ในราคา 10 บาท ตารางที่ 4.1.3 แสดงต้นทุนค่าแรงงานในการผลิตคอนเฟลกคาราเมล (จำนวนการผลิต คอนเฟลกคาราเมล 50 กระปุก) ที่ รายการ จำนวน บาท/วัน 1. ค่าแรงงานตนเอง 100.00 บาท ค่าแรงงานเฉลี่ยต่อกระปุก 2.00 บาท จากตารางที่ 4.1.3 พบว่าการวิเคราะห์ต้นทุนค่าแรงงานในการผลิตคอนเฟลกคาราเมลเฉลี่ย ต่อกระปุก 2.00 บาท คิดค่าแรงงานต่อการผลิต 3 ครั้ง เป็นเงิน 100.00 บาท


20 ตารางที่ 4.1.4 แสดงต้นทุนค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปาที่ใช้ในการผลิตคอนเฟลกคาราเมล (จำนวนการผลิตคอนเฟลกคาราเมล 50 กระปุก) รายการ ระยะเวลา จำนวน ราคาต่อหน่วย จำนวนเงิน (บาท) ค่าไฟฟ้า 1 เดือน 5 หน่วย 3.25 16.25 ค่าน้ำประปา 1 เดือน 5 หน่วย 10.20 51.00 รวมต้นทุนค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปา 121.25 ค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปาต้นทุนเฉลี่ยต่อกระปุก 2.42 จากตารางที่ 4.1.4 แสดงต้นทุนค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปาที่ใช้ในการผลิตคอนเฟลกคาราเมล พบว่าอันดับแรกคือ ค่าประปา จำนวน 5 หน่วย 51.00 บาท รองลงมาคือ ค่าไฟฟ้า จำนวน 5 หน่วย 16.25 บาท จึงทำให้ค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปามีต้นทุนเฉลี่ย 2.42 บาทต่อกระปุก ตารางที่ 4.1.5 แสดงต้นทุนค่ารถและค่าเดินทางที่ใช้ในการผลิตคอนเฟลกคาราเมล (จำนวน การผลิตคอนเฟลกคาราเมล 50 กระปุก) รายการ ระยะเวลา จำนวน ราคาต่อหน่วย จำนวน (บาท) ค่ารถและค่าเดินทาง 1 เดือน 1 ลิตร 36.00 36.00 ค่ารถและค่าเดินทางเฉลี่ยต่อกระปุก 0.72 จากตารางที่ 4.1.5 แสดงต้นทุนค่ารถและค่าเดินทางที่ใช้ในการผลิตคอนเฟลกคาราเมล คือ ค่ารถและค่าเดินทาง 1 ลิตร คิดเป็น 36.00 บาท จึงทำให้ค่ารถและค่าเดินทางมีตันทุนเฉลี่ย 0.72 บาทต่อกระปุก ตารางที่ 4.1.6 แสดงข้อมูลสินทรัพย์ และค่าเสื่อมอุปกรณ์ (จำนวนการผลิตคอนเฟลก คาราเมล 50 กระปุก) รายการ อายุ (ปี) ราคา (บาท) ค่าเสื่อมราคา (บาท) อุปกรณ์ 1 100.00 100.00 ค่าเสื่อมราคาต่อกระปุก 2.00 จากตารางที่ 4.1.6 แสดงผลการวิเคราะห์ข้อมูลสินทรัพย์และค่าเสื่อมราคาอุปกรณ์ ราคา 100.00 บาท จึงทำให้ค่าเสื่อมราคาอุปกรณ์มีต้นทุนเฉลี่ย 2.00 บาทต่อกระปุก


21 ตารางที่ 4.1.7 แสดงข้อมูลต้นทุนค่าใช้จ่ายในการผลิต ที่ รายการ ราคา (บาท) ร้อยละ 1. ค่าบรรจุภัณฑ์ 3.10 37.63 2. ค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปา 2.42 29.37 3. ค่ารถและค่าเดินทาง 0.72 8.73 4. ค่าเสื่อมราคาอุปกรณ์ 2.00 24.27 ค่าใช้จ่ายในการผลิตรวม 8.24 100.00 จากตารางที่ 4.1.7 แสดงผลการวิเคราะห์ข้อมูลต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการผลิต คอนเฟลกคาราเมลพบว่าอันดับแรกคือ ค่าบรรจุภัณฑ์ 3.10 บาท คิดเป็นร้อยละ 37.63 รองลงมาคือ ค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปา 2.42 บาท คิดเป็นร้อยละ 29.37 ค่าเสื่อมราคาอุปกรณ์ 2.00 บาท คิดเป็นร้อยละ 24.27 ค่ารถและค่าเดินทาง 0.72 คิดเป็นร้อยละ 8.73 จึงทำให้มีต้นทุนในการผลิต เฉลี่ย 8.24 บาทต่อกระปุก ตารางที่ 4.1.8 แสดงข้อมูลในการผลิตคอนเฟลกคาราเมล ที่ รายการ ต้นทุนเฉลี่ยต่อกระปุก ร้อยละ 1. ค่าวัตถุดิบ 25.50 65.82 2. ค่าใช้จ่ายในการผลิต 8.24 21.27 3. ค่าแรงงาน 2.00 12.91 ต้นทุนในการผลิตรวม 35.74 100.00 จากตารางที่ 4.1.8 แสดงการิวเคราะห์ข้อมูลในการผลิตคอนเฟลกคาราเมลพบว่า อันดับ แรกคือ ค่าวัตถุดิบ 25.50 บาท คิดเป็นร้อยละ 65.82 รองลงมาคือ ค่าใช้จ่ายในการผลิต 8.24 บาท คิดเป็นร้อยละ 21.27 และค่าแรงงาน 2.00 บาท คิดเป็นร้อยละ 12.91 จึงทำให้ต้นทุนในการผลิต เฉลี่ย 35.74 บาทต่อกระปุก


22 4.1.9 ข้อมูลเกี่ยวกับผลตอบแทนในการผลิตคอนเฟลกคาราเมล การศึกษาผลตอบแทนจากการผลิตคอนเฟลกคาราเมล ผู้ศึกษาได้ทำการศึกษาจาก ราคาขายกำไรขั้นต้น อัตรากำไรต่อทุนและกำไรต่อยอดขาย ดังแสดงในตารางที่ 4.1.9 - 4.1.11 ตารางที่ 4.1.9 แสดงต้นทุนของราคาขายต่อกระปุก ของผลิตภัณฑ์คอนเฟลกคาราเมล ชื่อผลิตภัณฑ์ ราคาขายต่อกระปุก (บาท) คอนเฟลกคาราเมล 40.00 จากตารางที่ 4.1.9 แสดงต้นทุนของราคาขายต่อกระปุก พบว่าคอนเฟลกคาราเมล มีราคาขาย 40 บาทต่อกระปุก ตารางที่ 4.1.10 แสดงกำไรขั้นต้นจากการผลิตคอนเฟลกคาราเมลต่อกระปุก รายการ จำนวน (บาท) รายการจากการขายคอนเฟลกคาราเมล 40.00 หัก ต้นทุนขาย ค่าวัตถุดิบ 25.50 ค่าใช้จ่ายในการผลิต 8.24 ค่าแรงงาน 2.00 35.74 กำไรขั้นต้น 5.25 จากตารางที่ 4.1.10 แสดงผลวิเคราะห์กำไรขั้นต้น พบว่า มีรายได้จากการผลิตคอนเฟลก คาราเมล 1.25 บาทต่อกระปุก มีต้นทุนขาย อันดับแรกคือ วัตถุดิบ 25.50 บาท รองลงมาคือ ค่าใช้จ่ายในการผลิต 8.24 บาท และค่าแรงงาน 2.00 บาท จึงทำให้มีกำไรขั้นต้น 5.25 บาท ต่อกระปุก


23 ตารางที่ 4.1.11 แสดงการคำนวณหาอัตราผลตอบแทนจากการผลิตคอนเฟลกคาราเมล อัตราส่วน สูตรการคำนวณ แทนค่า ผลการคำนวณ อัตรากำไรต่อทุน กำไรขั้นต้น ต้นทุน 5.25 x 100 38.74 13.55 อัตรากำไรต่อยอดขาย กำไรขั้นต้น ราคาขาย 5.25 x 100 40 13.13 จากตารางที่ 4.1.11 แสดงการวิเคราะห์อัตราผลตอบแทนจากการผลิตคอนเฟลกคาราเมล เฉลี่ยต่อกระปุก พบว่ามีผลกำไรต่อทุน 13.55 และมีอัตรากำไรขายต่อยอดขาย 13.13 ตามลำดับ 4.2 ข้อมูลสภาพทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม การศึกษาครั้งนี้ ผู้ศึกษาได้เก็บรวบรวมข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างที่สนใจขนมคอนเฟลกคาราเมล กำหนดกลุ่มตัวอย่างโดยเลือกจากนักเรียน นักศึกษา วิทยาลัยเทคนิคพิจิตรที่สนใจขนม คอนเฟลกคาราเมล จำนวน 46 คนซึ่งผู้ศึกษาได้นำมาวิเคราะห์ข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม เกี่ยวกับ เพศ อายุ และอาชีพ ดังแสดงในตารางที่ 4.2.1 – 4.2.4 ตารางที่ 4.2.1 แสดงจำนวนและค่าร้อยละของสภาพทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม รายการ จำนวน ร้อยละ ปวช. 32 64.00 ปวส. 3 6.00 มัธยมศึกษา 13 26.00 ประถมศึกษา 0 0.00 อื่น ๆ 2 4.00 รวม 50 100.00 จากตารางที่ 4.2.1 พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด อันดับแรกคือ ในระดับชั้น ปวช. จำนวน 32 คน คิดเป็นร้อยละ 64.00 รองลงมาคือ ระดับชั้นมัธยมศึกษา จำนวน 13 คน คิดเป็น ร้อยละ 26.000 ปวส. จำนวน 3 คน คิดเป็นร้อยละ 6.00 ตามลำดับ และอื่น ๆ จำนวน 2 คน คิดเป็นร้อยละ 4.00


24 ตารางที่ 4.2.2 แสดงจำนวนและค่าร้อยละของเพศทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม รายการ จำนวน ร้อยละ หญิง 45 90.00 ชาย 5 10.00 รวม 50 100.00 จากตารางที่ 4.2.2 พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามอันดับแรกคือ เพศหญิง จำนวน 45 คน คิดเป็นร้อยละ 90.00 รองลงมาคือ เพศชาย จำนวน 5 คน คิดเป็นร้อยละ 10.00 ตามลำดับ ตารางที่ 4.2.3 แสดงจำนวนและค่าร้อยละของอายุและผู้ตอบแบบสอบถาม รายการ จำนวน ร้อยละ ต่ำกว่า 15 ปี 1 2.00 15-20 ปี 47 94.00 20-30 ปี 2 4.00 รวม 50 100.00 จากตารางที่ 4.2.3 พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามอันดับแรกคือ อายุ 15-20 ปี มีจำนวน 47 คน คิดเป็นร้อยละ 94.00 รองลงมาคือ 20-30 ปี จำนวน 2 คน คิดเป็น ร้อยละ 4.00 และอันดับสุดท้ายคือ อายุต่ำกว่า 15 ปี จำนวน 1 คน คิดเป็นร้อยละ 2.00 ตามลำดับ ตารางที่ 4.2.4 แสดงจำนวนและค่าร้อยละของอาชีพผู้ตอบแบบสอบถาม รายการ จำนวน ร้อยละ นักเรียน/นักศึกษา 48 96.00 อื่น ๆ 2 4.00 รวม 50 100.00 จากตารางที่ 4.2.4 พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมดอันดับแรกคือ นักเรียน/นักศึกษา จำนวน 48 คน คิดเป็นร้อยละ 96.00 และอันดับสุดท้ายคือ อื่น ๆ จำนวน 2 คน คิดเป็น ร้อยละ 4.00 ตามลำดับ


25 4.3 ข้อมูลปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมการบริโภคคอนเฟลกคาราเมล ผลการวิเคราะห์ระดับความคิดเห็นของผู้บริโภคคอนเฟลกคาราเมล ที่เกี่ยวกับปัจจัยที่มีผลต่อ พฤติกรรมการบริโภคคอนเฟลกคาราเมล ดังแสดงในตารางที่ 4.3 ตารางที่ 4.3 แสดงว่าค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานความคิดเห็นบริโภคเกี่ยวกับปัจจัย ที่มีผลต่อการบริโภคคอนเฟลกคาราเมล รายการ ผลการวิเคราะห์ ระดับ x̅ S.D. ความคิดเห็น ปัจจัยด้านการผลิตภัณฑ์ 4.77 0.56 มากที่สุด 1. รสชาติของคอนเฟลกคาราเมล 4.70 0.67 มากที่สุด 2. คุณภาพของคอนเฟลกคาราเมล 4.76 0.68 มากที่สุด 3. ความสะอาดของคอนเฟลกคาราเมล 4.88 0.38 มากที่สุด 4. ขนาดและรูปแบบของคอนเฟลกคาราเมล 4.74 0.52 มากที่สุด ปัจจัยด้านราคา 4.64 0.62 มากที่สุด 1. ราคาเหมาะสมกับคุณภาพและปริมาณ 4.64 0.62 มากที่สุด ปัจจัยด้านบุคคลและสิ่งเสริมการขาย 4.81 0.49 มากที่สุด 1. การโฆษณา ประชาสัมพันธ์ 4.76 0.55 มากที่สุด 2. ความน่าเชื่อถือในการชำระเงิน 4.86 0.40 มากที่สุด 3. อัธยาศัยและการให้บริการของผู้ขาย 4.82 0.52 มากที่สุด รวม 4.77 0.56 มากที่สุด จากตารางที่ 4.3 ผู้ตอบแบบสอบถามมีความคิดเห็นว่าปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมการบริโภค คอนเฟลกคาราเมล ด้านที่มีค่าเฉลี่ย สูงสุด 3 อันดับแรกคือ ปัจจัยด้านบุคคลและการส่งเสริมการขาย ( x̅=4.81,S.D.=0.49 ) เป็นปัจจัยด้านผลิตภัณฑ์ ( x̅= 4.77,S.D.=0.56 ) และปัจจัยด้านราคา ( x̅=4.64,S.D.=0.62 ) ปัจจัยด้านผลิตภัณฑ์ ค่าเฉลี่ยสูงสุดอันดับแรกคือ ความสะอาดของบรรจุภัณฑ์ ( x̅=4.88 ,S.D.=0.38) รองลงมาคือ คุณภาพของคอนเฟลกคาราเมล ( x̅= 4.76,S.D.=0.68 ) ขนาดและรูปแบบ ของคอนเฟลกคาราเมล ( x̅= 4.74,S.D.=0.52 ) และรสชาติของคอนเฟลกคาราเมล ( x̅= 4.70 ,S.D.=0.67 ) ตามลำดับ


26 ปัจจัยด้านราคา ค่าเฉลี่ยสูงสุดอันดับแรกคือ ราคาเหมาะสมกับคุณภาพและปริมาณ ( x̅=4.64,S.D.=0.62 ) ปัจจัยด้านบุคคลและส่งเสริมการขาย ความน่าเชื่อถือในการชำระเงิน ( x̅=4.86,S.D.=0.40 ) รองลงมาคือ อัธยาศัยและการให้บริการของผู้ขาย ( x̅=4.82,S.D.=0.52 ) และการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ ( x̅= 4.76,S.D.=0.55 ) ตามลำดับ 4.4 ข้อมูลเกี่ยวกับการผลิตคอนเฟลกคาราเมล ตารางที่ 4.4 ข้อมูลเกี่ยวกับการผลิตคอนเฟลกคาราเมล รายการ ข้อมูล วิธีการจำหน่าย ขายปลีก ปริมาณการผลิตต่ออาทิตย์ 50 จำนวนคนผลิต 3 จากตารางที่ 4.4 แสดงข้อมูลเกี่ยวกับการผลิตคอนเฟลกคาราเมล พบว่า วิธีการจำหน่าย คอนเฟลกคาราเมล คือ วิธีการขายปลีก ปริมาณการผลิตคอนเฟลกคาราเมลต่ออาทิตย์ 50 กระปุก คนผลิตคอนเฟลกคาราเมลจำนวน 3 คน


บทที่ 5 สรุป อภิปรายผลและข้อเสนอแนะ การดำเนินการศึกษาครั้งนี้ เป็นการวิเคราะห์ศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนในการผลิต คอนเฟลกคาราเมล มีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1. เพื่อศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนในการผลิตคอนเฟลกคาราเมล 2. เพื่อศึกษาค่าใช้จ่ายที่ประหยัดได้จากการผลิตคอนเฟลกคาราเมล 3. เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียน นักศึกษา ที่มีต่อคอนเฟลกคาราเมลกลุ่มเป้าหมายที่ ใช้ในการศึกษา ได้แก่ นักเรียน นักศึกษา แผนกวิชาการบัญชี วิทยาลัยเทคนิคพิจิตร จำนวน 50 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ แบบสอบถามความคิดเห็นและพฤติกรรมการบริโภคคอน เฟลกคาราเมล แผนกวิชาการบัญชี วิทยาลัยเทคนิคพิจิตร ในการเก็บรวบรวมข้อมูลผู้ศึกษาได้ดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยตนเอง โดยนำ แบบสอบถามที่สร้างเสร็จแล้วไปทำการเก็บข้อมูลด้วยตนเอง จากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 50 คน รวบรวม แบบสอบถามที่ได้มาทำการวิเคราะห์ข้อมูล โดยใช้สถิติพื้นฐานการแจกแจงความถี่และค่าร้อยละ และใช้ ผลตอบแทนโดยใช้อัตราส่วนทางการเงิน 5.1 สรุปผลการศึกษา จากผลการวิเคราะห์ข้อมูล สรุปผลการศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนในการผลิตคอนเฟลกคาราเมล ดังนี้ 5.1.1 ต้นทุนการผลิตคอนเฟลกคาราเมลเฉลี่ยต่อกระปุก จากการศึกษา พบว่า ในการผลิตคอนเฟลกคาราเมล มีต้นทุนขายเฉลี่ย 35.74 บาท ต่อกระปุก ประกอบด้วยค่าวัตถุดิบ 25.50 บาทต่อกระปุก ค่าแรงงาน 5.00 บาทต่อกระปุก และ ค่าใช้จ่ายในการผลิต 8.24 บาทต่อกระปุก 5.1.2 สถานภาพและข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถามจากผลของการศึกษาพบว่าผู้ตอบ แบบสอบถามทั้งหมด อันดับแรกคือ ระดับชั้น ปวช. จำนวน 32 คน คิดเป็นร้อยละ 64.00 รองลงมาคือ ระดับชั้น มัธยมศึกษา จำนวน 13 คน คิดเป็นร้อยละ 26.00 ปวส. จำนวน 3 คน คิดเป็นร้อยละ 6.00 ตามลำดับ และอื่น ๆ จำนวน 2 คน คิดเป็นร้อยละ 4.00 ตามลำดับ


28 เพศหญิง จำนวน 45 คน คิดเป็นร้อยละ 90.00 รองลงมาคือ เพศชาย จำนวน 5 คน คิดเป็นร้อยละ 10.00 ตามลำดับ อายุ 15-20 ปี มีจำนวน 47 คน คิดเป็นร้อยละ 94.00 รองลงมาคือ 20-30 ปี จำนวน 2 คน คิดเป็นร้อยละ 4.00 และอันดับสุดท้ายคือ อายุต่ำกว่า 15 ปี จำนวน 1 คน คิดเป็นร้อยละ 2.00 ตามลำดับ นักเรียน/นักศึกษา จำนวน 48 คน คิดเป็นร้อยละ 96.00 และอันดับสุดท้ายคือ อื่น ๆ จำนวน 2 คน คิดเป็น ร้อยละ 4.00 ตามลำดับ 5.1.3 ปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมการบริโภคคอนเฟลกคาราเมล จากการศึกษาพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามมีความคิดเห็นว่าปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมบริโภคคอน เฟลกคาราเมลที่มีค่าเฉลี่ย อันดับ ได้แก่ 1. ปัจจัยด้านบุคคลและการส่งเสริมการขาย ( x̅=4.81,S.D.=0.49 ) 2. ปัจจัยด้านผลิตภัณฑ์ ( x̅= 4.77,S.D.=0.56 ) 3. ปัจจัยด้านราคา ( x̅=4.64,S.D.=0.62 ) 5.2 อภิปรายผลการศึกษา จากการสรุปผลการศึกษา มีประเด็นสำคัญควรนำมาอภิปรายผล ดังนี้ 5.2.1 ต้นทุนการผลิตคอนเฟลกคาราเมลประกอบไปด้วย 3 ส่วนที่สำคัญ ค่าวัตถุดิบ 25.50 บาท คิดเป็นร้อยละ 65.82 ค่าใช้จ่ายในการผลิต 8.24 บาท คิดเป็นร้อยละ 21.27 และค่าแรงงาน 2.00 บาท คิดเป็นร้อยละ 12.91 จึงทำให้ต้นทุนในการผลิตเฉลี่ย 35.74 บาทต่อกระปุก จะเห็นได้ว่าในการผลิต คอนเฟลกคาราเมลมีสัดส่วนของวัตถุดิบมากที่สุด ทั้งนี้เนื่องจากการ ผลิตคอนเฟลกคาราเมลใช้วัตถุดิบ หลัก คือ คอนเฟลก 5.2.2 การศึกษาความคิดเห็นและพฤติกรรมการบริโภคคอนเฟลกคาราเมลของผู้บริโภคทุก ปัจจัยมีผลลต่อการตัดสินใจของผู้บริโภคในการเลือกซื้อคอนเฟลกคาราเมลทั้งปัจจัยด้านผลิตภัณฑ์ ปัจจัยด้านราคา ปัจจัยด้านบุคคลและส่งเสริมการขาย ดังนั้นในการตัดสินใจประกอบกิจการร้าน คอนเฟลกคาราเมลให้ความสำคัญกับปัจจัยซึ่งมีผลต่อกำไรและคู่แข่งขันได้


29 5.3 ข้อเสนอแนะ 5.3.1 ข้อเสนอแนะในการศึกษาครั้งนี้ ในการผลิตคอนเฟลกคาราเมลมีต้นทุนในการทำที่ต่ำกว่าตามท้องตลาด จึงควรพิจารณาหา แนวทางในการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำเพื่อให้ได้คอนเฟลกคาราเมลที่มีคุณภาพและต้นทุนที่ต่ำลง 5.3.2 ข้อเสนอแนะในการศึกษาครั้งต่อไป ควรศึกษาแนวทางการพัฒนาคุณภาพและรูปแบบของคอนเฟลกคาราเมล เพื่อเพิ่มปริมาณ การผลิตครั้งต่อไปและเพิ่มยอดขายให้สูงขึ้น เช่น การทำให้มีหลายรสชาติและสีสันที่แตกต่างออกไป จากเดิม แล้วนำมาเปรียบเทียบด้านต้นทุนของผลิตภัณฑ์เดิม


30 บรรณานุกรม ผู้ช่วยศาสตราจารย์ดร. อุทัยวรรณฉัตรธง.(2560). “คอนเฟลกบาร์สตอเบอรี่”,(ออนไลน์) สืบค้นได้จาก : https://shorturl.asia/YCs9N [สืบค้นเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565] ณัฐณิชา ทวีแสงและคณะ.(2560). “การพัฒนาผลิตภัณฑ์ธัญพืชแท่ง”,(ออนไลน์) สืบค้นได้จาก : https://shorturl.asia/tXPyR [สืบค้นเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565] กัญวนา ศรีสุข และคณะผู้วิจัย.(2551). “ศึกษาเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารขบเคี้ยวจากธัญพืช” ,(ออนไลน์) สืบค้นได้จาก : https://shorturl.asia/DHTru [สืบค้นเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565] ชยธร จันทร์เรีย และทิฐินันท์ อารมณ์เกลี้ยง. 2557). “การพัฒนาผลิตภัณฑ์ธัญพืชแท่ง”,(ออนไลน์) สืบค้นได้จาก : https://shorturl.asia/MnVuK [สืบค้นเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565] กาญจนา เนืองนิตย์ และคณะวิจัย. 2562). “การพัฒนาผลิตภัณฑ์ธัญพืชแท่ง”,(ออนไลน์) สืบค้นได้จาก : https://shorturl.asia/IA2U8 [สืบค้นเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565]


ภาคผนวก


ภาคผนวก ก เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา แบบสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับปัจจัยที่มีผลต่อการผลิตคอนเฟลกคาราเมล


33 แบบสอบถามฉบับบนี้จัดทำขึ้นโดย นักศึกษากลุ่มโครงงานการศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนในการ ผลิตคอนเฟลกคาราเมลเพื่อจำหน่าย มีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่ผลิตขึ้น ว่ามีข้อผิดพลาดหรือข้อบกพร่องประการใดบ้าง ทำการสแกน QR Code ทางด้านบนเพื่อเข้าสู่เว็บไซต์ตอบแบบสอบถาม หรือเข้าไปที่เว็บไซต์ https://shorturl.asia/2bpZe


34 ภาพที่ 2 ภาพการส่งเว็บไซต์ให้นักศึกษาตอบแบบสอบถาม ภาพที่ 3 ภาพการส่งเว็บไซต์ให้นักศึกษาตอบแบบสอบถาม


10/1/66 11:46 แบบสอบถามความคิดเคิห็นที่เที่กี่ยวกี่กับกั ปัจจัยที่มีที่ผลมีต่อการบต่ริโภคคอนเฟลกคาราเมล ริ https://docs.google.com/forms/d/1O0ASqNre_YkmxmW5ED2soze4I9uV9cbZ1kxscRF_cn4/edit 1/5 ตอนที่ 1 ที่ ข้อข้มูลเมูกี่ยว กี่ กับกัพื้นฐานของ พื้ ผู้ตอบผู้ แบบสอบถาม ให้ผู้ห้ตผู้อบแบบสอบถามกรอกข้อข้มูลมูให้ ครบถ้วถ้น 1 ทำ เครื่องหมายเ รื่ พียงหพีนึ่ง นึ่ ช่องช่ ชาย หญิงญิ 2 ทำ เครื่องหมายเ รื่ พียงหพีนึ่ง นึ่ ช่องช่ ต่ำ กว่าว่ 15 ปี 15-20 ปี 20-30 ปี 30 ปีขึ้น ขึ้ ไป แบบสอบถามความคิดเคิห็นที่เ ที่ กี่ยว กี่ กับ กั ปัจจัยที่มี ที่ มี ผลต่อการบต่ริโภคคอนเฟลกคาราเมล ริ คำ ชี้แ ชี้ จง : โปรดให้รห้ายละเอียอีดเกี่ย กี่ วข้อข้งกับกัตัวตัท่าท่นโดยเลือลืกข้อข้ความตามความเป็นจริงริ ตอนที่ 1 ข้อข้มูลมูเกี่ย กี่ วกับกัพื้น พื้ ฐานของผู้ตผู้อบแบบสอบถาม ตอนที่ 2 ระดับดัคะแนนความพึงพึพอใจที่มี ที่ ต่มีอต่การบริโริภคคอนเฟลกคาราเมล ตอนที่ 3 ข้อข้เสนอแนะอื่น อื่ ๆ *จำ เป็น เพศ * ทำ เครื่อ รื่ งหมายเพียพีงหนึ่ง นึ่ ช่อช่ง อายุ * ทำ เครื่อ รื่ งหมายเพียพีงหนึ่ง นึ่ ช่อช่ง


10/1/66 11:46 แบบสอบถามความคิดเคิห็นที่เที่กี่ยวกี่กับกั ปัจจัยที่มีที่ผลมีต่อการบต่ริโภคคอนเฟลกคาราเมล ริ https://docs.google.com/forms/d/1O0ASqNre_YkmxmW5ED2soze4I9uV9cbZ1kxscRF_cn4/edit 2/5 3 ทำ เครื่องหมายเ รื่ พียงหพีนึ่ง นึ่ ช่องช่ อื่นอื่ๆ: ประถมศึกศึษา มัธมัยมศึกศึษา ประกาศนียนีบัตบัรวิชวิาชีพชี (ปวช.) ประกาศนียนีบัตบัรขั้นขั้ สูงสู (ปวส.) 4 ทำ เครื่องหมายเ รื่ พียงหพีนึ่ง นึ่ ช่องช่ อื่นอื่ๆ: นักเรียรีน-นักศึกศึษา ครูแรูละบุคบุลากร ตอนที่ 2 ที่ ระดับคะแนนความดัพึงพอใจ พึที่มี ที่ ต่มีอการบต่ริโภคคอนเฟล ริ กคาราเมล เกณฑ์รฑ์ะดับดัการ ประเมินมิ 5 = พึงพึพอใจมาก ที่สุที่ ดสุ 4 = พึงพึพอใจมาก 3 = พึงพึพอใจปาน กลาง 2 = พึงพึพอใจน้อน้ย 1 = พึงพึพอใจน้อน้ย ที่สุที่ ดสุ ระดับการดั ศึกษาศึ * ทำ เครื่อ รื่ งหมายเพียพีงหนึ่ง นึ่ ช่อช่ง อาชีพชี * ทำ เครื่อ รื่ งหมายเพียพีงหนึ่ง นึ่ ช่อช่ง


10/1/66 11:46 แบบสอบถามความคิดเคิห็นที่เที่กี่ยวกี่กับกั ปัจจัยที่มีที่ผลมีต่อการบต่ริโภคคอนเฟลกคาราเมล ริ https://docs.google.com/forms/d/1O0ASqNre_YkmxmW5ED2soze4I9uV9cbZ1kxscRF_cn4/edit 3/5 5 ทำ เครื่อรื่งหมายแถวละหนึ่งนึ่ ช่อช่งเท่าท่นั้นนั้ ปัจจัยด้านการผด้ลิตลิ * ทำ เครื่อ รื่ งหมายเพียพีงช่อช่งเดียดีวเท่าท่นั้นนั้ 5 4 3 2 1 รสชาติ ของ คอน เฟลก คารา เมล คุณคุภาพ ของ คอน เฟลก คารา เมล ความ สะอาด ของ คอน เฟลก คารา เมล ขนาด ของ คอน เฟลก คารา เมล รสชาติ ของ คอน เฟลก คารา เมล คุณคุภาพ ของ คอน เฟลก คารา เมล ความ สะอาด ของ คอน เฟลก คารา เมล ขนาด ของ คอน เฟลก คารา เมล


10/1/66 11:46 แบบสอบถามความคิดเคิห็นที่เที่กี่ยวกี่กับกั ปัจจัยที่มีที่ผลมีต่อการบต่ริโภคคอนเฟลกคาราเมล ริ https://docs.google.com/forms/d/1O0ASqNre_YkmxmW5ED2soze4I9uV9cbZ1kxscRF_cn4/edit 4/5 6 ทำ เครื่อรื่งหมายแถวละหนึ่งนึ่ ช่อช่งเท่าท่นั้นนั้ 7 ทำ เครื่อรื่งหมายแถวละหนึ่งนึ่ ช่อช่งเท่าท่นั้นนั้ ตอนที่ 3 ที่ ข้อเสนอแนะ ข้อื่นๆ อื่ 8 เนื้อหานื้นี้มินี้ ไมิด้ถูด้กสถูร้างร้ขึ้นหขึ้รือรืรับรองโดย Google ปัจจัยด้านราคาด้ * ทำ เครื่อ รื่ งหมายเพียพีงช่อช่งเดียดีวเท่าท่นั้นนั้ 5 4 3 2 1 ราคา เหมาะ สมกับกั คุณคุภาพ และ ปริมริาณ ราคา เหมาะ สมกับกั คุณคุภาพ และ ปริมริาณ ปัจจัยด้านด้บุคคลและบุส่งเสส่ริมการขายริ * ทำ เครื่อ รื่ งหมายเพียพีงช่อช่งเดียดีวเท่าท่นั้นนั้ 5 4 3 2 1 การโฆษณา ประชาสัมสัพันธ์ ความน่าเชื่อ ชื่ ถือถื ในการ ชำ ระเงินงิ อัธอัยาศัยศัและ การให้บห้ริกริาร ของผู้ขผู้าย การโฆษณา ประชาสัมสัพันธ์ ความน่าเชื่อ ชื่ ถือถื ในการ ชำ ระเงินงิ อัธอัยาศัยศัและ การให้บห้ริกริาร ของผู้ขผู้าย ข้อเสนอแนะ ข้ ฟ


ประทบัเวลา เพศ อายุระดบัการศกึษา อาชพีขอ้เสนอแนะ 22/11/2022, 10:53:04 หญงิ 15-20 ปี ประกาศนยีบตัรวชิาชพี (ปวช.) นักเรยีน-นักศกึษา 5 5 5 4 4 5 5 5 22/11/2022, 10:55:23 หญงิ 15-20 ปี ประกาศนยีบตัรวชิาชพี (ปวช.) นักเรยีน-นักศกึษา 5 5 5 5 5 5 5 5 22/11/2022, 10:56:18 หญงิ 15-20 ปีมธัยมศกึษา นักเรยีน-นักศกึษา 5 4 5 5 4 4 5 5 22/11/2022, 10:56:32 หญงิ 15-20 ปี ประกาศนยีบตัรวชิาชพี (ปวช.) นักเรยีน-นักศกึษา 5 5 5 5 5 5 5 5 22/11/2022, 10:57:16 หญงิ 15-20 ปีมธัยมศกึษา นักเรยีน-นักศกึษา 5 5 5 5 4 5 5 5 22/11/2022, 10:58:23 หญงิ 15-20 ปีมธัยมศกึษา นักเรยีน-นักศกึษา 4 4 5 4 4 5 5 5 22/11/2022, 10:58:30 หญงิ 15-20 ปีมธัยมศกึษา นักเรยีน-นักศกึษา 1 1 3 3 2 2 3 2 ไมก่รอบ 22/11/2022, 10:58:59 หญงิ 15-20 ปีมธัยมศกึษา นักเรยีน-นักศกึษา 5 5 5 5 5 5 5 5 22/11/2022, 11:03:00 หญงิ 15-20 ปี ประกาศนยีบตัรวชิาชพี (ปวช.) นักเรยีน-นักศกึษา 5 5 5 5 5 5 5 5 22/11/2022, 11:03:14 ชาย 15-20 ปี ประกาศนยีบตัรวชิาชพี (ปวช.) นักเรยีน-นักศกึษา 4 5 5 3 3 4 5 5 22/11/2022, 11:07:26 หญงิ 15-20 ปี ประกาศนยีบตัรวชิาชพี (ปวช.) นักเรยีน-นักศกึษา 4 5 4 4 5 4 5 5 22/11/2022, 11:08:18 หญงิ 15-20 ปี ประกาศนยีบตัรวชิาชพี (ปวช.) นักเรยีน-นักศกึษา 5 5 5 5 5 5 5 5 22/11/2022, 11:08:40 หญงิ 15-20 ปี ประกาศนยีบตัรวชิาชพี (ปวช.) นักเรยีน-นักศกึษา 5 5 5 5 5 5 5 5 22/11/2022, 11:09:20 หญงิ 15-20 ปีม.ปลาย นักเรยีน-นักศกึษา 5 5 5 5 5 5 5 5 - 22/11/2022, 11:11:22 หญงิ 15-20 ปี ประกาศนยีบตัรวชิาชพี (ปวช.) นักเรยีน-นักศกึษา 5 5 5 5 5 5 5 5 22/11/2022, 11:11:43 หญงิ 15-20 ปีมธัยมศกึษา นักเรยีน-นักศกึษา 5 5 5 5 5 5 5 5 22/11/2022, 11:12:52 หญงิ 15-20 ปี ประกาศนยีบตัรวชิาชพี (ปวช.) นักเรยีน-นักศกึษา 5 5 5 5 5 5 5 5 22/11/2022, 11:18:57 หญงิ 15-20 ปีมธัยมศกึษา นักเรยีน-นักศกึษา 5 5 5 5 4 4 4 5 ขนาดของบรรจภุณัฑ์ 22/11/2022, 11:24:29 หญงิ 15-20 ปี ประกาศนยีบตัรวชิาชพี (ปวช.) นักเรยีน-นักศกึษา 5 5 5 5 5 5 5 5 22/11/2022, 11:40:51 หญงิ 15-20 ปี ประกาศนยีบตัรวชิาชพี (ปวช.) นักเรยีน-นักศกึษา 5 4 5 4 4 5 5 5 22/11/2022, 11:54:30 หญงิ 15-20 ปี ประกาศนยีบตัรวชิาชพี (ปวช.) นักเรยีน-นักศกึษา 5 5 5 5 5 5 5 5 อรอ่ยมากกก 22/11/2022, 11:57:17 หญงิ 15-20 ปี ประกาศนยีบตัรวชิาชพี (ปวช.) นักเรยีน-นักศกึษา 5 5 5 5 5 5 5 5 22/11/2022, 12:00:39 หญงิ 15-20 ปีมธัยมศกึษา นักเรยีน-นักศกึษา 5 5 5 5 5 5 5 5 - 22/11/2022, 12:01:43 หญงิ 15-20 ปี ประกาศนยีบตัรวชิาชพี (ปวช.) นักเรยีน-นักศกึษา 4 5 5 5 5 5 5 5 อรอ่ยมากเลยคะ่ 22/11/2022, 12:02:20 หญงิ 15-20 ปี ประกาศนยีบตัรวชิาชพี (ปวช.) นักเรยีน-นักศกึษา 5 5 5 5 5 5 5 5 22/11/2022, 12:08:54 หญงิ 15-20 ปี ประกาศนยีบตัรวชิาชพี (ปวช.) นักเรยีน-นักศกึษา 5 5 5 5 5 5 5 5 22/11/2022, 12:36:44 หญงิ 15-20 ปี ประกาศนยีบตัรวชิาชพี (ปวช.) นักเรยีน-นักศกึษา 5 5 5 5 4 5 5 5 22/11/2022, 12:37:44 หญงิ 15-20 ปี ประกาศนยีบตัรวชิาชพี (ปวช.) นักเรยีน-นักศกึษา 4 5 5 5 5 5 5 4 22/11/2022, 12:43:11 หญงิ 15-20 ปี ประกาศนยีบตัรวชิาชพี (ปวช.) นักเรยีน-นักศกึษา 5 5 5 5 5 5 5 5 22/11/2022, 15:00:44 หญงิ 15-20 ปี ประกาศนยีบตัรวชิาชพี (ปวช.) นักเรยีน-นักศกึษา 4 5 5 5 5 5 5 5 22/11/2022, 15:07:32 หญงิ 15-20 ปี ประกาศนยีบตัรวชิาชพี (ปวช.) นักเรยีน-นักศกึษา 5 5 5 5 5 5 5 5 22/11/2022, 15:36:13 หญงิ 15-20 ปี ประกาศนยีบตัรวชิาชพี (ปวช.) นักเรยีน-นักศกึษา 5 5 5 5 5 5 5 5 กนิขา้วยงัคะ 22/11/2022, 15:43:19 ชาย 15-20 ปี ประกาศนยีบตัรวชิาชพี (ปวช.) นักเรยีน-นักศกึษา 4 5 5 5 5 5 5 5 23/11/2022, 9:57:47 หญงิ 15-20 ปีมธัยมศกึษา นักเรยีน-นักศกึษา 4 4 4 4 4 4 4 4 - 23/11/2022, 9:58:23 หญงิ 15-20 ปี ประกาศนยีบตัรวชิาชพี (ปวช.) นักเรยีน-นักศกึษา 5 4 5 5 4 4 5 5 - 23/11/2022, 10:02:44 หญงิ 15-20 ปี ประกาศนยีบตัรขนั สงู (ปวส.) นักเรยีน-นักศกึษา 5 5 5 5 5 5 5 5 23/11/2022, 10:03:16 ชาย 15-20 ปี ประกาศนยีบตัรขนั สงู (ปวส.) นักเรยีน-นักศกึษา 4 3 5 4 5 4 5 4 23/11/2022, 10:04:23 ชาย 15-20 ปี ประกาศนยีบตัรวชิาชพี (ปวช.) นักเรยีน-นักศกึษา 5 5 5 5 5 5 5 5 23/11/2022, 10:07:01 หญงิ 15-20 ปี ประกาศนยีบตัรวชิาชพี (ปวช.) นักเรยีน-นักศกึษา 5 5 5 4 5 4 5 5 24/11/2022, 6:51:58 หญงิ 15-20 ปีมธัยมศกึษา นักเรยีน-นักศกึษา 5 5 5 5 5 5 5 5 - 25/11/2022, 8:20:50 หญงิ 20-30 ปี ประกาศนยีบตัรขนั สงู (ปวส.) ทํางาน 5 5 5 5 5 5 5 5 25/11/2022, 8:26:39 หญงิมธัยมศกึษา นักเรยีน-นักศกึษา 4 5 4 5 4 4 5 4 25/11/2022, 8:27:20 ชาย 15-20 ปีมธัยมศกึษา นักเรยีน-นักศกึษา 4 5 4 5 4 5 4 5 25/11/2022, 8:27:32 หญงิ 20-30 ปี ปรญิญาตรีพนักงานขาย 5 5 5 5 5 5 5 5 25/11/2022, 8:29:42 หญงิ 15-20 ปี ประกาศนยีบตัรวชิาชพี (ปวช.) นักเรยีน-นักศกึษา 5 4 5 4 4 5 4 4 28/11/2022, 19:21:11 หญงิ 15-20 ปีมธัยมศกึษา นักเรยีน-นักศกึษา 5 5 5 5 5 5 5 5 14/12/2022, 9:31:14 หญงิ 15-20 ปี ประกาศนยีบตัรวชิาชพี (ปวช.) นักเรยีน-นักศกึษา 5 5 5 4 4 5 5 5 14/12/2022, 9:31:37 หญงิ 15-20 ปี ประกาศนยีบตัรวชิาชพี (ปวช.) นักเรยีน-นักศกึษา 5 5 5 5 5 5 5 5 14/12/2022, 9:41:12 หญงิ 15-20 ปี ประกาศนยีบตัรวชิาชพี (ปวช.) นักเรยีน-นักศกึษา 5 5 5 5 5 5 4 4 ขายดบิขายดี 14/12/2022, 9:42:57 หญงิ 15-20 ปี ประกาศนยีบตัรวชิาชพี (ปวช.) นักเรยีน-นักศกึษา 5 5 5 5 5 5 5 5 ไมค่อ่ยอรอ่ย ปัจจัยดา้นการผลติ [รสชาตขิปัจจัยดา้นการผลติ [คณุภาพปัจจัยดา้นการผลติ [ความสะปัจจัยดา้นการผลติ [ขนาดขอปัจจัยดา้นราคา [ราคาเหมาะ ปัจจัยดา้นบคุคลและสง่เสรมิ ปัจจัยดา้นบคุคลและสง่เสรมิ ปัจจัยดา้นบคุคลและสง่เสรมิ ตํา กวา่ 15


ภาคผนวก ข แบบเสนอหัวข้อและเค้าโครง โครงงานศึกษาต้นทุน และผลตอบแทนในการผลิตคอนเฟลกคาราเมลเพื่อจำหน่าย


41 แบบเสนอโครงงาน 1. ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย) การศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนในการผลิตคอนเฟลก คาราเมลเพื่อจำหน่าย ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ) Cost and Return Sutdy on Production Cornflakes Caramel for sale 2. ประเภทของโครงงาน สิ่งประดิษฐ์/นวัตกรรม ศึกษาทฤษฎีและหลักการ ศึกษาค้นคว้าทดลอง สำรวจรวบรวมข้อมูล 3. รายชื่อผู้จัดทำโครงงาน 3.1 นางสาวกุลิสรา พุ่มเจริญ รหัสนักศึกษา 63202011102 3.2 นายซิตษณุพงษ์ รอดหลำ รหัสนักศึกษา 63202011110 3.3 นางสาวณิชาพร ขันทอง รหัสนักศึกษา 63202011113 4. ครูที่ปรึกษาโครงงาน นางสาวจารุณี จุลบุตร


42 5. ความสำคัญของโครงงาน/หลักการและเหตุผล คอนเฟลกมีต้นกำเนิดมาจากกรุ๊ปศาสนาเซเวนธ์เดย์ แอดเวนติสต์ ที่อยากกินของมังสวิรัติ จำพวกใหม่ จึงทดสอบนำเมล็ดพืชหลายแบบมาทำดูยกตัวอย่างเช่น ข้าวสาลี ข้าวโอ๊ต ข้าวสาร ข้าวบาร์เลย์ ในปีค.ศ.1894 ดร.จอห์น ฮาร์วีย์ เคลล็อกก์ (Dr.John Harvey Kellogg) แพทย์ใน เมืองมิชิแกนแล้วก็สมาชิกกรุ๊ปแอดแวนทิสต์ได้นำเมล็ดพืชต่าง ๆ มาทำเป็นของกินให้ผู้ป่วย โดยไม่ใส่ แอลกอฮอล์ คาเฟอีน รวมทั้งสารยาสูบ ปรากฏว่าเป็นของกินที่มีคุณประโยชน์ก็จริงแต่ว่ารสจืดจาง มากมาย นายสิลเวสเตอร์ เกรแฮม สมาชิกคนหนึ่งซึ่งเป็นคนอบขนมปังกรอบ รวมทั้งเคลล็อกก์ ก็ เลยมีความคิดว่าจำต้องเพิ่มเติมรสให้อาหารจำพวกนี้มีรสชาติให้ได้ความมากยิ่งกว่านี้แต่ว่าระหว่างนั้น เคลล็อกก์ รวมทั้ง วิล คีธ เคลล็อกก์ น้องชายบังเอิญลืมเมล็ดข้าวสาลีไว้บนเตา เมื่อกลับมาพบว่า เมล็ดข้าวสาลีเหี่ยวย่นไปแล้ว ด้วยความเสียดายก็เลยยัดใส่ลงไปในเครื่องบดหวังยืดให้เป็นแผ่น ปรากฏว่าเมล็ดข้าวได้แปลงเป็นราวกับเกล็ดปิ้งแล้วรสดียิ่งขึ้นต่อมาได้มีการเพิ่มเติมน้ำตาล งา คารา เมลแล้วก็ผลไม้จำพวกเบอร์รี่ต่าง ๆ ลงไปในคอนเฟลกเพื่อเพิ่มรสชาติและสารอาหารเพิ่มมากขึ้น คอนเฟลก อัลมอนด์ เมล็ดฟักทองอบสุก งาขาวอบสุก ลูกเกดดำ โดยวัตถุดิบเหล่านี้ จะนำไปอบ กับคาราเมล ซึ่งคาราเมลก็จะประกอบไปด้วย เนยสดเค็ม น้ำตาลทราย นมข้นจืด และเกลือ เป็น ต้น คอนเฟลกเป็นขนมหวานที่อุดมไปด้วยวิตามิน ไฟเบอร์ แร่ธาตุ และใยอาหาร ซึ่งมาจากธัญพืช แบบเต็มเมล็ด (โฮเกรน) ที่อุดมด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ครบถ้วน ข้อดีของคอนเฟลกคาราเมล คือ ทำง่ายขั้นตอนไม่ยุ่งยากและสามารถดัดแปลงทำขายเพื่อเป็นการสร้างรายได้เสริมได้อีกด้วย ในปัจจุบันเราจะเห็นได้ว่าคนไทยในสมัยนี้นิยมรับวัฒนธรรมอาหารการกินของชาวต่างชาติ มาอย่างแพร่หลาย เช่น คอนเฟลกคาราเมลเป็นที่ชื่นชอบของชาวสาวกขนมหวานหรือขนมขบเคี้ยว ซึ่งคอนเฟลกคาราเมลจะมีรสชาติหวาน กรุบกรอบจากเนื้อคอนเฟลกและถั่วต่าง ๆ ผู้คนส่วนใหญ่ มักรับประทานเป็นอาหารว่างระหว่างวัน สามารถรับประทานได้เรื่อย ๆ แต่มีราคาค่อนข้างสูง และอาจจะหวานเกินไปสำหรับผู้ที่กำลังลดความอ้วน ผู้ที่เป็นเบาหวาน หรือผู้บริโภคที่ไม่ชอบ รับประทานหวาน จากปัญหาดังกล่าวคณะผู้จัดทำมีความสนใจและมองเห็นช่องทางธุรกิจที่จะทำธุรกิจคอน เฟลกเพื่อศึกษาต้นทุน ผลตอบแทนในการทำคอนเฟลกคาราเมล และความพึงพอใจของผู้บริโภค ดังนั้นในการศึกษาครั้งนี้จึงมุ่งหวังที่จะศึกษาความเป็นไปได้ของโครงงานเป็นแนวทางในการวางกล ยุทธ์ทางการตลาดให้เหมาะสมความพึงพอใจและพฤติกรรมของผู้บริโภคในการศึกษาครั้งนี้จะให้ ความสำคัญกับปัจจัยเหล่านี้เป็นหลัก เพราะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจเลือกทานอีก ด้วย 6. วัตถุประสงค์ของโครงงาน 6.1 เพื่อศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนจากการทำคอนเฟลกคาราเมล 6.2 เพื่อศึกษาถึงผลกำไรขาดทุนจากการทำคอนเฟลกคาราเมล 6.3 เพื่อศึกษาความพึงพอใจของผู้บริโภคที่มีต่อการบริโภคคอนเฟลกคาราเมล


Click to View FlipBook Version