The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

การศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนในการผลิตถุงหอมจากบุหงาแห้งเพื่อจำหน่าย

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by S pooh, 2023-09-18 02:50:50

การศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนในการผลิตถุงหอมจากบุหงาแห้งเพื่อจำหน่าย

การศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนในการผลิตถุงหอมจากบุหงาแห้งเพื่อจำหน่าย

การศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนในการผลิตถุงหอมจากบุหงาแห้งเพื่อจ าหน่าย นางสาวจีรนันท์ เถาสมบูรณ์ รหัสประจ าตัว 63202011106 นางสาวอริสสรา สิงห์ลอ รหัสประจ าตัว 63202011107 นางสาวนัฎทิชา นิลบุตร รหัสประจ าตัว 63202011117 ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ สาขาวิชา การบัญชี สาขางาน การบัญชี ห้อง 1 ครูที่ปรึกษา นางสาวกรรัตน์ ค าดา วิทยาลัยเทคนิคพิจิตร อาชีวศึกษาจังหวัดพิจิตร ส านักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565


ใบรับรองโครงงาน รายวิชา โครงงาน รหัสวิชา 20201-8501 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 ชื่อโครงงาน การศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนในการผลิตถุงหอมจากบุหงาแห้งเพื่อจ าหน่าย ผู้รับผิดชอบโครงงาน 1. นางสาวจีรนันท์ เถาสมบูรณ์ รหัสประจ าตัว 63202011123 2. นางสาวอริสสรา สิงห์ลอ รหัสประจ าตัว 63202011125 3. นางสาวนัฎทิชา นิลบุตร รหัสประจ าตัว 63202011131 ครูที่ปรึกษา นางสาวกรรัตน์ ค าดา ปีการศึกษา 2565 ได้รับอนุมัติให้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษารายวิชาโครงงาน สาขาวิชา การบัญชี หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ พุทธศักราช 2562 คณะกรรมการสอบโครงงาน ลงชื่อ..............................................ประธาน (นางสาวจารุณี จุลบุตร) ลงชื่อ..............................................กรรมการ (นางสาวกรรัตน์ ค าดา) ลงชื่อ..............................................กรรมการและเลขานุการ (นางสาวอรวลัญช์ น้อยสมวงษ์) ลงชื่อ..............................................หัวหน้าแผนกวิชาการบัญชี (นางสกาวรัตน์ บุญศิลป์) ลงชื่อ..............................................รองผู้อ านวยการฝ่ายวิชาการ (นายอิศรา อยู่ยิ่ง) ลงชื่อ..............................................ผู้อ านวยการวิทยาลัย (นายชัยณรงค์ คัชมาตย์)


ก ชื่อผลงาน : การศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนในการผลิตถุงหอมจากบุหงาแห้งเพื่อจ าหน่าย ผู้จัดท า : 1. นางสาวจีรนันท์ เถาสมบูรณ์ 2. นางสาวอริสสรา สิงห์ลอ 3. นางสาวนัฎทิชา นิลบุตร ครูที่ปรึกษา : นางสาวกรรัตน์ ค าดา สาขาวิชา : การบัญชี สาขางาน : การบัญชี ปีการศึกษา : 2565 บทคัดย่อ ในการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ของการวิจัย คือ 1. เพื่อศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนจากการท าถุงหอมจากบุหงาแห้ง 2. ท าให้ทราบถึงผลก าไรขาดทุนจากการท าถุงหอมจากบุหงาแห้ง 3. เพื่อศึกษาความพึงพอใจของผู้บริโภคที่มีต่อการใช้ถุงหอมจากบุหงาแห้ง โดยมีสมมติฐานในการวิจัย คือ ประชากรที่ใช้ในการศึกษาตามโครงงานถุงหอมจากบุหงาแห้ง เพื่อจ าหน่าย กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ประกอบด้วย นักเรียน นักศึกษา แผนกวิชาการบัญชี วิทยาลัยเทคนิคพิจิตร จ านวน 50 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสอบความคิดเห็นและพฤติกรรมการใช้ผลิตภัณฑ์ ถุงหอมจากบุหงาแห้ง แผนกวิชาการบัญชี วิทยาลัยเทคนิคพิจิตร ค่าสถิติที่ใช้ในการวิจัย คือ วิเคราะห์ข้อมูล โดยใช้สถิติพื้นฐาน การแจกแจงความถี่ และค่าร้อยละ ผลการวิจัยมีดังนี้ 1. ต้นทุนในการผลิตถุงหอมจากบุหงาแห้งเฉลี่ยบาทต่อถุง 2. ค่าใช้จ่ายในการผลิตถุงหอมจากบุหงาแห้งบาทต่อถุง 3. ความพึงพอใจในการใช้ผลิตภัณฑ์ถุงหอมจากบุหงาแห้ง ในภาพรวมอยู่ระดับพึงพอใจมาก และเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด 3 อันดับแรกได้แก่ 1. ปัจจัยด้านบุคคลและ ส่งเสริมการขาย 2. ปัจจัยด้านราคา 3. ปัจจัยด้านการผลิตภัณฑ์


ข กิตติกรรมประกาศ การจัดท าโครงงานครั้งนี้ ส าเร็จลุล่วงได้เป็นอย่างดีด้วยความอนุเคราะห์และความกรุณาให้ ค าปรึกษา ตั้งแต่ต้นจนจบเสร็จสมบูรณ์ ตลอดจนให้ความรู้และประสบการณ์ที่ดีแก่ข้าพเจ้าจาก นางสาวอรวลัญช์ น้อยสมวงษ์ ครูผู้สอนวิชาโครงงาน ผู้จัดท าขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูงมา ณ โอกาสนี้ ขอกราบขอบพระคุณนางสาวกรรัตน์ ค าดา ครูที่ปรึกษาโครงงาน ที่กรุณาให้ค าแนะน าและ ให้ค าปรึกษามาตลอดจนส าเร็จลุล่วงไปด้วยดี ตั้งแต่แรกให้ความช่วยเหลือแก้ไขข้อบกพร่องต่าง ๆ เพื่อให้จัดท าโครงงานฉบับนี้ให้มีความสมบูรณ์ ผู้จัดท าโครงงานขอขอบพระคุณคณะอาจารย์ทุกท่านที่ ได้ประสิทธิ์ประสาทวิชา อีกทั้ง บิดา มารดา พี่น้องและเพื่อน ๆ ของผู้จัดท าโครงงาน ซึ่งให้ก าลังใจ และความช่วยเหลือมาโดยตลอด คุณค่าอันพึงมีจากการศึกษาค้นคว้าวิจัยอิสระฉบับนี้ ขอมอบเพื่อคุณบิดามารดา ครูอาจารย์ และผู้มีพระคุณทุกท่าน นางสาวจีรนันท์ เถาสมบูรณ์ นางสาวอริสสรา สิงห์ลอ นางสาวนัฎทิชา นิลบุตร


ค สารบัญ หน้า บทคัดย่อ ก กิตติกรรมประกาศ ข สารบัญ ค สารบัญตาราง ง สารบัญภาพ จ บทที่ 1. บทน า 1.1 ความส าคัญของโครงงาน/หลักการและเหตุผล 1 1.2 วัตถุประสงค์ในการศึกษา 2 1.3 ขอบเขตในการศึกษา 2 1.4 นิยามศัพท์เฉพาะ 3 2. เอกสารงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง 2.1 หลักการแนวคิดเกี่ยวกับต้นทุน 4 2.2 หลักการแนวคิดเกี่ยวกับผลตอบแทน 8 2.3 เอกสารงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง 9 2.4 กรอบแนวคิดในการจัดท าโครงงาน 12 3. วิธีการด าเนินงาน 3.1 กลุ่มเป้าหมายในการศึกษา 13 3.2 เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา 13 3.3 วิธีการด าเนินการศึกษา 13 3.4 การเก็บรวบรวมข้อมูล 14 3.5 การวิเคราะห์ข้อมูล 14 3.6 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล 14


ค สารบัญ (ต่อ) หน้า 4. ผลการวิเคราะห์ข้อมูล 4.1 ข้อมูลต้นทุนและผลตอบแทนในการผลิตถุงหอมจากบุหงาแห้ง 15 4.2 ข้อมูลสภาพทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม 21 4.3 ข้อมูลปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมการใช้ถุงหอมจากบุหงาแห้ง 22 4.4 ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการท าถุงหอมจากบุหงาแห้ง 24 5. สรุป อภิปรายผลและข้อเสนอแนะ 5.1 สรุปผลการศึกษา 25 5.2 อภิปรายผล 26 5.3 ข้อเสนอแนะ 27 บรรณานุกรม 28 ภาคผนวก ภาคผนวก ก เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาแบบสอบถามความคิดเห็น 30 เกี่ยวกับปัจจัยที่มีผลต่อผู้สนใจถุงหอมบุหงาแห้ง ภาคผนวก ข แบบเสนอหัวข้อและเค้าโครง โครงงานศึกษาต้นทุนและ 33 ผลตอบแทนในการผลิตถุงหอมจากบุหงาแห้งเพื่อการจ าหน่าย ภาคผนวก ค แสดงภาพขั้นตอนการผลิตถุงหอมจากบุหงาแห้ง 40 ภาคผนวก ง บัญชี การศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนในการใช้ผลิตภัณฑ์ 45 ถุงหอมจากบุหงาแห้งเพื่อการจ าหน่าย ภาคผนวก จ แสดงภาพการพบครูผู้สอนและครูที่ปรึกษาโครงงาน 59 ประวัติผู้จัดท าโครงงาน 62


ง สารบัญตาราง ตารางที่ หน้า ตารางที่ 4.1.1 แสดงการแบ่งประเภทต้นทุนที่ท าการศึกษา 16 ตารางที่ 4.1.2 แสดงต้นทุนค่าวัตถุดิบในการท าถุงหอมจากบุหงาแห้ง 17 ตารางที่ 4.1.3 แสดงต้นทุนค่าแรงในการผลิตถุงหอมจากบุหงาแห้ง 17 ตารางที่ 4.1.4 แสดงต้นทุนค่ารถและค่าเดินทางที่ใช้ในการท าถุงหอมจาก 18 บุหงาแห้ง ตารางที่ 4.1.5 แสดงข้อมูลสินทรัพย์และค่าเสื่อมราคาอุปกรณ์ 18 ตารางที่ 4.1.6 แสดงข้อมูลต้นทุนค่าใช้จ่ายในการผลิต 18 ตารางที่ 4.1.7 แสดงข้อมูลต้นทุนในการท าถุงหอมจากบุหงาแห้ง 19 ตารางที่ 4.1.8 แสดงต้นทุนของราคาขายต่อกระปุกของผลิตภัณฑ์ถุง 19 จากบุหงาแห้ง ตารางที่ 4.1.9 แสดงก าไรขั้นต้นจาการผลิตถุงหอมจากบุหงาแห้งต่อถุง 20 ตารางที่ 4.1.10 แสดงการค านวณหาอัตราผลตอบแทนจากการผลิต 20 ถุงหอมจากบุหงาแห้ง ตารางที่ 4.2.1 แสดงจ านวนและค่าร้อยละของการศึกษา 21 ของผู้ตอบแบบสอบถาม ตารางที่ 4.2.2 แสดงจ านวนและค่าร้อยละของเพศของผู้ตอบแบบสอบถาม 21 ตารางที่ 4.2.3 แสดงจ านวนค่าร้อยละอายุของผู้ตอบแบบสอบถาม 22 ตารางที่ 4.2.4 แสดงจ านวนและค่าร้อยละของอาชีพของผู้ตอบแบบสอบถาม 22 ตารางที่ 4.3 การแสดงค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานความคิดเห็น 23 เกี่ยวกับปัจจัยที่มีต่อการใช้ถุงหอมจากบุหงาแห้ง ตารางที่ 4.4 ข้อมูลเกี่ยวกับการท าถุงหอมจากบุหงาแห้ง 24


จ สารบัญภาพ ภาพที่ หน้า 1. แสดงแนวคิดในการจัดท าโครงงาน 12 2. ภาพการส่งเว็บไซต์ให้นักศึกษาตอบแบบสอบถามออนไลน์ 31 3. ภาพการส่งเว็บไซต์ให้นักศึกษาตอบแบบสอบถามออนไลน์ 32 4. อุปกรณ์ที่ใช้ผลิตถุงหอมจากบุหงาแห้ง 41 5. บรรจุภัณฑ์ 41 6. วิธีการท าที่ 1 41 7. วิธีการท าที่ 2 42 8. วิธีการท าที่ 3 42 9. วิธีการท าที่ 4 43 10. วิธีการท าที่ 5 43 11. ภาพผลิตภัณฑ์บรรจุพร้อมจ าหน่าย 44 12. ภาพพบครูผู้สอนโครงงาน วันที่ 22 พฤศจิกายน 2565 60 13. ภาพพบครูผู้สอนโครงงาน วันที่ 22 พฤศจิกายน 2565 60 14. ภาพพบครูที่ปรึกษาโครงงาน วันที่ 11 พฤศจิกายน 2565 61 15. ภาพพบครูที่ปรึกษาโครงงาน วันที่ 23 พฤศจิกายน 2565 61


บทที่ 1 บทน ำ 1.1 ควำมส ำคัญของโครงงำน/หลักกำรและเหตุผล จากพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตสถานได้ให้ความหมายของ บุหงาร าไป ไว้ว่า ดอกไม้ที่ ปรุงด้วยเครื่องหอมและบรรจุลงในถุงผ้าโปร่งเล็ก ๆ ท าเป็นรูปร่างต่าง ๆ มักเรียกย่อว่า บุหงาร าไป เป็นค าที่ไทยเรารับมาจากชวา บุหงา หมายถึง ดอกไม้ ร าไป หมายถึง เบ็ดเตล็ด บุหงาร าไปจึงมี ความหมายว่าดอกไม้ต่าง ๆ ดอกไม้หลายชนิด ในวรรณคดีไทยเรื่องอิเหนา ตอนบุษบาชมศาลเล่นธาร ท าให้รู้ว่าบุหงาร าไปนั้นท าจากดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมหลายชนิด รวมทั้งดอกปะหนันหรือดอกล าเจียก ด้วย จุดประสงค์ในการท าบุหงาร าไปเพื่อถวายพระหรือถวายเทวดาอารักษ์ จากการท าบุหงาร าไป ของนางบุษบาในตอนนี้เป็นการท าบุหงาร าไปสด คือใช้ดอกไม้สดที่มีกลิ่นหอมหลายชนิด น ามาปลิด เอาเฉพาะกลีบแล้วน ากลีบดอกไม้มาเคล้ากันห่อด้วยผ้าโปร่งเพียงเท่านี้ก็ได้บุหงาร าไปเพื่อถวายพระ หรือถวายเทวดาอารักษ์ แต่บุหงาที่เราพบเห็นในปัจจุบันนี้เป็นบุหงาแห้งต้องน าดอกไม้ไปตากให้แห้ง ก่อน และมีการย้อมสีดอกไม้เพื่อความสวยงามแล้วจึงอบด้วยน้ าหอมบรรจุลงในผ้าโปร่ง ใช้ส าหรับ อบเสื้อผ้าหรือใช้เป็นของช าร่วยงานมงคล บุหงาร าไปจัดเป็นเครื่องหอมชาววังแบบโบราณที่ถูกประดิษฐ์ ขึ้นจากกลีบดอกไม้หอม จะเห็นได้ว่าการปรุงบุหงามีมาจากราชส านักของไทยมาอย่างยาวนานหลาย ร้อยปีแล้ว เริ่มนิยมท ากันจากราชส านักไม่เป็นที่เผยแพร่แก่สามัญชนถือเป็นวิชาชั้นสูง ถูกถ่ายทอด กันเรื่อยมาจบจนกรุงรัตนโกสินทร์ก็ยังนิยมประดิษฐ์กันมาอยู่แต่ในเขตพระราชฐานเช่นเดิม จวบจน ยุครัชกาลที่ 5 ถือเป็นศิลปะประดิษฐ์และงานเครื่องหอมเฟื่องฟูถึงจุดสูงสุด เกิดมีเครื่องหอมชนิดใหม่ ถูกคิดค้นดัดแปลงขึ้นมาหลายชนิด บุหงาร าไปก็เช่นกันได้รับความนิยมมาก นิยมท าขึ้นเป็นของช าร่วย แจกในงานพิธีต่าง ๆ ในปัจจุบันมีการใช้ผลิตภัณฑ์หอมระเหยที่มีบทบาทส าคัญในการค้าทางตลาดโลกที่ น่าสนใจ คือน้ ามันหอมระเหยจากพืชตระกูลส้มส่วนน้ ามันหอมระเหยที่มีความส าคัญรองลงมาคือ มิ้นต์ ซึ่งน้ ามันมิ้นต์ที่นิยมในตลาดโลกมีอยู่ 3 ชนิด คือ Peppermint Spearmint Cornmint ซึ่งมิ้นต์สองชนิดแรกมีการผลิตมากในสหรัฐอเมริกา อย่างไรก็ตาม Peppermint มีการใช้กันอย่าง กว้างขวางมากกว่า ส่วน Cornmint มีการผลิตมากในจีนและอินเดียท าให้มีอิทธิพลเข้ามาในประเทศไทย


2 รวมถึงการใช้สเปรย์ดับกลิ่นและอื่น ๆ เช่น เจลหอมดับกลิ่น เทียนหอม ก้านไม้หอมเพราะสามารถ หาซื้อง่ายและมีบรรจุภัณฑ์ที่สวยงามทันสมัย จึงท าให้ถุงหอมบุหงาแห้งเริ่มไม่เป็นที่นิยม จากข้อมูลดังกล่าว คณะผู้จัดท ามีความสนใจที่จะท าเรื่อง การศึกษาต้นทุนและ ผลตอบแทนในการผลิตถุงหอมจากบุหงาแห้ง เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ดังนั้น การศึกษาในครั้งนี้จึงมุ่งหวังที่จะศึกษาความเป็นไปได้ของโครงงานเป็นแนวทางในการวางแผนกลยุทธ์ การตลาดให้เหมาะสม ความพึงพอใจและพฤติกรรมของผู้บริโภค การศึกษาในครั้งนี้จะให้ ความส าคัญกับปัจจัยเหล่านี้เป็นหลักเพราะอาจเป็นปัจจัยส าคัญที่จะท าให้ ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อสินค้า อีกด้วย 1.2 วัตถุประสงค์ของโครงงำน 1.2.1 เพื่อศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนจากการท าถุงหอมจากบุหงาแห้ง 1.2.2 ท าให้ทราบถึงผลก าไรขาดทุนจากการท าถุงหอมจากบุหงาแห้ง 1.2.3 เพื่อศึกษาความพึงพอใจของผู้บริโภคที่มีต่อการใช้ถุงหอมจากบุหงาแห้ง 1.3 ขอบเขตของโครงงำน 1.3.1 ด้านตัวแปร - 1.3.2 ด้านเนื้อหา การวิจัยครั้งนี้เป็นการศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนในการท าถุงหอมจากบุหงาแห้งดังนี้ 1) ศึกษาต้นทุนการผลิตถุงหอมจากบุหงาแห้งตั้งแต่ขั้นตอนการเตรียมการ ท าจนไปถึงขั้นตอนการจัดจ าหน่าย และวิเคราะห์โครงสร้างต้นทุนในการท าถุงหอมจากบุหงาแห้ง 2) ศึกษาผลตอบแทนที่ได้รับจากการลงทุนท าถุงหอมจากบุหงาแห้ง 1.3.3 ด้านเวลา ตุลาคม 2565 - กุมภาพันธ์ 2566 1.3.4 แบบร่าง (ถ้ามี) -


3 1.4 นิยำมศัพท์เฉพำะ ต้นทุน หมายถึง ต้นทุนทั้งสิ้นที่ใช้ซื้อวัตถุดิบในการผลิตถุงหอมจากบุหงาแห้ง ผลตอบแทน หมายถึง อัตราก าไรต่อทุน อัตราก าไรต่อยอดขาย อัตราผลตอบแทนจาก เงินลงทุน และอัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์


บทที่ 2 เอกสารงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง การศึกษาในครั้งนี้ เป็นการศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนในการผลิตถุงหอมจากบุหงาแห้ง เพื่อจ าหน่าย ผู้จัดท าโครงงานได้ศึกษาหลักการ แนวคิด ทฤษฎี และงานวิจัยที่เกี่ยวข้องดังนี้ 2.1 หลักการแนวคิดเกี่ยวกับต้นทุน 2.2 หลักการแนวคิดเกี่ยวกับผลตอบแทน 2.3 งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง 2.4 กรอบแนวคิดในการศึกษา 2.1 หลักการแนวคิดเกี่ยวกับต้นทุน ต้นทุน (Cost) หมายถึง มูลค่าของทรัพยากรที่องค์กรใช้ประโยชน์เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ ตามที่ก าหนดไว้ เช่น ต้นทุนของวัตถุดิบและแรงงานที่เกิดขึ้นเพื่อผลิตสินค้าหรือบริการ และเมื่อ ต้นทุนได้ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อธุรกิจแล้ว ต้นทุนส่วนนั้นจะเปลี่ยนสภาพไปเป็นค่าใช้จ่าย (Expense) ซึ่งจะน าไปหักรายได้ในแต่ละงวดบัญชี ต้นทุนการผลิต คือ ต้นทุนที่ท าให้ได้สินค้าส าเร็จรูปใด ๆ ประกอบด้วย วัตถุดิบทางตรงที่ เบิกใช้ในการผลิต แรงงานทางตรงที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการผลิตและค่าใช้จ่ายในการผลิตเมื่อ ทั้ง 3 ส่วนประกอบ ได้เข้าสู่ขั้นตอนต่าง ๆ ของการผลิตก็จะถูกแปรสภาพเป็นสินค้าส าเร็จรูปต่อไป การจ าแนกประเภทต้นทุนแบ่งออกเป็น 6 ประเภทได้แก่ 2.1.1 การจ าแนกต้นทุนตามระยะเวลา 2.1.2 การจ าแนกต้นทุนตามลักษณะการด าเนินงาน 2.1.3 การจ าแนกต้นทุนตามส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ 2.1.4 การจ าแนกต้นทุนตามปริมาณกิจกรรม 2.1.5 การจ าแนกต้นทุนเพื่อการควบคุมและวัดผลของการปฏิบัติงาน 2.1.6 การจ าแนกต้นทุนเพื่อการตัดสินใจ ซึ่งมีรายละเอียดของการจ าแนกต้นทุนแต่ละประเภท ดังต่อไป


5 2.1.1 การจ าแนกต้นทุนตามระยะเวลา เป็นการพิจารณาต้นทุนในการจัดหาสินทรัพย์และบริการต่าง ๆ ซึ่งจะต้องสัมพันธ์ กับระยะเวลาในการด าเนินธุรกิจของกิจการ โดยสามารถแบ่งต้นทุนได้เป็น 3 ประเภท คือ 1) ต้นทุนที่เกิดขึ้นในอดีต (Historical Cost) คือ ต้นทุนที่เกิดขึ้นเมื่อได้มาซึ่ง สินทรัพย์หรือบริการต่าง ๆ และกิจการได้จ่ายช าระเงินสด สินทรัพย์อื่นใดหรือรายการเทียบเท่า เงินสดโดยปกติจะใช้ต้นทุนประเภทนี้ในการบันทึกบัญชีประกอบกับการจัดท างบการเงินแต่ไม่นิยม น าไปใช้ประกอบการตัดสินใจปัญหาหรือเหตุการณ์ต่าง ๆ ในอนาคต เนื่องจากสภาพแวดล้อมทาง เศรษฐกิจมีการเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา 2) ต้นทุนทดแทนหรือต้นทุนเปลี่ยนแทน (Replacement Cost) คือ ต้นทุนที่จ่าย ไปเพื่อใช้ในการจัดหาสินทรัพย์มาเปลี่ยนแทนหรือทดแทนสินทรัพย์เดิม ซึ่งสินทรัพย์ที่จัดหามานั้น ต้องมีลักษณะคล้ายคลึงกับสินทรัพย์เดิม เพื่อน ามาเปรียบเทียบต้นทุนประกอบการตัดสินใจ ในการ เลือกทางเลือกต่าง ๆ ว่าควรเปลี่ยนแทนหรือปรับปรุงสินทรัพย์ที่มีอยู่เดิมหรือควรซื้อสินทรัพย์ใหม่ เพื่อทดแทนสินทรัพย์เดิม โดยเปรียบเทียบจากราคาตลาดของสินทรัพย์นั้น ๆ 3) ต้นทุนในอนาคต (Future Cost) คือ ต้นทุนที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต เมื่อ กิจการต้องตัดสินใจเลือกโครงการใดโครงการหนึ่งในอนาคต ซึ่งกิจการต้องพยากรณ์ต้นทุนที่ คาดว่าจะเกิดขึ้นเพื่อใช้ในการตัดสินใจเลือกลงทุนในโครงการจากแนวโน้มของต้นทุนจริงในอดีตหรือ จากระบบงบประมาณของกิจการ 2.1.2 การอ่าน ลักษณะการงาน เป็นการพิจารณาต้นทุนที่เกิดจากการด าเนินงานหรือ ปฏิบัติงานของธุรกิจซึ่งแบ่งได้ 2 ประเภทใหญ่ดังต่อไปนี้ 1) ต้นทุนการผลิต (Manufacturing Cost) คือต้นทุนที่เกิดขึ้นทั้งหมดใน กระบวนการผลิตเพื่อแปรสภาพวัตถุดิบให้เป็นสินค้า ซึ่งปกติต้นทุนการผลิตจะเกิดขึ้นในธุรกิจผลิต สินค้าเท่านั้น เช่น วัตถุดิบทางตรง ค่าแรงทางตรงและค่าใช้จ่ายในการผลิต เป็นต้น 2) ต้นทุนที่ไม่เกี่ยวข้องกับการผลิต (Nionmanufacturing Cost) คือต้นทุนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการผลิตสินค้า ซึ่งจะจ าแนกทุนโดยพิจารณาตามหน้าที่หรือลักษณะของการ ปฏิบัติงานดังนี้ 2.1) ต้นทุนในการจัดซื้อหรือการจัดหาสินค้า (Merchandise Cost) ซึ่งเป็น ต้นทุนในการจัดหาสินค้า เช่น ค่าขนส่งเข้า เป็นต้น 2.2) ต้นทุนทางการตลาด (Marketing Cost) เป็นต้นทุนที่เกิดจากการ ส่งเสริมการขายหรือแนะน าผลิตภัณฑ์เข้าสู่ตลาด เช่น ค่าโฆษณาประชาสัมพันธ์ เป็นต้น 2.3) ต้นทุนหรือค่าใช้จ่ายในการบริหาร (Administrative Cost Expense) ต้นทุนจากการบริหารงานโดยรวม เช่น เงินเดือนฝ่ายบริหาร ค่าใช้จ่ายแผนกบัญชี


6 2.4) ต้นทุนทางการเงิน (Financing Cost) คือ ต้นทุนจากการจัดหาเงินทุน มาด าเนินงาน เช่น ดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียมต่าง ๆ เป็นต้น 2.5) ต้นทุนในการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ (Research and Development Cost) ทุนจากการวิจัยสินค้าใหม่ ๆ หรือพัฒนาสินค้าที่มีอยู่ให้ทันสมัยจากเดิมเพื่อ ตอบสนองความ ต้องการของทางการตลาดของลูกค้า เช่น เงินเดือนนักวิจัยและผู้เชี่ยวชาญ เป็นต้น 2.1.3 การจ าแนกต้นทุนตามส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ ส่วนประกอบของต้นทุนที่ใช้ใน การผลิตสินค้าหรือภัณฑ์แต่ละชนิดจะประกอบด้วยวัตถุดิบทางตรงค่าแรงงานทางตรง และค่าใช้จ่าย ในการผลิตซึ่งถ้าเราพิจารณาในด้านทรัพยากรที่เป็นส่วนประกอบด้วยวัตถุดิบ ถือว่าเป็น ส่วนประกอบที่ส าคัญส าหรับผลิตสินค้าต้นทุนที่ เกี่ยวกับใช้วัตถุดิบในการผลิตสินค้าสามารถแบ่ง ออกเป็น 2 ลักษณะ คือ วัตถุดิบทางตรง หมายถึง วัตถุดิบหลักที่ใช้ในการผลิต และสามารถระบุ ได้อย่างชัดเจนว่าใช้ในการผลิตสินค้าชนิดใดชนิดหนึ่งในปริมาณเท่าใด ต้นทุนเท่าใด รวมทั้งจัดเป็น วัตถุดิบส่วนใหญ่ที่ใช้ในการผลิตสินค้าชนิดนั้น วัตถุดิบทางอ้อม หมายถึง วัตถุดิบต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยทางอ้อมกับการผลิตสินค้าแต่ไม่ใช้วัตถุดิบ หลักหรือวัตถุดิบส่วนใหญ่ ค่าแรงงาน คือ ค่าจ้าง หรือผลตอบแทนที่จ่ายให้แก่ลูกจ้างหรือคนงานที่ ท าหน้าที่ในการผลิตสินค้าซึ่งค่าแรงนั้นสามารถแบ่ง ได้ 2 ชนิด ดังนี้ ค่าแรงงานทางตรง คือ ค่าแรงงานต่าง ๆ ที่จ่ายให้แก่คนงานหรือลูกจ้างที่ท า หน้าที่ในการผลิตสินค้าส าเร็จรูปโดยตรงซึ่งเป็น ค่าแรงงานที่มีจ านวนมากเมื่อเทียบกับค่าแรงงาน ทางอ้อมในการผลิตสินค้าหน่วยหนึ่ง ๆ และจัดเป็น ค่าแรงงานที่ส าคัญในการแปรรูปวัตถุดิบให้เป็น สินค้าส าเร็จรูป ค่าแรงงานทางอ้อม หมายถึง ค่าแรงงานที่ไม่เกี่ยวข้องกับค่าแรงงานทางตรงที่ใช้ใน การผลิตสินค้า ค่าใช้จ่ายในการผลิต คือ แหล่งรวบรวมค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการผลิต สินค้าซึ่งนอกเหนือจากวัตถุดิบทางตรง ค่าแรงงานทางตรง เช่น วัตถุดิบทางอ้อม ค่าแรงงาน ทางอ้อม ค่าใช้จ่ายในการผลิตทางอ้อมอื่น ๆ ได้แก่ ค่าน้ า ค่าไฟ ค่าเช่า ค่าเสื่อมราคา ค่าประกันภัย ค่าภาษี เป็นต้น 2.1.4 การจ าแนกต้นทุนตามปริมาณกิจกรรม การจ าแนกต้นทุนตามปริมาณกิจกรรมมักจะมีลักษณะแตกต่างกันไปตามลักษณะ กิจกรรมของต้นทุน กล่าวคือ ต้นทุนจะเปลี่ยนแปลงหรือไม่ขึ้นอยู่กับปริมาณกิจกรรมจ านวนชั่วโมง แรงงาน จ านวนชั่วโมงเครื่องจักรหรือฝ่ายบริหารที่ใช้ประโยชน์ในการวางแผนควบคุมการสร้างการ แรงจูงใจ การตัดสินใจ ซึ่งผู้บริหารจะต้องท าการประมาณต้นทุนต่าง ๆ ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นโดย วิธีการประมาณต้นทุนต้องเข้าใจพฤติกรรมของต้นทุนและเทคนิคในการประมาณต้นทุนวิธีการจด ประเภทต้นทุนตามความสัมพันธ์ระหว่างต้นทุนและระดับกิจกรรมโดยแสดงให้เห็นการเปลี่ยนแปลง ในระดับ


7 2.1.5 การจ าแนกต้นทุนเพื่อการควบคุมและวัดผลการปฏิบัติงาน เป็นการควบคุมต้นทุนให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ เป็นหน้าที่ที่ส าคัญของ ผู้บริหารซึ่งจะต้อง ก าหนดหน่วยงานที่ต้องการควบคุมต้นทุนแล้ววางแผนการควบคุมตลอดจนการลงมือปฏิบัติและการ วัดผลการปฏิบัติการควบคุมดังกล่าวว่าเป็นไปตามแผนที่วางไว้หรือไม่ซึ่งในการ ควบคุมต้นทุนนั้น สามารถจ าแนกได้เป็น 2 ประเภท ดังนี้ 1) ต้นทุนที่ควบคุมได้ คือ ต้นทุนที่ผู้จัดการหรือหัวหน้างานสามารถสั่งการ หรือ ควบคุมได้ เช่น ค่าล่วงเวลา ค่าวัสดุสิ้นเปลือง เป็นต้น 2) ต้นทุนที่ควบคุมไม่ได้ คือ ต้นทุนที่ผู้จัดการหรือหัวหน้างานไม่สามารถควบคุม ได้เพราะอยู่ในอ านาจการตัดสินใจของผู้บริหารหรือได้รับการปันส่วนมาจากส่วนกลางไม่สามารถ หลีกเลี่ยงได้ เช่น ค่าเสื่อมราคาโรงงาน ค่าสาธารณูปโภค เป็นต้น 2.1.6 การจ าแนกต้นทุนเพื่อการตัดสินใจ ต้นทุนประเภทนี้สามารถแยกได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ ดังนี้ 1) ต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการตัดสินใจ คือ ต้นทุนที่มีความสัมพันธ์กับการ ตัดสินใจของผู้บริหารเพื่อใช้ในการประเมินทางเลือกซึ่งอาจเกิดขึ้นจากการเปรียบเทียบต้นทุนในอดีต หรือการพยากรณ์โดยอาศัยเทคนิคทางสถิติซึ่งสามารถจ าแนกประเภทได้ ดังนี้ 1.1) ต้นทุนส่วนต่าง คือ ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นหรือลดลงจากการเปลี่ยนแปลง วิธีการปฏิบัติเดิมให้เป็นวิธีการปฏิบัติใหม่ เช่น ก าลังการผลิต 100 หน่วย หุ้นทุนต่อหน่วย 2 บาท ถ้าเพิ่มก าลังการผลิตเป็น 150 หน่วย ต้นทุนต่อหน่วยเป็น 1.80 บาท ท าให้เกิดต้นทุนส่วนต่างที่ ลดลงจากเดิมเมื่อเทียบกับก าลังการผลิตเดิมอยู่ 0.20 บาท 1.2) ต้นทุนที่เสี่ยงได้ คือ ต้นทุนที่สามารถประหยัดได้จากการตัดสินใจเลือก เช่น การยุบสาขาที่ได้ก าไรน้อยหรือขาดทุนจะช่วยลดต้นทุนได้ลงจากเดิม 1.3) ต้นทุนค่าเสียโอกาส คือ ผลตอบแทนที่กิจการได้รับจากการตัดสินใจ เลือกทางเลือกใดทางเลือกหนึ่งแต่กิจการต้องสูญเสียผลตอบแทนจากทางเลือกที่ไม่ได้เลือก เช่นมีเงินอยู่ 10,000 บาท ถ้าฝากเงินจ าได้ดอกเบี้ย 200 บาทต่อปี แต่ถ้าปล่อยเงินกู้จะได้ดอกเบี้ย 500 บาท ต่อปีซึ่งถ้าเลือกปล่อยเงินกู้จะท าให้เสียโอกาสได้รับดอกเบี้ยจากการฝากเงิน เป็นจ านวน 200 บาท 2) ต้นทุนที่ไม่เกี่ยวข้องกับการตัดสินใจ คือ ต้นทุนที่ไม่มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้อง กับการตัดสินใจไม่ว่าผู้บริหารจะเลือกทางเลือกใดก็ตามซึ่งสามารถจ าแนกได้ ดังนี้ 2.1) ต้นทุนจม คือ ต้นที่ที่เกิดขึ้นในอดีตไม่สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงได้ เช่น ซื้อเครื่องจักรมาในราคา 20,000 บาท เป็นเวลา 2 ปี ไม่ว่ากิจการจะขายหรือไม่ขายต้นทุน ดังกล่าวก็ได้เกิดขึ้นแล้วจากการซื้อเครื่องจักร


8 2.2) ต้นทุนที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ คือ ต้นทุนที่ยังคงมีอยู่ไม่ว่ากิจการจะเปลี่ยนแปลงไป จากเดิมหรือไม่ เช่น ค่าภาษีทรัพย์สินของโรงงาน เป็นต้น 2.2 หลักการแนวคิดเกี่ยวกับผลตอบแทน การวิเคราะห์การลงทุนและผลตอบจากการลงทุนของโครงการใด ๆ โดยเป็นการ เปรียบเทียบผลตอบแทนและต้นทุนของโครงงานนั้น ๆ ซึ่งผลตอบแทนและต้นทุนของโครงงานจะเกิดขึ้น ในระยะเวลาต่าง ๆ กันตลอดอายุของโครงการดังนั้นจึงจ าเป็นต้องมีการปรับค่าของเวลาของ โครงงานเพื่อให้ได้มาซึ่งผลตอบแทนที่ได้รับและต้นทุนที่เสียไปช่วงในระยะเวลาที่ต่างกันให้เป็นเวลา ปัจจุบันก่อนแล้วจะสามารถท าการเปรียบเทียบกันได้อย่างถูกต้องแน่นอนชัดเจนมากยิ่งขึ้น (เสถียร ศรีบุญเรือง, 2542) การวิเคราะห์ทางด้านการเงินเป็นการวิเคราะห์ค่าใช้จ่ายหรือเงินลงทุน และผลตอบแทนหรือผลก าไรทางการเงินของรายงานเพื่อวิเคราะห์ว่าโครงงานที่จัดท าขึ้นนั้นมีความ คุ้มค่ากับการลงทุนหรือไม่โดยทั่วไปแล้วแบ่งการวิเคราะห์เป็น 2 ประเภท คือ 1) วิธีการวิเคราะห์ โดยไม่มีการคิดลด (Undiscounted Approach) คือการวัด ค่าของต้นทุนและผลตอบแทนจากโครงงาน โดยไม่ค านึงถึงค่าเงินที่ได้มาหรือใช้ไปช่วงเวลาที่ต่างกัน เช่น เงินสดรับในปีที่ 1 จ านวนหนึ่งกับเงินจ านวนเดียวกันที่จะได้รับในปีที่ 5 จะถือว่ามีมูลค่าที่ เท่ากัน การวิเคราะห์วิธี เช่น การหาระยะเวลาคืนทุน (Playback Period) ซึ่งเป็นการค านวณว่า นับจากจุดเริ่มต้นโครงงานจะใช้ระยะเวลาอีกเท่าไรจึงจะมีกระแสเงินสดรับสุทธิจากโครงงานรวมกัน เท่ากับมูลค่าในการลงทุน (Total Capital Investment) 2) วิธีการวิเคราะห์โดยมีการคิดลด (Discounted Approach) วิธีการวิเคราะห์ โดยมีการคิดลดเป็นวิธีการวัดค่าของผลตอบแทนและต้นทุนหรือค่าใช้จ่ายที่เกิดจากโครงงานโดย ค านึงถึงค่าเสียโอกาสผ่านวิธีการคิดลด (Discounted Method) ซึ่งวิธีการที่นิยมใช้ ได้แก่ มูลค่า ปัจจุบันสุทธิ (NPV) อัตราตอบแทนภายในจากการลงทุน (IRR) วัตถุประสงค์ของการ วิเคราะห์ ทางการเงิน โดยทั่วไปการวิเคราะห์ทางการเงินมีวัตถุประสงค์ 4 ประการดังนี้ 2.1) เพื่อประเมินความเป็นไปได้ทางการเงินวัตถุประสงค์ส าคัญของการ วิเคราะห์ทางการเงิน คือ การประเมินความสามารถในการทางโครงงานนั้น คือ โครงงานสามารถ ก่อให้เกิดรายได้คุ้มค่ากับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ และมีอัตราผลตอบแทนที่ดีการประเมินส่วนนี้จะต้องมีการ ประมาณต้นทุนและผลตอบแทนทั้งสิ้นเพื่อศึกษาหาตอบแทนสุทธิของโครงการ 2.2) เพื่อประเมินแรงจูงใจในการวิเคราะห์ทางการเงินจะมีความส าคัญต่อการ ประเมินแรงจูงใจที่มีต่อเจ้าของโครงงานและผู้มีส่วนร่วมกับโครงงานหรือถ้าเป็นโครงงานรัฐวิสาหกิจ หรือที่รัฐบาลให้การสนับสนุนก็พิจารณาว่าผลตอบแทนที่ได้รับจะเพียงพอต่อการเลี้ยงตัวเองและ บรรลุวัตถุประสงค์ทางการเงินตามที่ต้องการหรือไม่


9 2.3) เพื่อจัดให้มีแผนการเงินที่ดีเพื่อให้โครงงานมีก าไรและผลตอบแทนที่ดีก็ จะต้องมีแผนการเงินที่ดีด้วยโดยเฉพาะการวางแผนจัดหาเงินทุนเพื่อให้ได้มาซึ่งเงินทุนในจ านวนและ ในเวลาตามที่ต้องการโดยเห็นค่าใช้จ่ายต่ าสุดรวมทั้งเพื่อให้เสนอแนะถึงวิธีการปรับปรุงความเป็นไปได้ ทางการเงินของโครงงานโดยเฉพาะความเหมาะสมของอัตราค่าบริการราคาและปริมาณการผลิตที่คุ้มทุน 2.4) เพื่อประเมินขีดความสามารถในการบริหารการเงินส าหรับโครงงานลงทุน ขนาดใหญ่ที่มีการบริหารการเงินที่สลับซับซ้อนที่จ าเป็นต้องพิจารณาถึงระบบการจัดการด้านการเงิน และความสามารถของผู้ที่จะบริหารการเงินด้วยในการนี้ก็อาจมีการพิจารณาว่าควรจะมีปรับปรุงและ เปลี่ยนแปลงองค์กรและการจัดการอย่างไร ควรจัดให้มีระบบการควบคุมและการตรวจสอบการเงิน อย่างไร รวมทั้งการฝึกอบรมทักษะเฉพาะทางเรื่องอะไรเพื่อให้โครงงานเดินหน้าไปตาม 2.3 เอกสารงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง (ปานทิพย์. 2548) ได้ศึกษาการพัฒนาสารตรึงกลิ ่นบุหงาและดอกไม้แห้งโดยใช้ ฟิล์มแป้งมันส าปะหลังร่วมกับน้ ามันหอมระเหยจากพืช 5 ชนิด ได้แก่ กระวาน กานพลู อบเชย ขิง และใบเตย พบว่าฟิล์มจากแป้งมันส าปะหลังที่เติมซอร์บิทอล (sorbitol) เข้มข้นร้อยละ 35 (w/w) มีความยืดหยุ่นสูงการซึมผ่านของไอน้ าและออกซิเจนต่ า การตรึงของสารหอมระเหย benzyl benzoate ได้ดีกว่ าสาร eugenol, cinnamaldehyde, cis-jasmone, 1,8-cineole, limonene และ 2,4,6 trimethylpyridine ตามล าดับ นอกจากนี้ยังพอว่าสารสกัดจากพืช 5 ชนิด ด้วย ตัวท าละลายเอทานอลได้ปริมาณน้ ามันหอมระเหยและชนิดของสารหอมระเหย (volatile compounds) มากที่สุด จากการวิเคราะห์ด้วย Gas Chromatography Mass Spectrometry (GC-MS) เมื่อศึกษาการตรึงกลิ่นในบุหงาและดอกไม้แห้งของฟิล์มแป้งมันส าปะหลังที่ผสมน้ ามันหอม ระเหย และ/หรือ ผสมพืช 5 ชนิด โดยวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงของกลิ่นโดยใช้ gas chromatography (GC) ร่วมกับการทดสอบทางประสาทสัมผัส พบว่าฟิล์มแป้งมันส าปะหลังที่ผสม น้ ามันหอมระเหยจากกานพลูสามารถตรึงกลิ่นของบุหงาและดอกไม้แห้งได้นานที่สุดและผู้ทดสอบได้ ให้คะแนนสูงที่สุด ถึงแม้ว่าฟิล์มแป้งมันที่เติมผงกานพลูตรึงกลิ่นบุหงาและดอกไม้แห้งได้ดี แต่ผู้ ทดสอบให้คะแนนความชอบด้านลักษณะปรากฏต่ ากว่าการใช้น้ ามันหอมระเหย การบรรจุบุหงาและ ดอกไม้แห้งในถุงกระดาษสาและถุงผ้าโปร่งสามารถรักษากลิ่นได้มากกว่า 1 เดือนซึ่งการเก็บรักษา กลิ่นได้นานมากขึ้นเมื่อบรรจุบุหงาและดอกไม้แห้ในถุงพลาสติก


10 (ปทุมทิพย์ และนันทวัน. 2551) ศึกษาเรื่องการพัฒนาวิธีการอบควันเทียน มีวัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนาวิธีการอบควันเทียน โดยศึกษาผลของเวลาในการอัดความดันในการอัดและปริมาณถ่าน กัมมันต์ที่ใช้ในการดูดซับควันเครื่องร่ าท าทดลองโดยใช้เวลาในการดูดซับ 15, 30, 60, 75 และ 100 min ความดันในการดูดซับ 17, 19, 21, 23, และ 25 psig และปริมาณถ่านกัมมันต์ที่ใช้ดูดซับ 10, 20, 30, 40 และ 50 g พบว่าภาชนะที่เหมาะสมในการดูดซับควันเครื่องด้วยถ่านกัมมันต์คือเวลา 75 min ความดัน 25 psig ปริมาณถ่านกัมมันต์ 30 g และปริมาณเครื่อง 1 g การดูดซับควัน เทียนด้วยถ่านกัมมันต์ พบว่าภาชนะที่เหมาะสมในการดูดซับควันเทียนด้วยถ่านกัมมันต์ ได้แก่ เวลา ในการอัด 100 min ความดัน 25 psig ปริมาณถ่านกัมมันต์ 1 g และปริมาณเทียนอบ 1 g นอกจากนี้ยังศึกษาการดูดซับควันเทียนด้วยขนมไทยและกลีบดอกไม้แห้งโดยก าหนดภาวะจาก ภาวะที่เหมาะจากการดูดซับควันเทียนด้วยถ่านกัมมันต์ พบว่ากลีบดอกกุหลาบแห้งดูดซับควันเทียน ได้มากกว่าดอกมะลิ และดอกดาวเรือง ขนมชั้นสามารถดูดซับควันเทียนได้มากกว่าขนมเม็ดขนุน ขนมข้าวตูและขนม ทองหยิบ (นันทฤทธิ์ โชคถาวร. 2547) จากมหาลัยแม่โจ้ได้ท าการพัฒนาเทคนิควิธีการสกัดน้ าหอม จากเอื้องแซะหอมได้คัดเลือกดอกกล้วยไม้เอื้องแซะหอมสดขณะที่มีกลิ่นหอมและดอกบานได้เต็มที่มา ใช้ทดลองยืนยันส าหรับทดสอบการสกัดด้วยตัวท าละลาย ตัวท าละลายที่เหมาะสมส าหรับการ 10 สกัดน้ าหอมได้แก่ อะซิโตน 1 -บิวทานอล เอทานอล 1 - โพรพานอล 2 - โพรพานอล และน้ ากลั่น รวมทั้งตัวท าละลายเหล่านี้ผสมกันในการวิจัยนี้ พบว่ากล้วยไม้เองแซะหอมสามารถแบ่งย่อยออกตาม ความแตกต่างของสีกลีบปากของดอกได้เป็น 4 ชนิดย่อย ดอกเอื้องแซะที่มีสีกลีบปากเป็นสีเหลือง สว่าง สีเหลืองอมส้ม ละสีส้ม เป็นดอกที่สามารถสกัดสารหอมเพื่อผลิตเป็นน้ าหอมได้ ส่วนประกอบเคมี ส าคัญในน้ ามันดอกไม้ซึ่งมีกลิ่นหอมจากกล้วยไม้เอื้องแซะหอมเป็นสารอะซิเตต เอสเทอร์ และ เอสเทอร์ของกรดไขมันอื่นๆที่ได้จากปฏิกิริยาของกรดไขมันกับแอลกอฮอล์ชนิดเฟนิล เอทิลแอลกอฮอล์ เบนซิลแอลกอฮอล์ ลินาลอค วานิลลิน ลิโมนีน รวมทั้งอนุพันธ์ของเซสวี เทอร์ ปืนชนิดหนึ่งผู้วิจัย (ไศลเพชร ศรีสุวรรณ. 2552) การศึกษาเรื่องการพัฒนาน้ าปรุงจากไม้หอมไทยได้ ผลการวิจัยดังนี้โดยการใช้ไม้หอมไทย 3 ชนิดที่หาง่ายในท้องถิ่นสกัดด้วยแอลกอฮอล์ 90% ผสม สมุนไพรและเครื่องหอมหมักทิ้งไว้จนครบเวลาที่ก าหนดบรรจุลงในขวดทดลองน าไปให้ ประชาชนใน จ านวน 200 คน และผู้เชี่ยวชาญจ านวน 10 ท าการทดสอบความพึงพอใจและตอบแบบสอบถาม น าข้อมูลที่ได้ไปวิเคราะห์ทางสถิติโดยการหาค่าเฉลี่ยและน าผลมาสรุปท าการตอบแบบสอบถามส่วน ใหญ่ 6.00% เป็นเพศหญิงที่มีอายุ 30 ปี หรือต่ ากว่าเป็นจ านวน 49.70% มีระดับการศึกษา ระดับปริญญาตรี 61.00% และ 56.50% เป็นคนโสดเดือนละต่ ากว่าเป็นจ านวน 10,000 บาท


11 30.50% เคยใช้น้ าหอมต่างประเทศเป็นประจ า 57.50% ไม่เคยใช้น้ าปรุงมาก่อนเป็นจ านวน 53.80% ราคาของน้ าหอมที่ต้องการอยู่ระหว่าง 100-500 บาท รายได้ต่อจ านวน 44.50% ความพึง พอใจในน้ าปรุงจากไม้หอมไทยน้ าปรุงจากไม้หอมแบบไทย B มีค่าเฉลี่ย 3.62% มีความพึงพอใจสูงที่สุด รองลงมาคือน้ าปรุงจากไม้หอมไทยแบบ C มีค่าเฉลี่ย 3.59% คือมีความพึงพอใจในระดับสูง ระดับความ พึงพอใจในแบบ A มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดคือ 3.13% แต่มีความพึงพอใจอยู่ในระดับสูงเช่นกันความพึง พอใจในด้านกลิ่นของน้ าหอมปรุงจากไม้หอมไทยพบว่าน้ าปรุงจากไม้หอมไทยแบบ 8 มีค่าเฉลี่ย สูงสุด 5.56% มีความพึงพอใจในระดับสูงรองลงมาคือ ปรุงจากไม้หอมไทยแบบ C มีค่าเฉลี่ยมี ความพึงพอใจในระดับสูงมีค่าเฉลี่ย 3.93% และแบบ A มีค่าเฉลี่ย 3.02% (นิติรัตน์ บุษยรัตน์. 2551) ศึกษาเรื่องเครื่องหอมซึ่งเป็นสิ่งที่เรียนรู้สืบทอดกันเรื่อยมา จนผสมผสานกลมกลืนอยู่ในวัฒนธรรมความเป็นอยู่ของแต่ละชนชาติ คนไทยรู้จักการน าพรรณไม้ หอมมาใช้อย่างยาวนาน โดยน้ าพรรณไม้หอมมาใช้ในรูปแบบต่าง ๆ จนเกิดภูมิปัญญาการท าเครื่อง หอมไทยแต่ด้วยสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป การศึกษาเครื่องหอมศูนย์การเรียนรู้ภูมิปัญญาการท าเครื่อง หอมไทย ปิยะชนก นครปฐม เป็นการศึกษาถึงประวัติความเป็นมา และวิธีการผลิตเครื่อง ห อมไท ย ของศูนย์การเรียนรู้ภูมิปัญญาการท าเครื่องหอมไทยปิยะชนก ตลอดจนศึกษาถึง กระบวนการถ่ายทอดและการน าภูมิปัญญาในการผลิตเครื่องหอม เพื่อให้ด ารงอยู่ได้ในยุคสมัยที่ สภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ เศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรมที่เปลี่ยนแปลงตามสมัยใหม่อย่าง รวดเร็ว


12 2.4 กรอบแนวคิดในการจัดท าโครงงาน ภาพที่ 2.4 : แสดงแนวคิดในการจัดท าโครงงาน ต้นทุน ผลตอบแทน ต้นทุนตามส่วนประกอบของการท าถุงหอมจากบุหงาแห้ง 1. ค่าวัตถุดิบ 2. ค่าแรงงาน 3. ค่าใช้จ่ายในการผลิต ก าไร (ขาดทุน) จากการท าถุงหอมจากบุหงาแห้งรายได้ จากการขาย หัก ต้นทุนในการท าถุงหอมจากบุหงาแห้งก าไรขั้นต้น การวิเคราะห์ ต้นทุนการผลิตหรือผลตอบแทน โครงสร้างต้นทุนการท าถุงหอม จากบุหงาแห้ง อัตราผลตอบแทน 1. อัตราก าไรขั้นต้นต่อทุน 2. อัตราก าไรขั้นต้นต่อยอดขาย


บทที่ 3 วิธีการด าเนินงาน การด าเนินงานการศึกษาครั้งนี้ เป็นการศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนในการท าถุงหอม จากบุหงาแห้งของนักเรียน นักศึกษา แผนกวิซาการบัญชี วิทยาลัยเทคนิคพิจิตร ผู้จัดท าโครงการ ได้ด าเนินการศึกษาตามล าดับขั้นตอน ดังนี้ 3.1 กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการศึกษา 3.2 เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา 3.3 วิธีการด าเนินการศึกษา 3.4 การเก็บรวบรวมข้อมูล 3.5 การวิเคราะห์ข้อมูล 3.6 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล 3.1 กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการศึกษา กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในโครงงานการผลิตถุงหอมจากบุหงาแห้งเพื่อจ าหน่าย ได้แก่ นักเรียน นักศึกษา แผนกวิชาการบัญชี วิทยาลัยเทคนิคพิจิตร จ านวน 30 คน ก าหนดกลุ่มตัวอย่างโดย เลือกจากนักเรียนนักศึกษาที่สนใจถุงหอมจากบุหงาแห้ง 3.2 เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ แบบสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับต้นทุนและผลตอบแทน ในการท าถุงหอมจากบุหงาแห้งของนักเรียน นักศึกษา แผนกวิชาการบัญชี วิทยาลัยเทคนิคพิจิตร 3.3 วิธีการด าเนินการศึกษา ผู้จัดท าโครงงานได้ด าเนินการศึกษาตามล าดับขั้นตอนต่าง ๆ ซึ่งมีรายละเอียด การสร้าง แบบสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับการผลิตถุงหอมจากบุหงาแห้งของนักเรียน นักศึกษา แผนกวิชาการบัญชี วิทยาลัยเทคนิคพิจิตร ด าเนินการ ดังนี้


14 3.3.1 การศึกษาแนวคิดทฤษฎีจากเอกสาร ต ารา สืบค้นข้อมูลและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง กับการศึกษาต้นทุนและผลตอบแทน เพื่อสร้างและพัฒนาแบบสอบถามขั้นตอนโดยแบ่งเป็น 3 ตอน คือ ตอนที่ 1 สอบถามสถานภาพและข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม ตอนที่ 2 สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับการท าถุงหอม ตอนที่ 3 สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับต้นทุนและผลตอบแทนการท าถุงหอม 3.3.2 น าร่างแบบสอบถามเสนอครูที่ปรึกษาโครงงาน เพื่อขอค าปรึกษาและตรวจสอบ ข้อค าถามเพื่อให้ได้แบบสอบถาม และแบบสัมภาษณ์ที่ถูกต้องเหมาะสม 3.3.3 น าแบบสอบถามที่ปรับปรุงแล้ว เสนอต่อครูที่ปรึกษาโครงงานอีกครั้งก่อน น าไปใช้ ในการเก็บรวบรวมข้อมูล 3.4 การเก็บรวบรวมข้อมูล ผู้จัดท าโครงงานได้ด าเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลโดยด าเนินการตามขั้นตอน ดังนี้ 3.4.1 น าแบบสอบถามไปเก็บข้อมูลจากนักเรียน นักศึกษา แผนกวิชาการบัญชี วิทยาลัยเทคนิคพิจิตร ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการศึกษา 3.4.2 น าข้อมูลที่ได้มาท าการวิเคราะห์ 3.5 การวิเคราะห์ข้อมูล ได้ด าเนินการวิเคราะห์ข้อมูลตามล าดับ ดังนี้ 3.5.1 การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณ โดยเก็บรวบรวมข้อมูลมาท า 3.5.2 การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพ ในการวิเคราะห์เนื้อหาประกอบด้วย 4 ขั้นตอน ได้แก่ การตีข้อมูล (Interpretation) การเปรียบเทียบข้อมูล (Constant Comparison) การ สังเคราะห์ข้อมูล (Data Synthesis) และการสรุปผล (Generalization) 3.6 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล การวิเคราะห์ผู้รายงานได้ใช้สถิติวิเคราะห์ข้อมูลต่าง ๆ ดังนี้ 3.6.1 ค่าความถี่ (Frequency) 3.6.2 ค่าร้อยละ (Percentage) 3.6.3 หาค่าเฉลี่ย (Mean)


บทที่ 4 ผลการวิเคราะห์ข้อมูล การด าเนินการศึกษาครั้งนี้ เป็นการศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนในการผลิตถุงหอมจาก บุหงาแห้งเพื่อจ าหน่าย เป็นการศึกษาและเก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบบันทึกต้นทุนและสอบถาม ผู้ศึกษาน าเสนอผลวิเคราะห์ตามล าดับ ดังนี้ 4.1 ข้อมูลต้นทุนและผลตอบแทนในการผลิตถุงหอมจากบุหงาแห้ง 4.2 ข้อมูลสภาพทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม 4.3 ข้อมูลปัจจุบันที่มีผลต่อพฤติกรรมการใช้ถุงหอมจากบุหงาแห้ง 4.4 ข้อมูลเกี่ยวกับท าถุงหอมจากบุหงาแห้ง 4.1 ข้อมูลต้นทุนและผลตอบแทนในการผลิตถุงหอมจากบุหงาแห้ง 4.1.1 ข้อมูลเกี่ยวกับต้นทุนในการผลิตถุงหอมจากบุหงาแห้ง การศึกษาครั้งนี้ ผู้ศึกษาและรวบรวมข้อมูลจากกระผลิตผลิตถุงหอมจากบุหงาแห้ง โดยต้นทุนในการผลิตถุงหอมจากบุหงาแห้งแบ่งตามส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ ประกอบด้วย ค่าแรงงาน ค่าวัตถุดิบ ค่าใช้จ่าย ดังในตารางที่ 4.1.1 - 4.1.7


16 ตารางที่ 4.1.1 แสดงการแบ่งประเภทต้นทุนที่ท าการศึกษา ค่าวัตถุดิบ ค่าแรงงาน ค่าใช้จ่ายในการผลิต 1. ดอกดาวเรือง 1. ค่าแรงงานตนเอง 1. ค่ารถและค่าเดินทาง 2. ดอกกุหลาบ 2. ค่าเสื่อมราคาอุปกรณ์ 3. ใบเตย 4. ถุงใยแก้ว 5. หัวเชื้อน้ าหอม 6. เทียนอบ 7. ถุงแก้วใส 8. แม็กซ์ 9. ลูกแม็กซ์ 10. โบว์มัดลวด


17 ตารางที่ 4.1.2 แสดงต้นทุนค่าวัตถุดิบในการท าถุงหอมจากบุหงาแห้ง (จ านวนผลิต 25 ถุง) ผลิตภัณฑ์ วัตถุดิบในการผลิต จ านวน (หน่วย) ราคา (บาท) ถุงหอมจาก 1. ดอกกุหลาบ 10 ดอก 200.00 บาท บุหงาแห้ง 2. ดอกดาวเรือง 50 ดอก 50.00 บาท 3. หัวเชื้อน้ าหอม 3 ขวด 80.00 บาท 4. ถุงใยแก้ว 25 ใบ 70.00 บาท 5. โบว์มัดลวด 25 ชิ้น 40.00 บาท 6. เทียนอบ 1 อัน 30.00 บาท 7. ถุงแก้วใส 25 อัน 25.00 บาท 8. แม็กซ์ 1 อัน 20.00 บาท 9. ลูกแม็กซ์ 1 กล่อง (เล็ก) 10.00 บาท 10. ใบเตย 15 ใบ 0.00 บาท รวม 535.00 บาท ต้นทุนเฉลี่ยต่อถุง 21.00 บาท จากตารางที่ 4.1.2 แสดงต้นทุนค่าวัตถุดิบในการผลิตถุงหอมจากบุหงาแห้ง (ส าหรับถุง หอมจากบุหงาแห้ง 25 ถุง) พบว่าอันดับแรกคือ ดอกกุหลาบ จ านวน 10 ดอก ในราคา 200 บาท รองลงมาคือ ดอกดาวเรือง จ านวน 50 ดอก ในราคา 50 บาท หัวเชื้อน้ าหอม จ านวน 3 ขวด ในราคา 80 บาท ถุงใยแก้ว จ านวน 25 ใบ ในราคา 70 บาท โบว์มัดลวด จ านวน 25 ชิ้น ในราคา 40 บาท เทียนอบ จ านวน 1 อัน ในราคา 30 บาท ถุงแก้วใส จ านวน 25 อัน ในราคา 25 บาท แม็กซ์ จ านวน 1 อัน ในราคา 20 บาท ลูกแม็กซ์ จ านวน 1 กล่อง (เล็ก) ในราคา 10 บาท ใบเตย จ านวน 15 ใบ ในราคา 0 บาท จึงท าให้มีต้นทุนเฉลี่ย 21 บาทต่อถุง ตารางที่ 4.1.3 แสดงต้นทุนค่าแรงในการผลิตถุงหอมจากบุหงาแห้ง (จ านวน 25 ถุง) ล าดับ รายการ จ านวน (บาท/วัน) 1. ค่าแรงงานตนเอง 100.00 ค่าแรงงานเฉลี่ยต่อถุง 5.00 จากตารางที่ 4.1.3 พบว่าผลการวิเคราะห์ต้นทุนค่าแรงงานในการผลิตถุงหอมจากบุหงา แห้งเฉลี่ยต่อถุง 5 บาท คิดเป็นค่าแรงต่อการผลิต 1 ครั้ง คิดเป็นเงิน 100 บาท


18 ตารางที่ 4.1.4 แสดงต้นทุนค่ารถและค่าเดินทางที่ใช้ในการท าถุงหอมจากบุหงาแห้ง (จ านวน 25 ถุง) รายการ ระยะเวลา จ านวน ราคาต่อหน่วย จ านวน (บาท) ค่ารถและค่าเดินทาง 1 อาทิตย์ 1 ลิตร 32.33 32.33 บาท ค่ารถและค่าเดินทางเฉลี่ยต่อถุง 1.29 บาท จากตารางที่ 4.1.4 แสดงการวิเคราะห์ข้อมูลต้นทุนค่ารถและค่าเดินทางที่ใช้ในการท า ถุงหอมจากบุหงาแห้ง คือค่ารถและค่าเดินทาง 1 ลิตร คิดเป็น 32.33 บาท จึงท าให้ค่ารถและ ค่าเดินทางมีต้นทุนเฉลี่ย 1.29 บาทต่อถุง ตารางที่ 4.1.5 แสดงข้อมูลสินทรัพย์และค่าเสื่อมราคาอุปกรณ์ (จ านวนการผลิต 25 ถุง) รายการ อายุ (ปี) ราคา (บาท) ค่าเสื่อมราคา (บาท) อุปกรณ์ 1 150.00 12.50 ค่าเสื่อมราคาต่อถุง 0.50 จากตาราง 4.1.5 แสดงผลการวิเคราะห์ข้อมูลสินทรัพย์และค่าเสื่อมราคาอุปกรณ์ มีค่าเสื่อมราคา 150 บาท จึงท าให้มีค่าเสื่อมอุปกรณ์ที่มีต้นทุนเฉลี่ย 0.50 บาทต่อถุง ตารางที่ 4.1.6 แสดงข้อมูลต้นทุนค่าใช้จ่ายในการผลิต ที่ รายการ ราคา(บาท) ร้อยละ 1. ค่าเสื่อมราคาอุปกรณ์ 0.50 27.93 2. ค่ารถและค่าเดินทาง 1.29 72.07 ค่าใช้จ่ายในการผลิตรวม 1.79 100.00 จากตารางที่ 4.1.6 แสดงผลการวิเคราะห์ข้อมูลต้นทุนค่าใช้จ่ายในการผลิต พบว่า อันดับ แรกคือ ค่ารถและค่าเดินทาง 1.29 บาท คิดเป็นร้อยละ 72.07 รองลงมาคือ ค่าเสื่อมราคาอุปกรณ์ 0.50 บาท คิดเป็นร้อยละ 27.93 ค่าใช้จ่ายในการผลิตรวม 1.79 บาท คิดเป็นร้อยละ 100.00 ตามล าดับ


19 ตารางที่ 4.1.7 แสดงข้อมูลต้นทุนในการท าถุงหอมจากบุหงาแห้ง ที่ รายการ ต้นทุนเฉลี่ยต่อใบ ร้อยละ 1. ค่าวัตถุดิบ 21.00 75.56 2. ค่าแรงงาน 5.00 17.99 3. ค่าใช้จ่ายในการผลิต 1.79 6.44 ต้นทุนในการผลิตรวม 27.79 100.00 จากตารางที่ 4.1.7 แสดงการวิเคราะห์ข้อมูลในการท าถุงหอมจากบุหงาแห้ง พบว่าอันดับ แรกคือ ค่าวัตถุดิบ 21.00 บาท คิดเป็นร้อยละ 75.56 รองลงมาคือ ค่าแรงงาน 5.00 บาท คิดเป็น ร้อยละ 17.99 และค่าใช้จ่ายในการผลิต 1.79 บาท คิดเป็นร้อยละ 6.44 จึงท าให้ต้นทุนในการผลิต เฉลี่ยต่อถุง 27.79 บาทต่อถุง 4.1.2 ข้อมูลเกี่ยวกับผลตอบแทนในการผลิตถุงหอมจากบุหงาแห้ง การศึกษาและผลตอบแทนจากการผลิตถุงหอมจากบุหงาแห้ง ผู้ศึกษาได้ ท าการศึกษาจากราคาขายก าไรขั้นต้น อัตราก าไรต่อทุน และต่อก าไรต่อยอดขายดังแสดงในตารางที่ 4.1.8 - 4.1.10 ตารางที่ 4.1.8 แสดงต้นทุนของราคาขายต่อถุง ของผลิตภัณฑ์ถุงหอมจากบุหงาแห้ง ชื่อผลิตภัณฑ์ ราคาขายต่อถุง (บาท) ถุงหอมจากบุหงาแห้ง 29.00 จากตารางที่ 4.1.8 แสดงต้นทุนของราคาต่อถุง พบว่าถุงหอมจากบุหงาแห้งมีราคาขาย 29 บาท


20 ตารางที่ 4.1.9 แสดงก าไรขั้นต้นจาการผลิตถุงหอมจากบุหงาแห้งต่อถุง รายการ จ านวน (บาท) รายการจากการขายถุงหอมจากบุหงาแห้ง 29.00 หัก ต้นทุนขาย ค่าวัตถุดิบ 21.00 ค่าแรงงาน 5.00 ค่าใช้จ่ายในการผลิต 1.79 27.79 ก าไรขั้นต้น 1.21 จากตารางที่ 4.1.9 แสดงก าไรขั้นต้น พบว่ามีรายได้จาการผลิตถุงหอมจากบุหงาแห้ง 29 บาทต่อถุง มีต้นทุนขาย อันดับแรกคือวัสดุอุปกรณ์ 21.00 บาท รองลงมา คือค่าแรงงาน 5 บาท และค่าใช้จ่ายในการผลิต 1.79 บาท จึงท าให้มีก าไรขั้นต้น 1.21 บาทต่อถุง ตารางที่ 4.1.10 แสดงการค านวณหาอัตราผลตอบแทนจากการผลิตถุงหอมจากบุหงาแห้ง อัตราส่วน สูตรการค านวณ แทนค่า ผลการค านวณ อัตราก าไรต่อทุน ก าไรขั้นต้น 1.21 x 100 4.35% ต้นทุน 27.79 อัตราก าไรต่อยอดขาย ก าไรขั้นต้น 1.21 x 100 4.17% ราคาขาย 29.00 จากตารางที่ 4.1.10 แสดงผลการวิเคราะห์อัตราผลตอบแทนจากการท าถุงหอมจาก บุหงาแห้ง พบว่ามีอัตราก าไรต่อทุน 4.35% และมีก าไรต่อยอดขาย 4.17%


21 4.2 ข้อมูลสภาพทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม การศึกษาครั้งนี้ ผู้ศึกษาได้เก็บรวบรวมข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างที่สนใจถุงหอมจากบุหงา แห้ง ก าหนดกลุ่มตัวอย่างโดยเลือกกลุ่มนักเรียน นักศึกษา ครูและบุคลากร ในวิทยาลัยเทคนิค พิจิตร จ านวน 25 คน ซึ่งผู้ศึกษาได้น าการวิเคราะห์ข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถามเกี่ยวกับ เพศ อายุ และแสดงในตารางที่ 4.2.1 - 4.2.4 ตารางที่ 4.2.1 แสดงจ านวนและค่าร้อยละของการศึกษาของผู้ตอบแบบสอบถาม รายการ จ านวน ร้อยละ มัธยมศึกษา 4 16.00 ปวช. 17 68.00 ปวส. 2 8.00 ป.ตรี 1 4.00 อื่น ๆ 1 4.00 รวม 25 100.00 จากตารางที่ 4.2.1 พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามอยู่ในระดับชั้นอันดับแรกคือ (ปวช.) จ านวน 17 คน คิดเป็นร้อยละ 68.00 รองลงมาคือ มัธยมศึกษา จ านวน 4 คน คิดเป็นร้อย ละ 16.00 (ปวส.) 2 คน คิดเป็นร้อยละ 8.00 ป.ตรี จ านวน 1 คน คิดเป็นร้อยละ 4.00 อื่น ๆ จ านวน 1 คน คิดเป็นร้อยละ 4.00 ตามล าดับ ตารางที่ 4.2.2 แสดงจ านวนและค่าร้อยละของเพศของผู้ตอบแบบสอบถาม รายการ จ านวน ร้อยละ ชาย 17 68.00 หญิง 8 32.00 รวม 25 100.00 จากตารางที่ 4.2.2 พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามอันดับแรกเป็นเพศหญิง จ านวน 17 คน คิดเป็นร้อยละ 68.00 รองลงมาเป็นเพศชาย จ านวน 8 คน คิดเป็นร้อยละ 32.00 ตามล าดับ


22 ตารางที่ 4.2.3 แสดงจ านวนค่าร้อยละอายุของผู้ตอบแบบสอบถาม รายการ จ านวน ร้อยละ 15 - 20 ปี 23 92.00 20 - 30 ปี 1 4.00 30 ปีขึ้นไป 1 4.00 รวม 25 100.00 จากตารางที่ 4.2.3 พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามมีอายุอันดับแรกคืออายุ 15-20 ปีจ านวน 23 คน คิดเป็นร้อยละ 92.00 รองลงมาคืออายุ 20-30 ปีจ านวน 1 คน คิดเป็นร้อยละ 4.00 และมีอายุ 30 ปีขึ้นไป จ านวน 1 คน คิดเป็นร้อยละ 4.00 ตามล าดับ ตารางที่ 4.2.4 แสดงจ านวนค่าร้อยละของอาชีพผู้ตอบแบบสอบถาม รายการ จ านวน ร้อยละ นักเรียน/นักศึกษา 22 88.00 ครูและบุคลากร 1 4.00 อื่น ๆ 2 8.00 รวม 25 100.00 จากตารางที่ 4.2.4 พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมดเป็นนักเรียน/นักศึกษา จ านวน 22 คน คิดเป็นร้อยละ 88.00 อื่น ๆ จ านวน 2 คน คิดเป็นร้อยละ 8.00 ครูและบุคลากร จ านวน 1 คน คิดเป็นร้อยละ 4.00 ตามล าดับ 4.3 ข้อมูลปัจจุบันที่มีผลต่อพฤติกรรมการใช้ถุงหอมจากบุหงาแห้ง ผลการวิเคราะห์ระดับความคิดเห็นของผู้ท าถุงหอมจากบุหงาแห้งที่เกี่ยวกับพฤติกรรมของ ผู้ใช้ถุงหอมจากบุหงาแห้ง ดังแสดงในตารางที่ 4.3


23 ตารางที่ 4.3 การแสดงค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานความคิดเห็นเกี่ยวกับปัจจัย ที่มีต่อการใช้ถุงหอมจากบุหงาแห้ง รายการ ผลการวิเคราะห์ ระดับ ̅ S.D ความคิดเห็น ปัจจัยด้านการผลิต 4.84 0.08 พึงพอใจมาก 1. คุณภาพของวัตถุดิบ 4.88 0.33 พึงพอใจมาก 2. ความสะอาดของบรรจุภัณฑ์ 4.88 0.43 พึงพอใจมาก 3. ขนาดและรูปแบบของบรรจุภัณฑ์ 4.88 0.33 พึงพอใจมาก 4. กลิ่นของถุงหอม 4.72 0.61 พึงพอใจมาก ปัจจัยด้านราคา 4.88 0.33 พึงพอใจมาก 1. ราคาเหมาะสมกับคุณภาพและปริมาณ 4.88 0.33 พึงพอใจมาก ปัจจัยด้านบุคคลและส่งเสริมการขาย 4.94 0.04 พึงพอใจมาก 1. การโฆษณาประชาสัมพันธ์ 4.92 0.27 พึงพอใจมาก 2. ความน่าเชื่อถือในการช าระเงิน 4.92 0.27 พึงพอใจมาก 3. อัธยาศัยและการให้บริการของผู้ขาย 5.00 0.00 พึงพอใจมากที่สุด รวม 4.88 0.17 พึงพอใจมาก จากตารางที่ 4.3 ผู้ตอบแบบสอบถามมีความคิดเห็นว่าปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมการผลิต ถุงหอมจากบุหงาแห้ง ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ปัจจัยด้านบุคคลและส่งเสริมการขาย (̅=4.94,S.D=0.04) รองลงมาคือ ปัจจัยด้านราคา (̅=4.88,S.D=0.33) และปัจจัยด้านการผลิต (̅=4.84,S.D= 0.08) ตามล าดับ ปัจจัยด้านบุคคลและส่งเสริมการขายค่าเฉลี่ยสูงสุดอันดับแรกคือ อัธยาศัยและการ ให้บริการของผู้ขาย (̅=5.00,S.D=0.00) รองลงมาคือ การโฆษณาประชาสัมพันธ์ (̅=4.92,S.D =0.27) และความน่าเชื่อถือในการช าระเงิน (̅=4.92,S.D=0.27) ตามล าดับ ปัจจัยด้านราคาค่าเฉลี่ยสูงสุดอันดับแรกคือ ราคาเหมาะสมกับคุณภาพสินค้า (̅=4.88, S.D=0.33) ปัจจัยด้านการผลิตภัณฑ์ค่าเฉลี่ยสูงสุดอันดับแรกคือ ความสะอาดของบรรจุภัณฑ์ (̅=4.88,S.D=0.43) รองลงมาคือ คุณภาพของวัตถุดิบ (̅=4.88,S.D=0.33) รองลงมาคือ ขนาด และรูปแบบของบรรจุภัณฑ์ (̅=4.88,S.D=0.33) และกลิ่นของถุงหอม (̅=4.72,S.D=0.61) ตามล าดับ


24 4.4 ข้อมูลเกี่ยวกับท าถุงหอมจากบุหงาแห้ง ตารางที่ 4.4 ข้อมูลเกี่ยวกับท าถุงหอมจากบุหงาแห้ง รายการ ข้อมูล วิธีการจ าหน่าย ขายปลีก ปริมาณการผลิตต่อเดือน 25 จ านวนคนผลิต 3 จากตารางที่ 4.4 แสดงข้อมูลเกี่ยวกับการท าถุงหอมจากบุหงาแห้ง พบว่าวิธีการจ าหน่าย ถุงหอมจากบุหงาแห้งคือ วิธีขายปลีก ปริมาณการผลิตถุงหอมต่อเดือน 25 ถุง และคนผลิตถุง หอมจ านวน 3 คน


บทที่ 5 สรุป อภิปรายผลและข้อเสนอแนะ การด าเนินการศึกษาครั้งนี้ เป็นการวิเคราะห์ศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนในการท า ถุงหอมจากบุหงาแห้ง มีวัตถุประสงค์ 1. เพื่อศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนในการท าถุงหอมจากบุหงาแห้ง 2. เพื่อศึกษาค่าใช้จ่ายที่ประหยัดได้จากการท าถุงหอมจากบุหงาแห้ง 3. เพื่อศึกษาความพึ่งพอใจของนักเรียน นักศึกษา ที่มีต่อถุงหอมจากบุหงาแห้ง กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ นักเรียน นักศึกษา แผนกวิชาการบัญชี วิทยาลัยเทคนิคพิจิตร จ านวน 25 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ แบบสอบความคิดเห็นและพฤติกรรมการใช้ผลิตภัณฑ์ ถุงหอมจากบุหงาแห้ง ของนักเรียนนักศึกษาแผนกวิชาการบัญชี วิทยาลัยเทคนิคพิจิตร ในการเก็บรวบรวมข้อมูลผู้ศึกษาได้ด าเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยตนเอง โดยน า แบบสอบถามที่สร้างเสร็จแล้วไปท าการเก็บข้อมูลด้วยตนเอง จากกลุ่มตัวอย่างจ านวน 25 คน รวบรวมแบบสอบถามที่ได้มาท าการวิเคราะห์ข้อมูล โดยใช้สถิติพื้นฐานการแจกแจงความถี่และ ค่าร้อยละ และใช้ผลตอบแทนโดยใช้อัตราส่วนทางการเงิน 5.1 สรุปผลการศึกษา จากผลการวิเคราะห์ข้อมูล สรุปผลการศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนในการท าถุงหอม จากบุหงาแห้ง ดังนี้ 5.1.1 ต้นทุนในการผลิตถุงหอมจากบุหงาแห้งเฉลี่ยต่อถุง จากการศึกษา พบว่า ในการผลิตถุงหอมจากบุหงาแห้ง มีต้นทุนขายเฉลี่ย 27.79 บาท ต่อถุงประกอบด้วย ค่าวัตถุดิบ 21 บาทต่อถุง ค่าแรงงาน 5 บาทต่อถุง และค่าใช้จ่ายในการผลิต 1.79 บาทต่อถุง


26 5.1.2 สถานภาพและข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม จากผลการศึกษา พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามอยู่ในระดับชั้นอันดับแรกคือ (ปวช.) จ านวน 17 คน คิดเป็นร้อยละ 68.00 รองลงมาคือ มัธยมศึกษา จ านวน 4 คน คิดเป็นร้อยละ 16.00 (ปวส.) 2 คน คิดเป็นร้อยละ 8.00 ป.ตรีจ านวน 1 คน คิดเป็นร้อยละ 4.00 อื่น ๆ จ านวน 1 คน คิดเป็นร้อยละ 4.00 ตามล าดับ เพศของผู้ตอบแบบสอบถามอันดับแรกคือเพศหญิง จ านวน 17 คน คิดเป็นร้อยละ 68.00 รองลงมาเป็นเพศชาย จ านวน 8 คน คิดเป็นร้อยละ 32.00 ตามล าดับ อายุของผู้ที่ได้ตอบแบบสอบถามอันดับแรกคืออายุ 15-20 ปีจ านวน 23 คน คิด เป็นร้อยละ 92.00 รองลงมาคืออายุ 20-30 ปีจ านวน 1 คน คิดเป็นร้อยละ 4.00 และมีอายุ 30 ปีขึ้นไป จ านวน 1 คน คิดเป็นร้อยละ 4.00 ตามล าดับ ส่วนมากเป็นนักเรียน/นักศึกษา จ านวน 22 คน คิดเป็นร้อยละ 88.00 อื่น ๆ จ านวน 2 คน คิดเป็นร้อยละ 8.00 ครูและบุคลากร จ านวน 1 คน คิดเป็นร้อยละ 4.00 ตามล าดับ 5.2 อภิปรายผล จากสรุปการศึกษา มีประเด็นส าคัญที่ควรน ามาอภิปรายผล ดังนี้ 5.2.1 ต้นทุนการผลิตถุงหอมจากบุหงาแห้งประกอบด้วย 3 ส่วนที่ส าคัญ ได้แก่ ค่าวัตถุดิบ ร้อยละ 75.56 ค่าแรงงานร้อยละ 17.99 และมีค่าใช้จ่ายในการผลิต ร้อยละ 6.44 เห็นได้ว่าในการท าถุงหอมจากบุหงาแห้งมีสัดส่วนค่าวัตถุดิบมากที่สุด ทั้งนี้ เนื่องจากการท าถุงหอม จากบุหงาแห้งใช้วัตถุดิบหลัก คือ ดอกดาวเรือง 5.2.2 การศึกษาต้นทุนความคิดเห็นและพฤติกรรมการผลิตถุงหอมจากบุหงาแห้งของผู้ผลิต ทุกปัจจัยมีผลต่อการตัดสินใจของผู้ผลิตในการเลือกซื้อถุงหอมจากบุหงาแห้งทั้งปัจจัยด้านผลิตภัณฑ์ ปัจจัยด้านราคา ปัจจัยด้านบุคคลและส่งเสริมการขาย ดังนั้นในการตัดสินใจประกอบกิจการถุงหอม จากบุหงาแห้งให้ความส าคัญกับทุกปัจจัย ซึ่งท าให้มีผลต่อก าไรสูงขึ้น


27 5.3 ข้อเสนอแนะ 5.3.1 ข้อเสนอแนะในการศึกษาครั้งนี้ จากผลการศึกษา พบว่า การท าถุงหอมจากบุหงาแห้งมีสัดส่วนของ ค่าวัตถุดิบสูงกว่าต้นทุนชนิดอื่น นักเรียน นักศึกษา จึงควรพิจารณาวิธีการท าเครื่องมือ และ อุปกรณ์ที่จะช่วยเพิ่มปริมานการผลิตต่อครั้งให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งจะท าให้มีอัตราผลก าไรขั้นต้นเมื่อ เปรียบเทียบกับต้นทุนขายสูงขึ้น 5.3.2 ข้อเสนอแนะในการศึกษาครั้งต่อไป ควรศึกษาแนวทางการพัฒนาคุณภาพและรูปแบบของการท าถุงหอมจากบุหงาแห้ง เพื่อเพิ่มรูปแบบการผลิตต่อครั้งให้มีหลากหลายรูปแบบ


28 บรรณานุกรม ปานทิพย์. “ การพัฒนาสารตรึงกลิ่นบุหงาและดอกไม้แห้ง ” , [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : https://www.thaiscience.info/Journals/Article/KMIT/10425029.pdf [สืบค้นเมื่อ 1 พฤศจิกายน 2565] ปทุมทิพย์ และนันทวัน. “ การพัฒนาวิธีการอบควันเทียน ” , [ออนไลน์]. เข้าได้จาก : https://dspace.rmutk.ac.th/handle/123456789/1015 [สืบค้นเมื่อ 1 พฤศจิกายน 2565] นันทฤทธิ์ โชคถาวร. “ การพัฒนาเทคนิควิธีการสกัดน ้าหอม ” , [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : https://is.gd/UiHVdl [สืบค้นเมื่อ 1 พฤศจิกายน 2565] ไศลเพชร ศรีสุวรรณ. “ การพัฒนาน ้าปรุงจากไม้หอมไทย ” , [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : https://is.gd/hZPbVf [สืบค้นเมื่อ 1 พฤศจิกายน 2565] นิติรัตน์ บุษยรัตน์. “ ประวัติเครื่องหอม ” , [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : https://is.gd/fmz5uB [สืบค้นเมื่อ 1 พฤศจิกายน 2565]


ภาคผนวก


ภาคผนวก ก เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา แบบสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับปัจจัยการใช้ที่มีผลต่อผู้สนใจถุงหอมจากบุหงาแห้ง


31 แบบสอบถามนี้จัดท าขึ้นโดย นักศึกษากลุ่มโครงงานการศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนในการผลิต ถุงหอมจากบุหงาแห้งเพื่อจ าหน่าย มีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการทราบข้อมูลเกี่ยวกับ ผลิตภัณฑ์ที่ผลิต ขึ้น ว่ามีข้อผิดพลาดหรือข้อบกพร่องประการใดบ้าง ท าสแกน QR-CODE ทางด้านบนเพื่อเข้าสู่เว็บไซต์ตอบแบบสอบถาม หรือเข้าไปที่เว็บไซต์ : https://forms.gle/GiG35zgjHQtHbHKe6


32 ภาพที่ 1 ภาพการส่งเว็บไซต์ให้นักศึกษาตอบแบบสอบถามออนไลน์ ภาพที่ 2 ภาพการส่งเว็บไซต์ให้นักศึกษาตอบแบบสอบถามออนไลน์


12/1/22, 4:08 PM แบบสอบถามความคิดเคิห็นที่เที่กี่ยวกี่กับกั ปัจจัยที่มีที่ผลมีต่อการใ ต่ ช้ถุช้งหอมจากถุบุหงาแบุห้งห้ https://docs.google.com/forms/d/1bCEd0I4zDW3EKETfQzw6LqTC1ucOJti0BV7L46Dld5U/edit 1/4 ตอนที่ 1 ที่ ข้อข้มูลเมูกี่ยว กี่ กับกัพื้นฐานของ พื้ ผู้ตอบผู้ แบบสอบถาม ให้ผู้ห้ตผู้อบแบบสอบถามกรอกข้อข้มูลมูให้ ครบถ้วถ้น 1 ทำ เครื่องหมายเ รื่ พียงหพีนึ่ง นึ่ ช่องช่ อื่นอื่ๆ: ชาย หญิงญิ 2 ทำ เครื่องหมายเ รื่ พียงหพีนึ่ง นึ่ ช่องช่ ต่ำ กว่าว่ 15 ปี 15 - 20 ปี 20 - 30 ปี 30 ปีขึ้น ขึ้ ไป แบบสอบถามความคิดเคิห็นที่เ ที่ กี่ยว กี่ กับ กั ปัจจัยที่มี ที่ มี ผลต่อการใ ต่ ช้ถุช้งหอมจากถุบุหงาแบุห้งห้ คำ ชี้แ ชี้ จง : โปรดให้รห้ายละเอียอีดเกี่ย กี่ วข้อข้งกับกัตัวตัท่าท่นโดยเลือลืกข้อข้ความตามความเป็นจริงริ ตอนที่ 1 ข้อข้มูลมูเกี่ย กี่ วกับกัพื้น พื้ ฐานของผู้ตผู้อบแบบสอบถาม ตอนที่ 2 ระดับดัคะแนนความพึงพึพอใจที่มี ที่ ต่มีอต่การใช้ถุช้งถุหอมจากบุหบุงาแห้งห้ ตอนที่ 3 ข้อข้เสนอแนะอื่น อื่ ๆ *จำ เป็น เพศ * อายุ *


12/1/22, 4:08 PM แบบสอบถามความคิดเคิห็นที่เที่กี่ยวกี่กับกั ปัจจัยที่มีที่ผลมีต่อการใ ต่ ช้ถุช้งหอมจากถุบุหงาแบุห้งห้ https://docs.google.com/forms/d/1bCEd0I4zDW3EKETfQzw6LqTC1ucOJti0BV7L46Dld5U/edit 2/4 3 ทำ เครื่องหมายเ รื่ พียงหพีนึ่ง นึ่ ช่องช่ อื่นอื่ๆ: ประถมศึกศึษา มัธมัยมศึกศึษา ประกาศนียนีบัตบัรวิชวิาชีพชี (ปวช.) ประกาศนียนีบัตบัรวิชวิาชีพชีชั้นชั้สูงสู (ปวส.) 4 ทำ เครื่องหมายเ รื่ พียงหพีนึ่ง นึ่ ช่องช่ อื่นอื่ๆ: นักเรียรีน - นักศึกศึษา ครูแรูละบุคบุลากร ตอนที่ 2 ที่ ระดับคะแนนความดัพึงพอใจ พึที่มี ที่ ต่มี อการใ ต่ ช้ถุช้งหอมจากถุ บุหงาแบุห้งห้ เกณฑ์รฑ์ะดับดัการ ประเมินมิ 5 = พึงพึพอใจมาก ที่สุที่ ดสุ 4 = พึงพึพอใจมาก 3 = พึงพึพอใจปาน กลาง 2 = พึงพึพอใจน้อน้ย 1 = พึงพึพอใจน้อน้ย ที่สุที่ ดสุ ระดับการดั ศึกษาศึ * อาชีพชี *


12/1/22, 4:08 PM แบบสอบถามความคิดเคิห็นที่เที่กี่ยวกี่กับกั ปัจจัยที่มีที่ผลมีต่อการใ ต่ ช้ถุช้งหอมจากถุบุหงาแบุห้งห้ https://docs.google.com/forms/d/1bCEd0I4zDW3EKETfQzw6LqTC1ucOJti0BV7L46Dld5U/edit 3/4 5 ทำ เครื่อรื่งหมายแถวละหนึ่งนึ่ ช่อช่งเท่าท่นั้นนั้ 6 ทำ เครื่อรื่งหมายแถวละหนึ่งนึ่ ช่อช่งเท่าท่นั้นนั้ 7 ทำ เครื่อรื่งหมายแถวละหนึ่งนึ่ ช่อช่งเท่าท่นั้นนั้ ตอนที่ 3 ที่ ข้อเสนอแนะ ข้ ปัจจัยด้านการผด้ลิตลิ * 5 4 3 2 1 คุณคุภาพของวัตวัถุดิถุบดิ ความสะอาดของบรรจุ ภัณภัฑ์ ขนาดและรูปรูแบบของ บรรจุภัจุณภัฑ์ กลิ่น ลิ่ ของถุงถุหอม คุณคุภาพของวัตวัถุดิถุบดิ ความสะอาดของบรรจุ ภัณภัฑ์ ขนาดและรูปรูแบบของ บรรจุภัจุณภัฑ์ กลิ่น ลิ่ ของถุงถุหอม ปัจจัยด้านราคาด้ * 5 4 3 2 1 ราคาเหมาะสมกับกั คุณคุภาพและปริมริาณ ราคาเหมาะสมกับกั คุณคุภาพและปริมริาณ ปัจจัยด้านด้บุคคลและบุส่งเสส่ริมการขายริ * 5 4 3 2 1 การโฆษณา ประชาสัมสัพันธ์ ความน่าเชื่อ ชื่ ถือถื ในการ ชำ ระเงินงิ อัธอัยาศัยศัและการให้ บริกริารของผู้ขผู้าย การโฆษณา ประชาสัมสัพันธ์ ความน่าเชื่อ ชื่ ถือถื ในการ ชำ ระเงินงิ อัธอัยาศัยศัและการให้ บริกริารของผู้ขผู้าย


12/1/22, 4:08 PM แบบสอบถามความคิดเคิห็นที่เที่กี่ยวกี่กับกั ปัจจัยที่มีที่ผลมีต่อการใ ต่ ช้ถุช้งหอมจากถุบุหงาแบุห้งห้ https://docs.google.com/forms/d/1bCEd0I4zDW3EKETfQzw6LqTC1ucOJti0BV7L46Dld5U/edit 4/4 8 เนื้อหานื้นี้มินี้ ไมิด้ถูด้กสถูร้างร้ขึ้นหขึ้รือรืรับรองโดย Google ฟอร์ม ร์


ประทบัเวลา เพศ อายุระดบัการศกึษา อาชพี ปัจจัยดา้นบคุคลและสง่เสรมิการขาย [อธัยาศยัและการใหบ้รกิารของผขู้าย] 8/11/2022, 15:08:55 หญงิ 15 - 20 ปีครแูละบคุลากร 5 3 4 5 5 5 5 5 23/11/2022, 12:36:13 หญงิ 15 - 20 ปีนักเรยีน - นักศกึษา 5 5 5 5 5 5 5 5 23/11/2022, 12:38:33 ชาย 15 - 20 ปีนักเรยีน - นักศกึษา 5 5 5 5 5 5 5 5 23/11/2022, 12:41:15 หญงิ 15 - 20 ปีนักเรยีน - นักศกึษา 5 5 4 5 4 5 5 5 23/11/2022, 12:45:51 หญงิ 15 - 20 ปีนักเรยีน - นักศกึษา 5 5 5 5 5 5 5 5 23/11/2022, 12:47:59 ชาย 15 - 20 ปีนักเรยีน - นักศกึษา 5 5 5 5 5 5 5 5 23/11/2022, 12:48:23 หญงิ 15 - 20 ปีนักเรยีน - นักศกึษา 5 5 5 5 5 5 5 5 23/11/2022, 12:49:23 หญงิ 15 - 20 ปีนักเรยีน - นักศกึษา 5 5 5 5 5 5 5 5 23/11/2022, 12:57:06 ชาย 15 - 20 ปีนักเรยีน - นักศกึษา 5 5 5 5 5 5 5 5 23/11/2022, 12:57:21 ชาย 15 - 20 ปีนักเรยีน - นักศกึษา 5 5 5 5 5 5 4 5 ดคีรับ 23/11/2022, 13:02:33 หญงิ 15 - 20 ปีนักเรยีน - นักศกึษา 5 5 5 4 5 5 5 5 23/11/2022, 13:12:14 หญงิ 15 - 20 ปีคนทวั ไป รับจา้งทวั ไป 5 5 5 5 5 5 5 5 อยากใหเ้พมิ กลนิ ใหม่ 23/11/2022, 13:17:35 หญงิ 15 - 20 ปีนักเรยีน - นักศกึษา 5 5 5 5 5 5 5 5 23/11/2022, 13:36:49 หญงิ 15 - 20 ปีนักเรยีน - นักศกึษา 5 4 4 4 4 4 4 5 23/11/2022, 14:25:50 หญงิ 15 - 20 ปีนักเรยีน - นักศกึษา 5 5 5 5 5 5 5 5 23/11/2022, 14:33:56 หญงิ 20 - 30 ปีนักเรยีน - นักศกึษา 5 5 5 3 5 5 5 5 23/11/2022, 14:58:04 หญงิ 15 - 20 ปีมธัยมศกึษา นักเรยีน - นักศกึษา 5 5 5 5 5 5 5 5 มปีระโยชนด์ ี 23/11/2022, 15:01:14 ชาย 15 - 20 ปีมธัยมศกึษา นักเรยีน - นักศกึษา 5 5 5 5 5 5 5 5 ทําดมีากครับ 23/11/2022, 15:02:17 หญงิ 15 - 20 ปีมธัยมศกึษา นักเรยีน - นักศกึษา 5 5 5 5 5 5 5 5 23/11/2022, 18:24:39 หญงิ 30 ปีขนึ ไป ป.ตรีพนักงาน 4 5 5 4 5 5 5 5 23/11/2022, 18:25:01 ชาย 15 - 20 ปีมธัยมศกึษา นักเรยีน - นักศกึษา 4 5 5 5 5 5 5 5 23/11/2022, 18:26:43 ชาย 15 - 20 ปีนักเรยีน - นักศกึษา 5 5 5 5 5 5 5 5 23/11/2022, 18:27:23 หญงิ 15 - 20 ปีนักเรยีน - นักศกึษา 5 5 5 5 5 5 5 5 23/11/2022, 18:30:46 ชาย 15 - 20 ปีนักเรยีน - นักศกึษา 5 5 5 3 4 5 5 5 23/11/2022, 18:34:07 หญงิ 15 - 20 ปีนักเรยีน - นักศกึษา 4 5 5 5 5 4 5 5 ปัจจัยดา้นการผลติ [คณุภาพปัจจัยดา้นการผลติ [ความสะปัจจัยดา้นการผลติ [ขนาดแลปัจจัยดา้นการผลติ [กลนิ ของปัจจัยดา้นราคา [ราคาเหมาะ ปัจจัยดา้นบคุคลและสง่เสรมิ ปัจจัยดา้นบคุคลและสง่เสรมิประกาศนยีบตัรวชิาชพชีนั สงูประกาศนยีบตัรวชิาชพี (ปวชประกาศนยีบตัรวชิาชพี (ปวชประกาศนยีบตัรวชิาชพี (ปวชประกาศนยีบตัรวชิาชพี (ปวชประกาศนยีบตัรวชิาชพี (ปวชประกาศนยีบตัรวชิาชพี (ปวชประกาศนยีบตัรวชิาชพี (ปวชประกาศนยีบตัรวชิาชพี (ปวชประกาศนยีบตัรวชิาชพี (ปวชประกาศนยีบตัรวชิาชพี (ปวช ประกาศนยีบตัรวชิาชพี (ปวชประกาศนยีบตัรวชิาชพี (ปวชประกาศนยีบตัรวชิาชพี (ปวชประกาศนยีบตัรวชิาชพชีนั สงู ประกาศนยีบตัรวชิาชพี (ปวชประกาศนยีบตัรวชิาชพี (ปวชประกาศนยีบตัรวชิาชพี (ปวชประกาศนยีบตัรวชิาชพี (ปวช


ภาคผนวก ข แบบเสนอหัวข้อและเค้าโครง โครงงานศึกษาต้นทุน และผลตอบแทนในการผลิตถุงหอมจากบุหงาแห้งเพื่อจ าหน่าย


34 แบบเสนอโครงงาน 1. ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย) การศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนในการผลิตถุงหอมจาก บุหงาแห้งเพื่อจ าหน่าย ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ) Cost and Return Study on Production Flower scented bag 2. ประเภทของโครงงาน สิ่งประดิษฐ์/นวัตกรรม ศึกษาทฤษฎีและหลักการ ศึกษาค้นคว้าทดลอง ส ารวจรวบรวมข้อมูล 3. รายชื่อผู้จัดท าโครงงาน 3.1 นางสาวจีรนันท์ เถาสมบูรณ์ รหัสนักศึกษา 63202011106 3.2 นางสาวอริสสรา สิงห์ลอ รหัสนักศึกษา 63202011107 3.3 นางสาวนัฎทิชา นิลบุตร รหัสนักศึกษา 63202011117 4. ครูที่ปรึกษาโครงงาน นางสาวกรรัตน์ ค าดา 5. ความส าคัญของโครงงาน/หลักการและเหตุผล จากพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตสถาน ได้ให้ความหมายของ บุหงาร าไป ไว้ว่า ดอกไม้ที่ ปรุงด้วยเครื่องหอมและบรรจุลงในถุงผ้าโปร่งเล็ก ๆ ท าเป็นรูปร่างต่าง ๆ มักเรียกย่อว่า บุหงาร าไป


35 เป็นค าที่ไทยเรารับมาจากชวา บุหงา หมายถึง ดอกไม้ ร าไป หมายถึง เบ็ดเตล็ด บุหงาร าไปจึงมี ความหมายว่าดอกไม้ต่าง ๆ ดอกไม้หลายชนิด ในวรรณคดีไทยเรื่องอิเหนา ตอน บุษบาชมศาลเล่น ธาร ท าให้รู้ว่าบุหงาร าไปนั้น ท าจากดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมหลายชนิด รวมทั้งดอกปะหนันหรืออก ล าเจียกด้วย จุดประสงค์ในการท าบุหงาร าไป เพื่อถวายพระ หรือ ถวายเทวดาอารักษ์ จากการท า บุหงาร าไปของนางบุษบาในตอนนี้เป็นการท าบุหงาร าไปสด คือใช้ดอกไม้สดที่มีกลิ่นหอมหลายชนิด น ามาปลิดเอาเฉพาะกลีบ แล้วน ากลีบดอกไม้มาเคล้ากันห่อด้วยผ้าโปร่ง เพียงเท่านี้ก็ได้บุหงาร าไป เพื่อถวายพระหรือถวายเทวดาอารักษ์ แต่บุหงาที่เราพบเห็นในปัจจุบันนี้เป็นบุหงาแห้ง ต้องน า ดอกไม้ไปตากให้แห้งก่อน มีการย้อมสีดอกไม้เพื่อความสวยงาม แล้วจึงอบด้วยน้ าหอม บรรจุลงใน ผ้าโปร่ง ใช้ส าหรับอบเสื้อผ้าหรือใช้เป็นของช าร่วยงานมงคล บุหงาร าไปจัดเป็นเครื่องหอมชาววัง แบบโบราณ ที่ถูกประดิษฐ์ขึ้นจากกลีบดอกไม้หอม จะเห็นได้ว่าการปรุงบุหงามีมาจากราชส านักของ ไทยมาอย่างยาวนานหลายร้อยปีแล้ว เริ่มนิยมท ากันจากราชส านักไม่เป็นที่เผยแพร่แก่สามัญชน ถือ เป็นวิชาชั้นสูง ถูกถ่ายทอดกันเรื่อยมาจบจนกรุงรัตนโกสินทร์ ก็ยังนิยมประดิษฐ์กันมาอยู่แต่ในเขต พระราชฐานเช่นเดิม จวบจนยุครัชกาลที่ 5 ถือเป็นศิลปะประดิษฐ์และงานเครื่องหอมเฟื่องฟูถึง จุดสูงสุด เกิดมีเครื่องหอมชนิดใหม่ถูกคิดค้นดัดแปลงขึ้นมาหลายชนิด บุหงาร าไปก็เช่นกันได้รับ ความนิยมมาก นิยมท าขึ้นเป็นของช าร่วยแจกในงานพิธีต่าง ๆ ในปัจจุบันมีการใช้ผลิตภัณฑ์หอมระเหยที่มีบทบาทส าคัญในการค้าทางตลาดโลกที่ น่าสนใจ คือน้ ามันหอมระเหย จากพืชตระกูลส้มส่วนน้ ามันหอมระเหยที่มีความส าคัญรองลงมาคือ มิ้นต์ ซึ่งน้ ามันมิ้นต์ที่นิยมในตลาดโลกมีอยู่ 3 ชนิด คือ Peppermint Spearmint Cornmint ซึ่งมิ้นต์สองชนิดแรกมีการผลิตมากในสหรัฐอเมริกา อย่างไรก็ตาม Peppermint มีการใช้กันอย่าง กว้างขวางมากกว่า ส่วน Cornmint มีการผลิตมากในจีนและอินเดีย ท าให้มีอิทธิพลเข้ามาใน ประเทศไทย รวมถึงการใช้สเปรย์ดับกลิ่น และอื่น ๆ เช่น เจลหอมปรับอากาศ เทียนหอม ก้านไม้ หอมอโรม่า เพราะสามารถหาซื้อง่ายและมีบรรจุภัณฑ์ที่สวยงามทันสมัย จึงท าให้ถุงหอมบุหงาแห้ง เริ่มไม่เป็นที่นิยม จากข้อมูลดังกล่าว คณะผู้จัดท ามีความสนใจที่จะท าเรื่อง การศึกษาต้นทุนและ ผลตอบแทนในการผลิตถุงหอมจากบุหงาแห้ง เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ดังนั้น การศึกษาในครั้งนี้จึงมุ่งหวังที่จะศึกษาความเป็นไปได้ของโครงงาน เป็นแนวทางในการวางแผนกล ยุทธ์การตลาดให้เหมาะสม ความพึงพอใจและพฤติกรรมของผู้บริโภค การศึกษาในครั้งนี้จะให้ ความส าคัญกับปัจจัยเหล่านี้เป็นหลัก เพราะอาจเป็นปัจจัยส าคัญที่จะท าให้ ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อ สินค้าอีกด้วย


36 6. วัตถุประสงค์ของโครงงาน 6.1 เพื่อศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนจากการท าถุงหอมจากบุหงาแห้ง 6.2 ท าให้ทราบถึงผลก าไรขาดทุนจากการท าถุงหอมจากบุหงาแห้ง 6.3 เพื่อศึกษาความพึงพอใจของผู้บริโภคที่มีต่อการใช้ถุงหอมจากบุหงาแห้ง 7. ขอบเขตของโครงงาน 7.1 ด้านตัวแปร - 7.2 ด้านเนื้อหา การวิจัยครั้งนี้เป็นการศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนในการท าถุงหอมจากบุหงาแห้งดังนี้ 7.2.1 ศึกษาต้นทุนการผลิตถุงหอมจากบุหงาแห้งตั้งแต่ขั้นตอนการเตรียมการท าจน ไปถึงขั้นตอนการจัดจ าหน่าย และวิเคราะห์โครงสร้างต้นทุนในการท าถุงหอม จากบุหงาแห้ง 7.2.2 ศึกษาผลตอบแทนที่ได้รับจากการลงทุนท าถุงหอมจากบุหงาแห้ง 7.3 ด้านเวลา ตุลาคม 2565 - กุมภาพันธ์ 2566 7.4 แบบร่าง (ถ้ามี) -


37 8. วิธีการด าเนินงาน กิจกรรม/ขั้นตอน ด าเนินงาน ระยะเวลาด าเนินงาน (สัปดาห์ที่) หมายเหตุ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 ขั้นเตรียมการ เสนอหัวข้อโครงงาน และจัดท าแบบเสนอ ขออนุมัติโครงงาน ศึกษาข้อมูลขั้นตอน การผลิต ขั้นด าเนินการ ท าการผลิตถุงหอม จากบุหงาแห้งเพื่อ จ าหน่าย ท าการจ าหน่าย ถุงหอมจากบุหงาแห้ง ให้แก่กลุ่ม นักศึกษา ที่สนใจ ขั้นสรุปและประเมินผล สรุปผลการ ด าเนินงาน จัดท ารายงานเพื่อ น าเสนอครูผู้สอนและ ครูที่ปรึกษาโครงงาน


Click to View FlipBook Version