การศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนในการผลิตแยมส้มโอเพื่อจำหน่าย นางสาวสุชาวดี เขียวสอาด รหัสประจำตัว 63202011132 นางสาวสุภัคชญา สุขหนุน รหัสประจำตัว 63202011135 ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ สาขาวิชา การบัญชี สาขางาน การบัญชี ห้อง 1 ครูที่ปรึกษา นางสาวณัฐกมล เมืองทอง วิทยาลัยเทคนิคพิจิตร อาชีวศึกษาจังหวัดพิจิตร สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565
ใบรับรองโครงงาน รายวิชา โครงงาน รหัสวิชา 20201-8501 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 ชื่อโครงงาน การศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนในการผลิตแยมส้มโอเพื่อจำหน่าย ผู้รับผิดชอบโครงงาน 1. นางสาวสุชาวดี เขียวสอาด รหัสประจำตัว 63202011132 2. นางสาวสุภัคชญา สุขหนุน รหัสประจำตัว 63202011135 ครูที่ปรึกษา นางสาวณัฐกมล เมืองทอง ปีการศึกษา 2565 ได้รับอนุมัติให้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษารายวิชาโครงงาน สาขาวิชา การบัญชี หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ พุทธศักราช 2562 คณะกรรมการสอบโครงงาน ลงชื่อ..............................................ประธาน (นางสาวจารุณี จุลบุตร) ลงชื่อ..............................................กรรมการ (นางสาวณัฐกมล เมืองทอง) ลงชื่อ..............................................กรรมการและเลขานุการ (นางสาวอรวลัญช์ น้อยสมวงษ์) ลงชื่อ..............................................หัวหน้าแผนกวิชาการบัญชี (นางสกาวรัตน์ บุญศิลป์) ลงชื่อ..............................................รองผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการ (นายอิศรา อยู่ยิ่ง) ลงชื่อ..............................................ผู้อำนวยการวิทยาลัย (นายชัยณรงค์ คัชมาตย์)
ก ชื่อผลงาน : การศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนในการผลิตแยมส้มโอเพื่อจำหน่าย ผู้จัดทำ : 1. นางสาวสุชาวดี เขียวสอาด รหัสนักศึกษา 63202011132 2. นางสาวสุภัคชญา สุขหนุน รหัสนักศึกษา 63202011135 ครูที่ปรึกษา : นางสาวณัฐกมล เมืองทอง สาขาวิชา : การบัญชี สาขางาน : การบัญชี ปีการศึกษา : 2565 บทคัดย่อ ในการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ของการวิจัย คือ 1. เพื่อศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนจากการทำแยมส้มโอ 2. ทำให้ทราบถึงผลกำไรขาดทุนจากการทำแยมส้มโอ 3. เพื่อศึกษาความพึงพอใจของผู้บริโภคที่มีต่อการผลิตแยมส้มโอ โดยมีสมมติฐานในการวิจัย คือ ประชากรที่ใช้ในการศึกษาตามโครงงานแยมส้มโอเพื่อ จำหน่าย กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ประกอบด้วย นักเรียน นักศึกษา แผนกวิชาการบัญชี วิทยาลัยเทคนิคพิจิตร จำนวน 25 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบทดสอบความคิดเห็นและพฤติกรรมการใช้ผลิตภัณฑ์ แยมส้มโอ แผนกวิชาการบัญชี วิทยาลัยเทคนิคพิจิตร ค่าสถิติที่ใช้ในการวิจัย คือ วิเคราะห์ข้อมูล โดยใช้สถิติพื้นฐาน การแจกแจงความถี่ และค่าร้อยละ ผลการวิจัยมีดังนี้ 1. ต้นทุนในการผลิตแยมส้มโอเฉลี่ย 27.62 บาทต่อกระปุก 2. ค่าใช้จ่ายที่ผลิตแยมส้มโอ 12.38 บาทต่อกระปุก 3. ความพึงพอใจในการใช้ผลิตภัณฑ์แยมส้มโอ ในภาพรวมอยู่ระดับพึงพอใจมากและเมื่อ พิจารณาเป็นรายข้อ ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด 3 อันดับแรกได้แก่ 1. ปัจจัยด้านบุคคลและส่งเสริมการ ขาย 2. ปัจจัยด้านราคา 3. ปัจจัยด้านผลิตภัณฑ์
ข กิตติกรรมประกาศ การจัดทำโครงงานครั้งนี้ สำเร็จลุล่วงได้เป็นอย่างดีด้วยความอนุเคราะห์และความกรุณาให้ คำปรึกษา ตั้งแต่ต้นจนจบเสร็จสมบูรณ์ ตลอดจนให้ความรู้และประสบการ์ณที่ดีแก่ข้าพเจ้าจาก นางสาวอรวลัญช์ น้อยสมวงษ์ ครูผู้สอนวิชาโครงงาน ผู้จัดทำขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูง ณ โอกาสนี้ ขอกราบขอบคุณพระคุณนางสาวณัฐกมล เมืองทอง ครูที่ปรึกษาโครงงาน ที่กรุณาให้คำแนะนำและ ให้คำปรึกษามาตลอดจนสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ตั้งแต่แรกให้ความช่วยเหลือแก้ไขข้อบกพร่องต่าง ๆ เพื่อให้จัดทำโครงงานฉบับนี้ให้มีความสมบูรณ์ ผู้จัดทำโครงงานขอขอบพระคุณคณะอาจารย์ทุกท่าน ที่ได้ประสิทธิ์ประสาทวิชา บ่มเพาะจนผู้ศึกษาสามารถนำหลักการมาประยุกต์และใช้และอ้างอิงใน การจัดทำโครงงานครั้งนี้ อีกทั้ง บิดา มารดา พี่น้องและเพื่อน ๆ ของผู้จัดทำโครงงาน ซึ่งให้ กำลังใจและความช่วยเหลือมาโดยตลอด คุณค่าอันพึงมีจากการศึกษาค้นคว้าวิจัยอิสระ ขอมอบเพื่อคุณบิดามารดา ครูอาจารย์ และผู้มีพระคุณทุกท่าน สุชาวดี เขียวสอาด สุภัคชญา สุขหนุน
ค สารบัญ หน้า บทคัดย่อ ก กิตติกรรมประกาศ ข สารบัญ ค สารบัญตาราง ง สารบัญภาพ จ บทที่ 1. บทนำ 1.1 ความสำคัญของโครงงาน/หลักการและเหตุผล 1 1.2 วัตถุประสงค์ในการศึกษา 2 1.3 ขอบเขตในการศึกษา 2 1.4 นิยามศัพท์เฉพาะ 3 2. เอกสารงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง 2.1 หลักการแนวคิดเกี่ยวกับต้นทุน 4 2.2 หลักการแนวคิดเกี่ยวกับผลตอบแทน 8 2.3 เอกสารงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง 9 2.4 กรอบแนวคิดเกี่ยวกับโครงงาน 11 3. วิธีการดำเนินงาน 3.1 กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการศึกษา 12 3.2 เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา 12 3.3 วิธีการดำเนินการศึกษา 13 3.4 การเก็บรวบรวมข้อมูล 13 3.5 การวิเคราะห์ข้อมูล 13 3.6 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล 14
ค สารบัญ (ต่อ) หน้า 4. ผลการวิเคราะห์ 4.1 ข้อมูลต้นทุนและผลตอบแทนในการผลิตแยมส้มโอ 15 4.2 ข้อมูลสภาพทั่วไปของผุ้ตอบแบบสอบถาม 20 4.3 ข้อมูลปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมการบริโภคแยมส้มโอ 22 4.4 ข้อมูลที่เกี่ยวกับการผลิตแยมส้มโอ 23 5. สรุป อภิปรายผลและข้อเสนอแนะ 5.1 สรุปผลการศึกษา 24 5.2 อภิปรายผลการศึกษา 25 5.3 ข้อเสนอแนะ 26 บรรณานุกรม ภาคผนวก ภาคผนวก ก เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาแบบสอบถามความคิดเห็น 29 เกี่ยวกับปัจจัยทีมีผลต่อผู้สนใจแยมส้มโอ ภาคผนวก ข แบบเสนอหัวข้อและโครงงาน โครงงานศึกษาต้นทุนและ 37 ผลตอบแทนในการผลิตแยมส้มโอเพื่อจำหน่าย ภาคผนวก ค แสดงภาพการลงพื้นที่เก็บข้อมูล ความคิดเห็นเกี่ยวกับปัจจัย 44 ที่มีผลต่อพฤติกรรมการใช้ผลิตภัณฑ์แยมส้มโอ ภาคผนวก ง บัญชี การศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนในการใช้ผลิตภัณฑ์ 54 แยมส้มโอเพื่อการจำหน่าย ภาคผนวก จ แสดงการพบครูผู้สอนและที่ปรึกษาโครงงาน 73
ง สารบัญตาราง ตารางที่ หน้า ตารางที่ 4.1.1 แสดงการแบ่งประเภทต้นทุนที่ทำการศึกษา 15 ตารางที่ 4.1.2 แสดงต้นทุนค่าวัตถุดิบในการทำแยมส้มโอ 16 ตารางที่ 4.1.3 แสดงต้นทุนค่าแรงงานในการผลิตแยมส้มโอ 16 ตารางที่ 4.1.4 แสดงต้นทุนค่ารถและค่าเดินทางที่ใช้ในการทำ 17 แยมส้มโอ ตารางที่ 4.1.5 แสดงข้อมูลสินทรัพย์และค่าเสื่อราคาอุปกรณ์ 17 ตารางที่ 4.1.6 แสดงข้อมูลต้นทุนค่าใช้จากในการผลิต 17 ตารางที่ 4.1.7 แสดงข้อมูลต้นทุนในการทำแยมส้มโอ 18 ตารางที่ 4.1.8 แสดงต้นทุนของงราคาขายต่อกระปุกของผลิตภัณฑ์ 18 แยมส้มโอ ตารางที่ 4.1.9 แสดงกำไรขั้นต้นจากการผลิตแยมส้มโอต่อกระปุก 19 ตารางที่ 4.1.10 แสดงการคำนวณหาอัตราผลตอบแทน 19 จากการผลิตแยมส้มโอ ตารางที่ 4.1.11 แสดงการคำนวณหาอัตราผลตอบแทน 20 จากการผลิตแยมส้มโอ ตารางที่ 4.2.1 แสดงจำนวนและค่าร้อยละของการศึกษา 20 ของผู้ตอบแบบสอบถาม ตารางที่ 4.2.2 แสดงจำนวนและค่าร้อยละของเพศของผู้ตอบแบบสอบถาม 21 ตารางที่ 4.2.3 แสดงจำนวนค่าร้อยละอายุของผู้ตอบแบบสอบถาม 21 ตารางที่ 4.2.4 แสดงจำนวนและค่าร้อยละของอาชีพของผู้ตอบแบบสอบถาม 21 ตารางที่ 4.3 การแสดงค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานความคิดเห็น 22 เกี่ยวกับปัจจัยที่มีต่อการผลิตแยมส้มโอ ตารางที่ 4.4 ข้อมูลเกี่ยวกับการผลิตแยมส้มโอ 23
จ สารบัญภาพ ภาพที่ หน้า 1. แสดงแนวคิดในการจัดทำโครงงาน 11 2. ภาพการส่งเว็บไซต์ให้นักศึกษาตอบแบบสอบถามออนไลน์ 31 3. ภาพการส่งเว็บไซต์ให้นักศึกษาตอบแบบสอบถามออนไลน์ 31 4. อุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิตแยมส้มโอ 45 5. วิธีการทำที่ 1 46 6. วิธีการทำที่ 2 47 7. วิธีการทำที่ 3 47 8. วิธีการทำที่ 4 48 9. วิธีการทำที่ 5 48 10. วิธีการทำที่ 6 49 11. วิธีการทำที่ 7 49 12. วิธีการทำที่ 8 50 13. วิธีการทำที่ 9 50 14. วิธีการทำที่ 10 51 15. วิธีการทำที่ 11 51 16. วิธีการทำที่ 12 52 17. วิธีการทำที่ 13 52 18. ภาพผลิตภัณฑ์บรรจุพร้อมจำหน่าย 53 19. ภาพพบครูผู้สอนโครงงาน ณ วันที่ 22 พฤศจิกายน 2565 75 20. ภาพพบครูผู้สอนโครงงาน ณ วันที่ 22 พฤศจิกายน 2565 75 21. ภาพพบครูที่ปรึกษาโครงงาน ณ วันที่ 22 พฤศจิกายน 2565 76 22. ภาพพบครูที่ปรึกษาโครงงาน ณ วันที่ 22 พฤศจิกายน 2565 76 ประวัติผู้จัดทำโครงงาน 77
บทที่ 1 บทนำ 1.1 ความสำคัญของโครงงาน/หลักการและเหตุผล แยม (Jam) เป็นการแปรรูปผลไม้กับน้ำตาลหรือสารให้ความหวาน จนกลายเป็นของเหลว ที่มีลักษณะข้นเหนียวคล้ายเจล (gel) คุณสมบัติความเป็นเจลจะเกิดขึ้นเมื่อกรด น้ำตาล และเพคติน (pectin) มาเจอกันในสัดส่วนที่เหมาะสม โดยกรด น้ำตาล และเพคตินเป็นสิ่งที่มีอยู่แล้วใน ธรรมชาติของผลไม้ แต่จะมีมากน้อย ขึ้นอยู่กับชนิดผลไม้ ดังนั้นหากเข้าใจหลักการนี้ เพียงมี ผลไม้ที่ชอบและ น้ำตาล คุณก็สามารถครีเอทรสแยมตามชอบแยมจึงเป็นผลิตภัณฑ์แปรรูปที่ให้ ประโยชน์แก่ผู้บริโภค โดยได้รับ ดังต่อไปนี้ 1.ช่วยควบคุมและรักษาน้ำหนักตัวที่เหมาะสม 2.ช่วยให้ พลังงาน และความ ทนทานขณะออกกำลังกาย 3.ช่วยชะลอการเสื่อมสภาพของร่างกายบำรุงสุขภาพ เส้นผม ผิวหนัง และ เล็บมือ 4.ช่วยลดภาวะสูญเสียมวลกระดูก 5.ช่วยรักษาฟันและเหงือกให้ แข็งแรง 6.ช่วยลดความเสี่ยง ต่อการเป็นโรคหลอดเลือดสมอง และโรคอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับหัวใจและ หลอดเลือด 7.ช่วยลดความเสี่ยง ของการเป็นโรคมะเร็ง 8.ช่วยบรรเทาอาการของมะเร็งในช่องปาก กระเพาะอาหาร ลำไส้ใหญ่ 9.ช่วยลดความดันโลหิต 10.ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคนิ่วในไต และทางเดินปัสสาวะ 11.ช่วยให้อิ่มท้อง รับประทานอาหารน้อยลง และไม่อยากอาหาร 12.ช่วย ลดคอเลสเตอรอลตัวร้าย 13.ช่วยให้แผลสมานได้ดี14.ช่วยสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง ซึ่งแยมส่วน ใหญ่มักจะพบอยู่ขวดโหลแก้วที่ทำความสะอาดมาอย่างดี จัดว่าเป็นการถนอมอาหารในรูปแบบหนึ่ง เพื่อให้สามารถเก็บได้นาน และด้วยรสชาติที่เปรี้ยวหวาน หอมผลไม้และยังรับประทานได้ง่าย แยม ยังสามารถนำไปประกอบอาหารได้หลากหลาย ไม่ว่าจะนำไปผสมกับอาหารคาว ของหวาน หรือ ทาบนขนมปังก็ได้ทั้งนั้น จึงกลายเป็นที่ชื่นชอบของ คนทุกเพศทุกวัยนอกจากนี้ข้อดีของแยมคือทํา ง่ายขั้นตอนไม่ยุ่งยากและสามารถดัดแปลงทําขายเพื่อเป็นการสร้างรายเสริมได้อีกด้วย ในปัจจุบันตามท้องตลาดมีแยมวางจำหน่ายอยู่หลากหลายยี่ห้อให้ผู้บริโภคเลือกซื้อซึ่งแต่ละ ยี่ห้อก็มีจุดเด่นต่างกันออกไป เช่น แยมสตอเบอรรี่ แยมกีวี่ แยมสับปะรด แยมมะม่วงจึงเกิดเป็น แนวคิดในการประยุกต์นำเอาส้มโอซึ่งเป็นผลไม้ในชุมชนมาแปรรูปเป็นแยมส้มโอ ซึ่งจะเห็นได้ว่า จังหวัดพิจิตรของเรามีส้มโอหลายหลายสายพันธุ์ เช่น ส้มโอทองดีส้มโอขาวแตงกวา ส้มโอท่าข่อย
2 และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ที่อำเภอโพธิ์ประทับช้าง จังหวัดพิจิตร สามารถหาซื้อได้ ง่ายและราคาเป็นมิตรจึงทําให้เกิดแนวคิดที่จะศึกษาต้นทุนในการทำแยมส้มโอในราคาที่เหมาะสม และมีคุณภาพ เพื่อสามารถให้ผู้คนรู้จักและสามารถเข้าถึงแยมและส้มโอได้ทุกวัย จากปัญหาดังกล่าวคณะผู้จัดทำมีความสนใจและมองเห็นช่องทางธุรกิจที่จะทำเรื่อง การศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนในการทำแยมส้มโอเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ดังนั้น ในการศึกษาครั้งนี้จึงมุ่งหวังที่จะศึกษาความเป็นไปได้ของโครงงานเป็นแนวทางในการวางกลยุทธ์ทาง การตลาดให้เหมาะสมความพึงพอใจและพฤติกรรมของผู้บริโภคในการศึกษาครั้งนี้จะให้ความสำคัญ กับปัจจัยเหล่านี้เป็นหลัก เพราะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจเลือกทานอีกด้วย 1.2 วัตถุประสงค์ของโครงงาน 1.2.1 เพื่อศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนจากการทำแยมส้มโอ 1.2.2 ทำให้ทราบถึงผลกำไรขาดทุนจากการทำแยมส้มโอ 1.2.3 เพื่อศึกษาความพึงพอใจของผู้บริโภคที่มีต่อการบริโภคแยมส้มโอ 1.3 ขอบเขตของโครงงาน 1.3.1 ด้านตัวแปร – 1.3.2 ด้านเนื้อหา การวิจัยครั้งนี้เป็นการศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนในการทำแยมส้มโอ ดังนี้ 1) ศึกษาต้นทุนการผลิตแยมส้มโอตั้งแต่ขั้นตอนการเตรียมการทำจนไปถึง ขั้นตอนการจัดจำหน่าย และวิเคราะห์โครงสร้างต้นทุนในการทำแยมส้มโอ 2) ศึกษาผลตอบแทนที่ได้รับจากการลงทุนทำแยมส้มโอ 1.3.3 ด้านเวลา ตุลาคม 2565 - กุมภาพันธ์ 2566 1.3.4 แบบร่าง (ถ้ามี)
3 1.4 นิยามศัพท์เพราะ ต้นทุน หมายถึง ต้นทุนทั้งสิ้นที่ใช้ในการซื้อส้มโอและน้ำตาล มาแปรรูปให้เป็นแยมส้มโอ เพื่อจำหน่าย ผลตอบแทน หมายถึง อัตรากำไรต่อทุน อัตรากำไรต่อยอดขาย อัตราผลตอบแทนจาก เงินลงทุนและอัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์
บทที่ 2 เอกสารงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง การศึกษาในครั้งนี้ เป็นการศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนในการผลิตแยมส้มโอเพื่อ จำหน่ายผู้จัดทำโครงงานได้ศึกษาหลักการ แนวคิด ทฤษฎีและงานวิจัยเกี่ยวข้องดังนี้ 2.1 หลักการแนวคิดเกี่ยวกับต้นทุน 2.2 หลักการแนวคิดและผลตอบแทน 2.3 งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง 2.4 กรอบแนวคิดในการศึกษา 2.1 หลักการแนวคิดเกี่ยวกับต้นทุน ต้นทุน (Cost) หมายถึง มูลค่าของทรัพยากรที่องค์กรใช้ประโยชน์เพื่อให้บรรลุ วัตถุประสงค์ตามที่กำหนดไว้ เช่น ต้นทุนของวัตถุดิบและแรงงานที่เกิดขึ้นเพื่อผลิตสินค้าและบริการ และเมื่อต้นทุนได้ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อธุรกิจแล้ว ต้นทุนส่วนนั้นจะเปลี่ยนสภาพไปเป็นค่าใช้จ่าย (Expense) ซึ่งจะนำไปหักรายได้ในแต่ละงวดบัญชี ต้นทุนการผลิต คือ ต้นทุนที่ทำให้ได้สินค้าสำเร็จรูปใด ๆ ประกอบด้วย วัตถุดิบทางตรงที่ เบิกใช้ในการผลิต แรงงานทางตรงที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการผลิตและค่าใช้จ่ายในการผลิตเมื่อทั้ง 3 ส่วนประกอบ ได้เข้าสู่ขั้นตอนต่าง ๆ ของการผลิตก็จะถูกแปรสภาพเป็นสินค้าสำเร็จรูปต่อไปการ จำแนกประเภทต้นทุนแบ่งออกเป็น 6 ประเภท ได้แก่ 2.1.1 การจำแนกต้นทุนตามระยะเวลา 2.1.2 การจำแนกต้นทุนตามลักษณะการดำเนินงาน 2.1.3 การจำแนกต้นทุนตามส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ 2.1.4 การจำแนกต้นทุนตามปริมาณกิจกรรม 2.1.5 การจำแนกต้นทุนเพื่อการควบคุมและวัดผลการปฏิบัติงาน 2.1.6 การจำแนกต้นทุนเพื่อการตัดสินใจ
5 มีรายละเอียดของการจำแนกต้นทุนแต่ละประเภท ดังนี้ 2.1.1 การจำแนกต้นทุนตามระยะเวลา เป็นการพิจารณาต้นทุนในการจัดหาสินทรัพย์และบริการต่าง ๆ ซึ่งจะต้องสัมพันธ์ กับระยะเวลาในการดำเนินธุรกิจ โดยสามารถแบ่งต้นทุนออกเป็น 3 ประเภท คือ 1) ต้นทุนที่เกิดขึ้นในอดีต (Historical Cost) คือต้นทุนที่เกิดขึ้นเมื่อได้มาซึ่ง สินทรัพย์หรือบริการต่าง ๆ และกิจการได้จ่ายชำระเงินสดสินทรัพย์อื่นใดหรือรายการเทียบเท่าเงินสด โดยปกติจะใช้ต้นทุนประเภทนี้ในการบันทึกบัญชีประกอบการจัดทำงบการเงินแต่ไม่นิยมนำไปใช้ ประกอบการ ตัดสินใจปัญหาหรือเกตุการณ์ต่าง ๆ ในอนาคตเนื่องจากสภาวะแวดล้อมทางเศรษฐกิจ มีการเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา 2) ต้นทุนทดแทนหรือต้นทุนการเปลี่ยนแปลง (Replacement Cost) คือต้นทุน ที่จ่ายไปเพื่อใช้ในการจัดหาสินทรัพย์มาเปลี่ยนหรือทดแทนสินทรัพย์เดิมซึ่งสินทรัพย์ที่จัดหามานั้น ต้องมีลักษณะคล้ายคลึงกับสินทรัพย์เดิม เพื่อนำมาเปรียบเทียบต้นทุนประกอบการตัดสินใจในการ เลือกทางต่าง ๆ ว่าควรเปลี่ยนแทนหรือควรปรับปรุงสินทรัพย์ที่มีอยู่ที่เดิมหรือควรซื้อสินทรัพย์ใหม่ เพื่อทดแทนสินทรัพย์เพิ่มโดยเปรียบเทียบจากราคาตลาดของสินทรัพย์นั้น ๆ 3) ต้นทุนในอนาคต (Future Cost) คือต้นทุนที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคตเมื่อ กิจการต้องตัดสินใจเลือกโครงงานใดโครงงานหนึ่งในอนาคตซึ่งกิจการต้องพยากรณ์ต้นทุนที่คาดว่าจะ เกิดขึ้นเพื่อใช้ในการตัดสินใจเลือกลงทุนในโครงงานจากแนวโน้มของต้นทุนจริงในอดีตหรือจากระบบ งบประมาณของกิจการ 2.1.2 การจำแนกต้นทุนตามลักษณะการดำเนินงาน เป็นการพิจารณาต้นทุนที่เกิดจากการดำเนินงานหรือปฏิบัติงานของธุรกิจซึ่งแบ่งได้ 2 ประเภทใหญ่ดังต่อไปนี้ 1) ต้นทุนการผลิต (Manufacturing Cost) คือต้นทุนที่เกิดขึ้นทั้งหมดใน กระบวนการผลิตเพื่อแปรสภาพวัตถุดิบให้เป็นสินค้า ซึ่งปกติต้นทุนการผลิตจะเกิดขึ้นในธุรกิจการ ผลิตสินค้าเท่านั้น เช่น วัตถุดิบทางตรง ค่าแรงทางตรงและค่าใช้จ่ายในการผลิต เป็นต้น 2) ต้นทุนที่ไม่เกี่ยวข้องกับการผลิต (Nonmanufacturing Cost) คือต้นทุนอื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการผลิตสินค้า ซึ่งจะจำแนกต้นทุนโดยพิจารณาตามหน้าที่หรือลักษณะของการ ปฏิบัติงาน ดังนี้ 2.1) ต้นทุนในการจัดซื้อหรือการจัดหาสินค้า (Merchandise Cost) ซึ่ง เป็นต้นทุนในการจัดหาสินค้า เช่น ค่าขนส่งเข้า เป็นต้น 2.2) ต้นทุนทางการตลาด (Marketing Cost) เป็นต้นทุนที่เกิดจากการ ส่งเสริมการขายหรือแนะนำผลิตภัณฑ์เข้าสู่ตลาด เช่น ค่าโฆษณาประชาสัมพันธ์ เป็นต้น
6 2.3) ต้นทุนหรือค่าใช้จ่ายในการบริหาร (Aministrative Cost of Expense) เป็นต้นทุนจากการบริหารโดยรวม เช่น เงินเดือนฝ่ายบริหารค่าใช้จ่ายแผนกบัญชี 2.4) ต้นทุนทางการเงิน (Financing Cost) คือต้นทุนจาการจัดหาเงินทุน มาฝากดำเนินงาน เช่น ดอกเบี้ยค่าธรรมเนียมต่าง ๆ เป็นต้น 2.5) ต้นทุนในการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ (Research and Development Cost) เป็นต้นทุนจากการวิจัยหาสินค้าใหม่ ๆ หรือพัฒนาสินค้าที่มีอยู่ให้ทันสมัยจากเดิมเพื่อ ตอบสนองความต้องการของทางการตลาดของลูกค้า เช่น เงินเดือนนักวิจัยและผู้เชี่ยวชาญ เป็นต้น 2.1.3 การจำแนกต้นทุนตามส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ ส่วนประกอบของต้นทุนที่ใช้ในการผลิตสินค้าหรือผลิตภัณฑ์แต่ละชนิดจะประกอบด้วยวัตถุดิบ ทางตรง ค่าแรงทางตรง และค่าใช้จ่ายในการผลิต ซึ่งถ้าเราพิจารณาในด้านทรัพยากรที่เป็น ส่วนประกอบของสินค้าแล้วจะประกอบไปด้วยวัตถุดิบ ถือว่าเป็นส่วนประกอบที่สำคัญสำหรับการ ผลิตสินค้า ต้นทุนที่เกี่ยวกับการใช้วัตถุดิบในการผลิตสินค้าสามารถแบ่งออกเป็น 2ลักษณะ คือ วัตถุดิบทางตรง หมายถึงวัตถุดิบหลักที่ใช้ในการผลิต และสามารถระบุได้อย่างชัดเจนว่าใช้ในการ ผลิตสินค้าชนิดใดชนิดหนึ่งในปริมาณเท่าใด ต้นทุนเท่าใด รวมทั้งจัดเป็นวัตถุดิบส่วนใหญ่ที่ใช้ในการ ผลิตสินค้าชนิดนั้น วัตถุดิบทางอ้อม หมายถึง วัตถุดิบต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องโดยทางอ้อมกับการผลิต สินค้า แต่ไม่ใช่วัตถุดิบหลักหรือวัตถุดิบส่วนใหญ่ ค่าแรงงาน คือค่าจ้างหรือผลตอบแทนที่จ่ายให้แก่ ลูกจ้างหรือคนงานที่ทำหน้าที่ในการผลิตสินค้า ซึ่งค่าแรงนั้นสามารถแบ่งได้ 2 ชนิด ดังนี้ ค่าแรงงานทางตรง คือค่าแรงงานต่าง ๆ ที่จ่ายให้แก่คนงานหรือลูกจ้างที่ทำหน้าที่ในผลิตสินค้า ค่าใช้จ่ายในการผลิต คือ แหล่งรวบรวมค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการผลิตสินค้าซึ่ง นอกเหนือจากวัตถุดิบทางตรง ค่าแรงทางตรง เช่น วัตถุดิบทางอ้อม ค่าแรงทางอ้อม ค่าใช้จ่ายใน การผลิตทางอ้อมอื่น ๆ ได้แก่ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเช่า ค่าเสื่อมราคา ค่าประกันภัย และค่าภาษี เป็นต้น 2.1.4 การจำแนกต้นทุนตามปริมาณกิจกรรม การจำแนกต้นทุนตามปริมาณกิจกรรมมักจะมีลักษณะแตกต่างกันไปตามลักษณะ กิจกรรมของต้นทุน กล่าวคือ ต้นทุนจะเปลี่ยนแปลงหรือไม่ขึ้นอยู่กับระดับปริมาณกิจกรรม จำนวน ชั่วโมงแรงงาน จำนวนชั่วโมงเครื่องจักรหรือฝ่ายบริหารที่ใช้ประโยชน์ในการวางแผนควบคุมการสร้าง แรงจูงใจ การตัดสินใจ ซึ่งผู้บริหารจะต้องทำการประมาณต้นทุนต่าง ๆ ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นโดย วิธีการประมาณต้นทุน ต้องเข้าใจพฤติกรรมของต้นทุนและเทคนิคในการประมาณต้นทุนวิธีการจด ประเภทต้นทุนตามความสัมพันธ์ระหว่างต้นทุนและระดับกิจกรรม โดยแสดงให้เห็นการเปลี่ยนแปลง ในระดับกิจกรรมที่มีต่อต้นทุน จำนวนการขาย ปริมาณการผลิต ซึ่งมีผลกระทบต่อการตัดสินใจด้าน ต่าง ๆ ของผู้บริหาร
7 2.1.5 การจำแนกต้นทุนเพื่อการควบคุมและวัดผลการปฏิบัติงาน เป็นการควบคุมต้นทุนให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ เป็นหน้าที่ที่สำคัญของ ผู้บริหาร ซึ่งจะต้องกำหนดหน่วยงานที่ต้องการควบคุมต้นทุนแล้ววางแผนการควบคุมงาน ตลอดจน การปฏิบัติละการวัดผลการปฏิบัติการควบคุมดังกล่าว ว่าเป็นไปตามแผนที่วางไว้หรือไม่ ซึ่งในการ ควบคุมต้นทุนนั้นสามารถจำแนกได้เป็น 2 ประเภท ดังนี้ 1) ต้นทุนที่ควบคุมได้ คือ ต้นทุนที่ผู้จัดการหัวหน้างานสามารถสั่งการหรือควบคุม ได้ เช่น ค่าล่วงเวลา ค่าวัสดุสิ้นเปลือง เป็นต้น 2) ต้นทุนที่ควบคุมไม่ได้ คือ ต้นทุนที่ผู้จัดการหรือหัวหน้างานไม่สามารถสั่งการ เพราะอยู่ในอำนาจการตัดสินใจของผู้บริหารหรือได้รับการปันส่วนกลางไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เช่น ค่าเสื่อมราคาโรงงาน ค่าสาธารณูปโภค เป็นต้น 2.1.6 การจำแนกต้นทุนเพื่อการตัดสินใจ ต้นทุนประเภทนี้สามารถแยกได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ ดังนี้ 1) ต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการตัดสินใจ คือ ต้นทุนที่มีสัมพันธ์กับการตัดสินใจของ ผู้บริหารเพื่อใช้ในการประเมินทางเลือก ซึ่งอาจเกิดขึ้นจากการเปรียบเทียบต้นทุนในอดีตหรือการ พยากรณ์โดยอาศัยเทคนิคทางสถิติ ซึ่งสามารถจำแนกประเภทได้ ดังนี้ 1.1) ต้นทุนส่วนต่าง คือ ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นหรือลดลงจากการเปลี่ยนแปลงวีธี การปฏิบัติเดิมให้เป็นวิธีการปฏิบัติใหม่ เช่น กำลังการผลิต 100 หน่วย ต้นทุนต่อหน่วย 2 บาท และถ้าเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 150 หน่วย ต้นทุนต่อหน่วยเป็น 1.80 บาท จะทำให้เกิดต้นทุน ส่วนต่างที่ลดลงจากเดิมเมื่อเทียบกับการผลิตเดิมอยู่ 0.20 บาท 1.2) ต้นทุนที่เลี่ยงได้ คือ ต้นทุนที่สามารถประหยัดจากการตัดสินใจเลือก เช่น การยุบสาขาที่ได้กำไรน้อยหรือขาดทุน จะช่วยลดต้นทุนได้ลงจากเดิม 1.3) ต้นทุนค่าเสียโอกาส คือ ผลตอบแทนที่กิจการได้รับจากการตัดสิ้นใจ เลือกทางใดทางหนึ่ง แต่กิจการต้องสูญเสียผลตอบแทนจากทางเลือกที่ไม่ได้เลือก เช่น มีเงิน 10,000 บาท ถ้าฝากเงินประจำจะได้ดอกเบี้ย 200 บาท ต่อปี แต่ถ้าปล่อยเงินกู้จะได้ดอกเบี้ย 500 บาท ต่อปี ซึ่งถ้าเลือกปล่อยเงินกู้จะทำให้สูญเสียโอกาสได้รับดอกเบี้ยจากการฝากเงินเป็น จำนวน 200 บาท 2) ต้นทุนที่ไม่เกี่ยวข้องกับการตัดสินใจ คือ ต้นทุนที่ไม่แสดงความสัมพันธ์ เกี่ยวข้องกับการตัดสินใจ ไม่ว่าผู้บริหารจะเลือกทางใดก็ตาม ซึ่งสามารถจำแนกได้ดังนี้ 2.1) ต้นทุนจม คือ ต้นทุนที่เกิดขึ้นในอดีตที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ เช่น การซื้อเครื่องจักรมาในราคา 20,0000 บาท เป็นเวลา 2 ปี ไม่ว่ากิจการจะขายหรือไม่ขายต้นทุน ดังกล่าวก็ได้เกิดขึ้นแล้วจากการซื้อเครื่องจักร
8 2.2) ต้นทุนที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ คือ ต้นทุนที่ยังคงมีอยู่ไม่ว่าจะก่อนการเปลี่ยนแปลงไปจาก เดิมหรือไม่ เช่น ค่าเสียภาษีทรัพย์สินโรงงาน เป็นต้น 2.2 หลักการแนวคิดเกี่ยวกับผลตอบแทน การวิเคราะห์การลงทุนและผลตอบแทนจากการลงทุนของโครงงานใด ๆ โดยเป็นการ เปรียบเทียบผลตอบแทนและต้นทุนของโครงงานนั้น ๆ ซึ่งผลตอบแทนและต้นทุนของโครงงานจะ เกิดขึ้นในระยะเวลาที่ต่างกันตลอดอายุของโครงงาน ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีการปรับค่าเวลาของ โครงงานเพื่อให้ได้ซึ่งผลตอบแทนที่ได้รับละต้นทุนที่สียไปในช่วงระยะเวลาที่ต่างกัน ให้เป็นเวลา ปัจจุบันก่อน แล้วจึงจะสามารถทำการเปรียบเทียบกันได้อย่างถูกต้องแน่นอนจัดเจนมากยิ่งขึ้น (เสถียร ศรีบุญเรือง. 2542) การวิเคราะห์ทางด้านการเงินเป็นการวิเคราะห์ค่าใช้จ่ายหรือเงินลงทุน และผลตอบแทนหรือผลกำไรทางการเงินของรายงานโครงงาน เพื่อวิเคราะห์ว่าโครงงานที่จัดทำขึ้น นั้นมีความคุ้มค่ากับการลงทุนหรือไม่ โดยทั่วไปแล้วสามารถแบ่งการวิเคราะห์เป็น 2 ประเภท ดังนี้ 1) วิธีการวิเคราะห์โดยไม่มีการคิดลดลง (Undiscounted Approach) คือการวัดค่าของต้นทุน และผลตอบแทนจากโรงงาน โดยไม่คำนึงถึงว่าเงินที่ได้รับในช่วงเวลาที่ต่างกัน เช่น เงินสดรับในปีที่ 1 จำนวนหนึ่งกับเงินจำนวนเดียวกันนี้ที่จะได้ในปีที่ 5 จะถือว่ามูลค่าที่เท่ากับการวิเคราะห์วิธีนี้ เช่น การหาระยะเวลาคืนทุน (Playback Period) ซึ่งเป็นการคำนวณนับจากจุดเริ่มต้นโครงงาน จะใช้ระยะเวลาอีกเท่าไร จึงจะมีกระแสเงินสดรับสุทธิจากโครงงานรวมกันเท่ากับมูลค่าในการลงทุน (Total Capital Investment) 2) วิธีการวิเคราะห์โดยวิธีการคิดลด (Discounted Approach) วิธีการวิเคราะห์โดยการมีการคิดลดเป็นวิธีการวัดค่าของผลตอบแทนและต้นทุนหรือค่าใช้จ่ายที่ เกิดขึ้นจากโครงงานโดยคำนึงถึงค่าเสียโอกาสผ่านวีการคิดลด (Discounted Method) ซึ่งวิธีที่นิยม ใช้ ได้แก่ มูลค่าปัจจุบันสุทธิ (NPV) อัตราผลตอบแทนภายในจากการลงทุน (IRR) วัตถุประสงค์ ของการวิเคราะห์ทางการเงิน 4 ประการดังนี้ 1) เพื่อประเมินความเป้นไปได้ทางการเงิน วัตถุประสงค์สำคัญของการวิเคราะห์ทางการเงิน คือการประเมินความสามารถในทางโครงงานนั้นคือ โครงงานสามารถก่อให้เกิดรายได้ที่คุ้มค่ากับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ และมีอัตราตอบแทนที่ดีการประเมินส่วน นี้จะต้องมีการประมานต้นทุนและผลตอบแทนทั้งสิ้น เพื่อการศึกษาผลตอบแทนสุทธิของโครงงาน 2) เพื่อประเมินแรงจูงใจที่มีต่อเจ้าของและผู้มีส่วนร่วมกับโครงงาน ถ้าเป้นโครงงานรัฐวิสาหกิจหรือ รัฐบาลให้การสนับสนุนก็จะพิจารณาผลตอบแทนที่ได้รับนั้นเพียงพอต่อการเลี้ยงตัวเองและบรรลุ วัตถุประสงค์ที่ต้องการหรือไม่ 3) เพื่อจัดให้มีแผนการเงินที่ดีเพื่อโครงงานมีกำไรและผลตอบแทนที่ดี ก็มีแผนการเงินที่ดีด้วยโดยเฉพาะการวางแผนจัดหาเงินทุน เพื่อให้ได้มาซึ่งเงินทุนในจำนวนและเวลา ตามที่ต้องการโดยเสียค่าใช้จ่ายต่ำสุดรวมทั้งเพื่อให้ข้อเสนอแนะถึงวิธีการปรับปรุงความเป็นไปได้ทาง
9 การเงินของโครงงาน โดยเฉพาะความเหมาะสมของอัตราค่าบริการราคาและปริมาณการผลิตที่คุ้ม ทุน 4) เพื่อประเมินขีดความสามารถในการบริหารการเงินสำหรับโครงงานลงทุนขนาดใหญ่ที่มีการ บริหารการเงินที่สลับซับซ้อน ก็จำเป็นต้องพิจารณาถึงระบบการจัดการด้านการเงิน การ เปลี่ยนแปลงขององค์กรและการจัดการควรจัดระเบียบให้มีการควบคุม การตรวจสอบการเงิน รวมทั้งการฝึกอบรมทักษะเฉพาะทางเรื่องต่าง ๆ เพื่อให้โครงงานดำเนินไปตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ 2.3 เอกสารงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง กุลวดี ตรองพาณิชย์ และคณะ (2533) แยมจากผลมะม่วงหิมพานต์ได้ทดลองเก็บผลสด มะม่วงหินมพานต์เพื่อใช้ในการทาแยมด้วยวิธีต่างๆ พบว่าการใช้สารละลายโซเดียมเมตรไบซัลไฟต์ ความเข้มข้นตั้งแต่ 1,000 ส่วน ต่อล้านส่วนขึ้นไป จะให้กลิ่นซัลเฟอร์ตกค้างในแยม การใช้ สารละลายเกลือแกงความเข้มข้นร้อยละ 5 ขึ้นไป จากการทดสอบความชอบของแยมที่ได้โดยผู้ ชำนาญพบว่า การใช้เนื้อมะม่วงหินมพานต์ 17.50% ในแยมจะได้รับการยอมรับจากกลุ่มผู้ชิมคน ไทยมากที่สุด กัลยาณี ชามนา (2546) ศึกษาการนำกลูโคแมนแนนมาใช้ในการทพผลิตภัณฑ์แยมแครอท โดยศึกษาสูตรเบื้องต้นของแยมแครอทจากเพคติน การศึกษาการนำกลูโคแมนแนนมาใช้แทนที่เพคติน โดยศึกษาปริมาณกลูโคแมนแนน 5 ระดับ ได้แก่ 2 , 3 , 4 , 5 และ 6 กรัม พบว่าการใช้ กลูโคแมนแนนในปริมาณ 3 กรัม โดยเตรียมเป็นเจลก่อนในอัตราส่วนกลูโคลแมนแนน : น้ำอุ่น เท่ากับ 1 : 30 โดยน้ำหนักให้ลักษณะแยมที่ดีสุด นำสูตรแยมแครอทที่ได้ไปปรับปรุงรสชาติโดยวิธีให้ คะแนนความเข้ม พบว่า แยมแครอทจากกลูโคลแมนแนนที่ได้คะแนนใกล้เคียงกับสูตรมาตราฐาน มากที่สุด ปิยะรัตน์ ธูปพงษ์ และสุธาพร นราธิปภัททร (2553) การทดลองนี้เป็นการศึกษาเพื่อ หาปริมาณเพคตินจากเนื้อฝรั่ง ซึ่งเนื้อฝรั่งในที่นี้หมายถึง บริเวณเนื้อที่ติดกับเมล็ด มีลักษณะขาวขุ่น เละ ส่วนนี้ผู้บริโภคไม่นิยมรับประทาน คือ เป็นส่วนที่เหลือทิ้ง ของเสียเหล่านี้เป็นต้นทุนส่วนหนึ่ง ของโรงงาน และเป็นภาระให้กับโรงงานในการกำจัด จึงศึกษาหาปริมาณเพคตินที่เป็นสารที่ทำให้ เกิดเจล สามารถนำมาแปรรูปให้เป็นแยมได้ ทำการวิเคราะห์หารปริมาณเพคตินที่มีอยู่ในเนื้อฝรั่ง หลังจากนั้นทำการหาสัดส่วนตัวอย่างแยมที่เหมาะสมต่อการผลิตแยม โดยให้เปอร์เซ็นต์เพคตินที่ ระดับต่าง ๆ กัน ทดสอบระดับความชอบด้านสีกลิ่น รสชาติ ความชอบโดยรวมการทาขนมปัง และการทาแผ่บนแผ่นขนมปัง ตัวอย่างอ้างอิง ผลการทดสอบพบว่า ปริมาณเนื้อในฝรั่งที่เหมาะสม
10 ในการผลิตแยม คือ 30.00% เพราะให้ลักษณะการเซทตัวเป็นแยมที่ดีพร้อมกับให้ลักษณะทางสี และกลิ่นดีด้วย หทัยวรรณ์ ศิริสุขชัยถาวร และคณะ (2552) ศึกษากรรมวีการผลิตและพัฒนาสูตรแยม ผลไม้มะม่วง (Mangiferaindica L.) ฝรั่ง (Psidiumguajava L.) และกระเจี๊ยบแดง (Hibscussabodariffa L.) โดยเปรียบเทียบปริมาณของน้ำตาลและเพคติน โดยน้ำหนัก (หน่วยเป็นกรัม) และพัฒนาในการ ผลิตฟิล์มที่รับประทานได้ (edible film) โดยเปรียบเทียบปริมาณเพคตินต่อน้ำผึ่งจำนวน 3 สูตร ปริมาณโดยน้ำหนัก (หน่วยเป็นกรัม) ผลการศึกษาพบว่าแยมแผ่น สามารถผลิตได้จากมะม่วงและ ฝรั่ง โดยใช้เนื้อผลไม้ 150 กรัม ต่ออัตราส่วนน้ำตาล : เพคติน เท่ากับ 100 : 4 โดยน้ำหนัก (หน่วยเป็นกรัม) และเคลือบด้วยฟิล์มที่รับประทานได้ผลิตจากสารละลายที่มีน้ำเท่ากับ 300 มิลลิลิตรผสมกับพคตินกับน้ำผึ่งในปริมาณ 8 : 2 โดยน้ำหนักให้ลักษณะการเซตตัวของแยมและ การร่อนเป็นแผ่นที่ดี ธงชัย โสดามรรคและอัมพร จันทร์ดวง (2555) การศึกษาการเปรียบเทียบเกี่ยวกับแยม ข้าวโพดหวาน โดยใช้ปริมาณน้ำนมข้าวโพดในระดับต่างกัน เพื่อศึกษาการยอมรับของผู้บริโภคที่มี ต่อคุณภาพของแยมข้าวโพดหวาน โดยใช้ปริมาณน้ำนมข้าวโพดหวานในการศึกษาทดลองนี้เพื่อ ทดสอบปริมาณน้ำนมข้าวโพดที่เหมาะสมในการทาแยมข้าวโพดหวานให้เป็นที่ยอมรับทางด้านสีกลิ่น รสชาติและเนื้อสัมผัสของผู้บริโภคโดยการใช้วางแผนการทดลอง CRD (Completely Randomized Design) มี 4 ตัวอย่างในการทดลอง (Treatment) โดยใช้ปริมาณน้ำนมข้าวโพด หวานในการทดลอง คือ ปริมาณน้ำนมข้าวโพด 200 ซีซีปริมาณน้ำนมข้าวโพด 300 ซีซีปริมาณ น้ำนมข้าวโพด 400 ซีซีและปริมาณน้ำนมข้าวโพด 500 ซีซีจำนวน 4 ซ้ำ (Replication) ผลการศึกษา พบว่าปริมาณน้ำนมข้าวโพดทั้ง 4 ระดับ ไม่มีความแตกต่างกันทั้งด้าน สีกลิ่น รสชาติและเนื้อ สัมผัส
11 2.4 กรอบแนวคิดในการจัดทำโครงงาน ภาพที่ 1 แสดงแนวคิดในการจัดทำโครงงาน ต้นทุน ต้นทุนตามส่วนประกอบของการผลิต แยมส้มโอ 1. ค่าวัตถุดิบ 2. ค่าแรงงาน 3. ค่าใช้จ่ายในการผลิต ผลตอบแทน กำไร (ขาดทุน) จากการผลิตแยม ส้มโอรายได้จากการขายหัก ต้นทุน ในการผลิตแยมส้มโอกำไรขั้นต้น การวิเคราะห์ ต้นทุนและผลตอบแทน โครงสร้างต้นทุนในการผลิต แยมส้มโอ อัตราผลตอบแทน 1. อัตรากำไรชั้นต้นต่อต้นทุน 2. อัตรากำไรขั้นต้นต่อยอดขาย
บทที่ 3 วิธีการดำเนินงาน การดำเนินการศึกษาครั้งนี้ เป็นการศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนในการผลิตแยมส้มโอ เพื่อจำหน่ายของนักเรียน นักศึกษา แผนกวิชาการบัญชี วิทยาลัยเทคนิคพิจิตร ผู้จัดทำโครงงานให้ ดำเนินตามลำดับขั้นตอน ดังนี้ 3.1 กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการศึกษา 3.2 เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา 3.3 วิธีการดำเนินการศึกษา 3.4 การเก็บรวบรวมข้อมูล 3.5 การวิเคราะห์ข้อมูล 3.6 สถิติใช้ในการวิเคราะห์ 3.1 กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการศึกษา กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในโครงงานการผลิตแยมส้มโอเพื่อจำหน่าย ได้แก่ นักเรียน นักศึกษา แผนกวิชาการบัญชี วิทยาลัยเทคนิคพิจิตร จำนวน 25 คน กำหนดกลุ่มตัวอย่าง โดยเลือกจาก นักเรียน นักศึกษาที่สนใจแยมส้มโอ 3.2 เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา เครื่องมือที่ใช้การศึกการศึกษา ได้แก่ แบบสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับปัจจัยที่มีผล พฤติกรรมการบริโภคแยมส้มโอของผู้บริโภค
13 3.3 วิธีการดำเนินการศึกษา ผู้จัดทำโครงงาน ได้ดำเนินการศึกษาขั้นตอนต่าง ๆ ซึ่งมีรายละเอียดการสร้างแบบสอบถาม ข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุนผลิตแยมส้มโอของนักเรียน นักศึกษา แผนกวิชาการบัญชี วิทยาลัยเทคนิคพิจิตร ดำเนินการ ดังนี้ 3.3.1 ศึกษาแนวทางคิดทฤษฎีจากเอกสาร ตำรา สืบค้นข้อมูลและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง กับการศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนเพื่อสร้างและพัฒนาแบบสอบถาม โดยแบ่ง 3 ตอน ตอนที่ 1 สอบถามสถานภาพและข้อมมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม ตอนที่ 2 สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับการผลิตแยมส้มโอ ตอนที่ 3 สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับต้นทุนและผลตอบแทนของการผลิตแยมส้มโอ 3.3.2 นำร่างแบบสอบถามแสนอต่อครูที่ปรึกษาโครงงาน เพื่อขอคำปรึกษาและตรวจสอบ คำถามเพื่อให้ได้แบบสอบถามและแบบสัมภาษณ์ที่ถูกต้องเหมาะสม 3.3.3 นำแบบสอบถามที่ปรับปรุงแล้วเสนอต่อหน้าครูที่ปรึกษาโครงงานอีกครั้งก่อนนำไปใช้ ในการเก็บรวบรวมข้อมูล 3.4 การเก็บรวบรวมข้อมูล ผู้จัดทำโครงงานได้ดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลโดยการดำเนินการเติมขั้นตอน ดังนี้ 3.4.1 นำแบบสอบถามไปเก็บข้อมูลจากนักเรียน นักศึกษา แผนกวิชาการบัญชี วิทยาลัยเทคนิคพิจิตร ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการศึกษา 3.4.2 นำเสนอข้อมูลที่ได้จากการวิเคราะห์ 3.5 การวิเคราะห์ข้อมูล ได้ดำเนินการวิเคราะห์ข้อมูลตามลำดับ ดังนี้ 3.5.1 การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณ โดยเก็บรวบรวมข้อมูลทำการประมวลผล 3.5.2 การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพ ในการวิเคราะห์เนื้อหาประกอบด้วย 4 ขั้นตอน ได้แก่ การตีข้อมมูล (Interpretation) การเปรียบเทียบข้อมูล (Constant Comparison) การวิเคราะห์ข้อมูล (Data Synthesis) และการสรุปผล (Generalization)
14 3.6 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูลผู้รายงานได้ใช้สถิติวิเคราะห์ข้อมูลต่าง ๆ ดังนี้ 3.6.1 ค่าความถี่ (Frequency) 3.6.2 ค่าร้อยละ (Percentage) 3.6.3 หาค่าเฉลี่ย (Mean)
บทที่ 4 ผลการวิเคราะห์ข้อมูล การดำเนินการศึกษาครั้งนี้ เป็นการศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนในการผลิตแยมส้มโอเพื่อ จำหน่าย เป็นการศึกษาและเก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบบันทึกต้นทุนและแบบสอบถามผู้ศึกษา นำเสนอผลวิเคราะห์ตามลำดับ ดังนี้ 4.1 ข้อมูลต้นทุนและผลตอบแทนในการผลิตแยมส้มโอ 4.2 ข้อมูลสภาพทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม 4.3 ข้อมูลปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมการบริโภคแยมส้มโอ 4.4 ข้อมูลเกี่ยวกับการผลิตแยมส้มโอ 4.1 ข้อมูลต้นทุนและผลตอบแทนในการผลิตแยมส้มโอ 4.1.1 ข้อมูลต้นทุนและผลตอบแทนในการผลิตแยมส้มโอ การศึกษาครั้งนี้เป็นการศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนในการผลิตแยมส้มโอเพื่อ จำหน่ายโดยต้นทุนในการผลิตแยมส้มโอแบ่งตามส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ ประกอบด้วย ค่าวัตถุดิบ ค่าแรงงาน และค่าใช้จ่ายในการผลิต ดังตารางที่ 4.1.1 - 4.1.8 ตารางที่ 4.1.1 แสดงการแบ่งประเภทต้นทุนที่ทำการศึกษา ค่าวัตถุดิบ ค่าแรงงาน ค่าใช้จ่ายในการผลิต 1. ส้มโอ 1. ค่าแรงงานตนเอง 1. ค่าบรรจุภัณฑ์ 2. น้ำตาลทราย 2. ค่าน้ำประปา 3. น้ำเปล่า 3. ค่าไฟฟ้า 4. เจลาติน 4. ค่ารถและค่าเดินทาง 5. ค่าเสื่อมราคาอุปกรณ์
16 ตารางที่ 4.1.2 แสดงต้นทุนค่าวัตถุดิบในการผลิตแยมส้มโอ (จำนวนการผลิตแยมส้มโอ 25 กระปุก) ผลิตภัณฑ์ วัตถุดิบ จำนวนเงิน (บาท) ราคา (บาท) แยมส้มโอ 1. ส้มโอ 10.00 ลูก 100.00 บาท 2. น้ำตาลทราย 2.50 กิโลกรัม 88.00 บาท 3. น้ำเปล่า 5.00 ลิตร 18.00 บาท 4. เจลาติน 13.00 ช้อนโต๊ะ 70.00 บาท 5. เกลือ 5.00 ช้อนโต๊ะ 5.00 บาท รวม 281.00 บาท ต้นทุนเฉลี่ยต่อหน่วย 11.24 บาท จากตารางที่ 4.1.2 แสดงต้นทุนค่าวัตถุดิบในการผลิตแยมส้มโอ (สำหรับแยมส้มโอ 25 กระปุก) พบว่าอันดับแรกคือ น้ำเปล่า จำนวน 5 ลิตร ในราคา 18.00 บาท รองลงมาคือ ส้มโอ จำนวน 10 ลูก ในราคา 100.00 บาท น้ำตาลทราย จำนวน 2.5 กิโลกรัม ในราคา 88.00 บาท เกลือ 5 ช้อนโต๊ะ ในราคา 5 บาท และลำดับสุดท้ายคือ เจลาติน จำนวน 13 ช้อนโต๊ะ ในราคา 70 บาท จึงทำให้มีต้นทุนเฉลี่ย 11.24 บาทต่อกระปุก ตารางที่ 4.1.3 แสดงต้นทุนค่าแรงในการผลิตแยมส้มโอ (จำนวนการผลิตแยมส้มโอ 25 กระปุก) ที่ รายการ จำนวน (บาท/วัน) 1. ค่าแรงงานตนเอง 100.00 บาท ค่าแรงงานเฉลี่ยต่อกล่อง 4.00 บาท จากตารางที่ 4.1.3 พบว่าการวิเคราะห์ต้นทุนค่าแรงงานในการผลิตแยมส้มโอเฉลี่ยต่อ กระปุก 4 บาท คิดค่าแรงต่อการผลิต 5 ครั้ง เป็นเงิน 200 บาท
17 ตารางที่ 4.1.4 แสดงต้นทุนค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปาที่ใช้ในการผลิตแยมส้มโอ (จำนวนการผลิตแยมส้มโอ 25 กระปุก) รายการ ระยะเวลา จำนวน ราคาต่อหน่วย จำนวน (บาท) ค่าไฟฟ้า 1 เดือน 10 หน่วย 3.25 32.50 ค่าน้ำปะปา 1 เดือน 5 หน่วย 8.00 40.00 รวมต้นทุนค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปา 72.50 ค่าไฟฟ้าและค่าน้ำปะปาต้นทุนเฉลี่ยต่อกระปุก 0.73 จากตารางที่ 4.1.4 แสดงวิเคราะห์ข้อมูลค่าน้ำประปาและแก๊สหุงต้มที่ใช้ในการผลิตแยม ส้มโอพบว่า อันดับแรกคือ ค่าน้ำประปา จำนวน 3 หน่วย 24.00 บาท รองลงมาคือ ค่าไฟฟ้า จำนวน 2 หน่วย คิดเป็น 6.50 บาท จึงทำค่าน้ำประปาและค่าไฟฟ้ามีต้นทุนเฉลี่ย 1.22 บาท ต่อกระปุก ตารางที่ 4.1.5 แสดงต้นทุนค่ารถและค่าเดินทางที่ใช้ในการผลิตแยมส้มโอ (จำนวนการผลิตแยมส้มโอ 25 กระปุก) รายการ ระยะเวลา จำนวน ราคาต่อหน่วย จำนวน (บาท) ค่ารถและค่าเดินทาง 2 อาทิตย์ 2 ลิตร 37.00 74.00 ค่ารถและค่าเดินทางเฉลี่ยต่อกระปุก 2.00 จากตารางที่ 4.1.5 แสดงการวิเคราะห์ข้อมูลค่ารถและเดินทางในการผลิตแยมส้มโอ คือ ค่ารถและค่าเดินทาง 2 ลิตร คิดเป็น 74 บาท จึงทำให้ค่ารถและค่าเดินทางมีต้นทุนเฉลี่ย 2.00 บาทต่อกระปุก ตารางที่ 4.1.6 แสดงข้อมูลสินทรัพย์ และค่าเสื่อมอุปกรณ์ (จำนวนการผลิตแยมส้มโอ 25 กระปุก) รายการ อายุ (ปี) ราคา (บาท) ค่าเสื่อมราคา (บาท) อุปกรณ์ 1 350 32.50 ค่าเสื่อมราคาต่อกระปุก 1.16 จากตารางที่ 4.1.6 แสดงผลการวิเคราะห์ข้อมูลสินทรัพย์และค่าเสื่อมราคา-อุปกรณ์ราคา 350 บาท จึงทำให้ค่าเสื่อราคาอุปกรณ์มีต้นทุนเฉลี่ย 1.16 บาทต่อกระปุก
18 ตารางที่ 4.1.7 แสดงข้อมูลต้นทุนค่าใช้จ่ายในการผลิต ที่ รายการ ราคา (บาท) ร้อยละ 1. ค่าบรรจุภัณฑ์ 8.00 64.62 2. ค่าไฟฟ้าและค่าน้ำปะปา 1.22 9.58 3. ค่ารถและค่าเดินทาง 2.00 16.16 4. ค่าเสื่อมราคาอุปกรณ์ 1.16 9.37 ค่าใช้จ่ายในการผลิตรวม 12.38 100.00 จากตารางที่ 4.1.7 แสดงผลการวิเคราะห์ข้อมูลต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการผลิตแยมส้มโอ พบว่าอันดับแรกคือ ค่าบรรจุภัณฑ์ 8.00 บาท คิดเป็นร้อยละ 64.62 รองลงมาคือค่าไฟฟ้าและ ค่าน้ำปะปา 1.22 บาท คิดเป็นร้อยละ 9.85 ค่ารถและค่าเดินทาง 2.00 บาท คิดเป็นร้อยละ 16.16 บาท และค่าเสื่อมราคาอุปกรณ์ 1.16 บาท คิดเป็นร้อยละ 9.37 จึงทำให้มีต้นทุนในการ ผลิตเฉลี่ย 12.38 บาทต่อกระปุก ตารางที่ 4.1.8 แสดงข้อมูลในการผลิตแยมส้มโอ ที่ รายการ ต้นทุนเฉลี่ยต่อกระปุก ร้อยละ 1. ค่าวัตถุดิบ 11.24 40.70 2. ค่าใช้จ่ายในการผลิต 12.38 44.82 3. ค่าแรงงาน 4.00 14.48 ต้นทุนในการผลิตรวม 27.62 100.00 จากตารางที่ 4.1.8 แสดงการวิเคราะห์ข้อมูลในการผลิตแยมส้มโอพบว่า อันดับแรกคือ ค่าแรงงาน 4.00 บาท คิดเป็นร้อยละ 14.48 รองลงมาคือ ค่าใช้จ่ายในการผลิต 12.38 คิดเป็น ร้อยละ 44.82 และค่าวัตถุดิบ 11.24 บาท คิดเป็นร้อยละ 40.70 จึงทำให้ต้นทุนในการผลิต เฉลี่ย 27.62 บาทต่อกระปุก
19 4.1.9 ข้อมูลเกี่ยวกับผลตอบแทนในการผลิตแยมส้มโอ การศึกษาผลตอบแทนจากการผลิตแยมส้มโอ ผู้ศึกษาได้ทำการศึกษาจากราคา ขายกำไรขั้นต้น อัตรากำไรต่อทุนและกำไรต่อยอดขาย ดังแสดงในตารางที่ 4.1.9 – 4.1.11 ตารางที่ 4.1.9 แสดงต้นทุนของราคาขายต่อขวด ของผลิตภัณฑ์แยมส้มโอ ชื่อผลิตภัณฑ์ ราคาขายต่อกระปุก แยมส้มโอ 30.00 จากตารางที่ 4.1.9 แสดงต้นทุนของราคาขายต่อกล่อง พบว่าแยมส้มโอ มีราคาขาย 30.00 บาทต่อกระปุก ตารางที่ 4.1.10 แสดงกำไรขั้นต้นจากการผลิตแยมส้มโอต่อกระปุก รายการ จำนวน (บาท) รายการจากการขายแยมส้มโอ 30.00 หัก ต้นทุนขาย ค่าวัตถุดิบ 11.24 ค่าใช้จ่ายในการผลิต 12.38 ค่าแรงงาน 4.00 27.62 กำไรขั้นต้น 2.38 จากตารางที่ 4.1.10 แสดงผลวิเคราะห์กำไรขั้นต้น พบว่ามีรายได้จากการผลิตแยมส้มโอ 35.00 บาทต่อกระปุก มีต้นทุนขาย อันดับแรกคือ ค่าแรงงาน 4.00 บาท รองลงมาคือ ค่าใช้จ่ายในการผลิต 12.38 บาท และค่าวัตถุดิบ 11.24 บาท จึงทำให้มีกำไรขั้นต้น 2.38 บาท ต่อกระปุก
20 ตารางที่ 4.1.11 แสดงการคำนวณหาอัตราผลตอบแทนจากการผลิตแยมส้มโอ อัตราส่วน สูตรการคำนวณ แทนค่า ผลการคำนวณ อัตรากำไรต่อทุน กำไรขั้นต้น 2.38 x 100 8.26% ต้นทุน 27.62 อัตรากำไรต่อยอดขาย กำไรขั้นต้น 2.38 x 100 7.93% ราคาขาย 30.00 จากตารางที่ 4.1.11 แสดงการวิเคราะห์อัตราผลตอบแทนจากการผลิตแยมส้มโอ เฉลี่ยต่อกระปุก พบว่ามีอัตรากำไรต่อทุน 8.62% และมีอัตรากำไรต่อยอดขาย 7.93% ตามลำดับ 4.2 ข้อมูลสภาพทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม การศึกษาครั้งนี้ ผู้ศึกษาได้เก็บรวบรวมข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างที่สนใจแยมส้มโอได้กำหนด จากกลุ่มตัวอย่างโดยเลือกจากนักเรียน นักศึกษา วิทยาลัยเทคนิคพิจิตรที่สนใจแยมส้มโอจำนวน 25 คน ซึ่งผู้ศึกษาได้นำมาวิเคราะห์ข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถามเกี่ยวกับ เพศ อายุ และ อาชีพ ดังแสดงในตารางที่ 4.2.1 – 4.2.4 ตารางที่ 4.2.1 แสดงจำนวนและค่าร้อยละของสถานภาพทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม รายการ จำนวน ร้อยละ ประถมศึกษา 1 4.00 มัธยมศึกษา 11 44.00 ปวช. 12 48.00 ปวส. 1 4.00 อื่น ๆ - - รวม 25 100.00 จากตารางที่ 4.2.1 พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด อันดับแรกคือ ในระดับชั้น ปวช. จำนวน 12 คน คิดเป็นร้อยละ 48.00 รองลงมาคือ มัธยมศึกษา จำนวน 11 คน คิดเป็นร้อยละ 44.00 ปวส. จำนวน 1 คน คิดเป็นร้อยละ 4.00 และประถมศึกษา จำนวน 1 คน คิดเป็นร้อยละ 4.00 ตามลำดับ
21 ตารางที่ 4.2.2 แสดงจำนวนและค่าร้อยละของเพศทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม รายการ จำนวน ร้อยละ ชาย 7 28.00 หญิง 18 72.00 รวม 25 100.00 จากตารางที่ 4.2.2 พบว่าตอบแบบสอบถามอันดับแรกคือ เพศหญิง จำนวน 18 คน คิดเป็นร้อยละ 72.00 รองลงมาคือ เพศชาย 7 คน คิดเป็นร้อยละ 28.00 ตามลำดับ ตารางที่ 4.2.3 แสดงจำนวนและค่าร้อยละของอายุและผู้ตอบแบบสอบถาม รายการ จำนวน ร้อยละ ต่ำกว่า 15 ปี - - 15-20 ปี 24 96.00 20-30 ปี 1 4.00 30 ปีขึ้นไป - - รวม 25 100.00 จากตารางที่ 4.2.3 พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามอันดับแรกคือ อายุ 15-20 ปี จำนวน 24 คน คิดเป็นร้อยละ 96.00 รองลงมาคืออายุ 20-30 ปี จำนวน 1 คน คิดเป็นร้อยละ 4.00 ตามลำดับ ตารางที่ 4.2.4 แสดงจำนวนและค่าร้อยละของอาชีพผู้ตอบแบบสอบถาม รายการ จำนวน ร้อยละ นักเรียน/นักศึกษา 25 100.00 ครูและบุคลากร - - อื่นๆ - - รวม 25 100.00 จากตารางที่ 4.2.4 พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมดอันดับแรกคือ นักเรียน/นักศึกษา จำนวน 25 คน คิดเป็นร้อยละ 100.00 ตามลำดับ
22 4.3 ข้อมูลปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมการบริโภคแยมส้มโอ ผลการวิเคราะห์ระดับความคิดเห็นของผู้บริโภคแยมส้มโอ ที่เกี่ยวกับปัจจัยที่มีผลต่อ พฤติกรรมการบริโภคแยมส้มโอ ดังแสดงในตารางที่ 4.3 ตารางที่ 4.3 แสดงว่าค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตราฐานความคิดเห็นบริโภคเกี่ยวกับ ปัจจัยที่มีผลต่อการบริโภคแยมส้มโอ ผลวิเคราะห์ ระดับ รายการ ̅ S.D ความคิดเห็น ปัจจัยด้านการผลิตภัณฑ์ 4.80 0.52 มากที่สุด 1. รสชาติของแยมส้มโอ 4.68 0.56 มากที่สุด 2. คุณภาพของแยมส้มโอ 4.88 0.44 มากที่สุด 3. ความสะอาดของแยมส้มโอ 4.84 0.58 มากที่สุด 4. ขนาดและรูปแบบของแยมส้มโอ 4.80 0.50 มากที่สุด ปัจจัยด้านราคา 4.76 0.52 มากที่สุด 1. ราคาเหมาะสมกับคุณภาพและปริมาณ 4.76 0.52 มากที่สุด ปัจจัยด้านบุคคลและส่งเสริมการขาย 4.90 0.28 มากที่สุด 1. การโฆษณา ประชาสัมพันธ์ 4.84 0.37 มากที่สุด 2. ความน่าเชื่อถือในการชำระเงิน 4.92 0.28 มากที่สุด 3. อัธยาศัยและการให้บริการของผู้ขาย 4.96 0.20 มากที่สุด รวม 6.42 0.44 มากที่สุด จากตารางที่ 4.3 ผู้ตอบแบบสอบถามมีความคิดเห็นว่าปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมการผลิต แยมส้มโอด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ปัจจัยด้านบุคคลและการส่งเสริมการขาย (̅=4.90, S.D.=0.28) เป็นปัจจัยด้านการผลิตภัณฑ์ (̅=4.80, S.D.=0.52) และเป็นปัจจัยด้าน ราคา (̅=4.76, S.D.=0.52) ปัจจัยด้านการผลิตภัณฑ์ ค่าเฉลี่ยสูงสุดอันดับแรกคือ คุณภาพแยมส้มโอ (̅=4.88, S.D.=0.44) รองลงมาคือ ความสะอาดของแยมส้มโอ (̅=4.84, S.D.=0.58) ขนาดและรูปแบบ ของแยมส้มโอ (̅=4.80, S.D.=0.50) และรสชาติของแยมส้มโอ (̅=4.80, S.D.=0.56) ตามลำดับ
23 ปัจจัยด้านบุคคลและส่งเสริมการขาย ค่าเฉลี่ยสูงสุดอันดับแรกคือ อัธยาศัยและ การให้บริการของผู้ขายย (̅==4.96,S.D.=0.20) รองลงมาคือ ความน่าเชื่อถือในการชำระเงิน (̅==4.92,S.D.=0.28) และการโฆษณาประชาสัมพันธ์ (̅==4.84,S.D.=0.37) ตามลำดับ ปัจจัยด้านราคา ค่าเฉลี่ยสูงสุดอันดับแรกคือ ราคาที่เหมาะสมกับคุณภาพและปริมาณ (̅==4.76,S.D.=0.52) ตามลำดับ 4.4 ข้อมูลเกี่ยวกับการผลิตแยมส้มโอ ตารางที่ 4.4 ข้อมูลเกี่ยวกับการผลิตแยมส้มโอ รายการ ข้อมูล วิธีการจำหน่าย ขายปลีก ปริมาณการผลิตต่อเดือน 25 จำนวนคนผลิต 2 จากตาราง 4.4 แสดงข้อมูลเกี่ยวกับการผลิตแยมส้มโอ พบว่า วิธีการจำหน่ายแยมส้มโอ คือ วิธีการขายปลีก ปริมาณการผลิตแยมส้มโอต่อเดือน 25 กระปุก คนผลิตแยมส้มโอจำนวน 2 คน
บทที่ 5 สรุป อภิปรายและข้อเสนอแนะ การดำเนินการศึกษาครั้งนี้ เป็นการศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนในการผลิตแยมส้มโอ เพื่อจำหน่ายมีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1. เพื่อศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนในการผลิตแยมส้มโอ 2. เพื่อศึกษาค่าใช้จ่ายที่ประหยัดได้จากการผลิตแยมส้มโอ 3. เพื่อศึกษาความพึงพอใจของผู้บริโภคที่มีต่อการบริโภคแยมส้มโอ กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ นักเรียน นักศึกษา แผนกวิชาการบัญชี วิทยาลัยเทคนิคพิจิตร จำนวน 25 คนได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่แบบสอบถามความพึงพอใจที่มมีผลต่อการบริโภคแยม ส้มโอและบันทึกต้นทุนจากการผลิตแยมส้มโอ ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ผู้ศึกษาได้ดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยตนเอง โดยนำ แบบสอบถามที่สร้างเสร็จแล้วไปทำการเก็บข้อมูลด้วยตนเอง จากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 25 คน รวบรวมแบบสอบถามที่ได้มาจากการวิเคราะห์ข้อมูล โดยใช้สถิติพื้นฐานแจกแจงความถี่และค่าร้อยละ และใช้ผลตอบแทนโดยใช้อัตราส่วนทางการเงิน 5.1 สรุปผลการศึกษา จากผลวิเคราะห์ข้อมูล สรุปผลการศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนในการผลิตแยมส้มโอเพื่อ จำหน่าย ดังนี้ 5.1.1 ต้นทุนในการผลิตแยมส้มโอเฉลี่ยต่อกล่อง จากผลการศึกษา พบว่าในการผลิตแยมส้มโอ มีต้นทุนเฉลี่ย 30.00 บาทต่อกระปุก ประกอบด้วย ค่าวัตถุดิบ 11.24 บาทต่อกระปุก ค่าใช้จ่ายในการผลิต 12.38 บาทต่อกระปุก และค่าแรงงาน 4.00 บาทต่อกระปุก
25 5.1.2 อาชีพและข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบสอบถาม จากผลของการศึกษาพบว่าผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด อันดับแรกคือ ระดับชั้น ปวช. จำนวน 12 คน คิดเป็นร้อยละ 48.00 รองลงมาคือ ระดับชั้น มัธยมศึกษา จำนวน 11 คน คิดเป็นร้อยละ 44.00 ระดับชั้น ปวส. จำนวน 1 คน คิดเป็นร้อยละ 4.00 และ อื่น ๆ จำนวน 1 คน คิดเป็นร้อยละ 4.00 ตามลำดับ เพศหญิง จำนวน 18 คน คิดเป็นร้อยละ 72.00 รองลงมาคือ เพศชาย จำนวน 7 คน คิดเป็นร้อยละ 28.00 ตามลำดับ อายุ 15-20 ปี มีจำนวน 24 คน คิดเป็นร้อยละ 96.00 และลำดับสุดท้ายคือ อายุ 20-30 ปี จำนวน 1 คน ตามลำดับ ส่วนมากเป็นนักเรียน/นักศึกษา จำนวน 25 คน คิดเป็นร้อยละ 100.00 ตามลำดับ 5.1.3 ปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมการบริโภคแยมส้มโอ จากการศึกษาพบว่า ผู้ตอบบแบบสอบถามมีความคิดเห็นว่าปัจจัยที่มีผลต่อ พฤติกรรมบริโภคแยมส้มโอที่มีค่าเฉลี่ย 3 อันดับ ได้แก่ 1. ปัจจัยด้านผลิตภัณฑ์ 2. ปัจจัยด้าน ราคา 3. ปัจจัยด้านบุคคลและส่งเสริมการขาย 5.2 อภิปรายผลการศึกษา จาการสรุปผลการศึกษา มีประเด็นสำคัญที่ควรนำมาอภิปรายผล ดังนี้ 5.2.1 ต้นทุนการผลิตแย้มส้มโอประกอบไปด้วย 3 ส่วนที่สำคัญ ได้แก่ ค่าวัตถุดิบร้อย ละ 40.70% ค่าใช้ในการผลิตร้อยละ 44.82% และค่าแรงงานร้อยละ 14.48% จะเห็นได้ว่าใน การผลิตแยมส้มโอมีสัดส่วนของค่าใช้จ่ายในการผลิตมากที่สุด ทั้งนี้เนื่องจากการผลิตแยมส้มโอใช้ วัตถุดิบหลัก คือ ส้มโอ 5.2.2 การศึกษาความคิดเห็นและพฤติกรรมการบริโภคแยมส้มโอทุกปัจจัยมีผลต่อการ ตัดสินใจของผู้บริโภคในการเลือกซื้อแยมส้มโอทั้งปัจจัยด้านผลิตภัณฑ์ ปัจจัยด้านราคา ปัจจัยด้าน บุคคลและส่งเสริมการขาย ดังนั้นในการตัดสินใจประกอบกิจการร้านแยมส้มโอให้ความสำคัญกับ ปัจจัยซึ่งมีผลต่อกำไรและคู่แข่งขันได้
26 5.3 ข้อเสนอแนะ 5.3.1 ข้อเสนอแนะในการศึกษาครั้งนี้ ในการผลิตตะโก้มีต้นทุนในการทำที่ต่ำากว่าตามท้องตลาด จึงควรพิจารณาหา แนวทางในการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำเพื่อให้ได้แยมส้มโอที่มีคุณภาพและต้นทุนที่ต่ำลง 5.3.2 ข้อเสนอแนะในการศึกษาครั้งต่อไป ควรศึกษาแนวทางการพัฒนาคุณภาพและรูปแบบของแยมส้มโอ เพื่อเพิ่มปริมาณ การผลิตครั้งต่อไปและเพิ่มยอดขายให้สูงขึ้น เช่น การทำให้มีหลายรสชาติและสีสันที่แตกต่างกัน ออกไปจากเดิม แล้วนำมาเปรียบเทียบด้านต้นทุนของผลิตภัณฑ์นั้น
บรรณานุกรม กุลวดี ตรองพาณิชย์ (2533) “แยมจากผลมะม่วงหินมพานต์” (ออนไลน์) เข้าถึงได้จาก : https://shorturl.asia/Iyprb ( สืบค้นเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2565 ) กัลยาณี ชามนา (2546) “แยมแครอท” (ออนไลน์) เข้าถึงได้จาก : https://shorturl.asia/yCQcI ( สืบค้นเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2565 ) ปิยะรัตน์ ธูปพงษ์ และ สุธาพร นราธิปภัทร (2553) “การทดลองนี้เป็นการศึกษาเพื่อหาปริมาณ เพคตินจากเนื้อฝรั่ง” (ออนไลน์) สืบค้นได้จาก : https://e-research.siam.edu/kb/organic-fruit-star-jam/ ( สืบค้นเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2565 ) หทัยวรรณ์ ศิริสุขชัยถาวร และคณะ (2552) “ศึกษากรรมวีการผลิตและพัฒนาสูตรแยม ผลไม้ มะม่วง” (ออนไลน์) เข้าถึงได้จาก : https://shorturl.asia/EWinH (สืบค้นเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2565 ธงชัย โสดามรรคและอัมพร จันทร์ดวง (2555) “การศึกษาการเปรียบเทียบเกี่ยวกับแยม ข้าวโพด หวาน” (ออนไลน์) สืบค้นได้จาก : https://shorturl.asia/ofqgA ( สืบค้นเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2565 )
ภาคผนวก
ภาคผนวก ก เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา แบบสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับปัจจัยที่มีผลต่อผู้บริโภคแยมส้มโอ
30 แบบสอบถามฉบับนี้จัดทำขึ้นโดย นักศึกษากลุ่มโครงงานการศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนในการผลิต แยมส้มโอเพื่อจำหน่าย มีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการทราบข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่ผลิตขึ้น ทำสแกน QR - CODE ทางด้านบนเพื่อเข้าสู่เว็บไซต์ตอบแบบสอบถาม หรือเข้าไปที่เว็บไซต์ https://shorturl.asia/6Ob0I
31 ภาพที่ 1 ภาพการส่งเว็ปไซต์ให้นักศึกษาตอบแบบสอบถามออนไลน์ ภาพที่ 2 ภาพการส่งเว็ปไซต์ให้นักศึกษาตอบแบบสอบถามออนไลน์
ตอนที่ 1 ที่ ข้อข้มูลเมูกี่ยว กี่ กับกัพื้นฐานของ พื้ ผู้ตอบผู้ แบบสอบถาม ให้ผู้ห้ตผู้อบแบบสอบถามกรอกข้อข้มูลมูให้ ครบถ้วถ้น 1 ทำ เครื่องหมายเ รื่ พียงหพีนึ่ง นึ่ ช่องช่ ชาย หญิงญิ 2 ทำ เครื่องหมายเ รื่ พียงหพีนึ่ง นึ่ ช่องช่ ต่ำ กว่าว่ 15 ปี 15 - 20 ปี 20 - 30 ปี 30 ปีขึ้น ขึ้ ไป แบบทดสอบถามความคิดเคิห็นเกี่ยว กี่ กับ กั ปัจจัยที่ มีผล มี ต่อการบต่ริโภคแยม ริ ส้มโอ ส้ คำ ชี้แ ชี้ จ้งจ้ : โปรดให้รห้ายละเอียอีดเกี่ย กี่ วข้อข้งกับกัตัวตัท่าท่นโดยเลือลืกข้อข้ความตามความเป็นจริงริ ตอนที่ 1 ข้อข้มูลมูเกี่ย กี่ วกับกัพื้น พื้ ฐานของผู้ตผู้อบแบบสอบถาม ตอนที่ 2 ระดับดัคะแนนความพึงพึพอใจที่มี ที่ ต่มีอต่การบริโริภคแยมส้มส้ โอ ตอนที่ 3 ข้อข้เสนอแนะอื่น อื่ ๆ *จำ เป็น เพศ * ทำ เครื่อ รื่ งหมายเพียพีงช่อช่งเดียดีวเท่าท่นั้นนั้ อายุ * ทำ เครื่อ รื่ งหมายเพียพีงช่อช่งเดียดีวเท่าท่นั้นนั้
3 ทำ เครื่องหมายเ รื่ พียงหพีนึ่ง นึ่ ช่องช่ อื่นอื่ๆ: ประถมศึกศึษา มัธมัยมศึกศึษา ประกาศนียนีบัตบัรวิชวิาชีพชี (ปวช.) ประกาศนียนีบัตบัรวิชวิาชีพชี (ปวส.) 4 ทำ เครื่องหมายเ รื่ พียงหพีนึ่ง นึ่ ช่องช่ อื่นอื่ๆ: นักเรียรีน - นักศึกศึษา ครูแรูละบุคบุลากร ตอนที่ 2 ที่ ระดับคะแนนความดัพึงพอใจ พึที่มี ที่ ต่มีอการบต่ริโภคแยม ริ ส้มโอ ส้ เกณฑ์รฑ์ะดับดัการ ประเมินมิ 5 = พึงพึพอใจมาก ที่สุที่ ดสุ 4 = พึงพึพอใจมาก 3 = พึงพึพอใจปาน กลาง 2 = พึงพึพอใจน้อน้ย 1 = พึงพึพอใจน้อน้ย ที่สุที่ ดสุ ระดับการดั ศึกษาศึ * ทำ เครื่อ รื่ งหมายเพียพีงช่อช่งเดียดีวเท่าท่นั้นนั้ อาชีพชี * ทำ เครื่อ รื่ งหมายเพียพีงช่อช่งเดียดีวเท่าท่นั้นนั้
5 ทำ เครื่อรื่งหมายแถวละหนึ่งนึ่ ช่อช่งเท่าท่นั้นนั้ 6 ทำ เครื่อรื่งหมายแถวละหนึ่งนึ่ ช่อช่งเท่าท่นั้นนั้ ปัยจัยด้านการผด้ลิตลิ * ทำ เครื่อ รื่ งหมายเพียพีงช่อช่งเดียดีวเท่าท่นั้นนั้ 5 4 3 2 1 รสชาติ ของ แยมส้มส้ โอ คุณคุภาพ ของ แยมส้มส้ โอ ตวาม สะอาด ของ แยมส้มส้ โอ ขนาด ของ แยมส้มส้ โอ รสชาติ ของ แยมส้มส้ โอ คุณคุภาพ ของ แยมส้มส้ โอ ตวาม สะอาด ของ แยมส้มส้ โอ ขนาด ของ แยมส้มส้ โอ ปัจจัยด้านราคาด้ * ทำ เครื่อ รื่ งหมายเพียพีงช่อช่งเดียดีวเท่าท่นั้นนั้ 5 4 3 2 1 ราคา เหมาะ สมกับกั คุณคุภาพ และ ปริมริาณ ราคา เหมาะ สมกับกั คุณคุภาพ และ ปริมริาณ
7 ทำ เครื่อรื่งหมายแถวละหนึ่งนึ่ ช่อช่งเท่าท่นั้นนั้ ตอนที่ 3 ที่ ข้อเสนอแนะ ข้อื่นๆ อื่ 8 เนื้อหานื้นี้มินี้ ไมิด้ถูด้กสถูร้างร้ขึ้นหขึ้รือรืรับรองโดย Google ปัจจัยด้านด้บุคคและบุส่งเสส่ริมการขายริ * ทำ เครื่อ รื่ งหมายเพียพีงช่อช่งเดียดีวเท่าท่นั้นนั้ 5 4 3 2 1 การโฆษณา ประชาสัมสัพันธ์ ความน่าเชื่อ ชื่ ถือถื ในการ ชำ ระเงินงิ อัธอัยาศัยศัและ การให้บห้ริกริาร ผู้ขผู้าย การโฆษณา ประชาสัมสัพันธ์ ความน่าเชื่อ ชื่ ถือถื ในการ ชำ ระเงินงิ อัธอัยาศัยศัและ การให้บห้ริกริาร ผู้ขผู้าย ข้อเสนอแนะ ข้ ฟอร์ม ร์
ประทบัเวลา เพศ อายุระดบัการศกึษา อาชพีขอ้เสนอแนะ 22/11/2022, 12:33:33 หญงิ 15 - 20 ปี ประถมศกึษา นักเรยีน - นักศกึษา 5 5 5 5 5 5 5 5 - 22/11/2022, 14:49:39 หญงิ 15 - 20 ปี ประกาศนยีบตัรวชิาชพี (ปวส.) นักเรยีน - นักศกึษา 5 5 5 5 5 5 5 5 - 23/11/2022, 13:36:48 หญงิ 15 - 20 ปี ประกาศนยีบตัรวชิาชพี (ปวช.) นักเรยีน - นักศกึษา 5 5 5 5 5 5 5 5 23/11/2022, 13:37:35 ชาย 20 - 30 ปี ประกาศนยีบตัรวชิาชพี (ปวช.) นักเรยีน - นักศกึษา 5 5 5 5 5 5 5 5 อรอ่ยมากครับ 23/11/2022, 13:38:20 หญงิ 15 - 20 ปี ประกาศนยีบตัรวชิาชพี (ปวช.) นักเรยีน - นักศกึษา 4 5 5 5 5 5 5 5 23/11/2022, 13:38:28 ชาย 15 - 20 ปี ประกาศนยีบตัรวชิาชพี (ปวช.) นักเรยีน - นักศกึษา 5 5 5 5 5 5 5 5 23/11/2022, 13:41:59 หญงิ 15 - 20 ปี ประกาศนยีบตัรวชิาชพี (ปวช.) นักเรยีน - นักศกึษา 5 5 5 5 5 5 5 5 23/11/2022, 17:23:57 หญงิ 15 - 20 ปี ประกาศนยีบตัรวชิาชพี (ปวช.) นักเรยีน - นักศกึษา 5 5 5 5 5 5 5 5 25/11/2022, 8:21:54 หญงิ 15 - 20 ปี ประกาศนยีบตัรวชิาชพี (ปวช.) นักเรยีน - นักศกึษา 4 4 5 5 5 5 5 5 25/11/2022, 8:23:28 หญงิ 15 - 20 ปี ประกาศนยีบตัรวชิาชพี (ปวช.) นักเรยีน - นักศกึษา 5 5 5 5 5 5 5 5 25/11/2022, 8:23:51 หญงิ 15 - 20 ปีมธัยมศกึษา นักเรยีน - นักศกึษา 5 5 5 5 5 5 5 5 - 25/11/2022, 8:24:51 ชาย 15 - 20 ปีมธัยมศกึษา นักเรยีน - นักศกึษา 5 5 5 5 5 5 5 5 25/11/2022, 8:24:56 หญงิ 15 - 20 ปีมธัยมศกึษา นักเรยีน - นักศกึษา 5 5 5 5 5 5 5 5 25/11/2022, 8:25:53 หญงิ 15 - 20 ปีมธัยมศกึษา นักเรยีน - นักศกึษา 4 5 5 4 4 4 4 5 25/11/2022, 8:26:21 หญงิ 15 - 20 ปีมธัยมศกึษา นักเรยีน - นักศกึษา 4 5 5 4 4 4 5 5 25/11/2022, 8:27:39 หญงิ 15 - 20 ปี ประกาศนยีบตัรวชิาชพี (ปวช.) นักเรยีน - นักศกึษา 5 5 5 5 5 5 5 5 25/11/2022, 8:28:32 หญงิ 15 - 20 ปี ประกาศนยีบตัรวชิาชพี (ปวช.) นักเรยีน - นักศกึษา 5 5 5 5 5 5 5 5 อรอ่ยคา่ 25/11/2022, 8:30:47 หญงิ 15 - 20 ปีมธัยมศกึษา นักเรยีน - นักศกึษา 5 5 5 5 5 5 5 5 25/11/2022, 8:30:52 หญงิ 15 - 20 ปี ประกาศนยีบตัรวชิาชพี (ปวช.) นักเรยีน - นักศกึษา 4 5 5 5 5 5 5 5 25/11/2022, 8:34:34 ชาย 15 - 20 ปีมธัยมศกึษา นักเรยีน - นักศกึษา 5 5 5 5 5 5 5 5 25/11/2022, 8:34:59 ชาย 15 - 20 ปี ประกาศนยีบตัรวชิาชพี (ปวช.) นักเรยีน - นักศกึษา 4 5 3 5 4 4 5 5 25/11/2022, 8:37:17 หญงิ 15 - 20 ปีมธัยมศกึษา นักเรยีน - นักศกึษา 5 5 5 5 5 5 5 5 - 25/11/2022, 8:37:28 ชาย 15 - 20 ปีมธัยมศกึษา นักเรยีน - นักศกึษา 3 3 3 3 3 4 4 4 25/11/2022, 8:37:57 หญงิ 15 - 20 ปีมธัยมศกึษา นักเรยีน - นักศกึษา 5 5 4 4 4 5 5 5 25/11/2022, 8:39:44 ชาย 15 - 20 ปีมธัยมศกึษา นักเรยีน - นักศกึษา 5 5 5 5 5 5 5 5 ปัยจัยดา้นการผลติ [รสชาตขิปัยจัยดา้นการผลติ [คณุภาพปัยจัยดา้นการผลติ [ตวามสะปัยจัยดา้นการผลติ [ขนาดขอปัจจัยดา้นราคา [ราคาเหมาะ ปัจจัยดา้นบคุคและสง่เสรมิกปัจจัยดา้นบคุคและสง่เสรมิกปัจจัยดา้นบคุคและสง่เสรมิก
ภาคผนวก ข แบบเสนอหัวข้อและเค้าโครง โครงงานการศึกษาต้นทนและผลตอบแทนในการผลิตแยมส้มโอเพื่อจำหน่าย
38 แบบเสนอโครงงาน 1. ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย) การศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนในการผลิตแยมส้มโอเพื่อจำหน่าย ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ) Cost and Return Sutdy on Production Jam Pomelo for sale 2. ประเภทของโครงงาน สิ่งประดิษฐ์/นวัตกรรม ศึกษาทฤษฎีและหลักการ ศึกษาค้นคว้าทดลอง สำรวจรวบรวมข้อมูล 3. รายชื่อผู้จัดทำโครงงาน 3.1 นางสาวสุชาวดี เขียวสอาด รหัสนักศึกษา 63202011132 3.2 นางสาวสุภัคชญา สุขหนุน รหัสนักศึกษา 63202011135 4. ครูที่ปรึกษาโครงงาน นางสาวณัฐกมล เมืองทอง 5. ความสำคัญของโครงงาน/หลักการและเหตุผล แยม (Jam) เป็นการแปรรูปผลไม้กับน้ำตาลหรือสารให้ความหวาน จนกลายเป็นของเหลว ที่มีลักษณะข้นเหนียวคล้ายเจล (gel) คุณสมบัติความเป็นเจลจะเกิดขึ้นเมื่อกรด น้ำตาล และเพคติน (pectin) มาเจอกันในสัดส่วนที่เหมาะสม โดยกรด น้ำตาล และเพคตินเป็นสิ่งที่มีอยู่แล้วในธรรมชาติ ของผลไม้ แต่จะมีมากน้อย ขึ้นอยู่กับชนิดผลไม้ ดังนั้นหากเข้าใจหลักการนี้ เพียงมีผลไม้ที่ชอบและ น้ำตาล คุณก็สามารถครีเอทรสแยมตามชอบแยมจึงเป็นผลิตภัณฑ์แปรรูปที่ให้ประโยชน์แก่ผู้บริโภค โดยได้รับ ดังต่อไปนี้1.ช่วยควบคุมและรักษาน้ำหนักตัวที่เหมาะสม 2.ช่วยให้พลังงาน และความ
39 ทนทานขณะออกกำลังกาย 3.ช่วยชะลอการเสื่อมสภาพของร่างกายบำรุงสุขภาพเส้นผม ผิวหนัง และ เล็บมือ 4.ช่วยลดภาวะสูญเสียมวลกระดูก 5.ช่วยรักษาฟันและเหงือกให้แข็งแรง 6.ช่วยลดความเสี่ยง ต่อการเป็นโรคหลอดเลือดสมอง และโรคอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือด 7.ช่วยลดความเสี่ยง ของการเป็นโรคมะเร็ง 8.ช่วยบรรเทาอาการของมะเร็งในช่องปาก กระเพาะอาหาร ลำไส้ใหญ่ 8.ช่วย ลดความดันโลหิต 9.ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคนิ่วในไตและทางเดินปัสสาวะ 10.ช่วยให้อิ่มท้อง รับประทานอาหารน้อยลง และไม่อยากอาหาร 11.ช่วยลดคอเลสเตอรอลตัวร้าย 12.ช่วยให้แผลสมาน ได้ดี13.ช่วยสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง ซึ่งแยมส่วนใหญ่มักจะพบอยู่ขวดโหลแก้วที่ทำความสะอาดมา อย่างดี จัดว่าเป็นการถนอมอาหารในรูปแบบหนึ่งเพื่อให้สามารถเก็บได้นาน และด้วยรสชาติที่ เปรี้ยวหวาน หอมผลไม้และยังรับประทานได้ง่าย แยมยังสามารถนำไปประกอบอาหารได้หลากหลาย ไม่ว่าจะนำไปผสมกับอาหารคาว ของหวาน หรือทาบนขนมปังก็ได้ทั้งนั้น จึงกลายเป็นที่ชื่นชอบของ คนทุกเพศทุกวัยนอกจากนี้ข้อดีของแยมคือทําง่ายขั้นตอนไม่ยุ่งยากและสามารถดัดแปลงทําขายเพื่อ เป็นการสร้างรายเสริมได้อีกด้วย ในปัจจุบัน ตามท้องตลาดมีแยมวางจำหน่ายอยู่หลากหลายยี่ห้อให้ผู้บริโภคเลือกซื้อ ซึ่งแต่ ละยี่ห้อก็มีจุดเด่นต่างกันออกไป เช่นแยมสตอเบอรรี่ แยมกีวี่ แยมสับปะรด แยมมะม่วง จึงเกิดเป็น แนวคิดในการประยุกต์นำเอาส้มโอซึ่งเป็นผลไม้ในชุมชนมาแปรรูปเป็นแยมส้มโอ ซึ่งจะเห็นได้ว่า จังหวัดพิจิตรของเรามีส้มโอหลายหลายสายพันธุ์ เช่น ส้มโอทองดี ส้มโอขาวแตงกวา ส้มโอท่าข่อย และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ที่อำเภอโพธิ์ประทับช้าง จังหวัดพิจิตร สามารถหาซื้อได้ง่าย และราคาเป็นมิตร จึงทําให้เกิดแนวคิดที่จะศึกษาต้นทุนใน การแยมส้มโอในราคาที่เหมาะสมและมี คุณภาพ เพื่อสามารถให้ผู้คนรู้จักและสามารถเข้าถึงแยมและส้มโอได้ทุกวัย จากปัญหาดังกล่าวคณะผู้จัดทำมีความสนใจและมองเห็นช่องทางธุรกิจที่จะทำเรื่อง การศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนในการทำบราวนี่เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ดังนั้นใน การศึกษาครั้งนี้จึงมุ่งหวังที่จะศึกษาความเป็นไปได้ของโครงงานเป็นแนวทางในการวางกลยุทธ์ทาง การตลาดให้เหมาะสมความพึงพอใจและพฤติกรรมของผู้บริโภคในการศึกษาครั้งนี้จะให้ความสำคัญ กับปัจจัยเหล่านี้เป็นหลัก เพราะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจเลือกทานอีกด้วย 6. วัตถุประสงค์ของโครงงาน 6.1 เพื่อศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนจากการทำแยมส้มโอ 6.2 ทำให้ทราบถึงผลกำไรขาดทุนจากการทำแยมส้มโอ 6.3 เพื่อศึกษาความพึงพอใจของผู้บริโภคที่มีต่อการบริโภคแยมส้มโอ
40 7. ขอบเขตของโครงงาน 7.1 ด้านตัวแปร - 7.2 ด้านเนื้อหา การวิจัยครั้งนี้เป็นการศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนในการทำแยมส้มโอ ดังนี้ 7.2.1 ศึกษาต้นทุนการผลิตแยมส้มโอตั้งแต่ขั้นตอนการเตรียมการทำจนไปถึง ขั้นตอนการจัดจำหน่าย และวิเคราะห์โครงสร้างต้นทุนในการทำแยมส้มโอ 7.2.2 ศึกษาผลตอบแทนที่ได้รับจากการลงทุนทำแยมส้มโอ 7.3 ด้านเวลา ตุลาคม 2565 - กุมภาพันธ์ 2566 7.4 แบบร่าง (ถ้ามี) -
41 8. วิธีการดำเนินงาน กิจกรรม/ขั้นตอน ดำเนินงาน ระยะเวลาดำเนินงาน (สัปดาห์ที่) หมายเหตุ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 ขั้นเตรียมการ เสนอหัวข้อโครงงาน และจัดทำแบบเสนอ ขออนุมัติโครงงาน ศึกษาข้อมูลขั้นตอน การผลิต ขั้นดำเนินการ ทำการผลิตแยมส้มโอ เพื่อจำหน่าย ทำการจำหน่าย แยมส้มโอให้แก่กลุ่ม นักศึกษาที่สนใจ ขั้นสรุปและประเมินผล สรุปผลการ ดำเนินงาน จัดทำรายงานเพื่อ นำเสนอครูผู้สอนและ ครูที่ปรึกษาโครงงาน
42 9. รายการวัสดุและแหล่งที่มาของงบประมาณในการดำเนินโครงงาน 9.1 รายการวัสดุ ที่ รายการ จำนวน ราคาหน่วยละ จำนวนเงิน หมายเหตุ 1 วัตถุดิบในการทำแยมส้มโอ 2 ชุด 420 บาท 840 บาท 2 อุปกรณ์ในการทำแยมส้มโอ 1 ชุด 210 บาท 210 บาท 3 ค่าเอกสารรูปเล่ม 2 เล่ม 300 บาท 600 บาท รวมทั้งสิ้น 1,650 บาท 9.2 แหล่งที่มาของงบประมาณ ทุนส่วนตัวนักเรียน 10. ผลที่คาดว่าจะได้รับจากการทำโครงงาน 10.1 ทำให้ทราบต้นทุนในการผลิตแยมส้มโอ 10.2 ทำให้ทราบถึงผลกำไรขาดทุนการทำแยมส้มโอ 10.3 เพื่อให้ทราบความพึงพอใจของผู้บริโภคที่มีต่อการบริโภคแยมส้มโอ 11. การติดตามและประเมินผลโครงงาน เครื่องมือที่ใช้ในการติดตามประเมินผลโครงงาน ได้แก่ แบบสอบถาม