๔๒
การกำหนดเกณฑใ์ นการประเมินผล
หลังจากท่ีผู้สอนทำการเลือกเคร่ืองมือท่ีใช้ในการวัดและประเมินผลพฤติกรรมท่ีสะท้อนให้เห็นถึงควา มรู้
ทักษะและกระบวนการ และเจตคติ คุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม ของผู้เรียนแล้ว ครูผู้สอนจะต้องทำการกำหนด
เกณฑ์ในการประเมินให้สอดคล้องกับวัตถปุ ระสงค์ในการประเมิน คือ ประเมินเพื่อพัฒนาผู้เรยี น และประเมินเพ่ือ
สรุปหรอื ตัดสินผลการเรียน และที่สำคัญต้อง สอดคล้องกับลักษณะของข้อมูลที่ได้จากเคร่ืองมอื วดั และประเมนิ ผล
ด้วย ในท่นี ี้ขอนำเสนอ แนวทางการกำหนดเกณฑ์การประเมินใน ๒ ลักษณะดงั นี้
๑) เกณฑ์การประเมินเพ่ือการพัฒนาผู้เรียน เกณฑ์การประเมินเพ่ือการพัฒนาผู้เรียน เป็นเกณฑ์การ
ประเมนิ ทีส่ ามารถชี้ให้เห็นคณุ ลักษณะ คุณภาพหรือสภาพความสำเรจ็ ในการเรียนรขู้ องผู้เรียนไดอ้ ย่างละเอียดและ
ชดั เจน รวมทั้งช้ีให้เห็นจุดเด่นและจุดดอ้ ยของผู้เรียนและสามารถนำไปใช้เป็นข้อมลู พื้นฐานในการพัฒนาปรับปรุง
คุณภาพของผู้เรียนเป็นรายบุคคลได้ด้วย ซ่ึงเกณฑ์การประเมินในลักษณะน้ีเหมาะกับการประเมินการปฏิบัติงาน
การประเมินสภาพที่แท้จริง การประเมินโดยใช้แฟ้มสะสมงาน และมาตรประมาณค่า เปน็ ต้น โดยท่ัวไปแล้วเกณฑ์
การประเมนิ ท่นี ยิ ม คือ Rubric Assessment โดยมรี ายละเอียด ดังนี้
Rubric Assessment หมายถึง แนวทางการให้คะแนน ซ่ึงสามารถจะแยกแยะระดับความสำเร็จต่าง
ๆ ของความสำเร็จในการเรยี นรู้หรือการปฏิบัติงานของผู้เรยี นไดอ้ ย่างชัดเจน จากดีมากไปจนถึงต้องปรับปรุงแกไ้ ข
ซ่งึ โดยทัว่ ไปมเี กณฑ์การประเมิน ๒ ลกั ษณะดงั น้ี
๑. เกณฑ์การประเมินแบบแยกส่วน (Analytic Rubric) เป็นเกณฑ์การให้คะแนนโดยพิจารณาในแต่
ละส่วนของงาน โดยมีคำนิยามหรือคำอธิบายลักษณะของงานในส่วนน้ัน ๆ ในแต่ละระดับไว้อย่างชัดเจน
ซงึ่ คะแนนท่ีใหอ้ าจนำมารวมกันหรอื ไม่กไ็ ด้
๒. เกณฑ์การประเมินแบบภาพรวม (Holistic Rubric) เป็นเกณฑ์การให้คะแนนโดยพิจารณาใน
ภาพรวมของงาน โดยมคี ำนยิ ามหรือคำอธิบายลกั ษณะของงานในแต่ละระดบั ไว้อย่างชดั เจน แต่เกณฑ์การประเมิน
แบบน้ีจะให้สารสนเทศแก่ผ้เู รยี นเป็นรายบุคคลน้อยมาก ซึ่งในแต่ละเกณฑก์ ารประเมิน ที่ครูและนกั เรียนร่วมกัน
กำหนดนนั้ มอี งค์ประกอบท่ีสำคญั ดงั น้ี
๑) เกณฑ์ (Criteria) เป็นระดับคะแนนในองค์ประกอบของงานท่ีประเมิน ซึ่งจะสะท้อนให้เห็น
ผลผลิตที่เกิดจากการเรียนรู้ ซ่ึงควรมีอย่างน้อย ๑ ระดับคะแนนท่ีช้ีถึงมาตรฐานท่ีคาดหวัง โดยระดับของเกณฑ์
การประเมินน้ัน อาจกำหนดเป็น ๔ ระดับ หรืออาจกำหนดคะแนนเป็น ๕ ระดับ หรือ ๓ ระดับ ก็ได้ตามความ
เห็นชอบของคณะกรรมการการประเมินผลของสถานศึกษา
๒) ระดับการปฏิบัติ (Performance Level) เป็นคำที่อธิบายระดับคะแนนในลักษณะของ
ข้อความ เช่น “ดีเลิศ” “ดี” “พอใช้” “ปานกลาง” “ปรับปรงุ ” เป็นต้น โดยในแต่ละระดับคะแนนจะต้องสัมพันธ์
กัน
๓) คำอธิบายคุณภาพ (Quality Descriptor) เป็นข้อความท่ีระบุถึงความสำเร็จที่คาดหวังในแต่
ละระดับคะแนนหรอื ระดับการปฏิบัติ ซึ่งจะต้องมีความชัดเจน เที่ยงตรงและใช้ภาษาท่ีเข้าใจได้ท้ังผู้เรียนและผู้ให้
คะแนนได้เข้าใจตรงกัน โดยต้องสามารถอธิบายถึงความแตกต่าง ของแตล่ ะระดับไดด้ ว้ ย
๔๓
โดยการกำหนดเกณฑ์ในการประเมินนั้น ครูผู้สอนและผู้เรียนจะต้องร่วมดำเนินการตามขั้นตอน
ในการกำหนด ดังนี้
๑) พจิ ารณามาตรฐานการเรียนรู้และตวั ช้วี ดั ท่ีกำหนด
๒) พิจารณาเกณฑท์ จ่ี ะนำมาใชต้ ัดสินผลผลิตและผลการปฏิบตั ิของผเู้ รียนซงึ่
จะต้องสอดคลอ้ งกับมาตรฐานการเรียนรูแ้ ละตัวช้ีวัดรายปี/รายภาค
๓) สรา้ งกรอบระดับความสามารถ กำหนดระดบั ชนั้ ทีม่ คี วามสำคัญและระดบั
รองลงมาของเกณฑก์ ารประเมิน
๔) อธบิ ายระดบั ของความสามารถทแ่ี ตกตา่ งกันในแต่ละระดับ ทเ่ี หมาะสมกับแต่
ละเกณฑ์เลอื กคำหรือวลที ่บี อกถงึ ความแตกตา่ งระหวา่ งระดับความสามารถ
๕) ทดสอบเกณฑก์ ารประเมินกับผเู้ รยี น ว่าผ้เู รยี นสามารถเขา้ ใจไดห้ รือไม่
๖) บันทึกจุดแข็งและจุดอ่อนของเกณฑ์การประเมนิ จากการนำไปใชป้ ระเมนิ งาน
ของผู้เรียน ปรับปรุงเกณฑก์ ารประเมนิ
เกณฑ์การประเมินเพอ่ื ตัดสินผลการเรยี น
เกณฑ์การประเมินเพ่ือตัดสินผลการเรียนเป็นเกณฑ์การประเมินที่ชี้บอกว่าผู้เรียนมคี ุณลักษณะ คุณภาพ
หรือสภาพความสำเร็จในการเรียนรู้ ข้ันต่ำสุดที่ยอมรับได้หรือไม่ และข้ึนอยู่กับเกณฑ์ของหลักสูตรแกนกลาง
การศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ และสถานศกึ ษาเป็นผู้กำหนด ในการตดั สนิ ผลการเรยี นของกลุ่มสาระ
การเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยีน้ัน ผู้สอนต้องคำนึงถึงการพัฒนาผู้เรียนแต่ละคนเป็นหลัก และต้องเก็บ
ขอ้ มูลของผู้เรยี นทุกด้านอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่องในแต่ละภาคเรียน รวมทั้งสอนซ่อมเสริม ผู้เรียนให้พัฒนาจนเต็ม
ตามศกั ยภาพ
๔๔
ภาคผนวก
๔๕
อภิธานศพั ท์
สาระที่ ๑ การดำรงชวี ติ และครอบครวั
กระบวนการกล่มุ
กระบวนการในการทำงานกลุ่ม มีขั้นตอน ดังน้ี การเลือกหัวหน้ากลุ่ม การกำหนดเป้าหมาย หรือ
วัตถุประสงค์ของงาน วางแผนการทำงาน แบ่งงานตามความสามารถของแต่ละบุคคล ปฏิบัติตามบทบาทหน้าที่
ประเมนิ ผล และปรับปรุงการทำงาน
การดำรงชีวติ
เป็นการทำงานในชีวิตประจำวันเพ่ือช่วยเหลือตนเอง ครอบครัว ชุมชน และสังคมที่ว่าด้วย งานบ้าน
งานเกษตร งานช่าง งานประดษิ ฐ์ งานธุรกิจ และงานอนื่ ๆ
การทำงานเพื่อการดำรงชีวติ
เป็นการทำงานท่ีจำเป็นเก่ียวกับความเป็นอยู่ในชีวิตประจำวัน ช่วยเหลือตนเอง ครอบครัว และสังคมได้
ในสภาพเศรษฐกิจพอเพียง ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม เน้นการปฏิบัติจริงจนเกิดความมั่นใจ และภูมิใจในผลสำเร็จของ
งาน เพือ่ ให้ค้นพบความสามารถ ความถนัดและความสนใจของตนเอง
คุณธรรม จริยธรรม เจตคติ และลกั ษณะนิสัยในการทำงาน
ประกอบด้วย ความซื่อสัตย์ เสียสละ ยุติธรรม ประหยัด ขยัน อดทน รับผิดชอบ ตรงเวลา รอบคอบ
ปลอดภัยคุ้มค่า ย่ังยืน สะอาด ประณีต มีเหตุผล มีมารยาท ช่วยเหลือตนเอง ทำงานบรรลุเป้าหมาย ทำงานถูกวิธี
ทำงานเป็นขน้ั ตอน ทำงานเป็นระบบ มีความคดิ สร้างสรรค์ มปี ระสิทธภิ าพ รักษาส่งิ แวดล้อม ฯลฯ
ทักษะกระบวนการแก้ปญั หา
เป็นกระบวนการที่ต้องการให้ผู้เรียนได้เกิดความคิดหาวิธีการแก้ปัญหาอย่างมีข้ันตอน การสังเกต
การวิเคราะห์ การสร้างทางเลอื ก และการประเมนิ ทางเลอื ก
ทกั ษะการจัดการ
ความพยายามของบุคคลที่จะจัดระบบงาน (ทำงานเป็นรายบุคคล)และจัดระบบคน (ทำงานเป็นกลุ่ม)
เพ่ือใหท้ ำงานสำเร็จตามเป้าหมายอยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ
ทกั ษะกระบวนการทำงาน
การลงมือทำงานด้วยตนเอง โดยมุ่งเน้นการฝึกวิธีการทำงานอย่างสม่ำเสมอ ทั้งการทำงาน
เป็นรายบุคคล และการทำงานเป็นกลุ่ม เพ่ือให้สามารถทำงานได้บรรลุเป้าหมาย ได้แก่ การวิเคราะห์งาน การ
วางแผนในการทำงาน การปฏบิ ัติงาน และการประเมินผลการทำงาน
๔๖
ทักษะการทำงานร่วมกัน
การทำงานเปน็ กลมุ่ สามารถทำงานร่วมกับผู้อ่นื ได้อย่างมีความสุข โดยมุ่งเน้นให้ผ้เู รยี น ไดท้ ำงานอยา่ งมี
กระบวนการตามข้ันตอนการทำงาน และฝึกหลักการทำงานกลุ่ม โดยรู้จักบ ทบาทหน้าท่ีภายในกลุ่ม
มีทักษะในการฟงั - พูด มคี ณุ ธรรมในการทำงานร่วมกนั สรปุ ผล และนำเสนอรายงาน
ทักษะการแสวงหาความรู้
วิธีการและกิจกรรมท่ีมุ่งเน้นให้ผู้เรียนได้แสวงหาข้อมูลความรู้ต่าง ๆ เก่ียวกับเรื่องหรือเนื้อหา น้ัน ๆ
ได้แก่ การศึกษาคน้ ควา้ การรวบรวม การสงั เกต การสำรวจ และการบันทึก
สาระที่ ๒ การอาชพี
การจำลองอาชีพ
เป็นการจัดกิจกรรมเพ่ือการเรียนรู้เก่ียวกับอาชีพท่ีสถานศึกษาจัดทำให้เสมือนจริงเพื่อให้ผู้เรียนมีทักษะ
การทำงานอาชีพ เห็นคุณค่าของงานอาชีพสุจริต และเห็นแนวทางในการประกอบอาชีพ เช่น การจัดนิทรรศการ
บทบาทสมมติ ฯลฯ
การประเมินทางเลือกอาชีพ
เป็นการรู้จักตนเองด้านความรู้ ความสามารถทัศนคติ ศักยภาพวิสัยทัศน์แนวโน้ม ด้านอาชีพท่ีต้องการ
ของตลาดแรงงาน ที่เหมาะสมกับความสนใจ ความถนัด และทักษะทางด้านอาชีพก่อนตัดสินใจเลือกอาชีพ
การอาชีพ
เป็นสาระท่ีเก่ียวข้องกับทักษะท่ีจำเป็นต่ออาชีพเห็นความสำคัญของคุณธรรม จริยธรรม และเจตคติที่ดี
ตอ่ อาชีพ ใชเ้ ทคโนโลยไี ด้เหมาะสม เหน็ คณุ คา่ ของอาชีพสจุ ริต และเห็นแนวทาง
ทกั ษะท่จี ำเปน็ ต่ออาชพี
ประกอบด้วย ทักษะกระบวนการทำงาน ทักษะการจัดการ ทักษะกระบวนการแก้ปัญหา
ทกั ษะการทำงานร่วมกัน และทักษะการแสวงหาความรู้
ประสบการณใ์ นอาชีพ
เป็นการจัดใหผ้ เู้ รียนไดเ้ รยี นรู้ ไดเ้ หน็ และไดฝ้ ึกปฏิบตั กิ จิ กรรมท่ีเก่ียวกับอาชพี ท่ตี นเองถนัดและสนใจ
สถานการณ์แรงงาน
ประกอบด้วย การมีงานทำ การจ้างงาน การคุ้มครองแรงงาน และการประกันสังคม ท้ังในปัจจุบันและ
อนาคต
๔๗