The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ 2565

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by takrabueschool, 2022-05-16 22:38:47

กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ 2565

กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ 2565

๓๕

เปา้ หมายคุณภาพผเู้ รียนทีห่ ลักสูตรแกนกลางฯ กำหนด

ความรู้ (K) ทกั ษะ/กระบวนการ คณุ ลกั ษณะ

(P) เจตคติ คา่ นยิ ม (A)

โดยใชช้ ว่ งเสยี งท่เี หมาะสมกบั ตนเอง การปฏบิ ัติ มีวนิ ัย

ะเกบ็ เคร่ืองดนตรี การสอ่ื สาร ใฝเ่ รียนรู้

รผ่านดนตรี การสือ่ สาร รักความเปน็ ไทย

มุ่งมัน่ ในการทำงาน

าและความสัมพนั ธข์ องวถิ ชี วี ิตไทย การสอ่ื สาร

คัญในการอนรุ กั ษ์สง่ เสริมวัฒนธรรม การคดิ วิเคราะห์
รี

ฐานทางนาฏศลิ ปแ์ ละการละคร การคิดวิเคราะห์

และนาฏยศพั ทห์ รอื ศพั ท์ทางการ การฝกึ ปฏบิ ัติ

มเคลื่อนไหวในจงั หวะตา่ งๆ การฝกึ ปฏบิ ตั ิ
ฏศลิ ป์เป็นคูแ่ ละหมูค่ ณะ การฝกึ ปฏบิ ตั ิ

มาตรฐาน/ตวั ชี้วดั /สาระการเรียนรู้
ตามหลักสตู รแกนกลางฯ

ป.๔/๕ เล่าสงิ่ ท่ชี ่นื ชอบในการแสดงโดยเนน้ จุดสำคัญของเร่ืองและ การเลา่ ถึง

ลักษณะเดน่ ของตัวละคร ของตัวละ

มาตรฐาน ศ ๓.๒

ป.๔/๑ อธบิ ายประวัติความเปน็ มาของนาฏศลิ ป์ หรือชดุ การแสดงอย่าง ประวตั ิคว

งา่ ยๆ

ป.๔/๒ เปรียบเทยี บการแสดงนาฏศิลปก์ บั การแสดงทีม่ าจากวัฒนธรรม เปรยี บเทีย

อน่ื ทม่ี าจากว

ป.๔/๓ อธิบายความสำคญั ของการแสดงความเคารพในการแสดงความ ความสำค

เคารพในการเรียนและการแสดงนาฏศลิ ป์

ป.๔/๔ ระบุเหตุผลท่คี วรรกั ษาและสืบทอดการแสดงนาฏศิลป์ ระบุเหตุผ

นาฏศลิ ป์

๓๖

เป้าหมายคณุ ภาพผเู้ รียนทห่ี ลกั สตู รแกนกลางฯ กำหนด

ความรู้ (K) ทกั ษะ/กระบวนการ คุณลกั ษณะ

(P) เจตคติ คา่ นยิ ม (A)

งจุดสำคัญของเร่ืองและลักษณะเดน่ การสื่อสาร มวี ินยั

ะคร ใฝเ่ รยี นรู้

รักความเป็นไทย

วามเป็นมาของนาฏศิลป์ การสอ่ื สาร มุง่ มัน่ ในการทำงาน

ยบการแสดงนาฏศลิ ปก์ ับการแสดง การนำเสนอ

วัฒนธรรมอน่ื

คญั ของการแสดงความเคารพ การส่ือสาร

ผลทีค่ วรรักษาและสืบทอดการแสดง การนำไปใช้

คำอธิบายรายวิชาพนื้ ฐาน ๓๗

ศ 14101 ศิลปะ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ศลิ ปะ
ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 เวลาเรียน 40 ชั่วโมง/ปี

ศึกษา วิเคราะห์ เปรียบเทียบ อภิปราย จำแนก บรรยาย รูปลักษณะของรูปร่าง รูปทรงในธรรมชาติ
สิ่งแวดล้อมและงานทัศนศิลป์ ทัศนธาตุของสิ่งต่างๆ ในธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และงานทัศนศิลป์ มีทักษะในการ
ดำรงชีวิตโดยใช้หลกั ตามศาสตร์พระราชาอยา่ งยั่งยืน โดยเน้นเรื่องเส้น สี รูปรา่ ง รปู ทรง พ้นื ผวิ และพน้ื ที่วา่ ง อิทธิพล
ของสีวรรณะอุ่น และสีวรรณะเย็นที่มีต่ออารมณ์มนุษย์ การวาดภาพระบายสีโดยใช้สีวรรณะอุ่น และสีวรรณะเย็น
ถ่ายทอดความรู้สึกและจินตนาการ การใช้วัสดุ อุปกรณ์สร้างสรรค์งานพิมพ์ภาพและงานวาดภาพ ระบายสี ลักษณะ
ภาพที่เน้นการจัดระยะ ความลึก น้ำหนัก และแสงเงา การถ่ายทอดความคิด ความรู้สึกผ่านงานทัศนศิลป์ของตนเอง
และผูอ้ ืน่ งานทัศนศลิ ป์ในเหตกุ ารณ์และงานเฉลมิ ฉลองของวฒั นธรรมท้องถน่ิ งานทศั นศิลปท์ ม่ี าจากวฒั นธรรมต่างๆ
ในอาเซยี น บอกประโยคเพลงอย่างงา่ ย จำแนกประเภทของเครื่องดนตรี
ทิศทางการเคลื่อนที่ขึ้น – ลง ง่ายๆ ของทำนอง รูปแบบจังหวะและความเร็วของจังหวะในเพลงที่ฟังโน้ตดนตรีไทย
และสากลโดยใช้กระบวนการคิดวิเคราะห์ การอภิปราย กระบวนการกลุ่ม การสืบค้นข้อมูลและการบันทึกข้อมูล
ความสามารถในการสื่อสาร ร้องเพลงโดยใช้ช่วงเสียงที่เหมาะสมกับตนเอง การใช้และเก็บเครื่องดนตรี การสื่อสาร
ผา่ นดนตรี แหลง่ ทมี่ าและความสัมพันธ์ของวิถชี ีวิตไทย ความสำคญั ในการอนุรักษส์ ่งเสริมวฒั นธรรมทางดนตรี ทักษะ
พื้นฐานทางนาฏศิลป์และการละคร ภาษาท่าและนาฏยศัพท์หรือศัพท์ทางการละครง่ายๆแสดงความเคล่ือนไหว
ในจังหวะต่างๆ แสดงนาฏศิลป์เป็นคู่และหมู่คณะ การเล่าถึงจดุ สำคญั ของเรื่องและลักษณะเดน่ ของตัวละคร ประวัติ
ความเป็นมาของนาฏศิลป์ เปรยี บเทยี บการแสดงนาฏศิลป์กบั การแสดงทม่ี าจากวฒั นธรรมอื่น
ความสำคัญของการแสดงความเคารพ ระบเุ หตผุ ลที่ควรรกั ษาและสบื ทอดการแสดงนาฏศลิ ป์

โดยใช้กระบวนการคิดวิเคราะห์ การอภิปราย กระบวนการกลุ่ม การปฏิบัติ การสืบค้นข้อมูลและการบันทึก
ขอ้ มลู การสือ่ สารและการนำไปใช้

เพ่ือให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ และเจตคติท่ดี ีต่องานทัศนศิลป์ ดนตรี และนาฏศิลป์ คุณลักษณะอันพึงประสงค์
ใฝ่รู้ใฝ่เรียน มุ่งมั่นในการทำงาน อยู่อย่างพอเพียง รักความเป็นไทย มีวินัย รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์และมีจิตสาธารณะ
มคี ณุ ธรรม จริยธรรมและค่านยิ ม สามารถนำความรูไ้ ปประยกุ ตใ์ ช้ในชีวติ ประจำวนั ใหเ้ กิดประโยชนอ์ ยา่ งเหมาะสม
มาตรฐาน/ตวั ชี้วดั

ศ ๑.๑ ป.๔/๑ ป.๔/๒ ป.๔/๓ ป.๔/๔ ป.๔/๕ ป.๔/๖ ป.๔/๗ ป.๔/๘ ป.๔/๙
ศ ๑.๒ ป.๔/๑ ป.๔/๒
ศ ๒.๑ ป.๔/๑ ป.๔/๒ ป.๔/๓ ป.๔/๔ ป.๔/๕ ป.๔/๖ ป.๔/๗
ศ ๒.๒ ป.๔/๑ ป.๔/๒
ศ ๓.๑ ป.๔/๑ ป.๔/๒ ป.๔/๓ ป.๔/๔ ป.๔/๕
ศ ๓.๒ ป.๔/๑ ป.๔/๒
รวม ๖ มาตรฐาน ๒๗ ตัวชวี้ ัด

การวิเคราะหม์ าตรฐานการเรียนรู้ ตวั ชวี้ ดั ชน้ั ป
รายวชิ าศิลปะ กลุ่มส
ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี ๕

มาตรฐาน/ตวั ช้ีวัด/สาระการเรยี นรู้
ตามหลกั สูตรแกนกลางฯ

สาระท่ี ๑ ทัศนศลิ ป์

มาตรฐาน ศ ๑.๑

ป.๕/๑ เปรยี บเทียบลกั ษณะรปู ร่าง รปู ทรงในธรรมชาติ ส่ิงแวดล้อมและ ลกั ษณะรูป

งานทศั นศิลป์ สิ่งแวดลอ้

ป.๕/๒ อภิปรายเกย่ี วกบั อิทธิพลของสีวรรณะอนุ่ และสวี รรณะเย็นที่มี อทิ ธิพลขอ

ต่ออารมณ์ของมนุษย์ ต่ออารมณ

ป.๕/๓ จำแนกทศั นธาตขุ องส่ิงตา่ งๆ ในธรรมชาติ สงิ่ แวดล้อมและงาน จำแนกทัศ

ทศั นศลิ ป์ โดยเนน้ เรื่องเส้น สี รปู ร่าง รปู ทรง พ้ืนผวิ และพื้นทว่ี ่าง

ป.๕/๔ มีทักษะพื้นฐานในการใชว้ สั ดุ อปุ กรณ์ สรา้ งสรรค์งานพมิ พภ์ าพ ทักษะพื้นฐ

สร้างสรรค

ป.๕/๕ มีทักษะพื้นฐานในการใช้วสั ดุ อุปกรณ์ สรา้ งสรรค์งานวาดภาพ ทักษะพื้นฐ

ระบายสี สรา้ งสรรค

ป.๕/๖ บรรยายลักษณะของภาพ โดยเน้นเรอื่ งการจัดระยะ ความลึก ลกั ษณะขอ

นำ้ หนกั และแสงเงาในภาพ

๓๘

ปี สาระการเรียนรู้ เพ่ือจัดทำคำอธบิ ายรายวชิ า

สาระการเรียนรู้ศิลปะ

รหัสวิชา ศ ๑๕๑๐๑

เปา้ หมายคณุ ภาพผู้เรยี นทหี่ ลกั สตู รแกนกลางฯ กำหนด

ความรู้ (K) ทักษะ/กระบวนการ คณุ ลกั ษณะ

(P) เจตคติ ค่านยิ ม (A)

ปร่าง รูปทรงในธรรมชาติ การสือ่ สาร รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์
อมและงานทัศนศิลป์ การอภิปราย ซ่ือสัตย์ สจุ ริต
องสวี รรณะอุ่นและสีวรรณะเย็นที่มี การจำแนก มวี นิ ัย
ณ์ของมนษุ ย์ ใฝเ่ รียนรู้
ศนธาตุของส่ิงต่างๆ อยู่อย่างพอเพยี ง
มุ่งมน่ั ในการทำงาน
รกั ความเป็นไทย
มีจติ สาธารณะ

ฐานในการใชว้ ัสดุ อุปกรณ์ การใช้วัสดุ อุปกรณ์
คง์ านพิมพ์ภาพ การใช้วสั ดุ อุปกรณ์
ฐานในการใช้วัสดุ อุปกรณ์ การสอ่ื สาร
ค์งานวาดภาพระบายสี
องภาพ

มาตรฐาน/ตวั ช้ีวดั /สาระการเรียนรู้
ตามหลกั สูตรแกนกลางฯ

ป.๕/๗ วาดภาพระบายสี โดยใช้สีวรรณะอุน่ และวรรณะเย็น ถา่ ยทอด วาดภาพระบ
ความรู้สกึ และจินตนาการ เย็น
ป.๕/๘ เปรยี บเทยี บความคิด ความรสู้ กึ ทถ่ี ่ายทอดผ่านงานทัศนศลิ ป์ ความคดิ คว
การเลือกใช
ป.๕/๙ เลอื กใช้วรรณะสีเพื่อถ่ายทอดอารมณ์ ความรู้สกึ ในการ ความรู้สกึ
ถ่ายทอดงานทัศนศลิ ป์
มาตรฐาน ศ ๑.๒ ลกั ษณะรปู แ
ป.๕/๑ ระบแุ ละบรรยายเก่ยี วกับลักษณะรูปแบบของงานทัศนศิลป์ใน
แหล่งเรียนรู้หรือนทิ รรศการศิลปะ งานทัศนศิล
ป.๕/๒ อภิปรายเกย่ี วกับงานทัศนศิลปท์ ีส่ ะท้อนวฒั นธรรมและภมู ิ ในทอ้ งถน่ิ
ปัญญาในท้องถนิ่
สาระท่ี ๒ ดนตรี องคป์ ระกอ
มาตรฐาน ศ ๒.๑ อารมณ์
ป.๕/๑ ระบุองคป์ ระกอบของดนตรใี นเพลงท่ีใช้ในการสื่ออารมณ์ ลกั ษณะของ
วงดนตรีประ
ป.๕/๒ จำแนกลกั ษณะของเสียงขบั รอ้ ง และเครื่องดนตรีท่ีอยูใ่ นวง อ่าน เขียนโ
ดนตรีประเภทตา่ งๆ
ป.๕/๓ อ่าน เขียนโน้ตดนตรีไทยและสากล 5 ระดบั เสียง

๓๙

เปา้ หมายคณุ ภาพผเู้ รียนที่หลกั สูตรแกนกลางฯ กำหนด

ความรู้ (K) ทกั ษะ/กระบวนการ คุณลกั ษณะ

(P) เจตคติ ค่านยิ ม (A)

บายสี โดยใช้สีวรรณะอุ่นและวรรณะ การฝึกปฏบิ ตั ิ ใฝเ่ รยี นรู้

มงุ่ มัน่ ในการทำงาน

วามรู้สึกที่ถ่ายทอดผ่านงานทัศนศลิ ป์ การสือ่ สาร รักความเปน็ ไทย

ชว้ รรณะสเี พื่อถ่ายทอดอารมณ์ มีจติ สาธารณะ

การคิด

แบบของงานทัศนศลิ ป์ การสื่อสาร
ลป์ทส่ี ะท้อนวัฒนธรรมและภมู ปิ ัญญา การอภปิ ราย

อบของดนตรีในเพลงทใี่ ช้ในการส่ือ การคิด

งเสียงขับร้อง และเครือ่ งดนตรีท่อี ยู่ใน การจำแนก
ะเภทต่างๆ
โนต้ ดนตรีไทยและสากล 5 ระดับเสยี ง การสือ่ สาร

มาตรฐาน/ตวั ชี้วัด/สาระการเรียนรู้
ตามหลกั สตู รแกนกลางฯ

ป.๕/๔ ใช้ดนตรีบรรเลงจงั หวะและทำนอง ใชด้ นตรบี
ป.๕/๕ รอ้ งเพลงไทยและเพลงสากล รอ้ งเพลงไ
ป.๕/๖ ดน้ สดงา่ ยๆ โดยใชป้ ระโยคเพลงแบบถาม-ตอบ การดน้ สด
ป.๕/๗ ใชด้ นตรรี วมกบั กิจกรรมในการแสดงออกตามจนิ ตนาการ ใช้ดนตรรี ว
มาตรฐาน ศ ๒.๒ จินตนากา
ป.๕/๑ อธิบายความสัมพนั ธ์ระหวา่ งดนตรกี ับประเพณใี นวัฒนธรรม ความสัมพ
ตา่ งๆ วัฒนธรรม
ป.๕/๒ ระบคุ วามสำคญั ในการอนุรักษ์สง่ เสริมวัฒนธรรมทางดนตรี ความสำค
ทางดนตร
สาระที่ ๓ นาฏศลิ ป์
มาตรฐาน ศ ๓.๑ องคป์ ระก
ป.๕/๑ บรรยายองค์ประกอบของนาฏศิลป์ แสดงทา่ ท
ป.๕/๒ แสดงทา่ ทางประกอบเพลงหรือเร่ืองราวตามความคิดของตน ความคดิ ข
แสดงนาฏ
ป.๕/๓ แสดงนาฏศิลป์ โดยเนน้ การใชภ้ าษาท่าและนาฏศัพท์ในการสื่อ
ความหมายและการแสดงออก มีส่วนร่วม
ป.๕/๔ มีสว่ นรว่ มในกล่มุ การเขยี นเคา้ โครงเรื่องหรอื บทละครนน้ั ๆ บทละคร

๔๐

เปา้ หมายคุณภาพผูเ้ รียนท่ีหลักสูตรแกนกลางฯ กำหนด

ความรู้ (K) ทกั ษะ/กระบวนการ คุณลักษณะ

(P) เจตคติ ค่านยิ ม (A)

บรรเลงจังหวะและทำนอง การปฏบิ ัติ รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์

ไทยและเพลงสากล การปฏิบัติ ซ่อื สัตย์ สจุ ริต

ดงา่ ยๆ การปฏบิ ัติ มวี ินยั

วมกับกจิ กรรมในการแสดงออกตาม การปฏบิ ตั ิ ใฝเ่ รยี นรู้

าร อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง

พนั ธ์ระหวา่ งดนตรีกับประเพณใี น การสอ่ื สาร มุง่ ม่นั ในการทำงาน

มต่างๆ รักความเป็นไทย

คญั ในการอนรุ กั ษส์ ง่ เสรมิ วัฒนธรรม การส่อื สาร มจี ติ สาธารณะ

รี

กอบของนาฏศลิ ป์ การสือ่ สาร

ทางประกอบเพลงหรือเรอ่ื งราวตาม การปฏิบตั ิ

ของตน

ฏศลิ ป์ โดยใช้ภาษาท่าและนาฏศัพท์ การปฏบิ ัติ

มในกล่มุ การเขียนเค้าโครงเร่ืองหรือ การทำงานเป็นทีม

มาตรฐาน/ตัวช้ีวัด/สาระการเรยี นรู้ เปรยี บเทีย
ตามหลกั สูตรแกนกลางฯ บอกประโ

ป.๕/๕ เปรยี บเทยี บการแสดงนาฏศิลป์ชดุ ตา่ งๆ การแสดงป
ป.๕/๖ บอกประโยชน์ทไ่ี ดร้ ับจากการแสดง ทอ้ งถ่นิ
มาตรฐาน ศ ๓.๒ แสดงนาฏ
ป.๕/๑ เปรียบเทยี บการแสดงประเภทตา่ งๆ ของไทยในแต่ละทอ้ งถิ่น วัฒนธรรม

ป.๕/๒ ระบุหรือแสดงนาฏศลิ ป์ นาฏศลิ ปพ์ นื้ บา้ นท่สี ะท้อนถงึ
วัฒนธรรมและประเพณี

๔๑

เป้าหมายคุณภาพผู้เรียนทหี่ ลกั สูตรแกนกลางฯ กำหนด

ความรู้ (K) ทกั ษะ/กระบวนการ คุณลกั ษณะ

(P) เจตคติ คา่ นยิ ม (A)

ยบการแสดงนาฏศลิ ป์ชุดตา่ งๆ การคิด ใฝ่เรียนรู้

โยชนท์ ีไ่ ดร้ ับจากการแสดง การนำไปใช้ ม่งุ ม่ันในการทำงาน

รักความเปน็ ไทย

ประเภทตา่ งๆ ของไทยในแตล่ ะ การสื่อสาร มีจิตสาธารณะ

ฏศิลป์ นาฏศลิ ปพ์ นื้ บ้านทส่ี ะท้อนถึง การปฏบิ ัติ
มและประเพณี

คำอธิบายรายวชิ าพน้ื ฐาน ๔๒

ศ 15101 ศลิ ปะ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ
ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 5 เวลาเรียน 40 ชั่วโมง/ปี

ศึกษา บรรยายเกี่ยวกับจังหวะ ตำแหน่งของสิ่งต่างๆ ที่ปรากฏในสิ่งแวดล้อมและงานทัศนศิลป์ เปรียบเทียบ

ความแตกต่างระหว่างงานทัศนศิลป์ที่สร้างด้วยวัสดุ อุปกรณ์และวิธีการที่แตกต่างกัน ระบุปัญหาในการจัด

องค์ประกอบศิลป์และการสื่อความหมายในงานทัศนศิลป์ของตนเองและบอกวิธีการปรับปรุงงาน ให้ดีขึ้น บรรยาย
ประโยชน์และคุณค่าของงานทัศนศิลป์ที่มีผลต่อชีวิตของคนในสังคม ระบุและบรรยายเกี่ยวกับลักษณะรูปแบบของ

งานทัศนศิลปใ์ นแหล่งเรียนรู้หรือนิทรรศการศลิ ปะ อภิปรายเกี่ยวกบั งานทัศนศลิ ป์ ทส่ี ะท้อนวฒั นธรรมและภูมิปัญญา

ในท้องถิ่น วาดภาพโดยใช้เทคนิค สร้างสรรค์งานพิมพ์ภาพ โดยเน้นการจัดวางตำแหน่งของสิ่งต่างๆในภาพ ระบุ

องค์ประกอบดนตรีในเพลงที่ใช้ในการสื่ออารมณ์ จำแนกลักษณะของเสียงขับร้องและ เครื่องดนตรีที่อยู่ในวงดนตรี
ประเภทต่างๆ อ่าน เขียน โน้ตดนตรไี ทยและสากล 5 ระดับเสียง สามารถใช้ เครื่องดนตรีบรรเลงจังหวะ และทำนอง
ร้องเพลงไทยหรือเพลงสากลที่เหมาะสมกับวัยมี ทักษะในการดำรงชีวิตโดยใช้หลักตามศาสตร์พระราชาอย่างยั่งยืน
โดยใช้ประโยคเพลงแบบถาม-ตอบ นำดนตรีมาร่วมกับกิจกรรม ในการแสดงออกตามจินตนาการ สามารถอธิบาย
ความสัมพันธ์ระหว่างดนตรีกับประเพณีในวัฒนธรรมต่างๆ บอกคุณค่าของดนตรีที่มาจากวัฒนธรรมที่ต่างกัน เข้าใจ
และแสดงออกทางนาฏศิลป์อย่างสร้างสรรค์ โดยเน้นการใช้ภาษาท่าและนาฏยศัพท์ในการสื่อความหมายและการ
แสดงออก บรรยายองค์ประกอบของนาฏศิลป์ พร้อมแสดงท่าทางประกอบเพลงหรือเรื่องราวตามความคิดของตน
มีส่วนร่วมในกลุ่มกับการเขียนเค้าโครงเรื่องบทละครสั้นๆ เปรียบเทียบที่มาของการแสดงนาฏศิลปช์ ุดตา่ งๆ และบอก
ประโยชน์ที่ได้รับจากการชมการแสดง เปรียบเทียบการแสดงประเภทต่างๆ ของไทยในแต่ละท้องถิ่น รวมถึง
ในอาเซียน ระบุหรือแสดงนาฏศิลป์ นาฏศลิ ปพ์ น้ื บา้ นท่สี ะทอ้ นถึงวัฒนธรรมและประเพณี

โดยใช้กระบวนการคิดวิเคราะห์ การอภิปราย กระบวนการกลุ่ม การปฏิบัติ การสืบค้นข้อมูลและการบันทึก

ข้อมลู การสอ่ื สารและการนำไปใช้
เพอ่ื ให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ และเจตคตทิ ด่ี ีต่องานทัศนศลิ ป์ ดนตรี และนาฏศิลป์ คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์

ใฝ่รู้ใฝ่เรียน มุ่งมั่นในการทำงาน อยู่อย่างพอเพียง รักความเป็นไทย มีวินัย รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และมีจิต

สาธารณะ มีคุณธรรม จริยธรรมและค่านิยม สามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันให้เกิดประโยชน์อย่าง
เหมาะสม

มาตรฐานตัวชี้วดั

ศ ๑.๑ ป.๕/๑ ป.๕/๒ ป.๕/๓ ป.๕/๔ ป.๕/๕ ป.๕/๖ ป.๕/๗

ศ ๑.๒ ป.๕/๑ ป.๕/๒

ศ ๒.๑ ป.๕/๑ ป.๕/๒ ป.๕/ ๓ ป.๕/๔ ป.๕/๕ ป.๕/๖ ป.๕/๗

ศ ๒.๒ ป.๕/๑ ป.๕/๒

ศ ๓.๑ ป.๕/๑ ป.๕/๒ ป๕./๓ ป.๕/๔ ป.๕/๕ ป.๕/ ๖

ศ ๓.๒ ป.๕/๑ ป.๕/๒

รวม ๖ มาตรฐาน ๒๖ ตวั ช้ีวัด

การวเิ คราะห์มาตรฐานการเรยี นรู้ ตัวชว้ี ดั ชัน้ ป
รายวชิ าศิลปะ กลุ่มส
ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี ๖

มาตรฐาน/ตัวช้ีวัด/สาระการเรยี นรู้
ตามหลกั สตู รแกนกลางฯ

สาระที่ ๑ ทศั นศลิ ป์ สีค่ตู รงขา้ ม
มาตรฐาน ศ ๑.๑ ขา้ ม
ป.๖/๑ ระบสุ ีคตู่ รงขา้ มและอภปิ รายเก่ยี วกบั การใช้สีตรงข้ามในการ หลกั การจ
ถ่ายทอดความคดิ และอารมณ์ สร้างงานท
ป.๖/๒ อธบิ ายหลกั การจัดขนาดสัดสว่ นความสมดุลในการสร้างงาน หลกั ของแ
ทัศนศิลป์
ป.๖/๓ สรา้ งงานทัศนศลิ ปจ์ ากรปู แบบ 2 มิติ เปน็ 3 มิติโดยใช้หลักของ งานปนั้ โด
แสงเงาและน้ำหนัก งานทศั นศ
ป.๖/๔ สร้างสรรค์งานป้ันโดยใช้หลกั การเพิ่มและลด พืน้ ทว่ี ่าง
ป.๖/๕ สร้างสรรค์งานทศั นศิลปโ์ ดยใช้หลกั การของรูป และพนื้ ที่วา่ ง หลกั การจ

ป.๖/๖ สร้างสรรค์งานทศั นศิลปโ์ ดยใช้สีคู่ตรงข้ามหลกั การจดั ขนาด การถา่ ยท
สัดสว่ น และความสมดลุ ทศั นศลิ ป์
ป.๖/๗ สรา้ งงานทศั นศลิ ป์เป็นแผนภาพ แผนผงั และภาพประกอบเพ่ือ
ถ่ายทอดความคิดหรือเรื่องราวเก่ยี วกบั เหตุการณต์ า่ งๆ

๔๓

ปี สาระการเรียนรู้ เพื่อจดั ทำคำอธบิ ายรายวิชา

สาระการเรยี นรู้ศิลปะ

รหัสวิชา ศ ๑๖๑๐๑

เป้าหมายคณุ ภาพผเู้ รียนทหี่ ลกั สตู รแกนกลางฯ กำหนด

ความรู้ (K) ทักษะ/กระบวนการ คณุ ลกั ษณะ

(P) เจตคติ ค่านยิ ม (A)

รกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์

ซื่อสตั ย์ สุจรติ

มและอภปิ รายเกยี่ วกับการใช้สตี รง การอภปิ ราย มีวนิ ยั

ใฝเ่ รียนรู้

จัดขนาดสัดสว่ นความสมดลุ ในการ การสื่อสาร อยู่อยา่ งพอเพยี ง

ทัศนศิลป์ มุ่งมั่นในการทำงาน

แสงเงาและน้ำหนกั ในงานทศั นศิลป์ การปฏิบตั ิ รักความเปน็ ไทย

มีจติ สาธารณะ

ดยใช้หลกั การเพิ่มและลด การปฏิบตั ิ

ศิลปโ์ ดยใช้หลักการของรูป และ การปฏบิ ัติ

จดั ขนาด สัดส่วน และความสมดุล การออกแบบ

ทอดเร่ืองราว เหตกุ ารณ์ผา่ นงาน การออกแบบ

มาตรฐาน/ตวั ช้ีวดั /สาระการเรยี นรู้
ตามหลกั สตู รแกนกลางฯ

มาตรฐาน ศ ๑.๒

ป.๖/๑ บรรยายบทบาทของงานทัศนศิลปท์ สี่ ะท้อนชีวติ และสังคม บทบาทของ

สงั คม

ป.๖/๒ อภปิ รายเกย่ี วกับอทิ ธิพลของความเช่อื ความศรัทธาในศาสนา อทิ ธิพลของ

ท่ีมีผลตอ่ งานทัศนศิลป์ในท้องถน่ิ ผลตอ่ งานท

ป.๖/๓ ระบุและบรรยายอิทธิพลทางวัฒนธรรมในท้องถนิ่ ท่ีมีผลตอ่ อิทธิพลทาง

การสร้างงานทัศนศิลปข์ องบุคคล สรา้ งงานทศั

สาระที่ ๒ ดนตรี

มาตรฐาน ศ ๒.๑

ป.๖/๑ บรรยายเพลงทฟี่ ังโดยอาศยั องค์ประกอบดนตรี และศัพท์ บรรยายเพล

สังคีต และศัพทส์ ัง

ป.๖/๒ จำแนกประเภทและบทบาทหนา้ ท่ี เคร่ืองดนตรไี ทยและเคร่ือง จำแนกประ

ดนตรีทม่ี าจากวัฒนธรรมต่างๆ ไทยและเคร

ป.๖/๓ อา่ น เขยี น โน้ตไทย และโนต้ สากลทำนองง่ายๆ อ่าน เขียน โ

ป.๖/๔ ใช้เคร่อื งดนตรบี รรเลงประกอบการร้องเพลงด้นสดที่มจี งั หวะ บรรเลงประ

ทำนองง่ายๆ ทำนองง่ายๆ

ป.๖/๕ บรรยายความรสู้ ึกท่ีมีตอ่ ดนตรี ความรู้สึกท

๔๔

เปา้ หมายคณุ ภาพผู้เรยี นท่ีหลกั สูตรแกนกลางฯ กำหนด

ความรู้ (K) ทกั ษะ/กระบวนการ คุณลกั ษณะ

(P) เจตคติ คา่ นยิ ม (A)

งงานทัศนศิลป์ทส่ี ะท้อนชีวิตและ การสอ่ื สาร ใฝ่เรียนรู้
ม่งุ ม่ันในการทำงาน
งความเชอ่ื ความศรัทธาในศาสนาท่ีมี การอภิปราย รกั ความเป็นไทย
ทัศนศิลปใ์ นท้องถน่ิ การสอื่ สาร มีจิตสาธารณะ
งวัฒนธรรมในท้องถน่ิ ทมี่ ีผลต่อการ
ศนศิลป์

ลงที่ฟังโดยอาศัยองค์ประกอบดนตรี การสือ่ สาร
งคีต
ะเภทและบทบาทหนา้ ท่ี เครือ่ งดนตรี การจำแนก
ร่ืองดนตรีที่มาจากวฒั นธรรมต่างๆ
โน้ตไทย และโน้ตสากลทำนองง่ายๆ การส่ือสาร
ะกอบการร้องเพลงดน้ สดทีม่ จี งั หวะ การปฏบิ ัติ

ทีม่ ีต่อดนตรี การสอื่ สาร

มาตรฐาน/ตัวชี้วัด/สาระการเรยี นรู้ แสดงความค
ตามหลกั สตู รแกนกลางฯ ประสานเสีย

ป.๖/๖ แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับทำนองจังหวะการประสานเสยี ง เร่อื งราวขอ
และคุณภาพเสียงของเพลงท่ีฟัง จำแนกดนต
มาตรฐาน ศ ๒.๒ อิทธิพลของ
ป.๖/๑ อธิบายเร่อื งราวของดนตรีไทยในประวัติศาสตร์
ป.๖/๒ จำแนกดนตรีทีม่ าจากยคุ สมยั ทีต่ า่ งกนั
ป.๖/๓ อภิปรายอิทธิพลของวัฒนธรรมต่อดนตรีในท้องถิน่

สาระท่ี ๓ นาฏศลิ ป์ สร้างสรรคก์
มาตรฐาน ศ ๓.๑
ป.๖/๑ สรา้ งสรรค์การเคลื่อนไหวและการแสดงโดยเนน้ การถ่ายทอด ออกแบบเค
ลีลาหรืออารมณ์ ประกอบกา
ป.๖/๒ ออกแบบเคร่ืองแตง่ กายหรอื อุปกรณ์ประกอบการแสดงอย่าง แสดงนาฏศ
งา่ ยๆ ความรูส้ กึ ขอ
ป.๖/๓ แสดงนาฏศิลปแ์ ละการละครงา่ ยๆ
ป.๖/๔ บรรยายความรสู้ ึกของตนเองทมี่ ตี ่องานนาฏศลิ ป์และการ
ละครอย่างสร้างสรรค์

๔๕

เปา้ หมายคณุ ภาพผู้เรียนทีห่ ลกั สตู รแกนกลางฯ กำหนด

ความรู้ (K) ทกั ษะ/กระบวนการ คณุ ลกั ษณะ

(P) เจตคติ ค่านยิ ม (A)

คิดเหน็ เกี่ยวกับทำนองจงั หวะการ การแสดงความคดิ เหน็ ใฝเ่ รยี นรู้

ยง มุง่ มนั่ ในการทำงาน

รักความเป็นไทย

องดนตรีไทยในประวตั ิศาสตร์ การสอ่ื สาร มีจิตสาธารณะ

ตรที ี่มาจากยุคสมัยท่ีตา่ งกนั การจำแนก

งวัฒนธรรมต่อดนตรใี นทอ้ งถนิ่ การอภิปราย

การเคลื่อนไหวและการแสดง การปฏิบตั ิ

คร่ืองแต่งกายหรืออุปกรณ์ การออกแบบ
ารแสดง
ศิลปแ์ ละการละครง่ายๆ การปฏิบัติ
องตนเองที่มีตอ่ งานนาฏศิลป์ การสือ่ สาร

มาตรฐาน/ตวั ช้ีวดั /สาระการเรยี นรู้
ตามหลักสูตรแกนกลางฯ

ป.๖/๕ แสดงความคดิ เหน็ ในการชมการแสดง แสดงความค
ป.๖/๖ อธิบายความสมั พนั ธ์ระหว่างนาฏศิลป์ และการละครกับส่งิ ท่ี ความสมั พัน
ประสบในชวี ิตประจำวัน สิง่ ท่ีประสบ
มาตรฐาน ศ ๓.๒
ป.๖/๑ อธบิ ายส่งิ ทม่ี ีความสำคัญตอ่ การแสดงนาฏศิลป์ และละคร ความสำคญั
ป.๖/๒ ระบุประโยชน์ทไี่ ดร้ บั จากการแสดงหรือการชมการแสดง ประโยชน์ท
นาฏศลิ ป์และละคร แสดง

๔๖

เปา้ หมายคุณภาพผูเ้ รียนที่หลักสตู รแกนกลางฯ กำหนด

ความรู้ (K) ทกั ษะ/กระบวนการ คณุ ลกั ษณะ

(P) เจตคติ คา่ นยิ ม (A)

คิดเห็นในการชมการแสดง การแสดงความคิดเห็น ใฝเ่ รียนรู้

นธ์ระหวา่ งนาฏศิลป์ และการละครกับ การส่ือสาร มงุ่ ม่นั ในการทำงาน

บในชวี ิตประจำวัน รกั ความเป็นไทย

มีจติ สาธารณะ

ญต่อการแสดงนาฏศิลป์ และละคร การสอื่ สาร

ทไ่ี ดร้ ับจากการแสดงหรอื การชมการ การนำไปใช้

คำอธิบายรายวิชาพน้ื ฐาน ๔๗

ศ 16101 ศลิ ปะ กลุ่มสาระการเรียนร้ศู ลิ ปะ
ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 6 เวลาเรียน 40 ชวั่ โมง/ปี

ศึกษาสีคู่ตรงข้าม การใช้สีคู่ตรงข้ามในการถ่ายทอดความคิดและอารมณ์ หลักการจัดขนาด สัดส่วน
ความสมดลุ ในการสรา้ งงานทศั นศลิ ป์และหลักการออกแบบงานท่ีเป็นเอกลักษณ์ สรา้ งงานทศั นศลิ ปจ์ ากรูปแบบ 2 มิติ
เป็น 3 มิติ โดยใช้หลักการของแสงเงาและน้ำหนัก สร้างสรรค์งานปั้นโดยมีทักษะในการดำรงชีวิตโดยใช้หลักตาม
ศาสตร์พระราชา ใช้หลักการเพิ่มและลด สร้างสรรค์งานทัศนศิลป์โดยใช้หลักการของรูปและพื้นที่ว่าง โดยใช้สีคู่ตรง
ข้าม หลักการจัดขนาด สัดส่วน และความสมดุล สร้างงานทัศนศิลป์เป็นแผนภาพ แผนผัง และภาพประกอบเพื่อ
ถ่ายทอดความคิดหรือเรื่องราวเกี่ยวกับเหตุการณ์ตา่ งๆ บรรยายบทบาทของงานทัศนศิลป์ทีส่ ะท้อนชีวิตและสังคมใน
ท้องถิ่น และในอาเซียน อภิปรายเกี่ยวกับอิทธิพลของความเชือ่ ความศรัทธาในศาสนาที่มีต่องานทัศนศิลป์ในท้องถ่ิน
อิทธิพล ทางวัฒนธรรมในท้องถิ่นที่มีผลต่อการสร้างงานทัศนศิลป์ ศึกษาวิเคราะห์องค์ประกอบดนตรี เพลงที่ฟังและ
ศพั ทส์ งั คตี จำแนกประเภทเคร่ืองดนตรี ใชเ้ ครื่องดนตรีและเครื่องดนตรีท่ีมาจากวัฒนธรรมต่าง ๆ อา่ น เขียนโน้ตไทย
และโน้ตสากล ร้องเพลง ด้นสด สร้างสรรค์รูปแบบจังหวะและทำนองด้วยเครื่องดนตรีไทยหรือเครื่องดนตรีที่มาจาก
วัฒนธรรมตา่ ง ๆ สืบทอดดนตรไี ทย จำแนกดนตรที ่ีมาจากยุคสมยั ที่ต่างกัน อทิ ธพิ ลของวัฒนธรรมต่อดนตรีในท้องถ่ิน
บรรยายความรู้สึกและแสดงความคิดเห็นที่มีต่อบทเพลง ความไพเราะของเสียงดนตรี ศึกษาพื้นฐานความรู้ ความ
เข้าใจ นาฏศิลป์เบื้องต้น แสดงออกอย่างอิสระในการประดิษฐ์ท่าทางประกอบเพลงปลุกใจหรือเพลงพื้นเมืองหรือ
ท้องถ่ิน การแสดงนาฏศิลป์และละครสร้างสรรค์ การใช้เร่ืองแต่ง จนิ ตนาการ ประสบการณ์ การอธิบายความสัมพันธ์
ระหวา่ งนาฏศลิ ป์และการละครกบั สิง่ ท่ีประสบในชวี ิตประจำวนั การบอกความหมาย ความเป็นมา ความสำคัญพร้อม
ทั้งระบุประโยชน์ท่ีได้รับจากการแสดงหรือการชมการแสดงนาฏศิลป์ สร้างสรรคก์ ารเคลื่อนไหวและการถ่ายทอดลลี า
อารมณ์ สิ่งที่มีความสำคัญต่อการแสดงนาฏศิลป์และละคร ระบุประโยชน์ที่ได้รับจากการแสดงหรือการชมการแสดง
นาฏศลิ ปแ์ ละละคร

โดยใช้กระบวนการคิดวิเคราะห์ การอภิปราย กระบวนการกลุ่ม การปฏิบัติ การสืบค้นข้อมูลและการบันทึก

ขอ้ มลู การส่อื สารและการนำไปใช้

เพอื่ ให้เกิดความรู้ ความเขา้ ใจ และเจตคติท่ดี ีต่องานทัศนศลิ ป์ ดนตรี และนาฏศลิ ป์ คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์

ใฝร่ ใู้ ฝ่เรียน มงุ่ ม่นั ในการทำงาน อยอู่ ย่างพอเพียง รักความเปน็ ไทย มีวินัย รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และมีจิตสาธารณะ

มีคณุ ธรรม จริยธรรมและค่านยิ ม สามารถนำความรไู้ ปประยกุ ต์ใช้ในชวี ิตประจำวนั ใหเ้ กดิ ประโยชน์อย่างเหมาะสม

มาตรฐาน/ตัวชว้ี ดั
ศ ๑.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖, ป.๖/๗

ศ ๑.๒ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓

ศ ๒.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖

ศ ๒.๒ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓ ศ ๓.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖

ศ ๓.๒ ป.๖/๑, ป.๖/๒

รวม ๖ มาตรฐาน ๒๗ ตวั ชว้ี ดั

๔๘

โครงสรา้ งรายวิชา ศลิ ปะ กลุ่มสาระ การเรยี นรวู้ ิชาศิลปะ รหัส ศ11101
ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 1 จำนวน 40 ช่ัวโมง/ปี

หน่วยที่ ช่อื หน่วย มาตรฐาน/ สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด เวลา คะแนน
1
ศลิ ปะในธรรมชาตแิ ละ ตัวชีว้ ัด (ชม.)
ส่งิ แวดล้อม
ศ 1.1 ป. 1/1 อภปิ รายเกี่ยวกับรปู รา่ ง สร้าง 6 15
ศ 1.1 ป. 1/2
ลักษณะและขนาดของสิ่งต่างๆ

รอบตัว ในธรรมชาตแิ ละสงิ่ ที่

มนุษย์ขึ้น บอกความรู้สึกที่มีต่อ

ธรรมชาติ และสิ่งแวดลอ้ มรอบตวั

2 สร้างสรรค์งานศิลป์ ศ 1.1 ป. 1/3 มที ักษะพ้ืนฐานในการใช้วัสดุ 8 20

ศ 1.1 ป. 1/4 อุปกรณ์สร้างงานทัศนศิลป์สร้างงาน
ศ 1.1 ป. 1/5 ทัศนศิลป์โดยการทดลองใช้สี ด้วย

เทคนคิ งา่ ย ๆ วาดภาพระบายสภี าพ

ธรรมชาติ ตามความรู้สึกของตนเอง

3 งานศลิ ปใ์ น ศ 1.2 ป. 1/1 เปรยี บเทยี บขนาดของสงิ่ ต่าง ๆ 5 10

ชวี ิตประจำวนั รอบตวั ในธรรมชาติและสิง่ ที่ 3 10
5 10
มนุษย์สรา้ งขน้ึ สามารถสร้างงาน 3 5

ศลิ ปะอย่าง อิสระ ชื่นชม และ

ประยกุ ต์ใชใ้ นชีวิตประจำวนั

4 กำเนดิ เกิดเปน็ เสยี ง ศ. 2.1 ป. 1/1 มีเข้าใจและแสดงออกทางดนตรี
ศ. 2.1 ป. 1/2 อยา่ งสร้างสรรค์สามารถถา่ ยทอด

ความรสู้ กึ ความคิดตอ่ ดนตรอี ย่าง

อิสระ

5 ขับขานบทเพลง ศ 2.1 ป. 1/3 สามารถสรา้ งสรรค์ วเิ คราะห์
ศ 2.1 ป. 1/4 วิพากษ์วจิ ารณ์คุณค่าดนตรี
ศ 2.1 ป. 1/5 ประยกุ ตใ์ ช้ ในชีวิตประจำวัน

6 ดนตรใี นท้องถ่ิน ศ 2.2 ป. 1/1 เขา้ ใจความสัมพันธร์ ะหวา่ ง
ศ 2.2 ป. 1/2 ดนตรี ประวตั ิศาสตร์ มีความเข้าใจ

วัฒนธรรม และภมู ปิ ัญญาท้องถิ่น

7 การละเล่นของเด็กไทย ศ 3.2 ป. 1/1 บทเพลงท่สี ั้นเกย่ี วกับธรรม 3 ๔๙

ชาตสิ ัตวก์ ารแสดงประกอบเพลงที่ 5

เกย่ี วกับธรรมชาติสัตว์การนำวสั ดุ 20

ธรรมชาติ ท่มี ใี นท้องถนิ่ มาประยุกต์ 5

ใชใ้ นการเล่น

8 การแสดงนาฏศลิ ป์ ศ 3.1 ป. 1/1 เข้าใจ และแสดงออกทาง 5

เบอ้ื งต้น ศ 3.1 ป. 1/2 นาฏศิลป์อย่างสร้างสรรคว์ ิเคราะห์
ศ 3.2 ป. 1/2 วิพากษว์ จิ ารณ์คณุ คา่ นาฏศลิ ป์

ถา่ ยทอดความรสู้ ึกมคี วามเข้าใจ

วัฒนธรรม และภมู ปิ ัญญาท้องถิ่น

9 การเปน็ ผูช้ มทด่ี ี ศ 3.1 ป. 1/3 การปฏิบัติตนในการรับชมสามารถ 2

ถา่ ยทอดเร่ืองราวจากการรบั ชมและ

ข้อคิดจากการรบั ชม

รวมทั้งสน้ิ 40 100

๕๐

โครงสร้างรายวิชา ศลิ ปะ กลมุ่ สาระ การเรียนร้วู ิชา ศลิ ปะ รหัส ศ12101
ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 40 ช่วั โมง/ปี

หนว่ ยท่ี ชื่อหน่วย มาตรฐาน/ตัวชี้วดั สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด เวลา คะแนน
(ชม.)
1 ศิลปะในธรรมชาติและ ศ 1.1 ป. 2/1 อภปิ รายเกย่ี วกับรูปรา่ ง รปู ทรง
สิ่งแวดล้อม ศ 1.1 ป. 2/2 ในธรรมชาติและส่งิ แวดลอ้ ม เชน่ 3 10
รูปกลม รี สามเหล่ยี ม สีเ่ หลย่ี ม
และกระบอกประยุกต์ใช้ ใน
ชวี ติ ประจำวนั

2 สร้างสรรคง์ านศลิ ป์ ศ 1.1 ป. 2/3 บรรยายรปู รา่ ง รปู ทรงท่ีพบใน 8 20
ศ 1.1 ป. 2/4 ธรรมชาติและสิง่ แวดลอ้ ม
ศ 1.1 ป. 2/5 การใชว้ สั ดุ อุปกรณ์ สรา้ งงาน
ศ 1.1 ป. 2/6 ทัศนศิลป์ ๓ มิติ สรา้ งภาพปะติด
ศ 1.1 ป. 2/7 จากกระดาษ การวาดภาพถ่าย
ศ 1.1 ป. 2/8 ทอดเรื่องราว บรรยายถึงสงิ่ ที่
มองเห็น รวมถงึ เนอื้ หาเร่ืองราว
สร้างงานโครงสรา้ งเคล่ือนไหว

3 งานศิลปใ์ นชวี ติ ประจำวัน ศ 1.2 ป. 2/1 บรรยายรปู รา่ งที่พบในธรรมชาติ 5 15
ศ 1.2 ป. 2/2 และสิง่ แวดลอ้ มสามารถสรา้ งงาน
5
ศิลปะดว้ ยงานวาด งานป้นั และ 15
5
งานพิมพภ์ าพ

4 สสี ันของเสยี ง ศ. 2.1 ป.2/1 มเี ข้าใจและแสดงออกทางดนตรี 3
ศ. 2.1 ป. 2/2 อย่างสรา้ งสรรค์จำแนกเสียงต่างๆ

สรา้ งเสียงจากวตั ถุตา่ งๆ

5 ขับขานบทเพลง ศ 2.1 ป. 2/3 สามารถวิเคราะห์ จำแนกเสยี ง 6
ศ 2.1 ป. 2/4 วเิ คราะหเ์ สยี ง จดจำบทเพลงรอ้ ง
ศ 2.1 ป. 2/5 เล่น

6 ดนตรใี นทอ้ งถ่นิ ศ 2.2 ป. 2/1 ทีม่ าของบทเพลงในท้องถิน่ 3
ศ 2.2 ป. 2/2 ความนา่ สนใจของบทเพลงใน

ท้องถน่ิ

7 การละเลน่ พน้ื บ้าน ศ 3.2 ป. 2/1 การเคล่ือนไหวอยา่ งมีรูปแบบ 3 ๕๑
ศ 3.2 ป. 2/2 การประดิษฐ์ทา่ จากการเคลื่อนไหว 5
8 การแสดงนาฏศิลป์ ศ 3.2 ป. 2/3 อย่างมีรปู แบบเพลงทเี่ กี่ยวกับ 5
เบ้ืองตน้ สง่ิ แวดล้อมการฝึกภาษาทา่ ส่ือ
ศ 3.1 ป. 2/1 ความหมาย แทนอากัปกิริยา 20
ศ 3.1 ป. 2/2 การฝึกนาฏยศัพทใ์ นสว่ นลำตัว
ศ 3.2 ป. 2/3
เคลอื่ นไหวขณะอยู่กบั ทแ่ี ละ
เคล่ือนที่การน่งั การยืน การเดิน
แสดงท่าทาง เพื่อสอื่ ความหมาย
แทนคำพูด

9 มารยาทในการชมการ ศ 3.1 ป. 2/5 มารยาทในการชมการแสดง 15
แสดง การเขา้ ชมหรือมีสว่ นร่วม 40 100

รวมทั้งสน้ิ

๕๒

โครงสรา้ งรายวชิ า ศลิ ปะ กลุ่มสาระ การเรยี นรวู้ ิชา ศิลปะ รหัส ศ13101
ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 จำนวน 40 ชั่วโมง/ปี

หนว่ ยที่ ช่อื หน่วย มาตรฐาน/ตัวช้ีวดั สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด เวลา คะแนน
(ชม.)

1 ศิลปะในธรรมชาติและ ศ 1.1 ป. 3/1 บรรยายรูปร่าง รปู ทรงในธรรมชาติ 6 15
สง่ิ แวดลอ้ ม ศ 1.1 ป. 3/2 และสิ่งแวดลอ้ ม วสั ดุ อุปกรณ์ทใี่ ช้
ศ 1.1 ป. 3/3 สรา้ งงานทศั นศิลปป์ ระเภทงาน
วาด งานปน้ั งานพิมพภ์ าพ เส้น สี
รปู รา่ ง รูปทรง พ้ืนผิว ในธรรมชาติ
ส่งิ แวดล้อมและงานทัศนศลิ ป์

2 สรา้ งสรรค์งานศลิ ป์ ศ 1.1 ป. 3/4 การวาดภาพระบายสี สงิ่ ของ 8 20
ศ 1.1 ป. 3/5 รอบตวั ดว้ ยสีเทยี น ดนิ สอสี
ศ 1.1 ป. 3/6 และสีโปสเตอร์ การใช้เส้น รปู รา่ ง
ศ 1.1 ป. 3/7 รปู ทรง สี และพ้ืนผวิ วาดภาพถา่ ย
ศ 1.1 ป. 3/8 ทอดความคิดความรู้สกึ วสั ดุ
ศ 1.1 ป. 3/ อปุ กรณ์ เทคนคิ วิธกี ารใน
ศ 1.1 ป. 3/10 การสรา้ งงานทัศนศลิ ปก์ ารแสดง
ความคิดเหน็ ในงานทศั นศิลป์ของ
ตนเอง การจดั กลมุ่ ของภาพตาม
ทัศนธาตุ รูปรา่ ง รูปทรง ในงาน
ออกแบบ

3 งานศลิ ป์ถิ่นไทย ศ 1.2 ป. 3/1 บรรยายรปู ร่างที่พบในธรรมชาติ 4 5
4 ลกั ษณะดนตรี ศ 1.2 ป. 3/2 และสง่ิ แวดลอ้ มสามารยกตวั อยา่ ง
5 สรา้ งสรรคด์ นตรี งานศลิ ปะประจำท้องถนิ่

ศ. 2.1 ป.3/1 เอกลักษณ์ของดนตรใี นท้องถ่ิน 3 5
ศ. 2.1 ป. 3/2 ดนตรีกบั การดำเนินชวี ิตใน

ท้องถิน่

ศ 2.1ป. 3/3 ลกั ษณะเสียงร้องของดนตรใี น 6 20
ศ 2.1 ป. 3/4 ทอ้ งถ่นิ ภาษาและเนอื้ หาในบทร้อง
ศ 2.1 ป. 3/5 ของดนตรีในท้องถ่ินเครอื่ งดนตรี
ศ 2.1 ป. 3/6 และวงดนตรใี นท้องถ่ินดนตรใี น
ศ 2.1 ป. 3/7 ชีวิตประจำวนั ดนตรใี นวาระสำคัญ

6 ดนตรีในท้องถ่นิ ศ 2.2 ป. 3/1 ท่ีมาของบทเพลงในทอ้ งถิน่ 3 ๕๓
ศ 2.2 ป. 3/2 ความนา่ สนใจของบทเพลงใน 3
7 นาฏศลิ ป์ไทย ท้องถิ่น 6 5
ศ 3.2 ป. 3/1 5
8 การแสดงนาฏศิลป์ ศ 3.2 ป. 3/2 การเคลื่อนไหวอยา่ งมรี ปู แบบ
เบ้อื งต้น ศ 3.2 ป. 3/3 หลักและวธิ กี ารปฏิบัตินาฏศลิ ป์ 20
การฝึกภาษาท่าส่อื อารมณ์ของ
ศ 3.1 ป. 2/1 มนุษย์
ศ 3.1 ป. 2/2
ศ 3.2 ป. 2/3 รำวงมาตรฐานเพลงพระราชนิพนธ์
สถานการณส์ ั้น ๆ สถานการณ์ท่ี
กำหนดให้

9 บทบาทหน้าที่ของผูท้ ม่ี ี ศ 3.1 ป. 3/3 ผ้แู สดง การมสี ่วนรว่ ม 15
สว่ นรว่ มในกจิ กรรมการ ศ 3.1 ป. 3/4 40 100
แสดง

รวมทั้งสน้ิ

๕๔

โครงสรา้ งรายวิชา ศิลปะ กลุ่มสาระ การเรยี นร้วู ชิ า ศลิ ปะ รหัส ศ14101
จำนวน 40 ช่ัวโมง/ปี
ช้ัน ประถมศกึ ษาปีท่ี 4
สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด เวลา คะแนน
หนว่ ยที่ ชอ่ื หน่วย มาตรฐาน/ตวั ชี้วัด
(ชม.)

1 พ้นื ฐานทางศิลป์ ศ 1.1 ป. 4/1 บรรยายรูปรา่ ง รปู ทรงในธรรมชาติ 10 23
ศ 1.1 ป. 4/2 และสิ่งแวดลอ้ ม วัสดุ อปุ กรณ์ท่ีใช้
ศ 1.1 ป. 4/3 สร้างงานทศั นศิลปป์ ระเภทงาน
ศ 1.1 ป. 4/6 วาด งานปน้ั งานพิมพภ์ าพ
เส้น สี รูปร่าง รปู ทรง พื้นผวิ ใน
ธรรมชาตสิ ง่ิ แวดลอ้ มและงาน
ทศั นศิลป์

2 สร้างสรรคง์ านศลิ ป์ ศ 1.1 ป. 4/4 การวาดภาพระบายสี สงิ่ ของ 6 14
ศ 1.1 ป. 4/5 รอบตัว ด้วยสเี ทียน ดินสอสี
ศ 1.1 ป. 4/7 และสีโปสเตอร์การใชเ้ สน้ รูปร่าง
ศ 1.1 ป. 4/8 รปู ทรง สี และพื้นผิว วาดภาพถา่ ย
ศ 1.1 ป. 4/9 ทอดความคดิ ความร้สู กึ วสั ดุ
อุปกรณ์ เทคนิควธิ กี ารในการสร้าง
งานทัศนศิลป์การแสดงความ
คิดเห็นในงานทัศนศิลป์ของตนเอง
การจัดกลมุ่ ของภาพตามทัศนธาตุ
รปู ร่าง รูปทรง ในงานออกแบบ

3 งานศิลป์กบั วัฒนธรรม ศ 1.2 ป. 4/1 ความสมั พันธร์ ะหว่างทศั นศิลป์ 5 13
ศ 1.2 ป. 3/2 ประวตั ิศาสตร์ และวัฒนธรรม
4 เคร่อื งดนตรี สามารถยกตัวอยา่ งงานศิลปะ
5 ทกั ษะดนตรี ทเ่ี กี่ยวข้องกับวฒั นธรรม

ศ. 2.1 ป.4/1 ความสัมพนั ธข์ องวถิ ชี วี ติ กบั ผลงาน 3 8
ศ. 2.1 ป. 4/2 ดนตรโี อกาสในการบรรเลงดนตรี

ศ 2.1ป. 4/1 เครือ่ งดนตรีไทยและเคร่ืองดนตรี 4 11
ศ 2.1 ป. 4/3 สากลการบรรเลงเพลงในโอกาส
ศ 2.1 ป. 4/4 ต่างๆเครื่องดนตรปี ระเภทตา่ งๆ
ศ 2.1 ป. 4/5 การจำแนกเครือ่ งดนตรีภาษาโน้ต
ศ 2.1 ป. 4/7 แต่ละประเภทดนตรใี นวาระสำคญั

6 ดนตรีกบั มรดกทาง ศ 2.2 ป. 4/1 ความสำคญั และความจำเป็นใน 2 ๕๕
วฒั นธรรม ศ 2.2 ป. 4/2 การอนรุ ักษ์ แนวทางในการ
อนรุ กั ษ์ 3
10
7 นาฏศิลป์ไทยกับ ศ 3.1 ป. 4/3 ประวตั ิความเป็นมาของนาฏศิลป์ 5
วฒั นธรรม ศ 3.1 ป. 4/4 การไดร้ บั อทิ ธิพลแบบแผนตาม 8
ศ 3.2 ป. 4/1 แนวคิดจากตา่ งชาติเขา้ มาผสม
ศ 3.2 ป. 4/2 เอกลักษณน์ าฏศิลป์ของไทย 4
ศ 3.2 ป. 4/3 การถ่ายทอดนาฏศิลป์ของไทย
จนเกิดข้นึ เป็นเอกลักษณ์ของ
ตนเอง การประดิษฐท์ ่าทางร่ายรำ
และละครไทยมาจนถงึ ปัจจุบัน

8 การแสดงนาฏศลิ ป์แล ศ 3.1 ป. 4/1 การฝกึ ภาษาท่า การฝกึ นาฏย 3

การละคร ศ 3.1 ป. 4/2 ศัพท์ การใช้ภาษาทา่ และนาฏย
ศ 3.2 ป. 4/5 ศัพท์ ประกอบเพลงปลุกใจและ

เพลงพระราชนิพนธก์ ารใชศ้ ัพท์

ทางการละครในการถ่ายทอด

เร่อื งราว

9 ความเปน็ มาและคุณค่า ศ 3.1 ป. 4/1 คุณค่าด้านการอนุรกั ษแ์ ละเผยแพร่ 2

ของนาฏศลิ ป์ไทย ศ 3.1 ป. 4/4 คณุ ค่าด้านพธิ กี รรมคณุ ค่าดา้ น

ความรเู้ กยี่ วกบั วรรณคดไี ทย

รวมท้ังส้ิน 40 100

๕๖

โครงสร้างรายวิชา ศิลปะ กลุม่ สาระ การเรยี นรวู้ ิชา ศิลปะ รหัส ศ15101
ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 5 จำนวน 40 ชว่ั โมง/ปี

หนว่ ยท่ี ชอื่ หน่วย มาตรฐาน/ตวั ชี้วดั สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด เวลา คะแนน

(ชม.)

1 พน้ื ฐานทางศิลป์ ศ 1.1 ป. 5/1 เสน้ กบั แสงเงารูปร่าง รูปทรง และ ๗ ๒๑
ศ 1.1 ป. 5/2 พื้นผวิ ทศั นธาตกุ ับการสรา้ งภาพ
ศ 1.1 ป. 5/6 การทดลองสี
ศ 1.1 ป. 5/7

2 สร้างสรรคง์ านศลิ ป์ ศ 1.1 ป. 5/3 การสรา้ งสรรคด์ ว้ ยวสั ดุอปุ กรณ์ ๘ ๒๐
ศ 1.1 ป. 5/4 และวธิ ีการทีต่ า่ งกนั งานป้นั กับงาน ๕ ๙
๓ องค์ประกอบดนตรี ศ 1.1 ป. 5/5 แกะสลกั ภาพพิมพ์กับงานกระดาษ ๘ ๑๙
ศ 1.2 ป. 5/1 งานโครงสร้างกับภาพแขวน
๔ ดนตรกี ับมรดกทาง ศ 1.2 ป. 5/2 ภาพปะตดิ จากเศษวัสดุ
วฒั นธรรม อภปิ รายเก่ยี วกับงานทัศนศิลป์
ศ. 2.1 ป.5/1 ที่สะท้อนวฒั นธรรมคณุ ค่างาน
ศ. 2.1 ป. 5/2 ทัศนศลิ ปม์ รกดทางวฒั นธรรม

ศ ๒.๑ ป. ๕/๓ เสยี งท่เี กิดจากการเปา่ การดีด
ศ ๒.๑ ป. ๕/๔ จงั หวะเสียงยาว ๆ สัน้ ๆ หรอื
ศ ๒.๑ ป. ๕/๕ เสยี งหนกั ๆ เบา ๆทำนอง
ศ ๒.๑ ป. ๕/๖ เสยี งดนตรที ่ีมีความแตกตา่ งใน
ศ ๒.๑ ป. ๕/๗ ดา้ นระดับเสยี งเสยี งประสาน
ศ ๒.๒ ป. ๕/๑ เสยี งดนตรีต่างๆท่ีถูกกำหนดให้
ศ ๒.๒ ป. ๕/๒ บรรเลงขึน้ พร้อมๆกนั

การขับร้อง หลักการขับรอ้ งเพลง
เทคนิคการขบั ร้องเพลง การ
แสดงออกทางบุคลิกภาพประเภท
ของวงดนตรี
ความสำคัญและความจำเป็นใน
การอนุรักษ์ แนวทางในการ
อนุรกั ษ์

๕๗

7 นาฏศลิ ปใ์ นท้องถน่ิ ศ 3.2 ป. 5/1 ประวัตคิ วามเป็นมาของ นาฏศลิ ป์ 3 7
ศ 3.2 ป. 5/2 การไดร้ ับอิทธพิ ลแบบแผนตาม 20
4
แนวคิดจากตา่ งชาติเขา้ มาผสม

เอกลกั ษณน์ าฏศลิ ป์ของของแต่

ทอ้ งถ่นิ

8. การแสดงนาฏศิลปแ์ ละ ศ 3.1 ป. 5/2 การฝึกภาษาท่า การฝกึ นาฏยศัพท์ 7
การใชภ้ าษาทา่ และนาฏยศัพท์
การละคร ศ 3.1 ป. 5/3 ประกอบเพลงการใชศ้ ัพท์ทางการ
ละครในการถ่ายทอดเรื่องราว
ศ 3.1 ป. 5/4

ศ 3.1 ป. 5/5

9 การชมการแสดง ศ 3.1 ป. 5/1 คณุ คา่ ด้านความรเู้ กี่ยวกับวรรณคดี 2
นาฏศลิ ปไ์ ทย ศ 3.1 ป. 5/6 ไทยมีความเข้าใจภาษาหรือคำรอ้ ง

ของเพลงตา่ งๆ

รวมทั้งสิน้ 40 100

๕๘

โครงสร้างรายวชิ า ศลิ ปะ กลุ่มสาระ การเรียนรูว้ ชิ า ศลิ ปะ รหัส ศ16101
ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 40 ชัว่ โมง/ปี

หน่วยท่ี ชือ่ หน่วย มาตรฐาน/ตัวช้ีวดั สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด เวลา คะแนน
1 พน้ื ฐานทางศิลป์ 16
2 สร้างสรรค์งานศิลป์ (ชม.) 20

3 งานศลิ ป์กบั วฒั นธรรม ศ 1.1 ป. 6/1 วงสธี รรมชาติ และสคี ู่ตรงขา้ ม 6 8
4 องคป์ ระกอบดนตรี ศ 1.1 ป. 6/2 อภิปรายเกีย่ วกบั การใช้สีคตู่ รง 11
5 สรา้ งสรรค์งานดนตรี 11
6. ดนตรีกบั มรดกทาง ข้ามในการถา่ ยทอดความคดิ และ 5
วัฒนธรรม
อารมณ์

ศ 1.1 ป. 6/3 รูปแบบ ๒ มิติ เป็น ๓ มติ ิ 6
ศ 1.1 ป. 6/4 สร้างสรรค์งานปน้ั โดยใช้หลักการเพ่ิม
ศ 1.1 ป. 6/5 และลดสร้างสรรคง์ านทัศนศิลป์โดย
ศ 1.1 ป. 6/6 ใชห้ ลักการ ของรูปและพ้ืนทว่ี ่าง
ศ 1.1 ป. 6/7 สรา้ งสรรค์งานทศั นศลิ ป์โดยใช้

สคี ู่ตรงข้ามสร้างสรรค์งานทัศนศลิ ป์

โดยหลกั การจดั ขนาดสดั สว่ น และ

ความสมดลุ สร้างงานทัศนศิลปเ์ ป็น

แผนภาพ แผนผัง และภาพประกอบ

ศ 1.2 ป. 6/1 ดนตรีในเหตุการณ์สำคัญทาง 4
ศ 1.2 ป. 6/2 ประวตั ศิ าสตร์ในยุคสมัยตา่ ง ๆ
ศ 1.2 ป. 6/3 อิทธพิ ลของวฒั นธรรมที่มีต่อดนตรี

ศ. 2.1 ป.6/1 อธิบายเร่อื งราวของดนตรีไทย 4
ศ. 2.1 ป. 6/5 ในประวัติศาสตรจ์ ำแนกดนตรีทม่ี า
ศ. 2.1 ป. 6/6 จากยคุ สมัยท่ี ต่างกัน อิทธพิ ลของ

วฒั นธรรม ตอ่ ดนตรีในทอ้ งถิ่น

ศ 2.1ป. 6/3 หลักการสร้างสรรคท์ างดนตรี 5
ศ 2.1 ป. 6/4 วธิ ีการสรา้ งสรรค์งานดนตรี

ดนตรีกับการบูรณาการและ
ประยุกตใ์ ช้

ศ 2.1 ป. 6/2 องคป์ ระกอบดนตรีในวัฒนธรรม 3
ศ 2.2 ป. 6/1 ตา่ งกันลกั ษณะเด่นของดนตรีไทย
ศ 2.2 ป. 6/2 บทบาทความสัมพนั ธ์และอิทธิพล
ศ 2.2 ป. 6/3 ของดนตรีที่มตี ่อสงั คมไทย แนวทาง

ในการอนรุ ักษ์

7 นาฏศิลปแ์ ละการละคร ศ 3.1 ป. 6/6 ประวัตคิ วามเป็นมาของนาฏศิลป์ 3 ๕๙
ศ 3.2 ป. 6/2 การไดร้ ับอทิ ธิพลแบบแผนตาม
ศ 3.2 ป. 6/3 แนวคดิ จากต่างชาติเขา้ มาผสม 5

เอกลกั ษณ์นาฏศิลป์ของของแต่ 20

ทอ้ งถน่ิ 4

8 การแสดงนาฏศิลป์และ ศ 3.1 ป. 5/2 การใช้ภาษาทา่ และนาฏยศัพท์ 7
ประกอบเพลง การใช้ศัพทท์ างการ
การละคร ศ 3.1 ป. 5/3 ละครในการ ถ่ายทอดเรื่องราว
การพัฒนารปู แบบของการแสดง
ศ 3.1 ป. 5/4

ศ 3.1 ป. 5/5

อิทธพิ ลของนักแสดงท่ีมีผลตอ่

พฤติกรรมของผ้ชู ม

9 การสร้างสรรค์ท่ารำ ศ 3.1 ป. 6/1 การตบี ทรำตามความหมายของ 2

ทางนาฏศลิ ป์ไทย ศ 3.1 ป. 6/4 บทร้องการประดิษฐ์สร้างสรรคท์ า่ รำ
ศ 3.1 ป. 6/5 ท่ารำให้สอดคล้องกับตัวละคร

การสร้างสรรคท์ า่ รำในแมบ่ ท

การจัดรูปแบบของการแสดง

รวมท้ังสิน้ 40 100

๖๐

แนวทางการวดั และประเมนิ ผล กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ศลิ ปะ

ความสำคัญ
การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช ๒๕๕๑

เป็นกระบวนการเก็บรวบรวม ตรวจสอบ ตคี วามผลการเรยี นรู้และพัฒนาการด้านตา่ ง ๆ ของผเู้ รียนตามมาตรฐานการ
เรียนรู้ /ตัวชี้วัด ของหลักสูตร นำผลไปปรับปรุงพัฒนาการจัดการเรียนรู้ และใช้เป็นข้อมูลสำหรับการตัดสินผลการ
เรียน โดยมอี งคป์ ระกอบของการวดั ผลและประเมินการเรยี นรู้ ทหี่ ลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน พุทธศักราช
๒๕๕๑ ได้กำหนด จุดหมาย สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และมาตรฐานการเรียนรู้ไว้เป็น
เป้าหมายและกรอบทิศทางในการพัฒนาผู้เรียนให้เป็นคนดี มีปัญญา มีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีขีดความสามารถในการ
แข่งขันในเวทีระดับโลก กำหนดให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ตามมาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวชี้วัด ที่กำหนดในสาระการเรียนรู้ ๘
กลมุ่ สาระ มีความสามารถด้านการอ่าน คดิ วิเคราะห์และเขยี น มคี ุณลักษณะท่พี ึงประสงคแ์ ละเข้าร่วมกจิ กรรมพัฒนา
ผู้เรียนการวัดและประเมินผลรายกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะผู้สอนวัดและประเมินผลการเรียนรู้ผู้เรยี นตามตัวชี้วัดใน
รายวชิ าพืน้ ฐาน ตามทกี่ ำหนดไว้ในหน่วยการเรียนรู้ ใชว้ ธิ ีการวดั และประเมนิ ผล ท่ีหลากหลาย จากแหลง่ ขอ้ มูล
หลาย ๆ แหล่ง เพื่อให้ได้ผลการประเมินท่ีสะท้อนความรู้ความสามารถท่ีแท้จริงของผู้เรียนโดยการวัดและประเมินผลการ
เรียนรู้อย่างต่อเนื่องไปพร้อมกับการจัดการเรียนการสอนโดยสังเกตพัฒนาการและความประพฤติของผู้เรียน สังเกต
พฤติกรรมการเรียนการรว่ มกจิ กรรม การประเมนิ ตามสภาพจริง เช่นการประเมนิ การปฏบิ ัติงาน การประเมินจากแฟ้ม
สะสมงาน เปน็ ต้น ควบคู่กับการใช้การทดสอบแบบต่างๆ อย่างสมดุลและครอบคลุมท้ังด้านความรู้ ดา้ นทกั ษะ และ
ด้านเจต และใช้เป็นข้อมูลเพื่อการประเมินการเลื่อนชั้นและการจบการศึกษาและเพื่อให้การจัดการเรียนการสอนมี
ประสทิ ธิภาพผูส้ อนต้องตรวจสอบความรู้ความสามารถท่ีแสดงพฒั นาการของผู้เรียนอย่างสม่ำเสมอและต่อเน่ือง และ
ผู้เรียนตอ้ งรบั ผิดชอบและตรวจสอบความก้าวหน้าของตนเองอย่างสมำ่ เสมอเช่นกัน หน่วยการเรียนรูเ้ ป็นสว่ นท่ีผู้สอน
และผู้เรียนใช้ตรวจสอบย้อนกลับว่าผู้เรียนเกิดการเรียนรู้หรือยัง การประเมินในระดับชั้นเรียนต้องอาศัยทั้งผลการ
ประเมนิ ยอ่ ยเพ่อื พฒั นา และการประเมินผลรวมเพอื่ สรปุ ผลการเรยี นรู้เม่อื จบหนว่ ยการเรยี นร้แู ละจบรายวชิ า

วิธีการวัดผลและประเมินผลการเรียนรู้ให้บรรลุผลตามเป้าหมายของการเรียน รู้ที่วางไว้ควรมีแนวทาง
ดงั ตอ่ ไปน้ี

๑. ต้องวัดทั้งความรู้ ความคิด ความสามารถ ทักษะกระบวนการ เจตคติ คุณธรรม จริยธรรม ค่านิยมรวมทง้ั
โอกาสในการเรยี นของผเู้ รยี น

๒. วิธีการวัดผลและประเมินผล ต้องสอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชวี้ ัด/ผลการเรยี นรู้ ทก่ี ำหนดไว้
๓. ต้องเก็บข้อมูลทไ่ี ดจ้ ากการวัดผลและประเมินผลตามความเป็นจริงและต้องประเมนิ ผลภายใต้ข้อมลู ท่ีมีอยู่
๔. ผลการวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ของผ้เู รียนตอ้ งนำไปสกู่ ารแปลผลและลงขอ้ สรุปท่ีสมเหตสุ มผล
๕. การวัดผลต้องเทยี่ งตรงและเปน็ ธรรม ทง้ั ดา้ นของวธิ ีการวดั โอกาสของการประเมิน

๖๑

วตั ถุประสงคข์ องการวดั ในรายวชิ า กลุ่มสาระศลิ ปะ
๑. เพื่อวินจิ ฉัยความรู้ ความสามารถ ทักษะกระบวนการ เจตคติ คุณธรรม จริยธรรม ค่านิยมของผู้เรียนและ

เพอื่ ส่งเสริมผเู้ รยี นให้พัฒนาความรู้ความสามารถและทกั ษะไดเ้ ตม็ ศกั ยภาพ
๒. เพื่อใชเ้ ปน็ ขอ้ มูลป้อนกลบั ให้แกต่ วั ผูเ้ รียนเองวา่ บรรลุตามมาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ช้ีวดั /

ผลการเรยี นรู้มากนอ้ ยเพียงใด
๓. เพ่ือใชเ้ ป็นขอ้ มูลสรปุ ผลการเรยี นรู้และเปรียบเทยี บถึงระดบั พฒั นาการของการเรียนรู้

การวัดผลประเมินผลตามสภาพจริง
กิจกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียนมีหลากหลาย เช่นกิจกรรมในห้องเรียน กิจกรรมการปฏิบัติ กิจกรรมการสำรวจ

กิจกรรมการตรวจสอบ การทดลอง กิจกรรมศึกษาค้นคว้า อย่างไรก็ตามในการทำกิจกรรมต้องคำนึง ว่าผู้เรียนแต่ละ
คนมีศักยภาพ ที่แตกต่างกัน ผู้เรียนแต่ละคนจึงอาจทำงานช้ินเดียวกนั ได้เสร็จในเวลาทีแ่ ตกต่างกัน และผลของงานท่ี
ได้อาจแตกต่างกันด้วย เมื่อผู้เรียนทำกิจกรรมเหล่านี้เสร็จแล้วก็จะต้องเก็บรวบรวมผลงาน เช่น รายงาน ชิ้นงาน
บนั ทกึ และรวมถงึ ทักษะปฏิบัติต่างๆ เจตคติ ความรกั ความซาบซึ้ง กิจกรรมที่ผู้เรยี นได้ทำเหล่าน้ีต้องใช้วิธีประเมินท่ี
มีความแตกต่างกัน เพื่อช่วยให้สามารถประเมินความรู้ ความสามารถและความรู้สกึ นกึ คิดที่แทจ้ ริงของผู้เรียนได้ การ
วดั และประเมินผลตามสภาพจริงจะมปี ระสิทธิภาพก็ต่อเมื่อมีการประเมินหลายๆ ด้าน หลากหลายวธิ ีในสถานการณ์ตา่ ง ๆ
กนั สอดคลอ้ งกับชีวิตจริง และต้องประเมินอย่างต่อเนอ่ื งเพอื่ จะได้ข้อมลู ท่มี ากพอที่จะสะทอ้ นของผู้เรยี นได้
ลักษณะสำคญั ของการวัดและประเมินผลจากสภาพจริง

๑. การวัดประเมินผลตามสภาพจริง มีลักษณะที่สำคัญคือใช้วิธีการประเมินกระบวนการคิดที่ซับซ้อน
ความสามารถในการปฏิบัติงาน ศักยภาพผู้เรียนในด้านของผูผ้ ลิตและกระบวนการที่ได้ผลผลติ มากกว่า ที่จะประเมิน
ว่าผเู้ รียนจดจำความรูอ้ ะไรบา้ ง

๒. เป็นการประเมินความสามารถของผู้เรียนเพื่อวินจิ ฉยั ผเู้ รียนในสว่ นท่ีควรส่งเสริมและส่วนที่แก้ไขปรับปรุง
เพือ่ ให้ผูเ้ รียนได้พัฒนาอยา่ งเต็มศักยภาพตามความสามารถ ความสนใจและความตอ้ งการของแต่ละบุคคล

๓. เป็นการประเมินที่จะเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้มีส่วนร่วมประเมินผลงานของตนเองและของเพื่อนร่วมห้อง
เพอ่ื สง่ เสริมให้ผ้เู รียนรู้จักตนเอง เชื่อม่นั ในตนเอง สามารถพฒั นาตนเองได้

๔. ข้อมูลที่ได้จากการประเมินจะสะท้อนให้เห็นถึงกระบวนการเรียนการสอนและการวางแผนการสอนของ
ผู้สอนว่าสามารถตอบสนองความสามารถ ความสนใจและความตอ้ งการของผูเ้ รยี นแต่ละบุคคลได้หรือไม่

๕. ประเมนิ ความสามารถของผูเ้ รยี นในการถ่ายโอนการเรยี นไปสชู่ วี ิตจรงิ ได้
๖. ประเมินดา้ นต่างๆดว้ ยวิธีท่หี ลากหลายในสถานการณต์ ่าง ๆอย่างตอ่ เนือ่ ง

การวัดและประเมินผลการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ ควรจัดให้ครอบคลุมทั้งด้านความรู้
ด้านทักษะกระบวนการ และด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ และสอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดตามท่ี
หลักสูตรแกนกลางขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ กำหนดไว้ ควรมุ่งเน้นการวัดสมรรถภาพโดยรวมของผู้เรียนเป็น
หลัก จดุ ประสงค์หลกั ของการวัดประเมินไม่ใช่อยทู่ ี่การวดั ผลเพื่อตดั สนิ ผลการเรยี นของผ้เู รียนเพียงอย่างเดียว แต่เป็น

๖๒

การวัดและประเมินผลเพื่อนำผลการประเมินไปใช้ในการปรับปรุงการเรียนการสอนเพื่อชว่ ยพัฒนาให้ผู้เรียนสามารถ
เรยี นรู้ศิลปะไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพและเต็มตามศกั ยภาพ
คณุ ภาพของผู้เรียนทต่ี ้องประเมนิ

การวดั และประเมนิ ผลของกลุ่มสาระศิลปะนั้นแกนกลางการศึกษาข้นั พืน้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ กำหนดให้
ทำการวัดและประเมนิ ผลตามมาตรฐานและตัวชว้ี ัด ตวั ช้วี ดั ในการวดั และประเมินผล ทต่ี อ้ งนำมาพิจารณา ดังน้ี

๑. ดา้ นความรู้
ในการวดั ประเมนิ ผลด้านความรู้ตอ้ งสอดคลอ้ งกบั มาตรฐานการเรียนรู้ ๓ สาระ ดงั นี้

สาระที่ ๑ ทศั นศลิ ป์

สาระที่ ๒ ดนตรี
สาระที่ ๓ นาฎศิลป์
๒. ด้านทักษะ / กระบวนการ

ทักษะสำคัญที่ครูผู้สอนจำเป็นต้องพัฒนาให้เกิดขึ้นกับนักเรียนเม่ือมีการจัดการเรียนรู้ศิลปะ เช่น
ทกั ษะกระบวนการทางศิลปะ ทักษะแห่งศตวรรษท่ี ๒๑

๒.๑ ทักษะกระบวนการทางศิลปะ
๒.๑.๑ ทกั ษะการรบั รู้ (Perception)
๒.๑.๒ ทักษะประสบการณ์ (Experience)
๒.๑.๓ ทักษะจินตนาการ (Imagination)
๒.๑.๔ ทกั ษะการจำแนกประเภท (Classifying)
๒.๑.๑๔ ทกั ษะการสร้างแบบจำลอง (Formulating Models)

๒.๒ ทักษะแหง่ ศตวรรษท่ี ๒๑ (21st Century Skills)
๒.๒.๑ การคดิ อย่างมวี ิจารณญาณ (Critical Thinking)
๒.๒.๒ การแก้ปญั หา (Problem Solving)
๒.๒.๓ การสอื่ สาร (Communications)
๒.๒.๔ ความร่วมมือ (Collaboration)
๒.๒.๕ การสร้างสรรค์ (Creativity)

๓. ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
การวดั ประเมินผลด้านคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ครอบคลมุ ประเด็นท่ตี อ้ งประเมนิ ดังน้ี
๓.๑ ทำงานอย่างเป็นระเบียบ
๓.๒ มีระเบยี บวนิ ยั
๓.๓ มีความรอบคอบ
๓.๔ มีความรับผิดชอบ

๖๓

๓.๕ มีวิจารณญาณ
๓.๖ มคี วามเชอื่ มนั่ ในตนเอง
๓.๗ ตระหนกั ในคณุ คา่ และมีเจตคติทดี่ ีต่อวิชาศลิ ปะ
วิธีการและแหล่งข้อมูลทใ่ี ชใ้ นการวัดผลและประเมนิ ผล
เพือ่ ใหก้ ารวดั ผลและประเมินผลได้สะท้อนความสามารถที่แท้จริงของนักเรยี น ผลการประเมินอาจ ได้มาจาก
แหลง่ ข้อมูลและวิธีการต่างๆ ดงั ต่อไปนี้
๑. สงั เกตการแสดงออกเป็นรายบคุ คลหรือรายกลมุ่
๒. ชน้ิ งาน ผลงาน รายงาน
๓. การสมั ภาษณ์ท้งั แบบเปน็ ทางการและไมเ่ ป็นทางการ
๔. บันทกึ ของนกั เรียน
๕. การประชุมปรึกษาหารอื ร่วมกนั ระหวา่ งนกั เรียนและครู
๖. การวดั และประเมินผลภาคปฏบิ ัติ
๗. การวัดและประเมนิ ผลด้านความสามารถ
๘. การวัดและประเมินผลการเรียนรโู้ ดยใชแ้ ฟ้มผลงาน

เกณฑ์การประเมิน
เกณฑ์การประเมินที่นำเสนอนี้เพอื่ เป็นแนวทางให้ครูผสู้ อนใชเ้ ปน็ กรอบในการประเมินคุณภาพของผเู้ รยี นใน

ดา้ นตา่ ง ๆ ดงั นี้
๑. เกณฑก์ ารให้คะแนนผลการเรยี นร้โู ดยการสอบ
สำหรับแบบทดสอบที่เป็นปรนัยเลือกตอบ สามารถกำหนดเกณฑ์ในการให้คะแนนอย่างกว้าง ๆ คือ

ตอบถกู ได้ ๑ คะแนน ตอบผิดได้ ๐ คะแนน
สำหรับแบบทดสอบที่เป็นอัตนัย หรือแบบความเรียงสามารถกำหนดตัวบ่งชี้และเกณฑ์ในการให้คะแนน

มากกว่าสองระดับ เชน่ อาจกำหนดคะแนนเต็มเป็น ๔ คะแนน แลว้ พจิ ารณากำหนดเกณฑ์การใหค้ ะแนนลดหล่ัน ลง
มา สำหรบั นักเรียนที่แสดงผลการเรยี นยังไมถ่ งึ เกณฑก์ ำหนด

๖๔

เกณฑ์การให้คะแนนผลการทำขอ้ สอบแบบอัตนัยที่พจิ ารณาจากการแสดงวิธกี ารหาคำตอบ และความถูก
ต้องของคำตอบ

คะแนน / ความหมาย ผลการทำขอ้ สอบท่ปี รากฏใหเ้ ห็น
๔ ดมี าก การแสดงวิธที ำชัดเจน สมบรู ณ์ คำตอบถูกตอ้ ง ครบถว้ น
๓ ดี การแสดงวธิ ีทำยงั ไม่ชดั เจนดีนัก แตอ่ ยู่ในแนวทางทีถ่ ูกตอ้ ง คำตอบถกู ต้อง
ครบถ้วน
๒ พอใช้ การแสดงวิธีทำยงั ไมช่ ดั เจน หรือไม่แสดงวธิ ที ำ คำตอบถูกต้องครบถ้วน หรือ
การแสดงวิธีทำชัดเจน สมบรู ณ์ แต่คำตอบไม่ถูกต้อง ขาดการตรวจสอบ
๑ ควรแก้ไข การแสดงวธิ ที ำยังไมช่ ัดเจนดีนัก แตอ่ ยู่ในแนวทางทถี่ ูกตอ้ ง คำตอบไมถ่ ูกต้อง
หรือ ไม่แสดงวิธีทำ และคำตอบทไ่ี ด้ไมถ่ ูกต้องแต่อยใู่ นแนวทางทถ่ี ูกต้อง
๐ ต้องปรบั ปรงุ ทำได้ไม่ถึงเกณฑ์

นอกจากการพิจารณาจากการแสดงวิธกี ารในการหาคำตอบและความถูกต้องของคำตอบแล้ว เกณฑ์ในการให้

คะแนนแบบทดสอบอตั นัยอาจพจิ ารณาจากดา้ นอืน่ ๆ อีกก็ได้ สำหรบั เกณฑ์ในการใหค้ ะแนนของการสังเกต การ

สมั ภาษณ์ และการประเมินช้ินงานสามารถสรา้ งเกณฑใ์ นทำนองเดยี วกบั เกณฑก์ ารให้คะแนนด้านทักษะ /

กระบวนการทางศิลปะก็ได้

๒. เกณฑ์การให้คะแนนดา้ นทักษะ/กระบวนการทางศิลปะ/ ทกั ษะแห่งศตวรรษท่ี ๒๑ (21st Century Skills)

คะแนน/ความหมาย ความสามารถในการปฏิบตั ิ

๓ ดี สามารถปฏิบัตไิ ด้ด้วยตนเองโดยไมเ่ พ่ิมความคดิ เหน็

๒ พอใช้ สามารถปฏบิ ัติได้แต่ต้องอาศัยการชี้แนะจากผูอ้ นื่

๑ ต้องปรับปรงุ มีไมส่ ามารถปฏบิ ตั ิได้แมว้ า่ ครูหรือผอู้ ืน่ ช่วยแนะนำหรือชแี้ นะ

๓. เกณฑ์การให้คะแนนดา้ นคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์

คะแนน/ความหมาย คณุ ลกั ษณะทีป่ รากฏใหเ้ ห็น

๓ ดมี าก ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ

๒ ดี ปฏิบัติหรอื แสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง

๑ พอใช้ ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครง้ั

๖๕

เกณฑ์การตดั สนิ คุณภาพ
คะแนน ระดบั คุณภาพ

๓ ดเี ย่ียม
๒ ดี
๑ ผา่ น
๐ ไมผ่ ่าน

๔. เกณฑ์การประเมนิ ช้นิ งานแบบองคร์ วม

คะแนน/ความหมาย คุณภาพของชน้ิ งานทป่ี รากฏใหเ้ หน็

๓ ดี - ช้นิ งานมคี วามถูกต้องตามที่ออกแบบไว้ มีขนาดเหมาะสม รปู แบบน่าสนใจ

แปลกตา และสร้างสรรค์

- เลือกใชว้ ัสดุมาสรา้ งชนิ้ งานตามที่กำหนดได้ถกู ต้อง และวัสดมุ คี วามเหมาะสมกบั

การสร้างชน้ิ งานดีมาก

- ตกแตง่ ช้ินงานไดส้ วยงามดีมาก

- ส่งช้นิ งานภายในเวลาท่กี ำหนด

๒ พอใช้ - ช้นิ งานมีความถกู ต้องตามที่ออกแบบไว้มีขนาดเหมาะสม รปู แบบนา่ สนใจ

และสร้างสรรค์

- เลอื กใชว้ ัสดุมาสร้างชนิ้ งานตามทกี่ ำหนดได้ถกู ต้อง และวสั ดมุ ีความเหมาะสมกับ

การสร้างช้นิ งานดี

- ตกแตง่ ชนิ้ งานได้สวยงามดี

- สง่ ชนิ้ งานชา้ กวา่ กำหนด ๑ - ๒ วัน

๑ ต้องปรบั ปรงุ - ชนิ้ งานมคี วามถูกตอ้ งตามท่ีออกแบบไว้ มขี นาดเหมาะสม รูปแบบน่าสนใจ

- เลือกใชว้ สั ดมุ าสรา้ งชิ้นงานไม่ตรงตามท่ีกำหนด แต่วสั ดมุ ีความเหมาะสมกบั การ

สร้างชน้ิ งาน

- ตกแต่งชิน้ งานได้สวยงามน้อย

- ส่งชน้ิ งานชา้ กว่ากำหนดเกนิ ๓ วันขึน้ ไป

๖๖

เกณฑ์การตดั สนิ คุณภาพ

ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ

๑๔-๑๕ ดีมาก

๑๑-๑๓ ดี

๘-๑๐ พอใช้

ต่ำกวา่ ๘ ปรบั ปรุง

๕. เกณฑ์การนำเสนอผลงาน

คะแนน/ความหมาย คุณภาพการนำเสนอผลงานทป่ี รากฏให้เห็น

๓ ดี - เนอื้ หาละเอียดชดั เจน ความถูกต้องของเนื้อหา ภาษาท่ใี ชเ้ ข้าใจง่าย ประโยชน์

ทไ่ี ดจ้ ากการนำเสนอ วิธกี ารนำเสนอผลงาน สอดคล้องกับรายการประเมิน

สมบูรณ์ชดั เจน

๒ พอใช้ - เนื้อหาละเอยี ดชดั เจน ความถูกต้องของเน้ือหา ภาษาที่ใช้เขา้ ใจงา่ ย ประโยชน์

ท่ไี ดจ้ ากการนำเสนอ วิธกี ารนำเสนอผลงาน สอดคล้องกบั รายการประเมินเปน็

สว่ นใหญ่

๑ ต้องปรบั ปรุง - เนอ้ื หาละเอียดชดั เจน ความถูกต้องของเนื้อหา ภาษาท่ใี ชเ้ ขา้ ใจงา่ ย ประโยชน์

ทไ่ี ดจ้ ากการนำเสนอ วธิ ีการนำเสนอผลงาน สอดคล้องกบั รายการประเมิน

บางส่วน

๖. เกณฑป์ ระเมินพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล

คะแนน/ความหมาย พฤตกิ รรมท่ีปรากฏใหเ้ ห็น

๓ ดี - การแสดงความคิดเหน็ การยอมรบั ฟังความคดิ เห็นของผู้อืน่ การทำงานตาม

หน้าทีท่ ีไ่ ด้รบั มอบหมาย ความมีนำ้ ใจ การตรงต่อเวลา แสดงพฤติกรรมอย่าง

สมำ่ เสมอ

๒ พอใช้ - การแสดงความคิดเหน็ การยอมรบั ฟงั ความคดิ เหน็ ของผู้อ่นื การทำงานตาม

หนา้ ทที่ ่ีได้รบั มอบหมาย ความมีนำ้ ใจ การตรงตอ่ เวลา แสดงพฤติกรรมอย่าง

สม่ำเสมอ แสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง

๑ ต้องปรบั ปรุง - การแสดงความคดิ เห็น การยอมรับฟงั ความคดิ เห็นของผู้อน่ื การทำงานตาม

หน้าทที่ ีไ่ ดร้ ับมอบหมาย ความมนี ้ำใจ การตรงตอ่ เวลา แสดงพฤติกรรมอยา่ ง

สม่ำเสมอ แสดงพฤติกรรมบ่อยครงั้ แสดงพฤติกรรมบางครั้ง

๖๗

๗. เกณฑป์ ระเมนิ ดา้ นคุณธรรม

คะแนน/ความหมาย ความสามารถในการปฏิบัติ

๑ เกดิ พฤติกรรม เกิดพฤติกรรมด้านคุณธรรมตามรายการท่ีประเมิน

๐ ไม่เกิดพฤตกิ รรม ไม่เกิดพฤตกิ รรมด้านคุณธรรมตามรายการที่ประเมิน

เกณฑก์ ารตดั สนิ - มากกวา่ ๘๐ % ระดับดมี าก - ๗๐% - ๘๐ % ระดบั ดี

- ๖๐ % - ๗๐ % ระดับพอใช้ - ตำ่ กวา่ ๖๐ % ระดับปรับปรุง

๘. เกณฑพ์ ฤตกิ รรมการทำงานกล่มุ

คะแนน/ความหมาย พฤตกิ รรมท่ีปรากฏให้เหน็

๓ ดี - การแสดงความคิดเหน็ การยอมรบั ฟังความคิดเห็นของผู้อื่น การทำงานตาม

หนา้ ที่ทไ่ี ดร้ ับมอบหมาย ความมีนำ้ ใจ การมสี ว่ นร่วมในการปรับปรุงผลงานกลมุ่

แสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสมำ่ เสมอ

๒ พอใช้ - การแสดงความคดิ เห็น การยอมรบั ฟงั ความคิดเห็นของผู้อน่ื การทำงานตาม

หนา้ ท่ีทไี่ ด้รบั มอบหมาย ความมนี ำ้ ใจ การมีส่วนร่วมในการปรบั ปรุงผลงานกล่มุ

แสดงพฤติกรรมอยา่ งสมำ่ เสมอ แสดงพฤติกรรมบอ่ ยคร้ัง

๑ ต้องปรบั ปรงุ - การแสดงความคดิ เหน็ การยอมรบั ฟังความคิดเห็นของผู้อ่นื การทำงานตาม

หน้าที่ท่ไี ดร้ บั มอบหมาย ความมนี ้ำใจ การมีสว่ นรว่ มในการปรับปรุงผลงานกลมุ่

แสดงพฤติกรรมอยา่ งสม่ำเสมอ แสดงพฤติกรรมบอ่ ยครงั้ แสดงพฤติกรรม

บางครง้ั

เกณฑก์ ารตดั สินคุณภาพ

ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ

๑๔-๑๕ ดมี าก

๑๑-๑๓ ดี

๘-๑๐ พอใช้

ต่ำกวา่ ๘ ปรบั ปรงุ

๖๘

เกณฑก์ ารวัดและประเมนิ ผลการเรยี น

๑. การตัดสนิ การให้ระดับและการรายงานผลการเรียน

๑.๑ การตดั สินผลการเรยี น

ในการตัดสินผลการเรยี นของกลุ่มสาระการเรียนรู้ การอ่าน คิดวิเคราะห์และเขยี น คุณลักษณะอันพึง

ประสงค์ และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนนั้น ผู้สอนต้องคำนึงถึงการพัฒนานักเรียนแต่ละคนเป็นหลัก และต้องเก็บข้อมูล

ของนักเรียนทุกด้านอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่องในแต่ละภาคเรียน รวมทั้งสอนซ่อมเสริมผู้เรียนให้พัฒนาจนเต็มตาม

ศักยภาพ

ระดบั ประถมศกึ ษา

(๑) ผู้เรยี นตอ้ งมเี วลาเรียนไมน่ ้อยกวา่ ร้อยละ ๘๐ ของเวลาเรียนทงั้ หมด

(๒) ผู้เรยี นตอ้ งไดร้ ับการประเมินทุกตัวช้วี ดั และผ่านเกณฑ์ไม่น้อยกว่าร้อยละ ๘๐ ของจำนวนตัวช้วี ดั

(๓) ผู้เรียนต้องได้รับการตัดสินผลการเรียนทุกรายวิชา ไม่น้อยกว่าระดับ “ ๑ ” จึงจะถือว่าผ่านเกณฑ์

ตามท่สี ถานศึกษากำหนด

(๔) นักเรียนต้องได้รับการประเมิน และมีผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน

ในระดับ “ ผ่าน ” ขึ้นไป มีผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ในระดับ“ ผ่าน ” ขึ้นไป และมีผลการประเมิน

กจิ กรรมพัฒนานกั เรียนในระดับ “ ผ่าน ”

การพิจารณาเลื่อนชั้นทั้งระดับประถมศึกษา ถ้านักเรียนมีข้อบกพร่องเพียงเล็กน้อย และพิจารณาเห็นว่า

สามารถพัฒนาและสอนซ่อมเสริมได้ ให้ผ่อนผันให้เลื่อนช้ันได้ แต่หากนักเรียนไม่ผ่านรายวิชาจำนวนมาก และมี

แนวโน้มว่าจะเป็นปัญหาต่อการเรียนในระดับชั้นที่สูงขึ้น ให้ตั้งคณะกรรมการพิจารณาให้เรียนซ้ำชั้นได้ ทั้งนี้ให้

คำนงึ ถึงวฒุ ิภาวะและความร้คู วามสามารถของนกั เรียนเปน็ สำคัญ

๑.๒ การใหร้ ะดับผลการเรียน

ระดบั ประถมศึกษา ในการตัดสินเพ่ือให้ระดบั ผลการเรยี นรายวิชา ใหร้ ะดบั ผลการเรยี นหรือระดบั

คณุ ภาพการปฏิบตั ขิ องนักเรียน เปน็ ระบบตวั เลขแสดงระดับผลการเรียนเปน็ ๘ ระดบั ดงั นี้

ระดับผลการเรียน ความหมาย ช่วงคะแนนร้อยละ

๔ ผลการเรียนดีเยี่ยม ๘๐ - ๑๐๐

๓.๕ ผลการเรียนดีมาก ๗๕ - ๗๙

๓ ผลการเรยี นดี ๗๐ - ๗๔

๒.๕ ผลการเรียนคอ่ นขา้ งดี ๖๕ - ๖๙

๒ ผลการเรียนนา่ พอใจ ๖๐ - ๖๔

๑.๕ ผลการเรียนพอใช้ ๕๕ - ๕๙

๑ ผลการเรยี นผา่ นเกณฑ์ขัน้ ต่ำ ๕๐ - ๕๔

๐ ผลการเรยี นต่ำกว่าเกณฑ์ ๐ - ๔๙

๖๙

การประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน และคุณลักษณะอันพึงประสงค์นั้น ให้ระดับผลการประเมินเป็น
ดีเยี่ยม ดี ผ่าน และไมผ่ า่ น

การประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน จะต้องพิจารณาทั้งเวลาการเข้าร่วมกิจกรรม การปฏิบัติกิจกรรมและ
ผลงานของผ้เู รยี น ตามเกณฑท์ ีส่ ถานศกึ ษากำหนด และให้ผลการเข้ารว่ มกจิ กรรมเปน็ ผา่ น และไม่ผ่าน

๑.๓ การรายงานผลการเรยี น
การรายงานผลการเรียนเปน็ การสือ่ สารใหผ้ ู้ปกครองและนักเรยี นทราบความก้าวหน้า ในการเรียนรู้ของ

นักเรียน ต้องสรปุ ผลการประเมนิ และจัดทำเอกสารรายงานใหผ้ ้ปู กครองทราบเป็นระยะ ๆ หรืออย่างนอ้ ยภาคเรียนละ
๑ ครงั้

การรายงานผลการเรียนสามารถรายงานเป็นระดับคุณภาพการปฏิบัติของนักเรียนที่สะท้อนมาตรฐาน
การเรยี นรกู้ ลุ่มสาระการเรียนรู้

๒. เกณฑ์การจบการศึกษา
หลักสูตรโรงเรียนวัดท่ากระบือ(ท่ากระบือพิทยาคาร) กำหนดเกณฑ์กลางสำหรับการจบการศึกษา ระดับ
ประถมศกึ ษา ดงั น้ี

๒.๑ เกณฑ์การจบระดบั ประถมศกึ ษา
๑. ผู้เรียนเรียนรายวิชาพื้นฐาน จำนวน ๕,๐๔๐ ชั่วโมง และรายวิชาเพิ่มเติม/กิจกรรมเพิ่มเติม

จำนวน ๑๒๐ ชั่วโมง และมีผลการประเมินรายวิชาพ้ืนฐานผ่านทุกรายวิชา
๒. ผู้เรียนต้องมผี ลการประเมนิ การอา่ น คดิ วิเคราะห์ และเขยี น ระดบั “ผ่าน” ขนึ้ ไป
๓. ผ้เู รียนตอ้ งมีผลการประเมนิ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ระดับ “ผา่ น” ขึน้ ไป
๔. ผู้เรียนต้องเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน และได้รับการตัดสินผลการเรียน ”ผ่าน”

ทกุ กจิ กรรม
๕. การประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คะแนนจากการประเมินปลายปี ในกลุ่มสาระการเรียนรู้

กลมุ่ ละ ๑๐๐ คะแนน

๗๐

ภาคผนวก

๗๑

อภธิ านศัพท์
ทัศนศลิ ป์

โครงสรา้ งเคลื่อนไหว (mobile)

เปน็ งานประติมากรรมท่ีมโี ครงสร้างบอบบางจัดสมดุลดว้ ยเส้นลวดแข็งบาง ๆ ทีม่ วี ัตถุรูปรา่ ง รูปทรงต่าง ๆ ที่
ออกแบบเช่ือมติดกับเสน้ ลวด เปน็ เครื่องแขวนท่ีเคลื่อนไหวไดด้ ้วยกระแสลมเพียงเบา ๆ

งานส่ือผสม (mixed media)
เป็นงานออกแบบทางทัศนศิลป์ที่ประกอบด้วยหลายสื่อโดยใช้วัสดุหลาย ๆ แบบ เช่น กระดาษ ไม้ โลหะ

สร้างความผสมกลมกลนื ดว้ ยการสรา้ งสรรค์

จังหวะ (rhythm)
เป็นความสัมพันธข์ องทัศนธาตุ เช่น เส้น สี รูปร่าง รูปทรง น้ำหนักในลักษณะของการซ้ำกนั สลับไปมา หรือ

ลกั ษณะลนื่ ไหล เคลื่อนไหวไม่ขาดระยะจังหวะที่มีความสัมพนั ธ์ต่อเน่อื งกนั จะช่วยเน้นให้เกิดความเด่น หรือทางดนตรี
ก็คือการซำ้ กันของเสยี งในช่วงเท่ากันหรือแตกตา่ งกนั จงั หวะใหค้ วามรูส้ ึกหรือความพอใจทางสุนทรียภาพในงานศิลปะ

ทศั นธาตุ (visual elements)
สิ่งที่เป็นปัจจัยของการมองเห็นเป็นส่วนต่าง ๆ ที่ประกอบกันเป็นภาพ ได้แก่ เส้น น้ำหนัก ที่ว่าง รูปร่าง

รูปทรง สี และลักษณะพน้ื ผิว

ทัศนียภาพ (perspective)
วธิ ีเขยี นภาพของวตั ถุใหม้ องเห็นว่ามีระยะใกล้ไกล

ทัศนศิลป์ (visual art)
ศิลปะทร่ี ับร้ไู ด้ดว้ ยการเหน็ ไดแ้ ก่ จติ รกรรม ประตมิ ากรรม ภาพพมิ พ์ และงานสรา้ งสรรคอ์ ืน่ ๆทีร่ บั รู้ ดว้ ยการเห็น

ภาพปะติด (collage)
เป็นภาพที่ทำขึ้นด้วยการใช้วัสดุต่าง ๆ เช่น กระดาษ ผ้า เศษวัสดุธรรมชาติฯลฯ ปะติดลงบนแผ่นภาพด้วย

กาวหรอื แปง้ เปยี ก

วงสธี รรมชาติ (color circle)
คือวงกลมซ่งึ จดั ระบบสีในแสงสีร้งุ ที่เรียงกันอยใู่ นธรรมชาติ สีวรรณะอุ่น จะอยู่ในซกี ท่มี สี แี ดงและเหลือง สว่ น

สีวรรณะเยน็ อยใู่ นซีกทีม่ สี ีเขียว และสมี ่วง สคี ู่ตรงข้ามกนั จะอยูต่ รงกนั ขา้ มในวงสี
วรรณะสี (tone)

ลักษณะของสีที่แบ่งตามความรู้สึกอุ่นหรือเย็น เช่น สีแดง อยู่ในวรรณะอุ่น (warm tone) สีเขียวอยู่ใน
วรรณะเยน็ (cool tone)

๗๒

สีค่ตู รงข้าม (complementary colors)
สที ่ีอยูต่ รงกันขา้ มกนั ในวงสธี รรมชาตเิ ป็นคสู่ กี ัน คอื สคี ทู่ ี่ตดั กนั หรือต่างจากกันมากทสี่ ดุ เชน่ สแี ดงกับสีเขียว

สเี หลอื งกับสมี ่วง สีน้ำเงินกบั สีส้ม

องคป์ ระกอบศลิ ป์ (composition of art)
วชิ าหรอื ทฤษฎที ่ีเกย่ี วกบั การสรา้ งรปู ทรงในงานทัศนศิลป์

ดนตรี

การดำเนินทำนอง (melodic progression)

๑. การก้าวเดินไปขา้ งหนา้ ของทำนอง
๒. กระบวนการดำเนินคอร์ดซ่ึงแนวทำนองขยบั ทีละขน้ั

ความเขม้ ของเสียง (dynamic)
เสียงเบา เสยี งดงั เสยี งทมี่ ีความเข้มเสียงมากกย็ ่ิงดังมากเหมอื นกับ loudness

ดน้ สด
เปน็ การเล่นดนตรหี รอื ขับร้อง โดยไมไ่ ด้เตรยี มซ้อมตามโน้ตเพลงมาก่อน ผู้เลน่ มอี สิ ระในการกำหนดวิธีปฏิบัติ

เครื่องดนตรีและขับร้อง บนพื้นฐานของเนื้อหาดนตรีที่เหมาะสม เช่น การบรรเลง ในอัตราความเร็วที่ยืดหยุ่น
การบรรเลงดว้ ยการเพิม่ หรอื ตัดโน้ตบางตวั

บทเพลงไลเ่ ลียน (canon)
แคนอน มาจากภาษากรีก แปลว่า กฎเกณฑ์ หมายถึงรูปแบบบทเพลงที่มีหลายแนวหรือดนตรีหลายแนว

แต่ละแนวมีทำนองเหมือนกัน แต่เริ่มไม่พร้อมกันแต่ละแนว จึงมีทำนองที่ไล่เลียนกันไปเป็นระยะเวลายาวกว่าการ
เลียนทั่วไป โดยทั่วไปไม่ควรต่ำกว่า ๓ ห้อง ระยะขั้นคู่ระหว่างสองแนว ที่เลียนกันจะหา่ งกนั เป็นระยะเทา่ ใดก็ได้ เช่น
แคนอนคู่สอง หมายถึง แคนอนที่แนวทั้ง เริ่มที่โน้ตห่างกันเป็นระยะคู่ ๕ และรักษาระยะคู่ ๕ ไปโดยตลอดถือเป็น
ประเภทของลีลาสอดประสานแนวทำนองแบบเลยี นท่มี ีกฎเกณฑ์เข้มงวดทีส่ ุด

ประโยคเพลง (phrase)
กลุ่มทำนอง จังหวะที่เรียบเรียงเชื่อมโยงกันเป็นหน่วยของเพลงที่มีความคิดจบสมบูรณ์ในตัวเอง มักลงท้าย

ดว้ ยเคเดนซ์ เป็นหนว่ ยสำคญั ของเพลง

ประโยคเพลงถาม - ตอบ
เป็นประโยคเพลง ๒ ประโยคที่ต่อเนื่องกันลีลาในการตอบรับ – ส่งล้อ – ล้อเลียนกัน อย่างสอดคล้อง เป็น

ลักษณะคล้ายกันกับบทเพลงรูปแบบ AB แต่เป็นประโยคเพลงสั้น ๆ ซึ่งมักจะมีอัตราความเร็วเท่ากันระหว่าง
๒ ประโยค และความยาวเท่ากัน เช่น ประโยคเพลงที่ ๑ (ถาม) มีความยาว ๒ ห้องเพลง ประโยคเพลงที่ ๒ (ตอบ)
กจ็ ะมีความยาว ๒ ห้องเพลง ซ่งึ จะมีลลี าต่างกัน แต่สอดรบั กันไดก้ ลมกลืน

๗๓

ผลงานดนตรี
ผลงานท่ีสรา้ งสรรค์ข้นึ มาโดยมคี วามเก่ียวข้องกับการนำเสนองานทางดนตรี เช่น บทเพลง การแสดงดนตรี

เพลงทำนองวน (round)
เพลงที่ประกอบด้วยทำนองอย่างน้อย ๒ แนว ไล่เลียนทำนองเดียวกัน แต่ต่างเวลาหรือจังหวะ สามารถ

ไลเ่ ลยี นกนั ไปได้อย่างต่อเนื่องจนกลบั มาเริ่มต้นใหม่ไดอ้ ีกไม่มวี นั จบ

รปู ร่างทำนอง (melodic contour)
รปู ร่างการข้ึนลงของทำนอง ทำนองท่สี มดลุ จะมีทศิ ทางการข้ึนลงทเี่ หมาะสม

สีสันของเสียง

ลักษณะเฉพาะของเสียงแต่ละชนิดที่มีเอกลักษณ์เฉพาะต่างกัน เช่น ลักษณะเฉพาะของสีสันของเสียงผู้ชาย
จะมีความทุ้มต่ำแตกต่างจากสีสันของเสียงผู้หญิง ลักษณะเฉพาะของสีสันของเสียง ของเด็กผู้ชายคนหนึ่งจะมี
ความแตกต่างจากเสยี งเดก็ ผชู้ ายคนอ่ืน ๆ

องคป์ ระกอบดนตรี (elements of music)
สว่ นประกอบสำคญั ท่ที ำใหเ้ กิดเสยี งดนตรี ได้แก่ทำนอง จังหวะ เสยี งประสาน สีสนั ของเสียง และเนื้อดนตรี

อตั ราความเร็ว (tempo)
ความช้า ความเร็วของเพลง เช่น อัลเลโกร(allegero) เลนโต (lento) ABA
สญั ลักษณบ์ อกรูปแบบวรรณกรรมดนตรีแบบตรีบท หรอื เทอร์นารี (ternary) ternary form
สังคีตลักษณ์สามตอน โครงสร้างของบทเพลงที่มีส่วนสำคัญขยับทีละขั้นอยู่ ๓ ตอน ตอนแรกและตอนที่ ๓

คือ ตอน A จะเหมือนหรือคล้ายคลึงกันทั้งในแง่ของทำนองและกุญแจเสียง ส่วนตอนที่ ๒ คือ ตอน B เป็นตอนที่
แตกตา่ งออกไป ความสำคญั ของสงั คตี ลักษณน์ ้ี คอื การกลบั มา ของตอน A ซ่ึงนำทำนองของสว่ นแรกกลับมาในกุญแจ
เสยี งเดมิ เปน็ สงั คตี ลักษณท์ ี่ใช้มากทสี่ ุดโดยเฉพาะในเพลงร้อง จึงอาจเรยี กว่า สังคีตลกั ษณเ์ พลงร้อง (song form) กไ็ ด้

นาฏศลิ ป์
การตีบท

การแสดงท่ารำตามบทร้อง บทเจรจาหรือบทพากย์ควรคำนึงถึงความหมายของบท แบ่งเป็นการตีบท
ธรรมชาติ และการตีบทแบบละคร

การประดิษฐท์ า่
การนำภาษาท่า ภาษานาฎศิลป์ หรือนาฏยศัพท์มาออกแบบ ให้สอดคล้องสัมพันธ์กับจังหวะทำนอง

บทเพลง บทรอ้ ง ลีลา ความสวยงาม

นาฏยศพั ท์
ศัพทเ์ ฉพาะทางนาฎศลิ ป์ ทใ่ี ช้เกี่ยวกบั การเรยี กทา่ รำ กิรยิ าท่ีแสดงมสี ว่ นศีรษะใบหน้าและไหล่ ส่วนแขนและ

มอื สว่ นของลำตวั สว่ นขาและเท้า

๗๔

บุคคลสำคญั ในวงการนาฎศลิ ป์
เปน็ ผูเ้ ชยี่ วชาญทางนาฎศลิ ป์ และภูมปิ ัญญาทอ้ งถนิ่ ท่สี ร้างผลงาน

ภาษาทา่
การแสดงท่าทางแทนคำพดู ใช้แสดงกิรยิ าหรอื อิริยาบถ และใชแ้ สดงถึงอารมณภ์ ายใน

ส่วนขาและเทา้
กิรยิ าแสดง เช่น กระทบ ยืดยบุ ประเท้า กระดกเทา้ กระทุ้ง จรด ขยบั ซอย วางสน้ ยกเท้า ถดั เท้า

สว่ นแขนและมอื
กริ ยิ าท่ีแสดง เชน่ จบี ต้งั วง ล่อแก้ว ม้วนมอื สะบดั มือ กรายมือ ส่ายมอื

สว่ นลำตัว
กิริยาที่แสดง เช่น ยกั ตัว โย้ตัว โยกตวั

ส่วนศีรษะใบหน้าและไหล่
กิริยาท่แี สดง เชน่ เอยี งศีรษะ เอียงไหล่ กดไหล่ กลอ่ มไหล่ กล่อมหน้า

ส่ิงที่เคารพ
ในสาระนาฎศิลป์มีสิ่งที่เคารพสืบทอดมา คือ พ่อแก่ หรือพระพรตฤษี ซึ่งผู้เรียนจะต้อง แสดงความเคารพ

เมือ่ เรม่ิ เรยี นและก่อนแสดง
องค์ประกอบนาฎศลิ ป์

จังหวะและทำนองการเคลื่อนไหว อารมณ์และความรู้สึก ภาษาท่า นาฎยศัพท์ รูปแบบของการแสดง
การแต่งกาย

องค์ประกอบละคร
การเลือกและแต่งบท การเลือกผู้แสดง การกำหนดบุคลิกของผู้แสดง การพัฒนารูปแบบของการแสดง การ

ปฏิบัตติ นของผแู้ สดงและผ้ชู ม

๗๕


Click to View FlipBook Version