The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ข้าวผัดน้ำพริกลงเรือNewภาค2ebook

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by matchima.lk, 2023-01-28 19:30:10

ข้าวผัดน้ำพริกลงเรือ

ข้าวผัดน้ำพริกลงเรือNewภาค2ebook

1


2 การแข่งขันศิลปหัตถกรรมนักเรียน ครั้งที่ ๗๐ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ การแข่งขันทำอาหารคาวและอาหารหวานเพื่อสุขภาพ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ม.1-ม.3 ชื่อเมนู “ข้าวผัดน้ำพริกลงเรือ และอินทนิลธัญพืชนมสด” ผู้เข้าแข่งขัน 1. นายจักรินทร์ โสดา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 2. นางสาวกัญญาณัฐ สอนชา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 3. นางสาวชญานิศวร์ บุญเกิด ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ครูที่ปรึกษา นายเรศวร หล้าสุพรหม นางสาวมัชฌิมา เหล่าอรรคะ โรงเรียนบึงโขงหลงวิทยาคม อำเภอบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาบึงกาฬ


3 คำนำ รายงานเล่มนี้จัดทำขึ้นเพื่อประกอบการแข่งขันศิลปหัตถกรรมนักเรียนครั้งที่ 70 กลุ่มสาระการ เรียนรู้การงานอาชีพการแข่งขันประเภทอาหารคาวหวานเพื่อสุขภาพ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 1-3 เนื้อหาภายในรายงานเล่มนี้ประกอบด้วย ความเป็นมา แนวคิดสร้างสรรค์ วิธีทำ และประโยชน์ของข้าวข้าวผัดน้ำพริกลงเรือและอินทนิลธัญพืชนมสดเพื่อสุขภาพ ในโอกาสนี้ขอขอบพระคุณคุณครูที่ปรึกษา ที่ช่วยฝึกซ้อม ให้คำชี้แนะ คอยให้การสนับสนุนใน การฝึกซ้อม และการแข่งขั้นในครั้งนี้ด้วยดีเสมอมา คณะผู้จัดทำ


4 สารบัญ เรื่อง หน้า 1. แนวคิด…………………………………………………………………………………………………………………………….1 2. ที่มาของอาหารและความคิดริเริ่มสร้างสรรค์...............…………………………………………………………..2 3. วัตถุดิบและวิธีการปรุงอาหารคาว: ข้าวผัดน้ำพริกลงเรือ....……………………………………………………..4 4. วัตถุดิบและวิธีการปรุงอาหารหวาน:อินทนิลธัญพืชนมสด……………………………………………………....8 5. เคล็ดลับความอร่อย………………………………………………………………………………………………………....12 6. การคิดต้นทุนกำไร…………………………….…………………………………………………………………….……....12 7. คุณค่าทางโภชนาการ…………………………………………………………………………..……………………………14 8. ประโยชน์…………………………………………………………………………………………..……………………………16 บรรณานุกรม


5 การแข่งขันอาหารคาว หวาน เพื่อสุขภาพ ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 อาหารคาว : ข้าวผัดน้ำพริกลงเรือ อาหารหวาน : อินทนิลธัญพืชนมสด 1. แนวความคิด พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน ปี พ.ศ. 2554 นิยามคำว่า “น้ำพริก” ว่าเป็นอาหารที่ปรุง ด้วยพริก กะปิ เป็นสำคัญ ใช้เป็นเครื่องจิ้ม หรือคลุกข้าวกิน จึงสรุปได้ว่า น้ำพริกก็ต้อง ใส่พริก ใส่กะปิ หลักฐานที่สำคัญที่สามารถยืนยันได้ว่า คนไทยกินน้ำพริกตั้งแต่สมัยอยุธยา ได้แก่ จดหมายเหตุของ ลาลูแบร์ ผู้ซึ่งเป็นราชทูตจากประเทศฝรั่งเศสที่เข้ามาเจริญสัมพันธไมตรีกับไทยในสมัยส มเด็จ พระนารายณ์มหาราช โดยลาลูแบร์ ได้บันทึกเกี่ยวกับอาหารชนิดหนึ่ง มีลักษณะเป็นน้ำจิ้มไว้ว่า “น้ำจิ้ม ของพวกเขาทำกันอย่างง่ายๆ ใช้น้ำนิดหน่อยกับเครื่องเทศ, หัวกระเทียม, หัวหอม กับผักบางชนิด ที่มี กลิ่นดี เช่น กะเพรา พวกเขาชอบบริโภคน้ำจิ้มเหลวชนิดหนึ่ง คล้ายกับมัสตาร์ด ประกอบด้วย กุ้งเคยเน่า เพราะหมักไม่ได้ที่ เรียกว่ากะปิ”


6 น้ำพริก เป็นเมนูทำง่ายอยู่คู่ครัวชาวไทยมาอย่างช้านาน เป็นที่นิยมในครัวเรือนทั่วประเทศ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เมืองไทยมีเมนูน้ำพริกหลากหลายมาก แต่ละภาคมีวิธีการทำที่แตกต่างรสชาติ ก็ต่างกัน ในวันที่ไม่ต้องการทานอาหารหนักมาก การรับประทานน้ำพริกให้อร่อยต้องรับประทานคู่กับผักสดๆกรอบๆ กับข้าวสวยร้อนๆ ก็ทำให้ หนึ่งวันเป็นวันที่มีความสุขได้ ในความเรียบง่ายของน้ำพริก แต่ก็เต็มเปี่ยมไปด้วยรสอร่อยกล มกล่อม แถมยังดีต่อสุขภาพอีกด้วย ดังนั้นจึงนำเมนู“น้ำพริกลงเรื่อ” อาหารไทยโบราณ ที่มีรสชาติอร่อยครบรส คือมีรสชาติเผ็ด เปรียว หวาน เค็ม และสารอาหารครบ 5 หมู่ พร้อมเพิ่มความอร่อยโดยเติมโปรตีนจากหมูหวาน ปลาทูน่า ไข่เจียว เติมวิตามินจากข้าวกล้อง พืชผักสมุนไพรไทยชนิดต่างๆ เช่น กระชาย, กระเทียม, มะอึก, มะนาว เป็นต้น แล้วนำวัตถุดิบมาประยุกต์เป็นข้าวผัดน้ำพริกลงเรื่อเพื่อสุขภาพ ดับความเผ็ดร้อนกลมกล่อม ของข้าวผัดน้ำพริกลงเรือ ด้วยเมนูขนมไทยโบราณประยุกต์ เมนู“อินทนิลธัญพืชนมสด” มีรสชาติหวานเย็น จากหญ้าหวาน กลมกล่อมอย่างลงตัว เพิ่มคุณค่าทาง อาหารด้วยการเติมธัญพืชชนิดต่างๆ ได้แก่ งาขาว งาดำ อัลมอนด์ เม็ดมะม่วงหิมะพาน เมล็ดฟักทอง ถั่วต่างๆ เป็นต้น ซึ่งมีประโยชน์สูงต่อสุขภาพ ให้ทั้งพลังงานและสารอาหารครบ 5 หมูรับประทานเพื่อ คลายร้อนก็อร่อย ใช้เป็นเมนูควบคุมน้ำหนักก็ดียิ่งนัก 2. ที่มาของอาหารและความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ 2.1 ข้าวผัดน้ำพริกลงเรือเพื่อสุขภาพ ข้าวผัดเกิดขึ้นครั้งแรกในประเทศจีน ซึ่งเกิดจากการนำเอาข้าวเย็นเหลือข้ามคืนผัดรวม กับส่วนผสมอื่นๆ จนทำให้เกิดเป็นอาหารเมนูใหม่ขึ้นมา จากนั้นข้าวผัดก็แพร่หลายไปพร้อมๆ กับชาวจีน ที่อพยพย้ายถิ่นกระจายกันไปทั่วโลก แต่ละประเทศต่างก็ปรับเมนูข้าวผัดให้เข้ากับลิ้นของคนท้องถิ่น และวัตถุดิบที่มีอยู่แต่ละบ้าน ( บินมูซา, 2552. ) น้ำพริกลงเรือ ตามประวัติความเป็นมาแต่โบราณเป็นน้ำพริกที่ทำขึ้นครั้งแรกโดยเจ้า จอมหม่อมราชวงศ์สดับในรัชกาลที่ 5 ทำถวายเจ้านายเล็กๆขณะเสด็จเล่นเรือ “เกิดจากการนำน้ำพริก กะปิ หมูหวาน ไข่เค็ม ปลาช่อนทอดฟู ปลาทูปลาดุกย่างทอด กระเทียมดอง หมูพะโล้ แล้วเทข้าวลง หยิบเครื่องทุกอย่างใส่จาน มะเขือ แตงกวา วางลง ใส่ช้อนส้อม จากนั้นเอาไปถวายเจ้านายเล็ก ๆ ท่านเสวยหมดทุกองค์ แล้วบอกว่าอร่อยมาก ข้าวอันนี้อร่อยมาก ก็ข้าวคลุกน้ำพริกนี่แหละ แต่เครื่อง น้ำพริกมันเยอะเจ้านายอยากเสวยอีก ก็บอกว่าเอาอย่างวันกินน้ำพริกลงเรือ ก็เลยเรียก น้ำพริกลงเรือ..." (วิกิพีเดีย, 2565)


7 จากความเป็นมาดังกล่าวจึงนำเมนู“น้ำพริกลงเรื่อ” อาหารไทยโบราณ ที่มีรสชาติ อร่อยครบรส คือ มีรสชาติเผ็ด เปรี้ยว หวาน มัน เค็ม มาดัดแปลงเป็น เมนู “ข้าวผัดน้ำพริกลงเรือ เพื่อสุขภาพ”เนื่องจากให้สารอาหารครบ 5 หมู่พร้อมเพิ่มความอร่อยโดยเติมโปรตีนจากหมูหวาน ไข่เจียว ดัดแปลงปลาดุกฟูเป็นปลาทูน่าทอดกรอบแทนเพื่อเพิ่มคุณค่าทางอาหารจากปลาทะเล เติมวิตามินจาก ข้าวกล้อง พืชผักสมุนไพรไทยชนิดต่างๆ ที่มีสรรพคุณทางยา เช่น กระชาย, กระเทียม, มะอึก, มะนาว เป็นต้น แล้วนำวัตถุดิบดังกล่าวมาปรุงเป็นเมนู “ข้าวผัดน้ำพริกลงเรือเพื่อสุขภาพ” 2.2 อินทนิลธัญพืชนมสด ดัดแปลงมาจากขนมอินทนิลน้ำกะทิ ขนมอินทนิล ประยุกต์มาจากขนมบัวลอยกับขนมเปียกปูนกะทิสด เป็นการผสมผสาน รวมเอาสิ่งที่ดีของขนมกะทิเหล่านี้มารวมเอาไว้ด้วยกัน และดัดแปลงเพิ่มโดยการเติมธัญพืชนาๆ ชนิด เช่น งาขาว งาดำ ถัวต่างๆ อัลมอนด์ เมล็ดฟักทอง เป็นต้น แล้วนำนมสดลงไปแทนน้ำกะทิ เพื่อ เพิ่มประโยชน์และคุณค่าทางอาหารต่อร่างกายสูงขึ้น รับประทานเพื่อคลายร้อนหรือตบท้ายมื้ออาหาร ก็อร่อย ใช้เป็นเมนูควบคุมน้ำหนักก็ดียิ่งนัก


8 3. เครื่องปรุง และวิธีการทำอาหารคาว 3.1 ส่วนผสม : ข้าวผัดน้ำพริกลงเรือเพื่อสุขภาพ ตารางที่ 1 ตารางแสดงส่วนผสมเมนูข้าวผัดน้ำพริกลงเรือเพื่อสุขภาพ ( 8 จาน: หนึ่งหน่วยการผลิต) ที่ ส่วนผสม อัตราส่วน หน่วย 1 ข้าวหอมมะลิ 1 ถ้วยตวง 2 ข้าวกล้อง 1 ถ้วยตวง 3 กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ 4 พริกชี้ฟ้า 15 เม็ด 5 กระเทียม 8 กลีบ 6 กุ้งแห้ง 2 ช้อนโต๊ะ 7 น้ำตาลปี๊บ (ตำน้ำพริก) 1 ช้อนโต๊ะ 8 น้ำตาลปี๊บ (ทำหมูหวาน) 1 ช้อนโต๊ะ 9 เนื้อมะอึกหั่นบาง 7 ลูก 10 น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ 11 ไข่ไก่ 8 ฟอง 12 ปลาทูน่า 1 กระป๋อง 13 สันคอหมู 500 กรัม 14 กระชาย 20 กรัม 15 ข้าวโพดอ่อน 50 กรัม 16 ผงพะโล้ 1 ช้อนโต๊ะ


9 ตารางที่ 2 ตารางแสดงผักสดและเครื่องเคียง ที่ ส่วนผสม อัตราส่วน หน่วย 1 แครอท 1 หัว 2 ข้าวโพดอ่อน 10 ฝัก 3 ถั่วฝักยาว 500 กรัม 4 แตงกวา 4 ลูก 5 บล็อกโคลี่ 1 หัว 6 ดอกกะหร่ำ 1 หัว 7 ต้นหอม 2 ต้น 8 มะเขือเทศ 5 ลูก


10 3.2 วิธีทำการทำข้าวผัดน้ำพริกลงเรือเพื่อสุขภาพ 1. นำข้าวหอมมะลิ และข้าวกล้อง ล้างน้ำให้สะอาด และหุงเตรียมไว้ 2. โขลกพริก กระเทียม กุ้งแห้ง กระชาย ให้เป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นน้ำเนื้อมะอึกหั่นบาง ลงไปโขลกเพิ่มเติม 3. ปรุงรสน้ำพริกด้วย น้ำตาลปี๊บ และน้ำมะนาว ให้มีรสชาติ เค็ม เปรี้ยว หวาน พอดี 4. นำเนื้อสันคอหมูหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ นำไปต้มในน้ำเดือดและใส่ผงพะโล้ 20 นาที จากนั้น นำไปผัดในกระทะที่ใส่น้ำมันพืชเล็กน้อย จากนั้นปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บและซอสปรุงรส เมื่อหมูสุกพักไว้ให้เย็น 5. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันพืชเล็กน้อย นำน้ำพริกที่โขลกไว้ลงมาผัดจนมีกลิ่นหอม หลังจากนั้น นำข้าวสวยที่หุงไว้ใส่ลงในกระทะและผัดให้เข้ากันกับน้ำพริก 6. ใส่ข้าวโพดอ่อนและแครอทหั่นเต๋าลงไปผัดให้เข้ากัน หลังจากนั้นปิดเตาแก๊สพักไว้ 7. นำเนื้อปลาทูน่ากระป๋องมาแยกออกจากน้ำในกระป๋อง หลังจากนั้นนำเนื้อปลาทูน่าไปตำ ในครกให้ละเอียดผสมกับไข่ไก่ ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชให้ร้อนและน้ำเนื้อปลาทูน่าลงไป ทอดในมันให้สุก ตักขึ้นพักไว้ 8. ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชเล็กน้อย แล้วนำไข่ที่ตีไว้ลงไปเจียวในกระทะ เมื่อไข่สุกให้นำมา ซอยเป็นเส้นเล็กแล้วพักไว้ 9. นำบล็อกโคลี่ ดอกกะหร่ำ หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ ถั่วฝักยาว และต้นหอมไปลวกในน้ำให้สุก 10.นำข้าวที่ผัดแล้ว ไข่เจียว หมูหวาน ทูน่าฟู จัดลงจานอาหารให้สวยงาม ตกแต่งด้วยผักสด และเครื่องเคียงที่เตรียมไว้ พร้อมรับประทาน


11 ภาพประกอบขั้นตอนการปรุงอาหารคาว เมนู ข้าวผัดน้ำพริกลงเรือเพื่อสุขภาพ 1. ขั้นตอนการทำน้ำพริกลงเรือ 1. โขลกพริก กระเทียม กุ้งแห้ง กระชาย ให้เป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นน้ำเนื้อมะอึกหั่นบาง ลงไปโขลกเพิ่มเติม 2. ปรุงรสน้ำพริกด้วย น้ำตาลปี๊บ และน้ำมะนาว ให้มีรสชาติ เค็ม เปรี้ยว หวาน พอดี 2. ขั้นตอนการทำหมูหวาน นำเนื้อสันคอหมูหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ นำไปต้มในน้ำเดือดและใส่ผงพะโล้ 20 นาที จากนั้นนำไปผัด ในกระทะที่ใส่น้ำมันพืชเล็กน้อย จากนั้นปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บและซอสปรุงรส เมื่อหมูสุกพักไว้ให้เย็น


12 3. ขั้นตอนการทำทูน่าฟู และไข่เจียว 1. นำเนื้อปลาทูน่ากระป๋องมาแยกออกจากน้ำในกระป๋อง หลังจากนั้นนำเนื้อปลาทูน่าไปโขลก ในครกให้ละเอียดผสมกับไข่ไก่ ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชให้ร้อนและน้ำเนื้อปลาทูน่าลงไปทอดในมัน ให้สุก ตักขึ้นพักไว้ 2. ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชเล็กน้อย แล้วนำไข่ที่ตีไว้ลงไปเจียวในกระทะ เมื่อไข่สุกให้นำมาซอยเป็น เส้นเล็กแล้วพักไว้


13 4. ขั้นตอนการผัดข้าวผัดน้ำพริกลงเรือ 1. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันพืชเล็กน้อย นำน้ำพริกที่โขลกไว้ลงมาผัดจนมีกลิ่นหอม หลังจากนั้นนำข้าว สวยที่หุงไว้ใส่ลงในกระทะและผัดให้เข้ากันกับน้ำพริก 2. ใส่ข้าวโพดอ่อนและแครอทหั่นเต๋าลงไปผัดให้เข้ากัน หลังจากนั้นปิดเตาแก๊สพักไว้ 3. นำบล็อกโคลี่ ดอกกะหร่ำ หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ ถั่วฝักยาว และต้นหอมไปลวกในน้ำให้สุก 4. นำข้าวที่ผัดแล้ว ไข่เจียว หมูหวาน ทูน่าฟู จัดลงจานอาหารให้สวยงาม ตกแต่งด้วยผักสด และ เครื่องเคียงที่เตรียมไว้ พร้อมรับประทาน


14 เคล็ดลับความอร่อย ภาพแสดง ข้าวผัดน้ำพริกลงเรือเพื่อสุขภาพ เคล็ดลับเพิ่มความอร่อย เวลารับประทานควรคลุกเคล้าทุกอย่างเข้าด้วยกัน เพื่อจะได้รสชาติที่กลมกล่อมครบรส เผ็ด เปรียว หวาน มัน เค็ม


15 4. เครื่องปรุงและวิธีการทำอาหารหวานเพื่อสุขภาพ: อินทนิลธัญพืชนมสด 4.1 ส่วนผสมอินทนิลธัญพืชนมสด ตารางที่ 3 ตารางแสดงส่วนผสมเมนูขนมหงส์เบญจรงค์ ผลิตขนมได้จำนวน 10 ชุด ที่ ส่วนผสม อัตราส่วน หน่วย 1 แป้งสาลี 2 ถ้วยตวง 2 ใบเตย 3 ใบ 3 น้ำใบเตย 4 ถ้วยตวง 4 น้ำตาลจากหญ้าหวาน (สำหรับผสมกับนม) 1 4 ถ้วยตวง 5 น้ำตาลจากหญ้าหวาน (สำหรับผสมกับแป้ง) 1 4 ถ้วยตวง 6 น้ำเปล่า 500 มิลลิลิตร 7 นมสดรสจืด 500 มิลลิลิตร 8 นมข้นจืด 500 มิลลิลิตร 9 เกลือ 1 ช้อนชา 10 งาขาว 1 4 ถ้วยตวง 11 งาดำ 1 4 ถ้วยตวง 12 เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ 50 กรัม 13 อัลมอนด์ 50 กรัม 14 แมคคาดาเมีย 50 กรัม 15 พิสตาชิโอ 50 กรัม


16 4.2 ขั้นตอนการทำอินทนิลธัญพืชนมสด 1. นำนมสดรสจืด นมข้นจืด ผสมกับน้ำตาลจากหญ้าหวานและเกลือ ตั้งไฟกลางในกระทะ และใส่ ใบเตยที่มัดไว้ลงไปต้ม เป็นเวลา 5 นาที พักไว้ให้เย็น 2. นำแป้งสาลี น้ำตาลจากหญ้าหวาน น้ำใบเตย ผสมให้เข้ากัน คนส่วนผสมให้เข้ากันในกระทะใช้ไฟ อ่อน คนจนแป้งข้นและมีสีเขียวใสและใส่งาที่คั่วแล้วลงไป ปิดไฟพักทิ้งไว้สักครู่ 3. นำแป้งใส่ในถุงสำหรับบีบ บีบและตัดเป็นชิ้นพอดีคำใน น้ำเปล่าผสมกับหญ้าเล็กน้อย แล้วพักไว้ 4. นำเมล็ดมะม่วงหิมพานต์ อัลมอนด์ แมคคาดาเมีย พิสตาชิโอ คั่วในกระทะให้หอม แล้วบุบพอ แตกเตรียมไว้ 5. ตักนมสด เนื้ออินทนิล ใส่ถ้วยที่เตรียมไว้ โรยด้วยธัญพืชที่คั่วและบุบแล้วลงไป และตามด้วยงา ขาวและงาดำเล็กน้อย ใส่น้ำแข็งก่อนรับประทาน พร้อมรับประทาน


17 ภาพประกอบขั้นตอนการปรุงอาหารหวาน เมนู อินทนิลธัญพืชนมสดเพื่อสุขภาพ 1. นำนมสดรสจืด นมข้นจืด ผสมกับน้ำตาลจากหญ้าหวานและเกลือ ตั้งไฟกลางในกระทะ และใส่ใบเตยที่มัดไว้ลงไปต้ม เป็นเวลา 5 นาที พักไว้ให้เย็น 2. นำแป้งสาลี น้ำตาลจากหญ้าหวาน น้ำใบเตย ผสมให้เข้ากัน คนส่วนผสมให้เข้ากันในกระทะ ใช้ไฟอ่อน คนจนแป้งข้นและมีสีเขียวใสและใส่งาที่คั่วแล้วลงไป ปิดไฟพักทิ้งไว้สักครู่ 3. นำแป้งใส่ในถุงสำหรับบีบ บีบและตัดเป็นชิ้นพอดีคำใน น้ำเปล่าผสมกับหญ้าเล็กน้อย แล้วพักไว้


18 4. นำเมล็ดมะม่วงหิมพานต์ อัลมอนด์ แมคคาดาเมีย พิสตาชิโอ คั่วในกระทะให้หอม แล้วบุบ พอแตกเตรียมไว้ 5. ตักนมสด เนื้ออินทนิล ใส่ถ้วยที่เตรียมไว้ โรยด้วยธัญพืชที่คั่วและบุบแล้วลงไป และตามด้วย งาขาวและงาดำเล็กน้อย ใส่น้ำแข็งก่อนรับประทาน พร้อมรับประทาน


19 เคล็ดลับความอร่อย ภาพแสดงเมนูขนมหวานอินทนิลธัญพืชนมสด เคล็ดลับเพิ่มความอร่อย เมนูอินทนิลธัญพืชนมสด เป็นเมนูที่รับประทานได้ทุกเพศทุกวัย ทานหลังมื้ออาหาร หรือทาน เพื่อคลายร้อนก็อร่อย ใช้เป็นเมนูควบคุมน้ำหนักก็ดี วิธีเพิ่มความอร่อย คือ การเติมน้ำแข็ง หรือแช่เย็น ก่อนรับประทานจะช่วยเพิ่มความอร่อย และเพิ่มความสดชื่นให้แก่ผู้รับประทาน มากยิ่งขึ้น


20 5. เคล็ดลับความอร่อย 5.1 เคล็ดลับความอร่อยข้าวผัดน้ำพริกลงเรือ 5.1.1 การเลือกซื้อวัตถุดิบต้องเลือกซื้อที่ สด ใหม่ และมีคุณภาพดังนี้ 1) กะปิควรเลือกกะปิที่ไม่เค็มและมีกลิ่นเหม็นเกินไป ควรนำกะปิไปย่างไฟเพื่อให้ กะปิมีกลิ่นหอมมากขึ้น 2) ผักต่างๆ ควรเลือกซื้อผักสดที่สะอาด ไม่มีคราบดิน หรือคราบขาวของสารพิษ กำจัดศัตรู พืชหรือเชื้อราตามใบ ซอกใบ หรือก้านผัก เลือกซื้อผักสดที่มีรูพรุนเป็นรอยกัดแทะของหนอน แมลงอยู่บ้าง ไม่ควรเลือก ซื้อผักที่มีใบสวยงามเพราะถ้าหากว่าหนอนกัด เจาะผักได้ แสดงว่า มีสารพิษ กำจัดศัตรูพืชในปริมาณที่ไม่เป็นอันตรายมาก 3) ปลาทูน่า หลังจากยีเนื้อปลาและนำก้างออกแล้วควรนำไปตำเพื่อให้เหนียวเกาะ กันดี เวลาที่นำไปทดจะทำให้เนื้อปลาเกาะเป็นแพสวยไม่แตก 5.2 การทำอาหารหวาน 5.2.1 การคั่วธัญพืชควรใช้ไฟอ่อนป้องกันการไหม้ 5.2.2 การเคี่ยวอินทนิลต้องคนตลอดเวลาป้องกันแป้งอินทนิลไหม้ติดหม้อ 5.2.3 สามารถเพิ่มรส สัมผัสในเนื้ออินทนิลนมสดได้โดยการ เติมงา หรือธัญพืชลงไปใน เนื้ออินทนิลเพิ่มจะทำให้อร่อยมากขึ้น


21 6. การคิดต้นทุนกำไร 6.1 ตารางที่ 4 ตารางแสดงต้นทุน-กำไรข้าวผัดน้ำพริกลงเรือ (8 จาน : หนึ่งหน่วยการผลิต) รายการ ราคา รวมต้นทุน/ กำไร ราคา ข้าวหอมมะลิ 1 ถ้วยตวง 15 บาท รวมต้นทุนการผลิต 340 บาท ข้าวกล้อง 1 ถ้วยตวง 15 บาท เฉลี่ยราคาต้นทุนต่อจาน (8 ) 42.50 บาท กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ 10 บาท ราคาขายต่อหน่วย (1 ห่อ) 55 บาท พริกชี้ฟ้า 15 เม็ด 10 บาท ขายได้ 440 บาท กระเทียม 8 กลีบ 5 บาท กำไร 100 บาท กุ้งแห้ง 2 ช้อนโต๊ะ 20 บาท น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ (สำหรับตำ น้ำพริก) และ1 ช้อนโต๊ะ (สำหรับทำหมู หวาน) 5 บาท เนื้อมะอึกหั่นบาง 7 ลูก - บาท น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ 10 บาท กระชาย 20 กรัม 5 บาท ไข่ไก่ 8 ฟอง 32 บาท ปลาทูน่า 1 กระป๋อง 45 บาท เนื้อสันคอหมู 500 กรัม 100 บาท แครอท 1 หัว 5 บาท ข้าวโพดอ่อน 10 ชิ้น 20 บาท ถั่วฝักยาว 50 กรัม 10 บาท แตงกวา 4 ลูก 10 บาท ต้นหอม 2 ต้น 5 บาท มะเขือเทศ 10 ลูก 20 บาท บล็อกโคลี่ 1 หัว 38 บาท ดอกกะหร่ำ 1 หัว 40 บาท


22 6.2 ตารางที่ 5 ตารางตารางแสดงต้นทุน-กำไรขนมอินทนิลธัญพืชนมสด รายการ ราคา รวมต้นทุน/ กำไร ราคา แป้งสาลี 2 ถ้วยตวง 10 บาท รวมต้นทุนการผลิต 145 บาท ใบเตย 3 ใบ มัดรวมกัน - บาท เฉลี่ยราคาต้นทุนต่อถ้วย (10 ถ้วย) 14.5 บาท น้ำใบเตย 41 2 ถ้วยตวง - บาท ราคาขายต่อหน่วย (1 ห่อ) 20 บาท น้ำตาลจากหญ้าหวาน 1 4 ถ้วยตวง(สำหรับผสมนม) และ 1 4 ถ้วยตวง(สำหรับผสมกับแป้ง) 10 บาท ขายได้ 200 บาท น้ำเปล่า 500 มิลลิลิตร 5 บาท กำไร 55 บาท นมสดรสจืด 500 มิลลิลิตร 23 บาท นมข้นจืด 150 มิลลิลิตร 12 บาท เกลือ 1 ช้อนชา - บาท งาขาว 1 4 ถ้วยตวง งาดำ1 4 ถ้วยตวง 5 บาท เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ 50 กรัม 20 บาท อัลมอนด์ 50 กรัม 20 บาท แมคคาดาเมีย 50 กรัม 20 บาท พิสตาชิโอ 50 กรัม 20 บาท


23 7. คุณค่าทางโภชนาการต่อ 1 หน่วยบริโภค ข้าวผัดน้ำพริกลงเรือ ต่อ 1 จาน บริโภค 335 กิโล/ แคลอรี่ ขนมอินทนิลธัญพืชนมสดต่อ 1 ลูก บริโภค 41 กิโล/ แคลอรี่ ตารางที่ 6 ตารางแสดงคุณค่าทางอาหาร ที่ สารอาหาร 5 หมู่ อาหาร 1 พลังงานโปรตีน ไข่ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ หมูหวาน ปลาทูน่า นม 2 คาร์โบไฮเดตร ข้าว ข้าวกล้อง น้ำตาล แป้ง 3 พลังงานไขมัน เม็ดมะม่วงหิมพานต์ หมูหวาน งา น้ำมันพืช 4 วิตามิน แครอท หัวหอม ถั่วฝักยาว ข้าวกล้อง 5 เกลือเร่ ถั่วฝักยาว แตงกวา แครอท หัวหอม ธัญพืช งา จากตารางที่ 6 ขอยกตัวอย่างข้อมูลทางโภชนาการ และสรรพคุณ ของวัตถุดิบที่นำมาประกอบ อาหาร เมนูข้าวผัดน้ำพริกลงเรือ และอินทนิลธัญพืชนมสด ดังต่อไปนี้ 7.1 งา งา ชื่อสามัญ Sesame Seeds งาดำ ชื่อวิทยาศาสตร์คือ Sesamumindicum L. (ชื่อพ้อง วิทยาศาสตร์ Sesamumorientale L.) จัดอยู่ในวงศ์งา (PEDALIACEAE) งาดำอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ ธาตุอย่างวิตามินบี 1, บี 2, บี 3, บี 5, บี 6, บี9, แคลเซียม, แมกนีเซียม,โพแทสเซียม โซเดียม, ฟอสฟอรัส สังกะสี, เหล็ก, เป็นต้น โดยมีสรรพคุณสามารถช่วยบำรุงร่างกายเกือบทุกส่วนไม่ว่าจะเป็นผม, ผิวพรรณ, กระดูก, เล็บ, ระบบขับถ่าย, การบำรุงหัวใจ, จึงเหมาะกับทุกวัยแม้กระทั่งเด็กที่มีอาการป่วยอยู่แล้ว หรือ ผู้หญิงที่กำลังก้าวเข้าสู่วัยทอง งาดำจะจำเป็นอย่างมาก เพราะจะช่วยป้องกันโรคภาวะกระดูกพรุนอย่าง ได้ผล 7.2 เม็ดมะม่วงหิมพานต์ เป็นถั่วที่ให้พลังงาน 160 แคลอรี่ต่อ 1 เสิร์ฟ มีโปรตีน 4 กรัม และมีไขมันไม่อิ่มตัวสูง เช่นเดียวกับถั่วอื่นๆ เม็ดมะม่วงหิมพานต์เป็นแหล่งอุดมสารอาหารมากมาย อย่างทองแดง แมกนีเซียม ทั้ง ยังช่วยลำเลียงธาตุเหล็กได้ดีเยี่ยม จากงานวิจัยในวารสารการแพทย์ของ The New England พบว่า การ บริโภคเม็ดมะม่วงหิมพานต์นั้นสามารถการชะลอวัยในมนุษย์ได้


24 7.3 แครอท แครอทอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ เช่น เบตาแคโรทีน วิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินซี วิตามินอี ธาตุแคลเซียม ธาตุโพแทสเซียม ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก และยังมีสารสำคัญคือสาร "ฟอลคารินอล" (falcarinol) ซึ่งช่วยต่อต้านเซลล์มะเร็ง เป็นต้น สำหรับ ประโยชน์ของแครอทนั้นที่เด่น ๆ ก็เห็นจะเป็นการนำมาใช้ประกอบอาหารได้อย่างหลากหลายเมนู ไม่ว่า จะเป็นของหวานของคาว ทั้งผัด ทอด แกง ต้ม ซุป สลัด ยำ ก็มีแครอทเป็นส่วนประกอบทั้งนั้น และยังมี เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพอย่างน้ำแครอทปั่นอีกด้วย ยังไม่หมดเท่านี้สรรพคุณของแครอทที่ใช้เป็นยารักษาโรค ก็ใช้รักษาได้อย่างหลากหลาย เช่น บำรุงสุขภาพผิวให้สดใสเปล่งปลั่ง ป้องกันเซลล์ผิวไม่ให้ถูกทำลายได้ ง่ายจากมลภาวะแสงแดดต่าง ๆ เสริมสร้างการเจริญเติบโตของร่างกาย บำรุงกระดูก ฟัน เหงือก เล็บ ให้แข็งแรงยิ่งขึ้น มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งมีส่วนช่วยในการชะลอวัยและการเกิดริ้วรอยแห่งวัย สร้างสร้างภูมิต้านทานโรคของร่างกายให้แข็งแรงยิ่งขึ้น ยับยั้งต่อต้านการเกิดโรคมะเร็ง ลดระดับ คอเลสเตอรอลในร่างกาย รักษาโรคความดันโลหิตสูง รักษาระดับน้ำตาลในเลือด เพิ่มประสิทธิภาพใน ระบบไหลเวียนของเลือด บำรุงเซลล์ผิวหนัง บำรุงเส้นผม ลดอัตราการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง อัมพฤษ์ อัมพาต ลดความเสี่ยงจากการเกิดโรคหัวใจและภาวะหัวใจล้มเหลว บำรุงและรักษาสายตา รักษาโรคตาฟาง และต้อกระจก รักษาโรคถุงลมโป่งพองและไทยรอยด์เป็นพิษ ช่วยย่อยอาหาร และช่วย แก้และบรรเทาท้องผูก ใช้เป็นยาขับปัสสาวะ ใช้เป็นยาถ่ายพยาธิไส้เดือน ช่วยรักษาฝี แผลเน่าต่าง ๆ 7.4 ถั่วฝักยาว ภาษาอังกฤษคือ yardlong bean มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Vigna unguiculata subsp. เป็นพืชล้มลุกตระกูลเดียวกับพวกถั่วต่าง ๆ อย่าง ถั่วเขียว ถั่วเหลือง ถั่วแปบ คืออยู่ในวงศ์ Fubaceae มีลักษณะพิเศษที่ทำให้แตกต่างจากถั่วชนิดอื่นอย่างชัดเจน คุณค่าทางอาหาร พลังงาน คาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน วิตามินเอ วิตามินบี 1 (ไทอามีน) วิตามินบี 2 (ไรโบฟลาวิน) 0.110 มิลลิกรัม วิตามินบี 3 (ไนอะซิน) วิตามินบี 5 (แพนโทเทนิก) วิตามินบี 6 (ไพริดอกซิน) วิตามินบี 9 (โฟ เลต) วิตามินซี โซเดียม โพแทสเซียม แคลเซียม ทองแดง เหล็ก แมกนีเซียม แมงกานีส ฟอสฟอรัส ซีลีเนียม และสังกะสี


25 7.5 กระชาย คุณค่าทางโภชนาการ ประกอบไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการดังนี้คาร์โบไฮเดรต ไขมัน อิ่มตัว โปรตีน ใยอาหาร วิตามินซี โพแทสเซียม โซเดียม น้ำตาล เหล็ก แมกนีเซียม วิตามินบี6, 12 สรรพคุณ:ตำรายาไทย: เหง้า ลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ แน่นจุกเสียด แก้ปวดมวนท้อง ขับลม ช่วยให้กระเพาะ และลำไส้เคลื่อนไหวดีขึ้น แก้โรคอันเกิดในปาก แก้มุตกิด แก้ลมอันบังเกิดแต่กอง หทัยวาต แก้ปากเปื่อย ปากแห้ง ปากแตกเป็นแผล แก้ปวดมวนในท้อง แก้บิดมูกเลือด แก้ปวดเบ่ง รักษา ลำไส้ใหญ่อักเสบ บำรุงกำลัง ช่วยเจริญอาหาร ขับระดูขาว แก้ใจสั่น ราก(นมกระชาย) แก้กามตายด้าน ทำให้กระชุ่มกระชวย บำรุงความกำหนัด มีสรรพคุณคล้ายโสม หมอโบราณเรียกว่า “โสมไทย” หัวและ ราก ขับปัสสาวะ แก้กระษัย เบาเหลือง แดง เจ็บปวดบั้นเอว บำรุงกำหนัด บำรุงหัวใจ บำรุงกำลัง แก้ใจ สั่นหวิว ขับปัสสาวะ หัวใช้เผาไฟฝนรับประทานกับน้ำปูนใส เป็นยาแก้บิด แก้โรคบังเกิดในปาก บัญชียาจากสมุนไพร: ที่มีการใช้ตามองค์ความรู้ดั้งเดิม ตามประกาศคณะกรรมการพัฒนาระบบ ยาแห่งชาติ ในบัญชียาหลักแห่งชาติ ระบุตำรับ "ยาเลือดงาม" มีส่วนประกอบของเหง้ากระชายร่วมกับ สมุนไพรชนิดอื่นๆ ในตำรับ มีสรรพคุณบรรเทาอาการปวดประจำเดือน ช่วยให้ประจำเดือนมาเป็นปกติ แก้มุตกิด ตำรายาแผนโบราณของไทย: มีการใช้กระชายใน “พิกัดตรีกาลพิษ” คือการจำกัดจำนวนตัวยา แก้พิษตามกาลเวลา 3 อย่าง มีรากกะเพราแดง เหง้าข่า และหัวกระชาย สรรพคุณบำรุงธาตุ บำรุงความ กำหนัด แก้ไข้สันนิบาต แก้เลือด เสมหะ แก้กามตายด้าน ตำรายาพื้นบ้านนครราชสีมา: ใช้เหง้า แก้โรคบิด โดยนำเหง้าย่างไฟให้สุกแล้วโขลกให้ละเอียด ผสมกับน้ำปูนใส รับประทานทั้งน้ำและเนื้อ ครั้งละครึ่งแก้ว เช้า เย็น และใช้เหง้าแก้กลากเกลื้อน โดยนำ เหง้ามาโขลกให้ละเอียดผสมกับเหล้าโรงทาบริเวณที่เป็นแผล ตำรายาพื้นบ้านล้านนา: ใช้เหง้า รักษาโรคทางดินปัสสาวะอักเสบ กลากเกลื้อน ท้องอืดเฟ้อ


26 8. ประโยชน์ที่นักเรียนและผู้เกี่ยวข้องได้รับ ประโยชน์ต่อนักเรียนที่จัดทำ 1. ฝึกกระบวนการคิดริเริ่มสร้างสรรค์ เช่น การนำผักผลไม้ของไทยมาดัดแปลงเป็นมูนูอาหาร เพื่อสุขภาพ 2. ฝึกทักษะการแสวงหาความรู้ ส่งเสริมให้เป็นผู้มีนิสัยใฝ่เรียนรู้ 3. ฝึกทักษะในการทำงานครัว และมีเจตคติที่ดีต่ออาชีพ 4. ฝึกการทำงานด้วยความอดทน มุ่งมั่น ตั้งใจ 5. ฝึกการทำงานร่วมกับผู้อื่น ยอมรับฟังความคิดเห็นซึ่งกันและกัน 6. ฝึกการทำงานตามขั้นตอนอย่างเป็นระบบด้วยความสะอาด รอบคอบ ปลอดภัย 7. ฝึกการทำงานที่มีคุณธรรม เช่น ความเสียสละ ความซื่อสัตย์ ตรงต่อเวลา 8. ฝึกให้กล้าแสดงออก นำเสนอผลงานต่อผู้อำนวยการโรงเรียน ครู บุคลากรโรงเรียน และผู้ปกครอง 9. ฝึกการทำงานที่อนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม เช่น หลังใช้แก๊สหุงต้มจะปิดถังแก๊สทันที การแยกขยะ การนำเศษผัก เศษอาหารมาหมักปุ๋ยชีวภาพ 10. นำความรู้ ทักษะ ประสบการณ์ที่ได้รับมาใช้ในชีวิตประจำวัน 11. นำความรู้มาบูรณาการกับการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่นๆ ประโยชน์ต่อนักเรียนในโรงเรียนบึงโขงหลงวิทยาคม 1. ได้รับความรู้เกี่ยวกับการทำอาหารเพื่อสุขภาพจากผักผลไม้ และธัญพืชในท้องถิ่น นำไปบูรณา การในการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี หรือกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่นๆ ต่อไป 2. จัดกิจกรรมขยายผลให้นักเรียนที่สนใจ มาเรียนรู้ และฝึกปฏิบัติ เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ใน ชีวิตประจำวัน หรือผลิตเพื่อการจำหน่ายหารายได้ระหว่างเรียนต่อไป ประโยชน์ต่อผู้เกี่ยวข้อง 1. ผู้บริหารได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติ การบริหารจัดการกระบวนการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็น สำคัญ ส่งเสริมกระบวนการคิด และการแก้ปัญหา 2. ครูที่ฝึกสอนนักเรียน มีทักษะ ประสบการณ์ความชำนาญในการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน 3. ครูกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยีรวมถึงครูกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่นๆ มีส่วน ร่วมในการประเมินผลงานนักเรียน นำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในการสอนนักเรียนในระดับชั้นต่างๆ 4. ลูกจ้าง นักการภารโรง มีส่วนร่วมในการประเมินผลงานนักเรียนเกิดความสนใจที่จะเรียนรู้ เพื่อ นำผลผลิตไปจำหน่ายในชุมชน


27 9. ประมวลภาพการการขอคำแนะนำจากคุณครูเพื่อนำผลการติชมไปปรับปรุงและพัฒนาให้ดีขึ้น สรุปข้อเสนอแนะ 1. ควรนำผักเครื่องเคียงหั่นชิ้นบางๆ และนำไปผัดรวมกับข้าวผัด 2. ผักเครื่องเคียงแข็งเกินไป ควรเพิ่มเวลาในการลวกนานขึ้น 3. หมูหวานเหนียวเกินไป 4. เนื้ออินทนิลควรเติมธัญพืชเพิ่ม เพื่อเติมรสสัมผัสให้อร่อยขึ้น 5. ข้าวผัดควรผสมข้าวกล้องเพื่อเพิ่มคุณค่าทางอาหาร


28 บรรณานุกรม ความเป็นมาของข้าวผัด. สืบค้นเมื่อ 20 ตุลาคม 2562, จาก https://th.wikipedia.org/wiki/ข้าวผัด บันมูซา. 2552. ความเป็นมาของข้าวผัด. สืบค้นเมื่อ 20 ตุลาคม 2562, จาก http://oknation. nationtv.tv/blog/muslimchiangmai/2010/09/13/entry-. พบแพทย์. ธัญพืช. สืบค้นเมื่อ 20 ตุลาคม จาก https://www.pobpad.com/ เมทไทย. แครอท. สืบค้นเมื่อ 20 ตุลาคม จาก https://medthai.com/ เมทไทย. น้ำพริกลงเรือ. สืบค้นเมื่อ 20 ตุลาคม 2562 จาก https://medthai.com/ วงใน. ขนมอินทนิล. สืบค้นเมื่อ 20 ตุลาคม จากhttps://www.wongnai.com/recipes/bua-loy-stick


Click to View FlipBook Version