The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

เอกสารประกอบการประชุมสภามหาวิทยาลัย ครั้งที่ 4-67

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

เอกสารประกอบการประชุมสภามหาวิทยาลัย ครั้งที่ 4-67

เอกสารประกอบการประชุมสภามหาวิทยาลัย ครั้งที่ 4-67

มหาวิทยาลัย ส่วนงาน หลักสูตร รวม กรอบงบประมาณ ปี 2567 รวมทั้งสิ้น นอกงบ - 17,180,000 9,427,300 26,607,300 47,755,620 - 17,180,000 9,427,300 26,607,300 47,755,620 ๘๔


๔.๑๐ เรื่อง ขออนุมัติเปิดหน่วยวิทยบริการคณะสังคมศาสตร์ วัดอินทาราม อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม ด้วยคณะสังคมศาสตร์ มีบันทึกที่ อว ๘๐๐๕/๐๘๒ ลงวันที่ ๒๗ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๗ เรื่อง ขอความเห็นชอบโครงการเปิดหน่วยวิทยบริการคณะสังคมศาสตร์ วัดอินทาราม อำเภออัมพวา จังหวัด สมุทรสงคราม ซึ่งคณะกรรมการกำกับดูแลนโยบายและแผนพัฒนามหาวิทยาลัย ได้อนุมัติบรรจุโครงการ เปิดหน่วยวิทยบริการคณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ณ วัดอินทาราม จังหวัดสมุทรสงคราม ไว้ในแผนพัฒนามหาวิทยาลัย โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ ๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๖ และให้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจความพร้อมการขอเปิดหน่วยวิทยบริการคณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัย มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ณ วัดอินทาราม ตำบลเหมืองใหม่ อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม คณะกรรมการตรวจความพร้อมการขอเปิดหน่วยวิทยบริการคณะสังคมศาสตร์ฯ ในคราวประชุม เมื่อวันที่ ๒๙ มีนาคม ๒๕๖๗ ณ ห้องประชุมวัดอินทาราม อำเภออัมพวา จังหวัด สมุทรสงคราม ดำเนินการประชุมพิจารณาตรวจความพร้อม และมีมติเห็นชอบให้เปิดหน่วยวิทยบริการ สภาวิชาการ ในคราวประชุมครั้งที่ ๕/๒๕๖๗ เมื่อวันที่ ๔ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๗ พิจารณาแล้ว มีมติเห็นชอบ และให้เสนอสภามหาวิทยาลัยพิจารณาอนุมัติ ตามมาตรา ๑๙ (๓) แห่งพระราชบัญญัติ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย พ.ศ. ๒๕๔๐ และข้อบังคับมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราช วิทยาลัย ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการเปิดหน่วยวิทยบริการ พ.ศ. ๒๕๔๗ รายละเอียดปรากฏตามเอกสาร ประกอบการประชุม จึงเสนอคณะกรรมเพื่อพิจารณา เอกสารประกอบการพิจารณา เอกสารแนบ เอกสารในระบบ ที่ เรื่อง ✓ ๑ พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยฯ พ.ศ. ๒๕๔๐ มาตรา ๑๙ (๓) ✓ ๒ โครงการเปิดหน่วยวิทยบริการฯ ✓ ๓ มติคณะกรรมการประจำคณะสังคมศาสตร์ ✓ ๔ มติคณะกรรมการตรวจความพร้อมฯ ✓ ๕ มติสภาวิชาการ ครั้งที่ ๕/๒๕๖๗ ✓ ๖ นำเสนอวีดีทัศน์ ประเด็นเสนอเพื่อพิจารณา - เพื่อให้สภามหาวิทยาลัยพิจารณาอนุมัติ ผู้เสนอ : กรรมการและเลขานุการสภามหาวิทยาลัย ข้อสังเกต……………………………………………………………..……………………………………….……………… มติที่ประชุม………………………………………………………………………………..………………………………. ๘๕


บทสรุปสำหรับผู้บริหาร เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๖๖ คณะสงฆ์จังหวัดสมุทรสงครามได้ตระหนักเห็นความสำคัญของ การศึกษา พระเดชพระคุณพระเมธีวัชรประชาทร ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค ๑๕ พร้อมด้วยคณะสงฆ์ จังหวัดสมุทรสงคราม มีความประสงค์ที่จะจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาศักยภาพบุคลากรของจังหวัด จึงมีมติคณะสงฆ์จังหวัดสมุทรสงครามให้ดำเนินการขอเปิดศูนย์การศึกษาที่จัดการศึกษาในระดับที่ สูงขึ้นกว่ามัธยมศึกษาไปยังมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ ประชาชนจังหวัดสมุทรสงครามได้มีที่ศึกษาเล่าเรียน โดยไม่ต้องเดินทางไปศึกษาต่างจังหวัด เพื่อ พัฒนาบุคลากรทางศาสนาให้มีศักยภาพในการธำรงรักษา เผยแผ่หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา และเป็นแกนหลักในการพัฒนาจิตใจและสังคมอย่างกว้างขวาง คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ร่วมกับคณะสงฆ์จังหวัด สมุทรสงครามได้ดำเนินการจัดการศึกษาในหลักสูตรประกาศนียบัตรการบริหารท้องถิ่น (ป.บท.) ขึ้น ณ วัดอินทาราม ตำบลเหมืองใหม่ อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม ตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๖๖ เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน มีผู้สำเร็จการศึกษาในหลักสูตรประกาศนียบัตรการบริหารท้องถิ่น (ป. บท.) แล้ว จำนวน ๕๖ คน คณะสงฆ์จังหวัดสมุทรสงคราม นำโดยพระภาวนาวิสุทธิโสภณ เจ้าคณะจังหวัด สมุทรสงคราม ได้มีมติเป็นเอกฉันท์ที่จะขยายโอกาสทางการศึกษาโดยขอเปิดหน่วยวิทยบริการ คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วัดอินทาราม ตำบลเหมืองใหม่ อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม และขออนุมัติเปิดหลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต สาขาวิชา รัฐศาสตร์ให้แก่พระภิกษุสามเณร และคฤหัสถ์ จังหวัดสมุทรสงคราม ซึ่งจังหวัดสมุทรสงครามมี ความพร้อมขอเปิดหน่วยวิทยบริการตามข้อบังคับมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ว่า ด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการเปิดหน่วยวิทยบริการ พุทธศักราช ๒๕๔๗ ดังนี้ ๘๖


เกณฑ์ที่ ความ พร้อม หลักฐาน มี ไม่ มี (๑) มีสถานที่ตั้งอยู่ในวัด หรือที่ธรณีสงฆ์หรือที่ดิน ของมหาวิทยาลัย หรือ สถานที่เหมาะสม √ - มีสถานที่จัดการเรียนการสอน ที่ วัดอินทาราม ตำบลเหมืองใหม่ อำเภออัมพวา จังหวัด สมุทรสงคราม - ทั้งนี้ ศูนย์การศึกษาจังหวัดสมุทรสงคราม มี แผนในการขยายพื้นที่จัดการศึกษาออกไปนอก วัด โดยได้รับอนุมติให้ใช้พื้นที่ในท้องที่อำเภอ เมืองสมุทรสงคราม จังหวัดสมุทรสงคราม เนื้อ ที่ ๒๒ ไร่ ๑ งาน ๘๕ ตารางวา เป็นระยะเวลา ๓๐ ปี คือตั้งแต่วันที่ ๑๓ พฤษภาคม พ.ศ ๒๕๖๗ จนถึงวันที่ ๑๒ พฤษภาคมพ.ศ ๒๕๙๗ (2) มีแผนงบประมาณและ ที่มาของงบประมาณที่ ชัดเจน √ - มีงบประมาณในการดำเนินการในเบื้องต้น เรียบร้อยแล้ว โดยได้รับการสนับสนุนจาก มูลนิธิวัดอินทาราม หลีกโหมดมณีและเงิน บริจาคจากผู้มีจิตศรัทธา จำนวน ๓,๐๐๐,๐๐๐ บาท (สามล้านบาทถ้วน) และเมื่อได้รับอนุมัติ ให้ดำเนินการให้เปิดหน่วยวิทยบริการแล้วก็จะ มีเงินหมุนเวียน จากค่าธรรมเนียมการศึกษา เพิ่มเติมจากมูลนิธิวัดอินทาราม หลีกโหมดมณี และเงินบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธา ซึ่งเพียงพอต่อ การจัดการศึกษา ๘๗


(3) มีเงินทุนหมุนเวียน เพื่อ สนับสนุนงานจัดการศึกษา ตามแผนงานและโครงการ อย่างเพียงพอ √ - มีเงินทุนหมุนเวียน เพื่อสนับสนุนงานการศึกษา ตามแผนงานและโครงการอย่างพอเพียง โดย แยกเป็นบัญชี ดังนี้ - บัญชีเงินฝากธนาคารกรุงเทพ สาขาอัมพวา บัญชี พระเมธีวัชรประชาทร และนายสมชาย ลำภู “โครงการจัดตั้งหน่วยวิทยบริการ มจร.วัด อินทารามจังหวัดสมุทรสงคราม” เลขที่บัญชี ๕๐๑-๐-๒๑๘๘๕-๖ เป็นเงิน ๓,๐๐๐,๐๐๐ บาท (สามล้านบาทถ้วน) - ปีงบประมาณ ๒๕๖๗ มีเงินหมุนเวียน จำนวน ๑,๐๐๐,๐๐๐ (หนึ่งล้านบาทถ้วน) (4) มีนิสิตในปีการศึกษา แรกจำนวนไม่น้อยกว่ายี่สิบ ห้ารูปหรือคน √ - มีผู้สนใจเข้าศึกษาต่อหลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต สาขาวิชารัฐศาสตร์ ๕๖ รูปหรือคน - มีผู้สนใจเข้าศึกษาต่อหลักสูตรประกาศนียบัตร การบริหารกิจการคณะสงฆ์ (ป.บส.) ๓๐ รูป - มีผู้สนใจเข้าศึกษาต่อหลักสูตรประกาศนียบัตร การบริหารท้องถิ่น (ป.บท.) ๖๐ คน (5) ต้องได้รับการสนับสนุน จากคณะสงฆ์ระดับตำบล อำเภอ และจังหวัดที่หน่วย วิทยบริการตั้งอยู่ √ - ตามมติคณะสงฆ์จังหวัดสมุทรสงคราม ในคราว ประชุมครั้งที่ ๒/๒๕๖๕ เมื่อวันที่ ๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๖ ณ วัดอินทาราม จังหวัด สมุทรสงคราม โดยมีพระภาวนาวิสุทธิโสภณ เจ้าคณะจังหวัดสมุทรสงคราม เป็นประธานที่ ประชุม ได้มีมติเห็นชอบให้เปิดหน่วยวิทย บริการ คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหา จุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วัดอินทาราม ตำบล เ ห ม ื อ ง ใ ห ม ่ อ ำ เ ภ ออ ั ม พ ว า จ ั ง ห วั ด สมุทรสงคราม ๘๘


- โดยได้รับความเห็นชอบและสนับสนุนจากพระ สังฆาธิการทุกระดับ ทั้งระดับเจ้าคณะภาค เจ้า คณะจังหวัด เจ้าคณะอำเภอทุกอำเภอ และเจ้า คณะตำบลทุกตำบล (6) เป็นโครงการที่บรรจุไว้ ในแผนพัฒนามหาวิทยาลัยมี ระยะเวลาไม่น้อยกว่าหนึ่ง ปีงบประมาณก่อน ดำเนินการ √ - ตามมติคณะกรรมการกำกับดูแลนโยบายและ แผนพัฒนามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราช วิทยาลัย ครั้งที่ ๑/๒๕๖๗ เมื่อวันจันทร์ที่ ๒๕ มีนาคม พ.ศ ๒๕๖๗ ณ ห้องประชุม ๓๐๓ อ า ค า ร ส ำ น ั ก ง า น อ ธ ิ ก า ร บ ด ี ช ั ้ น ๓ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วัง น้อย อยุธยา มีมติอนุมัติ ให้บรรจุโครงการขอ เปิดหน่วยวิทยบริการ คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วัดอินทาราม ตำบลเหมืองใหม่ อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม ไว้ในแผนพัฒนา มหาวิทยาลัยฯ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๖ รับรองตามนี้ (พระราชวัชรสารบัณฑิต รศ.ดร.) รองอธิการบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา ประธานคณะกรรมการตรวจความพร้อมฯ ๘๙


๙๐


๔.๑๑ เรื่อง ขออนุมัติจัดตั้งศูนย์อินเดียศึกษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ด้วยกองวิเทศสัมพันธ์ มีบันทึกที่ อว ๘๐๐๐.๘/๐๐๐๖๔ ลงวันที่ ๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ เรื่อง ขออนุมัติจัดตั้งศูนย์อินเดียศึกษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เพื่อให้มหาวิทยาลัยสามารถ ขยายงานการเป็นศูนย์กลางการศึกษาทางพระพุทธศาสนาและพัฒนาจิตใจ และสังคมของมหาวิทยาลัย ตอบสนองต่อภารกิจ ซึ่งเป็นไปตามแผนพัฒนามหาวิทยาลัย ระยะที่ ๑๓ (พ.ศ. ๒๕๖๖ - ๒๕๗๐) กำหนดวิสัยทัศน์ว่า “มหาวิทยาลัยที่จัดการศึกษาพระพุทธศาสนา บูรณาการกับศาสตร์สมัยใหม่และสร้าง พุทธนวัตกรรมเพื่อพัฒนาจิตใจสังคม” ที่เพิ่มมากขึ้น เผยแผ่สู่สังคมทั้งระดับชาติและนานาชาติ จึงเหมาะสม ที่จะจัดตั้งศูนย์อินเดียศึกษา โดยใช้ชื่อว่า “ศูนย์อินเดียศึกษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย” (Bharat Studies Center, Mahachulalongkornrajavidyalaya University) เป็นศูนย์กลางแห่งการเรียนรู้ ทางพระพุทธศาสนาที่บูรณาการเข้ากับศาสตร์สมัยใหม่ ส่งเสริมการบริการวิชาการด้านพระพุทธศาสนา เผยแผ่หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา อนุรักษ์มรดก ศิลปวัฒนธรรม จารีต ประเพณี อันดีงามที่ได้รับ อิทธิพลจากพระพุทธศาสนาที่มีบ่อเกิดมาจากประเทศอินเดีย คณะกรรมการกำหนดโครงสร้างส่วนงานฯ ในคราวประชุมครั้งที่ ๑/๒๕๖๗ เมื่อวันที่ ๒ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๗ พิจารณาแล้ว มีมติเห็นชอบ สภาวิชาการ ในคราวประชุมครั้งที่ ๕/๒๕๖๗ เมื่อวันที่ ๔ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๗ พิจารณาแล้ว มีมติเห็นชอบ และให้เสนอสภามหาวิทยาลัยพิจารณาอนุมัติ ตามมาตรา ๘ วรรคแรก และมาตรา ๑๙ (๒) และ (๔) แห่งพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย พ.ศ. ๒๕๔๐ รายละเอียด ปรากฏตามเอกสารประกอบการประชุม จึงเสนอคณะกรรมเพื่อพิจารณา เอกสารประกอบการพิจารณา เอกสารแนบ เอกสารในระบบ ที่ เรื่อง ✓ ๑ พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยฯ พ.ศ. ๒๕๔๐ มาตรา ๘, ๙, ๑๙ (๒) (๔) ✓ ๒ มติสภาวิชาการ ครั้งที่ ๕/๒๕๖๗ ✓ ๓ โครงการจัดตั้งศูนย์อินเดียศึกษา ประเด็นเสนอเพื่อพิจารณา - เพื่อให้สภามหาวิทยาลัยพิจารณาอนุมัติ ผู้เสนอ : กรรมการและเลขานุการสภามหาวิทยาลัย ข้อสังเกต……………………………………………………………..……………………………………….……………… ………………………………………………………………………….……………………………..…………………………………………… มติที่ประชุม………………………………………………………………………………..………………………………. ………………………………………………………………………….……………………………..…………………………………………… ๙๑


๙๒


โครงการจัดตั้งศูนย์อินเดียศึกษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (Bharat Studies Center, Mahachulalongkornrajavidyalaya University) ๑.ชื่อและลักษณะของหน่วยงาน ๑.๑ ชื่อส่วนงาน ภาษาไทย : โครงการจัดตั้งศูนย์อินเดียศึกษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ภาษาอังกฤษ: Project of Bharat Studies Center Mahachulalongkornrajavidyalaya University ๑.๒ ลักษณะโครงการ โครงการใหม่ ๒. ผู้รับผิดชอบจัดตั้งหน่วยงาน ๒.๑ หน่วยงานที่รับผิดชอบ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ต าบลล าไทร อ าเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ๒.๒ ผู้ด าเนินการจัดตั้ง คณะกรรมการจัดท าโครงการจัดตั้งศูนย์ศูนย์อินเดียศึกษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ๓. ที่ตั้งของหน่วยงาน ห้อง D ๓๐๐ ส านักงานวิทยาลัยพระธรรมทูต อาคารเรียนรวม มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราช วิทยาลัย ต าบลล าไทร อ าเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ๑๓๑๗๐ ๔. ความเป็นมาของหน่วยงาน มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย มีสถานภาพเป็นนิติบุคคลที่ไม่เป็นส่วนราชการและ รัฐวิสาหกิจ และเป็นมหาวิทยาลัยในก ากับรัฐ เน้นการจัดการศึกษาวิชาการด้านพระพุทธศาสนาบูรณาการกับ ศาสตร์สมัยใหม่และสร้างพุทธนวัตกรรมเพื่อพัฒนาจิตใจและสังคม โดยระยะเริ่มต้นในการจัดการศึกษาและ บริหารมหาวิทยาลัย ผู้บริหาร คณาจารย์และเจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่ได้รับการศึกษาจากประเทศอินเดียซึ่งเป็นบ่อ เกิดของพระพุทธศาสนา และมหาวิทยาลัยมีนโยบายบริการวิชาการด้านพระพุทธศาสนา เผยแผ่พระธรรมค า สอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสู่นานาประเทศเพื่อสร้างสันติภาพให้เกิดขึ้นแก่ประชาคมโลก โดยมี นิสิตจากต่างประเทศ รวมถึงนิสิตจากประเทศอินเดียเป็นจ านวนมากสนใจในด้านพระพุทธศาสนาและศาสตร์ สมัยใหม่เข้ามาศึกษาในมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ทั้งในระดับปริญญาตรี ระดับปริญญาโท และ ระดับปริญญาเอก กอปรกับมหาวิทยาลัย มีเป้าหมายหลักในด้านการส่งเสริมการเรียนรู้วัฒนธรรมอินเดียและ การวิจัยที่เกี่ยวข้องและความร่วมมือระหว่างประเทศ รวมทั้งการให้บริการทางวิชาการเพื่อสนับสนุนการเผยแพร่ ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับประเทศอินเดีย และความร่วมมือระหว่างประเทศ โดยผ่านการจัดอบรม สัมมนา ระหว่างประเทศ การจัดการบรรยายสาธารณะ (Public Lecture) โดยนักวิชาการจากต่างประเทศและใน ประเทศ รวมทั้งการเผยแพร่ความรู้ให้กับประชาชนทั่วไป นักเรียน และนิสิต และส่งเสริมและแสวงหาความ ร่วมมือกับสถาบันการศึกษาและองค์กรต่าง ๆ ในต่างประเทศ เพื่อให้เกิดความร่วมมือในด้านวิชาการระหว่าง ๙๓


๒ นักวิชาการในต่างประเทศ มีงานวิจัยที่มีคุณภาพ มีความเป็นเลิศทางวิชาการในด้านอินเดียศึกษา และเป็นส่วน หนึ่งในการส่งเสริมให้มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยให้มีความเป็นสากล จึงได้มีโครงการ “โครงการ จัดตั้งศูนย์อินเดียศึกษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย” ขึ้น ๕. หลักการและเหตุผล มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เป็นศูนย์กลางแห่งการเรียนรู้ทางพระพุทธศาสนาที่บูรณา การเข้ากับศาสตร์สมัยใหม่ ส่งเสริมการบริการวิชาการด้านพระพุทธศาสนา เผยแผ่หลักธรรมทาง พระพุทธศาสนา อนุรักษ์มรดก ศิลปวัฒนธรรม จารีตประเพณี อันดีงามที่ได้รับอิทธิพลจากพระพุทธศาสนาที่มี บ่อเกิดมาจากประเทศอินเดีย นอกจากนี้ ยังส่งเสริมและแสวงหาความร่วมมือกับสถาบันการศึกษาและองค์กร ต่าง ๆ ในต่างประเทศ เพื่อให้เกิดความร่วมมือในด้านวิชาการระหว่างกันกับนักวิชาการในต่างประเทศ รวมทั้ง เพื่อให้มหาวิทยาลัยมีงานวิจัยที่มีคุณภาพ มีความเป็นเลิศทางวิชาการในด้านอินเดียศึกษา เพื่อเป็นส่วนหนึ่งใน การส่งเสริมให้มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยมีความเป็นสากล ในแผนพัฒนามหาวิทยาลัยระยะที่ ๑๓ (พ.ศ.๒๕๖๖-๒๕๗๐) มหาวิทยาลัยก าหนดวิสัยทัศน์ว่า “มหาวิทยาลัยที่จัดการศึกษาพระพุทธศาสนา บูรณาการกับศาสตร์สมัยใหม่และสร้างพุทธนวัตกรรมเพื่อพัฒนา จิตใจและสังคม” ดังนั้น งานพัฒนา ส่งเสริม อนุรักษ์ วิจัย เผยแพร่และให้บริการวิชาการ มุ่งสู่ความเป็นเลิศและ เป็นศูนย์กลางการศึกษาทางพระพุทธศาสนาและพัฒนาจิตใจและสังคม ในระดับชาติและนานาชาติจึงมี ความส าคัญจ าเป็นในการสนับสนุนมหาวิทยาลัยให้บรรลุวิสัยทัศน์ได้ภายในระยะเวลาของแผน ดังนั้น เพื่อให้สามารถขยายงานการเป็นศูนย์กลางการศึกษาทางพระพุทธศาสนาและพัฒนาจิตใจและ สังคมของมหาวิทยาลัยตอบสนองต่อภารกิจที่เพิ่มมากขึ้น เผยแผ่สู่สังคมทั้งระดับชาติและนานาชาติ ในรูปแบบ และช่องทางที่หลากหลาย รวมทั้ง บุคลากรของมหาวิทยาลัยมีความรู้และความเชี่ยวชาญด้านพระพุทธศาสนา สามารถเป็นที่พึ่งของสังคมชาวพุทธทั่วโลก เป็นไปตามปณิธานของพระองค์ผู้ก่อตั้งและเป็นไปตามนโยบาย เอกลักษณ์และอัตลักษณ์ของมหาวิทยาลัย จึงเหมาะสมที่จะจัดตั้งศูนย์อินเดียศึกษา โดยใช้ชื่อว่า “ศูนย์อินเดีย ศึกษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย”(Bharat Studies Center, Mahachulalongkornrajavidyalaya University) ๖. ภารกิจ ๖.๑ ศูนย์อินเดียศึกษา มุ่งสู่ความเป็นเลิศในการวิจัย บริการวิชาการและเป็นแหล่งอ้างอิงด้าน พระพุทธศาสนาและอินเดียศึกษา ค าอธิบาย : ศูนย์กลางธรรมอินเดียสู่ความเป็นเลิศทางพุทธศาสนาและอินเดียศึกษา ศูนย์อินเดีย ศึกษามีปณิธานมุ่งหวังเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรม ประเพณี เป็นเลิศด้านการวิจัยและวิชาการในด้านอินเดีย ศึกษา เชื่อมสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างชาวอินเดียและไทย อีกทั้งยังเป็นคลังความรู้และข้อมูลเกี่ยวกับ อินเดีย ทั้งอินเดียโบราณ อินเดียร่วมสมัย อินเดียใหม่ในมิติต่าง ๆ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันให้ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยมีความเป็นเลิศทางวิชาการและเสริมสร้างความเป็นนานาชาติ ๖.๒ พันธกิจ ๙๔


๓ ๖.๒.๑ สร้างและพัฒนาองค์ความรู้เพื่อธ ารงความเป็นเลิศด้านพระพุทธศาสนาและอินเดียศึกษา ๖.๒.๒ เผยแพร่องค์ความรู้และเป็นแหล่งอ้างอิงระดับชาติและนานาชาติ ๖.๒.๓ สนับสนุนการเรียนการสอน และถ่ายทอดความรู้ด้านพระพุทธศาสนาและอินเดียศึกษา ๖.๒.๔ เสริมสร้างเครือข่ายวิจัยและวิชาการระดับชาติและนานาชาติ ๗. วัตถุประสงค์ ๗.๑ เพื่อเป็นแหล่งความรู้ทางวิชาการด้านพระพุทธศาสนาและอินเดียศึกษา ๗.๒ เพื่อพัฒนาเครือข่ายทางวิชาการด้านพระพุทธศาสนาและอินเดียศึกษา ๗.๓ เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์อันยั่งยืนระหว่างประชาชนไทยกับอินเดีย ๘. ระยะเวลาด าเนินการ เริ่มด าเนินการ ตั้งแต่ปีพุทธศักราช ๒๕๖๗ เป็นต้น ๙. โครงสร้างและภาระหน้าที่ศูนย์อินเดียศึกษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ๙.๑ โครงสร้างการบริหารงานศูนย์อินเดียศึกษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ส่วนงานบริหาร ส่วนวิชาการและวิจัย กลุ่มงานบริหาร - งานธุรการ - งบประมาณ การเงิน - บัญชีบุคลากร พัสดุ - นโยบายแผนพัฒนา - งานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง หรือได้รับมอบหมาย กลุ่มงานทะเบียนและ สารสนเทศ - งานจัดท ารายงานประจ าปี - งานเอกสารประชาสัมพันธ์ และเผยแพร่ผลงาน - งานประกันคุณภาพ - งานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องหรือ ได้รับมอบหมาย กลุ่มงานศึกษาและวิจัย - งานส่งเสริมและพัฒนาทักษะ ด้านภาษา เช่น ภาษาอังกฤษ ภ าษ าฮินดี ภ าษ าบ าลี ภ าษา สันสกฤต เป็นต้น - ง านด้ านก า ร วิจั ย ส่งเส ริม ส นั บ ส นุ น พ ร ะ พุ ท ธ ศ า ส น า ปรัชญา ภาษา ศิลปวัฒนธรรม ที่ สัมพันธ์กับอินเดีย - งานอื่น ๆ ที่สัมพันธ์กับอินเดีย ที่ ได้รับมอบหมาย กลุ่มงานบริการวิชาการ - งานฝึกอบรม - งานประชุมวิชาการนานาชาติ พระพุทธศาสนา ปรัชญา ภาษา ศิลปะวัฒนธรรม ที่สัมพันธ์กับ อินเดีย - งานส่งเสริมสนับสนุน การ แลกเปลี่ยนอาจารย์และนิสิต ม จ รแ ล ะ ม ห า วิ ท ย า ลั ยใน อินเดีย - งานบริการวิชาการอื่น ๆ ที่ สัมพันธ์กับอินเดีย ที่ได้รับ มอบหมาย ศูนย์อินเดียศึกษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (Bharat Studies Center, Mahachulalongkornrajavidyalaya University) ๙๕


๔ ๙.๒ ภาระหน้าที่ ศูนย์อินเดียศึกษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย มีภารกิจเกี่ยวกับการวางแผน พัฒนา ส่งเสริม อนุรักษ์ วิจัย เผยแพร่ และให้บริการวิชาการพระพุทธศาสนา ศิลปะวัฒนธรรม ประเพณี เศรษฐกิจ สังคม และการศึกษา ซึ่งจะเป็นสิ่งเสริมสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างประเทศ อันจะเป็นการส่งเสริมให้เกิดหุ้นส่วนการ ท างานระหว่างกันและปฏิบัติงานอื่นที่เกี่ยวข้องหรือที่ได้รับมอบหมาย ประกอบด้วย ๒ ส่วนงาน ดังนี้ ๑) ส่วนงานบริหาร มีอ านาจหน้าที่และความรับผิดชอบเกี่ยวกับงานบริหาร งานนโยบายและ แผนพัฒนา งานบุคลากร งานงบประมาณ งานทะเบียนและสารสนเทศของศูนย์อินเดียศึกษาและปฏิบัติงานอื่นที่ เกี่ยวข้องหรือได้รับมอบหมาย (๑) กลุ่มงานบริหาร ปฏิบัติงานด้านธุรการ ประสานงานด้านงบประมาณ การเงิน บุคลากร การ บัญชี พัสดุ นโยบายและแผนพัฒนา รวมทั้งประสานงานกับส่วนงานที่เกี่ยวข้อง และปฏิบัติงานอื่นที่ได้รับมอบหมาย (๒) กลุ่มงานทะเบียนและสารสนเทศ ปฏิบัติงานจัดท าสารสนเทศของศูนย์อินเดียศึกษา จัดท ารายงานประจ าปีของศูนย์อินเดียศึกษา เอกสารประชาสัมพันธ์และด าเนินการเผยแผ่ผลงาน งานประกัน คุณภาพของศูนย์อินเดียศึกษา รายงานประจ าปีและปฏิบัติงานอื่นที่เกี่ยวข้องหรือที่ได้รับมอบหมาย ๒) ส่วนวิชาการและวิจัย มีอ านาจหน้าที่และความรับผิดชอบเกี่ยวกับการศึกษาและวิจัย ฝึกอบรม บริการวิชาการและปฏิบัติหน้าที่อื่นที่เกี่ยวข้องหรือได้รับมอบหมาย (๑) กลุ่มงานศึกษาและวิจัย ปฏิบัติงานด้านการวิจัย ส่งเสริม สนับสนุน พระพุทธศาสนา ปรัชญา ภาษา ศิลปะวัฒนธรรม ประเพณี เศรษฐกิจ สังคม และการศึกษา ที่สัมพันธ์กับอินเดีย ซึ่งจะเป็นสิ่ง เสริมสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างประเทศ และปฏิบัติงานอื่นที่ได้รับมอบหมาย (๒) กลุ่มงานบริการวิชาการ ปฏิบัติงานด้านฝึกอบรม ประชุมวิชาการนานาชาติ พระพุทธศาสนา ปรัชญา ภาษา ศิลปะวัฒนธรรม ส่งเสริมสนับสนุน การแลกเปลี่ยนอาจารย์และนิสิต มจรและ มหาวิทยาลัยในอินเดีย เผยแผ่หลักธรรมเพื่อพัฒนาจิตใจและสังคม และปฏิบัติงานอื่นที่เกี่ยวข้องหรือที่ได้รับ มอบหมาย ๑๐. บุคลากรของศูนย์อินเดียศึกษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ศูนย์อินเดียศึกษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ใช้กรอบอัตราก าลังเดิมจากกองวิเทศ สัมพันธ์และวิทยาลัยพระธรรมทูต ดังนี้ ๑) ผู้อ านวยการศูนย์อินเดียศึกษา จ านวน ๑ อัตรา ๒) รองผู้อ านวยการศูนย์อินเดียศึกษาฝ่ายบริหาร จ านวน ๑ อัตรา ๓) รองผู้อ านวยการศูนย์อินเดียศึกษาฝ่ายวิชาการและวิจัย จ านวน ๑ อัตรา ๔) ผู้อ านวยการส่วนบริหาร จ านวน ๑ อัตรา ๕) ผู้อ านวยการส่วนวิชาการและวิจัย จ านวน ๑ อัตรา ๖) บุคลากรส่วนงานบริหาร จ านวน ๕ อัตรา ๗) บุคลากรส่วนวิชาการและวิจัย จ านวน ๕ อัตรา ๙๖


๕ ๑๐.๑ งบประมาณ งบประมาณในการบริหารจัดการ ใช้งบประมาณจากศูนย์อินเดียศึกษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ ราชวิทยาลัย ๑๐.๒ สถานที่ตั้ง ส านักงานวิทยาลัยพระธรรมทูต อาคารเรียนรวม มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ต าบล ล าไทร อ าเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ๑๓๑๗๐ ๙๗


ข้อกําหนดมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เรื่อง การจัดตั้งศูนย์อินเดียศึกษา เพื่อให้การจัดตั้งศูนย์อินเดียศึกษา ของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ดำเนินไปด้วยความเรียบร้อย มีประสิทธิภาพ บรรลุวัตถุประสงค์และนโยบายของมหาวิทยาลัย อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๘ มาตรา ๙ และมาตรา ๑๙ (๒) และ (๔) แห่งพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย พ.ศ. ๒๕๔๐ และมติสภามหาวิทยาลัย ในคราวประชุมครั้งที่ ๔/๒๕๖๗ เมื่อที่ ๒๔ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๗ จึงออกข้อกําหนดไว้ ดังนี้ “ให้จัดตั้งศูนย์อินเดียศึกษา ณ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตั้งแต่วันที่ ๒๔ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๗ เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ ๒๔ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๗ (พระพรหมวชิราธิบดี) นายกสภามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย


ประกาศมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เรื่อง การแบ่งส่วนงาน พ.ศ. ๒๕๖๗ เพื่อให้การแบ่งส่วนงานของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย มีความเหมาะสม และสอดคล้องกับภารกิจของมหาวิทยาลัย สามารถตอบสนองต่อการดำเนินงานตามแผนการพัฒนา มหาวิทยาลัยในปัจจุบันได้ จึงเห็นสมควรแบ่งส่วนงานของมหาวิทยาลัยเพิ่มเติม อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๙ วรรคสอง และมาตรา ๑๙ (๒) และ (๔) แห่งพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย พ.ศ. ๒๕๔o และมติสภามหาวิทยาลัย ในคราวประชุมครั้งที่ ๔/๒๕๖๗ เมื่อวันที่ ๒๔ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๗ จึงออกประกาศไว้ดังต่อไปนี้ ข้อ ๑ ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เรื่อง การแบ่งส่วนงาน พ.ศ. ๒๕๕๗” ข้อ ๒ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป ข้อ ๓ ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็น (๒๒) ข้อ ๔ ของประกาศมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราช วิทยาลัย เรื่อง การแบ่งส่วนงาน พ.ศ. ๒๕๕๖ (๒๒) ศูนย์อินเดียศึกษา (Bharat Studies Center) (๒๒.๑) ส่วนงานบริหาร (๒๒.๒) ส่วนวิชาการและวิจัย ข้อ ๔ ให้อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย รักษาการตามประกาศนี้ ประกาศ ณ วันที่ ๒๔ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๗ (พระพรหมวชิราธิบดี) นายกสภามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย


๕.๑๒ เรื่อง ขออนุมัติร่างระเบียบมหาวิทยาลัย ว่าด้วยกองทุนพัฒนาศูนย์อาเซียนศึกษา พ.ศ. ๒๕๖๗ ด้วยศูนย์อาเซียนศึกษา มีบันทึกที่ อว ๘๐๑๒/๐๑๖ วันที่ ๑๙ มีนาคม ๒๕๖๗ เรื่อง ขอความ เห็นชอบร่างระเบียบมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ว่าด้วยกองทุนพัฒนาศูนย์อาเซียนศึกษา พ.ศ. ๒๕๖๗ คณะกรรมการศูนย์อาเซียนศึกษา คราวประชุมครั้งที่ ๑/๒๕๖๗ เมื่อวันศุกร์ที่ ๘ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๗ พิจารณาแล้ว มีมติเห็นชอบ คณะกรรมการการเงินและทรัพย์สิน ในคราวประชุมครั้งที่ ๒/๒๕๖๗ เมื่อวันที่ ๒๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๗ พิจารณาพิจารณาแล้ว มีมติเห็นชอบ และให้เสนอสภามหาวิทยาลัยพิจารณาอนุมัติ มาตรา ๑๙ (๒) แห่งพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย พ.ศ. ๒๕๔๐ และข้อ ๗ และ ๑๕ ของข้อบังคับมหาวิทยาลัย ว่าด้วยกองทุนพัฒนามหาวิทยาลัย พ.ศ. ๒๕๖๓ รายละเอียดปรากฏตามเอกสาร ประกอบการประชุม จึงเสนอคณะกรรมเพื่อพิจารณา เอกสารประกอบการพิจารณา เอกสารแนบ เอกสารในระบบ ที่ เรื่อง ✓ ๑ พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยฯ พ.ศ. ๒๕๔๐ มาตรา ๘, ๙, ๑๙ (๒) (๔) ✓ ๒ มติคณะกรรมการศูนย์อาเซียนศึกษา ครั้งที่ ๑/๒๕๖๗ ✓ ๓ มติคณะกรรมการการเงินและทรัพย์สิน ครั้งที่ ๒/๒๕๖๗ ✓ ๔ ร่าง ระเบียบมหาวิทยาลัย ว่าด้วยกองทุนพัฒนาศูนย์อาเซียนศึกษา พ.ศ. ๒๕๖๗ ประเด็นเสนอเพื่อพิจารณา - เพื่อให้สภามหาวิทยาลัยพิจารณาอนุมัติ ผู้เสนอ : กรรมการและเลขานุการสภามหาวิทยาลัย ข้อสังเกต……………………………………………………………..……………………………………….……………… ………………………………………………………………………….……………………………..…………………………………………… ………………………………………………………………………….……………………………..…………………………………………… ………………………………………………………………………….……………………………..…………………………………………… ………………………………………………………………………….……………………………..…………………………………………… มติที่ประชุม………………………………………………………………………………..………………………………. ………………………………………………………………………….……………………………..…………………………………………… ………………………………………………………………………….……………………………..…………………………………………… ………………………………………………………………………….……………………………..…………………………………………… ๙๘


มติคณะกรรมการการเงินและทรัพย์สิน มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ครั้งที่ ๒/๒๕๖๗ วันพฤหัสบดีที่ ๒๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ เวลา ๑๓.๓๐ น. ณ ห้องประชุม ๔๐๑ ชั้น ๔ สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และผ่านระบบ ZOOM Video Conference _______________ วาระที่ ๔ เรื่องเสนอเพื่อพิจารณา ๔.๓ เรื่อง ขอความเห็นชอบร่างระเบียบมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เรื่อง กองทุนพัฒนาศูนย์อาเซียนศึกษา พ.ศ. ๒๕๖๗ พระมหาปัญญา ปญฺญาสิริ, ดร. ผู้อำนวยการกองคลังและทรัพย์สิน ได้รับมอบหมายให้ ปฏิบัติหน้าที่แทนเลขานุการ เสนอว่า ด้วยศูนย์อาเซียนศึกษา มีบันทึกที่ อว ๘๐๑๒/๐๑๖ วันที่ ๑๙ มีนาคม ๒๕๖๗ เรื่อง ขอความเห็นชอบร่างระเบียบมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ว่าด้วยเรื่องกองทุนพัฒนาศูนย์อาเซียนศึกษา พ.ศ. ๒๕๖๗ คณะกรรมการศูนย์อาเซียนศึกษา คราวประชุมครั้งที่ ๑/๒๕๖๗ เมื่อวันศุกร์ที่ ๘ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๗ พิจารณาแล้ว มีมติเห็นชอบ จึงเสนอคณะกรรมการการเงินและทรัพย์สิน พิจารณาตามข้อ ๔ ของข้อบังคับมหาวิทยาลัย ว่าด้วยการเงินและทรัพย์สิน พ.ศ. ๒๕๕๖ รายละเอียดปรากฏตามเอกสารประกอบการประชุม จึงเสนอที่ประชุมเพื่อพิจารณา ที่ประชุมพิจารณาแล้ว มีมติเห็นชอบตามที่เสนอ และให้เสนอสภามหาวิทยาลัย พิจารณาอนุมัติ รับรองตามนี้ 2 (พระเทพปวรเมธี, รศ.ดร.) รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร กรรมการและเลขานุการคณะกรรมการการเงินและทรัพย์สิน ๙๙


(ร่าง) ระเบียบมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ว่าด้วยกองทุนพัฒนาศูนย์อาเซียนศึกษา พ.ศ..... ----------------------------- เพื่อให้การดำเนินกิจการของศูนย์อาเซียนศึกษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ดำเนินไปด้วยความเรียบร้อย มีประสิทธิภาพ บรรลุวัตถุประสงค์และนโยบายของมหาวิทยาลัย อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๙ (๒) และ (๑๑) แห่งพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลง กรณราชวิทยาลัย พ.ศ. ๒๕๔๐ และมติสภามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ในคราวประชุมครั้งที่ .../.... เมื่อวัน ... ที่ ... พ.ศ. .... จึงวางไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ว่าด้วยกองทุนพัฒนา ศูนย์อาเซียนศึกษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย พ.ศ. ....” ข้อ ๒ บรรดาข้อบังคับ ระเบียบ คำสั่งหรือประกาศอื่นใด ซึ่งขัดหรือแย้งกับระเบียบนี้ให้ใช้ระเบียบนี้แทน ข้อ ๓ ให้ใช้ระเบียบนี้ตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศ เป็นต้นไป ข้อ ๔ ในระเบียบนี้ “กองทุน” หมายความว่า กองทุนพัฒนาศูนย์อาเซียนศึกษา “คณะกรรมการ” หมายความว่า คณะกรรมการบริหารกองทุนศูนย์อาเซียนศึกษา ข้อ ๕ กองทุน มีวัตถุประสงค์ดังนี้ (๑) เพื่อพัฒนางานตามพันธกิจของศูนย์อาเซียนศึกษา (๒) เพื่อพัฒนาบุคลากรของศูนย์อาเซียนศึกษา (๓) เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านการบริการวิชาการแก่สังคม และการทำนุบำรง ศิลปวัฒนธรรมกับส่วนงานที่เกี่ยวข้อง (๔) เพื่อสนับสนุนกิจกรรมอื่น ๆ ตามนโยบายของมหาวิทยาลัย ข้อ ๖ ให้จัดตั้งกองทุนพัฒนาศูนย์อาเซียนศึกษา ขึ้นกองทุนหนึ่งโดยให้กองทุนอาจมีรายได้ ดังต่อไปนี้ (๑) เงินรายได้อันเกิดจากการดำเนินกิจกรรมตามพันธกิจ หรือกิจกรรมอื่น ๆ ของศูนย์อาเซียนศึกษา (๒) เงินอุดหนุนจากหน่วยงานอื่น (๓) เงินหรือทรัพย์สินซึ่งมีผู้บริจาคให้ (๔) เงินดอกผลจากกองทุนตามข้อ (๑), (๒) และ (๓) (๕) รายได้อื่น ๆ ตามที่ศูนย์อาเซียนศึกษากำหนด ให้กองคลังและทรัพย์สิน สำนักงานอธิการบดี เป็นผู้ดูแลรักษาเงินกองทุนโดยนำฝากไว้ใน ธนาคารทหารไทยธนชาติ หรือสถาบันการเงินอื่นที่มีธนาคารค้ำประกัน ในชื่อบัญชี “กองทุนพัฒนาศูนย์ อาเซียนศึกษา มจร” ๑๐๐


~ ๒ ~ ข้อ ๗ ให้จัดสรรเงินรายได้หรือผลประโยชน์สุทธิกองทุนของส่วนงานนั้น ๆ ไม่น้อยกว่าร้อยละ ๒๐ ต่อปี นำเข้ากองทุนพัฒนามหาวิทยาลัย ข้อ ๘ ให้มีคณะกรรมการคณะหนึ่ง แต่งตั้งโดยอธิการบดีประกอบด้วย (๑) ประธานกรรมการ ได้แก่ รองอธิการบดีที่อธิการบดีมอบหมาย (๒) กรรมการจำนวนห้ารูปหรือคน จากผู้ดำรงตำแหน่ง รองอธิการบดี คณบดี ผู้อำนวยการ หรือหัวหน้าส่วนงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าคณะ (๓) กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวนสามรูปหรือคน (๔) กรรมการและเลขานุการ ได้แก่ ผู้อำนวยการส่วนบริหาร (๕) กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ ได้แก่ ผู้อำนวยส่วนวิจัยสารสนเทศและบริการวิชาการ ข้อ ๙ กรรมการตามข้อ ๘ (๓) มีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละสามปีแต่อาจได้รับการแต่งตั้งอีก ได้และนอกจากพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว กรรมการตามข้อ ๘ (๓) พ้นจากตำแหน่งเมื่อ (๑) มรณภาพหรือตาย (๒) ลาออก (๓) ขาดคุณสมบัติของการเป็นกรรมการในประเภทนั้น (๔) บกพร่องต่อหน้าที่ มีความประพฤติเสื่อมเสีย หรือหย่อนความสามารถ ในกรณีที่กรรมการตามข้อ ๘ (๓) พ้นจากตำแหน่งก่อนวาระ และมีการแต่งตั้งผู้ดำรงตำแหน่งแทน แล้ว ให้ผู้ที่ได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการแทนนั้นอยู่ในตำแหน่งเพียงเท่าวาระที่เหลืออยู่ของผู้พ้นสภาพจาก ตำแหน่ง ในกรณีที่มีกรรมการตามข้อ ๘ (๓) พ้นจากตำแหน่งตามวาระ แต่ยังมิได้แต่งตั้งกรรมการขึ้นใหม่ ให้ กรรมการซึ่งพ้นจากตำแหน่งปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าจะได้การแต่งตั้งกรรมการใหม่แต่ทั้งนี้ต้องไม่เกินเก้าสิบ วัน ข้อ ๑๐ ให้คณะกรรมการมีอำนาจหน้าที่ดังนี้ (๑) กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการใช้จ่ายเงินกองทุนโดยทำเป็นประกาศมหาวิทยาลัย (๒) กำหนดนโยบายและบริหารกองทุนให้บรรลุวัตถุประสงค์ของกองทุน (๓) พิจารณาจัดสรรเงินกองทุนเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในกิจกรรมตามวัตถุประสงค์ (๔) ส่งเสริมและสนับสนุนกิจการกองทุนให้เจริญก้าวหน้า (๕) จัดทำรายงานผลการดำเนินงานเสนอต่ออธิการบดี ภายในเก้าสิบวัน นับแต่วันสิ้นสุด ปีงบประมาณ (๖) ดำเนินการอย่างอื่นตามที่มหาวิทยาลัยมอบหมาย ข้อ ๑๑ ให้คณะกรรมการประชุมปีละไม่น้อยกว่าสองครั้ง วิธีการประชุมให้นำข้อบังคับมหาวิทยาลัย มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ว่าด้วยการประชุมสภามหาวิทยาลัยมาใช้โดยอนุโลม ข้อ ๑๒ กรณีกองทุนมีอันต้องยุติด้วยประการใด ให้ทรัพย์สินทั้งหมดตกเป็นสมบัติของมหาวิทยาลัย มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ๑๐๑


~ ๓ ~ ข้อ ๑๓ ให้อธิการบดีรักษาการให้เป็นไปตามระเบียบนี้ ประกาศ ณ วันที่ .... พ.ศ. .... (พระพรหมวชิราธิบดี) นายกสภามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ๑๐๒


๔.๑๓ เรื่อง ขออนุมัติหลักสูตรและโครงการเปิดสอนหลักสูตร ระดับบัณฑิตศึกษา จำนวน ๑๔ หลักสูตร จาก ๑๐ ส่วนงาน ด้วยบัณฑิตวิทยาลัย บันทึกที่อว ๘๐๐๑/๔๙ ลงวันที่ ๒๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๗ เรื่อง ขอความ เห็นชอบหลักสูตรและโครงการเปิดสอนหลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษา จำนวน ๑๔ หลักสูตร จาก ๑๐ ส่วนงาน ประกอบด้วย ๑. บัณฑิตวิทยาลัย ๑) หลักสูตรพุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาสตินวัตกรรมและสันติศึกษา (หลักสูตร ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๗) ๒. คณะครุศาสตร์ ๒) หลักสูตรครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาจิตวิทยาการศึกษาและการแนะแนว (หลักสูตร ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๗) ๓. คณะมนุษยศาสตร์ ๓) หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาภาษาอังกฤษ (หลักสูตรภาษาอังกฤษ) (หลักสูตร ใหม่ พ.ศ. ๒๕๖๗) ๔. คณะสังคมศาสตร์ ๔) หลักสูตรศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชานวัตกรรมสังคมและวัฒนธรรมสร้างสรรค์ (หลักสูตรใหม่ พ.ศ. ๒๕๖๗) ๕) หลักสูตรนิติศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชานิติศาสตร์ (หลักสูตรใหม่ พ.ศ. ๒๕๖๗) ๖) หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชานิติศาสตร์ (หลักสูตรใหม่ พ.ศ. ๒๕๖๗) ๕. วิทยาลัยพุทธศาสตร์นานาชาติ (IBSC) ๗) หลักสูตรพุทธศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาสตินวัตกรรมและสันติศึกษา (หลักสูตร ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๗ หลักสูตรนานาชาติ) ๘) หลักสูตรพุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาสตินวัตกรรมและสันติศึกษา (หลักสูตร ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๗ หลักสูตรนานาชาติ) ๖. วิทยาลัยสงฆ์ขอนแก่น ๙) หลักสูตรรัฐศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชารัฐศาสตร์ (หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๗) ๗. วิทยาลัยสงฆ์เชียงใหม่ ๑๐) หลักสูตรศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาภาษาอังกฤษ (หลักสูตรภาคภาษาอังกฤษ หลักสูตรใหม่ พ.ศ. ๒๕๖๗) ๘. วิทยาลัยสงฆ์นครศรีธรรมราช ๑๑) หลักสูตรนิติศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชานิติศาสตร์ (หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๗) ๑๐๓


๙. วิทยาลัยสงฆ์อุทัยธานี ๑๒) หลักสูตรรัฐศาสตรมหาบัณฑิตบัณฑิต สาขาวิชารัฐศาสตร์ (หลักสูตรใหม่ พ.ศ. ๒๕๖๗) ๑๐. มหาวชิราลงกรณบาลีเถรวาทราชวิทยาลัย ๑๓) หลักสูตรพุทธศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาพระไตรปิฎกเถรวาท (หลักสูตรใหม่ พ.ศ. ๒๕๖๗) ๑๔) หลักสูตรพุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาพระไตรปิฎกเถรวาท (หลักสูตรใหม่ พ.ศ. ๒๕๖๗) คณะกรรมการประจำบัณฑิตวิทยาลัย ในคราวประชุมครั้งที่ ๒/๒๕๖๗ เมื่อวันที่ ๒๐ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๗ พิจารณาแล้ว มีมติเห็นชอบ สภาวิชาการ ในคราวประชุมครั้งที่ ๕/๒๕๖๗ เมื่อวันที่ ๔ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๗ พิจารณาแล้ว มีมติเห็นชอบ และให้เสนอสภามหาวิทยาลัยพิจารณาอนุมัติ ตามมาตรา ๑๙ (๖) แห่งพระราชบัญญัติ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย พ.ศ. ๒๕๔๐ รายละเอียดปรากฏตามเอกสารประกอบการประชุม จึงเสนอที่ประชุมเพื่อพิจารณา เอกสารประกอบการพิจารณา เอกสารแนบ เอกสารในระบบ ที่ เรื่อง ✓ ๑ พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัย พ.ศ. ๒๕๔๐ มาตรา ๑๙ (๖) ✓ ๒ มติสภาวิชาการ ครั้งที่ ๕/๒๕๖๗ ✓ ๓ มติคณะกรรมการประจำบัณฑิตวิทยาลัย ✓ ๔ เอกสารเปิดสอนหลักสูตร/โครงการเปิดสอนหลักสูตร/ไฟล์นำเสนอ ประเด็นเสนอเพื่อพิจารณา - เพื่อให้สภามหาวิทยาลัยพิจารณาอนุมัติ ผู้เสนอ : กรรมการและเลขานุการสภามหาวิทยาลัย ข้อสังเกต……………………………………………………………..……………………………………….……………… ………………………………………………………………………….……………………………..…………………………………………… ………………………………………………………………………….……………………………..…………………………………………… ………………………………………………………………………….……………………………..…………………………………………… มติที่ประชุม………………………………………………………………………………..………………………………. ………………………………………………………………………….……………………………..…………………………………………… ………………………………………………………………………….……………………………..…………………………………………… ………………………………………………………………………….……………………………..…………………………………………… ๑๐๔


๑๐๕


๑๐๖


๔.๑๔ เรื่อง ขออนุมัติหลักสูตรและโครงการเปิดสอนหลักสูตรระดับปริญญาตรี จาก ๒ คณะ จำนวน ๖๔ หลักสูตร ๖๔ ส่วนงาน คณะพุทธศาสตร์ มีบันทึกที่ อว ๘๐๐๑/๐๖๓ ลงวันที่ ๒๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๗ , คณะสังคมศาสตร์ มีบันทึกที่ อว ๘๐๐๕/๐๗๗ ลงวันที่ ๒๗ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๗ และ อว ๘๐๐๕/๐๘๓ ลงวันที่ ๒๙ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๗ เรื่อง ขอความเห็นชอบหลักสูตรและโครงการเปิดสอนหลักสูตรระดับ ปริญญาตรี จาก ๒ คณะ จำนวน ๖๔ หลักสูตร ๖๔ ส่วนงาน ประกอบด้วย หลักสูตรคณะพุทธศาสตร์ จำนวน ๑ สาขาวิชา ๑. หลักสูตรพุทธศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาพุทธศิลปกรรม (หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๗) จำนวน ๑ ส่วนงาน ๑) วิทยาลัยสงฆ์เชียงราย หลักสูตรคณะสังคมศาสตร์จำนวน ๕ สาขาวิชา ๑. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต สาขาวิชารัฐศาสตร์ (หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๗) จำนวน ๒๗ ส่วนงาน ๑) คณะสังคมศาสตร์ ส่วนกลาง ๑๕) วิทยาลัยสงฆ์สุรินทร์ ๒) วิทยาลัยสงฆ์ขอนแก่น ๑๖) วิทยาลัยสงฆ์ปัตตานี ๓) วิทยาลัยสงฆ์นครราชสีมา ๑๗) วิทยาลัยสงฆ์มหาสารคาม ๔) วิทยาลัยสงฆ์เชียงใหม่ ๑๘) วิทยาลัยสงฆ์ราชบุรี ๕) วิทยาลัยสงฆ์นครศรีธรรมราช ๑๙) วิทยาลัยสงฆ์นครลำปาง ๖) วิทยาลัยสงฆ์พะเยา ๒๐) วิทยาลัยสงฆ์เลย ๗) วิทยาลัยสงฆ์แพร่ ๒๑) วิทยาลัยสงฆ์ศรีสะเกษ ๘) วิทยาลัยสงฆ์นครสวรรค์ ๒๒) วิทยาลัยสงฆ์อุทัยธานี ๙) วิทยาลัยสงฆ์อุบลราชธานี ๒๓) วิทยาลัยสงฆ์เพชรบุรี ๑๐) วิทยาลัยสงฆ์หนองคาย ๒๔) วิทยาลัยสงฆ์พุทธโสธร ๑๑) วิทยาลัยสงฆ์ชัยภูมิ ๒๕) วิทยาลัยสงฆ์ร้อยเอ็ด ๑๒) วิทยาลัยสงฆ์นครพนม ๒๖) วิทยาลัยสงฆ์ระยอง ๑๓) วิทยาลัยสงฆ์นครน่าน ๒๗) วิทยาลัยสงฆ์ชลบุรี ๑๔) วิทยาลัยสงฆ์บุรีรัมย์ ๑๐๗


๒. หลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรบัณฑิต สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ (หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๗) จำนวน ๒๒ ส่วนงาน ๑) คณะสังคมศาสตร์ ส่วนกลาง ๑๒) วิทยาลัยสงฆ์เชียงราย ๒) วิทยาลัยสงฆ์ขอนแก่น ๑๓) วิทยาลัยสงฆ์นครน่าน ๓) วิทยาลัยสงฆ์นครสวรรค์ ๑๔) วิทยาลัยสงฆ์เพชรบุรี ๔) วิทยาลัยสงฆ์เชียงใหม่ ๑๕) วิทยาลัยสงฆ์สุรินทร์ ๕) วิทยาลัยสงฆ์ร้อยเอ็ด ๑๖) วิทยาลัยสงฆ์ปัตตานี ๖) วิทยาลัยสงฆ์กาญจนบุรี ๑๗) วิทยาลัยสงฆ์พุทธโสธร ๗) วิทยาลัยสงฆ์สุพรรณบุรี ๑๘) วิทยาลัยสงฆ์พิจิตร ๘) วิทยาลัยสงฆ์พุทธปัญญาฯ ๑๙) วิทยาลัยสงฆ์สุราษฎร์ธานี ๙) วิทยาลัยสงฆ์อุบลราชธานี ๒๐) วิทยาลัยสงฆ์ลำพูน ๑๐) วิทยาลัยสงฆ์หนองคาย ๒๑) วิทยาลัยสงฆ์พุทธชินราช ๑๑) วิทยาลัยสงฆ์พ่อขุนผาเมือง ๒๒) วิทยาลัยสงฆ์มหาสารคาม ๓. หลักสูตรพุทธศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการเชิงพุทธ (หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๗) จำนวน ๑๒ ส่วนงาน ๑) คณะสังคมศาสตร์ ส่วนกลาง ๗) วิทยาลัยสงฆ์เพชรบุรี ๒) วิทยาลัยสงฆ์นครราชสีมา ๘) วิทยาลัยสงฆ์ระยอง ๓) วิทยาลัยสงฆ์ชัยภูมิ ๙) วิทยาลัยสงฆ์พิจิตร ๔) วิทยาลัยสงฆ์ราชบุรี ๑๐) วิทยาลัยสงฆ์สุราษฎร์ธานี ๕) วิทยาลัยสงฆ์ศรีสะเกษ ๑๑) วิทยาลัยสงฆ์ชลบุรี ๖) วิทยาลัยสงฆ์อุทัยธานี ๑๒) หน่วยวิทยบริการ จ.อุตรดิตถ์ ๔. หลักสูตรพุทธศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการเชิงพุทธ (หลักสูตรใหม่ พ.ศ. ๒๕๖๗) จำนวน ๑ ส่วนงาน ๑) วิทยาลัยสงฆ์ตาก ๕. หลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาการพัฒนาสังคม (หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๗) จำนวน ๑ ส่วนงาน ๑) คณะสังคมศาสตร์ ๑๐๘


คณะกรรมการประจำคณะพุทธศาสตร์ ในคราวประชุมครั้งที่ ๒/๒๕๖๗ เมื่อวันที่ ๒๐ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๗ และคณะกรรมการประจำคณะสังคมศาสตร์ ในคราวประชุมครั้งที่ ๒/๒๕๖๗ ลงวันที่ ๒๐ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๗ พิจารณาแล้ว มีมติเห็นชอบ สภาวิชาการ ในคราวประชุมครั้งที่ ๕/๒๕๖๗ เมื่อวันที่ ๔ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๗ พิจารณาแล้ว มีมติเห็นชอบ และให้เสนอสภามหาวิทยาลัยพิจารณาอนุมัติ ตามมาตรา ๑๙ (๖) แห่งพระราชบัญญัติ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย พ.ศ. ๒๕๔๐ รายละเอียดปรากฏตามเอกสารประกอบการประชุม จึงเสนอที่ประชุมเพื่อพิจารณา เอกสารประกอบการพิจารณา เอกสารแนบ เอกสารในระบบ ที่ เรื่อง ✓ ๑ พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัย พ.ศ. ๒๕๔๐ มาตรา ๑๙ (๖) ✓ ๒ มติสภาวิชาการ ครั้งที่ ๕/๒๕๖๗ ✓ ๓ เอกสารเปิดสอนหลักสูตร/โครงการเปิดสอนหลักสูตร/ไฟล์นำเสนอ ประเด็นเสนอเพื่อพิจารณา - เพื่อให้สภามหาวิทยาลัยพิจารณาอนุมัติ ผู้เสนอ : กรรมการและเลขานุการสภามหาวิทยาลัย ข้อสังเกต……………………………………………………………..……………………………………….……………… ………………………………………………………………………….……………………………..…………………………………………… ………………………………………………………………………….……………………………..…………………………………………… ………………………………………………………………………….……………………………..…………………………………………… ………………………………………………………………………….……………………………..…………………………………………… ………………………………………………………………………….……………………………..…………………………………………… ………………………………………………………………………….……………………………..…………………………………………… ………………………………………………………………………….……………………………..…………………………………………… ………………………………………………………………………….……………………………..…………………………………………… มติที่ประชุม………………………………………………………………………………..………………………………. ………………………………………………………………………….……………………………..…………………………………………… ………………………………………………………………………….……………………………..…………………………………………… ………………………………………………………………………….……………………………..…………………………………………… ………………………………………………………………………….……………………………..…………………………………………… ………………………………………………………………………….……………………………..…………………………………………… ………………………………………………………………………….……………………………..…………………………………………… ๑๐๙


๑๑๐


๑๑๑


๑๑๒


๔.๑๕ เรื่อง ขออนุมัติหลักสูตรและโครงการเปิดสอนหลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิต วิชาชีพครู (หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๗) คณะครุศาสตร์ อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ด้วยบัณฑิตวิทยาลัย มีบันทึกที่ อว ๘๐๐๑/๔๙ ลงวันที่ ๒๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๗ เรื่อง ขอความเห็นชอบหลักสูตรและโครงการเปิดสอนหลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิตวิชาชีพครู (หลักสูตร ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๗) คณะครุศาสตร์ คณะกรรมการประจำบัณฑิตวิทยาลัย ในคราวประชุมครั้งที่ ๒/๒๕๖๗ เมื่อวันที่ ๒๐ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๗ พิจารณาแล้ว มีมติเห็นชอบ สภาวิชาการ ในคราวประชุมครั้งที่ ๕/๒๕๖๗ เมื่อวันที่ ๔ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๗ พิจารณาแล้ว มีมติเห็นชอบ และให้เสนอสภามหาวิทยาลัยพิจารณาอนุมัติ ตามมาตรา ๑๙ (๖) แห่งพระราชบัญญัติ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย พ.ศ. ๒๕๔๐ รายละเอียดปรากฏตามเอกสารประกอบการประชุม จึงเสนอที่ประชุมเพื่อพิจารณา เอกสารประกอบการพิจารณา เอกสารแนบ เอกสารในระบบ ที่ เรื่อง ✓ ๑ พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัย พ.ศ. ๒๕๔๐ มาตรา ๑๙ (๖) ✓ ๒ มติสภาวิชาการ ครั้งที่ ๕/๒๕๖๗ ✓ ๓ เอกสารหลักสูตร/โครงการเปิดสอน/ไฟล์นำเสนอ ประเด็นเสนอเพื่อพิจารณา - เพื่อให้สภามหาวิทยาลัยพิจารณาอนุมัติ ผู้เสนอ : กรรมการและเลขานุการสภามหาวิทยาลัย ข้อสังเกต……………………………………………………………..……………………………………….……………… ………………………………………………………………………….……………………………..…………………………………………… ………………………………………………………………………….……………………………..…………………………………………… ………………………………………………………………………….……………………………..…………………………………………… ………………………………………………………………………….……………………………..…………………………………………… ………………………………………………………………………….……………………………..…………………………………………… มติที่ประชุม………………………………………………………………………………..………………………………. ………………………………………………………………………….……………………………..…………………………………………… ………………………………………………………………………….……………………………..…………………………………………… ………………………………………………………………………….……………………………..…………………………………………… ………………………………………………………………………….……………………………..…………………………………………… ๑๑๓


๑๑๔


๔.๑๖ เรื่อง ขออนุมัติหลักสูตรและโครงการเปิดสอนหลักสูตรประกาศนียบัตร จำนวน ๒ หลักสูตร จาก ๒ ส่วนงาน ด้วยคณะมนุษยศาสตร์ มีบันทึกที่ และอว ๘๐๐๔/๑๗๓ ลงวันที่ ๑๘ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๗ และอว ๘๐๐๔/๑๘๔ ลงวันที่ ๒๒ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๗ เรื่อง ขอความเห็นชอบหลักสูตรและโครงการเปิด สอนหลักสูตรประกาศนียบัตร จำนวน ๒ หลักสูตร จาก ๒ ส่วนงาน ดังนี้ ๑. ภาควิชาจิตวิทยา คณะมนุษยศาสตร์อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ๑) หลักสูตรประกาศนียบัตรศาสตร์และศิลปะชีวิตตามแนวพุทธจิตวิทยา (ป.ศว.) ๒. วิทยาลัยสงฆ์เชียงใหม่ ๒) หลักสูตรประกาศนียบัตรภาษาไทยสำหรับชาวต่างประเทศ (ป.ภท.) คณะกรรมการประจำคณะมนุษยศาสตร์ ในคราวประชุมครั้งที่ ๑/๒๕๖๗ เมื่อวันที่ ๘ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๖๗ พิจารณาแล้ว มีมติเห็นชอบ สภาวิชาการ ในคราวประชุมครั้งที่ ๕/๒๕๖๗ เมื่อวันที่ ๔ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๗ พิจารณาแล้ว มีมติเห็นชอบ และให้เสนอสภามหาวิทยาลัยพิจารณาอนุมัติ ตามมาตรา ๑๙ (๑๓) แห่งพระราชบัญญัติ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย พ.ศ. ๒๕๔๐ รายละเอียดปรากฏตามเอกสารประกอบการประชุม จึงเสนอที่ประชุมเพื่อพิจารณา เอกสารประกอบการพิจารณา เอกสารแนบ เอกสารในระบบ ที่ เรื่อง ✓ ๑ พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัย พ.ศ. ๒๕๔๐ มาตรา ๑๙ (๑๓) ✓ ๒ มติสภาวิชาการ ครั้งที่ ๕/๒๕๖๗ ✓ ๓ มติคณะกรรมการประจำคณะ/ประจำวิทยาลัย ✓ ๔ โครงการเปิดสอนหลักสูตรประกาศนียบัตร ประเด็นเสนอเพื่อพิจารณา - เพื่อให้สภามหาวิทยาลัยพิจารณาอนุมัติ ผู้เสนอ : กรรมการและเลขานุการสภามหาวิทยาลัย ข้อสังเกต……………………………………………………………..……………………………………….……………… ………………………………………………………………………….……………………………..…………………………………………… ………………………………………………………………………….……………………………..…………………………………………… ………………………………………………………………………….……………………………..…………………………………………… มติที่ประชุม………………………………………………………………………………..………………………………. ………………………………………………………………………….……………………………..…………………………………………… ………………………………………………………………………….……………………………..…………………………………………… ๑๑๕


๑๑๖


๔.๑๗ เรื่อง ขออนุมัติปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์แก่ประมุขประเทศ ด้วยสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก (Tha King Jigme Khesar Namgyel Wangchuck) ทรงเป็นพระมหากษัตริย์แห่งราชอาณาจักรภูฏาน รัชกาลที่ ๕ แห่งราชวงศ์วังชุก ทรงได้รับ การยกย่องจากชาวภูฏาน รวมถึงชาวไทยส่วนใหญ่ว่ามีพระจริยวัตรที่งดงาม และเป็นที่รักยิ่งของประชาชน ชาวภูฏาน ทรงเป็นศูนย์รวมจิตใจของพสกนิกรทุกหมู่เหล่า จากการที่ทรงวางพระองค์อย่างเป็นกันเองในหมู่ ประชาชน จึงสร้างความประทับใจแก่พสกนิกรอย่างสูงถึงแม้ว่าพระองค์ไม่ต้องทรงรับพระราชภารกิจการ บริหารประเทศ เนื่องจากสมเด็จพระราชบิดา ได้ทรงวางระบอบปกครองแบบประชาธิปไตยขึ้นมาอยู่ก่อนแล้ว แต่พระองค์ยังทรงเป็นสัญลักษณ์สำคัญ ในการสร้างเอกภาพและเสถียรภาพ ในประเทศที่มีประชากรเพียง ๗๕๓,๙๔๗ คน โดยมุ่งเน้นด้านความสุขมวลรวมของประชากรภายในประเทศเป็นสำคัญ เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติแด่ สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก พระมหากษัตริย์แห่งราชอาณาจักรภูฏาน ผู้ทรงมีคุณูปการต่อพระพุทธศาสนา ทรงพระจริยวัตรที่งดงาม จึงเสนอขอพิจารณาอนุมัติถวายปริญญาพุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์สาขาวิชาพระพุทธศาสนา และเพื่อเป็นเกียรติประวัติแก่มหาวิทยาลัยสืบไป รายละเอียดปรากฏตามเอกสารประกอบการประชุม จึงเสนอที่ประชุมเพื่อพิจารณา เอกสารประกอบการพิจารณา เอกสารแนบ เอกสารในระบบ ที่ เรื่อง ✓ ๑ พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัย พ.ศ. ๒๕๔๐ มาตรา ๑๙ (๓) ✓ ๒ ประวัติโดยสังเขปฯ ประเด็นเสนอเพื่อพิจารณา - เพื่อให้สภามหาวิทยาลัยพิจารณาอนุมัติ ผู้เสนอ : กรรมการและเลขานุการสภามหาวิทยาลัย ข้อสังเกต……………………………………………………………..……………………………………….……………… ………………………………………………………………………….……………………………..…………………………………………… ………………………………………………………………………….……………………………..…………………………………………… ………………………………………………………………………….……………………………..…………………………………………… ………………………………………………………………………….……………………………..…………………………………………… ………………………………………………………………………….……………………………..…………………………………………… มติที่ประชุม………………………………………………………………………………..………………………………. ………………………………………………………………………….……………………………..…………………………………………… ………………………………………………………………………….……………………………..…………………………………………… ………………………………………………………………………….……………………………..…………………………………………… ………………………………………………………………………….……………………………..…………………………………………… ๑๑๗


๔.๑๘ เรื่อง กำหนดวันประชุมสภามหาวิทยาลัย ประจำเดือนพฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๗ ตามที่สภามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ในคราวประชุมครั้งที่ ๑๑/๒๕๖๖ เมื่อวันที่ ๒๙ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๖ มีมติให้กำหนดปฏิทินการประชุมสภามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ประจำปี ๒๕๖๗ ความทราบแล้ว นั้น เพื่อให้การประชุมสภามหาวิทยาลัย ดำเนินไปด้วยความเรียบร้อย มีประสิทธิภาพ และบรรลุวัตถุประสงค์ ตามนโยบายของมหาวิทยาลัย จึงแจ้งกำหนดการประชุมสภามหาวิทยาลัย ครั้งที่ ๕/๒๕๖๗ ในวันที่ ๒๙ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๗ เวลา ๑๓.๐๐ น. เป็นต้นไป ณ ห้องประชุม ๔๐๑ ชั้น ๔ สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ตำบลลำไทร อำเภอวังน้อย จังหวัด พระนครศรีอยุธยา ครั้งที่ วัน/เดือน/ปี ขึ้น/แรม ๕/๒๕๖๗ วันที่ ๒๙ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๗ แรม ๗ ค่ำ เดือน ๖ จึงเสนอสภามหาวิทยาลัย ตามมาตรา ๑๙ (๑) แห่งพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ ราชวิทยาลัย พ.ศ. ๒๕๔๐ และข้อ ๖ ของข้อบังคับมหาวิทยาลัย ว่าด้วยการประชุมสภามหาวิทยาลัย พ.ศ. ๒๕๔๑ รายละเอียดปรากฏตามเอกสารประกอบการประชุม จึงเสนอที่ประชุมเพื่อพิจารณา เอกสารประกอบการพิจารณา เอกสารแนบ เอกสารในระบบ ที่ เรื่อง ✓ ๑ ข้อบังคับมหาวิทยาลัย ว่าด้วยการประชุมสภามหาวิทยาลัย พ.ศ. ๒๕๔๑ ✓ ๒ ปฏิทินเดือนพฤษภาคม ประเด็นเสนอเพื่อพิจารณา - เพื่อให้สภามหาวิทยาลัยพิจารณาอนุมัติ ผู้เสนอ : กรรมการและเลขานุการสภามหาวิทยาลัย ข้อสังเกต……………………………………………………………..……………………………………….……………… ………………………………………………………………………….……………………………..…………………………………………… ………………………………………………………………………….……………………………..…………………………………………… ………………………………………………………………………….……………………………..…………………………………………… มติที่ประชุม………………………………………………………………………………..………………………………. ………………………………………………………………………….……………………………..…………………………………………… ………………………………………………………………………….……………………………..…………………………………………… ………………………………………………………………………….……………………………..…………………………………………… ๑๑๘


พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๗ ๑๑๙


วาระที่ ๕ เรื่องอื่น ๆ ๕.๑…............…………………………………………………………...……….…………………………………………… ………………………………………………………………………….……………………………..…………………………………………… ………………………………………………………………………….……………………………..…………………………………………… ………………………………………………………………………….……………………………..…………………………………………… ………………………………………………………………………….……………………………..…………………………………………… ………………………………………………………………………….……………………………..…………………………………………… ………………………………………………………………………….……………………………..…………………………………………… ………………………………………………………………………….……………………………..…………………………………………… ………………………………………………………………………….……………………………..…………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………..…….…………………… ๕.๒…............…………………………………………………………...……….…………………………………………… ………………………………………………………………………….……………………………..…………………………………………… ………………………………………………………………………….……………………………..…………………………………………… ………………………………………………………………………….……………………………..…………………………………………… ………………………………………………………………………….……………………………..…………………………………………… ………………………………………………………………………….……………………………..…………………………………………… ………………………………………………………………………….……………………………..…………………………………………… ………………………………………………………………………….……………………………..…………………………………………… ………………………………………………………………………….……………………………..…………………………………………… ………………………………………………………………………….……………………………..…………………………………………… ………………………………………………………………………….……………………………..…………………………………………… ………………………………………………………………………….……………………………..…………………………………………… ๕.๓…............…………………………………………………………...……….…………………………………………… ………………………………………………………………………….……………………………..…………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………..…….…………………… …………………………………………………………………………………………………………………………..…….…………………… …………………………………………………………………………………………………………………………..…….…………………… ………………………………………………………………………….……………………………..…………………………………………… ………………………………………………………………………….……………………………..…………………………………………… ๑๒๐


Click to View FlipBook Version