สารคดที อ งเที่ยว
ชาย 5 กบั ผามออีแดง
การผจญภยั ของ 5 ชายฉกรรจ
เสนอ
คุณครูกัญนณัฏฐ อคั รชาติ
คำนำ
สารคดี เร่อื ง ชาย 5 กับผามออีแดง เลมนี้ เปน สารคดีฝกหัดของนักเรียนชน้ั มธั ยมศึกษาปที่ ๕ โรงเรียน
กำแพง อำเภออุทมุ พรพิสัย จงั หวดั ศรีสะเกษ ซ่ึงเปนสวนหน่งึ ของรายวิชาภาษาไทยพน้ื ฐาน (ท๓๒๑๐๒) มี
จุดมุง หมายเพ่ือใหนกั เรยี นไดศกึ ษาสถานท่ที องเทีย่ วเชิงวฒั นธรรมในจังหวัดของตนเองและสง เสริมการ
ทอ งเทย่ี วของจังหวัด โดยเนือ้ หาสว นใหญน ั้นไดเขยี นมาจากประสบการณจ ริงของคณะผูจดั ทำ ประกอบกับ
ขอมูลเพ่ิมเติมท่ีไดจากการศึกษาคนควา
ในสารคดเี ลม น้ที านจะไดทราบเกย่ี วกับ รปู ภาพบรรยากาศ ตำนานความเปน มา และลักษณะที่ต้งั ของ
ผามออีแดง
สารคดีเลม นีจ้ ะสำเร็จไมไ ดห ากปราศจากคำชแี้ นะจากคณุ ครกู ญั จนณ ฏั ฐ อคั รชาติ ต้งั แตค ดิ ริเรม่ิ และ
ดำเนนิ การจนสารคดีเลม น้ีปรากฏสสู ายตาผอู านทุกทา น
คณะผจู ัดทำหวงั เปนอยา งย่งิ วาสารคดเี ร่ืองน้จี ะเกิดประโยชนแ กผทู ่ีสนใจศึกษาสถานทที่ องเทย่ี ว ผา
มออีแดง ไมมากก็นอย
คณะผูจัดทำ
กลุม การผจญภยั ของ ๕ ชายฉกรรจ
“คุณรจู กั ผามออีแดง ไหม สถานท่ีทอ งเที่ยวทเ่ี ปน สวนหน่งึ ของอทุ ยานแหง ชาติเขาพระวิหาร ตำบล
เสาธงชัย อำเภอกันทรลักษ จังหวดั ศรสี ะเกษ และยังเปนสถานทีห่ ลายคนมักมองขามในทวิ ทศั นความ
สวยงามและความสำคญั ของประวัติศาสตรที่มีภาพหินแกะสลักอายนุ ับพนั ปซอ นอยู” ทีผ่ ามออแี ดงน้ีมเี รื่อง
เลาตอกันมาวามีครผู หู ญิงคนหนึ่งชอื่ แดง น่ังรถอยูดานหนาคูก บั คนขับ จนมาถึงบรเิ วณหนา ผา รถเกิดเสียหลัก
ครูแดงตกใจเลยกระโดดลงรถ แตป รากฏวาโดนรถทับ ครแู ดงไมไดเ สยี ชวี ิตทันที ตอ งเจ็บปวดทนพิษบาดแผล
อยนู าน เมื่อครูแดงเสยี ชวี ติ ไปกม็ คี นพบครแู ดงมาหลอกหลอน บรเิ วณน้ีกเลยมชี ่ือเรยี กวา “ผามออี
แดง” ตง้ั แตน น้ั มา
บรรยากาศทว่ั ไปในระหวางเดนิ ทาง
การเดนิ ทางสูสถานที่ทองเทยี่ วเริม่ ตน ณ วนั ที่ 15 มกราคม พ.ศ.2565 นัดหมายรวมตัวกนั ตัง้ แต
2.00 น. แตกลับไดเ ดนิ ทางจริงในเวลา 02.40 น. สมาชิกมี 5 คน เดินทางโดยใชจ กั รยานยนต 3 คนั
อณุ หภมู ิกอนออกเดินทาง 16 องศาเซลเซียส “คำสง่ั หัวหนา (นายรพภี ัทร) ตองไหวรถกอ นออกเดิน”
เพื่อท่ีจะใหการเดินทางเปนไปอยา งราบรน่ื หลังจากไหวเสร็จก็เร่มิ ตนการเดนิ ทาง
รปู ภาพกอนออกเดินทาง ณ เวลา 2.37 น.
ชว งแรกของการเดินทางเปน ไปดวยดี เพราะมหี วั หนาท่เี คยมาแลวหลายครงั้ นำทาง การเดินทางในชวงนีไ้ มมี
อะไรมากเสน ทางเปน แนวตรง มีเลี้ยวบางเล็กนอย พอเดนิ ทางไดพักใหญ ๆ รตู วั อกี ทหี วั หนากห็ ายไปแลว ชาย
3 คน กบั รถ 2 คัน มองหนา กัน เลกิ่ ลัก่ พลางพดู ในใจวา “หัวหนา ผมหายไปไหน ?” ไมนานนักกม็ ีเสียงการ
แจงเตอื นในโทรศัพทของเพื่อนบอกวา “หัวหนา แวะ ปตท. อยูตาม GPS ไปกอนเลย” เนอื่ งจากรถของ
หวั หนา อยูทา ยสุด จงึ ไมไดสังเกตเลยแมแตน ิดเดยี ว คำส่ังของหัวหนาคือทส่ี ดุ ชาย 3 คนมองหนากนั สกั พกั
นายชนธีร หยบิ โทรศัพทข้นึ มาเปด ไปที่ Google Maps แลวบอก “ไปผามออแี ดง” จากเสน ทางหลักทเ่ี ปน
เสน ตรง กลับตอ งขับเขา ซอยทีไ่ มรูวา จะนำพาไปสูเสน ทางไหน การเชือ่ GPS ถอื วาเปนสิ่งท่ีไมอยากทำในการ
เดนิ ทางเลย ก็รู ๆ กนั อยู ในกรณแี บบนีค้ งมีแคมีวธิ ีเดยี ว GPS นำพาไปยังเสนทางทีเ่ ปน ชมุ ชน บางคร้งั ก็มีไฟ
ทางบางครั้งครัง้ ก็ไมมี ส่งิ ท่มี ีตลอดทางเลยกค็ ือสายตาของเจาถนิ่ ทีจ่ องมาทางเราอยูตลอดเวลา น้ันไมใ ชสง่ิ ที่
นา กลวั อะไรเลย หากแตวา เสนทางท่ี GPS นำพาไปขางหนา มนั เปน ส่ิงท่ีไมควรจะเจอในการเดินทางเลยแมแต
นดิ เดยี ว (งานศพ) มาเปน เตน็ ทงานเลย เหน็ ทัง้ รปู เหน็ ท้ังโลง โชคดที ี่ยังไมมีเคร่อื งเสยี งมาเปด เพลง เราก็ไดแค
ขับรถผา นไปแบบเงยี บ ๆ หลังจากนน้ั ขบั ไปไมนาน GPS ก็พามาสูเ สน ทางใหญที่เปนเสน ทางหลกั พอลอง
ขยาย GPS ดูเสนทางดี ๆ แลว….. “มนั พามาเสน ทางออมนห่ี วา” ถา ขบั ตรงมาเร่ือย ๆ สุดทายก็มาเจอ
เสน ทางหลกั อยูดี…… หมดคำจะพดู
รูปภาพ ระหวา งพักการเดินทาง ณ เวลา 04.18 น.
กวาจะรวมตวั กันไดก็เสียเวลาไปต้ัง 30 นาที คำแรกท่ีหวั หนา ถามเลยวา “หายไปไหนกันมา” เราทงั้ 3 คน ก็
ไดแ ตย้ิมแหง ๆ แลว ตอบไปวา “ตาม GPS” ถึงจะเจอเร่ืองทค่ี าดไมถึง แตเปา หมายหลกั ของเราคือ ผามออี
แดง เพราะฉะนัน้ เรอื่ งแคนกี้ ็ตอ งทงิ้ ไวกอน การเดินทางหลังจากนแ้ี ทบจะไมม ีอะไรเกิดขึ้นเลย เน่ืองจากคร้ังน้ี
หวั หนานำทางแทน GPS สวนมากเสน ทางเปนแนวตรงอยูแลว จงึ เดินทางไดอยางราบร่ืน ถึงแมจ ะตกหลมุ ไป
2 หลมุ กเ็ ถอะ แตทายที่สดุ ก็เดินทางมาสูเ ปาหมายไดเ ปนท่เี รียบรอย
รปู ภาพ ถงึ จุดหมายปลายทางนะเวลา 05.37 น.
บรรยากาศโดยรวมของผามออแี ดง
เน่ืองจากเราเดินทางถึงสถานท่ที องเทยี่ วนะเวลา 05.37 น. บรรยากาศโดยรวบยังคงอยใู นความมืด
ทอ งฟาทีเ่ ติมไปดว ยดาวและกลิ่นบะหมกี่ ่งึ สำเร็จรูปที่โชยมาแตไ กล กลืนน้ำลายไปหนึ่งที
พ้ืนที่โดยรอบ มลี ักษณะเปนหนาผาสงู ชนั กั้นเขตแดนประเทศไทยกบั ประเทศกมั พชู า จากน้ันเดินไปประมาณ
200 เมตร กจ็ ะพบกับจุดชมววิ ซึง่ มีหลายจดุ ใหไ ดแ วะชมวิวและถายภาพเปนระยะมองเหน็ ทัศนียภาพของ
แผนดนิ ประเทศกัมพชู าที่อยูต่ำลงไปอยางเปนมุมกวา ง โดยจดั เปนเสน ทางศึกษาธรรมชาตทิ อดยาวไปจนสุด
ปลายหนา ผามรี วั้ กั้นไว สามารถแวะชมววิ ไดตลอดทาง
ประวัติศาสตร ความเปน มาของผามออแี ดง
ตำนานไดกลาวไวว า เหตุการณนเี้ กิดข้ึนเมือ่ พ.ศ. 2504 ไดม คี ุณครสู าวจบมาใหมท า นหนึ่งชอ่ื สริ ิ
พูล ตนั ตเิ จริญ ชื่อเลน วา แดง เดินทางมาจากกรุงเทพฯ เพ่อื จะมาสอนหนังสือท่ีโรงเรยี นขุขันธร าษฎรบ ำรุง
อ.ขุขันธ จ.ศรสี ะเกษ ซง่ึ ครแู ดงเปนหลานสาวของอดตี ผอ.โรงพยาบาลศรสี ะเกษสมัยนั้น วนั หน่งึ ทางโรงเรียน
ของครแู ดงไดพ าคณะครูและนกั เรยี นมาทัศนศึกษาที่ปราสาทพระวหิ าร เม่อื รถของคณะเดนิ ทางมาถงึ บริเวณ
เนนิ ทางขนึ้ เขาพระวหิ าร ซึ่งสมยั ยังเปนเนินสูงชันประมาณ 45 องศา จงึ เรียกเนินตรงนวี้ า “เนิน45” ดวย
ความท่ีถนนสงู ชนั บวกกับรถมีผโู ดยสารจำนวนมาก ทำใหรถไมส ามารถวงิ่ ข้นึ เนิน 45 ได รถจึงเกิดเสยี หลกั
ถอยหลงั ลงจากเนนิ ขณะที่รถกำลงั เอยี งครูสาวจากกรุงเทพเพิ่งเคยเผชิญกับเหตุการณร ะทึกขวญั แบบนี้เปน
ครงั้ แรกในชีวติ จงึ ตกใจและกระโดดออกจากตวั รถ ทนั ใดนั้นรถโดยสารคนั ดงั กลาวก็เกิดพลกิ คว่ำมาทบั รา งครู
สาวเสียชีวิตคาท่ี สวนผูร ว มชะตากรรมคนอน่ื นนั้ ปลอดภยั กนั ทกุ คน หลังจากขาวการเสียชีวติ ของครแู ดงเงยี บ
ลง ขา ววิญญาณเฮ้ยี นของครูสาวผเู คราะหร า ยวาไดมาปรากฏกายใหเ จาหนาที่และชาวบานเหน็ อยบู อยคร้งั ก็
เปน ทโี่ จทยขานกันอยา งเน่ืองๆ จากปากตอปากไมน านขา ววิญญาณครสู าวท่ีอาลัยอาวรณราง ไมยอมไปผุดไป
เกดิ ของ ผคี รูแดง หรือที่ชาวบานเรยี ก ผีอแี ดง ก็ดังกระฉอนไปทั่ว เปน เหตใุ หเ จา หนา ทีอ่ ุทยานรวมกับ
ชาวบา นตอ งนิมนตพระสงฆมาทำพธิ กี รวดนำ้ ทำบญุ อุทศิ สวนกุศลใหผคี รูแดง และไดอัญเชิญดวงวญิ ญาณไปสิง
สถิตอยใู นแผน หินขนาดใหญและไดเ คลอ่ื นยา ยขน้ึ ไปต้งั ตระหงานไวทเี่ นินตดิ หนาผา ซ่ึง “เนนิ ” ภาษาอีสานจะ
เรียกวา “มอ” จึงเปนทม่ี าของการบนั ทึกเรอื่ งเศราไวเปน ตำนานผามออแี ดง จนถงึ ปจ จุบัน…
นอกจากน้ี บริเวณผามออีแดง มีภาพแกะสลกั นนู ต่ำเปน ภาพคน 3 คน ในเครื่องแตงกายแบบชาว
กัมพูชา สรา งขึ้นกอนปราสาทเขาพระวหิ าร ราวกลางศตวรรษที่ 11 อายปุ ระมาณ 1,500 ป มโี บราณวตั ถุ
(พระพุทธรปู นาคปรก) บริเวณจดุ สงู สดุ ของผามออีแดงสามารถมองเห็นทัศนยี ภาพของปราสาทเขาพระวิหาร
ไดอ ยางชดั เจน
ใกลกันน้นั ยงั เปน ทีต่ ง้ั ของ “เสาธงชาติไทย” ทีม่ ีประวตั นิ าสนใจคือ เมอ่ื ครัง้ เกิดขอพพิ าทไทย-กัมพชู า
กรณปี ราสาทเขาพระวิหาร ศาลโลกไดต ัดสนิ ใหอ ธิปไตยเหนือปราสาทเขาพระวหิ ารแกกัมพูชา เม่ือวนั ที่ 15
มิถนุ ายน พ.ศ.2505 จอมพลประภาส จารเุ สถียร รัฐมนตรีวา การมหาดไทยในสมัยนน้ั ไดอ ัญเชิญเสาธงชาติ
ไทยตน น้ี ซ่งึ เคยตง้ั ตระหงานอยบู นยอดเขาพระวหิ ารบริเวณผาเปย ตาดี มาต้ังไวโ ดยไมมีการลดธงลงจากยอด
เสาตงั้ แตว นั ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ.2505
จากนนั้ เดนิ ไปชมโบราณสถานสถปู ครู่ ูปทรงสเ่ี หลี่ยมลกู บาศก์ ส่วนบนกลมข้างในเป็นโพรง สาํ หรบั บรรจสุ ่งิ ของสร้างด้วย
หนิ ทรายแดง ซงึ่ เช่อื กนั ว่าเป็นสญั ลกั ษณ์ของความอดุ มสมบรู ณ์
รายละเอยี ดสตั วป ระเภทตา ง ๆ ทผี ามออีแดง
นอกจากนกที่บินไปบินมาและเสยี งจง้ิ หรดี ทด่ี ังไปท่ัวปา แลว แทบจะไมเจอสตั วอ ื่นเลยที่อยใู นผามออแี ดง
จนกระทัง่ เดินไปเจอกบั เจาสิ่งที่ไดเ ห็นต้ังแตต นการเดนิ ทาง มันคอื สุนัข นั้นเอง
สรุป
การเดินทางไปศึกษาคร้ังน้ี นอกจากจะไดบ รรยากาศในการเดนิ ทางและบรรยากาศในผามออแี ดงแลว ยัง
ไดค วามรู ความเปน มาภายในสถานท่ีอีกดว ย ถงึ แมจะเปน การเดนิ ทางทียาวไกล ใชเ วลานานและหนาวโคตร ๆ
แตท้ังหมดน้ันกถ็ ือวา เปนประสบการณชีวิตของแตละคนในกลมุ ท่ีสามารถผา นมาได ผูเขียนจะไมมีวันลมื ทกุ
ภาพ ทุกส่งิ ทีเ่ กดิ ขน้ึ กบั กลุมที่เรียกไดเ ต็มปากวา “เพื่อน” รวมถึงการเดินทางคร้ังนี้อยา งแนนอน
ภาพความประทบั ใจและความทรงจำ
สารคดีทองเที่ยว เรือ่ ง ชาย 5 กบั ผามออแี ดง
จัดทำโดย
1. นาย จกั รพนั ธ คำวเิ ศษ เลขท่ี 2
2. นาย ชนธร จนั ทะเสน เลขท่ี 4
3. นาย ปฏิพล ทตั สอย เลขที่ 8
4. นาย รพภี ทั ร เมืองจันทร เลขท่ี 9
5.นาย อดศิ ักดิ์ ศรยี งยศ เลขที่ 10
ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที5่ /1
เสนอ
คุณครู กญั จนณัฎฐ อัครชาติ
โรงเรียนกำแพง อำเภออทุ ุมพรพสิ ัย จังหวัดศรีสะเกษ
สำนกั งานเขตพ้นื ที่การศึกษามธั ยมศึกษาศรสี ะเกษ ยโสธร