1
ก เอกสารประกอบการเรียนการสอน E-books เรื่อง ระบบเศรษฐกิจ รายวิชา หน้าที่พลเมืองและเศรษฐศาสตร์ (ส23101) กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนา ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ผู้จัดทำได้เรียบเรียง เนื้อหาความรู้โดยยึดตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ซึ่งมีเนื้อหาที่เหมาะสมกับนักเรียน เพื่อให้นักเรียนได้ใช้ประกอบการเรียน ในห้องเรียนและศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมด้วยตนเอง เอกสารฉบับนี้มีเนื้อหาทั้งหมด 6 เรื่องใหญ่ๆ ได้แก่ 1) ความหมายและลักษณะทั่วไปของตลาด 2) กลไกราคาใน ระบบเศรษฐกิจ 3) การกำหนดราคาในระบบเศรษฐกิจ 4) เศรษฐกิจพอเพียงกับ การพัฒนาประเทศ 5) บทบาทของรัฐบาลในการพัฒนาประเทศ และ 6) การค้าและ การลงทุนระหว่างประเทศ สำหรับเอกสารประกอบการเรียนการสอน E-books ชุดนี้ เป็นชุดที่ 1 ซึ่งผู้จัดทำได้เรียงเนื้อหาจากง่ายไปหายาก มีเนื้อหาให้นักเรียนได้ศึกษา ทบทวนความรู้ ทำกิจกรรมระหว่างเรียน โดยมีครูเป็นผู้ให้คำแนะนำ ช่วยเหลือ กระตุ้นให้นักเรียนได้ปฏิบัติ เป็นการฝึกทักษะจนเกิดความชำนาญ สามารถนำไปใช้ ได้อย่างถูกต้องและสร้างเสริมระเบียบวินัยในตนเองเป็นอย่างดี ผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่า เอกสารประกอบการเรียนการสอน E-books เล่มนี้ จะเกิดประโยชน์อย่างสูงสุดต่อการจัดการเรียนรู้ของครู นักเรียนและผู้ที่สนใจ ได้ นำไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพ การจัดการเรียนการสอนให้ผู้เรียนบรรลุจุดมุ่งหมาย ในเนื้อหาสาระและเป็นผู้ที่มีคุณลักษณะที่พึงประสงค์ของหลักสูตร สามารถนำไป ประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ อนัญญา รัตนะวัน
ข เรื่อง หน้า คำนำ ก สารบัญ ข คำชี้แจง .................................................................................................... 1 คำแนะนำสำหรับนักเรียน.......................................................................... 3 สาระ มาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวชี้วัด.......................................................... 5 จุดประสงค์การเรียนรู้ชั่วโมงที่ 1................................................................. 6 แบบทดสอบก่อนเรียน เรื่อง การค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ ........... 7 ใบความรู้เรื่อง การค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ ............................... 11 ใบงานที่ 6.1 เรื่อง การค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ............................ 30 ใบงานที่ 6.2 เรื่อง การค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ........................... 33 จุดประสงค์การเรียนรู้ชั่วโมงที่ 2................................................................ 35 ใบงานที่ 6.3 เรื่อง การค้าและการกีดกันทางการค้าระหว่างประเทศ........... 36 ใบงานที่ 6.4 เรื่อง การค้าและการกีดกันทางการค้าระหว่างประเทศ........... 38 แบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง การค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ ........... 41 บรรณานุกรม 44 ภาคผนวก 46 เฉลยคำตอบแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน...................................... 47 เฉลยคำตอบใบงานที่ 6.1 – 6.4................................................................... 48
1 การใช้เอกสารประกอบการเรียนการสอน E-books เรื่อง ระบบเศรษฐกิจ รายวิชา หน้าที่พลเมืองและเศรษฐศาสตร์ (ส23101) กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 1) ขอบเขตเนื้อหาของหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ ⚫ เรื่องที่ 1 ความหมายและลักษณะทั่วไปของตลาด จำนวน 3 ชั่วโมง ⚫ เรื่องที่ 2 กลไกราคาในระบบเศรษฐกิจ จำนวน 2 ชั่วโมง ⚫ เรื่องที่ 3 การกำหนดราคาในระบบเศรษฐกิจ จำนวน 3 ชั่วโมง ⚫ เรื่องที่ 4 เศรษฐกิจพอเพียงกับการพัฒนาประเทศ จำนวน 2 ชั่วโมง ⚫ เรื่องที่ 5 บทบาทของรัฐบาลในการพัฒนาประเทศ จำนวน 3 ชั่วโมง ✓ เรื่องที่ 6 การค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ จำนวน 2 ชั่วโมง 2) องค์ประกอบของหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เรื่องที่ 5 1. คำชี้แจง 2. คำแนะนำสำหรับนักเรียน 3. สาระสำคัญ 4. จุดประสงค์การเรียนรู้ 5. แบบทดสอบก่อนและหลังเรียน 6. ใบความรู้ 7. ใบงานที่ 6.1 – 6.4 8. เฉลยใบงาน 9. บรรณานุกรม 10. เฉลยแบบทดสอบ การค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ
2 3) ระยะเวลาในการเรียนหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เรื่องที่ 6 เอกสารประกอบการเรียนการสอน E-books เรื่อง ระบบเศรษฐกิจ รายวิชา หน้าที่พลเมืองและเศรษฐศาสตร์ (ส23101) กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ชุดที่ 6 ใช้เวลาในการ จัดกิจกรรม ทั้งหมด 2 ชั่วโมง ได้แก่ ชั่วโมงที่ 1 เรื่อง การค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ ชั่วโมงที่ 2 เรื่อง สาเหตุและวิธีการกีดกันทางการค้าในการค้าระหว่างประเทศ 4) เกณฑ์การประเมินผลหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เรื่องที่ 6 เอกสารประกอบการเรียนการสอน E-books เรื่อง ระบบเศรษฐกิจ รายวิชา หน้าที่พลเมืองและเศรษฐศาสตร์ (ส23101) กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ชุดที่ 6 ใช้ประกอบแผนการ จัดการเรียนรู้ที่ 14 และ 15 ใช้เวลาในการจัดกิจกรรมละ 1 ชั่วโมง วัดผลประเมินผล โดยใช้คะแนนเฉลี่ยของใบงาน แบบทดสอบหลังเรียนผ่านเกณฑ์คิดเป็นคะแนน ร้อยละ 80 ขึ้นไป
3 การใช้เอกสารประกอบการเรียนการสอน E-books เรื่อง ระบบเศรษฐกิจ รายวิชา หน้าที่พลเมืองและเศรษฐศาสตร์ (ส23101) กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 1. การเข้าสู่บทเรียนเอกสารประกอบการเรียนการสอน E-books จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ที่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ เนื่องจากบทเรียน ออกแบบมาให้สามารถใช้งานบนเครือข่ายได้ นักเรียนสามารถใช้เครื่อง คอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ (Desktop PC) โน ้ตบุ๊ค (Notebook) เครื่อง คอมพิวเตอร์แท็บเล็ต (Tablet PC) หรือโทรศัพท์มือถือ เป็นต้น การค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ
4 2. การเข้าไปศึกษาเอกสารประกอบการเรียนการสอน E-books เรื่อง ระบบ เศรษฐกิจ รายวิชาหน้าที่พลเมืองและเศรษฐศาสตร์ (ส23101) กลุ่มสาระ การเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ชุดที่ 6 ให้นักเรียนเข้าไปที่ 2.1 คลิกที่ลิงก์ ......................... 2.2 Scan QR CODE 3. อ่านศึกษา ทำความเข้าใจเนื้อหาของกิจกรรม และปฏิบัติตามกิจกรรม ที่กำหนดให้ และศึกษาเพิ่มเติมได้จากแหล่งเรียนรู้เพิ่มเติม ซึ่งมีลำดับ การศึกษาและทำกิจกรรม ดังนี้ 3.1 อ่านคำชี้แจงเกี่ยวกับขั้นตอนการใช้เอกสารประกอบการเรียนการสอน E-books ให้เข้าใจก่อนลงมือทำงานหรือทำการศึกษาทุกครั้ง 3.2 ทำแบบทดสอบก่อนเรียนเพื่อประเมินความรู้เดิมของนักเรียน 3.3 ลงมือปฏิบัติกิจกรรมตามขั้นตอนในเอกสารโดยศึกษาใบความรู้ และทำใบงาน ตามขั้นตอน รวมถึงการนำเสนอผลการปฏิบัติกิจกรรม 3.4 เมื่อทำกิจกรรมครบแล้ว ทำแบบทดสอบหลังเรียน เพื่อวัดความเข้าใจ และเปรียบเทียบความก้าวหน้าทางการเรียนของนักเรียน หมายเหตุครูเป็นที่ปรึกษาคอยชี้แนะ แนะนำ ในการปฏิบัติกิจกรรมทุกขั้นตอนอย่างใกล้ชิด
5 สาระที่ 3 เศรษฐศาสตร์ มาตรฐาน ส.3.2 เข้าใจระบบ และสถาบันทางเศรษฐกิจต่าง ๆ ความสัมพันธ์ ทางเศรษฐกิจและความจำเป็นของการร่วมมือกันทางเศรษฐกิจในสังคมโลก ตัวชี้วัด ส 3.2 ม.3/1 อธิบายบทบาทหน้าที่ของรัฐบาลในระบบเศรษฐกิจ ตัวชี้วัด ส 3.2 ม.3/2 แสดงความคิดเห็นต่อนโยบายและกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ของรัฐบาลที่มีต่อบุคคลกลุ่มคนและประเทศชาติ ตัวชี้วัด ส 3.2 ม.3/4 อภิปรายผลกระทบที่เกิดจากภาวะเงินเฟ้อ เงินฝืด ตัวชี้วัด ส 3.2 ม.3/5 วิเคราะห์ผลเสียจากการว่างงาน และแนวทางแก้ปัญหา สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด
6 การลงทุนระหว่างประเทศก่อให้เกิดประโยชน์แก่ผู้ลงทุนและประเทศผู้รับ การลงทุนทั้งทางตรงและทางอ้อม ด้านความรู้ (K) 1.1 นักเรียนสามารถอธิบายความสำคัญของการค้าและสถานการณ์การค้า ระหว่างประเทศได้ 1.2 นักเรียนสามารถอธิบายความรู้เกี่ยวกับการเงินและการลงทุนระหว่าง ประเทศได้ ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) 2.1 นักเรียนสามารถเปรียบเทียบการเงินและการลงทุนระหว่างประเทศได้ 2.2 นักเรียนสามารถวิเคราะห์ข้อดีและข้อเสียของการค้าระหว่างประเทศได้ อย่างเป็นเหตุเป็นผล 2.3 นักเรียนมีทักษะกระบวนการทำงานร่วมกันเป็นกลุ่ม ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) นักเรียนมีความรับผิดชอบ มีความซื่อสัตย์สุจริต มุ่งมั่นในการทำงาน มีระเบียบวินัย และตรงต่อเวลา เรื่อง การค้าและการลงทุนระหว่าง ประเทศ
7 เรื่อง การค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 คำสั่ง ให้นักเรียนทำเครื่องหมายกากบาท () ที่นักเรียนเห็นว่าถูกต้องที่สุด เพียงคำตอบเดียวลงในกระดาษคำตอบ (10 คะแนน) 1. สินค้าส่งออกจากประเทศไทยส่วนใหญ่เป็นสินค้าประเภทใด ก. ยางพารา ข. การประมง ค. เกษตรกรรม ง. อุตสาหกรรม 2. ตลาดที่ซื้อสินค้าของไทยมากที่สุดคือข้อใด ก. อาเซียน ข. นาฟตา ค. ญี่ปุ่น ง. จีน คะแนนที่ได้............
8 3. ตลาดนำเข้าสินค้าที่สำคัญของไทยมากที่สุดเรียงตามลำดับ คือข้อใด ก. ญี่ปุ่น จีน มาเลเซีย สิงคโปร์ ข. จีน ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา มาเลเซีย ค. ญี่ปุ่น จีน มาเลเซีย สหรัฐอเมริกา ง. ญี่ปุ่น จีน สหรัฐอเมริกา สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 4. สาเหตุสำคัญที่มีการตั้งกำแพงภาษีสินค้าจากต่างประเทศให้มีราคาสูงคืออะไร ก. รัฐบาลต้องการเก็บภาษีให้มาก ข. ปกป้องอุตสาหกรรมภายในประเทศ ค. ประชาชนในประเทศมีรายได้น้อยกว่ามาตรฐาน ง. ต้องการให้สินค้ามีคุณภาพทัดเทียมกับนานาประเทศ 5. ข้อความเกี่ยวกับมาตรการด้านภาษีศุลกากรข้อใดถูกต้อง ก. ต้องการรายได้เข้าประเทศให้มากที่สุด ข. เพื่อคุ้มครองทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ค. เป็นเครื่องมือปกป้องทางการค้ามากกว่าหารายได้ ง. เพื่อความปลอดภัยในการลักลอบส่งสินค้าที่ผิดกฎหมาย 6. การกำหนดโควตานำเข้าสินค้า เป็นมาตรการในข้อใด ก. มาตรการมาตรฐานสินค้า ข. มาตรการควบคุมด้านราคา ค. มาตรการการช่วยเหลือผู้ผลิต ง. มาตรการการจำกัดปริมาณสินค้า 7. การเก็บภาษีนำเข้าในราคาที่เพิ่มสูงขึ้นมีผลสำคัญในข้อใด ก. สินค้านำเข้ามีราคาสูงทำให้การบริโภคลดลง ข. รัฐบาลได้รับผลตอบแทนจากภาษีสินค้าส่งออกมากขึ้น ค. ต้นทุนการผลิตสินค้านำเข้าและจำนวนการผลิตลดลง ง. ปริมาณการสั่งซื้อสินค้านำเข้าจากประเทศต่าง ๆ สูงขึ้น
9 8. ระบบอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราแบบคงที่มีลักษณะอย่างไร ก. รัฐจะไม่เข้าไปแทรกแซง ข. มีอัตราการแลกเปลี่ยนเป็นไปตามกลไกตลาด ค. รัฐบาลควบคุมโดยกำหนดอัตราคงที่ไว้กับสกุลเงินหนึ่ง ง. มีธนาคารกลางเข้ามาแทรกแซงตลาดให้เป็นไปตามทิศทางที่ต้องการ 9. ประเทศที่มีนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนจะได้รับประโยชน์หลายประการ ยกเว้นข้อใด ก. มีเงินตราจากต่างประเทศไหลเข้ามาในประเทศ ข. ทำให้เกิดการจ้างงานในประเทศที่มีผู้เข้ามาลงทุน ค. ต้นทุนการผลิตต่ำแต่ทำให้ขายสินค้าได้ในราคาสูง ง. ผู้บริโภคไม่จำเป็นต้องซื้อสินค้าจากภายนอกประเทศ 10. ข้อใดเป็นการลงทุนทางอ้อมจากต่างประเทศในประเทศไทย ก. องค์กรต่างชาติซื้อหุ้นของบริษัทการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย ข. บริษัท เอไอเอ จำกัด ของสหรัฐอเมริกามาตั้งสาขาบริษัท เอไอเอ ที่ประเทศไทย ค. บริษัทโตโยต้ามอเตอร์ แห่งประเทศญี่ปุ่นเข้ามาลงทุนประกอบรถยนต์ ในประเทศไทย ง. ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์แห่งประเทศอังกฤษ เข้ามาตั้งสาขา ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ในประเทศไทย
10 1. รายการให้คะแนน รายการ คะแนน 1. เลือกตอบคำถามถูกต้อง 2. เลือกตอบคำถามไม่ถูกต้อง 1 0 2. สรุปผลการประเมิน ระดับคุณภาพ 3 หมายถึง ดี 8 - 10 คะแนน ระดับคุณภาพ 2 หมายถึง พอใช้ 5 - 7 คะแนน ระดับคุณภาพ 1 หมายถึง ปรับปรุง 1 - 4 คะแนน 3. รวมคะแนนทั้งสิ้น 10 คะแนน คะแนนที่ได้ ................ คะแนน
11 ประเทศต่าง ๆ ในโลกมีทรัพยากรธรรมชาติ ลักษณะภูมิประเทศ ภูมิอากาศ ทำเลที่ตั้งความชำนาญในการผลิตสินค้าและบริการที่แตกต่างกัน ประกอบกับความ ต้องการบริโภคสินค้าของประชากรในประเทศที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งปัจจุบันเป็นยุคของ การค้าเสรี ทำให้กฎระเบียบต่าง ๆ ในการทำการค้าผ่อนคลายลง เพื่อให้การค้า ระหว่างประเทศเติบโตและขยายตัวอย่างรวดเร็ว ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่ พึ่งพาการค้าและการลงทุนจากต่างประเทศ สินค้าส่งออกส่วนใหญ่เป็นสินค้า อุตสาหกรรมที่ต้องอาศัยเทคโนโลยีเป็นเครื่องผลักดัน รวมไปถึงสินค้าภาค การเกษตร ส่วนสินค้านำเข้าเป็นสินค้าประเภทเครื่องจักรและวัตถุดิบที่นำมาผลิต สินค้าอีกทอดหนึ่ง
12 การค้าระหว่างประเทศเกิดขึ้นจากการที่แต่ละประเทศมีทรัพยากรธรรมชาติ สภาพภูมิประเทศ ภูมิอากาศ และความชำนาญในการผลิตที่แตกต่างกัน จึงเกิดการ แลกเปลี่ยนสินค้ากับประเทศอื่น ๆ ⚫ สภาพภูมิประเทศและภูมิอากาศที่แตกต่างกัน เช่นประเทศที่ตั้งอยู่ในเขต ร้อน ผลิตสินค้าประเภทข้าว มันสำปะหลัง ข้าวโพด ได้มากก็จะนำไปจำหน่ายและ แลกเปลี่ยนกับสินค้าของประเทศในเขตหนาวและเขตอบอุ่น เช่น แอปเปิล เชอร์รี่ ลูกแพร์ ⚫ การมีและการขาดแคลนทรัพยากรธรรมชาติที่แตกต่างกัน เช่น บาง ประเทศมีแร่มาก บางประเทศมีมันมาก บางประเทศมีป่าไม้มาก จึงนำ ทรัพยากรที่มีมากไปจำหน่ายและซื้อทรัพยากรที่ขาดแคลนมาใช้ ⚫ เทคโนโลยีและความชำนาญในการผลิตที่ต่างกัน เช่นประเทศญี่ปุ่นมี ความชำนาญในการผลิตรถยนต์ กล้องถ่ายรูป รวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้า ประเทศไทยจึง ต้องนำเข้าสินค้าเหล่านี้จากประเทศญี่ปุ่น ความแตกต่างดังกล่าวข้างต้น เป็นข้อจำกัดที่ทำ ให้แต่ละประเทศต้องมีการค้าขายสินค้าระหว่างกัน เนื่องจากแต่ละประเทศไม่สามารถผลิตสินค้าทุกชนิดที่ ต้องการได้เองทั้งหมด หรือผลิตได้แต่คุณภาพไม่ดีพอ หรือมีต้นทุนการผลิตสูงกว่าซื้อจากประเทศอื่น
13 1.1 ประโยชน์ของการค้าระหว่าประเทศ การที่ประเทศต่าง ๆมีการค้าขายแลกเปลี่ยนสินค้าซึ่งกันและกัน ช่วยให้ ประเทศต่าง ๆ ผลิตสินค้าที่ตนเองถนัด มีทรัพยากรและเทคโนโลยีที่เอื้ออำนวย ทำ ให้สามารถผลิตสินค้าได้มาก มีต้นทุนต่ำ และขายให้กับประเทศอื่น ๆ ได้ นอกจากนี้ ยังช่วยให้ประชาชนในประเทศมีงานทำ มีรายได้ สามารถนำเงินตราจาก ต่างประเทศเข้ามาใช้ในการพัฒนาประเทศ ช่วยให้เศรษฐกิจมีความเจริญก้าวหน้า ขณะเดียวกันประชาชนในประเทศก็สามารถใช้สินค้าที่ผลิตได้ทั้งในประเทศและ ต่างประเทศ ช่วยให้มาตรฐานการครองชีพของประชาชนสูงขึ้น การค้าระหว่างประเทศมีข้อดีและข้อเสีย ดังนี้ ∆ ข้อเสีย 1. มีสินค้าและบริการต่าง ๆ มาสนอง ความต้องการของประชากรในประเทศ ได้ ถึงแม้ว่าเป็นสินค้าที่ผลิตใน ประเทศไม่ได้ก็ตาม 2. เกิดการแบ่งงานกันทำ 3. เกิดความรู้ความชำนาญเฉพาะ อย่างเนื่องมาจากการผลิตสินค้า ตามความถนัด ทำให้เกิดการคิดค้น ปรับปรุงเทคนิคการผลิตได้ดียิ่งขึ้น และมีการใช้ทรัพยากรอย่างมี ประสิทธิภาพ 4. ทำให้ประเทศกำลังพัฒนามี พัฒนาการด้านการผลิตที่ทันสมัยเพื่อ การส่งออกมากขึ้น 1. ส่งผลกระทบต่อเสถียรนะภาพ ภายในประเทศ เช่นการส่งออกมาก เกินไป ทำให้มีการใช้ทรัพยากรใน ประเทศมาก จนราคาสินค้าและค้าจ้าง แรงงานสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพ ภายนอกประเทศ เช่น หากมีการนำเข้า สินค้าจากต่างประเทศมากแต่มีการส่งออก น้อย จะเกิดปัญหาขาดดุลการค้า 2. เกิดปัญหาการกระจายรายได้ระหว่าง สาขาการผลิต 3. เกิดภาวะการจ้างงานและรายได้ไม่ แน่นอน 4. เกิดการพึ่งพาระหว่างประเทศมากขึ้น ทั้งด้านเครื่องจักร อุปกรณ์ น้ำมัน และ แรงงาน ส่งผลต่อความมั่นคงทาง เศรษฐกิจของประเทศ ข้อดี ข้อเสีย
14 1.2 สถานะการค้าระหว่างประเทศของไทย ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจแบบเปิดมาเป็นเวลานาน และยอมรับให้ มีการค้าเสรีทั้งภายในประเทศและต่างประเทศค่อนข้างมาก ในปัจจุบันการค้า ระหว่างประเทศของไทยถือว่ามีการขยายตัวที่สูง ทั้งด้านการส่งออกสินค้าและการ นำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ ปัจจุบันประเทศไทยให้ความสำคัญในด้านการเสริมสร้างสมรรถนะในการ แข่งขัน เนื่องจากสภาวะแวดล้อมของโลกได้เปลี่ยนแปลงไป โดยมีการเปิดเสรี ทางการค้าระหว่างประเทศมากขึ้นขณะเดียวกันก็มีการกีดกันการค้ารูปแบบใหม่ ๆ ตลอดจนความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ประเทศ ไทยจึงได้ขัดทำยุทธศาสตร์ทางการค้า เพื่อหาทางเพิ่มส่วนแบ่งตลาดไปอย่างรวดเร็ว รวมทั้งการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตในทุกภาคการผลิต ที่มาภาพ https://www.th.nissin-asia.com/images/air-freight-forwarding/005.jpg ∆ การขนส่งสินค้าทางอากาศเป็นการขนส่งที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น ประเทศต่าง ๆ รวมถึงประเทศไทยจึงมีการพัฒนาสนามบินพาณิชย์ให้ ทันสมัย เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการ
15 1) โครงสร้างสินค้าส่งออกของไทย สินค้าส่งออกของประเทศไทยส่วนใหญ่ เป็นสินค้าอุตสาหกรรม โดยในครึ่งปีแรก พ.ศ.2565 การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมมี สัดส่วนสูงถึงร้อยละ 78.33 ในขณะที่สินค้าที่เกี่ยวข้องกับการเกษตร รวมทั้งสินค้า แร่และเชื่อเพลิงมีประมาณร้อยละ 21.67 สาเหตุอาจเนื่องมาจากเป็นสินค้าที่มีการ แข่งขันสูง ได้ราคาต่ำ และประเทศผู้นำเข้ามักกีดกันการนำเข้า เพื่อปกป้อง ผลประโยชน์ของเกษตรกรภายในประเทศ โครงสร้างสินค้าส่งออกของประเทศไทย จำแนกตามหมวดสินค้า สินค้าส่งออก มูลค่า : พันล้านบาท สัดส่วน : ร้อยละ 2563 2564 ม.ค.- พ.ค. 2565 2563 2564 ม.ค.- พ.ค. 2565 สินค้าอุตสาหกรรม 5,763.8 6,811.2 3,162.9 80.24 79.49 78.33 สินค้าเกษตร 656.1 823.0 381.5 9.13 9.60 9.45 สินค้าอุตสาหกรรม การเกษตร 561.0 609.2 322.8 7.81 7.11 8.0 สินค้าแร่และ เชื้อเพลิง 202.5 325.3 170.5 2.82 3.80 4.22 ร่วมสินค้าส่งออก 7,183.4 8,567.7 4,037.7 100 100 100 ที่มาเนื้อหา : http://www2.ops3.moo.go.th กระทรางพาณิชย์ พ.ศ.2565 ตลาดส่งออกที่สำคัญของไทย คือเอเชียตะวันออก อาเซียน สหภาพยุโรป และ อเมริกา ซึ่งมีตลาดเอเชียตะวันออกโดยเฉพาะอาเซียนเป็นตลาดใหญ่ที่สุด หาก พิจารณ าเป็นประเทศ ตลาดส่งออกที่สำคัญของไทย จีน รองลงมา ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น มาเลเซีย ฮ่องกง สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ออสเตรเลีย และ เวียดนาม ตามลำดับ ปัจจุบันตลาดส่งออกของไทยกระจายตัวพอสมควรและมีการ พึ่งพาตลาดจีนเพิ่มมากขึ้น
16 ที่มาเนื้อหา : http://www2.ops3.moo.go.th กระทรางพาณิชย์ พ.ศ.2565 2) โครงสร้างสินค้านำเข้าของไทย ส่วนใหญ่เป็นสินค้าวัตถุดิบและกึ่ง สำเร็จรูป สัดส่วนการนำเข้าร้อยละ 41.35 รองลงมา คือ สินค้าทุน เช่น เครื่องจักร ไฟฟ้า เครื่องจักกล คอมพิวเตอร์ร้อยละ 22.45 และสินค้าเชื้อเพลิงร้อยละ 20.09 นอกจากนั้น เป็นสินค้าในกลุ่มอุปโภคยานพาหนะและอุปกรณ์การขนส่ง รวมถึง อาวุธยุทธปัจจัยต่าง ๆ โครงสร้างสินค้านำเข้าของประเทศไทย จำแนกตามหมวดสินค้า สินค้านำเข้า มูลค่า : พันล้านบาท สัดส่วน : ร้อยละ 2563 2564 ม.ค.- พ.ค. 2565 2563 2564 ม.ค.- พ.ค. 2565 สินค้าวัตถุดิบและกึ่ง สำเร็จรูป 2,626.1 3,711.1 1,358.0 40.55 43.53 41.35 สินค้าทุน 1,749.7 2,083.1 954.3 27.02 24.43 22.45 สินค้าเชื้อเพลิง 849.5 1,257.9 854.2 13.12 14.75 20.09 สินค้าอุปโภคบริโภค 819.9 1,001.2 467.6 12.65 11.75 11.00
17 โครงสร้างสินค้านำเข้าของประเทศไทย จำแนกตามหมวดสินค้า (ต่อ) สินค้านำเข้า มูลค่า : พันล้านบาท สัดส่วน : ร้อยละ 2563 2564 ม.ค.- พ.ค. 2565 2563 2564 ม.ค.- พ.ค. 2565 ยานพาหนะและ อุปกรณ์การขนส่ง 364.4 461.2 162.2 5.63 5.42 3.81 อาวุธ ยุทธปัจจัยและ สินค้าอื่น ๆ 66.4 10.7 55.2 1.03 0.13 1.30 ร่วมสินค้าส่งออก 6,476.0 8,525.2 3,751.5 100 100 100 ที่มา : http://www2.ops3.moo.go.th กระทรางพาณิชย์ พ.ศ.2565 ตลาดนำเข้าที่สำคัญของไทย ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา ที่ผ่านมา ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ไทยนำเข้าสินค้าอย่างมากมาโยตลอด แต่ปัจจุบันมีการนำเข้า จากจีนมากขึ้น เนื่องจากสินค้าทุกประเภทที่ผลิตจากจีนมราคาถูกกว่า ที่มา : http://www2.ops3.moo.go.th กระทรางพาณิชย์ พ.ศ.2565
18 สินค้าที่ไทยนำเข้าจากต่างประเทศส่วนใหญ่เป็นสินค้าประเภททุนและ พลังงาน ทั้งนี้ สินค้าที่ไทยนำเข้าสูงมากที่สุด คือ น้ำมันดิบ เนื่องจากปริมาณการใช้ ที่เพิ่มขึ้นทั้งจากภาคอุตสาหกรรม การขนส่ง และการเพิ่มขึ้นของยานพาหนะต่าง ๆ สินค้าที่นำเข้าสูงรองลงมา คือ ประเภทเครื่องจักรกลและส่วนประกอบ ซึ่งส่วนใหญ่ นำมาใช้ในภาคอุตสาหกรรมทั้งสิน 3) ดุลการค้าของไทย ดุลการค้า หมายถึง บันชีที่แสดงถึงมูลค่าของสินค้าเข้า กับมูลค่าสินค้าออกของประเทศ ดังนี้ ถ้าประเทศไทยส่งสินค้าออกเป็นมูลค่าเท่ากับสินค้าเข้า เรียกว่า “ดุลการค้า สมดุล” ถ้าประเทศไทยส่งสินค้าออกเป็นมูลค่าสูงกว่ามูลค่าสินค้าเข้า เรียกว่า “ดุลการค้าเกินดุล” ถ้าประเทศไทยส่งสินค้าออกเป็นมูลค่าน้อยกว่ามูลค่าสินค้าเข้า เรียกว่า “ดุลการค้าขาดดุล” จากสถิติการค้าของไทยพบว่า ตั้งแต่ พ.ศ.2541 เป็นต้นมา ปัญหาดุลการขาด ดุลได้ลดลงไป ภายหลังประเทศไทยประสบปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจและใช้วิธีแก้ปัญหา โดยการประกาศลอยตัวค่าเงินบาทส่งผลให้ค่าเงินบาทลดลงมาก ประเทศไทยส่งออก ได้มากขึ้นและนำเข้าลดลง แม้ในภาพรวมประเทศไทยยังคงประสบภาวการณ์ขาดดุล แต่แต่ก็ยังมี แนวโน้มที่ประกอบการรายใหม่เพิ่มจำนวนมากขึ้น อีกทั้งยังมีการเพิ่มกำลังการผลิต สินค้ามากขึ้น รวมถึงการขยายตลาดภายนอกประเทศให้กว้างมากขึ้นซึ่งจะช่วยให้ ประเทศไทยส่งออกสินค้าออกได้จำนวนมาก ∆ ปริมาณการใช้รถยนต์ที่เพิ่มมากขึ้นในปัจจุบัน ทำให้ต้องมีการเพิ่ม การนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศมากขึ้น https://images.autofun.co.th/file1/e5dc4a0cfc2b4aabb7a2ecf444a67438_800.jpg
19 เนื่องจากแต่ละประเทศมีความสามารถในการผลิตและการค้าไม่เท่ากัน การปล่อยให้การค้าดำเนินไปโดยเสรีจะก่อให้เกิดผลเสียแก่ผู้ผลิตหรืออุตสาหกรรม บางอุตสาหกรรมที่ไม่สามารถแข่งขันกับต่างประเทศได้ รัฐบาลจึงเข้ามาแทรกแซง เพื่อคุ้มครองอุตสาหกรรมดังกล่าว การกีดกันทางการค้าจึงเป็นมาตรการของรัฐที่กำหนดขึ้น เพื่อเพิ่มอุปสรรคต่อ การค้าระหว่างประเทศ สำหรับวัตถุประสงค์ในการกำหนดมาตรการกีดกันทางการค้า มีดังนี้ 1. เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมภายในประเทศ ในระยะเริ่มต้น ประเทศที่ยากจนมัก เห็นว่าอุตสาหกรรมภายในประเทศของตนยังอ่อนแอ ไม่สามารถแข่งขันกับสินค้า นำเข้าได้ จึงต้องอาศัยความช่วยเหลือปกป้องจากรัฐบาล จึงมีการตั้งกำแพงภาษี นำเข้าให้สินค้าจากต่างประเทศมีราคาสูงขึ้น 2. เพื่อป้องกันการขาดดุลการค้า บางประเทศประสบปัญหาการขาดดุลการค้า เรื้อรังเป็นเวลานานประชาชนภายในประเทศประสบปัญหาว่างงานหรือเห็นว่าการ นำเข้าทำให้ธุรกิจภายในประเทศขาดรายได้ เพราะไม่สามารถแข่งขันกับ ต่างประเทศได้ รัฐบาลจึงได้รับแรงกดดันที่จะต้องกีดกันการนำเข้ามิให้หลั่งไหลเข้า มาเป็นจำนวนมาก 3. เพื่อรักษาแหล่งภาษีของรัฐบาล การเก็บภาษีศุลกากรจากสินค้านำเข้าอาจ ถือเป็นแหล่งรายได้ที่สำคัญของรัฐบาล หลายประเทศจึงพยายามรักษาอัตราภาษี ศุลกากรนำเข้ามิให้ต่ำลงอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันหลายประเทศได้ เจรจาร่วมกันลดอัตราภาษีนำเข้าให้ต่ำลงเป็นลำดับ ทำให้ภาษีศุลกากรซึ่งเป็นแหล่ง รายได้ที่มีความสำคัญลดลงไปมากสำหรับรัฐบาล
20 4. เพื่อควบคุมมาตรฐานและคุณภาพของสินค้า เนื่องจากสินค้าที่มีการซื้อขาย ระหว่างประเทศอาจมีปัญหาการปลอมปน หรือมีการผลิตที่ยังไม่ได้มาตรฐานด้าน สุขอนามัยหรือความปลอดภัยสำหรับการบริโภค บางประเทศที่เผชิญปัญหาเหล่านี้จึง มักกำหนดมาตรการควบคุมมิให้มีการนำเข้าโดยสะดวก โดยต้องผ่านมาตรฐานที่ กำหนด ซึ่งอาจสร้างภาระและความยุ่งยากสำหรับผู้ส่งออกสินค้า มาตรฐานเหล่านี้ อาจถูกใช้เป็นเครื่องมือในการกีดกันการนำเข้าเกินความจำเป็นได้และประเทศผู้ นำเข้ายังอาจใช้มาตรการกีดกันการนำเข้าสินค้าเหล่านี้ได้ วิธีการกีดกันทางการค้าที่ประเทศต่าง ๆ ใช้ในการค้าระหว่างประเทศ เพื่อ ปกป้องสินค้าของประเทศตนเองไม่ให้ถูกครอบงำหรือถูกแทรกแซงจากประเทศคู่ค้า ที่มีศักยภาพการผลิตที่สูงกว่า ได้แก่ มาตรการทางภาษีศุลกากรและมาตรการที่ไม่ใช่ ภาษีศุลกากร ซึ่งสรุปได้ ดังนี้ 2.1 มาตรการด้านภาษีศุลกากร ภาษีศุลกากร (tariff) หมายถึง เงินที่รัฐบาลเรียกเก็บจากสินค้า เมื่อมีการนำ สินค้าผ่านเขตแดนของประเทศการเรียกเก็บภาษีจึงทำได้ทั้งจากการนำเข้าสินค้า ผ่านเขตแดน ที่เรียกว่า “ภาษีนำเข้า” และการส่งออกสินค้าผ่านเขตแดนหรือ เรียกว่า “ภาษีส่งออก” มาตรการด้านภาษีเป็นมาตรการดั้งเดิมที่ประเทศผู้นำเข้าและส่งออกใช้เพื่อหา รายได้เข้ารัฐ ในขณะเดียวกันก็เป็นการปกป้องผู้ผลิตในประเทศด้วย สำหรับปัจจุบัน มาตรการด้านภาษีศุลกากรถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือปกป้องทางการค้ามากกว่าการหา รายได้
21 https://www.scbeic.com/stocks/product/f0x0/hz/hl/f8dhhzhluu/TH_page10.jpg ประเทศต่าง ๆ จะมีการจัดเก็บภาษีนำเข้ามากน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับระดับการ เปิดเสรีทางการค้าของประเทศนั้น ๆ ประเทศที่มีการค้าค่อนข้างเสรีจะจัดเก็บภาษี นำเข้าในอัตราต่ำ และมีจำนวนรายการสินค้าที่จัดเก็บภาษีน้อยชนิด ขณะที่ ประเทศที่ค่อนข้างปิดจะจัดเก็บภาษีนำเข้าในอัตราสูง และมีจำนวนรายการสินค้าที่ จัดเก็บภาษีมากชนิด สำหรับการจัดเก็บภาษีส่งออกก็มีบ้างเช่น เมื่อก่อนประเทศไทยเคยจัดเก็บภาษี ส่งออกข้าว น้ำตาล แต่ปัจจุบันยกเลิกไปแล้ว 2.2 มาตรการที่ใช่ภาษีศุลกากร มาตรการทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษีศุลกากร คือ การกีดกันทางการค้าที่อยู่ภายใต้ กรอบขององค์การค้าโลก (World Trade Organization: WTO) หรือกรอบข้อตกลง ระหว่างประเทศอื่น ๆ มาตรการนี้มีหลายรูปแบบ จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการ นำมาใช้เพื่อคุ้มครองอุตสาหกรรมหรือผู้ผลิตในประเทศ บางมาตรการก็ทำขึ้นเพื่อ ตอบโต้การดำเนินมาตรการของประเทศอื่น ๆ บางมาตรการก็เพื่อคุ้มครอง การส่งสินค้าออกของไทยมี การเสียภาษีส่งออก ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับข้อตกลงของ ประเทศคู่ค้าและระดับการ เปิดเสรีทางการค้าของ ประเทศคู่ค้า
22 สิ่งแวดล้อม คุ้มครองด้านสุขอนามัย มาตรการต่าง ๆ เหล่านี้ทำให้ผู้ประกอบการของ ไทยต้องยกระดับ พัฒนามาตรฐานและคุณภาพของสินค้าให้สามารถตอบสนอง ความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการให้สินค้ามีมาตรฐานที่สูงขึ้น มีคุณภาพ ปลอดภัย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีส่วนช่วยให้ผู้ประกอบการไทยสามารถเพิ่มขีด ความสามารถในการแข่งขันกับประเทศอื่น ๆ โดยแนวโน้มการค้าจะมีการนำ มาตรการที่ไม่ใช่ภาษีศุลกากรใช้เป็นข้ออ้างในการกีดกันทางการค้ามากขึ้น มาตรการที่ไม่ใช่ภาษีศุลกากรแบ่งได้ ดังนี้ มาตรการกึ่งภาษีศุลกากร วิธีการกีดกันทางการค้า โควตาภาษีโดยใช้อัตราภาษีศุลกากร จัดเก็บอัตราต่ำสำหรับการนำเข้าภายใน จำนวนสินค้าที่กำหนดจัดเก็บอัตราสูงสำหรับสินค้าที่นำเข้าเกินปริมาณที่กำหนด กำหนดอัตราภาษีศุลกากรตามฤดูการ จัดเก็บภาษีศุลกากรแตกต่างกันตามช่วงฤดูการ ของสินค้าโดยจัดเก็บในอัตราสูงสำหรับสินค้าในประเทศมาก เพื่อไม่ให้สินค้า ต่างประเทศเข้ามาแข่งขัน ค่าธรรมเนียมการนำเข้า เรียกเก็บเพิ่มเติมจากอัตราภาษีปกติ ส่วนใหญ่มักเรียกเก็บ ชั่วคราว เพื่อไม่ให้การนำเข้าสินค้าชนิดนั้นมากในช่วงระยะเวลาหนึ่ง มาตรการควบคุมราคา วิธีการกีดกันทางการค้า กำหนดราคาขั้นต่ำ เพื่อป้องกันไม่ให้มีการนำเข้าสินค้าราคาต่ำมากเข้ามาตีตลาด ภายในประเทศ กำหนดราคาส่งออกขั้นต่ำโดยสมัครใจ เป็นการกำหนดราคาส่งออกที่เป็นไปตาม ความตกลงทั้งสองฝ่ายโดยสมัครใจ เก็บภาษีตอบโต้การอุดหนุน เป็นการจัดเก็บภาษีอากรขาเข้าเพื่อตอบโตการอุดหนุน ทั้งทางตรงและทางอ้อมในกระบวนการผลิตและการส่งออก เพื่อพิสูจน์ว่าประเทศผู้ ส่งออกให้การอุดหนุนการผลิตหรือส่งออก
23 มาตรการช่วยเหลือโดยตรงจากรัฐบาล วิธีการกีดกันทางการค้า การอุดหนุนการผลิต โดยรัฐให้การช่วยเหลือทางด้านต้นทุนแก่ผู้ที่ผลิตสินค้า ทดแทนการนำเข้าจากต่างประเทศ เพื่อให้ขายสินค้าแข่งกับต่างประเทศได้ การอุดหนุนการส่งออก รัฐบาลให้เงินอุดหนุนแก่ผู้ส่งออกเพื่อขยายการส่งออก เช่น ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล ให้เงินกู้ยืมอัตราดอกเบี้ยต่ำ มาตรการกำหนดมาตรฐานสินค้า วิธีการกีดกันทางการค้า ประเทศผู้นำเข้าเป็นผู้กำหนดมาตรฐานของสินค้า เพื่อความปลอดภัยด้าน สุขลักษณะและสุขอนามัย มาตรการจำกัดปริมาณ วิธีการกีดกันทางการค้า การห้ามนำเข้า โดยการออกกฎหมายสั่งห้ามนำเข้าในช่วงที่ผลิตในประเทศสูง การกำหนดโควตานำเข้า โดยกำหนดปริมาณที่อนุญาตให้มีการนำเข้าได้ไม่เกิน ปริมาณที่กำหนด 2.3 ผลจาการกีดกันทางการค้า มาตรการกีดกันทางการค้าของประเทศต่าง ๆ ต่อสินค้านำเข้าและส่งออกส่งผล กระทบต่อการค้า ผู้บริโภคผู้ผลิต และภาครัฐ ดังนี้ มาตรการกีดกัน ทางการค้า ผลจากมาตรการกีดกันจากการค้า ผู้บริโภค ผู้ผลิตในประเทศ รัฐบาล การเก็บภาษีนำเข้า ทำให้สินค้านำเข้า มีราคาเพิ่มสูงขึ้น ซื้อสินค้านำเข้า จากต่างประเทศใน ราคาสูงเป็นเหตุให้ ลดความต้องการ บริโภคลง เมื่อสินค้าจาก ต่างประเทศมีราคา สูงจึงเพิ่มการผลิต และการจ้างงานใน ประเทศ ได้รับผลตอบแทน จากภาษีที่จัดเก็บ เพิ่มขึ้น
24 มาตรการกีดกัน ทางการค้า ผลจากมาตรการกีดกันจากการค้า ผู้บริโภค ผู้ผลิตในประเทศ รัฐบาล การเก็บภาษี ส่งออกทำให้สินค้า ที่ส่งไปจำหน่าย มีราคาสูงขึ้น ได้บริโภคสินค้าใน ราคาที่ถูกลง จำหน่ายสินค้า ในต่างประเทศได้ น้อยลงปริมาณ การผลิตอาจลดลง มีกำไรน้อยลง ได้รับผลตอบแทน จากภาษีส่งออก มาตรการกึ่งภาษีทำ ให้สินค้านำเข้ามี ราคาสูงขึ้น ลดการบริโภค สินค้าที่นำเข้า หัน มาบริโภคสินค้าใน ประเทศมากขึ้น ผลิตสินค้าเพื่อ จำหน่ายใน ประเทศมากขึ้น ได้รับภาษีและ ค่าธรรมเนียมการ นำเข้าสินค้าจาก ต่างประเทศเพิ่ม มากขึ้น การควบคุมด้าน ราคาทำให้ราคา สินค้าจาก ต่างประเทศสูงขึ้น บริโภคสินค้าจาก ต่างประเทศน้อยลง หันมาบริโภคสินค้า ในประเทศมากขึ้น ผลิตสินค้าจำหน่าย ในประเทศมากขึ้น ได้รับภาษีจัดเก็บ เพื่อตอบโต้การ อุดหนุนและภาษี ต่อต้านการทุ่ม ตลาดมากขึ้น การจำกัดด้าน ปริมาณ บริโภคสินค้าที่มี ราคาแพงขึ้น ผลิตสินค้าออก จำหน่ายมากขึ้น เพราะสินค้านำเข้า ถูกจำกัดโควตา ไม่ได้รับ ผลตอบแทนใด ๆ เพราะไม่ได้เก็บ ภาษีเพิ่มแต่อาจถูก มาตรการตอบโต้ จากประเทศคู่ค้า การช่วยเหลือ โดยตรงจากรัฐบาล สามารถซื้อสินค้า ได้ในราคาถูก ต้นทุนการผลิตต่ำ จากเงินอุดหนุน ของรัฐบาลรวมทั้ง สามารถผลิตและ จำหน่ายได้มากขึ้น ไม่ได้รับ ผลตอบแทน โดยตรงแต่เป็นผู้ จ่ายเงินอุดหนุน และชื้อสินค้า จากผู้ผลิต
25 การลงทุนระหว่างประเทศของไทยมี 2 ลักษณะ คือ การลงทุนเพื่อการผลิตหรือ การลงทุนทางตรงและการลงทุนทางการเงินหรือการลงทุนทางอ้อม ซึ่งมีทั้งนักลงทุน โดยตรงจากประเทศและการลงทุนโดยตรงของนักลงทุนไทย ซึ่งสรุปได้ ดังนี้ 3.1 รูปแบบการลงทุนจากต่างประเทศ รูปแบบการลงทุนจากต่างประเทศ แบ่งออกได้ 2 รูปแบบ ดังนี้ 1) การลงทุนทางตรง เป็นการลงทุนของบุคคล ธุรกิจ ตลอดจนบริษัทข้ามชาติ ของประเทศหนึ่งผลิตสินค้าและบริการในอีกประเทศหนึ่ง เช่น บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ของประเทศญี่ปุ่น เข้ามาลงทุนประกอบรถยนต์ในประเทศไทย ธนาคาร สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด ของประเทศอังกฤษ เข้ามาจัดตั้งสาขาธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ดในประเทศไทย บริษัท เอ ไอ เอ จำกัด ของสหรัฐอเมริกา เข้ามาตั้งสาขา เอ ไอ เอ จำกัด เพื่อดำเนินกิจกรรมด้านการประกันชีวิตในประเทศไทย บริษัท ยูโนแคลไทยแลนด์ จำกัด ได้รับสัมปทานขุดเจาะสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในอ่าว ไทย นอกจากนี้ มีการตั้งตัวแทนจำน่าย เช่น สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และการตั้งกิจการร่วมค้า เช่น ห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ 2) การลงทุนทางอ้อม เป็นการลงทุนของบุคคล องค์กร ธุรกิจ หรือบริษัทข้าม ชาติของประเทศหนึ่ง โดยนำเงินไปซื้อหุ้นธุรกิจในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือประเทศอื่น ๆ โดยมิได้เข้ามาตั้งโรงงานหรือเข้ามาผลิตสินค้าโดยตรง เป็นการ ลงทุนเพื่อหวังผลตอบแทนจากหลักทรัพย์ทางการเงิน ซึ่งผลตอบแทนอาจจะอยู่ใน รูปของเงินปั่นผล ดอกเบี้ย หรือการลงทุนเพื่อหวังผลกำไรส่วนทุน (Capital Gain) เช่น องค์กรต่างชาติเข้ามาชื้อหุ้นของบริษัทการบินไทย หุ้นของบริษัทปูนซีเมนต์ ไทย
26 https://www.headlightmag.com/hlmwp/wp-content/uploads/2022/09/VW_1-1.jpg การลงทุนทางอ้อมจะเกิดขึ้นเมื่อผู้ลงทุนคาดว่า อัตราผลตอบแทนจากการชื้อ หุ้นหรือพันธบัตรในประเทศไทยหรือประเทศอื่นจะสูงกว่าในประเทศของตน แต่ การจะนำเงินมาลงทุนซื้อหุ้นหรือพันธบัตรมากน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับอัตราดอกเบี้ย และความน่าเชื้อถือของแระเทศนั้น ๆ ด้วย 3.2 ประโยชน์ของการลงทุนระหว่างประเทศ การลงทุนระหว่างประเทศก่อให้เกิดประโยชน์ทั้งแก่ผู้ลงทุนและประโยชน์ ของประเทศผู้รับการลงทุน ดังนี้ 1) ข้อดี ผู้ลงทุน ประเทศที่มีผู้ข้ามาลงทุน ผู้ลงทุนทางตรง • ได้ประโยชน์ตามที่รัฐบาลของประเทศ ที่ไปลงทุนให้สิทธิพิเศษ เช่น การลด หรืองดภาษีเงินได้ การให้เช่าหรือซื้อ ที่ดินในราคาต่ำ เพื่อจูงใจนักลงทุน ต่างชาติ • มีเงินตราจากต่างประเทศไหลเข้ามาใน ประเทศมากขึ้น ลดปัญหา ดุลการชำระเงินขาดดุล •ได้รับเครื่องมือ อุปกรณ์ และเทคโนโลยี เข้ามาใช้ผลิตในประเทศ ทำให้เพิ่ม ปริมาณสินค้าที่ผลิตลดการซื้อสินค้าจาก บริษัทผลิตรถยนต์จากต่างชาติเข้ามาลุงทุนตั้ง ฐานการผลิตในประเทศไทย
27 ผู้ลงทุน ประเทศที่มีผู้ข้ามาลงทุน • สามารถนำกำไรกลับประเทศตามที่ตก ลงได้ ผู้ลงทุนทางอ้อม • ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยหรือ ผลตอบแทนในรูปของเงินปันผล จาก การชื้อหุ้นและพันธบัตรรัฐบาลจาก ประเทศที่นำเงินไปลงทุน • บางประเทศก็อาจจะใช้สิทธิพิเศษด้าน ภาษีดอกเบี้ยและภาษีเงินปันผล ต่างประเทศ เงินตราจึงไม่รั่วไหลออก สินค้าที่ผลิตก็สามารถนำไปจำหน่ายใน ต่างประเทศได้อีกด้วย • ช่วยให้เกิดการจ้างงาน • ได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีใหม่ ๆ ตลอดจนวิธีการบริหารจัดการ • มีโอกาสนำสินค้าเข้าไปแข่งขันใน ตลาดโลกและได้รับการยอมรับมากขึ้น เนื่องจากมีความเชื่อมั่นจากบริษัทแม่ที่ เข้ามาลงทุนซึ่งส่วนใหญ่เป็นประเทศที่มี ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีการผลิต เละเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของ โลก 2) ข้อเสีย ⚫ ทำให้อุตสาหกรรมของประเทศที่มีผู้เข้ามาลงทุนถูกครอบงำโดยบริษัท ต่างชาติ ทั้งในแง่ของการผลิตและการตลาด เช่น อุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับรถยนต์ ปิโตรเคมี อิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมที่ร่วมเป็นพันธมิตร เช่น โทรคมนาคม สาย การบิน ธนาคารไทยพาณิชย์ ธุรกิจประกันภัย ⚫ ทำให้ประเทศที่มีผู้เข้ามาลงทุนขาดดุลการค้า เนื่องจากมีการนำเข้าสินค้า ทุกประเภทเครื่องจักรและอุปกรณ์สินค้ากึ่งสำเร็จรูป เช่น แผงวงจรไฟฟ้า จอภาพ วัตถุดิบอื่น ๆ จากประเทศแม่ข้ามาใช้ และถ้าสินค้าที่ผลิตใช้ในประเทศมากแต่ ส่งออกได้น้อยก็จะส่งผลให้ประเทศขาดดุลการค้าเพิ่มขึ้น ⚫ เมื่อผู้ลงทุนจากต่างประเทศได้ดำเนินกิจการมาระยะหนึ่ง หากมีกำไรหรือ ถอนทุนออกนอกประเทศจะทำให้เงินตราไหลออกนอกประเทศมากขึ้น
28 ⚫ การพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ ทำให้ไม่เป็นการส่งเสริมการวิจัยและ พัฒนาเทคโนโลยีภายในประเทศ ทำให้ธุรกิจภายในประเทศและประชาชนขาด ความตื่นตัว ⚫ การให้สิทธิพิเศษแก่ธุรกิจที่เข้ามาลงทุน ทั้งในรูปของภาษีเครื่องจักร ภาษี กำไรของธุรกิจที่จ่ายในอัตราที่ต่ำ ส่งผลให้ประเทศต้องขาดรายได้จากภาษีในส่วนนี้ https://www.altereconomia.org/wp-content/uploads/2017/12/altereconomia.35.jpg ในระบบเศรษฐกิจของประเทศต่าง ๆ ที่มีการติดต่อซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้า และบริการระหว่างกัน รวมทั้งมีการกู้ยืมระหว่างประเทศ หรือแม้แต่เรื่องการ แลกเปลี่ยน ซึ่งแต่ละประเทศต้องใช้เงินตราต่างประเทศในการชำระเงิน และต้อง แลกเปลี่ยนเงินตราจากสกุลหนึ่งเป็นเงินตราอีกสกุลหนึ่งที่ประเทศผู้รับต้องการด้วย โดยอัตราการแลกเปลี่ยนจะต้องเป็นไปตามบทบัญญัติที่กองทุนการเงินระหว่าง ประเทศ (International Monetary Fund: IMF) กำหนดขึ้น เพื่อให้เกิดความ ยุติธรรมในการแลกเปลี่ยน เช่น
29 การซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ มีการกำหนดราคาซื้อขาย แลกเปลี่ยนของสกุลเงินต่าง ๆ โดยการเปรียบเทียบค่าหรือราคาของเงินตราสกุล หนึ่งกับเงินตราอีกสกุลหนึ่ง เช่น ที่มา : ธนาคารแห่งประเทศไทย ณ วันที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 ระบบอัตราแลกเปลี่ยน มี 2 ระบบ ดังนี้ เงิน 1 ดอลลาร์สหรัฐ เงิน 1 ยูโร เงิน 100 เยน เงิน 1 ดอลลาร์สิงคโปร์ เงิน 1 หยวน 36.80 บาท 37.10 บาท 26.74 บาท 26.40 บาท 5.49 บาท แลกเป็นเงินบาทได้ อัตราแลกเปลี่ยนแบบคงที่ เป็นระบบที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่าง เสรี เพราะมีรัฐบาลควบคุม โดยรัฐบาลจะเป็นผู้กำหนดอัตราคงที่ไว้กับ สกุลเงินหนึ่ง ซึ่งรัฐจะเป็นผู้ปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสม อัตราแลกเปลี่ยนแบบลอยตัว เป็นระบบที่เปลี่ยนแปลงเคลื่อนไหวขึ้น-ลง ได้อย่างเสรี โดยรัฐบาลจะไม่เข้าไปแทรกแซง อัตราแลกเปลี่ยนจะ เปลี่ยนแลงขึ้น-ลงตามสถานะของอุปสงค์และอุปทานในตลาดเงินตรา ต่างประเทศ แบ่งได้เป็น 2 ระบบย่อย ๆ คือ 1. ระบบลอยตัวเสรี เป็นระบบที่ปล่อยให้อัตราการแลกเปลี่ยนเป็นไปตาม กลไกตลาดมากที่สุด 2. ระบบลอยตัวภายใต้การจัดการ มีลักษณะเหมือนระบบลอยตัวเสรี แต่มี ธนาคารกลางเข้าแทรกแซงตลาดให้เป็นไปตามทิศทางที่ต้องการ เพื่อ ควบคุมอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศให้มีประสิทธิภาพ สำหรับ ประเทศไทยนำระบบนี้มาใช้เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2540 ระบบ ที่ 1 ระบบ ที่ 2
30 เรื่อง การค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 คำชี้แจง นักเรียนเขียนผังมโนทัศน์ เรื่อง การลงทุนระหว่างประเทศของไทย ตามประเด็นที่กำหนด (10 คะแนน) คะแนนที่ได้...... รูปแบบการลงทุน ประโยชน์ของการลงทุน ทางตรง ทางอ้อม ทางตรง ทางอ้อม ประโยชน์ของประเทศ ที่มีผู้เข้ามาลงทุน การลงทุนระหว่างประเทศ ของไทย
31 1. รายการให้คะแนน รายการ คะแนน 1. เนื้อหาและการจัดหมวดหมู 1.1 เนื้อหาครบถ้วนจัดหมวดหมู่ได้ตรงประเด็น ใช้คำกระชับได้ ใจความเข้าใจง่าย 1.2 เนื้อหาครบถ้วนแต่จัดหมวดหมู่ได้ไม่ตรงประเด็น ใช้คำกระชับได้ใจความ 1.3 เนื้อหาไม่ครบถ้วนจัดหมวดหมู่ไม่ได้ใช้คำกระชับได้ใจความ 1.4 เนื้อหาไม่ครบถ้วนไม่ตรงประเด็นจัดหมวดหมู่ไม่ได้ ใช้คำไม่กระชับและไม่ได้ใจความ 4 3 2 1 2. หลักการเขียนแผนผังความคิด 2.1 เส้นกระจายออกจากจุดศูนย์กลางใช้เส้นได้ถูกต้อง หลักการเขียน Mind Mapping มีเครื่องหมายสัญลักษณ์ สี ภาพสอดคล้องกับเนื้อหา 2.2 เส้นกระจายออกจากจุดศูนย์กลาง ใช้เส้นได้ถูกต้อง หลักการเขียน Mind Mapping มีเครื่องหมายสัญลักษณ์ แต่ไม่มีสีและภาพที่สื่อความเข้าใจ 2.3 เส้นกระจายออกจากจุดศูนย์กลางใช้เส้นไม่ถูกต้อง ตามหลักการเขียน Mind Mapping ไม่มีเครื่องหมายสัญลักษณ์ สีและภาพที่สื่อความเข้าใจ 2.4 ใช้เส้นไม่ถูกต้องตามหลักการเขียน Mind Mapping ไม่มีเครื่องหมายสัญลักษณ์ สีและภาพที่สื่อความเข้าใจ 4 3 2 1 3. ความคิดสร้างสรรค์ 3.1 ออกแบบแปลกใหม่ สร้างสรรค์สอดคล้องกับเนื้อหา ภาพประกอบ ใช้สีสันหลากหลาย 3.2 ออกแบบแปลกใหม่ สอดคล้องกับเนื้อหาแต่ยังไม่โดดเด่น ในการสื่อภาพและสี 4 3
32 รายการ คะแนน 3.3 ออกแบบไม่ปลกใหม่ แต่มีความสอดคล้องกับเนื้อหา บางส่วน 3.4 การออกแบบไม่สอดคล้องกับเนื้อหาและงานไม่แปลกใหม่ 2 1 4. ความรับผิดชอบความประณีตเรียบร้อย 4.1 ส่งงานตรงเวลาสะอาด อ่านง่ายเรียบร้อย ประณีตแสดงถึง ความตั้งใจทำงาน 4.2 ส่งงานตรงเวลาสะอาด อ่านง่ายเรียบร้อย แต่ขาดความ ประณีตในรายละเอียดบางส่วนของชิ้นงาน 4.3 ส่งงานไม่ตรงเวลา ชิ้นงานไม่ประณีต ไม่สะอาด ไม่เรียบร้อย แสดงถึงความรีบเร่งในการทำงาน 4.4 ชิ้นงานไม่เสร็จสมบูรณ์เป็นส่วนมาก 4 3 2 1 2. สรุปผลการประเมิน ระดับคุณภาพ 3 หมายถึง ดี 13 - 16 คะแนน ระดับคุณภาพ 2 หมายถึง พอใช้ 8 - 12 คะแนน ระดับคุณภาพ 1 หมายถึง ปรับปรุง 1 - 7 คะแนน 3. รวมคะแนนทั้งสิ้น 16 คะแนน คะแนนที่ได้ ................ คะแนน
33 เรื่อง การค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 คำชี้แจง ให้นักเรียนคำถามต่อไปนี้ (7 คะแนน) 1. ให้นักเรียนสรุปรูปแบบการลงทุนระหว่างประเทศของไทยลงในตารางด้านล่าง การลงทุนทางตรง การลงทุนทางอ้อม ลักษณะ …………..……………………………… …………………………………………. …………………………………………. ตัวอย่าง …………..……………………………… …………………………………………. …………………………………………. ลักษณะ …………..……………………………… …………………………………………. …………………………………………. ตัวอย่าง …………..……………………………… …………………………………………. …………………………………………. คะแนนที่ได้......
34 2. จงบอกประโยชน์ของการลงทุนระหว่างประเทศ 2.1 ผู้ลงทุนทางตรง ............................................................................................................................. .............................................................................................................................. ............................................................................................................................. 2.2 ผู้ลงทุนทางอ้อม ............................................................................................................................. .............................................................................................................................. ............................................................................................................................. 2.3 ประเทศที่มีผู้เข้ามาลงทุน ............................................................................................................................. .............................................................................................................................. ............................................................................................................................. .............................................................................................................................. .............................................................................................................................. .............................................................................................................................. 1. รายการให้คะแนน รายการ คะแนน 1. ตอบคำถามถูกต้อง 2. ตอบคำถามผิด 1 0 2. สรุปผลการประเมิน ระดับคุณภาพ 3 หมายถึง ดี 6 - 7 คะแนน ระดับคุณภาพ 2 หมายถึง พอใช้ 4 - 5 คะแนน ระดับคุณภาพ 1 หมายถึง ปรับปรุง 1 - 3 คะแนน 3. รวมคะแนนทั้งสิ้น 7 คะแนน คะแนนที่ได้ ................ คะแนน
35 การค้าและการกีดกันทางการค้าระหว่างประเทศของไทย มีผลสำคัญต่อ เศรษฐกิจของประเทศ จึงต้องมีการวิเคราะห์สถานการณ์ทางการค้าของไทยให้ ถูกต้อง ด้านความรู้ (K) 1.1 นักเรียนสามารถอธิบายความหมายของการกีดกันทางการค้าในการค้า ระหว่างประเทศได้อย่างถูกต้อง 1.2 นักเรียนสามารถอธิบายสาเหตุและวิธีการในการกำหนดมาตรการกีดกัน ทางการค้าได้ ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) 2.1 นักเรียนสามารถจำแนกการค้าและการกีดกันการค้าระหว่างประเทศได้ 2.2 นักเรียนสามารถวิเคราะห์สาเหตุและวิธีการกีดกันทางการค้าในการค้า ระหว่างประเทศได้อย่างมีเหตุผล 2.3 นักเรียนมีทักษะกระบวนการทำงานร่วมกันเป็นกลุ่ม ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) นักเรียนมีความรับผิดชอบ มีความซื่อสัตย์สุจริต มุ่งมั่นในการทำงาน มีระเบียบวินัย และตรงต่อเวลา เรื่อง สาเหตุและวิธีการกีดกันทางการค้า ในการค้าระหว่างประเทศ
36 เรื่อง การค้าและการกีดกันทางการค้าระหว่างประเทศ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 คำชี้แจง ให้นักเรียนวิเคราะห์ข้อดีและข้อเสียของการค้าระหว่างประเทศ ตามประเด็นที่กำหนด (10 คะแนน) คะแนนที่ได้...... ข้อเสียของการค้าระหว่างประเทศ …………………………………………………………………… …………………………………………………………………… …………………………………………………………………… …………………………………………………………………… …………………………………………………………………… …………………………………………………………………… …………………………………………………………………… …………………………………………………………………… …………………………………………………………………… …………………………………………………………………… การใช้ทรัพยากร ราคาสินค้า การขาดดุลการค้า ความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ของประเทศ ปัญหาสังคม
37 1. รายการให้คะแนน รายการ คะแนน 1. ตอบคำถามถูกต้อง 2. ตอบคำถามผิด 1 0 2. สรุปผลการประเมิน ระดับคุณภาพ 3 หมายถึง ดี 8 - 10 คะแนน ระดับคุณภาพ 2 หมายถึง พอใช้ 5 - 7 คะแนน ระดับคุณภาพ 1 หมายถึง ปรับปรุง 1 - 4 คะแนน 3. รวมคะแนนทั้งสิ้น 10 คะแนน คะแนนที่ได้ ................ คะแนน ข้อดีของการค้าระหว่างประเทศ …………………………………………………………………… …………………………………………………………………… …………………………………………………………………… …………………………………………………………………… …………………………………………………………………… …………………………………………………………………… …………………………………………………………………… …………………………………………………………………… …………………………………………………………………… …………………………………………………………………… การพัฒนาการผลิต การใช้ทรัพยากร แรงงาน ความรู้ด้านวิชาการ ปริมาณและคุณภาพสินค้า
38 เรื่อง การค้าและการกีดกันทางการค้าระหว่างประเทศ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 คำชี้แจง ให้นักเรียนตอบคำถามต่อไปนี้(8 คะแนน) 1. เพราะเหตุใด บางประเทศจึงมีการตั้งกำแพงภาษีนำเข้าทำให้สินค้าจาก ต่างประเทศมีราคาสูง ............................................................................................................................. .............................................................................................................................. 2. เพราะเหตุใด ประเทศที่มีประชาชนว่างงานมากจึงพยายามกีดกันการนำเข้า สินค้าจากต่างประเทศ ............................................................................................................................. .............................................................................................................................. 3. การเก็บภาษีศุลกากรนำเข้าในอัตราสูงจะส่งผลอย่างไร ............................................................................................................................. .............................................................................................................................. 4. การควบคุมมาตรฐานและคุณภาพสินค้าอย่างเข้มงวดของบางประเทศนั้น ส่งผลดีหรือผลเสียอย่างไร ............................................................................................................................. .............................................................................................................................. ............................................................................................................................. ............................................................................................................................. คะแนนที่ได้......
39 5. การเก็บภาษีนำเข้าในอัตราที่สูงจะส่งผลอย่างไร ............................................................................................................................. .............................................................................................................................. ............................................................................................................................. 6. การเก็บภาษีส่งออกทำให้สินค้าที่ส่งไปจำหน่ายมีราคาสูงขึ้นส่งผลต่อ ผู้บริโภคและผู้ผลิตในประเทศไทย ............................................................................................................................. .............................................................................................................................. ............................................................................................................................. 7. ผู้บริโภคในประเทศได้บริโภคสินค้าราคาถูกลง ผู้ผลิตในประเทศจำหน่าย สินค้าในต่างประเทศได้น้อย มีกำไรน้อยอาจทำให้การผลิตลดลง ............................................................................................................................. .............................................................................................................................. ............................................................................................................................. 8. การจำกัดด้านปริมาณสินค้านำเข้า ส่งผลต่อผู้บริโภค ผู้ผลิต และรัฐบาล อย่างไรบ้าง ............................................................................................................................. .............................................................................................................................. ............................................................................................................................. .............................................................................................................................. .............................................................................................................................
40 1. รายการให้คะแนน รายการ คะแนน 1. ตอบคำถามถูกต้อง 2. ตอบคำถามผิด 1 0 2. สรุปผลการประเมิน ระดับคุณภาพ 3 หมายถึง ดี 7 - 8 คะแนน ระดับคุณภาพ 2 หมายถึง พอใช้ 4 - 6 คะแนน ระดับคุณภาพ 1 หมายถึง ปรับปรุง 0 - 3 คะแนน 3. รวมคะแนนทั้งสิ้น 8 คะแนน คะแนนที่ได้ ................ คะแนน
41 เรื่อง การค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 คำสั่ง ให้นักเรียนทำเครื่องหมายกากบาท () ที่นักเรียนเห็นว่าถูกต้องที่สุด เพียงคำตอบเดียวลงในกระดาษคำตอบ (10 คะแนน) 1. ข้อใดเป็นลักษณะของดุลการค้าขาดดุล ก. ส่งออกสินค้าน้อย นำเข้าสินค้าน้อย ข. ส่งออกสินค้าน้อย นำเข้าสินค้ามาก ค. ส่งออกสินค้ามาก นำเข้าสินค้าน้อย ง. ส่งออกสินค้ามาก นำเข้าสินค้ามาก 2. การที่ประเทศกำลังพัฒนามักประสบภาวะขาดดุลการค้ามีสาเหตุมาจากอะไร ก. มีความต้องการนำเข้าสินค้าทุนมาก ข. มีความต้องการส่งออกสินค้าทุนมาก ค. มีความต้องการบริโภคสินค้าและบริการมาก ง. มีความต้องการสินค้าที่ผลิตภายในประเทศมาก 3. ข้อใดเป็นลักษณะของการกีดกันทางการค้าระหว่างประเทศ ก. การกำหนดโควตานำเข้าสินค้า ข. การเก็บภาษีนำเข้าในระดับต่ำ ค. การอุดหนุนผู้ประกอบการนำเข้าสินค้า ง. การประกันราคาสินค้าเกษตรภายในประเทศ คะแนนที่ได้............
42 4. หากประเทศไทยส่งสินค้าออกมีมูลค่า 551,000 ล้านบาท และนำเข้าสินค้ามูลค่า 638,000 บาท ดุลการค้าไทยจะเป็นอย่างไร ก. สมดุล ข. ขาดดุล ค. เกินดุล ง. ผันผวน 5. สิ่งที่ประชาชนในประเทศควรระมัดระวังเมื่อเปิดเสรีทางการค้าคืออะไร ก. ความสิ้นเปลืองของทรัพยากร ข. ความหลากหลายทางวัฒนธรรม ค. การถูกครอบงำจากบริษัทต่างชาติ ง. การหลั่งไหลของเงินต่างชาติจำนวนมาก 6. เป้าหมายสำคัญที่สุดของการลงทุนระหว่างประเทศทางตรงคืออะไร ก. เพื่อการฟอกเงิน ข. เพื่อโยกเงินในตลาด ค. เพื่อซื้อขายหลักทรัพย์ ง. เพื่อผลิตสินค้าและบริการ 7. การกระทำใดต่อไปนี้เป็นลักษณะของการกีดกันทางการค้า ก. ไทยลดภาษีนำเข้าสินค้าจากประเทศจีน ข. ไทยลดโควตานำเข้าสินค้าจากสหรัฐอเมริกา ค. ตลาดร่วมยุโรปลดมาตรฐานการตรวจสอบสินค้าจากไทย ง. ตลาดร่วมยุโรปลดมาตรฐานคุณภาพสินค้านำเข้าจากไทย 8. มาตรการที่ไม่ใช่ภาษีศุลกากรสอดคล้องกับข้อใด ก. ไทยขายไม้สักให้อินโดนีเซียและซื้อกุ้งจากพม่า ข. มาเลเซียซื้อข้าวจากไทยและไทยซื้อน้ำมันจากบรูไน ค. เวียดนามประกาศเพิ่มอัตราภาษีนำเข้าในสินค้าหลายรายการ ง. กลุ่ม EU ห้ามนำเข้าและวางจำหน่ายของเด็กเล่นจากประเทศหนึ่ง ในเอเชีย
43 9. หากรัฐนำมาตรการกึ่งภาษีมาใช้จะส่งผลให้เกิดสิ่งใด ก. ประชาชนบริโภคสินค้าในประเทศมากขึ้น ข. สินค้านำเข้าของไทยจะเพิ่มปริมาณมากขึ้น ค. การจัดเก็บค่าธรรมเนียมสินค้าของไทยลดลง ง. ผู้ประกอบธุรกิจในประเทศลดกำลังการผลิตลง 10. ข้อใดเป็นการลงทุนทางอ้อม ก. เปิดร้านบะหมี่ ข. ซื้อหุ้น ค. ซื้อคอนโด ง. จัดตั้งห้างหุ้นส่วนจำกัด 1. รายการให้คะแนน รายการ คะแนน 1. เลือกตอบคำถามถูกต้อง 2. เลือกตอบคำถามไม่ถูกต้อง 1 0 2. สรุปผลการประเมิน ระดับคุณภาพ 3 หมายถึง ดี 8 - 10 คะแนน ระดับคุณภาพ 2 หมายถึง พอใช้ 5 - 7 คะแนน ระดับคุณภาพ 1 หมายถึง ปรับปรุง 1 - 4 คะแนน 3. รวมคะแนนทั้งสิ้น 10 คะแนน คะแนนที่ได้ ................ คะแนน
44 บรรณานุกรม กระทรวงศึกษาธิการ. ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษา ขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ : ชุมนุมสหกรณ์การเกษตร แห่งประเทศไทย, 2551. กระมล ทองธรรมชาติและคณะ. หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและ วัฒนธรรม ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 (ฉบับ อญ.) (หลักสูตรฯ 2551 ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560). กรุงเทพฯ : พัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.), 2560. กวี วรกวิน และคณะ. หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน สังคมศึกษา ศาสนาและ วัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 (ฉบับ อญ.) (หลักสูตรฯ 2551 ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560). กรุงเทพฯ : พัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.), 2560. ตีรณ พงศ์มฆพัฒน์และคณะ. หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน เศรษฐศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และ วัฒนธรรม ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 พิมพ์ครั้งที่ 12. กรุงเทพฯ : อักษรเจริญทัศน์ อจท., 2560. ดำรง ฐานดี และคณะ. หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน สังคมศึกษา ศาสนาและ วัฒนธรรม หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรมและการดำเนินชีวิตในสังคม เศรษฐศาสตร์ และภูมิศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ตามมาตรฐานการ เรียนรู้และตัวชี้วัด สาระภูมิศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) กลุ่มสาระ การเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ตามหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพฯ : อักษรเจริญทัศน์ อจท., 2560.
45 บรรณานุกรม _________. คู่มือครูหนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน สังคมศึกษา ศาสนาและ วัฒนธรรม หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรมและการดำเนินชีวิตในสังคม เศรษฐศาสตร์ และภูมิศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ตามมาตรฐานการ เรียนรู้และตัวชี้วัด สาระภูมิศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) กลุ่มสาระ การเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ตามหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพฯ : อักษรเจริญทัศน์ อจท., 2560.. วิทยา ปานะบุตร และคณะ. คู่มือเสริมทักษะการเรียนรายวิชาพื้นฐานสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ม.3. กรุงเทพฯ : พ.ศ. พัฒนา, 2558.
46 ภาคผนวก
47 เรื่อง การค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ก่อนเรียน หลังเรียน ข้อ คำตอบ ข้อ คำตอบ 1 ง 1 ข 2 ก 2 ก 3 ค 3 ก 4 ข 4 ข 5 ค 5 ค 6 ง 6 ง 7 ก 7 ข 8 ค 8 ง 9 ค 9 ก 10 ก 10 ข