The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน ม.2

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Benjarat Jaikla (Kru Nan), 2021-12-19 11:39:00

แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน ม.2

แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน ม.2

แผนการจัดการเรียนรู้
รายวิชา ภาษาอังกฤษพ้ืนฐาน (อ22101)

หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 3
ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 2

นางสาวเบญจรตั น์ ใจกล้า
ตำแหนง่ ครผู ชู้ ว่ ย

โรงเรยี นบา้ นแม่ยางหา้
สำนกั งานเขตพนื้ ท่กี ารศกึ ษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต ๒
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พื้นฐาน กระทรวงศึกษาธกิ าร

แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี 18

วชิ า ภาษาอังกฤษพ้นื ฐาน รหสั วิชา อ22101 ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 2

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 3 Characters larger than life เวลา 11 ชว่ั โมง

เรอ่ื ง Superheroes เวลา 2 ชว่ั โมง

ครผู สู้ อน นางสาวเบญจรตั น์ ใจกล้า สอนวนั ท่ี …….. เดอื น………… พ.ศ. ……….

โรงเรียน บ้านแม่ยางห้า สำนักงานเขตพนื้ ทีก่ ารศึกษาประถมศกึ ษา เชียงใหม่ เขต 2

1. มาตรฐานการเรียนร้/ู ตวั ชวี้ ัด
สาระท่ี 1 ภาษาเพ่อื การส่ือสาร

มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตคี วามเรอ่ื งทีฟ่ ังและอา่ นจากส่ือประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเห็น
อย่างมเี หตุผล

ต 1.1 ม.2/2 อ่านออกเสียงข้อความ ขา่ ว ประกาศ และบทรอ้ ยกรองส้ันๆ ถกู ต้องตามหลักการอ่าน
ต 1.1 ม.2/4 เลือกหวั ขอ้ เรอ่ื ง ใจความสำคัญ บอกรายละเอยี ดสนับสนนุ (supporting detail) และ

แสดงความคิดเห็นเก่ยี วกับเรอ่ื งทฟี่ ังและอ่าน พรอ้ มท้ังให้เหตุผลและยกตวั อยา่ งงา่ ยๆ
ประกอบ

มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสอื่ สารทางภาษาในการแลกเปล่ยี นข้อมลู ขา่ วสาร แสดงความรู้สกึ และความ
คดิ เห็นอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ

ต 1.2 ม.2/4 พูดและเขียนเพ่อื ขอและใหข้ อ้ มูล บรรยาย และแสดงความคิดเหน็ เกี่ยวกับเรอ่ื งท่ฟี ังหรือ
อา่ นอย่างเหมาะสม

ต 1.2 ม.2/5 พูดและเขียนแสดงความรู้สึกและความคดิ เหน็ ของตนเองเกยี่ วกบั เร่อื งต่างๆ กจิ กรรม และ
ประสบการณ์ พรอ้ มทงั้ ให้เหตผุ ลประกอบอย่างเหมาะสม

มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอขอ้ มลู ขา่ วสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เหน็ ในเรือ่ งต่างๆ โดยการพูด
และการเขยี น

ต 1.3 ม.2/1 พดู และเขียนบรรยายเกยี่ วกบั ตนเอง กจิ วัตรประจำวัน ประสบการณ์ และขา่ ว/เหตุการณ์
ทีอ่ ยใู่ นความสนใจของสังคม

ต 1.3 ม.2/3 พูดและเขียนแสดงความคดิ เห็นเก่ียวกบั กิจกรรม เรื่องตา่ งๆ ใกลต้ ัว และประสบการณ์
พร้อมท้งั ให้เหตผุ ลสั้นๆ ประกอบ

มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธร์ ะหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา และนำไปใช้ได้
ต 2.1 ม.2/1 อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ
ใช้ภาษา น้ำเสียง และกิริยาท่าทางเหมาะกบั บคุ คลและโอกาส ตามมารยาทสังคมและ
วฒั นธรรมของเจ้าของภาษา

มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมอื นและความแตกต่างระหว่างภาษาและวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษากบั
ภาษาและวฒั นธรรมไทย และนำมาใช้อยา่ งถูกตอ้ งและเหมาะสม

ต 2.2 ม.2/1 เปรยี บเทียบและอธบิ ายความเหมือนและความแตกตา่ งระหว่างการออกเสียง
ประโยค
ชนิดต่างๆ และการลำดบั คำตามโครงสร้างประโยคของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย

มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเช่ือมโยงความรกู้ บั กลุม่ สาระการเรยี นร้อู ื่น และเป็นพ้นื ฐาน
ต 3.1 ม.2/1 ในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปิดโลกทศั น์ของตน
คน้ คว้า รวบรวม และสรปุ ข้อมูล/ข้อเท็จจริงท่เี กีย่ วข้องกบั กลมุ่ สาระการเรยี นรูอ้ ื่น จาก
แหล่งเรียนรู้ และนำเสนอดว้ ยการพูด/การเขียน

มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาตา่ งประเทศในสถานการณต์ ่างๆ ทงั้ ในสถานศกึ ษา ชุมชน และสงั คม
ต 4.1 ม.2/1 ใชภ้ าษาสื่อสารในสถานการณ์จรงิ /สถานการณ์จำลองที่เกิดขนึ้ ในห้องเรยี น สถานศกึ ษา

และชมุ ชน
2. สาระสำคญั

ขอ้ มลู เกยี่ วกับตนเอง ไดแ้ ก่ ส่งิ ที่ได้ทำและไม่ได้ทำในอดีต เรือ่ งราวที่อย่ใู นความสนใจของสังคม
ไดแ้ ก่ superhero บุคคลทม่ี ีชื่อเสยี ง ตำนานเรอ่ื งเล่า ภาพยนตร์ รวมทัง้ ขอ้ เท็จจริงทางดา้ นประวตั ิศาสตร์ เช่น
อียปิ ต์โบราณ

3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
-การสนทนาแลกเปลยี่ นข้อมลู เกย่ี วกบั ตนเอง เร่อื งต่างๆ ใกลต้ ัว และสถานการณ์ต่างๆ อย่างถูกต้องตาม
กาลเทศะ
-พูดเกี่ยวกบั สิ่งท่ตี นเองไดท้ ำและไม่ได้ทำในอดีต
- ใชภ้ าษา น้ำเสยี ง และกริ ยิ าท่าทางสภุ าพ เหมาะสมตามมารยาทสังคมและวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา
- เข้าร่วมกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ
- ใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณจ์ ริง/สถานการณจ์ ำลองทเ่ี กดิ ขนึ้ ในหอ้ งเรียน
4. สาระการเรยี นรู้

• Vocabulary
Special abilities: spin webs, stretch very far, climb walls, see through walls,
hear very well, burst into flames, have super strength,
disappear, fight very well

• Language Structure
Past simple: affirmative, negative, interrogative and short answers
Used to: affirmative, negative, interrogative
Linking words: so, because, too, also

• Functional Exponents

Describing a film:
- What’s it about?
- Sounds interesting.
- There’s a lot of action and the special effects are great.
- Who stars in it?

• Pronunciation
Intonation in questions:
Yes-No questions: final rising pitch
Wh-questions: final falling pitch

5. ทกั ษะ/กระบวนการ
- พดู เก่ยี วกับสิ่งท่ีตนเองได้ทำและไม่ได้ทำในอดตี

6. สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี น
- ความสามารถในการส่ือสาร
- ความสามารถในการคิด

- การคดิ สงั เคราะห์
- ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

7. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
- ใฝ่เรียนรู้
- มงุ่ ม่นั ในการทำงาน

8. กิจกรรมการเรยี นรู้
ขั้นที่ 1 (ขนั้ นำ) Warm up
1. นักเรียนทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี น โดยครูถา่ ยเอกสาร Test 3 (Module 3) จาก Teacher’s

Resource Pack & Tests 2 หนา้ 105-108 (ดูคำตอบใน Teacher’s Resource Pack & Tests 2 หนา้ 163)
2. นกั เรยี นดชู อื่ หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 3 (Characters larger than life) และภาพในหนังสอื เรียน หนา้ 31

แล้ว แสดงความคิดเหน็ วา่ ในหน่วยการเรยี นรู้นี้น่าจะเกี่ยวกบั เรือ่ งใด
Suggested Answer Key
The title refers to superheroes and their special abilities. It might also refer to
famous people, legends, etc.

3. ครูช้ีแจงใหน้ ักเรยี นทราบวา่ ในหนว่ ยการเรียนรู้ที่ 3 น้ี นกั เรยี นจะไดเ้ รียนรู้เกี่ยวกบั

 abilities  past simple

 superheroes  used to

 famous people  linking words: so, too, also, because

 legends  Kings of Egypt

4. สอบถามความรูพ้ ้นื ฐาน กระตุ้นและดงึ ความสนใจของนกั เรียนโดยอาจใชค้ ำถามตอ่ ไปน้ี

 Do you know ‘Superman’ and other superheroes?

 How do you know them, by reading or watching?

 Why do they become the heroes?

 Who created these superheroes?

ขั้นที่ 2 (ขนั้ นำเสนอ) Presentation
1. นักเรียนดภู าพ 4 ภาพ ในหนังสอื เรียน หน้า 31 จากน้นั ครูกระตนุ้ ให้นกั เรียนอภิปราย แสดงความ

คิดเหน็ แลเตรยี มความพรอ้ มของนักเรยี นเขา้ สู่หน่วยการเรยี นรู้ ด้วยการถามวา่ ภาพท่ีเหน็ แต่ละภาพอยใู่ นหนังสือ
เรียนหน้าใด นักเรียนรู้ขอ้ มลู อะไรบา้ งเก่ยี วกบั superheroes ในภาพ และในหนงั สอื เรียนหน้าดงั กล่าวบอกอะไร
ให้กบั นักเรยี นเปน็ การเพ่ิมเติมบ้าง

Suggested Answer Key
T: What page is picture 1 from?
S1: Picture 1 is from page 32.
T: What do you know about this character?
S2: He can hear very well.
T: What page is picture 2 from?
S3: Picture 2 is from page 34.
T: What else can you see on page 34? etc.
Picture 3 (page 32) Picture 4 (page 35)
2.นกั เรยี นช่วยกนั หาวา่ ภาพ ancient Egyptian kings, a biography และ a British legend อยู่ใน
หนงั สือเรียนหนา้ ใด เมอื่ หาพบแล้วครถู ามคำถามทเ่ี กยี่ วข้องกับภาพแต่ละภาพ เพอ่ื ตรวจสอบความเข้าใจและ
พ้ืนฐานความรขู้ องนกั เรยี น

 ancient Egyptian kings (page 39)
Do you learn about ancient Egypt at school? Have you ever seen an

ancient Egyptian exhibition in a museum? Did you like it?

 a biography (page 36)
What do you know about George Lucas?
Have you ever seen any of his films? Did you like them?

 a British legend (page 37)
Do you know any British legends?
Do you know any legends from your country?

3.ครูเปดิ CD 1/Track 32 (ครึง่ แรก) ให้นกั เรียนฟงั คำศพั ท์ในหนังสอื เรียน หนา้ 31 หวั ข้อ
Vocabularyและฝึกออกเสยี งตาม แล้วใหน้ ักเรียนบอกความหมายของคำศพั ท์เปน็ ภาษาไทย จากนัน้ ครูถาม
นักเรียนว่า superhero ในแต่ละภาพมีความสามารถอะไรบ้าง และครูเปดิ CD 1/Track 32 (คร่ึงหลงั ) ให้
นกั เรียนฟงั เพือ่ ตรวจคำตอบ แลว้ ส่มุ ถามนกั เรยี นทลี ะคนว่า superhero ท่นี กั เรยี นชืน่ ชอบคอื ใคร

Suggested Answer Key
1. Daredevil can hear very well and fight very well.
2. Superman can see through walls. He also has super strength.
3. Spider-Man can spin webs, climb walls and fight very well.
4. The Human Torch can burst into flames.
5. The Thing has super strength.
6. The Invisible Woman can disappear.
7. Mr Fantastic can stretch very far.
My favourite superhero is Spider-Man.

ขัน้ ที่ 3 ( ขัน้ ฝึก ) Practice
1.นักเรียนสำรวจเน้อื หาของ Unit 3a ในหนังสอื เรยี น หน้า 32-33 แลว้ บอกครูวา่ เห็นอะไรบ้าง และ

นกั เรยี นคิดว่าใน Unit 3a น้จี ะไดเ้ รยี นเกี่ยวกับเร่อื งอะไร (superheroes and their creator)
2.นักเรยี นอา่ นคำถามในหนงั สือเรยี น หนา้ 32 Ex. 1 จากนนั้ ครูเปดิ CD 1/Track 33 ใหน้ ักเรียนฟงั

และอา่ นบทอา่ นเพื่อหาคำตอบ
Stan Lee created them.

3.นกั เรยี นอ่านประโยคข้อ 1-6 ในหนังสือเรยี น หนา้ 32 Ex. 2 แลว้ ครูให้เวลานักเรียนอา่ นบทอา่ นเรอื่ ง
Superheroes อย่างเงยี บๆ และพิจารณาวา่ ประโยคถูกตอ้ งตามเนอ้ื เร่อื งหรอื ไม่ ใหน้ กั เรียนใช้เทคนิคการอา่ นเพ่อื
หาข้อมูลเฉพาะ (ดคู ูม่ อื ครู หนา้ 22) เสรจ็ แลว้ ครูตรวจคำตอบ และใหน้ กั เรียนแกไ้ ขประโยคท่ีผิดให้ถูกตอ้ งจากน้นั
ให้นักเรียนแสดงความคดิ เห็นว่าทำไม Stan Lee จึงคิดว่า Hulk เป็น hero

1. T
2. F The Hulk was green and purple.
3. T
4. F The Hulk changed into a monster when he was angry.
5. T (People were afraid of the Hulk.)
6. F The Hulk was a superhero. He was very popular so he became a TV
series. Stan Lee thinks the Hulk is a hero because he didn’t want to hurt people. He was a

good person and wanted to help people even though people hunted him and tried
to kill him.

4. นกั เรยี นอ่านออกเสียงคำที่พิมพต์ ัวหนาในบทอ่านเร่ือง Superheroes ในหนังสอื เรียน หนา้ 32
และช่วยกันอธิบายความหมาย โดยดจู ากบรบิ ทแวดลอ้ ม

Suggested Answer Key
take: need or require something in order to happen or be done
answer: provide a reply to a question
creator: somebody who made or invented a particular thing
created: made
heroes: people (real or fictional) who are admired for doing brave or good
things
scientist: somebody who works or is trained in science
changed into:turned into
angry: feeling mad, furious, upset
acted like: behaved in a certain way
hurt: cause harm, either physical or emotional
hunted: chased somebody/something to catch them
kill: make a person or an animal die
still: in spite of
right: correct, appropriate
became: developed in a particular way
successful: popular; well received
series: (TV) a daily or weekly programme with the same cast and format
จากนนั้ ครูกระตนุ้ ให้นักเรียนหาคำในบทอา่ นทีม่ ีความหมายเหมอื นกบั คำทก่ี ำหนดให้ใน Ex. 3 para 1,
para 2 เสรจ็ แล้วเฉลยคำตอบพรอ้ มกนั

possibly = maybe (line 2)
made = created (line 6)
is needed = does it take (line 1)
turned into = changed into (line 12)
beast = monster (line 13)
harm = hurt (line 16)
scared of = afraid of (line 8)

5. นักเรยี นทำกจิ กรรมในหนงั สือเรยี น หน้า 32 Ex. 4a โดยอา่ นบทอ่านเร่อื ง Superheroes
อีกครัง้ แล้วปิดหนังสอื เรียน และพยายามนกึ สิ่งท่ีจำได้ 3 สิ่ง จากเนื้อเรอ่ื งทีอ่ ่าน จากนัน้ ใหน้ กั เรียนพดู
สงิ่ ทจี่ ำได้ให้เพอ่ื นฟัง

6. นกั เรียนทำกิจกรรมในหนังสอื เรียน หนา้ 32 Ex. 4b โดยแบ่งกล่มุ รว่ มกันอภิปรายแสดงความ
คิดเหน็ วา่ superhero ควรมีคุณสมบัตแิ ละความสามารถพิเศษอะไรบา้ ง แล้วให้นักเรียนแต่ละกลมุ่ เขยี นสรุป
ความคิดเห็น จากนัน้ ให้แต่ละกลมุ่ นำเสนอความคิดเห็นหนา้ ชน้ั เรยี น

Suggested Answer Key
To me, a superhero is someone who fights crime and rescues people from
danger.
He or she is strong and has special powers and always does the right thing. etc.

7. ครใู หน้ ักเรยี นปิดหนงั สือเรยี น แลว้ เขยี นประโยคบนกระดาน ดงั น้ี

John lived in a big house in 1980.

He drove a fast car then.

ครูขดี เสน้ ใต้คำกรยิ าทงั้ 2 คำ และให้นกั เรยี นบอกว่าเป็น tense อะไร แล้วครดู งึ ความสนใจของนักเรยี น

มาทค่ี ำกรยิ า drove และใหน้ กั เรียนบอกคำกริยาช่องท่ี 1 (drive) ครูอธิบายว่า drove คือรูปอดตี ของ

drive ให้นกั เรยี นสังเกตวา่ ไม่ใชค่ ำกริยาทกุ คำจะเตมิ -ed เม่อื เปล่ียนเป็นรปู อดีต

จากนัน้ ให้นักเรียนเปดิ หนังสอื เรียน หนา้ 33 และอา่ นตารางใน Ex. 5 เพ่อื ดูการใช้ past simple ในรปู

ประโยคบอกเล่าและประโยคปฏเิ สธ ทั้งนี้นักเรยี นสามารถศกึ ษารายละเอยี ดเพ่มิ เติมไดจ้ าก Grammar

Reference Section ในหนา้ 124 แล้วใหน้ ักเรียนเปรียบเทยี บวา่ มีโครงสร้างลักษณะเชน่ นีใ้ นภาษาไทย

หรอื ไม่

8. นกั เรยี นฝกึ การใช้ past simple และทบทวน regular/irregular verbs โดยทำ Ex. 6 ในหนังสือ

เรียน หน้า 33 ใหน้ กั เรียนเปลี่ยนคำกรยิ าที่กำหนดใหอ้ ยใู่ นรปู past simple และระบุด้วยว่าเป็น regular verb

(R) หรือ irregular verb (I) เสร็จแล้วเฉลยคำตอบพร้อมกัน โดยตรวจสอบจากตาราง irregular verbs ในหนา้

130

1. created (R) 6. got (I) 10. tried (R)

2. was (I) 7. looked (R) 11. wanted (R)

3. wore (I) 8. acted (R) 12. knew (I)

4. made (I) 9. hunted (R) 13. became (I)

5. changed (R)

9. นกั เรยี นอ่านขอ้ ความในหนังสือเรียน หน้า 33 Ex. 7 แลว้ เตมิ ช่องว่างด้วยคำกริยาท่ีอย่ใู นวงเล็บใน

รปู past simple พร้อมทง้ั ระบวุ า่ คำกริยาคำใดเป็น irregular verb เสร็จแลว้ ครตู รวจคำตอบ พร้อมอธบิ าย

คำศัพท์ท่ีนักเรยี นไมร่ ู้ความหมาย

1. didn’t have (irregular) 8. continued

2. left (irregular) 9. created

3. got (irregular) 10. followed

4. was (irregular) 11. presented

5. wrote (irregular) 12. appeared

6. chose (irregular) 13. made (irregular)

7. changed

10. นักเรยี นฝึกเขยี นประโยคปฏิเสธในหนงั สือเรียน หน้า 33 Ex. 8 โดยอา่ นข้อความใน Ex. 7 อกี ครง้ั

แลว้ แก้ไขประโยคข้อ 1-6 ใหถ้ กู ต้องตามเน้อื เรื่องในข้อความทอ่ี ่าน เสร็จแล้วเฉลยคำตอบพรอ้ มกนั

1. … New York.

2. His family wasn’t rich. His family didn’t have any money.

3. He didn’t work for DC Comics. He worked for Marvel Comics.

4. He didn’t write about Captain America in 1940. He wrote about Captain

America in 1941.

5. He didn’t create the Fantastic Four in 1941. He created the Fantastic

Four in 1961.

6. Marvel Comics didn’t publish Spider-Man in 1961. Marvel Comics

published Spider-Man in 1962.

11. นกั เรียนอ่านตัวอย่างในหนงั สอื เรียน หน้า 33 Ex. 9 แล้วจับคู่ฝกึ พดู ประโยคเกีย่ วกบั ตนเองในรปู

past simple โดยใชว้ ลีและคำบอกเวลาที่กำหนดให้ ครูเดินสังเกตการทำกจิ กรรมและให้ความช่วยเหลอื เม่ือ

จำเปน็ แลว้ ใหน้ กั เรยี นหลายๆ คู่ ออกมาพูดหน้าช้ันเรียน

Suggested Answer Key

I played football last Monday.

I didn’t help with the housework yesterday afternoon.

I met my friends last week. etc.

ขน้ั ที่ 4 (ขั้นนำไปใช)้ Production
1. นกั เรยี นอ่านชื่อบุคคลและกิจกรรมในหวั ข้อ People และ Activities ในหนงั สือเรียน หน้า 33

Ex. 10 และจับคู่ชือ่ บุคคลกบั กจิ กรรมท่ที ำ แลว้ ตรวจคำตอบ จากนัน้ ครูสมุ่ เรียกนกั เรียนพูดกิจกรรมท่ีบุคคล
2.นักเรียนทำกิจกรรมในหนงั สอื เรียน หน้า 33 Ex. 11 โดยครูให้เวลานักเรยี น 3 นาที เขยี นสิ่งที่ทำ

หรอื ไมไ่ ดท้ ำเม่ือวานนี้ ให้ครูพจิ ารณาตามความเหมาะสม หากเห็นว่านักเรยี นยงั ไมส่ ามารถเขยี นได้อาจเพิม่ เวลา
หรือใหค้ ำแนะนำเพมิ่ เตมิ เสร็จแล้วใหน้ ักเรียนจบั คผู่ ลัดกันพดู บอกสิ่งที่ทำและไมไ่ ด้ทำ ครอู าจให้นักเรยี นออกมา
พูดหน้าชั้นเรียน

Suggested Answer Key
I went to school. I saw my friends.

I did my homework.
I walked my dog.
I didn’t watch TV.
I surfed the Net. I didn’t stay up late. etc.
ข้นั ท่ี 5 (ข้นั สรปุ ) Wrap up
1.นักเรียนทำแบบฝึกหัดในหนังสอื แบบฝึกหัด หนา้ 22-23 Unit 3a Exs. 1-6

9. สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้
1. หนงั สอื เรยี น Access ม. 2
2. แบบฝึกหัด Access ม. 2

10. การวัดและประเมนิ ผล เคร่ืองมอื เกณฑ์
วิธีการวดั เกณฑก์ ารประเมินช้ินงาน ร้อยละ 50 ผ่านเกณฑ์
แบบประเมินการฟงั ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ตรวจแบบฝึกหัด แบบประเมนิ การพูดโตต้ อบ ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมินการฟงั แบบประเมินการเขยี น ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมินการพูด แบบประเมินการอ่านออกเสยี ง ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมินการเขียน แบบประเมินสมรรถนะ ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมินการออกเสยี ง แบบประเมินคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ด้านทักษะ/สมรรถนะ
คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์

1. การประเมินผลการทำแบบทดสอบกอ่ นเรียน/หลังเรยี นหน่วยการเรียนรู้ท่ี 3

แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 19

วิชา ภาษาอังกฤษพน้ื ฐาน รหสั วชิ า อ22101 ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 2

หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 3 Characters larger than life เวลา 11 ชัว่ โมง

เร่ือง Superpowers เวลา 2 ชวั่ โมง

ครผู ู้สอน นางสาวเบญจรตั น์ ใจกล้า สอนวนั ท่ี …….. เดือน………… พ.ศ. ……….

โรงเรยี น บ้านแม่ยางห้า สำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศกึ ษา เชียงใหม่ เขต 2

1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชีว้ ดั
สาระท่ี 1 ภาษาเพื่อการส่ือสาร

มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเร่ืองทีฟ่ งั และอ่านจากส่ือประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเหน็
อยา่ งมเี หตุผล

ต 1.1 ม.2/2 อา่ นออกเสียงข้อความ ขา่ ว ประกาศ และบทรอ้ ยกรองสัน้ ๆ ถกู ตอ้ งตามหลกั การอ่าน
ต 1.1 ม.2/4 เลอื กหวั ขอ้ เร่ือง ใจความสำคญั บอกรายละเอยี ดสนับสนุน (supporting detail) และ

แสดงความคิดเห็นเกย่ี วกับเรอื่ งทฟี่ ังและอ่าน พรอ้ มทั้งให้เหตุผลและยกตวั อยา่ งงา่ ยๆ
ประกอบ

มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปล่ียนข้อมูลข่าวสาร แสดงความร้สู ึกและความ
คิดเห็นอยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ

ต 1.2 ม.2/4 พูดและเขยี นเพอ่ื ขอและให้ข้อมูล บรรยาย และแสดงความคิดเหน็ เกี่ยวกับเรื่องทฟี่ ังหรือ
อ่านอยา่ งเหมาะสม

ต 1.2 ม.2/5 พดู และเขียนแสดงความรู้สกึ และความคิดเหน็ ของตนเองเก่ยี วกับเรื่องต่างๆ กจิ กรรม และ
ประสบการณ์ พรอ้ มท้ังให้เหตุผลประกอบอย่างเหมาะสม

มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอข้อมูลขา่ วสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเหน็ ในเรอ่ื งต่างๆ โดยการพูด
และการเขียน

ต 1.3 ม.2/1 พดู และเขียนบรรยายเก่ียวกบั ตนเอง กจิ วตั รประจำวัน ประสบการณ์ และข่าว/เหตุการณ์
ที่อยู่ในความสนใจของสังคม

ต 1.3 ม.2/3 พูดและเขียนแสดงความคดิ เห็นเกยี่ วกับกจิ กรรม เรือ่ งต่างๆ ใกลต้ ัว และประสบการณ์
พร้อมท้งั ให้เหตผุ ลส้ันๆ ประกอบ

มาตรฐาน ต 2.1 เขา้ ใจความสัมพันธร์ ะหว่างภาษากบั วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา และนำไปใชไ้ ด้
ต 2.1 ม.2/1 อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ
ใช้ภาษา นำ้ เสยี ง และกิริยาท่าทางเหมาะกบั บุคคลและโอกาส ตามมารยาทสงั คมและ
วัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา

มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมอื นและความแตกต่างระหวา่ งภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของ
ต 2.2 ม.2/1 ภาษากบั ภาษาและวัฒนธรรมไทย และนำมาใชอ้ ย่างถูกตอ้ งและเหมาะสม
เปรียบเทยี บและอธิบายความเหมอื นและความแตกต่างระหวา่ งการออกเสยี งประโยค
ชนิดต่างๆ และการลำดับคำตามโครงสร้างประโยคของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย

มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเชื่อมโยงความร้กู ับกลุม่ สาระการเรยี นรอู้ ืน่ และเปน็ พนื้ ฐาน
ต 3.1 ม.2/1 ในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปดิ โลกทศั นข์ องตน
คน้ คว้า รวบรวม และสรุปข้อมูล/ขอ้ เท็จจรงิ ท่เี กีย่ วขอ้ งกบั กลมุ่ สาระการเรียนรู้อ่นื จาก
แหลง่ เรียนรู้ และนำเสนอดว้ ยการพดู /การเขยี น

มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณต์ ่างๆ ทง้ั ในสถานศกึ ษา ชมุ ชน และสงั คม
ต 4.1 ม.2/1 ใชภ้ าษาส่อื สารในสถานการณ์จริง/สถานการณ์จำลองท่ีเกิดข้ึนในห้องเรียน สถานศกึ ษา

และชุมชน
2. สาระสำคญั

ขอ้ มลู เกย่ี วกบั ตนเอง ได้แก่ ส่ิงท่ไี ด้ทำและไมไ่ ดท้ ำในอดตี เรือ่ งราวที่อยูใ่ นความสนใจของสังคม
ได้แก่ superhero บุคคลทีม่ ีชอื่ เสียง ตำนานเรอ่ื งเลา่ ภาพยนตร์ รวมทงั้ ข้อเท็จจริงทางด้านประวตั ิศาสตร์ เชน่
อยี ิปต์โบราณ

3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
-พูดเก่ยี วกับสิ่งทีต่ นเองไดท้ ำและไม่ได้ทำในอดตี
- พูดนำเสนอ superhero จากความคิดของนักเรยี น
- ใช้ภาษา นำ้ เสยี ง และกิริยาท่าทางสุภาพ เหมาะสมตามมารยาทสงั คมและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา
- เข้าร่วมกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ
- ใชภ้ าษาส่ือสารในสถานการณ์จริง/สถานการณจ์ ำลองทเี่ กดิ ขึน้ ในห้องเรยี น

4. สาระการเรียนรู้

• Language Structure
Past simple: affirmative, negative, interrogative and short answers
Used to: affirmative, negative, interrogative
Linking words: so, because, too, also

• Functional Exponents
Describing a film:
- What’s it about?
- Sounds interesting.

- There’s a lot of action and the special effects are great.
- Who stars in it?

• Pronunciation
Intonation in questions:
Yes-No questions: final rising pitch
Wh-questions: final falling pitch

5. ทกั ษะ/กระบวนการ
- พดู เก่ียวกับสิง่ ที่ตนเองได้ทำและไม่ไดท้ ำในอดตี

6. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน
- ความสามารถในการสือ่ สาร
- ความสามารถในการคิด

- การคิดสงั เคราะห์
- ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

7. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
- ใฝ่เรียนรู้
- มุ่งมั่นในการทำงาน

8. กิจกรรมการเรยี นรู้
ขัน้ ท่ี 1 (ขน้ั นำ) Warm up

1. ครนู ำเข้าสู่บทเรียนด้วยการชแี้ จงให้นักเรยี นทราบว่า ใน Unit 3b นี้ นกั เรยี นจะไดเ้ รียนรู้โครงสร้าง
past simple (interrogative) และการเขยี นบรรยาย superhero

2. นักเรยี นดูภาพในหนงั สือเรียน หน้า 34 แล้วบอกครูว่าเห็นอะไรบา้ ง จากนัน้ ครูถามนักเรยี นว่า
Superman มพี ลงั พเิ ศษอะไร

ขัน้ ที่ 2 (ขัน้ นำเสนอ) Presentation
1. นกั เรยี นอา่ นออกเสยี งคำและวลใี นหนงั สอื เรยี น หนา้ 34 Ex. 1 แล้วครูถามนักเรยี นวา่ รจู้ ัก

Superman และละครเปน็ ตอนๆ เร่อื ง Lois & Clark หรือไม่ จากนั้นครใู หน้ ักเรียนคดิ วา่ คำหรือวลีทกี่ ำหนดให้
คำใดสามารถใชบ้ รรยายภาพ Superman ได้ ให้นักเรียนใช้คำเหล่าน้ันบรรยายภาพ Superman จากข้อมลู ที่นัก
เรยี นรู้

Suggested Answer Key
Superman has a red cape and a blue uniform. (He can fly fast. He has
superhuman strength and he can shoot lasers from his eyes. He saves people from
crime and danger.)
2. นกั เรียนดูภาพของ Clark Kent ในหนงั สอื เรยี น หน้า 34 Ex. 2 ครกู ระตุ้นให้นกั เรยี นบอกวา่ เขาคือ
ใคร(an ordinary person who change into Superman) จากน้ันครเู ปิด CD 1/Track 35 ใหน้ กั เรยี นฟงั และ
อ่านบทอา่ นเรือ่ ง Superman เพือ่ หาคำตอบ
Suggested Answer Key
Clark Kent is a reporter for a newspaper in Metropolis. When he puts on his blue
uniform and red cape he becomes Superman and saves people from crime and danger.

3. นักเรยี นฝกึ อา่ นเพ่อื หาขอ้ มลู เฉพาะ ครอู ธิบายเทคนิคการอา่ น (ดูค่มู ือครู หนา้ 22) แล้วใหน้ ักเรียนอ่าน
บทอา่ นเรอ่ื ง Superman ในหนงั สือเรียน หนา้ 34 อกี ครั้ง และนำคำหรือวลีจาก Ex. 1 มาเตมิ ลงใน
ประโยคข้อ 1-7 ใน Ex. 3 จากน้นั ครตู รวจคำตอบ แลว้ ให้นกั เรียนช่วยกนั อธิบายความหมายของคำท่พี ิมพ์
ตัวหนาในบทอา่ น

1. planet 4. shy 6. red cape, blue uniform

2. rocket ship 5. reporter 7. save

3. brought, up

Suggested Answer Key

appeared: arrived, began to exist

planet: a large round object in space

brought him up: raised him

grew up: developed from being a child into an adult

newspaper: printed paper containing articles, news, etc.

made fun of: made unkind, insulting remarks about somebody

ordinary: regular

cape: a long, loose piece of cloth tied around the neck

strength: physical power

see through: ability to look past or into objects

save: keep somebody/something safe from death, harm, etc.

goes back: returns

everyday: ordinary, usual

4. นกั เรยี นทำกจิ กรรมในหนงั สือเรียน หน้า 34 Ex. 4 โดยใช้คำทีก่ ำหนดให้ใน Ex. 1 นำเสนอเกยี่ วกบั

Superman ให้นกั เรยี นแต่งประโยคต่อจากประโยคตัวอย่าง แล้วครูสุ่มเรียกนกั เรยี นออกมาพดู นำเสนอ

หน้าช้ันเรียน

Suggested Answer Key

… came to Earth in a rocket ship. Some farmers brought him up and he

grew up to be a shy boy. He went to Metropolis to be a reporter and everyone made

fun of him. He wasn’t an ordinary person though. When he wore his red cape and blue

uniform, he was Superman. Superman can fly very fast. He has superhuman strength and

he can shoot lasers from his eyes. Superman saves people from crime and danger.

5. นกั เรยี นปดิ หนังสือเรยี น แล้วครเู ขยี นประโยค Did Superman appear in 1938? บนกระดาน

โดยขดี เสน้ ใตค้ ำว่า Did และ appear แลว้ อธบิ ายว่านเี่ ปน็ ประโยคคำถามรปู past simple ซึง่ มีโครงสรา้ ง ดังน้ี

Did + subject + v.1?

แล้วครูเขยี นคำตอบ Yes, he did./No, he didn’t. ตอ่ จากประโยคคำถาม และอธบิ ายการตอบคำถามแบบสน้ั

(short answer) โดยเขียนโครงสรา้ งบนกระดาน ดงั นี้

Yes, + subject pronoun + did. (การตอบรบั )

No, + subject pronoun + didn’t. (การตอบปฏิเสธ)

จากน้ันใหน้ กั เรยี นเปิดหนงั สอื เรยี น หน้า 34 Ex. 5 แล้วเติมตารางใหส้ มบูรณ์ โดยใช้ did หรือ didn’t

นักเรียนสามารถศึกษารายละเอียดเพม่ิ เตมิ ได้จาก Grammar Reference Section ในหนา้ 124 แลว้ ครู

ตรวจคำตอบ และสุ่มเรียกนกั เรียนบางคนตอบคำถามจากตาราง

1. did 2. Did 3. Did 4. did 5. didn’t

1. What did Superman wear? He wore a red cape and a blue uniform.

2. Did Superman work as a teacher? No, he didn’t. He worked as a

reporter.

3. Did Superman live in Metropolis? Yes, he did.

6. นกั เรียนเติมประโยคคำถามรูป past simple ในหนงั สอื เรยี น หน้า 35 Ex. 6 โดยใชค้ ำกริยาท่กี ำหนดให้

ครูย้ำใหน้ กั เรยี นใช้โครงสร้าง Did + subject + v.1 แล้วให้นกั เรยี นตอบคำถาม โดยเลอื กคำตอบ (คำท่ี

พมิ พต์ ัวเอนอย่ทู ้ายคำถาม) ท่ีนกั เรยี นคดิ วา่ ถกู ต้อง จากนั้นครเู ปดิ CD 1/Track 36 ใหน้ ักเรียนฟังเพอ่ื

ตรวจคำตอบ

1. did, get space

2. did, live London

3. did, have two

4. did, work in the air force

5. did, appear Marvel Comics

6. did, come 1961

7. did, create about 50

.

ขั้นที่ 3 ( ขัน้ ฝกึ ) Practice

1. นกั เรียนฝกึ เขยี นประโยคคำถามรปู past simple ในหนังสือเรยี น หน้า 35 Ex. 7 โดยเรียงลำดับ

คำท่ีกำหนดให้เปน็ ประโยคคำถามทถี่ ูกต้อง แล้วตอบคำถาม ให้นักเรยี นทำลงในสมุด จากน้ันตรวจคำตอบ

ร่วมกนั แล้วใหน้ กั เรยี นจบั คู่ผลัดกนั ถามและตอบคำถาม

2. Did Superman wear a red uniform? No, he didn’t.

3. Did Superman appear in 1937? No, he didn’t.

4. Did Clark Kent work as a photographer? No, he didn’t.

5. Did Clark Kent wear glasses? Yes, he did.

6. Did your friend read a comic book last week? Yes, he/she did./No, he/she

didn’t.

2. นักเรยี นจบั คู่ฝึกถามและตอบเก่ียวกับกจิ กรรมท่ีทำเม่อื วนั เสารท์ ่ีผ่านมาด้วยข้อมลู ทีก่ ำหนดให้

ในหนังสอื เรียน หน้า 35 Ex. 8 ครูสงั เกตการทำกิจกรรมของนกั เรียน แลว้ ให้นกั เรยี นบางคอู่ อกมา

ถามและตอบคำถามหน้าชั้นเรยี น

Suggested Answer Key

A: Did you do the shopping last Saturday?

B: Yes, I did. Did you do your homework?

A: No, I didn’t. Where did you play video games?

B: At home. What time did you chat online?

A: At 8 o’clock in the evening. Where did you meet your friends?

B: At the mall. What time did you go to bed last Saturday?

A: At 10 pm.

3. นกั เรยี นทำกิจกรรมในหนงั สือเรยี น หน้า 35 Ex. 9 โดยจับคูถ่ ามและตอบคำถามในรูป past simple

เก่ียวกบั เน้ือเรื่องในบทอ่าน หนา้ 34 ครูสงั เกตการทำกิจกรรม และสุ่มเรยี กนักเรยี นบางคอู่ อกมาถามและ

ตอบคำถามหน้าช้ันเรียน

Suggested Answer Key

A: What was he also called?

B: The Man of Steel.

A: Where did he come from?

B: He came from the planet Krypton.

A: How did he come to Earth?
B: He came to Earth in a rocket ship. etc.
4. ครเู ขยี นประโยค When I was 10 years old I used to watch a lot of television. Now, I
don’t. บน กระดาน แล้วอธิบายว่าเราใช้ used to เพ่ือพดู เก่ียวกับการกระทำซ่งึ ทำเปน็ ปกติในอดีต แต่
ปัจจบุ นั ไมท่ ำแลว้ จากน้ันครเู ขียนประโยค When I was 10 years old I didn’t use to drink coffee.
และอธิบายรูปปฏิเสธของ used to แล้วใหน้ กั เรียนดูตารางโครงสร้างการใช้ used to ในหนังสอื เรยี น หนา้ 35
Ex. 10 และเปรียบเทยี บวา่ มโี ครงสร้างลักษณะเช่นน้ใี นภาษาไทยหรือไม่

ขน้ั ที่ 4 (ขัน้ นำไปใช)้ Production
1.นกั เรยี นฝึกเขียนประโยคโดยใช้ used to/didn’t used to จากสถานการณ์ในวยั เด็กของ John ท่ี

กำหนดให้ในหนังสือเรยี น หนา้ 35 Ex. 11 เสร็จแล้วครูตรวจคำตอบ และใหน้ กั เรียนจับคูพ่ ูดเกี่ยวกับสิง่ ที่ตนเอง
เคยทำและไมเ่ คยทำเมื่อตอนอายุ 10 ขวบ ครูสังเกตการทำกจิ กรรมของนักเรยี น

2. He used to wear shorts.
3. He didn’t use to play video games.
4. He didn’t use to live in a flat.
5. He used to have long hair.
6. He didn’t use to wear glasses.
7. He used to read books.
8. He used to play in the streets.

Suggested Answer Key
I used to walk to school. I used to visit my grandparents at the weekends.
I didn’t use to go to bed late. etc.

2. นกั เรยี นทำกจิ กรรมในหนงั สอื เรียน หนา้ 35 Ex. 12 โดยแบง่ กลุม่ กลุ่มละ 3-4 คน ให้แต่ละกล่มุ
ช่วยกนั คดิ ออกแบบ superhero ใหม้ รี ายละเอียดเก่ียวกบั When he/she lives, What he/she looks like,
What he/she does, What special powers he/she has got จากน้ันใหแ้ ต่ละกลมุ่ นำเสนอ superhero
ของตนเองหน้าชัน้ เรยี น
Suggested Answer Key

Mr Amazing lives in London. He is tall and dark with a black uniform and a
blue cape. He works as a police officer and rides a motorbike. He can see and hear very
well and he is very strong. He fights crime and saves people from danger.

ขั้นท่ี 5 (ขนั้ สรปุ ) Wrap up
1. นกั เรียนทำแบบฝกึ หัดในหนงั สอื แบบฝึกหดั หน้า 24-25 Unit 3b Exs. 1-4

9. สื่อ/แหลง่ การเรียนรู้
1. หนงั สอื เรียน Access ม. 2
2. แบบฝกึ หัด Access ม. 2
3. CD หนงั สอื Teacher’s Resource Pack & Tests ม. 1-2-3

10. การวัดและประเมินผล เครื่องมือ เกณฑ์
วธิ กี ารวดั เกณฑ์การประเมินช้ินงาน รอ้ ยละ 50 ผ่านเกณฑ์
แบบประเมนิ การฟัง ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ตรวจแบบฝึกหัด แบบประเมินการพูดโตต้ อบ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมินการฟงั แบบประเมินการเขยี น ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมินการพูด แบบประเมนิ การอา่ นออกเสยี ง ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมินการเขียน แบบประเมนิ สมรรถนะ ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมินการออกเสยี ง แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ด้านทักษะ/สมรรถนะ
คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์

1.การประเมินผลการพดู เกี่ยวกับส่ิงทตี่ นเองได้ทำและไม่ได้ทำในอดตี
2.การประเมนิ ผลการพูดนำเสนอ superhero จากความคดิ ของนักเรยี น

แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี 20

วชิ า ภาษาองั กฤษพื้นฐาน รหัสวิชา อ22101 ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 2

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 3 Characters larger than life เวลา 11 ชัว่ โมง

เร่ือง Fame เวลา 2 ช่วั โมง

ครผู ู้สอน นางสาวเบญจรัตน์ ใจกล้า สอนวันที่ …….. เดอื น………… พ.ศ. ……….

โรงเรยี น บ้านแม่ยางห้า สำนกั งานเขตพื้นท่กี ารศึกษาประถมศึกษา เชียงใหม่ เขต 2

1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชี้วัด
สาระที่ 1 ภาษาเพ่อื การสื่อสาร

มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตคี วามเรอ่ื งท่ีฟังและอ่านจากสื่อประเภทตา่ งๆ และแสดงความคิดเหน็
อย่างมีเหตุผล

ต 1.1 ม.2/2 อา่ นออกเสียงข้อความ ข่าว ประกาศ และบทรอ้ ยกรองสั้นๆ ถูกต้องตามหลกั การอ่าน
ต 1.1 ม.2/4 เลอื กหวั ขอ้ เร่อื ง ใจความสำคัญ บอกรายละเอียดสนบั สนนุ (supporting detail) และ

แสดงความคิดเห็นเกยี่ วกับเร่ืองท่ีฟังและอ่าน พร้อมทั้งใหเ้ หตุผลและยกตวั อย่างง่ายๆ
ประกอบ

มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสอื่ สารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลขา่ วสาร แสดงความรูส้ ึกและความ
คดิ เห็นอย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ

ต 1.2 ม.2/4 พูดและเขียนเพอ่ื ขอและใหข้ อ้ มูล บรรยาย และแสดงความคิดเหน็ เกยี่ วกับเรื่องท่ฟี ังหรอื
อ่านอยา่ งเหมาะสม

ต 1.2 ม.2/5 พูดและเขียนแสดงความรู้สกึ และความคิดเหน็ ของตนเองเกยี่ วกบั เรื่องตา่ งๆ กจิ กรรม และ
ประสบการณ์ พรอ้ มท้ังให้เหตุผลประกอบอย่างเหมาะสม

มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอขอ้ มูลข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเห็นในเรือ่ งต่างๆ โดยการพูด
และการเขยี น

ต 1.3 ม.2/1 พูดและเขียนบรรยายเกี่ยวกบั ตนเอง กิจวัตรประจำวัน ประสบการณ์ และขา่ ว/เหตกุ ารณ์
ที่อยู่ในความสนใจของสังคม

ต 1.3 ม.2/3 พดู และเขยี นแสดงความคดิ เหน็ เกี่ยวกบั กิจกรรม เรอื่ งต่างๆ ใกล้ตัว และประสบการณ์
พรอ้ มท้ังให้เหตผุ ลส้ันๆ ประกอบ

มาตรฐาน ต 2.1 เขา้ ใจความสมั พันธร์ ะหว่างภาษากับวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา และนำไปใชไ้ ด้
ต 2.1 ม.2/1 อยา่ งเหมาะสมกับกาลเทศะ
ใช้ภาษา นำ้ เสียง และกิริยาท่าทางเหมาะกบั บุคคลและโอกาส ตามมารยาทสังคมและ
วัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา

มาตรฐาน ต 2.2 เขา้ ใจความเหมอื นและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจา้ ของ
ต 2.2 ม.2/1 ภาษากบั ภาษาและวัฒนธรรมไทย และนำมาใช้อยา่ งถกู ตอ้ งและเหมาะสม
เปรยี บเทียบและอธิบายความเหมือนและความแตกต่างระหวา่ งการออกเสียงประโยค
ชนดิ ตา่ งๆ และการลำดบั คำตามโครงสรา้ งประโยคของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย

มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเชื่อมโยงความรกู้ บั กล่มุ สาระการเรยี นรู้อ่ืน และเป็นพน้ื ฐาน
ต 3.1 ม.2/1 ในการพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปดิ โลกทศั น์ของตน
คน้ ควา้ รวบรวม และสรุปข้อมูล/ข้อเท็จจรงิ ท่ีเกีย่ วข้องกบั กล่มุ สาระการเรยี นร้อู ื่น จาก
แหลง่ เรียนรู้ และนำเสนอด้วยการพูด/การเขยี น

มาตรฐาน ต 4.1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่างๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชมุ ชน และสงั คม
ต 4.1 ม.2/1 ใชภ้ าษาส่ือสารในสถานการณ์จรงิ /สถานการณ์จำลองที่เกิดขน้ึ ในหอ้ งเรียน สถานศกึ ษา

และชุมชน
2. สาระสำคญั

ข้อมลู เกย่ี วกับตนเอง ไดแ้ ก่ ส่งิ ทีไ่ ดท้ ำและไมไ่ ดท้ ำในอดตี เรอื่ งราวท่ีอยู่ในความสนใจของสังคม
ไดแ้ ก่ superhero บุคคลที่มีช่ือเสียง ตำนานเร่อื งเล่า ภาพยนตร์ รวมท้งั ขอ้ เท็จจริงทางด้านประวัติศาสตร์ เชน่
อียิปตโ์ บราณ

3. จุดประสงค์การเรยี นรู้
-เขียนชวี ประวตั ิของบคุ คลท่ีมชี ่อื เสยี ง
- ใชภ้ าษา น้ำเสียง และกิริยาท่าทางสภุ าพ เหมาะสมตามมารยาทสังคมและวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา
- เข้ารว่ มกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมตามความสนใจ
- ใช้ภาษาส่ือสารในสถานการณจ์ รงิ /สถานการณจ์ ำลองที่เกิดขึ้นในหอ้ งเรยี น
4. สาระการเรียนรู้

• Vocabulary
Special abilities: spin webs, stretch very far, climb walls, see through walls,
hear very well, burst into flames, have super strength,
disappear, fight very well

• Language Structure
Past simple: affirmative, negative, interrogative and short answers
Used to: affirmative, negative, interrogative
Linking words: so, because, too, also

• Functional Exponents

Describing a film:
- What’s it about?
- Sounds interesting.
- There’s a lot of action and the special effects are great.
- Who stars in it?

• Pronunciation
Intonation in questions:
Yes-No questions: final rising pitch
Wh-questions: final falling pitch

5. ทกั ษะ/กระบวนการ
- เขียนชวี ประวัติของบคุ คลทมี่ ีชือ่ เสยี ง

6. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
- ความสามารถในการสอื่ สาร
- ความสามารถในการคิด

- การคดิ สงั เคราะห์
- ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

7. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
- ใฝ่เรียนรู้
- มุ่งมัน่ ในการทำงาน

8. กิจกรรมการเรยี นรู้
ขั้นท่ี 1 (ขน้ั นำ) Warm up
1.นำเข้าสู่บทเรยี นโดยใหน้ ักเรยี นอา่ นช่ือเรอื่ งของบทอา่ น และดภู าพในหนังสือเรยี น หนา้ 36 แล้วให้

นักเรียนคิดวา่ ใน Unit 3c น้ี นักเรียนจะไดเ้ รยี นเกย่ี วกับเรื่องอะไร (a famous film director)
2.ครชู ีแ้ จงให้นักเรยี นทราบว่า ใน Unit 3c นกั เรยี นจะได้เรยี นรู้ linking words การอา่ นปคี ริสตศักราช

และฝึกพดู และเขียนประวัติของบคุ คลทม่ี ีชือ่ เสียง

ขนั้ ที่ 2 (ขนั้ นำเสนอ) Presentation
1.ครูให้นักเรียนดูภาพ George Lucas ในหนงั สือเรียน หนา้ 36 และสำรวจว่ามนี กั เรยี นกีค่ นท่ีรู้จักเขา

แล้วให้นกั เรยี นอ่านประโยคขอ้ 1-5 ใน Ex. 1 และลองเดาคำตอบ จากน้ันครเู ปิด CD 1/Track 37 ใหน้ กั เรียน

ฟงั และอา่ นบทอ่าน เพ่อื ตรวจคำตอบว่านักเรยี นคาดเดาถกู หรือไม่ แลว้ ใหน้ กั เรียนชว่ ยกันอธิบาย
ความหมายของคำที่พมิ พ์ตวั หนาในบทอา่ น โดยเดาความหมายของคำจากบรบิ ทแวดล้อม

1. California 3. Francis Ford Coppola 5. seven
2. good 4. 1977

Suggested Answer Key

director: a person who gives instructions to actors and others working on a

movie

racing cars: very fast cars designed for races

car accident: crash involving cars

won awards: got prizes for being the best in a competition

scholarship: money given to somebody by an educational organisation to help

pay for their education

met: made the acquaintance of

formed: created

own: belonging to oneself

came on screen: arrived at movie theatres

broke box office records: performed better than any movie before it

earned: achieved something deserved

rest is history: used to say that everyone knows the rest of a story

ข้นั ที่ 3 ( ข้นั ฝกึ ) Practice
1.นกั เรียนศกึ ษาหวั ข้อ Learning to learn ในหนงั สอื เรยี น หน้า 36 Ex. 2 เรอ่ื งการใช้ linking

words (so, because, too, also) โดยอ่านออกเสยี งตัวอยา่ ง แล้วชว่ ยกันแปลเป็นภาษาไทย จากน้ันครูอ่าน
ประโยคข้อ 1 ใน Ex. 2 เปน็ ตัวอยา่ ง แล้วให้นกั เรียนเชอื่ มประโยคขอ้ 2-5 ดว้ ย linking words ที่กำหนดให้
เสรจ็ แลว้ ตรวจคำตอบร่วมกัน

2. He didn’t come because it was late.
3. He didn’t have enough money so he didn’t buy the car.
4. She couldn’t sleep because it was noisy.
5. He made Star Wars. He also made Indiana Jones.

2. นักเรียนศึกษาหัวข้อ Learning to learn ในหนงั สือเรียน หน้า 36 เรอื่ งการอ่านปีคริ
สตศกั ราช แลว้ ให้นกั เรียนอา่ นออกเสียงปีคริสตศักราชท่ีกำหนดให้ใน Ex. 3 จากน้นั ใหน้ ักเรยี นอ่านบท
อา่ นเรือ่ ง A life making films อกี ครงั้ แลว้ จดบันทกึ เหตกุ ารณ์ที่เกิดข้ึนกบั George Lucas เรยี งลำดับ
ตามปีคริสตศักราชใน Ex. 3 แลว้ ครสู ุ่มเรียกนักเรียนออกมานำเสนอประวตั ิของ George Lucas โดยใช้
ข้อมูลที่นกั เรยี นจดบันทกึ ไว้

1944 - nineteen forty-four
1966 - nineteen sixty-six
1968 - nineteen sixty-eight
1971 - nineteen seventy-one
1977 - nineteen seventy-seven

Suggested Answer Key
George Lucas was born in 1944.
He went to the University of Southern California film school in 1966.
He won a scholarship at Warner Bros in 1968 and met Francis Ford Coppola.
He formed his own company in 1971.
He made Star Wars in 1977.

ขน้ั ท่ี 4 (ขน้ั นำไปใช)้ Production
1. ครใู หน้ กั เรยี นนึกถึงบคุ คลท่ีมีชอ่ื เสยี ง 1 คน แล้วค้นคว้า รวบรวมข้อมูลของบคุ คลนน้ั เพอื่ นำมา

เขียนประวตั ิตามโครงรา่ งในหนงั สอื เรียน หน้า 36 Ex. 4 สำหรับชั้นเรยี นเดก็ อ่อน ครูให้นักเรียนเรียงลำดับ
ชวี ประวัตขิ อง Francis Ford Coppola ใหถ้ กู ต้อง โดยใช้ข้อมูลท่คี รูเขียนบนกระดาน ดังนี้

- He (study) drama at college in New York and film at the University of California.
- Francis Ford Coppola the famous director (be born) in 1939 in Detroit, Michigan.
- Later he (make) films such as ‘The Godfather Trilogy’ which (win) two more
Oscars and ‘Apocalypse Now’.
- In 1967, he (work) at Seven Arts Studio and (start) directing and writing his own

films.
- The rest is history.
- He (win) his first Oscar as co-writer at ‘Patton’ in 1971.

Suggested Answer Key
Francis Ford Coppola the famous director was born in 1939 in Detroit, Michigan.

He had polio as a boy and spent a lot of time in bed playing with his puppet
theatre. He studied drama at college in New York and film at the University of
California. In 1967, he worked at Seven Arts Studio and started directing and writing
his own films. He won his first Oscar as co-writer at ‘Patton’ in 1971. Later he made
films such as ‘The Godfather Trilogy’ which won two more Oscars and ‘Apocalypse
Now’. The rest is history.

ข้นั ที่ 5 (ขั้นสรุป) Wrap up
1.. นกั เรียนทำแบบฝึกหดั ในหนังสือแบบฝกึ หัด หนา้ 26-27 Unit 3c Exs. 1-4
2. นักเรยี นทำแบบฝึกหดั เสรมิ โดยครูถ่ายเอกสารจาก Teacher’s Resource Pack & Tests 2 หนา้ 31-32
Exs. 6-8 และหน้า 35 Portfolio Activities (ดูคำตอบใน Teacher’s Resource Pack & Tests 2 หน้า
150-151)

9. ส่ือ/แหลง่ การเรียนรู้
1. หนังสือเรยี น Access ม. 2
2. แบบฝึกหัด Access ม. 2
3. CD หนังสอื Teacher’s Resource Pack & Tests ม. 1-2-3

10. การวัดและประเมินผล เคร่ืองมอื เกณฑ์
วิธกี ารวดั เกณฑ์การประเมนิ ชิ้นงาน รอ้ ยละ 50 ผา่ นเกณฑ์
แบบประเมินการฟงั ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ตรวจแบบฝึกหัด แบบประเมินการพดู โตต้ อบ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมินการฟัง แบบประเมินการเขียน ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ การพดู แบบประเมินการอ่านออกเสยี ง ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมินการเขียน แบบประเมินสมรรถนะ ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมินการออกเสียง แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ดา้ นทกั ษะ/สมรรถนะ
คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์

1. การประเมินผลงานเขยี นชีวประวตั ิของบคุ คลที่มีช่ือเสียง

แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ 21

วิชา ภาษาอังกฤษพื้นฐาน รหสั วชิ า อ22101 ช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี 2

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 3 Characters larger than life เวลา 11 ชว่ั โมง

เรอ่ื ง Culture Corner เวลา 2 ชว่ั โมง

ครผู ู้สอน นางสาวเบญจรตั น์ ใจกล้า สอนวันที่ …….. เดอื น………… พ.ศ. ……….

โรงเรียน บ้านแมย่ างห้า สำนักงานเขตพ้ืนท่กี ารศกึ ษาประถมศกึ ษา เชียงใหม่ เขต 2

1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ช้ีวัด
สาระท่ี 1 ภาษาเพ่ือการสอ่ื สาร

มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเรื่องท่ีฟังและอ่านจากส่ือประเภทตา่ งๆ และแสดงความคิดเห็น
อย่างมเี หตุผล

ต 1.1 ม.2/2 อ่านออกเสียงขอ้ ความ ข่าว ประกาศ และบทรอ้ ยกรองสนั้ ๆ ถกู ต้องตามหลักการอา่ น
ต 1.1 ม.2/4 เลือกหวั ข้อเร่ือง ใจความสำคญั บอกรายละเอียดสนับสนุน (supporting detail) และ

แสดงความคิดเหน็ เก่ียวกับเรื่องที่ฟงั และอ่าน พร้อมท้งั ให้เหตุผลและยกตวั อย่างง่ายๆ
ประกอบ

มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการสอ่ื สารทางภาษาในการแลกเปล่ียนข้อมลู ขา่ วสาร แสดงความร้สู กึ และความ
คดิ เห็นอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ

ต 1.2 ม.2/4 พดู และเขยี นเพือ่ ขอและให้ข้อมูล บรรยาย และแสดงความคิดเห็นเก่ียวกับเร่ืองที่ฟังหรอื
อา่ นอยา่ งเหมาะสม

ต 1.2 ม.2/5 พดู และเขียนแสดงความรู้สึกและความคดิ เห็นของตนเองเก่ยี วกับเร่ืองตา่ งๆ กิจกรรม และ
ประสบการณ์ พรอ้ มท้ังให้เหตผุ ลประกอบอยา่ งเหมาะสม

มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอขอ้ มลู ขา่ วสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เหน็ ในเร่ืองต่างๆ โดยการพูด
และการเขียน

ต 1.3 ม.2/1 พดู และเขยี นบรรยายเก่ียวกับตนเอง กิจวตั รประจำวนั ประสบการณ์ และขา่ ว/เหตกุ ารณ์
ท่ีอยใู่ นความสนใจของสงั คม

ต 1.3 ม.2/3 พูดและเขียนแสดงความคิดเหน็ เกย่ี วกับกจิ กรรม เรอ่ื งต่างๆ ใกลต้ ัว และประสบการณ์
พรอ้ มท้ังใหเ้ หตุผลส้ันๆ ประกอบ

มาตรฐาน ต 2.1 เขา้ ใจความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา และนำไปใชไ้ ด้
ต 2.1 ม.2/1 อยา่ งเหมาะสมกับกาลเทศะ
ใช้ภาษา น้ำเสียง และกริ ยิ าท่าทางเหมาะกบั บุคคลและโอกาส ตามมารยาทสงั คมและ
วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา

มาตรฐาน ต 2.2 เขา้ ใจความเหมอื นและความแตกต่างระหวา่ งภาษาและวฒั นธรรมของเจ้าของ
ต 2.2 ม.2/1 ภาษากับภาษาและวัฒนธรรมไทย และนำมาใช้อย่างถกู ต้องและเหมาะสม
เปรียบเทยี บและอธิบายความเหมือนและความแตกตา่ งระหวา่ งการออกเสยี งประโยค
ชนิดตา่ งๆ และการลำดับคำตามโครงสร้างประโยคของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย

มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเชื่อมโยงความรกู้ บั กลุ่มสาระการเรยี นรู้อืน่ และเป็นพนื้ ฐาน
ต 3.1 ม.2/1 ในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปดิ โลกทศั นข์ องตน
ค้นคว้า รวบรวม และสรุปขอ้ มูล/ขอ้ เท็จจรงิ ทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั กลมุ่ สาระการเรียนรูอ้ ื่น จาก
แหลง่ เรียนรู้ และนำเสนอด้วยการพูด/การเขยี น

มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณต์ ่างๆ ท้ังในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
ต 4.1 ม.2/1 ใชภ้ าษาสอื่ สารในสถานการณ์จริง/สถานการณ์จำลองท่ีเกดิ ข้ึนในหอ้ งเรยี น สถานศึกษา

และชมุ ชน
2. สาระสำคญั

ข้อมลู เกีย่ วกบั ตนเอง ได้แก่ ส่งิ ทไี่ ดท้ ำและไมไ่ ด้ทำในอดตี เรอื่ งราวท่อี ยใู่ นความสนใจของสงั คม
ไดแ้ ก่ superhero บุคคลท่มี ชี ื่อเสยี ง ตำนานเร่ืองเล่า ภาพยนตร์ รวมทั้งข้อเท็จจริงทางด้านประวัติศาสตร์ เชน่
อียปิ ต์โบราณ

3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
-การสนทนาแลกเปลย่ี นขอ้ มลู เก่ยี วกบั ตนเอง เรื่องต่างๆ ใกล้ตัว และสถานการณ์ต่างๆ อยา่ งถกู ต้องตาม
กาลเทศะ
-พดู เก่ยี วกับส่งิ ท่ตี นเองได้ทำและไม่ไดท้ ำในอดีต
- ใช้ภาษา นำ้ เสยี ง และกิรยิ าท่าทางสุภาพ เหมาะสมตามมารยาทสงั คมและวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา
- เขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ
- ใช้ภาษาสอ่ื สารในสถานการณจ์ ริง/สถานการณจ์ ำลองทเ่ี กิดขน้ึ ในหอ้ งเรียน
4. สาระการเรยี นรู้

• Vocabulary
Special abilities: spin webs, stretch very far, climb walls, see through walls,
hear very well, burst into flames, have super strength,
disappear, fight very well

• Language Structure
Past simple: affirmative, negative, interrogative and short answers
Used to: affirmative, negative, interrogative
Linking words: so, because, too, also

• Functional Exponents
Describing a film:
- What’s it about?
- Sounds interesting.
- There’s a lot of action and the special effects are great.
- Who stars in it?

• Pronunciation
Intonation in questions:
Yes-No questions: final rising pitch
Wh-questions: final falling pitch

5. ทักษะ/กระบวนการ
- พดู เก่ียวกับสง่ิ ที่ตนเองได้ทำและไมไ่ ดท้ ำในอดีต

6. สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รียน
- ความสามารถในการส่อื สาร
- ความสามารถในการคิด

- การคิดสงั เคราะห์
- ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

7. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
- ใฝ่เรียนรู้
- มุ่งมนั่ ในการทำงาน

8. กจิ กรรมการเรียนรู้
ข้ันที่ 1 (ข้นั นำ) Warm up
1.นำเข้าสู่บทเรยี นโดยใหน้ กั เรยี นอา่ นชือ่ เร่ืองของบทอ่านและดูภาพในหนงั สอื เรยี น หนา้ 37 แลว้

ชว่ ยกนั คดิ ว่านักเรียนจะไดอ้ า่ นเกีย่ วกับอะไร (King Arthur)
2.ครูอธบิ ายให้นักเรียนทราบวา่ ใน Unit 3d นกั เรยี นจะได้อา่ นเรอื่ งที่นา่ สนใจเกีย่ วกบั วฒั นธรรมของ

ประเทศอังกฤษ

ขนั้ ท่ี 2 (ขนั้ นำเสนอ) Presentation

1. ครูตรวจสอบความรู้พ้นื ฐานของนกั เรยี นเกยี่ วกับ King Arthur โดยการถามว่านักเรยี นรู้
อะไรเก่ียวกบั King Arthur บา้ ง แลว้ ใหน้ ักเรยี นอา่ นช่อื ท่กี ำหนดให้ในหนังสือเรียน หนา้ 37 Ex. 1
และลองเดาว่าช่ือเหล่าน้เี กี่ยวขอ้ งกับ King Arthur อย่างไร จากน้ันครเู ปิด CD 1/Track 38 ใหน้ กั เรยี นฟงั และ
อา่ นบทอ่านเพ่ือหาคำตอบ

Suggested Answer Key
King Arthur was the King of England.
Excalibur was the name of his sword.
The Lady of the Lake gave Excalibur to Arthur.
Uther was Arthur’s father.
Merlin was the magician who took Arthur from Uther as a baby.
Camelot is the name of the castle where Arthur lived.
The Knights of the Round Table were Arthur’s knights who helped him rule
over England.

2. ใหน้ ักเรยี นอ่านขอ้ ความในหนังสอื เรียน หนา้ 37 Ex. 2 แลว้ นำช่อื ทีก่ ำหนดให้ใน Ex. 1 ไปแทนท่ี

คำท่พี ิมพ์ตัวหนาในขอ้ ความ จากนั้นรว่ มกันเฉลยคำตอบ

1. The Lady of the Lake 7. Excalibur

2. Excalibur 8. Excalibur

3. Uther 9. Merlin

4. Uther 10. England

5. Merlin 11. Camelot

6. Uther 12. the Knights of the Round Table

ขนั้ ท่ี 3 ( ขัน้ ฝกึ ) Practice
1. นกั เรียนชว่ ยกันอธบิ ายความหมายของคำทีพ่ มิ พต์ ัวหนาในบทอา่ นเรอื่ ง Excalibur ในหนงั สอื เรียน

หน้า 37 โดยเดาความหมายจากบริบทแวดลอ้ ม

Suggested Answer Key
pulled: moved or drew something towards oneself
sword: a weapon with a long-pointed blade and handle
stone: a large rock
power: strength
first born: the oldest child

powerful: physically strong
magician: a man who can use magic
thieves: people who steal something from others
attacked: used violence to hurt a person or damage a place
promised: declared that something will or will not be done
pure heart: morally good
King: a man from a royal family who rules a country
surprised: be shocked by something unexpected
explained: said something that is clear and easy to understand
built: created or constructed a structure
castle: a large and stately residence with high walls and towers for royalty

or nobility
ruled: officially controlled a country and the people who lived there
knights: men of high rank trained to fight
country: an area of land controlled by its own government, president, king,
etc.
จากน้นั ให้นกั เรียนอา่ นคำกริยาทีก่ ำหนดใหใ้ น Ex. 3 และใช้คำกรยิ าเหลา่ นี้เลา่ ตำนานของ King
Arthur ให้เพอ่ื นฟัง

Suggested Answer Key
The Lady of the Lake gave Excalibur to Uther. Uther became powerful and
promised to give his first child to her. Thieves attacked Uther. Before he died he put
Excalibur in a stone. He asked Merlin to make his son a king. Merlin explained that only
someone with a pure heart could pull out the sword. Arthur grew up, pulled the sword
out of the stone and became King of England. He built a big castle and called it
Camelot. He ruled England with the Knights of the Round Table.

ขน้ั ที่ 4 (ขนั้ นำไปใช)้ Production
1. นักเรยี นทำกจิ กรรมในหนังสือเรยี น หน้า 37 Ex. 4 โดยแบง่ กลุ่ม กลมุ่ ละ 3-4 คน ใหแ้ ต่ละกลมุ่

เลือกตำนาน/เร่อื งเล่าของไทยทค่ี ล้ายคลึงกับเรื่อง Excalibur แล้วเขียนเล่าเร่ืองสน้ั ๆ ครใู ห้เวลานกั เรยี นเขยี นใน
ชว่ั โมง หรืออาจให้ทำเปน็ การบา้ น
เนื่องจากในประเทศไทยมีตำนาน/เรอื่ งเลา่ ลกั ษณะเช่นนี้ไม่มาก ครอู าจใหน้ ักเรยี นเขยี นตำนาน/เรื่องเลา่ ท่ีเก่ียวกบั
นักรบหรอื อศั วินซง่ึ ช่วยเหลือผูอ้ ่นื ของประเทศทีน่ ักเรยี นสนใจแทน

Suggested Answer Key
In Medieval England, so the story goes, a man called Robin Hood stole from the
rich to give to the poor. Robin Hood lived in Sherwood Forest in Nottinghamshire with his band
of outlaws called his ‘Merry Men’. He was very skilled with a bow and arrow. The local people
had to pay heavy taxes to the Sheriff of Nottingham. This left them very poor so Robin Hood
stole from the Sheriff and rich travelers to give the money to the poor villagers so they had
enough to eat. Robin Hood and his best friend Little John along with Friar Tuck, Will, Scarlett
and Much had many adventures. They often had lots of fights with the Sheriff’s men. One day
Robin met Maid Marian. They fell in love and got married. She was the cousin of Richard
the Lionheart and he gave Robin a pardon and they lived happily ever after.

ข้นั ท่ี 5 (ข้ันสรปุ ) Wrap up
2.นกั เรียนทำแบบฝกึ หดั ในหนงั สือแบบฝกึ หัด หนา้ 28 Unit 3d Exs. 1-3
3.นักเรยี นทำแบบฝึกหดั ในแบบฝึกไวยากรณ์ Extra Access 2 หน้า 42 Exploring Grammar Units

6-7
4.นักเรียนทำแบบฝึกหดั เสริม โดยครูถา่ ยเอกสารจาก Teacher’s Resource Pack & Tests 2 หน้า

33-34 Pair work Activities (ดคู ำตอบใน Teacher’s Resource Pack & Tests 2 หน้า 150)

9. สื่อ/แหลง่ การเรยี นรู้
1. หนังสือเรียน Access ม. 2
2. แบบฝกึ หัด Access ม. 2
3. CD หนงั สอื Teacher’s Resource Pack & Tests ม. 1-2-3

10. การวัดและประเมนิ ผล เคร่ืองมือ เกณฑ์
วธิ ีการวดั เกณฑก์ ารประเมนิ ช้ินงาน ร้อยละ 50 ผ่านเกณฑ์
แบบประเมนิ การฟงั ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ตรวจแบบฝึกหัด แบบประเมินการพดู โตต้ อบ ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมินการฟัง แบบประเมินการเขียน ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ การพดู แบบประเมินการอ่านออกเสยี ง ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ การเขยี น แบบประเมนิ สมรรถนะ ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมินการออกเสยี ง แบบประเมินคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ด้านทกั ษะ/สมรรถนะ
คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์



แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ 22

วิชา ภาษาองั กฤษพื้นฐาน รหสั วชิ า อ22101 ช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี 2

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 3 Characters larger than life เวลา 11 ชว่ั โมง

เรอ่ื ง Who stars in it? เวลา 2 ชว่ั โมง

ครูผ้สู อน นางสาวเบญจรตั น์ ใจกล้า สอนวันที่ …….. เดอื น………… พ.ศ. ……….

โรงเรียน บา้ นแมย่ างห้า สำนักงานเขตพ้ืนท่กี ารศกึ ษาประถมศกึ ษา เชียงใหม่ เขต 2

1. มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตวั ช้ีวัด
สาระท่ี 1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร

มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตคี วามเรือ่ งท่ีฟังและอ่านจากส่ือประเภทตา่ งๆ และแสดงความคิดเห็น
อยา่ งมเี หตุผล

ต 1.1 ม.2/2 อ่านออกเสียงขอ้ ความ ข่าว ประกาศ และบทรอ้ ยกรองสนั้ ๆ ถกู ต้องตามหลักการอา่ น
ต 1.1 ม.2/4 เลือกหวั ข้อเร่ือง ใจความสำคญั บอกรายละเอียดสนับสนุน (supporting detail) และ

แสดงความคิดเหน็ เกย่ี วกับเรื่องที่ฟงั และอ่าน พร้อมท้งั ให้เหตุผลและยกตวั อย่างง่ายๆ
ประกอบ

มาตรฐาน ต 1.2 มที กั ษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปล่ียนข้อมลู ขา่ วสาร แสดงความร้สู กึ และความ
คดิ เห็นอยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ

ต 1.2 ม.2/4 พูดและเขยี นเพ่ือขอและให้ข้อมูล บรรยาย และแสดงความคิดเหน็ เก่ียวกับเร่ืองที่ฟังหรอื
อา่ นอยา่ งเหมาะสม

ต 1.2 ม.2/5 พูดและเขียนแสดงความรู้สึกและความคดิ เห็นของตนเองเก่ยี วกับเร่ืองตา่ งๆ กิจกรรม และ
ประสบการณ์ พร้อมท้ังให้เหตผุ ลประกอบอยา่ งเหมาะสม

มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอขอ้ มูลขา่ วสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เหน็ ในเร่ืองต่างๆ โดยการพูด
และการเขียน

ต 1.3 ม.2/1 พูดและเขยี นบรรยายเก่ียวกับตนเอง กิจวตั รประจำวนั ประสบการณ์ และขา่ ว/เหตกุ ารณ์
ที่อยใู่ นความสนใจของสงั คม

ต 1.3 ม.2/3 พดู และเขียนแสดงความคิดเหน็ เกย่ี วกับกจิ กรรม เรอ่ื งต่างๆ ใกลต้ ัว และประสบการณ์
พร้อมท้ังใหเ้ หตุผลส้ันๆ ประกอบ

มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสมั พนั ธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา และนำไปใชไ้ ด้
ต 2.1 ม.2/1 อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ
ใชภ้ าษา น้ำเสยี ง และกริ ยิ าท่าทางเหมาะกบั บุคคลและโอกาส ตามมารยาทสงั คมและ
วฒั นธรรมของเจ้าของภาษา

มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมอื นและความแตกต่างระหวา่ งภาษาและวัฒนธรรมของเจา้ ของ
ต 2.2 ม.2/1 ภาษากบั ภาษาและวฒั นธรรมไทย และนำมาใช้อย่างถกู ต้องและเหมาะสม
เปรยี บเทยี บและอธบิ ายความเหมอื นและความแตกต่างระหวา่ งการออกเสียงประโยค
ชนดิ ตา่ งๆ และการลำดับคำตามโครงสรา้ งประโยคของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย

มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเชื่อมโยงความร้กู บั กลมุ่ สาระการเรยี นรอู้ นื่ และเป็นพื้นฐาน
ต 3.1 ม.2/1 ในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปิดโลกทศั นข์ องตน
คน้ คว้า รวบรวม และสรุปขอ้ มูล/ขอ้ เท็จจริงท่ีเก่ียวขอ้ งกบั กลมุ่ สาระการเรยี นร้อู ืน่ จาก
แหล่งเรียนรู้ และนำเสนอดว้ ยการพูด/การเขียน

มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาตา่ งประเทศในสถานการณต์ ่างๆ ทง้ั ในสถานศึกษา ชมุ ชน และสังคม
ต 4.1 ม.2/1 ใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์จรงิ /สถานการณ์จำลองที่เกิดข้ึนในหอ้ งเรยี น สถานศกึ ษา

และชุมชน
2. สาระสำคญั

ข้อมลู เก่ียวกบั ตนเอง ได้แก่ สง่ิ ที่ไดท้ ำและไม่ได้ทำในอดีต เรื่องราวท่อี ยู่ในความสนใจของสังคม
ไดแ้ ก่ superhero บุคคลทมี่ ชี ือ่ เสียง ตำนานเร่ืองเลา่ ภาพยนตร์ รวมทง้ั ข้อเท็จจรงิ ทางดา้ นประวัติศาสตร์ เชน่
อียิปต์โบราณ

3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
-
- ใช้ภาษา นำ้ เสียง และกริ ิยาท่าทางสุภาพ เหมาะสมตามมารยาทสงั คมและวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา
- เข้ารว่ มกจิ กรรมทางภาษาและวัฒนธรรมตามความสนใจ
- ใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณจ์ รงิ /สถานการณ์จำลองที่เกิดขน้ึ ในห้องเรียน
4. สาระการเรียนรู้

• Vocabulary
Special abilities: spin webs, stretch very far, climb walls, see through walls,
hear very well, burst into flames, have super strength,
disappear, fight very well

• Language Structure
Past simple: affirmative, negative, interrogative and short answers
Used to: affirmative, negative, interrogative
Linking words: so, because, too, also

• Functional Exponents
Describing a film:

- What’s it about?
- Sounds interesting.
- There’s a lot of action and the special effects are great.
- Who stars in it?
• Pronunciation
Intonation in questions:
Yes-No questions: final rising pitch
Wh-questions: final falling pitch

5. ทักษะ/กระบวนการ
- การสนทนาชีวประวัติของบคุ คลท่มี ีชอื่ เสียง

6. สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น
- ความสามารถในการส่ือสาร
- ความสามารถในการคิด

- การคิดสงั เคราะห์
- ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

7. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
- ใฝ่เรียนรู้
- มุ่งมนั่ ในการทำงาน

8. กิจกรรมการเรยี นรู้
ขน้ั ท่ี 1 (ขั้นนำ) Warm up
1. นำเขา้ สู่บทเรยี นโดยให้นักเรยี นดูภาพในหนังสือเรยี น หนา้ 38 แลว้ ครูถามนกั เรยี นวา่ รจู้ ักบุคคลใน

ภาพหรอื ไม่ พวกเขาคอื ใคร (Robert De Niro, Michelle Pfeiffer etc.) ทำอาชีพอะไร (actors)
2. ครชู ้แี จงใหน้ กั เรียนทราบวา่ ใน Unit 3e น้ี นกั เรียนจะได้เรียนรเู้ กี่ยวกับภาษาทใ่ี ช้บรรยายภาพยนตร์
การออกเสียงสงู -ต่ำ ในประโยคคำถาม และการฝึกพดู บทสนทนา

ขน้ั ที่ 2 (ขั้นนำเสนอ) Presentation

1.นักเรียนทำกจิ กรรมในหนังสอื เรยี น หนา้ 38 Ex. 1 โดยระดมความคิดช่วยกนั บอกประเภท
ของภาพยนตร์ให้ไดม้ ากที่สุด ภายในเวลา 1 นาที จากนน้ั ครูใหน้ กั เรยี นบอกภาพยนตร์ท่ีชน่ื ชอบ พรอ้ ม
ให้เหตุผลประกอบ

Suggested Answer Key
romance, comedy, thriller, horror, fantasy, drama, animated, documentary, foreign,
war, science-fiction My favourite type of film is comedy because I like to laugh.

ขน้ั ท่ี 3 ( ข้ันฝกึ ) Practice
1. ครเู ปิด CD 1/Track 39 ใหน้ ักเรียนฟงั การออกเสยี งประโยคในหนังสือเรยี น หนา้ 38 Ex. 2 โดยครู

หยดุ CD ทีละประโยค ใหน้ กั เรยี นฝกึ ออกเสียงตามพร้อมกันและทีละคน จากนั้นช่วยกันแปลเป็นภาษาไทย
2. นักเรียนฝกึ ฟงั เพอ่ื หาข้อมูลเฉพาะ ครอู ธิบายเทคนคิ การฟัง (ดคู มู่ ือครู หน้า 28) แลว้ เปิด CD

1/Track 40 ใหน้ กั เรยี นฟงั บทสนทนาในหนงั สอื เรยี น หน้า 38 แล้วตอบคำถามใน Ex. 3 เสรจ็ แล้วครูตรวจ
คำตอบ จากน้ันให้นักเรียนจับค่ฝู กึ อา่ นบทสนทนา โดยครูสงั เกตการทำกจิ กรรมรอบๆ ชน้ั เรียน และตรวจสอบ
การออกเสียงของนักเรียน

1. Stardust 3. She was out of town.
2. A fantasy 4. Yes

3. นกั เรียนศึกษาการออกเสียงสงู -ต่ำในประโยคคำถามจากตาราง Intonation in questions ใน
หนังสือเรียน หนา้ 38 แล้วครเู ปิด CD 1/Track 41 ใหน้ กั เรยี นฟังการออกเสียงประโยคคำถามใน Ex. 5 และฝกึ
ออกเสียงตามพร้อมกนั จากน้นั นกั เรียนชว่ ยกนั สรปุ หลกั การออกเสยี งประโยคคำถามในภาษาองั กฤษ และ
เปรียบเทยี บกบั การออกเสยี งประโยคคำถามในภาษาไทย

ขน้ั ที่ 4 (ข้นั นำไปใช)้ Production
1. ใหน้ ักเรียนจับคู่สนทนาในสถานการณ์สมมติ คอื ไปดูภาพยนตร์ในวันสดุ สัปดาห์ที่แลว้ ให้นกั เรียน

ใช้ประโยคจาก Ex. 2 ในหนงั สอื เรยี น หน้า 38 บรรยายภาพยนตร์ทีน่ กั เรียนไปดมู า โดยครูเขียนโครงสรา้ งบท
สนทนาบนกระดาน และกระตนุ้ ให้นักเรยี นบอกประโยคทคี่ วรใชใ้ นบทสนทนาจากนั้นใหน้ ักเรียนเขียนบสนทนา
ของตนเองลงในสมดุ และฝกึ พดู สนทนากัน โดยครสู ังเกตการทำกจิ กรรมและตรวจสอบการออกเสียงของ
นกั เรยี น

Suggested Answer Key
A: Hi, Ben. How was your weekend?
B: Great! I went to the cinema.
A: What did you see?

B: I saw ‘The Golden Compass’. It was brilliant.
A: What’s it about?
B: It’s a fantasy story about a girl who tries to rescue her best friend from a
secret

lab in the North Pole and makes friends with a talking polar bear.
A: Sounds interesting. Who stars in it?
B: Dakota Blue Richards, Nicole Kidman and Daniel Craig. Don’t miss it.
A: Where’s it showing?
B: At the Odeon until Friday.

ขนั้ ที่ 5 (ข้ันสรุป) Wrap up
1. นักเรยี นทำแบบฝกึ หัดในหนังสอื แบบฝึกหดั หน้า 29 Unit 3e Exs. 1-4

9. ส่ือ/แหลง่ การเรยี นรู้
1. หนังสือเรยี น Access ม. 2
2. แบบฝึกหัด Access ม. 2
3. CD หนงั สอื Teacher’s Resource Pack & Tests ม. 1-2-3

10. การวัดและประเมินผล เคร่ืองมือ เกณฑ์
วิธีการวดั เกณฑก์ ารประเมนิ ชิ้นงาน ร้อยละ 50 ผา่ นเกณฑ์
แบบประเมนิ การฟัง ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ตรวจแบบฝกึ หัด แบบประเมนิ การพูดโตต้ อบ ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมินการฟัง แบบประเมินการเขียน ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ การพดู แบบประเมินการอา่ นออกเสยี ง ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ การเขียน แบบประเมินสมรรถนะ ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมินการออกเสียง แบบประเมินคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ดา้ นทักษะ/สมรรถนะ
คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์

แผนการจัดการเรียนรู้
รายวิชา ภาษาอังกฤษพ้ืนฐาน (อ22101)

หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 4
ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 2

นางสาวเบญจรตั น์ ใจกล้า
ตำแหนง่ ครผู ชู้ ว่ ย

โรงเรยี นบา้ นแม่ยางหา้
สำนกั งานเขตพนื้ ท่กี ารศกึ ษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต ๒
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พื้นฐาน กระทรวงศึกษาธกิ าร

แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี 23

วิชา ภาษาอังกฤษพน้ื ฐาน รหัสวชิ า อ22101 ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 2

หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 4 Unexplained mysteries เวลา 12 ช่ัวโมง

เร่ือง Dreams เวลา 2 ชวั่ โมง

ครูผู้สอน นางสาวเบญจรตั น์ ใจกล้า สอนวนั ท่ี …….. เดอื น………… พ.ศ. ……….

โรงเรียน บา้ นแมย่ างห้า สำนักงานเขตพืน้ ทก่ี ารศึกษาประถมศึกษา เชียงใหม่ เขต 2

1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวช้ีวัด
สาระที่ 1 ภาษาเพอ่ื การสื่อสาร

มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตคี วามเรอ่ื งทฟ่ี ังและอ่านจากส่ือประเภทตา่ งๆ และแสดงความคิดเห็น
อย่างมีเหตผุ ล

ต 1.1 ม.2/2 อา่ นออกเสียงข้อความ ขา่ ว ประกาศ และบทร้อยกรองสนั้ ๆ ถกู ตอ้ งตามหลกั การอา่ น
ต 1.1 ม.2/4 เลอื กหวั ขอ้ เรือ่ ง ใจความสำคญั บอกรายละเอยี ดสนับสนนุ (supporting detail) และ

แสดงความคิดเห็นเกยี่ วกับเร่ืองที่ฟังและอ่าน พรอ้ มทัง้ ใหเ้ หตุผลและยกตัวอยา่ งง่ายๆ
ประกอบ

มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการส่อื สารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมูลขา่ วสาร แสดงความรู้สึกและความ
คิดเห็นอยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ

ต 1.2 ม.2/1 สนทนาแลกเปล่ียนข้อมลู เกยี่ วกับตนเอง เรื่องตา่ งๆ ใกล้ตัว และสถานการณ์ตา่ งๆ ใน
ชวี ติ ประจำวนั อยา่ งเหมาะสม

ต 1.2 ม.2/4 พูดและเขยี นเพอ่ื ขอและใหข้ ้อมูล บรรยาย และแสดงความคิดเหน็ เกีย่ วกับเรื่องท่ฟี ังหรอื
อ่านอย่างเหมาะสม

ต 1.2 ม.2/5 พดู และเขียนแสดงความรู้สกึ และความคดิ เหน็ ของตนเองเกย่ี วกับเรื่องต่างๆ กิจกรรม และ
ประสบการณ์ พรอ้ มทั้งใหเ้ หตุผลประกอบอย่างเหมาะสม

มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอขอ้ มลู ข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเห็นในเร่ืองต่างๆ โดยการพูด
และการเขียน

ต 1.3 ม.2/1 พูดและเขียนบรรยายเก่ียวกบั ตนเอง กิจวัตรประจำวัน ประสบการณ์ และข่าว/เหตุการณ์
ทอี่ ยใู่ นความสนใจของสังคม

ต 1.3 ม.2/2 พูดและเขยี นสรุปใจความสำคญั /แก่นสาระ หวั ขอ้ เรือ่ ง (topic) ท่ีได้จากการวิเคราะห์
เรือ่ ง/ขา่ ว/เหตุการณท์ อ่ี ยใู่ นความสนใจของสงั คม

มาตรฐาน ต 2.1 เขา้ ใจความสมั พนั ธ์ระหวา่ งภาษากบั วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนำไปใช้ได้
อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ

ต 2.1 ม.2/1 ใชภ้ าษา น้ำเสียง และกิริยาทา่ ทางเหมาะกบั บคุ คลและโอกาส ตามมารยาท
สงั คมและ
วัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา

มาตรฐาน ต 2.2 เขา้ ใจความเหมอื นและความแตกต่างระหวา่ งภาษาและวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษากบั
ต 2.2 ม.2/2 ภาษาและวัฒนธรรมไทย และนำมาใช้อยา่ งถูกต้องและเหมาะสม
เปรียบเทียบและอธิบายความเหมือนและความแตกต่างระหวา่ งชีวติ ความเป็นอยูแ่ ละ
วัฒนธรรมของเจ้าของภาษากบั ของไทย

มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาตา่ งประเทศในสถานการณ์ต่างๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชมุ ชน และสังคม
ต 4.1 ม.2/1 ใช้ภาษาสือ่ สารในสถานการณ์จรงิ /สถานการณ์จำลองท่ีเกิดขน้ึ ในหอ้ งเรียน สถานศึกษา

และชมุ ชน

มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาตา่ งประเทศเปน็ เคร่อื งมือพื้นฐานในการศกึ ษาต่อ การประกอบอาชพี
ต 4.2 ม.2/1 และการแลกเปลีย่ นเรยี นร้กู ับสงั คมโลก
ต 4.2 ม.2/2 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการสืบคน้ /คน้ คว้า รวบรวม และสรปุ ความร้/ู ข้อมูลตา่ งๆ
จากสอ่ื และแหลง่ การเรยี นรตู้ ่างๆ ในการศกึ ษาตอ่ และประกอบอาชีพ
เผยแพร/่ ประชาสัมพันธ์ข้อมูล ขา่ วสารของโรงเรยี นเป็นภาษาต่างประเทศ

2. สาระสำคญั
ขอ้ มูลเกย่ี วกับเรอ่ื งต่างๆ ใกลต้ ัว เชน่ ความฝัน ประสบการณ์ และขา่ ว/เหตกุ ารณ์ทีอ่ ยู่ในความสนใจ

ของสงั คม เชน่ เร่ืองเก่ียวกับความเช่ือเรอื่ งโชคลาง รวมถงึ การเปรยี บเทยี บทางวฒั นธรรมกับเจา้ ของภาษาใน
เรื่องความเชอื่ ตา่ งๆ

3. จุดประสงค์การเรยี นรู้
-บรรยายเกยี่ วกบั ความเช่อื เร่อื งล้ลี ับท่ไี ม่สามารถอธิบายได้ โดยใชว้ ิจารณญาณอย่างเหมาะสม
- ใชภ้ าษา น้ำเสียง และกิริยาท่าทางสุภาพ เหมาะสมตามมารยาทสงั คมและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา
- เขา้ ร่วมกจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ
- ใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์จริง/สถานการณ์จำลองที่เกดิ ข้ึนในห้องเรยี น

4. สาระการเรียนรู้

Vocabulary
Emotions: frightened, frustrated, scared, sad, shocked, angry, nervous,

embarrassed, excited, happy, calm, thrilled, peaceful, relaxed, surprised

Animals: butterfly, crocodile, black cat, snake, white rabbit, goldfish,
fish, dragonfly,panda, bear, seal, kangaroo

Parts of animals: long/short neck, scales, fins, long/short tail, wings, paws,
sharp claws sharp teeth, thick fur, flippers, huge/small body, long/short legs,
antennae, big/small eyes/ears/mouth/nose

• Language Structure
Past continuous: affirmative, negative, interrogative and short answers
Time expressions to show sequence of events: first, then, after that, next,

finally

• Functional Exponents
Narrating past experiences:
- I had a strange dream last night.
- What happened next?
- What was it?
- What did you do?
- That sounds scary.

5. ทกั ษะ/กระบวนการ
- เขียนเกี่ยวกับความฝนั ของตนเอง ความเชอื่ เร่อื งโชคลางของไทย และวเิ คราะห์ เขียนสรุปเรอ่ื ง

นิทานปรัมปรา/ตำนานท่เี กยี่ วข้องกับสัตวไ์ ด้

6. สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น
- ความสามารถในการสื่อสาร
- ความสามารถในการคิด

- การคดิ สงั เคราะห์
- ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

7. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
- ใฝ่เรยี นรู้
- มุ่งม่นั ในการทำงาน

8. กิจกรรมการเรยี นรู้

ข้ันที่ 1 (ขน้ั นำ) Warm up
1. นกั เรยี นทำแบบทดสอบก่อนเรียน โดยครูถ่ายเอกสาร Test 4 (Module 4) จาก Teacher’s Resource
Pack & Tests 2 หน้า 109-112 (ดูคำตอบใน Teacher’s Resource Pack & Tests 2 หน้า 163)
2. นำเขา้ ส่บู ทเรยี นด้วยการใหน้ ักเรียนดูชอื่ หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 4 (Unexplained mysteries) ในหนงั สอื เรียน

หนา้ 41 แลว้ ช่วยกนั แสดงความคดิ เหน็ ว่าในหนว่ ยการเรยี นรนู้ ้ีนา่ จะเป็นการเรียนรูเ้ ก่ยี วกับเรื่องใด

Suggested Answer Key
The title refers to strange things that we don’t always understand

such as dreams, ghosts and superstitions.
3. ครูชี้แจงให้นกั เรยี นทราบวา่ หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 4 นักเรียนจะได้เรียนรเู้ ก่ยี วกบั

 emotions
 animals & dreams
 mysteries
 superstitions
 past continuous vs past simple
 stories
 myths
4. สอบถามความรูพ้ ื้นฐาน กระตุ้นและดึงความสนใจของนักเรียน โดยการถามคำถาม เชน่
 How do you feel when you see a black cat?
 Have you ever had a strange dream?
5. นกั เรยี นดภู าพที่ 1-8 ในหนังสอื เรียน หนา้ 41 แลว้ ครใู หน้ ักเรยี นร่วมกนั อภปิ รายและเตรยี มความพร้อมเข้าสู่
หน่วยการเรยี นรู้ ดว้ ยการให้นักเรยี นหาว่าภาพใดบา้ งทม่ี ใี นหนังสือเรียน และอยูท่ ี่หนา้ ใด นักเรยี นเห็น
อะไรบา้ งในหนา้ น้นั

Suggested Answer Key
T: Which of the pictures can you find in the module?
S1: Picture 1 is from page 42.
T: What else can you see on page 42?
S2: A panda, a dragonfly, a bear etc.
Picture 2 (page 42), picture 3 (page 42), picture 4 (page 42), picture 5 (page 47), picture 7 (page
47), picture 8 (page 47)
6. ใหน้ ักเรียนช่วยกันหาวา่ ภาพ a mythical creature, animals และ a captain’s log อยใู่ นหนงั สือเรียน
หนา้ ใด จากนั้นครถู ามคำถามเพ่อื ตรวจสอบความเข้าใจและความรูพ้ น้ื ฐานของนกั เรยี น

 a mythical creature (page 49)
Have you heard this myth before? Are there any mythical creatures like this in our
country? Do you like reading about myths and legends?

 animals (pages 42, 47)
Which of these animals have you seen in real life?
Do you like animals? Do you have a pet?

 a captain’s log (page 44)
What is a captain’s log? Have you read any other captain’s log?
Can you think of any famous ships’ captains?

7. ครูเปิด CD 1/Track 43 ใหน้ กั เรียนฟังคำคุณศพั ทใ์ นหนังสอื เรียน หนา้ 41 หวั ข้อ Vocabulary และฝกึ
ออกเสียงตาม แล้วชว่ ยกันบอกความหมายเปน็ ภาษาไทย จากนัน้ ให้นักเรยี นอ่านประโยคตัวอยา่ ง
Butterflies make me feel calm. แลว้ แตง่ ประโยคแสดงความรู้สึกเกยี่ วกับภาพแต่ละภาพตามตัวอย่าง
โดยใช้คำคุณศัพทเ์ หล่านี้ และครูสมุ่ เรยี กนักเรียนพดู ประโยค

Suggested Answer Key
Crocodiles make me feel frightened.
Black cats make me feel nervous.
Snakes make me feel scared.
White rabbits make me feel peaceful.
Goldfish make me feel relaxed.
Autumn leaves make me feel happy.
Broken mirrors make me feel frustrated.
8. ให้นกั เรียนเลอื กคำคุณศพั ท์ 4 คำ จากหัวขอ้ Vocabulary ในหนงั สือเรียน หน้า 41 และแต่งประโยค
บอกสถานการณ์ที่ทำใหน้ ักเรยี นรู้สึกตามคำคณุ ศัพทท์ ี่นกั เรียนเลือก จากนน้ั ครูสุ่มเรียกนักเรียน
พดู ประโยค

Suggested Answer Key
I feel scared when I see a spider.
I feel excited when I am going on holiday.
I feel relaxed when I am at home.

ขน้ั ที่ 2 (ขนั้ นำเสนอ) Presentation
1. นกั เรียนอ่านชอื่ บท Unit 4a และดภู าพประกอบในหนังสือเรียน หน้า 42 แล้วคดิ ว่าเนื้อหาใน

Unit 4a น่าจะเกยี่ วกับเร่อื งอะไร (dreams & animals)
2. นักเรียนอ่านคำทก่ี ำหนดใหใ้ นหนังสอื เรยี น หนา้ 42 Ex. 1 แลว้ ครอู ธิบายความหมายของคำศพั ท์ที

นักเรยี นไมร่ ู้ และใหน้ ักเรยี นอ่านตัวอยา่ งพร้อมกนั จากนั้นให้นักเรยี นจบั คู่ผลดั กนั ใชค้ ำเหล่าน้บี รรยายลักษณะ
สตั ว์ชนดิ ใดชนดิ หนึง่ จากภาพ ให้คู่ของตนทายว่าเปน็ สตั วช์ นิดใดตามตวั อย่าง แล้วครสู ่มุ เรยี กนักเรยี นหลายๆ คน
บรรยายลักษณะสัตว์ให้เพ่อื นในชน้ั ทาย

Suggested Answer Key
A: It’s got thick fur, sharp claws, a big body, short legs, a short tail, small eyes

and small ears.
B: It’s a panda.
A: It’s got scales and fins.
B: It’s a fish.
A: It’s got wings and antennae.
B: It’s a butterfly
A: It’s got wings and a long body.
B: It’s a dragonfly.
A: It’s got small ears, thick fur, a long tail and paws.
B: It’s a cat.
A: It’s got a long body, a big mouth and scales.
B: It’s a snake.
A: It’s got a huge body, flippers and small ears.
B: It’s a seal.
A: It’s got a long body, a big mouth, short legs and small eyes.
B: It’s a crocodile.
A: It’s got long ears, a small head, a long body, short front legs and long back
legs.
B: It’s a kangaroo.

3. นักเรียนฝกึ อ่านและฟงั เพอื่ หาข้อมูลเฉพาะในหนังสอื เรยี น หน้า 42 Ex. 2 ครูอธบิ ายเทคนิคการอ่าน

และการฟัง (ดูค่มู อื ครู หน้า 22 และหน้า 28) แล้วเปิด CD 1/Track 44 ใหน้ ักเรยี นฟังและอ่าน
บทอ่าน

เรือ่ ง Strange Dreams แลว้ ตอบคำถามวา่ Jack รูส้ ึกอยา่ งไร

Suggested Answer Key
Jack probably felt relaxed at first flying his kite, then scared when he saw
the bear, then very frightened when he fell out of the tree and finally
relieved when he woke
up and realised it was a dream.

จากน้ันนักเรียนอา่ นข้อความในกรอบดา้ นลา่ งของบทอ่าน หัวข้อ Key ครูอธิบายความหมายของคำศัพท์ท่ี
นักเรยี นไม่รู้ แลว้ ให้นักเรยี นตอบคำถามว่าความฝันของ Jack หมายความว่าอย่างไร

Suggested Answer Key
Jack’s dream means that he will be free from trouble.

4. ใหน้ กั เรยี นอา่ นบทอ่านเรื่อง Strange Dreams ในหนงั สือเรยี น หน้า 42 อีกครงั้ แล้วเรยี งลำดบั ประโยค
ใน Ex. 3 ตามลำดบั เหตุการณใ์ นเนอื้ เรอื่ ง จากนั้นครูตรวจคำตอบ

1. c 2. d 3. a 4. b
ครูส่มุ เรยี กนักเรียนเล่าสรุปความฝนั ของ Jack ให้เพ่ือนในชั้นฟัง โดยเล่าใหม้ จี ุดผดิ 2 ที่ แลว้ ให้เพื่อน
ช่วยกนั แก้ไขเนื้อเรอ่ื งให้ถกู ตอ้ ง
5. ใหน้ กั เรยี นชว่ ยกันอธิบายคำศพั ทท์ พ่ี ิมพ์ตัวหนาในบทอา่ นเรอ่ื ง Strange Dreams ในหนงั สอื เรียน
หน้า 42 จากนนั้ เตมิ คำลงในประโยคขอ้ 1-5 ใน Ex. 4 ดว้ ยคำทก่ี ำหนดให้ เสร็จแลว้ ครูตรวจคำตอบ

Suggested Answer Key

warm: slightly hot, in a pleasant way

autumn: the season between summer and winter

picnic: an excursion where you bring food and eat it outdoors, usually

in the countryside

forest: a large area of land covered with trees

relaxing: resting

suddenly: quickly and unexpectedly

bear: a large strong animal with brown fur that lives in forests

looking for food: searching for something to eat

came after: chased

climbed: moved up or down something using arms and/or legs

cracking noise: the sound of breaking something

falling: moving or dropping down from a higher position

below: in a lower place or position

screaming: making a loud, high noise with the voice

woke up: stopped sleeping

1. cracking noise 3. warm 5. came after

2. appeared 4. screaming

ขน้ั ที่ 3 ( ขนั้ ฝึก ) Practice
6.นกั เรียนปดิ หนังสอื เรียน แลว้ ครูเขยี นประโยค I was watching TV at 7 o’ clock yesterday

evening. บนกระดาน และใหน้ ักเรียนชว่ ยกันอธิบายวา่ กรยิ าเกดิ ขนึ้ เม่ือไร (action in progress at a specific
time in the past) จากนั้นครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั สรปุ โครงสรา้ งประโยค past continuous (was/were + v-ing)
และครูอธบิ ายว่าเราจะวาง was/were ไวห้ นา้ ประธานในประโยคคำถาม และวาง not ไวห้ ลงั was/were ใน
ประโยคปฏิเสธ

จากน้นั ให้นักเรยี นเปิดหนังสือเรียน หนา้ 43 ดโู ครงสรา้ งและการใช้ past continuous ในตาราง Ex. 5
แลว้ ชว่ ยกนั สรุปกฎการใช้ past continuous นักเรยี นศกึ ษารายละเอียดเพมิ่ เติมได้จาก Grammar Reference
Section ในหนา้ 124-125 จากนัน้ ใหน้ กั เรยี นเปรยี บเทยี บวา่ มโี ครงสร้างประโยค past continuous ใน
ภาษาไทยหรอื ไม่ แลว้ ครูใหน้ กั เรยี นยกตวั อยา่ งประโยค past continuous จากบทอา่ นในหนา้ 42

Suggested Answer Key
Action happening at a particular time in the past

- I was having a picnic in the forest with my family. I was falling out of the
tree. Actions happening at the same time in the past

- My parents were relaxing while I was flying my kite.

7. นกั เรยี นทำกิจกรรมในหนังสอื เรยี น หน้า 43 Ex. 6 โดยเปลย่ี นคำกรยิ าในวงเล็บใหอ้ ยู่ในรูป past
continuous จากนั้นครูตรวจคำตอบโดยให้นักเรียนอา่ นออกเสยี งทีละประโยค

1. was snowing 5. was taking

2. were wearing 6. was smiling
3. was skating 7. were making
4. were watching 8. were having

8. ครูเปิด CD 1/Track 45 ใหน้ กั เรยี นฟังบทสนทนาเก่ยี วกับครอบครวั Smith แลว้ ตอบคำถามวา่ ครอบครัว
Smith กำลงั ทำอะไรตอน 6 โมงเยน็ เม่ือวานน้ี โดยใช้คำทก่ี ำหนดให้ในหนงั สอื เรยี น หน้า 43 Ex. 7 เขียน
ประโยคในรปู past continuous ตามตัวอย่าง ให้นักเรียนใชเ้ ทคนิคการฟงั เพื่อหาข้อมูลเฉพาะ
(ดูคมู่ ือครู หน้า 28) ครูอาจเปิด CD ซ้ำอกี คร้ังถา้ จำเปน็ แลว้ ตรวจคำตอบ

A: Hi Jane. I called you yesterday afternoon at 6 pm but the line was
busy
and I couldn’t get through. Were you at home?

B: Yes. The whole Smith family was over at my house yesterday
afternoon.
At 6:00 I was eating a sandwich I think. Oh no, I wasn’t I was drinking
tea.

A: What was everyone else doing?
B: Well, my dad usually watches TV in the afternoon but yesterday he

was
listening to the radio. My mum usually reads a magazine but she
was talking on the phone. Jack was playing a computer game. My
grandparents
were reading and my cousins were watching TV.
A: I see. Not a very quiet evening then?
B: No, not really.

2.Mr Smith wasn’t watching TV. He was listening to the radio.
3.Mrs Smith wasn’t reading a magazine. She was talking on the phone.
4.Jack wasn’t surfing the Net. He was playing a computer game.
5.Jane’s grandparents weren’t sleeping. They were reading.
6.Jane’s cousins weren’t doing their homework. They were watching TV.

9. ใหน้ ักเรียนดูภาพในหนังสือเรียน หน้า 43 Ex. 8 แล้วตั้งประโยคคำถาม past continuous ด้วย
คำทกี่ ำหนดให้ พร้อมตอบคำถาม แลว้ ให้นกั เรียนจับคู่ผลดั กันพูดถามและตอบ จากนั้นครูตรวจคำตอบ
โดยสมุ่ เรียกนักเรยี นหลายๆ คู่ พูดถามและตอบอีกครง้ั

2. A: Were they eating?
B: No, they weren’t.

3. A: Were they wearing light clothes?
B: Yes, they were.

4. A: Was the dog sleeping?
B: No, it wasn’t.

5. A: Was the little girl sitting on the grass?
B: No, she wasn’t.

6. A: Were her parents sleeping?
B: No, they weren’t.

ขนั้ ที่ 4 (ขัน้ นำไปใช)้ Production
1. นกั เรียนจบั คู่ฝกึ ถามและตอบคำถาม past continuous โดยใช้วลที ่ีกำหนดให้ในหนงั สอื เรียน

หน้า 43 Ex. 9 ในระหว่างที่นกั เรียนทำกิจกรรมครคู อยสังเกตและให้คำแนะนำ

Suggested Answer Key
2. A: Were you doing your homework yesterday afternoon?

B: Yes, I was.
3. A: Were you sleeping at 10 o’clock last night?

B: No, I wasn’t. I was watching TV.
4. A: Were you having a picnic last Sunday?

B: No, I wasn’t. I was doing my homework.
5. A: Were you playing basketball at 10 o’clock last Saturday?

B: No, I wasn’t. I was reading a book.
6. A: Were you surfing the Net all afternoon yesterday?

B: Yes, I was.
2. นักเรียนทำกจิ กรรมในหนงั สอื เรียน หนา้ 43 Ex. 10 โดยนึกถึงความฝันแปลกๆ ของตนเอง แล้ว
ครูใหเ้ วลานักเรยี น 3 นาที เขยี นเล่าความฝนั ของตนเอง 5 ประโยค ครูย้ำใหน้ กั เรยี นใช้โครงสร้าง past
continuous และให้ครูพิจารณาตามความเหมาะสม หากเหน็ วา่ นักเรียนยังไมส่ ามารถเขียนได้อาจเพม่ิ เวลาหรือ

ให้คำแนะนำเพม่ิ เติม เสร็จแล้วให้นักเรียนจับคู่ผลัดกันเลา่ ความฝันให้คู่ของตนฟงั ครูคอยสงั เกตการทำ
กจิ กรรม แลว้ ส่มุ เรยี กนักเรยี นบางคู่ออกมาเล่าความฝนั ให้เพือ่ นฟังหน้าชน้ั เรียน

Suggested Answer Key
In my dream the sun was shining.
I was walking home from school.
A cat was following me.
The cat was hissing.
I was running away because I was scared.

ขน้ั ท่ี 5 (ขัน้ สรุป) Wrap up
1. นักเรยี นทำแบบฝกึ หัดในหนังสือแบบฝกึ หดั หนา้ 31 Unit 4a Exs. 1-4
2. นักเรยี นทำแบบฝึกหดั ในแบบฝึกไวยากรณ์ Extra Access 2 หน้า 44-46 Unit 8
3. นักเรียนทำแบบฝกึ หัดเสรมิ โดยครถู ่ายเอกสารจาก Teacher’s Resource Pack & Tests 2 หนา้ 37
Exs. 1-5 (ดูคำตอบใน Teacher’s Resource Pack & Tests 2 หนา้ 151)

9. สื่อ/แหลง่ การเรยี นรู้
1. หนงั สอื เรยี น Access ม. 2
2. แบบฝกึ หัด Access ม. 2
3. CD หนังสือ Teacher’s Resource Pack & Tests ม. 1-2-3

10. การวัดและประเมนิ ผล เคร่ืองมือ เกณฑ์
วธิ ีการวัด เกณฑก์ ารประเมนิ ชน้ิ งาน รอ้ ยละ 50 ผ่านเกณฑ์
แบบประเมินการฟัง ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ตรวจแบบฝึกหัด แบบประเมนิ การพดู โต้ตอบ ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมินการฟัง แบบประเมนิ การเขยี น ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมินการพดู แบบประเมินการอ่านออกเสยี ง ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ การเขยี น แบบประเมินสมรรถนะ ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมินการออกเสียง แบบประเมนิ คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ดา้ นทกั ษะ/สมรรถนะ
คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์

1. ประเมินผลการทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี น/หลังเรียนหนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 4

2. ประเมินผลงานเขยี นขอ้ ความส้นั ๆ เก่ียวกับความฝนั ประหลาดของตนเอง

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 24

วิชา ภาษาองั กฤษพน้ื ฐาน รหัสวชิ า อ22101 ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ 2

หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 4 Unexplained mysteries เวลา 12 ชั่วโมง

เรื่อง Mysteries เวลา 2 ชั่วโมง

ครผู ู้สอน นางสาวเบญจรัตน์ ใจกล้า สอนวนั ท่ี …….. เดือน………… พ.ศ. ……….

โรงเรียน บา้ นแมย่ างห้า สำนกั งานเขตพ้นื ท่กี ารศกึ ษาประถมศกึ ษา เชียงใหม่ เขต 2

1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชว้ี ดั
สาระท่ี 1 ภาษาเพอ่ื การส่อื สาร

มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเร่ืองท่ฟี ังและอ่านจากสื่อประเภทตา่ งๆ และแสดงความคิดเหน็
อย่างมเี หตผุ ล

ต 1.1 ม.2/2 อา่ นออกเสียงขอ้ ความ ขา่ ว ประกาศ และบทร้อยกรองส้ันๆ ถูกตอ้ งตามหลักการอ่าน
ต 1.1 ม.2/4 เลือกหวั ข้อเรอ่ื ง ใจความสำคญั บอกรายละเอียดสนับสนนุ (supporting detail) และ

แสดงความคิดเห็นเกย่ี วกบั เร่ืองที่ฟงั และอ่าน พร้อมทัง้ ใหเ้ หตุผลและยกตัวอย่างงา่ ยๆ
ประกอบ

มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการสอ่ื สารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมลู ขา่ วสาร แสดงความรู้สกึ และความ
คิดเห็นอยา่ งมีประสิทธิภาพ

ต 1.2 ม.2/1 สนทนาแลกเปลีย่ นขอ้ มูลเกยี่ วกับตนเอง เรอ่ื งต่างๆ ใกล้ตัว และสถานการณ์ตา่ งๆ ใน
ชวี ติ ประจำวันอยา่ งเหมาะสม

ต 1.2 ม.2/4 พูดและเขียนเพอ่ื ขอและให้ข้อมูล บรรยาย และแสดงความคิดเห็นเกีย่ วกับเรื่องท่ีฟังหรอื
อ่านอยา่ งเหมาะสม

ต 1.2 ม.2/5 พดู และเขียนแสดงความรู้สึกและความคิดเหน็ ของตนเองเกย่ี วกับเรื่องต่างๆ กิจกรรม และ
ประสบการณ์ พรอ้ มท้ังใหเ้ หตุผลประกอบอยา่ งเหมาะสม

มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอข้อมลู ขา่ วสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เห็นในเรื่องต่างๆ โดยการพูด
และการเขียน

ต 1.3 ม.2/1 พูดและเขียนบรรยายเกย่ี วกับตนเอง กจิ วัตรประจำวัน ประสบการณ์ และขา่ ว/เหตกุ ารณ์
ทอี่ ยใู่ นความสนใจของสังคม

ต 1.3 ม.2/2 พูดและเขยี นสรปุ ใจความสำคญั /แกน่ สาระ หวั ขอ้ เรื่อง (topic) ทีไ่ ดจ้ ากการวิเคราะห์
เรือ่ ง/ข่าว/เหตุการณท์ อี่ ยู่ในความสนใจของสังคม

มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธร์ ะหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนำไปใช้ได้
อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ


Click to View FlipBook Version