แผนการจัดการเรียนรู้ ป.6

แผนแกผานรกจาัดรจกัดากราเรรเรยี ยี นนรรู้ ู้

วิชา ภาษาอังวิชกาฤภษาษพาอนื้งั กฐฤาษน

กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ

ชัน้ ปรชะัน้ถปมรศะกึ ถษมาศปึกีทษี่ 5าปที ่ี 6

นางสาตวาแเหบนญ่งจครรัตผู นู้ช่ว์ ยใจกล้า

โรงเรียนบา้ นแมย่ างห้า

สสาานนักักงงาานนเคขณตพะกื้นรทร่กีมากราศรกึกษาราปศรึกะษถามขศัน้ ึกพษืน้ าฐเาชนียกงใรหะทมร่ เวขงตศ2ึกษาธิการ

แผนการจดั การเรียนรู้
รายวิชา ภาษาอังกฤษพื้นฐาน (อ16101)

ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 6

นางสาวเบญจรตั น์ ใจกลา้
ตำแหน่ง ครผู ูช้ ่วย

โรงเรยี นบ้านแม่ยางห้า
สำนกั งานเขตพน้ื ท่กี ารศกึ ษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต ๒
สำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขัน้ พ้นื ฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร

บันทกึ ขอ้ ความ

ส่วนราชการ โรงเรียนบ้านแม่ยางห้า
ท่ี พเิ ศษ
เรื่อง ขออนญุ าตใช้แผนการจดั การเรียนรู้

เรยี น ผูอ้ ำนวยการโรงเรยี นบ้านแมย่ างหา้

เนอ่ื งด้วยข้าพเจ้านางสาวเบญจรัตน์ ใจกลา้ ตำแหน่ง ครผู ชู้ ว่ ย ปฏิบัติหนา้ ท่ีครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้
ภาษาต่างประเทศ มคี วามประสงค์ขออนุญาตใชแ้ ผนการจัดการเรียนรู้ ราย วิชาภาษาอังกฤษพ้ืนฐาน รหัส อ16101
จำนวน 2 หน่วยกติ เวลา 4 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ เวลา 80 ชั่วโมง/ภาคเรียน ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
จำนวนแผนการจดั การเรียนรู้ 40 แผน

จงึ เรยี นมาเพอื่ โปรดพิจารณาอนญุ าตใหใ้ ชป้ ระกอบการเรยี นการสอนตอ่ ไป

ลงชอื่
(นางสาวเบญจรตั น์ ใจกล้า)
ผจู้ ัดทำแผนการจดั การเรียนรู้

ลงช่ือ
(นายหวั หนา้ กลุ่มสาระ)

หวั หนา้ กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ

ความคดิ เหน็ /ข้อเสนอแนะ

ความคิดเหน็ /ข้อเสนอแนะ ลงชอ่ื
(นายเมธี วรรณวงค์)

หัวหนา้ กลุ่มบริหารงานวชิ าการ

อนุญาต
ไม่อนุญาต

ลงชื่อ
(นางสาวนฤสรณ์ ขนั ธะสมี า)

ผ้อู ำนวยการโรงเรียนบา้ นแม่ยางหา้

แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 1

กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ รหสั วชิ า อ16101 ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 6

หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 1 What do you want to be? เวลาเรยี น 13 ช่ัวโมง

เรอ่ื ง Greeting เวลา 1 ช่ัวโมง

ครูผู้สอน นางสาวเบญจรัตน์ ใจกล้า สอนวันท่ี …….. เดอื น………… พ.ศ. ……….

โรงเรยี น บ้านแม่ยางหา้ สำนกั งานเขตพน้ื ทก่ี ารศึกษาประถมศกึ ษา เชียงใหม่ เขต 2

1, มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตัวช้วี ัด

ต 4.1 ป.6/1 ใช้ภาษาสอื่ สารในสถานการณต์ ่างๆ ที่เกดิ ข้ึนในหอ้ งเรียนและสถานศกึ ษา

2. สาระสำคญั
การเรยี นรู้การส่ือสารในช้ันเรียน ทำให้ผู้เรียนสามารถพดู ขอและให้ข้อมูลสว่ นตวั ของตนเองแกผ่ ู้อื่นทราบได้

3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
ด้านความรู้(Knowledge)
1. ให้ขอ้ มูลเกี่ยวกบั การทกั ทายได้
ด้านทกั ษะกระบวนการ (Process)
1. ออกเสยี งการสื่อสารเกีย่ วกับการทกั ทายต่างๆได้
ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ (Attitude)
1. มีวินยั ใฝเ่ รียนรแู้ ละมุ่งมน่ั ในการทำงาน

4. สาระการเรียนรู้
- Greeting
- การใชภ้ าษาในการฟงั และพดู /อ่านในสถานการณ์ทเี่ กดิ ขน้ึ ในหอ้ งเรยี น

5. สมรรถนะที่สำคัญของผู้เรียน
1. มีความสามารถในการส่ือสาร

6. กจิ กรรมการเรียนรู้
1. Warm up
ครทู ักทายและแนะนำตนเองเป็นภาษาองั กฤษ
T:Hi/Hello. I’m (Ms. Supranee.) I’m a teacher.

- ครแู จก Name Tag ซึง่ เขียนดว้ ยอกั ษรตวั ใหญใ่ หก้ บั นกั เรียนทกุ คน โดยชูป้ายชื่อ ครูอา่ นช่อื ผู้ท่ี
ถกู เรยี กให้ยนื ข้นึ และพดู S : Good morning/Good afternoon teacher. และกลา่ วทักทาย Hi กบั
เพื่อนๆ พรอ้ มโบกมอื

2. Presentation
-ครนู ำเสนอบัตรคำ Greeting
-นักเรียนออกเสยี ง แบบ hole class/small group/individual

3. Practice
-ครูเรยี กชือ่ นักเรยี นจาก Name Tag ใหน้ กั เรยี นกล่าวคำทกั ทายครู และเพือ่ นๆ ในชน้ั เรยี น ดำเนนิ การสอนตามวธิ ี

ขา้ งต้นให้นักเรียนทกุ คนไดก้ ล่าวคำทักทายครูและเพ่อื นๆ

4. Production
-นักเรียนเดินสนทนากับเพอื่ นๆภายในห้อง

5. Wrap up
-นักเรียนทำใบงานที่ครเู ตรียมมา เพอื่ เป็นขอ้ มูลในคาบถดั ไป

7. สอื่ การเรยี นรู้ / แหล่งการเรยี นรู้ -ใบงาน -บัตรคำ
-หนงั สือเรยี น

8. การวดั ผลประเมนิ ผล วิธีการวดั ผล เครือ่ งมือวัด เกณฑ์
และประเมินผล การประเมินผล
การวดั และประเมินผล
ดา้ นความรู้ (K) ตรวจจากการทำใบงาน ใบงาน /แบบประเมินชิน้ งาน 60% ข้ึนไป ผ่าน
ให้ขอ้ มูลเก่ียวกบั การทกั ทายได้

ด้านทกั ษะกระบวนการ (P) การสงั เกตการพดู แบบประเมนิ การพูด 60% ขน้ึ ไป ผา่ น
ออกเสยี งการสื่อสารเกย่ี วกับ สนทนาในชัน้ เรยี น

การทักทายตา่ งๆได้

ด้านคุณลกั ษณะ

อันพึงประสงค์ (A)

มวี นิ ัย ใฝเ่ รยี นรู้และมุ่งม่นั ใน การสงั เกตการร่วม แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พึง 60% ขนึ้ ไป ผา่ น
ประสงค์
การทำงาน กิจกรรมในช้นั เรียน



แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 2

กลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาตา่ งประเทศ รหัสวชิ า อ16101 ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 6

หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 What do you want to be? เวลาเรยี น 13 ช่ัวโมง

เรือ่ ง Greeting เวลา 1 ช่ัวโมง

ครูผสู้ อน นางสาวเบญจรตั น์ ใจกลา้ สอนวนั ที่ …….. เดือน………… พ.ศ. ……….

โรงเรยี น บ้านแมย่ างห้า สำนกั งานเขตพ้นื ทก่ี ารศึกษาประถมศกึ ษา เชียงใหม่ เขต 2

1, มาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวชีว้ ัด
ต 4.1 ป.6/1 ใชภ้ าษาสอื่ สารในสถานการณ์ต่างๆ ท่ีเกดิ ขนึ้ ในห้องเรยี นและสถานศึกษา

2. สาระสำคัญ

การเรยี นรู้การส่อื สารในชั้นเรยี น ทำให้ผเู้ รยี นสามารถพดู ขอและใหข้ อ้ มูลสว่ นตัวของตนเองแกผ่ อู้ ่นื ทราบได้

3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
ดา้ นความรู้(Knowledge)
1. ใหข้ ้อมลู เกี่ยวกบั การใหข้ ้อมูลเก่ียวกบั ตนเองได้
ดา้ นทักษะกระบวนการ (Process)
1. ออกเสยี งการสือ่ สารเกีย่ วกบั ขอ้ มูลตนเองต่างๆได้
ดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (Attitude)
1. มวี ินัย ใฝเ่ รยี นรแู้ ละมุ่งม่ันในการทำงาน

4. สาระการเรยี นรู้
- Greeting
- การใชภ้ าษาในการฟงั และพดู /อ่านในสถานการณ์ท่ีเกิดข้ึนในหอ้ งเรยี น

5. สมรรถนะท่ีสำคัญของผเู้ รยี น
1. มีความสามารถในการส่อื สาร

6. กจิ กรรมการเรยี นรู้
1. Warm up
-ครทู ักทายนักเรยี นด้วยเพลง Hello
2. Presentation

-ครนู ำเสนอคำถามในใบงานจากคาบท่ีแลว้
-นักเรยี นออกเสยี ง แบบ hole class/small group/individual

3. Practice
-นกั เรยี นถามตอบ โดยใชค้ ำถามจากใบงาน

4. Production
-นักเรยี นเดนสนทนากบั เพื่อนๆภายในห้อง เพื่อแลกเปลีย่ นขอ้ ฒลู

5. Wrap up
-นักเรียนทำใบงานที่ครเู ตรียมมา เพื่อเป็นขอ้ มูลในคาบถดั ไป

7. สือ่ การเรียนรู้ / แหลง่ การเรยี นรู้
-หนังสือเรียน
-ใบงาน
-บัตรคำ

8. การวดั ผลประเมนิ ผล

การวัดและประเมนิ ผล วธิ ีการวัดผล เครอ่ื งมือวดั เกณฑ์
ดา้ นความรู้ (K) ตรวจจากการทำใบงาน และประเมนิ ผล การประเมินผล

ให้ข้อมลู เกี่ยวกับ ใบงาน 60% ขึน้ ไป ผ่าน
แบบประเมนิ ชน้ิ งาน
การให้ข้อมลู เก่ียวกับตนเอง

ได้

ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (P) แบบประเมนิ การพูด 60% ขนึ้ ไป ผ่าน
. ออกเสยี งการสอ่ื สาร การสงั เกตการพูดสนทนาใน
เกยี่ วกับขอ้ มลู ตนเองต่างๆได้ ช้นั เรยี น

ด้านคุณลกั ษณะ

อันพงึ ประสงค์ (A)

มวี นิ ยั ใฝเ่ รียนรแู้ ละมุ่งมั่นใน การสังเกตการรว่ มกจิ กรรม แบบประเมินคุณลกั ษณะ 60% ขึ้นไป ผา่ น
อันพึงประสงค์
การทำงาน ในชน้ั เรยี น

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 3

กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาตา่ งประเทศ รหสั วิชา อ16101 ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 6

หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 1 What do you want to be? เวลาเรียน 13 ช่ัวโมง

เรือ่ ง Occupation เวลา 1 ช่วั โมง

ครูผู้สอน นางสาวเบญจรตั น์ ใจกล้า สอนวันที่ …….. เดอื น………… พ.ศ. ……….

โรงเรียน บ้านแมย่ างห้า สำนักงานเขตพ้ืนทก่ี ารศกึ ษาประถมศึกษา เชยี งใหม่ เขต 2

1, มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตัวชวี้ ดั
ต 1.1 ป.6/2 อ่านออกเสียงขอ้ ความ นิทาน และบทกลอนส้ันๆ ถูกต้องตามหลกั การอ่าน
ต 3.1 ป.6/1 ค้นควา้ รวบรวมคำศพั ท์ทีเ่ กย่ี วขอ้ งกับกลุ่มสาระการเรยี นรู้อนื่ จากแหลง่ การเรียนรู้และนำเสนอ
ดว้ ยการพดู /การเขียน

2. สาระสำคญั

การเรียนรูค้ ำศัพทบ์ อกลกั ษณะ ทำให้ผ้เู รยี นสามารถพดู ขอและใหข้ อ้ มูลส่วนตวั ของตนเองแก่ผู้อืน่ ทราบได้

3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
ดา้ นความรู้(Knowledge)
1. ให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั คำศัพท์อาชพี ได้
ดา้ นทักษะกระบวนการ (Process)
1. ออกเสยี งการอาชีพตา่ งๆได้
ด้านคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ (Attitude)
1. มวี นิ ยั ใฝ่เรียนรู้และมุง่ มน่ั ในการทำงาน

4. สาระการเรียนรู้

- กลุ่มคำ ประโยคเดีย่ ว และความหมายเกี่ยวกบั การบอกลักษณะ

- การออกเสยี งเน้นหนัก-เบาในคำ

- ประโยค สนทนา และเนอ้ื เรื่องสนั้ ๆ ท่มี ีภาพประกอบ

- คำศพั ท์ สำนวน ประโยคขอและให้ข้อมูลเกี่ยวกบั ตนเอง เพ่ือน และครอบครวั เช่น

Is he/she (คำคุณศพั ท)์ ? Yes, he/she is. / No, he/she isn’t.

What’s he/she like? He/She’s (คำคุณศพั ท์).

- การใชภ้ าษาในการฟงั และพดู /อ่านในสถานการณ์ท่เี กิดขน้ึ ในห้องเรียน

5. สมรรถนะท่สี ำคัญของผ้เู รียน
1. มีความสามารถในการสอ่ื สาร

6. กิจกรรมการเรยี นรู้
1. Warm up
-ครูและนกั เรยี นทกั ทายกัน จากนั้นครูถามคำถามนกั เรยี นเพมิ่ เติม ดังน้ี
ครชู ท้ี ี่ตนเอง แลว้ พดู : I am a teacher.
ครูชีน้ กั เรยี น แลว้ พูด : You are students.

2. Presentation
-ครถู ามว่า: When you grow up, what do you want to be?
แล้วครสู ุม่ เรียกนักเรียน 3 คน พูดตอบ เชน่
}Dang: I want to be a doctor.
Joy : I want to be a pilot.
Nan : Nurse.
Teacher: Well done.
-ครูนำเสนอบัตรคำอาชีพ

3. Practice
-นักเรยี นดภู าพเด็กชาย 2 คน กำลงั สนทนากนั เกีย่ วกบั อาชีพทต่ี นสนใจWhat can you see? ครูถามนักเรียนว่าเหน็

อะไรบ้าง
Teacher : What can you see in this picture?
Students :Playground, girl, women, boys, dog. etc.
Teacher: Very good.
-นกั เรียนฝกึ สนทนา What can you see in this picture? จากบัตรคำอาชพี ทคี่ รูเตรยี มมา

4. Production
-นักเรียนเลือกถามตอบ 3-5 คน โดยใช้คำถาม What do you want to be?

5. Wrap up
-นกั เรยี นทำใบงานที่ครเู ตรยี มมา พรอ้ มเฉลย

7. สอื่ การเรียนรู้ / แหลง่ การเรียนรู้

-หนงั สือเรยี น
-ใบงาน
-บัตรคำ

8. การวดั ผลประเมนิ ผล

การวดั และประเมนิ ผล วธิ กี ารวดั ผล เคร่อื งมอื วัด เกณฑ์
และประเมนิ ผล การประเมนิ ผล

ด้านความรู้ (K)

ให้ข้อมูลเก่ียวกบั คำศพั ท์ ตรวจจากการทำใบงาน ใบงาน 60% ข้นึ ไป ผ่าน
แบบประเมนิ ชิ้นงาน
อาชพี ได้

ดา้ นทักษะกระบวนการ (P)

ออกเสยี งการอาชพี ตา่ งๆได้ การสงั เกตการพดู สนทนาใน แบบประเมนิ การพดู 60% ขึน้ ไป ผา่ น

ช้นั เรยี น

ด้านคณุ ลกั ษณะ

อันพงึ ประสงค์ (A)

มวี ินยั ใฝเ่ รียนรู้และมงุ่ ม่ันใน การสงั เกตการร่วมกจิ กรรม แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะ 60% ขึน้ ไป ผ่าน
อนั พึงประสงค์
การทำงาน ในชน้ั เรียน

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 4

กลุม่ สาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ รหัสวชิ า อ16101 ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 6

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 What do you want to be? เวลาเรยี น 13 ชั่วโมง

เรือ่ ง Adjective เวลา 1 ชว่ั โมง

ครผู สู้ อน นางสาวเบญจรตั น์ ใจกล้า สอนวนั ที่ …….. เดอื น………… พ.ศ. ……….

โรงเรียน บา้ นแมย่ างหา้ สำนักงานเขตพืน้ ทก่ี ารศกึ ษาประถมศึกษา เชียงใหม่ เขต 2

1, มาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวช้วี ดั
ต 1.1 ป.6/2 อ่านออกเสียงข้อความ นิทาน และบทกลอนสั้นๆ ถูกตอ้ งตามหลกั การอา่ น
ต 3.1 ป.6/1 ค้นควา้ รวบรวมคำศพั ท์ทเ่ี กย่ี วขอ้ งกับกล่มุ สาระการเรียนร้อู นื่ จากแหลง่ การเรยี นรู้และนำเสนอ
ด้วยการพดู /การเขียน

2. สาระสำคญั

การเรยี นรูค้ ำศพั ท์บอกลกั ษณะ ทำให้ผู้เรียนสามารถพูดขอและให้ข้อมูลส่วนตวั ของตนเองแก่ผอู้ ืน่ ทราบได้

3. จุดประสงค์การเรียนรู้
ดา้ นความรู้(Knowledge)
1. ให้ข้อมลู เกีย่ วกับคำศัพท์บอกลักษณะได้
ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (Process)
1. ออกเสยี งการบอกลกั ษณะต่างๆได้
ดา้ นคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ (Attitude)
1. มีวินัย ใฝเ่ รียนรู้และมงุ่ ม่ันในการทำงาน

4. สาระการเรยี นรู้

- คำศพั ท์ สำนวน ประโยคขอและให้ขอ้ มูลเกีย่ วกับตนเอง เพือ่ น และครอบครวั เชน่

Is he/she (คำคุณศัพท์)? Yes, he/she is. / No, he/she isn’t.

What’s he/she like? He/She’s (คำคณุ ศัพท์).

- การใชภ้ าษาในการฟงั และพดู /อ่านในสถานการณ์ท่ีเกดิ ขน้ึ ในหอ้ งเรียน

5. สมรรถนะท่ีสำคญั ของผูเ้ รียน
1. มคี วามสามารถในการสอื่ สาร

6. กิจกรรมการเรยี นรู้
1. Warm up
-ครูทักทายนักเรียน
-นักเรียนดูรปู ภาพในหนงั สอื เรียน Listen and complete. และครูถามนักเรยี นวา่ มใี คร
อยู่ในภาพบา้ ง
Teacher: Look! How many persons are there in the picture?
Students: There are five.
Teacher: Who are they?
Students: David, Pat, Kate, Polly and John.
Teacher: Excellent!
-ครใู หน้ กั เรียนเดาและทายบคุ ลกิ ลกั ษณะของตัวละครแตล่ ะตัวตามภาพที่ปรากฏในหนงั สือเรียน

2. Presentation
-ครูนำเสนอประโยค
1. David likes helping his friends and other people. He’s kind.
2. Pat likes meeting and talking to people. She’s friendly.
3. Kate always tells her friends to clean the room. She’s bossy.
4. Polly loves meeting people and doing new things. She’s confident.
5. John doesn’t like meeting people. He’s shy.
-นกั เรยี นฝึกอ่านประโยค พร้อมแปลความหมายแบบ hole class/small group/individual

3. Practice
-ครูใหเ้ ล่นเกม Brainstorm โดยแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4-5 คน เพ่ือชว่ ยกันระดมสมอง หาบุคลิกลกั ษณะนสิ ัย

อ่นื ๆ นอกเหนอื จากทีไ่ ดเ้ รยี นมาแลว้ นกั เรียนสามารถหาคำศพั ท์ใหมๆ่ ไดจ้ ากพจนานุกรม หรือคอมพิวเตอร์ ครู
คอยเดนิ ตรวจรอบๆ หอ้ ง เพ่อื ใหน้ ักเรียนทุกคนมีส่วนร่วมในกิจกรรมน้ีนกั เรียนรวบรวมคำศพั ท์ทคี่ ดั เลอื กแลว้ เขียน
บนกระดาน โดยจำแนกตามบุคลกิ นิสยั ด้านบวก และลบ นักเรยี นตา่ งคดั ลอกลงในสมดุ ของตน ดังนี้

ลกั ษณะนสิ ยั ดา้ นบวก ลกั ษณะนสิ ยั ดา้ นลบ

active กระฉบั กระเฉง clumsy ชา้ งมุ่ งา่ ม
brave กลา้ หาญ weak อ่อนแอ
cheerful ร่าเริง boring นา่ เบ่ือ
funny ตลก serious เอาจริงเอาจงั
helpful ใหค้ วามช่วยเหลอื selfish เหน็ แก่ตัว
honest ซอ่ื สัตย์ cunning ขี้โกง, เจา้ เล่ห์
hard-working ขยันทำงาน lazy ขเ้ี กียจ

4. Production
-นกั เรียนจดศัพทล์ งในสมุด
5. Wrap up
-นักเรียนทำใบงานทค่ี รูเตรียมมา พรอ้ มเฉลย
7. สอื่ การเรยี นรู้ / แหล่งการเรยี นรู้
-หนงั สือเรยี น
-ใบงาน

8. การวัดผลประเมนิ ผล

การวัดและประเมนิ ผล วิธกี ารวัดผล เคร่อื งมือวดั เกณฑ์
และประเมินผล การประเมนิ ผล

ด้านความรู้ (K) ตรวจจากการทำใบงาน ใบงาน 60% ขึ้นไป ผ่าน
ให้ขอ้ มลู เกีย่ วกับคำศัพท์ แบบประเมินชิ้นงาน
บอกลกั ษณะได้

ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (P) การสังเกตการพูดสนทนาใน แบบประเมินการพดู 60% ข้นึ ไป ผา่ น
ออกเสียงการบอกลกั ษณะ ช้ันเรยี น

ตา่ งๆได้

ด้านคณุ ลักษณะ

อันพงึ ประสงค์ (A)

มวี นิ ัย ใฝ่เรียนรูแ้ ละมงุ่ มนั่ ใน การสงั เกตการร่วมกิจกรรม แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะ 60% ข้ึนไป ผ่าน
อันพงึ ประสงค์
การทำงาน ในชนั้ เรยี น



แผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ี 5

กลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาต่างประเทศ รหัสวิชา อ16101 ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 6

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 What do you want to be? เวลาเรยี น 13 ช่ัวโมง

เรอ่ื ง Adjective เวลา 2 ชว่ั โมง

ครูผู้สอน นางสาวเบญจรตั น์ ใจกลา้ สอนวันที่ …….. เดือน………… พ.ศ. ……….

โรงเรยี น บ้านแมย่ างหา้ สำนักงานเขตพนื้ ทกี่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษา เชยี งใหม่ เขต 2

1, มาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวชีว้ ัด
ต 1.2 ป.6/1 พดู /เขียนโต้ตอบในการส่อื สารระหวา่ งบุคคล

ป.6/2 ใชค้ ำสัง่ คำขอร้อง และให้คำแนะนำ
ป.6/4. พดู และเขยี นเพอื่ ขอและใหข้ ้อมูลเก่ียวกับตนเอง เพ่ือน ครอบครวั และเรอ่ื งใกลต้ ัว
ต 3.1 ป.6/1 ค้นคว้า รวบรวมคำศัพทท์ ่เี กยี่ วขอ้ งกบั กลมุ่ สาระการเรียนรู้อน่ื จากแหล่งการเรียนรู้และนำเสนอ
ดว้ ยการพูด/การเขียน

2. สาระสำคัญ
การเรยี นรู้คำศัพทบ์ อกลกั ษณะ ทำใหผ้ เู้ รยี นสามารถพูดขอและให้ขอ้ มูลส่วนตวั ของตนเองแกผ่ ู้อ่นื ทราบได้

3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
ดา้ นความรู้(Knowledge)
1. ใหข้ อ้ มลู เก่ยี วกับคำศัพท์บอกลกั ษณะได้
ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (Process)
1. ออกเสียงการบอกลักษณะต่างๆได้
ดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (Attitude)
1. มวี นิ ัย ใฝเ่ รยี นร้แู ละมุ่งมัน่ ในการทำงาน

4. สาระการเรียนรู้

- คำศัพท์ สำนวน ประโยคขอและให้ข้อมลู เกย่ี วกบั ตนเอง เพื่อน และครอบครัว เชน่

Is he/she (คำคุณศพั ท์)? Yes, he/she is. / No, he/she isn’t.

What’s he/she like? He/She’s (คำคุณศัพท์).

- การใช้ภาษาในการฟังและพดู /อา่ นในสถานการณ์ที่เกดิ ขนึ้ ในห้องเรยี น

5. สมรรถนะที่สำคัญของผ้เู รยี น
1. มีความสามารถในการสื่อสาร

6. กจิ กรรมการเรียนรู้
1.Warm up

-ครูและนักเรยี นทกั ทายกัน จากนั้นใหน้ ักเรยี นทบทวนคำศัพท์ทไี่ ด้เรยี นมาในครงั้ ที่แล้ว ซึ่งได้แกค่ ำวา่
bossy, friendly, confident, kind, shy, good atครูสุ่มเรียกนักเรยี นประมาณ 7-8 คน ให้ยืนขน้ึ พดู ประโยค
ลกั ษณะของตนทีละคน เชน่

Suda: I am good at English.
Pat: I am shy.
Mang: I am polite.
Wasu: I am smart.

2. Presentation

-ครูนำเสนอประโยค นักเรียนจับคูก่ ับเพอ่ื นที่นง่ั ทางซ้ายเพ่ือฝึกพูดบทสนทนาถาม-ตอบ โดยช้ีที

ละภาพ แล้วผลัดกันตั้งคำถามและตอบจนคล่อง โดยเน้นโครงสร้างประโยคคำถามและคำตอบ ดังน้ี

ครเู ขยี นบนกระดาน What’s he/she like?

He/She’s adj .

ครูอธิบายการใช้ Wh-Question (Question Words) ใหน้ กั เรยี นฟัง ดงั น้ี

1) คำถามที่ขึ้นต้นด้วย Verb เชน่

Do you like English? Yes, I do.

Is she confident? No, she isn’t.

Can you swim? Yes, I can.

Did they go to London? No, they didn’t.etc.

2) คำถามท่ีขนึ้ ตน้ ดว้ ย Question Words ได้แก่คำต่อไปนี้

เช่น - Who’s that? She’s Ladda.

- What is she? She’s a student.

- How old is she? She’s twelve years old.

- Where does she live? She lives in Chiang-mai.

- How many sisters does she have? She has three sisters.

3. Practice
-จากนั้นให้นกั เรียนจับคู่กับเพอื่ นฝึกพูดบทสนทนาถาม-ตอบ และแลกเปลย่ี นข้อมูลซงึ่ กนั และกัน แล้วครสู ุ่ม

เรยี กนกั เรียน ให้ออกมาสนทนาหนา้ ช้นั เรยี น

ชว่ั โมงท่ี 2

4. Production
-ครใู หน้ ักเรยี นเขยี น e-mail ถงึ Linda โดยใช้ข้อมลู จรงิ ของแตล่ ะคน ซ่ึงนักเรียนสามารถใชร้ ูปแบบใน

หนังสือเรยี นในการเขียนอีเมล และครูใหน้ กั เรียนทำเป็นการบ้าน

5. Wrap up
-นกั เรียนนำเสนองานหนา้ ช้นั เรยี น ถงึ จดหมายที่เขยี นในอีเมล

7. สื่อการเรยี นรู้ / แหล่งการเรยี นรู้
-หนังสือเรยี น
-ช้นิ งานการเขียน e mail

8. การวัดผลประเมนิ ผล

การวดั และประเมนิ ผล วธิ กี ารวัดผล เครื่องมือวัด เกณฑ์
ดา้ นความรู้ (K) ตรวจจากการทำใบงาน และประเมินผล การประเมินผล
ให้ขอ้ มลู เกยี่ วกบั คำศัพท์
บอกลักษณะได้ การสงั เกตการพดู สนทนาใน ใบงาน 60% ขน้ึ ไป ผ่าน
ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (P) ชน้ั เรียน แบบประเมินชิ้นงาน
ออกเสียงการบอกลักษณะ
แบบประเมนิ การพูด 60% ขน้ึ ไป ผ่าน
ตา่ งๆได้

ดา้ นคณุ ลกั ษณะ

อันพึงประสงค์ (A)

มวี นิ ยั ใฝ่เรียนร้แู ละม่งุ ม่นั ใน การสงั เกตการรว่ มกิจกรรม แบบประเมินคณุ ลกั ษณะ 60% ขน้ึ ไป ผ่าน
อันพงึ ประสงค์
การทำงาน ในชน้ั เรียน

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 6

กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ รหัสวชิ า อ16101 ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 6

หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 1 What do you want to be? เวลาเรียน 13 ช่ัวโมง

เรอ่ื ง Occupation เวลา 2 ชวั่ โมง

ครผู สู้ อน นางสาวเบญจรตั น์ ใจกลา้ สอนวันท่ี …….. เดือน………… พ.ศ. ……….

โรงเรยี น บา้ นแมย่ างห้า สำนักงานเขตพ้ืนทีก่ ารศึกษาประถมศึกษา เชียงใหม่ เขต 2

1, มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตัวช้วี ัด
ต 1.3 ป.6/1 พูด/เขียนใหข้ ้อมูลเก่ยี วกบั ตนเอง เพ่อื น และสิ่งแวดลอ้ มใกล้ตัว

ป.6/3 พดู /เขยี นแสดงความคิดเหน็ เก่ียวกบั เร่ืองตา่ งๆ ใกลต้ ัว
ต 4.1 ป.6/1 ใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์ต่างๆ ทเี่ กดิ ขนึ้ ในหอ้ งเรียนและสถานศกึ ษา

2. สาระสำคัญ
การเรยี นรูค้ ำศัพท์บอกอาชพี ต่างๆ ทำใหผ้ ูเ้ รยี นสามารถพูดขอและให้ขอ้ มลู ส่วนตัวของตนเองใหผ้ ู้อ่นื ทราบได้

3. จุดประสงค์การเรยี นรู้
ดา้ นความรู้(Knowledge)
1. ให้ข้อมูลเกีย่ วกบั คำศพั ทอ์ าชีพได้
ด้านทักษะกระบวนการ (Process)
1. ออกเสียงการบอกอาชพี ได้
ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (Attitude)
1. มีวินยั ใฝเ่ รียนร้แู ละมุ่งม่นั ในการทำงาน

4. สาระการเรียนรู้

- กลมุ่ คำ ประโยค และความหมายเก่ยี วกบั คำศัพท์บอกอาชีพ

- ประโยค บทสนทนา และเนือ้ เร่อื งส้นั ๆ ท่ีมภี าพประกอบ

- คำศัพท์ สำนวน และประโยคขอและใหข้ ้อมลู เก่ยี วกบั ตนเอง เพอ่ื น และครอบครัว เชน่

Are you good at (ชอ่ื วชิ า) ? Yes, I am./No, I am not.

What do you want to be? I want to be a (ชื่ออาชีพ) .

5. สมรรถนะที่สำคญั ของผเู้ รียน
1. มีความสามารถในการสือ่ สาร

6. กจิ กรรมการเรียนรู้

1. Warm up

-ครูและนกั เรียนทักทายกันครนู ำเขา้ ส่บู ทเรยี นโดยการนำอปุ กรณต์ ่างๆ ที่ใช้ในการประกอบอาชพี มาแสดงหนา้ ชน้ั

เรยี นและถามนักเรยี นว่า อปุ กรณ์แตล่ ะชนิดใช้สำหรบั อาชีพอะไร

เช่น ครชู ูเข็มฉดี ยา แลว้ ถาม “What’s this for?”

นักเรยี นตอบ “Doctor” หรือ “Nurse”

ครูชปู ีนฉดี นำ้ แล้วถามอยา่ งเดมิ นกั เรยี นตอบ “Police”

ครูชพู ่กู ันวาดภาพ แล้วถามอยา่ งเดิม นกั เรยี นตอบ “Artist”

ครูชชู อล์ก แลว้ ถามอย่างเดมิ นกั เรยี นตอบ “Teacher”

ครชู ูกีตาร์ตัวเลก็ แลว้ ถามอย่างเดมิ นกั เรยี นตอบ “Musician”

2. Presentation
- ครูชท้ี ลี ะภาพ แลว้ ถามนกั เรียนวา่
Teacher: What is he? (ชไี้ ปเรอื่ ยๆ)

Students: Actor, artist, writer, nurse, computer programmer, photographer and

musician.

Teacher: Very good!

3. Practice
-จากนัน้ ใหน้ ักเรียนจบั ค่กู บั เพอ่ื นฝึกพูดบทสนทนาถาม-ตอบ และแลกเปล่ยี นขอ้ มลู ซ่ึงกันและกัน แล้วครูส่มุ เรียก
นักเรยี น ให้ออกมาสนทนาหน้าช้นั เรยี น โดยใช้คำถาม What do you want to be?

4. Production
-ครูใหน้ กั เรียนทำใบงาน กจิ กรรม Classroom survey

ช่วั โมงท่ี 2

5. Wrap up
-นักเรยี นนำเสนองานหนา้ ชั้นเรียน จากกจิ กรรม Classroom survey พร้อมติดแสดงผลงาน

7. สือ่ การเรยี นรู้ / แหล่งการเรยี นรู้
-หนังสือเรียน
-ใบงาน

8. การวัดผลประเมนิ ผล

การวดั และประเมนิ ผล วิธกี ารวัดผล เครื่องมือวดั เกณฑ์
และประเมินผล การประเมนิ ผล

ดา้ นความรู้ (K) ตรวจจากการทำใบงาน ใบงาน 60% ข้นึ ไป ผา่ น
ใหข้ ้อมูลเกี่ยวกบั คำศพั ท์ แบบประเมนิ ชนิ้ งาน
อาชพี ได้

ด้านทักษะกระบวนการ (P) การสงั เกตการพดู สนทนาใน แบบประเมินการพดู 60% ขน้ึ ไป ผ่าน
ออกเสยี งการบอกอาชีพ ชัน้ เรยี น

ต่างๆได้

ดา้ นคุณลกั ษณะ

อนั พงึ ประสงค์ (A)

มีวินยั ใฝ่เรียนร้แู ละมุง่ มน่ั ใน การสงั เกตการร่วมกจิ กรรม แบบประเมินคณุ ลกั ษณะ 60% ขนึ้ ไป ผ่าน
อันพึงประสงค์
การทำงาน ในชน้ั เรยี น

ครูผ้สู อน นางสาวเบญจรตั น์ ใจกลา้ สอนวันที่ …….. เดือน………… พ.ศ. ……….
โรงเรยี น บา้ นแมย่ างหา้ สำนกั งานเขตพื้นท่กี ารศึกษาประถมศกึ ษา เชยี งใหม่ เขต 2

1, มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตัวชวี้ ัด
ต 1.3 ป.6/1 พูด/เขยี นให้ข้อมลู เกีย่ วกบั ตนเอง เพ่ือน และสิง่ แวดล้อมใกล้ตัว

ป.6/3 พูด/เขยี นแสดงความคิดเห็นเกีย่ วกับเรอื่ งต่างๆ ใกลต้ ัว
ต 4.1 ป.6/1 ใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณต์ า่ งๆ ทเี่ กดิ ขนึ้ ในห้องเรียนและสถานศึกษา

2. สาระสำคญั
การเรยี นรู้คำศัพท์บอกอาชพี ต่างๆ ทำให้ผูเ้ รียนสามารถพดู ขอและให้ขอ้ มลู สว่ นตัวของตนเองใหผ้ ้อู ืน่ ทราบได้

3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
ด้านความรู้(Knowledge)
1. ใหข้ ้อมูลเกีย่ วกับคำศพั ท์อาชพี ได้
ด้านทักษะกระบวนการ (Process)
1. ออกเสยี งการบอกอาชีพได้
ด้านคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ (Attitude)
1. มีวนิ ยั ใฝ่เรียนรแู้ ละมงุ่ มน่ั ในการทำงาน

4. สาระการเรยี นรู้
- กลุม่ คำ ประโยค และความหมายเก่ยี วกับคำศัพท์บอกอาชีพ
- ประโยค บทสนทนา และเนอื้ เรือ่ งสน้ั ๆ ท่ีมีภาพประกอบ
- คำศพั ท์ สำนวน และประโยคขอและให้ข้อมลู เก่ยี วกบั ตนเอง เพอ่ื น และครอบครัว เชน่ Who am I?

5. สมรรถนะทสี่ ำคัญของผู้เรยี น
1. มคี วามสามารถในการสื่อสาร

6. กจิ กรรมการเรยี นรู้
1.Warm up

- ครทู บทวนคำศพั ท์ จากคาบทแี่ ล้ว

2. Presentation
- ครูชี้ทีละภาพ ครูช้ีภาพอุปกรณ์การทำงานทั้ง 4 ภาพ ทีละภาพ แล้วถามนักเรยี นว่า ใชป้ ระกอบ

อาชพี อะไร เช่น

Teacher: What’s this?
Students: It’s a camera.
Teacher: What is it for?
Students: It’s for a photographer.

3. Practice
- จากนั้นให้นกั เรียนจับคกู่ ับเพื่อนฝกึ พดู บทสนทนาถาม-ตอบ และแลกเปล่ียนข้อมูลซึง่ กันและกันแล้วครูสุม่
เรยี กนกั เรียน ใหอ้ อกมาสนทนาหน้าชน้ั เรยี น โดยใช้คำถาม Who am I ?

4. Production
-ครใู หน้ กั เรียนทำใบงาน Who am I?

5. Wrap up
-นักเรียนร่วมกนั เฉลยใบงาน

7. ส่ือการเรียนรู้ / แหล่งการเรยี นรู้
-หนังสอื เรียน
-ใบงาน

8. การวดั ผลประเมินผล วิธีการวัดผล เครอ่ื งมอื วัด เกณฑ์
และประเมนิ ผล การประเมินผล
การวดั และประเมนิ ผล
ดา้ นความรู้ (K) ตรวจจากการทำใบงาน ใบงาน /แบบประเมินชิ้นงาน 60% ขึน้ ไป ผ่าน
ให้ข้อมลู เกีย่ วกบั คำศพั ท์อาชีพได้
ด้านทกั ษะกระบวนการ (P) การสังเกตการพดู แบบประเมินการพดู 60% ขึน้ ไป ผา่ น
ออกเสียงการบอกอาชีพตา่ งๆได้ สนทนาในช้ันเรียน

ดา้ นคณุ ลกั ษณะ การสงั เกตการรว่ ม แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอัน 60% ขึ้นไป ผ่าน
อนั พึงประสงค์ (A) กจิ กรรมในชั้นเรียน พงึ ประสงค์
มีวนิ ัย ใฝ่เรยี นรแู้ ละมงุ่ ม่ันในการ
ทำงาน



แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 8

กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ รหสั วิชา อ16101 ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 6

หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 1 What do you want to be? เวลาเรียน 13 ชั่วโมง

เรอ่ื ง Occupation เวลา 1 ชัว่ โมง

ครผู ู้สอน นางสาวเบญจรัตน์ ใจกลา้ สอนวนั ที่ …….. เดอื น………… พ.ศ. ……….

โรงเรยี น บา้ นแมย่ างหา้ สำนกั งานเขตพ้ืนทก่ี ารศกึ ษาประถมศึกษา เชียงใหม่ เขต 2

1, มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตัวชวี้ ดั
ต 1.1 ป.6/2 อ่านออกเสยี งข้อความ นทิ าน และบทกลอนสนั้ ๆ ถูกตอ้ งตามหลกั การอา่ น

ป.6/4 บอกใจความสำคญั และตอบคำถามจากการฟงั และอา่ นบทสนทนา นทิ านง่ายๆและเรื่องเล่า
ต 4.1 ป.6/1 ใชภ้ าษาสอ่ื สารในสถานการณต์ ่างๆ ท่เี กดิ ขน้ึ ในห้องเรยี นและสถานศึกษา

2. สาระสำคญั
การเรียนรคู้ ำศพั ทบ์ อกอาชพี ต่างๆ ทำให้ผเู้ รียนสามารถพดู ขอและใหข้ ้อมลู ส่วนตัวของตนเองใหผ้ อู้ ื่นทราบได้

3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
ด้านความรู้(Knowledge)
1. ใหข้ ้อมลู เก่ียวกับคำศพั ทอ์ าชีพได้
ดา้ นทักษะกระบวนการ (Process)
1. ออกเสยี งการบอกอาชพี ได้
ด้านคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (Attitude)
1. มีวนิ ยั ใฝเ่ รยี นรูแ้ ละมงุ่ มนั่ ในการทำงาน

4. สาระการเรียนรู้
- กลมุ่ คำ ประโยค และความหมายเกยี่ วกับคำศัพท์บอกอาชีพ
- ประโยค บทสนทนา และเนื้อเรอ่ื งสั้นๆ ที่มีภาพประกอบ
- คำศัพท์ สำนวน และประโยคขอและใหข้ อ้ มูลเก่ียวกับตนเอง เพ่อื น และครอบครัว เช่นWho am I?

5. สมรรถนะทส่ี ำคัญของผเู้ รียน
1. มีความสามารถในการสือ่ สาร

6. กิจกรรมการเรยี นรู้
1.Warm up
-ครทู บทวนคำศัพท์ จากคาบทีแ่ ลว้

-ครถู ามเดก็ ชายโตง้ ถึงอาชีพท่ีอยากจะเป็นและเหตุผล (เตรียมกนั มาก่อน)
Teacher: Tong, what do you want to be in the future?
Tong I want to be a pilot
Teacher: Why do you want to be a pilot?
Tong: Because I like to fly and travel. (ทำมือท่าบนิ ประกอบ)

2. Presentation
- ครูชท้ี ีละภาพ โดยใช้คำถาม What do you want to be? เพอ่ื ใหน้ ักเรยี นได้ฝึกถามตอบครู

นำเสนอบทสนทนา นกั เรยี นฝึกสนทนา แบบ hole class/small group/individual
Example

Tom: Julia, what do you want to be?
Julia: I want to be a nurse.
Tom: Why do you want to be a nurse?
Julia: Because I can help people
3. Practice

-จากนัน้ ให้นกั เรียนจบั ค่กู บั เพื่อนฝกึ พูดบทสนทนาถาม-ตอบ จากบทสนทนาที่ครูยกตัวอยา่ ง และ
แลกเปลย่ี นขอ้ มูลซึง่ กันและกนั แลว้ ครูสุ่มเรยี กมานำเสนอหน้าชนั้ เรียน

4. Production
-นักเรยี นอา่ นบทสนทนาระหว่าง Anna และ Betty ในหนงั สือเรยี น พร้อมๆ กนั
Anne: Why does Julia want to be a nurse?
Betty: Because she can help people.
แล้วครูอธิบายประโยคคำถามท่ีขนึ้ ตน้ ดว้ ย “Why” ซ่งึ แปลวา่ “ทำไม” ในการตอบตอ้ งตอบดว้ ย “Because” เสมอ

จากนน้ั ครใู ห้นักเรยี นจบั คกู่ ับเพอื่ นฝกึ พดู บทสนทนาตามตัวอย่างในหนงั สือเรยี น โดยใชข้ ้อมูลทีค่ รเู ฉลยบนกระดาน

5. Wrap up
-นกั เรียนร่วมกนั เฉลยแบบฝกึ หัด

7. สื่อการเรียนรู้ / แหล่งการเรยี นรู้
-หนงั สือเรียน
-แบบฝกึ หัด

8. การวัดผลประเมนิ ผล

การวัดและประเมินผล วธิ กี ารวัดผล เครอ่ื งมือวดั เกณฑ์
ดา้ นความรู้ (K) ตรวจจากการทำแบบฝึกหัด และประเมนิ ผล การประเมินผล
ใหข้ ้อมลู เกี่ยวกับคำศพั ท์
อาชพี ได้ การสงั เกตการพดู สนทนาใน แบบฝึกหดั 60% ข้ึนไป ผา่ น
ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (P) ชนั้ เรียน แบบประเมนิ ชิน้ งาน
ออกเสยี งการบอกอาชพี
แบบประเมนิ การพูด 60% ข้นึ ไป ผา่ น
ต่างๆได้

ดา้ นคณุ ลักษณะ

อนั พึงประสงค์ (A)

มวี นิ ัย ใฝเ่ รียนรแู้ ละมุ่งม่ันใน การสงั เกตการรว่ มกจิ กรรม แบบประเมินคุณลกั ษณะ 60% ขนึ้ ไป ผา่ น
อนั พึงประสงค์
การทำงาน ในช้นั เรียน

แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 9

กล่มุ สาระการเรยี นรูภ้ าษาตา่ งประเทศ รหสั วชิ า อ16101 ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 6

หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 1 What do you want to be? เวลาเรียน 13 ชั่วโมง

เรอ่ื ง Occupation เวลา 1 ชัว่ โมง

ครูผู้สอน นางสาวเบญจรตั น์ ใจกลา้ สอนวนั ท่ี …….. เดือน………… พ.ศ. ……….

โรงเรยี น บา้ นแมย่ างห้า สำนกั งานเขตพ้นื ทกี่ ารศกึ ษาประถมศึกษา เชยี งใหม่ เขต 2

1, มาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวช้วี ัด
ต 1.3 ป.6/1 พดู /เขียนให้ขอ้ มลู เก่ียวกับตนเอง เพ่อื น และส่ิงแวดล้อมใกล้ตัว

ป.6/3 พดู /เขียนแสดงความคิดเห็นเกีย่ วกบั เรอ่ื งต่างๆ ใกลต้ วั
ต 2.1 ป.6/1 ใชถ้ ้อยคำ น้ำเสยี ง และกิริยาท่าทางอยา่ งสภุ าพ เหมาะสม ตามมารยาทสงั คม และวฒั นธรรมของ
เจา้ ของภาษา

2. สาระสำคัญ
การเรียนรู้คำศพั ท์บอกอาชีพต่างๆ ทำให้ผูเ้ รยี นสามารถพูดขอและให้ข้อมูลสว่ นตวั ของตนเองให้ผู้อืน่ ทราบได้

3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
ด้านความรู้(Knowledge)
1. ให้ข้อมูลเก่ยี วกับคำศพั ท์อาชีพได้
ด้านทกั ษะกระบวนการ (Process)
1. ออกเสียงการบอกอาชีพได้
ดา้ นคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ (Attitude)
1. มวี นิ ัย ใฝเ่ รียนรแู้ ละมงุ่ มน่ั ในการทำงาน

4. สาระการเรียนรู้
- กลมุ่ คำ ประโยค และความหมายเกี่ยวกับคำศพั ท์บอกอาชีพ
- ประโยค บทสนทนา และเนอื้ เรือ่ งส้ันๆ ทม่ี ภี าพประกอบ
- คำศพั ท์ สำนวน และประโยคขอและให้ขอ้ มูลเกี่ยวกบั ตนเอง เพ่อื น และครอบครวั เชน่

5. สมรรถนะท่ีสำคญั ของผเู้ รยี น
1. มีความสามารถในการสอ่ื สาร

6. กจิ กรรมการเรยี นรู้

1.Warm up

-ครูใหน้ กั เรียนทบทวนคำศัพท์อาชีพต่างๆ ตามที่ได้เรียนมาด้วยบตั รคำ และบัตรภาพ จากน้ันให้เขียนตาม

คำบอก actor artist writer computer programmer

teacher nurse photographer musician singer doctor

เสรจ็ แล้วครูเขยี นเฉลยบนกระดาน ใหน้ ักเรยี นแลกงานกนั ตรวจและแก้ไขใหเ้ พอื่ นด้วยผทู้ เี่ ขียนถกู เกนิ กวา่ 7

คำ ถือวา่ ผา่ น

2. Presentation
- นกั เรยี นอ่านบทความท่เี ก่ยี วกับ Catherine, Andy และ Tina ในหนังสอื เรยี น Read and choose

two jobs for each of them. แล้วพิจารณาว่า Catherine, Andy และ Tina เหมาะกบั งานอะไร คนละ 2
งาน ให้นักเรียนชว่ ยกันคิดและบอกครู เสร็จแล้วเฉลยคำตอบรว่ มกัน

3. Practice
-ครูสอนการใช้ good at ซงึ่ มคี วามหมายวา่ “เกง่ ” ดังนี้

good at + (วชิ า)

เช่น She’s good at English.
We are good at maths.
He’s good at P.E.

good at + v. ing (gerund)

เช่น Sam’s good at playing the guitar.
My mother’s good at cooking.
She’s good at dancing.

4. Production

-นักเรยี นฝกึ สนทนาด้วยรปู แบบประโยคถาม-ตอบ ในหนงั สอื เรยี น โดยครูแบ่งนักเรยี นเปน็ กลมุ่ ชายและหญิง
เพอื่ อา่ นบทสนทนาระหว่าง Ben และ May ตามรูปแบบในหนงั สอื เรยี นพร้อมกนั ดังน้ี

Ben: What do you want to be?
May: I want to be a writer.

Ben: Why?
May: Because I love reading and writing. How about you?
Ben: I want to be a reporter. I like talking to people.

5. Wrap up
-นกั เรียนร่วมกนั เฉลยแบบฝึกหัด

7. ส่อื การเรียนรู้ / แหล่งการเรยี นรู้
-หนงั สอื เรยี น
-แบบฝึกหัด

8. การวัดผลประเมินผล

การวดั และประเมนิ ผล วิธกี ารวดั ผล เคร่อื งมือวัด เกณฑ์
และประเมินผล การประเมนิ ผล

ด้านความรู้ (K) ตรวจจากการทำแบบฝึกหัด แบบฝึกหัด 60% ขนึ้ ไป ผา่ น
ใหข้ ้อมลู เก่ียวกบั คำศพั ท์ แบบประเมินช้นิ งาน
อาชีพได้ การสังเกตการพูดสนทนาใน
ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (P) ชั้นเรยี น แบบประเมินการพูด 60% ขึ้นไป ผา่ น
ออกเสยี งการบอกอาชพี

ตา่ งๆได้

ดา้ นคณุ ลกั ษณะ

อันพงึ ประสงค์ (A)

มีวินยั ใฝ่เรยี นรู้และมงุ่ มนั่ ใน การสังเกตการร่วมกจิ กรรม แบบประเมินคณุ ลักษณะ 60% ข้นึ ไป ผา่ น
อนั พงึ ประสงค์
การทำงาน ในชน้ั เรยี น

แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 11

กล่มุ สาระการเรยี นร้ภู าษาต่างประเทศ รหสั วิชา อ16101 ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 6

หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 1 What do you want to be? เวลาเรยี น 13 ชั่วโมง

เร่ือง Occupation เวลา 2 ชัว่ โมง

ครูผูส้ อน นางสาวเบญจรัตน์ ใจกลา้ สอนวันท่ี …….. เดือน………… พ.ศ. ……….

โรงเรียน บา้ นแม่ยางห้า สำนกั งานเขตพ้ืนทก่ี ารศกึ ษาประถมศกึ ษา เชยี งใหม่ เขต 2

1, มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตัวชี้วดั
ต 1.1 ป.6/2 อา่ นออกเสยี งข้อความ นทิ าน และบทกลอนสน้ั ๆ ถกู ตอ้ งตามหลกั การอา่ น

ป.6/4 บอกใจความสำคัญ และตอบคำถามจากการฟังและอ่านบทสนทนา นทิ านงา่ ยๆและเร่ืองเล่า
ต 1.2 ป.6/1 พดู /เขยี นโต้ตอบในการสอื่ สารระหว่างบุคคล

ป.6/2 ใชค้ ำสั่ง คำขอรอ้ ง และให้คำแนะนำ
ต 4.1 ป.6/1 ใชภ้ าษาสื่อสารในสถานการณต์ ่างๆ ที่เกดิ ขึ้นในหอ้ งเรยี นและสถานศึกษา

2. สาระสำคัญ
การเรียนรูค้ ำศัพท์บอกอาชพี ต่างๆ ทำให้ผูเ้ รียนสามารถพดู ขอและใหข้ อ้ มูลส่วนตัวของตนเองให้ผู้อื่นทราบได้

3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
ด้านความรู้(Knowledge)
1. ให้ขอ้ มลู เกย่ี วกบั คำศัพท์อาชพี ได้
ด้านทกั ษะกระบวนการ (Process)
1. ออกเสยี งการบอกอาชีพได้
ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (Attitude)
1. มีวนิ ัย ใฝเ่ รียนรแู้ ละมงุ่ มั่นในการทำงาน

4. สาระการเรียนรู้
- กลุ่มคำ ประโยค และความหมายเกีย่ วกบั คำศัพทบ์ อกอาชีพ
- ประโยค บทสนทนา และเนอื้ เรื่องส้นั ๆ ท่ีมภี าพประกอบ
- คำศัพท์ สำนวน และประโยคขอและให้ข้อมูลเก่ยี วกับตนเอง เพื่อน และครอบครวั เชน่ Who am I?

5. สมรรถนะทส่ี ำคญั ของผู้เรยี น
1. มีความสามารถในการสื่อสาร

6. กิจกรรมการเรยี นรู้
1. Warm up
-ครบู อกนักเรียนว่าในชัว่ โมงตอ่ ไปนี้ นกั เรยี นจะไดท้ บทวนสงิ่ ที่เรยี นไปแลว้ ใน โดยเน้นฝึกฝนทงั้ 4 ทักษะได้แก่ ฟัง

พูด อา่ น และเขียน

2. Presentation

- นกั เรียนรวมกลุ่ม กลมุ่ ละ 4 คน เพอ่ื อา่ นข้อความท่ปี ระกาศรับสมคั รงานในชว่ งฤดูรอ้ น ซ่งึ มงี านทัง้ หมด

4 งาน Read the job advertisement and complete the sentences. งานเหล่าน้ีได้แก่

reporter - ผู้สอื่ ขา่ ว nurse - นางพยาบาล

actor - นักแสดง computer programmer - ผู้คุมโปรแกรมคอมพิวเตอร์

จากน้ันอ่านประโยค 4 ข้อ ใต้ประกาศรบั สมัครงาน ใหท้ ุกคนในกลมุ่ ช่วยกันระดมสมองคดิ ว่า Mark,

Jenny, Jennifer และ Tony ซึ่งมีขอ้ มูลสว่ นตวั ในแตล่ ะข้อเหมาะกับงานอะไร แล้วเขียนงานชนิดน้ันๆ ลง

ในชอ่ งวา่ งทก่ี ำหนดให้ แลว้ ครูสมุ่ เรยี กนักเรยี น 4 กล่มุ ใหอ้ ่านพร้อมๆ กนั ทีละกลุม่ และเฉลยคำตอบ ครู

เขยี นคำตอบที่ถูกต้องบนกระดาน

3. Practice

ครถู ามถงึ อาชพี ท่นี กั เรียนอยากจะเปน็ ในอนาคต แลว้ รวบรวมอาชีพต่างๆ เขยี นบนกระดาน

Teacher: What do you want to be?

Students: Doctor, nurse, teacher, pilot, etc.

ครูใหน้ กั เรียนเขยี นอาชีพยอดนิยม 10 อาชีพ

ครแู บง่ นกั เรียนออกเปน็ 10 กล่มุ ตามอาชพี ที่นักเรียนชอบ และตามความสมคั รใจ ใหส้ มาชกิ ในกลุ่ม

ช่วยกนั เขียนข้อความในกรอบทีก่ ำหนด ซ่งึ มเี น้ือหาเก่ยี วกบั งานทีต่ นชอบ

ตัวอย่าง

Job : Pilot

Where they work : At the airport / In the sky

What they do : Fly and control planes

Three words to describe the job : Exciting / Important / Travel

Why I want to be : Like solving problems and travelling

ชั่วโมงที่ 2
4. Production
-นกั เรยี นรว่ มกันนำเสนอผลงานหน้าชั้นเรยี น จากการทำกิจกรรมกล่มุ

5. Wrap up
-นักเรียนทำแบบฝกึ ท้ายบท เพื่อรวบยอดความรแู้ ละเก็บคะแนน เฉลยแบบฝึกหัด

7. สื่อการเรยี นรู้ / แหลง่ การเรยี นรู้
-หนงั สือเรยี น
-แบบฝึกหัด

8. การวดั ผลประเมนิ ผล

การวัดและประเมนิ ผล วธิ ีการวัดผล เครอ่ื งมอื วัด เกณฑ์
ด้านความรู้ (K) ตรวจจากการทำแบบฝกึ หัด และประเมินผล การประเมนิ ผล
ใหข้ ้อมูลเกย่ี วกับคำศัพท์
อาชีพได้ การสงั เกตการพดู สนทนาใน แบบฝึกหดั 60% ข้ึนไป ผา่ น
ด้านทกั ษะกระบวนการ (P) ชัน้ เรียน แบบประเมินช้ินงาน
ออกเสยี งการบอกอาชีพ
แบบประเมินการพูด 60% ขึ้นไป ผ่าน
ต่างๆได้

ดา้ นคุณลักษณะ

อนั พึงประสงค์ (A)

มวี นิ ัย ใฝ่เรียนรู้และมงุ่ ม่ันใน การสงั เกตการร่วมกิจกรรม แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะ 60% ขน้ึ ไป ผ่าน
อนั พึงประสงค์
การทำงาน ในชน้ั เรยี น

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 11

กล่มุ สาระการเรยี นร้ภู าษาต่างประเทศ รหสั วชิ า อ16101 ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 6

หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 2 Play safe เวลาเรียน 13 ชั่วโมง

เรอ่ื ง Sports เวลา 1 ชั่วโมง

ครูผ้สู อน นางสาวเบญจรตั น์ ใจกล้า สอนวนั ท่ี …….. เดอื น………… พ.ศ. ……….

โรงเรียน บา้ นแม่ยางหา้ สำนักงานเขตพ้นื ทกี่ ารศกึ ษาประถมศึกษา เชียงใหม่ เขต 2

1, มาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวชี้วัด
ต 1.1 ป.6/2 อ่านออกเสยี งขอ้ ความ นทิ าน และบทกลอนส้นั ๆ ถูกตอ้ งตามหลักการอ่าน

ป.6/3 เลอื ก/ระบุประโยคหรอื ข้อความส้ันๆ ตรงตามภาพ สญั ลักษณ์ หรอื เคร่ืองหมายทีอ่ า่ น

ต 3.1 ป.6/1 ค้นควา้ รวบรวมคำศพั ทท์ ีเ่ กยี่ วข้องกับกลมุ่ สาระการเรียนรูอ้ น่ื จากแหล่งการเรียนรู้ และ
นำเสนอด้วยการพูด/การเขียน

2. สาระสำคัญ

การเรียนรู้คำศพั ท์เกยี่ วกบั กีฬา อปุ กรณ์การปอ้ งกันตวั และการใช้ประโยค If clause ทำให้ผู้เรียนสามารถพดู และ
เขียนเกีย่ วกับกฬี าและอปุ กรณก์ ารปอ้ งกนั ตัวได้ โดยจะเปน็ พนื้ ฐานความรเู้ กยี่ วกบั การใชภ้ าษาองั กฤษเพอ่ื การสอื่ สาร
ในชีวิตประจำวนั

3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
ด้านความรู้(Knowledge)
1. ให้ข้อมลู เกี่ยวกับคำศพั ท์เกยี่ วกับกฬี าได้
ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (Process)
1. ออกเสยี งการสอ่ื สารเกีย่ วกับคำศพั ท์เกีย่ วกับกีฬาตา่ งๆได้
ดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (Attitude)
1. มวี ินยั ใฝ่เรยี นรแู้ ละมุ่งมน่ั ในการทำงาน

4. สาระการเรยี นรู้
- กลมุ่ คำ ประโยค และความหมายเกีย่ วกับกฬี า และอุปกรณก์ ารป้องกันตวั
- ประโยค บทสนทนา และเนื้อเรอ่ื งสน้ั ๆ ทีม่ ภี าพประกอบ
- คำศพั ท์ และประโยคเกยี่ วกับการแสดงความรู้สึกขณะเล่นกีฬาแตล่ ะชนดิ เชน่

I think (ชือ่ กีฬา) is the most (คำคุณศัพท์).
- กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรม เช่น การเลน่ เกม

5. สมรรถนะทีส่ ำคญั ของผู้เรยี น
1. มคี วามสามารถในการสื่อสาร

6. กจิ กรรมการเรยี นรู้
1. Warm up
-ครถู ามนักเรียนในชั้นวา่ กีฬาโปรดของนักเรยี นคอื กฬี าชนิดใด โดยใช้ประโยค ดงั นี้
Teacher: What is your favorite sport?
Students: , volleyball … etc.

2. Presentation
-ครนู ำภาพกีฬามา 1 ภาพ ติดไว้บนกระดาน เชน่ ภาพนกั กีฬาเทนนสิ ให้นกั เรียนดูภาพ แลว้ ชว่ ยกัน
ตอบคำถามของ ดังนี้
Teacher: What are they doing?
Students: They are playing tennis.
Teacher: How many people are there playing tennis?
Students: Two people.

ให้นักเรยี นช่วยกันคิดว่า ควรจะเลน่ กฬี าอยา่ งไรให้ปลอดภยั มวี ธิ ีการใดบา้ ง นักเรียนชว่ ยกนั ระดม
ความคดิ

3. Practice
-ครใู ห้นักเรียนดภู าพแล้วตอบคำถามจากภาพ
1. Look at the picture of the mountains. How many people are there?
2. What are the girls doing on the beach?
3. Can you see any rubbish on the beach?
4. Find the man under the tree. What is he doing?
5. Find two boys who are skateboarding. Are they wearing helmets?

4. Production
-ครเู ขยี นคำศัพทจ์ าก Word box บนกระดาน พรอ้ มคำแปล ดงั น้ี
sailing =กีฬาเรือใบ cycling =ปั่นจกั รยาน skiing =กฬี าสกี
frightening=น่ากลวั climbing=กีฬาปนี เขา dangerous=อนั ตราย
surfing =กฬี าโต้คลน่ื exciting=นา่ ต่ืนเต้น

5. Wrap up
-นกั เรยี นจดคำศัพท์ลงในชน้ิ งาน template ท่ีครเู ตรยี ,มา

7. สื่อการเรยี นรู้ / แหลง่ การเรยี นรู้
-หนงั สือเรยี น
-ใบงาน
-บัตรคำ

8. การวัดผลประเมินผล วธิ ีการวัดผล เครื่องมอื วัด เกณฑ์
ตรวจจากการทำใบงาน และประเมินผล การประเมนิ ผล
การวดั และประเมนิ ผล
ดา้ นความรู้ (K) การสงั เกตการพดู สนทนาใน ใบงาน 60% ขึ้นไป ผ่าน
ให้ขอ้ มูลเกี่ยวกบั คำศัพท์ ชนั้ เรยี น แบบประเมินชิ้นงาน
เกี่ยวกบั กีฬาได้
ดา้ นทักษะกระบวนการ (P) การสงั เกตการร่วมกิจกรรม แบบประเมนิ การพูด 60% ข้ึนไป ผ่าน
ออกเสยี งการสอื่ สารเกย่ี วกบั ในชนั้ เรยี น
คำศพั ท์เกยี่ วกบั กฬี าต่างๆได้ แบบประเมนิ คุณลักษณะ 60% ข้นึ ไป ผ่าน
ด้านคุณลักษณะ อนั พึงประสงค์
อนั พงึ ประสงค์ (A)
มีวนิ ัย ใฝเ่ รียนร้แู ละมงุ่ ม่ันใน
การทำงาน

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 12

กลุ่มสาระการเรยี นร้ภู าษาตา่ งประเทศ รหัสวิชา อ16101 ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 6
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2 Play safe
เร่อื ง Sports เวลาเรยี น 13 ชัว่ โมง
ครูผสู้ อน นางสาวเบญจรตั น์ ใจกล้า
โรงเรยี น บา้ นแมย่ างห้า เวลา 1 ชั่วโมง

สอนวันที่ …….. เดือน………… พ.ศ. ……….

สำนักงานเขตพ้ืนท่กี ารศึกษาประถมศึกษา เชยี งใหม่ เขต 2

1, มาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวชี้วัด
ต 1.2 ป.6/1 พดู /เขียนโตต้ อบในการส่อื สารระหวา่ งบคุ คล

ป.6/4. พดู และเขียนเพ่ือขอและใหข้ อ้ มูลเกยี่ วกับตนเอง เพ่ือน ครอบครัว และเร่อื งใกลต้ ัว
ต 3.1 ป.6/1 คน้ คว้า รวบรวมคำศพั ท์ที่เกย่ี วขอ้ งกบั กลมุ่ สาระการเรียนร้อู ื่นจากแหล่งการเรียนรู้และนำเสนอดว้ ย
การพดู /การเขียน

2. สาระสำคญั
การเรียนร้คู ำศพั ท์เกี่ยวกับกีฬา อปุ กรณก์ ารป้องกันตวั และการใชป้ ระโยค If clause ทำให้ผู้เรียนสามารถพดู

และเขียนเก่ยี วกบั กีฬาและอปุ กรณ์การปอ้ งกันตวั ได้ โดยจะเปน็ พน้ื ฐานความรู้เกี่ยวกับการใชภ้ าษาอังกฤษเพื่อการส่ือสาร
ในชีวิตประจำวนั

3. จุดประสงค์การเรยี นรู้
ดา้ นความรู้(Knowledge)
1. ให้ข้อมลู เก่ียวกับคำศัพท์เก่ยี วกบั กฬี าได้
ดา้ นทักษะกระบวนการ (Process)
1. ออกเสียงการส่อื สารเกี่ยวกับคำศพั ท์เกี่ยวกบั กฬี าต่างๆได้
ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ (Attitude)
1. มีวินยั ใฝเ่ รียนรู้และมุง่ มัน่ ในการทำงาน

4. สาระการเรยี นรู้
- กลุ่มคำ ประโยค และความหมายเกยี่ วกับกีฬา และอุปกรณ์การปอ้ งกันตัว
- ประโยค บทสนทนา และเนอ้ื เรื่องสน้ั ๆ ท่มี ภี าพประกอบ
- คำศัพท์ และประโยคเกยี่ วกับการแสดงความรูส้ ึกขณะเล่นกฬี าแต่ละชนดิ เช่น

I think (ชื่อกฬี า) is the most (คำคณุ ศัพท์).
- กจิ กรรมทางภาษาและวัฒนธรรม เชน่ การเลน่ เกม

5. สมรรถนะที่สำคญั ของผู้เรยี น
1. มคี วามสามารถในการสอ่ื สาร

6. กิจกรรมการเรยี นรู้
1. Warm up
-ครูทบทวนคำศพั ท์จากช่ัวโมงท่ีผ่านมา

2. Presentation
-ใหน้ ักเรียนช่วยกันแตง่ ประโยคจากคำเหลา่ นี้ คนละ 1 ประโยค เมอื่ แตง่ ประโยคเสรจ็ แลว้ ครสู ุ่ม

เรียกนกั เรยี น 3-4 คน พูดประโยคท่ีตนเองแตง่ แล้วเขียนบนกระดาน เพื่อเป็นตัวอยา่ ง โดยครูชว่ ยแก้ไข
ประโยคทแ่ี ตง่ ไม่ถูกตอ้ ง เช่น Skiing is exciting. Surfing is frightening. Climbing is dangerous

3. Practice
-ครอู ธบิ ายการเปรียบเทียบขั้นสูงสดุ (Superlative Degree) ว่าเป็นการเปรียบเทยี บส่งิ ของตง้ั แต่

3 ส่ิงขน้ึ ไป โดยการยกตวั อย่างประโยค ดงั น้ี

1) Diamond is the most expensive store.
2) An elephant is the biggest animal.
3) Swimming is the most useful sort.
การเปรยี บเทยี บข้นั สูงสุด ต้องมี “the” นำหนา้ adj. หรอื adv. เสมอ แลว้ ครูอธิบายกฎการเปลยี่ น adj. หรือ adv. ให้
เปน็ ขน้ั สูงสดุ พรอ้ มกับเขียนบนกระดาน

4. Production
-นักเรยี นทำใบงานทคี่ รูเตรียมมา

5. Wrap up
-นักเรียนรว่ มกนั เฉลยใบงาน

7. สื่อการเรียนรู้ / แหล่งการเรยี นรู้
-หนงั สือเรียน
-ใบงาน

8. การวดั ผลประเมินผล

การวัดและประเมินผล วิธกี ารวัดผล เครอ่ื งมอื วดั เกณฑ์
ดา้ นความรู้ (K) ตรวจจากการทำใบงาน และประเมินผล การประเมนิ ผล
ให้ขอ้ มลู เกีย่ วกับคำศพั ท์
ใบงาน 60% ขน้ึ ไป ผา่ น
แบบประเมนิ ช้นิ งาน
เก่ยี วกบั กฬี าได้

ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (P) แบบประเมนิ การพูด 60% ข้ึนไป ผ่าน
ออกเสียงการสื่อสารเก่ยี วกบั การสงั เกตการพดู สนทนาใน
คำศพั ท์เกี่ยวกับกีฬาต่างๆได้ ชนั้ เรยี น

ด้านคณุ ลกั ษณะ

อันพึงประสงค์ (A)

มีวนิ ยั ใฝเ่ รียนรแู้ ละมงุ่ มน่ั ใน การสังเกตการรว่ มกิจกรรม แบบประเมนิ คณุ ลักษณะ 60% ขนึ้ ไป ผ่าน
อันพึงประสงค์
การทำงาน ในชั้นเรียน

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 13

กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ รหสั วิชา อ16101 ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 6
หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 2 Play safe
เร่ือง Sports เวลาเรยี น 13 ชัว่ โมง
ครูผ้สู อน นางสาวเบญจรตั น์ ใจกลา้
โรงเรยี น บา้ นแมย่ างห้า เวลา 2 ชั่วโมง

สอนวนั ที่ …….. เดอื น………… พ.ศ. ……….

สำนักงานเขตพน้ื ทกี่ ารศึกษาประถมศกึ ษา เชียงใหม่ เขต 2

1, มาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวชวี้ ัด
ต 1.2 ป.6/1 พดู /เขยี นโตต้ อบในการสอ่ื สารระหวา่ งบุคคล

ป.6/4. พูดและเขยี นเพอื่ ขอและใหข้ อ้ มูลเกีย่ วกับตนเอง เพื่อน ครอบครวั และเรอ่ื งใกล้ตวั
ต 3.1 ป.6/1 ค้นควา้ รวบรวมคำศพั ทท์ ่ีเก่ียวขอ้ งกบั กลุ่มสาระการเรียนรู้อืน่ จากแหลง่ การเรียนรู้ และนำเสนอ
ดว้ ยการพดู /การเขียน

2. สาระสำคญั

การเรยี นรู้คำศัพท์เก่ยี วกบั กีฬา อุปกรณก์ ารปอ้ งกันตวั และการใช้ประโยค If clause ทำให้ผูเ้ รยี นสามารถพดู และ
เขยี นเกย่ี วกบั กฬี าและอปุ กรณ์การปอ้ งกนั ตัวได้ โดยจะเป็นพน้ื ฐานความรู้เกี่ยวกบั การใชภ้ าษาอังกฤษเพอื่ การส่อื สารใน
ชวี ติ ประจำวัน

3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
ด้านความรู้(Knowledge)
1. ให้ขอ้ มลู เกย่ี วกับประโยคการส่ือสารเกี่ยวกับกีฬาได้
ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (Process)
1. ออกเสียงการส่ือสารเก่ียวกบั คำศพั ท์เก่ียวกับกฬี าต่างๆได้
ด้านคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ (Attitude)
1. มวี นิ ยั ใฝเ่ รียนรูแ้ ละม่งุ มัน่ ในการทำงาน

4. สาระการเรียนรู้
- กลุ่มคำ ประโยค และความหมายเกยี่ วกบั กฬี า และอปุ กรณ์การป้องกันตวั
- ประโยค บทสนทนา และเนือ้ เรื่องสน้ั ๆ ท่ีมภี าพประกอบ
- Conversation

5. สมรรถนะที่สำคญั ของผูเ้ รยี น
1. มคี วามสามารถในการสอ่ื สาร

6. กจิ กรรมการเรยี นรู้
1. Warm up
-ครูทบทวนประโยคจากชั่วโมงทผ่ี ่านมา

2. Presentation
-ครูนำเสนอบทสนทนา
-Sue : OK. Catherine, which sport is the most exciting?
Catherine : Well, sailing is exciting, and skiing and surfing.
I think skiing is the most exciting. Do you?
Sue : Yes. Which is the most dangerous, then?
Catherine : I think climbing is the most dangerous. How about you?
Sue : Me too! I think climbing is the most dangerous.
Catherine : Well, which is the most boring?
Sue : That’s easy. Ping-pong is the most boring.
Catherine : Well, then which is the best?
Sue : Let me think … Er … it’s tennis
นกั เรยี นฝกึ แบบ hole class /small group/ individual

3.Practice
-จับค่สู นทนากบั เพ่ือนขา้ งๆ และทำใบงาน

ชัว่ โมงที่ 2
4. Production

-ออกมาแสดงบทบาทสมมติ

5. Wrap up
-นกั เรียนร่วมกนั พดู คุยเกย่ี วกบั บทสนทนา

7. ส่อื การเรยี นรู้ / แหล่งการเรียนรู้
-หนังสือเรียน

8. การวัดผลประเมินผล

การวดั และประเมนิ ผล วิธีการวัดผล เคร่ืองมอื วดั เกณฑ์
ดา้ นความรู้ (K) ตรวจจากการทำใบงาน และประเมนิ ผล การประเมนิ ผล
ให้ขอ้ มลู เกยี่ วกบั ประโยค
ใบงาน 60% ขึ้นไป ผา่ น
แบบประเมนิ ชนิ้ งาน
การสือ่ สารเกี่ยวกับกฬี าได้

ด้านทักษะกระบวนการ (P) แบบประเมินการพูด 60% ขึ้นไป ผา่ น
ออกเสยี งการสื่อสารเกยี่ วกบั การสงั เกตการพูดสนทนาใน
คำศัพท์เกี่ยวกับกฬี าตา่ งๆได้ ชัน้ เรียน

ดา้ นคณุ ลักษณะ

อนั พึงประสงค์ (A)

มวี ินยั ใฝเ่ รียนรู้และมุ่งมัน่ ใน การสงั เกตการรว่ มกิจกรรม แบบประเมนิ คุณลักษณะ 60% ขนึ้ ไป ผา่ น
อนั พงึ ประสงค์
การทำงาน ในช้นั เรียน

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 14

กล่มุ สาระการเรยี นรภู้ าษาต่างประเทศ รหัสวชิ า อ16101 ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ 6
หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 2 Play safe
เรอ่ื ง Sports เวลาเรียน 13 ชว่ั โมง
ครูผ้สู อน นางสาวเบญจรัตน์ ใจกล้า
โรงเรียน บา้ นแมย่ างห้า เวลา 2 ช่ัวโมง

สอนวันท่ี …….. เดือน………… พ.ศ. ……….

สำนกั งานเขตพืน้ ที่การศกึ ษาประถมศกึ ษา เชียงใหม่ เขต 2

1, มาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวชวี้ ดั
ต 1.2 ป.6/1 พูด/เขยี นโต้ตอบในการส่อื สารระหวา่ งบุคคล

ป.6/4. พูดและเขยี นเพ่ือขอและให้ขอ้ มูลเกย่ี วกับตนเอง เพ่ือน ครอบครวั และเรอ่ื งใกล้ตวั
ต 3.1 ป.6/1 คน้ ควา้ รวบรวมคำศพั ท์ทเี่ ก่ียวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อน่ื จากแหล่งการเรียนรู้ และนำเสนอ
ด้วยการพดู /การเขยี น

2. สาระสำคัญ
การเรียนรคู้ ำศพั ทเ์ กีย่ วกับกีฬา อุปกรณ์การปอ้ งกนั ตวั และการใช้ประโยค If clause ทำให้ผู้เรียนสามารถพดู และเขยี น

เกย่ี วกบั กีฬาและอุปกรณ์การป้องกนั ตัวได้ โดยจะเป็นพื้นฐานความร้เู ก่ยี วกบั การใช้ภาษาองั กฤษเพื่อการสอ่ื สารใน
ชวี ิตประจำวัน

3. จุดประสงค์การเรยี นรู้
ดา้ นความรู้(Knowledge)
1. ให้ข้อมลู เกี่ยวกับประโยคการสอ่ื สารเกีย่ วกับกีฬาได้
ดา้ นทักษะกระบวนการ (Process)
1. ออกเสียงการสอ่ื สารเกี่ยวกบั คำศัพท์เกีย่ วกับกฬี าตา่ งๆได้
ด้านคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (Attitude)
1. มวี ินยั ใฝเ่ รียนร้แู ละม่งุ มน่ั ในการทำงาน

4. สาระการเรยี นรู้
- กลุ่มคำ ประโยค และความหมายเกีย่ วกบั กีฬา และอุปกรณ์การปอ้ งกันตัว
- ประโยค บทสนทนา และเนื้อเรื่องสนั้ ๆ ทีม่ ภี าพประกอบ

- Conversation

5. สมรรถนะทส่ี ำคญั ของผเู้ รยี น
1. มีความสามารถในการสือ่ สาร

6. กจิ กรรมการเรยี นรู้
1. Warm up
-ครูทบทวนประโยคจากช่วั โมงท่ีผ่านมา

2. Presentation
-ครถู ามนักเรียนวา่ กีฬาชนิดใดนา่ ตืน่ เต้นที่สดุ (the most exciting) อนั ตรายที่สุด (the most

dangerous) น่าเบ่อื ท่ีสุด (the most boring) และดีทีส่ ดุ (the best) โดยใชร้ ูปประโยคในการถาม ดงั น้ี
Teacher: Which is the most ………?
Students: I think (ชนดิ กีฬา) is the most …………. นักเรยี นฝึกแบบ hole

class /small group/ individual

3.Practice
-จบั ค่สู นทนาจากประโยคทค่ี รกู ำหนดใน presentation

ชั่วโมงที่ 2
4. Production

-ทำกิจกรรม classroom survey

5. Wrap up
-นกั เรยี นนำเสนอข้อมลู จากกจิ กรรม classroom survey

7. สือ่ การเรียนรู้ / แหลง่ การเรยี นรู้
-หนงั สอื เรยี น
-ใบงาน

8. การวัดผลประเมินผล

การวดั และประเมนิ ผล วิธีการวัดผล เคร่ืองมอื วดั เกณฑ์
ดา้ นความรู้ (K) ตรวจจากการทำใบงาน และประเมนิ ผล การประเมนิ ผล
ให้ขอ้ มลู เกยี่ วกบั ประโยค
ใบงาน 60% ขึ้นไป ผา่ น
แบบประเมนิ ชนิ้ งาน
การสือ่ สารเกี่ยวกับกฬี าได้

ด้านทักษะกระบวนการ (P) แบบประเมินการพูด 60% ขึ้นไป ผา่ น
ออกเสยี งการสื่อสารเกยี่ วกบั การสงั เกตการพูดสนทนาใน
คำศัพท์เกี่ยวกับกฬี าตา่ งๆได้ ชัน้ เรียน

ดา้ นคณุ ลักษณะ

อนั พึงประสงค์ (A)

มวี ินยั ใฝเ่ รียนรู้และมุ่งมัน่ ใน การสงั เกตการรว่ มกิจกรรม แบบประเมนิ คุณลักษณะ 60% ขนึ้ ไป ผา่ น
อนั พงึ ประสงค์
การทำงาน ในช้นั เรียน

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 15

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ รหัสวชิ า อ16101 ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 6
หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 2 Play safe
เร่ือง Sports เวลาเรียน 13 ชวั่ โมง
ครูผู้สอน นางสาวเบญจรตั น์ ใจกลา้
โรงเรยี น บ้านแม่ยางห้า เวลา 1 ชั่วโมง

สอนวันที่ …….. เดือน………… พ.ศ. ……….

สำนกั งานเขตพ้นื ที่การศกึ ษาประถมศึกษา เชยี งใหม่ เขต 2

1, มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตัวช้ีวัด
ต 1.1 ป.6/2 อ่านออกเสียงขอ้ ความ นทิ าน และบทกลอนสัน้ ๆ ถูกตอ้ งตามหลกั การอ่าน

ป.6/3 เลอื ก/ระบุประโยคหรือขอ้ ความส้นั ๆ ตรงตามภาพ สัญลกั ษณ์ หรอื เครื่องหมายท่ีอา่ น
ต 3.1 ป.6/1 คน้ คว้า รวบรวมคำศพั ทท์ เ่ี กี่ยวข้องกบั กลุม่ สาระการเรียนร้อู ื่นจากแหล่งการเรียนรู้ และนำเสนอ
ด้วยการพูด/การเขยี น

2. สาระสำคัญ
การเรยี นรู้คำศัพทเ์ กี่ยวกบั กฬี า อุปกรณก์ ารปอ้ งกนั ตวั และการใช้ประโยค If clause ทำใหผ้ ู้เรยี นสามารถพดู

และเขียนเกย่ี วกบั กีฬาและอุปกรณก์ ารปอ้ งกนั ตวั ได้ โดยจะเป็นพ้ืนฐานความรเู้ กย่ี วกบั การใช้ภาษาองั กฤษเพอ่ื การ
สื่อสารในชวี ติ ประจำวนั

3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
ด้านความรู้(Knowledge)
1. ใหข้ ้อมลู เกีย่ วกบั ประโยคการสอื่ สารเกีย่ วกบั กฬี าได้
ดา้ นทักษะกระบวนการ (Process)
1. ออกเสยี งการส่อื สารเก่ียวกบั คำศัพท์เกย่ี วกับกฬี าตา่ งๆได้
ด้านคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ (Attitude)
1. มวี นิ ัย ใฝเ่ รยี นรู้และมุง่ มัน่ ในการทำงาน

4. สาระการเรียนรู้
- กลุ่มคำ ประโยค และความหมายเกี่ยวกับกฬี า และอุปกรณก์ ารปอ้ งกนั ตัว
- ประโยค บทสนทนา และเนือ้ เรือ่ งสน้ั ๆ ท่ีมีภาพประกอบ

5. สมรรถนะท่สี ำคัญของผ้เู รยี น
1. มีความสามารถในการส่อื สาร

6. กจิ กรรมการเรียนรู้
1. Warm up
-ครูทบทวนประโยคจากชั่วโมงทีผ่ ่านมา ครถู ามนักเรยี นวา่ ในภาพใครทำอะไรบา้ ง ใหน้ ักเรยี น
ช่วยกนั ตอบ เช่น Teacher: What are they doing?
Students: They are …………… .

2.Presentation
-ให้นักเรยี นดรู ปู ภาพในใบงาน Write the names of the sports.และชร้ี ูปภาพพร้อมบอกให้ไดว้ า่ เปน็

ภาพกฬี าอะไร จากน้นั ครูติดบัตรคำโดยไม่เรยี งลำดับบนกระดาน ครอู อกเสยี งคำศัพทต์ ามบัตรคำทีละใบ ให้
นักเรียนเลอื กคำศัพทจ์ ากบตั รคำบนกระดานมาเติมลงในชอ่ งวา่ งใต้ภาพให้ถกู ต้อง ครูเฉลยคำตอบบนกระดาน
นกั เรียนฝึกอา่ นออกเสยี ง แบบ hole class /small group/ individual

3.Practice
-ครูให้เลน่ เกม Body Language โดยครูทำสลากกีฬา 8 ใบ ม้วนลงในภาชนะ สมุ่ เรยี กนักเรยี น 8 คน

ออกมาหยิบสลากคนละ 1 ใบ เพอ่ื แสดงทา่ ทางให้เพ่ือนทายว่า เปน็ กีฬาชนดิ ใด คนท่ตี อบถกู มากที่สุด เป็นผชู้ นะ
ครูเตรียมของรางวลั เป็นเคร่อื งเขยี น หรอื อุปกรณ์การเรยี นสำหรบั ผชู้ นะ พร้อมกับใหค้ ะแนนคนละ 1 คะแนน
สำหรับนักเรียนทร่ี ่วมกจิ กรรม

4. Production
-ครูให้เล่มเกม The letters โดยครูเตรยี มบตั รอกั ษร ดังน้ี

C = 3 ใบ L = 3 ใบ I = 8 ใบ

F = 1 ใบ M = 1 ใบ B = 1 ใบ

N = 5 ใบ Y = 1 ใบ U = 1 ใบ

G = 5 ใบ S = 3 ใบ K = 1 ใบ

A = 1 ใบ R = 1 ใบ

แบ่งนักเรียนออกเปน็ 4 กลุ่ม ครูแจกบัตรตวั อักษรตามจำนวนดังกลา่ วใหแ้ ต่ละกล่มุ กลุม่ ละ 1 ชดุ ให้

สมาชกิ แต่ละกลมุ่ ช่วยกนั ต่อเป็นคำศพั ทเ์ กี่ยวกับชนดิ กีฬาทง้ั 5 ชนิด (climbing, skiing, sailing, surfing,

cycling) ใหถ้ ูกต้อง กลมุ่ ใดตอ่ ได้เรว็ และถกู ตอ้ งที่สุดถือว่าเปน็ ผชู้ นะ ใหก้ ลุ่มทช่ี นะนำตวั อักษรมาติดบน
กระดาน นกั เรยี นทุกคนสะกดและออกเสียงคำศพั ทด์ งั กลา่ วพรอ้ มกัน
5. Wrap up
-นักเรยี นสรุปคำศพั ทท์ ่ีเรียนไป

7. สื่อการเรยี นรู้ / แหลง่ การเรยี นรู้
-หนงั สอื เรยี น
-ใบงาน

8. การวดั ผลประเมนิ ผล

การวัดและประเมินผล วิธีการวดั ผล เคร่ืองมือวัด เกณฑ์
ด้านความรู้ (K) ตรวจจากการทำใบงาน และประเมนิ ผล การประเมนิ ผล
ใหข้ อ้ มลู เกย่ี วกบั ประโยค
ใบงาน 60% ขึ้นไป ผา่ น
แบบประเมนิ ชิน้ งาน
การส่ือสารเก่ียวกับกฬี าได้

ดา้ นทักษะกระบวนการ (P) แบบประเมนิ การพดู 60% ขน้ึ ไป ผ่าน
ออกเสียงการสือ่ สารเกย่ี วกับ การสงั เกตการพูดสนทนาใน
คำศัพท์เกี่ยวกับกฬี าต่างๆได้ ชน้ั เรียน

ด้านคุณลกั ษณะ

อนั พงึ ประสงค์ (A)

มวี นิ ยั ใฝเ่ รียนรูแ้ ละมุ่งมั่นใน การสงั เกตการรว่ มกจิ กรรม แบบประเมินคุณลกั ษณะ 60% ขน้ึ ไป ผ่าน
อนั พึงประสงค์
การทำงาน ในชั้นเรียน

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 16

กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาตา่ งประเทศ รหัสวชิ า อ16101 ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 6
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 2 Play safe
เรื่อง Sports เวลาเรยี น 13 ชั่วโมง
ครูผสู้ อน นางสาวเบญจรตั น์ ใจกล้า
โรงเรยี น บ้านแมย่ างห้า เวลา 1 ชั่วโมง

สอนวนั ที่ …….. เดอื น………… พ.ศ. ……….

สำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศกึ ษาประถมศกึ ษา เชยี งใหม่ เขต 2

1, มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตัวช้ีวดั
ต 1.1 ป.6/2 อ่านออกเสียงขอ้ ความ นิทาน และบทกลอนส้นั ๆ ถกู ตอ้ งตามหลักการอา่ น

ป.6/3 เลอื ก/ระบุประโยคหรือข้อความสั้นๆ ตรงตามภาพ สญั ลกั ษณ์ หรือเครื่องหมายทีอ่ ่าน
ต 3.1 ป.6/1 คน้ ควา้ รวบรวมคำศัพท์ท่เี กยี่ วขอ้ งกับกลุ่มสาระการเรียนรอู้ ่ืนจากแหลง่ การเรยี นรู้ และนำเสนอ
ดว้ ยการพูด/การเขียน

2. สาระสำคัญ
การเรยี นรู้คำศพั ท์เกีย่ วกับกีฬา อุปกรณก์ ารปอ้ งกันตัว และการใช้ประโยค If clause ทำให้ผู้เรียนสามารถพดู

และเขียนเก่ยี วกับกฬี าและอปุ กรณ์การปอ้ งกนั ตวั ได้ โดยจะเปน็ พ้นื ฐานความรูเ้ กย่ี วกับการใช้ภาษาอังกฤษเพอ่ื การ
สือ่ สารในชวี ิตประจำวัน

3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
ด้านความรู้(Knowledge)
1. ใหข้ ้อมลู เกีย่ วกับประโยคการสอ่ื สารเกยี่ วกบั กฬี าได้
ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (Process)
1. ออกเสียงการสอ่ื สารเก่ียวกับคำศพั ท์เก่ียวกับกฬี าต่างๆได้
ด้านคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (Attitude)
1. มวี ินัย ใฝ่เรียนร้แู ละมุ่งม่นั ในการทำงาน

4. สาระการเรียนรู้
- กลุ่มคำ ประโยค และความหมายเกีย่ วกบั กีฬา และอปุ กรณ์การปอ้ งกนั ตวั
- ประโยค บทสนทนา และเนื้อเร่อื งสั้นๆ ทมี่ ภี าพประกอบ