ตามรอยวัดสมุทรสาคร

ONE DAY TRIP TRAVEL TEMPLE ตามรอยวัดวั TRAVEL TEMPLE SAMUTSAKHON จังจัหวัดวัสมุทมุรสาคร

คำ นำ ก รายงานเล่มนี้จัดทำ ขึ้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของรายวิชา โครงงาน3เพื่อให้ได้ศึกษาความรู้ในเรื่องตามรอยวัดใน สมุทรสาครและได้ศึกษาอย่างเข้า ข้ใจเพื่อเป็นประโยชน์กับ การเรียน ผู้จั ผู้จั ดทำ หวังว่า รายงานเล่มนี้จะเป็นประโยชน์กับผู้อ่ ผู้อ่ าน หรือ รื นักเรียน นักศึกษา ที่กำ ลังหาข้อ ข้ มูลเรื่องนี้อยู่ หากมีข้ มีอ ข้ แนะนำ หรือ รื ข้อ ข้ ผิดพลาดประการใด ผู้จั ผู้จั ดทำ ขอน้อมรับไว้ และขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย ผู้จั ผู้จั ดทำ ศุภเมธา งอประทีป

ส า ร บั ญ ข เ รื่ อ ง ห น้ า คำ นำ ก ส า ร บั ญ ข วั ด โ ก ร ก ร า ก 1 วั ด โ ค ก ข า ม 2 ศา ล พั น ท้ า ย น ร สิ ง ห์ 3 วั ด สุ ท ธิ ว า ต ว ร า ร า ม 4 วั ด ใ ห ญ่ จ อ ม ป ร า ส า ท 5 วั ด ท่ า ไ ม้ 6 วั ด ห ลั ก สี่ ร า ษ ฎ ร์ ส โ ม ส ร 7 วั ด ใ ห ญ่ บ้ า น บ่ อ 8 วั ด ธ ร ร ม จ ริ ย า ภิ ร ม ย์ 9 วั ด น า ง ส า ว 1 0

One Day Trip : ไหว้พว้ระ จังจัหวัดวัสมุทรสาคร 1. วัดโกรกราก 1 วัดโกรกกราก อีกวัดเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ ท่าจีน จี ตำ บลโกรก กราก อำ เภอเมือมื งจังหวัดสมุทรสาคร อายุกว่า 200 ปีมาแล้วล้นับว่าเป็น วัดที่มีคมีวามสำ คัญในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 อย่างมากเลยทีเดียวค่ะ เพราะเรือ รื พระที่นั่งเคยจอดเทียบท่าที่วัดโกรกกราก ครั้งเสด็จ ประพาสต้นจากบางปะอินไปเพชรบุรีนั่นเองค่ะ แต่ไม่ปรากฏว่าสร้าง มาตั้งแต่เมื่อใด เพีย พี งปรากฏชื่อวัดครั้งแรกในพงษวดารสมเด็จกรม พระยาดำ รงราชานุภาพที่เล่าถึงเหตุการณ์ร.5 มาจอดเทียบท่าวัด โกรกกราก

One Day Trip : ไหว้พว้ระ จังจัหวัดวัสมุทรสาคร 2 แต่สิ่งที่น่าสนใจและเป็นไฮไลท์ของ วัดโกรกกราก เลยก็คือ คื พระประธานในอุโบสถ ที่สวมแว่นดำ โดยจะเป็นพระพุทธรูปศิลา แลงปางมารวิชัย อายุกว่า 100 ปี ที่สวมแว่นดำ ซึ่งมีคมีวามเชื่อกันว่า เคยมีผู้มี ผู้ ม ผู้ าบนบานให้อาการบาดเจ็บที่ดวงตาหายขาด แล้วล้จึงจึถวาย แว่นดำ เป็นการแก้บ ก้ นนั่นเองค่ะ องค์พระพุทธรูปเลยสวมแว่นไว้ ตลอดนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาค่ะ ทำ ให้จากนั้นก็มีแ มี ต่คนนิยมนำ แว่นตา ดำ มาถวายกัน

One Day Trip : ไหว้พว้ระ จังจัหวัดวัสมุทรสาคร 2. วัดโคกขาม 3 วัดโคกขาม ติดคลองโคกขาม เขต อ.เมือมื ง จ.สมุทรสาคร วัด โคกขามเป็นวัดเงีย งี บสงบเก่าแก่มีม มี าตั้งแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยาเป็น ราชธานีสร้างขึ้นมาในปี พ.ศ. 2222 เมื่อครั้งก่อนบริเวณนี้มีป่มีป่ า ไม้อุม้ อุ ดมสมบูรณ์ ชาวบ้านพายเรือ รื แจวเรือ รื มาทำ บุญที่วัดนี้และทุก วันี้ริมคลองโคกขามยังคงมีบ้ มี บ้ านเรือ รื นอยู่บ้าง แต่ส่วนใหญ่การเดิน ทางจะเป็นทางบกเมื่อความเจริญเข้า ข้ มาตามถนนหนทางเชื่อม ติดต่อกัน

One Day Trip : ไหว้พว้ระ จังจัหวัดวัสมุทรสาคร 4 สำ หรับวัดโคกขามชาวบ้านมาทำ บุญและกราบบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ภายในโบสถ์มหาอุตม์ประดิษฐานพระพุทธรูปทั้ง 4 ทิศ ด้านหน้าใน โบสถ์มหาอุตม์ประดิษฐานองค์พระพุทธสิหิงค์พระพุทธรูปโบราณ ตามพุทธลักษณะแบบลังกาคือ คื อวบอ้วน พระพักตร์ดูกลม ห่มจีว จี ร ดอง ปางมารวิชัย ขัดสมาธิเพชรน่าจะเป็นสมัยทวารวดี หลวงพ่อพระพุทธสิหิงค์ มีเ มีรื่องเล่าขานกันว่า มีผู้มี ผู้ อั ผู้อัญเชิญมาจาก เมือมืนครศรีธรรมราชแล้วล้เก็บซ่อนเอาไว้น ว้ านแสนนานถึง 200 ปี ต่อมา ทางวัดโคกขาม ได้อัญเชิญออกมาเพื่อให้ญาติโยมกราบบูชาและขอพร แล้วล้ ได้สมความปรารถนาจึงจึเรียกหลวงสัมฤทธิ์และด้วยความเชื่อสืบต่อ กันมาองค์พระพุทธสิหิงค์องค์นี้น่าจะเป็นองค์ที่ 4 ของสยามประเทศ

One Day Trip : ไหว้พว้ระ จังจัหวัดวัสมุทรสาคร 3. ศาลพันท้ายนรสิงห์ 5 พันท้ายนรสิงห์ นั้นเป็นนายท้ายเรือ รื พระที่นั่งเอกไชยอยู่ในรัช สมัยสมเด็จพระเจ้า จ้ เสือ ได้รับยกย่องว่าเป็นผู้มี ผู้ คมีวามซื่อสัตย์สุจริต จงรักภักดีและรักษาระเบียบวินัยยิ่งชีวิตวันหนึ่งสมเด็จพระเจ้า จ้ เสือ ประพาสปากน้ำ สาครบุรีเพื่อทรงเบ็ดด้วยเรือ รื พระที่นั่งเอกไชยมีพั มี พัน ท้ายนรสิงห์เป็นนายท้ายเมื่อเรือ รื พระที่นั่งไปถึงตำ บลโคกขามคลอง บริเวณดังกล่าวมีคมีวามคดเคี้ยวมาก พันท้ายนรสิงห์พยายามคัดท้าย เรือ รื พระที่นั่งอย่างระมัดระวังแต่ไม่อาจหลบเลี่ยงอุบัติเหตุได้หัวเรือ รื พระที่นั่งชนกิ่งไม้ใม้ หญ่หักตกลงไปในน้ำ ความผิดครั้งนี้ถึงประหาร ชีวิต

One Day Trip : ไหว้พว้ระ จังจัหวัดวัสมุทรสาคร 6 ตามโบราณราชประเพณี พันท้ายนรสิงห์จึงจึกราบทูลพระ กรุณาน้อมรับโทษตามพระราช ประเพณี สมเด็จพระเจ้า จ้ เสือทรง พิจารณาเห็นว่าอุบัติเหตุครั้งนี้เป็นการสุดวิสัยมิใช่ความประมาท จึงจึพระราชทานอภัยโทษให้ แต่พันท้ายนรสิงห์กราบบังคมยืนยื ยันขอ ให้ตัดศรีษะตนเพื่อรักษาขนบธรรมเนียมในพระราชกำ หนด กฎหมาย เป็นการป้องกันมิให้ผู้ใผู้ ดครหาติเตียนพระเจ้า จ้ อยู่หัวได้ว่า ทรงละเลยพระราชกำ หนดของแผ่นดินและเพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่าง สืบไป

One Day Trip : ไหว้พว้ระ จังจัหวัดวัสมุทรสาคร 4. วัดสุทธิวาตวราราม 7 ตั้งอยู่ตรงปากอ่าวสมุทรสาคร ตำ บลท่าฉลอม ตรงข้า ข้ มกับตัว เมือมื ง เดินทางโดยทางหลวงหมายเลข 35 เลี้ยวซ้ายบริเวณกิโลเมตร ที่ 35 เข้า ข้ ถนนสุทธิวาตวิถีประมาณ 3 กิโลเมตร ที่นี่คือ คื วัดสำ คัญคู่ บ้านคู่เมือมื งสมุทรสาครที่มีอมีายุเกือกื บ 200 ปี ซึ่งพระบาทสมเด็ พระเจ้า จ้ อยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าล้ฯ พระราชทานพระบรมราชานุ ญาตยกวัดช่องลมเป็นพระอารามหลวงเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2508 ปัจจุบันไม่เพีย พี งเป็นวัดพัฒนาตัวอย่างเท่านั้น หากทำ เลที่ตั้ง ของวัดยังเป็นจุดชมทัศนียภาพปากอ่าวอัoสวยงามซึ่งมาพร้อมกับ บรรยากาศเย็นสบายจากสายลมที่พัดผ่านตลอดทั้งวัน น่าชม พระบรม รูปของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าล้เจ้า จ้ อยู่หัวรัชกาลที่ 5

One Day Trip : ไหว้พว้ระ จังจัหวัดวัสมุทรสาคร 8 หลวงพ่อหินแดง พระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดใหญ่ที่มี ศิลปะสมัยอยุธยาตอนปลาย ซึ่งสร้างจากศิลาแลงทั้งองค์และ ประดิษฐาน อยู่ในโบสถ์ โดยมีลั มีลักษณะพิเศษอยู่ที่พระหัตถ์ข้า ข้ งซ้ายมี 6 นิ้ว จึงจึ เป็นที่มาของชื่อ "หลวงพ่อหินแดง 11 นิ้ว" นั่นเอง

One Day Trip : ไหว้พว้ระ จังจัหวัดวัสมุทรสาคร 5. วัดใหญ่จอมปราสาท 9 ตั้งอยู่ที่ตำ บลท่าจีน จี ห่างจากตัวจังหวัด 4 กิโลเมตร สามารถ เดินทางตามทางหลวง หมายเลข 35 (ถนนธนบุรี-ปากท่อ) บริเวณ กิโลเมตรที่ 31 เชิงสะพานท่าจีน จี เป็นวัดเก่าแก่มีอมีายุประมาณ 400 ปี วัดที่มีอมีายุเก่าแก่กว่า 400 ปีแห่งนี้ สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นมาตั้งแต่ สมัยกรุงศรีอยุธยา เดิมทีชาวบ้านเรียกว่า "วัดใหญ่" บ้าง "วัดจอม ปราสาท" บ้าง หรือ รื "วัดใหญ่จอมปราสาท" บ้าง ต่อมารัชกาลที่ 5 ได้ พระราชทานนามเสียใหม่ว่า "วัดสาครบุรี" พร้อมกับพระราชทานพระ ไตรปิฎกบรรจุตู้ละจบจำ นวน 39 เล่ม

One Day Trip : ไหว้พว้ระ จังจัหวัดวัสมุทรสาคร 10 ในฐานะที่วัดนี้เป็นพระอารามหลวงนั่นเอง พระอุโบสถ มี จุดเด่นอยู่ที่บานประตูไม้ที่ ม้ ที่แกะสลักลึกเข้า ข้ไปในเนื้อไม้ถึม้ถึง 4 ชั้น ทำ ให้มี ลักษณะเหมือมืนภาพสามมิติและด้วยรายละเอียดอันวิจิตรงดงามและ ฝีมือมื เชิงช่างที่หาตัวจับยาก กรมศิลปากรจึงจึได้ ขึ้นทะเบียนให้เป็น ศิลปวัตถุของชาติเมื่อปี พ.ศ. 2505 โดยบานประตูบานหนึ่งแกะเป็น ลวดลายเถา ดอกไม้ ใบไม้ สัตว์ต่าง ๆ ส่วนอีกบานแกะสลักเป็นรูป ป่าสนจีน จี คล้าล้ยต้นจากและต้นมะพร้าว พระวิหารเก่าซึ่งสันนิษฐานว่า สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาแม้ปัม้ปัจจุบันมีสมี ภาพปรักหักพัง แต่ภายใน ก็ยังมีคมีวามงามให้เห็นผ่านซุ้มประตูหน้าต่างที่เป็นซุ้มหน้านางซึ่ง ประดับลวดลายปูนปั้น ศาลาการเปรียญมีห มีน้าบันไม้แ ม้ กะสลักลวดลาย ก้าก้นขดและพุ่มข้า ข้ วบิณฑ์ที่มีคมีวามงดงาม ยากจะหาใดเปรียบ

One Day Trip : ไหว้พว้ระ จังจัหวัดวัสมุทรสาคร 6. วัดท่าไม้ 11 วัดท่าไม้ ตั้งอยู่ที่ อำ เภอกระทุ่มแบน จังหวัด สมุทรสาคร เป็นวัดดัง ที่เที่ยว ใกล้ก ล้รุงเทพฯ ที่หลายคนน่าจะรู้จักกันเป็นอย่างดี เมื่อก่อนนั้นวัดท่าไม้เ ม้ป็นแค่เพีย พี งสำ นักสงฆ์ที่ชื่อว่า โพธิ์ธรรมรังษี ก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2520 โดยพระภิกษุยอด อุปติสฺโส จากวัดหนอง พันท้าว จังหวัดกาญจนบุรี โดยท่านได้ตั้งสถานปฏิบัติธรรมนี้ขึ้นมา

One Day Trip : ไหว้พว้ระ จังจัหวัดวัสมุทรสาคร 12 จนประชาชนเกิดความศรัทธา และให้ความเคารพเลื่อ ลื่ มใส จน มีก มีารสนับสนุน ให้สร้างเป็นวัดเรื่อยมาค่ะ ต่อมาพระภิกษุ ยอด ได้ ติดต่อขอซื้อที่ดิน 4 ไร่ และรับบริจาคอีก 2 ไร่ เพื่อสร้างศาลา อเนกประสงค์ กุฏิเจ้า จ้ อาวาส ศาลาท่าน้ำ บ่อน้ำ บาดาล และอื่นๆ จาก นั้น ท่านพระครูธรรมรัตน์ เจ้า จ้คณะตำ บลท่าไม้ ได้เห็นว่าวัดทรุด โทรม เลยส่งพระประสิทธิ์ กิตฺติภทฺโท จากวัดนางสาว ไปเป็นผู้ดู ผู้ ดู แล ในปี พ.ศ. 2527 และได้รับอนุญาตให้ตั้งเป็นวัดท่าไม้ เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2532

One Day Trip : ไหว้พว้ระ จังจัหวัดวัสมุทรสาคร 7. วัดหลักสี่ราษฎร์สโมสร 13 วัดหลักสี่ราษฎร์สโมสร ตั้งอยู่ ริมคลองดำ เนินสะดวก อำ เภอบ้านแพ้ว พ้ จังหวัดสมุทรสาคร ไฮไลท์ของวัดนี้คือ คื มีห มี ลวงพ่อ โต วัดหลักสี่ที่เป็นพระพุทธรูปโบราณสมัยอู่ทอง เนื้อหินทรายแดง ฉาบปูน ปางมารวิชัย พระพักตร์จะเอิบอิ่ม ยิ้มละไม หน้าตักกว้า ว้ ง 81 นิ้ว สูง 99 นิ้ว นอกจากนี้ก็จะมี อุทยานหลวงพ่อโตมหายาน ดูเป็น สไตล์แบบจีน จี ที่ประดิษฐานอยู่กลางถ้ำ ภูเขา หน้าผาจำ ลองอีกด้วย ยิ่ง ใหญ่อลังการอย่างมาก

One Day Trip : ไหว้พว้ระ จังจัหวัดวัสมุทรสาคร 14 มีเ มีรื่องเล่าว่า หลวงพ่อแฟง เจ้า จ้ อาวาสวัดดอนมโนราที่ ราชบุรี ซึ่งเป็นศิษย์เอกหลวงพ่อคงวัดบางกะพ้อ พ้ มเกจิชื่อดังในสมัย นั้น ได้เดินทางไปพบที่วัดร้างแห่งหนึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำ แม่กลองของ สมุทรสงคราม เมื่อตรวจด้วยทางในแล้วล้ พบว่ามีคมีวามศักดิ์สิทธิ์มาก เลยทำ พิธีอัญเชิญมาประดิษฐานยังวัดดอนมโนรา แต่ต่อมาในปี พ.ศ.2470 หลวงพ่อแฟงได้ย้า ย้ ยมาดำ รง ตำ แหน่งเจ้า จ้ อาวาส วัดหลักสี่ จึงจึได้อัญเชิญพระพุทธรูปโบราณดัง กล่าวมาประดิษฐานในวิหารหลังคามุงจากหน้าวัดหลักสี่บริเวณริม คลองดำ เนินสะดวก และชาวบ้านคงเห็นว่าเป็นพระพุทธรูปองค์แรก และองค์โตที่สุดในลุ่มน้ำ คลองดำ เนินสะดวก เลยพากันขนานนามว่า หลวงพ่อโตวัดหลักสี่ ตั้งแต่นั้นมานั่นเอง

One Day Trip : ไหว้พว้ระ จังจัหวัดวัสมุทรสาคร 8. วัดใหญ่บ้านบ่อ 15 วัดใหญ่บ้านบ่อ วัดเก่าแก่โบราณ ที่ตั้งอยู่ใน ตำ บลบ้านบ่อ อำ เภอเมือมื ง จังหวัดสมุทรสาคร โดยภายในวัดจะมีทั้ มีทั้ง โบสถ์เก่า อาคารเก่า และพระพุทธรูปก่าแก่มากมายเก็บเอาไว้ โดยตัวโบสถ์ นั้น จะมีอมีายุเก่าแก่มากกว่า 300 ปีเลยทีเดียว ดูได้จากการใช้เสาไม้ ต้นใหญ่ กำ แพงก็ยังเป็นอิฐมอญ เพดานก็เป็นไม้ มีสมี ภาพทรุดโทรม ตามกาลเวลาอย่างมาก ซึ่งภายในจะมีพ มี ระพุทธรูปเก่าแก่มากมายอีก ด้วย ไม่ว่าจะเป็น หลวงพ่อพระประธานที่สวยงดงาม และมีพ มี ระมหา โมคคัลลานะ พระปัญจวัคคีย์ คีย์5 องค์อีกเช่นกันค่ะ นอกจากนั้นยังมี หลวงพ่อป่าเลไลย์ อยู่หน้าอุโบสถด้วย ซึ่งวัดนี้ถือได้ว่าเป็น ศูนย์กลางของชุมชนเลยค่ะ โดยมีคมีวามสำ ศัญมาตั้งแต่ในสมัยกรุง ศรีอยุธยาแล้วล้

One Day Trip : ไหว้พว้ระ จังจัหวัดวัสมุทรสาคร 16 ตามประวัติที่เกี่ยวข้อ ข้ งกับ วัดใหญ่บ้านบ่อนี้ น่าจะสร้างขึ้นใน ราวๆ ปี พ.ศ. 2269 ซึ่งเมื่อก่อนนั้นกุฎิสงฆ์จะตั้งอยู่ริมฝั่งคลองสุนัข หอน แต่ตลิ่งพังเลยต้องย้า ย้ ยเสนาสนะต่างๆ ไปปลูกห่างจากที่ตั้งเดิมค่ะ นอกจากนั้นวัดนี้ยังมีคมีวามสำ คัญเกี่ยวข้อ ข้ งกับ ตำ บลบ้านบ่อ อีกด้วย คือ คื ถูกกล่าวถึงในนิราศหลายเรื่องด้วยกัน เพราะตำ บลนี้เป็นเส้นทางน้ำ ที่ สำ คันั่นเองค่ะ ทำ ให้ใช้เป็นเส้นทางคมนาคมติดต่อระหว่าง สมุทรสาค สมุทรสงคราม และ ราชบุรี มาตั้งแต่ในอดีตเช่นกัน

One Day Trip : ไหว้พว้ระ จังจัหวัดวัสมุทรสาคร 9. วัดธรรมจริยาภิรมย์ 17 วัดธรรมจริยาภิรมย์หรือ รื แต่เดิมชื่อวัดใหม่มธุรส ตั้งอยู่ริม คลองดำ เนินสะดวกตำ บลหลักสามอำ เภอบ้านแพ้ว พ้ จังหวัด สมุทรสาคร ผมขอเริ่มต้นก่อนจะสร้างวัดนี้ในปี พ.ศ. 2444 ตรง กับสมัยรัชกาลที่ 5 ครั้งนั้นมีกำ มีกำ นันเอียงพร้อมด้วยชาวบ้านในตำ บล หลักสามเดินทางไปวัดคฤหบดี เขตตลิ่งชันสมัยนั้นคือ คื จังหวัดธนบุรี กำ นันเอียงและชาวบ้านได้ปรึกษากับท่านพระครูธรรมจริยา เจ้า จ้ อาวาสวัดคฤหบดีเมื่อลงความเห็นกันแล้วล้ ก็เดินทางกลับมาดำ เนิน การจัดสร้างวัดขึ้นมาโดยร่วมกันซื้อที่ดินประมาณ 44 ไร่

One Day Trip : ไหว้พว้ระ จังจัหวัดวัสมุทรสาคร 18 เมื่อครั้งกระนั้นคือ คื อำ เภอบ้านบ่อแล้วล้ต่อมาจึงจึ เปลี่ยนเป็นอำ เภอบ้านแพ้ว พ้ ชาวบ้านตำ บลหลัก สามเริ่มสร้างวัดด้วยกุฏิพระสงฆ์เล็ก ๆ หลังคา มุงด้วยจากยังไม่แล้วล้เสร็จสมบูรณ์เรียกชื่อ วัดใหม่มธุรส และต่อมานายทิม ศรีนิเวศน์เป็นผู้มี ผู้ เ มี งินทองในย่าน หลักสามได้พาบุตรชายชื่อห่วงไปบวชเป็นพระภิกษุสงฆ์กับพระครู ธรรมจริยา ณ พัทธสีมา วัดคฤหบดี เขตตลิ่งชัน จังหวัดธนบุรี เมื่อ พระภิกษุห่วงบวชเป็นพระสงฆ์แล้วล้ ต่อมาท่านพระครูธรรมจริยา มอบหมายให้พระภิกษุห่วงกลับมาดูแลวัดที่บ้านเกิดและก็ร่วมกัน พัฒนาวัดนี้แล้วล้ ท่านพระครูธรรมจริยาได้เปลี่ยนชื่อจากวัดใหม่ มธุรสมาเป็นชื่อ วัดธรรมจริยา เป็นนามของท่านและเติมสร้อยท้าย ว่าภิรมย์มีคมีวามหมายว่า “ยินดียิ่ง”

One Day Trip : ไหว้พว้ระ จังจัหวัดวัสมุทรสาคร 10. วัดนางสาว 19 เดิมทีเป็นวัดร้างซึ่งเชื่อว่ามีม มี าตั้งแต่ครั้งอาณาจักรกรุง ศรีอยุธยาเป็นราชธานี ครั้งนั้นคือ คื เขตเมือมื งสาครบุรี เพราะในปี พ.ศ. 2099 สมัยแผ่นดินสมเด็จพระมหาจักรพรรดิได้เสด็จ พระราชดำ เนินไปปากน้ำ หรือ รื ต่อมาเรียก "แม่น้ำ ท่าจีน จี " ซึ่งเป็น ท่าเรือ รื ขนส่งสินค้า ค้ปรากฎว่ากลายเป็นชุมชนชาวจีน จี ที่มากับเรือ รืสินค้า ค้ จึงจึทรงโปรดฯ ให้ยกขึ้นเป็นเมือมื งสาครบุรีตั้งแต่บัดนั้นมาซึ้งคล้าล้ย ๆ เมือมื งหน้าด่านถ้าหากเกิดศึกสงครามสามารถส่งข่าวไปถึงกรุง ศรีอยุธยาได้อย่างทันท่วงที สำ หรับเมือมื งสาครบุรีเข้า ข้ มาสมัยพระบาท สมเด็จพระจอมเกล้าล้เจ้า จ้ อยู่ หัวแห่งกรุงรัตนโกสินทร์พระองค์ท่าน ทรงโปรดฯ ให้เป็นเมือมื งสมุทรสาครและต่อมาเข้า ข้ มาสมัยพระบาท สมเด็จพระมงกุฎเกล้าล้เจ้า จ้ อยู่หัวแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ มีก มีารจัดระบบ ราชการแผ่นดินขึ้นใหม่จึงจึทรงโปรดฯ เอาคำ ว่าเมือมื งออกและตั้งให้ เป็น "จังหวัดสมุทรสาคร" ถึงทุกวันนี้

One Day Trip : ไหว้พว้ระ จังจัหวัดวัสมุทรสาคร 20 บริเวณ "วัดนางสาว" ซึ่งเป็นวัดร้างแห่งนี้เมื่อครั้งอาณาจักร กรุงศรีอยุธยามีก มีองกำ ลังของทหารพม่ามาตั้งทัพบริเวณนี้ก็เลยทำ ให้ ชาวบ้านต้องหนีภัยสงครามเข้า ข้ มาหลบซ่อนตัวกันอยู่ในโบสถ์มหาอุตม์ โดยมี 2 สาวเป็นพี่สาวกับน้องสาวตั้งจิตอธิษฐานต่อหน้าองค์ พระพุทธในโบสถ์มหาอุตม์ถ้าปลอดภัยจากกองกำ ลังทหารพม่าจะ สร้างวัดถวาย ด้วยเหตุผลนี้ทุกคนปลอดภัยทั้งหมด ต่อมาพี่สาวจึงจึ สร้างวัดถวายชื่อ "วัดกกเตย" สำ หรับน้องสาวก็บูรณะวัดร้างที่หลบ ซ่อนตัวแล้วล้ให้ชื่อว่า "วัดพรหมจารีราม" แต่ชาวบ้านในย่านนี้จะเรียก "วัดน้องสาว" แล้วล้ ก็เพี้ยนมาเป็น "วัดนางสาว" ถึงทุกวันนี้ส่วนวัดกก เตยไม่มีแ มี ล้สัล้สันนิษฐานกันเองว่าคงพังทลายลงแม่น้ำ ท่าจีน จี หายไปแล้วล้

แหล่งข้อ ข้ มูลจากเว็ปไซต์ www.travel.trueid.net/detail/639D5knJrD7K www.travel.trueid.net/detail/nlM55Pw2xQNl www.travel.trueid.net/detail/8JNKGyYddE8 www.touronthai.com/article/2243 www.travel.trueid.net/detail/K5gXajnW0nYB www.travel.trueid.net/detail/D5nXAkoVQ7la www.travel.trueid.net/detail/wbp3r55q53KV www.travel.trueid.net/detail/vlGbwaxEL7Ng www.travel.trueid.net/detail/YzdAAgLLV04a www.travel.trueid.net/detail/b9gaa3B2ynno บรรณานุกรม 21

จัดทำ โดย 21 นายศุภเมธา งอปรทีป รหัสประจำ ตัว 6204600095