สื่อพฒั นาความรเู้ รอื่ ง
............”...แ...น....ว...ค....ดิ....แ....ล....ะ..ห...ล....ัก....ก....า..ร.....
พัฒนาชุมชน”
การพฒั นาชุมชน (Community Development) หมายถงึ การทาให้ การพฒั นาชุมชนท้องถนิ่ จงึ เป็ นกระบวนการดาเนินงาน
ชุมชนมกี ารเปลยี่ นแปลงไปในทางที่ดขี นึ้ หรือเจริญขนึ้ ท้ังในด้านการเมือง ท่ีก่อให้เกดิ การเปลยี่ นแปลงของชุมชนท้องถนิ่ ในทางทดี่ ขี นึ้ เจริญ
เศรษฐกจิ สังคม และวฒั นธรรม ตลอดจนการยกระดบั คุณภาพชีวติ ของ รุ่งเรืองขนึ้ ในทุก ๆด้าน ท้งั ด้านเศรษฐกจิ สังคม การเมือง และสิ่งแวดล้อม
ประชาชนในชุมชนให้ดขี นึ้ ประชาชนในชุมชนน้ัน ๆ ร่วมกนั วางแผนและลงมือ รวมท้ังสามารถจดั การกบั ภาวการณ์ของกระแสโลกาภวิ ตั น์เพื่อให้สามารถ
กระทาเอง กาหนดว่ากลุ่มของตนและของแต่ละคนต้องการ และมปี ัญหาอะไร พง่ึ ตนเองได้ (self-reliance) หรือช่วยตนเองได้ (relf-help)ในการคดิ ตดั สินใจ
เพื่อให้ได้มาในส่ิงทต่ี ้องการและสามารถแก้ไขปัญหาน้ัน โดยใช้ทรัพยากรในชุมชน และดาเนินการแก้ไขปัญหา ตลอดจนตอบสนองความต้องการของตนเองและ
ให้มากทส่ี ุด ถ้าจาเป็ นอาจขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลและองค์กรต่าง ๆ ส่ วนรวม
สนับสนุน
ดงั น้ัน ชุมชนท้องถน่ิ จะพฒั นาได้หรือไม่ และดาเนินไปในทิศทาง จงึ
ดงั น้ัน เมื่อนาคาว่า “การพฒั นา” รวมกบั “ชุมชน” ต้องมีองค์ประกอบของแนวคดิ พืน้ ฐานการพฒั นาชุมชน หลกั การ
แล้วกจ็ ะได้ความหมายว่า การพฒั นาชุมชน กค็ ือ พฒั นาชุมชน และการดาเนินงานพฒั นาชุมชน รวมท้งั การปรับตวั ให้
การเปลย่ี นแปลงชุมชนให้ดขี นึ้ หรือให้เจริญขนึ้ ในทุก ๆ ทันต่อภาวการณ์เปลย่ี นแปลงทางเศรษฐกจิ สังคม การเมือง และ
ด้านน่ันเอง นั่นคือจะต้องพฒั นาคน กลุ่มชน ส่ิงแวดล้อมทาง ส่ิงแวดล้อม
วตั ถุหรือสาธารณ สมบัติ และพฒั นาทางด้านเศรษฐกจิ และสังคมเพ่ือ
ให้บังเกดิ ผลดแี ก่ประเทศชาตโิ ดยส่วนรวม
ปรัชญาข้นั มูลฐานของงานพฒั นาชุมชน 1.การมีส่วนร่วมของประชาชน (People Participation) เป็นหวั ใจของการ
ปรัชญาข้นั มูลฐานของงานพฒั นาชุมชน สรุปไดด้ งั น้ี พฒั นาชุมชนโดยยดึ หลกั ของการมีส่วนร่วมที่วา่ ประชาชนมีส่วนร่วมในการคิด
1.บุคคลแต่ละคนยอ่ มมีความสาคญั และมีความเป็นเอกลกั ษณ์ที่ไม่เหมือนกนั ตดั สินใจ วางแผนการปฏิบตั ิการ ร่วมบารุงรักษา ติดตามและประเมินผล
จึงมีสิทธิอนั พึงไดร้ ับการปฏิบตั ิดว้ ยความยตุ ิธรรม และอยา่ งบุคคลมีเกียรติใน 2.การช่วยเหลือตนเอง (Aide Self-Help) เป็นแนวทางในการพฒั นาที่ยดึ เป็น
หลกั การสาคญั ประการหน่ึง คือ ตอ้ งพฒั นาให้ประชาชนพ่งึ ตนเองไดม้ ากข้ึน
ฐานะที่เป็นมนุษยป์ ุถุชนผหู้ น่ึง โดยมีรัฐคอยใหก้ ารช่วยเหลือสนบั สนุน ในส่วนท่ีเกินขีดความสามารถของ
2.บุคคลแต่ละคนยอ่ มมีสิทธิ และสามารถท่ีจะกาหนดวิธีการดารงชีวิตของตน ประชาชนตามโอกาสและหลกั เกณฑท์ ี่เหมาะสม
3.ความคดิ ริเร่ิมของประชาชน (Initiative) ในการทางานกบั ประชาชนตอ้ งยดึ
ไปในทิศทางที่ตนตอ้ งการ หลกั การที่วา่ ความคิดริเริ่มตอ้ งมาจากประชาชน ซ่ึงตอ้ งใชว้ ถิ ีแห่งประชาธิปไตย
3.บุคคลแต่ละคนถา้ หากมีโอกาสแลว้ ยอ่ มมีความสามารถท่ีจะเรียนรู้ และหาโอกาสกระตุน้ ใหก้ ารศึกษา ใหป้ ระชาชนเกิดความคิด และแสดงออกซ่ึง
ความคิดเห็นอนั เป็นประโยชนต์ ่อหมู่บา้ น ตาบล
เปล่ียนแปลงทศั นะ ประพฤติปฏิบตั ิและพฒั นาขีดความสามารถใหม้ ีความ 4.ความต้องการของชุมชน (Felt-Needs) ในการพฒั นาชุมชนตอ้ งใหป้ ระชาชน
รับผดิ ชอบต่อสงั คมสูงข้ึนได้ และองคก์ รประชาชนคิด และตดั สินใจบนพ้ืนฐานความตอ้ งการของชุมชนเอง
4.มนุษยท์ ุกคนมีพลงั ในเร่ืองความคิดริเริ่ม ความเป็นผนู้ าและความคิดใหม่ ๆ เพื่อใหเ้ กิดความคิดท่ีวา่ งานเป็นของประชาชน และจะช่วยกนั ดูแลรักษาต่อไป
ซ่ึงซ่อนเร้นอยแู่ ละพลงั ความสามารถเหล่าน้ีสามารถเจริญเติบโตและนา 5.การศึกษาภาคชีวติ (Life-Long Education) ในการทางานพฒั นาชุมชน ถือ
ออกมาใชไ้ ด้ ถา้ พลงั ที่ซ่อนเร้นเหล่าน้ีไดร้ ับการพฒั นา เป็นกระบวนการใหก้ ารศึกษาภาคชีวิตแก่ประชาชนเพือ่ นาไปสู่การพฒั นาคน
5.การพฒั นาพลงั และขีดความสามารถของชุมชนในทุกดา้ นเป็นสิ่งที่พงึ การใหก้ ารศึกษาตอ้ งใหก้ ารศึกษาอยา่ งต่อเนื่องกนั ไปตราบเท่าท่ีบุคคลยงั
ปรารถนาและมีความสาคญั ยง่ิ ต่อชีวิตของบุคคล ชุมชน และรัฐ
แนวคิดพ้ืนฐานของการพฒั นาชุมชน ดารงชีวิตอยใู่ นชุมชน
การศึกษาแนวคิดพ้ืนฐานของงานพฒั นาชุมชน เป็นสิ่งสาคญั ที่จะทาให้
เจา้ หนา้ ที่หรือนกั พฒั นาไดล้ งไปทางานกบั ประชาชนไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง และทา
ใหง้ านมีประสิทธิภาพ ซ่ึงแนวคิดพ้ืนฐานงานพฒั นาชุมชน มีดงั น้ี
หลกั การพฒั นาชุมชน สรุปได้ว่า การพฒั นาชุมชนเป็นกระบวนการที่จะพยายามเปลี่ยนแปลง
จากปรัชญาและแนวคิดพ้ืนฐานของการพฒั นาชุมชนไดน้ ามาใชเ้ ป็น ความคิด ทศั นคติและพฤติกรรมของประชาชนในชุมชนใหด้ ีข้ึนกวา่ เดิม โดย
หลกั การพฒั นาชุมชนซ่ึงนกั พฒั นาตอ้ งยดึ เป็นแนวทางปฏิบตั ิมีดงั น้ี ร่วมมือกนั พฒั นาใหช้ ุมชนของตนเองเป็นชุมชนที่ดี สร้างความรู้สึกรักและ
1.หลกั ความมีศักด์ศิ รี และศักยภาพของประชาชน และเปิ ดโอกาสให้ ผกู พนั ต่อชุมชนตนเอง เป้าหมายสาคญั ของการพฒั นาชุมชนจึงมุ่งไปยงั
ประชาชนใชศ้ กั ยภาพท่ีมีอยใู่ หม้ ากที่สุด จึงตอ้ งใหโ้ อกาสประชาชนใน ประชาชน โดยผา่ นกระบวนการใหก้ ารศึกษาแก่ประชาชนและกระบวนการ
การคิดวางแผนเพ่ือแกป้ ัญหาชุมชนดว้ ยตวั ของเขาเอง นกั พฒั นาควรเป็นผู้ รวมกลุ่มเป็นสาคญั เพราะพลงั สาคญั ที่จะบนั ดาลใหก้ ารพฒั นาบรรลุผลสาเร็จ
กระตุน้ แนะนา ส่งเสริม น้นั อยทู่ ี่ตวั ประชาชน
2.หลกั การพง่ึ ตนเองของประชาชน ตอ้ งสนบั สนุนใหป้ ระชาชนพ่ึงตนเอง
ได้ โดยการสร้างพลงั ชุมชนเพื่อพฒั นาชุมชน ส่วนรัฐบาลจะช่วยเหลือ
สนบั สนุนอยเู่ บ้ืองหลงั และช่วยเหลือในส่วนท่ีเกินความสามารถของ
ประชาชน
3. หลกั การมีส่วนร่วมของประชาชน เป็นการเปิ ดโอกาสใหป้ ระชาชนร่วม
คิด ตดั สินใจ วางแผน ปฏิบตั ิตามแผน และติดตามประเมินผลในกิจกรรม
หรือโครงการใด ๆ ท่ีจะทาในชุมชน เพื่อใหป้ ระชาชนไดม้ ีส่วนร่วมอยา่ ง
แทจ้ ริงในการดาเนินงาน อนั เป็นการปลูกฝังจิตสานึกในเรื่องความเป็น
เจา้ ของโครงการ หรือกิจกรรม
4.หลกั ประชาธิปไตย ในการทางานพฒั นาชุมชนจะตอ้ งเริ่มดว้ ยการพดู คุย
ประชุมหารือร่วมกนั คิด ร่วมกนั ตดั สินใจ และทาร่วมกนั รวมถึง
รับผดิ ชอบร่วมกนั ภายใตค้ วามช่วยเหลือซ่ึงกนั และกนั ตามวิถีทางแห่ง
ประชาธิปไตย
Thank you