ประวตั ิชมุ ชนตาํ บลพรพุ ี
อาํ เภอบา้ นนาสาร จงั หวดั สรุ าษฎรธ์ านี
วศิ วกรสังคมตาํ บลพรุพี เรียบเรียง
คาํ นํา
หนงั สอื เล่มน-ีเป็นสว่ นหน2ึงของโครงการยกระดบั เศรษฐกจิ และสงั คมรายตําบลแบบ
บรู ณาการ (๑ ตาํ บล ๑ มหาวทิ ยาลยั ) มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั สรุ าษฎรธ์ านี จดั ทาํ ขน-ึ เพอ2ื นํา
องคค์ วามรแู้ ละประวตั ขิ องชุมชน ตําบลพรุพี อําเภอบา้ นนาสาร จงั หวดั สุราษฎรธ์ านี ไป
ใชใ้ นการศกึ ษาและดําเนินโครงการตามทว2ี ศิ วกรสงั คมตําบลพรุพี และอาจารยท์ ป2ี รกึ ษา
โครงการไดว้ างแผนมานนั- ไดร้ บั ความรว่ มมอื จากชาวบา้ นทอ2ี าศยั อยภู่ ายในชมุ ชนและผทู้ 2ี
เกย2ี วขอ้ งเป็นอยา่ งดี จงึ ทาํ ใหส้ ามารถดาํ เนินการจนประสบความสาํ เรจ็ ลลุ ว่ งไปไดด้ ว้ ยดี
ผูจ้ ดั ทําหวงั เป็นอย่างยง2ิ ว่า หนังสอื เล่มน-ีจะเป็นประโยชน์ต่อผูท้ 2สี นใจไม่มากก็
น้อย โดยข-นึ อยู่กบั ความสนใจของแต่ละบุคคลด้วย หากมขี อ้ ผดิ พลาดประการใดคณะ
ผจู้ ดั ทาํ ขอน้อมรบั ไวแ้ ละขออภยั ณ ทน2ี -ีดว้ ย
คณะผจู้ ดั ทาํ
สารบญั เนื8อหา ๒
๗
ส่วนที' ๑ ข้อมลู ๙
ประวตั คิ วามเป็นมาของตาํ บลพรพุ ี ๑๑
ขนาดทต2ี งั- ของตาํ บลพรพุ ี ๑๒
ทรพั ยากรธรรมชาตทิ ส2ี าํ คญั ๑๔
ลกั ษณะภมู ปิ ระเทศและลกั ษณะภมู อิ ากาศ ๑๕
การคมนาคม ๑๖
๒๓
ส่วนท'ี ๒ โครงสร้างของชมุ ชน ๒๕
ดา้ นการเมอื งการปกครอง ๒๙
ขอ้ มลู ประชากร
ดา้ นการศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม ๓๑
ส่วนท'ี ๓ โครงสรา้ งเศรษฐกิจและอาชีพ
อาชพี
ส่วนท'ี ๔ สถานท'ีสาํ คญั
แหลง่ ทอ่ งเทย2ี ว
ส่วนท'ี ๕ การเปล'ียนแปลงทางสงั คมและวฒั นธรรม
การเปลย2ี นแปลงทางสงั คมและวฒั นธรรม
ส่วนท'ี ๖ การดาํ เนินงานโครงการยกระดบั เศรษฐกิจ
และสงั คมรายตาํ บลแบบบรู ณาการ
แบบฟอรม์ รายละเอยี ดการดาํ เนินกจิ กรรม
โครงการยกระดบั เศรษฐกจิ และสงั คมรายตาํ บล
แบบบรู ณาการ (๑ ตาํ บล ๑ มหาวทิ ยาลยั )
มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั สรุ าษฎรธ์ านี
สารบญั เนื8อหา ๔๓
๔๘
การพฒั นาสมั มาชีพและสรา้ งอาชีพใหม่ ๕๓
(การยกระดบั สินค้า OTOP/อาชีพอ'ืน) ๕๘
แบบฟอรม์ การจดั โครงการ/กจิ กรรม
โครงการถ่ายทอดเพอ2ื ยกระดบั สนิ คา้ ผลติ ภณั ฑช์ มุ ชน
และสนิ คา้ OTOP ของตาํ บลพรพุ ี ดว้ ยระบบเทคโนโลยดี จิ ทิ ลั ขายสนิ คา้
และบรกิ ารผา่ นสมารท์ โฟน
การสร้างและพฒั นา Creative Economy
(การยกระดบั การท่องเท'ียว)
แบบฟอรม์ การจดั โครงการ/กจิ กรรม
โครงการสง่ เสรมิ การทอ่ งเทย2ี วเชงิ อนุรกั ษส์ ง2ิ แวดลอ้ ม
จดุ ชมววิ สวนแมเ่ ฒา่ ตาํ บลพรพุ ี อาํ เภอบา้ นาสาร
จงั หวดั สรุ าษฎรธ์ านี
การนําองคค์ วามรไู้ ปช่วยบริการชมุ ชน Health Care
(เทคโนโลยีด้านต่างๆ)
แบบฟอรม์ การจดั โครงการ/กจิ กรรม
โครงการพฒั นาสมั มาชพี เดมิ และสรา้ งองคค์ วามรู้
สมั มาชพี ใหม่ เพอ2ื เพม2ิ รายไดห้ มนุ เวยี นใหแ้ ก่ชมุ ชน
ตาํ บลพรพุ ี อาํ เภอบา้ นนาสาร จงั หวดั สรุ าษฎรธ์ านี
การส่งเสริมด้านส'ิงแวดล้อม Circular Economy
(การเพิ'มรายได้หมนุ เวียนให้แก่ชมุ ชน)
แบบฟอรม์ การจดั โครงการ/กจิ กรรม
โครงการสง่ เสรมิ และอนุรกั ษป์ ่าชมุ ชน ๓๐ ไร่
หมทู่ 2ี ๗ ใหเ้ ป็นแหลง่ เรยี นรใู้ หมข่ องตาํ บลพรพุ ี
สารบญั ภาพ ๖
๘
อนุสรณ์สถานบา้ นชอ่ งชา้ ง ๙
แผนทแ2ี สดงอาณาเขตเทศบาลตาํ บลพรพุ ี ๑๐
เหมอื งแรย่ ปิ ซมั2 และแอนดไ์ ฮไดรต์ ๑๒
ศนู ยจ์ ฬุ าภรณ์พฒั นา ๘ ๑๔
สถานีรถไฟพรพุ ี ๑๖
เทศบาลตาํ บลพรพุ ี ๑๗
โรงเรยี นพรพุ พี ทิ ยาคม ๑๘
วนั ขน-ึ ปีใหม่ ๑๙
วนั สงกรานต์ ๒๐
งานราํ ลกึ วรี ชน ๒๑
วนั สารทเดอื นสบิ ๒๓
วนั ลอยกระทง ๒๓
สวนยางพารา ๒๕
สวนปาลม์ น-ํามนั ๒๖
จดุ กางเตน็ สนั ไมง้ าม ๒๗
รอ่ งรอยประวตั ศิ าสตรบ์ า้ นทม2ี กี ารต่อสู้ ๒๙
อนุสรณ์สถานบา้ นชอ่ งชา้ ง ๔๖
การเปลย2ี นแปลงทางสงั คมและวฒั นธรรม ๕๑
เสน้ ทางการเดนิ ทางจากมหาวทิ ยาลยั ราชภฏั สรุ าษฎรธ์ านี
ไปศาลาอเนกประสงค์ หมทู่ 2ี ๒ บา้ นทงุ่ ทอื ๕๖
เสน้ ทางการเดนิ ทางจากมหาวทิ ยาลยั ราชภฏั สรุ าษฎรธ์ านี ๖๑
ไปศนู ยป์ ระสานงานการทอ่ งเทย2ี วโดยชมุ ชนหมบู่ า้ นประวตั ศิ าสตรบ์ า้ นชอ่ งชา้ ง
(ชอ่ งชา้ งแคมป์ ป-ิง)
เสน้ ทางการเดนิ ทางจากมหาวทิ ยาลยั ราชภฏั สรุ าษฎรธ์ านี
ไปโรงพยาบาลสง่ เสรมิ สขุ ภาพประจาํ ตาํ บลพรพุ ี
เสน้ ทางการเดนิ ทางจากมหาวทิ ยาลยั ราชภฏั สรุ าษฎรธ์ านี
ไปศนู ยป์ ระสานงานการทอ่ งเทย2ี วโดยชมุ ชนหมบู่ า้ นประวตั ศิ าสตรบ์ า้ นชอ่ งชา้ ง
สารบญั ตาราง ๑๕
๓๘
ส่วนที' ๒ โครงสร้างของชมุ ชน ๔๓
ตารางท2ี ๑ แสดงสดั สว่ นประชากรตาํ บลพรพุ ี ๔๔
๔๘
ส่วนที' ๖ การดาํ เนินงานโครงการยกระดบั เศรษฐกิจ ๔๙
และสงั คมรายตาํ บลแบบบรณู าการ ๕๓
๕๔
งบประมาณการดาํ เนินการ ๕๘
๕๙
การพฒั นาสมั มาชีพและสร้างอาชีพใหม่
(การยกระดบั สินค้า OTOP/อาชีพอ'ืน)
คา่ ตอบแทน
คา่ ใชส้ อย
การสรา้ งและพฒั นา Creative Economy
(การยกระดบั การท่องเท'ียว)
คา่ ตอบแทน
คา่ ใชส้ อย
การนําองคค์ วามร้ไู ปช่วยบริการชมุ ชน Health Care
(เทคโนโลยีด้านต่างๆ)
คา่ ตอบแทน
คา่ ใชส้ อย
การส่งเสริมด้านส'ิงแวดล้อม Circular Economy
(การเพ'ิมรายได้หมนุ เวียนให้แก่ชมุ ชน)
คา่ ตอบแทน
คา่ ใชส้ อย
ส่วนที' ๑ ข้อมลู พืน2 ฐาน
๒
ประวตั ิความเป็นมาของตาํ บลพรพุ ี
ตําบลพรุพเี ป็นตําบลอกี หน2ึงตําบลท2มี ขี นาดใหญ่ตงั< อยู่ในอําเภอบ้านนาสาร จากการท2ี
พวกเราไดส้ อบถามคุณตาทอ2ี าศยั อย่ใู นตําบลน<ี คุณตาไดใ้ หข้ อ้ มลู ว่า เม2อื ตอนทต2ี าเป็นกํานัน
เขากเ็ รยี กทแ2ี ห่งน<ี ว่าพรุพี กนั แลว้ ทเ2ี รยี กเช่นน<ีคงเพราะ ตําบลน<ีเม2อื ในสมยั ก่อนมพี รุขนาด
ใหญ่มากอยกู่ ่อนถงึ ตาํ บลควนศรี และในตอนน<ีกย็ งั มอี ยู่ พรนุ <ีมตี น้ ลกู สม้ พที เ2ี ขาเอามาดองขาย
นัน2 แหละ แต่ลูกสม้ พนี <ีมนั ลบี ทงั< นัน< ชาวบา้ นเลยเรยี กทน2ี 2ีว่าบา้ นพรุพลี บี กนั ต่อๆเร2อื ยมา จน
เดยีO วน<ีเสยี งกลายมาเป็นบา้ นพรุพี ส่วนคําว่าลบี ไดห้ ายไป จากนัน< ไดม้ กี ารแบ่งเป็นหมู่บา้ น
ซง2ึ ชอ2ื หมบู่ า้ นต่างๆมคี วามเป็นมาดงั น<ี
หม่ทู ี' ๑ บา้ นตลาดพรพุ ี
ประวตั คิ วามเป็นมาทเ2ี รยี กวา่ บา้ นตลาดพรพุ ี เพราะในสมยั ก่อนเคยมตี ลาดสดขนาดใหญ่ มี
โรงหนัง ซง2ึ ทแ2ี ห่งน<ีเป็นหม่บู า้ นดงั< เดมิ ของบา้ นพรุพี สถานทต2ี ่างๆส่วนใหญ่ก่อสรา้ งโดยชาว
จนี ทอ2ี พยพเขา้ มาอยอู่ าศยั ในพน<ื ทแ2ี หง่ น<ี และต่อมาไดม้ กี ารสรา้ งสถานีรถไฟ และสรา้ งบา้ นไม้
ขา้ งสถานีรถไฟทอ2ี ยมู่ าจนถงึ ปัจจบุ นั
หม่ทู ี' ๒ บา้ นท่งุ ทือ
ประวตั หิ มบู่ า้ นทงุ่ ทอื เดมิ เคยเรยี กชอ2ื ทงุ่ ทอื อยใู่ นเขตหมทู่ 2ี ๑๑ ตาํ บลพรพุ ี ซง2ึ ในตาํ บลควน
ศรแี ละตําบลคลองปราบยงั ไมไ่ ดม้ กี ารแบ่งเขตการปกครอง ต่อมาเมอ2ื มปี ระชากรหนาแน่นขน<ึ
จงึ แยกจากหมู่ท2ี ๑๑ มาตงั< เป็นหมู่บ้านทุ่งทอื หมู่ท2ี ๗ มผี ูใ้ หญ่บ้าน ช2อื คล2ี คงคชวรรณ เป็น
ผใู้ หญ่บา้ นหมทู่ 2ี ๑๑ มาก่อนโดยมกี าํ นนั เฟือง หนูศรแี กว้ เป็นกาํ นนั ของตาํ บลพรพุ ี หลงั จากปี
พ.ศ.๒๕๑๙ ไดม้ กี ารทาํ ถนนผา่ นหมบู่ า้ น ถนนทผ2ี า่ นคอื ถนนเพชรเกษม ๔๑ ชาวบา้ นเรยี กวา่
ถนนเอเชยี เม2อื มถี นนพาดผ่าน ตําบลพรุพกี เ็ ลยมกี ารแยกตําบลใหม่ คอื ตําบลควนศรี ต่อมา
หม่บู า้ นน<ีเลยเป็นหมบู่ า้ นท2ี ๗ ของตําบลพรุพอี กี ครงั< โดยมนี ายคลง<ิ ศรเี พชร เป็นผใู้ หญ่บา้ น
หลงั จากนนั< กไ็ ดแ้ ยกเขตการปกครองอกี โดยแยกเป็นตาํ บลคลองปราบ สว่ นหมทู่ 2ี ๒ ทุ่งทอื มี
ผูใ้ หญ่นิตร มพี ฒั น์ ปกครองจนไดเ้ กษยี ณ ต่อมาผูใ้ หญ่สุรตั ิ พฒั น์สที อง ไดเ้ ป็นผูใ้ หญ่ต่อมา
เร2อื ยๆ จนไดเ้ ป็นกํานันเม2อื ปี พ.ศ.๒๕๔๙-๒๕๕๑ และไดเ้ กษยี ณลง จากนัน< จงึ มกี ารเลอื กตงั<
ใหม่ เป็นผูใ้ หญ่ยุทธนา อุ้ยสกุล เม2อื ปี พ.ศ.๒๕๕๑-๒๕๖๑ จนไดเ้ กษียณและมกี ารเลอื กตงั<
ใหมอ่ กี ครงั< เป็นผใู้ หญ่สวุ ทิ ย์ พฒั น์สที อง เมอ2ื ปีพ.ศ.๒๕๖๑- จนถงึ ปัจจบุ นั
๓
หม่ทู ี' ๓ บา้ นอินทนิลงาม
ประวตั คิ วามเป็นมาของหมบู่ า้ น “อนิ ทนิลงาม” หม่ทู 2ี ๓ ตําบลพรุพี อําเภอบา้ นนาสาร
จงั หวดั สรุ าษฎรธ์ านี เดมิ มชี อ2ื เรยี กวา่ “บา้ นพบั ขพ<ี รา้ ” ซง2ึ อยใู่ นเขตหมทู่ 2ี ๒ ตําบลพรุพี ซง2ึ
ในตอนนัน< ตําบลควนศรี และตําบลคลองปราบ ยงั ไม่ได้แบ่งเขตการปกครอง ต่อมา
ประชาชนได้เขา้ มาอยู่หนาแน่นขน<ึ จงึ ได้แยกออกจากหมู่ท2ี ๒ มาตงั< เป็นหมู่ท2ี ๓ โดยมี
นายสมบูรณ์ สารขิ า เป็นผูใ้ หญ่บ้านเป็นคนแรก และไดเ้ ปล2ยี นช2อื หมู่บ้านจากบ้านพบั ข<ี
พร้า เป็น “บ้านอินทนิลงาม” ซ2ึงมเี ร2อื งเล่าต่อๆกนั มาว่า เดมิ มตี ้นอินทนิลขนาดใหญ่มี
ลกั ษณะเป็นพุ่มสวยงาม จงึ ไดต้ งั< ช2อื หม่บู า้ นแห่งน<ีว่าหม่บู า้ น “บา้ นอนิ ทนิลงาม” มาจนถงึ
ปัจจุบนั ต่อมาผูใ้ หญ่ สมบูรณ์ ไดล้ าออกและเลอื กผูใ้ หญ่บา้ นคนท2ี ๒ คอื นายเซ่ง สงิ คาร
ตอนนัน< ประชากรในหมู่บ้านมปี ระมาณ ๓๐ ครวั เรอื น ต่อมาไดม้ กี ารพฒั นาเกดิ ขน<ึ จงึ มี
ถนนตดั ผ่านหมู่บ้านและมีประชากรเพิ2มข<นึ ตามลําดบั หลงั จากนัน< ได้มีการเลือกผู้นํา
หม่บู า้ นกนั อกี ครงั< หน2ึงมนี ายมนิ ขานทอง เป็นผใู้ หญ่บา้ นคนท2ี ๓ อย่จู นเกษยี ณอายุ และ
ไดเ้ ลอื กนายไล่ พรกิ บุญจนั ทร์ เป็นผใู้ หญ่บา้ นคนท2ี ๔ และคนท2ี ๕ คอื นายสมนึก จํานงค์
จติ ร เม2อื ผูใ้ หญ่สํานึกเสยี ชวี ติ จงึ ไดเ้ ลอื กนายประดษิ ฐ์ แซ่ตนั< เป็นผูใ้ หญ่บา้ นคนท2ี ๖ จน
ครบวาระและไดเ้ ลอื กนายพรี วฒั น์ จาํ นงคจ์ ติ เป็นผใู้ หญ่บา้ นคนท2ี ๗ ปัจจุบนั มนี ายมนตรี
ขานทองเป็นผใู้ หญ่บา้ นคนท2ี ๘
หม่ทู 'ี ๔ บา้ นคลองหินแท่น
เม2อื ปี พ.ศ.๒๔๘๕ ไดม้ รี าษฎรอพยพมาจากหลายอําเภอของจงั หวดั นครศรธี รรมราช
มาอยู่รวมกนั ประมาณ ๒๐ หลงั คาเรอื น ท2แี ห่งน<ีมลี ําคลองไหลผ่านหมู่บ้าน อยู่ ๒ สาย
หน2ึงในสองสายนนั< มกี อ้ นหนิ ทม2ี ลี กั ษณะเป็นแท่งๆอย่ใู นลําคลอง ชาวบา้ นจงึ เรยี กหมบู่ า้ น
แห่งน<ีว่าบ้านคลองหินแท่น เม2ือปี พ.ศ.๒๕๐๘ ประชากรบ้านคลองหินแท่นมีจํานวน
ครวั เรอื น ๕๐ ครวั เรอื น ขนาดนัน< มกี ารแทรกซึมจากพรรคคอมมวิ นิสต์ท2เี กิดการต่อสู้
ระหว่างทหารกบั สมาชกิ พรรคคอมมวิ นิสต์ทําใหป้ ระชาชนไดร้ บั ความลําบากและลม้ ตาย
เป็นจํานวนมาก ซง2ึ ปัจจุบนั ยงั มซี ากบา้ นเรอื นเก่าทเ2ี กดิ จากการต่อสไู้ ดก้ ลายเป็นอนุสรณ์
สถานอยรู่ มิ ถนนสายนาสาร-เวยี งสระ บา้ นคลองหนิ แทน่ มผี นู้ ําผใู้ หญ่บา้ น ตงั< แต่อดตี จนถงึ
ปัจจบุ นั จาํ นวน ๙ คน
๔
หม่ทู 'ี ๕ บา้ นห้วยล่วง
จากอดตี ประชากรสว่ นใหญ่ในหมบู่ า้ นมาจากอาํ เภอฉวาง จงั หวดั นครศรธี รรมราชเขา้
มาตงั< ถน2ิ ฐานประมาณ ๙๐ กว่าปีมาแลว้ รอ้ ยละ ๔๐ เป็นชาวนครศรธี รรมราชและรอ้ ยละ
๒๐ มาจากทอ2ี 2นื เชน่ เวยี งสระ สงขลา โดยทกุ ครวั เรอื นจะทาํ นาเป็นหลกั มที ท2ี าํ นาเป็นของ
ตนเอง มพี น<ื ทท2ี าํ สวนยางพาราบา้ งแต่ไมม่ ากนกั มกี ารจดั ตงั< โรงเรยี นประชาบาล ตาํ บลพรุ
พี เมอ2ื ปี พ.ศ.๒๔๘๓ โดยมนี ายชาํ จนั ทรเ์ ดช เป็นผใู้ หญ่บา้ นในครงั< นนั< รว่ มกบั ชุมชนและ
ปกครองนกั เรยี น เปิดทาํ การสอนอยปู่ ระมาณ ๒๒ ปี สถานทต2ี งั< โรงเรยี นบา้ นหว้ ยล่วงเก่า
ทอ2ี ยกู่ ลางทุ่งนา ระหวา่ งถนนรถไฟกบั ถนนสายเอเชยี ต่อจากนนั< ประมาณ ปี พ.ศ.๒๔๙๕
ได้ร<อื ถอนมาสร้างในสถานท2ใี หม่ ท2ตี งั< โรงเรยี นบ้านห้วยล่วงในปัจจุบนั มเี น<ือท2ี ๓๕ ไร่
ความเป็นมาของช2อื บา้ นหว้ ยล่วงตามทไ2ี ดท้ ราบมาจากคนตงั< เตมิ เล่าว่า มลี าํ หว้ ยสายหน2ึง
อยใู่ นเขตพน<ื ทข2ี องหมบู่ า้ นปัจจบุ นั เป็นแนวเขตระหวา่ งหมทู่ 2ี ๕ และหมทู่ 2ี ๖ ลาํ หว้ ยแหง่ น<ีมี
น<ําไหลตลอดทงั< ปี แต่ไม่มากเม2อื น<ําไหลลอดใตส้ ะพานรถไฟไปทางทศิ ตะวนั ตกสายน<ําจะ
ไหลลอดใตผ้ วิ ดนิ แลว้ ไปเปิดเป็นลาํ หว้ ยอกี และไหลไปสแู่ มน่ <ําตาปี และเหตุการณ์ทน2ี <ําซมึ
ไปใตด้ นิ น<ีเลยใหช้ อ2ื หมบู่ า้ นวา่ บา้ นหว้ ยลว่ ง
หม่ทู ี' ๖ บา้ นห้วยตอ
เดมิ ตําบลพรุพี มอี าณาเขตครอบคลุม ตําบลควนศรแี ละตําบลคลองปราบ เมอ2ื ในอดตี
หมทู่ 2ี j โดยมนี ายลี เป็นผใู้ หญ่บา้ น อยทู่ ค2ี ลองหนิ แท่น ต่อมาไดม้ กี ารแยกหมบู่ า้ นออกมา
จากหม่ทู 2ี ๔ เปลย2ี นมาเป็นหมทู่ 2ี ๑๒ มอี าณาเขตครอบคลุมหมทู่ 2ี ๗ ในปัจจุบนั มนี ายสงั ข์
บุญสนองเป็นผใู้ หญ่บา้ น เมอ2ื นายสงั ข์ บุญสนองไดเ้ สยี ชวี ติ ลงประชาชนไดเ้ ลอื กนายเนียง
พิทักษ์วงศ์ เป็ นผู้ใหญ่บ้านและได้เปล2ียนเป็ นหมู่ท2ี ๘ ตําบลพรุพี และต่อมามีการ
เปลย2ี นแปลงจากการปกครองครงั< ใหญ่จงึ มกี ารแบ่งแยกตาํ บลออกเป็น ๓ ตาํ บล คอื ตาํ บล
พรุพี ตําบลควนศรี และตําบลคลองปราบ หม่ทู 2ี ๑๒ จงึ เปลย2ี นมาเป็นหมู่ท2ี ๖ ตําบลพรุพี
ช2อื บา้ นหว้ ยสะตอเป็นช2อื เรยี กตามสภาพพน<ื ท2ี เน2ืองจากหมู่บา้ นแห่งน<ีมลี ําหว้ ยไหลผ่าน
เป็นพ<นื ท2รี าบสูงมปี ่ าท2อี ุดมสมบูรณ์ต้นไม้นานาชนิด ท2มี มี ากกว่าต้นไม้ชนิดอ2ืน คอื ต้น
สะตอป่ า ประชาชนในหมู่บา้ นจงึ เรยี กหมู่บา้ นแห่งน<ีว่า บา้ นหว้ ยสะตอ ต่อมาคําว่าสะได้
หายไปจากการเรยี กช2อื ของหมู่บา้ นแห่งน<ีมแี ต่คําว่าบา้ นหว้ ยตอจนถงึ ปัจจุบนั จนกระทงั2
เม2อื ปี พ.ศ.๒๕๒๘ ผูใ้ หญ่เนืองไดป้ ลดเกษียณอายุ จงึ ไดเ้ ลอื กผูใ้ หญ่คนใหม่คอื นายเสรี
สบื เสน จนเม2ือปี พ.ศ.๒๕๔๗ ผู้ใหญ่เสรี สบื เสน ได้รบั เลือกให้เป็นกํานันตําบลพรุพี
จนกระทงั2 เกษยี ณอายุ เมอ2ื ปี พ.ศ.๒๕๕๐ นายอุทยั สงิ หพ์ นั ธ์ กไ็ ดร้ บั เลอื กเป็นผใู้ หญ่บา้ น
คนใหมใ่ นปัจจบุ นั บา้ นหว้ ยตอ เดมิ
๖
หม่ทู 'ี ๗ บา้ นช่องช้าง
บา้ นชอ่ งชา้ งในอดตี มสี ภาพเป็นป่าทบึ ลกั ษณะพน<ื ทเ2ี ป็นทร2ี าบเชงิ เขา มภี เู ขาขนาบอยทู่ งั<
สองดา้ นจงึ ดูเป็นช่องระหว่างภูเขาและในบรเิ วณน<ีมชี า้ งป่ าอาศยั อยู่เป็นจํานวนมากและใช้
เป็นเสน้ ทางเดนิ ไปหาอาหารเป็นประจํา ชาวบ้านจงึ เรยี กหมู่บ้านว่า “บ้านช่องชา้ ง” ใน ปี
พ.ศ. ๒๕๐๘ กองกําลงั ตดิ อาวุธของ “พรรคคอมมวิ นิสต์แห่งประเทศไทย” ไดต้ งั< ค่าย “ปี ๕
หรอื ค่าย ๕๐๘” ทบ2ี า้ นช่องชา้ ง จนถงึ เมอ2ื ปี พ.ศ.๒๕๒๕ รฐั บาลไดใ้ ชย้ ุทธศาสตร์ “การเมอื ง
นําการทหาร” และใชย้ ุทธวธิ ปี ระชาธปิ ไตย “บา้ นลอ้ มป่า” โดยการรวมกําลงั พลเรอื น ทหาร
ปลุกระดมราษฎร ใหเ้ กดิ การเคล2อื นไหวในการพฒั นาหมู่บา้ น และป้องกนั ตนเอง บา้ นช่อง
ชา้ งได้จดั ตงั< เป็นหมู่บ้านอาสาพฒั นาและป้องกนั ตนเอง (อพป.) เม2อื วนั ท2ี ๑ ตุลาคม พ.ศ.
๒๕๓๘
หลงั จากการต่อสดู้ ว้ ยกองกาํ ลงั ตดิ อาวธุ ภายใตก้ ารนําของพรรคคอมมวิ นิสตไ์ ดย้ ตุ ลิ งดว้ ย
เหตุผล หลายประการ เม2อื ความแตกต่างทางความคดิ ได้คล2คี ลายดขี น<ึ แล้ว สมาชกิ พรรค
คอมมวิ นิสต์ไดแ้ ยกยา้ ยกนั ออกไปประกอบอาชพี ตามสภาพเอ<อื อํานวย ส่วนสมาชกิ ทย2ี งั คง
อยใู่ นบา้ นชอ่ งชา้ ง กไ็ ดร้ บั การพฒั นาจากรฐั บาลทกุ ดา้ นใหด้ ขี น<ึ จนถงึ ปัจจบุ นั
อนุสรณ์สถานบา้ นชอ่ งชา้ ง
๗
ขนาดทีCตงัD ของตาํ บลพรพุ ี
เทศบาลตําบลพรุพี ตงั< อยู่ท2ี หมู่ท2ี ๔ บา้ นคลองหนิ แท่น ตําบลพรุพี อําเภอบา้ นนา
สาร จงั หวดั สุราษฏร์ธานี อยู่ห่างจากอําเภอบ้านนาสารโดยประมาณ ๙ กโิ ลเมตร และมี
อาณาเขตตดิ ต่อ ดงั น<ี
ทิศตะวนั ออก ทิศเหนือ ทิศตะวนั ตก
จด จด จด
เขตองคก์ ารบริหาร เขตองคก์ ารบริหารส่วน เขตองคก์ ารบริหาร
ส่วนตาํ บลเพ'ิมพนู ตาํ บลคลองปราบ ส่วนตาํ บลควนศรี
อาณาเขตติดต่อ
ทรพั ย์ ทิศใต้
จด
เขตเทศบาล
ตาํ บลบา้ นส้อง
๘
แผนที'แสดงอาณาเขตเทศบาลตาํ บลพรพุ ี
พ<นื ท2ีเทศบาลตําบลพรุพี ครอบคลุม ๗ หมู่บ้าน มเี น<ือท2ีประมาณ ๘๙.๕ ตาราง
กโิ ลเมตร หรอื ประมาณ ๕๕,๙๗๓.๕ ไร่
๙
ทรพั ยากรธรรมชาติที.สาํ คญั
๑.เหมืองแร่ยิปซมั' และแอนดไ์ ฮไดรต์
ในตําบลพรุพมี บี รษิ ทั เขา้ มาทําเหมอื งแร่ยปิ ซมั2 และแอนด์ไฮไดรต์ จํานาน ๔ แห่ง แร่
ยปิ ซมั จากทุกแหล่งในประเทศไทย สามารถใชเ้ ป็นตวั เตมิ สาํ หรบั ปนู ซเี มนต์ไดเ้ ป็นอย่างดี
ทัง< น<ีเน2ืองจากมีความบริสุทธิขp องแร่สูงเกินเกณฑ์ คือมีแคลเซียมซัลเฟต พร้อมน<ํา
(CaSO4.2H2O) มากกวา่ ๙๕% และมมี ลทนิ คอ่ นขา้ งน้อย การใชป้ ระโยชน์ นอกเหนือจาก
การผลิตปูนซีเมนต์ ยิปซัมยงั ใช้ทําแผ่นฝ้าเพดานกนั ความร้อน และทําปูนปลาสเตอร์
สาํ หรบั ทาํ แมพ่ มิ พเ์ ซรามกิ และงานตกแต่งภายในอาคารอกี หลายอยา่ ง
เหมืองแร่ยิปซมั' และแอนดไ์ ฮไดรต์
๑๐
๒.พืนX ท'ีป่ า เขตพืนX ที'หม่ทู 'ี ๗ (ศนู ยจ์ ฬุ าภรณ์พฒั นา ๘)
เกิดข<นึ ได้เน2ืองมาจาก ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลยั
ลกั ษณ์ องคป์ ระธานสถาบนั วจิ ยั จุฬาภรณ์ ทรงหว่ งใยในความเดอื ดรอ้ นของราษฎรท์ ป2ี ระสบ
อุทกภยั ในพน<ื ทจ2ี งั หวดั นครศรธี รรมราช และสุราษฎรธ์ านี จงึ ไดม้ พี ระราชดํารใิ หด้ ําเนินการ
โครงการฟ<ืนฟูสภาพแวดลอ้ มและชวี ติ ความเป็นอยขู่ องราษฎรผปู้ ระสบอุทกภยั ใหด้ ขี น<ึ
ศนู ยจ์ ฬุ าภรณ์พฒั นา ๘
๓.แหล่งนํXาผิวดินที'สาํ คญั ต่างๆ
- คลองพงั ปนู
- ลาํ น<ําหว้ ยตอ
- ลาํ น<ําคลองสญู
- ลาํ น<ําหว้ ยลว่ ง
๑๑
ลกั ษณะภมู ิประเทศและลกั ษณะภมู ิอากาศ
ลกั ษณะภมู ิประเทศ
ลกั ษณะภมู ปิ ระเทศของเทศบาลตาํ บลพรพุ เี ป็นพน<ื ทร2ี าบลุ่มสลบั กบั ทร2ี าบและเชงิ เขา
มแี หล่งน<ําทเ2ี กดิ ขน<ึ เองตามธรรมชาติ เช่น คลอง หนอง บงึ หว้ ย ไหลผ่ายหลายสาย
พน<ื ทส2ี ว่ นมากเหมาะแก่การประกอบอาชพี เกษตรกรรม พน<ื ทเ2ี พาะปลกู สว่ นมากจะเป็น
ยางพาราและปาลม์ น<ํามนั สว่ นการปลุกพชื ผกั จะมบี า้ งเลก็ น้อย โดยมสี ภาพการใชพ้ น<ื ท2ี
สรปุ ไดด้ งั น<ี
ทด2ี นิ ทาํ กนิ ๕๑,๓๕๑.๘๘ ไร่
ทด2ี นิ สาธารณะ ๒๘๖.๖๒ ไร่
ทอ2ี ยอู่ าศยั ๓,๗๗๖.๐๐ ไร่
ทร2ี าชพสั ดุ ๑๕๙.๐๐ ไร่
เหมอื งแร่ ๔๐๐.๐๐ ไร่
แม่นXําสาํ คญั
๑.คลองพงั ปนู เป็นลาํ คลองทไ2ี หลผา่ นเขา้ มาในหมบู่ า้ น
๒.ลาํ น<ําหว้ ยตอ เป็นแหลง่ น<ําสาธารณะหมบู่ า้ น
๓.ลําน<ําหว้ ยล่วง มนี <ําไหลตลอดทงั< ปีแต่ไม่มาก ไหลลอดใตส้ ะพานรถไฟไปทางทศิ
ตะวนั ตกจะไหลลอดใตผ้ วิ ดนิ แลว้ ไปเปิดเป็นลาํ หว้ ยอกี ครงั< และไหลลงสแู่ มน่ <ําตาปี เป็น
ลาํ หว้ นทแ2ี บง่ เขตระหวา่ งหมทู่ 2ี 5 และหมทู่ 2ี 6
๔.ลาํ น<ําคลองสญู
ลกั ษณะภมู ิอากาศ
ลกั ษณะภมู อิ ากาศเทศบาลตาํ บลพรพุ ี แบง่ เป็น 2 ฤดกู าล คอื ฤดฝู นระหวา่ ง
เดือนพฤษภาคม - ธนั วาคม และฤดูร้อน ระหว่างเดือนมกราคม - เดือนเมษายน
อุณหภมู สิ งู สดุ เฉลย2ี รายเดอื นเทา่ กบั 34.6 องศาเซลเซยี ส ในเดอื นเมษายน อุณหภมู ิ
ต2าํ สดุ เฉลย2ี รายเดอื นเทา่ กบั 20.3 องศาเซลเซยี ส ในเดอื นมกราคมและกุมภาพนั ธ์ และ
มคี า่ เฉลย2ี ตลอดปีเทา่ กบั 26.4 องศาเซลเซยี ส
๑๒
การคมนาคม
๑.ทางรถไฟ
ไดแ้ ก่ สถานีรถไฟพรพุ ,ี ป้ายจอดรถไฟคลองศนู ย์
- รถเรว็ ขบวนท2ี ๑๗๓,๑๗๔ (กรงุ เทพฯ-นครศรธี รรมราช)
- รถทอ้ งถน2ิ ขบวนท2ี ๔๔๕,๔๔๖,๔๔๗,๔๔๘
(ขบวนทอ้ งถนิ2 ทกุ ขบวน)
สถานีรถไฟพรพุ ี
๒.ถนน
- ทางหลวงแผน่ ดนิ สาย ๔๔๐๙ (นาสาร-บา้ นสอ้ ง)
- ทางหลวงแผน่ ดนิ สาย ๔๒๒๙ (ชอ่ งชา้ ง-เหมอื งทวด)
- ทางหลวงแผน่ ดนิ สาย ๔๑ (ถนนเอเชยี )
- ถนนลาดยางในเขตเทศบาล จาํ นวน ๑๒ สายทาง
- ถนนคอนกรตี ในเขตเทศบาล จาํ นวน ๑๒ สายทาง
- ถนนลกู รงั /หนิ แรแ่ อนไฮไดรตใ์ นเขตเทศบาล จาํ นวน ๓๕ สายทาง
ส่วนท'ี ๒
โครงสรา้ งของชมุ ชน
๑๔
ด้านการเมืองการปกครอง
นายกเทศมนตรีตาํ บลพรพุ ี
นายสมคิด ดาํ ฉวาง
หม่ทู ี' ๑ บา้ นตลาดพรพุ ี หม่ทู ี' ๕ บา้ นห้วยล่วง
ผใู้ หญ่ประพล หนูศรแี กว้ กาํ นนั ทรงศลิ ป์ ชชู ว่ ยสวุ รรณ
หม่ทู ี' ๒ บา้ นท่งุ ทือ หม่ทู 'ี ๖ บา้ นห้วยตอ
ผใู้ หญ่สวุ ทิ ย์ พฒั น์สที อง ผใู้ หญ่นรนิ ทร์ สขุ าทพิ ย์
หม่ทู 'ี ๓ บา้ นอินทนินงาม หม่ทู 'ี ๗ บา้ นช่องช้าง
ผใู้ หญ่มนตรี ขานทอง ผใู้ หญ่เอกชยั ปลอดออ่ น
หม่ทู ี' ๔ บา้ นคลองหินแท่น
ผใู้ หญ่ธเนศ ไตรศริ ิ
เทศบาลตาํ บลพรพุ ี
๑๕
ข้อมลู ประชากร
ตําบลพรุพมี ปี ระชากรทงั< สน<ิ ๕,๗๑๖ คน ชาย ๒,๗๙๒ คน หญงิ ๒,๙๒๔ คน มี
ความหนาแน่นของประชากร เฉลย2ี
๖๓.๘๓ คน/ตารางกโิ ลเมตร จาํ นวนครวั เรอื น ๒,๐๖๔ ครวั เรอื น
ตารางท'ี ๑ แสดงสดั ส่วนประชากรตาํ บลพรพุ ี
จาํ นวนประชากร
หม่ทู ี' จาํ นวนครวั เรอื น ชาย หญงิ รวม
๑ ๖๒๖ ๘๑๔ ๘๔๕ ๑,๖๕๙
๓๖๐
๒ ๑๘๒ ๑๗๗ ๑๘๓ ๖๖๘
๖๖๘
๓ ๒๒๐ ๓๒๙ ๓๓๙ ๘๓๑
๒๖๒
๔ ๒๖๖ ๓๓๙ ๓๔๙ ๑,๒๔๘
๕,๗๑๖
๕ ๒๙๕ ๓๙๔ ๔๓๗
๖ ๙๕ ๑๒๒ ๑๔๐
๗ ๓๘๐ ๖๑๗ ๖๓๑
รวม ๒,๐๖๔ ๒,๗๙๒ ๒,๙๒๔
๑๖
ด้านการศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม
ด้านการศึกษา
ศนู ยพ์ ฒั นาเดก็ เลก็ ก่อนเกณฑ์
๑.ศนู ยพ์ ฒั นาเดก็ เลก็ บา้ นควนเนียง หมทู่ 2ี ๓ บา้ นอนิ ทนิลงาม
๒.ศนู ยพ์ ฒั นาเดก็ เลก็ บา้ นชอ่ งชา้ ง หมทู่ 2ี ๗ บา้ นชอ่ งชา้ ง
โรงเรียนประถม และมธั ยมศึกษาศึกษา
๑.โรงเรยี นอนุบาลกาญจนา หมทู่ 2ี ๑ บา้ นตลาดพรพุ ี
๒.โรงเรยี นพรพุ พี ทิ ยาคม หมทู่ 2ี ๒ บา้ นทงุ่ ทอื
๓.โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ ๑๒ หมทู่ 2ี ๔ บา้ นคลองหนิ แทน่
๔.โรงเรยี นบา้ นชอ่ งชา้ ง หมทู่ 2ี ๗ บา้ นชอ่ งชา้ ง
๕.โรงเรยี นบา้ นควนเนียง หมทู่ 2ี ๓ บา้ นอนิ ทนิลงาม
สาํ นักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั
๑.กศน. หรอื สาํ นกั งานสง่ เสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั ประจาํ
ตาํ บล หมทู่ 2ี ๒ บา้ นทงุ่ ทอื
โรงเรียนพรพุ ีพิทยาคม
๑๗
ด้านศาสนา
ประชาชนสว่ นใหญ่นบั ถอื ศาสนาพทุ ธ มวี ดั สคุ นธาวาส หมทู่ 2ี ๔ บา้ นคลองหนิ แทน่ ตาํ บล
พรพุ ี อาํ บา้ นนาสาร จงั หวดั สรุ าษฎรธ์ านี
บริบทสงั คมและความเป็นอยู่
อาชพี หลกั ของประชากรตาํ บลพรพุ ี คอื ดา้ นการเกษตร เชน่ ยางพารา ปาลม์ น<ํามนั สวน
ผลไม้ และพชื ผกั สวนครวั บรเิ วณบา้ นเลก็ น้อย
ความเชื'อ ประเพณี และพิธีกรรม
๑.วนั ขึนX ปี ใหม่
เป็นเวลาปฏทิ นิ ใหม่เรม2ิ ตน้ และนับปีปฏทิ นิ เพม2ิ ขน<ึ หน2ึงปี ตรงกบั วนั ท2ี 1 มกราคม มกี าร
เฉลมิ ฉลองและทํากจิ กรรมทจ2ี ดั ขน<ึ ทวั2 โลก ประเพณีน<ีจะมุ่งเน้นทเ2ี วลาเทย2ี งคนื และปีใหม่ท2ี
กาํ ลงั จะมาถงึ
๑๘
๒.วนั สงกรานต์
ประเพณรี ดน<ําดาํ หวั ผสู้ งู อายเุ ป็นประเพณที ป2ี ฏบิ ตั กิ นั มายาวนาน จนถอื เป็นสงิ2 ทค2ี นไทย
ทุกคนคุน้ เคยไดป้ ฏบิ ตั ติ ่อกนั มาในช่วงเทศกาลสงกรานตค์ อื ระหว่างวนั ท2ี ๑๓-๑๕ เมษายน
ของทุกปี ซง2ึ ถอื เป็นวนั ปีใหมข่ องไทยทล2ี กู หลานจะตอ้ งกลบั มาบา้ นเพอ2ื รวมญาตแิ ละถอื เป็น
วนั ครอบครวั ท2ลี ูกหลานได้แสดงออกถงึ ความกตญั „ูกตเวทติ า ต่อบดิ ามารดา ปู่ ย่า ตา
ยาย และผูท้ ม2ี พี ระคุณ หรอื ผูเ้ ฒ่าผูแ้ ก่ทต2ี นเคารพนับถอื ซ2งึ การรดน<ําดําหวั ผูส้ ูงอายุน<ีเป็น
ประเพณีทท2ี รงคุณค่าสมควรไดร้ บั การสบื ทอด และเพ2อื เป็นการยกย่องคุณงามความดที ผ2ี ู้
เฒ่าผูแ้ ก่ไดก้ ระทําไวใ้ นอดตี และเพ2อื เป็นการแสดงออกถงึ ความกตญั „ู กตเวทติ าต่อท่าน
องค์การบรหิ ารส่วนตําบลพรุพี จงึ ได้จดั งานประเพณีรดน<ําดําหวั ผูส้ ูงอายุทุกปี ซ2งึ ถอื เป็น
เอกลกั ษณ์ท2ีโดดเด่นเป็นการสร้างความสมั พนั ธ์อนั ดีระหว่างผู้สูงอายุและเด็ก เยาวชน
ลกู หลานในชมุ ชนไดซ้ มึ ซบั และปลกู ฝังคา่ นิยมความรกั ระหวา่ งกนั อกี ดว้ ย
๓.งานราํ ลึกวีรชน
หลงั จากการต่อสขู้ องพรรคคอมมวิ นิสตแ์ ห่งประเทศไทย ไดเ้ ขา้ มาเคล2อื นไหวในภาคใต้
เพราะภาคใต้เป็นฐานสําคญั ของชาวจนี ทต2ี ่อต้านญ2ปี ุ่น แมภ้ ายหลงั สงครามจะยุตลิ ง แต่ก็
ยงั คงมคี วามเคล2อื นไหวของพรรคคอมมวิ นิสต์แห่งประเทศไทยในพน<ื ทบ2ี า้ นช่องชา้ ง ซง2ึ ผล
จากการปราบปราบของรฐั บาลเกดิ การปะทะและสูญเสยี ชวี ติ เลอื ดเน<ือทงั< สองฝ่ ายในเขต
พน<ื ทบ2ี า้ นชอ่ งชา้ งมวี รี ชนทเ2ี สยี ชวี ติ ระหวา่ งปี พ.ศ. ๒๕๐๐-๒๕๒๗ มากกวา่ ๕๐๐ คน
๑๙
การวางพวงมาลา
บรรดามวลมติ รสหายเขตงานสุราษฎรธ์ านีและเขตงานในพน<ื ทภ2ี าคใต้ตอนบน รวมทงั<
สหายปัญญาชนไดแ้ ยกยา้ ยกนั ไปประกอบอาชพี ตามสภาพ แต่ดว้ ยความผกู พนั และความรกั รว่ ม
อุดมการณ์ทไ2ี ดร้ บั หลอ่ หลอมมาในชว่ งระยะเวลาหน2ึง ดว้ ยดวงจติ ทไ2ี มเ่ คยแปรเปลย2ี นหวนั2 ไหวไป
ตามกระแสเมอื ง แต่ละคนไม่สามารถลืมตาอ้าปากได้ ในปี พ.ศ.๒๕๓๕ ณ บ้านเหนือคลอง
อําเภอเวยี งสระ มติ รสหายทเ2ี คยร่วมใชช้ วี ติ ในป่ าเขาและมติ รสหายจากในเมอื ง ไดเ้ ดนิ ทางมา
พบปะเยย2ี มเยอื นกนั เป็นครงั< แรก ในปี พ.ศ.๒๕๓๗ ไดข้ ดุ กระดกู มติ รสหายไดจ้ าํ นวนหน2ึง และมี
การจดั งานบําเพญ็ กุศล ขน<ึ ทว2ี ดั พระอนิ ทร์ อ.ดอนสกั ต่อมาปี พ.ศ. ๒๕๓๙ จงึ ไดม้ กี ารจดั สรา้ ง
อนุสรณ์สถานบา้ นชอ่ งชา้ งขน<ึ เพอ2ื เป็นอนุสรณ์ของวรี ชนในเขตภาคใตต้ อนบน เพอ2ื แสดงถงึ การ
ต่อสเู้ พ2อื ความเป็นธรรม การเสยี สละเพ2อื อุดมการณ์ประชาธปิ ไตย ณ บรเิ วณหน้าโรงเรยี นบา้ น
ช่องช้าง ตําบลพรุพี มีสภาพเป็ นฐานปูน สูงประมาณ ๑.๕๐ เมตร ด้านบนเป็ นมือชูพาน
รฐั ธรรมนูญ มดี าวแดง ๕ แฉก อยบู่ นฐานและไดจ้ ดั งานราํ ลกึ วรี ชนครงั< ใหญ่ขน<ึ และต่อมาปี พ.ศ.
๒๕๔๒ ไดม้ กี ารออกแบบและก่อสรา้ งอนุสรณ์สถานใหม่แลว้ เสรจ็ (คอื รูปแบบปัจจุบนั ) และจดั
งานรําลกึ การทําบุญกระดูก นํากระดูกเขา้ บวั อย่างยง2ิ ใหญ่ และไดม้ กี ารสบื ทอดการจดั กจิ กรรม
งานรําลกึ วรี ชนข<นึ ในวนั ท2ี ๑๖ เดอื นเป็นประจําทุกปี ในงานจะมพี ธิ ที างศาสนา และมขี บวน
ทปท. เดนิ สวนสนามวางพวงมาลาคาราวะวรี ชน ตวั แทนหน่วยงานเขตวางพวงมาลา และกล่าว
คาํ ไวอ้ าลยั ใหแ้ ก่วรี ชน
๒๐
๔.วนั สารทเดือนสิบ (ประเพณีรบั –ส่งตายาย)
เป็นประเพณที าํ บุญเพอ2ื อุทศิ สว่ นกุศลใหป้ ่ยู า่ ตายายญาตพิ น2ี ้อง และบุคคลอ2นื ๆ ทล2ี ว่ งลบั ไป
แลว้ ในเดอื น ๑๐ จะมกี ารจดั ทําบุญสองครงั< คอื วนั แรม … ค2ํา เดอื น …† ครงั< หน2ึง และวนั แรม
…‡ ค2ํา เดอื น …† อกี ครงั< หน2ึง โดยถอื คตวิ ่า พ่อแม่ป่ ูย่าตายายและญาตพิ น2ี ้องทล2ี ่วงลบั ไปแลว้
โดยเฉพาะผทู้ ต2ี อ้ งตกนรกหรอื เรยี กวา่ เปรตนนั< จะไดร้ บั อนุญาตใหม้ าพบกบั ญาตขิ องตนในเมอื ง
มนุษยไ์ ดใ้ นวนั แรม … ค2าํ เดอื น …† และกลบั ไปส่นู รกดงั เดมิ ในวนั แรม …‡ ค2าํ เดอื น …† ดงั นัน<
จึงมีการทําบุญในสองครัง< ซ2ึงจะจัดข<ึนทุกท้องท2ีในจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็ นประเพณีท2ี
แสดงออกถงึ ความกตญั „ูอย่างสูงยง2ิ ต่อบรรพบุรุษ เป็นประเพณีท2ชี าวบ้านทุกครอบครวั ไป
ทาํ บุญทว2ี ดั เพอ2ื อุทศิ สว่ นกุศลใหผ้ ทู้ ล2ี ว่ งลบั ไปแลว้
ช่วงเวลา วนั รบั ตายาย จะตรงกบั วนั แรม … ค2าํ เดอื น …† ในวนั น<ีชาวสุราษฎรธ์ านีไม่ว่า
จะอย่แู ห่งหนตําบลใด มกั เดนิ ทางกลบั ภูมลิ ําเนาเพ2อื ประกอบกจิ กรรมดงั กล่าวนอกจากจะเป็น
การกระทําเพ2อื แสดงออกถงึ ความกตญั „ูแลว้ ยงั เป็นการพบปะสงั สรรคร์ ะหว่างญาตพิ น2ี ้องอกี
ดว้ ย ชาวบา้ นทกุ ครอบครวั จะจดั อาหารคาวหวาน ดอกไมธ้ ปู เทยี น ไปทาํ บุญทว2ี ดั
วันส่งตายาย จะตรงกับวันแรม …‡ ค2ํา เดือน …† ซ2ึงการทําบุญวันส่งตายายจึงมี
ความสําคญั พอกนั แต่ในวนั ส่งตายายจะจดั เตรยี มอาหารคาวหวานต่าง ๆ เป็นพเิ ศษ พรอ้ ม
ของใชใ้ นครวั เรอื น ซง2ึ เชอ2ื วา่ เป็นการจดั เตรยี มใหต้ ายายนํากลบั ไปใช้
งานสืบสานประเพณีวนั สารทเดือนสิบ ณ วดั สคุ นธาวาส
๒๑
๖.วนั ลอยกระทง
การลอยกระทงในปัจจุบนั ยงั คงรกั ษารูปแบบเดมิ เอาไว้ได้ตามสมควร เม2อื ถึงวนั เพญ็
พระจนั ทร์เตม็ ดวงในขน<ึ …‡ ค2ํา เดอื น …ˆ ชาวบา้ นจะจดั เตรยี มทํากระทงจากวสั ดุทห2ี าง่าย
ตามธรรมชาติ เช่น หยวกกลว้ ย และดอกบวั นํามาประดษิ ฐเ์ ป็นกระทงสวยงาม ปักธปู เทยี น
และดอกไม้ เคร2อื งสกั การบูชา ก่อนทําการลอยในแม่น<ํากจ็ ะอธษิ ฐานในสง2ิ ทม2ี ุ่งหวงั พรอ้ มขอ
ขมาต่อพระแมค่ งคา ตามคุม้ วดั หรอื สถานทจ2ี ดั งานหลายแห่ง มกี ารประกวดกระทง ประกวด
นางนพมาศ และมมี หรสพสมโภชในตอนกลางคนื นอกจากนัน< ยงั มกี ารจุดดอกไม้ ไฟ พลุ
ตะไล ซง2ึ ในการเล่นตอ้ งระมดั ระวงั เป็นพเิ ศษ วสั ดุทน2ี ํามาใชท้ าํ กระทง ควรเป็นของทส2ี ามารถ
ย่อยสลายไดง้ า่ ยตามธรรมชาติ ดงั ภาพงานประเพณีลอยกระทง ณ บรเิ วณรมิ ฝายกกั เกบ็ น<ํา
คลองพรง หมทู่ 2ี ˆ ตาํ บลพรพุ ี อาํ เภอบา้ นนาสาร จงั หวดั สรุ าษฎรธ์ านี
งานประเพณีลอยกระทง ณ บริเวณริมฝายกกั เกบ็ นXําคลองพรง
ส่วนท'ี ๓
โครงสรา้ งเศรษฐกิจ
และอาชีพ
๒๓
อาชีพ
ประชากรทอ2ี าศยั อยใู่ นเขตเทศบาลตาํ บลพรพุ ปี ระกอบอาชพี ต่างๆ ดงั น<ี
๑. เกษตรกรรมประมาณ ๗๐ เปอรเ์ ซน็ ต์
๒. คา้ ขายประมาณ ๕ เปอรเ์ ซน็ ต์
๓. รบั ราชการ / รฐั วสิ าหกจิ ประมาณ ๕ เปอรเ์ ซน็ ต์
๔. รบั จา้ งทวั2 ไปประมาณ ๒๐ เปอรเ์ ซน็ ต์
การบริการ
๑. ทพ2ี กั /เกสเฮา้ สจ์ าํ นวน ๒ แหง่
๒. ปัม< น<ํามนั จาํ นวน ๒ แหง่
๓. จดุ รบั ซอ<ื น<ํายาง จาํ นวน ๑๐ จดุ
๔. รา้ นรบั ซอ<ื ยางแผน่ จาํ นวน ๓ แหง่
๕. รา้ นขายของชาํ จาํ นวน ๕๒ แหง่
๖. รา้ นจาํ หน่ายวสั ดกุ ารเกษตร จาํ นวน ๒ แหง่
๗. ตลาดนดั จาํ นวน ๒ แหง่
๘. รา้ นซ่อมรถจกั รยานยนต์ จาํ นวน ๓ แหง่
อตุ สาหกรรม
๑. โรงงานอุตสาหกรรมขนาดกลาง จาํ นวน ๓ แหง่
๒. เหมอื งแรย่ ปิ ซมั2 และแอนไฮไดรต์ จาํ นวน ๕ แหง่
๓. โรงงานผลติ น<ําดม2ื ขนาดเลก็ จาํ นวน ๒ แหง่
สวนยางพารา สวนปาลม์ น<ํามนั
ส่วนที' ๔
สถานท'ีสาํ คญั
๒๕
แหล่งท่องเท.ียว
๑.จดุ ชมวิวเขาช่องช้าง
จุดชมววิ สนั ไมง้ าม หมบู่ า้ นประวติ ศิ าสตรเ์ ขาช่องชา้ ง ตงั< อยทู่ ต2ี ําบลพรุพี อําเภอบา้ น
นาสาร จงั หวดั สรุ าษฏรธ์ านี บนจุดชมววิ สามารถมองเหน็ ววิ ได้ ๓๖๐ องศา อากาศดมี วี วิ
ทิวทศั น์ท2ีสวยงาม ในช่วงเช้าจะมหี มอกเยอะ และในบางวนั จะมหี มอกจนถึงเวลา ๙
นาฬิกา การเดนิ ทางสามารถขบั รถข<นึ ไปได้แต่ควรจะเป็นรถกระบะ หรอื มอเตอร์ไซค์
เพราะรถเก๋งค่อนขา้ งทจ2ี ะลําบากในการเดนิ ทาง มที พ2ี กั บรกิ ารหรอื สามารถนําเตน็ ท์มา
กางเองไดเ้ ลย
จดุ กางเต้นสนั ไม้งาม
๒๖
๒.หม่บู า้ นประวตั ิศาสตรบ์ า้ นช่องช้าง
ชุมชนบ้านช่องชา้ งเป็นชุมชุมเพ2อื การเรยี นรูป้ ระวตั ศิ าสตร์ เป็นจุดกําเนิดจุดแรกของ
การเคล2ือนไหวในการต่อสู้ของ พคท. ในภาคใต้ เป็นฐานท2มี นั2 แห่งแรกในภาคใต้ (ค่าย
๕๐๘) มกี ารจดั สรา้ งอนุสรณ์สถานบา้ นชอ่ งชา้ งขน<ึ เพอ2ื เป็นอนุสรณ์ของวรี ชนในเขตภาคใต้
ตอนบน เพอ2ื แสดงถงึ การต่อสเู้ พอ2ื ความเป็นธรรม การเสยี สละเพอ2ื อุดมการณ์ประชาธปิ ไตย
ณ บรเิ วณหน้าโรงเรยี นบ้านช่องชา้ ง ตําบลพรุพี มสี ภาพเป็นฐานปูน สูงประมาณ ๑.๕๐
เมตร ดา้ นบนเป็นมอื ชพู านรฐั ธรรมนูญ มดี าวแดง ๕ แฉก อยบู่ นฐานและไดจ้ ดั งานราํ ลกึ วรี
ชนครงั< ใหญ่ มกี จิ กรรมตามแนวเศรษฐกจิ พอเพยี ง กจิ กรรมเขา้ คา่ ยสาํ หรบั เยาวชน และเดนิ
ป่ าโบราณ ป่ าสนั เยน็ ศูนยถ์ ่ายทอดเทคโนโลยี ตําบลพรุพี กลุ่มตเี หลก็ กลุ่มรบั ซ<อื ยางสด
ระบบประปาภเู ขา ธนาคารตน้ ไม้ ถ<าํ ขมน<ิ น<ําตกดาดฟ้า สวนสละอาทติ ย์
ร่องรอยประวตั ิศาสตรบ์ า้ นท'ีมีการต่อสู้
๒๗
๓.อนุสรณ์สถานบา้ นช่องช้าง
หลงั จากการต่อสู้ของพรรคคอมมวิ นิสต์แห่งประเทศไทย ได้เขา้ มาเคล2ือนไหวใน
ภาคใต้ เพราะภาคใตเ้ ป็นฐานสาํ คญั ของชาวจนี ทต2ี ่อตา้ นญป2ี ุ่น แมภ้ ายหลงั สงครามจะยตุ ลิ ง
แต่กย็ งั คงมคี วามเคลอ2ื นไหวของพรรคคอมมวิ นิสตแ์ หง่ ประเทศไทยในพน<ื ทบ2ี า้ นชอ่ งชา้ ง ซง2ึ
ผลจากการปราบปรามของรฐั บาลเกดิ การปะทะและสญู เสยี ชวี ติ เลอื ดเน<ือทงั< สองฝ่ายในเขต
พ<นื ท2ีบ้านช่องช้างมีวีรชนท2ีเสยี ชีวิตระหว่างปี พ.ศ. 2500-2527 มากกว่า 500 คน จาก
ประวตั ขิ องตาํ บลพรพุ ไี ดก้ ลา่ วไวแ้ ลว้ กอ่ นหน้าน<ี
อนุสรณ์สถานบา้ นช่องช้าง
ส่วนที' ๕
การเปลี'ยนแปลงทางสงั คม
และวฒั นธรรม
๒๙
การเปล.ียนแปลงทางสงั คมและวฒั นธรรม
ระดบั การเปลย2ี นแปลงทางสงั คมและวฒั นธรรมการเปลย2ี นแปลงทางสงั คมอย่างน้อยมี
ดว้ ยกนั ๒ ระดบั คอื
๑.ระดบั กลุ่มคนย่อย ๆ เป็นการเปล2ยี นแปลงพฤตกิ รรมของกลุ่มคนบางกลุ่ม ทงั< น<ี
เพราะการเปลย2ี นแปลงพฤตกิ รรมกลุม่ อาจนําไปสกู่ ารเปลย2ี นแปลงปทสั ถานและนําไปสกู่ าร
เปลย2ี นแปลงโครงสรา้ งของสงั คมได้
๒.ระดบั สถาบนั หรอื ระดบั องคก์ าร การเปลย2ี นแปลงระดบั น<ีเกดิ จากการเปลย2ี นแปลง
ในสถาบนั ครอบครวั สถาบนั ทางเศรษฐกจิ หรอื สถาบนั การเมอื งและการปกครอง เป็นตน้
และการเปล2ียนแปลงในระดบั น<ีจะนําไปสู่การเปล2ียนแปลงทางโครงสร้างของสงั คมได้
เชน่ เดยี วกนั
การเปล'ียนแปลงทางสงั คมและวฒั นธรรม
ส่วนที' ๖
การดาํ เนินงานโครงการยกระดบั
เศรษฐกิจและสงั คมรายตาํ บล
แบบบรู ณาการ
๓๑
แบบฟอรม์ รายละเอียดการดาํ เนินกิจกรรม
โครงการยกระดบั เศรษฐกิจและสงั คมรายตาํ บลแบบบรู ณาการ (๑ ตาํ บล ๑
มหาวิทยาลยั )
มหาวิทยาลยั ราชภฏั สรุ าษฎรธ์ านี
๑.พืนX ท'ีรบั ผิดชอบ ตาํ บล/แขวง พรพุ ี อาํ เภอ/เขต บา้ นนาสาร จงั หวดั สรุ าษฎรธ์ านี
๒.ความต้องการของชมุ ชน/พืนX ที'ที'รบั ผิดชอบ
มติคณะรัฐมนตรีเม2ือวันท2ี ๖ ตุลาคม ๒๕๖๓ เห็นชอบให้กระทรวงอุดมศึกษา
วทิ ยาศาสตร์ วจิ ยั และนวตั กรรม โดยสาํ นกั งานปลดั กระทรวงอุดมศกึ ษา วทิ ยาศาสตร์ วจิ ยั
และนวัตกรรมดําเนินโครงการยกระดับเศรษฐกิจและสงั คมรายตําบลแบบบูรณาการ
(มหาวทิ ยาลยั สู่ตําบล สรา้ งรากแก้วใหป้ ระเทศ) ซ2งึ มวี ตั ถุประสงค์เพ2อื ยกระดบั เศรษฐกจิ
และสังคมรายตําบลแบบบูรณาการ โดยมีมหาวิทยาลัยในพ<ืนท2ีเป็ นหน่วยบูรณาการ
โครงการ (System Integrator) และจ้างนักศึกษา บัณฑิตจบใหม่ และประชาชนทัว2 ไป
จํานวน ๖๐,๐๐๐ คน เพ2อื ร่วมพฒั นาพ<นื ท2ี ฟ<ืนฟูเศรษกจิ และสงั คมทม2ี คี วามครอบคลุมใน
ประเดน็ ต่างๆ ตามปัญหาและความตอ้ งการของชมุ ชน
เพอ2ื ใหม้ หาวทิ ยาลยั สามารถขบั เคล2อื นปฏบิ ตั กิ ารรว่ มกบั องคก์ รหลกั ในตาํ บลไดต้ าม
วัตถุประสงค์ของโครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตําบลแบบบูรณาการ
(มหาวิทยาลัยสู่ตําบล สร้างรากแก้วให้ประเทศ) และเกิดประโยชน์ท2ีการสร้างการ
เปลย2ี นแปลงใหก้ บั การแก้ปัญหาความยากจนในตําบลไดอ้ ย่างเป็นรูปธรรมเป็นการระดม
พลงั ของหน่วยท2ีมีศกั ยภาพ ๒ หน่วย คือ ตําบล และมหาวิทยาลยั โดยมีการกําหนด
เป้าหมายการทํางานร่วมมอื กนั ทช2ี ดั เจน จงึ ไดจ้ ดั ทําโครงการ กจิ กรรมตามความต้องการ
ของตาํ บลภายใตบ้ รบิ ทของชมุ ชน
บรบิ ทชุมชนตําบลพรุพี อําเภอบา้ นนาสาร จงั หวดั สุราษฎรธ์ านี เป็นสงั คมชนบทมี
วถิ ชี วี ติ ทผ2ี กู พนั กบั ธรรมชาติ ประกอบอาชพี เกษตรกรรม ทาํ สวนยางพารา สวนปาลม์ น<ํามนั
มกี ารคมนาคมทส2ี ะดวก มรี ะบบสาธารณูปโภคทค2ี ่อนขา้ งสมบูรณ์ พน<ื ทส2ี ่วนใหญ่เป็นพน<ื ท2ี
ราบลมุ่ และมเี นินเขาเลก็ น้อย
๓๒
ตําบลพรุพเี ป็นหน2ึงใน ๑๑ ตําบลของอําเภอบา้ นนาสาร จงั หวดั สุราษฎรธ์ านีเดมิ เคย
อยู่ในเขตการปกครองของตําบลนาสารและเม2อื วนั ท2ี ๑๓ สงิ หาคม พ.ศ.๒๔๘๓ ไดแ้ ยกออก
จากตําบลนาสาร ตําบลพรุพตี งั< อยู่ในเขตองค์การบริหารส่วนตําบลพรุพซี 2ึงจดั ตงั< ข<นึ ตาม
พระราชบญั ญตั สิ ภาตาํ บล และองคก์ ารบรหิ ารสว่ นตาํ บล พ.ศ. ๒๕๓๗ โดยประกาศจดั ตงั< เป็น
องค์การบริหารส่วนตําบลเม2ือวนั ท2ี ๒ มีนาคม พ.ศ.๒๕๓๘ ตําบลพรุพีประกอบด้วย ๗
หม่บู า้ น อย่หู ่างไปทางทศิ เหนือของทว2ี ่าการอําเภอบา้ นนาสารโดยห่างจากตวั อําเภอบา้ นนา
สาร ประมาณ ๙ กโิ ลเมตรมเี น<ือทท2ี งั< หมด ๘๙.๕ ตารางกโิ ลเมตร
ตําบลพรุพเี ป็นสงั คมชนบทมีวิถีชีวิตท2ีผูกพนั กบั ธรรมชาติ ประกอบอาชีพทําสวน
รบั จา้ ง อาชพี เสรมิ เลย<ี งสตั วค์ า้ ขาย พชื ผกั สวนครวั ตําบลพรุพรี าษฎรสว่ นใหญ่นบั ถอื ศาสนา
พุทธ ประกอบดว้ ย ๗ หมู่บ้าน หลงั จากคณะทํางานไดม้ กี ารลงพน<ื ทเ2ี กบ็ ขอ้ มูลพบว่าชุมชน
ตอ้ งการใหม้ กี ารยกระดบั และสง่ เสรมิ การท่องเทย2ี วเชงิ ธรรมชาตเิ พอ2ื กระตุน้ เศรษฐกจิ ในพน<ื ท2ี
ตลอดจนการทําการตลาดผลติ ภณั ฑ์ชุมชนท2มี อี ยู่มากมาย โดยเฉพาะอาหารถนิ2 ท2แี ตกต่าง
หลากหลายและได้รบั รางวลั ในระดบั อําเภอ โดยบูรณาการร่วมกนั ระหว่างมหาวิทยาลยั
หน่วยงานราชการ ภาคเอกชน ผนู้ ําชมุ ชน ผนู้ ําทอ้ งถน2ิ และประชาชนในพน<ื ท2ี
๓.ชื'อโครงการ/กิจกรรมในการดาํ เนิ นการ (เน้นกจิ กรรมทเ2ี กย2ี วขอ้ งกบั การพฒั นา
สมั มาชพี และสร้างอาชพี ใหม่ (การยกระดบั สนิ คา้ OTOP/อาชพี อ2นื ๆ) การสรา้ งและพฒั นา
Creative Economy (การยกระดบั การท่องเท2ียว) การนําองค์ความรู้ไปช่วยบริการชุมชน
(Health Care/เทคโนโลยีด้านต่างๆ) และการส่งเสริมด้านสิ2งแวดล้อม/Circular Economy
(การเพม2ิ รายได้หมุนเวยี นให้แก่ชุมชน) ให้แก่ชุมชน) โครงการยกระดบั สินค้าทางการ
เกษตร ผลิตภณั ฑช์ มุ ชนตาํ บลพรพุ ี พฒั นาสมั มาชีพเดิม และสร้างองคค์ วามร้สู มั มาชีพ
ใหม่ เพื'อเพ'ิมรายได้หมุนเวียนให้แก่ชุมชนและส่งเสริมการท่องเที'ยวป่ าชุมชน เชิง
อนุรกั ษ์ส'ิงแวดล้อม ให้เป็นแหล่งเรียนร้ใู หม่ของตาํ บลพรพุ ี
๓.๑ วตั ถปุ ระสงคข์ องโครงการ/กิจกรรมในการดาํ เนินการ
๑.ยกระดบั สนิ ค้าทางการเกษตร ผลิตภณั ฑ์ชุมชนตําบลพรุพดี ้วยระบบเทคโนโลยี
ดจิ ทิ ลั ขายสนิ คา้ และบรกิ ารผา่ นสมารท์ โฟน
๒.สง่ เสรมิ การทอ่ งเทย2ี วเชงิ อนุรกั ษ์สง2ิ แวดลอ้ มจุดชมววิ สวนแมเ่ ฒา่ ตาํ บลพรพุ ี อาํ เภอ
บา้ นนาสาร จงั หวดั สรุ าษฎรธ์ านี
๓๓
๓.พฒั นาสมั มาชพี เดมิ และสรา้ งองคค์ วามรูส้ มั มาชพี ใหม่ เพ2อื เพม2ิ รายไดห้ มุนเวยี นใหแ้ ก่
ชมุ ชน
ตาํ บลพรพุ ี อาํ เภอบา้ นนาสารจงั หวดั สรุ าษฎรธ์ านี
๔.สง่ เสรมิ และอนุรกั ษป์ ่าชมุ ชน ๓๐ ไร่ หมู่ ๗ ใหเ้ ป็นแหลง่ เรยี นรใู้ หมข่ องตาํ บลพรพุ ี อาํ เภอ
บา้ นนาสาร จงั หวดั สรุ าษฎรธ์ านี
๓.๒ ประเภทกิจกรรมท'ีจะเข้าไปดาํ เนินการในพืนX ที' (ระบุรอ้ ยละของกจิ กรรม)
๑. การพฒั นาสมั มาชพี และสรา้ งอาชพี ใหม่ (การยกระดบั สนิ คา้ OTOP/อาชพี อ2นื ๆ) คดิ เป็น
รอ้ ยละ ๕๐ ของกจิ กรรมทงั< หมด
๒. การสรา้ งและพฒั นา Creative Economy (การยกระดบั การทอ่ งเทย2ี ว) คดิ เป็นรอ้ ยละ ๒๐
ของกจิ กรรมทงั< หมด
๓. การนําองคค์ วามรไู้ ปช่วยบรกิ ารชุมชน (HealthCare/เทคโนโลยดี า้ นต่างๆ) คดิ เป็นรอ้ ย
ละ ๑๕ ของกจิ กรรมทงั< หมด
๔. การสง่ เสรมิ ดา้ นสง2ิ แวดลอ้ ม/CircularEconomy (การเพม2ิ รายไดห้ มนุ เวยี นใหแ้ ก่ชมุ ชน)
ใหแ้ กช่ มุ ชน คดิ เป็นรอ้ ยละ ๑๕ ของกจิ กรรมทงั< หมด
๓.๓ รปู แบบกิจกรรมท'ีจะเข้าไปดาํ เนินการในพืนX ท'ี
๑. การจ้างงานตามภารกิจต่างๆ ของมหาวิทยาลัย จํานวน ๒๐ อัตรา งบประมาณ
๒,๖๔๐,๐๐๐ บาท
๒. การวเิ คราะห์ขอ้ มูลศกั ยภาพตําบล การกํากบั ตดิ ตามและประเมนิ ผล ระดบั National
System Integrator งบประมาณ ๒๕,๘๐๐ บาท
๓. การวเิ คราะหข์ อ้ มูลศกั ยภาพตําบล การกํากบั ตดิ ตามและประเมนิ ผล ระดบั Regional
System Integrator งบประมาณ ๓๔,๔๐๐ บาท
๔. การสนบั สนุนการดาํ เนินกจิ กรรมของโครงการรายตาํ บล (ระดบั System Integrator)
งบประมาณ ๔๓,๐๐๐ บาท
๕.ยกระดบั สนิ ค้าทางการเกษตร ผลติ ภณั ฑ์ชุมชนและสนิ ค้าOTOPของตําบลพรุพี ด้วย
ระบบเทคโนโลยดี จิ ทิ ลั ขายสนิ คา้ และบรกิ ารผา่ นสมารท์ โฟน งบประมาณ ๒๑๑,๐๙๐บาท
๓๔
๖. สง่ เสรมิ การทอ่ งเทย2ี วเชงิ อนุรกั ษ์สงิ2 แวดลอ้ มจดุ ชมววิ สวนแมเ่ ฒา่ ตาํ บลพรพุ ี อาํ เภอ
บา้ นนาสาร จงั หวดั สรุ าษฎรธ์ านีตาํ บลพรพุ ี งบประมาณ ๒๙๔,๗๗๑ บาท
๗. พฒั นาสมั มาชพี เดมิ และสร้างองค์ความรู้สมั มาชพี ใหม่ เพ2อื เพม2ิ รายได้หมุนเวยี น
ใหแ้ กช่ มุ ชน ตาํ บลพรพุ ี อาํ เภอบา้ นนาสาร จงั หวดั สรุ าษฎรธ์ านีงบประมาณ ๑๔๗,๑๐๐บาท
) ส่งเสรมิ และอนุรกั ษ์ป่ าชุมชน ๓๐ ไร่ หมู่ ๗ ให้เป็นแหล่งเรยี นรู้ใหม่ของตําบลพรุพี
อาํ เภอบา้ นนาสาร จงั หวดั สรุ าษฎรธ์ านีงบประมาณ ๑๔๗,๑๐๐ บาท
๓.๔ ผลผลิตและผลลพั ธข์ องโครงการ/กิจกรรมในการดาํ เนินการ
๑) เชิงปริมาณ
๑.๑ จาํ นวนผเู้ ขา้ รว่ มโครงการ (ผรู้ บั การถ่ายทอดความร)ู้ รวมทงั< สน<ิ ๑๕๐ คน ประกอบดว้ ย
- ผูร้ บั การถ่ายทอดเพ2อื ยกระดบั สนิ คา้ ทางการเกษตร ผลติ ภณั ฑช์ ุมชน และสนิ คา้ OTOP ของ
ตาํ บลพรพุ ี ดว้ ยระบบเทคโนโลยดี จิ ทิ ลั ขายสนิ คา้ และบรกิ ารผา่ นสมารท์ โฟน จาํ นวน ๒๕ คน ต่อ
รนุ่ จดั ทงั< หมด ๓ รนุ่ รวมทงั< สน<ิ ๗๕ คน
- สง่ เสรมิ การทอ่ งเทย2ี วเชงิ อนุรกั ษ์สง2ิ แวดลอ้ มสง่ เสรมิ การทอ่ งเทย2ี วเชงิ อนุรกั ษ์สง2ิ แวดลอ้ มจุดชม
ววิ สวนแม่เฒ่า ตําบลพรุพี อําเภอบ้านนาสารจงั หวดั สุราษฎร์ธานีจํานวน ๒๕ คน ต่อรุ่น จดั
ทงั< หมด ๒ รนุ่ รวมทงั< สน<ิ ๕๐ คน
- พฒั นาสมั มาชพี เดมิ และสรา้ งองคค์ วามรูส้ มั มาชพี ใหม่ เพ2อื เพมิ2 รายไดห้ มุนเวยี นใหแ้ ก่ชุมชน
ตําบลพรุพี อําเภอบ้านาสาร จงั หวดั สุราษฎร์ธานี จํานวน ๒๕ คน ต่อรุ่น ทงั< หมด ๒ รุ่น รวม
ทงั< สน<ิ ๕๐ คน
- สง่ เสรมิ และอนุรกั ษ์ป่าชมุ ชน ๓๐ ไร่ หมู่ ๗ ใหเ้ ป็นแหลง่ เรยี นรใู้ หมข่ องตาํ บลพรพุ ี อาํ เภอบา้ น
นาสาร จงั หวดั สรุ าษฎรธ์ านีจาํ นวน ๒๕ คน ต่อรนุ่ จดั ทงั< หมด ๒ รนุ่ รวมทงั< สน<ิ ๕๐ คน
- จาํ นวนครงั< ทด2ี าํ เนินโครงการ/กจิ กรรม ๙ ครงั<
- ผเู้ ขา้ รว่ มโครงการอยใู่ นกระบวนการครบถว้ นตงั< แต่เรมิ2 ตน้ จนถงึ สน<ิ สดุ อยา่ งน้อย ๘๐ เปอรเ์ ซน็
๓๕
๒) เชิงคณุ ภาพ
๒.๑ ผเู้ ขา้ รว่ มโครงการมคี วามพงึ พอใจในกระบวนการจดั โครงการ/กจิ กรรม รอ้ ยละ ๘๐
๒.๒ ผูเ้ ขา้ ร่วมโครงการมคี วามรูค้ วามเขา้ ใจ และสามารถประยุกต์ใชเ้ ทคโนโลยไี ด้หลงั การ
อบรม รอ้ ยละ ๘๐ คะแนน
๒.๓ ผเู้ ขา้ รว่ มโครงการสามารถต่อยอด และถ่ายถอดองคค์ วามรทู้ ไ2ี ดร้ บั การถ่ายทอดใหก้ บั อ2นื
ได้
๒.๔ มผี ลติ ภณั ฑช์ ุมชนตลาดชุมชนแห่งใหม่ และมแี หล่งท่องเทย2ี วเชงิ อนุรกั ษ์เพมิ2 ขน<ึ รอ้ ยละ
๘๐ เปอรเ์ ซน็
๔.งบประมาณการดาํ เนินการ
ประเภท/รายการ รายละเอียด งบประมาณ
3,543,200
งบเงินอดุ หนุนสาํ หรบั สถาบนั อดุ มศึกษาเพ@ือการยกระดบั เศรษฐกิจ 2,640.000
และสงั คมรายตาํ บล 300,000
(ตาํ บลพรพุ ี อาํ เภอบา้ นนาสาร จงั หวดั สรุ าษฎรธ์ านี)
1. การจ้างงานตามภารกิจต่าง ๆ ของมหาวิทยาลยั สาํ หรบั ประชาชนทวั@ ไป
บณั ฑิตจบใหม่และนักศึกษา
!) การวเิ คราะหข์ อ้ มลู (DataAnalytics) ในการ !) จา้ งงานนกั ศกึ ษา จาํ นวน [
วางแผนและตดั สนิ ใจ เพอKื จดั ทาํ นโยบาย อตั รา (\,^^^ บาท X !อตั รา x ![
แนวทางและงบประมาณสนบั สนุน(เป็นการ เดอื น)
จดั การขอ้ มลู ทไKี ดจ้ ากการจดั เกบ็ ขอ้ มลู ของ [) จา้ งงานบณั ฑติ จบใหม่ จาํ นวน
โครงการพฒั นาตาํ บลแบบบรู ณาการของ ! อตั รา (!\,^^^ บาทx ! อตั รา x
กระทรวงมหาดไทย) ![ เดอื น)
๓๖
[) การเฝ้าระวัง ประสานงานและติดตามข้อมูล !) จา้ งงานบณั ฑติ จบใหม่ จาํ นวน ! อตั รา 396.000
สถานการณ์การระบาดของ COVID และโรคระบาด (!\,^^^ บาทx ! อตั รา x ![ เดอื น)
ใหม่การเฝ้าระวงั และติดตามผู้ป่ วยและกลุ่มเสKียง [) จ้างงานประชาชนทัวK ไป จํานวน [
การส่งต่อการรกั ษาการประชาสมั พนั ธ์แจ้งข้อมูล อตั รา (o,^^^ บาทx [ อตั รา x ![ เดอื น)
ข่าวสารการปรับสภาพแวดล้อม ระบบรายงาน
สถานการณ์การระบาดของโรค(การสอบสวนโลก
การคัดกรองจัดระดับกลุ่มเสKียง กลุ่มสงสัย กลุ่ม
สมั ผสั การวเิ คราะหส์ ถานการณ์แนวโน้มการระบาด
ในพนnื ท)Kี (รว่ มกบั ศบค)
s) การจัดทําข้อมูลราชการในพnืนทKีเป็ นข้อมูล !) จา้ งงานบณั ฑติ จบใหม่ จาํ นวน [ อตั รา 360.000
อเิ ลก็ ทรอนิกส์ (DigitalizingGovernment Data) (!\,^^^ บาทx [ อตั รา x ![ เดอื น) 588.000
(รว่ มกบั กพร.)
|) การจ้างงานเพKือการพฒั นาสมั มาชีพและสร้าง 1) จา้ งงานนกั ศกึ ษา จาํ นวน 2อตั รา
อาชพี ใหม่ (การยกระดบั สนิ คา้ OTOP/อาชพี อKนื ๆ) (5,000 บาท x 2อตั รา x 12 เดอื น)
การสรา้ งและพฒั นา Creative Economy(การ 2) จา้ งงานบณั ฑติ จบใหม่ จาํ นวน 2 อตั รา
ยกระดบั การท่องเทKยี ว) การนําองค์ความรู้ไปช่วย (15,000 บาทx 2 อตั รา x 12 เดอื น)
บรกิ ารชมุ ชน(Health Care/ทคโนโลยดี า้ นต่างๆ) 3) จา้ งงานประชาชนทวัK ไป จาํ นวน 1
และการสง่ เสรมิ ดา้ นสงKิ แวดลอ้ ม/Circular Economy อตั รา (9,000 บาทx 1 อตั รา x 12 เดอื น)
(การเพมKิ รายไดห้ มุนเวยี นใหแ้ ก่ชุมชน) ใหแ้ ก่ชุมชน
ตามรปู แบบกจิ กรรมทจKี ะเขา้ ไปดาํ เนินการในพนnื ททKี Kี
รบั ผดิ ชอบ
๓๗
5) การพฒั นาทกั ษะอาชพี ใหมจ่ ากความ 1) จ้างงานนักศึกษา จาํ นวน 1อตั รา 528.000
468.000
หลากหลายทางชวี ภาพและความหลากหลายทาง (5,000 บาทx 1 อตั รา x 12 เดือน)
วฒั นธรรมของชมุ ชน 2) จ้างงานบณั ฑิตจบใหม่ จาํ นวน 2
อตั รา (15,000 บาทx 2 อตั รา x 12
เดือน)
3) จ้างงานประชาชนทวั@ ไป จาํ นวน 1
อตั รา (9,000 บาทx 1 อตั รา x 12
เดือน)
6) การถ่ายทอดองคค์ วามรู้ เทคโนโลยนี วตั กรรม !) จ้างงานบัณฑิตจบใหม่ จํานวน [
และภูมปิ ัญญาท้องถนิK เพKอื การพฒั นาเศรษฐกจิ อตั รา (!\.^^^x [ อตั รา x ![ เดอื น)
และสงั คมในชมุ ชน [) จ้างงานประชาชนทวัK ไป จํานวน !
อตั รา (o,^^^ บาทx ! อตั รา x ![
เดอื น)
a. ค่าใช้จ่ายสาํ หรบั การดาํ เนิ นโครงการ/กิจกรรมตามรูปแบบกิจกรรมท@ีจะเข้าไป 800.000
ดาํ เนินการในพืนd ที@ท@ีรบั ผิดชอบ
(!. เป็นไปตามรายการ/อตั ราตามระเบยี บของสาํ นกั งบประมาณ โดยตอ้ งไมต่ งัn งบประมาณ
สาํ หรบั ใชใ้ นการอบรมเพยี งอยา่ งเดยี ว และตอ้ งไมเ่ ป็นงบประมาณในการจดั ซอnื ครภุ ณั ฑ์
[. กจิ กรรมและคา่ ใชจ้ า่ ยทไKี มส่ นบั สนุน เชน่ คา่ สาธารณูปโภค / จดั ทาํ Big Data / จดั ทาํ
Application / เชา่ พนnื ทKี cloud / คา่ เชา่ สถานทKี / จดั ทาํ สอKื ประชาสมั พนั ธ์ /คา่ Kerry / คา่ ดู
งาน / จา้ งผลติ ของ / จดั งานแสดงสนิ คา้ / ค่าจา้ งเหมาต่างๆ ค่าสาํ รวจและเกบ็ ขอ้ มลู / ค่า
วสั ดปุ ้องกนั Covid / คา่ จา้ งจดั กจิ กรรม / คา่ ซอnื hardware/software / คา่ ปรกึ ษาโครงการ
เป็นตน้ รวมถงึ รายจา่ ยลงทนุ ทไKี มเ่ กยKี วขอ้ งกบั การดาํ เนินกจิ กรรม)
! ) ถ่ า ย ท อ ด เ พKือ ย ก ร ะ ดับ สิน ค้า !) คา่ วทิ ยากร จาํ นวน [ คนๆละ •^^ จาํ นวน ๓๘
211,090
ผลติ ภณั ฑช์ มุ ชนและสนิ คา้ OTOP ของ \ ชม. 2 วนั จาํ นวน 3 รนุ่ =36,000
ตําบลพรุพี ดว้ ยระบบเทคโนโลยดี จิ ทิ ลั [) คา่ เบยnี เลยnี งในการลงพนnื ทKี จาํ นวน 2 ครงัn ๆ
ขายสนิ ค้าและบรกิ ารผ่านสมาร์ทโฟน ละ 7 คนๆ ละ !|^ บาท = !,96^ บาท
จํานวน 2\ คน ต่อรุ่น จดั ทงัn หมด 3 รุ่น s) ค่าพัฒนาผลิตภัณฑ์ต้นแบบ จํานวน \
รวมทงัn สนnิ 7\ คน ผลติ ภณั ฑๆ์ ละ \,\^^ บาท = [—,\^^ บาท
|) ค่าจ้างผลิตผลิตภัณฑ์ต้นแบบ จํานวน \
ผลติ ภณั ฑๆ์ ละ \,\^^ บาท = [—,\^^บาท
\) ค่าใช้จ่ายในกระบวนการถ่ายทอดความรู้
(ค่าอาหารกลางวนั ![^ บาท 1 มnอื จํานวน
40 คนต่อครงัn จาํ นวน 3 รนุ่ =14,400
•) คา่ อาหารวา่ ง [^ บาท จาํ นวน 2 มอnื ต่อครงัn
จาํ นวน 40 คน จาํ นวน 3 ครงัn =4,800
7) ค่าเช่ารถยนต์ s คนั จาํ นวน 2 วนั ๆ !,˜^^
บาท = 10,800 บาท
8) ค่านnํามนั เชnอื เพลงิ สําหรบั รถ3 คนั จํานวน
2 วนั ละ1,000 บาท = 6,000
9) คา่ ไวนิลโครงการ จาํ นวน [ ผนื ๆละ !,[^^
บาท = [,400
10) ค่าจัดทําสKือ/หนังสือ/สKือประชาสมั พนั ธ์
จาํ นวน !^ ชดุ ๆ ละ 4,000 = 40,000
11) คา่ วสั ดอุ ุปกรณ์ = 40,000
๓๙
[) ส่งเสริมการท่องเทKียวเชิงอนุรักษ์ !) คา่ วทิ ยากร จาํ นวน • คนๆละ •^^ จาํ นวน \ 293,710
สKิงแวดล้อมส่งเสริมการท่องเทKียวเชิง ชม. [วนั จาํ นวน [ รนุ่ =—[,^^^ บาท
อนุรกั ษ์สงKิ แวดล้อมจุดชมววิ สวนแม่เฒ่า [) ค่าเบnยี เลnยี งในการลงพnนื ทKี จํานวน \ ครงัn ๆ
ตําบลพรุพี อําเภอบ้านาสาร จังหวัดสุ ละ s^ คนๆ ละ !|^ บาท = [!,^^^ บาท
ราษฎร์ธานี จํานวน [\ คน ต่อรุ่น จัด s) ค่าใช้จ่ายในกระบวนการถ่ายทอดความรู้
ทงัn หมด [ รนุ่ รวมทงัn สนnิ \^ คน (ค่าอาหารกลางวนั ![^ บาท 2 มอnื จํานวน 40
ค น ต่ อ รุ่น ( ร ว ม วิศ ว ก ร สังค ม ) จํา น ว น 2
รนุ่ =12,^^^ บาท
|) คา่ อาหารวา่ ง [^ บาท จาํ นวน 2 มอnื จาํ นวน
40 คน ต่อรุ่น (รวมวศิ วกรสงั คม) จํานวน 2รุ่น
=3,200 บาท
\) ค่าจ้างจดั ทําอุปกรณ์/ฉากประกอบในการ
อบรม จาํ นวน \ ชดุ ๆ ละ •,\^^ = s[,\^^
•) ค่าจัดทําสKือ/หนังสือ/สKือประชาสัมพันธ์
จาํ นวน !^ ชดุ ๆ ละ |,[^^ = |[,^^^ บาท
7) ค่าเช่ารถยนต์3 คนั จํานวน 5 วนั ๆ 1,800
บาท = 27,000 บาท
8) ค่านnํามนั เชnือเพลิง 3 คัน จํานวน 5 วัน ๆ
800 บาท = 12,000 บาท
9) ค่าไวนิลโครงการ จํานวน 3 ผนื ๆละ 5,200
บาท = 15,600 บาท
10) คา่ วสั ดอุ ุปกรณ์ = 56,310บาท
๔๐
s) พฒั นาสมั มาชีพเดิม และสร้างองค์ 1) คา่ วทิ ยากร จาํ นวน 3 คน ๆละ 600 จาํ นวน 147,100
ความรู้สัมมาชีพใหม่ เพKือเพิKมรายได้ 3 ชม. 2วนั จาํ นวน 2 รนุ่ =21,600
หมุนเวียนให้แก่ชุมชน ตําบลพรุพี 2) ค่าเบยnี เลยnี งในการลงพนnื ทKี จาํ นวน 2 ครงัn ๆ
อําเภอบ้านนาสาร จงั หวดั สุราษฎร์ธานี ละ 15 คนๆ ละ 140 บาท = 4,200 บาท
จํานวน [\ คน ต่อรุ่น จดั ทงัn หมด [รุ่น
รวมทงัn สนnิ \^ คน
s) ค่าพัฒนาผลิตภัณฑ์ต้นแบบ จํานวน s
ผลติ ภณั ฑๆ์ s,\^^ บาท = !^,\^^ บาท
|) ค่าใช้จ่ายในกระบวนการถ่ายทอดความรู้
(ค่าอาหารกลางวนั ![^ บาท 1 มอnื จาํ นวน 40
คนต่อรนุ่ (รวมวศิ วกรสงั คม) จาํ นวน [ ครงัn
=9,600
\) คา่ อาหารวา่ ง [^ บาท จาํ นวน 2 มอnื จาํ นวน
|^คนต่อรนุ่ (รวมวศิ วกรสงั คม) จาํ นวน [ ครงัn =
3,200
6) ค่าเช่ารถยนต์ [ คนั จํานวน s วนั ๆ !,˜^^
บาท =!^,˜^^
7) ค่านnํามนั เชnือเพลิง [ คนั จํานวน s วนั ๆ
˜^^ บาท = 4,800
8) ค่าไวนิลโครงการ จํานวน [ ผนื ๆละ ![^^
บาท =[,|^^
o) ค่าจัดทําสKือ/หนังสือ/สKือประชาสัมพันธ์
จาํ นวน 10ชดุ ๆ ละ 4,000 = 40,000
!^) คา่ วสั ดอุ ุปกรณ์ = 40,000
๔๑
4) สง่ เสรมิ และอนุรกั ษ์ป่า 1) ค่าวทิ ยากร จํานวน 3 คนๆละ 600 จํานวน 3 ชม. 147,100
ชุมชน s^ ไร่ หมู่ — ให้เป็ น 2วนั จาํ นวน 2 รนุ่ =21,600
แหล่งเรยี นรใู้ หม่ของตําบลพรุพี 2) ค่าเบยnี เลยnี งในการลงพนnื ทKี จาํ นวน 2 ครงัn ๆ ละ 15 103.200
อําเภอบ้านนาสาร จังหวัดสุ คนๆ ละ 140 บาท = 4,200 บาท 25,800
ราษฎร์ธานีจํานวน [\ คน ต่อ 3) ค่ า พัฒ น า ผ ลิ ต ภั ณ ฑ์ ต้ น แ บ บ จํ า น ว น 3 34,400
43.000
รุ่น จดั ทงัn หมด [ รุ่น รวมทงัn สนnิ ผลติ ภณั ฑๆ์ ละ 3,500 บาท = 10,500 บาท
\^ คน 4) ค่าใช้จ่ายในกระบวนการถ่ายทอดความรู้
(ค่าอาหารกลางวนั 120 บาท 1 มnอื จํานวน 40 คน
จาํ นวน 2 รนุ่ = 9,600บาท
5) ค่าอาหารว่าง 20 บาท จํานวน 2 มnอื จํานวน |^
คน จาํ นวน [ รนุ่ = 3,200 บาท
6) ค่าเช่ารถยนต2์ คนั จํานวน 3 วนั ๆ ละ1,800 บาท
=10,800 บาท
7) ค่านnํามนั เชอnื เพลงิ [ คนั จํานวน s วนั ๆ ละ1,000
บาท = |,˜^^ บาท
8) ค่าไวนิลโครงการ จาํ นวน [ ผนื ๆละ ![^^ บาท =
[,|^^ บาท
9) ค่าจดั ทําสKอื /หนังสอื /สKอื ประชาสมั พนั ธ์ จํานวน 10
ชดุ ๆ ละ 4,000 = 40,000
10) คา่ วสั ดอุ ุปกรณ์ =40,000
3. งบบริหารจดั การโครงการ
3.1 คา่ บรหิ ารจดั การสาํ หรบั National System Integrator
3.2 คา่ บรหิ ารจดั การสาํ หรบั Regional System Integrator
3.3 คา่ บรหิ ารจดั การสาํ หรบั System Integrator
การพฒั นาสมั มาชีพ
และสร้างอาชีพใหม่
(การยกระดบั สินค้า OTOP/
อาชีพอAืน)
๔๓
แบบฟอรม์ การจดั โครงการ/กิจกรรม
ต.พรพุ ี อ.บา้ นนาสาร จ.สรุ าษฎรธ์ านี
โครงการถ่ายทอดเพื'อยกระดบั สินค้า ผลิตภณั ฑช์ ุมชนและสินค้า OTOP ของตาํ บลพรุ
พี ด้วยระบบเทคโนโลยีดิจิทลั ขายสินค้าและบริการผา่ นสมารท์ โฟน
ชื'อกิจกรรมที' ๑ การถ่ายภาพผลติ ภณั ฑผ์ า่ นสมารท์ โฟนเพอ2ื สรา้ งความน่าสนใจใหแ้ ก่สนิ คา้
และดงึ ดดู ใจลกู คา้ ออนไลน์
ชื'อกิจกรรมท'ี ๒ การจาํ หน่ายสนิ คา้ ผา่ นสมารท์ โฟนเพอ2ื เพมิ2 ยอดขายใหแ้ กผ่ ลติ ภณั ฑ์
วนั เดือน ปี ที'จดั โครงการ/กิจกรรม
กจิ กรรมท2ี ๑ วนั ศุกรท์ 2ี ๒๖ เดอื นพฤศจกิ ายน พ.ศ.๒๕๖๔
กจิ กรรมท2ี ๒ วนั เสารท์ 2ี ๒๗ เดอื นพฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๕๖๔
ตาํ บล พรพุ ี อาํ เภอ บา้ นนาสาร จงั หวดั สรุ าษฎรธ์ านี
เป้าหมาย : ๑) เชิงปริมาณ ผูไ้ ดร้ บั การอบรมไดร้ บั ความรูใ้ นเร2อื งการจําหน่ายสนิ คา้ ผ่าน
สมารท์ โฟน จาํ นวน ๔๐ คน
๒) เชิงคณุ ภาพ
๒.๑ ผูเ้ ขา้ ร่วมโครงการมคี วามพงึ พอใจในกระบวนการจดั โครงการ/กจิ กรรม
รอ้ ยละ ๘๐
๒.๒ ผเู้ ขา้ ร่วมโครงการสามารถต่อยอด และถ่ายทอดองคค์ วามรูท้ ไ2ี ดร้ บั การ
ถ่ายทอดใหก้ บั ผอู้ น2ื ได้
รายละเอียดค่าใช้จ่ายการดาํ เนินกิจกรรม ทงัX สิXน ๒๓,๒๐๐ บาท ดงั นีX
ค่าตอบแทน
ท@ี รายการ จาํ นวนเงิน (บาท)
๑ คา่ วทิ ยากรถ่ายทอดความรู้ ๖,๐๐๐
(๒ คน x ๖๐๐ บาท x ๕ ชม. x ๒ วนั ) ๖,๐๐๐
รวมเป็นเงินทงัd สิdน
ค่าใช้สอย รายการ ๔๔
คา่ นnํามนั เชอnื เพลงิ
ท@ี (๒ คนั x ๖๐ กโิ ลเมตร x ๔ บาท x จาํ นวนเงิน (บาท)
๑ ๒ วนั ) x๒ (ไป-กลบั ) ๑,๙๒๐
๒ คา่ อาหารกลางวนั ๖,๔๐๐
๓ (๘๐ บาท x ๔๐ คน x ๒ มอnื ) ๓,๒๐๐
๔ ๑,๒๐๐
คา่ อาหารวา่ ง ๑๗,๒๐๐
(๒๐ บาท x ๔๐ คน x ๔ มอnื )
คา่ ไวนิลกจิ กรรม ขนาด
๑.๕ x ๔ เมตร ( ๑ ผนื x ๑,๒๐๐ บาท)
รวมเป็นเงินทงัd สิdน
ขนัX ตอนการดาํ เนินงาน
๑.ประชมุ /ประสานงานวศิ วกรในการดาํ เนินงาน
๒. ประสานวทิ ยากรในการฝึกอบรม
๓. ประสานงานดา้ นสถานทฝ2ี ึกอบรม
๔. ขออนุมตั โิ ครงการและงบประมาณ
๕. ประสานรา้ นคา้ หรอื บุคลากรทเ2ี กย2ี วขอ้ งในการจดั หาและจดั เตรยี มวสั ดุ
๖. จดั อบรมโครงการ
๗. สรปุ ผลและรายงานผลการจดั โครงการ
การยืมเงินในการไปราชการ
ระบุชอ2ื -สกุล ผยู้ มื เงนิ นายอภชิ าติ โกศล
เบอรโ์ ทรศพั ท์ ๐๘๕-๔๗๕๐๗๒๐
๔๕
กรณตี อ้ งขออนุญาตไปราชการ โปรดแนบกาํ หนดการจดั กจิ กรรม และระบุรายชอ2ื ผเู้ ขา้ รว่ ม
กจิ กรรม
ที@ ช@ือ-สกลุ ตาํ แหน่ง
พาหนะในการเดินทางไปราชการ
จา้ งเหมาบรกิ ารรถตปู้ รบั อากาศ (มงี บประมาณในโครงการ)
โปรดระบุ จดั หาผใู้ หเ้ ชา่ รถดว้ ยตนเอง+เอกสารของผใู้ หเ้ ชา่
ใหศ้ นู ยป์ ระสานงาน U2T จดั ทาํ
ขอใชร้ ถสว่ นตวั (ระบุรายละเอยี ดเกย2ี วกบั รถ ยห2ี อ้ รถ Honda Jazz สขี าว หมายเลข
ทะเบยี น กอ 2720 สรุ าษฎร์ ยห2ี อ้ รถ isuzu D-max หมายเลขทะเบยี น ผก 3995 สรุ าษฎร์
ลงช'ือ.....................................ผรู้ บั ผิดชอบโครงการ
(นายอภิชาต โกศล)
เบอรโ์ ทรศพั ท์ ๐๘๕-๔๗๕๐๗๒๐