The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

คู่มือการสำรวจทรัพยากรป่าไม้

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

คู่มือการสำรวจทรัพยากรป่าไม้

คู่มือการสำรวจทรัพยากรป่าไม้

คู่มือการสำรวจทรัพยากรป่าไม้ Forest Inventory Guideline ส่วนสำรวจและวิเคราะห์ทรัพยากรป่าไม้ สำนักวิจัยการอนุรักษ์ป่าไม้และพันธุ์พืช กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พ.ศ. 2565


สารบัญ หน้า สารบัญ i บทที่ 1 บทนำ 1-1 บทที่ 2 การสำรวจทรัพยากรป่าไม้ 2-1 รูปร่างและขนาดของแปลงตัวอย่าง (Plot Design) 2-1 อุปกรณ์ในการสำรวจทรัพยากรป่าไม้ 2-2 การเตรียมงานในสำนักงาน 2-3 บทที่ 3 แบบบันทึกข้อมูล 3-1 แบบบันทึกข้อมูล (Tally Sheets) 3-1 วิธีการบันทึกข้อมูลในแบบบันทึกข้อมูล (Tally Sheets) แบบต่างๆ 3-2 แบบบันทึกข้อมูลแบบที่1 ข้อมูลทั่วไป (General information) 3-2 แบบบันทึกข้อมูลแบบที่2 การเดินทางเข้าจุดศูนย์กลางของกลุ่มแปลงตัวอย่าง และลักษณะทั่วไปของพื้นที่ (Cluster centre access & Site features) 3-4 แบบบันทึกข้อมูลแบบที่3 การเก็บข้อมูลไลเคน มอส กล้าไม้ และลูกไม้ (Herb, Shrub, Seedlings & Saplings) 3-8 แบบบันทึกข้อมูลแบบที่4 การเก็บข้อมูลไม้ต้น (Trees) 3-9 แบบบันทึกข้อมูลแบบที่5 การเก็บข้อมูลไม้ไผ่ หวายและตอไม้ (Bamboo, Erect Rattan & Tree Stump) 3-14 แบบบันทึกข้อมูลแบบที่6 และ 7 การเก็บข้อมูลไม้ล้มขอนนอนไพรเศษไม้ปลายไม้ หวายเลื้อยและไม้เถา(Coarse woody debris, Creeping rattan & Climbers: Transect 1&2) 3-16 แบบบันทึกข้อมูลแบบที่8 การเก็บข้อมูลปัจจัยที่มีผลกระทบต่อพื้นที่ป่า (Site disturbance) 3-20 i


สารบัญ (ต่อ) หน้า บทที่ 4 การปฏิบัติงานภาคสนาม 4-1 การเตรียมการก่อนออกเดินทางจากที่พักไปแปลงตัวอย่าง 4-1 การเดินทางไปจุดศูนย์กลางกลุ่มแปลงตัวอย่าง 4-2 การกำหนดจุดอ้างอิงของแปลงตัวอย่าง 4-4 การวางแปลงตัวอย่าง 4-5 การเก็บและบันทึกข้อมูลในแปลงตัวอย่าง 4-6 การดำเนินการหลังเสร็จสิ้นการเก็บข้อมูล 4-10 ภาคผนวก ii


บทที่ 1 บทนำ ทรัพยากรป่าไม้ (Forest Resources ) หมายถึง ทรัพยากรต่างๆ ที่มีอยู่ในสังคมของป่าทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตหรือสิ่งไม่มีชีวิต ทรัพยากรป่าไม้จึงหมายรวมถึงทรัพยากรอื่นๆ มีผลสืบเนื่องมาจากป่าไม้ อันได้แก่ ต้นไม้ สัตว์ป่า ของป่า ที่ดิน ต้นน้ำลำธาร และสภาพแวดล้อมทั่วไปของป่า ฯลฯ ทรัพยากรป่าไม้ เป็นทรัพยากรธรรมชาติที่มีความสำคัญต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ทั้งทางตรง และทางอ้อม ไม่ว่าจะเป็นแหล่งที่อยู่ อาศัยของสัตว์ป่า ยารักษาโรค เป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร ตลอดจนการรักษาสมดุลด้านนิเวศและสิ่งแวดล้อม ดังนั้นทรัพยากรป่าไม้จึงนับว่าเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่มีความสำคัญและมีคุณค่ายิ่งที่ควรอนุรักษ์และฟื้นฟู ให้มีความสมบูรณ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช สำนักวิจัยการอนุรักษ์ป่าไม้และพันธุ์พืช ในฐานะ หน่วยงานหลักที่รับผิดชอบด้านการสำรวจทรัพยากรป่าไม้ของประเทศ จึงได้จัดทำคู่มือการสำรวจทรัพยากรป่าไม้ ขึ้นเพื่อใช้เป็นแนวทางในการกำหนดรูปแบบการสำรวจรวมถึงวิธีการในเก็บข้อมูลในแปลงสำรวจ สำหรับ เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในภาคสนาม ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคได้ใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติงานสำรวจ ทรัพยากรป่าไม้ได้อย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ ดำเนินงานเป็นไปอย่างมีแบบแผนและเป็นไปใน รูปแบบเดียวกัน เพื่อใช้ในระบบติดตามการเปลี่ยนแปลงข้อมูลทรัพยากรป่าไม้ของชาติซึ่งได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2546 เป็นต้นมา โดยวางจุดครอบคลุมในระยะ 20 x 20 กิโลเมตร ทั่วประเทศ ทั้งพื้นที่ที่เป็นป่าและ ไม่ใช่ป่า หลังจากนั้นเพื่อให้ได้ข้อมูลที่มีความละเอียดถูกต้องและแม่นยำขึ้น จึงได้วางแปลงในระยะ 10 x 10กิโลเมตร ในพื้นที่ที่เป็นป่าทั่วประเทศ และระยะ 5 x 5 และ 2.5 x 2.5กิโลเมตร ที่ครอบคลุมเฉพาะ ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ทั้งนี้เพื่อให้การติดตั้งระบบติดตามการเปลี่ยนแปลงข้อมูล ทรัพยากรป่าไม้ของชาติ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและมีความละเอียดชัดเจนมากยิ่งขึ้น ปัจจุบันในการติดตั้งแปลงตัวอย่างถาวรใน ระยะ10 x 10 กิโลเมตร ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องการที่จะทราบถึงความเปลี่ยนแปลงของทรัพยากรป่าไม้นั้น ต้องทำการเก็บข้อมูลซ้ำในแปลงตัวอย่างถาวรทุกแปลงที่มีสภาพเป็นป่าเพื่อดูความเปลี่ยนแปลงในด้านนิเวศวิทยา และการบุกรุกทำลายป่า และทำการสุ่มเลือกแปลงตัวอย่างถาวรที่ไม่ใช่ป่า เพื่อดูความเปลี่ย นแป ลงขอ ง ลักษณะการใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อประเมินความเปลี่ยนแปลงในภาพรวมของทั้งประเทศ 1-1


การสำรวจทรัพยากรป่าไม้ หรือการแจงนับไม้ คือการเก็บรวบรวมข้อมูลต่างๆ ที่สำคัญเกี่ยวกับ รายละเอียดของป่า เป็นต้นว่า ชนิดป่า การใช้ประโยชน์ที่ดินป่าไม้ องค์ประกอบของชนิดพรรณไม้ ความหนาแน่น ขนาดความโต ความสูง ปริมาตรไม้ ปริมาณการสืบพันธุ์ จำนวนกล้าไม้และลูกไม้ รวมถึงลักษณะ สภาพภูมิประเทศ เช่น ระดับความสูง ความลาดชัน เป็นต้น แล้วนำมาวิเคราะห์และประมวลผลเพื่อให้ทราบถึง ศักยภาพและกำลังผลิตของป่า ตลอดจนการสืบต่อพันธุ์ตามธรรมชาติของไม้ และนอกจากนี้ยังมีการเก็บรวบรวม ข้อมูลอื่น ที่เป็นองค์ประกอบร่วมของป่า เช่น ไม้ไผ่ หวาย ไม้พุ่ม ไม้เถา เถาวัลย์และพืชชั้นล่าง ตลอดจน ผลกระทบด้านต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ป่าได้ด้วย เพื่อให้สามารถวิเคราะห์และประมวลผลได้ในหลายรูปแบบ ซึ่งข้อมูลที่ได้รับจะสามารถนำไปใช้ประกอบการวิเคราะห์ได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อ การดูแลทรัพยากรของประเทศต่อไป


บทที่ 2 การสำรวจทรัพยากรป่าไม้ ในการสำรวจทรัพยากรป่าไม้ มีวัตถุประสงค์เพื่อการติดตาม (Monitor)การเปลี่ยนแปลงของ ทรัพยากรป่าไม้ของประเทศดังนั้นการดำเนินงานจึงต้องทำแบบต่อเนื่อง (Continuous Forest Inventory) โดยใช้แปลงตัวอย่างถาวร (Permanent Sample Plot) รูปวงกลมรัศมี 17.84 เมตร ในการเก็บข้อมูลเพื่อ การติดตามการเปลี่ยนแปลงของทรัพยากรป่าไม้ 1. รูปร่างและขนาดของแปลงตัวอย่าง (Plot Design) แปลงตัวอย่างที่ใช้ในการสำรวจ เป็นแปลงตัวอย่างถาวรที่มีขนาดคงที่ (Fixed–area Plot) ประกอบด้วย รูปร่าง 2 ลักษณะอยู่ด้วยกัน คือ 1.1 ลักษณะรูปวงกลม (Circular Plot) 1.1.1 วงกลมที่มีจุดศูนย์กลางร่วมกันแต่รัศมีต่างกัน จำนวน 3 วง คือ วงกลมรัศมี 3.99 12.62 และ 17.84 เมตร ตามลำดับ 1.1.2 วงกลมที่มีรัศมีเท่ากัน แต่จุดศูนย์กลางต่างกัน จำนวน 4 วง รัศมี 0.631 เมตร เท่ากัน มีจุดศูนย์กลางของวงกลมอยู่บนเส้นรอบวงของวงกลมรัศมี 3.99 เมตร ตามทิศหลักทั้ง 4 ทิศ เหนือ ตะวันออก ใต้ และตะวันตก 1.2 ลักษณะแนวเส้นตรง (Transect Line) จำนวน 2 เส้น ความยาวเส้นละ 17.84 เมตร มีจุดเริ่มต้นร่วมกัน ณ จุดศูนย์กลางของแปลงตัวอย่างโดยทำมุมฉากซึ่งกันและกันดังนั้นจึงมีค่ามุม Azimuth ของเส้นที่ 1 และเส้นที่ 2 ต่างกัน 90 องศา โดยค่ามุม Azimuth เส้นที่ 1 ได้มาจากการสุ่ม แสดงในภาพที่ 1 ภาพที่ 1 รูปร่างและขนาดแปลงตัวอย่าง 17.84 เมตร 12.62 เมตร 3.99 เมตร 0.631 เมตร Transect line 2-1


ตารางที่ 1 ขนาดของแปลงตัวอย่างและข้อมูลที่ทำการศึกษา รัศมีของวงกลม หรือความยาว (ม.) พื้นที่ หรือ ความยาว จำนวน ข้อมูลที่ศึกษา 0.631 0.0005 เฮคแตร์ 4 วง กล้าไม้(Seedling) 3.99 0.005 เฮคแตร์ 1 วง ลูกไม้ (Sapling) และการปกคลุมพื้นที่ของ ไลเคน มอส และไม้พื้นล่าง 12.62 0.05 เฮคแตร์ 1 วง ไม้ไผ่ หวายที่ยังไม่เลื้อย และตอไม้ 17.84 0.1 เฮคแตร์ 1 วง ต้นไม้และปัจจัยที่รบกวนพื้นที่ป่า 17.84 (เส้นตรง) 17.84 เมตร 2 เส้น ไม้ล้มขอนนอนไพร(Coarse Woody Debris ; CWD) ที่เส้น Transect ผ่าน 2. อุปกรณ์ในการสำรวจทรัพยากรป่าไม้ 2.1 แผนที่ภูมิประเทศ มาตราส่วน 1: 50,000 2.2 แผนที่แสดงสภาพป่าของพื้นที่ที่จะสำรวจที่ได้จากการแปลตีความภาพถ่ายทางอากาศห รือ ภาพถ่ายดาวเทียม 2.3 เข็มทิศ (Hand Compass) 2.4 เข็มทิศสำรวจ ชนิดมือถือ (Pocket Compass) 2.5 ขาตั้งกล้อง 2.6 เครื่องหาพิกัดด้วยสัญญาณดาวเทียม (GPS) 2.7 เครื่องมือวัดระยะด้วยแสงเลเซอร์ 2.8 เครื่องมือวัดระยะด้วยเสียง 2.9 เทปวัดระยะทาง ขนาดความยาว 20 เมตร หรือ 30 เมตร 2.10 เทปวัดขนาดความโต (เส้นรอบวง) 2.11 แบบบันทึกข้อมูล 2.12 หมุดเหล็ก 2.13 แผ่นป้ายอลูมิเนียมสำหรับตอกหมายเลขต้นไม้ 2.14 เหล็กตอกตัวเลข 2-2


2.15 ตะปู 2.16 ค้อน 2.17 สีสเปรย์สำหรับทำเครื่องหมายต่างๆ 2.18 อุปกรณ์สำหรับถ่ายรูป/กล้องถ่ายรูป 2.19 ถ่านอัลคาไลน์ขนาด AA, AAA และ 9V 2.20 อุปกรณ์เก็บตัวอย่างพรรณไม้ เช่น แผงอัดพรรณไม้ ถุงพลาสติก แอลกอฮอล์ กรรไกรตัดกิ่ง กระดาษหนังสือพิมพ์ 3. การเตรียมงานในสำนักงาน การเตรียมงานในสำนักงานเป็นการวางแผนและเตรียมความพร้อมก่อนออกปฏิบัติงานในสนาม โดยเมื่อได้รับมอบหมายให้ดำเนินการสำรวจบริเวณใดแล้ว นอกจากการจัดเตรียมอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ ดังกล่าวแล้ว ควรมีการดำเนินงาน ดังนี้ 1. จัดเตรียมแผนที่แสดงสภาพป่าและแผนที่ภูมิประเทศ มาตราส่วน 1 : 50,000 ให้ครอบคลุม พื้นที่ที่จะดำเนินการพร้อมตารางแสดงค่าพิกัดทางภูมิศาสตร์ของแปลงตัวอย่างในบริเวณดังกล่าว 2. นำแผนที่แสดงสภาพป่ามากำหนดจุดศูนย์กลางของแปลงตัวอย่าง โดยใช้ค่าพิกัดของหน่วย ตัวอย่างที่ได้กำหนดไว้แล้ว พร้อมกับเขียนหมายเลขลำดับแปลงตัวอย่าง (Plot No.) กำกับไว้จนครอบคลุมทั่วพื้นที่ 3. ทำการถ่ายทอดตำแหน่งจุดศูนย์กลางของแปลงตัวอย่าง จากแผนที่แสดงสภาพป่า (ตามข้อ 2) ลงบนแผนที่ภูมิประเทศ มาตราส่วน 1: 50,000 เพื่อนำไปใช้ในการค้นหาตำแหน่งจุดศูนย์กล างของแปลง ตัวอย่างในการปฏิบัติงานภาคสนามต่อไป 4. ตรวจสอบและเตรียมการจากแบบบันทึกข้อมูลเดิม (ในกรณีที่เป็นแปลงตัวอย่างที่เคยทำการ สำรวจมาก่อนแล้ว) เพื่อที่จะเข้าไปทำการเก็บข้อมูลซ้ำในรอบใหม่ของแปลงตัวอย่างเดิม ทั้งนี้นอกจากจะทำ การตรวจสอบการทำงานที่ผ่านมา และติดตามการเปลี่ยนแปลงของทรัพยากรป่าไม้ในแปลงตัวอย่างเดิมแล้ว ยังเป็นการปรับปรุงและเพิ่มความถูกต้องแม่นยำให้กับข้อมูลเดิม เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับชนิดของพันธุ์ไม้ และ ตำแหน่งของต้นไม้ เป็นต้น 5. การวางแผนการปฏิบัติงานภาคสนาม ให้พิจารณาหาจุดพักแรม (Camp) ที่สามารถจะ เดินทางไปปฏิบัติงานเสร็จแล้วกลับถึงที่พักในวันเดียว โดยพิจารณาจากเส้นทางคมนาคม และแห่งหาซื้อหรือ จัดเตรียมเสบียงอาหาร เป็นต้น 2-3


บทที่ 3 แบบบันทึกข้อมูล การสำรวจทรัพยากรป่าไม้คือการเก็บรวบรวมข้อมูลต่างๆ ที่สำคัญของป่า เพื่อให้สามารถเก็บ รวบรวมข้อมูลรายละเอียดต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับทรัพยากรป่าไม้และสภาพพื้นที่ป่าไม้ซึ่งมีองค์ประกอบที่สำคัญ และปัจจัยต่างๆ อยู่มากมาย ดังนั้นเพื่อให้การเก็บรวบรวมข้อมูลต่างๆ มีความเป็นหมวดหมู่ง่ายต่อการวิเคราะห์ และประมวลผลตามวัตถุประสงค์ของการสำรวจจึงได้มีการกำหนดแบบบันทึกข้อมูล (Tally Sheets) สำหรับ บันทึกข้อมูลต่างๆ ให้เป็นหมวดหมู่ขึ้นจำนวน 8 แบบ ซึ่งแต่ละแบบจะมีรายละเอียดต่างๆ แตกต่างกันไปตาม ชนิดของข้อมูลที่ต้องการบันทึกและแบบบันทึกข้อมูลทั้ง 8 แบบนี้ จัดเป็น 1 ชุด สำหรับบันทึกข้อมูลในแปลง ตัวอย่าง 1 แปลง จากการที่แบบบันทึกข้อมูลมีจำนวนมากแบบ และแต่ละแบบมีรายละเอียดที่จะต้องบันทึก แตกต่างกันไป ดังนั้น เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถเข้าใจและบันทึกข้อมูลได้อย่างถูกต้อง เป็นไปในทำนองเดียวกัน จึงได้จัดทำคำอธิบายเกี่ยวกับแบบบันทึกข้อมูล และวิธีการบันทึกข้อมูลในแต่ละแบบ ทั้ง 8 แบบไว้ดังนี้ แบบบันทึกข้อมูล (Tally Sheets) แบบบันทึกข้อมูล(Tally Sheets) 1 ชุด(8 แบบ) ประกอบด้วย แบบที่1 หัวข้อ General Information (ข้อมูลทั่วไป) แบบที่2 หัวข้อ Cluster Centre Access & Site Features (การเข้าถึงจุดศูนย์กลางแปลงตัวอย่างและลักษณะทั่วไปของพื้นที่) แบบที่3 หัวข้อLichen, Moss, Seedlings & Saplings (ไลเคน มอส กล้าไม้และลูกไม้) แบบที่4 หัวข้อTrees (ไม้ต้น) แบบที่5 หัวข้อBamboo, Erect Rattan & Tree Stump (ไม้ไผ่ หวายเส้นตั้งและตอไม้) แบบที่6 หัวข้อ Coarse Woody Debris, Climbing Rattan & Climbers : Transect1 (ไม้ล้มขอนนอนไพร หวายเลื้อยและไม้เถา) เส้นที่1 แบบที่7 หัวข้อ Coarse Woody Debris, Climbing Rattan & Climbers : Transect 2 (ไม้ล้มขอนนอนไพร หวายเลื้อยและไม้เถา) เส้นที่2 แบบที่8 หัวข้อSite Disturbance (ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อพื้นที่) 3-1


วิธีการบันทึกข้อมูลในแบบบันทึกข้อมูล(Tally Sheets) แบบต่าง ๆ แบบบันทึกข้อมูลแบบที่1 ข้อมูลทั่วไป (General information) หัวเรื่องในแบบบันทึกข้อมูล คำอธิบาย Project ID บันทึกหมายเลขโครงการที่ดำเนินการ Plot ID บันทึกค่า UTM ของ Zone (เลข 2 หลักแรก) ค่าในแนวทิศตะวันออก Easting (เลข 6 หลัก) และ ค่าในแนวทิศเหนือ Northing (เลข 7 หลัก) รวมเป็นเลข 15 หลัก Plot # บันทึกหมายเลขแปลงตัวอย่าง Measurement Date บันทึก วัน เดือน ปี(DD/MM/YY) ที่ทำการสำรวจ โดย วัน (DD) = วันที่ที่ทำการสำรวจ เดือน (MM) = เดือนที่ทำการสำรวจ โดยใช้เลขเรียงลำดับ ตั้งแต่01–12 (มกราคม – ธันวาคม) ปี(YY) = ปีที่ทำการสำรวจ โดยใช้เลข 2 ตัวท้าย GPS Plot Centre (map) บันทึกค่าพิกัด UTM ของจุดศูนย์กลางของแปลงตัวอย่างที่กำหนดไว้ ในแผนที่ เป็นค่าในแนวทิศตะวันออก(E) 6 หลัก ค่าในแนวทิศเหนือ (N) 7 หลัก GPS Plot Centre (site) Crew Chief บันทึกค่าพิกัด UTM ของจุดศูนย์กลางแปลงตัวอย่างย่อย (Plot site) ที่อ่านได้จากเครื่อง GPS เป็นค่าในแนวทิศตะวันออก (E) 6 หลัก และค่าในแนวทิศเหนือ(N) 7 หลัก บันทึกชื่อและรหัสประจำตัวผู้ที่ทำหน้าที่หัวหน้าทีมสำรวจ Recorder บันทึกชื่อและรหัสประจำตัวผู้ที่ทำการจดบันทึกข้อมูล Page of กรอบซ้ายบันทึกลำดับเลขที่แผ่นของแบบบันทึกข้อมูล กรอบขวาบันทึกจำนวนแผ่นทั้งหมดของแบบบันทึกข้อมูลแบบนั้น ๆ Sample Location & Data ID บันทึกค่าของแปลงตัวอย่างในระบบฐานข้อมูลที่กำหนดขึ้น โดยกรอบแรกบันทึกเลขอักษรประจำเขตกริด กรอบหลังสี่ช่องแรกบันทึกค่าพิกัด UTM แนวทิศตะวันออก (E) 6 หลักและค่าในแนวทิศเหนือ(N) 7 หลัก 3-2


หัวเรื่องในแบบบันทึกข้อมูล คำอธิบาย Map Sheet No. บันทึกหมายเลขระวางแผนที่ภูมิประเทศ มาตราส่วน 1 : 50,000 ที่แปลงศูนย์กลางของแปลงตัวอย่างตกอยู่ลงในกรอบของ Cluster Centre และหมายเลขระวางที่เป็นจุดเริ่มการเดินเท้าในกรอบของ Starting Point Province Code GPS Camp Site บันทึกชื่อของจังหวัดที่ทำการสำรวจ บันทึกรหัสประจำจังหวัดตามที่กำหนด บันทึกค่าพิกัด UTM ของตำแหน่งที่ตั้งที่พัก ที่อ่านได้จากเครื่อง GPS โดยเป็นค่าในแนวทิศตะวันออก (E) 6 หลัก และค่าในแนวทิศเหนือ(N) 7 หลัก Tally Sheet Index (Number) บันทึกจำนวนแผ่นทั้งหมดของแบบบันทึกข้อมูลที่บันทึกได้ ในแต่ละแบบ Land use Type and Percent Cover ระบุชนิดป่าหรือลักษณะการใช้ประโยชน์ที่ดินของแปลงตัวอย่าง ร้อยละการปกคลุมของชนิดป่าหรือลักษณะการใช้ประโยชน์ที่ดิน Time (24 hour clock) บันทึกเวลาตั้งแต่เริ่มออกเดินทางออกจากที่พัก ปฏิบัติงาน จนกลับ ถึงที่พักตามช่วงเวลาที่กำหนดคือ 1. เวลาที่เริ่มเดินทางออกจากที่พัก 2. เวลาที่เริ่มเดินเท้าออกจากรถ/พาหนะไปยังจุดศูนย์กลาง ของแปลงตัวอย่าง 3. เวลาที่เดินทางถึงจุดศูนย์กลางของแปลงตัวอย่าง 4. เวลาที่เดินทางออกจากแปลงตัวอย่าง 5. เวลาที่เดินทางกลับถึงรถ/พาหนะ 6. เวลาที่เดินทางกลับถึงที่พัก Weather บันทึกสภาพอากาศขณะปฏิบัติงาน Camp site บรรยายที่ตั้งของที่พักว่าเป็นสถานที่ใด อยู่หมู่บ้าน ตำบล อำเภอ และจังหวัดใด GPS Track File Name บันทึกชื่อไฟล์ที่ได้จากการบันทึกเส้นทางการเดินทางไปยังแปลง ตัวอย่างด้วยเครื่อง GPS เมื่อถ่ายข้อมูลเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์ ตั้งชื่อไฟล์ตามชื่อ Plot ID 3-3


หัวเรื่องในแบบบันทึกข้อมูล คำอธิบาย Sample Plot Location Sketch Map เขียนแผนที่สังเขป แสดงข้อมูลเส้นทางการเดินทางจากที่พักไปยังจุด ศูนย์กลางของแปลงตัวอย่าง เพื่อใช้ในการติดตามการเปลี่ยนแปลง Access Notes From Camp to Starting Point (STP) Comment บันทึกรายละเอียดบรรยายการเดินทางจากจุดที่พัก (Camp) จนถึง จุดที่เริ่มออกเดินเท้า (Starting Point) ว่าใช้เส้นทางหรือผ่านสถานที่ เด่นๆ ใดบ้างซึ่งจะสัมพันธ์กับแผนที่สังเขปข้างต้น บันทึกรายละเอียดต่างๆ ที่เห็นว่าเกี่ยวข้องกับแบบ บันทึกข้อมูลเป็นการเพิ่มเติม เช่น ค่าความคลาดเคลื่อน ของเครื่องรับสัญญาณ GPS ในการอ่านค่าพิกัด หมายเลขภาพถ่ายฯลฯ แบบบันทึกข้อมูลแบบที่ 2 การเดินทางเข้าจุดศูนย์กลางของแปลงตัวอย่างและลักษณะทั่วไปของพื้นที่ (Cluster centreaccess & site features) หัวเรื่องในแบบบันทึกข้อมูล คำอธิบาย Project ID บันทึกหมายเลขโครงการที่ดำเนินการ Plot ID บันทึกค่า UTM ของ Zone (เลข 2 หลักแรก) ค่าในแนวทิศตะวันออก Easting (เลข 6 หลัก) และ ค่าในแนวทิศเหนือ Northing (เลข 7 หลัก) รวมเป็นเลข 15 หลัก Plot # บันทึกหมายเลขแปลงตัวอย่าง Measurement Date บันทึก วัน เดือน ปี(DD/MM/YY) ที่ทำการสำรวจ โดย วัน (DD) = วันที่ที่ทำการสำรวจ เดือน (MM) = เดือนที่ทำการสำรวจ โดยใช้เลขเรียงลำดับ ตั้งแต่01–12 (มกราคม – ธันวาคม) ปี(YY) = ปีที่ทำการสำรวจ โดยใช้เลข 2 ตัวท้าย GPS Plot Centre (map) บันทึกค่าพิกัด UTM ของจุดศูนย์กลางของแปลงตัวอย่างที่กำหนดไว้ ในแผนที่ เป็นค่าในแนวทิศตะวันออก(E) 6 หลัก ค่าในแนวทิศเหนือ (N) 7 หลัก 3-4


หัวเรื่องในแบบบันทึกข้อมูล คำอธิบาย GPS Plot Centre (site) Crew Chief บันทึกค่าพิกัด UTM ของจุดศูนย์กลางแปลงตัวอย่างย่อย (Plot site) ที่อ่านได้จากเครื่อง GPS เป็นค่าในแนวทิศตะวันออก (E) 6 หลักและค่าในแนวทิศเหนือ(N) 7 หลัก บันทึกชื่อและรหัสประจำตัวผู้ที่ทำหน้าที่หัวหน้าทีมสำรวจ Recorder บันทึกชื่อและรหัสประจำตัวผู้ที่ทำการจดบันทึกข้อมูล Page of กรอบซ้ายบันทึกลำดับเลขที่แผ่นของแบบบันทึกข้อมูล กรอบขวาบันทึกจำนวนแผ่นทั้งหมดของแบบบันทึกข้อมูลแบบนั้น ๆ Ref. Point Details ระบุรายละเอียดของจุดที่ใช้อ้างอิงกับจุดที่เริ่มออกเดินเท้า (Starting point) ที่มีลักษณะเด่นชัดว่าเป็นชนิดใดถ้าเป็นต้นไม้ ให้บันทึกชนิดพร้อมรหัสและขนาดเส้นรอบวงเพียงอก ถ้าเป็นลักษณะอื่น ๆ ให้ระบุว่าเป็นอะไร Azimuth Ref. Point to Starting Point บันทึกค่ามุมจากจุดอ้างอิงมายังจุดที่เริ่มออกเดินเท้า Distance (m) บันทึกระยะทางระหว่างจุดอ้างอิงถึงจุดที่เริ่มออกเดินเท้า หน่วยเป็นเมตร GPS Starting Point (STP) Elevation Plot Centre (m) บันทึกค่าพิกัด UTM ของจุดที่เริ่มออกเดินเท้าที่อ่านได้จากเครื่อง GPS เป็นค่าในแนวทิศตะวันออก (E) 6 หลักค่าในแนวทิศเหนือ(N) 7 หลัก บันทึกค่าความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง (MSL) ที่จุดศูนย์กลาง ของแปลงตัวอย่างตกอยู่ โดยอ่านจากเครื่อง GPS หรือแผนที่ระวาง (MAP) อย่างใดอย่างหนึ่ง หน่วยเป็นเมตร EPE EPE (Estimate Position Error) คือค่าความคลาดเคลื่อนของ ตำแหน่งบนพื้นโลกในแนวราบขณะที่ทำการวัด ทำการบันทึกค่า EPE หน่วยเป็นเมตร ที่อ่านได้จากเครื่อง GPS ขณะที่ทำการบันทึกค่าพิกัด และค่าพิกัดที่ต้องบันทึกค่า EPE คือ - STP คือ จุดที่เริ่มออกเดินเท้า - ROP คือ จุดอ้างอิงนอกแปลงตัวอย่าง - CC คือ จุดศูนย์กลางของแปลงตัวอย่าง 3-5


หัวเรื่องในแบบบันทึกข้อมูล คำอธิบาย Straight Line Bearing and Distance from Starting Point (STP) to Cluster Centre (CC) ค่ามุมและระยะทางในแนวเส้นตรง(ระยะกระจัด) จากจุดเริ่มออก เดินเท้าไปยังจุดศูนย์กลางของแปลงตัวอย่างที่อ่านได้จากเครื่อง GPS ข้อมูลที่บันทึกประกอบด้วย 1. Azimuth - บันทึกค่ามุมจากจุดเริ่มออกเดินเท้าไปยังจุดศูนย์กลางของ แปลงตัวอย่าง 2. Distance to Cluster Centre (GPS) - บันทึกระยะทางจากจุดเริ่มออกเดินเท้าไปยังจุดศูนย์กลางของ แปลงตัวอย่าง หน่วยเป็นเมตร Navigation Notes ตารางบันทึกการเดินทางจากจุดเริ่มออกเดินเท้าไปยังจุดศูนย์กลาง ของแปลงตัวอย่าง โดยการหมายจุดสังเกต ระหว่างการเดินเท้า เป็นระยะๆตามความเหมาะสมลงในเครื่อง GPS จนถึงจุดศูนย์กลาง ของแปลงตัวอย่างข้อมูลที่บันทึกประกอบด้วย 1. Azimuth - บันทึกค่ามุมจากจุดที่หมายค่าพิกัด(จุดสังเกต) หนึ่งๆ ไปยังจุด ศูนย์กลางของแปลงตัวอย่าง 2. Distance (m) - บันทึกระยะทางระหว่างจุดที่หมายค่าพิกัดหนึ่งๆไปยังจุด ศูนย์กลางของแปลงตัวอย่าง หน่วยเป็นเมตร 3. Remark - บันทึกลักษณะของจุดสังเกตหรือจุดที่หมาย เช่น ทางร่วม ทางแยกลำห้วยลานหิน หรือต้นไม้ขนาดใหญ่ เป็นต้น Site Features ตารางบันทึกรูปร่างและลักษณะของพื้นที่แปลงตัวอย่าง ข้อมูลที่ต้องบันทึกประกอบด้วย 1. Slope 2. Aspect 3. Rocky Substrates (% cover) - บันทึกค่าความลาดชันของพื้นที่แปลงตัวอย่างหน่วยเป็นองศา โดยใช้เครื่องมือวัดระยะด้วยแสงเลเซอร์/เข็มทิศ ในการวัดและ ประเมินจากการมองระยะทางลาดของSlope ด้านบนและด้านล่างจาก จุดศูนย์กลางแปลงตัวอย่าง - บันทึกทิศด้านลาดของพื้นที่แปลงตัวอย่างในภาพรวม ในรูปของ อักษรภาษาอังกฤษ คือ N NE E SE S SW W และ NW - บันทึกร้อยละการครอบคลุมพื้นที่ของหินลักษณะต่างๆดังนี้ Cobbles/Stones = หินก้อน Bedrock = หินดาน 3-6


หัวเรื่องในแบบบันทึกข้อมูล คำอธิบาย 4. Rel. Slope Position (Plot Centre) - พิจารณาตำแหน่งที่ตั้งของแปลงตัวอย่างว่าอยู่ในตำแหน่งใด ของความลาดชันของพื้นที่ในภาพรวม เลือกระบุ Crest = บนยอดเขา Upper = ตอนบนของความลาดชัน Middle = ตอนกลางของความลาดชัน Lower = ตอนล่างของความลาดชัน Depression = แอ่งกะทะ Flat = แนวราบ Surface Shape Open Water - พิจารณารูปร่างพื้นที่ของแปลงตัวอย่างโดยรวมว่ามีลักษณะ เป็นอย่างไร เลือกระบุ Concave = โค้ง Convex = เว้า Straight = เส้นตรง - บันทึกร้อยละการครอบคลุมพื้นที่โดยน้ำ Flowing = น้ำไหล Stagnant = น้ำขัง Reference Outside Plot (ROP) Position บันทึกค่าพิกัด UTM ของจุดอ้างอิงนอกแปลงตัวอย่างที่อ่านได้จาก เครื่อง GPS เป็นค่าในแนวทิศตะวันออก (E) 6 หลัก และค่าในแนวทิศเหนือ(N) 7 หลัก Reference Inside Plot (RIP) Position บันทึกค่าพิกัด UTM ของจุดอ้างอิงในแปลงตัวอย่างที่อ่านได้จาก เครื่อง GPS เป็นค่าในแนวทิศตะวันออก (E) 6 หลัก และค่าในแนวทิศเหนือ(N) 7 หลัก Access Notes (From Starting Point to Cluster Centre) บันทึกรายละเอียดการเดินทางจากจุดที่เริ่มออกเดินเท้าถึง จุดศูนย์กลางของแปลงตัวอย่าง เช่น เดินตามเส้นทางเดินที่มีอยู่แล้ว ตามสันเขาตามลำห้วยเป็นต้น 3-7


แบบบันทึกข้อมูลแบบที่3 การเก็บข้อมูล ไลเคน มอส กล้าไม้และลูกไม้ (Lichen, Moss, Seedlings & Saplings) หัวเรื่องในแบบบันทึกข้อมูล คำอธิบาย Project ID บันทึกหมายเลขโครงการที่ดำเนินการ Plot ID บันทึกค่า UTM ของ Zone (เลข 2 หลักแรก) ค่าในแนวทิศตะวันออก Easting (เลข 6 หลัก) และ ค่าในแนวทิศเหนือ Northing (เลข 7 หลัก) รวมเป็นเลข 15 หลัก Plot # บันทึกหมายเลขแปลงตัวอย่าง Measurement Date บันทึก วัน เดือน ปี(DD/MM/YY) ที่ทำการสำรวจ โดย วัน (DD) = วันที่ที่ทำการสำรวจ เดือน (MM) = เดือนที่ทำการสำรวจ โดยใช้เลขเรียงลำดับ ตั้งแต่01–12 (มกราคม – ธันวาคม) ปี(YY) = ปีที่ทำการสำรวจ โดยใช้เลข 2 ตัวท้าย GPS Plot Centre (map) บันทึกค่าพิกัด UTM ของจุดศูนย์กลางของแปลงตัวอย่างที่กำหนดไว้ ในแผนที่ เป็นค่าในแนวทิศตะวันออก(E) 6 หลัก ค่าในแนวทิศเหนือ (N) 7 หลัก GPS Plot Centre (site) Crew Chief บันทึกค่าพิกัด UTM ของจุดศูนย์กลางแปลงตัวอย่างย่อย (Plot site) ที่อ่านได้จากเครื่อง GPS เป็นค่าในแนวทิศตะวันออก (E) 6 หลักและค่าในแนวทิศเหนือ(N) 7 หลัก บันทึกชื่อและรหัสประจำตัวผู้ที่ทำหน้าที่หัวหน้าทีมสำรวจ Recorder บันทึกชื่อและรหัสประจำตัวผู้ที่ทำการจดบันทึกข้อมูล Page of กรอบซ้ายบันทึกลำดับเลขที่แผ่นของแบบบันทึกข้อมูล กรอบขวาบันทึกจำนวนแผ่นทั้งหมดของแบบบันทึกข้อมูลแบบนั้น ๆ Plot Radius (m) รัศมีของแปลงตัวอย่างรูปวงกลมที่เป็นตัวแทนในการเก็บข้อมูล 3-8


หัวเรื่องในแบบบันทึกข้อมูล คำอธิบาย Overall Cover Estimate by Layer (%) บันทึกร้อยละที่กล้าไม้และลูกไม้รวมกันครอบคลุม พื้นที่ในแปลงตัวอย่างรูปวงกลมรัศมี3.99 เมตร Item No. บันทึกลำดับหมายเลขข้อมูลที่ได้จากการสำรวจ ในแปลงตัวอย่าง โดยเรียงลำดับจากหมายเลข 1 2 3 … ตามลำดับ Species Name บันทึกชื่อพื้นเมือง (Vernacular Name) หรือชื่อสามัญ (Common Name) ของพรรณไม้ทุกชนิดที่ได้จากการสำรวจ โดยให้บันทึกด้วยชื่อทุกบรรทัด Species Code Number of Seedlings (Undergrowth < 1.3 m. tall) บันทึกรหัสของพรรณไม้ที่ได้จากการสำรวจ เป็นรหัสตัวเลข 5 หลัก ตามรหัสพันธุ์ไม้ที่ได้กำหนดไว้แล้ว บันทึกจำนวนกล้าไม้(Seedling) ของพรรณไม้ทุกชนิดที่ยังมีชีวิตอยู่ ในแปลงตัวอย่างรูปวงกลมรัศมี0.631 ม. โดยบันทึกให้ตรงกับ ตำแหน่งของแปลงตัวอย่างที่เก็บข้อมูลในแต่ละทิศคือเหนือ(N) ตะวันออก (E) ใต้(S) และตะวันตก (W) Number of Saplings (Undergrowth > 1.3 m. tall GBH < 15 cm.) บันทึกจำนวนลูกไม้(Sapling) ของพรรณไม้ทุกชนิด ที่ยังมีชีวิตอยู่ในแปลงตัวอย่างรูปวงกลมรัศมี3.99 เมตร Comments บันทึกข้อมูลที่เห็นว่าสำคัญกับแบบบันทึกข้อมูล แบบบันทึกข้อมูลแบบที่4 การเก็บข้อมูลไม้ต้น (Trees) หัวเรื่องในแบบบันทึกข้อมูล คำอธิบาย Project ID บันทึกหมายเลขโครงการที่ดำเนินการ Plot ID บันทึกค่า UTM ของ Zone (เลข 2 หลักแรก) ค่าในแนวทิศตะวันออก Easting (เลข 6 หลัก) และ ค่าในแนวทิศเหนือ Northing (เลข 7 หลัก) รวมเป็นเลข 15 หลัก Plot # บันทึกหมายเลขแปลงตัวอย่าง Measurement Date บันทึก วัน เดือน ปี(DD/MM/YY) ที่ทำการสำรวจ โดย วัน (DD) = วันที่ที่ทำการสำรวจ 3-9


หัวเรื่องในแบบบันทึกข้อมูล คำอธิบาย Measurement Date เดือน (MM) = เดือนที่ทำการสำรวจ โดยใช้เลขเรียงลำดับ ตั้งแต่01–12 (มกราคม – ธันวาคม) ปี(YY) = ปีที่ทำการสำรวจ โดยใช้เลข 2 ตัวท้าย GPS Plot Centre (map) บันทึกค่าพิกัด UTM ของจุดศูนย์กลางของแปลงตัวอย่างที่กำหนดไว้ ในแผนที่ เป็นค่าในแนวทิศตะวันออก(E) 6 หลัก ค่าในแนวทิศเหนือ (N) 7 หลัก GPS Plot Centre (site) Crew Chief บันทึกค่าพิกัด UTM ของจุดศูนย์กลางแปลงตัวอย่างย่อย (Plot site) ที่อ่านได้จากเครื่อง GPS เป็นค่าในแนวทิศตะวันออก (E) 6 หลักและค่าในแนวทิศเหนือ(N) 7 หลัก บันทึกชื่อและรหัสประจำตัวผู้ที่ทำหน้าที่หัวหน้าทีมสำรวจ Recorder บันทึกชื่อและรหัสประจำตัวผู้ที่ทำการจดบันทึกข้อมูล Page of กรอบซ้ายบันทึกลำดับเลขที่แผ่นของแบบบันทึกข้อมูล กรอบขวาบันทึกจำนวนแผ่นทั้งหมดของแบบบันทึกข้อมูลแบบนั้น ๆ Item No. บันทึกลำดับหมายเลขข้อมูลที่ได้จากการสำรวจ ในแปลงตัวอย่าง โดยเรียงลำดับจากหมายเลข 1 2 3 … ตามลำดับ Species Name บันทึกชื่อพื้นเมือง (Vernacular Name) หรือชื่อสามัญ (Common Name) ของพรรณไม้ทุกชนิดที่ได้จากการสำรวจ โดยให้บันทึกด้วยชื่อทุกบรรทัด Species Code บันทึกรหัสของพรรณไม้ที่ได้จากการสำรวจ เป็นรหัสตัวเลข 5 หลัก ตามรหัสพันธุ์ไม้ที่ได้กำหนดไว้แล้ว Position ตำแหน่งของต้นไม้ที่มีขนาดเส้นรอบวงเพียงอก (GBH) มากกว่าหรือ เท่ากับ 15 ซม. แต่ละต้นในแปลงตัวอย่างซึ่งประกอบด้วย 1. Azimuth 2. Distance (m) - บันทึกค่ามุมที่วัดจากจุดศูนย์กลางแปลงตัวอย่างไปยังต้นไม้ที่ เก็บข้อมูล หน่วยเป็นองศา - บันทึกระยะทางในแนวราบระหว่างจุดศูนย์กลางแปลงตัวอย่าง กับจุดกึ่งกลางบริเวณด้านข้างของต้นไม้ที่เก็บข้อมูลหน่วยเป็นเมตร (ทศนิยม 2 ตำแหน่ง) Live/Dead เลือกระบุการมีชีวิตอยู่หรือไม่ของต้นไม้ที่เก็บข้อมูล โดย L = มีชีวิตอยู่ D = ตายแล้ว 3-10


หัวเรื่องในแบบบันทึกข้อมูล คำอธิบาย Stand/Fall เลือกระบุลักษณะของต้นไม้ที่เก็บข้อมูล โดย S = ยืนต้นอยู่ F = ไม้ล้ม GBH (cm.) บันทึกขนาดเส้นรอบวงเพียงอกของต้นไม้ที่มีขนาดมากกว่าหรือเท่ากับ 15 ซม. ทุกต้น หน่วยเป็นเซนติเมตร (ทศนิยม 1 ตำแหน่ง) โดย 1. ต้นไม้ขึ้นอยู่บนพื้นที่ลาดชัน ให้วัดทางด้านบนของพื้นที่ 2. ต้นไม้มีพูพอนสูงจากระดับพื้นดินมากกว่าหรือเท่ากับ 1.30 ม. ให้วัดตรงตำแหน่งที่เหนือพูพอนขึ้นไป แล้วบันทึกค่าความสูงของ ระดับที่วัดขนาดเส้นรอบวงเพียงอกของต้นไม้ M/E เลือกระบุวิธีการวัดข้อมูลขนาดเส้นรอบวงเพียงอก (GBH) โดย M = ข้อมูลได้จากการวัด E = ข้อมูลได้จากการประมาณ (กรณีที่ไม่สามารถวัดได้) Total Height (m.) บันทึกค่าความสูงต้นไม้จากระดับพื้นดินถึงปลายยอด หน่วยเป็นเมตร (ทศนิยม 1 ตำแหน่ง) M/E เลือกระบุวิธีการวัดข้อมูลความสูงต้นไม้ โดย M = ข้อมูลได้จากการวัด E = ข้อมูลได้จากการประมาณ Number of logs บันทึกจำนวนท่อนไม้ซุงที่ใช้ทำเป็นสินค้าได้โดยการประมาณ ความยาวของลำต้นที่มีขนาดเส้นรอบวงเพียงอก (GBH) มากกว่า 100 ซม. ขึ้นไป โดยนับความยาวจากจุดที่อยู่สูงจากพื้นดิน 30 ซม. ขึ้นไป จนถึงจุดที่ลำต้นมีขนาดความโตเท่ากับ 30 ซม. โดยการแบ่งลำต้นออกเป็นท่อนๆยาวท่อนละ5 ม. ถ้าความยาวของ ท่อนไม้ไม่ถึง5 ม. แต่ยาวมากกว่าครึ่งหนึ่งของความยาวเต็มท่อนให้คิด เป็น 1 ท่อน ถ้าน้อยกว่า ไม่คิดเป็นจำนวนท่อน - กรณีเป็นไม้2 นางขึ้นไป ให้ประมาณจำนวนท่อนไม้ทุกนางที่ได้ ขนาดแล้วนำมารวมกัน (บันทึกจำนวนนางไว้ในช่อง Remark ด้วย) - กรณีเป็นกิ่งไม้(Branch) ใหญ่หลายๆ กิ่ง ให้พิจารณาเลือก ประมาณจำนวนท่อนไม้เฉพาะกิ่งที่เป็นกิ่งหลัก(Main Branch) 3-11


หัวเรื่องในแบบบันทึกข้อมูล คำอธิบาย Timber Quality บันทึกคุณภาพของท่อนไม้ซุงที่ใช้ทำเป็นสินค้าได้ โดยกำหนดเป็นรหัสตามชั้นขนาดเส้นรอบวงเพียงอกของต้นไม้ ดังนี้ 1) ขนาดเส้นรอบวงเพียงอก15.0 – 45.0 ซม. รหัส 10 2) ขนาดเส้นรอบวงเพียงอก45.1 – 100.0 ซม. รหัส 20 3) ขนาดเส้นรอบวงเพียงอกมากกว่า100 ซม รหัสเป็น 11 12 หรือ 13 โดย - รหัส 11 คือ ไม้ที่มีลักษณะดีเปลาตรง (Sound) - รหัส12 คือ ไม้ที่มีลักษณะค่อนข้างเปลาตรงแต่มีบางส่วน คดงอ (Cull) - รหัส13 คือ ไม้ที่มีลักษณะไม่ดีเหมาะสำหรับการทำไม้ฟืน (Firewood) เท่านั้น Crown Class เลือกระบุลักษณะชั้นเรือนยอดของต้นไม้ที่เก็บข้อมูล ซึ่งแบ่งออกเป็น 4 ลักษณะ คือ Dominant (D) ไม้เรือนยอดเด่น คือ มีเรือนยอดสูงเหนือระดับชั้น เรือนยอดอื่น มีการพัฒนารูปทรงของเรือนยอดที่ดีสามารถรับแสงได้ ทั้งทางด้านบนเรือนยอดและด้านข้างบางส่วน Co-dominant (C) ไม้เรือนยอดรอง คือ มีความสูงรองจากไม้เรือน ยอดเด่น เรือนยอดด้านข้างมีความหนาแน่น สามารถรับแสงได้ทั้งทาง ด้านบนเรือนยอดและด้านข้างบางส่วน Intermediate (I) เป็นไม้ที่มีเรือนยอดต่ำกว่า Co-dominant เรือนยอดมีขนาดเล็กและค่อนข้างหนาแน่นทางด้านข้าง สามารถรับแสง ได้เฉพาะด้านบนเรือนยอดเท่านั้น Suppress (S) เป็นไม้ที่มีเรือนยอดต่ำกว่าไม้อื่นและเรือนยอดถูกบด บังด้วยเรือนยอดชั้นอื่นๆไม่สามารถรับแสงได้โดยตรงจากทั้งทางเรือนยอด ด้านบนและด้านข้าง 3-12


หัวเรื่องในแบบบันทึกข้อมูล คำอธิบาย Crown Condition เลือกระบุความสมบูรณ์ของเรือนยอดโดยพิจารณาจากสัดส่วนของ เรือนยอดที่ยังมีชีวิตอยู่ และความหนาแน่นของเรือนยอดที่ยอมให้ แสงผ่านได้(Foliage Transparency) แบ่งเป็น - Good (G) เรือนยอดมีใบหนาแน่นและกิ่งก้านมีรูปทรงสมบูรณ์ - Medium (M) เรือนยอดมีความหนาแน่นของใบน้อย กิ่งก้าน ไม่สมบูรณ์ มีการหักหรือเสียหายน้อยกว่าหรือเท่ากับ 50% - Poor (P) เรือนยอดมีกิ่งก้านหักหรือเสียหายเกือบหมด อาจพบกิ่งแห้งปรากฏอยู่ ข้อสังเกต ไม้บางชนิดผลัดใบในฤดูแล้งแต่ลักษณะเรือนยอดยัง สมบูรณ์อยู่ให้พิจารณาองค์ประกอบในส่วนของฤดูกาลประกอบด้วย Estimated Crown Width (m) บันทึกขนาดความกว้างของเรือนยอดที่ตกลงสู่พื้นดิน โดยการถ่าย ระยะในแนวดิ่ง หน่วยเป็นเมตร ทำการวัดใน 4 แนว จากลำต้น คือ N = ด้านกว้างของเรือนยอดไปทางทิศเหนือ E = ด้านกว้างของเรือนยอดไปทางทิศตะวันออก S = ด้านกว้างของเรือนยอดไปทางทิศใต้ W = ด้านกว้างของเรือนยอดไปทางทิศตะวันตก Crown Height (m) บันทึกขนาดความสูงของเรือนยอด หน่วยเป็นเมตร Lichen Loading (%) ร้อยละการเกาะของไลเคนบนต้นไม้แต่ละต้นที่สำรวจ Orchid (Y/N) ระบุการปรากฏของกล้วยไม้ที่เกาะอยู่บนต้นไม้ว่าปรากฏหรือไม่ Y = ปรากฏ N = ไม่ปรากฏ Remarks บันทึกรายละเอียดของต้นไม้แต่ละต้น (ถ้ามี) เช่น ไม้2 นาง ยอดหัก พูพอนสูง ลำต้นเอน ยืนต้นตาย ฯลฯ Comment บันทึกข้อมูลที่เห็นว่าสำคัญกับแบบบันทึกข้อมูล 3-13


แบบบันทึกข้อมูลแบบที่5 การเก็บข้อมูลไม้ไผ่ หวายและตอไม้ (Bamboo, Erect Rattan & Tree Stump) หัวเรื่องในแบบบันทึกข้อมูล คำอธิบาย Project ID บันทึกหมายเลขโครงการที่ดำเนินการ Plot ID บันทึกค่า UTM ของ Zone (เลข 2 หลักแรก) ค่าในแนวทิศตะวันออก Easting (เลข 6 หลัก) และ ค่าในแนวทิศเหนือ Northing (เลข 7 หลัก) รวมเป็นเลข 15 หลัก Plot # บันทึกหมายเลขแปลงตัวอย่าง Measurement Date บันทึก วัน เดือน ปี(DD/MM/YY) ที่ทำการสำรวจ โดย วัน (DD) = วันที่ที่ทำการสำรวจ เดือน (MM) = เดือนที่ทำการสำรวจ โดยใช้เลขเรียงลำดับ ตั้งแต่01–12 (มกราคม – ธันวาคม) ปี(YY) = ปีที่ทำการสำรวจ โดยใช้เลข 2 ตัวท้าย GPS Plot Centre (map) GPS Plot Centre (site) Crew Chief บันทึกค่าพิกัด UTM ของจุดศูนย์กลางของแปลงตัวอย่างที่กำหนดไว้ ในแผนที่ เป็นค่าในแนวทิศตะวันออก(E) 6 หลัก ค่าในแนวทิศเหนือ (N) 7 หลัก บันทึกค่าพิกัด UTM ของจุดศูนย์กลางแปลงตัวอย่างย่อย (Plot site) ที่อ่านได้จากเครื่อง GPS เป็นค่าในแนวทิศตะวันออก (E) 6 หลักและค่าในแนวทิศเหนือ(N) 7 หลัก บันทึกชื่อและรหัสประจำตัวผู้ที่ทำหน้าที่หัวหน้าทีมสำรวจ Recorder บันทึกชื่อและรหัสประจำตัวผู้ที่ทำการจดบันทึกข้อมูล Page of กรอบซ้ายบันทึกลำดับเลขที่แผ่นของแบบบันทึกข้อมูล กรอบขวาบันทึกจำนวนแผ่นทั้งหมดของแบบบันทึกข้อมูลแบบนั้น ๆ Item No. บันทึกลำดับหมายเลขข้อมูลที่ได้จากการสำรวจในแปลงตัวอย่าง โดยเรียงลำดับจากหมายเลข 1 2 3 … ตามลำดับ 3-14


หัวเรื่องในแบบบันทึกข้อมูล คำอธิบาย Species Name Species Code Bamboo 1. Number of Culms 2. Ave. GBH (cm) บันทึกชื่อพื้นเมือง (Vernacular Name) หรือชื่อสามัญ (Common Name)ของไม้ไผ่ หวายหรือตอไม้ที่ได้จากการสำรวจ โดยให้บันทึกด้วยชื่อทุกบรรทัด บันทึกรหัสของ ไม้ไผ่ หวาย หรือตอไม้ที่สำรวจพบ เป็นรหัสตัวเลข 5 หลักตามรหัสที่ได้กำหนดไว้แล้ว บันทึกข้อมูลเกี่ยวกับไม้ไผ่ โดย - บันทึกจำนวนลำในกอไผ่ ที่ยังมีชีวิตอยู่และมีความยาวของลำ มากกว่าหรือเท่ากับ 1.3 ม. - บันทึกขนาดเส้นรอบวงเพียงอกของลำไผ่ลำใดลำหนึ่ง ที่พิจารณาแล้วว่าเป็นตัวแทนทั้งทางด้านความโตและความสูงของไผ่ ในกอนั้น ๆ หน่วยเป็นเซนติเมตร 3. Ave. Length (m) - บันทึกความยาวของลำไผ่ลำที่เป็นตัวแทนของกอไผ่ในการวัด ขนาดเส้นรอบวงเพียงอก หน่วยเป็นเมตร Erect Rattan บันทึกข้อมูลเกี่ยวกับหวายที่เส้นหวายยังตั้งตรงอยู่ (ยังไม่เลื้อย) โดย 1. Number of Stems - บันทึกจำนวนเส้นของหวายเส้นตั้ง (Erect Rattan) ในกอหนึ่ง ๆ ที่ยังมีชีวิตอยู่และมีความยาวมากกว่าหรือเท่ากับ 1.3 ม. 2. Min. GBH (cm) - บันทึกขนาดเส้นรอบวงเพียงอกของเส้นหวายที่มีขนาดเล็กที่สุด ในกอ หน่วยเป็นเซนติเมตร (ทศนิยม 1 ตำแหน่ง) 3. Max. GBH (cm) - บันทึกขนาดเส้นรอบวงเพียงอกของเส้นหวายที่มีขนาดใหญ่ ที่สุดในกอ หน่วยเป็นเซนติเมตร (ทศนิยม 1 ตำแหน่ง) 4. Ave. GBH (cm) - บันทึกขนาดเส้นรอบวงเพียงอกของเส้นหวายเส้นใดเส้นหนึ่ง ที่พิจารณาแล้วว่าเป็นตัวแทนทั้งทางด้านความโตและความยาวของ หวายในกอนั้น ๆ หน่วยเป็นเซนติเมตร (ทศนิยม 1 ตำแหน่ง) 5. Ave. Length (m) - บันทึกความยาวของเส้นหวายเส้นที่เป็นตัวแทนของหวาย ในการวัดขนาดเส้นรอบวงเพียงอก หน่วยเป็นเมตร (ทศนิยม 1 ตำแหน่ง) 3-15


แบบบันทึกข้อมูลแบบที่6 และ 7 การเก็บข้อมูลไม้ล้มขอนนอนไพร เศษไม้ปลายไม้หวายเลื้อยและไม้เถา (Coarse Woody Debris, Climbing rattan & Climbers: Transect 1&2) (แบบบันทึกข้อมูลทั้งสองแบบ มีหัวเรื่องที่เหมือนกัน แตกต่างกันเฉพาะค่าRandom Azimuth) หัวเรื่องในแบบบันทึกข้อมูล คำอธิบาย Project ID บันทึกหมายเลขโครงการที่ดำเนินการ Plot ID บันทึกค่า UTM ของ Zone (เลข 2 หลักแรก) ค่าในแนวทิศตะวันออก Easting (เลข 6 หลัก) และ ค่าในแนวทิศเหนือ Northing (เลข 7 หลัก) รวมเป็นเลข 15 หลัก Plot # บันทึกหมายเลขแปลงตัวอย่าง หัวเรื่องในแบบบันทึกข้อมูล คำอธิบาย Tree Stump บันทึกข้อมูลตอไม้ที่มีความสูงน้อยกว่า1.3 ม. และมีขนาดความโต ที่ปลายตอมากกว่าหรือเท่ากับ 15 ซม. โดย 1. Girth (cm) - บันทึกขนาดความโตของตอไม้โดยวัดตรงตำแหน่งปลายตอ หน่วยเป็นเซนติเมตร (ทศนิยม 1 ตำแหน่ง) 2. Height (cm) - บันทึกความสูงของตอไม้ โดยวัดจากโคนตอถึงปลายตอ หน่วยเป็นเซนติเมตร(ทศนิยม 1 ตำแหน่ง) 3. Old/New 4. Lived/Dead Remark - เลือกระบุสภาพของตอไม้ที่เก็บข้อมูล โดย Old = ตอที่มีสภาพเก่า(อายุมากกว่า1 ปี) New = ตอใหม่ (อายุไม่เกิน 1 ปี) - ระบุว่าเป็นเป็นตอที่ยังมีชีวิตหรือเป็นตอที่ตายแล้ว โดย Lived = ตอที่ยังมีชีวิต Dead = ตอที่ตายแล้ว บันทึกรายละเอียดของข้อมูลไม้ไผ่ หวายที่เส้นหวายยังตั้งตรง (ยังไม่เลื้อย) และตอไม้ 3-16


หัวเรื่องในแบบบันทึกข้อมูล คำอธิบาย Measurement Date บันทึก วัน เดือน ปี(DD/MM/YY) ที่ทำการสำรวจ โดย วัน (DD) = วันที่ที่ทำการสำรวจ เดือน (MM) = เดือนที่ทำการสำรวจ โดยใช้เลขเรียงลำดับ ตั้งแต่01–12 (มกราคม – ธันวาคม) ปี(YY) = ปีที่ทำการสำรวจ โดยใช้เลข 2 ตัวท้าย GPS Plot Centre (map) GPS Plot Centre (site) Crew Chief บันทึกค่าพิกัด UTM ของจุดศูนย์กลางของแปลงตัวอย่างที่กำหนดไว้ ในแผนที่ เป็นค่าในแนวทิศตะวันออก(E) 6 หลัก ค่าในแนวทิศเหนือ (N) 7 หลัก บันทึกค่าพิกัด UTM ของจุดศูนย์กลางแปลงตัวอย่างย่อย (Plot site) ที่อ่านได้จากเครื่อง GPS เป็นค่าในแนวทิศตะวันออก (E) 6 หลักและค่าในแนวทิศเหนือ(N) 7 หลัก บันทึกชื่อและรหัสประจำตัวผู้ที่ทำหน้าที่หัวหน้าทีมสำรวจ Recorder Page of บันทึกชื่อและรหัสประจำตัวผู้ที่ทำการจดบันทึกข้อมูล กรอบซ้ายบันทึกลำดับเลขที่แผ่นของแบบบันทึกข้อมูล กรอบขวาบันทึกจำนวนแผ่นทั้งหมดของแบบบันทึกข้อมูลแบบนั้น ๆ Round Pieces ตารางบันทึกข้อมูลสำหรับตัวอย่างที่มีลักษณะเป็นรูปท รงกลมห รือ ทรงกระบอก Random Azimuth ในแบบที่6 บันทึกค่ามุมของเส้นตัดวงกลม (Transect Line) เส้นที่1 ตามค่ามุมที่ได้กำหนดไว้จากการสุ่มตัวอย่าง ในแบบที่7 บันทึกค่ามุมของเส้นตัดวงกลม (Transect Line) เส้นที่2 ซึ่งมีค่ามุมเท่ากับ ค่ามุมเส้นที่ 1 + 90 Horizontal Length Observed บันทึกความยาวของเส้น Transect Line ที่ดำเนินการในแปลง ตัวอย่าง ปกติจะมีความยาว 17.84 ม. แต่บางครั้งอาจไม่สามารถวาง แนวให้ได้ความยาวตามที่กำหนดได้เช่น ติดหน้าผา แหล่งน้ำ เป็นต้น 3-17


หัวเรื่องในแบบบันทึกข้อมูล คำอธิบาย Item No. บันทึกลำดับหมายเลขข้อมูลที่ได้จากการสำรวจ ในแปลงตัวอย่าง โดยเรียงลำดับจากหมายเลข 1 2 3 … ตามลำดับ Species Name บันทึกชื่อพื้นเมือง (Vernacular Name) หรือชื่อสามัญ (Common Name)ของพรรณไม้ทุกชนิดที่ได้จากการสำรวจ โดยให้บันทึกด้วยชื่อทุกบรรทัด Species Code บันทึกรหัสของพรรณไม้ที่สำรวจพบเป็นรหัสตัวเลข 5 หลัก ตามรหัสที่ได้กำหนดไว้แล้ว Girth (cm.) บันทึกขนาดความโตของไม้หวายเลื้อย หรือไม้เถาตรงจุดที่เส้น Transect Line ลากตัดกับเส้นแนวกึ่งกลางของวัตถุที่จะวัด (Center Line) ถ้าเส้นลากผ่านวัตถุเดียวกันหลายจุด ให้ทำการวัดความโตทุกจุดแล้วบันทึกข้อมูลแยกเป็นแต่ละจุด หน่วยเป็นเซนติเมตร M/E เลือกระบุวิธีการวัดข้อมูลขนาดความโตโดย M = ข้อมูลได้จากการวัด E = ข้อมูลได้จากการประมาณ (กรณีไม่สามารถวัดได้) Tilt Angle (deg.) บันทึกค่ามุมตรงจุดที่เส้น Transect Line ลากตัดกับ แนวกึ่งกลางของวัตถุที่ทำการวัด(Center Line) ทำมุมกับแนวระนาบ หน่วยเป็นองศา M/E เลือกระบุวิธีการวัดข้อมูลขนาดของมุม โดย M = ข้อมูลได้จากการวัด E = ข้อมูลได้จากการประมาณ (กรณีไม่สามารถวัดได้) CWD, Rattan, Climber เลือกระบุลักษณะข้อมูล โดย CWD = ไม้ล้มขอนนอนไพร เศษไม้ปลายไม้ Rattan = หวายเลื้อย Climber = ไม้เถา Accumulation or Odd-Shaped Pieces ตารางบันทึกข้อมูลสำหรับตัวอย่างที่มีลักษณะกองสุมกันหรือ ไม่เป็นรูปทรงกระบอก Item No. บันทึกลำดับหมายเลขข้อมูลที่ได้จากการสำรวจ ในแปลงตัวอย่าง โดยเรียงลำดับจากหมายเลข 1 2 3 … ตามลำดับ 3-18


หัวเรื่องในแบบบันทึกข้อมูล คำอธิบาย Horizontal Length (cm) M/E Vertical Depth (cm.) บันทึกความยาวของไม้หวายเลื้อยหรือไม้เถา ที่เส้น Transect Line พาดผ่าน ถ้าเส้นลากผ่านวัตถุเดียวกันหลายจุด ให้วัดความยาวทุกจุด แล้วบันทึกข้อมูลแยกเป็นแต่ละจุด หน่วยเป็นเซนติเมตร เลือกระบุวิธีการวัดข้อมูลความยาว โดย M = ข้อมูลได้จากการวัด E = ข้อมูลได้จากการประมาณ (กรณีไม่สามารถวัดได้) บันทึกความสูงของไม้ หวายเลื้อยหรือไม้เถาตรงจุดที่ตัดกับ เส้น Transect Line สำหรับกองไม้ที่มีช่องโพรงภายในกอง ให้ประเมินเสมือนว่าหากกองไม้นั้นเรียงเป็นระเบียบและ ไม่มีช่องโพรงจะมีความสูงเท่าไร หน่วยเป็นเซนติเมตร M/E เลือกระบุวิธีการวัดข้อมูลความสูง โดย M = ข้อมูลได้จากการวัด E = ข้อมูลได้จากการประมาณ (กรณีไม่สามารถวัดได้) CWD, Rattan, Climber เลือกระบุลักษณะข้อมูล โดย CWD = ไม้ล้มขอนนอนไพร เศษไม้ปลายไม้ Rattan = หวายเลื้อย Climber = ไม้เถา Piece type เลือกระบุรูปทรงของข้อมูล โดย Acc = มีการเรียงสุมเป็นกอง Odd = มีรูปทรงไม่เป็นทรงกระบอก Comments บันทึกข้อมูลที่เห็นว่าเกี่ยวข้องกับแบบบันทึกข้อมูลแบบที่6 หรือ7 3-19


แบบบันทึกข้อมูลแบบที่8 การเก็บข้อมูลปัจจัยที่มีผลกระทบต่อพื้นที่ป่า (Site disturbance) หัวเรื่องในแบบบันทึกข้อมูล คำอธิบาย Project ID บันทึกหมายเลขโครงการที่ดำเนินการ Plot ID บันทึกค่า UTM ของ Zone (เลข 2 หลักแรก) ค่าในแนวทิศตะวันออก Easting (เลข 6 หลัก) และ ค่าในแนวทิศเหนือ Northing (เลข 7 หลัก) รวมเป็นเลข 15 หลัก Plot # บันทึกหมายเลขแปลงตัวอย่าง Measurement Date บันทึก วัน เดือน ปี(DD/MM/YY) ที่ทำการสำรวจ โดย วัน (DD) = วันที่ที่ทำการสำรวจ เดือน (MM) = เดือนที่ทำการสำรวจ โดยใช้เลขเรียงลำดับ ตั้งแต่01–12 (มกราคม – ธันวาคม) ปี(YY) = ปีที่ทำการสำรวจ โดยใช้เลข 2 ตัวท้าย GPS Plot Centre (map) GPS Plot Centre (site) Crew Chief บันทึกค่าพิกัด UTM ของจุดศูนย์กลางของแปลงตัวอย่างที่กำหนดไว้ ในแผนที่ เป็นค่าในแนวทิศตะวันออก(E) 6 หลัก ค่าในแนวทิศเหนือ (N) 7 หลัก บันทึกค่าพิกัด UTM ของจุดศูนย์กลางแปลงตัวอย่างย่อย (Plot site) ที่อ่านได้จากเครื่อง GPS เป็นค่าในแนวทิศตะวันออก (E) 6 หลักและค่าในแนวทิศเหนือ(N) 7 หลัก บันทึกชื่อและรหัสประจำตัวผู้ที่ทำหน้าที่หัวหน้าทีมสำรวจ Recorder Page of บันทึกชื่อและรหัสประจำตัวผู้ที่ทำการจดบันทึกข้อมูล กรอบซ้ายบันทึกลำดับเลขที่แผ่นของแบบบันทึกข้อมูล กรอบขวาบันทึกจำนวนแผ่นทั้งหมดของแบบบันทึกข้อมูลแบบนั้น ๆ Group A กลุ่มของปัจจัยที่มีผลกระทบต่อพื้นที่กลุ่ม A Activity กิจกรรมหรือเหตุการณ์ที่มีผลกระทบต่อพื้นที่แปลงตัวอย่างและ พืชพรรณ เลือกระบุตามกิจกรรมที่สำรวจพบ คือ 3-20


หัวเรื่องในแบบบันทึกข้อมูล คำอธิบาย 1. Agriculture - พื้นที่เกษตรกรรมประเภทต่างๆ เช่น ทำไร่ ทำสวน ทำนา เป็นต้น ให้ระบุด้วยว่าปลูกพืชชนิดใด 2. Aquaculture - การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำต่างๆ เช่น ปลากุ้ง เป็นต้น 3. Collecting NTFPs - การเก็บหาของป่าให้ระบุด้วยว่าเป็นของป่าชนิดใดเช่น ไม้ไผ่ หน่อไม้หวายเห็ด พืชผักชนิดต่างๆ เป็นต้น 4. Dam Construction 5. Settlement Area - การสร้างเขื่อนหรือสิ่งก่อสร้างที่มีวัตถุประสงค์เพื่อการเก็บกักน้ำ สิ่งก่อสร้างที่ปลูกสร้างเพื่อใช้ประโยชน์ส่วนบุคคลหรือของกลุ่มใด - กลุ่มหนึ่ง เช่น บ้าน อาคาร ที่พัก บ่อน้ำ ฯลฯ ให้ระบุด้วยว่าเป็น สิ่งก่อสร้างอะไร 6. Facility Construction - สิ่งก่อสร้างที่ปลูกสร้างเพื่อใช้ประโยชน์กับส่วนรวมหรือสาธารณะ ประโยชน์เป็นหลักเช่น โรงพยาบาล เสาไฟฟ้าสะพาน ที่ทิ้งขยะ ฯลฯให้ระบุด้วยว่าเป็นสิ่งก่อสร้างอะไร 7. Forest Fire - การเกิดไฟป่า ทั้งที่เกิดจากมนุษย์และธรรมชาติ 8. Livestock Grazing - การพบร่องรอยการเลี้ยงสัตว์ในแปลงตัวอย่าง 9. Mining - การทำเหมืองแร่ต่างๆ เช่น ถ่านหิน ดินขาว เป็นต้น 10. Excavation - การขุดพื้นที่เพื่อกิจกรรมต่างๆ เช่น ถ่านหิน ดินขาว เป็นต้น 11. Wildlife Damage - การทำลายของสัตว์ป่าที่มีต่อแปลงตัวอย่าง เช่น การกัดกิน เจาะ โค่น หรือใช้ลำตัวถูจนเป็นอันตรายกับต้นไม้ 12. Pest & Disease - ร่องรอยการทำลายของแมลงและโรคแมลง 13. Pollution - มลภาวะที่เกิดขึ้น หรือมีผลต่อแปลงตัวอย่าง 14. Road Construction - การสร้างถนนในแปลงตัวอย่าง 15. Storms - ร่องรอยการถูกทำลายจากวาตภัย 16. Other (Specify) - ปัจจัยอื่นๆ นอกเหนือจากที่กำหนดไว้ โดยให้ระบุกิจกรรมหรือ เหตุการณ์นั้นๆ ด้วย 3-21


หัวเรื่องในแบบบันทึกข้อมูล คำอธิบาย Severity เลือกระบุระดับความรุนแรงของกิจกรรมหรือเหตุการณ์ที่สำรวจพบ โดยพิจารณาถึงผลที่มีต่อแปลงตัวอย่าง โดย L = รุนแรงน้อย คือ ทำให้เกิดความเสียหายต่อไม้ระดับล่าง M = รุนแรงปานกลาง คือ ทำให้เกิดความเสียหายต่อไม้ระดับล่าง และลูกไม้กล้าไม้ H = รุนแรงมาก คือ ทำให้เกิดความเสียหายกับพืชพรรณทุกชนิด % Cover บันทึกค่าประมาณร้อยละของกิจกรรมหรือเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นในแปลงตัวอย่าง ถ้าน้อยกว่า5% ให้บันทึกว่า < 5% ตั้งแต่5% ขึ้นไป ให้บันทึกตามที่ประมาณได้ Remarks บันทึกข้อสังเกตหรือรายละเอียดของกิจกรรมหรือเหตุการณ์ที่ สำรวจพบเป็นการเพิ่มเติม Description คำอธิบายรายละเอียดของกิจกรรมหรือเหตุการณ์ที่กำหนด Group B กลุ่มของปัจจัยที่มีผลกระทบต่อพื้นที่กลุ่ม B Activity เหตุการณ์ที่มีผลกระทบต่อพื้นที่แปลงตัวอย่างและพืชพรรณ เลือกระบุตามที่สำรวจพบ คือ 1. Erosion - การชะล้างพังทลายของดิน 2. Flooding - น้ำท่วม น้ำขังในพื้นที่ อาจเป็นร่องน้ำตามธรรมชาติหรือเกิดจากการ กระทำของมนุษย์รวมถึงหลุมบ่อหรือหล่มโคลนที่เกิดจากรถยนต์ 3. Landslide - การเกิดแผ่นดินเลื่อนหรือแผ่นดินถล่ม Observed เลือกระบุว่าพบเหตุการณ์ดังกล่าวในแปลงตัวอย่างหรือไม่ Yes = พบ No = ไม่พบ % Cover บันทึกค่าประมาณร้อยละของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในแปลงตัวอย่าง ถ้าน้อยกว่า 5% ให้บันทึกว่า <5% ตั้งแต่5% ขึ้นไป ให้บันทึกตามที่ ประมาณได้ 3-22


หัวเรื่องในแบบบันทึกข้อมูล คำอธิบาย Potential เลือกระบุว่าเหตุการณ์ดังกล่าวมีแนวโน้มจะเกิดขึ้นในอนาคตหรือไม่ Yes = มีโอกาสที่จะเกิด No = ไม่มีโอกาสที่จะเกิด Remarks บันทึกข้อสังเกตหรือรายละเอียดของเหตุการณ์ที่สำรวจพบ เป็นการเพิ่มเติม (ถ้ามี) Group C กลุ่มของปัจจัยที่มีผลกระทบต่อพื้นที่กลุ่ม C Activity กิจกรรมที่มีผลกระทบต่อพื้นที่ Logging - การทำไม้ ทั้งในส่วนที่ถูกและผิดกฎหมาย No. of Stumps บันทึกจำนวนตอไม้ที่เกิดจากการถูกตัดที่สำรวจพบในแปลงตัวอย่าง Remarks บันทึกข้อสังเกตหรือรายละเอียดของการทำไม้เป็นการเพิ่มเติม (ถ้ามี) 3-23


บทที่ 4 การปฏิบัติงานภาคสนาม หลังจากศึกษาและทำความเข้าใจ เกี่ยวกับรูปแบบวิธีการสำรวจและการจัดเก็บข้อมูลพร้อมกับ ได้วางแผนการดำเนินงานและจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ภายในสำนักงานเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการ ปฏิบัติงานเก็บข้อมูลภาคสนาม ในบทนี้จะกล่าวถึงการเตรียมการก่อนเดินทางออกจากที่พัก การเดินทางเข้าหา แปลงตัวอย่างการวางแปลงตัวอย่างและการเก็บข้อมูลในแปลงตัวอย่าง โดยอธิบายถึงขั้นตอนการดำเนินงานว่า ขั้นตอนใดเก็บและบันทึกข้อมูลลงในแบบบันทึกข้อมูลใด ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับแบบบันทึกข้อมูล จึงควรศึกษาควบคู่ไปกับแบบบันทึกข้อมูลเพื่อช่วยให้เกิดความเข้าใจได้ง่ายขึ้น การเตรียมการก่อนออกเดินทางจากที่พักไปแปลงตัวอย่าง 1. จัดเตรียมอุปกรณ์ต่างๆ ที่ต้องใช้ในการสำรวจทรัพยากรป่าไม้และตรวจสอบความพร้อมของ เครื่องมือทุกชิ้นว่าอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานหรือไม่ก่อนออกเดินทาง 2. จากจุดที่พักชั่วคราวในพื้นที่ที่ปฏิบัติงาน บันทึกค่าพิกัด UTM ของจุดที่พัก(Camp) โ ดย ใช้เครื่อง GPS ทำเครื่องหมายลงในแผนที่ภูมิประเทศ พร้อมลงรายละเอียดจุดที่พัก ลงในแบบบันทึกฯ ที่1 หัวเรื่อง GPS Camp Site, Camp Site พร้อมทั้งระบุรายละเอียดใน Access Notes (From Camp to Starting Point) ซึ่งข้อมูลนี้จะเกี่ยวเนื่องกับ ข้อมูลเวลาในแบบบันทึกฯ ที่2 หัวข้อTime (24 hour clock) และการติดตาม การเปลี่ยนแปลง (Monitoring) ของทรัพยากรธรรมชาติในอนาคต 3. กำหนดแปลงตัวอย่างที่จะดำเนินการ พร้อมกับบันทึกหมายเลขกำกับแปลงตัวอย่าง (Plot No) และค่าพิกัด UTM ของแปลงนั้นๆ ลงในเครื่อง GPS เพื่อใช้ในการนำทางเข้าหาแปลงตัวอย่าง พร้อมกับบันทึก ข้อมูลดังกล่าวลงในแบบบันทึกข้อมูลทุกชุดและทุกแบบ ในหัวเรื่องPlot# และ GPS Plot Center (map) 4. จัดเตรียมแบบบันทึกข้อมูล(Tally Sheets) ซึ่งข้อมูลบางอย่างสามารถทำการบันทึกไว้ก่อนได้ดังนี้ 4.1 บันทึกในแบบบันทึกข้อมูลทุกแบบ ได้แก่ - Cluster # บันทึกหมายเลขแปลงตัวอย่าง - Measurement Date บันทึก วัน เดือน ปีที่ปฏิบัติงาน - GPS Cluster Centre (map) บันทึกค่าพิกัด UTM ของแปลงตัวอย่างนั้น ๆ - Crew Chief บันทึกชื่อและรหัสประจำตัวผู้ที่ทำหน้าที่หัวหน้าทีมสำรวจ - Recorder บันทึกชื่อและรหัสประจำตัวผู้บันทึกข้อมูล - Identification บันทึกหมายเลขประจำเขตกริต และค่าพิกัด UTM ของแปลงตัวอย่าง จำนวน 4 และ 5 หลักแรกในแนวทิศตะวันออกและทิศเหนือ ตามลำดับ 4-1


4.2 บันทึกในแบบบันทึกข้อมูลเฉพาะแบบบันทึกฯ ที่1 - Map No. บันทึกหมายเลขระวางแผนที่ของที่ตั้งแปลงตัวอย่างตามระบบสากล - Province บันทึกชื่อจังหวัดของที่ตั้งแปลงตัวอย่าง พร้อมรหัสจังหวัด (Code) นั้นๆ ตามตารางผนวกที่1 4.3 จัดเตรียมแบบบันทึกข้อมูลสำรองสำหรับแบบที่คาดว่าจะสำรวจพบข้อมูลเป็นจำนวนมาก ได้แก่แบบบันทึกฯ ที่4 และ 5 5. ก่อนออกเดินทางไปยังแปลงตัวอย่างที่จะดำเนินการ ให้พิจารณาเส้นทางการคมนาคมที่สะดวก หรือใกล้ที่สุดจากแผนที่ภูมิประเทศ ประกอบการสอบถามเจ้าหน้าที่หรือชาวบ้าน ว่ามีเส้นทางอื่นอีกหรือไม่ เนื่องจากบางครั้งข้อมูลเส้นทางในแผนที่ภูมิประเทศหรือข้อมูลในแบบบันทึก ฉบับ เดิมอ าจไม่ทันส มัย ก่อนออกเดินทางให้บันทึกเวลาการเดินทางออกจากที่พัก (Camp) ลงในแบบบันทึกฯ ที่2 หัวเรื่อง Time (24 hour clock) ในช่องหมายเลข1 (Leave Camp) การเดินทางไปจุดศูนย์กลางแปลงตัวอย่าง 1. เมื่อเดินทางโดยรถยนต์หรือพาหนะอื่นๆเช่น รถมอเตอร์ไซค์ เรือหรือแพ ถึงบริเวณที่ใกล้จุดศูนย์ กลางแปลงตัวอย่างมากที่สุด ซึ่งรถยนต์หรือพาหนะอื่นไม่สามารถเดินทางต่อไปได้ต้องอาศัยการเดินเท้า จุดนี้เรียกว่าจุด Starting Point บันทึกค่าพิกัด UTM ของจุดดังกล่าว ลงในแบบบันทึกฯ ที่2 หัวเรื่อง GPS Starting Point ช่อง Easting และ Northing ตามลำดับ พร้อมกับบันทึกหมายเลขระวางแผนที่ที่จุด ดังกล่าวตกอยู่ในแบบที่1 หัวเรื่อง Map No. ช่องStarting Point จากนั้นกำหนดจุดใดๆเป็นจุดอ้างอิง (Reference Point) โดยเลือกจุดที่อยู่ในรัศมีไม่ควรเกิน 10 เมตร มีลักษณะเด่น สังเกตได้ง่าย ชัดเจนและมีสภาพ ค่อนข้างถาวร เช่น สะพาน เสาไฟฟ้า หลักกิโลเมตรต้นไม้ใหญ่ก้อนหินขนาดใหญ่ เป็นต้น จากนั้นวัดระยะทาง และค่ามุม Azimuth จากจุดอ้างอิงไปยัง Starting Point บันทึกค่าลงในแบบบันทึกฯ ที่2 หัวเรื่อง Ref. Point Detailsถ้าหากจุดอ้างอิงที่เลือกเป็นต้นไม้ให้ระบุชนิด รหัสพันธุ์ไม้ขนาดเส้นรอบวงเพียงอก (GBH) พร้อมกับ บรรยายการเดินทางจากจุดที่พัก (Camp)ถึงจุด StartingPoint ล งในแ บบ บันทึกฯ ที่ 1 หัว เรื่อง Access Notes (From Camp to Starting Point) และทำการบันทึกค่ามุม Azimuth และค่าระยะทางจาก จุด Starting Point ไปยัง Cluster Centreล งในแบบบันทึกฯ ที่ 2 หัว เรื่อง Straight Line Bearing and Distance from Starting Point (STP) to Cluster Centre (CC) พร้อ มก ับ ค่า EPE ในช ่อ ง STP ด้วย หลังจากนั้นจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ และสัมภาระที่จำเป็นในการปฏิบัติงาน ก่อนออกเดินทางจากStarting Point ให้บันทึกเวลาลงในแบบฯ ที่2 หัวเรื่อง Time ช่องหมายเลข2 (Leave Car) 4-2


2. ออกเดินทางจาก Starting Point ไปยังจุดศูนย์กลางของแปลงตัวอย่าง โดยใช้เครื่อง GPS และ เข็มทิศในการนำทางและตรวจสอบแนวเส้นทาง เทียบกับแผนที่ภูมิประเทศเป็นระยะๆ เพื่อให้แน่ใจว่าเป็น เส้นทางที่ถูกต้อง โดยให้แผนที่และผู้ใช้อยู่ในแนวทิศเหนือ (ใช้เข็มทิศ) เพื่อป้องกันการหลงทิศและควรพิจารณา ลักษณะภูมิประเทศจากแผนที่ภูมิประเทศประกอบเพื่อเลือกเส้นทางเดินที่เหมาะสม เช่น เดินตามลำห้วย ตามสันเขา หรือตัดตรงไปตามทิศทาง ระหว่างเส้นทางการเดินให้สังเกตจุดเด่นที่สังเกตได้ง่าย เช่น ทางแยก ลานหิน สันเขาลำห้วย หรือ ก้อนหินขนาดใหญ่ เป็นต้น พร้อมบันทึก (mark) ค่าพิกัด UTM ของจุดดังกล่าวไว้ ในเครื่อง GPS แล้วบันทึกค่าลงในแบบบันทึกฯ ที่2 หัวเรื่อง Navigation Notes และบรรยายการเดินทาง ใน หัวเรื่อง Notes (From Starting Point to Cluster Center) ทั้งนี้ อาจใช้แอพพลิเคชั่นทางด้านแผนที่ต่างๆ ที่มี อยู่ในปัจจุบัน ประกอบการพิจารณาในการเดินทางด้วย ซึ่งจะเป็นประโยชน์และง่ายต่อการตัดสินใจเลือก เส้นทางเนื่องจากทำให้ทราบตำแหน่งของแปลงตัวอย่างและตำแหน่งปัจจุบันของผู้ปฏิบัติงานได้ตลอดเวลา 3. เมื่อเดินทางใกล้ถึงจุดที่จุดศูนย์กลางของแปลงตัวอย่างให้ทำการบันทึกจุดอ้างอิงภายนอกแปลง ตัวอย่าง (Reference Point Outside Plot ; ROP) โดยเลือกต้นไม้ขนาดใหญ่ที่เป็นจุดเด่น สังเกตได้ง่าย ควรอยู่ห่างจากจุดศูนย์กลางของแปลงตัวอย่าง 50 เมตร โดยประมาณ ทั้งนี้ให้พิจารณาตามความเหมาะสมของ สภาพพื้นที่ ทำเครื่องหมายจุดอ้างอิง โดยใช้สีสเปรย์พ่น คำว่า “RO/ROP” ตามด้วยหมายเลขPlot นั้นๆ เช่น “RO/ROP123” โดยพ่นให้อยู่ในระดับสายตา บันทึกชนิดไม้ ขนาดเส้นรอบวงเพียงอก ค่าพิกัด ค่ามุม Azimuth, ระยะทางจากจุด ROP ถึงจุดศูนย์กลางของแปลงตัวอย่าง และค่า EPE ลงในแบบบันทึกฯ ที่ 2 พร้อมกับบันทึกค่าพิกัดของ ROP ไว้ในเครื่อง GPS ด้วยกรณีไม่สามารถหาต้นไม้ที่เหมาะสมได้ให้หาจุดอ้างอิง อื่นๆ แทน เช่น ก้อนหินขนาดใหญ่ แล้วดำเนินการเช่นเดียวกัน และสำหรับกรณีที่ไม่มีหรือไม่ส ามารถหา จุดอ้างอิงได้ เช่น ระยะทางจากจุด STP ไปยัง CC น้อยกว่า 50 เมตร หรือเป็นที่โล่งจนทำให้ไม่สามารถหา จุดอ้างอิงนอกแปลงตัวอย่างได้ ให้บันทึกทุกอย่าง เป็นค่าเลข 9 ดังนี้ มุม 99 ระยะ 99 รหัสต้นไม้ 99999 แล้วทำการบันทึกลงในแบบบันทึกฯ ที่1 ช่อง Comment ไว้ด้วยว่าไม่มี ROP 4. เมื่อเดินทางถึงจุดที่ค่าพิกัด UTM ที่อ่านได้จากเครื่อง GPS ตรงกับค่าพิกัดของแปลงตัวอย่างที่ กำหนดไว้ในแผนที่ซึ่งบางครั้งอาจคลาดเคลื่อนเล็กน้อย แสดงว่าได้เดินทางมาถึงจุดศูนย์กลางของแปลงตัวอย่าง แล้ว ทำการบันทึกค่าพิกัดดังกล่าวลงในเครื่อง GPS และในแบบบันทึกข้อมูลทุกแบบหัวเรื่อง GPS Plot Centre (Site) พร้อมกับค่าความคลาดเคลื่อน (EPE) โดยดูจากเครื่อง GPS ลงในแบบบันทึกฯ ที่2 ในหัวเรื่อง EPE ช่อง CC และบันทึกเวลาที่เดินทางถึงจุดศูนย์กลางของแปลงตัวอย่าง ในแบบบันทึกฯ ที่ 2 หัวเรื่อง Time ช่องหมายเลข3 (Arrive Plot Centre) จากนั้นทำการฝังหมุด/แท่งเหล็กที่ตำแหน่งจุดศูนย์กลางของแปลง ตัวอย่าง เพื่อใช้ในการติดตามการเปลี่ยนแปลงในอนาคตกรณีไม่สามารถฝังแท่งเหล็กเนื่องจากสาเหตุต่างๆ เช่น ชั้นล่างเป็นหิน พื้นที่เป็นลานหินหรือเป็นแหล่งน้ำ ให้พิจารณาบริเวณใกล้เคียงที่สามารถดำเนินการได้แล้ววัดมุม พร้อมระยะทางจากตำแหน่งที่ฝังแท่งเหล็กได้ไปยังจุดศูนย์กลางแปลงตัวอย่าง แล้วบันทึกลงในแบบบันทึกฯ ที่1 ช่อง Comment ด้วย 4-3


5. วาดแผนที่สังเขปลงในแบบบันทึกฯ ที่1 หัวเรื่อง Sample Plot Location Sketch Map แสดงเส้นทางการเดินทางจากที่พัก(Camp) ถึงจุดศูนย์กลางของแปลงตัวอย่าง 6. กรณีไม่สามารถเดินทางไปถึงแปลงตัวอย่างที่กำหนด หรือไปถึงแล้วแต่ไม่สามารถปฏิบัติงานได้ เนื่องจากมีอุปสรรคหรือความเสี่ยงภัยเช่น ยานพาหนะเสียหายฝนตกหนักไม่สามารถข้ามน้ำได้เป็นหน้าผาสูงชัน พื้นที่หวงห้ามเฉพาะ เป็นต้น ให้ระงับการปฏิบัติงาน และพิจารณาว่าจะระงับเป็นการชั่ว คราวห รือถ าว ร พร้อมอธิบายเหตุผลประกอบ การกำหนดจุดอ้างอิงของแปลงตัวอย่าง เมื่อเดินทางถึงจุดวางแปลงตัวอย่างและทำการฝังหมุด/แท่งเหล็กที่ตำแหน่งจุดศูนย์กลางของ แปลงตัวอย่างแล้ว ทำการกำหนดจุดอ้างอิงภายในแปลงตัวอย่าง (Reference Point Inside Plot ; RIP) เพื่อใช้ เป็นจุดอ้างอิงสำหรับติดตามการเปลี่ยนแปลง โดยมีขั้นตอนดำเนินการ ดังนี้ 1.1 เลือกต้นไม้ขนาดใหญ่ที่อยู่ในแปลงตัวอย่างรูปวงกลมรัศมี17.84 เมตร ที่เป็นจุดเด่น สังเกตได้ง่ายแล้วทำเครื่องหมายจุดอ้างอิงโดยใช้สีสเปรย์พ่นคำว่า“RI/RIP” ตามด้วยหมายเลขPlot นั้นๆ เช่น “RI/RIP 123” โดยพ่นให้อยู่ในระดับสายตา 1.2 บันทึก คำว่า RI/RIP ในช่อง Remark ของแบบบันทึกฯ ที่4 ให้ตรงกับช่องข้อมูลของ ต้นไม้ที่เลือก 1.3 บันทึกค่าพิกัดของต้นไม้ที่ถูกเลือก พร้อมบันทึกค่าลงในแบบบันทึกฯ ที่2 พร้อมกับบันทึก ค่าพิกัดของRIP ไว้ในเครื่อง GPS ด้วย 1.4 บันทึกค่ามุม Azimuth และระยะทางจากจุด RIP ถึงจุดศูนย์กลางของแปลงตัวอย่าง (โดยค่ามุม Azimuth และระยะจะต้องสัมพันธ์กับค่าในแบบบันทึกฯ ที่ 4 คือระยะทางจะต้องใช้ค่าเดียวกันโดย ยึดจากแบบบันทึกฯ ที่ 4 เป็นหลัก แต่มุม Azimuth จะต่างกัน 180 องศา เนื่องจากค่ามุมในแบบบันทึกฯ ที่ 2 นี้จะเป็นมุมจาก RIP ไปยังจุดศูนย์กลางแปลง ส่วนค่ามุมในแบบบันทึกฯ ที่ 4 จะเป็นมุมจากจุดศูนย์กลางแปลง ไปยัง RIP) 1.5 กรณีหาต้นไม้ที่เหมาะสมไม่ได้หรือไม่มีต้นไม้ ให้หาจุดอ้างอิงอื่นๆ แทน เช่น ก้อนหิน ขนาดใหญ่หรือจุดอ้างอิงอื่นที่เหมาะสมแล้วดำเนินการเช่นเดียวกัน 4-4


การวางแปลงตัวอย่าง การเก็บข้อมูลในแปลงตัวอย่างถาวร (Permanent Sample Plot) จะดำเนินการเก็บข้อมูลครบ ทุกหัวข้อและมีการติดตามผลการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง มีขั้นตอนการวางแปลงตัวอย่างดังนี้ 1. วางแปลงตัวอย่างรูปวงกลมที่มีจุดศูนย์กลางร่วมกัน รัศมีต่างกัน จำนวน 3 แปลง คือ รัศมี3.99 เมตร 12.62 เมตรและ 17.84 เมตร ตามลำดับ ทำการฝังแท่งเหล็กที่จุดศูนย์กลางของแปลง ตัวอย่างโดยใช้จุดนี้เป็นจุดศูนย์กลางของแปลงตัวอย่างถาวร 2. วางแปลงตัวอย่างรูปวงกลมที่มีรัศมีเท่ากันแต่จุดศูนย์กลางต่างกันจำนวน 4 แปลง รัศมี 0.631 เมตร โดยมีจุดศูนย์กลางอยู่บนเส้นรอบวงของวงกลมรัศมี 3.99 เมตร ไปตามทิศหลักทั้ง 4 ทิศ คือ ทิศเหนือ (N) ทิศตะวันออก(E) ทิศใต้(S) และทิศตะวันตก(W) 3. วางแปลงตัวอย่างที่มีลักษณะเป็นเส้นตรง (Transect Line) จำนวน 2 เส้น ความยาวเส้นละ 17.84 เมตร ทั้งสองเส้นเริ่มต้นจากจุดศูนย์กลางของแปลงตัวอย่าง ทำมุมตั้งฉากกัน โดยเส้นที่1 (Transect 1) ได้กำหนดค่ามุม Azimuth ไว้แล้วจากการสุ่ม และเส้นที่2 (Transect 2) จะมีค่ามุมเท่ากับเส้นที่ 1 + 90 องศา 4. รัศมีของแปลงตัวอย่างรูปวงกลม กำหนดเป็นค่าของระยะทางตาม แนวราบ (Horizontal Length) โดยใช้เครื่องมือวัดระยะด้วยแสงเลเซอร์สำหรับวัดระยะทางเพื่อเป็นการปรับแก้ปัญห าพื้นที่ที่มี ความลาดชัน 5. บันทึกค่าความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง(MSL) ของที่ตั้งแปลงตัวอย่างในแบบบันทึกฯ ที่ 2 หัวเรื่องElevation Plot Centre (m) 6. เมื่อวางแปลงตัวอย่างเสร็จแล้ว ให้ถ่ายภาพบริเวณจุดศูนย์กลางของแปลงตัวอย่าง (พร้อมแบบ บรรยายลักษณะทั่วไปของแปลงโดยสังเขป) และภาพสภาพทั่วไปบริเวณแปลงตัวอย่าง จำนวน 5 - 6 ภาพ ตามแนวทิศ เหนือ – ใต้ และ ตะวันออก –ตะวันตก 7. บันทึกภาพเคลื่อนไหว/วิดีโอ ให้เห็นถึงลักษณะทั่วไปของแปลงเริ่มจากจุดศูนย์กล างแปลง ตัวอย่าง (พร้อมแบบบรรยายลักษณะทั่วไปของแปลงโดยสังเขป) บันทึกภาพสภาพทั่วไปเวียนตามเข็มนาฬิกา เพื่อให้เห็นสภาพโดยรวมของแปลง และอาจบันทึกภาพลักษณะเด่นหรือจุดสังเกตต่างๆ เช่น RI ต้นไม้ที่มีขนาด ใหญ่/เด่น ร่องห้วย ลำธาร ก้อนหินขนาดใหญ่/ลานหิน ฯลฯ 8. ตรวจสอบลักษณะการใช้ประโยชน์ที่ดินในพื้นที่รอบๆ บริเวณแปลงตัวอย่างในระยะ 100 x 100 เมตร (ขนาดพื้นที่เท่ากับ 1 เฮคแตร์) เพื่อใช้ประกอบในรายงาน ทำการวาดภาพร่าง (Sketch map) ลงบนแบบบันทึกข้อมูลแบบที่ 1 ในกรณีที่มีเพียง 1 ชนิดป่า/ลักษณะการใช้ประโยชน์ที่ดิน เช่น เป็นป่าเบญจพรรณเพียงอย่างเดียวไม่ต้องทำ Sketch map แต่ถ้ามีมากกว่า 1 ชนิดป่า/ลักษณะการใช้ ประโยชน์ที่ดินให้จัดทำ Sketch map เพื่อแบ่งสัดส่วนพื้นที่ที่มีลักษณะของการใช้ประโยชน์พื้นที่ต่างกัน 4-5


การเก็บและบันทึกข้อมูลในแปลงตัวอย่าง 1. การเก็บข้อมูลชนิดป่า/การใช้ประโยชน์ที่ดิน (Landuse Type) 1.1 ใช้แบบบันทึกข้อมูลฯ แบบที่1 1.2 เก็บข้อมูลในแปลงตัวอย่างรูปวงกลมรัศมี17.84 เมตร 1.3 พิจารณาชนิดป่า/การใช้ประโยชน์ที่ดินในแปลงตัวอย่างว่าเป็นป่าชนิดใด เลือกระบุตาม หัวข้อที่กำหนด หากเป็นพื้นที่ลักษณะอื่นให้บันทึกรายละเอียดว่าเป็นพื้นที่อะไร 1.4. การบันทึกสภาพอากาศ (Weather) ขณะปฏิบัติงานให้บันทึกลักษณะสภาพภูมิอากาศ ขณะที่ปฏิบัติงานว่าเป็นเช่นไร เช่น แดดจัด ร้อนอบอ้าว ฝนตก ลมแรง เป็นต้น ในแบบบันทึกฯ ที่1 หัวเรื่อง Weather 2. การเก็บข้อมูลลักษณะทั่วไปของพื้นที่ (Site Features) 2.1 ใช้แบบบันทึกข้อมูลฯ แบบที่2 2.2 เก็บข้อมูลในแปลงตัวอย่างรูปวงกลมรัศมี17.84 เมตร 2.3 เก็บและบันทึกข้อมูลดังนี้ 2.3.1 ความลาดชัน (Slope) ใช้เข็มทิศ/เครื่องวัดระยะด้วยแสงเลเซอร์ในการวัด ค่าความลาดชัน หน่วยเป็นองศา 2.3.2 ทิศด้านลาด (Aspect) ใช้เข็มทิศตรวจสอบว่าพื้นที่ส่วนใหญ่ลาดไปทาง ทิศใด บันทึกชื่อทิศด้วยอักษรย่อ คือ N NE E SE S SW W และ NW 2.3.3 พิจารณาตำแหน่งของแปลงตัวอย่างว่าวางตัวอยู่บนความลาดชันตำแหน่งใดของ พื้นที่โดยรวม (Rel. Slope Position) เลือกระบุตามหัวข้อที่กำหนด 2.3.4 ประเมินการครอบคลุมพื้นที่ของหินแบบต่างๆ (หินก้อน = Cobbles/ Stone หรือหินดาน = Bedrock) บันทึกเป็นร้อยละของการครอบคลุมพื้นที่ของแปลงตัวอย่าง 2.3.5 พิจารณารูปร่างของพื้นผิวแปลงตัวอย่าง (Surface Shape) โดยรวมว่าเป็น ลักษณะใดเลือกระบุตามหัวข้อที่กำหนด 2.3.6 บันทึกร้อยละการครอบคลุมพื้นที่ของน้ำบริเวณแปลงตัวอย่าง (Open Water) 3. การเก็บข้อมูลพืชล้มลุก ไม้พุ่ม กล้าไม้และลูกไม้(Herb Shrub Seedlings & Saplings) 3.1 ใช้แบบบันทึกข้อมูลฯ แบบที่3 3.2 เก็บข้อมูลชนิดและจำนวนกล้าไม้(Seedling) ของพรรณไม้ทุกชนิดในแปลงตัวอย่างรูป วงกลมรัศมี0.631 เมตร ทั้ง 4 วง บันทึกข้อมูลของแต่ละวงให้ตรงตามทิศและช่องที่กำหนด โดยกล้าไม้ คือไม้ที่พิจารณาแล้วว่ารอดตายและมีความสูงจากระดับพื้นดินไม่ถึง 1.30 เมตร 4-6


3.3 ประเมินร้อยละการครอบคลุมพื้นที่ของ ไลเคน (Lichen) มอส (Moss)และไม้ปกคลุม พื้นล่าง (Undergrowth) ภายในแปลงตัวอย่างรูปวงกลมรัศมี3.99 เมตร 3.4 เก็บข้อมูลชนิดและจำนวนลูกไม้ (Sapling) ของพรรณไม้ทุกชนิดในแปลง ตัวอย่างรูป วงกลมรัศมี3.99 เมตร โดยลูกไม้คือ ไม้ที่มีความสูงมากกว่า1.30 เมตร และมีขนาดเส้นรอบวงเพียงอก(GBH) น้อยกว่า 15 เซนติเมตร 4. การเก็บข้อมูลไม้ยืนต้น (Trees) 4.1 ใช้แบบบันทึกข้อมูลฯ แบบที่4 4.2 เก็บข้อมูลในแปลงตัวอย่างรูปวงกลมรัศมี17.84 เมตร 4.3 เลือกวัดเฉพาะต้นไม้ที่มีขนาดเส้นรอบวงเพียงอก (GBH) มากกว่าหรือเท่ากับ 15 เซนติเมตรขึ้นไป พร้อมระบุว่าวัดด้วยเครื่องมือ (M) หรือการประมาณ (E) 4.4 บันทึกข้อมูลชนิดไม้และรายละเอียดเกี่ยวกับต้นไม้ดังนี้ 4.4.1 ตำแหน่งของต้นไม้(Position) ทำการวัดค่ามุม Azimuth โดยใช้เข็มทิศส่องมุม จากจุดศูนย์กลางของแปลงตัวอย่างไปยังจุดกึ่งกลางของต้นไม้พร้อมทำการติดเบอร์ต้นไม้โดยให้ส่ว นปล าย ด้านล่างของแผ่นป้ายอะลูมิเนียมอยู่ที่ตำแหน่ง 1.30 เมตร ซึ่งจะเป็นจุดวัดขนาดความโตต้นไม้ (GBH) ให้เรียงลำดับหมายเลขจากมุม Azimuth 0 – 359 องศา และในกรณีที่มุมเท่ากันให้วัดต้นไม้ที่อยู่ใกล้ จุดศูนย์กลางก่อน แล้วไล่เรียงกันไปจนถึงระยะ 17.84 เมตร จากจุดศูนย์กลางแปลงตัวอย่าง 4.4.2 ตรวจสอบว่าต้นไม้นั้นยังมีชีวิตหรือตาย (Live/Dead)ยืนต้นหรือล้มลง (Stand/Fall) 4.4.3 วัดขนาดเส้นรอบวงเพียงอก (GBH) ของต้นไม้ด้วยเทปวัดความโตในหน่วย เซนติเมตร (ทศนิยม 1 ตำแหน่ง) 4.4.4 วัด (M) ความสูงของต้นไม้จากโคนต้นถึงปลายยอด (Total Height) ด้วยเครื่องมือ วัดความสูง หรือเป็นการประมาณ (E) 4.4.5 ประมาณจำนวนท่อนของต้นไม้(Number of logs) โดยกำหนดให้จำนวนท่อน ไม้ที่ใช้ทำเป็นสินค้าได้ 1 ท่อนมีความยาว 5 เมตร ถ้าความยาวของท่อนไม้ไม่ถึง 5 เมตร แต่หากความยาว มากกว่าครึ่งหนึ่งของความยาวเต็มท่อน ( > 2.5 เมตร) ให้คิดเป็น 1 ท่อน ถ้าความยาวน้อยกว่าครึ่งท่อน ไม่คิดจำนวนท่อน 4.4.6 ประเมินคุณภาพของท่อนไม้ที่ใช้ทำเป็นสินค้าได้(Timber Quality) โดยพิจารณา ตามชั้นขนาดเส้นรอบวงเพียงอกและลักษณะทางกายภาพของต้นไม้ว่าเปลาตรงดีเพียงใด 4.4.7 ป ระเมินระดับชั้นของเรือนยอด (Crown Class) โ ดยจำแนกออกเป็น Dominant, Co–Dominant, Intermediate และSuppress 4.4.8 ประเมินความสมบูรณ์ของเรือนยอด (Crown Condition) โดยจำแนกออกเป็น Good, Medium และ Poor 4-7


4.4.9 ประเมินความกว้างของเรือนยอด (Crown Width) โดยการถ่ายทอดขนาดของ เรือนยอดลงในแนวดิ่งแล้วประมาณด้านกว้างของเรือนยอดในแนวทิศเหนือ ตะวันออก ใต้และตะวันตก 4.4.10 หากต้นไม้ที่เก็บข้อมูลมีกล้วยไม้เกาะอยู่ ให้นับจำนวนกอ หรือมีลักษณะผิดปกติ เช่น มีหลายนาง พูพอนสูงยอดหักฯลฯให้บันทึกในช่องRemark ให้ตรงกับลำดับของต้นไม้นั้นๆด้วย 4.4.11 หากต้นไม้เป็นไม้ที่มี 2 นาง หรือมากกว่า ให้ระบุในช่อง Remark ไว้ด้วยว่าเป็น นางที่เท่าไหร่ของต้นไหน เช่น นางที่ 2 ของต้นที่ 10 เป็นต้น 4.4.12 กรณีที่เป็นแปลงที่ดำเนินการในรอบติดตามการเปลี่ยนแปลงแล้วพบว่ามีต้นที่ หายไป เช่น อาจล้มตาย หรือหาซากต้นเดิมไม่เจอให้ ให้บันทึกทุกอย่างของต้นนี้ เป็นค่าเลข 9 ดังนี้ มุม 99 ระยะ 9 รหัสต้นไม้ 99999 ความโต 99 ความสูง 9 แล้วทำการบันทึกลงในช่องRemark ไว้ด้วยว่า ต้นตาย/หาย 4.4.13 กรณีที่เป็นแปลงที่ดำเนินการในรอบติดตามการเปลี่ยนแปลงแล้วพบว่ามีต้นที่ เพิ่มขึ้นมากกว่าการสำรวจครั้งก่อน ให้ติดลำดับหมายเลขของต้นที่พบใหม่ต่อจากลำดับต้นสุดท้ายของก าร สำรวจครั้งก่อน 4.4.14 กรณีที่เป็นแปลงที่ดำเนินการในรอบติดตามการเปลี่ยนแปลงแล้วพบว่ามีต้นที่ เพิ่มขึ้นจากการแตกนางขึ้นมาใหม่ของต้นเดิมให้ติดหมายเลขต่อจากลำดับต้นสุดท้ายของการสำรวจครั้งก่อน แล้วทำการบันทึกลงในช่องRemarkไว้ด้วยว่าเป็นนางที่เท่าไหร่ของต้นไหน เช่น นางที่ 2 ของต้นที่ 10 เป็นต้น 5. การเก็บข้อมูลไม้ไผ่ หวายและตอไม้(Bamboo, Erect rattan and Tree stump) 5.1 ใช้แบบบันทึกข้อมูลฯ แบบที่5 5.2 เก็บข้อมูลในแปลงตัวอย่างรูปวงกลมรัศมี12.62 เมตร 5.3 การเก็บข้อมูลเกี่ยวกับไม้ไผ่ (Bamboo) จะต้องเป็นไม้ไผ่ที่ยังมีชีวิตอยู่ มีความสูงมากกว่า หรือเท่ากับ 1.30 เมตรขึ้นไป และให้ตรวจสอบว่ากอไผ่ตกอยู่ในแปลงตัวอย่างทั้งกอหรือไม่ ถ้าอยู่ในแปลง ตัวอย่างเพียงบางส่วนให้เก็บข้อมูลเฉพาะส่วนที่อยู่ในแปลงตัวอย่างเท่านั้น ข้อมูลที่เก็บคือ 5.3.1 ชนิดและจำนวนลำของไม้ไผ่ในกอหนึ่งๆ 5.3.2 ขนาดเส้นรอบวงเพียงอกเฉลี่ยของลำไผ่ในแต่ละกอ (เลือกวัดลำที่เป็นตัวแทนทั้ง ทางด้านความโตและความสูงของไผ่ในกอนั้น ๆ จำนวน 1 ลำ) 5.3.3 ความยาวเฉลี่ยของลำไผ่ในแต่ละกอ 5.4 การเก็บข้อมูลเกี่ยวกับหวายเส้นตั้ง (Erect rattan) จะต้องเป็นเส้นหวายที่ยังมีชีวิตอยู่ มีความสูงมากกว่าหรือเท่ากับ 1.30 เมตรขึ้นไป เป็นหวายที่ยังไม่ทอดเลื้อยและให้ตรวจสอบว่ากอหวายตกอยู่ใน แปลงตัวอย่างทั้งกอหรือไม่ เช่นเดียวกับกรณีไม้ไผ่ข้อมูลที่เก็บ คือ 4-8


5.4.1 ชนิดและจำนวนเส้นหวายในแต่ละกอ 5.4.2 ขนาดเส้นรอบวงเพียงอกของหวายเส้นที่มีขนาดเล็กที่สุด ใหญ่ที่สุด และเส้นรอบวง เฉลี่ยของเส้นหวายในกอ 5.4.3 ความยาวเฉลี่ยของเส้นหวายในกอ 5.5 การเก็บข้อมูลเกี่ยวกับตอไม้(Tree stump) จะต้องเป็นตอไม้ที่มีขนาดเส้นรอบวงที่ปลาย ตอมากกว่าหรือเท่ากับ 15 เซนติเมตรขึ้นไป และมีความสูงน้อยกว่า 1.30 เมตร (ถ้าตอไม้มีความสูงมากกว่า 1.30 เมตรจะเก็บข้อมูลในลักษณะเป็นต้นไม้)ข้อมูลที่เก็บ คือ 5.5.1 ขนาดเส้นรอบวงของปลายตอ 5.5.2 ความสูงจากระดับพื้นดินถึงปลายตอ 5.5.3 พิจารณาความเก่าหรือใหม่ของตอ โดย ตอเก่าคือตอที่มีอายุมากกว่าหรือเท่ากับ 1 ปีตอใหม่คือ ตอที่มีอายุน้อยกว่า1 ปี 6. การเก็บข้อมูลไม้ล้มขอนนอนไพร (Coarse Woody Debris : CWD) หวายเลื้อย (Rattan) และไม้เถา (Climbers) 6.1 ใช้แบบบันทึกข้อมูลฯ แบบที่6 และ7 ซึ่งมีหัวเรื่องที่เหมือนกัน ยกเว้นค่ามุม Azimuth 6.2 เก็บข้อมูลในแปลงตัวอย่างที่มีลักษณะเป็นเส้นตรง (Transect line) ความยาว17.84 เมตร จำนวน 2 เส้น โดยแบบบันทึกฯ ที่6 ใช้เก็บข้อมูลของเส้นที่1 แบบบันทึกฯ ที่7 ใช้เก็บข้อมูลของเส้นที่2 6.3 ข้อมูลที่ทำการศึกษา 6.3.1 ไม้CWD คือไม้ล้มขอนนอนไพร เศษไม้ปลายไม้ที่ตาย หรือหลุดขาดจากต้นเดิม โดยไม่มีส่วนที่ถูกพยุงหรือค้ำจุนลำต้นติดอยู่ในดิน และต้องมีขนาดเส้นรอบวงตรงจุดที่Transect line พาดผ่าน มากกว่า หรือเท่ากับ 15 เซนติเมตร ขึ้นไป 6.3.2 ไม้เถา เก็บข้อมูลเฉพาะไม้เถาที่ยังมีชีวิตอยู่ และมีขนาดเส้นรอบวง ณ จุดที่ Transect line พาดผ่านมากกว่า หรือเท่ากับ 15 เซนติเมตร ขึ้นไป 6.3.3 หวายเลื้อย เก็บข้อมูลเฉพาะหวายเลื้อยที่ยังมีชีวิตอยู่ ทุกเส้นทุกขนาด เส้นรอบวงที่Transect line พาดผ่าน 6.4 วัดขนาดและเก็บข้อมูลไม้CWD หวายเลื้อยและไม้เถา ที่อยู่บนและเหนือพื้นดินทุกจุดที่ เส้น Transect line พาดผ่าน ข้อมูลที่ต้องบันทึกแบ่งเป็น 2 ลักษณะ คือ 6.4.1 ลักษณะเป็นรูปทรงกระบอก (Round Pieces) เก็บข้อมูล ชนิด เส้นรอบวง และวัดมุมที่ทำกับแนวระนาบ ตรงจุดที่Transect line พาดผ่าน 6.4.2 ลัก ษณะเป็นกองหรือไม่เป็นรูปทรงกระบ อ ก (Accumulation or Odd Shaped Pieces) เก็บข้อมูลความยาวในส่วนที่ Transect line พาดผ่านและความสูงหรือความหนาของ สิ่งนั้น ไม่ต้องระบุชนิด เนื่องจากบางครั้งสิ่งที่เก็บข้อมูลผุสลาย หรือมีหลากหลายชนิดกองสุมกันเป็นกองใหญ่ ยากต่อการแยกชนิด 4-9


6.5 ในกรณีที่ไม่สามารถวัดข้อมูลได้เช่น อยู่สูงเกินไป ให้ทำการประมาณค่า แล้วบันทึกข้อมูล ในช่อง M/E ด้วยตัวอักษรE 7. การเก็บข้อมูลปัจจัยที่มีผลกระทบต่อพื้นที่ป่า (Site disturbance) 7.1 ใช้แบบบันทึกข้อมูลฯ แบบที่11 7.2 เก็บข้อมูลในแปลงตัวอย่างรูปวงกลมรัศมี17.84 เมตร 7.3 พิจารณาปัจจัยต่างๆ ทั้งที่เกิดจากการกระทำของมนุษย์ สัตว์และเกิดตามธรรมชาติ ซึ่งมีผลกระทบต่อสภาพป่า พืชพรรณ และสิ่งแวดล้อม แล้วบันทึกตามหัวข้อที่กำหนด 8. การเก็บข้อมูลตัวอย่างพรรณไม้(Plant specimens) 8.1 ทำการเก็บตัวอย่างพืชหรือพรรณไม้ที่ไม่สามารถจำแนกชื่อเป็นทางการได้ หรือทราบชื่อ ท้องถิ่นแต่ไม่แน่ใจชื่อพฤกษศาสตร์ (Botanical Name) ตามวิธีการเก็บพรรณไม้พร้อมบันทึกข้อมูลต่างๆ ให้ชัดเจนครบถ้วน เพื่อให้นักพฤกษศาสตร์ตรวจหาชื่อที่ถูกต้องต่อไป 8.2 การเก็บตัวอย่างควรเก็บจากพืชชนิดเดียวกันที่อยู่นอกแปลงตัวอย่างแทน เพื่อไม่ให้เป็น การรบกวนสภาพพืชพรรณในแปลงตัวอย่าง การดำเนินการหลังเสร็จสิ้นการเก็บข้อมูล หลังจากดำเนินการเก็บข้อมูลต่างๆในแปลงตัวอย่างเสร็จสิ้นแล้วควรดำเนินการดังนี้ 1. ตรวจสอบแบบบันทึกข้อมูลทุกแบบทุกหน้าว่าได้บันทึกข้อมูลครบถ้วนถูกต้องแล้วหรือไม่ กรณีที่หัวเรื่องใดไม่มีข้อมูลที่ต้องบันทึกให้กากบาทขีดคร่อมส่วนที่ไม่ใช้ในส่วนที่มีการบันทึกข้อมูลแต่ยังมี พื้นที่ตอนล่างเหลืออยู่ให้ขีดเส้นใต้ยาวแสดงการสิ้นสุดข้อความ พร้อมขีดคร่อมส่วนที่เหลือ 2. รวบรวมแบบบันทึกข้อมูลตามข้อ 1 จัดเป็นชุด พร้อมตรวจสอบว่ามีครบทุกแบบหรือไม่ แต่ละแบบมีกี่หน้าแล้วบันทึกลงในแบบบันทึกฯ ที่1 หัวเรื่องTally Sheet Index (Number) 3. ก่อนเดินทางออกจากแปลงตัวอย่าง ให้ตรวจสอบวัสดุอุปกรณ์ให้ครบถ้วนแล้วบันทึกเวล าที่ ออกจากแปลงตัวอย่าง ในแบบบันทึกฯ ที่2 หัวเรื่อง Time ช่องหมายเลข4 (Leave Plot) 4. เมื่อเดินทางถึงจุดที่รถยนต์หรือพาหนะจอดอยู่ ให้บันทึกเวลาลงในแบบบันทึกฯ ที่2 หัวเรื่อง Time ช่องหมายเลข5 (Arrive Car) 5. เมื่อเดินทางถึงที่พัก(Camp) ให้บันทึกเวลาลงในแบบบันทึกฯ ที่2 หัวเรื่องTime ช่องหมายเลข6 (Arrive Camp) เป็นอันเสร็จสิ้นการปฏิบัติงานภาคสนาม หลังจากเสร็จสิ้นการปฏิบัติงานภาคสนามในแต่ละรอบ ให้ตรวจสอบและรวบรวมแบบบันทึก ข้อมูลทุกแบบทุกแปลงตัวอย่างที่ปฏิบัติงานในรอบนั้นๆ ส่งให้เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบดำเนินการนำเข้าข้อมูล ต่อไป พร้อมนำข้อมูลในเครื่อง GPS บันทึกลงในเครื่องคอมพิวเตอร์ด้วย 4-10


ภาคผนวก


ตารางผนวกที่1 provinceCode provinceThName PROV_EN PROV_ABBR 10 กรุงเทพมหานคร Krung Thep Maha Nakhon BKK 11 สมุทรปราการ Samut Prakarn SMP 12 นนทบุรี Nonthaburi NTB 13 ปทุมธานี Pathum Thani PTT 14 พระนครศรีอยุธยา Phra Nakhon Si Ayutthaya AYT 15 อ่างทอง Ang Thong ATG 16 ลพบุรี Lop Buri LBR 17 สิงห์บุรี Sing Buri SBR 18 ชัยนาท Chai Nat CHN 19 สระบุรี Saraburi SRB 20 ชลบุรี Chon Buri CHB 21 ระยอง Rayong RAY 22 จันทบุรี Chanthaburi CTB 23 ตราด Trat TRT 24 ฉะเชิงเทรา Chachoengsao CCS 25 ปราจีนบุรี Prachin Buri PCN 26 นครนายก Nakhon Nayok NKN 27 สระแก้ว Srakaeo SKW 30 นครราชสีมา Nakhon Ratchasima NKR 31 บุรีรัมย์ Buri Ram BRR 32 สุรินทร์ Surin SRN 33 ศรีสะเกษ Si Sa Ket SSK 34 อุบลราชธานี Ubon Ratchathani UBR 35 ยโสธร Yasothon YST 36 ชัยภูมิ Chaiyaphum CYP 37 อำนาจเจริญ Amnaj Charoen ANC 39 หนองบัวลำภู Nong Bua Lamphu NBL


ตารางผนวกที่1 (ต่อ) provinceCode provinceThName PROV_EN PROV_ABBR 40 ขอนแก่น Khon Kaen KHK 41 อุดรธานี Udon Thani UDT 42 เลย Loei LEI 43 หนองคาย Nong Khai NKI 44 มหาสารคาม Maha Sarakham MSK 45 ร้อยเอ็ด Roi Et ROE 46 กาฬสินธุ์ Kalasin KLS 47 สกลนคร Sakon Nakhon SKN 48 นครพนม Nakhon Phanom NPN 49 มุกดาหาร Mukdahan MDH 50 เชียงใหม่ Chiang Mai CHM 51 ลำพูน Lamphun LPH 52 ลำปาง Lampang LMP 53 อุตรดิตถ์ Uttaradit UTD 54 แพร่ Phrae PHR 55 น่าน Nan NAN 56 พะเยา Phayao PYO 57 เชียงราย Chiang Rai CHR 58 แม่ฮ่องสอน Mae Hong Son MHS 60 นครสวรรค์ Nakhon Sawan NKS 61 อุทัยธานี Uthai Thani UTT 62 กำแพงเพชร Kamphaeng Phet KPP 63 ตาก Tak TAK 64 สุโขทัย Sukhothai SKT 65 พิษณุโลก Phitsanulok PSN 66 พิจิตร Phichit PCT 67 เพชรบูรณ์ Phetchabun PCB 70 ราชบุรี Ratchaburi RCB


ตารางผนวกที่1 (ต่อ) provinceCode provinceThName PROV_EN PROV_ABBR 71 กาญจนบุรี Kanchanaburi KCB 72 สุพรรณบุรี Suphan Buri SPB 73 นครปฐม Nakhon Pathom NKP 74 สมุทรสาคร Samut Sakon SSN 75 สมุทรสงคราม Samut Songkram SSM 76 เพชรบุรี Phetchaburi PBR 77 ประจวบคีรีขันธ์ Prachuap Khiri Khan PKK 80 นครศรีธรรมราช Nakhon Si Thammarat NST 81 กระบี่ Krabi KRB 82 พังงา Phangnga PNG 83 ภูเก็ต Phuket PHK 84 สุราษฎร์ธานี Surat Thani SRT 85 ระนอง Ranong RAN 86 ชุมพร Chumphon CHP 90 สงขลา Songkhla SKL 91 สตูล Satun STN 92 ตรัง Trang TRN 93 พัทลุง Phatthalung PTL 94 ปัตตานี Pattani PTN 95 ยะลา Yala YAL 96 นราธิวาส Narathiwat NRT 97 บึงกาฬ Bueng Kan BNK


National Forest Inventory and Monitoring Forest Resources Assessment Division of D D M M Y Y Crew Chief Recorder Tally Sheet Index ( Number ) 1. General Information 6. CWD, Climbing Rattan 2. Cluster Centre Access & Climbers (Transect 1) & Site Features 7. CWD, Climbing Rattan 3. Lichen, Moss & Climbers (Transect 2) Seedlings & Saplings 8. Site Disturbance 4. Trees 9. Soil Description N 4A. Agricultural Crop Trees 10. Uses of Wildlife Habitat & Tall Shrubs 11. Plant Specimens 5. Bamboo, Erect Rattan 12. Unavailable Plot Site & Tree Stump Landuse Type and Percent Cover Time (24 hour clock) Leave 1. 2. 4. Arrive 6. 5. 3. Weather Camp Site Comment GPS Track File Name Code Access Notes from Camp to Starting Point (STP) ......…………………..….………...…………..………….………..…………… …………………………….……………………………….…………………………………………………...…………………………… ………………………………………………………….………………………………….……………………………………………….. …………………………………………………….………………………………….…………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………….…………………………………...……………… ……………………………………………………………………………………………………….…………………………….……….. Plot Centre Car Camp Description % Cover Easting N Name Code GPS Plot Centre (Site) Zone Measurement Date Plot # Project ID GPS Plot Centre (Map) Northing ...………………………………………………..…………...……………..…...………………. …..……………………………………….…………………………..………………………. ………………………..…….………………….……………...……… …………………………………………………….…………………………………………………..……………………………………. ……………………………………………………….………………………………………………..……………………………………. Page Sample Plot Location Sketch Map Sketch Map (Forest Type) 100 เมตร Easting Northing 100 เมตร GPS Camp Site Easting Northing Code Province N Easting Northing Sample Location & Data ID Identification GPS DATUM Map Series Map Sheet No. Cluster Centre Starting Point 1 GENERAL INFORMATION Plot ID


CLUSTER CENTRE ACCESS & SITE FEATURES National Forest Inventory and Monitoring Forest Resources Assessment Division D DMMY Y Crew Chief Recorder o Crest Upper Middle Concave ( Lower Convex ) Depression Straight Stagnant Flat Distance to Cluster Centre (GPS) m Tree o Tree o Species Code Species Code GBH (cm) GBH (cm) …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… Azimuth ( ๐ ) Azimuth ( ๐ ) RIP Details (Tick One ) GPS Plot Centre (Site) Azimuth (0- 359o) Straight Line Bearing and Distance from Starting Point (STP) to Cluster Centre (CC) Plot # Ref. Point Details Northing Azimuth Easting Ref. Point to Starting Point Other Azimuth Azimuth ROP to Cluster Centre ROP Details ( Tick One ) Other RIP to Page of Name Rocky Substrates (% cover) Cobbles / Stones Bedrock Navigation Notes Northing GPS Plot Centre (Map) Code Slope ( o ) Aspect Easting Northing Measurement Date MAP CC Elevation Plot Centre (m) GPS Reference Outside Plot (ROP) Position Surface Shape ( Tick one ) Rel. Slope Position (Plot Centre) (Tick one ) SITE FEATURES Easting GPS Starting Point (STP) Access Notes from Starting Point (STP) to Cluster Centre (CC) Distance (m) Remark Distance (m) Distance (m) Cluster Centre Distance (m) Remark Northing Reference Inside Plot (RIP) Position Flowing EPE Open Water (% cover) STP ROP Easting Northing Easting Species Code GBH (cm) Other Distance (m) Project ID Ref. Point Type (Tick one ) Tree 2 Plot ID


Click to View FlipBook Version