ข้อสอบพันธะเคมี

พนั ธะเคมี
30 ขอ

+ +
+
จัดทาํ โดย

น.ส.สดุ ารัตน์ เขตสวา่ ง
68-21

ข้อ1.ผลกึ ไอออนิ กแตกหักเม่ือมีแรงเข้าไปกระทาํ เพราะเหตุใด (PAT 2 ก.ค. 53)
ก. ประจุชนิ ดเดียวกนั ผลกั กนั
ข. อเิ ล็กตรอนหลดุ ออกจากผลึก
ค. จํานวนประจุบวกและลบไมเ่ ทา่ กัน
ง. อเิ ล็กตรอนเคล่อื นทเี่ รว็ ข้ึน เนื่ องจากมพี ลังงานจลน์ มากข้ึน

เฉลย ก. เพราะ ประจุแตล่ ะชนิ ดจะต้องผลักกันตามหลกั ของขวั้

ขอ้ 2.ธาตุ X มเี ลขอะตอม 53 จงพิจารณาขอ้ ความตอ่ ไปนี้
1. X รวมตวั กับโลหะปรอทแล้วจะมีสูตรเคมเี ป็น Hg2X2
2. X เมอื่ เป็นไอออนจะมีโครงสรา้ งอิเลก็ ตรอนเป็น 2 8 18 18 8
3. X เม่อื เป็นไอออนจะมรี ศั มีไอออนเล็กกวา่ ไอออนของธาตุทม่ี ีโครงสรา้ ง

อเิ ล็กตรอนเป็น 2 8 18 18 8 1 ขอ้ ใดถกู ต้อง (PAT 2 มี.ค. 52)
ก. 1 และ 2
ข. 2 และ 3
ค. 1 และ 3
ง. 2

เฉลย ก. เพราะ สารประกอบปรอทสามารถมสี ูตรเป็น Hg2Cl2 , Hg2I2 ได้

ขอ้ 3.จดุ หลอมเหลวของ MgO สงู กวา่ NaF เนื่ องจากสาเหตใุ ดต่อไปน้ี (PAT 2 ม.ี ค. 55)

1. Mg2+ มปี ระจบุ วกสูงกวา่ Na+

2. O2- มปี ระจุลบสูงกวา่ F-

3. O2- ใหญ่กว่า F-

ก. ข้อ 2 เทา่ นั้น เฉลย ข. เพราะ
ข. ขอ้ 1 และ 2 1.ประจุทส่ี งู กว่าจะทําให้เกดิ แรง
ค. ขอ้ 1 และ 3 ยดึ เหน่ี ยวได้มากกวา่ จดุ หลอมเหลว
ง. ข้อ 1 , 2 และ 3 จงึ สงู กว่า
2. ขนาด O2- ทใ่ี หญ่กวา่ F- ทําให้
โครงรา่ งผลึกห่างจากกนั มากแรง
ยึดเหน่ี ยวจะอ่อนลง
ไม่ได้ทําให้จดุ หลอมเหลวของ MgO
สูงกว่า NaF

ข้อ4.ข้อใดผดิ เกยี่ วกบั การนํ าไฟฟ้าของสารชนิ ดต่างๆ (PAT 2 ต.ค. 53)
ก. การนํ าไฟฟ้าของสารประกอบไอออนิ กในสถานะของเหลวเกดิ จากการถ่ายเท

อเิ ลก็ ตรอนจากไอออนบวกให้ไอออนลบ
ข. การนํ าไฟฟ้าของโลหะเกิดจากการเคลอ่ื นที่ของอเิ ลก็ ตรอนทม่ี ีพลังงานจลน์ สูง
ค. แกรไฟตซ์ ง่ึ เป็นอัญรูปหน่ึ งของคารบ์ อนนํ าไฟฟ้าได้เน่ื องจาก การเคลอ่ื นที่ของ

อเิ ล็กตรอน
ง. สารก่ึงตัวนํ า จะนํ าไฟฟ้าไดก้ ต็ อ่ เมอ่ื ไดร้ บั พลังงานจาํ นวนหน่ึ งแลว้ ทําให้

อิเล็กตรอนเกิดการเปล่ยี นระดับพลังงาน

เฉลย ก. เพราะ การนํ าไฟฟ้าของไอออนิ กเป็นการเคลอ่ื นท่ขี องไอออน ไมใ่ ชก่ าร
ถ่ายเทอเิ ล็กตรอน

ขอ้ 5.พันธะเคมี หมายถึง อะไร ข. พลังงานทีท่ ําให้อะตอมสลายตัว
ก. แรงยดึ เหนี่ ยวระหว่างอะตอม ง. การอยรู่ วมกนั ของโมเลกลุ
ค. การอย่รู วมกันของอะตอม

เฉลย ก. แรงยึดเหนี่ ยวระหวา่ งอะตอม

ขอ้ 6. ขอ้ ใด ไม่ เกยี่ วข้องกับพันธะเคมี ข. ใชอ้ ิเลก็ ตรอนรว่ มกนั
ก. รบั อเิ ลก็ ตรอนจากอะตอมอื่น ง. ให้อิเล็กตรอนกบั อะตอมอน่ื
ค. แย่งอิเล็กตรอนกบั อะตอมอื่น

เฉลย ค. แยง่ อิเลก็ ตรอนกับอะตอมอ่นื

ข้อ7. การทโี่ ลหะรวมกับอโลหะแล้วโลหะจะให้อิเล็กตรอนแก่อโลหะ เกดิ ไอออนบวกและ
ไอออนลบ ดึงดูดกัน ดว้ ยแรงดึงดูดไฟฟ้าสถติ สรา้ งพันธะไอออนิ กข้นึ ในสารประกอบนั้น
เพราะเหตใุ ด

ก. โลหะมีขนาดอะตอมเลก็ กวา่ อโลหะ
ข. อโลหะมีขนาดอะตอมใหญ่กวา่ โลหะ
ค. โลหะมคี ่า IE ตา จึงให้อเิ ล็กตรอนไดง้ า่ ย เพื่อปรบั เวเลนซอ์ เิ ลก็ ตรอนแบบกา๊ ซเฉื่อย
ง. โลหะมีค่า IE สูง จึงให้อเิ ล็กตรอนได้งา่ ย เพ่ือปรบั เวเลนซอ์ เิ ลก็ ตรอนแบบก๊าซเฉ่ือย

เฉลย ค. โลหะมีค่า IE ตา จึงให้อิเล็กตรอนไดง้ า่ ย เพื่อปรบั
เวเลนซอ์ ิเลก็ ตรอนแบบกา๊ ซเฉื่อย

ข้อ8.ลําดบั ความแข็งแรงของพันธะเคมีจากมากไปหาน้ อย
ก.ไอออนิ ก โลหะ โคเวเลนต์
ข.โลหะ โคเวเลนต์ ไอออนิ ก
ค.โลหะ ไอออนิ ก โคเวเลนต์
ง.โคเวเลนต์ โลหะ ไอออนิ ก

เฉลย ค.โลหะ ไอออนิ ก โคเวเลนต์

ขอ้ 9.ขอ้ ใดต่อไปนี้ กล่าวถูกต้อง
ก.พันธะโควาเลนตจ์ ะเกดิ เมอ่ ืโมเลกลุ นั้นอย่ใู นระยะห่างทม่ี พีลงั งานต่าสดุ
ข. ระยะห่างระหวา่ งอะตอมทีเ่ กิดพันธะโควาเลนต์แตล่ ะคู่จะมคี ่าเทา่ กนั
ค. พันธะโควาเลนตจ์ ะเกดิ ขึน้ เมอ่ื อะตอมอย่ใู กลก้ ันแลว้ มีแรงทางไฟฟ้าในการยดึ เหน่ี ยว
ง.การสราง้ พันธะโควาเลนต์จะมกี ารใชอิ้เล็กตรอนรว่ มกนั ไม่เกินสองคู่

เฉลย.ก.ถกู ตอ้ งเพราะพันธะโควาเลนต์จะเกิดเม่ือโมเลกลุ นั้นอย่ใู นระยะห่าง
ที่มพี ลงั งานต่าสุดซง่ึ จะเสถยี รกว่าการอยใู่ นระยะท่ีไมเ่ หมาะสม
ข. ไมถ่ ูกต้องเพราะระยะหา่ งระหว่างอะตอมท่เี กิดพันธะโควาเลนต์
แตละ่ คจู่ะมีค่าไม่เทา่ กนั
ค. ไมถ่ กู ต้องเพราะพันธะทใี่ ชแ้ รงทางไฟฟ้าในการยึดเหน่ี ยวคือพันธะไอออนิ
ก
ง.ไมถ่ กู ต้องเพราะการสรา้ งพันธะโควาเลนต์จะมีการใชอิเ้ ล็กตรอน รว่ มกนั
ไม่เกินสามคู

ขอ้ 10.ขอ้ ใดหมายถงึ พันธะไอออนิ ก
ก.เกดิ ข้นึ ระหว่างอะตอมของโลหะกบั อโลหะ
ข.เกดิ ข้ึนระหวา่ งอะตอมของโลหะกบั โลหะ
ค.เกดิ ข้นึ ระหว่างอะตอมของอโลหะกับอโลหะ
ง.ไม่มขี ้อถูก

เฉลย ค.เกิดข้นึ ระหวา่ งอะตอมของอโลหะกบั อโลหะ

ข้อ11.ธาตหุ มใู่ ดไม่ใช่ "อโลหะ"
ก.หมู่ VIIA
ข.หมู่ VIA
ค.หมู่ VA
ง.หมู่ IIA

เฉลย ง.หมู่ IIA

ข้อ12.พันธะท่ีเกดิ จากเวเลนซอ์ เิ ลก็ ตรอนของอะตอม เคล่อื นที่ไปยงั อะตอมอื่นๆ
ทวั่ ทงั้ ก้อนได้ เรยี กว่าอะไร
ก.พันธะโคเวเลนต์
ข.พันธะโลหะ
ค.พันธะอโลหะ
ง.พันธะไอออนิ ก

เฉลย ข.พันธะโลหะ

ข้อ13.พันธะเคมชี นิ ดใดมีจดุ เดือดจุดหลอมเหลวตาสดุ
ก.พันธะโคเวเลนต์
ข.พันธะไฮโดรเจน
ค.พันธะไอออนิ ก
ง.พันธะโลหะ

เฉลย ก.พันธะโคเวเลนต์

ขอ้ 14.เหตุใดสารโคเวเลนต์ จงึ มีจุดเดือดและจุดหลอมเหลวตา
ก. สารโคเวเลนตม์ แี รงยดึ เหน่ี ยวระหว่างโมเลกลุ น้ อย
ข. สารโคเวเลนต์มแี รงยดึ เหนี่ ยวระหวา่ งโมเลกลุ มาก
ค. สารโคเวเลนตส์ ลายตวั ได้งา่ ย
ง. สารโคเวเลนต์ไม่มปี ระจุไฟฟ้า

เฉลย ก. สารโคเวเลนต์มแี รงยึดเหน่ี ยวระหวา่ งโมเลกลุ น้ อย

ขอ้ 15.สารประกอบใด ไมใ่ ช่ สารประกอบไอออนิ ก
ก.NaF , NaCl
ข.NaNO3 , NH4F
ค.BaSO4 , CuS
ง.CO2 , HCl

เฉลย ง.CO2 , HCl

ขอ้ 16.ขอ้ ใดกล่าวถงึ พันธะโคเวเลนต์ได้ถูกตอ้ ง
ก.เกิดจากอโลหะใชอ้ เิ ลก็ ตรอนรว่ มกนั
ข.เกดิ จากโลหะใชอ้ เิ ล็กตรอนรว่ มกนั
ค.เกดิ จากโลหะเสียอเิ ล็กตรอนให้กับอโลหะ
ง.เกดิ จากอโลหะเสียอเิ ลก็ ตรอนให้กับโลหะ

เฉลยก.เกิดจากอโลหะใชอ้ ิเลก็ ตรอนรว่ มกัน

ขอ้ 17.คารบ์ อนเตรตะคลอไรด์ มีสูตรโมเลกลุ ว่าอยา่ งไร
ก.CCl4
ข.CaH4
ค.CH4
ง.CO2

เฉลย ก.CCl4

ขอ้ 18.FeCl2 และ FeCl3 อา่ นว่า อย่างไร
ก.ไอรอ์ อน (II) คลอไรด์, ไอรอ์ อน (III) คลอไรด์
ข.ไอรอ์ อนไดคลอไร์ , ไอรอ์ อนไตรคลอไรด์
ค.มอนอไอรอ์ อน(II)คลอไรด์ , มอนอไอรอ์ อน(III)คลอไรด์
ง.มอนอไอรอ์ อนไดคลอไรด,์ มอนอไอรอ์ อนไตรคลอไรด์

เฉลย ก.ไอรอ์ อน (II) คลอไรด,์ ไอรอ์ อน (III) คลอไรด์

ข้อ19.อะตอมท่ีใชเ้ วเลนซอ์ ิเล็กตรอนรว่ มกนั เป็นพันธะใด
ก. พันธะโคเวเลนต์
ข. พันธะไอออนิ ก
ค. พันธะโลหะ
ง. แรงลอนดอน

เฉลย ก. พันธะโคเวเลนต์

ข้อ20.ถ้า X และ Y แทนธาตุ ซง่ึ มีเลขอะตอม 9 และ 20 ตามลําดบั สารประกอบระหวา่ ง
ธาตุทงั้ 2 จะมีพันธะชนิ ดใด และมสี ตู รอยา่ งไร

1. โคเวเลนต์ Y2X
2. ไอออนิ ก Y2X
3. โคเวเลนต์ YX2
4. ไอออนิ ก YX2

เฉลย 4. ไอออนิ ก YX2

ขอ้ 21.อะตอมของสารคู่ใดสามารถสรา้ งพันธะโควาเลนต์
ก. Mg กับ Cl
ข. N กบั Br
ค. K กับ O
ง. P กับ Ca

เฉลย ข.N กบั Br สามารถสรา้ งพันธะโควาเลนต์ ส่วน Mg กับ Cl K กับ O
P กับ Ca สามารถสรา้ งพันธะไอออนิ ก

ขอ้ 23.ผลึกไอออนิ กแตกหักเมอื่ มแี รงเข้าไปกระทําเพราะเหตใุ ด (PAT 2 ก.ค. 53)
ก. ประจุชนิ ดเดยี วกันผลกั กัน
ข. อิเลก็ ตรอนหลดุ ออกจากผลกึ
ค. จาํ นวนประจบุ วกและลบไมเ่ ทา่ กัน
ง. อิเลก็ ตรอนเคล่อื นทเ่ี รว็ ข้ึน เนื่ องจากมีพลงั งานจลน์ มากข้ึน

เฉลย ก. เพราะ ประจุแตล่ ะชนิ ดจะตอ้ งผลกั กันตามหลกั ของขวั้

ขอ้ 23.สารประกอบท่ีเกดิ จาก พันธะไอออนิ ก เรยี กว่า
ก. สารประกอบไอออนิ ก
ข. สารโคเวเลนต์
ค. สารโลหะ
ง. สารโครงผลึกรา่ งตาข่าย

เฉลย ก. สารประกอบไอออนิ ก

ขอ้ 24.ข้อใดเรยี กชอ่ื สารได้ถูกต้อง
ก. BaSO4 แบเรยี มซลั ไฟด์
ข. NaNO3 โซเดยี มไนเตรต
ค. NH4Cl แอมโมเนี ยมคลอรนี
ง. CaO แคลเซยี มออกซไิ จด์

เฉลย ข. NaNO3 โซเดยี มไนเตรต

ข้อ25.ขอ้ .ขอ้ ใด ไม่ใช่ สมบัตขิ องสารประกอบไอออนิ ก
ก. มีความแข็งแต่เปราะ
ข. ในสภาพของแข็งไม่นํ าไฟฟ้า
ค. ตเี ป็นแผน่ หรอื ยดื เป็นเส้นได้
ง. มีจุดเดอื ดและจดุ หลอมเหลวสูง

เฉลย ค. ตเี ป็นแผน่ หรอื ยืดเป็นเส้นได้

ขอ้ 26.เพราะเหตใุ ด เพชร จงึ มีจุดเดอื ด จุดหลอมเหลว สูงกวา่ สารโคเวเลนต์ทวั่ ไป
ก. เพราะในผลกึ ของเพชรมีพันธะโลหะด้วย
ข. C อะตอมเกิดพันธะโคเวเลนต์ กบั อะตอมขา้ งเคียง 4 อะตอม
ค. การเปลีย่ นแปลงสถานะของ เพชร ต้องทําลายแรงยดึ เหน่ี ยวระหว่างอะตอม
ง. ข้อ ข. และข้อ ค. ถูก

เฉลย ง. ข้อ ข. และขอ้ ค. ถูก

ข้อ27.สารประกอบใดต่อไปน้ี ไม่ได้ เกิดจากพันธะไอออนิ ก
ก. NaF , NaCl
ข. NaNO3 , NH4F
ค. BaSO4 , CuS
ง. CO2 , HCl

เฉลย ง. CO2 , HCl

ข้อ28.สมบัตขิ องโลหะในขอ้ ใดอธบิ ายการตเี ป็นแผน่ ของโลหะได้ดีท่สี ุด
ก. โลหะมีจดุ เดือดจุดหลอมเหลวสงู มาก
ข. โลหะมเี วเลนตอ์ ิเล็กตรอนทเ่ี คลอ่ื นทีไ่ ดอ้ ิสระ
ค. อเิ ล็กตรอนในกอ้ นโลหะรบั และกระจายคล่นื แสงได้
ง. ไอออนบวกและไอออนลบในกอ้ นโลหะสามารถเล่ือนไถลได้

เฉลย ง. ไอออนบวกและไอออนลบในก้อนโลหะสามารถเลือ่ นไถลได้

ข้อ29.จุดหลอมเหลวของ MgO สงู กวา่ NaF เนื่ องจากสาเหตใุ ดต่อไปน้ี (PAT 2 ม.ี ค. 55)

1. Mg2+ มปี ระจุบวกสงู กว่า Na+

2. O2- มีประจุลบสูงกว่า F-

3. O2- ใหญ่กว่า F-

ก. ข้อ 2 เทา่ นั้น เฉลย ข. เพราะ 1.ประจทุ ีส่ ูงกว่าจะทาํ ให้เกดิ แรง
ข. ข้อ 1 และ 2 ยึดเหนี่ ยวไดม้ ากกวา่ จุดหลอมเหลวจึงสงู กว่า
ค. ขอ้ 1 และ 3 2. ขนาด O2- ทีใ่ หญ่กว่า F- ทาํ ให้โครงรา่ งผลกึ
ง. ข้อ 1 , 2 และ 3 ห่างจากกันมากแรงยดึ เหนี่ ยวจะอ่อนลง

ไม่ไดท้ าํ ให้จุดหลอมเหลวของ MgO สงู กว่า NaF

ขอ้ 30.ข้อใดผดิ เกย่ี กับการนํ าไฟฟ้าของสารชนิ ดตา่ งๆ (PAT 2 ต.ค. 53)
ก. การนํ าไฟฟ้าของสารประกอบไอออนิ กในสถานะของเหลวเกดิ จากการถา่ ยเท
อิเล็กตรอนจากไอออนบวกให้ไอออนลบ
ข. การนํ าไฟฟ้าของโลหะเกิดจากการเคลื่อนท่ีของอิเล็กตรอนทม่ี ีพลงั งานจลน์ สงู
ค. แกรไฟต์ซง่ึ เป็นอัญรูปหน่ึ งของคารบ์ อนนํ าไฟฟ้าได้เน่ื องจาก การเคลื่อนทข่ี อง
อิเลก็ ตรอน
ง. สารก่ึงตวั นํ า จะนํ าไฟฟ้าได้ก็ตอ่ เมอ่ื ได้รบั พลงั งานจํานวนหน่ึ งแลว้ ทําให้อเิ ลก็ ตรอน
เกิดการเปลีย่ นระดับพลังงาน

เฉลย ก. เพราะ การนํ าไฟฟ้าของไอออนิ กเป็นการเคล่ือนทข่ี องไอออน ไมใ่ ชก่ าร
ถ่ายเทอเิ ล็กตรอน

+

+
+

Alternative
Resources

CREDITS: Icons by Flaticon, and Infographics &
images by Pngtree