319
320
321
322
323
324
325
326
327
328
329
330
331
ภาคผนวก ซ
ผลลพั ธก์ ารเรียนรูท้ คี่ าดหวงั ของหลักสตู ร รายช้นั ปี
332
ผลการเรียนรรู้ ายชน้ั ปี หลกั สูตรแพทยศาสตรบัณฑติ
หลักสูตรปรบั ปรงุ พ.ศ. 2565
ชั้นปีท่ี 1
1. ประพฤติตนตามบทบาท หนา้ ที่ความรับผดิ ชอบต่อตนเองและสงั คม มจี ติ สาธารณะ ในฐานะแพทย์
สมาชิกทีด่ ขี องสงั คม
2. อธิบายหลักการด้านมนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์ พฤติกรรมศาสตร์ และวิทยาศาสตร์พื้นฐานทีจ่ ำเปน็
เพือ่ ความเข้าใจต่อสงั คม และเป็นพื้นฐานตอ่ การศกึ ษาในหลกั สูตรแพทยศาสตรบัณฑติ
3. สือ่ สารทางภาษาและท่าทางดว้ ยความสุภาพ ตลอดจนการใช้ส่ือประกอบได้อย่างเหมาะสม
4. แสดงออกตามบทบาทหนา้ ที่ทั้งผู้นำและสมาชิกในการทำงานรว่ มกบั ผรู้ ่วมงานได้อย่างเหมาะสม
5. ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ในการสืบค้นขอ้ มูลจากแหล่งต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสม
ชนั้ ปีท่ี 2
1. อธิบายหลักการ ความสำคญั ของจริยธรรมและจรรยาบรรณที่เกี่ยวข้องกับวิชาชีพแพทย์
2. อธิบายความรู้และหลกั การทางวทิ ยาศาสตรก์ ารแพทย์พืน้ ฐาน เพือ่ เข้าใจสาเหตุ พยาธิกำเนิด พยาธิ
สรีรวทิ ยา พยาธิสภาพ อาการวิทยา หลกั การวินิจฉัย และหลกั การรักษาโรคที่พบบ่อย
3. อธิบายหลักการเวชศาสตร์เชงิ ประจกั ษไ์ ด้
4. ระบปุ ัญหาทางการแพทย์ ค้นคว้าข้อมูลเพื่อหาคำตอบ และวิเคราะหข์ อ้ มูลเชิงปริมาณเบือ้ งตน้
5. สื่อสารศัพท์ที่เกีย่ วข้องทางการแพทย์ เพือ่ การเรียนรู้และสอ่ื สารกับผปู้ ว่ ย
ช้ันปีท่ี 3
1. อธิบายหลักการจรยิ ธรรมและกฎหมายทีเ่ กี่ยวข้องกับการประกอบวิชาชีพเวชกรรม
2. อธิบายความรู้และหลกั การทางวทิ ยาศาสตรก์ ารแพทย์พืน้ ฐาน เพือ่ เข้าใจสาเหตุ พยาธิกำเนิด พยาธิ
สรีรวทิ ยา พยาธิสภาพ อาการวิทยา หลกั การวินิจฉยั และหลักการรักษาโรคที่พบบ่อย
3. อธิบายระบบสขุ ภาพ ระบบบริการสุขภาพ
4. อธิบายหลกั การสร้างเสริมสุขภาพ และป้องกันควบคุมโรค ในระดบั บคุ คล ครอบครวั และชุมชน
5. รบั ฟงั อย่างเข้าใจ และสร้างสัมพนั ธ์ที่ดรี ะหว่างบุคคล
6. ประเมินความรคู้ วามสามารถของตนเองด้วยวิธีการคิดสะท้อน เพื่อพัฒนาความรขู้ องตนเองอย่าง
ตอ่ เนื่อง
7. สัมภาษณ์ประวตั ิ และตรวจรา่ งกายตามระบบได้อยา่ งถกู ต้อง
333
ชัน้ ปีท่ี 4
1. นำหลกั การจริยธรรมและจรรยาบรรณวิชาชีพแพทย์ มาประยุกตใ์ ช้ในเวชปฏิบัติได้อย่างเหมาะสม
2. เชอ่ื มโยงความรทู้ างวิทยาศาสตร์การแพทยไ์ ปใช้ดแู ลผปู้ ว่ ยได้
3. สมั ภาษณป์ ระวตั ิ ตรวจร่างกายได้อยา่ งถูกต้องและครอบคลุม เพื่อระบปุ ญั หาของผู้ปว่ ย ตลอดจนให้
การวินจิ ฉยั และวินจิ ฉัยแยกโรค
4. เลือกใช้และทำการตรวจทางห้องปฏิบตั ิการ เพือ่ การวินจิ ฉยั วนิ ิจฉยั แยกโรคและการตดิ ตาม
ผลการรกั ษา ตามเกณฑม์ าตรฐานผปู้ ระกอบวิชาชีพเวชกรรมของแพทยสภา
5. วางแผนการดแู ลรกั ษาผู้ปว่ ยในโรคทีพ่ บบ่อยไม่ซบั ซอ้ นได้อยา่ งถกู ต้อง
6. อธิบาย และปฏิบตั ิหตั ถการในสถานการณจ์ ำลองได้ถูกต้องตามข้ันตอน
7. ตั้งคำถามวิจัย ค้นคว้า ออกแบบ และดำเนินการวิจัยได้อย่างเหมาะสม
8. รบั ฟังอย่างเข้าใจในปัญหาของผปู้ ว่ ยและญาติ และแสดงออกถึงความเห็นอกเห็นใจ เพือ่ สร้าง
ความสัมพนั ธ์ที่ดรี ะหว่างผู้ป่วยและญาติ
9. สือ่ สารความรู้และคำปรึกษาทางการแพทยก์ ับผปู้ ่วย ญาติ และเผยแพร่ขอ้ มูลแก่ชุมชน โดยใช้วธิ ีการที่
เหมาะสม
10. บันทึกเวชระเบียน ใบรับรองแพทย์ ใบส่งตัวและเอกสารทางการแพทย์อื่น ๆ ได้อยา่ งถกู ต้อง โดยคำนงึ
หลักการรักษาความลับของผปู้ ่วยอย่างเหมาะสม
ชั้นปีท่ี 5
1. ดแู ลรักษาผปู้ ่วย โดยปฏิบัติตามหลกั จริยธรรมและจรรยาบรรณตามเกณฑ์มาตรฐานวชิ าชีพ
2. รวบรวม สรุปข้อมูลและสืบค้นข้อมลู ทางการแพทยเ์ พิ่มเติม เพือ่ นำไปวิเคราะห์การวินจิ ฉยั และรกั ษา
ผปู้ ว่ ยโรคทีพ่ บบอ่ ย หรอื ภาวะไม่ซบั ซ้อนอยา่ งเป็นองคร์ วมได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม
3. อธิบายแนวทางและตระหนกั ถึงผลกระทบของการเลือกใช้ยา ผลติ ภณั ฑ์ เทคโนโลยีดา้ นสุขภาพ
4. เลือกใช้และแปลผลการตรวจทางหอ้ งปฏิบตั ิการ การตรวจทางรังสวี ิทยา และการตรวจดว้ ยเครื่องมอื
พิเศษได้ เพื่อการวินจิ ฉยั โรคหรอื ภาวะทีซ่ บั ซ้อน
5. ทำหตั ถการได้อยา่ งถกู ต้องภายใต้การควบคมุ ของผเู้ ชีย่ วชาญฯ
6. แสดงการคิดเชิงวิพากษ์ สามารถประเมินความน่าเช่ือถือของบทความ และทบทวนวรรณกรรมได้อย่าง
เหมาะสม
7. ถา่ ยทอดข้อมูลสุขภาพ คำแนะนา ปรึกษา อย่างถกู ต้อง ชัดเจน สุภาพ และเหมาะสมกับบริบทของผู้ป่วย
และครอบครวั
334
ชน้ั ปีท่ี 6
1. ดูแลรกั ษาผปู้ ว่ ย โดยปฏิบตั ิตามหลักจริยธรรมและจรรยาบรรณตามเกณฑ์มาตรฐานวชิ าชีพฯ
2. นำความรดู้ ้านสงั คมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ และพฤติกรรมศาสตร์ ไปใช้ดแู ลผปู้ ่วยได้ และคำนึงถึงปจั จยั
ต่างๆ ที่ส่งผลตอ่ การดแู ลสุขภาพ เช่น พฤติกรรม เพศ วยั เช้ือชาติ อาชีพ เศรษฐกิจ
3. นำความรดู้ ้านระบาดวิทยา ชีวสถิติ สารสนเทศสุขภาพ และเทคโนโลยี มาแก้ปัญหาสุขภาพในระดบั
บุคคลและชุมชน
4. วางแผนการรักษาผปู้ ่วยโรคซับซ้อนแบบองคร์ วมได้อย่างเหมาะสม ปรึกษาผเู้ ชย่ี วชาญด้านต่างๆ หรอื
ตัดสินใจส่งตอ่ ผปู้ ่วย เพือ่ ให้ผปู้ ่วยได้รับการดูแลรักษาแบบองค์รวมได้อยา่ งมีประสิทธิภาพ
5. เลือกใช้ยา ผลติ ภณั ฑ์ เทคโนโลยีด้านสขุ ภาพ ในผปู้ ่วยได้อย่างสมเหตสุ มผล
6. นำหลักฐานทางการแพทยม์ าใช้ในการดูแลรักษาผปู้ ่วยได้อยา่ งเหมาะสม โดยประเมินตามหลกั การด้าน
เวชศาสตร์เชงิ ประจกั ษ์
7. ทำหัตถการตามมาตรฐานวิชาชีพได้อยา่ งถกู ต้องด้วยตนเอง
8. รบั ฟังอยา่ งเข้าใจ และแสดงออกใหผ้ ปู้ ่วยและครอบครวั สัมผสั ได้ถึงความเข้าใจ และเห็นอกเหน็ ใจ เพือ่
ทำให้เกิดความรู้สกึ ไว้วางใจ
9. ถา่ ยทอดข้อมูลสขุ ภาพ คาแนะนา ปรึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ และทำให้ผู้ปว่ ยเข้าใจอยา่ งถกู ต้อง
โดยมีการทวนสอบจากผปู้ ว่ ย รวมถึงเปิดโอกาสใหผ้ ปู้ ่วยตดั สินใจเกีย่ วกบั การดแู ลรกั ษาของตนเอง
10. บนั ทึกเวชระเบียน ใบสง่ ตวั และใบรบั รองแพทยไ์ ด้อยา่ งถูกต้อง และใช้ประโยชนจ์ ากเวชระเบียนอย่างมี
ประสิทธิภาพ โดยคำนึงถึงการรกั ษาความลบั ของผปู้ ่วย
11. สื่อสารอยา่ งเหมาะสมกับผรู้ ่วมงาน และแสดงออกถึงความเคารพในบทบาทหนา้ ทีแ่ ละคุณค่าของแตล่ ะ
วิชาชีพ
12. มีการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องดว้ ยตนเอง โดยการสะท้อนการเรียนรู้ เพื่อการพฒั นาตนเองอยา่ งต่อเนื่อง