The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หลักสูตรรายวิชาเพิ่มเติม หน้าที่พลเมือง ม.1 66 สมบูรณ์

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Kittayaporn Wongperm, 2023-06-28 12:32:11

หลักสูตรรายวิชาเพิ่มเติม หน้าที่พลเมือง ม.1 66 สมบูรณ์

หลักสูตรรายวิชาเพิ่มเติม หน้าที่พลเมือง ม.1 66 สมบูรณ์


๒ หลักสูตรรายวิชาเพิ่มเติม หน้าที่พลเมืองกับการดำรงชีวิต ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม โรงเรียนเทศบาลวัดศรีดอนไชย สำนักการศึกษา เทศบาลนครเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ กระทรวงมหาดไทย


๓ คำนำ หลักสูตรโรงเรียนเทศบาลวัดศรีดอนไชย พุทธศักราช 2566 ตามหลักสูตร แกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ได้จัดทำขึ้นตาม แนวทางที่กำหนดไว้ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) และเป็นไปตามมาตรา 27 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 ซึ่งกำหนดให้สถานศึกษามีหน้าที่จัดทำ สาระของหลักสูตรสถานศึกษาตามหลักการ จุดหมายของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน กำหนด เพื่อตอบสนองต่อความต้องการในส่วนที่เกี่ยวกับสภาพปัญหาในชุมชนและสังคม ภูมิปัญญา ท้องถิ่น คุณลักษณะที่พึงประสงค์ เพื่อให้เยาวชนเป็นสมาชิกที่ดีของครอบครัว ชุมชน สังคมและ ประเทศชาติ หลักสูตรรายวิชาหน้าที่พลเมืองกับการดำรงชีวิต โรงเรียนเทศบาลวัดศรีดอนไชย พุทธศักราช 2566 ฉบับนี้ประกอบด้วย ความนำ คำอธิบายรายวิชา ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง โครงสร้างเวลาเรียน หน่วยการเรียนรู้และแผนการจัดการเรียนรู้ แนวทางการจัดการเรียนรู้ การวัด และประเมินผลการเรียนรู้สื่อการเรียน แหล่งเรียนรู้ เพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องได้เข้าใจ และสามารถ นำไปใช้ได้อย่างถูกต้องและบรรลุผลตามที่ต้องการ หลักสูตรรายวิชาหน้าที่พลเมืองกับการดำรงชีวิต โรงเรียนเทศบาลวัดศรีดอนไชย พุทธศักราช 2566 ฉบับนี้ สำเร็จลุล่วงไปด้วยดีก็ด้วยความร่วมมือจากคณะกรรมการสถานศึกษา ขั้นพื้นฐานของโรงเรียน ผู้ปกครองนักเรียน คณะครูและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกภาคส่วนที่มีส่วนร่วม ดำเนินการ ทางโรงเรียนจึงขอขอบพระคุณท่านมา ณ โอกาสนี้ ก


๔ ประกาศโรงเรียนเทศบาลวัดศรีดอนไชย เรื่อง ให้ใช้หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนเทศบาลวัดศรีดอนไชย พุทธศักราช 2566 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช 2560) กระทรวงศึกษาธิการ ได้ประกาศใช้หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 เพื่อให้หน่วยงานระดับท้องถิ่นและสถานศึกษาทุกสังกัดที่จัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน นำไปใช้เป็นกรอบและทิศทาง ในการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา และการจัดการเรียนการสอนเพื่อ พัฒนาผู้เรียนทุกคนให้มีความรู้ ความสามารถ และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามมาตรฐานการ เรียนรู้และตัวชี้วัดกลุ่มสาระการเรียนรู้ที่กำหนดไว้ในหลักสูตรแกนกลาง ดังนั้น โรงเรียนเทศบาลวัดศรีดอนไชย สำนักการศึกษา เทศบาลนครเชียงใหม่จึงมี ความจำเป็นต้องปรับปรุงและพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาที่ใช้อยู่ ให้สอดคล้องกับหลักการที่ประกาศ ไว้ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) เรื่อง การบริหารจัดการเวลาเรียน และปรับมาตรฐานและตัวชี้วัด เพื่อให้เหมาะสมกับบริบทของ สถานศึกษา ความต้องการของชุมชน ความต้องการของผู้เรียน ปรับปรุงเนื้อหาให้ทันสมัยทันต่อการ เปลี่ยนแปลงและความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาการต่าง ๆ นำเทคโนโลยีมาใช้ในการจัดกิจกรรมการ เรียนรู้ตอบสนองความต้องการของผู้เรียน ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีทักษะที่จำเป็นสำหรับการเรียนรู้ ในศตวรรษที่ 21 ทั้งนี้หลักสูตรสถานศึกษา ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการสถานศึกษา ขั้นพื้นฐานเมื่อวันที่ 11 เดือน พฤษภาคม พ.ศ.2566 จึงประกาศให้ใช้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 15 เดือน พฤษภาคม พ.ศ. 2566 ลงชื่อ ลงชื่อ ( นายวิโรจน์ เล็กกิจเจริญชัย ) ( นางณัฏฐนันท์ ลังการัตน์ ) ประธานคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ผู้อำนวยการโรงเรียนเทศบาลวัดศรีดอนไชย ข


๕ สารบัญ หน้า คำนำ ก ประกาศโรงเรียนเทศบาลวัดศรีดอนไชย พุทธศักราช 2561 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ข สารบัญ ค วิสัยทัศน์ของกลุ่มสาระการเรียนรู้ 1 สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 2 ค่านิยม 12 ประการ 2 เป้าหมาย 3 จุดเน้น 5 ประการ 4 คำอธิบายรายวิชา 5 โครงสร้างรายวิชาเพิ่มเติม 7 หน่วยการเรียนรู้ 11 แนวการจัดการเรียนรู้รายวิชาเพิ่มเติมหน้าที่พลเมืองกับการดำรงชีวิต 36 การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ 39 สื่อการเรียนรู้ แหล่งเรียนรู้ 39 ภาคผนวก 41 - คำสั่งกรรมการปรับปรุงหลักสูตรสถานศึกษา ปีการศึกษา 2566 ค


๑ วิสัยทัศน์ของกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม ผู้เรียนมีความรู้คู่คุณธรรม มีจิตสำนึกสาธารณะในความเป็นพลเมืองดีตามวิถีประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข สืบสานภูมิปัญญา วัฒนธรรมท้องถิ่นและวัฒนธรรมไทย ใฝ่ เรียนรู้ มีความสามารถในการสื่อสาร การคิดแก้ปัญหา การใช้เทคโนโลยี มีทักษะชีวิต เป็นบุคคลที่มี คุณภาพ สมรรถนะของผู้เรียน หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพตามมาตรฐานการ เรียนรู้ ซึ่งการพัฒนาผู้เรียนให้บรรลุมาตรฐานการเรียนรู้ที่กำหนดนั้นจะช่วยให้ผู้เรียนเกิดสมรรถนะ สำคัญ ๕ ประการ ๑. ความสามารถในการสื่อสาร เป็นความสามารถในการรับและการส่งสาร มีวัฒนธรรมใน การใช้ภาษา ถ่ายทอดความคิด ความรู้ ความเข้าใจ ความรู้สึกและทัศนะของตนเองเพื่อแลกเปลี่ยน ข้อมูลข่าวสาร และ ประสบการณ์อันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาตนเองและสังคม รวมทั้งการ เจรจาต่อรองเพื่อขจัดและลดปัญหา ความขัดแย้งต่าง ๆการเลือกรับหรือไม่รับข้อมูลข่าวสารด้วยหลัก เหตุผลและความถูกต้องตลอดจนการ เลือกใช้วิธีการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพโดยคำนึงถึงผลกระทบที่ มีต่อตนเองและสังคม ๒. ความสามารถในการคิด เป็นความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การคิดสังเคราะห์ การคิด สร้างสรรค์การคิดอย่างมีวิจารณญาณ และการคิดอย่างเป็นระบบ เพื่อนำไปสู่การสร้างองค์ความรู้ หรือ สารสนเทศ เพื่อการตัดสินใจเกี่ยวกับตนเองและสังคมได้อย่างเหมาะสม ๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา เป็นความสามารถในการแก้ปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ที่ เผชิญได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม บนพื้นฐานของหลักเหตุผล คุณธรรมและข้อสารสนเทศ เข้าใจ ความสัมพันธ์และ การเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์ต่าง ๆในสังคม แสวงหาความรู้ ประยุกต์ความรู้มา ใช้ในการป้องกันและ แก้ปัญหา มีการตัดสินใจที่มีประสิทธิภาพโดยคำนึงถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อ ตนเอง สังคมและสิ่งแวดล้อม ๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต เป็นความสามารถในการนำกระบวนการต่าง ๆ ไปใช้ใน การ ดำเนินชีวิตประจำวัน การเรียนรู้ด้วยตนเอง การเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง การทำงานและการอยู่ ร่วมกันใน สังคมด้วยการสร้างเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างบุคคล การจัดการปัญหาและความ ขัดแย้งต่าง ๆ อย่าง เหมาะสม การปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของสังคม และสภาพแวดล้อม และการรู้จักหลีกเลี่ยง พฤติกรรมไม่พึงประสงค์ที่ส่งผลกระทบต่อตนเองและผู้อื่น ๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยีเป็นความสามารถในการเลือกและใช้เทคโนโลยีด้าน ต่าง ๆ และมีทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เพื่อการพัฒนาตนเองและสังคมในด้านการเรียนรู้ การ สื่อสาร การ ทำงาน การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ ถูกต้อง เหมาะสมและมีคุณธรรม


๒ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ เพื่อให้ สามารถอยู่ ร่วม กับผู้อื่นในสังคมได้อย่างมีความสุข ฐานะเป็นพลเมืองไทยและพลโลก ดังนี้ ๑. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ๒. ซื่อสัตย์สุจริต ๓. มีวินัย ๔. ใฝ่เรียนรู้ ๕. อยู่อย่างพอเพียง ๖. มุ่งมั่นในการทำงาน ๗. รักความเป็นไทย ๘. มีจิตสาธารณะ (หัวข้อต่อไปนี้ขึ้นอยู่กับรายวิชา) ค่านิยมหลัก ๑๒ ประการ เพื่อสร้างคนไทยที่เข้มแข็งนำไปสู่การสร้างสรรค์ประเทศไทยให้ เข้มแข็ง ดังนี้ ๑. มีความรักชาติศาสนา พระมหากษัตริย์ซึ่งเป็นสถาบันหลักของชาติในปัจจุบัน ๒. ซื่อสัตย์เสียสละ อดทน มีอุดมการณ์ในสิ่งที่ดีงามเพื่อส่วนรวม ๓. กตัญญูต่อพ่อแม่ ผู้ปกครอง ครูบาอาจารย์ ๔. ใฝ่หาความรู้หมั่นศึกษาเล่าเรียนทางตรงและทางอ้อม ๕. รักษาวัฒนธรรมไทย ประเพณีไทยอันงดงาม ๖. มีศีลธรรม รักษาความสัตย์หวังดีต่อผู้อื่น เผื่อแผ่และแบ่งปัน ๗. เข้าใจ เรียนรู้การเป็นประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขที่ถูกต้อง ๘. มีระเบียบวินัยเคารพกฎหมาย ผู้น้อยรู้จักเคารพผู้ใหญ่ ๙. มีสติรู้ตัว รู้คิด รู้ทำ รู้ปฏิบัติตามพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ๑๐. รู้จักดำรงตนอยู่โดยใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงตามพระราชดำรัสของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รู้จักอดออมไว้ใช้เมื่อยามจำเป็น มีไว้พอกินพอใช้ถ้าเหลือก็แจกจ่าย จำหน่ายและขยาย กิจการ เมื่อมีความพร้อมโดยมีภูมิคุ้มกันที่ดี ๑๑. มีความเข้มแข็งทั้งร่างกายและจิตใจ ไม่ยอมแพ้ต่ออำนาจฝ่ายต่ำหรือกิเลสมีความละอาย เกรงกลัวต่อบาปตามหลักของศาสนา ๑๒. คำนึงถึงผลประโยชน์ของส่วนรวมและต่อชาติมากกว่าผลประโยชน์ของตนเอง จุดเน้น ๕ ประการ - จุดเน้นที่ ๑ ความเป็นไทย - จุดเน้นที่ ๒ ยึดมั่นในศาสนาและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ - จุดเน้นที่ ๓ ความเป็นพลเมืองดีในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็น ประมุข - จุดเน้นที่๔ ความปรองดอง สมานฉันท์ - จุดเน้นที่๕ ความมีวินัยในตนเอง


๓ เป้าหมายสำคัญในการจัดการเรียนรู้รายวิชาเพิ่มเติมหน้าที่พลเมืองกับการดำรงชีวิต


๔ จุดเน้นและขอบข่าย รายวิชาเพิ่มเติมหน้าที่พลเมืองกับการดำรงชีวิต กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม จุดเน้นที่ 1 ความเป็นไทย 1. ลักษณะที่ดีของคนไทย (มารยาทไทย กตัญญูกตเวทีเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เสียสละ 2. ศิลปวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม และประเพณีไทย (การแต่งกาย ภาษา ภูมิปัญญา ประเพณี) จุดเน้นที่ 2 รักชาติ ยึดมั่นในศาสนา และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ การเห็นคุณค่าและการแสดงออกถึงความรักชาติ ยึดมั่นในศาสนา และเทิดทูน สถาบัน พระมหากษัตริย์ จุดเน้นที่ 3 ความเป็นพลเมืองดีในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็น ประมุข 1. การดำเนินชีวิตตามวิถีประชาธิปไตย 2. การมีส่วนร่วมทางการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมี พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จุดเน้นที่ 4 ความปรองดอง สมานฉันท์ 1. การอยู่ร่วมกันในสังคมแห่งความหลากหลาย 2. การจัดการความขัดแย้งและสันติวิธี จุดเน้นที่ 5 ความมีวินัยในตนเอง ซื่อสัตย์สุจริต ขยันหมั่นเพียรอดทน ใฝ่หาความรู้ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ ยอมรับผลที่ เกิดจาก การกระทำของตนเอง


๕ คําอธิบายรายวิชาเพิ่มเติม กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม รายวิชา หน้าที่พลเมืองกับการดำรงชีวิต 1 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 รหัสวิชา ส 21203 เวลา 20 ชั่วโมง / ภาคเรียน จำนวน 0.5 หน่วยกิต มีสวนรวมอนุรักษมารยาทไทยในการแสดงความเคารพ การสนทนา การแตงกาย การมีสัมมา คารวะ แสดงออกถึงความเอื้อเฟอเผื่อแผและเสียสละตอสังคม เห็นคุณคาและอนุรักษขนบธรรมเนียม ประเพณีศิลปวัฒนธรรมและภูมิปญญาไทยภูมิปัญญาท้องถิ่น ปฏิบัติตนเปนผู้มีวินัยในตนเองในเรื่อง ความซื่อสัตยสุจริต ขยันหมั่นเพียร อดทน ใฝหาความรู้ ตั้งใจปฏิบัติหนาที่และยอมรับผลที่เกิดจาก การกระทําของตนเอง ยอมรับความหลากหลายทางสังคมวัฒนธรรมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียง ใตในเรื่องวิถีชีวิต วัฒนธรรม ศาสนา สิ่งแวดลอม อยูรวมกันอยางสันติและพึ่งพาซึ่งกันและกันในสังคม พหุวัฒนธรรม ดวยการเคารพซึ่งกันและกัน ไมแสดงกิริยาและวาจาดูหมิ่นผู้อื่น ชวยเหลือซึ่งกัน และกัน แบงปน มีสวนรวมในการแกปญหาความขัดแยงโดยสันติวิธีในเรื่องการทะเลาะวิวาท ความ คิดเห็นไมตรงกันดวยการเจรจาไกลเกลี่ย การเจรจาตอรอง การระงับความขัดแยง ปฏิบัติตนเปนผู้ มีวินัยในตนเอง ในเรื่องความซื่อสัตยสุจริต อดทน ใฝหาความรูตั้งใจปฏิบัติหนาที่ยอมรับผลที่เกิดจาก การกระทําของตนเอง โดยใชกระบวนการกลุม กระบวนการคิด กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการเผชิญสถานการณ กระบวนการแกปญหา กระบวนการสืบเสาะหาความรู กระบวนการสรางความตระหนัก กระบวนการ สรางคานิยม และกระบวนการสรางเจตคตินำเทคโนโลยีมาใช้ในกระบวนการเรียนรู้และนำเสนอ ผลงานที่มีความน่าสนใจ เพื่อใหผูเรียนมีลักษณะที่ดีของคนไทย ภาคภูมิใจในความเปนไทยและ ท้องถิ่น อยูรวมกับผูอื่นอยางสันติ จัดการความขัดแยงดวยสันติวิธี และมีวินัยในตนเอง ผลการเรียนรู 1. มีสวนรวมในการอนุรักษมารยาทไทย 2. แสดงออกถึงความเอื้อเฟอเผื่อแผ และเสียสละตอสังคม 3. เห็นคุณคาและอนุรักษขนบธรรมเนียม ประเพณี ศิลปวัฒนธรรม และภูมิปญญาไทย 4. ยอมรับความหลากหลายทางสังคมวัฒนธรรมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต และอยู ร่วมกันอยางสันติ และพึ่งพาซึ่งกันและกัน 5. มีสวนรวมในการแกปญหาความขัดแยงโดยสันติวิธี 6. ปฏิบัติตนเปนผูมีวินัยในตนเอง รวมทั้งหมด 6 ผลการเรียนรู้


๖ คําอธิบายรายวิชาเพิ่มเติม กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม รายวิชา หน้าที่พลเมืองกับการดำรงชีวิต 2 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 รหัสวิชา ส 21204 เวลา 20 ชั่วโมง / ภาคเรียน จำนวน 0.5 หน่วยกิต ปฏิบัติตนเปนแบบอยางของความรักชาติ ยึดมั่นในศาสนาและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย ประยุกตและเผยแพรพระบรมราโชวาทในเรื่องมีเหตุผล รอบคอบ หลักการทรงงานใน เรื่องการใชธรรมชาติ ชวยธรรมชาติการปลูกปาในใจคนและหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ปฏิบัติตนเปนผูมีวินัยในตนเองในเรื่องความซื่อสัตยสุจริต ขยันหมั่นเพียร อดทน ใฝหาความรูและ ตั้งใจปฏิบัติหนาที่ ปฏิบัติตนเปนพลเมืองดีตามวิถีประชาธิปไตย ในการมีสวนรวมในกิจกรรมตาง ๆ ของสังคม มีส่วนร่วมในกิจกรรมการอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีและภูมิปัญญาท้องถิ่น การตัดสินใจ โดยใชเหตุผล มีสวนรวมและรับผิดชอบในการตัดสินใจในกิจกรรมของหองเรียนและโรงเรียน ตรวจ สอบขอมูลเพื่อใชประกอบการตัดสินใจในกิจกรรมตาง ๆ ปฏิบัติตนเปนผูมีวินัยในตนเอง ในเรื่องความ ซื่อสัตยสุจริต อดทนขยันหมั่นเพียร ใฝหาความรูตั้งใจปฏิบัติหนาที่ และยอมรับผลที่เกิดจากการ กระทําของตนเอง โดยใชกระบวนการกลุม กระบวนการคิด กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการเผชิญสถานการณ กระบวนการแกปญหา กระบวนการสืบเสาะหาความรูกระบวนการสรางความตระหนัก กระบวนการ สรางคานิยม และกระบวนการสรางเจตคตินำเทคโนโลยีมาใช้ในกระบวนการเรียนรู้และนำเสนอ ผลงานที่มีความน่าสนใจ เพื่อใหผูเรียนแสดงออกถึงความรักชาติ ยึดมั่นในศาสนาและเทิดทูนสถาบัน พระมหากษัตริย เปนพลเมืองดีในระบอบประชาธิปไตยอัน มีพระมหากษัตริยทรงเปนประมุข มีสวน รวมทางการเมืองการปกครองและมีวินัยในตนเอง ภาคภูมิใจในความเปนไทยและท้องถิ่น ผลการเรียนรู 1. เปนแบบอยางของความรักชาติ ยึดมั่นในศาสนา และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย 2. ประยุกตและเผยแพรพระบรมราโชวาท หลักการทรงงาน และหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียง 3. ปฏิบัติตนเปนพลเมืองดีตามวิถีประชาธิปไตย 4. มีสวนรวมและรับผิดชอบในการตัดสินใจ ตรวจสอบขอมูลเพื่อใชประกอบการตัดสินใจใน กิจกรรมตาง ๆ 5. ปฏิบัติตนเปนผูมีวินัยในตนเอง รวมทั้งหมด 5 ผลการเรียนรู้


๗ โครงสร้างรายวิชาเพิ่มเติม กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม รายวิชา หน้าที่พลเมืองกับการดำรงชีวิต 1 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 รหัสวิชา ส 21203 เวลา 20 ชั่วโมง / ภาคเรียน จำนวน 0.5 หน่วยกิต ที่ ชื่อ หน่วยการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ สาระสำคัญ เวลา (ชั่วโมง) น้ำหนัก คะแนน 1 งามอย่างไทย 1. มีสวนรวมในการอนุ รักษมารยาทไทย 2. แสดงออกถึงความ เอื้อเฟอเผื่อแผ และ เสียสละ ตอสังคม 6. ปฏิบัติตนเปนผูมี วินัยในตนเอง งามอย่างไทย เป็น กิริยา ท่าทางในการแสดงออก ที่ บุคคลพึงปฏิบัติในสังคมอย่าง สุภาพและมีระเบียบแบบแผน อันเหมาะสมตามกาลเทศะ 4 17 2 ภูมิใจเอกลักษณ์ ของไทย 3. เห็นคุณคาและ อนุรักษขนบธรรมเนียม ประเพณี ศิลปวัฒนธรรม และ ภูมิปญญาไทย 6. ปฏิบัติตนเปนผูมี วินัยในตนเอง สังคมไทยเป็นสังคมที่สมาชิก ส่วนใหญ่เป็นคนไทย มีเชื้อสาย และสัญชาติไทย ที่แม้จะมีความ แตกต่างทางด้านศาสนาแต่ก็ สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่าง สันติสุข ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ที่ สำคัญของสังคมไทย นอกจากนี้ ยังมีภาษาไทยเป็นภาษาประจำ ชาติมีศิลปวัฒนธรรมซึ่ง แสดงออกถึงความเป็นไทย 5 21 3 เรียนรู้สู่อาเซียน 4. ยอมรับความ หลากหลายทางสังคม วัฒนธรรมในภูมิภาค เอเชียตะวันออกเฉียงใต และอยูรวมกันอยาง สันติ และพึ่งพาซึ่งกัน และกัน 5. ปฏิบัติตนเปนผูมี วินัยในตนเอง วัฒนธรรมของภูมิภาคของเรา คือ ภูมิภาคเอเชียตะวันออก เฉียงใต้นั้นย่อมมีความแตกต่าง กันออกไป เนื่องจากสภาพชีวิต ความเป็นอยู่ สภาพแวดล้อม ทางกายภาพ ขนบธรรมเนียม การปฏิบัติแต่ละท้องถิ่น 5 21


๘ ที่ ชื่อ หน่วยการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ สาระสำคัญ เวลา (ชั่วโมง) น้ำหนัก คะแนน 4 ความปรองดอง สมานฉันท์ 5. มีสวนรวมในการแก ปญหาความขัดแยงโดย สันติวิธี 6. ปฏิบัติตนเปนผูมี วินัยในตนเอง การปรองดอง คือ การที่ทุก ฝ่าย ซึ่งมีความขัดแย้งกันหัน หน้าเข้าหากัน เพื่อเจรจาหาข้อ ยุติความขัดแย้งร่วมกัน การหัน หน้าเข้าหากัน มีความละอายไม่ ทำการใดโดยทุจริต จนทำให้ เกิดความแตกแยก มีจิตใจหนัก แน่นไม่กระทำการใดโดยทุจริต 5 21 ระหว่างเรียน 19 80 สอบ 1 20 รวมตลอดภาคเรียน 20 100


๙ โครงสร้างรายวิชาเพิ่มเติม กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม รายวิชา หน้าที่พลเมืองกับการดำรงชีวิต 2 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 รหัสวิชา ส 21204 เวลา 20 ชั่วโมง / ภาคเรียน จำนวน 0.5 หน่วยกิต ที่ ชื่อ หน่วยการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ สาระสำคัญ เวลา (ชั่วโมง) น้ำหนัก คะแนน 1 เชิดชู สถาบัน 1. เปนแบบอยางของ ความรักชาติ ยึดมั่นใน ศาสนา และเทิดทูน สถาบันพระมหา - กษัตริย์ 5. ปฏิบัติตนเปนผูมี วินัยในตนเอง สามสถาบันหลักของไทย คือ ชาติศาสนา และพระมหา - กษัตริย์ซึ่งเป็นเครื่องยึดเหนี่ยว ของคนไทยให้เกิดความ รักใคร่ ปรองดองกัน และอยู่ด้วยกัน อย่างสันติสุข 4 17 2 ตามรอยเท้าพ่อ 2. ประยุกตและเผย แพรพระบรมราโชวาท หลักการทรงงาน และ หลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียง 5. ปฏิบัติตนเปนผูมี วินัยในตนเอง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช ทรงเป็น พระมหากษัตริย์ ที่มีพระราช กรณียกิจมากมาย ทั้งในด้านการ อนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ด้านการแพทย์ และสาธารณสุข ด้านการศึกษา ด้านศาสนา ด้านความมั่นคง ภายในประเทศ ด้าน ความสัมพันธ์ระหว่าง ประเทศ ด้านศิลปะ วัฒนธรรม และด้านการกีฬา 6 25 3 พลเมืองดีตามวิถี ประชาธิปไตย 3. ปฏิบัติตนเปนพล เมืองดีตามวิถี ประชาธิปไตย 4. มีสวนรวมและ รับผิดชอบในการ ตัดสินใจ ตรวจสอบ ขอมูลเพื่อใช ประกอบการตัดสินใจ ในกิจกรรมตาง ๆ พลเมืองดีนั้น คือ คนที่ดำเนิน ชีวิตอย่างมีคุณภาพ มีจิตใจที่ดี งาม มีคุณธรรม จริยธรรม ที่พึง ประสงค์ทั้งด้านจิตใจและ พฤติกรรมที่แสดงออก ได้แก่ มีวินัย มีความรับผิดชอบ ประหยัด รู้หน้าที่ ซื่อสัตย์ มี เหตุผล เคารพความคิดเห็นผู้อื่น คิดแยกแยะระหว่าง ผลประโยชน์ส่วนตนและ 9 38


๑๐ ที่ ชื่อ หน่วยการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ สาระสำคัญ เวลา (ชั่วโมง) น้ำหนัก คะแนน 5. ปฏิบัติตนเปนผูมี วินัยในตนเอง ผลประโยชน์ส่วนรวม สามารถอยู่ร่วมกับคนอื่นได้ อย่างเป็นสุข ระหว่างเรียน 19 80 สอบ 1 20 รวมตลอดภาคเรียน 20 100


๑๑ หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม รหัสวิชา ส 21203 หน้าที่พลเมืองกับการดำรงชีวิต 1 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง งามอย่างไทย ภาคเรียนที่ 1 เวลา 4 ชั่วโมง ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ จุดเน้นที่ 1 ความเป็นไทย และจุดเน้นที่ 5 ความมีวินัยในตนเอง ผลการเรียนรู้ 1. มีสวนรวมในการอนุรักษมารยาทไทย 2. แสดงออกถึงความเอื้อเฟอเผื่อแผ และเสียสละตอสังคม 6. ปฏิบัติตนเปนผูมีวินัยในตนเอง สาระสำคัญ การมีมารยาทไทยในการแสดงความเคารพ การสนทนา การแต่งกาย การมีสัมมาคารวะ แสดงออกถึงความเป็นไทย สาระการเรียนรู้ มารยาทไทย - การแสดงความเคารพ - การสนทนา - การแต่งกาย - การมีสัมมาคารวะ การประเมินผลรวบยอด ชิ้นงานหรือภาระงาน 1. ฝึกการแสดงความเคารพตามมารยาทไทย 2. การแสดงบทบาทสมมุติ


๑๒ การประเมิน เกณฑ์การประเมิน ประเด็น การประเมิน ระดับคุณภาพ ดีมาก (4) ดี (3) พอใช้(2) ปรับปรุง(1) 1. การแสดงความ เคารพ ( 7 ระดับ) - พระมหากษัตริย์ (ราชวงศ์) - พระสงฆ์ - พ่อ แม่ - ครู อาจารย์ - ผู้ใหญ่ - บุคคลในระดับ เดียวกัน - ผู้ที่มีอายุน้อยกว่า นักเรียนสามารถ ทำความเคารพ บุคคลในระดับ ต่างๆ ได้ถูกต้องทั้ง 7 ระดับ นักเรียนสามารถทำ ความเคารพบุคคล ในระดับต่างๆ ได้ ถูกต้อง 5-6 ระดับ นักเรียนสามารถทำ ความเคารพบุคคล ในระดับต่างๆ ได้ ถูกต้อง 3-4 ระดับ นักเรียนสามารถทำ ความเคารพบุคคล ในระดับต่างๆ ได้ ถูกต้องน้อยกว่า 3 ระดับ 2.การสนทนากับ บุคคลต่างๆ (7 ระดับ) - พระมหากษัตริย์ (ราชวงศ์) - พระสงฆ์ - พ่อ แม่ - ครู อาจารย์ - ผู้ใหญ่ - บุคคลในระดับ เดียวกัน - ผู้ที่มีอายุน้อยกว่า นักเรียนสามารถ สนทนากับบุคคล ในระดับต่างๆ ได้ ถูกต้องทั้ง 7 ระดับ นักเรียนสามารถ สนทนากับบุคคล ในบุคคลในระดับ ต่างๆ ได้ถูกต้อง 5- 6 ระดับ นักเรียนสามารถ สนทนากับบุคคลใน ระดับต่างๆ ได้ ถูกต้อง 3-4 ระดับ นักเรียนสามารถ สนทนากับบุคคลใน ระดับต่างๆ ได้ ถูกต้องน้อยกว่า 3 ระดับ 3. การแต่งกาย ได้ถูกต้องกับกาลเทศะ - งานมงคล - งานอวมงคล - เข้าวัด ทำบุญ - ตามประเพณี นักเรียนสามารถ บอกลักษณะการ แต่งกายที่ถูกต้อง ตามกาลเทศะได้ ถูกต้องครบถ้วน ตามที่กำหนด ทั้งหมด นักเรียนสามารถ บอกลักษณะการ แต่งกายที่ถูกต้อง ตามกาลเทศะได้ ถูกต้องครบถ้วน ตามที่กำหนด 3 สถานการณ์ นักเรียนสามารถ บอกลักษณะการ แต่งกายที่ถูกต้อง ตามกาลเทศะได้ ถูกต้องครบถ้วน ตามที่กำหนด 2 สถานการณ์ นักเรียนสามารถ บอกลักษณะการ แต่งกายที่ถูกต้อง ตามกาลเทศะได้ ถูกต้องครบถ้วน ตามที่กำหนดน้อย กว่า 2 สถานการณ์ 4. การมีสัมมนาคารวะ บุคคลในโอกาสต่างๆ - การยืน - การนั่ง นักเรียนสามารถ บอกลักษณะการ ปฏิบัติตน นักเรียนสามารถ บอกลักษณะการ ปฏิบัติตน นักเรียนสามารถ บอกลักษณะการ ปฏิบัติตน นักเรียนสามารถบอก ลักษณะการปฏิบัติตน ซึ่งแสดงออกถึงการ มีสัมมาคารวะ


๑๓ ประเด็น การประเมิน ระดับคุณภาพ ดีมาก (4) ดี (3) พอใช้(2) ปรับปรุง(1) - การเดินผ่านผู้ใหญ่ - การเดินเข่า ซึ่งแสดงออกถึงการ มีสัมมาคารวะ บุคคล/โอกาสต่างๆ ได้ถูกต้องครบถ้วน ตามที่กำหนดได้ ทั้งหมด ซึ่งแสดงออกถึงการ มีสัมมาคารวะ บุคคล/โอกาสต่างๆ ได้ถูกต้อง 3 สถานการณ์ ซึ่งแสดงออกถึงการ มีสัมมาคารวะ บุคคล/โอกาสต่างๆ ได้ถูกต้อง 2 สถานการณ์ บุคคล/โอกาสต่างๆ ได้ถูกต้อง น้อยกว่า 2 สถานการณ์ กิจกรรมการเรียนรู้ ชั่วโมงที่ 1 1. นักเรียนดูวีดีทัศน์เกี่ยวกับการแสดงความเคารพของคนไทยตามมารยาทไทย 2. นักเรียนจับคู่กันแสดงความเคารพของคนไทย ตามมารยาทไย ชั่วโมงที่ 2 1. นักเรียนดูวีดีทัศน์เกี่ยวกับการแต่งกาย การสนทนา และการมีสัมมาคารวะของคนไทยตาม โอกาสต่างๆ 2. ครูนำภาพการแต่งกาย ของคนไทยในสมัยปัจจุบันโดยเฉพาะวัยรุ่น 3. นักเรียนอภิปรายกันถึงลักษณะการแต่งกาย การสนทนา การมีสัมมาคารวะของวัยรุ่นใน สมัยนี้ 4. นักเรียนสรุปถึงการแต่งกาย การสนทนา การมีสัมมาคารวะ ที่ถูกต้องตามกาลเทศะของคนไทย 5. นักเรียนแบ่งกลุ่มออกเป็น 4 กลุ่ม แล้วเตรียมการแสดงบทบาทสมมุติตามหัวข้อต่อไปนี้ 1) การแสดงความเคารพ 2) การแต่งกาย 3) การสนทนา 4) การมสัมมาคารวะ ชั่วโมงที่ 3 นักเรียนกลุ่มที่ 1 และ 2 แสดงบทบาทสมมติ โดยให้กลุ่มที่ 3 และ 4 ประเมินผล การแสดงบทบาทสมมุติ ชั่วโมงที่ 4 - นักเรียนกลุ่มที่ 3 และ 4 แสดงบทบาทสมมติ โดยให้กลุ่มที่ 1 และ 2 ประเมินผลการแสดงบทบาทสมมุติ - นักเรียนร่วมกันสรุปความรู้ที่ได้รับทั้งหมด และทำใบงานที่ 1 สื่อการเรียนรู้ 1. วีดีทัศน์เรื่องการแสดงความเคารพ การแต่งกาย การสนทนา และการมีสัมมาคารวะ 2. ใบงานที่ 1 เรื่อง มารยาทไทย


๑๔ หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม รหัสวิชา ส 21203 หน้าที่พลเมืองกับการดำรงชีวิต 1 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง ภูมิใจเอกลักษณ์ของไทย ภาคเรียนที่ 1 เวลา 5 ชั่วโมง จุดเน้นที่ 1 ความเปนไทย และจุดเน้นที่ 5 ความมีวินัยในตนเอง ผลการเรียนรู้ 3. เห็นคุณคา และอนุรักษขนบธรรมเนียม ประเพณี ศิลปวัฒนธรรมและภูมิปญญาไทย 6. ปฏิบัติตนเปนผูมีวินัยในตนเอง สาระสำคัญ สังคมไทยเป็นสังคมที่สมาชิกส่วนใหญ่เป็นคนไทย มีเชื้อสายและสัญชาติไทย ที่แม้จะมีความ แตกต่างทางด้านศาสนาแต่ก็สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติสุข ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ที่สำคัญของ สังคมไทย นอกจากนี้ยังมีภาษาไทยเป็นภาษาประจำชาติมีศิลปวัฒนธรรมซึ่งแสดงออกถึงความเป็น ไทย สาระการเรียนรู้ ประเด็น การประเมิน ระดับคุณภาพ ดีเยี่ยม (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรุง (1) 1. บทบาทการ แสดง นำเสนอผลงาน ทางวัฒนธรรม ของประเทศ เพื่อนบ้านได้ ถูกต้องสมบูรณ์ นำเสนอผลงาน ทางวัฒนธรรม ของประเทศ เพื่อนบ้านได้ ถูกต้องเป็นส่วน ใหญ่ นำเสนอผลงาน ทางวัฒนธรรม ของประเทศ เพื่อนบ้านได้ ถูกต้องเป็น บางส่วน นำเสนอผลงาน ทางวัฒนธรรม ของประเทศ เพื่อนบ้าน ได้ น้อย 2. การบรรยาย เนื้อหาสาระ มีการบรรยาย ข้อความที่แสดง ถึงวัฒนธรรม เป็นปัจจัยในการ สร้างความ สัมพันธ์ที่ดี ระหว่างประเทศ เพื่อนบ้านได้ ถูกต้องสมบูรณ์ มีการบรรยาย ข้อความที่แสดงถึง วัฒนธรรมเป็น ปัจจัยในการสร้าง ความสัมพันธ์ที่ดี ระหว่างประเทศ เพื่อนบ้านได้ ถูกต้องเป็นส่วน ใหญ่ มีการบรรยาย ข้อความที่แสดง ถึงวัฒนธรรมเป็น ปัจจัยในการ สร้างความ สัมพันธ์ที่ดี ระหว่างประเทศ เพื่อนบ้านได้ ถูกต้องเป็น บางส่วน มีการบรรยาย ข้อความที่แสดง ถึงวัฒนธรรมเป็น ปัจจัยในการ สร้างความ สัมพันธ์ที่ดี ระหว่างประเทศ เพื่อนบ้านได้ ถูกต้องเป็นส่วน น้อย


๑๕ การปฏิบัติตนที่แสดงออกถึง - ความรักชาติ - การยึดมั่นในศาสนา - การเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย การประเมินผลรวบยอด ชิ้นงานหรือภาระงาน 1. บันทึกการเข้าร่วมกิจกรรม ประเพณี ศิลปวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น 2. การแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย การประเมิน ประเมินชิ้นงาน กิจกรรมการเรียนรู้ ชั่วโมงที่ 1 – 2 1. ครูแจกภาพเกี่ยวกับวัฒนธรรมไทยให้นักเรียนวิเคราะห์ถึงความสำคัญและความ เกี่ยวข้องกับการดำรงชีวิตของชาวไทย 2. ครูอธิบายเชื่อมโยงให้นักเรียนเข้าใจว่า กิจกรรมในภาพ ข้อ 1 นั้นจัดเป็นส่วนหนึ่งของ วัฒนธรรมไทย ครูและนักเรียนช่วยกันสรุปความหมายของวัฒนธรรมไทย ประเด็น การประเมิน ระดับคุณภาพ ดีเยี่ยม (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรุง (1) 3. ความสัมพันธ์ ของผู้แสดง การแสดงบทบาท ของสมาชิกทุก คนในกลุ่มมี ความสัมพันธ์กัน อย่างต่อเนื่อง การแสดงบทบาท ของสมาชิกส่วน ใหญ่มี ความสัมพันธ์กัน อย่างต่อเนื่อง การแสดงบทบาท ของสมาชิกบาง คนมีการสะดุด เป็นบางครั้ง การแสดงบทบาท ของสมาชิกส่วน ใหญ่ไม่สัมพันธ์ กัน 4. ความคิด สร้างสรรค์ มีรูปแบบการ แสดงหรือการ นำเสนอแปลก ใหม่ไม่ซ้ำแบบ ใคร เร้าใจให้ ติดตาม มีรูปแบบการ แสดงไม่แปลก ใหม่แต่เร้าใจให้ ติดตาม มีรูปแบบการ แสดงคล้ายคลึง กับแบบทั่วไปไม่ เร้าใจ รูปแบบการแสดง ไม่น่าสนใจ 5. การตรงต่อ เวลา ใช้เวลาในการ แสดงตาม กำหนดเวลา ใช้เวลาในการ แสดงเกิน กำหนดเวลา 1 นาที ใช้เวลาในการ แสดงเกิน กำหนดเวลา 2 นาที ใช้เวลาในการ แสดงเกิน กำหนดเวลามาก กว่า 2 นาทีขึ้น ไป


๑๖ 3. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 5 - 7 คน ตามความสมัครใจ ให้แต่ละกลุ่มศึกษา ความรู้ เรื่อง ที่มาของวัฒนธรรมไทยและลักษณะของวัฒนธรรมไทย และช่วยกันทำใบงานที่ 1 เรื่อง วัฒนธรรมไทย 4. ตัวแทนกลุ่มออกมานำเสนอผลงานที่หน้าชั้นเรียน โดยมีครูเสนอแนะเพิ่มเติม 5. นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันหาภาพเกี่ยวกับ วัฒนธรรมของประเทศเพื่อนบ้านใน ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แล้ววิเคราะห์เกี่ยวกับลักษณะของวัฒนธรรม จากนั้นออกมานำเสนอ หน้าชั้นเรียน 6. นักเรียนแต่ละกลุ่มศึกษาความรู้เกี่ยวกับลักษณะของวัฒนธรรมประเทศเพื่อนบ้าน ความคล้ายคลึงและความแตกต่างของวัฒนธรรมประเทศเพื่อนบ้านและวัฒนธรรมไทย แล้วช่วยกันทำ ใบงานที่ 2 เรื่อง ความคล้ายคลึงและความแตกต่างของวัฒนธรรมในประเทศเพื่อนบ้าน นักเรียนและ ครูช่วยกันเฉลยใบงาน และทบทวนความรู้ ชั่วโมงที่ 3 – 5 1. ครูทบทวนความรู้นักเรียนด้วยการให้นักเรียนตอบคำถามเกี่ยวกับ ที่มาและลักษณะ ของวัฒนธรรมไทย ลักษณะของวัฒนธรรมของประเทศเพื่อนบ้าน 2. นักเรียนศึกษาความรู้เกี่ยวกับ วัฒนธรรมเป็นปัจจัยในการสร้างความสัมพันธ์อันดี ระหว่างประเทศ 3. นักเรียนหาข่าวเกี่ยวกับ การติดต่อสัมพันธ์ หรือการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมระหว่าง ประเทศเพื่อนบ้าน หรือการประชุมอาเซียนแล้วนำมาวิเคราะห์ตามหัวข้อที่กำหนดให้ในใบงานที่ 3 เรื่อง ความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรม โดยนำความรู้ในข้อ 2 มาเป็นพื้นฐานความรู้ในการทำใบงาน 4. นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอผลงานที่หน้าชั้นเรียน โดยมีเพื่อนกลุ่มอื่นช่วยกัน เสนอแนะเพิ่มเติม 5. นักเรียนกลุ่มเดิมร่วมมือกันวางแผนนำเสนอผลงานเกี่ยวกับวัฒนธรรมที่มีคุณค่าต่อ การสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างเพื่อนบ้านโดยวิธีการแสดงบทบาทสมมุติตามเค้าโครงของตัวอย่าง บทบาทสมมุติ เรื่อง ความสัมพันธ์อันดีต่อกัน โดยครูมอบหมายให้แต่ละกลุ่มแสดงบทบาทเป็นตัวแทน ทางวัฒนธรรมของประเทศต่างๆ ในอาเซียน 6. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันเขียนเค้าโครงเรื่องของบทบาทสมมุติ แบ่งหน้าที่กันแสดง และฝึกซ้อมการแสดง 7. นักเรียนแต่ละกลุ่มแสดงบทบาทสมมุติ พร้อมทั้งสรุปคุณค่าของวัฒนธรรมที่สร้าง ความสัมพันธ์ อันดีระหว่างประเทศโดยเชื่อมโยงกับวัฒนธรรมในด้านที่กลุ่มนำเสนอ เมื่อแต่ละกลุ่ม แสดงบทบาทสมมุติจบ ให้กลุ่มอื่นช่วยเสนอข้อคิดเห็นเพิ่มเติม และชื่นชมให้กำลังใจต่อเพื่อน 8. ครูและนักเรียนช่วยกันสรุปลักษณะของวัฒนธรรมที่เป็นปัจจัยในการสร้าง ความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน และแนวทางการหลีกเลี่ยงการกระทำซึ่งอาจนำไปสู่ ความเข้าใจผิดระหว่างประเทศ สื่อการเรียนรู้ 1. ใบงาน 2. รูปภาพ 3. แบบทดสอบ


๑๗ หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม รหัสวิชา ส 21203 หน้าที่พลเมืองกับการดำรงชีวิต 1 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง เรียนรู้สู่อาเซียน ภาคเรียนที่ 1 เวลา 5 ชั่วโมง จุดเน้นที่ 4 ความปรองดอง สมานฉันท และจุดเน้นที่ 5 ความมีวินัยในตนเอง ผลการเรียนรู้ 4. ยอมรับความหลากหลายทางสังคมวัฒนธรรมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต และอยูรวมกันอยางสันติ และพึ่งพาซึ่งกันและกัน 6. ปฏิบัติตนเปนผูมีวินัยในตนเอง สาระสำคัญ วัฒนธรรมของภูมิภาคของเรา คือ ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้นย่อมมีความแตกต่างกัน ออกไป เนื่องจากสภาพชีวิตความเป็นอยู่ สภาพแวดล้อมทางกายภาพ ขนบธรรมเนียมการปฏิบัติแต่ ละท้องถิ่น สาระการเรียนรู้ 1. ความหลากหลายทางสังคมวัฒนธรรมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต ในเรื่องวิถี ชีวิต วัฒนธรรม ศาสนา สิ่งแวดลอม 2. การอยูรวมกันในสังคมพหุวัฒนธรรม และการพึ่งพาซึ่งกันและกัน - เคารพซึ่งกันและกัน - ไมแสดงกิริยาและวาจาดูหมิ่นผูอื่น - ชวยเหลือซึ่งกันและกัน แบงปน การประเมินผลรวบยอด ชิ้นงานหรือภาระงาน 1. วิเคราะห์ ข้อดี ข้อเสีย ผลกระทบ และประโยชน์ การประเมิน ประเมินชิ้นงาน ประเด็น การประเมิน ระดับคุณภาพ ดีเยี่ยม (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรุง (1) 1. บทบาทการ แสดง นำเสนอผลงาน ทางวัฒนธรรม ของประเทศเพื่อน บ้านได้ถูกต้อง สมบูรณ์ นำเสนอผลงานทาง วัฒนธรรมของ ประเทศเพื่อนบ้าน ได้ถูกต้องเป็นส่วน ใหญ่ นำเสนอผลงาน ทางวัฒนธรรม ของประเทศเพื่อน บ้านได้ถูกต้องเป็น บางส่วน นำเสนอผลงาน ทางวัฒนธรรม ของประเทศเพื่อน บ้าน ได้น้อย 2. การบรรยาย เนื้อหาสาระ มีการบรรยาย ข้อความที่แสดง มีการบรรยาย ข้อความที่แสดงถึง มีการบรรยาย ข้อความที่แสดง มีการบรรยาย ข้อความที่แสดง


๑๘ ประเด็น การประเมิน ระดับคุณภาพ ดีเยี่ยม (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรุง (1) ถึงวัฒนธรรม เป็นปัจจัยในการ สร้างความ สัมพันธ์ที่ดี ระหว่างประเทศ เพื่อนบ้านได้ ถูกต้องสมบูรณ์ วัฒนธรรมเป็น ปัจจัยในการสร้าง ความสัมพันธ์ที่ดี ระหว่างประเทศ เพื่อนบ้านได้ ถูกต้องเป็นส่วน ใหญ่ ถึงวัฒนธรรมเป็น ปัจจัยในการสร้าง ความ สัมพันธ์ที่ดี ระหว่างประเทศ เพื่อนบ้านได้ ถูกต้องเป็น บางส่วน ถึงวัฒนธรรมเป็น ปัจจัยในการสร้าง ความ สัมพันธ์ที่ดี ระหว่างประเทศ เพื่อนบ้านได้ ถูกต้องเป็นส่วน น้อย 3. ความสัมพันธ์ ของผู้แสดง การแสดงบทบาท ของสมาชิกทุกคน ในกลุ่มมี ความสัมพันธ์กัน อย่างต่อเนื่อง การแสดงบทบาท ของสมาชิกส่วน ใหญ่มีความสัมพันธ์ กันอย่างต่อเนื่อง การแสดงบทบาท ของสมาชิกบาง คนมีการสะดุด เป็นบางครั้ง การแสดงบทบาท ของสมาชิกส่วน ใหญ่ไม่สัมพันธ์กัน 4. ความคิด สร้างสรรค์ มีรูปแบบการ แสดงหรือการ นำเสนอแปลก ใหม่ไม่ซ้ำแบบใคร เร้าใจให้ติดตาม มีรูปแบบการแสดง ไม่แปลกใหม่แต่เร้า ใจให้ติดตาม มีรูปแบบการ แสดงคล้ายคลึง กับแบบทั่วไปไม่ เร้าใจ รูปแบบการแสดง ไม่น่าสนใจ 5. การตรงต่อ เวลา ใช้เวลาในการแสดง ตามกำหนดเวลา ใช้เวลาในการแสดง เกินกำหนดเวลา 1 นาที ใช้เวลาในการแสดง เกินกำหนดเวลา 2 นาที ใช้เวลาในการ แสดงเกิน กำหนดเวลามาก กว่า 2 นาทีขึ้นไป กิจกรรมการเรียนรู้ ชั่วโมงที่ 1 – 2 1. ครูแจกภาพเกี่ยวกับวัฒนธรรมไทยให้นักเรียนวิเคราะห์ถึงความสำคัญและความ เกี่ยวข้องกับการดำรงชีวิตของชาวไทย 2. ครูอธิบายเชื่อมโยงให้นักเรียนเข้าใจว่า กิจกรรมในภาพ ข้อ 1 นั้นจัดเป็นส่วนหนึ่งของ วัฒนธรรมไทย ครูและนักเรียนช่วยกันสรุปความหมายของวัฒนธรรมไทย 3. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 5-7 คน ตามความสมัครใจ ให้แต่ละกลุ่มศึกษาความรู้ เรื่อง ที่มาของวัฒนธรรมไทยและลักษณะของวัฒนธรรมไทย และช่วยกันทำใบงานที่ 1 เรื่อง วัฒนธรรมไทย 4. ตัวแทนกลุ่มออกมานำเสนอผลงานที่หน้าชั้นเรียน โดยมีครูเสนอแนะเพิ่มเติม


๑๙ 5. นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันหาภาพเกี่ยวกับ วัฒนธรรมของประเทศเพื่อนบ้านใน ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แล้ววิเคราะห์เกี่ยวกับลักษณะของวัฒนธรรม จากนั้นออกมานำเสนอ หน้าชั้นเรียน 6. นักเรียนแต่ละกลุ่มศึกษาความรู้เกี่ยวกับลักษณะของวัฒนธรรมประเทศเพื่อนบ้าน ความคล้ายคลึงและความแตกต่างของวัฒนธรรมประเทศเพื่อนบ้านและวัฒนธรรมไทย แล้วช่วยกันทำ ใบงานที่ 2 เรื่อง ความคล้ายคลึงและความแตกต่างของวัฒนธรรมในประเทศเพื่อนบ้าน นักเรียนและ ครูช่วยกันเฉลยใบงาน และทบทวนความรู้ ชั่วโมงที่ 3 – 5 1. ครูทบทวนความรู้นักเรียนด้วยการให้นักเรียนตอบคำถามเกี่ยวกับ ที่มาและลักษณะ ของวัฒนธรรมไทย ลักษณะของวัฒนธรรมของประเทศเพื่อนบ้าน 2. นักเรียนศึกษาความรู้เกี่ยวกับ วัฒนธรรมเป็นปัจจัยในการสร้างความสัมพันธ์อันดี ระหว่างประเทศ 3. นักเรียนหาข่าวเกี่ยวกับ การติดต่อสัมพันธ์ หรือการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมระหว่าง ประเทศเพื่อนบ้าน หรือการประชุมอาเซียนแล้วนำมาวิเคราะห์ตามหัวข้อที่กำหนดให้ในใบงานที่ 3 เรื่อง ความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรม โดยนำความรู้ในข้อ 2 มาเป็นพื้นฐานความรู้ในการทำใบงาน 4. นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอผลงานที่หน้าชั้นเรียน โดยมีเพื่อนกลุ่มอื่นช่วยกัน เสนอแนะเพิ่มเติม 5. นักเรียนกลุ่มเดิมร่วมมือกันวางแผนนำเสนอผลงานเกี่ยวกับวัฒนธรรมที่มีคุณค่าต่อ การสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างเพื่อนบ้านโดยวิธีการแสดงบทบาทสมมุติตามเค้าโครงของตัวอย่าง บทบาทสมมุติ เรื่อง ความสัมพันธ์อันดีต่อกัน โดยครูมอบหมายให้แต่ละกลุ่มแสดงบทบาทเป็นตัวแทน ทางวัฒนธรรมของประเทศต่างๆ ในอาเซียน 6. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันเขียนเค้าโครงเรื่องของบทบาทสมมุติ แบ่งหน้าที่กันแสดง และฝึกซ้อมการแสดง 7. นักเรียนแต่ละกลุ่มแสดงบทบาทสมมุติ พร้อมทั้งสรุปคุณค่าของวัฒนธรรมที่สร้าง ความสัมพันธ์ อันดีระหว่างประเทศโดยเชื่อมโยงกับวัฒนธรรมในด้านที่กลุ่มนำเสนอ เมื่อแต่ละกลุ่ม แสดงบทบาทสมมุติจบ ให้กลุ่มอื่นช่วยเสนอข้อคิดเห็นเพิ่มเติม และชื่นชมให้กำลังใจต่อเพื่อน 8. ครูและนักเรียนช่วยกันสรุปลักษณะของวัฒนธรรมที่เป็นปัจจัยในการสร้าง ความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน และแนวทางการหลีกเลี่ยงการกระทำซึ่งอาจนำไปสู่ ความเข้าใจผิดระหว่างประเทศ 9. นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน ประจำหน่วยการเรียนรู้ที่ 3 สื่อการเรียนรู้ 1. ตัวอย่างสื่อประกอบการเรียนการสอน 2. ตัวอย่างข่าว 3. ตัวอย่างบทบาทสมมุติ เรื่อง วัฒนธรรมกับการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เพื่อนบ้าน 4. ใบงานที่ 1 เรื่อง วัฒนธรรมไทย


๒๐ 5. ใบงานที่ 2 เรื่อง ความคล้ายคลึงและความแตกต่างของวัฒนธรรมในประเทศเพื่อนบ้าน 6. ใบงานที่ 3 เรื่อง ความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรม


๒๑ หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม รหัสวิชา ส 21203 หน้าที่พลเมืองกับการดำรงชีวิต 1 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง ความปรองดองสมานฉันท์ ภาคเรียนที่ 1 เวลา 5 ชั่วโมง จุดเน้นที่ ๔ ความปรองดอง สมานฉันท์ และจุดเน้นที่ 5 ความมีวินัยในตนเอง ผลการเรียนรู้ 5. มีสวนรวมในการแกปญหาความขัดแยงโดยสันติวิธี 6. ปฏิบัติตนเปนผูมีวินัยในตนเอง สาระสำคัญ การปรองดอง คือ การที่ทุกฝ่าย ซึ่งมีความขัดแย้งกันหันหน้าเข้าหากัน เพื่อเจรจาหาข้อยุติ ความขัดแย้งร่วมกัน การหันหน้าเข้าหากัน สาระการเรียนรู้ 1. ความขัดแยง - การทะเลาะวิวาท - ความคิดเห็นไมตรงกัน 2. การแกปญหาความขัดแยงโดยสันติวิธี - การเจรจาไกลเกลี่ย - การเจรจาตอรอง - การระงับความขัดแยง การประเมินผลรวบยอด ชิ้นงานหรือภาระงาน 1. การทำแผนผังความคิด เรื่อง แนวทางในการลดความขัดแย้งของสังคมไทย การประเมิน ประเมินชิ้นงาน และการนำเสนอ ประเด็น การประเมิน ระดับคุณภาพ ดีเยี่ยม (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรุง (1) 1. ความ เรียบร้อยของงาน สะอาดเรียบร้อย เป็นระเบียบ ดูสวยงาม สะอาดเรียบร้อย เป็นระเบียบ ดูธรรมดาไม่ สวยงาม สะอาด แต่ เรียบร้อย ไม่เป็นระเบียบ ดูธรรมดา ไม่สะอาด ไม่ เรียบร้อย ไม่สวยงาม 2 ความถูกต้อง ความครบถ้วน เนื้อหาสมบูรณ์ ถูกต้อง ครบถ้วน เนื้อหาสมบูรณ์ ถูกต้อง ขาดไป เนื้อหาถูกต้อง แต่ขาดหัวข้อที่ เนื้อหาไม่ สมบูรณ์ หัวข้อ


๒๒ ประเด็น การประเมิน ระดับคุณภาพ ดีเยี่ยม (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรุง (1) ของเนื้อหา ตามองค์ประกอบ ทุกประเด็น บางหัวข้อแต่ไม่ สำคัญ เป็นสาระ ไม่ครบ 3. การใช้ภาษา เขียนประโยค สำนวน ภาษา รัดกุม เข้าใจได้ ง่าย เขียนประโยคไม่ รัดกุม แต่สื่อ ความหมายได้ดี เขียนประโยคไม่ รัดกุม สื่อ ความหมายพอ เข้าใจ สำนวนภาษาไม่ รัดกุม สื่อ ความหมาย วกวนไม่ได้ ใจความ 4. การเขียน ตัวสะกด การเขียนถูกต้อง ทุกแห่งไม่มีคำผิด เขียนผิด 1-5 คำ วรรคตอนผิดไม่ เกิน 5 แห่ง เขียนผิด 6-10 คำ วรรคตอนผิด ไม่เกิน 5 แห่ง เขียนผิดมากกว่า 10 คำขึ้นไป วรรคตอนผิดเกิน 5 แห่ง 5. การนำเสนอ ความคิด สร้างสรรค์ มีการนำเสนอด้วย วิธีการแปลกใหม่ มีความคิด สร้างสรรค์สร้าง ความสนใจได้ทุก คน มีการนำเสนอ ด้วยวิธีการแปลก ใหม่ มีความคิด สร้างสรรค์แต่ สร้างความสนใจ ได้ไม่ตลอดการ นำเสนอ มีการนำเสนอ ด้วยวิธีที่เหมือน ทั่วไปแต่สามารถ เรียกความสนใจ ได้ดี มีการนำเสนอ ด้วยวิธีที่เหมือน ทั่วไป แต่ไม่น่าสนใจ 6. ปฏิบัติหน้าที่ เป็นพลเมืองดี (การมีส่วนร่วม) มีส่วนร่วมในการ ดำเนินโครงการ หรือกิจกรรมและ มีส่วนร่วมในการ ตัดสินใจในการ แก้ปัญหาและ รับผิดชอบในผลที่ เกิดขึ้น มีส่วนร่วมในการ ดำเนินโครงการ หรือกิจกรรม และมีส่วนร่วม ในการตัดสินใจ ในการแก้ปัญหา มีส่วนร่วมในการ ดำเนินโครงการ หรือกิจกรรม และมีส่วนร่วมใน การตัดสินใจใน การแก้ปัญหา โดยมีครูเป็นผู้ แนะนำ มีส่วนร่วมในการ ดำเนินโครงการ หรือกิจกรรม แต่ไม่มีส่วนร่วม ในการตัดสินใจ ในการแก้ปัญหา 7. มีวินัยใน ตนเอง (ขยันหมั่นเพียร และตั้งใจปฏิบัติ หน้าที่) ปฏิบัติหน้าที่ที่ ได้รับมอบหมาย ด้วยความไม่ย่อ ท้อ และมีการ ตรวจสอบ ปรับปรุงงานที่ ปฏิบัติหน้าที่ที่ ได้รับมอบหมาย ด้วยความไม่ย่อ ท้อและมีการ ตรวจสอบแต่ไม่ ปฏิบัติหน้าที่ที่ ได้รับมอบหมาย ด้วย ความไม่ย่อท้อ โดยมีครูเป็นผู้ แนะนำ ไม่เต็มใจที่จะ ปฏิบัติหน้าที่ที่ ได้รับมอบหมาย


๒๓ ประเด็น การประเมิน ระดับคุณภาพ ดีเยี่ยม (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรุง (1) ได้รับมอบหมาย เพื่อเพิ่ม ประสิทธิภาพ ของงาน นำผล มาปรับปรุงงาน กิจกรรมการเรียนรู้ ชั่วโมงที่ 1 – 2 1. ครูตั้งคำถาม “ ถ้านักเรียนพบเห็นเพื่อนของนักเรียนทะเลาะกันในห้องเรียน นักเรียน จะมีวิธีแก้ไขปัญหาอย่างไรให้เพื่อนหยุดทะเลาะกัน และกลับมาอยู่ร่วมกันได้ดีเหมือนเดิม (การนำเข้า สู่บทเรียน ) 2. ครูให้ตัวแทนนักเรียนออกมา นำเสนอวิธีการ แก้ไขปัญหา การทะเลาะกันของเพื่อนใน ห้อง 3. ครูให้นักเรียนดู คลิปวิดีโอ ความขัดแย้งของคนในสังคมไทย 4. ให้นักเรียน วิเคราะห์สาเหตุของความขัดแย้ง และความแตกต่างของบุคคล และสังคม ชั่วโมงที่ 3 1. ให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม ศึกษา ความขัดแย้ง ที่มีในสังคมไทย 2. ให้นักเรียนยกตัวอย่างความขัดแย้งที่เกิด โดย ทำเป็นแผนผังความคิด มีประเด็น คือ สาเหตุของความขัดแย้ง สถานการณ์ความขัดแย้งในปัจจุบัน และแนวทางหรือวิธีการในการแก้ไข ปัญหา 3. นำเสนอผลงาน ชั่วโมงที่ 4 – 5 1. ครูให้นักเรียนดู ตัวอย่าง คลิปวีดีของการทำหนังสั้น เกี่ยวกับ ปัญหาสังคม 2. ให้นักเรียน แบ่งกลุ่ม ระดม ความคิด ในการสร้างคลิป หนังสั้น เกี่ยวกับ ความขัดแย้ง และแก้ไขปัญหา โดยมีความยาวไม่เกิน 10 นาที 3. ให้นักเรียนนำเสนอผลงาน ในคาบเรียนต่อไป สื่อการเรียนรู้ 1. ใบงาน 2. ใบความรู้ ปัญหาสังคม ความขัดแย้ง 3. คลิปวีดีโอ เรื่อง ความขัดแย้งของสังคมไทย 4. คลิปวีดีโอ เรื่อง เกี่ยวกับ ปัญหาสังคม


๒๔ หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม รหัสวิชา ส 21204 หน้าที่พลเมืองกับการดำรงชีวิต 2 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง เชิดชูสถาบัน ภาคเรียนที่ 2 เวลา 4 ชั่วโมง จุดเน้นที่ 2 รักชาติ ยึดมั่นในศาสนา และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย และจุดเน้นที่ 5 ความมีวินัยในตนเอง ผลการเรียนรู้ 1. เปนแบบอยางของความรักชาติ ยึดมั่นในศาสนา และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ 5. ปฏิบัติตนเปนผูมีวินัยในตนเอง สาระสำคัญ สามสถาบันหลักของไทย คือ ชาติศาสนา และพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นเครื่องยึดเหนี่ยว ของคนไทยให้เกิดความรักใคร่ปรองดองกัน และอยู่ด้วยกันอย่างสันติสุข สาระการเรียนรู้ การปฏิบัติตนที่แสดงออกถึง - ความรักชาติ - การยึดมั่นในศาสนา - การเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ การประเมินผลรวบยอด ชิ้นงาน/ภาระงานรวบยอด แบบบันทึกผลการปฏิบัติตนที่แสดงออกถึงความรักชาติ ยึดมั่นในศาสนา และเทิดทูน สถาบันพระมหากษัตริย์ การประเมิน ประเด็น การประเมิน ระดับคุณภาพ ดีเยี่ยม (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรุง (1) 1.การปฏิบัติตน เป็นแบบอย่าง ในการ แสดงออกถึง ความรักชาติ ปฏิบัติตนเป็น แบบอย่างที่ดีในการ แสดงออกถึงความรัก ชาติ โดยแสดงความ เคารพและปฏิบัติตน อย่างเหมาะสมต่อ สัญลักษณ์ที่เกี่ยวกับ ชาติ และเข้าร่วม กิจกรรมที่เกี่ยวกับ ปฏิบัติตนเป็น แบบอย่างที่ดีในการ แสดงออกถึงความรัก ชาติ โดยแสดงความ เคารพและปฏิบัติตน อย่างเหมาะสมต่อ สัญลักษณ์ที่เกี่ยวกับ ชาติ และเข้าร่วม กิจกรรมที่เกี่ยวกับ ปฏิบัติตนเป็น แบบอย่างที่ดีในการ แสดงออกถึงความรัก ชาติ โดยแสดงความ เคารพและปฏิบัติตน อย่างเหมาะสมต่อ สัญลักษณ์ที่เกี่ยวกับ ชาติ และเข้าร่วม กิจกรรมที่เกี่ยวกับ ปฏิบัติตนเป็น แบบอย่างที่ดีในการ แสดงออกถึงความรัก ชาติ โดยแสดงความ เคารพและ ปฏิบัติตนอย่าง เหมาะสมต่อ สัญลักษณ์ที่เกี่ยวกับ ชาติ และเข้าร่วม


๒๕ ประเด็น การประเมิน ระดับคุณภาพ ดีเยี่ยม (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรุง (1) ชาติ และวันสำคัญ ของชาติ ได้อย่าง ถูกต้อง เหมาะสม สม่ำเสมอ ชาติ และวันสำคัญ ของชาติ ได้อย่าง ถูกต้อง เหมาะสม บ่อยครั้ง ชาติ และวันสำคัญ ของชาติ ได้อย่าง ถูกต้อง เหมาะสม บางครั้ง กิจกรรมที่เกี่ยวกับ ชาติ และวันสำคัญ ของชาติ เพียงอย่าง ใดอย่างหนึ่งได้อย่าง ถูกต้อง เหมาะสม น้อยครั้ง 2.การปฏิบัติตน เป็นแบบอย่าง ในการ แสดงออกถึง การยึดมั่นใน ศาสนา ปฏิบัติตนเป็น แบบอย่างที่ดีในการ แสดงออกถึงการยึด มั่นในศาสนาโดยเข้า ร่วมกิจกรรมและ ปฏิบัติตนตามหลัก ศาสนาที่ตนนับถือได้ ถูกต้องอย่าง สม่ำเสมอ ปฏิบัติตนเป็น แบบอย่างที่ดีในการ แสดงออกถึงการยึด มั่นในศาสนาโดยเข้า ร่วมกิจกรรมและ ปฏิบัติตนตามหลัก ศาสนาที่ตนนับถือได้ ถูกต้อง บ่อยครั้ง ปฏิบัติตนเป็น แบบอย่างที่ดีในการ แสดงออกถึงการยึด มั่นในศาสนาโดยเข้า ร่วมกิจกรรมและ ปฏิบัติตนตามหลัก ศาสนาที่ตนนับถือได้ ถูกต้อง บางครั้ง ปฏิบัติตนเป็น แบบอย่างที่ดีในการ แสดงออกถึงการยึด มั่นในศาสนาโดยเข้า ร่วมกิจกรรมและ ปฏิบัติตนตามหลัก ศาสนาที่ตนนับถือ เพียงอย่างใดอย่าง หนึ่งได้ถูกต้อง บางครั้ง 3.ความมีวินัย ในตนเอง เกี่ยวกับความ ซื่อสัตย์สุจริต ให้ข้อมูลที่ถูกต้อง และ เป็นจริง ปฏิบัติ ในสิ่งที่ถูกต้อง ไม่ ถือเอา สิ่งของ ทรัพย์สิน หรือผลงาน ของผู้อื่น มาเป็นของตนเอง ไม่ หาประโยชน์ในทางที่ ไม่ถูกต้องอย่าง สม่ำเสมอ ให้ข้อมูลที่ถูกต้อง และ เป็นจริง ปฏิบัติ ในสิ่งที่ถูกต้อง ไม่ ถือเอาสิ่งของ ทรัพย์สิน หรือ ผลงาน ของผู้อื่นมา เป็นของตนเอง ไม่หา ประโยชน์ในทางที่ไม่ ถูกต้องบ่อยครั้ง ให้ข้อมูลที่ถูกต้อง และ เป็นจริง ปฏิบัติ ในสิ่งที่ถูกต้อง ไม่ ถือเอาสิ่งของ ทรัพย์สิน หรือ ผลงาน ของผู้อื่นมา เป็นของตนเอง ไม่หา ประโยชน์ในทางที่ไม่ ถูกต้องบางครั้ง ให้ข้อมูลที่ถูกต้อง และ เป็นจริง ปฏิบัติ ในสิ่งที่ถูกต้อง ไม่ ถือเอาสิ่งของ ทรัพย์สิน หรือ ผลงาน ของผู้อื่นมา เป็นของตนเอง ไม่หา ประโยชน์ในทางที่ไม่ ถูกต้องอย่างใดอย่าง หนึ่ง เป็นบางครั้ง 4.ความมีวินัยใน ตนเอง เกี่ยวกับการ ใฝ่หาความรู้ เอาใจใส่และมีความ พยายามในการ เรียนรู้ แสวงหา ความรู้จากแหล่ง เรียนรู้ต่างๆ เข้าร่วมกิจกรรมการ เรียนรู้ต่างๆ อย่าง สม่ำเสมอ เอาใจใส่และมีความ พยายามในการ เรียนรู้ แสวงหา ความรู้จากแหล่ง เรียนรู้ต่างๆ เข้าร่วมกิจกรรมการ เรียนรู้ต่างๆ บ่อยครั้ง เอาใจใส่และมีความ พยายามในการ เรียนรู้ แสวงหา ความรู้จากแหล่ง เรียนรู้ต่างๆ เข้าร่วมกิจกรรมการ เรียนรู้ต่างๆ บางครั้ง เอาใจใส่และมีความ พยายามในการ เรียนรู้ แสวงหา ความรู้จากแหล่ง เรียนรู้ต่างๆ เข้าร่วมกิจกรรมการ เรียนรู้ต่างๆ เป็นบางครั้ง


๒๖ ประเด็น การประเมิน ระดับคุณภาพ ดีเยี่ยม (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรุง (1) 5.ความมีวินัย ในตนเอง เกี่ยวกับความ ตั้งใจปฏิบัติ หน้าที่ ปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับ มอบหมายจนสำเร็จ ภายในเวลาที่กำหนด อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นประจำ ปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับ มอบหมายจนสำเร็จ ภายในเวลาที่กำหนด อย่างมีประสิทธิภาพ เกือบทุกครั้ง ปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับ มอบหมายจนสำเร็จ ภายในเวลาที่กำหนด อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นบางครั้ง ปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับ มอบหมายจนสำเร็จ แต่ไม่ทันตามเวลา ที่กำหนด กิจกรรมการเรียนรู้ ชั่วโมงที่ 1- 2 1. ครูให้นักเรียนดูคลิปวิดีโอละครเรื่อง ขุนศึก (ครูคัดเลือกตอนที่แสดงให้เห็นถึงความ เสียสละของบรรพบุรุษไทยในการสู้รบกับพม่า เพื่อรักษาเอกราชของชาติไทยไว้) แล้วให้นักเรียน ร่วมกันแสดงความคิดเห็นในประเด็นที่กำหนด 2. ครูอธิบายเชื่อมโยงให้นักเรียนเห็นความสำคัญของความเป็นชาติ และการดำรงไว้ซึ่ง อาณาเขตและเอกราชของชาติ ซึ่งทุกคนในชาติจะต้องร่วมมือร่วมใจกันรักษาไว้ 3. นักเรียนรวมกลุ่มกัน กลุ่มละ 4 คน ตามความสมัครใจ ให้แต่ละกลุ่มจับคู่กันสืบค้น ข้อมูล ข่าวสาร หรือบทความเกี่ยวกับบุคคล หรือกลุ่มบุคคลที่แสดงออกถึงความรักชาติ และค่านิยม ในการสร้างความเป็นไทยให้เข้มแข็งและยั่งยืน มาคู่ละ 1 เรื่อง 4. สมาชิกแต่ละคู่ร่วมกันวิเคราะห์ข้อมูล หรือข่าวเกี่ยวกับบุคคล หรือกลุ่มบุคคลที่ แสดงออกถึงความรักชาติ และค่านิยมในการสร้างความเป็นไทยให้เข้มแข็งและยั่งยืน ในประเด็นที่ กำหนด 5. สมาชิกแต่ละคนในกลุ่มผลัดกันนำเสนอแนวทางการปฏิบัติตนที่แสดงออกถึงความรักชาติ 6. สมาชิกแต่ละกลุ่มตัดสินใจเลือกแนวทางการปฏิบัติตนที่แสดงออกถึงความรักชาติที่ สมาชิกทุกคนในกลุ่มสามารถนำไปปฏิบัติได้จริง แล้วจัดเป็นกิจกรรมที่แสดงออกถึงความรักชาติ พร้อมแนะนำให้ผู้อื่นมีส่วนร่วมในกิจกรรมดังกล่าวกลุ่มละ 1 กิจกรรม 7. สมาชิกแต่ละกลุ่มนำแนวทางการปฏิบัติตนที่แสดงออกถึงความรักชาติที่ได้ตัดสินใจ ร่วมกันมาปฏิบัติ พร้อมแนะนำให้ผู้อื่นมีส่วนร่วมในกิจกรรมดังกล่าว เป็นระยะเวลา 1 เดือน หรือตาม ความเหมาะสม (นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมนอกเวลาเรียน) จากนั้นบันทึกและสรุปผลการปฏิบัติ พร้อม หลักฐานประกอบส่งครูตามกำหนดเวลาที่ตกลงกัน 8. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปแนวทางการปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดีในการแสดงออกถึง ความรักชาติ ชั่วโมงที่ 3 - 4 1. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มเลือกหัวหน้ากลุ่ม รองหัวหน้ากลุ่ม และเลขานุการกลุ่ม โดยครู เน้นย้ำให้นักเรียนร่วมมือและช่วยเหลือกันตลอดการปฏิบัติกิจกรรม 2. ครูนำภาพการปฏิบัติตนของศาสนิกชนในแต่ละศาสนา มาให้นักเรียนดู แล้วให้นักเรียน ร่วมกันแสดงความคิดเห็นในประเด็นที่กำหนด


๒๗ 3. นักเรียนแต่ละกลุ่มแบ่งหน้าที่กันในการสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับบุคคล หรือกลุ่มบุคคลที่ แสดงออกถึงการยึดมั่นในศาสนา จากแหล่งข้อมูลต่างๆ กลุ่มละ 1 เรื่อง แล้วร่วมกันวิเคราะห์และ ตอบคำถามในประเด็นที่กำหนด จากนั้นเขียนเป็นบทความสั้นๆ เกี่ยวกับคุณค่าและความสำคัญ 4. สมาชิกแต่ละกลุ่มตัดสินใจเลือกแนวทางการปฏิบัติตนที่แสดงออกถึงการยึดมั่นใน ศาสนาที่สมาชิกทุกคนในกลุ่มสามารถนำไปปฏิบัติได้จริง แล้วจัดเป็นกิจกรรมที่แสดงออกถึงการยึด มั่นในศาสนา พร้อมแนะนำให้ผู้อื่นมีส่วนร่วมในกิจกรรมดังกล่าว กลุ่มละ 1 กิจกรรม 5. สมาชิกแต่ละกลุ่มนำแนวทางการปฏิบัติตนที่แสดงออกถึงการยึดมั่นในศาสนาที่ได้ ตัดสินใจร่วมกันมาปฏิบัติพร้อมแนะนำให้ผู้อื่นมีส่วนร่วมในกิจกรรมดังกล่าว เป็นระยะเวลา 1 เดือน หรือตามความเหมาะสม (นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมนอกเวลาเรียน) จากนั้นบันทึกและสรุปผลการ ปฏิบัติพร้อมหลักฐานประกอบส่งครูตามกำหนดเวลาที่ตกลงกัน 6. ตัวแทนแต่ละกลุ่มนำเสนอผลการปฏิบัติตนที่แสดงออกถึงการยึดมั่นในศาสนาหน้าชั้น เรียน ครูและเพื่อนกลุ่มอื่นร่วมกันแสดงความคิดเห็นและให้ข้อเสนอแนะ 7. นักเรียนแต่ละกลุ่มนำข้อเสนอแนะที่ได้ไปปรับปรุงการปฏิบัติตน และการจัดกิจกรรมที่ แสดงออกถึงการยึดมั่นในศาสนาของกลุ่มตนเองให้ดียิ่งขึ้น แล้วนำมาเล่าสู่กันฟัง (นอกเวลาเรียน) 8. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปแนวทางการปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดีในการยึดมั่นใน ศาสนา สื่อการเรียนรู้ 1. คลิปวิดีโอละครเรื่อง ขุนศึก https://youtu.be/9suGINIvrcY?t=4 2. ข่าวสาร


๒๘ หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม รหัสวิชา ส 21204 หน้าที่พลเมืองกับการดำรงชีวิต 2 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง ตามรอยเท้าพ่อ ภาคเรียนที่ 2 เวลา 6 ชั่วโมง จุดเน้นที่ 2 รักชาติ ยึดมั่นในศาสนา และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย และจุดเน้นที่ 5 ความ มีวินัยในตนเอง ผลการเรียนรู้ 2. ประยุกตและเผยแพรพระบรมราโชวาท หลักการทรงงาน และหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียง 5. ปฏิบัติตนเปนผูมีวินัยในตนเอง สาระสำคัญ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ ที่มีพระราชกรณีย กิจมากมาย ทั้งในด้านการอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ด้านการแพทย์และ สาธารณสุข ด้านการศึกษา ด้านศาสนา ด้านความมั่นคงภายในประเทศ ด้านความสัมพันธ์ระหว่าง ประเทศ ด้านศิลปะวัฒนธรรม และด้านการกีฬา สาระการเรียนรู้ 1. พระบรมราโชวาท - มีเหตุผล - รอบคอบ 2. หลักการทรงงาน - การใชธรรมชาติชวยธรรมชาติ - การปลูกปาในใจคน การประเมินผลรวบยอด ชิ้นงานหรือภาระงาน 1. แผนผังความคิด เรือง หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 2. สมุดภาพหลักการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว


๒๙ การประเมิน ประเด็น การประเมิน ระดับคุณภาพ ดีเยี่ยม (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรุง (1) 1. เข้าใจพระบรม ราโชวาท หลักการทรงงาน และหลักปรัชญา ของเศรษฐกิจ พอเพียง รู้และเข้าใจพระ บรมราโชวาท หลักการทรงงาน และหลักปรัชญา ของ เศรษฐกิจ พอเพียง สามารถ นำความรู้ไปใช้ใน ชีวิตประจำวัน รู้และเข้าใจพระ บรมราโชวาท หลักการทรงงาน และหลักปรัชญา ของเศรษฐกิจ พอเพียง แต่นำ ความรู้ไปใช้ใน ชีวิตประจำวันได้ บางเรื่อง รู้และเข้าใจพระ บรมราโชวาท หลักการทรงงาน และหลักปรัชญา ของเศรษฐกิจ พอเพียง แต่ไม่ สามารถนำความรู้ ไปใช้ใน ชีวิตประจำวัน ไม่เข้าใจพระบรม ราโชวาท หลักการ ทรงงาน และหลัก ปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียง 2. มีวินัยในตนเอง (ขยันหมั่นเพียร และ ตั้งใจปฏิบัติ หนาที่) ปฏิบัติหนาที่ที่ได รับ มอบหมาย ดวยความไมยอ ทอและ มีการ ตรวจสอบ ปรับปรุงงานที่ได รับมอบหมายเพื่อ เพิ่มประสิทธิภาพ ของงาน ปฏิบัติหนาที่ที่ได รับ มอบหมาย ดวยความไมยอทอ และมีการ ตรวจสอบ แตไม นําผล มาปรับปรุง งาน ปฏิบัติหนาที่ที่ ไดรับ มอบหมาย ดวย ความไมยอท อโดยมีครูเปน ผู แนะนํา ไมเต็มใจที่จะ ปฏิบัติ หนาที่ที่ได รับ มอบหมาย กิจกรรมการเรียนรู้ ชั่วโมงที่ 1 1. นักเรียนดูวีดีทัศน์เกี่ยวกับพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและงาน เศรษฐกิจพอเพียง 2. นักเรียน ร่วมกันสรุปความรู้ที่ได้เกี่ยวกับวีดีทัศน์ ชั่วโมงที่ 2 3. ครูอธิบายความหมายและความเป็นมาของเศรษฐกิจพอเพียง 4. ครูให้นักเรียนยกตัวอย่างเกษตรทฤษฎีใหม่ที่นักเรียนรู้จักว่ามีอะไรบ้าง แล้วครูอธิบาย เพิ่มเติม 5. ครูให้นักเรียนสัมภาษณ์พ่อแม่ หรือผู้ปกครองว่า รู้ความเป็นมาของเศรษฐกิจพอเพียง หรือไม่ อย่างไร จากนั้นนำผลมาร่วมกันอภิปรายแสดงความคิดเห็น


๓๐ ชั่วโมงที่ 3 6. ครูสนทนากับนักเรียนเกี่ยวกับหลักการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 7. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4 – 6 คน ค้นคว้าหาข่าวเกี่ยวกับหลักการทรงงานของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจากสื่อหรือแหล่งการเรียนรู้ต่าง ๆ เช่น หนังสือพิมพ์ อินเทอร์เน็ต หรือ วารสารต่าง ๆ 8. ครูให้แต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมาเล่าข่าวเกี่ยวกับหลักการทรงงานของพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวที่ค้นคว้ามา 9. ครูให้นักเรียนหาบทความที่เกี่ยวกับหลักการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แล้วนำมาจัดทำเป็นสมุดภาพ ชั่วโมงที่ 4 10.ครูสนทนากับนักเรียนเกี่ยวกับโครงการตามพระราชดำริ 11.ครูถามนักเรียนว่ามีโครงการตามพระราชดำริอะไรบ้างที่เรารู้จัก นักเรียนตอบแล้วครู อธิบายเพิ่มเติม 12. ครูให้นักเรียนจับคู่กับเพื่อนสำรวจในชุมชนของตนเองว่ามีโครงการตามพระราชดำริ อะไรบ้าง แล้วบันทึกลงในแบบสำรวจ 13. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เรื่อง หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยให้นักเรียน สรุปเป็นแผนที่ความคิด สื่อการเรียนรู้ 1. สื่อวีดีทัศน์ หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง


๓๑ หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม รหัสวิชา ส 21204 หน้าที่พลเมืองกับการดำรงชีวิต 2 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง พลเมืองดีตามวิถีประชาธิปไตย ภาคเรียนที่ 2 เวลา 9 ชั่วโมง จุดเน้นที่ ๓ ความเปนพลเมืองดีในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริยทรงเปนประมุข จุดเน้นที่ 5 ความมีวินัยในตนเอง ผลการเรียนรู้ 3. ปฏิบัติตนเปนพลเมืองดีตามวิถีประชาธิปไตย 4. มีสวนรวมและรับผิดชอบในการตัดสินใจ ตรวจสอบขอมูลเพื่อใชประกอบการตัดสินใจ ในกิจกรรมตาง ๆ 5. ปฏิบัติตนเปนผูมีวินัยในตนเอง สาระสำคัญ พลเมืองดีนั้น คือ คนที่ดำเนินชีวิตอย่างมีคุณภาพ มีจิตใจที่ดีงาม มีคุณธรรม จริยธรรม ที่พึง ประสงค์ทั้งด้านจิตใจและพฤติกรรมที่แสดงออก ได้แก่ มีวินัย ประหยัด รู้หน้าที่ ซื่อสัตย์ มีเหตุผล เคารพความคิดเห็นผู้อื่น สามารถอยู่ร่วมกับคนอื่นได้อย่างเป็นสุข สาระการเรียนรู้ 1. พลเมืองดีตามวิถีประชาธิปไตย - มีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ ของสังคม - การตัดสินใจโดยใช้เหตุผล 2. การมีส่วนร่วมและรับผิดชอบในการตัดสินใจต่อกิจกรรมของห้องเรียน และโรงเรียน 3. การตรวจสอบข้อมูล 4. คุณลักษณะของผู้มีวินัยในตนเอง - ขยันหมั่นเพียร อดทน - ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ - ยอมรับผลที่เกิดจากการกระทำของตนเอง การประเมินผลรวบยอด แบบบันทึกผลการปฏิบัติตนที่แสดงถึงความเป็นพลเมืองดีตามวิถีประชาธิปไตย การประเมิน ประเด็น การประเมิน ระดับคุณภาพ ดีเยี่ยม (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรุง (1) 1.การปฏิบัติตนเป็น พลเมืองดีตาม วิถีประชาธิปไตย เกี่ยวกับการมี ส่วน ปฏิบัติตนเป็น พลเมืองดีตามวิถี ประชาธิปไตย โดยมีส่วนร่วมใน ปฏิบัติตนเป็น พลเมืองดีตามวิถี ประชาธิปไตย โดยมีส่วนร่วมใน ปฏิบัติตนเป็น พลเมืองดีตามวิถี ประชาธิปไตย โดยมีส่วนร่วมใน ปฏิบัติตนเป็น พลเมืองดีตามวิถี ประชาธิปไตย โดย มีส่วนร่วมใน


๓๒ ประเด็น การประเมิน ระดับคุณภาพ ดีเยี่ยม (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรุง (1) ร่วมในกิจกรรมต่างๆ ของสังคมและ การตัดสินใจ ใช้เหตุผล กิจกรรมต่างๆ ของสังคม ด้วย การเคารพกฎ กติกาของสังคม เคารพสิทธิและ ความคิดเห็นของ ผู้อื่น ใช้เหตุผลใน การตัดสินใจ วิพากษ์ วิจารณ์ และแสดง ความเห็นอย่างมี เหตุผล อย่า สม่ำเสมอ กิจกรรมต่างๆ ของสังคม ด้วย การเคารพกฎ กติกาของสังคม เคารพสิทธิและ ความคิดเห็นของ ผู้อื่น ใช้เหตุผลใน การตัดสินใจ วิพากษ์ วิจารณ์ และแสดง ความเห็นอย่างมี เหตุผล บ่อยครั้ง กิจกรรมต่างๆ ของสังคม ด้วย การเคารพกฎ กติกาของสังคม เคารพสิทธิและ ความคิดเห็นของ ผู้อื่น ใช้เหตุผลใน การตัดสินใจ วิพากษ์ วิจารณ์ และแสดง ความเห็นอย่างมี เหตุผล บางครั้ง กิจกรรมต่างๆ ของ สังคม ด้วยการ เคารพกฎ กติกา ของสังคม เคารพ สิทธิและความ คิดเห็นของผู้อื่น แต่มีการ วิพากษ์วิจารณ์ โดยไม่ใช้เหตุผล 2.การมีส่วนร่วมและ รับผิดชอบ ในการตัดสินใจและ ตรวจสอบข้อมูลเพื่อ ใช้ประกอบการ ตัดสินใจในกิจกรรม ต่างๆ มีส่วนร่วมและ รับผิดชอบในการ ตัดสินใจต่อ กิจกรรมของ ห้องเรียนและ โรงเรียน โดยร่วม แสดงความคิดเห็น วางแผนการดำเนิน กิจกรรม และ ตรวจสอบข้อมูล อย่างสม่ำเสมอ มีส่วนร่วมและ รับผิดชอบในการ ตัดสินใจต่อ กิจกรรมของ ห้องเรียนและ โรงเรียน โดยร่วม แสดงความคิดเห็น วางแผนการดำเนิน กิจกรรม และ ตรวจสอบข้อมูล บ่อยครั้ง มีส่วนร่วมและ รับผิดชอบในการ ตัดสินใจต่อ กิจกรรมของ ห้องเรียนและ โรงเรียน โดยร่วม แสดงความคิดเห็น วางแผนการดำเนิน กิจกรรม และ ตรวจสอบข้อมูล บางครั้ง มีส่วนร่วมและ รับผิดชอบในการ ตัดสินใจต่อ กิจกรรมของ ห้องเรียนและ โรงเรียน โดยร่วม แสดงความคิดเห็น วางแผนการดำเนิน กิจกรรม แต่ไม่มี การตรวจสอบ ข้อมูล 3.ความมีวินัยในตนเอง เกี่ยวกับความขยัน หมั่นเพียร อดทน มีความทุ่มเท มุ่งมั่นกระตือรือร้น ที่จะทำงานใน หน้าที่ของตนเอง ให้ประสบ ความสำเร็จอยู่ เสมอ และไม่ย่อท้อ ต่ออุปสรรคอย่าง สม่ำเสมอ มีความทุ่มเท มุ่งมั่นกระตือรือร้น ที่จะทำงานใน หน้าที่ของตนเอง ให้ประสบ ความสำเร็จอยู่ เสมอ แต่ท้อถอย ต่อปัญหาและ อุปสรรค เป็นบางครั้ง สามารถทำงานใน หน้าที่ให้ประสบ ความสำเร็จได้ แต่ ขาดความทุ่มเท มุ่งมั่นและ กระตือรือร้น ท้อถอยต่อปัญหา และอุปสรรคเป็น บางครั้ง สามารถทำงานใน หน้าที่ให้ประสบ ความสำเร็จได้ เป็น บางครั้ง และขาด ความทุ่มเท มุ่งมั่น และกระตือรือร้น มักท้อถอยต่อ ปัญหาและ อุปสรรค


๓๓ ประเด็น การประเมิน ระดับคุณภาพ ดีเยี่ยม (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรุง (1) 4.ความมีวินัย ในตนเองเกี่ยวกับ ความตั้งใจปฏิบัติ หน้าที่ ปฏิบัติหน้าที่ที่ ได้รับมอบหมายจน สำเร็จภายในเวลา ที่กำหนดอย่างมี ประสิทธิภาพเป็น ประจำ ปฏิบัติหน้าที่ที่ ได้รับมอบหมายจน สำเร็จภายในเวลา ที่กำหนดอย่างมี ประสิทธิภาพเกือบ ทุกครั้ง ปฏิบัติหน้าที่ที่ ได้รับมอบหมายจน สำเร็จภายในเวลา ที่กำหนดอย่างมี ประสิทธิภาพเป็น บางครั้ง ปฏิบัติหน้าที่ที่ ได้รับมอบหมายจน สำเร็จแต่ไม่ทัน ตามเวลาที่กำหนด 5.ความมีวินัย ในตนเองเกี่ยวกับ การยอมรับผล ที่เกิดจากการกระทำ ของตนเอง ยอมรับผลที่เกิด จากการกระทำ ของตนเองด้วย ความเต็มใจไม่ว่า จะเป็นผลดีหรือ ผลเสียและไม่ปัด ความรับผิดชอบ ให้ผู้อื่น ยอมรับผลที่เกิด จากการกระทำ ของตนเองที่เป็น ผลดีด้วยความ เต็มใจ ยอมรับ ผลเสียเมื่อมีผู้ถาม ความรับผิดชอบ และไม่ปัดความ รับผิดชอบ ยอมรับผลที่เกิด จากการกระทำ ของตนเองที่เป็น ผลดีด้วยความ เต็มใจ ไม่ยอมรับ ผลเสีย ไม่ปัด ความรับผิดชอบ ยอมรับผลที่เกิด จากการกระทำ ของตนเองเฉพาะ ผลดี และปัด ความรับผิดชอบ ให้ผู้อื่นเป็น บางครั้ง กิจกรรมการเรียนรู้ ชั่วโมงที่ 1 – 3 1. ครูแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน คละกันตามความสามารถ แล้วให้แต่ละกลุ่ม แบ่งหน้าที่กันสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับบุคคล หรือกลุ่มบุคคลที่ปฏิบัติตนเป็นพลเมืองดีตามวิถี ประชาธิปไตย จากแหล่งข้อมูลที่หลากหลาย 2. สมาชิกแต่ละคนนำข้อมูลที่ได้จากการสืบค้นมาร่วมกันวิเคราะห์ในประเด็นที่กำหนด แล้วเขียนสรุปเป็นแผนผังความคิด ชั่วโมงที่ 4 – 6 1. สมาชิกแต่ละกลุ่มผลัดกันนำเสนอแนวทางการปฏิบัติตนที่แสดงออกถึงการเป็นพลเมือง ดีตามวิถีประชาธิปไตย โดยการเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม 2. สมาชิกแต่ละกลุ่มตัดสินใจเลือกและตัดสินใจอย่างมีเหตุผล เพื่อปฏิบัติตนที่แสดงออกถึง การเป็นพลเมืองดีตามวิถีประชาธิปไตย โดยการเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมที่ สมาชิกทุกคนในกลุ่มสามารถนำไปปฏิบัติได้จริง 3. สมาชิกแต่ละกลุ่มนำแนวทางการปฏิบัติตนที่แสดงออกถึงการเป็นพลเมืองดีตามวิถี ประชาธิปไตย โดยการเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมที่ได้ร่วมกันตัดสินใจมาปฏิบัติ เป็นระยะเวลา 1 เดือน หรือตามความเหมาะสม (นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมนอกเวลาเรียน) จากนั้น บันทึกและสรุปผลการปฏิบัติ พร้อมหลักฐานประกอบส่งครูตามกำหนดเวลาที่ตกลงกัน 4. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปแนวทางการปฏิบัติตนเป็นพลเมืองดีตามวิถีประชาธิปไตย และผลที่เกิดจากการปฏิบัติทั้งต่อตนเองและประเทศชาติ


๓๔ ชั่วโมงที่ 7 – 9 1. ครูเชิญตัวแทนคณะกรรมการนักเรียนมาเล่าประสบการณ์การทำงาน หรือความ ประทับใจเกี่ยวกับกิจกรรมต่างๆ ที่ตนเองมีส่วนร่วมในการจัดขึ้นในโรงเรียน แล้วให้นักเรียนร่วมกัน สังเกตและแสดงความคิดเห็นในประเด็นที่กำหนด 2. ครูแจกตัวอย่างโฆษณาผลิตภัณฑ์ลดความอ้วนที่กำหนดให้ แล้วตอบคำถามที่กำหนด 3. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันวิเคราะห์และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมและ รับผิดชอบในการตัดสินใจต่อกิจกรรมของห้องเรียน โรงเรียน และการตรวจสอบข้อมูล 4. ตัวแทนแต่ละกลุ่มนำเสนอผลการวิเคราะห์เกี่ยวกับการมีส่วนร่วมและรับผิดชอบใน การตัดสินใจต่อกิจกรรมของห้องเรียนและโรงเรียนในรูปแบบที่หลากหลาย และการตรวจสอบข้อมูล 5. นักเรียนผลัดกันนำเสนอแนวทางการปฏิบัติตนในการมีส่วนร่วมและรับผิดชอบในการ ตัดสินใจต่อกิจกรรมของห้องเรียนและโรงเรียน แล้วนำไปปฏิบัติ จากนั้นนำเสนอผลการปฏิบัติพร้อม หลักฐานประกอบ 6. นักเรียนแต่ละกลุ่มหาข่าว โฆษณา หรือแผ่นพับประชาสัมพันธ์สถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ เป็นต้น มากลุ่มละ 1 เรื่อง แล้วร่วมกันวิเคราะห์และแสดงความคิดเห็นในประเด็นที่กำหนด 7. นักเรียนร่วมกันสรุปความสำคัญของการมีส่วนร่วมและรับผิดชอบในการจัดกิจกรรม ของห้องเรียน และโรงเรียน ความสำคัญและความจำเป็นของการตรวจสอบข้อมูลก่อนการตัดสินใจ ปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ สื่อการเรียนรู้ 1) หนังสือกิจกรรม หน้าที่พลเมือง 1-2 ม.1 2) หนังสือเรียน หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม ม.๑ 3) หนังสือพิมพ์ นิตยสาร วารสาร โทรทัศน์ 4) ข่าว โฆษณา หรือแผ่นพับประชาสัมพันธ์สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ 5) ตัวอย่างโฆษณาผลิตภัณฑ์ลดความอ้วน 6) คลิปวิดีโอรายการ พลเมืองตัวเล็ก 7) CD เพลงพลเมืองดี 8) เนื้อเพลงพลเมืองดี 9) กระดาษขนาด A4 10) บัตรภาพ 11) แหล่งข้อมูลสารสนเทศ - http://www.sanook.com/hot/search/all/พลเมืองดี/ - http://www.youtube.com/watch?v=zHi8Ocm7cLw - http://www.youtube.com/watch?v=MAa3nC4KKw0


๓๕ การจัดการเรียนรู้รายวิชาเพิ่มเติมหน้าที่พลเมืองกับการดำรงชีวิต ลักษณะสำคัญของการจัดการเรียนรู้ ๑. การจัดการเรียนรู้รายวิชาเพิ่มเติมหน้าที่พลเมืองกับการดำรงชีวิต ตามจุดเน้นทั้ง ๕ นั้น มีเป้าหมายสำคัญเพื่อให้เยาวชนมีลักษณะที่ดีของคนไทย เห็นคุณค่าและมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ ศิลปวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม และประเพณีไทยเห็นคุณค่าและแสดงออกถึงความรักชาติยึดมั่นใน ศาสนา และเทิดทูนสถาบัน พระมหากษัตริย์ดำเนินชีวิต ตามวิถีประชาธิปไตย มีส่วนร่วมทางการเมือง การปกครองในระบอบ ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข สามารถอยู่ร่วมกันใน สังคมแห่งความหลากหลายและ จัดการความขัดแย้งโดยสันติวิธี ซึ่งสอดคล้องกับค่านิยมหลัก ๑๒ ประการ ๒. รายวิชาเพิ่มเติมหน้าที่พลเมืองกับการดำรงชีวิต มีผลการเรียนรู้ที่มีเป้าหมายเน้นให้ผู้เรียน ตระหนักและเห็น คุณค่าในเรื่องที่เรียนรู้และลงมือปฏิบัติจริง ซึ่งเป็นการต่อยอดการเรียนรู้จาก รายวิชาพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ตามหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ๓. การจัดการเรียนรู้รายวิชาเพิ่มเติมหน้าที่พลเมืองกับการดำรงชีวิตตามจุดเน้นแต่ละจุดเน้น โดยบูรณาการจุดเน้นที่ ๕ ความมีวินัยในตนเอง ที่สอดคล้องกับผลการเรียนรู้และสาระการเรียนรู้ของ จุดเน้นที่ ๑ - ๔ ที่เกี่ยวข้อง 4. จัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบบูรณาการเนื้อหาของหลักสูตรต้านทุจริตศึกษาไว้ในหน่วยการ เรียนรู้รายวิชาหน้าที่พลเมืองกับการดำรงชีวิต โดยเนื้อหาของหลักสูตรต้านทุจริตศึกษาประกอบด้วย 4 เนื้อหา ได้แก่ 4.1 การคิดแยกแยะระหว่าง ผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์ส่วนรวม 4.2 ความละอายและความไม่ทนต่อการทุจริต 4.3 STRONG / จิตพอเพียงต่อต้านการทุจริต 4.4 พลเมืองและความรับผิดชอบต่อสังคม 5. การจัดการเรียนรู้ในแต่ละหน่วยการเรียนรู้อาจจัดให้สอดคล้องกับเหตุการณ์สถานการณ์ที่ เกี่ยวข้องกับจุดเน้น ทั้ง ๕ จุดเน้น


๓๖ แนวการจัดการเรียนการสอนรายวิชาเพิ่มเติมหน้าที่พลเมืองกับการดำรงชีวิต การเรียนการสอนรายวิชาเพิ่มเติมหน้าที่พลเมืองกับการดำรงชีวิตมีจุดเน้นสำคัญ คือ ต้องการ ให้เยาวชนไทยเป็นพลเมืองที่ดีของสังคมไทย คือ มีความเป็นไทย รักชาติ ยึดมั่นในศาสนา เทิดทูน สถาบันพระมหากษัตริย์ เป็น พลเมืองดีที่มีวิถีชีวิตและมีส่วนร่วมในการเมืองการปกครอง ในระบอบ ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข อยู่ร่วมกันในสังคมอย่างปรองดองสมานฉันท์ พร้อมด้วยคุณลักษณะความมีวินัยในตนเอง ดังนั้น การเรียนการสอนรายวิชาเพิ่มเติมนี้ จึงเน้นที่การ ปฏิบัติลงมือทำ (Action) เพื่อให้เป็นพลเมืองที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งมีผลต่อกระบวนการเรียนการสอน ผู้สอนจะต้องทำให้การเรียนการสอนมีความหมายและมีคุณค่าแก่ผู้เรียน เพื่อจะทำให้เกิดประโยชน์ที่ แท้จริงแก่เยาวชนและสังคมโดยรวม แนวปฏิบัติสำคัญที่จะทำให้การเรียนการสอนวิชาหน้าที่พลเมืองกับการดำรงชีวิตบรรลุ วัตถุประสงค์ มีดังนี้ 1. ผู้สอนต้องเข้าใจมโนทัศน์ (Concept) สำคัญของรายวิชานี้ นั่นคือ การเข้าใจในจุดเน้นที่ เป็น พื้นฐานสำคัญ ซึ่งวัตถุประสงค์ของรายวิชานี้ต้องการพัฒนาทักษะ ค่านิยม และคุณลักษณะ ซึ่ง สะท้อนด้วยการปฏิบัติ (Action) 2. การวางแผนการสอนจะต้องเน้นการพัฒนาที่ต่อเนื่อง (Continuous Development) ของ กระบวนการคิด กระบวนการสืบค้น กระบวนการแก้ปัญหา รวมทั้งกระบวนการพัฒนาค่านิยม เพื่อให้ผู้เรียน เกิดการเรียนรู้และนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่พึงประสงค์ ดังนั้น การวางแผนการสอน ควรเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ทำกิจกรรม ดังนี้ 1) ตั้งคำถามด้วยตนเองเพื่อการสืบค้น 2) มีส่วนร่วมในกิจกรรมที่หลากหลายในการสืบค้นข้อมูล 3) ฝึกการวิเคราะห์โดยใช้ข้อมูลจริง (Real Data) ในสภาพจริง ทั้งนี้ มีผู้เชี่ยวชาญการ สอน สังคมศึกษาหลายท่านเสนอว่าต้องเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้สำรวจ (Survey) หรือสัมภาษณ์ จาก แหล่งข้อมูลที่เป็นปฐมภูมิ 4) ผู้เรียนทำงานเป็นกลุ่มร่วมกันกับเพื่อน รวมทั้งบุคคลอื่นในชุมชนตามโอกาสและวุฒิ ภาวะ ของผู้เรียน 5) นำเสนองาน หรือผลงานด้วยวิธีการที่หลากหลาย เช่น จัดอภิปราย ทำป้ายนิเทศ จัด นิทรรศการ แสดงบทบาทสมมุติ จัดทำ Video Clip เป็นต้น 3. การสอนหน้าที่พลเมืองกับการดำรงชีวิตต้องเน้นความเชื่อมโยง หรือความเกี่ยวข้อง (Relevant) การลงมือทำ หรือปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง (Engaging) และเรียนรู้อย่างกระตือรือร้น (Active Learning) 3.1 ความเชื่อมโยงหรือความเกี่ยวข้อง (Relevant) คือ การใช้ประเด็นจริง (Real Issue) ที่เป็นปัจจุบันที่เกี่ยวข้องกับความคิดของคนว่าจะถูก หรือผิด ดี หรือไม่ดี มีคุณค่าหรือไม่มีคุณค่า เพื่อการเรียนรู้ของผู้เรียนจะเชื่อมโยงกับประสบการณ์จริง แต่ในกรณีใช้ประเด็นจริงผู้สอนควรใช้ วิจารณญาณเพราะบางประเด็นอาจมีความอ่อนไหว (Sensitive) ต่อสังคมรวมทั้งควรคำนึงถึงวัยและ วุฒิภาวะของผู้เรียนด้วย 3.2 การลงมือทำหรือปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง (Engaging) การเรียนจากประสบการณ์จริงถือ ว่าเป็นหลักการสำคัญของการสอนหน้าที่พลเมืองกับการดำรงชีวิต และเป็นที่ยอมรับของนักการศึกษา ทั่วโลก ดังนั้น การลงมือทำ (ปฏิบัติ) อย่างต่อเนื่องกับประเด็นจริง (Real Issue) หรือเหตุการณ์จริง


๓๗ ทั้งในระดับครอบครัว ห้องเรียน โรงเรียนหรือชุมชนจึงเป็นสิ่งสำคัญ ตัวอย่างต่อไปนี้เป็นข้อเสนอแนะ ในประเด็นจริง หรือเหตุการณ์จริงที่อาจนำมาใช้กับผลการเรียนรู้ของรายวิชาหน้าที่พลเมืองกับการ ดำรงชีวิตได้ ประชาธิปไตยในโรงเรียน เช่น จัดให้มีกรรมการห้องเรียน สภานักเรียน การแก้ปัญหา เช่น จัดกิจกรรมการดูแลสิ่งแวดล้อมและ สาธารณสมบัติ วันสำคัญ/เหตุการณ์สำคัญ เช่น จัดกิจกรรมการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ จัดกิจกรรมวันรัฐธรรมนูญ วันประชาธิปไตย สากล การรณรงค์ เช่น จัดกิจกรรมรณรงค์การต่อต้านการฉ้อราษฎร์ บังหลวง มีจิตสาธารณะ เช่น จัดกิจกรรมช่วยเหลือผู้ประสบภัยต่าง ๆ หรือ ผู้ที่เดือดร้อน การยอมรับ เช่น การทำแบบวัดเจตคติการทำวิจัยเกี่ยวกับความ หลากหลายทางวัฒนธรรม ความหลากหลายทาง วัฒนธรรม 3.3 เรียนอย่างกระตือรือร้น (Active) การเรียนอย่างกระตือรือร้นก็คือ การเรียนที่ผู้เรียน ต้อง “ทำ” หรือ “do” ทั้งนี้ การเรียนโดยผ่านการอภิปราย (Discussion) เป็นวิธีที่สำคัญในการเรียน รายวิชาหน้าที่พลเมืองฯ เพราะการอภิปรายเป็นทักษะที่สำคัญในการเรียนและทักษะของความเป็น พลเมือง (Citizenship skill) เพื่อแสดงออกซึ่งสิทธิและเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น การ อภิปรายโดยทั่วไปคงไม่ใช่การอภิปรายที่ เกี่ยวข้องกับประเด็นความเป็นพลเมือง (Citizenship Discussion) Sandie Llewellin (2001) นักการศึกษา ด้านความเป็นพลเมือง (Citizenship Education) ได้เสนอว่า การอภิปรายที่เกี่ยวข้องกับความเป็นพลเมืองควรมีลักษณะ ดังนี้ 1. เป็นประเด็นที่เกิดขึ้นจริง (Real Life Issue) 2. เกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตของประชาชน (Deal with Public Dimension of Life ) 3. เกี่ยวข้องกับเยาวชนในฐานะเป็นพลเมืองคนหนึ่ง (Relate to Young People as Citizens) 3.4 การเรียน (Learning) การเรียนรู้เรื่อง หน้าที่พลเมืองกับการดำรงชีวิตจะมี ประสิทธิภาพต่อเมื่อมีบรรยากาศของห้องเรียนที่มีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ไม่มีบรรยากาศ ของการใช้อำนาจ หรือทำให้ผู้เรียนเกิดความ ไม่สบายใจ กลยุทธ์สำคัญที่จะทำให้ผู้เรียนในบริบทของ สังคมไทยเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ คือ 1. จัดการทำงานเป็นกลุ่มเล็ก เพื่อให้ผู้เรียนมีโอกาสแสดงความคิดเห็นได้ทั่วถึงกว่า การทำงานในกลุ่มใหญ่ 2. เปิดโอกาสให้ผู้เรียนมีส่วนกำหนดกติกาในการทำงาน คุณภาพของงาน ประเด็น การอภิปรายหรือประเด็นที่จะศึกษาตลอดจนการจัดกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง เพื่อที่ผู้เรียนเกิดความรู้สึกว่า การเรียน หรือ การทำงานนั้นมีความหมายและมีคุณค่าจะได้ทำงานอย่างต่อเนื่องและตั้งใจ (Engaging)


๓๘ 3. เปิดโอกาสให้ผู้เรียนทุกคนแสดงความคิดเห็นและเมื่อมีข้อสรุปความคิดเห็นของ ทุกคน ควรจะอยู่ในข้อสรุปนั้น ๆ ด้วย 4. ครูควรสร้างความรู้สึกว่าการประสบความสำเร็จ คือ การเรียนรู้ หรือการทำงาน โดยผ่านกระบวนการต่าง ๆ เป็นรางวัลที่น่าภูมิใจ 5. ครูควรคำนึงถึงการเรียนรู้หลาย ๆ รูปแบบ (Learning Style) ของผู้เรียน การจัด กิจกรรมจึงควรมีหลากหลาย เช่น การสาธิต การตอบคำถาม การอภิปราย การค้นคว้าวิจัย การทำ โครงการ การสำรวจ การแก้ปัญหา การใช้เกม การแสดงบทบาทสมมติ การใช้สถานการณ์จำลอง การ ใช้กรณีศึกษา (Case Study) โดยมีการทำงานกลุ่มเล็กและรายบุคคล 6. กรณีการเรียนรู้ที่เป็นกระบวนการควรจัดให้ครบขั้นตอนอย่างต่อเนื่อง แต่ครูก็อาจ นำบางขั้นตอนมาจัดกิจกรรมแยกได้ เช่น กิจกรรมการวิเคราะห์ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่อยู่ในขั้นตอนของ กระบวนการ เรียนการสอนหลายรูปแบบสามารถนำมาจัดเป็นกิจกรรมแยกออกมาได้ตามความ เหมาะสม เป็นการฝึกความสามารถในการวิเคราะห์ หรือการจัดการกับข้อมูลต่าง ๆ แก่ผู้เรียน 7. ครูควรมีการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ของผู้เรียนอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา ในการจัดการเรียนรู้เพื่อสะท้อนการปฏิบัติของผู้เรียนในสภาพจริง ทั้งนี้ การวัดและประเมินหน้าที่ พลเมืองต้องมีการประเมินภาระงานที่เกี่ยวกับกิจกรรมให้ผู้เรียนปฏิบัติ การสร้างลักษณะนิสัย รวมทั้ง กระบวนการทำงานและคุณภาพงาน ด้วยวิธีการและเครื่องมือการวัดและประเมินผลที่หลากหลาย จากหลักการสอนทั้ง 4 หลัก ข้างต้น Sadie Llewellin (2001) ได้สรุปหลักการสอนว่าเป็น RE-A-L: Relevant, Engaging and Active Learning และแสดงความเห็นว่าการทำงานในลักษณะโครงงาน (Project Work) เป็นกิจกรรมที่สำคัญในการเรียนการสอนหน้าที่พลเมือง เพราะเป็นการเปิดโอกาสให้ ผู้เรียนได้รับผิดชอบในการเรียนรู้มีวินัย และเป็นการเรียนรู้ที่เป็น Active Learningผู้เรียนได้มีโอกาส ศึกษาประเด็นต่าง ๆ ในสังคมที่เกิดขึ้นจริง ศึกษาปัญหาอุปสรรค และเรียนรู้ในการแก้ไข เรียนรู้ บทบาทของพลเมืองดีในสังคมเพื่อ การเตรียมตัวเป็นพลเมืองดีของชาติในอนาคต


๓๙ การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ เนื่องจากการเรียนรู้ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม มุ่งพัฒนาให้ ผู้เรียน มีความรู้ ทักษะกระบวนการ คุณธรรมและค่านิยมที่ดีงาม มุ่งให้ผู้เรียนเป็นผู้ลงมือปฏิบัติ แสวงหาความรู้ มีการทำโครงงาน เป็นผู้ผลิตผลงาน มีการทำงานกลุ่ม และจัดทำแฟ้มสะสมงานด้วย ในการวัดและประเมินผลเพื่อให้ได้ข้อมูลที่เน้นความสามารถและคุณลักษณะที่แท้จริงของ ผู้เรียนจะต้องใช้วิธีการและเครื่องมือที่หลากหลาย เช่น 1. การทดสอบ เป็นการประเมินเพื่อตรวจสอบการเรียนรู้ ความคิด ความก้าวหน้าในสาระ การเรียนรู้ มีเครื่องมือวัดหลายแบบ เช่นแบบเลือกตอบ แบบเขียนตอบ แบบบรรยาย แบบเติม คำสั้น ๆ แบบถูกผิด แบบจับคู่ เป็นต้น 2.การสังเกต เป็นการประเมินพฤติกรรม อารมณ์ การมีปฏิสัมพันธ์ของผู้เรียน ความสัมพันธ์ ในระหว่างการทำงานกลุ่ม ความร่วมมือในการทำงาน ความอดทน วิธีการแก้ปัญหา การใช้เครื่องมือ อุปกรณ์ต่าง ๆ ในระหว่างการเรียนการสอน ซึ่งผู้สอนสามารถสังเกตได้ตลอดเวลา 3. การสัมภาษณ์ เป็นการสนทนาซักถามพูดคุยเพื่อค้นหาข้อมูลที่ไม่อาจพบเห็นอย่างชัดเจน ในสิ่งที่ นักเรียนประพฤติปฏิบัติในการทำงาน โครงงาน การทำงานกลุ่ม กิจวัตรประจำวัน ผู้ให้ข้อมูล อาจเป็นนักเรียนเอง เพื่อนร่วมงาน รวมทั้งผู้ปกครองนักเรียนด้วย 4. การประเมินภาคปฏิบัติ เป็นการประเมินการกระทำ การปฏิบัติงาน เพื่อประเมินการ สร้างผลงาน ชิ้นงานให้สำเร็จ การสาธิต การแสดงออกถึงทักษะและความสามารถของผู้เรียนให้ ปรากฏในงานที่สร้างขึ้น การประเมินภาคปฏิบัติจะต้องจัดทำเครื่องมือประเมิน โดยผู้สอนจัดทำ ประเด็นการประเมิน และองค์ประกอบการประเมินและเครื่องมือประกอบการประเมินด้วย 5. การประเมินแฟ้มสะสมงาน เป็นการประเมินความสามารถในการผลิตผลงาน การบูรณา การความรู้ ประสบการณ์ ความพยายาม ความรู้สึก ความคิดเห็นของนักเรียน การรวบรวมผลงาน การคัดเลือกผลงาน การสะท้อนความคิดเห็นต่อผลงาน รวมทั้งการประเมินผลงาน สื่อการเรียนรู้ แหล่งเรียนรู้ การเรียนสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ต้องมีชีวิตชีวา มีสีสันของการทำกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งในและนอกห้องเรียน เครื่องมืออุปกรณ์การเรียน อาจมีตั้งแต่ของง่ายๆ เช่น กระดาษ ดินสอ ไป จนถึงอุปกรณ์การสื่อสารเทคโนโลยี คอมพิวเตอร์ บุคคล ภูมิปัญญาท้องถิ่น ฯลฯ นอกจากนั้น การให้ ผู้เรียนได้มีประสบการณ์ตรงด้วยการลงมือปฏิบัติจริง ก็ถือเป็นสื่อและแหล่งการเรียนรู้ที่สำคัญด้วย ห้องเรียน ประกอบด้วยสื่อ อุปกรณ์การเรียนต่างๆ มีลูกโลก แผนที่ให้ผู้เรียนสัมผัสจับต้องได้มีแหล่ง ความรู้ เอกสารหลักฐาน ของจริง ของจำลอง มีสื่อประกอบคอมพิวเตอร์ สื่อการเรียนการสอนที่ ทันสมัย ซอฟแวร์ เพื่อการสืบค้นข้อมูล และสื่อต่าง ๆ ที่ใช้เพื่อการเรียนรู้สิ่งที่เป็นไปตามสภาพที่เป็น จริง เกณฑ์ในการคัดเลือกสื่อและแหล่งการเรียนรู้ ได้แก่ 1. สามารถสนองมาตรฐานการเรียนรู้และเป้าหมายของโรงเรียนได้ 2. สาระในสื่อเหล่านั้นสะท้อนให้เห็นการให้ผู้เรียนได้เข้าใจ 3. ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้พัฒนาทักษะการตัดสินใจ แก้ปัญหา ส่งเสริมการคิดวิจารณญาณ 4. ส่งเสริมการพัฒนาความเป็นพลเมืองดี 5. เนื้อหาสาระถูกต้อง ทันสมัยและเป็นปัจจุบัน


๔๐ 6. ตอบสนองความต้องการของผู้เรียน ครู เหมาะสมกับวัยวุฒิภาวะและความสามารถของ ผู้เรียน 7. ให้สาระทั้งในแนวลึกและกว้างขวาง 8. จัดเตรียมให้ครูเห็นแนวทางการนำไปใช้สอน การออกแบบกิจกรรมการเรียนการสอน 9. เอื้อต่อการให้ครูออกแบบการสอนที่สนองรูปแบบการเรียนที่หลากหลายของผู้เรียน 10.เอื้อต่อการให้ครูได้ออกแบบการสอนที่บูรณาการกับวิชาอื่น ๆ


๔๑ ภาคผนวก


๔๒ คำสั่งโรงเรียนเทศบาลวัดศรีดอนไชย ที่ 023 /2566 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการปรับปรุงหลักสูตรสถานศึกษา ปีการศึกษา 2566 ………………………………………………………………………. ด้วยงานบริหารวิชาการโรงเรียนเทศบาลวัดศรีดอนไชยเล็งเห็นความสำคัญใน การปรับปรุงหลักสูตรสถานศึกษาเพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน และการ เปลี่ยนแปลงต่างๆ เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อย บรรลุตามวัตถุประสงค์ จึง ขอแต่งตั้งคณะกรรมการปรับปรุงหลักสูตรสถานศึกษา ปีการศึกษา 2566 ดังต่อไปนี้ 1. คณะกรรมการฝ่ายอำนวยการ มีหน้าที่ ให้คำปรึกษา แนะนำ ตัดสินใจ ให้การดำเนินงานเป็นไปด้วยความ เรียบร้อย ประกอบด้วย 1.1. นางณัฎฐนันท์ ลังการัตน์ ผู้อำนวยการสถานศึกษา 1.2. นายสถิตย์ วิธุระ รองผู้อำนวยการสถานศึกษา 1.3. นายอุทัยธนา มหามิตร รองผู้อำนวยการสถานศึกษา 1.4. นางกฤตยาภรณ์ วงศ์เพิ่ม หัวหน้าวิชาการระดับมัธยมศึกษา 1.5. นางสาวหัทธยา ปัญญาต่วน หัวหน้าวิชาการระดับปฐมวัย 1.6. นางสมพร เตจ๊ะนัง หัวหน้าวิชาการระดับประถมศึกษา 2.คณะกรรมการฝ่ายปรับปรุงหลักสูตร มีหน้าที่จัดทำและปรับปรุงหลักสูตร ตามกลุ่มสาระการเรียนรู้ที่ได้รับมอบหมาย และจัดทำไฟล์ส่งให้กับฝ่ายวิชาการ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย 1. นางสาวจิตราภรณ์ หาญจักราพิทักษ์ ประธานกรรมการ 2. นายธีรชัย คันธวัง กรรมการ 3. นางอรวรรณ ไชยมงคล กรรมการ 4. นางสาวสุรีรัตน์ ไคร้โท้ง กรรมการ 5. นายสุริศร์ ทัดงาม กรรมการและเลขานุการ


๔๓ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ 1. นางสมพร เตจ๊ะนัง ประธานกรรมการ 2. นางเพชรดา ปฤกษากร กรรมการ 3. นางมยุรี ติดพวงมาลี กรรมการ 4. นางยวิษฐา นันตา กรรมการและเลขานุการ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 1. นางพิศมัย พรมวังขวา ประธานกรรมการ 2. นายชวิศ ปานันท์ กรรมการ 3. นางพิมพ์พิศา แสนไชยศรี กรรมการ 4. นายกฤษณะ ปิกวงศ์ กรรมการ 5. นายธีรพล หอประสงค์ กรรมการและเลขานุการ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม 1. นายกฤษฏ์ ด่านปรีชามณี ประธานกรรมการ 2. นางรัตนา พลพระ กรรมการ 3. นางกฤตยาภรณ์ วงศ์เพิ่ม กรรมการและเลขานุการ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา 1. นางสาววรินทร์ทิพย์ ฉวีวงศ์ ประธานกรรมการ 2. นายสุรชัย พรหมมินทร์ กรรมการ 3. นายสุรพล ปัญญาสงบ กรรมการและเลขานุการ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ 1. นางอรัญญา รุ่งเรือง ประธานกรรมการ 2. นายนัฐวุฒิ บุญลี กรรมการ 3. นายศุภชัย คำดอน กรรมการ 4. นายจักรพงษ์ ฉวีวงศ์ กรรมการและเลขานุการ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ 1. นายสุทธิพงค์ พัฒนวิบูลย์ ประธานกรรมการ 2. นายอำพน พลพระ กรรมการ 3. นางจิดาภา เอกสุวรรณ กรรมการและเลขานุการ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ(รวมถึงหลักสูตร MEP) 1. นางพีรานุช ซาวคำเขต ประธานกรรมการ 2. นายพิพัฒน์ เจริญวรรธะ กรรมการ 3. นางณัฎฐิวรรณ อำพันธ์ศรี กรรมการ


๔๔ 4. นางจารุวรรณ จันทอง กรรมการ 5. Mr.Antonio Baptista กรรมการ 6. Ms.Tessa Patterson กรรมการ 7. นางสาวใจสคราญ คงพันธุ์ กรรมการและเลขานุการ ระดับปฐมวัย 1. นางสาวสุพัตรา ศิริ ประธานกรรมการ 2. นางสาวจันทร์จิรา กล้าหาญ กรรมการ 3. นางสาวสุตาภัทร ทองศรี กรรมการ 4. นางสาวหัทธยา ปัญญาต่วน กรรมการและเลขานุการ 3.คณะกรรมการฝ่ายประเมินผล มีหน้าที่รวบรวมหลักสูตรจากกลุ่มสาระต่างๆเพื่อ นำมาจัดทำหลักสูตรสถานศึกษา ประเมินผล สรุปผล เพื่อรายงานต่อผู้บริหาร ประกอบด้วย 3.1 นางกฤตยาภรณ์ วงศ์เพิ่ม ประธานกรรมการ 3.2 นางสาวหัทธยา ปัญญาต่วน กรรมการ 3.3 นางสมพร เตจ๊ะนัง กรรมการและเลขานุการ ทั้งนี้ให้คณะกรรมการแต่ละฝ่าย ปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมายอย่าง เต็มที่และเต็มความสามารถ จนกว่างานจะเสร็จสิ้น หากมีปัญหาอุปสรรคใดให้ประสานกับฝ่าย อำนวยการเพื่อแก้ไขปัญหาให้งานเสร็จลุล่วงไปด้วยดี สั่ง ณ วันที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 (นางณัฏฐนันท์ ลังการัตน์) ผู้อำนวยการสถานศึกษา โรงเรียนเทศบาลวัดศรีดอนไชย


Click to View FlipBook Version