The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

บทที่ 2 ความละอาย และความไม่ทนต่อการทุจริต

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by pop_paphassorn, 2022-08-15 02:58:27

บทที่ 2 ความละอาย และความไม่ทนต่อการทุจริต

บทที่ 2 ความละอาย และความไม่ทนต่อการทุจริต

Keywords: บทที่ 2 ความละอาย และความไม่ทนต่อการทุจริต

วิชา การป้องกั นการทุจริต

รหัสวิชา สค22022ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น

บทที่ 2
ความละอาย
และความไม่ทนต่อการทุจริต

วิชาการป้องกันการทุจริต สค ๒๒02๒
ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้

บทท่ี 2
ความละอายและความไมท่ นตอ่ การทจุ รติ

วัตถปุ ระสงค์

๑. มคี วามรู้ ความเข้าใจต่อการไม่ทนและละอายตอ่ การทจุ ริตในการทำการบา้ น/ชน้ิ งาน การทำเวร/การทำ
ความสะอาด การสอบ การแตง่ กาย การเลือกต้ัง

๒. อธบิ ายวธิ กี ารปฏิบัติตนในการทำการบ้าน /ชิ้นงาน การทำเวร /การทำความสะอาด การสอบ การแต่ง
กาย การเลือกตั้ง

๓. ปฏบิ ตั ิตนเป็นผไู้ มท่ นและละอายต่อการทุจรติ ทกุ รูปแบบ
๔. มจี ิตสำนกึ และตระหนกั ในความละอายและไมท่ นตอ่ การทุจรติ

เรื่องที่ 1 ความละอายและความไมท่ นต่อการทจุ รติ

การสร้างสังคมให้มีความละอายและไมท่ นต่อการทุจริต เป็นการปรับเปลีย่ นสภาพสังคมให้เกิดภาวะ
"ท่ไี ม่ทนต่อการทุจริต” ตอ้ งเร่มิ ตั้งแต่กระบวนการกล่อมเกลาทางสงั คมในทุกช่วงวัย เพือ่ สรา้ งวฒั นธรรม ต่อต้าน
การทุจริต ปลูกฝังความพอเพยี ง ความมีวนิ ัย ซื่อสัตยส์ ุจรติ และความเปน็ พลเมืองดี ที่มีจิตสาธารณะ ผ่านทาง
สถาบันหรือกลุ่มตัวแทนที่ทำหน้าที่ในการกล่อมเกลาทางสังคม เพื่อให้เด็ก เยาวชน ผู้ใหญ่ เกิดพฤติกรรม
ทีละอายตอ่ การกระทำความผดิ การไมย่ อมรบั และต่อต้านการทจุ รติ ทุกรปู แบบ

ความหมายและความสำคญั

ละอาย หมายถึง การกอายที่จะทำในสิ่งที่ไม่ถูก ไม่ควร เช่น ละอายที่จะทำผิด ละอายใจ
ความละอาย เป็นความรู้สึกอายและความเกรงกลัวต่อสิ่งที่ไม่ดี ไม่ถูกต้อง ไม่เหมาะสม จึงไม่กล้า
ที่จะกระทำให้ตนเองไม่หลงทำในสิ่งที่ผิด เพราะเห็นถึงโทษหรือผลกระทบที่จะได้รับจากการกระทำน้ัน
ลักษณะของความละอาย แบง่ เปน็ 2 ระดบั ได้แก่

1. ความละอายระดับต้น หมายถึง ความละอายไม่กล้าที่จะทำในสิ่งที่ผิด เนื่องจากกลัวว่า
เม่อื ตนเอง ได้ทำลงไปแล้วจะมคี นรับรู้ หากถูกจับไดจ้ ะไดร้ ับการลงโทษหรือไดร้ บั ความเดือดร้อนจากสิ่งท่ีตนเอง
ไดท้ ำลงไป จึงไม่กลา้ ที่จะกระทำผิด

2. ความละอายระดับสูง คือ ความละอายที่แม้ไม่มีใครรับรู้หรือเห็นในสิ่งที่ตนเองได้ทำลงไป
ก็ไม่ กล้าที่จะทำผิด เพราะนอกจากตนเองจะได้รับผลกระทบแล้ว ครอบครัว สังคมก็จะได้รับผลกระทบ
ตามไปดว้ ย ท้งั ชอ่ื เสยี งของตนเองและครอบครัวก็จะเสอื่ มเสยี เชน่ การลอกข้อสอบ เป็นต้น

ความไม่ทน หมายถงึ การแสดงออกตอ่ การกระทำที่เกิดขึน้ กับตนเอง บุคคลท่ีเก่ียวข้องหรือ สังคม
ในลักษณะท่ีไมย่ นิ ยอม ไมย่ อมรบั ในส่งิ ที่เกิดขน้ึ ซ่ึงสามารถแสดงออกได้หลายลกั ษณะ ทง้ั ในรูปแบบของ กริยา

ท่าทางหรือคำพูด เช่น การแซงคิวเพื่อซื้อของ เป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง ผู้ถูกแซงคิวจึงต้องแสดงออกให้
ผู้ที่แซงคิวรับรู้ว่าตนเองไม่พอใจ โดยแสดงกิริยาหรอื บอกกล่าวให้ทราบ เพื่อให้ผู้ทีแ่ ซงควิ ยอมที่จะต่อท้ายแถว
กรณีนี้แสดงให้เห็นวา่ ผู้ที่ถูกแซงคิว ไม่ทนต่อการกระทำที่ไมถ่ ูกต้อง และหากผู้ที่แซงคิวไปต่อแถวก็จะแสดงให้
เห็นว่าบุคคลนนั้ มคี วามละอายต่อการกระทำทีไ่ มถ่ ูกต้อง เป็นต้น

ทุจริต หมายถึง ประพฤติชั่ว ประพฤติไม่ดี ไม่ซื่อตรง คดโกง ฉ้อโกง โดยใช้อุบายหรือเล่ห์เหลี่ยม
หลอกลวง เพ่ือใหไ้ ดส้ ่งิ ที่ต้องการ

ความไม่ทนต่อการทุจริต เป็นการแสดงออกอย่างใดอย่างหนึ่ง เพื่อให้รับรู้ว่าจะไม่ทนตอ่ บุคคลหรอื
การกระทำใด ๆ ที่เป็นการทุจริต ความไม่ทนต่อการทุจริต สามารถแบ่งระดับต่าง ๆ ได้มากกว่าความละอาย
ใช้เกณฑ์ความรุนแรงในการแบ่งแยก เช่น การว่ากล่าวตักเตือนต่อบุคคลที่ทุจริต การประณาม การประจาน
การชุมนมุ ประท้วง เป็นต้น

ตัวอย่างเช่นเพื่อนลอกข้อสอบเราซึ่งเราจะไมย่ ินยอมให้เพื่อนทุจริตในการลอกข้อสอบเราก็ใช้มือหรือ
กระดาษมาบังส่วนที่เป็นคำตอบไว้เช่นนี้ก็เป็นการแสดงออกถึงการไม่ทนต่อการทุจริตนอกจากนี้ยังมีการ
แสดงออกในระดับที่แตกต่างกันไปเช่นการชุมนุมประท้วงของประชาชนเพื่อต่อต้านการทุจริตตามกรณีศึ กษา
ทา้ ยบท

ความจำเปน็ ของการทีไ่ ม่ทนต่อการทุจริตถือเป็นสิ่งสำคญั เพราะการทุจริตไมว่ ่าระดับเล็กหรือใหญ่ย่อม
ก่อให้เกดิ ความเสยี หายต่อสังคมและประเทศชาติดังนนั้ จงึ มีความจำเป็นอย่างยงิ่ ที่จะตอ้ งสร้างให้บุคคลเกิดความ
ตระหนักและรับรู้ถงึ ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการทจุ รติ ในทุกรูปแบบทุกระดับหากบุคคลในสังคมมีความละอาย
และความไม่ทนต่อการทจุ ริตจะทำให้สังคมนา่ อยแู่ ละมีการพฒั นาในทกุ ๆ ดา้ น

การปฏิบัติตนเพื่ออยู่ร่วมกันในสังคมอย่างมีความสุขไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับตนเองครอบครัว
ชมุ ชนสงั คมและประเทศทุกคนจะต้องรู้บทบาทหน้าที่ไม่เอารัดเอาเปรียบมีความรับผิดชอบโดยสมาชิกในสังคม
ต้องปฏิบัติตามข้อตกลงในสังคมที่ถูกต้องตามหลักธรรมเริ่มตั้งแต่การปฏิบัติตนในฐานะสมาชิกของครอบครัว
และสถานศึกษาซึ่งเป็นสถาบันแรกที่บ่มเพาะทักษะพื้นฐานในการดำเนินชีวิตการปฏิบัติตนของผู้เรียนใน
สถานศึกษาเพื่อให้เป็นผู้มีจิตใจที่ดีเป็นที่ชื่นชมของผู้อื่นและสามารถอยู่ในสังคมร่วม กับผู้อื่นได้อย่างดีมีแนว
ทางการปฏิบตั ติ นดังน้ี

1. การปฏบิ ตั งิ านที่ได้รับมอบหมาย ไดแ้ ก่

1.1 การทำการบ้านหรือชิน้ งานควรส่งตามเวลาทกี่ ำหนดโดยไม่ลอกการบา้ นหรือชน้ิ งานผ้อู น่ื

1.2 การทำเวรหรือทำความสะอาดจะต้องปฏิบตั ิด้วยความรบั ผิดชอบไมเ่ อารดั เอาเปรยี บผอู้ น่ื กรณีท่ีเรา
พบเหน็ เพื่อนท่ีละเลยจากการปฏบิ ตั ิงานที่ไดร้ บั มอบหมายเราควรตกั เตือนเพอื่ นหรอื รายงานตอ่ ครู

2. การสอบผเู้ รียนจะตอ้ งปฏิบตั ติ ามระเบยี บของการเข้าสอบ ได้แก่

2.1 แตง่ กายตามท่ีสถานศกึ ษากาํ หนด

2.2 ปฏบิ ตั ติ ามระเบียบเกย่ี วกับการสอบและคำสัง่ ของผ้กู ำกับการสอบโดยไม่ทจุ รติ ในการสอบ
2.3 มิใหผ้ ู้เขา้ สอบคนอื่นคัดลอกคำตอบของตนรวมท้ังไม่พูดคยุ กับผู้ใดในเวลาสอบเมอื่ มขี ้อสงสัยหรือมี
เหตจุ ําเปน็ ให้แจง้ ตอ่ ผู้กำกบั การสอบ
2.4 ไมน่ ำกระดาษสำหรับเขยี นคำตอบที่ผู้กำกบั การสอบแจกให้ออกไปจากห้องสอบ
3. การแต่งกายเป็นสิ่งสำคัญต่อภาพลักษณ์และบุคลิกภาพของบุคคลเครื่องแต่งกายที่ดีจะต้องเหมาะสมกับ
โอกาสสถานทห่ี รอื กาลเทศะสร้างความประทบั ใจแกผ่ ูพ้ บเห็นหลกั สำคัญของการแต่งกายมดี ังน้ี
3.1 ถกู ตอ้ งตามกาลเทศะ
3.2 สะอาด
3.3 ประหยดั
3.4 เหมาะสมกบั วัยรูปร่างและฐานะความเปน็ อยู่

การแตง่ กายเข้าวดั ท่ีเหมาะสม

ทีม่ า : https://sites.google.com/site/nisakornsermchan03/maryath-ni-kar-taeng-kay-ni-ngan-tang

การแตง่ กายที่ไมเ่ หมาะสม

ทม่ี า : https://mgronline.com/celebonline/detail/9570000117491

กรณีที่เราพบเห็นผู้ที่แต่งกายไม่เหมาะสมต่อสถานที่หรือกาลเทศะบคุ คลที่ไม่ทนต่อการทุจริตหรอื การ
กระทำที่ไม่ถูกต้องควรใหค้ ำแนะนำหรอื แสดงออกอยา่ งใดอยา่ งหนึง่ เพ่ือให้ผู้ที่แตง่ กายไม่เหมาะสมทราบเป็นต้น
การแตง่ กายท่ีไมเ่ หมาะสมการแต่งกายเข้าวัดทเี่ หมาะสม

4. การเลือกต้ังเป็นการใช้สิทธิออกเสียงในการลงคะแนนเลือกผู้แทนเพื่อทำหน้าที่แทนตนเองการ
เลือกตั้งที่เป็นประชาธิปไตยเป็นการเลือกตั้งโดยเสรี คือ เปิดกว้างให้อิสระในการตัดสินใจทั้งในแง่ของผู้สมัคร
และผอู้ อกเสียงตอ้ งเปน็ ไปโดยบริสทุ ธแ์ิ ละยตุ ธิ รรมไม่มกี ารชน้ี ำหรอื บงั คบั เช่นการเลอื กตัง้ องค์กรนักศึกษา กศน.
เพ่อื เป็นตวั แทนนกั ศึกษาทง้ั หมดในสถานศึกษาซึ่ง

ทัง้ น้ีการเลือกต้งั ของประเทศไทยจะมีการเลอื กตั้งระดับต่าง ๆ ดังน้ี

1. ระดับหมบู่ า้ นคือการเลอื กตั้งผู้ใหญบ่ า้ น

2. ระดับตำบลคือกำนันสมาชิกอบต. หรือการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลหรือนายกอบต. หรือ
นายกเทศมนตรี

3. ระดบั จงั หวดั คอื การเลือกตงั้ สมาชิกสภาจังหวดั (สจ.) นายกองคก์ ารบรหิ ารส่วนจังหวัด (นายกอบจ.)

4. ระดับชาติคือการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรการเลือกผู้แทนที่ถูกต้องผู้เรียนควรเลือกผู้ที่มี
ความจริงใจเสียสละเพื่อส่วนรวมมีความรู้ความสามารถมีอาชีพสุจริตไม่ควรเลือกผู้ที่มีเบื้องหลังไม่สุจริตและ
ชอ่ื เสยี งเพราะเขายอ่ มหวงั ผลประโยชนก์ ลบั คนื มา

ในการเลอื กต้งั ทกุ ระดับมักมีข่าวเกีย่ วกับการทุจริตซื้อเสียงขายเสยี งหรือโกงการเลือกตั้งซึ่งหากเราพบ
เห็นเหตุการณ์และมีหลักฐานการทุจรติ เราควรแจง้ หน่วยงานหรอื ผู้เกี่ยวขอ้ งทราบเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย
ต่อไป

เรอ่ื งที่ 2 การรวมกลุ่มเพื่อสร้างสรรคป์ ้องกันการทจุ รติ

สถานการณ์การทุจริตของประเทศไทยในปัจจุบันถือเป็นภาวะวิกฤตที่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศการ
ทุจริตที่เกิดขึ้นย่อมส่งผลต่อภาพลักษณ์ของประเทศหากประเทศใดมีการทุจริตน้อยจะส่งผลให้ประเทศนั้นมี
ความเป็นอยู่ที่ดนี ักลงทุนมีความต้องการที่จะมาลงทุนในประเทศซึ่งหมายถึงเศรษฐกิจของประเทศจะสามารถ
พัฒนาไปได้อย่างต่อเนื่อง แต่หากมีการทุจริตเป็นจำนวนมากนักธุรกิจย่อมไม่กล้าที่จะลงทุนในประเทศนั้น ๆ
เนอ่ื งจากตอ้ งเสียค่าใช้จา่ ยในการทำธุรกิจทม่ี ากกว่าปกติ แตห่ ากสามารถดำเนนิ ธรุ กิจดังกลา่ วไดผ้ ลทเ่ี กดิ ข้ึนย่อม
ตกแกผ่ ู้บริโภคทีจ่ ะต้องซอ้ื สินคา้ และบรกิ ารท่มี รี าคาสงู หรอื อีกกรณหี นงึ่ คอื การใชส้ นิ คา้ และบรกิ ารที่ไมม่ ีคุณภาพ
ดังนั้นจึงได้มีการวัดและจัดอันดับประเทศต่าง ๆ เพื่อบ่งบอกถึงสถานการณ์การทุจริตซึ่งการทุจริตที่ผ่านมา
นอกจากจะพบเห็นข่าวการทุจริตด้วยตนเองและผ่านสื่อต่าง ๆ แล้วยังมีตัวชี้วัดที่สำคัญอีกตัวหนึ่งที่ได้รับการ
ยอมรบั คือตวั ชี้วัดขององค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ (Transparency International: TI) ได้จดั อันดบั ดัชนีชี้
วัดภาพลักษณ์คอร์รัปชันประจำปี 2560 พบว่าประเทศไทยได้ 37 คะแนนจากคะแนนเต็ม 100 คะแนนอยู่

อันดบั ท่ี 96 จากการจดั อันดบั ทัง้ หมด 180 ประเทศทัว่ โลกหากเทียบกับปี 2559 ประเทศไทยไดค้ ะแนน 35
คะแนนอย่อู ันดับที่ 101 เทา่ กับวา่ ประเทศไทยมีคะแนนความโปร่งใสดีขน้ึ แตย่ ังแสดงให้เห็นว่าประเทศไทยยัง
มีการทจุ รติ คอรร์ ัปชันอยู่ในระดับสงู ซ่งึ สมควรไดร้ ับการแกไ้ ขอยา่ งเร่งดว่ นโดยคะแนนที่ประเทศไทยได้รับตั้งแต่
อดตี ปจั จุบันไดค้ ะแนนและลำดับดังนี้

ผลคะแนนดัชนีภาพลักษณ์การคอร์รัปชัน (Corruption Perception Index: CPI) ในปี พ.ศ. 2561
ประเทศไทยได้ 36 คะแนนจากคะแนนเตม็ 100 คะแนนเป็นอันดบั ท่ี 99 จาก 180 ประเทศทั่วโลกและเปน็
อันดับ 5 ในประเทศกลุ่มอาเซียนจำนวน 10 ประเทศผล

กระทบของการทจุ ริตตอ่ การพฒั นาประเทศ
การทจุ ริตมผี ลกระทบต่อการพัฒนาประเทศในทุก ๆ ด้านเป็นพนื้ ฐานที่ก่อให้เกิดความขดั แยง้ ของคนในชาติ
จากการเห็นประโยชน์ส่วนตนมากกว่าประโยชน์ของประเทศประชาชนได้รับบริการสาธารณะหรือสิ่งอำนวย
ความสะดวกไม่เตม็ ทอี่ ยา่ งที่ควรจะเปน็ เงินภาษีของประชาชนตกไปอยู่ในกระเปา๋ ของผู้ทุจริตและผลกระทบอื่น
ๆ อีกมากมายนอกจากนี้แล้วหากพิจารณาในแง่การลงทุนจากต่างประเทศเพื่อประกอบกิจการต่าง ๆ
ภายในประเทศพบว่านักลงทุนต่างประเทศจะมองว่าการทุจริตถือว่าเป็นต้นทุนอย่างหนึ่งซึ่งนักลงทุนจาก
ต่างประเทศจะใชป้ ระกอบการพิจารณาการลงทุนกับปัจจัยด้านอน่ื ๆ ทง้ั นหี้ ากต้องเสยี ต้นทนุ ท่ีสงู จากการทุจริต
นักลงทุนจากต่างประเทศอาจพิจารณาตัดสินใจย้ายการลงทุนไปยังประเทศอื่นส่งผลให้การจ้างงานการสร้าง
รายได้ให้แก่ประชาชนลดลงเมื่อประชาชนมีรายได้ลดลงก็จะส่งผลต่อการจดั เก็บภาษีอากรซึ่งเป็นรายได้ของรฐั
ลดลงจึงส่งผลตอ่ การจดั สรรงบประมาณและการพัฒนาประเทศ
ในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตของประเทศไทยจะมีหน่วยงานหลักที่ดำเนินการป้องกันและ
ปราบปรามการทจุ รติ คอื สำนกั งานคณะกรรมการป้องกนั และปราบปรามการทุจรติ แห่งชาติ (สำนกั งาน ป.ป.ช. )
นอกจากนยี้ ังมีหน่วยงานอนื่ ท่ีมีภารกิจในลักษณะเดียวกันหรือใกล้เคียงกับสำนักงาน ป.ป.ช. เช่นสำนักงานการ
ตรวจเงินแผ่นดินสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตใน
ภาครัฐนอกจากนีย้ ังมหี น่วยงานภาคเอกชนที่ให้ความรว่ มมือในการป้องกนั และปราบปรามการทุจริตอีกหลาย
หน่วยงานและสำหรับหน่วยงานภาครัฐในปัจจุบันประเทศไทยได้มีการประกาศใช้ยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการ
ปอ้ งกนั และปราบปรามการทุจริตระยะที่ 3 (พ.ศ. 2560-2564) เพ่ือเป็นมาตรการแนวทางการดำเนินงานท้ัง
ของภาครฐั และภาคเอกชน
รปู แบบการทจุ รติ
การทุจริตที่เกิดขึ้นในวงราชการและแวดวงการเมืองเป็นพฤติกรรมที่เจ้าหน้าที่ของรัฐใช้อำนาจในตำแหน่ง
หน้าที่โดยมิชอบเพื่อมุ่งหวังผลประโยชน์ส่วนตัวสามารถแบ่งได้ 3 ลักษณะคือแบ่งตามผู้ที่เกี่ยวข้องแบ่งตาม
กระบวนการที่ใชแ้ ละแบง่ ตามลักษณะรูปธรรมดงั น้ี
1. แบง่ ตามผ้ทู ีเ่ กีย่ วข้อง เปน็ รปู แบบการทจุ ริตในเร่ืองของอำนาจและความสัมพันธแ์ บบอุปถัมภ์ระหว่างผู้
ทีใ่ หก้ ารอปุ ถัมภ์หรอื ผู้ให้การชว่ ยเหลอื กับผู้ถกู อุปถัมภ์หรอื ผู้ท่ีได้รับการชว่ ยเหลอื โดยในกระบวนการการทุจริต
จะมี 2 ประเภทคือ
1.1 การทุจริตโดยข้าราชการหมายถึงการกระทำที่มีการใช้หน่วยงานราชการเพื่อมุ่งแสวงหาผลประโยชน์
จากการปฏิบัติงานของหน่วยงานน้ัน ๆ มากกว่าประโยชน์ส่วนรวมของสังคมหรือประเทศโดยลักษณะของการ
ทจุ รติ โดยขา้ ราชการสามารถแบ่งออกเปน็ 2 ประเภทดงั น้ี

1.1.1 การคอร์รัปชันตามน้ำ (Corruption without theft) จะปรากฏขึ้นเมื่อเจ้าหน้าที่ของรัฐ
ต้องการสินบนโดยให้มีการจ่ายตามช่องทางปกติของทางราชการ แต่ให้เพิ่มสินบนรวมเข้าไว้กับการจ่าย
คา่ บรกิ ารของหน่วยงานน้นั ๆ โดยท่เี งนิ คา่ บรกิ ารปกตทิ ีห่ น่วยงานนัน้ จะต้องไดร้ บั กย็ งั คงได้รบั ต่อไปเช่นการ
จ่ายเงินพิเศษให้แก่เจ้าหน้าที่ในการออกเอกสารต่าง ๆ นอกเหนือจากค่าธรรมเนียมปกติทีต่ ้องจา่ ยอยู่แลว้
เป็นตน้

1.1.2 การคอร์รัปชนั ทวนน้ำ (Corruption with theft) เป็นการคอร์รัปชันในลักษณะที่เจ้าหน้าท่ี
ของรัฐจะเรียกร้องเงินจากผู้ขอรับบริการโดยตรงโดยที่หน่วยงานนั้นไม่ได้มกี ารเรียกเก็บเงินค่าบริการ แต่
อย่างใดเช่นในการออกเอกสารของหน่วยงานราชการไม่ได้มีการกำหนดให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการ
ดำเนนิ การ แตก่ รณีน้มี กี ารเรยี กเกบ็ ค่าใชจ้ า่ ยจากผู้ที่มาใช้บริการของหนว่ ยงานของรัฐ

1.2 การทุจริตโดยนักการเมือง (political corruption) เป็นการใช้หน่วยงานของทางราชการโดย
บรรดานักการเมืองเพื่อมุ่งแสวงหาผลประโยชน์ในทางการเงินมากกว่าประโยชน์ส่วนรวมของสังคมหรือ
ประเทศเช่นเดียวกันโดยรูปแบบหรือวิธีการทั่วไปจะมีลักษณะเช่นเดียวกับการทุจริตโดยข้าราชการ แต่จะ
เปน็ ในระดับทีส่ งู กว่าเชน่ การทุจริตในการประมูลโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่และมีการเรียกรับหรือยอมจะ
รับทรพั ย์สนิ หรอื ประโยชนต์ า่ ง ๆ จากภาคเอกชนเป็นต้น

2. แบง่ ตามกระบวนการทีใ่ ช้ มี 2 ประเภทคือ
2.1 เกิดจากการใช้อำนาจในการกำหนดกฎกติกาพ้ืนฐานเช่นการออกกฎหมายและกฎระเบียบต่าง ๆ
เพื่ออำนวยประโยชน์ตอ่ กลุ่มธุรกจิ ของตนหรอื พวกพอ้ ง
2.2 เกดิ จากการใช้อำนาจหน้าท่ีเพ่ือแสวงหาผลประโยชน์จากกฎและระเบียบที่ดำรงอยู่ซ่ึงมักเกิดจาก
ความไม่ชัดเจนของกฎและระเบยี บเหล่าน้ันท่ีทำให้เจ้าหนา้ ที่สามารถใช้ความคิดเห็นของตนได้และการใช้
ความคิดเห็นน้ันอาจไม่ถูกตอ้ งหากมกี ารใช้ไปในทางทผ่ี ิดหรอื ไมย่ ตุ ธิ รรมได้
3. แบง่ ตามลักษณะรูปธรรมมที ้งั หมด 4 รูปแบบคือ
3.1 คอร์รัปชันจากการจัดซื้อจัดหา (Procurement Corruption) เช่นการจัดซื้อสิ่งของในหน่วยงาน
โดยมกี ารคดิ ราคาเพ่ิมหรอื ลดคณุ สมบตั ิ แตก่ ำหนดราคาซอ้ื ไว้เท่าเดิม
3.2 คอร์รัปชันจากการให้สัมปทานและสิทธิพิเศษ (Concessionaire Corruption) เช่นการให้เอกชน
รายใดรายหนงึ่ เข้ามามสี ิทธใิ นการจัดทําสมั ปทานเปน็ กรณพี ิเศษตา่ งกบั เอกชนรายอื่น
3.3 คอร์รัปชันจากการขายสาธารณสมบัติ (Privatization Corruption) เช่นการขายกิจการของ
รฐั วิสาหกจิ หรือการยกเอาท่ีดินทรัพย์สนิ ไปเปน็ สทิ ธิการครอบครองของต่างชาติเป็นตน้
3.4 คอร์รัปชันจากการกำกับดูแล (Regulatory Corruption) เช่นการกำกับดูแลในหน่วยงานแล้วทาํ
การทจุ ริตต่าง ๆ เปน็ ต้น
นักวิชาการที่ได้ศึกษาเกี่ยวกับปัญหาการทุจริตได้มีการกำหนดหรือแบ่งประเภทของการทุจริตเป็น
รูปแบบต่าง ๆ ไว้เช่นการวิจัยของรองศาสตราจารย์ดร. นวลน้อยตรีรัตน์และคณะได้แบ่งการทุจริต
คอร์รปั ชนั ออกเป็น 3 รปู แบบ ไดแ้ ก่
1) การใช้อำนาจในการอนุญาตให้ละเว้นจากการปฏิบัติตามกฎระเบียบของรัฐเพื่อลดต้นทุนการทำ
ธรุ กจิ

2) การใชอ้ ำนาจในการจัดสรรผลประโยชน์ในรปู ของส่งิ ของและบรกิ ารหรือสทิ ธิให้แกเ่ อกชน
3) การใช้อำนาจในการสร้างอุปสรรคในการให้บริการแก่ภาคประชาชนและภาคธุรกิจเนื่องจากเงินเดือน
และผลตอบแทนในระบบราชการต่ำเกนิ ไปจนขาดแรงจงู ใจในการทำงาน

ในฐานะประชาชนคนไทยเราต่างมีหน้าที่ในการเป็นพลเมืองตามระบอบประชาธิปไตยกำจัดการทุจรติ
ถอื เปน็ หน้าทีข่ องคนไทยทุกคน

การรวมกลุม่ เพอื่ สร้างสรรค์และป้องกนั การทจุ ริต
การรวมกลุ่มเพือ่ สร้างสรรคแ์ ละปอ้ งกนั การทจุ ริตเปน็ การรวมกลุ่มกันเพื่อดแู ลตรวจสอบสามารถช่วยให้
การปอ้ งกนั และกำจดั การทุจริตเป็นไปอย่างมีประสิทธภิ าพซงึ่ ผู้เรยี นสามารถศึกษากรณีตัวอย่างได้จากคลิป
วีดิโอตอ่ ไปน้ี

แม่ค้าและคนในตลาดรวมตัวกนั ต่อต้านผู้ทม่ี าซือ้ ของซึ่งเป็นบุคคลท่ีทุจริตการเลือกต้ัง
ทมี่ า: https://www.youtube.com/watch?v=6xTi4qcGXzs จาก ACT

มีคนยื่นเงินให้กับเจ้าหน้าที่ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่เป็นลูกน้องไม่ยอมรับหัวหน้าที่โกงและ
ออกมาต่อตา้ น
ท่มี า: https://www.youtube.com/watch?v=MGCLXOLZ-o จากACT

สิ่งที่ปรากฏในคลิปวีดโี อทั้ง 2 เรื่องเปน็ เครื่องยืนยันว่าหากพวกเราในฐานะสมาชิกในสังคมร่วมมอื กนั
ในการปฏิบัติตนตามกฎกติกาของชุมชนสังคมรวมทั้งต่อต้านบุคคลองค์กรที่กระทำ การทุจริตใช้การลงโทษ
ทางสังคมโดยการกดดันและแสดงปฏิกิริยาต่อต้านให้เกิดความอับอายขายหน้าและได้รับโทษของการทุจริต
ตามกฎหมายเพราะการทุจริตที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นระดับใดล้วนแล้วแต่ส่งผลกระทบในทางลบต่อสังคม
และประเทศชาติดังนั้นการปลูกฝังให้คนมีความละอายและไม่ทน ต่อการทุจริตรวมถึงการรวมกลุ่ม
เพื่อสร้างสรรค์และป้องกันการทุจริตจึงเป็นหนทางหนึ่งที่จะแก้ปัญหาการทุจริตในประเทศของเราได้


Click to View FlipBook Version