The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by surapon7840, 2023-04-10 11:31:33

หน่วยที่ 2 การบัญชีมูลนิธิ สมาคมและสโมสร

หน่วยการเรียนรที่ 3
ู้
การบัญชีมูลนิธิ สมาคมและสโมสร Accounting off Foundation, association, club





สาระการเรียนรู้ สมรรถนะประจ าหน่วย


1. ความหมายของมูลนิธิ สมาคมและสโมสร 1. บันทึกบัญชีเกี่ยวกับมูลนิธิ
2. วัตถุประสงค์ของการท าบัญชีและประเภทบัญชีมูลนิธิ สมาคมและสโมสร
สมาคมและสโมสร
3. โครงสร้างและการจัดตั้งองค์กร

4. สมุดบัญชีที่ใช้และการบันทึกบัญชีมูลนิธิ สมาคมและสโมสร
5. การจัดท างบการเงินมูลนิธิ สมาคมและสโมสร











การบัญชีมูลนิธิ สมาคมและสโมสร











จุดประสงค์การเรียนรู้


1. บอกความหมายของมูลนิธิ สมาคมและสโมสรได้
2. บอกวัตถุประสงค์ของการท าบัญชีและประเภทบัญชีมูลนิธิ สมาคมและสโมสรได้
3. บอกโครงสร้างและการจัดตั้งองค์กรได้

4. บอกสมุดบัญชีที่ใช้และบันทึกบัญชีมูลนิธิ สมาคมและสโมสรได้

5. จัดท างบการเงินมูลนิธิ สมาคมและสโมสรได้


การบันทึกบัญชีมูลนิธิ สมาคมและสโมสร





1. ความหมายของมูลนิธิ สมาคมและสโมสร


ื่
มูลนิธิ (Foundation) หมายถึง องค์กรเอกชนที่ท ากิจกรรมใดก็ตามเพอวัตถุประสงค์อันเป็น


ื่
ประโยชน์สาธารณะแก่ส่วนรวม เป็นองคกรที่ไม่แสวงหาก าไร หรือหาก าไรเพอพออยู่ได้เพยงพอที่จะท า

กิจกรรมอันเป็นประโยชน์แกส่วนรวม หรืออาจหมายถึง ทรัพย์สินที่จัดสรรไว้โดยเฉพาะส าหรับวัตถุประสงค์
เพื่อการกศลสาธารณะ การศาสนา ศิลปะ วิทยาศาสตร์ วรรณคดี การศึกษา หรือเพื่อสาธารณประโยชน์อย่าง

อื่น โดยมิได้มุ่งหาผลประโยชน์มาแบ่งปันกัน และได้จดทะเบียนบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและ
พาณิชย์ (บ.ป.พ. มาตรา 110)
มูลนิธิ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 8 บัญญัติความหมายและวัตถุประสงค์ของมูลนิธิว่า
ื่
มูลนิธินั้น ได้แก่ ทรัพย์สินอันจัดสรรไว้เป็นแผนกเพอบ าเพญทาน การศาสนา วรรณคดี วิทยาศาสตร์ หรือเพื่อ

สาธารณประโยชน์อื่น ๆ และไม่ได้หมายค้าก าไร
การตั้งมูลนิธิจะต้องยื่นค าขอจัดตั้งต่อผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อเสนอรัฐมนตรีว่าการ
กระทรวงมหาดไทยเป็นผู้อนุมัติและประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อขอจัดตั้งโดยจดทะเบียนถูกต้องตาม

กฎหมายแล้วมูลนิธิจะมฐานะเป็นนิติบุคคลตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 72 (6)
ื่
สมาคม (Association) หมายถึง นิติบุคคลที่กอตั้งขึ้นเพอกระท าการใด ๆ อันมีลักษณะต่อเนื่อง


รวมกันและมิใช่เป็นการหาผลก าไรหรือรายได้มาแบ่งปันกัน สมาคมต้องมีขอบังคับและจดทะเบียนตาม
บทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ป.ส.)
สมาคม ประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย์มาตรา 1274 บัญญัติความหมายและวัตถุประสงค์สมาคม

ว่า อันว่าสัญญาตั้งสมาคมนั้นคือ สัญญาซึ่งบุคคลหลายคนตกลงเข้ากันเพอท าการอันใดอันหนึ่งร่วมกัน อันมิใช่
ื่
เป็นการหาผลก าไรแบ่งปันกัน
การตั้งสมาคมอาจจัดตั้งขึ้นได้ตามกฎหมายต่าง ๆ ซึ่งได้แก่ ประมวลกฎหมาแพ่งและพาณิชย์
พระราชบัญญัติสมาคมการค้า พ.ศ. 2509 พระราชบัญญัติการฌาปนกิจสงเคราะห์ พ.ศ. 2517 การขอจด

ทะเบียนสมาคมให้ขอต่อนายทะเบียนสมาคม คือ ผู้บังคับการต ารวจสันติบาลส าหรับในเขตกรุงเทพมหานคร
และผู้ว่าราชการจังหวัดส าหรับจังหวัดอื่น ๆ เมื่อขอจัดตั้งโดยจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายแล้ว สมาคมจะมี
ฐานะเป็นนิติบุคคลตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 72 (5)

มูลนิธิหรือสมาคมที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายจะมีฐานะเป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล
ตามประมวลรัษฎากร มีหน้าที่ต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล (ยกเว้นมูลนิธิหรือสมาคมที่รัฐมนตรีประกาศ
ก าหนด) ตามมาตรา 47 (7) (ข) และหน้าที่อื่น ๆ ตามที่ประมวลรัษฎากรก าหนดไว้ ทั้งนี้หมายความรวมถง ึ
มูลนิธิหรือสมาคมที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายต่างประเทศที่มิได้ด าเนินกิจการในทางการค้าหรือหาก าไรด้วยกัน

มูลนิธิไม่จ าเป็นต้องจดทะเบียนก็ได้ แต่สมาคมต้องจดทะเบียนตามกฎหมาย มูลนิธิที่มิได้จดทะเบียน
การจัดตั้งให้ถูกต้องตามกฎหมายจะมีฐานะเป็นเพียงห้างหุ้นส่วนหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล ซึ่งจะต้องเสีย
ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
สมาคม ตามความหมายในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 (2546 : 1129) หมายถึง


การประชุม การเข้าร่วมพวกร่วมคณะ การคบค้า ; แหล่งหรือที่ประชุมของบุคคลหลายคนมาร่วมกนด้วยมี
จุดประสงค์เพื่อประโยชน์บางประการ เช่น เข้าสมาคม สมาคมศิษย์เก่า ; (กฎ) นิติบุคคลที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อ


กระท าการใด ๆ อันมีลักษณะต่อเนื่องร่วมกันและมิใช่เป็นการหาผลก าไรหรือรายได้มาแบ่งปันกัน สมาคมต้อง
มีข้อบังคับและจดทะเบียนตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

สโมสร (Club) ตามความหมายในพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 (2546 : 1132)
หมายถึง ที่ส าหรับร่วมประชุมคบหากัน เช่น สโมสรข้าราชการ สโมสรทหารบก ร่วมชุมนุมกัน เช่นไปร่วม
สโมสร ซึ่งตั้งขึ้นเพื่อท าการอันใดอันหนึ่ง เช่น สโมสรข้าราชการ สโมสรราชกรีฑา สโมสรสันนิบาต
ื่
เป็นสถาบันที่จัดตั้งขึ้นมาโดยคณะบุคคลร่วมกันเพอด าเนินงานซึ่งเป็นประโยชน์กับสังคมและสมาชิก
โดยไม่ได้หวังก าไรตอบแทน เช่น สมาคมศิษย์เก่าวิทยาลัยพณิชยการ สโมสรคนพิการ สมาคมสตรีไทย
สโมสร ไม่มีความหมายและวัตถุประสงค์ที่ก าหนดไว้ในกฎหมาย แต่ใช้ความหมายและวัตถุประสงค์
คล้ายกับสมาคม คือ คณะบุคคลตกลงเข้ากันเพื่อท าการอันใดอันหนึ่งร่วมกัน เพื่อประโยชน์ของสมาชิกโดยไม่
หวังผลก าไรมาแบ่งปันกัน สโมสรนี้กฎหมายมิได้ก าหนดว่าจะต้องจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล ดังนั้นสโมสรจึงมี

หน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

2. วัตถุประสงค์การท าบัญชีและประเภทบัญชีมูลนิธิ สมาคมและสโมสร

มูลนิธิ สมาคมและสโมสร จัดเป็นหน่วยงานที่ไม่แสวงหาผลก าไร (Nonbusiness Organization)
ื่
จัดตั้งขึ้นเพอช่วยเหลือบริการสังคม สนองความต้องการของสังคมหรือบุคคลบางกลุ่ม โดยมีวัตถุประสงค์ท ี่
แตกต่างกัน ดังนี้

1. เพื่อสาธารณประโยชน์แก่สังคมและช่วยเหลือผู้ประสบภัย เช่น มูลนิธิสายใจไทย สมาคมบ าเพ็ญ
ประโยชน์

2. เพื่อส่งเสริมการศกษาและส่งเสริมวิชาชีพ เช่น สมาคมนักบัญชีและผู้ตรวจสอบบัญชีรับอนุญาต
แห่งประเทศไทย สมาคมวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทย
3. เพื่อส่งเสริมศาสนาและการกุศล เช่น มูลนิธิพุทธประทีป
4. เพื่อส่งเสริมวัฒนธรรมและประเพณี เช่น มูลนิธิส่งเสริมวัฒนธรรมไทย ชมรมนาฏศิลป์และ
ดนตรีไทย

5. เพอส่งเสริมการกีฬาและสุขภาพอนามัย เช่น สมาคมว่ายน้ าแห่งประเทศไทย สมาคมสุขภาพจิต
ื่
แห่งประเทศไทย
6. เพื่อเป็นแหล่งสันทนาการและศูนย์รวมของสมาชิกที่สนใจกิจกรรมประเภทเดียวกัน เช่น สมาคม
นักเรียนเก่าอังกฤษ สมาคมมิตรร่วมใจ

7. เพื่อสนองความต้องการขั้นพื้นฐานของสังคม เช่น โรงพยาบาล โรงเรียน วิทยาลัย มหาวิทยาลัย
ในการด าเนินงานของมูลนิธิ สมาคมและสโมสร ไม่ได้หวังผลก าไรตอบแทน ถึงอย่างไรก็จะต้องม ี
รายรับและรายจ่าย เช่นเดียวกับกิจการอื่น ๆ ดังนั้นสมาคมและสโมสรจึงจ าเป็นต้องจัดท าบัญชี เพื่อ
วัตถุประสงค์ดังนี้

1. เพื่อจัดท างบประมาณรายรับ รายจ่าย ประจ าปี

2. จดบันทึกค่าบ ารุงจากสมาชิกที่รับเป็นเงินสดและค้างช าระ
3. เพื่อจดบันทึกรายรับ รายจ่าย ส าหรับเป็นข้อมูลในการจัดท างบประมาณ
4. เพื่อจัดท างบการเงิน แสดงผลการด าเนินงานและแสดงฐานะทางการเงิน
5. ควบคุมการบริหารการเงินให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ได้ก าหนดไว้


3. โครงสร้างและการจัดตั้งองค์กร


รูปแบบของกิจการที่มิได้หวังผลก าไรอาจตั้งขึ้นมาจากภาครัฐหรือภาคเอกชน โดยไม่มีบุคคลใดเป็น
เจ้าของโดยเฉพาะไม่ว่าจะเป็นผู้ก่อตั้งหรือผู้บริจาค แต่เป็นขององค์กรของสังคมส่วนรวม เช่น มูลนิธิต่าง ๆ

หรือองค์กรของสมาชิก เช่น สมาคม สโมสร หรือชมรมต่าง ๆ ซึ่งตามกฎหมายแบ่งรูปแบบขององค์กรเป็น 3
ประเภท ดังนี้
1. คณะบุคคล ได้แก่ องค์กรที่จัดตั้งขึ้นมาโดยมิได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล เช่น สโมสร และชมรม
ต่าง ๆ ซึ่งไม่สามารถจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลได้เนื่องจากไม่มีกฎหมายก าหนดไว้ ดังนั้น การด าเนินงานของ

องค์กรเหล่านี้ในทางกฎหมายจึงถือเป็นการด าเนินงานในรูปของคณะบุคคล ซึ่งมีหน้าที่ต้องเสียภาษีเงินได้
บุคคลธรรมดาตามอัตราก้าวหน้าเช่นเดียวกับบุคคลธรรมดาทั่วไป
2. นิติบุคคล ได้แก่ สมาคม และมูลนิธิต่าง ๆ ซึ่งจะต้องจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลตามประมวล

กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และมีหน้าที่ต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลตามประมวลรัษฎากร
หลักการในการค านวณภาษีและภาษีเงินได้นิติบุคคลส าหรับสมาคมและมูลนิธิตามที่ก าหนดไว้ใน
ประมวลรัษฎากร สรุปได้ดังนี้
ก. เงินได้ที่ได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้ตามมาตรา 65 ทวิ (13) ได้แก ่
(1) ค่าลงทะเบียนหรือค่าบ ารุงที่ได้รับจากสมาชิก

(2) เงินหรือทรัพย์สินที่ได้รับจากการรับบริจาค
(3) เงินหรือทรัพย์สินที่ได้รับจากการให้โดยเสน่หา

ข. เงินได้ตามมาตรา 40 (8) ซึ่งได้จากการธุรกิจ การพาณิชย์ การเกษตร การอตสาหกรรม การ
ขนส่ง หรือการอื่น ๆ เสียร้อยละ 2 ของรายได้ก่อนหักรายจ่าย

ค. เงินได้ตามมาตรา 40 (1) ถึง (7) นอกเหนือจากขอ ข เช่น รายได้จาการขายสินค้าและบริการ
ดอกเบี้ย ค่าเช่า เงินปันผล เป็นต้น เสียร้อยละ 10 ของรายได้ก่อนหักรายจ่าย

3. มูลนิธิหรือสมาคมที่จะได้รับการประกาศให้เป็นองค์การหรือสถานสาธารณกศล ต้องปฏิบัติตาม
หลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไข ดังนี้
1) ต้องยื่นค าขอเป็นลายลักษณ์อกษรต่อกรมสรรพากร เพื่อพิจารณาเสนอกระทรวงการคลัง

ื่
2) มีวัตถุประสงค์เพอการกุศลสาธารณะในประเทศไทยเท่านั้น
3) รายได้ของมูลนิธิจะต้องมิใช่เป็นการได้มาจากการซื้อขายหรือการให้บริการโดยมีค่าตอบแทน

เป็นปกติธุระ เว้นแต่การซื้อขายหรือการให้บริการนั้นเกี่ยวข้องกับการศาสนา การศึกษา การสถานพยาบาล
หรือการสังคมสงเคราะห์ และไม่น ารายได้ดังกล่าวไปจ่ายในทางอื่น

4) ชื่อมูลนิธิจะต้องไมเป็นชื่อการค้าหรือเครื่องหมายการค้า
5) กรมสรรพากรจะตรวจสอบเอกสารหรือหลักฐานต่าง ๆ เกี่ยวกับการด าเนินงานของมูลนิธินั้น

ก่อน เช่น งบแสดงฐานะการเงินและบัญชีรายได้ค่าใช้จ่าย ซึ่งมีผู้สอบบัญชีรับรองแล้ว โดยจะตรวจสอบ
ย้อนหลังไปไม่ต่ ากว่า 3 ปี ถ้าปรากฏดังต่อไปนี้จะไม่ประกาศให้
(1) การด าเนินงานของมูลนิธิไม่ตรงตามวัตถุประสงค์หรือมีการใช้ชื่อมูลนิธิด าเนินงานเพื่อหา
ประโยชน์ส่วนตัว


(2) รายได้ของมูลนิธิได้น าไปเป็นรายจ่ายเพื่อการกศลสาธารณะน้อยกว่าร้อยละ 60 ของ
รายได้ทั้งสิ้นในสามรอบระยะเวลาบัญชีที่แล้วมา เว้นแต่


ก. ตราสารจัดตั้งระบุว่าให้น าดอกผลมาเป็นรายได้เท่านั้น หรือให้น าดอกผลมาใช้จ่าย
เท่านั้น

ข. กรณีมีเหตุจ าเป็นต้องเก็บสะสมรายได้เพื่อด าเนินการตามโครงการตามวัตถุประสงค์
ของมูลนิธิ
(3) รายจ่ายของมูลนิธิเป็นรายจ่ายเพื่อการกุศลสาธารณะน้อยกว่าร้อยละ 75 ของรายจ่าย
ื่
ทั้งสิ้นในสามรอบระยะเวลาบัญชีที่แล้วมา และรายจ่ายดังกล่าวได้น าไปเป็นรายจ่ายเพอ
การกุศลสาธารณะน้อยกว่าร้อยละ 65 ของรายจ่ายทั้งสิ้นในแต่ละรอบระยะเวลาบัญชี
(4) รายจ่ายเพื่อการกุศลสาธารณะของมูลนิธิควรกระจายเป็นการทั่วไปตามวัตถุประสงค์ท ี่
ได้จะแจ้งไว้ และต้องมิใช่เพื่อวัตถุประสงค์ใดวัตถุประสงค์หนึ่งที่จะให้ประโยชน์เฉพาะแก่
บุคคล คณะบุคคล หรือหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งหรือเป็นส่วนใหญ่

6) มูลนิธิที่จัดตั้งขึ้นยังไม่ครบ 3 ปี จะไม่พิจารณาประกาศให้
7) องค์การ สถานสาธารณกศล สถานพยาบาล หรือสถานศกษาใดที่มิได้มีฐานะเป็นมูลนิธิจะไม่


พิจารณาประกาศให้ เว้นแต่จะมีวัตถุประสงค์และการด าเนินงานเช่นเดียวกับมูลนิธิจะพิจารณาประกาศให้เป็น
ราย ๆ ไป ในหลักเกณฑ์เดียวกันหรือตามที่เห็นสมควร

8) มูลนิธิ องค์การ สถานสาธารณกุศล สถานพยาบาล หรือสถานศึกษาใดที่ไม่เข้าหลักเกณฑ์

ตามขอ 2) ถึงข้อ 7) จะไม่ประกาศให้ เว้นแต่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังจะพิจารณาเห็นสมควร
9) มูลนิธิ องค์การ สถานพยาบาล หรือสถานศึกษา ที่ได้รับการประกาศให้เป็นองค์การกศล

สาธารณะไปแล้ว เว้นแต่สภากาชาดไทย วัดวาอาราม และสถานพยาบาล หรือสถานศกษาขององค์การของ

รัฐบาล จะต้องปฏิบัติดังต่อไปนี้
(1) ใบรับที่ออกให้แก่บุคคล คณะบุคคล หรือหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง ซึ่งบริจาคเงินหรือ
สินทรัพย์ ให้ระบุล าดับที่ได้รับการประกาศด้วย
(2) ส่งรายงานการประชุมใหญ่ งบแสดงฐานะการเงิน และบัญชีรายได้รายจ่าย พร้อมทั้ง

รายงานการด าเนินงานของกิจการส าหรับรอบปีบัญชีที่ผ่านมาของผู้รับอนุมติให้

กรมสรรพากรทราบภายใน 150 วัน นับแต่วันสิ้นรอบระยะเวลาบัญชี
10) องค์การ สถานสาธารณกศล สถานพยาบาล หรือสถานศกษาที่ประกาศไปแล้ว ให้


กรมสรรพากรด าเนินการตรวจสอบเอกสาร หลักฐานเกี่ยวกับผลการด าเนินงาน หากปรากฏว่าผลการ

ด าเนินงานไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์หรือคุณสมบัติที่ก าหนดข้างต้น หรือไม่ปฏิบัติตามขอ 9) โดยไม่มีเหตุอัน
สมควร ก็ให้เพกถอนการประกาศฯ ทั้งนี้ให้มีผลตั้งแต่ปีถัดจากปีที่ประกาศ เพกถอนในราชกิจจานุเบกษา


เป็นต้นไป
กิจการที่มิได้หวังผลก าไรที่จัดตั้งขึ้นในรูปแบบของสมาคมและมูลนิธิจะต้องจดทะเบียนเป็นนิติ
บุคคล โดยยื่นค าขออนุญาตจัดตั้งต่อหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง เช่น ส านักคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ
กรมประชาสงเคราะห์ กรมแรงงานและสวัสดิการสังคม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งองค์กรว่า
เกี่ยวข้องกับหน่วยงานใด

1. การจัดตั้งสมาคม
1) ชื่อองค์กรต้องมีค าว่า “สมาคม”
2) วัตถุประสงค์ ต้องเป็นการตั้งขึ้นเพอด าเนินการใด ๆ อันมีลักษณะต่อเนื่องร่วมกัน
ื่
โดยมิได้มุ่งหาผลก าไรหรือรายได้มาแบ่งปันกัน


3) เงินลงทุนเริ่มแรกจะมีจ านวนเท่าใดกได้ โดยกฎหมายไม่ได้ก าหนดวงเงินขั้นต่ าไว้


4) ผู้ร่วมก่อตั้งสมาคม ประกอบด้วยผู้จะเป็นสมาชิกไม่น้อยกว่า 10 คน
5) สมาชิกของสมาคม จะต้องมีไม่น้อยกว่า 10 คน

2. การจัดตั้งมูลนิธิ
1) ชื่อองค์กรต้องมีค าว่า “มูลนิธิ”
2) วัตถุประสงค์ ต้องเป็นการจัดสรรสินทรัพย์ไว้เพอการกุศลสาธารณะ ศิลปะ การศาสนา
ื่
วิทยาศาสตร์ วรรณคดี การศึกษา หรือเพอสาธารณประโยชน์อย่างอื่นโดยมิได้มุ่งหา
ื่
ผลก าไรหรือรายได้มาแบ่งปันกัน
3) เงินลงทุนเริ่มแรก ต้องมีจ านวนไม่น้อยกว่า 200,000 บาท โดยจะต้องเป็นเงินสด
ไม่น้อยกว่า 100,000 บาท
4) ผู้ร่วมก่อตั้งมูลนิธิ ประกอบด้วยผู้จะเป็นกรรมการของมูลนิธิไม่น้อยกว่า 3 คน

5) คณะกรรมการของมูลนิธิ จะต้องมีไม่น้อยกว่า 3 คน

4. สมุดบัญชีที่ใช้และการบันทึกบัญชีมูลนิธิ สมาคมและสโมสร



หลักเกณฑ์ที่ใช้ในการบันทึกบัญชีรายได้และค่าใช้จ่ายของกิจการที่มิได้หวังผลก าไร มีดังนี้
1. เกณฑ์เงินสด (Cash Basis) คือ วิธีการบัญชีที่บันทึกรายได้และค่าใช้จ่ายต่อเมื่อได้รับเงินสด
และจ่ายเงินสดไปจริง ทั้งนี้โดยไม่ค านึงถึงงวดเวลาที่เกี่ยวข้องของเงินสดที่ได้รับมาหรือจ่ายเงินสดไป
2. เกณฑ์คงค้าง (Accrual Basis) คือ วิธีการบัญชีที่ใช้หลักในการพิจารณาบันทึกรายได้และ
ค่าใช้จ่ายให้อยู่ในงวดเวลาต่าง ๆ โดยค านึงถึงรายได้ที่พึงรับและค่าใช้จ่ายที่พึงจ่าย เพื่อให้แสดงผลการ


ด าเนินงานของแต่ละงวดเวลานั้น ทั้งนี้โดยไม่คานึงถึงรายรับและรายจ่ายเป็นเงินสดว่าได้เงินมาแล้วหรือ
จ่ายเงินไปแล้วหรือไม่ตามเกณฑ์เงินสด
3. เกณฑ์ผสม (Modified Cash Basis) คือ วิธีการบัญชีที่ใช้ทั้งเกณฑ์เงินสดและเกณฑคงค้างมา

ผสมผสานกันโดยยึดหลักความระมัดระวัง กล่าวคือรายได้ถือเป็นรายการที่ไม่แน่นอนอาจจะได้รับหรือไม่ได้รับ
กิจการจึงบันทึกรายได้ต่อเมื่อได้รับเงินแล้ว ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์เงินสด ส่วนค่าใช้จ่ายถือเป็นภาระผูกพันที่
กิจการต้องจ่ายแน่นอนจึงบันทึกตามเกณฑ์คงค้าง
สมุดบัญชีที่ใช้ อาจเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสมได้แก่ สมุดรายวันเงินสด สมุดเงินสด 2 ช่อง และ

สมุดรายวันทั่วไป ถ้ากรณีมการรับ-จ่ายเงินเป็นประจ า ควรใช้สมุดรายวันเงินสด แต่ถ้ามีการรับ – จ่ายเงิน

ในแต่ละเดือนไม่มากรายการควรใช้สมุดเงินสด 2 ช่อง
ประเภทของบัญชีแยกประเภททั่วไป แบ่งออกได้ดังนี้
1. สินทรัพย์ เช่น เงินสด เงินฝากธนาคาร เงินยืมทดรอง วัสดุส านักงาน เข็มสมาชิก

ค่าบ ารุงสมาชิกค้างรับ ค่าใช้จ่ายล่วงหน้า เครื่องใช้ส านักงาน ค่าเสื่อมราคาสะสม-เครื่องใช้ส านักงาน
เครื่องตกแต่ง ค่าเสื่อมราคา-เครื่องตกแต่ง

2. หนี้สิน เช่น เจ้าหนี้ ค่าใช้จ่ายค้างจ่าย ค่าบ ารุงสมาชิกรับล่วงหน้า
3. ส่วนของเจ้าของ เช่น ทุนสะสม ทุนสงเคราะห์
4. รายได้ เช่น รายได้ค่าบ ารุงสมาชิก รายได้จากการจัดงาน รายได้จากการขายเข็ม

สมาชิก รายได้จากการจ าหน่ายวารสาร รายได้จากการบริจาค ดอกเบี้ยรับ รายได้เบ็ดเตล็ด
5. ค่าใช้จ่าย เช่น เงินเดือน ค่าเข็มสมาชิก ค่าพมพ์วารสาร ค่าใช้จ่ายจัดงานต่าง ๆ

วัสดุส านักงานใช้ไป ค่าสาธารณูปโภค ค่าเสื่อมราคา-สินทรัพย์


ตัวอย่างที่ 1 ต่อไปนี้เป็นรายการระหว่างเดือน ธันวาคม 25xx ของสมาคมแห่งหนึ่ง
25xx

ธันวาคม 1 เงินสดคงเหลือ 25,000 บาท เงินฝากธนาคารคงเหลือ 58,000 บาท
2 รับเงินค่าบ ารุงจากสมาชิก 50 คน คนละ 100 บาท
4 น าเงินฝากธนาคาร 30,000 บาท
7 รับเงินบริจาคจากสมาชิก 15,000 บาท

9 ได้รับเงินจากการจ าหน่ายวารสาร 500 บาท
11 จ่ายค่าอาหารว่างรับรองการประชุมของสมาชิก เป็นเงิน 500 บาท
14 รับเงินค่าบ ารุงจากสมาชิก 50 คน คนละ 100 บาท
18 รับเงินรายได้จากการขายเข็มสมาชิก 1,500 บาท

20 จ่ายเช็คซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ จ านวน 1 เครื่อง เป็นเงิน 18,000 บาท
23 จ่ายค่าใช้จ่ายใช้จ่ายเบ็ดเตล็ด เป็นเงิน 500 บาท
25 จ่ายค่าสาธารณูปโภค เป็นเงิน 3,200 บาท
29 ถอนเงินจากธนาคารมาใช้ในสมาคม จ านวน 20,000 บาท

31 จ่ายเงินเดือนเจ้าหน้าที่ 2 คน เป็นเงิน 28,000 บาท

ให้ท า บันทึกรายการข้างต้นในสมุดเงินสด 2 ช่อง


สมุดเงินสด 2 ช่อง
หน้า 1
พ.ศ. 25xx เลขที่ เดบิต พ.ศ. 25xx เลขที่ เครดิต
เดือน วัน รายการ บัญชี เงินสด ธนาคาร เดือน วัน รายการ บัญชี เงินสด ธนาคาร
ที ที่
ธ.ค. 1 ยอดยกมา √ 25,000 - 58,000 - ธ.ค. 4 ธนาคาร C 30,000 -
2 รายได้ค่าบ ารุงสมาชิก 401 5,000 - 11 ค่ารับรอง 501 500 -
4 เงินสด C 30,000 - 20 เครื่องใช้ส านักงาน 105 18,000 -
7 รายได้จากการบริจาค 402 15,000 - 23 ค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ด 502 500 -
9 รายได้จ าหน่ายวารสาร 403 500 - 25 ค่าสาธารณูปโภค 503 3,200 -
14 รายได้ค่าบ ารุงสมาชิก 401 5,000 - 29 เงินสด C 20,000 -
18 รายได้ค่าขายเข็มสมาชิก 404 1,500 - 31 เงินเดือนเจ้าหน้าที่ 504 28,000 -
29 ธนาคาร C 20,000 - ยอดยกไป √ 9,800 - 50,000 -
25x1 72,000 - 88,000 - 72,000 - 88,000 -
ม.ค. 1 ยอดยกมา √ 9,800 - 50,000 -


5. การจัดท างบการเงินมูลนิธิ สมาคมและสโมสร

กิจการที่ตั้งขึ้นมาโดยมิได้หาก าไรจะต้องมีการจัดท างบการเงิน เพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเช่น สมาชิก
ผู้บริจาคเงิน ผู้ได้รับประโยชน์ เจ้าหนี้ พนักงาน องค์กร หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้รู้รายละเอียดต่าง ๆ
ในการด าเนินงานและฐานะการเงินของกิจการ งบการเงินของมูลนิธิ สมาคมและสโมสร มี 3 งบ คือ


1. งบรายรับ รายจ่าย (Statement of Receipts and Payments) คืองบที่แสดงรายรับและ
รายจ่ายที่เกิดขึ้นระหว่างงวดของเงินสดและเงินฝากธนาคารคงเหลือต้นงวดและปลายงวด โดยแสดงยอด

ื่
เงินสดคงเหลือต้นงวด เงินฝากธนาคารต้นงวด รายการรับเงินระหว่างงวด รายการจ่ายเงินระหว่างงวด เพอ
สรุปเป็นเงินสดคงเหลือปลายงวด เงินฝากธนาคารคงเหลือปลายงวด ส่วนประกอบของงบรายรับ รายจ่าย
ประกอบด้วย
1.1 รายรับ (Receipts) หมายถึง จ านวนเงินสดที่กิจการได้รับระหว่างปีทั้งหมด เช่น ค่าบ ารุง

สมาชิก รายได้จากการจัดงาน รายได้จากการรับบริจาค รายได้จากการขายสินทรัพย์ ฯลฯ โดยไม่ต้องค านึงถึง
ว่าจ านวนเงินที่กิจการได้รับเป็นการรับเงินของงวดบัญชีที่แล้วหรืองวดบัญชีปัจจุบัน หรืองวดบัญชีถัดไป ให้
รวมเงินสดที่กิจการได้รับทั้งหมดเป็นรายรับทั้งจ านวน

1.2 รายจ่าย (Payments) หมายถึง จ านวนเงินสดที่กิจการได้จ่ายไประหว่างปีทั้งหมด เช่น ค่าทา

เข็มสมาชิก ค่ารับรอง ค่าวารสาร เงินเดือน ซื้อสินทรัพย์ ฯลฯ โดยไม่ต้องค านึงถึงว่าจ านวนเงินที่กิจการได้จ่าย
ไปเป็นการจ่ายเงินของงวดบัญชีที่แล้วหรืองวดบัญชีปัจจุบัน หรืองวดบัญชีถัดไป ให้รวมเงินสดที่กิจการได้จ่าย
ทั้งหมดเป็นรายจ่ายทั้งจ านวน
การจัดท างบรายรับรายจ่าย มีวิธีการจัดท าดังนี้

1. รายรับ น ามาจากสมุดเงินสดด้านเดบิต ยกเว้นรายการเบิกเงินหรือถอนเงินเงินฝากธนาคาร
ประเภทกระแสรายวันหรือออมทรัพย์
2. รายจ่าย น ามาจากสมุดเงินสดด้านเครดิต ยกเว้นรายการน าเงินฝากธนาคารประเภทกระแส

รายวันหรือออมทรัพย์
3. บัญชีเงินยืมทดรอง กรณีที่มีรับคืนเงินยืมทดรอง และจ่ายเงินยืมทดรอง ให้หาปรากฏผลต่างดังนี้


3.1 ถ้าจ่ายเงินยืมทดรองระหว่างงวดมากกว่ารับคืนเงินยืมทดรองระหว่างงวดให้น าผลต่างบันทึก
เป็นรายจ่าย เช่น จ่ายเงินยืมทดรองระหว่างงวด 8,000 บาท และรับคืนเงินยืมทดรอง

ระหว่างงวด 5,000 บาท ผลต่างรับคืนเงินยืมทดรองน้อยกว่าจ่ายเงินยืมทดรอง 3,000 บาท
ให้ปรากฏ เงินยืมทดรองเป็นรายจ่าย 3,000 บาท
3.2 ถ้ารับคืนเงินยืมทดรองระหว่างงวดมากกว่าจ่ายคืนเงินยืมทดรองระหว่างงวดให้น าผลต่าง
บันทึกเป็นรายรับ เช่น จ่ายเงินยืมทดรองระหว่างงวด 6,000 บาท และรับคืนเงินยืมทดรอง

ระหว่างงวด 8,000 บาท ผลต่างจ่ายเงินยืมทดรองน้อยกว่ารับคืนเงินยืมทดรอง 2,000 บาท
ให้ปรากฏเงินยืมทดรองเป็นรายรับ 2,000 บาท
4. เงินสดคงเหลือปลายงวด ค านวณดังนี้



เงินสดคงเหลือปลายงวด = เงินสดคงเหลือต้นงวด + รายรับทุกรายการ
ระหว่างงวด – รายจ่ายทุกรายการระหว่างงวด



5. เงินฝากธนาคารคงเหลือปลายงวด ค านวณดังนี้



เงินฝากธนาคารคงเหลือปลายงวด = เงินฝากธนาคารต้นงวด + เงินฝากธนาคาร
ระหว่างงวด – ถอนเงินฝากธนาคารระหว่าง
งวด





2. งบรายได้และค่าใช้จ่าย (Statement of Income and expenses) คืองบที่แสดงรายได้และ
ค่าใช้จ่ายที่เกดขึ้นในปีปัจจุบันแม้ว่าจะยังมิได้รับเงินสดหรือจ่ายเงินสดจะไม่รวมรายได้และค่าใช้จ่ายของปี

อื่น ๆ ถึงแม้ว่าจะได้รับเงินสดหรือจ่ายเงินสดในปีปัจจุบัน งบรายได้และค่าใช้จ่ายจะให้เกณฑ์คงค้าง
ส่วนประกอบของงบรายได้และค่าใช้จ่าย ประกอบด้วย

2.1 รายได้ (Income) หมายถึง รายได้ที่เกดขึ้นในงวดบัญชีปัจจุบันโดยไม่ได้ค านึงถึงว่าจะได้รับ

เงินสดหรือไม่ก็ตาม วิธีการค านวณรายได้งวดบัญชีปัจจุบันมีดังนี้


รายได้รับระหว่างงวด xx
บวก รายได้ค้างรับปลายงวด xx
รายได้รับล่วงหน้าต้นงวด xx xx
รวม xx

หัก รายได้ค้างรับต้นงวด xx
รายได้รับล่วงหน้าปลายงวด xx xx
รายได้ของงวดบัญชีปัจจุบัน xx




2.2 ค่าใช้จ่าย (Expenses) หมายถึง ค่าใช้จ่ายที่เกดขึ้นในงวดบัญชีปัจจุบันโดยไมได้ค านึงถึง
ว่าจะได้จ่ายเงินสดหรือไม่ก็ตาม วิธีการค านวณเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายมีดังนี้

2.2.1 การค านวณคาใช้จ่ายของงวดบัญชีปัจจุบัน ค านวณดังนี้
ค่าใช้จ่ายจ่ายระหว่างงวด xx

บวก ค่าใช้จ่ายค้างจ่ายปลายงวด xx
ค่าใช้จ่ายล่วงหน้าต้นงวด xx xx
รวม xx
หัก ค่าใช้จ่ายค้างจ่ายต้นงวด xx

ค่าใช้จ่ายล่วงหน้าปลายงวด xx xx
ค่าใช้จ่ายของงวดบัญชีปัจจุบัน xx


2.2.2 การค านวณคาเข็มสมาชิกที่ขายในงวดบัญชีปัจจุบัน ค านวณดังนี้

เข็มสมาชิกคงเหลือต้นงวด xx

บวก จ่ายค่าเข็มสมาชิก xx
รวม xx
หัก เข็มสมาชิกคงเหลือปลายงวด xx

ค่าเข็มสมาชิกที่ขายงวดบัญชีปัจจุบัน xx

2.2.3 การค านวณวัสดุส านักงาน หรือวัสดุสิ้นเปลืองใช้ไป ค านวณได้ดังนี้


วัสดุส านักงานคงเหลือต้นงวด xx
บวก ซื้อวัสดุส านักงานระหว่างงวด xx

รวม xx
หัก วัสดุส านักงานคงเหลือปลายงวด xx
วัสดุส านักงานใช้ไป xx


2.2.4 ค่าเสื่อมราคา (Depreciation) กิจการมูลนิธิ สมาคมและสโมสรมีขอควรพิจารณาใน

การคิดค่าเสื่อมราคาสินทรัพย์แยกเป็น 2 กรณี ดังนี้
1. สินทรัพย์ที่จัดซื้อหามาจากรายได้ประจ า จะคิดค่าเสื่อมราคาตามวิธีเส้นตรง หรือ
วิธีอื่นที่เหมาะสม เพื่อเป็นต้นทุนของสินทรัพย์มาบันทึกเป็นค่าใช้จ่ายประจ างวดเช่นเดียวกับธุรกิจโดยทั่วไป



(1) เมื่อซื้อสินทรัพย์ จะบันทึกรายการโดย

เดบิต สินทรัพย์ (ระบุ) xx
เครดิต เงินสด xx


(2) เมื่อสิ้นงวดบัญชี จะบันทึกค่าเสื่อมราคาประจ างวดโดย

เดบิต ค่าเสื่อมราคา-สินทรัพย์ xx
เครดิต ค่าเสื่อมราคาสะสม-สินทรัพย์ xx




(3) เมื่อสินทรัพย์หมดอายุการใช้งาน จะจ าหน่ายสินทรัพย์ออกจากบัญชีและ
โอนปิดบัญชีค่าเสื่อมราคาสะสม จะบันทึกรายการโดย

เดบิต ค่าเสื่อมราคาสะสม-สินทรัพย์ xx
เครดิต สินทรัพย์ (ระบุ) xx



2. สินทรัพย์ที่ได้รับจากการบริจาค ทั้งที่เป็นสินทรัพย์ที่ได้รับจากการบริจาคหรือ
ซื้อหรือสร้างขึ้นจากเงินบริจาคหรือเงินอุดหนุนจากรัฐบาล กิจการไม่มีวัตถุประสงค์จะหารายได้ประจ ามา
ชดเชยกับมูลค่าของสินทรัพย์ที่เสื่อมราคาลงตามอายุการใช้งาน จะไม่นิยมคิดค่าเสื่อมราคาเป็นค่าใช้จ่าย

ประจ างวด เพราะท าให้ค่าใช้จ่ายสูงกว่ารายได้ทกงวดบัญชี จะท าให้งบการเงินไม่เป็นประโยชน์เท่าที่ควรหรือ



ท าให้ผู้ใช้ งบการเงินเขาใจผิด ดังนั้นทุกวันสิ้นงวดบัญชีจึงไม่คดค่าเสื่อมราคา ทั้งนี้จะบันทึกราคาทุนของ
สินทรัพย์ทั้งจ านวนกับบัญชีทุนสะสมหรือบัญชีกองทุนสินทรัพย์ เมื่อหมดอายุการใช้งานจะยกเลิกสินทรัพย์
ออกจากบัญชี ดังนี้



(1) เมื่อได้รับบริจาคสินทรัพย์ จะบันทึกรายการโดย
เดบิต สินทรัพย์ (ระบุ) xx

เครดิต ทุนสะสม/ทุนสะสมกองทุนสินทรัพย์ xx




(2) เมื่อสิ้นงวดบัญชี ไม่ต้องบันทึกรายการค่าเสื่อมราคา





(3) เมื่อสินทรัพย์หมดอายุการใช้งาน จะยกเลิกสินทรัพย์ออกจากบัญชี โดยกลับ
รายการที่บันทึกไว้ โดย

เดบิต ทุนสะสม/ทุนสะสมกองทุนสินทรัพย์ xx
เครดิต สินทรัพย์ (ระบุ) xx


2.3 รายการปรับปรุง วันสิ้นงวดบัญชีกิจการที่มิได้หวังผลก าไรจะไม่เคร่งครัดเหมือนกับธุรกิจ

ทั่วไปต่อรายการปรับปรุง เช่น รายได้ค้างรับ รายได้รับล่วงหน้า ค่าใช้จ่ายค้างจ่าย ค่าใช้จ่ายจ่ายล่วงหน้า จะ
บันทึกรายการเฉพาะรายการที่มีจ านวนเงินค่อนข้างสูงหรือมีนัยส าคัญ ซึ่งจะต้องได้รับเงินหรือต้องจ่ายเงิน
แน่นอน หรือมีระยะเวลาที่เกี่ยวข้องเป็นเวลาค่อนข้างนาน
2.4 รายการปิดบัญชี กิจการที่มิได้หวังผลก าไรจะไม่มีการค านวณหาผลก าไรขาดทุน จึงไม่มี

บัญชีก าไรขาดทุนหรือก าไรสะสมเหมือนธุรกิจทั่วไป ในวันสิ้นงวดบัญชีหลังจากปรับปรุงรายการที่จ าเป็นแล้ว
บัญชีรายได้และค่าใช้จ่ายต่าง ๆ จะโอนปิดเข้าบัญชีทุนสะสม หรือทุนทั่วไป กิจการอาจจะเปิดบัญชีรายได้และ
ค่าใช้จ่าย (Income and Expense Account) กรณีรายได้สูงกว่าค่าใช้จ่าย ผลต่างจะแสดงทางด้านซ้าย
(เดบิต) และกรณีที่ค่าใช้จ่ายสูงกว่ารายได้ ผลต่างจะแสดงทางด้านขวา (เครดิต) มีขั้นตอนดังนี้



(1) ปิดบัญชีรายได้ต่าง ๆ เข้าบัญชีรายได้และค่าใช้จ่าย
เดบิต รายได้ต่าง ๆ xx

เครดิต รายได้และค่าใช้จ่าย xx





(2) ปิดบัญชีค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เข้าบัญชีรายได้และค่าใช้จ่าย
เดบิต รายได้และค่าใช้จ่าย xx

เครดิต ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ xx





(3) ปิดบัญชีรายได้และค่าใช้จ่ายเข้าบัญชีทุนสะสม (ผลต่าง)
กรณีรายได้สูงกว่าค่าใช้จ่าย

เดบิต รายได้และค่าใช้จ่าย xx
เครดิต ทุนสะสม xx

กรณีคาใช้จ่ายสูงกว่ารายได้
เดบิต ทุนสะสม xx

เครดิต รายได้และค่าใช้จ่าย xx


3. งบแสดงฐานะการเงิน (Statement of Financial Position) คือ งบที่แสดงฐานะทางการเงิน
ณ วันใดวันหนึ่งของมูลนิธิ สมาคมและสโมสร โดยแสดงถึงสินทรัพย์ หนี้สินและทุนสะสมของกิจการ ซึ่งมี


ลักษณะคล้ายกับธุรกิจโดยทั่วไป แตกต่างคอทุนของมูลนิธิ สมาคมและสโมสรจะเรียกว่าทุนสะสม และจะเพิ่ม
ด้วยรายได้สูงกว่าค่าใช้จ่าย หรือลดด้วยรายได้ต่ ากว่าค่าใช้จ่าย บัญชีต่าง ๆ ที่แสดงในงบการเงินดังนี้
3.1 เงินสดและเงินฝากธนาคาร ให้แสดงเงินสดและเงินฝากธนาคารคงเหลือปลายงวดในงบ
แสดงฐานะการเงิน โดยน ามาจากงบรายรับ รายจ่าย

3.2 เงินยืมทดรอง ให้แสดงเงินยืมทดรองเฉพาะยอดคงเหลือปลายงวด โดยค านวณดังนี้



เงินยืมทดรองคงเหลือปลายงวด = เงินยืมทดรองต้นงวด + จ่ายเงินยืมทดรอง
ระหว่างงวด – รับเงินยืมทดรองระหว่างงวด


3.3 เข็มสมาชิก วัสดุส านักงาน วัสดุสิ้นเปลือง ให้แสดงเฉพาะยอดคงเหลือปลายงวด


ตัวอย่างที่ 2 สมาคมศษย์เกาแห่งหนึ่ง มียอดคงเหลือในบัญชีต่าง ๆ วันที่ 1 มกราคม 25xx ดังนี้


เงินสด 26,000
เงินฝากธนาคาร 198,000
เงินฝากประจ า 150,000
เงินยืมทดรอง 5,000
วัสดุส านักงาน 3,500

เข็มสมาชิก 1,200
ค่าขายวารสารค้างรับ 1,500
เครื่องใช้ส านักงาน 28,000
ค่าเสื่อมราคาสะสม-เครื่องใช้ส านักงาน 2,800

ค่าบ ารุงสมาชิกรับล่วงหน้า 500
ค่าพิมพ์วารสารค้างจ่าย 1,600
ทุนสะสม 408,300
413,200 413,200


รายการรับจ่ายเงินระหว่างปี 25xx มีดังนี้
รายรับ

ค่าบ ารุงสมาชิก 50,000
เงินบริจาค 15,000
ขายเข็มสมาชิก 24,000
ดอกเบี้ยเงินฝากประจ า 2,500

รับคืนเงินยืมทดรอง 3,500
ค่าขายวารสาร 38,000
เบิกเงินจากธนาคาร 56,000
รวม 189,000

รายจ่าย
วัสดุส านักงาน 2,500
จ่ายเงินยืมทดรอง 4,500
ค่าเข็มสมาชิก 18,000

บริจาคทุนการศึกษา 20,000
ค่าพิมพ์วารสาร 12,000
น าฝากธนาคาร 42,000

เงินเดือน 35,000
รวม 134,000
รายละเอียดเพิ่มเติม มีดังนี้
1. วันที่ 31 ธันวาคม 25xx วัสดุส านักงานคงเหลือ 2,000 บาท เข็มสมาชิกคงเหลือ 1,500 บาท
2. ค่าพิมพ์วารสารค้างจ่าย 2,000 บาท ค่าบ ารุงสมาชิกรับล่วงหน้า 1,500 บาท

3. ค่าวารสารค้างรับ 3,000 บาท
4. คิดค่าเสื่อมราคา เครื่องใช้ส านักงาน 10% ต่อปี


ให้ท า

1. งบรายรับ รายจ่าย ส าหรับปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 25xx

2. งบรายได้และค่าใช้จ่าย ส าหรับปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 25xx
3. งบแสดงฐานะการเงิน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 25xx
4. รายการปรับปรุงและปิดบัญชีสมุดรายวันทั่วไป


1. งบรายรับ รายจ่าย
สมาคมศษย์เก่าแห่งหนึ่ง

งบรายรับ รายจ่าย
ส าหรับปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 25xx


เงินคงเหลือต้นงวด
เงินสด 26,000
เงินฝากธนาคาร 198,000
เงินฝากประจ า 150,000 374,000

รายรับ :
ค่าบ ารุงสมาชิก 50,000
เงินบริจาค 15,000
ขายเข็มสมาชิก 24,000

ดอกเบี้ยเงินฝากประจ า 2,500
ค่าขายวารสาร 38,000 129,500
รวม 503,500
รายจ่าย

วัสดุส านักงาน 2,500
เงินยืมทดรอง (1) 1,000
ค่าเข็มสมาชิก 18,000

บริจาคทุนการศึกษา 20,000
ค่าพิมพ์วารสาร 12,000
เงินเดือน 35,000 88,500
เงินคงเหลือปลายงวด
เงินสด (2) 81,000

เงินฝากธนาคาร (3) 184,000
เงินฝากประจ า 150,000 415,000
รวม 503,500


วิธีค านวณ
(1) เงินยืมทดรอง = 4,500 – 3,500
= 1,000

(2) เงินสดคงเหลือปลายงวด = เงินสดคงเหลือต้นงวด + รายรับทุกรายการ
ระหว่างงวด – รายจ่ายทุกรายการระหว่างงวด
= 26,000 + 189,000 – 134,000
= 81,000


(3) เงินฝากธนาคารคงเหลือปลายงวด = เงินฝากธนาคารต้นงวด + เงินฝากธนาคาร
ระหว่างงวด – ถอนเงินฝากธนาคารระหว่างงวด

= 198,000 + 42,000 – 56,000
= 184,000
2. งบรายได้และค่าใช้จ่าย
สมาคมศษย์เก่าแห่งหนึ่ง

งบรายได้และค่าใช้จ่าย
ส าหรับปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 25xx
รายได้
รายได้ค่าบ ารุงสมาชิก (1) 49,000

รายได้จากการบริจาค 15,000
รายได้ค่าขายเขมสมาชิก 24,000

รายได้ค่าขายวารสาร (2) 39,500
ดอกเบี้ยรับเงินฝากประจ า 2,500

รวมรายได้ 130,000
ค่าใช้จ่าย
วัสดุส านักงานใช้ไป (3) 4,000

ค่าเข็มสมาชิก (4) 17,700

ค่าบริจาคทุนการศกษา 20,000
ค่าพิมพ์วารสาร (5) 12,400
เงินเดือน 35,000
ค่าเสื่อมราคา-เครื่องใช้ส านักงาน (6) 2,800

รวมค่าใช้จ่าย 91,900
รายได้สูงกว่าค่าใช้จ่าย 38,100


วิธีค านวณ

(1) ค่าบ ารุงสมาชิกรับระหว่างงวด 50,000

บวก ค่าบ ารุงสมาชิกรับล่วงหน้าต้นงวด 500
รวม 50,500
หัก ค่าบ ารุงสมาชิกรับล่วงหน้าปลายงวด 1,500
รายได้ค่าบ ารุงสมาชิกของงวดบัญชีปัจจุบัน 49,000


(2) ค่าขายวารสารรับระหว่างงวด 38,000
บวก ค่าขายวารสารค้างรับปลายงวด 3,000

รวม 41,000
หัก ค่าขายวารสารค้างรับต้นงวด 1,500
รายได้ค่าขายวารสารของงวดบัญชีปัจจุบัน 39,500


(3) วัสดุส านักงานคงเหลือต้นงวด 3,500
บวก ซื้อวัสดุส านักงานระหว่างงวด 2,500

รวม 6,000
หัก วัสดุส านักงานคงเหลือปลายงวด 2,000
วัสดุส านักงานใช้ไป 4,000


(4) เข็มสมาชิกคงเหลือต้นงวด 1,200
บวก จ่ายค่าเข็มสมาชิก 18,000
รวม 19,200

หัก เข็มสมาชิกคงเหลือปลายงวด 1,500
ค่าเข็มสมาชิกที่ขายงวดบัญชีปัจจุบัน 17,700


(5) ค่าพิมพ์วารสารจ่ายระหว่างงวด 12,000
บวก ค่าพิมพ์วารสารค้างจ่ายปลายงวด 2,000
รวม 14,000

หัก ค่าพมพ์วารสารค้างจ่ายต้นงวด 1,600
ค่าพิมพ์วารสารของงวดบัญชีปัจจุบัน 12,400

(6) ค่าเสื่อมราคา-เครื่องใช้ส านักงาน = 28,000 x 10/100
= 2,800


3. งบแสดงฐานะการเงิน
สมาคมศษย์เก่าแห่งหนึ่ง

งบแสดงฐานะการเงิน
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 25xx
สินทรัพย์
สินทรัพย์หมุนเวียน

เงินสด 81,000
เงินฝากธนาคาร 184,000
เงินฝากประจ า 150,000
เงินยืมทดรอง (1) 6,000

วัสดุส านักงาน 2,000
เข็มสมาชิก 1,500
ค่าวารสารค้างรับ 3,000
สินทรัพย์หมุนเวียน 427,500

สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน
เครื่องใช้ส านักงาน 28,000
หัก ค่าเสื่อมราคาสะสม-เครื่องใช้ส านักงาน 5,600

สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน 22,400
รวมสินทรัพย์ 449,900


หนี้สินและทุนสะสม
หนี้สินหมุนเวียน
ค่าพิมพ์วารสารค้างจ่าย 2,000
ค่าบ ารุงสมาชิกรับล่วงหน้า 1,500
รวมหนี้สินหมุนเวียน 3,500

ทุนสะสม
ทุนสะสมต้นงวด 408,300
บวก รายได้สูงกว่าค่าใช้จ่าย 38,100

รวมทุนสะสม 446,400
รวมหนี้สินและทุนสะสม 449,900

วิธีค านวณ

(1) เงินยืมทดรองคงเหลือปลายงวด = เงินยืมทดรองต้นงวด + จ่ายเงินยืมทดรอง
ระหว่างงวด – รับเงินยืมทดรองระหว่างงวด
= 5,000 + 4,500 – 3,500
= 6,000


4. รายการปรับปรุงและปิดบัญชีสมุดรายวันทั่วไป


สมุดรายวันทั่วไป

หน้า…1……
พ.ศ…25xx….. เลขที่ เดบิต เครดิต
รายการ
เดือน วันที่ บัญช ี บาท สต. บาท สต.

ธ.ค. 31 วัสดุส านักงานใช้ไป 501 4,000 -

ค่าเข็มสมาชิก 502 17,700 -


วัสดุส านักงาน 105 4,000 -

เข็มสมาชิก 106 17,700 -
ปรับปรุงวัสดุส านักงานและเข็มสมาชิก




ค่าพิมพ์วารสาร 504 2,000 -
202 2,000 -
ค่าพิมพ์วารสารค้างจ่าย
ปรับปรุงค่าพมพ์วารสารค้างจ่าย


รายได้ค่าบ ารุงสมาชิก 401 1,500 -

201 1,500 -
ค่าบ ารุงสมาชิกรับล่วงหน้า
ปรับปรุงค่าบ ารุงสมาชิกรับล่วงหน้า

ค่าวารสารค้างรับ 107 3,000 -

404 3.000 -
รายได้ค่าวารสาร
ปรับปรุงค่าวารสารค้างรับ



ค่าเสื่อมราคา-เครื่องใช้ส านักงาน 506 2,800 -

ค่าเสื่อมราคาสะสม-เครื่องใช้ส านักงาน 109 2,800 -
ปรับปรุงค่าเสื่อมราคาเครื่องใช้ส านักงาน 10%


สมุดรายวันทั่วไป

หน้า…2……
พ.ศ…25xx….. เลขที่ เดบิต เครดิต
รายการ
เดือน วันที่ บัญช ี บาท สต. บาท สต.

ธ.ค. 31 รายได้ค่าบ ารุงสมาชิก 401 49,000 -

รายได้จากการบริจาค 402 15,000 -


รายได้ค่าขายเขมสมาชิก 403 24,000 -

รายได้ค่าขายวารสาร 404 39,500 -

ดอกเบี้ยรับเงินฝากประจ า 405 2,500 -

รายได้และค่าใช้จ่าย 303 130,000 -

ปิดบัญชีรายได้เขาบัญชีรายได้และค่าใช้จ่าย

รายได้และค่าใช้จ่าย 303 91,900 -
501 4,000 -
วัสดุส านักงานใช้ไป
ค่าเข็มสมาชิก 502 17,700 -

503 20,000 -
ค่าบริจาคทุนการศึกษา
504 12,400 -
ค่าพิมพ์วารสาร
เงินเดือน 505 35,000 -

506 2,800 -
ค่าเสื่อมราคา-เครื่องใช้ส านักงาน

ปิดบัญชีค่าใช้จ่ายเข้าบัญชีรายได้และค่าใช้จ่าย

รายได้และค่าใช้จ่าย 303 38,100 -

ทุนสะสม 301 38,100 -
ปิดบัญชีรายได้และค่าใช้จ่ายเข้าบัญชีทุนสะสม


กิจกรรมตรวจสอบความเข้าใจ


ตอนที่ 1 จงตอบค าถามต่อไปนี้ให้ถูกต้อง


1. มูลนิธิ หมายถึงอะไร
..............................................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
…………………………………………………………………………………………………………………………………….……………………


2. สมาคม หมายถึงอะไร
..............................................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

…………………………………………………………………………………………………………………………………….……………………

3. สโมสร หมายถึงอะไร

..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
…………………………………………………………………………………………………………………………………….……………………


4. วัตถุประสงค์การท าบัญชีของมูลนิธิ สมาคมและสโมสรมีอะไรบ้าง

..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
……………………………………………………………………………………………………………………………………..…….…………
..............................................................................................................................................................................

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

5. องค์กรมูลนิธิ สมาคมและสโมสร ตามกฎหมายแบ่งเป็นกี่ประเภท อะไรบ้าง

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………


6. สมาคมและมูลนิธิ มีหลักเกณฑ์การจัดตั้งอย่างไร
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

7. ประเภทบัญชีของมูลนิธิ สมาคมและสโมสรมีอะไรบ้าง
..............................................................................................................................................................................
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
..............................................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................

8. สมุดบัญชีที่ใช้ของมูลนิธิ สมาคมและสโมสร มีอะไรบ้าง

..............................................................................................................................................................................
………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………..
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

………………………………………………………………………………………………….……………….…………………………………….

9. การจัดท างบประมาณรายรับ รายจ่ายของมูลนิธิ สมาคมและสโมสรมีขั้นตอนอย่างไรบ้าง

..............................................................................................................................................................................
…………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………
…...........................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
........………………………………………………………………………………………………….……………….………………………………


10. งบการเงินของมูลนิธิ สมาคมและสโมสรมีกี่งบอะไรบ้าง
..............................................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................


ตอนที่ 2 จงแสดงวิธีการท าให้ถูกต้อง


ข้อ 1 ต่อไปนี้เป็นรายการบัญชีระหว่างเดือนพฤษภาคม 25xx ของสมาคมมะม่วงไทย
25xx

พฤษภาคม 1 ยอดยกมาคงเหลือ เป็นเงินสด 12,500 บาท และเงินฝากธนาคาร
58,200 บาท
4 รับเงินค่าบ ารุงสมาชิก 50 คน คนละ 100 บาท
5 รับเงินบริจาคจากสมาชิก 10,000 บาท

7 น าเงินสดฝากธนาคาร 15,000 บาท
10 จ่ายค่ารับรอง 1,000 บาท
13 รับเงินค่าบ ารุงสมาชิก 20 คน คนละ 100 บาท


15 จ่ายค่าพมพ์วารสาร 5,000 บาท เป็นเช็ค
16 จ่ายค่าไฟฟ้าและค่าน้ าประปา 800 บาท
18 รับเงินจากการจ าหน่ายวารสารจ านวน 100 เล่ม เล่มละ 5 บาท
20 จ่ายค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ด 250 บาท
21 รับเงินค่าบ ารุงสมาชิก 30 คน คนละ 100 บาท น าฝากธนาคารทันที

22 จ่ายค่าโทรศัพท์ 642 บาท
25 ถอนเงินจากธนาคารมาใช้ในกิจการ 5,000 บาท
31 จ่ายเงินเดือน 15,000 บาทเป็นเช็ค


ให้ท า บันทึกรายการข้างต้นในสมุดเงินสด 2 ช่อง


ข้อ 2 ต่อไปนี้เป็นรายการบัญชีระหว่างเดือนสิงหาคม 25xx ของสมาคมทุเรียนไทย
25xx
สิงหาคม 1 ยอดยกมาคงเหลือ เป็นเงินสด 40,000 บาท และเงินฝากธนาคาร

125,000 บาท
3 รับเงินค่าบ ารุงสมาชิก 80 คน คนละ 200 บาท
5 จ่ายค่ารับรอง 1,000 บาท
7 น าเงินสดฝากธนาคาร 20,000 บาท

9 จ่ายค่าโทรศัพท์ 2,680 บาท
12 รับเงินค่าบ ารุงสมาชิก 50 คน คนละ 200 บาท น าฝากธนาคารทันที

15 จ่ายค่าพมพ์วารสาร 5,000 บาท เป็นเช็ค
16 จ่ายค่าไฟฟ้าและค่าน้ าประปา 4,280 บาท

18 รับเงินจากการจ าหน่ายวารสารได้จ านวน 300 เล่ม เล่มละ 7 บาท
19 จ่ายค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ด 200 บาท
20 รับเงินค่าบ ารุงสมาชิก 10 คน คนละ 200 บาท
24 จ่ายค่าพาหนะ 500 บาท

25 ถอนเงินจากธนาคารมาใช้ในกิจการ 7,000 บาท
28 ซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์จ านวน 1 เครื่อง ราคา 23,000 บาท จ่ายเป็นเช็ค


31 จ่ายเงินเดือน 30,000 บาทเป็นเช็ค


ให้ท า บันทึกรายการข้างต้นในสมุดเงินสด 2 ช่อง


ข้อ 3 สมาคมศษย์เก่าแห่งหนึ่ง มียอดคงเหลือในบัญชีต่าง ๆ วันที่ 1 มกราคม 25xx ดังนี้
เงินสด 18,500
เงินฝากธนาคาร 46,000
เงินยืมทดรอง 2,000

วัสดุส านักงาน 1,000
เข็มสมาชิก 800
ค่าขายวารสารค้างรับ 1,200
เครื่องใช้ส านักงาน 25,000

ค่าเสื่อมราคาสะสม-เครื่องใช้ส านักงาน 2,500
ค่าบ ารุงสมาชิกรับล่วงหน้า 1,500
ค่าพิมพ์วารสารค้างจ่าย 1,000
ทุนสะสม 89,500

94,500 94,500

รายการรับจ่ายเงินระหว่างปี 25xx มีดังนี้
รายรับ

ค่าบ ารุงสมาชิก 20,000
เงินบริจาค 10,000
ขายเข็มสมาชิก 15,000

รับคืนเงินยืมทดรอง 4,500
ค่าขายวารสาร 24,000
เบิกเงินจากธนาคาร 16,000
รวม 89,500
รายจ่าย

วัสดุส านักงาน 3,500
จ่ายเงินยืมทดรอง 3,000
ค่าเข็มสมาชิก 12,000

บริจาคทุนการศึกษา 10,000
ค่าพิมพ์วารสาร 8,000
น าฝากธนาคาร 22,000
เงินเดือน 25,000

รวม 83,500


รายละเอียดเพิ่มเติม มีดังนี้
1. วันที่ 31 ธันวาคม 25xx วัสดุส านักงานคงเหลือ 500 บาท เข็มสมาชิกคงเหลือ 1,000 บาท

2. ค่าพิมพ์วารสารค้างจ่าย 800 บาท ค่าบ ารุงสมาชิกรับล่วงหน้า 1,400 บาท
3. ค่าวารสารค้างรับ 1,500 บาท
4. คิดค่าเสื่อมราคา เครื่องใช้ส านักงาน 10% ต่อปี


ให้ท า 1. งบรายรับ รายจ่าย ส าหรับปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 25xx
2. งบรายได้และค่าใช้จ่าย ส าหรับปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 25xx
3. งบแสดงฐานะการเงิน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 25xx

4. รายการปิดบัญชีสมุดรายวันทั่วไป

ข้อ 4 ต่อไปนี้เป็นยอดคงเหลือบางส่วนในบัญชีต่าง ๆ ของสโมสรแม่บ้าน เมื่อวันที่ 1 มกราคม 25xx

ค่าขายเสื้อสมาชิกคางรับ 12,800
ค่าจัดท าสูจิบัตรจ่ายล่วงหน้า 2,000
ค่าบ ารุงสมาชิกรับล่วงหน้า 4,500
ค่าใช้จ่ายในการจัดงานเลี้ยงค้างจ่าย 13,000
ค่าปักเครื่องหมายเสื้อค้างจ่าย 1,200

รายการรับจ่ายเงินระหว่างปี 25xx มีดังนี้
รายรับ
ค่าบ ารุงสมาชิก 35,000

ค่าจัดงานเลี้ยง 69,000
ค่าขายเสื้อสมาชิก 42,500
รายจ่าย
ค่าปักเครื่องหมายเสื้อ 3,500
ค่าใช้จ่ายในการจัดงานเลี้ยง 38,000

ค่าจัดท าสูจิบัตร 5,000
รายละเอียดเพิ่มเติม วันที่ 31 ธันวาคม 25xx มีดังนี้

ค่าขายเสื้อสมาชิกคางรับ 5,500
ค่าจัดท าสูจิบัตรจ่ายล่วงหน้า 800
ค่าบ ารุงสมาชิกรับล่วงหน้า 2,400
ค่าใช้จ่ายในการจัดงานเลี้ยงค้างจ่าย 3,200
ค่าปักเครื่องหมายเสื้อค้างจ่าย 1,000


ให้ท า 1. ค านวณรายได้และค่าใช้จ่ายของงวดบัญชีปัจจุบัน
2. งบรายได้และค่าใช้จ่าย ส าหรับปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 25xx


ข้อ 5 ต่อไปนี้เป็นยอดคงเหลือบางส่วนในบัญชีต่าง ๆ ของสมาคมชาวไร่ส้ม เมื่อวันที่ 1 มกราคม 25xx
ค่าขายเข็มสมาชิกค้างรับ 14,400

ค่าจัดท าสูจิบัตรจ่ายล่วงหน้า 3,500
ค่าบ ารุงสมาชิกรับล่วงหน้า 2,500
ค่าใช้จ่ายในการจัดงานเลี้ยงค้างจ่าย 6,000
รายการรับจ่ายเงินระหว่างปี 25xx มีดังนี้

รายรับ
ค่าบ ารุงสมาชิก 25,500
ค่าจัดงานเลี้ยง 85,000
ค่าขายเข็มสมาชิก 42,000

รายจ่าย
ค่าท าเข็มสมาชิก 8,000
ค่าใช้จ่ายในการจัดงาน 54,000
ค่าจัดท าสูจิบัตร 2,700

รายละเอียดเพิ่มเติม วันที่ 31 ธันวาคม 25xx มีดังนี้
ค่าขายเข็มสมาชิกค้างรับ 2,800
ค่าจัดท าสูจิบัตรจ่ายล่วงหน้า 500

ค่าบ ารุงสมาชิกรับล่วงหน้า 1,000
ค่าใช้จ่ายในการจัดงานเลี้ยงค้างจ่าย 4,800


ให้ท า 1. ค านวณรายได้และค่าใช้จ่ายของงวดบัญชีปัจจุบัน
2. งบรายได้และค่าใช้จ่าย ส าหรับปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 25xx


ข้อ 6 ต่อไปนี้เป็นยอดคงเหลือในบัญชีต่าง ๆ ของสมาคมแม่บ้านทหาร เมื่อวันที่ 1 มกราคม 25xx
เงินสด 35,500
เงินฝากธนาคาร 96,000
เงินยืมทดรอง 6,700
วัสดุสิ้นเปลือง 900

เข็มสมาชิก 2,500
พันธบัตร 100,000
ค่าบ ารุงสมาชิกค้างรับ 3,200

เครื่องใช้ส านักงาน 36,000
ค่าเสื่อมราคาสะสม-เครื่องใช้ส านักงาน 4,800
เครื่องตกแต่ง 19,000
ค่าเสื่อมราคาสะสม-เครื่องใช้ส านักงาน 2,700

ค่าเข็มสมาชิกรับล่วงหน้า 4,500
ค่าพิมพ์วารสารค้างจ่าย 1,700
ทุนสะสม 286,100
299,800 299,800


รายการรับจ่ายเงินระหว่างปี 25xx มีดังนี้

รายรับ
ค่าบ ารุงสมาชิก 35,000
ค่าสมัครสมาชิก 2,500
ค่าขายเข็มสมาชิก 18,000

รับคืนเงินยืมทดรอง 2,600
ค่าขายวารสาร 21,000
ค่าบัตรงานการกุศล 85,000
ขายอาหารและเครื่องดื่ม 32,000

ดอกเบี้ยพันธบัตร 4,500
เบิกเงินจากธนาคาร 47,800
รายจ่าย
วัสดุสิ้นเปลือง 2,600

จ่ายเงินยืมทดรอง 3,500
ค่าเข็มสมาชิก 18,500
บริจาคทุนการศึกษา 15,000

ค่าพิมพ์วารสาร 7,500
ค่าพิมพ์บัตรงาน 1,400
ค่าใช้จ่ายจัดงาน 34,600
ค่าอาหารและเครื่องดื่ม 17,000
น าฝากธนาคาร 43,900

ค่าเช่า 11,000
ค่ารับรอง 1,500
เงินเดือน 43,000


รายละเอียดเพิ่มเติม มีดังนี้
1. วันที่ 31 ธันวาคม 25xx วัสดุสิ้นเปลืองคงเหลือ 800 บาท เข็มสมาชิกคงเหลือ 4,000 บาท
2. ค่าพิมพ์วารสารค้างจ่าย 1,600 บาท

3. ค่าวารสารค้างรับ 1,200 บาท
4. ค่าเช่าค้างจ่าย 1,000 บาท
5. ดอกเบี้ยพันธบัตร 6%ต่อปี ได้รับดอกเบี้ยถึงวันที่ 1 ตุลาคม 25xx
6. คิดค่าเสื่อมราคา เครื่องใช้ส านักงาน 10%ต่อปี และเครื่องตกแต่ง 20% ต่อปี


ให้ท า 1. งบรายรับ รายจ่าย ส าหรับปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 25xx
2. งบรายได้และค่าใช้จ่าย ส าหรับปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 25xx

3. งบแสดงฐานะการเงิน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 25xx
4. รายการปรับปรุงและปิดบัญชีสมุดรายวันทั่วไป



ข้อ 7 สมาคมศษย์เก่าแห่งหนึ่ง มีงบทดลอง วันที่ 31 ธันวาคม 25xx ก่อนปรับปรุงมีดังนี้
เงินสด 58,000

เงินฝากธนาคาร 265,000
เงินยืมทดรอง 3,100
วัสดุส านักงาน 2,700
เข็มสมาชิก 5,900

ค่าบ ารุงสมาชิกค้างรับ 6,200
ค่าพิมพ์วารสารจ่ายล่วงหน้า 4,100
เครื่องใช้ส านักงาน 85,000
ค่าเสื่อมราคาสะสม-เครื่องใช้ส านักงาน 8,500

ค่าเข็มสมาชิกรับล่วงหน้า 3,500
ทุนสะสม 240,000
รายได้ค่าบ ารุงสมาชิก 65,800
รายได้จากการบริจาค 31,000

รายได้จากการจัดงาน 120,000
รายได้จากการขายวารสาร 35,000
รายได้จากการขายเข็มสมาชิก 24,000

ค่าใช้จ่ายในการจัดงาน 39,500
บริจาคทุนการศึกษา 20,000
ค่าการกุศล 8,000
ค่าพิมพ์วารสาร 16,400
ค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ด 900

ค่าเข็มสมาชิก 7,000
ค่ารับรอง 4,000
ค่าพาหนะ 2,000

527,800 527,800

รายละเอียดเพิ่มเติม วันที่ 31 ธันวาคม 25xx มีดังนี้

1. วัสดุส านักงานคงเหลือ 700 บาท และเขมสมาชิกคงเหลือ 2,200 บาท

2. รายได้ค่าบ ารุงสมาชิกทได้รับเป็นค่าบ ารุงสมาชิกรับล่วงหน้า 1,500 บาท
ี่
3. ค่าใช้จ่ายจัดงานค้างจ่าย 3,000 บาท
4. คิดค่าเสื่อมราคา เครื่องใช้ส านักงาน 10%ต่อปี

5. ค่าพิมพ์วารสารจ่ายล่วงหน้า 2,800 บาท

ให้ท า 1. รายการปรับปรุงและปิดบัญชีสมุดรายวันทั่วไป

2. งบรายได้และค่าใช้จ่าย ส าหรับปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 25xx
3. งบแสดงฐานะการเงิน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 25xx


สรุป


ื่
มูลนิธิ สมาคมและสโมสร เป็นสถาบันที่จัดตั้งขึ้นมาโดยคณะบุคคลร่วมกันเพอด าเนินงาน
ื่
ซึ่งเป็นประโยชน์กับสังคมและสมาชิกโดยไม่ได้หวังก าไรตอบแทน จัดตั้งขึ้นเพอช่วยเหลือบริการด้านสังคม
สนองความต้องการของสังคมหรือบุคคลบางกลุ่ม มีวัตถุประสงค์เพื่อสาธารณประโยชน์แก่สังคม ช่วยเหลือ
ผู้ประสบภัย ส่งเสริมการศึกษา การศาสนา การกุศล วัฒนธรรม ประเพณี การกีฬา สุขภาพอนามัย มูลนิธิ
ไม่จ าเป็นต้องจดทะเบียนก็ได้ แต่สมาคมต้องจดทะเบียนตามกฎหมาย งบการเงินของมูลนิธิ สมาคมและ
สโมสร มีงบรายรับ รายจ่าย งบรายได้และค่าใช้จ่าย และงบแสดงฐานะการเงิน




แบบทดสอบเพื่อประเมินผลหลังการเรียนรู้


จงเลือกค าตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว



จุดประสงค์การเรียนรู้ที่ 1 บอกความหมายของมูลนิธิ สมาคมและสโมสรได้


1. ข้อใดเป็นความหมายของมูลนิธิ
1. สัญญาซึ่งบุคคลหลายคนตกลงเข้ากันเพอท าการอันใดอันหนึ่งร่วมกัน มิใช่การหาผล
ื่
ก าไร
ื่
2. องค์กรเอกชนที่ท ากิจกรรมเพอวัตถุประสงค์เป็นประโยชน์สาธารณะแก่ส่วนรวม ไม ่
แสวงหาผลก าไร
3. คณะบุคคลตกลงเข้าร่วมกันเพื่อท าการอันใดอันหนึ่งร่วมกนเพื่อประโยชน์ของสมาชิกไม่

หวังผลก าไร
4. นิติบุคคลที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อกระท ามีลักษณะไม่ต่อเนื่อง มิใช่เป็นการหาผลก าไร


2. ข้อใดเป็นความหมายของสมาคม
1. สัญญาซึ่งบุคคลหลายคนตกลงเข้ากันเพอท าการอันใดอันหนึ่งร่วมกัน มิใช่การหาผล
ื่
ก าไร
ื่
2. องค์กรเอกชนที่ท ากิจกรรมเพอวัตถุประสงค์เป็นประโยชน์สาธารณะแก่ส่วนรวม ไม่
แสวงหาผลก าไร
3. คณะบุคคลตกลงเข้าร่วมกันเพื่อท าการอันใดอันหนึ่งร่วมกนเพื่อประโยชน์ของสมาชิกไม่

หวังผลก าไร
4. นิติบุคคลที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อกระท ามีลักษณะไม่ต่อเนื่อง มิใช่เป็นการหาผลก าไร
3. ข้อใดเป็นความหมายของสโมสร

1. สัญญาซึ่งบุคคลหลายคนตกลงเข้ากันเพอท าการอันใดอันหนึ่งร่วมกัน มิใช่การหาผล
ื่
ก าไร
ื่
2. องค์กรเอกชนที่ท ากิจกรรมเพอวัตถุประสงค์เป็นประโยชน์สาธารณะแก่ส่วนรวม ไม ่
แสวงหาผลก าไร



3. คณะบุคคลตกลงเข้าร่วมกันเพื่อท าการอันใดอันหนึ่งร่วมกนเพื่อประโยชน์ของสมาชิกไม่
หวังผลก าไร

4. นิติบุคคลที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อกระท ามีลักษณะไม่ต่อเนื่อง มิใช่เป็นการหาผลก าไร

จุดประสงค์การเรียนรู้ที่ 2 บอกวัตถุประสงค์ของการท าบัญชีและประเภทบัญชีมูลนิธิ สมาคม และสโมสรได้


4. ข้อใดไม่ใช่วัตถุประสงค์การท าบัญชีของมูลนิธิ สมาคมและสโมสร

1. เพื่อจัดท างบการเงินแสดงผลการด าเนินงานและแสดงฐานะทางการเงิน
2. เพื่อจดบันทึกค่าบ ารุงสมาชิกที่ได้รับจากสมาชิก
3. เพื่อจดบันทึกรายรับ รายจ่าย น ามาเป็นข้อมูลในการจัดท างบประมาณ
4. ถูกต้องทุกขอ


5. ข้อใดไม่ใช่ประเภทบัญชีของมูลนิธิ สมาคมและสโมสร
1. เงินยืมทดรอง

2. รายได้ค่าบ ารุงสมาชิก
3. รายได้ค่าทนายความ
4. เข็มสมาชิก

จุดประสงค์การเรียนรู้ที่ 3 บอกโครงสร้างและการจัดตั้งองค์กรได้
6. ข้อใดไม่ใช่องค์กรของมูลนิธิ สมาคมและสโมสร
1. คณะบุคคล
2. นิติบุคคล
3. องค์การหรือสถานสาธารณกศล

4. ห้างหุ้นส่วน บริษัทจ ากัด

จุดประสงค์การเรียนรู้ที่ 4 บอกสมุดบัญชีที่ใช้และบันทึกบัญชีมูลนิธิ สมาคมและสโมสรได้


7. สมุดบัญชีที่ใช้ของมูลนิธิ สมาคมและสโมสร มีอะไรบ้าง

1. สมุดรายวันทั่วไป
2. สมุดเงินสด 2 ช่อง
3. สมุดรายวันเงินสด

4. ถูกต้องทุกขอ


จากข้อมลต่อไปนี้ใช้ตอบค าถามข้อ 8- 9
สมาคมแห่งหนึ่งมียอดคงเหลือในวันที่ 1 มกราคม 25xx ดังนี้ เงินยืมทดรอง 4,000 บาท ค่าพิมพ ์
วารสารค้างจ่าย 1,900 บาท ระหว่างปีรับคืนเงินยืมทดรอง 3,000 บาท จ่ายค่าพิมพ์วารสาร 35,000 บาท


จ่ายเงินยืมทดรอง 2,500 บาท ในวันที่ 31 ธันวาคม 25xx มีค่าพมพ์วารสารค้างจ่าย 1,000 บาท
8. เงินยืมทดรองคงเหลือ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 25xx มีเท่าใด
1. 3,000 บาท
2. 3,500 บาท

3. 4,000 บาท
4. 4,500 บาท


9. ค่าพิมพ์วารสาร เป็นค่าใช้จ่ายของปีปัจจุบันเท่าใด
1. 34,100 บาท

2. 35,000 บาท
3. 35,900 บาท
4. 37,900 บาท


จุดประสงค์การเรียนรู้ที่ 5 จัดท างบการเงินมูลนิธิ สมาคมและสโมสรได้


10. ข้อใดไม่ใช่งบการเงินของมูลนิธิ สมาคมและสโมสร
1. งบก าไรขาดทุน
2. งบรายรับ รายจ่าย
3. งบแสดงฐานะการเงิน

4. งบรายได้และค่าใช้จ่าย


Click to View FlipBook Version