3. กฎหมายและมาตรฐานทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั การป้ องกนั อคั คภี ยั
เชอื่ มโยงกบั หวั ขอ้ การตรวจประเมนิ ขอ้ ที่ 1.4
ระบบแกส๊ คารบ์ อนไดออกไซดด์ บั เพลงิ และระบบสารสะอาดดบั เพลงิ (อา้ งองิ ประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม, มาตรฐานวศิ วกรรมสถานแหง่ ประเทศไทย)
ระบบสารสะอาดดบั เพลงิ
• ถงั บรรจสุ ารสะอาดดบั เพลงิ
1. ถงั บรรจสุ ารสะอาดดบั เพลงิ และอปุ กรณป์ ระกอบจะตอ้ งวางอยู่ในตาแหน่งทสี่ ะดวกต่อการตรวจสอบ การทดสอบ และการบารงุ รกั ษา
2. ถงั บรรจสุ ารสะอาดดบั เพลงิ จะตอ้ งตดิ ตง้ั อย่างมน่ั คง ใกลก้ บั พนื้ ทปี่ ้ องกนั น้ันและมกี ารป้ องกนั ความเสยี หายทจี่ ะเกดิ ขนึ้ กบั ตวั ถงั และอปุ กรณจ์ ากสภาวะ
แวดลอ้ มและอบุ ตั เิ หตไุ ดเ้ ป็ นอย่างดี
3. การเตมิ สารสะอาดดบั เพลงิ สาหรบั ถงั บรรจจุ ะตอ้ งเป็ นไปตามคาแนะนาของผูผ้ ลติ สารสะอาดน้ัน
4. ตอ้ งตดิ ตง้ั ป้ ายหรอื ทาเครอ่ื งหมายเพอื่ บอกชนิดของสารสะอาดทใ่ี ช ้ น้าหนักสารสะอาด นา้ หนักถงั และขอ้ ความสาคญั ทเี่ กย่ี วขอ้ งไวท้ ต่ี วั ถงั บรรจอุ ย่าง
ชดั เจน
5. ตอ้ งตดิ ตง้ั ชดุ วาลว์ นิรภยั สาหรบั ระบายความดนั ทเ่ี กนิ กวา่ ปกตทิ ถี่ งั บรรจสุ ารสะอาดดบั เพลงิ กาหนดไว ้ และตาแหน่งปล่อยสารสะอาดดบั เพลงิ ออกของ
วาลว์ นิรภยั จะตอ้ งไม่กอ่ ใหเ้ กดิ อนั ตรายกบั คนและพนื้ ทขี่ า้ งเคยี ง
3. กฎหมายและมาตรฐานทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั การป้ องกนั อคั คภี ยั เชอื่ มโยงกบั หวั ขอ้ การตรวจประเมนิ ขอ้ ที่ 1.6
การฝึ กอบรมเรอื่ งการป้ องกนั และระงบั อคั คภี ยั (อา้ งองิ ประกาศกระทรวงอตุ สาหกรรม)
การฝึ กอบรมเรอื่ งการป้ องกนั และระงบั อคั คภี ยั
คาแนะนาเบอื้ งตน้ เรอื่ งวธิ ปี ฏบิ ตั กิ ารฉุกเฉินกรณีไฟไหม้
พนักงานทจ่ี ะดบั ไฟควรผ่านการอบรมการดบั เพลงิ เบอื้ งตน้ มากอ่ น เมอ่ื พบเห็นเพลงิ ไหมส้ ามารถทจ่ี ะตดั สนิ ใจวา่ จะดบั ไฟอย่างไร ดงั ขน้ั ตอนทคี่ วรปฏบิ ตั ดิ งั ตอ่ ไปนี้
1. เมอื่ พบวา่ มเี พลงิ ไหมใ้ หก้ ดสญั ญาณเตอื นภยั เพอื่ แจง้ เหตทุ นั ที
2. พนักงานทกุ คนเมอื่ ไดย้ นิ สญั ญาณเตอื นภยั ใหห้ ยุดการทางานทนั ที โดยการกดป่ ุมหยดุ ฉุกเฉินทเ่ี ครอ่ื งจกั ร หากเป็ นเพลงิ ใหญ่ตอ้ งโทรศพั ทแ์ จง้ หน่วย
ดบั เพลงิ (ภายในหรอื ภายนอกขนึ้ กบั แนวทางของแตล่ ะบรษิ ทั )
3. พนักงานทอี่ ยใู่ นเหตกุ ารณพ์ จิ ารณาประเภทเชอื้ เพลงิ ทกี่ าลงั ลกุ ไหม ้ ถา้ เป็ นไฟไหมเ้ ล็ก สามารถดบั โดยเครอ่ื งดบั เพลงิ หรอื ถา้ สามารถดบั ไดด้ ว้ ยน้าใหฉ้ ีด
ดว้ ยน้า โดยใชน้ า้ ใหม้ ากทสี่ ุดทจี่ ะทาใหไ้ ฟดบั ได ้ หรอื จนกว่าเจา้ หนา้ ทด่ี บั เพลงิ จะมาทาหนา้ ทดี่ บั เพลงิ แทน
4. ถา้ มไี ฟฟ้ า หรอื อปุ กรณไ์ ฟฟ้ าลกุ ไหม ้ หา้ มใชน้ ้าฉีด
5. แยกเชอื้ เพลงิ ออกจากแหล่งทเี่ กดิ เพลงิ ไหม ้ หรอื ฉีดน้าคลมุ กนั ไฟออกไปใหไ้ กล
6. ถา้ เป็ นภาชนะบรรจกุ า๊ ซ ทอ่ บรรจกุ า๊ ซ ใหฉ้ ีดดว้ ยนา้ เพอื่ ใหท้ อ่ เย็น ใหใ้ ชน้ ้าจากทอ่ นา้ ดบั เพลงิ ทใ่ี กลท้ ส่ี ดุ ฉีดคลมุ ไว ้ ใหร้ ะลกึ เสมอวา่ ทอ่ แทงค ์ หรอื ภาชนะ
บรรจใุ ดๆ จะแตกระเบดิ ไดถ้ า้ หากไดร้ บั ความรอ้ นสงู ดงั นั้นควรอยหู่ ่างในระยะทป่ี ลอดภยั เพราะอาจถกู วสั ดอุ ปุ กรณท์ ตี่ ดิ อยู่กบั ภาชนะบรรจุ กระเด็นใส่ทอ่
บรรจกุ า๊ ซ หรอื แทงค ์ จะมคี วามปลอดภยั ถา้ ฉีดนา้ คลมุ ไว ้ ไม่ใหอ้ ณุ หภมู เิ กดิ จดุ เดอื ดของเนือ้ โลหะทที่ าเป็ นภาชนะบรรจใุ นกรณีทที่ อ่ หรอื แทงคท์ บ่ี รรจกุ า๊ ซ
เหลวถกู ไฟไหม ้ ควรฉีดนา้ คลุมดา้ นบนของภาชนะไวเ้ พราะ ดา้ นบนของภาชะจะเป็ นชอ่ งวา่ งทมี่ ไี อกา๊ ซความดนั สงู เมอื่ ไดร้ บั ความรอ้ นจะดนั ภาชนะดา้ นบน
แตกรา้ วได ้
3. กฎหมายและมาตรฐานทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั การป้ องกนั อคั คภี ยั
Source: Manual for industrial fire protection (Department of Industrial Works of Thailand)
ความแขง็ แรงของโครงสรา้ งและการแบง่ สว่ นอาคาร (อา้ งองิ ประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม) เชอื่ มโยงกบั หวั ขอ้ การตรวจประเมนิ ขอ้ ที่ 1.7
โครงสรา้ งของอาคารจะตอ้ งไดร้ บั การปกป้ องจากความรอ้ นเมอ่ื เกดิ เพลงิ ไหมเ้ พอ่ื ป้ องกนั การวบิ ตั ขิ องตวั อาคาร เน่ืองจากเหล็กจะสูญเสยี กาลงั ในการรบั แรงอย่าง
มาก ถา้ เหล็กไดร้ บั ความรอ้ นจนมอี ณุ หภูมสิ งู เกนิ ขดี ความสามารถทจ่ี ะคงความแข็งแรงไวไ้ ด ้
คานเหล็ก, เสาเหล็ก เสาเหล็ก คานเหล็ก
ฉนวนทนไฟ คอนกรตี
การหุม้ โครงสรา้ งเหล็กดว้ ยแผ่นฉนวนทนไฟ การหุม้ โครงสรา้ งเหล็กดว้ ยคอนกรตี คอนกรตี เสรมิ ความแข็งแรงดว้ ยเหล็กเสน้ การป้ องกนั โครงสรา้ งเหล็กโดยการพน่ ดว้ ยวสั ดทุ นไฟ
แมว้ า่ ไฟจะลุกลามมากขนึ้ จะตอ้ งมน่ั ใจไดว้ า่ ความปลอดภยั ของโครงสรา้ งจะทาใหอ้ าคารไม่วบิ ตั /ิ ถลม่ ทบั ผูอ้ ยู่อาศยั /นกั ผจญเพลงิ
การแบง่ สว่ นยอ่ ยของอาคารออกเป็ นสว่ นย่อยหรอื หน่วยเลก็ ๆ เพอื่ รองรบั และจากดั ความเสยี หาย/ การเตบิ โตจากสถานการณไ์ ฟไหม้ โดย
การป้ องกนั การแพรก่ ระจายของควนั และไฟ โดยใชโ้ ครงสรา้ งทนไฟ
Fire spread Fire spread
Fire walls
Fire floors
การถา่ ยเทความรอ้ นโดยการนา การพาและการแผ่ เพลงิ , ความรอ้ นและควนั แพรก่ ระจายผ่านชอ่ งเปิ ดของอาคาร จากดั ความเสยี หายและการแพรก่ ระจายดว้ ยการกน้ั แยกโดยกาแพงทนไฟและพนื้ ทนไฟ
การแบง่ สว่ นของอาคารทาเพอื่ ใหแ้ น่ใจวา่ เมอื่ มไี ฟไหม้ เพลงิ และควนั จะถูกจากดั ไวเ้ พยี งจดุ กาเนิดไฟไมแ่ พรก่ ระจายไปพนื้ ทอี่ นื่
3. กฎหมายและมาตรฐานทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั การป้ องกนั อคั คภี ยั
Source: https://www.buildings.com/articles/34692/basics-passive-fire-protection
ความแขง็ แรงของโครงสรา้ งและการแบง่ สว่ นอาคาร (อา้ งองิ ประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม) เชอื่ มโยงกบั หวั ขอ้ การตรวจประเมนิ ขอ้ ที่ 1.7
การป้ องกนั ไฟและควนั ลาม: การอดุ ปิ ดดว้ ยวสั ดปุ ้ องกนั ไฟลามทเี่ หมาะสม โดยพจิ ารณาครอบคลุมทง้ั เปลวไฟและควนั ไฟ ทชี่ อ่ งเปิ ดบนผนงั
พนื้ หรอื คานทมี่ อี ตั ราการทนไฟของอาคาร ซงึ่ ชอ่ งเปิ ดนน้ั อาจเกดิ จากงานระบบไฟฟ้ าและเครอื่ งกล ตวั อย่างชอ่ งเปิ ดภายในอาคารทตี่ อ้ งอดุ
ปิ ดดว้ ยวสั ดปุ ้ องกนั ไฟลาม เชน่
1. ชอ่ งเปิ ดทเ่ี กดิ จากรอยตอ่ ของพนื้ ผนัง และคานของบรเิ วณพนื้ ทป่ี ิ ดลอ้ มทนไฟ
2. ชอ่ งเปิ ดทเี่ กดิ จากการเดนิ ทอ่ ลมทะลผุ ่านผนังทนไฟของอาคาร
3. ชอ่ งเปิ ดทเี่ กดิ จากการเดนิ ท่อนา้ ทอ่ สายไฟ ทะลุผ่านผนังทนไฟของอาคาร
วดี โี อ: การทดลองการแพรก่ ระจายของไฟผ่านชอ่ งรอ้ ยสายไฟ
การออกแบบการป้ องกนั การลามไฟและควนั ไฟทดี่ ี ชว่ ยสง่ เสรมิ ใหก้ ารกน้ั แยกอาคารดว้ ยวสั ดทุ นไฟมปี ระสทิ ธภิ าพ
3. กฎหมายและมาตรฐานทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั การป้ องกนั อคั คภี ยั Source: https://interstatelifesafety.com/compliance
https://newsstand.mcdlg-hvac.com/four-life-safety-dampers
ลนิ้ กนั ไฟและลนิ้ กนั ควนั (อา้ งองิ มาตรฐานวศิ วกรรมสถานแห่งประเทศไทย) https://slideplayer.com/slide/15158884/
เชอื่ มโยงกบั หวั ขอ้ การตรวจประเมนิ ขอ้ ที่ 1.7
ลนิ้ กนั ไฟ: อปุ กรณท์ ตี่ ดิ ตง้ั ไวเ้ พอื่ กนั มใิ หไ้ ฟถูกสง่ ตอ่ ไปยงั สว่ นอนื่ ของระบบสง่ ลม อปุ กรณน์ ีต้ อ้ งทางานโดยอตั โนมตั เิ มอื่ ถงึ อณุ หภูมทิ ตี่ งั้ ไว้ และ
ตอ้ งมคี า่ การทนไฟไดไ้ ม่นอ้ ยกว่าโครงสรา้ งทตี่ ดิ ตง้ั อยู่
ลนิ้ กนั ควนั : อปุ กรณท์ ตี่ ดิ ตงั้ ไวเ้ พอื่ กนั มใิ หค้ วนั ถูกสง่ ตอ่ ไปยงั สว่ นอนื่ ๆ ของระบบสง่ ลม อปุ กรณน์ ีต้ อ้ งทางานโดยอตั โนมตั ิ โดยระบบควบคมุ การ
ทางานของอปุ กรณต์ รวจจบั ควนั ไฟสง่ั ใหท้ างาน ลนิ้ กนั ควนั ไม่จาเป็ นตอ้ งมคี ณุ สมบตั เิ หมอื นลนิ้ กนั ไฟ
ลนิ้ กนั ควนั และไฟ: อปุ กรณท์ ต่ี ดิ ตงั้ ไวเ้ พอ่ื กนั มใิ หค้ วนั ถกู สง่ ตอ่ ไปยงั ส่วนอนื่ ๆ ของระบบส่งลม อปุ กรณน์ ีต้ อ้ งทางานโดยอตั โนมตั ิ โดยระบบควบคมุ การทางาน
ของอปุ กรณต์ รวจจบั ควนั ไฟสง่ั ใหท้ างาน และทาหนา้ ทใ่ี นการป้ องกนั ไม่ใหไ้ ฟถกู สง่ ตอ่ ไปยงั ส่วนอน่ื ของระบบส่งลมเชน่ เดยี วกบั ลนิ้ กนั ไฟ อปุ กรณน์ ีต้ อ้ งทางานโดย
อตั โนมตั เิ มอ่ื ถงึ อณุ หภมู ทิ ตี่ ง้ั ไว ้ และตอ้ งมคี า่ การทนไฟไดไ้ ม่นอ้ ยกว่าโครงสรา้ งทตี่ ดิ ตง้ั อยู่
ลนิ้ กนั ไฟ ลนิ้ กนั ควนั
วดี โี อ: จาลองการทางานของลนิ้ กนั ควนั และกนั ไฟ
3. กฎหมายและมาตรฐานทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั การป้ องกนั อคั คภี ยั
เสน้ ทางหนีไฟ (Means of Egress) (อา้ งองิ ประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม, มาตรฐานวศิ วกรรมสถานแห่งประเทศไทย) เชอื่ มโยงกบั หวั ขอ้ การตรวจประเมนิ ขอ้ ที่ 1.7
เสน้ ทางหนีไฟ (Means of Egress): เสน้ ทางทตี่ อ่ เนื่องและไมม่ อี ปุ สรรคสามารถเขา้ ถงึ ไดไ้ ม่วา่ จากจุดใดๆ ในอาคารเพอื่ ไปยงั จุดปลอดภยั
ประกอบดว้ ย 3 สว่ น คอื
1. ทางไปสูท่ างหนีไฟ (Exit Access): พนื้ ทใ่ี ดๆ ภายในอาคารทสี่ ามารถใชเ้ ป็ นเสน้ ทางเพอื่ เคลอ่ื นทไ่ี ปสู่ทางหนีไฟ (Exit)
2. ทางหนีไฟ (Exit): ส่วนทกี่ น้ั แยกออกจากส่วนอน่ื ๆ ของอาคารดว้ ยโครงสรา้ งทม่ี กี ารป้ องกนั ไฟโดยทางหนีไฟจะหมายรวมถงึ ประตหู นีไฟ บนั ไดหนีไฟและ
ทางลาดเอยี งทมี่ กี ารปิ ดลอ้ มอยา่ งเหมาะสม
3. ทางปลอ่ ยออก (Exit Discharge): จดุ ปลอ่ ยออกจากทางหนีไฟ เป็ นจดุ เชอื่ มตอ่ ทางหนีไฟกบั ทางสาธารณะ โดยทางปลอ่ ยออกตอ้ งปลอดภยั และมขี นาด
ใหญ่เพยี งพอตอ่ การอพยพคนออกจากอาคาร
เช่น บนั ไดทางออกท่ีปิดล้อม หรือประตอู อกสู่ภายนอก
1. ทางไปสทู่ างหนีไฟ 2. ทางหนีไฟ 3. ทางปลอ่ ยออก
เสน้ ทางหนีไฟ = สามารถมองเหน็ ได้ เขา้ ถงึ ไดแ้ ละไมม่ อี ปุ สรรคตลอดเวลา
3. กฎหมายและมาตรฐานทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั การป้ องกนั อคั คภี ยั Source: https://www.nfpa.org/News-and-
Research/Publications-and-media/Blogs-Landing-
เสน้ ทางหนีไฟ (Means of Egress) (อา้ งองิ ประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม, มาตรฐานวศิ วกรรมสถานแห่งประเทศไทย) Page/NFPA-Today/Blog-Posts/2021/10/15/Basics-
of-Means-of-Egress-Arrangement
เชอื่ มโยงกบั หวั ขอ้ การตรวจประเมนิ ขอ้ ที่ 1.7
ไฟฉุกเฉิน = ไฟสอ่ งสวา่ งทตี่ อ้ งการสอ่ งสวา่ งบรเิ วณอาคารเมอื่ ไฟฟ้ าปกตดิ บั โดยไฟฟ้ าดบั หรอื ไฟไหมห้ รอื ความลม้ เหลวภายในอาคาร
หมายเหตุ - ระยะใกล ้ หมายถงึ ภายในระยะ 2 เมตร วดั ในแนวนอน
ใกลป้ ระตทู างออก สญั ลกั ษณ์ ใกลท้ างปลอ่ ยออก ใกลบ้ รเิ วณบนั ได ใกลบ้ รเิ วณจดุ เปลย่ี นเสน้ ทาง ใกลบ้ รเิ วณจดุ เปลย่ี นระดบั พนื้ แยกทางเดนิ ใกลก้ บั อปุ กรณด์ บั เพลงิ / แจง้ เหตุ
ป้ ายทางออก = รูปสญั ลกั ษณห์ รอื ขอ้ ความสนั้ ๆ ทมี่ เี พอื่ ชว่ ยผูค้ นอพยพระหวา่ งเหตฉุ ุกเฉิน หรอื หาทางออกจากอาคาร ป้ ายทางออกเหล่านี้
ควรมสี ญั ลกั ษณห์ รอื ลูกศรเพอื่ ชนี้ าผูค้ นไปในทศิ ทางทถี่ ูกตอ้ ง
[สญั ลกั ษณ]์ [การตดิ ตง้ั ] [จาลองสถานกาณเ์ มอื่ ไฟฟ้ าดบั ]
① Running man ② Directional arrow ไฟ ้ฟาด ับ ปกติ
ป้ ายทางออกควรมสี ญั ลกั ษณ์ ① หรอื ①และ② ระยะหา่ งและความสูงเป็ นไปตามกฎหมายทอ้ งถนิ่ ป้ ายทางออก ป้ ายทางออก(ไม่
(สอ่ งสวา่ ง) สอ่ งสว่าง)
ป้ ายทางออก = สามารถเขา้ ใจไดง้ ่าย ไมม่ คี วามเสยี่ งทจี่ ะเขา้ ใจคลาดเคลอื่ นสาหรบั ทุกๆคน
เชอื่ มโยงกบั เชคชที หวั ขอ้ ที่ 2.
การป้ องกนั และระงบั อคั คภี ยั ในกระบวนการทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั ของเหลวไวไฟและตดิ ไฟ
4. มาตรฐานการป้ องกนั อคั คภี ยั ในกระบวนการทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั ของเหลวตดิ ไฟ/ ไวไฟ
การจาแนกประเภทของของเหลวไวไฟและตดิ ไฟ http://www.chemtrack.
org/Storage.asp
ของเหลว ประเภทหลกั (NFPA30) ประเภทยอ่ ย (NFPA30)
ไวไฟ ประเภท IA: ของเหลวทม่ี จี ดุ วาบไฟตา่ กวา่ 73OF (22.8OC) และจดุ เดอื ดต่า ตวั อย่าง (OF)
ประเภท I กว่า 100OF (37.8OC) •
ตดิ ไฟ ของเหลวทมี่ จี ดุ วาบไฟแบบทดสอบ Ethyl Ether (-49)
ดว้ ยวธิ ถี ว้ ยปิ ดตา่ กวา่ 100OF ประเภท IB: ของเหลวทม่ี จี ดุ วาบไฟต่ากว่า 73OF (22.8OC) และจดุ เดอื ดท่ี • Gasoline (-45)
(37.8OC) และความดนั ไอทไ่ี ม่เกนิ ความ หรอื สูงกว่า 100OF (37.8OC) Toluene (40)
• Benzene (12)
Xylene(81-115)
ดนั สมั บรู ณท์ ่ี 40 psi(276 kPa) ท่ี • Styrene (88)
Acetic acid (103)
100OF (37.8OC). ประเภท IC: ของเหลวทมี่ จี ดุ วาบไฟทห่ี รอื สูงกวา่ 73OF (22.8OC) แตต่ ่ากว่า • Naphtha (100-109)
100OF (37.8OC) • Formic acid (122)
Nitrobenzene (190)
ประเภท II • Formalin (185)
Picric acid (302)
ของเหลวทมี่ จี ุดวาบไฟแบบทดสอบ -•
ดว้ ยวธิ ถี ว้ ยปิ ด ทหี่ รอื สูงกวา่ 100OF
(37.8OC) แตต่ า่ กวา่ 140OF (60OC)
ประเภท IIIA: ของเหลวทม่ี จี ดุ วาบไฟทหี่ รอื สงู กวา่ 140OF (60OC) แตต่ า่ •
ประเภท III
ของเหลวทมี่ จี ุดวาบไฟแบบทดสอบ กว่า 200OF (93OC)
•
ดว้ ยวธิ ถี ว้ ยปิ ด ทหี่ รอื สูงกวา่ 140OF ประเภท IIIB: ของเหลวทมี่ จี ดุ วาบไฟทหี รอื สูงกว่า 200OF (93OC) •
(60OC) •
• จดุ วาบไฟ (Flash point): อณุ หภูมติ า่ สดุ ทข่ี องเหลวปลอ่ ยไอระเหยเพยี งพอเพอ่ื สรา้ งส่วนผสมทตี่ ดิ ไฟไดก้ บั อากาศ
• ชว่ งความเขม้ ขน้ ของการตดิ ไฟ (Flammable range):ชว่ งความเขม้ ขน้ ส่วนผสมของเชอื้ เพลงิ และอากาศระหวา่ ง LEL และ UEL
• LEL (Lower explosive limit): ปรมิ าณเปอรเ์ซน็ ตข์ องสารไวไฟหรอื ส่วนทเี่ ป็ นไอระเหยขนั้ ตา่ ผสมอยู่ในอากาศ จนมสี ว่ นผสมท่ี
เหมาะสมทาใหเ้ กดิ สภาพจดุ ตดิ ไฟหรอื ระเบดิ ได ้
• UEL (Upper explosive limit): ปรมิ าณเปอรเ์ซน็ ตข์ องสารไวไฟหรอื ส่วนทเ่ี ป็ นไอระเหยมากทสี่ ุดผสมอยู่ในอากาศ จนมสี ว่ นผสม
ทเ่ี หมาะสมทาใหเ้ กดิ สภาพจดุ ตดิ ไฟหรอื ระเบดิ ได ้ หากมปี รมิ าณเปอรเ์ซน็ ตข์ องสารไวไฟหรอื ส่วนทเี่ ป็ นไอระเหยเจอื ปนในอากาศ
เขม้ ขน้ หรอื ปรมิ าณสงู กว่าคา่ นีก้ ็จะไม่กอ่ ใหเ้ กดิ การจดุ ตดิ ไฟหรอื ระเบดิ
4. มาตรฐานการป้ องกนั อคั คภี ยั ในกระบวนการทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั ของเหลวตดิ ไฟ/ ไวไฟ
การจาแนกพนื้ ทอี่ นั ตราย การจาแนกเป็ นโซน (Zone) เป็ นไปตามมาตรฐานของ IEC (ยโุ รป)
การจาแนกเป็ นประเภท (Class) และแบบ (Division) เป็ นไปตามมาตรฐานของ NEC (อเมรกิ า)
• Zone 0 (Class I: Division 1) = พนื้ ทที่ ม่ี แี กส๊ หรอื ไอระเหยผสมอยใู่ นบรรยากาศดว้ ยความเขม้ ขน้ เหมาะสมในการจดุ ตดิ ไฟไดอ้ ยเู่ ป็ นประจาหรอื เป็ นชว่ ง
เวลานาน ตวั อย่างพนื้ ทล่ี กั ษณะนีจ้ ะพบได ้ เชน่
1. ภายในถงั บรรจสุ ารไวไฟ พนื้ ทใ่ี น Zone 0 จะมโี อกาสสงู ทจี่ ะมคี วามเขม้ ขน้ ของ
2. พนื้ ทใ่ี กลช้ อ่ งเปิ ดของถงั บรรจทุ อ่ี าจทาใหแ้ กส๊ หรอื ไอระเหยรว่ั กระจายออกมาสู่ภายนอกได ้ ไอระเหยของสารอนั ตรายเกนิ กวา่ 100% ของคา่ LEL
ของสารน้ันในภาวะปกติ มากกวา่ 1,000 ชว่ั โมงตอ่ ปี
• Zone 1 (Class I: Division 1) = พนื้ ทท่ี มี่ แี กส๊ หรอื ไอระเหยผสมอยูใ่ นบรรยากาศดว้ ยความเขม้ ขน้ เหมาะสมในการจดุ ตดิ ไฟไดใ้ นระหว่างทมี่ กี ระบวนการ
ทางานปกต,ิ ชว่ งเวลาทม่ี กี ารซอ่ มบารงุ , ระหว่างทมี่ คี วามผดิ พลาดในกระบวนการทางานก็จะทาใหเ้ กดิ การรว่ั ไหลของสารไวไฟขนึ้ ได ้ รวมทง้ั พนื้ ทอี่ ยู่ตดิ กบั
พนื้ ทใี่ น Zone 0 ดว้ ย ตวั อย่างของพนื้ ทใี่ นโซนนี้ คอื
1. บรเิ วณรอบชอ่ งเปิ ดของถงั บรรจุ พนื้ ทใี่ น Zone 1 จะมโี อกาสทจ่ี ะมคี วามเขม้ ขน้ ของไอ
2. บรเิ วณรอบ Safety Valve และบรเิ วณใกลก้ บั Seal ของ Pump หรอื Compressor
3. จดุ ถา่ ยเทสารไวไฟ ระเหยของสารอนั ตรายเกนิ กวา่ 100% ของคา่ LEL ของ
4. บรเิ วณทมี่ กี ารถา่ ยบรรจแุ กส๊ สารนั้นในภาวะปกติ ระหวา่ ง 10 ถงึ 1,000 ชว่ั โมงตอ่ ปี
5. บรเิ วณทมี่ กี ารใชส้ ารตวั ทาละลาย (Solvent)
6. บรเิ วณทมี่ กี ารพ่นเคลอื บสี
7. หอ้ งทม่ี กี ารใชส้ ารไวไฟซงึ่ ไม่มกี ารระบายอากาศทเ่ี หมาะสม
• Zone 2 (Class I: Division 2) คอื พนื้ ทที่ มี่ แี กส๊ หรอื ไอระเหยผสมอยใู่ นบรรยากาศดว้ ยความเขม้ ขน้ เหมาะสมในการจดุ ตดิ ไฟไดใ้ นชว่ งเวลาสนั้ ๆ ตวั อยา่ ง
ของพนื้ ทใ่ี นลกั ษณะนี้ เชน่
1. พนื้ ทที่ สี่ ามารถเกดิ การรว่ั ไหลของแกส๊ หรอื สารไวไฟ เน่ืองจากมกี ารเกดิ อบุ ตั เิ หตุ พนื้ ทใ่ี น Zone 2 จะมโี อกาสทจี่ ะมคี วามเขม้ ขน้ ของไอ
2. พนื้ ทเี่ ก็บถงั บรรจสุ ารไวไฟและอาจเกดิ มรี อยแตกรา้ วของถงั บรรจุ ระเหยของสารอนั ตรายเกนิ กวา่ 100% ของคา่ LEL ของ
สารน้ันในภาวะปกติ นอ้ ยกวา่ 10 ชว่ั โมงตอ่ ปี
3. พนื้ ทท่ี ม่ี กี ารใชส้ ารไวไฟ แตก่ ระบวนการทางานทกุ ขนั้ ตอนตามปกตจิ ะไม่มไี อระเหยของสารไวไฟสามารถรว่ั ไหลออกมาได ้
4. พนื้ ทที่ ม่ี ที อ่ นาแกส๊ หรอื สารไวไฟและอาจเกดิ การรว่ั ไหลเนื่องจากความบกพรอ่ งของขอ้ ต่อและวาลว์
5. พนื้ ทที่ อ่ี ยตู่ ดิ กบั พนื้ ทใ่ี น Zone 1
4. มาตรฐานการป้ องกนั อคั คภี ยั ในกระบวนการทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั ของเหลวตดิ ไฟ/ ไวไฟ
การตดิ ตง้ั ระบบและอปุ กรณไ์ ฟฟ้ าในบรเิ วณอนั ตราย
ความแตกตา่ งในการใชง้ านของอปุ กรณ์ เกดิ จากความแตกตา่ งของเทคนิคการป้ องกนั ทใี่ ชใ้ นอปุ กรณไ์ ฟฟ้ า ดงั ตารางดา้ นล่างทแ่ี สดงรายการเทคนิคการป้ องกนั
เทคนิคการป้ องกนั การระเบดิ รหสั มาตรฐาน พนื้ ทอ่ี นั ตรายทใ่ี ชไ้ ด ้
Flameproof d มาตรฐาน IEC มาตรฐาน NEC
Intrinsically Safe ia
Intrinsically Safe ib Zone 1 และ 2 Division 1 หรอื 2
Purge or Pressurization P
Increased Safety e Zone 0, 1 และ 2 Division 1 หรอื 2
Immersed in Oil o
Filled with powder / sand q Zone 1 และ 2 Division 2
Encapsulated / Molding m
Non-Sparking / Nonincendive n Zone 1 และ 2 Division 1 หรอื 2
Zone 1 และ 2 Division 2
Zone 1 และ 2 Division 2
Zone 1 และ 2 Division 2
Zone 1 และ 2 Division 2
Zone 2 Division 2
Flameproof “d” Increased safety “e”
4. มาตรฐานการป้ องกนั อคั คภี ยั ในกระบวนการทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั ของเหลวตดิ ไฟ/ ไวไฟ
4.1 สถานทจี่ ดั เกบ็ เชอื่ มโยงกบั หวั ขอ้ การตรวจประเมนิ ขอ้ ที่ 2.1 และเอกสารแนบหวั ขอ้ ที่ 4
การจดั เกบ็ ของเหลวไวไฟในอาคารตอ้ งมกี ารระบายอากาศ โดยมากกวา่ 5 เทา่ ของปรมิ าตร หอ้ งตอ่ 1 ชว่ั โมง
แนวคดิ : การจดั เก็บของเหลวไวไฟในอาคาร หากมกี ารหกรว่ั ไหลของของเหลวไวไฟจะกระจายไปตามพนื้ และระเหยเป็ นไอตลอดเวลา หากการระบายอากาศ
ไม่ดหี รอื ไม่เพยี งพอไอระเหยจะสะสมจนถงึ ขดี จากดั ตา่ สุดของการลกุ ตดิ ไฟได ้ (Lower Explosive Limit ; LEL) ดงั นั้น จงึ จาเป็ นจะตอ้ งจดั ใหม้ กี ารระบาย
อากาศอยา่ งเหมาะสม
การคานวณ: ปรมิ าณลม (ลบ.ฟุต/นาท)ี = ปรมิ าตรหอ้ ง (ลบ.ฟุต) x อตั ราการถา่ ยเทอากาศตอ่ ชว่ั โมง x 1/60
ตวั อย่าง หอ้ งผสมสมี ขี นาดหอ้ งกวา้ ง 10 ฟุต ยาว 12 ฟุต สงู 8 ฟุต โดยกาหนดใหม้ อี ตั ราการถา่ ยเทอากาศเทา่ กบั 5 เทา่ ของปรมิ าตรหอ้ งต่อชว่ั โมง ใหห้ า
อตั ราความเรว็ ลมเพอ่ื ใชใ้ นงานนี้
วธิ ที า ปรมิ าตรของหอ้ ง = กวา้ ง x ยาว x สงู = 10 x 12 x 8 = 960 ลบ.ฟุต
ปรมิ าณลมทต่ี อ้ งการ = 960 x 5 x 1/60 = 80 ลบ.ฟุต/นาที ดงั น้ัน เลอื กพดั ลมทใ่ี หป้ รมิ าณลมในอตั ราอยา่ งนอ้ ย 80 ลบ.ฟุต/นาที
การใชอ้ ปุ กรณไ์ ฟฟ้ าชนิดป้ องกนั การระเบดิ
แนวคดิ : พนื้ ผวิ ทมี่ คี วามรอ้ นของอปุ กรณไ์ ฟฟ้ าขณะทางานหรอื การอารก์ และการสปารก์ ของอปุ กรณไ์ ฟฟ่ าในกระบวนการผลติ หรอื งานบารงุ รกั ษาทไ่ี ม่
สามารถหลกี เลยี่ งได ้ เป็ นปัจจยั ทท่ี าใหเ้ กดิ การจดุ ตดิ ระเบดิ ในพนื้ ทอี่ นั ตรายจากแหลง่ กาเนิดซง่ึ เป็ นอปุ กรณไ์ ฟฟ้ า
หอ้ งจดั เก็บสแี ละทนิ เนอรท์ ตี่ ดิ ตงั้ อปุ กรณไ์ ฟฟ้ าชนิดป้ องกนั การระเบดิ
4. มาตรฐานการป้ องกนั อคั คภี ยั ในกระบวนการทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั ของเหลวตดิ ไฟ/ ไวไฟ
4.1 สถานทจี่ ดั เกบ็ เชอื่ มโยงกบั หวั ขอ้ การตรวจประเมนิ ขอ้ ที่ 2.1 และเอกสารแนบหวั ขอ้ ที่ 4
หอ้ งจดั เก็บสแี ละทนิ เนอรท์ ต่ี ดิ ตงั้ ระบบปรบั อากาศ (ไม่แนะนา) หอ้ งจดั เก็บสแี ละทนิ เนอรท์ ต่ี ดิ ตง้ั ระบบระบายอากาศ (แนะนา)
4. มาตรฐานการป้ องกนั อคั คภี ยั ในกระบวนการทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั ของเหลวตดิ ไฟ/ ไวไฟ
4.2 สถานทบี่ รรจแุ ละถา่ ยเท เชอื่ มโยงกบั หวั ขอ้ การตรวจประเมนิ ขอ้ ที่ 2.2
การตอ่ สายดนิ เขา้ กบั อปุ กรณแ์ ตล่ ะตวั เชน่ โครงสรา้ งของหอ้ ง, ประตู, ชนั้ วาง, ถงั , ปั๊ม และอนื่ ๆ และทาการตอ่ สายดนิ และเชอื่ มตอ่
ทุกครงั้ ทมี่ กี ารถา่ ยเทวตั ถดุ บิ (อปุ กรณท์ กุ ตวั ตอ้ งนาไฟฟ้ าไดเ้ พอื่ ยนื ยนั ความสามารถในการตอ่ ลงดนิ )
แนวคดิ : การบรรจุ ถา่ ยเท หรอื ผสมของเหลวไวไฟ เป็ นกระบวนการทที่ าใหเ้ กดิ สภาพพรอ้ มจดุ ตดิ ไฟ:
① ไอระเหยไวไฟถกู ปลอ่ ยออกมาผสมกบั อากาศ เชอื้ เพลงิ
② ประจไุ ฟฟ้ าสถติ ย ์ จากการเคลอ่ื นทขี องของเหลวไวไฟ แหล่งกาเนิดไฟ/ ความรอ้ น
สาหรบั สายดนิ ทตี่ อ่ เขา้ กบั อปุ กรณท์ ไี่ มจ่ าเป็ นตอ้ งถูกถอดออกบอ่ ย ใหย้ ดึ ปลายทงั้ 2 ดา้ นโดยสลกั เกลยี วและน็อต
สาหรบั สายดนิ ทตี่ อ่ เขา้ กบั อปุ กรณท์ จี่ าเป็ นตอ้ งถูกออกบอ่ ย ใหย้ ดึ ปลายดา้ นหนึ่งโดยสลกั เกลยี วและน็อต และอกี ดา้ นเป็ นแคลมป์ คบี
เพอ่ื ยนื ยนั ประสทิ ธภิ าพในการตอ่ ลงดนิ สายดนิ ควรตอ่ แบบ 1 ตอ่ 1 และมกี ารตรวจสอบสภาพ ทดสอบคา่ ความตานหรอื ความตอ่ เน่ืองทางไฟฟ้ าเป็ นประจา
อย่างนอ้ ย 1 ครงั้ ตอ่ สปั ดาหห์ รอื ทกุ ครง้ั ทมี่ กี ารเคลอ่ื นยา้ ยภาชนะหรอื ปุ กรณต์ า่ งๆ
ตวั อยา่ งการทาแผนผงั สายดนิ ภายในหอ้ งบรรจแุ ละถา่ ยเทเพอื่ ง่ายตอ่ การยนื ยนั สถานะและความผดิ ปกติ
4. มาตรฐานการป้ องกนั อคั คภี ยั ในกระบวนการทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั ของเหลวตดิ ไฟ/ ไวไฟ
4.2 สถานทบี่ รรจุและถา่ ยเท เชอื่ มโยงกบั หวั ขอ้ การตรวจประเมนิ ขอ้ ที่ 2.2
ตวั อยา่ งการทาแผ่นป้ ายแสดงผลการทดสอบสายดนิ ตวั อยา่ งการใชส้ ายดนิ ทต่ี อ่ เขา้ กบั อปุ กรณท์ จ่ี าเป็ นตอ้ งถกู ออกบ่อย
66
4. มาตรฐานการป้ องกนั อคั คภี ยั ในกระบวนการทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั ของเหลวตดิ ไฟ/ ไวไฟ
4.2 สถานทบี่ รรจแุ ละถา่ ยเท เชอื่ มโยงกบั หวั ขอ้ การตรวจประเมนิ ขอ้ ที่ 2.2
มมี าตรการถา่ ยเทประจไุ ฟฟ้ าสถติ ออกจากรา่ งกายมนุษยไ์ ด ้ มกี ารตอ่ สายดนิ เขา้ กบั อปุ กรณแ์ ตล่ ะตวั และตดิ ตง้ั พนื้ หอ้ งท่ี
ดว้ ยลกู บดิ หรอื โซท่ ต่ี อ่ ลงดนิ ทที่ างเขา้ หอ้ ง (ถกู ตอ้ ง) สามารถถา่ ยเทประจไุ ฟฟ้ าสถติ ลงดนิ ได ้ (ถกู ตอ้ ง)
การตดิ ตงั้ เขอ่ื นทส่ี ามารรองรบั ความจุ 110% ของถงั ทใี่ หญ่ มอี ปุ กรณป์ ิ ดระบบแกส๊ คารบ์ อนไดออกไซดแ์ ละแจง้ เตอื นเมอื่ มี
ทสี่ ดุ ในหอ้ งได ้ (ถกู ตอ้ ง) ผูป้ ฏบิ ตั งิ านในหอ้ ง (ถกู ตอ้ ง)
4. มาตรฐานการป้ องกนั อคั คภี ยั ในกระบวนการทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั ของเหลวตดิ ไฟ/ ไวไฟ
4.2 สถานทบี่ รรจแุ ละถา่ ยเท เชอื่ มโยงกบั หวั ขอ้ การตรวจประเมนิ ขอ้ ที่ 2.2
อบุ ตั เิ หตใุ นอดตี (ปี ค.ศ. 2019)
ทอ่ จา่ ยทนิ เนอร ์
วาลว์ สายดนิ
300 มม.
สายดนิ
ถงั ทาความ กระป๋ องสที มี่ สี ี ถงั ผสมสี
สะอาด อยทู่ ก่ี น้
ถาดรอง
ถาดรองวางบนพนื้ สเตนเลสของหอ้ ง วดี โี อ: จาลองเหตกุ ารณพ์ ลงั งานจากการถา่ ยเทประจไุ ฟฟ้ าสถติ จดุ ตดิ สารไวไฟ
สรุป: พนักงานเปิ ดวาลว์ เพอ่ื เตมิ ทนิ เนอรล์ งกระป๋ องสี และพบว่ามปี ระกายไฟเกดิ ขนึ้ ทก่ี ระป๋ องสี
สาเหต:ุ ประจไุ ฟฟ้ าสถติ เกดิ ขนึ้ ขณะทนิ เนอรถ์ กู จา่ ยผ่านทอ่ สู่กระป๋ องและประจทุ เ่ี กดิ ขนึ้ ไม่ไดถ้ กู ถา่ ยเทไปยงั ดนิ อย่างสมบูรณเ์ พราะไม่มกี ารต่อลงดนิ โดยตรง
เกดิ การถา่ ยเทประจไุ ฟฟ้ าสถติ และจดุ ตดิ ไอระเหยของสแี ละทนิ เนอรท์ ผ่ี สมกบั ออกซเิ จน
บทเรยี น:
1. ตรวจสอบภาชนะสารไวไฟภายในหอ้ งผสมสี ตอ้ งมกี ารตอ่ ลงดนิ อย่างสมบรู ณ์
2. ตรวจสอบทกุ ครง้ั วา่ มกี ารตอ่ ลงดนิ และต่อฝากขณะถา่ ยเทสารไวไฟทง้ั กระบวนการดว้ ยมอื หรอื อตั โนมตั ิ
4. มาตรฐานการป้ องกนั อคั คภี ยั ในกระบวนการทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั ของเหลวตดิ ไฟ/ ไวไฟ
4.2 สถานทบี่ รรจแุ ละถา่ ยเท เชอื่ มโยงกบั หวั ขอ้ การตรวจประเมนิ ขอ้ ที่ 2.2
มาตรการการหยุดเพอื่ ป้ องกนั การลามไฟแบบอนิ เตอรล์ ็อคในกรณีเกดิ เหตเุ พลงิ ไหม้ (Fire interlock)
① ระบบระบายอากาศหยดุ ทางาน (พดั ลม, ลนิ้ กนั ไฟ)
② ระบบผสมส,ี ขนสง่ สี
แนวคดิ : เมอื่ เกดิ ไฟไหมภ้ ายในพนื้ ทห่ี นึ่ง ไฟจะตอ้ งถกู จากดั ใหอ้ ยู่เพยี งพนื้ ทน่ี ั้นและตอ้ งไม่มกี ารเพม่ิ เชอื้ เพลงิ หรอื ออกซเิ จน (ไม่ลกุ ลามและเพมิ่ ความ
รนุ แรง)
(Water/ Foam)
ณ
ตวั อยา่ งแผนผงั ระบบและการทดสอบระบบประจาปี ของโรงงานโตโยตา้
4. มาตรฐานการป้ องกนั อคั คภี ยั ในกระบวนการทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั ของเหลวตดิ ไฟ/ ไวไฟ
4.3 สถานทฉี่ ีดพน่ (หอ้ งพ่นส)ี เชอื่ มโยงกบั หวั ขอ้ การตรวจประเมนิ ขอ้ ที่ 2.3
หอ้ งพ่นสที ใี่ ชง้ านในปัจจบุ นั โดยทว่ั ไป แบง่ โดยระบบการกรองเศษสี (ขสี้ )ี
① ระบบม่านน้า (Wet/ Water spray booth)
② ระบบแผ่นกรอง (Dry spray booth)
4. มาตรฐานการป้ องกนั อคั คภี ยั ในกระบวนการทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั ของเหลวตดิ ไฟ/ ไวไฟ
4.3 สถานทฉี่ ีดพน่ (หอ้ งพ่นส)ี เชอื่ มโยงกบั หวั ขอ้ การตรวจประเมนิ ขอ้ ที่ 2.3
สาหรบั กรณีทใ่ี ชแ้ ผ่นกรอง
① วสั ดแุ ผ่นกรองตอ้ งเป็ นวสั ดไุ ม่ตดิ ไฟหรอื เป็ นชนิดทใี่ ชส้ าหรบั งานพ่นสโี ดยเฉพาะ
② แผ่นกรองทใ่ี ชแ้ ลว้ ตอ้ งนาออกจากบรเิ วณทางานโดยทนั ที ไปทป่ี ลอดภยั หรอื จดั เก็บแยกตา่ งหาก ในภาชนะทเี่ ป็ นโลหะทม่ี นี า้ เตมิ อยแู่ ละตอ้ งกาจดั
หลงั จากทางานเสรจ็ แตล่ ะวนั
แนวคดิ :
1. สแี ละสว่ นผสมของสเี ป็ นของเหลวตดิ ไฟได ้ หรอื ไวไฟ ดงั น้ันแผ่นกรองทป่ี นเปื้อนสจี งึ มคี วามสามารถในการตดิ ไฟได ้ เชอื้ เพลงิ
2. สที ใี่ ชใ้ นอตุ สาหกรรมโดยมาก มคี วามสามารถทจี่ ะแข็งตวั หรอื เซตตวั ใหแ้ หง้ (Polymerization) ผ่านการทาปฏกิ รยิ ากบั ออกซเิ จนไดใ้ นบรรยากาศหรอื
สภาวะปกติ (Oxidation) ปฏกิ ิรยิ านีป้ ็ นปฏกิ รยิ าทใี่ หค้ วามรอ้ น แหลง่ กาเนิดความรอ้ น
วดี โี อ: การทดลองการลกุ ตดิ ไฟดว้ ยตนเองของวสั ดปุ นเปื้อนนา้ มนั และสี
4. มาตรฐานการป้ องกนั อคั คภี ยั ในกระบวนการทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั ของเหลวตดิ ไฟ/ ไวไฟ
4.1 สถานทจี่ ดั เกบ็ เชอื่ มโยงกบั หวั ขอ้ การตรวจประเมนิ ขอ้ ที่ 2.1 และเอกสารแนบหวั ขอ้ ที่ 4
ตวั อยา่ งการใชพ้ ลาสตกิ กนั ฝ่ ุนแบบไม่ลามไฟภายในหอ้ งพน่ สขี องโรงงานโตโยตา้
4. มาตรฐานการป้ องกนั อคั คภี ยั ในกระบวนการทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั ของเหลวตดิ ไฟ/ ไวไฟ
4.3 สถานทฉี่ ีดพน่ (หอ้ งพน่ ส)ี เชอื่ มโยงกบั หวั ขอ้ การตรวจประเมนิ ขอ้ ที่ 2.3
อบุ ตั เิ หตใุ นอดตี (ปี ค.ศ. 2019)
สรุป: แผ่นกรองสแี บลคเอาทล์ กุ ตดิ ไฟดว้ ยตนเองภายในถงุ ขยะพลาสตกิ
สาเหต:ุ สแี บลคเอาทเ์ ป็ นสที ส่ี ามารถเกดิ ปฏิรยิ าพอลเิ มอไรเซชนั จากการสมั ผสั กบั ออกซเิ จน
สแี บลคเอาทเ์ กดิ ปฏกิ รยิ าโพลเิ มอไรเซชน่ั จากการสมั ผสั กบั ออกซเิ จนในอากาศและเกดิ ความรอ้ นจากปฏกิ รยิ า จนความรอ้ นสะสมและตดิ ไฟดว้ ยตนเอง
บทเรยี น:
ยนื ยนั กบั ผูจ้ ดั จาหน่ายสวี ่ามสี ที ใี่ ชภ้ ายในกระบวนการมคี วามเสยี่ งในการเกดิ ปฏิรยิ าพอลเิ มอไรเซชนั จากการสมั ผสั กบั ออกซเิ จน หรอื ไม่ ถา้ ใช,่
1. กอ่ นนาแผ่นกรองสหี รอื วสั ดอุ นื่ ๆ ทป่ี นเปื้อนสนี ั้นไปกาจดั ควรปฎบิ ตั ดิ งั นี้
• ไม่ปล่อยใหแ้ ผ่นกรองสหี รอื วสั ดอุ น่ื ๆ ทป่ี นเปื้อนสนี ั้นไปสมั ผสั กบั อากาศ แมใ้ นอณุ หภมู ปิ กติ
• เตมิ น้าลงในภาชนะบรรจหุ รอื ถงุ ขยะ เพอ่ื ลดการสมั ผสั กบั อากาศ
• เมอื่ กาจดั ควรรกั ษาน้าไวใ้ นภาชนะบรรจหุ รอื ถงุ ขยะ
4. มาตรฐานการป้ องกนั อคั คภี ยั ในกระบวนการทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั ของเหลวตดิ ไฟ/ ไวไฟ
4.4 เตาอบทใี่ ชแ้ กส๊ เชอื้ เพลงิ เชอื่ มโยงกบั หวั ขอ้ การตรวจประเมนิ ขอ้ ที่ 2.4
การตงั้ คา่ การระบายอากาศขน้ั ตา่ 3 นาที หรอื 4-5 เทา่ ของปรมิ าตรหอ้ งเผาไหมใ้ นกรณีทเี่ กดิ การจดุ ไฟไม่ตดิ (Mis - fire)
แนวคดิ :
1. เตาอบทต่ี อ้ งการ การทาความรอ้ นจากการเผาไหมเ้ ชอื้ เพลงิ ผสมกบั อากาศ โดยส่วนใหญ่ใชแ้ กส๊ ธรรมชาตหิ รอื แกส๊ ปิ โตรเลยี มเหลว ฉีดผสมกบั กบั
อากาศภายในหอ้ งเผาไหมแ้ ละจดุ ตดิ ไฟทห่ี วั เผา ดงั นั้น จงึ มสี ภาพหรอื บรรยากาศภายในเตาทพี รอ้ มตดิ ไฟในสภาวะปกติ เชอื้ เพลงิ และออกซเิ จน
2. เตาอบแบบใชแ้ กส๊ เป็ นเชอื้ เพลงิ มลี กั ษณะการทางานภายในเตาทเี่ กดิ ประกายไฟหรอื เปลวไฟในขณะการทางานปกติ แหล่งกาเนิดความรอ้ น
3. การจดุ ตดิ ไฟของหวั เผา มคี วามเป็ นไปไดท้ ห่ี วั เผาไม่สามารถจดุ ตดิ ไฟไดใ้ นตอนเรมิ่ ตน้ เปิ ดเตา หรอื ขณะเตาทางาน เน่ืองจากความผดิ ปกตขิ องหวั เผา
เอง, ระบบไฟฟ้ า หรอื ระบบจา่ ยแกส๊ การจดุ ไฟไม่ตดิ นีเ้ รยี กวา่ Mis – fire หากไม่มกี ารระบายอากาศหรอื ส่วนผสมตดิ ไฟไดภ้ ายในหอ้ งเผาไหม ้ มคี วาม
เป็ นไปไดท้ ค่ี วามเขม้ ขน้ ของส่วนผสมจะถงึ ขดี การระเบดิ ของสว่ นผสมตดิ ไฟ
วดี โี อ: จาลองเหตกุ ารณร์ ะเบดิ ทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั misfire
4. มาตรฐานการป้ องกนั อคั คภี ยั ในกระบวนการทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั ของเหลวตดิ ไฟ/ ไวไฟ
4.4 เตาอบทใี่ ชแ้ กส๊ เชอื้ เพลงิ เชอื่ มโยงกบั หวั ขอ้ การตรวจประเมนิ ขอ้ ที่ 2.4
การตดิ ตง้ั อปุ กรณต์ รวจจบั เปลวไฟ (Flame detector)
แนวคดิ :
1. เพอ่ื ใหก้ ารตรวจจบั ความผดิ ปกตขิ องการจดุ ตดิ ไฟภายในหอ้ งเผาไหม ้ เป็ นไปอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพและแม่นยา อปุ กรณต์ รวจจบั เปลวไฟทอ่ี อกแบบมา
เพอ่ื ตรวจสอบและตอบสนองตอ่ เปลวไฟหรอื ไฟและส่งสญั ญาแจง้ เตอื นหรอื นิ เตอรล์ ็อคกบั การปิ ดทอ่ จา่ ยแกส๊ เชอื้ เพลงิ และเปิ ดใชง้ านระบบระบายอากาศ
(Purge)
อปุ กรณต์ รวจจบั เปลวไฟ
4. มาตรฐานการป้ องกนั อคั คภี ยั ในกระบวนการทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั ของเหลวตดิ ไฟ/ ไวไฟ
4.4 เตาอบทใี่ ชแ้ กส๊ เชอื้ เพลงิ เชอื่ มโยงกบั หวั ขอ้ การตรวจประเมนิ ขอ้ ที่ 2.4
การตดิ ตง้ั อปุ กรณต์ รวจจบั การรว่ั ไหลของแกส๊
แนวคดิ :
1. เพอื่ ใหก้ ารตรวจจบั ความผดิ ปกตขิ องเชอื้ เพลงิ เป็ นไปอย่างมปี ระสทิ ธภิ าพและน่าเชอื่ ถอื การตรวจจบั การรว่ั ไหลของแกส๊ ตามทมี่ าตรฐานแนะนาจงึ ควรมี
อยา่ งนอ้ ย 2 บรเิ วณ คอื (1) ภายในหอ้ งเผาไหม ้ (Combustion chamber) (2) ชดุ ทอ่ ทจ่ี า่ ยแกส๊ เขา้ หวั เผา (Gas supply train) เนืองจาก 2 บรเิ วณนี้
เป็ นบรเิ วณทม่ี คี วามเป็ นไปไดท้ จ่ี ะมกี ารรว่ั ไหล โดยอปุ กรณช์ นิดทตี่ ดิ ภายในหอ้ งเผาไหมเ้ ป็ นประเภทดูดตวั อย่างส่วนผสมแลว้ นามาวเิ คราะหผ์ ่านชดุ
อปุ กรณด์ า้ นนอกหอ้ งเผาไหม ้ (Suction type) และอปุ กรณช์ นิดทตี่ ดิ ตงั้ บรเิ วณชดุ ทอ่ จา่ ยแกส๊ เป็ นประเภทตรวจจบั การแพรก่ ระจายและสง่ สญั ญาณ
แจง้ เตอื น (Diffusion type)
2. การตดิ ตงั้ อปุ กรณต์ รวจจบั ตอ้ งคานึงถงึ คณุ ลกั ษณะของแกส๊ เชอื้ เพลงิ ทใี่ ช ้ ตวั อย่างเชน่ ตดิ ตงั้ เซนเซอรท์ รี่ ะยะใกลพ้ นื้ ต่าสดุ สาหรบั แกส๊ ปิ โตรเลยี ม
เหลว เนื่องจากมคี วามหนาแน่นทม่ี ากกวา่ อากาศ
หลงั คากกั แกส๊ LNG: ตดิ อุปกรณท์ ดี่ า้ นบนของสว่ นจา่ ย
แกส๊ พรอ้ มกบั หลงั คาดกั จบั แกส๊ รว่ั
LPG: ตดิ อปุ กรณท์ ด่ี า้ นลา่ งของสว่ นจา่ ยแกส๊ ระยะ อปุ กรณต์ รวจจบั การรว่ั ไหลของแกส๊ แบบดฟิ ฟิ วชน่ั (Diffusion)
100 มม. จากพนื้
อปุ กรณต์ รวจจบั การรว่ั ไหลของแกส๊ แบบดฟิ ฟิ วชน่ั (Diffusion)
4. มาตรฐานการป้ องกนั อคั คภี ยั ในกระบวนการทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั ของเหลวตดิ ไฟ/ ไวไฟ
4.4 เตาอบทใี่ ชแ้ กส๊ เชอื้ เพลงิ เชอื่ มโยงกบั หวั ขอ้ การตรวจประเมนิ ขอ้ ที่ 2.4
อปุ กรณต์ รวจจบั การรว่ั ไหลของแกส๊ แบบซคั ชน่ั (Suction)
แผงวเิ คราะหต์ วั อยา่ งแกส๊
ชดุ แสดงสถานะตรวจจบั การรว่ั ไหลของแกส๊
4. มาตรฐานการป้ องกนั อคั คภี ยั ในกระบวนการทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั ของเหลวตดิ ไฟ/ ไวไฟ
4.4 เตาอบทใี่ ชแ้ กส๊ เชอื้ เพลงิ เชอื่ มโยงกบั หวั ขอ้ การตรวจประเมนิ ขอ้ ที่ 2.4
การเวน้ ระยะหา่ งระหวา่ งวตั ถทุ มี่ อี ณุ หภูมสิ ูง (มากกวา่ 40 องศาเซลเซยี ส) กบั รางสายไฟดงั นี้
• รอบหอ้ งเผาไหม้ > 100 มลิ ลเิ มตร
• รอบเตาอบหรอื ทอ่ หมุนเวยี น > 50 มลิ ลเิ มตร
• อณุ หภูมแิ วดลอ้ มรอบสายไฟ < 50 องศาเซลเซยี ส
แนวคดิ :
1. หอ้ งเผาไหมแ้ ละระบบท่อของเตาอบเป็ นชดุ อปุ กรณท์ ม่ี คี วามรอ้ นสูงในสภาวะปกตขิ องการทางาน การแผ่, การนา และการพาความรอ้ นบรเิ วณหอ้ งเผา
ไหมแ้ ละระบบทอ่ ของเตาเผาจงึ มโี อกาสทจี่ ะส่งผลกระทบต่อวสั ดหุ รอื อุปกรณโ์ ดยรอบ แหล่งกาเนิดความรอ้ น
2. ความรอ้ นจากหอ้ งเผาไหมแ้ ละระบบทอ่ ของเตาอบ มโี อกาสทจ่ี ะทาลายฉนวนหอ่ หุม้ ของสายไฟซง่ึ ตดิ ตง้ั บรเิ วณใกลเ้ คยี ง เชอื้ เพลงิ และแหล่งกาเนิด
ความรอ้ น
ตวั อยา่ งการการเวน้ ระยะห่างระหว่างสายไฟ
และทอ่ ของเตาอบ และการเฝ้ าระวงั อณุ หภูมิ
แวดลอ้ มรอบสายไฟ < 50 องศาเซลเซยี ส
โดยใชก้ ลอ้ งถา่ ยภาพความรอ้ น
4. มาตรฐานการป้ องกนั อคั คภี ยั ในกระบวนการทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั ของเหลวตดิ ไฟ/ ไวไฟ
4.4 เตาอบทใี่ ชแ้ กส๊ เชอื้ เพลงิ เชอื่ มโยงกบั หวั ขอ้ การตรวจประเมนิ ขอ้ ที่ 2.4
อบุ ตั เิ หตใุ นอดตี (ปี ค.ศ. 2019)
สรุป: หอ้ งเผาไหมข้ องเตาอบระเบดิ (บาดเจ็บ 1 ราย)
สาเหต:ุ เซนเซอรต์ รวจจบั ความรอ้ น/อปุ กรณต์ รวจจบั เปลวเพลงิ ชารดุ
ทอ่ สาหรบั ดดู ตวั อย่างแกส๊ จากหอ้ งเผาไหมอ้ ุดตนั
ไม่มกี ารตดิ ตง้ั ระบบระบายอากาศ (Pre-purge)
บทเรยี น:
1. ตรวจสอบการตดิ ตงั้ และฟังกช์ นั ของอปุ กรณต์ รวจจบั เปลวเพลงิ
2. ตรวจสอบและบารงุ รกั ษาอปุ กรณต์ รวจจบั แกส๊ รว่ั ไหลใหอ้ ยูใ่ นสภาพพรอ้ มใชง้ านตลอดเวลา
3. ตดิ ตงั้ โครงสรา้ งและระบบระบายอากาศใหเ้ หมาะสมเมอื่ มกี ารใชง้ านเตาอบพลงั งานเชอื้ เพลงิ
Q&A