นิรยภูมิ
นิรยภูมิ หรือที่คนไทยเรียกกันว่า นรกนั้นนั้คือ ภพภูมิที่จองจํา วิญญาณคนบาปทั้งทั้หลาย ที่ได้ทําชั่วเมื่อตอนเป็นคน เป็นภพ ภูมิที่สัตว์นรกจะไม่ได้รับความสุขสบายเลย แม้เพียงเสี้ยสี้วเดียว เป็นภูมิที่มีแต่ความทุกข์ทรมาณเพียงอย่างเดียว
สารบัญ มหานรก8ขุม อุสทนรก16ขุม ยมโลก40ขุม 1 ประกอบด้วย วิบากรรมที่ทําไป เกิดในนรก อายุขัยสัตว์นรกในนรกขุมต่างๆ 2 10 12
มหานรกขุมที่ 1 สัญชีวมหานรก คือ มหานรกที่ไม่มีวันตาย สัตว์นรกในขุมนี้ จะถูกนายนิรยบาล บังคับจับให้นอน บนแผ่นเหล็กอันร้อนระอุ แล้วก็ฟันดาบ ด้วยดาบนรก จนร่างกายขาดเป็นท่อนๆ บ้างก็ถูกขวานถากเฉือนเนื้อ จนเหลือแต่กระดูก แต่สัตว์นรกบางจำ พวกด้วยอำ นาจกรรมทำ ให้มีนิ้วนิ้มือแปลก พิลึก คือ มีนิ้วนิ้มือเป็นอาวุธ เช่น หอก ดาบ พอมาพบสัตว์นรกอื่นแทนที่จะสงสาร ก็ ตรงเข้าใส่ฟันแทงด้วยความโกรธเป็นวรรคจนต้องตายไปข้าง มิหนำ ซํ้านซํ้ายนิรยบาล ก็ร่วมสงเคราะห์ด้วย นี่คือชีวิตของพวกสัญชีวนรก อายุสัตว์นรกในขุมนี้คืนี้คือ 500ปี 1วัน1คืนในขุมนี้=นี้9ล้านปี 9ล้านปีก็เท่ากับ 1,620.000 วิบากกรรม ฆ่าสัตว์ ทารุณ กรรมสัตว์ ดูหนังลามก และกดขี่ผู้อื่น
มหานรกขุมที่ 2 กาฬสุตตมหานรก มหานรกด้ายดํา สัตว์นรกใน ขุมนี้จนี้ะถูกตีหรือนาบด้วยเส้นด้ายดํา ที่ทําจากเหล็กนรกใหญ่โต เท่าลําตาล จนทําให้เป็นรอยเส้น แล้วนายนิรยบาล ก็เลื่อยด้วย เลื่อยลุกแดงด้วยเปรวไฟ ค่อยๆเลื่อยตัดร่างกายของสัตว์จนขาด เป็นชิ้นชิ้เล็กชิ้นชิ้น้อย บ้างก็เฉือนเนื้อด้วยมีดจนเหลือแต่กระดูก
มหานรกขุมที่ 3 สังฆาฎมหานรก มหานรกที่ถูกภูเขาเหล็ก บดขยี้ สัตว์นรกในขุมนี้จนี้ะมีรูปร่างแปลกประหลาดแตกต่างกันไป เช่น บางตนมีหน้าเป็นกระบือ แต่มีร่างกายเป็นมนุษย์ บางตนมีหน้า เป็นกระบือ แต่มีร่างกายเป็นมนุษย์ บางตนมีหน้าเป็นมนุษย์ แต่ร่างกายเป็นรูปสัตว์เดียรัจฉานแตกต่างกันไป นายนิรยบาล เที่ยวเดินขู่คําราม ว่า กูจะฆ่ามึง สัตว์นรกได้ยินดังนั้นนั้ก็พากัน วิ่งหนีไม่คิดชีวิต ทันใดนั้นนั้ก็มีกองไฟกองใหญ่ปรากฎขึ้นขึ้หันไป ทางไหนก็เจอแต่กองไฟ สัตว์นรกถูกเผาให้ได้รับทุกข์เวทนา ไม่ ช้าก็มีภูเขาเหล็ก2ลูก กลิ้งลิ้มาบดร่างสัตว์นรกจนแหลกเหลว
มหานรกขุมที่ 4 โรรุวมหานรก มหานรกที่เต็มไปด้วยเสียง ร้องไห้ สัตว์ในขุมนี้จนี้ะต้องเข้าไปนอนควํ่าหน้าในดอกบัวเหล็ก หัวจม ลงไปแค่คาง มือจมลงไปแค่ข้อมือ เท้าทั้งทั้2ข้างก็จมลงไปแค่ข้อ เท้า เสวยกรรมท่าพิลึกพิลั่น ทันใดนั้นนั้ก็มีเปรวไฟปรากฎขึ้นขึ้เผา ดอกบัวเหล็กพร้อมกับสัตว์นรก เปรวแลบ ตา ปาก จมูก และ ทวารอื่น สัตว์ก็ได้แต่ รับทุกข์เวทนา ส่งเสียงร้องห่มร้องไห้ อยู่ ในดอกบัวนั้นนั้
มหานรกขุมที่ 5 มหาโรรุวมหานรก มหานรกที่เต็มด้วยเสียงร้อง ครวญคราง สัตว์นรกในขุมนี้จนี้ะต้องเข้าไปยืนในดอกบัวเหล็ก แต่ละกลีบคม เป็นกรด มินําซํ้าซํ้ยังร้อนแรงแดงฉานด้วยไฟนรก สัตว์นรกเข้าไป ยืนแล้ว ถูกไฟคลอกตั้งตั้แต่ปลายเท้าจรวดศีรษะ เปรวไฟแลบ เข้าไปในทวารทั้งทั้9เผาไหม้ทั้งทั้ข้างในข้างนอก มินําซํ้าซํ้ยังโดนนาย นิรยบาล ใช้กระบองเหล็กที่มีไฟลุกโชน กระหนํ่าตีศีรษะสัตว์ จนแตกยับ แต่ก็ไม่ตาย ด้วยอํานาจแห่งกรรม
มหานรกขุมที่ 6 ตาปนมหานรก มหานรกที่ทําให้สัตว์เร่าร้อน สัตว์นรกในขุมนี้จนี้ะถูกนายนิรยบาลไล่ให้ขึ้นขึ้ ไปบนปลายหลาว เหล็กซึ่งโตเท่าลําตาลแดงฉานด้วยเปรวไฟ และเสียบสัตว์บน ปลายหลาวนั้นนั้เนื้อหนังของสัตว์นรกก็จะสุกไหม้พุพอง ด้วยอํา นาจของไฟนรก พอเนื้อหนังสัตว์นรกสุกไหม้เกรียมแล้ว ก็มี หมานรก ตัวเท่าช้างร้องเสียงดังกึกก้องด้วยความหิวกระหาย วิ่ง เข้ามา กระชากลากสัตว์นรกลงมากินจนเหลือแต่กระดูก
มหานรกขุมที่ 7 มหาตาปนมหานรก มหานรกที่ทําให้สัตว์ เร่าร้อนอย่างมากมาย สัตว์นรกขุมนี้ อยู่ที่ลึกและกว้าง มีกำ แพงเหล็กลุกเป็นไฟล้อม รอบ ภายในกำ แพงกว้างขวางใหญ่โต มีภูเขาเหล็กลุกเป็นไฟตั้งตั้ อยู่เป็นลูกๆ ตามพื้นพื้ข้างๆ ภูเขานั้นนั้มีขวากเหล็ก แหลมคม ปัก เรียงรายอยู่เหนือพื้นพื้เหล็กแดงซึ่งร้อนแรงด้วยไฟมากมาย นาย นิรยบาลทั้งทั้หลายต่างถืออาวุธ หอก ดาบ แหลน หลาวลุกแดง ด้วยแสงไฟไล่ทิ่มแทงสัตว์นรกบังคับให้ขึ้นขึ้ ไปบนภูเขาไฟอันแดง ฉานพอนายนิรยบาลไล่ทิ่มแทงทุบตี สัตว์นรกพากันตกใจวิ่งหนี ขึ้นขึ้ ไปบนยอดเขานรกและแล้วในไม่ช้าก็มีลมกรดอันร้อนแรง พัดมาด้วยกำ ลังแห่งลมนรก ให้สัตว์นรกพลัดตกมาจากยอดเขา ตกลงมาถูกลวดหนาม ซึ่งมีอยู่ในเบื้อบื้งล่างเสียบร่างกายทะลุ เลือดแดงฉาน
มหานรกขุมที่ 8 อเวจีมหานรก มหานรกที่ปราศจากคลื่นแห่ง ความทุกข์ อเวจีมหานรก หมายถึง มหานรกที่ปราศจากคลื่น คือ ความ เบาบางแห่งความทุกข์ ระหว่างแห่งเปลวไฟและความทุกข์ไม่มี ว่างเว้นเลย เป็นมหานรกขุมสุดท้าย ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด มีโทษ แห่งการกระทำ หนักที่สุด และมีอายุขัยนานที่สุดชีวิตในอเวจี มหานรก สัตว์นรกในขุมนี้จนี้ะได้รับความทุกข์แสนสาหัส เป็น นรกที่ขุมใหญ่ที่สุด ราวกับเมืองใหญ่ที่ล้อมรอบด้วยกำ แพง เหล็กอันรุ่งโรจน์ ภายในมีเปลวไฟร้อนระอุไหม้สัตว์นรกอยู่ ตลอดเวลาทั้งทั้กลางคืนกลางวันไม่มีว่างเว้น สัตว์ที่ต้องไปอุบัติ ในอเวจีมหานรกนี้มีนี้มีากกว่าขุมอื่นๆ แออัดยัดเยียดเบียดเบียน กันอยู่ ทั้งทั้การเสวยทุกข์โทษในมหานรกขุมนี้ก็นี้ ก็ แตกต่างกันไป หลายอิริยาบถ หลายท่าหลายทาง เช่น ถ้าเคยยืนทำ บาปอกุศล กรรมไว้ ก็ต้องมาทนทุกข์อยู่ในอิริยาบถยืน เคยเดินทำ บาปไว้ ก็ ต้องเดินทนทุกข์อยู่ เคยนั่งเคยนอนทำ บาปไว้ ก็ต้องมานั่งมา นอนเสวยทุกข์อยู่ในอเวจีมหานรกนี้
อุสทนรก 16ขุม
อุสทนรก คือนรกขุมบริวาณ ที่ติดต่อกับมหานรกซึ่งมีอยู่ทั้ง ทั้ หมด4ขุม คือ
คูถนรก นรกอาจม นรกอุจจาระเน่า สัตว์นรกทั้งทั้หลายที่ยังมีอกุศลกรรมเหลืออยู่ ถึงแม้พ้นจากมหานรกแล้ว แต่ก็ยังไม่หลุดพ้นจากวงจรนรก ต้องเสวยทุกข์ต่อไป ในนรกขุมบริวารที่ใกล้ชิดกับมหานรก อันดับที่ 1 คือ คูถนรก จะถูกทรมานอยู่ในนรกอุจจาระ ลักษณะของคูถนรก เต็มไปด้วยหมู่หนอน มีปากแหลมดังเข็ม ตัวอ้วนพีใหญ่เท่าช้าง เมื่อสัตว์นรกตกลงมาสู่คูถนรก เจ้าหนอน นรกจะแสดงอาการดีอกดีใจ เข้ามาล้อมเกาะกัดกินเนื้อของสัตว์ นรกนั้นนั้อย่างเอร็ดอร่อยจนเหลือแต่กระดูก แล้วก็แทะกระดูก เข้าไปอีก หนอนบางตัวมีขนาดเล็กก็จะคลานชอนไชเข้าไปใน ปาก กัดกินปอด ตับ ม้าม ไต หัวใจ กระเพาะ แล้วก็ออกทาง ทวารด้านล่างและด้านบน เป็นอย่างนี้จนี้นกว่าจะสิ้นสิ้กรรม 1
ขุมที่ 2 กุกกุฬนรก นรกขี้เ ขี้ ถ้าร้อน ครั้นรั้พ้นจากกำ แพงของคูถนรกแล้ว สัตว์นรกทั้งทั้หลายที่ยังมี อกุศลกรรมเหลืออยู่ ถึงแม้พ้นจากนรกอุจจาระเน่าแล้ว ยังต้อง ถูกทรมานในนรกขุมบริวารอันดับที่ 2 คือ กุกกุฬนรก ซึ่งตั้งตั้อยู่ ติดต่อกับคูถนรก ลักษณะของกุกกุฬนรก เต็มไปด้วยเถ้าร้อน สำ หรับเผาสัตว์นรกทั้งทั้หลายให้ได้รับทุกขเวทนาอันแก่กล้า ถูก เถ้าเผาสรีระให้ย่อยยับละเอียดเป็นจุณ เมื่อเศษบาปกรรมยังไม่ สิ้นสิ้ตราบใด ก็ต้องตายเกิดตลอดกาลนานจนกว่าจะสิ้นสิ้กรรม
ขุมที่ 3 อสิปัตนรก นรกใบไม้เป็นหอกเป็นดาบ ครั้นรั้พ้นจากกำ แพงของกุกกุฬนรกแล้ว สัตว์นรกทั้งทั้หลายที่มี อกุศลกรรมเหลืออยู่นั้นนั้ถึงแม้พ้นจากนรกขี้เขี้ถ้าร้อนแล้ว จะต้อง เจอนรกขุมบริวารอันดับที่ 3 คือ อสิปัตตนรก ก็ยังต้องถูก เบียดเบียนอยู่ในนรกป่าไม้ใบดาบ ซึ่งอยู่ติดต่อกับกุกกุฬนรก ลักษณะของอสิปัตตนรก จะมีลักษณะเป็นเหมือนอุทยาน มี ต้นไม้คล้ายกับมะม่วง เมื่อสัตว์ที่ยังไม่หมดสิ้นสิ้กรรมชวนกันไป เดินเล่นในอุทยานนี้ เห็นมีต้นไม้ใหญ่ ตั้งตั้ใจว่าจะไปนั่งอยู่ใต้ร่ม ไม้นั้นนั้แต่พอเข้าไปยังไม่ทันจะได้นั่งดั่งใจปรารถนา ก็มีลมพัด มาอย่างแรง ใบมะม่วงก็หลุดและปลิวลงมากลายเป็นหอกเป็น ดาบ ทิ่มแทงร่างของสัตว์นรกเหล่านั้นนั้จนแขนขาด คอขาด ขา ขาด มีแผลเหวอะหวะเต็มไปทั่วร่างกาย เลือดแดงฉานออกมา จากนั้นนั้ก็มีสุนัขนรกร่างกายใหญ่โตเท่าช้างสาร วิ่งมากัดกิน เลือดเนื้อของสัตว์นรกนั้นนั้จนเหลือแต่กระดูก จากนั้นนั้ยังมีแร้ง นรกซึ่งมีปากเป็นเหล็ก ตัวโตประมาณเท่าเกวียนเท่ารถ พากัน มาโฉบเฉี่ยวยื้อยื้แย่งจิกทึ้งทึ้เนื้อสัตว์นรก ฉีกกินเป็นอาหาร กรรม ยังไม่สิ้นสิ้ต้องเสวยทุกขเวทนาไปอย่างนี้ตนี้ลอดเวลา
ขุมที่ 4 เวตรณีนรก นรกแม่น้ำ เค็มมีหนามหวาย ครั้นรั้เมื่อสัตว์นรกพ้นจากกำ แพงของอสิปัตตนรก สัตว์นรกที่ยังมีอกุศลกรรมเหลือ อยู่ ถึงแม้จะหลุดพ้นจากนรกป่าไม้ดาบแล้ว ก็ยังไม่หมดสิ้นสิ้การทรมาน จะต้องมาสู่ นรกขุมนี้อีนี้อีก ซึ่งเป็นนรกขุมบริวารอันดับที่ 4 อยู่ติดกับอสิปัตตนรก ลักษณะของ เวตรณีนรก จะมีน้ำ เค็ม แสบ ตั้งตั้อยู่ชั่วกัป มีเครือหวายหนามเหล็กล้อมอยู่โดยรอบ เป็นขอบขัณฑ์ มีดอกปทุม (ดอกบัว) ผุดบานล่อใจให้ชวนชม เมื่อสัตว์นรกเห็นแล้ว ก็เข้าใจว่าเป็นแม่น้ำ ใสสะอาดเย็นสนิทน่าอาบ น่าดื่ม ก็พากันดีอกดีใจ หวังจะอาบ ดื่มกินให้สบาย จึงวิ่งด้วยความเร็ว กระโจนลงไปในแม่น้ำ ทันใดนั้นนั้เองเครือหวาย เหล็ก ซึ่งคมเหมือนหอกเหมือนดาบ ก็บาดร่างกายทำ ให้เป็นแผลในน้ำ เค็ม ทั้งทั้เจ็บ ทั้งทั้แสบ แล้วก็เกิดเป็นเปลวไฟลุกไหม้เผาร่าง เผาทั้งทั้ๆ ที่อยู่ในแม่น้ำ จนไหม้เกรียม เหมือนกับต้นไม้ที่ถูกไฟไหม้ บางตนร่างห้อยอยู่บนเครือหนาม ในไม่ช้าร่างนั้นนั้ก็ต้อง ตกลงไปโดนดอกบัวเหล็กที่มีกลีบแหลมคมเป็นกรด ซึ่งตั้งตั้อยู่กลางน้ำ เค็มมีเปลวไฟ ติดอยู่ตลอดเวลา ในบัวเหล็กแดงก็บาดร่างกายขาดวิ่น สัตว์นรกคิดว่า ถ้าดำ ลงไปใน แม่น้ำ ที่ลึกกว่านี้ คงจะหลุดพ้นจากการทรมานได้ จึงกลั้นลั้ ใจดำ น้ำ ลงไป แต่แล้วกลับ ถูกคมดาบซึ่งหงายอยู่ภายใต้น้ำ นั้นนั้บาดเอา เจ็บแสนสาหัส เท่านี้ยันี้ยังไม่พอ ยังถูกนาย นิรยบาลใช้ หอก หลาว แหลน จ้วงแทงเอา เหมือนกับมนุษย์ใช้ฉมวกแทงปลาในน้ำ ฉันใดฉันนั้นนั้
ยมโลก
ยมโลกคือสถานที่รองรับผู้ที่มา จากอุสทนรก และผู้ที่มาจากโลก มนุษย์และยังเป็นที่วินิจฉัยบุย บาปอีกด้วย โดยยมโลกนั้น นั้ จะมี อยู่มั้ง มั้ หมด10ขุม ดังนี้
ขุมที่ 1 โลหกุมภีนรก นรกหม้อเหล็ก มีลักษณะเป็นหม้อเหล็กขนาดใหญ่เท่าภูเขา เต็มไปด้วยน้ำ ร้อน เดือพล่านอยู่ตลอดเวลา ตั้งตั้อยู่บนเตาไฟนรก กุมภัณฑ์จับสัตว์ นรกที่ข้อเท้า 2 ข้างแล้วเอาหัวคว่ำ ลง หย่อนทิ้งทิ้ลงไปในหม้อ เหล็ก สัตว์นรกได้รับทุกขเวทนาอย่างแสนสาหัส บางครั้งรั้นาย กุมภัณฑ์ก็เอาเชือกเหล็ก แดงลุกเป็นเปลวไฟ ไล่กระหวัดรัดคอ แล้วบิดจนกระทั่งคอขาด เอาศีรษะที่ขาดลงไปทอดในหม้อ เหล็กแดง สัตว์นรกก็ยังไม่ตาย มีหัวใหม่เกิดขึ้นขึ้มาอีก แล้วก็จะ ถูกกระทำ อย่างนี้ซ้ำนี้ซ้ำแล้วซ้ำ เล่าจนกว่าจะหมดกรรม บุพกรรม ของสัตว์นรก คือ ทำ กรรมฆ่าสัตว์ เช่น จับเอาสัตว์เป็นๆ มาใส่ ลงในหม้อน้ำ ร้อนเพื่อเอามาทำ เป็นอาหาร หรือไม่ก็ทำ กรรมชั่ว อย่างอื่น แต่ภายหลังสำ นึกผิดจึงพยายามประกอบสิ่งที่เป็นกุศล
ขุมที่ 2 สิมพลีนรก นรกป่าไม้งิ้วงิ้ มีลักษณะเป็นป่าไม้งิ้วงิ้ที่เต็มไปด้วยหนามแหลมคมเป็นกรด ยาวประมาณ 16 องคุลี ลุกเป็นไฟเสมอไม่มีวันดับ นรกขุมนี้ เต็มไปด้วยสัตว์นรกชายหญิง บางเวลาสัตว์นรกหญิงขึ้นขึ้ ไปคอย อยู่บนต้นงิ้วงิ้ก่อน สัตว์นรกชายก็จะถูกนายนิรยบาลทุบตีด้วย หอก แหลน หลาว ขู่ตะคอกให้ขึ้นขึ้ ไป ด้วยความกลัวจึงต้องปีน ป่ายต้นงิ้วงิ้จนเลือดสาดไปทั่วทั้งทั้ตัว จนสัตว์นรกต้องอ้อนวอน ยมบาล ยมบาลก็ยิ่งกระหน่ำ ตี แทง ซ้ำ ลงไปอีก พอไปถึงปลาย ยอดงิ้วงิ้นั้นนั้ทั้งทั้ๆ ที่เจ็บปวดปิ่มว่าจะขาดใจ สัตว์นรกหญิงพลัน ตกลงมาเบื้อบื้งล่างในทันที นายนิรยบาลก็จะใช้หอก หลาว ทิ่ม แทง ขับไล่ไสส่งให้ป่ายปีนขึ้นขึ้ ไปอีก แม้เลือดเนื้อจะสาดท่วมตัว มากมายขนาดไหนก็ตาม สัตว์นรกชายหญิงก็จะเวียนปีนป่าย ต้นงิ้วงิ้อยู่อย่างนั้นนั้ สัตว์นรกบางตัวในขณะที่กำ ลังป่ายปีนอยู่นั้นนั้ก็จะถูกแร้งกาซึ่งมี ปากเป็นเหล็กคอยจิก ทึ้งทึ้อวัยวะน้อยใหญ่กินเป็นภักษาหาร ให้ ได้รับความทุกข์ทรมานหนักยิ่งขึ้นขึ้ครั้นรั้ตกลงมาข้างล่างก็ถูก สุนัขนรกตัวใหญ่มหึมา รุมกัดกินเนื้อสัตว์นรกนั้นนั้เป็นการ สมทบช่วยทรมานสัตว์นรกอีกแรงหนึ่งบุพกรรมของสัตว์นรก คือ เมื่อครั้งรั้เป็นมนุษย์ ได้ทำ ผิดศีลข้อที่ 3 คือ กาเมสุมิจฉาจาร คือ คบชู้ ถ้าเป็นชายก็เป็นชู้กับภรรยาของคนอื่น ถ้าเป็นหญิงก็ เป็นชู้กับสามีของคนอื่น เป็นคนไม่มีหิริโอตตัปปะ ประพฤติ นอกใจภรรยาสามี
ขุมที่ 3 อสินขนรก นรกเล็บดาบ ในนรกขุมนี้ สัตว์นรกมีรูปร่างพิกลพิการ เล็บมือเล็บเท้าแหลม ยาว กลับกลายเป็นอาวุธ เป็นหอก เป็นจอบ เป็นเสียมอันคม กล้า เอาเล็บตะกุยเนื้อหนังของตนกินเป็นภักษาหาร เป็นอยู่ อย่างนี้ตนี้ลอดกาล บุพกรรมของสัตว์นรก คือ เมื่อครั้งรั้เป็น มนุษย์ชอบลักเล็กขโมยน้อย ในสถานที่ที่เป็นสาธารณะ ของที่ เขาถวายแด่พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
ขุมที่ 4 ตามโพทกนรก นรกนํ้าทองแดง ในนรกขุมนี้ มีหม้อเหล็กต้มน้ำ ทองแดงอยู่มากมาย พร้อมกับมี ก้อนกรวด ก้อนหินปะปนอยู่ด้วยในหม้อเหล็กทุกๆ หม้อ นายนิ รยบาลก็จะจับสัตว์นรกนั้นนั้นอนหงายเหนือแผ่นเหล็กอันร้อน แรงด้วยเปลวไฟ แล้วเอาน้ำ ทองแดงพร้อมกับก้อนกรวดก้อน หิน กรอกเข้าปากสัตว์นรกนั้นนั้อวัยวะต่าง ๆ ก็แตกเปื่อยพัง ทลาย แล้วก็เกิดขึ้นขึ้มารับกรรมอย่างนี้อีนี้อีกซ้ำ แล้วซ้ำ เล่าอยู่อย่าง นั้นนั้จนกว่าจะสิ้นสิ้กรรมบุพกรรมของสัตว์นรก คือ เมื่อครั้งรั้เป็น มนุษย์ ดื่มสุราเมรัย แสดงอาการคล้ายกับคนบ้า วิกลจริต เป็น ประจำ
ขุมที่ 5 อโยคุฬนรก นรกก้อนเหล็กร้อน เป็นนรกที่เต็มไปด้วยก้อนเหล็กแดงลุกเป็นไฟเกลื่อนกลาดไป หมด ไม่ว่าจะมองไปทางใด สัตว์นรก ต่างก็มีความหิวโหยอย่าง สุดจะประมาณได้ ด้วยกรรมที่ทำ เอาไว้ จึงทำ ให้สัตว์นรกเหล่า นั้นนั้เห็นก้อนเหล็กแดงเป็นอาหารอันโอชะ รีบไปยื้อยื้แย่งกันกิน พอเคี้ยคี้วกลืนลงไป ก็ไหม้ไส้พุงให้ขาดกระจัดกระจายเรี่ยราด ออกมาให้สัตว์นรกนั้นนั้ ได้รับทุกขเวทนา บุพกรรมของสัตว์นรก คือ เมื่อครั้งรั้เป็นมนุษย์มีความโลภมาก เที่ยวป่าวประกาศ บอกบุญให้คนเอาทรัพย์มาให้ จะเอาไปทำ การกุศล แต่กลับนำ เอาทรัพย์มาใช้สอยตามสะดวกสบายของตน การกุศลก็ทำ บ้าง ไม่ทำ บ้างตามที่อ้างไว้ บางทีก็ไม่ทำ เลย
ขุมที่ 6 ปิสสกปัพพตนรก ในนรกขุมนี้ มีภูเขาใหญ่ตั้งตั้อยู่ทั้งทั้4 ทิศ เป็นภูเขาที่เคลื่อนที่ได้ ไม่หยุดหย่อน กลิ้งลิ้บดสัตว์นรกทั้งทั้หลายให้ตาย แล้วก็กลับมี ชีวิตขึ้นขึ้มาอีก แล้วก็ถูกกลิ้งลิ้บดทับอีก ให้ได้รับทุกข์ทรมานอย่าง นี้ไนี้ปเรื่อยไม่ได้ว่างเว้น บุพกรรมของสัตว์นรก คือ เมื่อครั้งรั้เป็น มนุษย์ เคยเป็นเจ้าคนนายคน เช่น เป็นนายบ้าน เป็นนาย อำ เภอ เป็นเจ้าบ้านผ่านเมือง แต่ประพฤติตนเป็นอันธพาล กดขี่ ข่มเหงราษฎร ทำ ให้ประชาชนพลเมืองเดือดร้อน เช่น ทุบตีเขา เอาทรัพย์เขามาให้เกินพิกัดอัตราที่กฎหมายกำ หนด ครั้นรั้ตายไป จึงต้องมาเกิดอยู่ ในนรกขุมนี้ นรกภูเขาบด
สัตว์ที่มาเกิดล้วนแต่มีความหิวกระหาย วิ่งวุ่นกระเสือกกระสนไปทั่วทั้งทั้ นรก พอเห็นมีสระเต็มไปด้วยน้ำ ใสเย็นสะอาด ก็รีบวิ่งกระโดดลงเพื่อจะกิน อาบ พอดื่มกินเข้าไป น้ำ ตกถึงท้องก็กลายเป็นแกลบ เป็นข้าวลีบลุกเป็น เปลวไฟ แล้วไหม้ไส้ใหญ่ไส้น้อย ให้ได้รับความเจ็บปวด เสวยทุกขเวทนา แสนสาหัส บุพกรรมของสัตว์นรก คือ เมื่อครั้งรั้เป็นมนุษย์เป็นพ่อค้าที่ คดโกง ไม่มีความซื่อสัตย์ มีความโลภอยู่ในจิตใจอย่างมากมาย เอาของไม่ดี ปนกับของดี เอาของแท้ปนกับของเทียม แล้วนำ ไปหลอกขายผู้อื่น จะต้อง ทนทุกข์อยู่ในนรกขุมนี้จนี้นกว่าจะสิ้นสิ้กรรม ขุมที่ 7 ธุสนรก นรกแกรบ
ขุมที่ 8 สีตโลสิตนรก นรกนํ้ากรดเย็น ในนรกขุมนี้ มีน้ำ เยือกเย็นยิ่งกว่าความเย็นทั้งทั้หลาย สัตว์นรก เมื่อตกลงไปต้องตายด้วยความเย็น แต่ด้วยอำ นาจของกรรม ทำ ให้กลับมีชีวิตขึ้นขึ้มาอีก จากนั้นนั้พากันคลานขึ้นขึ้มาข้างบน แต่ นายนิรยบาลก็จับสัตว์นรกเหล่านั้นนั้ โยนลงไปในน้ำ เย็นอีก ถูก ความเย็นเบียดเบียนจนตายอีก ตายเกิดอย่างนี้ตนี้ลอดเวลา จนกว่าจะสิ้นสิ้กรรม บุพกรรมของสัตว์นรก คือ เมื่อครั้งรั้เป็น มนุษย์เป็นผู้มีจิตใจไม่บริสุทธิ์ เป็นคนใจบาปหยาบช้า ชอบจับ สัตว์เป็นๆ ลงในบ่อเหว ในสระน้ำ หรือมัดสัตว์ทิ้งทิ้น้ำ ให้จม น้ำ ตาย ทำ เพื่อนมนุษย์ทั้งทั้หลายให้ได้รับความทุกข์ตายเพราะน้ำ
ขุมที่ 9 สุนขนรก นรกขุมนี้เนี้ต็มไปด้วยสุนัขนรก เมื่อจำ แนกก็จะ มีสุนัขนรกอยู่ 5 เหล่า 1. สุนัขนรกดำ 2. สุนัขนรกขาว 3. สุนัขนรกเหลือง 4. สุนัขนรกแดง 5. สุนัขนรกด่าง บรรดาสุนัขนรกเหล่านั้นนั้จะมีรูปร่างใหญ่โต น่ากลัว ส่งเสียงเห่า หอนดังเหมือนฟ้าลั่นฟ้าร้องก้องไปทั่วนรก สัตว์นรกที่เกิดในขุม นี้จนี้ะถูกสุนัขนรกไล่กัดอยู่ตลอดเวลา นอกจากจะมีสุนัขนรกแล้ว ยังมีฝูงนกฝูงกา นกตะกรุมอีกมากมายหลายฝูง แร้งกา นก ตะกรุมเหล่านั้นนั้มีลักษณะแปลกประหลาด คือ ที่ปากและเท้า ของมันมีเหล็กลุกแดงเป็นไฟ เวลาที่มันเห็นสัตว์นรกก็จะพากัน มาจิกตรงลูกตา และแหวกอกสัตว์นรกทั้งทั้หลายให้แตกทำ ลาย กระจุยกระจาย แล้วก็เคี้ยคี้วกิน แม้จะตายแล้ว ก็กลับฟื้นคืนชีพ มาใหม่ แล้วก็รับการทรมานเหมือนอย่างเดิมอีก จนกว่าจะสิ้นสิ้ กรรม บุพกรรมของสัตว์นรก คือ เมื่อครั้งรั้ที่เป็นมนุษย์ เป็นคนปาก กล้า ด่าว่าบิดามารดา ปู่ย่าตายาย พี่ชาย พี่หญิง ด้วยถ้อยคำ ที่ เจ็บแสบ หรือเมื่อโกรธขึ้นขึ้มา ก็ด่าว่าไม่เลือกหน้า ไม่ว่าจะเป็นผู้ เฒ่าผู้แก่ แม้ผู้ทรงศีลธรรม มีสมณชีพราหมณ์ พระภิกษุสงฆ์ สามเณร เป็นต้น ไม่เลือกหน้าว่าจะเป็นใคร
ขุมที่ 10 ยันตปาสาณนรก นรกภูเขายนต์ นรกขุมนี้เนี้ป็นขุมสุดท้าย ในนรกมีภูเขา 2 ลูก เป็นภูเขานรก แปลกประหลาด คือ เป็นภูเขายนต์หันกระทบกันเป็นจังหวะไม่ หยุดหย่อน กุมภัณฑ์มีร่างกายกำ ยำ ก็จะจับสัตว์นรกโยนเข้าไป ในระหว่างเขาทั้งทั้2 ภูเขาก็จะเคลื่อนกระทบกันในทันที ร่างกาย ของสัตว์นรกเหล่านั้นนั้ก็จะแตกละเอียดป่นปี้ ด้วยแรงกระแทก ของภูเขานั้นนั้ถ้าจะเปรียบภูเขานรกนั้นนั้เปรียบเหมือนกับหีบ อ้อยฝนที่หีบอ้อยสดให้น้ำ ไหลออกมา ชีวิตก็จะเวียนว่ายตาย เกิดอยู่ในนรกขุมนี้ ไม่รู้จักหมดสิ้นสิ้จนกว่าจะสิ้นสิ้กรรม บุพกรรมของสัตว์นรก คือ เมื่อครั้งรั้เป็นมนุษย์ชายหญิง ได้ทุบตี ด่าคู่ครองของตนด้วยความโกรธ ถ้าเป็นสามี เมื่อมีความโกรธก็ ทุบตีด่าทอภรรยา ถ้าเป็นภรรยา เมื่อโกรธขึ้นขึ้มาก็ด่าว่าสามี คว้า ไม้คว้ามีดไล่ตีไล่ฟัน แล้วก็คบชู้ประพฤตินอกใจ คบหาเป็นสามี ภรรยาของคนอื่นตามชอบใจ พอตายแล้วก็มาเสวยทุกข์อยู่ใน นรกนี้