50 แบบประเมินการให้คะแนน วาดภาพพร้อมอธิบายวิธีการปฏิบัติตนต่อพระภิกษุ คำชี้แจง ให้ครูประเมินทักษะและความสามารถของผู้เรียนในการทำใบงาน โดยพิจารณาจากเกณ์การให้ คะแนน ด้านหลังแบบประเมินนี้ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒/….. เลขที่ ชื่อ - สกุล รายการประเมิน คะแนน (รวม) ระดับ พฤติกรรม ความถูกต้อง ของเนื้อหา ( ๓ คะแนน ) การตรงต่อ เวลา ( ๓ คะแนน ) ความ สวยงาม ( ๓ คะแนน )
51 แบบประเมินการให้คะแนน วาดภาพพร้อมอธิบายวิธีการปฏิบัติตนต่อพระภิกษุ รายการการ ประเมิน เกณฑ์การให้คะแนน ดีมาก ( ๓ คะแนน ) ดี ( ๒ คะแนน ) พอใช้ ( ๑ คะแนน ) ๑.ความ ถูกต้อง ของเนื้อหา เนื้อหาครบถ้วน อธิบาย ชัดเจน เนื้อหาครบถ้วน แต่อธิบาย ไม่ชัดเจน เนื้อหาไม่ครบ ๑ ข้อ และ อธิบายไม่ชัดเจน ๒.ความ สวยงาม มีความเป็น ระเบียบเรียบร้อยและมี ความคิดสร้างสรรค์ ไม่เป็นระเบียบ ๑ ตำแหน่ง แต่มีความคิดสร้างสรรค์ ไม่เป็นระเบียบมากกว่า ๑ ตำแหน่ง แต่มีความคิด สร้างสรรค์ ๓.การตรง ต่อเวลา ส่งงานตรงต่อเวลา ส่งช้าเกินกำหนด ๑ วัน ส่งช้าเกินกำหนด ๒ วัน เกณฑ์การตัดสินระดับคุณภาพ คะแนน ระดับคุณภาพ ๖ – ๙ (ดีมาก) ๓ - ๕ (ดี) ต่ำกว่า ๓ (พอใช้)
52 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๒ เรื่อง การแต่งกาย รายวิชา สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม รหัสวิชา ส๒๒๑๐๑ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ หน่วยการเรียนรู้บทที่ ๔ ภาคเรียนที่ ๒/๒๕๖๕ เวลา ๑ ชั่วโมง ผู้สอน นางสาวเขมอักษร ยอดพรหม โรงเรียนสมุทรสาครวุฒิชัย ๑. มาตรฐานการเรียนรู้ ส ๑.๒ เข้าใจ ตระหนักและปฎิบัติตนเป็นศาสนิกชนที่ดี และธำรงรักษาพระพุทธศาสนาหรือ ศาสนาที่ตนนับถือ ๒. ตัวชี้วัด ม. ๒/๒ มีมรรยาทของความเป็นศาสนิกชนที่ดีตามกำหนด ๓. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๑. นักเรียนสามารถบอกถึงวิธีการแต่งกายไปวัด งานอวมงคลและงานมงคลที่เหมาะสมได้ ๒. นักเรียนสามารถแต่งกายไปวัด งานอวมงคลและงานมงคลได้อย่างเหมาะสม ๓. นักเรียนตระหนักถึงความสำคัญของการแต่งกายที่เหมาะสม ๔. สาระสำคัญ นอกจากการแต่งกายเพื่อให้ตนเองสวยงามแล้วนั้น ยังจัดเป็นมารยาททางสังคมอีกด้วย การแต่ง กายให้ถูกต้องและเหมาะสมกับงานที่ตนเองนั้นต้องไปเข้าร่วม ถือเป็นการให้เกียรติแก่เจ้าภาพ เพื่อให้เรา รู้จักการแต่งกายที่ถูกต้องและเหมาะสมในการเข้าวัด รวมถึงไปงานมงคลและอวมงคล ๕. สาระการเรียนรู้ ๕.๑ ความรู้ ๑. การแต่งกายไปวัด ๒. การแต่งกายไปงานมงคล ๓. การแต่งกายไปงานอวมงคล ๕.๒ สมรรถนะที่สำคัญของผู้เรียน ความสามารถในการคิด
53 ๖. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ข้อที่ ๑ รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ข้อที่ ๖ มุ่งมั่นในการทำงาน ข้อที่ ๗ รักความเป็นไทย ๗. คำถามสำคัญที่นำไปสู่ความรู้ที่คงทน หากนักเรียนต้องการไปงานศพควรแต่งกายด้วยสีใด (สีดำ) ๘. ชิ้นงานและภาระงาน ๘.๑ กิจกรรมแต่งกายไปงาน ๙. กิจกรรมการเรียนรู้ ชั่วโมงที่ ๑ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน ๑. นักเรียนดูภาพการแต่งกายไปงานต่างๆ ภาพที่ ๑ ภาพที่ ๒ ภาพที่ ๓ ๒. นักเรียนและครูร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับภาพทั้ง ๓ ภาพว่าคิดว่าแต่ละภาพนั้นคิดว่าคนที่ แต่งกายนั้นเขาจะแต่งกายไปไหนกัน เพื่อเชื่อมโยงเข้าสู่บทเรียน ขั้นกิจกรรมการเรียนรู้ ๓. ครูอธิบาย เรื่อง การแต่งกายไปวัด งานอวมงคลและงานมงคล การแต่งกายไปวัด วัดถือว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์เราจึงควรให้เกียรติสถานที่ซึ่งเรา สามารถปฏิบัติได้ดังนี้ ๑. ไม่ใส่เสื้อผ้าสีฉูดฉาด ๒. ไม่สวมเสื้อแขนกุดหรือกางเกง/กระโปรงที่สั้น ๓. ไม่สวมเสื้อผ้ารัดรูป ๔. ไม่ควรสวมเสื้อผ้าที่บางเกินไป การแต่งกายไปงานมงคลการแต่งการนั้นต้องสุภาพเรียบร้อยและเหมาะสมกับงานนั้นๆ
54 การแต่งกายไปงานอวมงคล เป็นงานที่พึงระลึกถึงสิ่งที่ตนประสบสิ่งไม่ดี เช่น งานศพ งานทำบุญอัฐิ งานทำบุญครบรอบวันตาย ส่วนมากควรใส่สีขาว ดำหรือสีอ่อน เพื่อให้ดู กลมกลืนกับแขกในงานคนอื่นๆ ๔. นักเรียนและครูร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับการแต่งกายไปวัด งานมงคลและงานอวมงคล เพื่อเตรียมตัวทำกิจกรรมแต่งตัวไปงาน ขั้นสรุปความรู้ ๕. ครูอธิบายถึงวิธีการทำกิจกรรมแก่นักเรียน ครูจัดเตรียมเสื้อผ้าต่างๆ เช่น สีที่แตกต่างกันออกไป ลักษณะเสื้อผ้าที่มีทั้งเหมาะสมและ ไม่เหมาะสมในการไปงานต่างๆ ครูทำการสุ่มเลขที่นักเรียนเพื่อมาแต่งกายให้นักเรียนภายในห้องดู นักเรียนแต่ละคนร่วมกันพิจารณว่าการแต่งกายของแต่ละคนนั้นเหมาะสมที่จะไปงาน เช่นไร พร้อมสุ่มตอบคำถามว่า เหตุใดจึงเหมาะสมและไม่เหมาะสม หากแต่งกายเหมาะสมนั้นจะช่วยให้เกิดประโยชน์อะไรบ้าง ๖. นักเรียนและครูร่วมกันอภิปรายเรื่อง การแต่งกายไปวัด งานมงคลและอวมงคล เพื่อสรุปความรู้
55 ๑๐.การวัดผลและประเมินผล จุดประสงค์การเรียนรู้ วิธีการวัด/ประเมินผล เครื่องมือในการวัด/ ประเมินผล เกณฑ์การวัด/ ประเมินผล ผู้วัด/ ประเมินผล นักเรียนสามารถบอกถึง วิธีการแต่งกายไปวัด งานอวมงคลและงาน มงคลที่เหมาะสมได้ นักเรียนทำกิจกรรม แต่งตัวไปงาน กิจกรรมแต่งตัวไป งาน ผ่านเกณฑ์ใน ระดับดี ครูผู้สอน นักเรียนสามารถแต่ง กายไปวัด งานอวมงคล และงานมงคลได้อย่าง เหมาะสม นักเรียนทำกิจกรรม แต่งตัวไปงาน กิจกรรมแต่งตัวไป งาน ผ่านเกณฑ์ใน ระดับดี ครูผู้สอน นักเรียนตระหนักถึง ความสำคัญของการ แต่งกายที่เหมาะสม นักเรียนทำกิจกรรม แต่งตัวไปงาน กิจกรรมแต่งตัวไป งาน ผ่านเกณฑ์ใน ระดับดี ครูผู้สอน ๑๑.สื่อการเรียนรู้และแหล่งการเรียนรู้ สื่อการเรียนรู้ ๑. Canva เรื่อง การแต่งกายไปวัด งานอวมงคลและงานมงคล ๒. ภาพการแต่งกายไปวัด งานอวมงคลและงานมงคล ๓. หนังสือเรียน แหล่งการเรียนรู้ ๑. Power Point เรื่อง การแต่งกายไปวัด งานอวมงคลและงานมงคล
56 แบบประเมินการร่วม กิจกรรมแต่งตัวไปงาน คำชี้แจง ให้ครูประเมินทักษะและความสามารถของผู้เรียนในการร่วมกิจกรรม โดยพิจารณาจากเกณ์การ ให้คะแนน ด้านหลังแบบประเมินนี้ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒/…. เลขที่ ชื่อ - สกุล รายการประเมิน คะแนน (รวม) ระดับ พฤติกรรม การมีส่วนร่วม ( ๓ คะแนน ) ความถูกต้อง ( ๓ คะแนน ) การมีให้ความ ร่วมมือในการทำ กิจกรรมกลุ่ม ( ๓ คะแนน )
57 แบบประเมินการร่วม กิจกรรมแต่งตัวไปงาน รายการการประเมิน เกณฑ์การให้คะแนน ดีมาก ( ๓ คะแนน ) ดี ( ๒ คะแนน ) พอใช้ ( ๑ คะแนน ) ๑.การมีส่วนร่วม นักเรียนมีส่วนร่วมทุก กิจกรรม นักเรียนมีส่วนร่วม กิจกรรม นักเรียนไม่มีส่วนร่วม ในการทำกิจกรรม ๒. ความถูกต้อง ของเนื้อหา นักเรียนตอบคำถามถูก ทุกข้อ นักเรียนตอบคำถามผิด ๑ ข้อ นักเรียนตอบคำถาม ผิดมากกว่า ๒ ข้อ ๓.การมีให้ความร่วมมือ ในการทำกิจกรรมกลุ่ม ให้ความสนใจในการทำ กิจกรรมเป็นอย่างดี ให้ความสนใจในการมี ส่วนร่วม แต่ไม่มาก ไม่ให้ความสนใจใน การทำกิจกรรม เกณฑ์การตัดสินระดับคุณภาพ คะแนน ระดับคุณภาพ ๖ – ๙ (ดีมาก) ๓ - ๕ (ดี) ต่ำกว่า ๓ (พอใช้)
58 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๓ เรื่อง การเป็นลูกที่ดีตามหลักทิศเบื้องหน้า รายวิชา สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม รหัสวิชา ส๒๒๑๐๑ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ หน่วยการเรียนรู้บทที่ ๔ ภาคเรียนที่ ๒/๒๕๖๕ เวลา ๑ ชั่วโมง ผู้สอน นางสาวเขมอักษร ยอดพรหม โรงเรียนสมุทรสาครวุฒิชัย ๑๒.มาตรฐานการเรียนรู้ ส ๑.๒ เข้าใจ ตระหนักและปฎิบัติตนเป็นศาสนิกชนที่ดี และธำรงรักษาพระพุทธศาสนาหรือ ศาสนาที่ตนนับถือ ๑๓.ตัวชี้วัด ม ๒/๑ ปฏิบัติตนอย่างเหมาะสมต่อบุคคลต่างๆตามหลักศาสนาที่ตนนับถือตามที่กำหนด ๑๔.จุดประสงค์การเรียนรู้ ๑. นักเรียนสามารถบอกถึงการเป็นลูกที่ดีตามหลักทิศเบื้องหน้าในทิศ ๖ ได้ ๒. นักเรียนสามารถปฏิบัติตัวเป็นลูกที่ดีตามหลักทิศเบื้องหน้าในทิศ ๖ ได้อย่างถูกต้อง ๓. นักเรียนตระหนักถึงความสำคัญของการเป็นลูกที่ดีตามหลักทิศเบื้องหน้าในทิศ ๖ ๑๕.สาระสำคัญ การเป็นลูกที่ดีตามหลักทิศเบื้องหน้าในทิศ ๖ เป็นคำสอนที่เน้นย้ำให้คนในสังคมต้องทำหน้าที่ต่อ กันตามหน้าที่ บทบาทและฐานะโดยสามารถแบ่งออกได้เป็น ๖ คู่ เพื่อให้สามารถปฏิบัติเป็นลูกที่ดีของพ่อ แม่ด้ายหลักธรรมและคุณธรรมได้ ๑๖.สาระการเรียนรู้ ๕.๑ ความรู้ ๑. การเป็นลูกที่ดีตามหลักทิศเบื้องหน้าในทิศ ๖ ๒. คุณธรรม ๕ ประการ ๓. การปฏิบัติตนต่อพ่อแม่ ๕.๒ สมรรถนะที่สำคัญของผู้เรียน ๑. ความสามารถในการคิด ๒. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
59 ๑๗.คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ข้อที่ ๑ รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ข้อที่ ๒ ซื่อสัตย์สุจริต ข้อที่ ๖ มุ่งมั่นในการทำงาน ข้อที่ ๗ รักความเป็นไทย ๑๘.คำถามสำคัญที่นำไปสู่ความรู้ที่คงทน เราสามารถปฎิบัติตนเป็นลูกที่ดีได้ง่ายๆเลยเริ่มได้อย่างไรบ้าง(เลี้ยงดูพ่อแม่ยามแก่ชรา/ช่วยแบ่ง เบาภาระงาน/รักษาชื่อเสียงวงศ์ตระกูลฯลฯ) ๑๙.ชิ้นงานและภาระงาน ๘.๑ กิจกรรมกดกริ่งตอบคำถาม ๒๐.กิจกรรมการเรียนรู้ ชั่วโมงที่ ๑ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน ๑. นักเรียนดูภาพคำสอนเรื่องทิศ ๖ บทบาทและฐานะของสังคมที่แบ่งออกได้ ๖ คู่ ภาพที่ ๑ ภาพที่ ๒ ภาพที่ ๓ ภาพที่ ๔ ภาพที่ ๕ ภาพที่ ๖ ๒. นักเรียนและครูร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับภาพทั้ง ๖ ภาพเพื่อเชื่อมโยงเข้าสู่บทเรียน
60 ขั้นกิจกรรมการเรียนรู้ ๓. ครูอธิบาย เรื่อง การเป็นลูกที่ดีตามหลักทิศเบื้องหน้า คำสอนเรื่องทิศ ๖ เป็นคำสอนที่มีการเน้นย้ำที่ต้องทำต่อๆกันมาตามหน้าที่ บทบาทและ ฐานะโดยสามารถแยกคนในสังคมออกได้ ๖ คู่ คู่ที่ ๑ พ่อแม่กับลูเรียกว่าทิศเบื้องหน้า คู่ที่ ๒ ครูอาจารย์กับลูกศิษย์ เรียกว่า ทิศเบื้องขวา คู่ที่ ๓ ภรรยาคู่กับสามี เรียกว่า ทิศเบื้องหลัง คู่ที่ ๔ เพื่อนคู่กับเพื่อน เรียกว่า ทิศเบื้องซ้าย คู่ที่ ๕ คนรับใช้คู่กับนายจ้าง เรียกว่า ทิศเบื้องล่าง คู่ที่ ๖ พระสงฆ์คู่กับศาสนิก เรียกว่า ทิศเบื้องบน พ่อแม่มีความดีต่อลูกด้วยคุณธรรม ๕ ประการหลักๆ ๑. คอยห้ามปรามจากความชั่ว ๒. พยายามสั่งสอน ๓. ส่งลูกร่ำเรียน ๔. แนะนำให้คำปรึกษา ๕. มอบทรัพย์สมบัติ ลูกควรปฏิบัติต่อพ่อแม่ดังนี้ ๑. ยามท่านแก่ชราก็ดูแลท่าน ๒. ช่วยแบ่งเบาภาระ ๓. รักษาชื่อเสียงวงศ์ตระกูล ๔. ประพฤติตนให้เหมาะสม ๕. เมื่อท่านล่วงลับไปแล้ว ทำบุณอุทิศให้ ๔. นักเรียนและครูร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับการเป็นลูกที่ดีตามหลักทิศเบื้องหน้า คุธรรมที่ พ่อแม่มีต่อลูกและสิ่งที่ลูกควรปฏิบัติต่อพ่อแม่ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับทำกิจกรรมกด กริ่งตอบคำถาม ขั้นสรุปความรู้ ๕. ครูอธิบายกิจกรรมกดกริ่งเพื่อตอบคำถาม นักเรียนจะต้องทำการแบ่งกลุ่มในห้องเป็น ๒ กลุ่ม คือกลุ่ม ๑ และกลุ่มที่ ๒ ครูจะทำการแบ่งห้องเป็น ๒ ฝั่ง โดยตรงกลางของห้องจะมีกริ่งวางอยู่ นักเรียนแต่ละกลุ่มต้องทำการจับคู่ออกมากลุ่มละ ๑ คู่
61 ให้นักเรียนแต่ละคู่เตรียมตัวสำหรับตอบคำถาม เมื่อครูถามคำถามเสร็จแล้วนั้น ครูจะให้เวลานักเรียนแต่ละคู่ร่วมกันปรึกษาหาทำตอบ และครูจะทำการให้สัญญาณโดยการนับ ๑ - ๓ เพื่อให้นักเรียนทำการกดกริ่ง หากคู่ใดกดได้ก่อนจะได้สิทธิ์ในการตอบคำถาม หากตอบถูกจะได้คะแนนตามกลุ่มไป ๖. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปคะแนนเพื่อบวกคะแนนพิเศษให้แก่กลุ่มที่ชนะ ๗. นักเรียนและครูร่วมกันอภิปรายเรื่อง การเป็นลูกที่ดีตามหลักทิศเบื้องหน้า คุธรรมที่พ่อ แม่มีต่อลูกและสิ่งที่ลูกควรปฏิบัติต่อพ่อแม่ เพื่อสรุปความรู้
62 ๒๑.การวัดผลและประเมินผล จุดประสงค์การเรียนรู้ วิธีการวัด/ประเมินผล เครื่องมือในการวัด/ ประเมินผล เกณฑ์การวัด/ ประเมินผล ผู้วัด/ ประเมินผล นักเรียนสามารถบอกถึง การเป็นลูกที่ดีตามหลัก ทิศเบื้องหน้าในทิศ ๖ ได้ นักเรียนทำกิจกรรม กดกริ่งเพื่อตอบ คำถาม กิจกรรมกดกริ่งเพื่อ ตอบคำถาม ผ่านเกณฑ์ใน ระดับดี ครูผู้สอน นักเรียนสามารถปฏิบัติ ตัวเป็นลูกที่ดีตามหลัก ทิศเบื้องหน้าในทิศ ๖ ได้อย่างถูกต้อง นักเรียนทำกิจกรรม กดกริ่งเพื่อตอบ คำถาม กิจกรรมกดกริ่งเพื่อ ตอบคำถาม ผ่านเกณฑ์ใน ระดับดี ครูผู้สอน นักเรียนตระหนักถึง ความสำคัญของการ เป็นลูกที่ดีตามหลักทิศ เบื้องหน้าในทิศ ๖ นักเรียนทำกิจกรรม กดกริ่งเพื่อตอบ คำถาม กิจกรรมกดกริ่งเพื่อ ตอบคำถาม ผ่านเกณฑ์ใน ระดับดี ครูผู้สอน ๒๒.สื่อการเรียนรู้และแหล่งการเรียนรู้ สื่อการเรียนรู้ ๑. Canva เรื่อง การเป็นลูกที่ดีตามหลักทิศเบื้องหน้าในทิศ ๖ ๒. ภาพการเป็นลูกที่ดีตามหลักทิศเบื้องหน้าในทิศ ๖ ๓. หนังสือเรียน แหล่งการเรียนรู้ ๑. Power Point เรื่อง การเป็นลูกที่ดีตามหลักทิศเบื้องหน้าในทิศ ๖
63 แบบประเมินการร่วม กิจกรรมกดกริ่งเพื่อตอบคำถาม คำชี้แจง ให้ครูประเมินทักษะและความสามารถของผู้เรียนในการร่วมกิจกรรม โดยพิจารณาจากเกณ์การ ให้คะแนน ด้านหลังแบบประเมินนี้ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒/…. เลขที่ ชื่อ - สกุล รายการประเมิน คะแนน (รวม) ระดับ พฤติกรรม การมีส่วนร่วม ( ๓ คะแนน ) ความถูกต้อง ( ๓ คะแนน ) การมีให้ความ ร่วมมือในการทำ กิจกรรมกลุ่ม ( ๓ คะแนน )
64 แบบประเมินการร่วม กิจกรรมกดกริ่งเพื่อตอบคำถาม รายการการประเมิน เกณฑ์การให้คะแนน ดีมาก ( ๓ คะแนน ) ดี ( ๒ คะแนน ) พอใช้ ( ๑ คะแนน ) ๑.การมีส่วนร่วม นักเรียนมีส่วนร่วมทุก กิจกรรม นักเรียนมีส่วนร่วม กิจกรรม นักเรียนไม่มีส่วนร่วม ในการทำกิจกรรม ๒. ความถูกต้อง ของเนื้อหา นักเรียนตอบคำถามถูก ทุกข้อ นักเรียนตอบคำถามผิด ๑ ข้อ นักเรียนตอบคำถาม ผิดมากกว่า ๒ ข้อ ๓.การมีให้ความร่วมมือ ในการทำกิจกรรมกลุ่ม ให้ความสนใจในการทำ กิจกรรมเป็นอย่างดี ให้ความสนใจในการมี ส่วนร่วม แต่ไม่มาก ไม่ให้ความสนใจใน การทำกิจกรรม เกณฑ์การตัดสินระดับคุณภาพ คะแนน ระดับคุณภาพ ๖ – ๙ (ดีมาก) ๓ - ๕ (ดี) ต่ำกว่า ๓ (พอใช้)
65 แบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน คำชี้แจง ข้อสอบแบบปรนัยเลือกคำตอบที่ถูกที่สุดเพียงคำตอบเดียว จำนวน 20 ข้อ ( 10 คะแนน ) 1. เหตุใดเราจึงต้องศึกษาเรื่องมรรยาทชาวพุทธ ก. เพื่อปฏิบัติตนต่อพระสงฆ์ได้เหมาะสม ข. เพื่อนำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน ค. เพื่อนำไปเผยแผ่ให้แก่คนอื่นได้ ง. เพื่อรู้เท่าทันคน 2. บุคคลใดไม่ปฏิบัติตนตามหน้าที่ของชาวพุทธ ก. นพดลศึกษาคำสอนของศาสนาอื่นๆเพิ่ม ข. อคร ปฏิบัติตามคำสอนของศาสนาพุทธ ค. เปาศึกษาหลักธรรมของศาสนาพุทธ ง. แอลทำการเผยแผ่พระพุทธศาสนา 3. เมื่อเพื่อนของแม่มาที่บ้าน นักเรียนควรปฏิบัติตนในการต้อนรับอย่างไร ก. สนทนากับเพื่อนแม่อย่างเป็นกันเอง ข. กล่าวต้อนรับและนำน้ำดื่นมาให้ ค. ให้เพื่อนของแม่พักผ่อนอย่างตามสบาย ง. ถามเพื่อนแม่ว่ามีธุระอะไรเพื่อไปบอกแม่ 4. บุคคลใดปฏิบัติตนได้อย่างเหมาะสม ในการเป็นแขก ก. โบ๊ท แต่งตัวตามสบายเมื่อไปหาญาติ ข. แก้ม พูดเรื่องส่วนตัวก่อนธุระ ค. คิม กล่าวลาด้วยถ่อยคำสุภาพ ง. อ๊อฟ มาถึงงานแต่งงานหลังพิธีเริ่ม ๑๕ นาที 5. เมื่อสุชาดาต้องการถวายสิ่งของแก่พระสงฆ์ควรปฏิบัติอย่างไร ก. ส่งให้แก่มือพระสงฆ์โดยตรง ข. รอให้พระมารับของเอง ค. วางไว้ตรงหน้าพระสงฆ์ ง. วางบนผ้ารองรับของ
66 6. บุคคลใด ปฏิบัติต่อพระสงฆ์ได้อย่างเหมาะสม ก. ปิยะนันท์ ปฏิบัติตนเป็นกันเองกับหล่วงพี่ข. กมล ประนมมือทุกครั้งที่สนทนากับพระค. อภิชาต พูดคุยอย่างเป็นกันเองกันหลวงพี่ง. สมพาน นั่งชันเข่าเมื่อเข้าวัดฟังธรรม 7. บุคคลใดสามารถแต่งกายไปวัดได้เหมาะสมก. วนิดาสวมกระโปรงสั้นไปไหว้พระกับเพื่อนข. ชุดาใส่เสื้อสายเดี่ยวไปวัดเพราะร้อนค. กาญจนาใส่เสื้อรัดรูปไปทำบุญง. แก้มสวมเสื้อสีสุภาพเมื่อไปวัด 8. การสวดอภิธรรมนั้นใช้ในงานใดก. งานกินเลี้ยงปีใหม่ข. งานขึ้นบ้านใหม่ค. งานแต่งงานง. งานศพ 9. การเป็นลูกที่ดีตามหลักเบื้องหน้าในทิศ ๖ ทิศใดเป็นทิศที่คอยให้คำปรึกษาเรื่องคู่ครองหรือการคบเพื่อนก. ทิศเบื้องบน พระสงฆ์กับศาสนิกข. ทิศเบื้องหน้า บิดามารดากับลูกค. ทิศเบื้องหลัง สามีกับภรรยาง. ทิศเบื้องซ้าย เพื่อนกับเพื่อน 10. การเป็นลูกที่ดีตามหลักเบื้องหน้าในทิศ ๖ ทิศเบื้องหลังคือคู่ใด ก. อาจารย์กับนักเรีย ข. เพื่อนคู่กับเพื่อนค. ภรรยากับสามี ง. บิดากับมารดา 11. ข้อใดกล่าวถูกต้องก. ครูกับลูกศิษย์ เรียกว่า ทิศเบื้องซ้ายข. พระสงฆ์กับศาสนิก เรียกว่า ทิศเบื้องหน้าค. คนรับใช้กับนายจ้าง เรียกว่า ทิศเบื้องล่างง. สามีกับภรรยา เรียกว่า ทิศเบื้องขวา
67 12. ข้อใดเป็นสิ่งที่บิดามารดาควรปฏิบัติต่อลูก ก. บิดามอบมรดกอภินันท์ ข. มารดาตามใจธนกรในทุกๆเรื่อง ค. ธาราให้คำปรึกษากับลูกสาวเรื่องคู่ครอง ง. แม่ส่งปนัดดาเรียนหมอตามที่ต้องการ 13. บุคคลใดปฏิบัติตนต่อบิดาได้อย่างเหมาะสม ก. วีร์นัสทำงานจนไม่มีเวลาว่างที่จะสามารถไปทำบุญให้แก่บิดาที่ล่วงลับไปแล้ว ข. พิมพิมลหมั่นช่วยบิดาทำความสะอาดบ้าน ค. ตะวันเป็นลูกของ สส. แต่มักจะหนีเรียน ง. แสงแก้วได้ส่งบิดาไปยังบ้านพักคนชรา 14. ข้อใดเป็นการปฏิบัติตนที่เหมาะสมของลูก ที่มีต่อบิดามารดา ก. ห้ามปรามจากความชั่ว จากความไม่ดี ข. ให้คำแนะนำและให้คำปรึกษา ค. มอบทรัพย์สมบัติหรือมรดก ง. รักษาชื่อเสียงวงตระกูล 15. การคิดแบบโยนิโสมนสิการ ช่วยให้นักเรียนพัฒนาด้านใดมากที่สุด ก. พัฒนาด้านอาชีพในอนาคต ข. พัฒนาด้านครอบครัว ค. พัฒนาด้านร่างกาย ง. พัฒนาด้านปัญญา 16. บุคคลใดมีวิธีคิดแบบปลุกเร้าคุณธรรม ก. วิษณุ คิดตามคำสอน ของพระพุทธศาสนา ข. บิ๊ก คิดแต่สิ่งที่ดีไม่ว่าสถานการณ์ใด ค. นัด คิดตามความเชื่อของตนเอง ง. พลอย คิดตามความเป็นจริง
68 17. ข้อใดไม่ใช่วิธีคิดแบบอรรถธรรมสัมพันธ์ก. การคิดตามหลักธรรมหรือตามจุดมุ่งหมายข. การที่พบเจออะไรอย่าเพิ่งเชื่อหรือยอมรับค. การคิดในแง่บวก ไม่ว่าจะสถานการณ์ใดง. การนำมาคิดพิจารณาอย่างรอบคอบ 18. วิธีคิด มาภัพพะรูปตายะ เป็นการคิดแบบใดก. อย่าปลงใจเชื่อสิ่งที่ฟังตามๆกันมาข. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะการอนุมานค. อย่าปลงใจเชื่อเพราะมองรูปลักษณะง. อย่าปลงใจเชื่อด้วยการอ้างตำรา 19. ข้อใดไม่ใช่การฝึกสมาธิตามหลักอานาปานสติก. แบบยุบหนอ–พองหนอ ข. แบบสวดมนต์ ค. แบบนับเลข ง. แบบพุท – โธ 20. การฝึกสมาธิตามหลักอานาปานสติ มีลักษณะอย่างไรก. กำหนดให้อยู่ที่บทสวดมนต์ข. กำหนดให้อยู่ที่ลมหายใจค. กำหนดให้อยู่ที่สมาธิง. กำหนดให้อยู่ที่สติ