รูปแบบการนาเสนองาน
การนาเสนอข้อมลู เป็นกระบวนการทางานเพ่อื ให้ผอู้ ่ืนรูแ้ ละเข้าใจในสง่ิ ทผ่ี ้นู าเสนอตอ้ งการใหผ้ รู บั
ขอ้ มูลรู้ การเสนองานสามารถปฏิบัตไิ ดอ้ ยา่ งหลายรปู แบบ ดงั ตอ่ ไปน้ี
1 . เอกสารสิ่งพมิ พ์
2. มัลติมเี ดยี
3. เวบ็ ไซต์
1. เอกสารส่ิงพมิ พ์
เอกสารส่งิ พิมพ์เปน็ การนาเสนองานทมี่ ผี นู้ ยิ มใชม้ ากทส่ี ุด เนือ่ งจากทาง่าย สมั ผัสได้ และใช้เปน็ หลกั ฐาน
ในการนาเสนอข้อมลู ได้ ปัจจบุ นั มกี ารนาเทคโนโลยมี าใชส้ ง่ เสรมิ การทางานด้านเอกสารสิ่งพมิ พ์ ในรปู แบบ บน
สอ่ื ตา่ งๆ และ เอกสารอเิ ลก็ ทรอนิกส์ ไมจ่ าเป็นต้องใช้คอมพวิ เตอร์ท่ีมีประสิทธิภาพสูงในการสร้างเอกสาร
สง่ิ พิมพ์
ข้อดีของการนาเสนองานด้วยเอกสารสิ่งพมิ พ์
1.เสนอขอ้ มลู ไดท้ ั้งรูปแบบตวั อกั ษร รปู ภาพ ภาพนิ่ง แผนภมู ิ แผนผงั และกราฟ
2.สร้างไดง้ ่าย ตน้ ทุนตา่ และใชเ้ วลาในการสรา้ งนอ้ ย
3.สามารถนาเสนอได้ทกุ ท่ี ทกุ เวลา
4.ไมต่ ้องใชเ้ ทคโนโลยีอ่ืนๆมาช่วยในการนาเสนอ
5.เป็นพน้ื ฐานของการนาเสนอในรูปแบบอ่ืน
6.ประยกุ ต์ใช้กับการนาเสนองานในรปู แบบอืน่ ได้หลากหลาย
2. มัลติมีเดยี (Multimedia)
การนาเสนอขอ้ มูลหลายๆรปู แบบพรอ้ มๆกันเพ่อื ส่งเสริมความรู้และความเขา้ ใจของผรู้ บั ข้อมลู ปัจจบุ ันมี
การพฒั นามัลตมิ เี ดียอย่างต่อเน่ืองทาใหม้ ีความสวยงามสมจริงตลอดจนสามารถพัฒนาใหใ้ ชง้ านบน
อนิ เทอรเ์ นต็ ได้ การสรา้ งงานนาเสนอประเภทนจ้ี ะตอ้ งมีความรเู้ ก่ียวกับเทคโนโลยเี ป็นอย่างดี ตอ้ งใช้
คอมพวิ เตอร์ทม่ี คี ุณภาพมากกวา่ งานเอกสารสงิ่ พมิ พ์ โดยเฉพาะอย่างยิง่ การด์ จอ การ์ดเสยี ง และลาโพง
ขอ้ ดีของการนาเสนองานดว้ ยมัลติมีเดีย
1.เสนอขอ้ มลู ได้ในรูปแบบของ ตัวหนังสือ เสยี ง ภาพนิ่ง และภาพเคลื่อนไหว
2.ผู้รบั สามารถเลอื กรบั ขอ้ มลู จากจุดใดกไ็ ด้โดยไม่ตอ้ งเรียงลาดับเน้อื หา
3.นาไปใช้กับการเสนองานในรูปแบบอน่ื ได้ เช่น ภาพยนตร์ เกม เวบ็ ไซต์
3.เว็บไซต์ (Website)
การนาเสนอขอ้ มูลผา่ นหนา้ จอคอมพวิ เตอร์ทเ่ี ชอ่ื มต่อกับอนิ เตอรเ์ น็ต ทาให้สามารถนาเสนอได้ครอบคลมุ
ท่วั โลก การสรา้ งงานนาเสนอประเภทน้ี ต้องมคี วามรู้เกยี่ วกบั ฮารด์ แวร์และซอฟตแ์ วรท์ สี่ ่งเสริมการทางานบน
อนิ เตอร์เน็ต ฮาร์ดแวรท์ ตี่ อ้ งใช้ เช่น การด์ แลน ลาโพง วดิ ีโอแคม โมเดม็ ส่วนซอฟต์แวร์ เช่น โปรแกรมเว็บบ
ราวน์เซอร์ Dremweaver Notepad เปน็ ต้น
ขอ้ ดขี องการนาเสนองานดว้ ยเวบ็ ไซต์
1.นาเสนอได้หลายรูปแบบ เช่น ตวั หนังสือ เสยี ง ภาพนง่ิ และภาพเคลื่อนไหว
2.สามารถเชอ่ื มโยงไปยังแหล่งขอ้ มลู อน่ื ๆ บนอนิ เทอรเ์ น็ตได้
3.ใช้งานไดท้ กุ ท่ี ทกุ เวลา ทมี่ คี อมพิวเตอรเ์ ชื่อมต่อกับอนิ เทอร์เนต็
4.มีการปฏิสมั พันธแ์ ละตอบสนองตอ่ ผู้รับข้อมลู
5.สามารถแลกเปลี่ยนขอ้ มูลต่างๆกบั ผู้นาเสนอไดท้ ันที
เทคนิคการนาเสนองาน
การนาเสนอเป็นรูปแบบหนงึ่ ของการสื่อสารเพอ่ื สรา้ งความเข้าใจทช่ี ัดเจนแกผ่ ฟู้ งั โดยการพดู ประกอบ
ส่อื ในระยะเวลาสนั้ ๆ องคป์ ระกอบของการนาเสนอประกอบดว้ ย ผู้นาเสนอ (Presenter) เน้อื หา (Content)
ผฟู้ งั (Audlence) ผนู้ าเสนอจะต้องมีบคุ ลกิ ภาพ ความเชอ่ื มั่น ประสบการณ์ การเตรียมตวั ความรู้
ความสามารถ สไตล์การนาเสนอ เน้ือหาการสาเสนอ จะตอ้ งประกอบด้วย วตั ถปุ ระสงค์ รูปแบบ ขั้นตอน
ความยากง่าย ความน่าสนใจ สื่อประกอบ โสตทศั นูปกรณ์ ผฟู้ งั (Audlence) จะตอ้ งมีความสนใจ ความรู้
ความเขา้ ใจ ความเกี่ยวขอ้ ง ทศั นคติ การยอมรบั การเรียนรู้
การนาเสนอที่ดี จะต้องเรียนรจู้ ากขอ้ เท็จจรงิ เรียนรูจ้ ากจานวนตวั เลข เรยี นร้จู ากรปู ภาพและวีดโี อ
เรียนรจู้ ากคาอธิบาย เรียนรูจ้ ากการแสดงการสาธิต เรยี นรูจ้ ากตัวอยา่ งหรือแบบจาลอง เรียนรู้จากการ
อภปิ รายซักถาม เรยี นรู้จากการวเิ คราะห์ดว้ ยตนเอง
ขั้นตอนแบบรายงานข้อมลู (Information Format) ประกอบดว้ ย
1. กาหนดหัวขอ้ การนาเสนอ
2. กลา่ วความเปน็ มา
3. เนือ้ หาทจี่ ะนาเสนอ (Outline)
4. นาเสนอขอ้ มูล
5. ลาดบั เหตุการณ์
6. ยกตัวอยา่ งประกอบ
7. สรา้ งความเข้าใจแบบง่าย ๆ
8. ใชโ้ สตทศั นปู กรณ์ประกอบ
9. สรปุ สาระสาคัญ
สอื่ ประกอบการนาเสนอ ได้แก่ แผ่นใส สไลด์ วีดโี อเทป ภาพยนตร์ โปรแกรมคอมพวิ เตอร์คมู่ อื -
เอกสารประกอบ โปสเตอร์ แผ่นพบั ห่นุ จาลอง ตวั อยา่ งของจริง
โสตทัศนปู กรณ์ ประกอบด้วย โปรเจคเตอร์ (PROJECTOR) เคร่อื งฉายสไลด์ เคร่อื งฉายวีดโี อเทป เครอื่ งฉาย
ภาพยนตร์ เครื่องคอมพวิ เตอร์ & LCD Projector กระดานขาว (WHITE BOARD) ฟลิปชาร์ท (FLIP
CHART) เครอื่ งเสยี ง
ข้อแนะนาในการใช้ Power Point Presentation
ไมค่ วรใชจ้ านวน Slide มากเกนิ ไป ระมดั ระวังการใช้ Animation ใหเ้ หมาะสม ใช้ภาพประกอบหรือ Clip
Arts สรา้ งความนา่ สนใจ ไมใ่ ส่เนื้อหาแนน่ เกินไป ซ่อนบาง Slide ไว้ เพื่อใชป้ ระกอบเมือ่ จาเป็น Slide Show
ใหเ้ ตม็ จอ กด “B” ทา
ข้ันตอนการเตรียมการนาเสนอ
1. กาหนดวัตถปุ ระสงค์
2. วเิ คราะห์ผู้ฟงั และสถานการณ์
3. กาหนดรปู แบบ (FORMAT)
4. รวบรวมข้อมูลและหลกั ฐานอา้ งอิง
5. วางโครงการนาเสนอ
6. เรียบเรียงเน้ือหา
7. จดั ทาสือ่ ประกอบการนาเสนอ
8. เตรียมบท (SCRIPTS)
9. ตรวจสอบโสตทัศนูปกรณ์
10. ซักซอ้ มใหจ้ อมดื หรอื “W” ทาให้จอสว่าง
ข้นั ตอนการนาเสนอ
1. ปรากฏตัวบนเวที
2. ตรวจสอบความเรยี บรอ้ ย
3. ทกั ทายและเกรนิ่ นา
4. นาเสนอ
5. เปดิ โอกาสให้ซกั ถาม
6. สรุปและจบการนาเสนอ
การเริม่ ต้นนาเสนอทางธรุ กจิ มหี ลายรูปแบบแล้วแต่ความเหมาะสม
1. เริม่ ตน้ โดยเกริน่ นาถงึ ผลประโยชน์ (Benefits Approach)
2. เรมิ่ ต้นโดยการพูดถึงปญั หาและทางแก้(Problems & Solutions)
3. เร่ิมต้นโดยกระตุน้ ความอยากรู้ (Curiosity Stimulating)
4. เร่ิมตน้ โดยกลา่ วถึงข้อมลู สาคญั (Information Giving)
5. เร่มิ ต้นโดยการสาธติ ทีน่ ่าสนใจ (Dramatic Demonstration)
เนื้อหาการนาเสนอที่นา่ สนใจ จะต้อง เห็นภาพ (Visualization) น่าสนใจ ใกลต้ ัว เปน็ ไปได้ แปลกใหม่
มองเห็นประโยชน์ สร้างอารมณ์รว่ ม มีหลักฐาน ตัวอยา่ ง ขอ้ มูลชดั เจน
การจบการนาเสนอ (Closing for Business Presentation)
1. สรุปเนอื้ หาสาคญั
2. เนน้ ย้าประโยชนท์ ี่จะไดร้ บั
3. กระตนุ้ การตัดสนิ ใจ
4. สรา้ งความมั่นใจในการแกป้ ญั หา
5. กลา่ วถงึ ขน้ั ตอ่ ไป (Next Steps)
ประเภทคาถาม
คาถามท่ีพบส่วนมากมีดงั นี้ สงสัยไมเ่ ขา้ ใจ เพิ่มเติมรายละเอียด เป็นเรื่องท่เี กยี่ วข้องกับตนเอง ไม่
เหน็ ดว้ ย คาถามเสนอความเหน็ ลองภูมปิ ญั ญา จอ้ งจบั ผดิ ต้องการมีสว่ นร่วม ถามนา สร้างแนวรว่ ม ถาม
แบบสนุก ๆ
เทคนิคการตอบคาถาม
เทคนิคในการตอถาม จะต้องแสดงความสนใจคาถาม ชมผูถ้ ามตามความเหมาะสม ทวนคาถามยา้
ประเด็น ตอบคาถามให้ตรงประเด็น ตอบคาถามกบั ทกุ คน ควบคุมอารมณแ์ ละระมดั ระวังการใชค้ าพูด หาก
เปน็ คาถามตอบยากและท้าทายใหห้ าแนวรว่ ม ควบคุมสถานการณแ์ ละเวลา
ประโยชนท์ ไี่ ด้รับ
ได้รับความรู้ในเก่ยี วกบั รูปแบบ เทคนคิ วธิ กี ารนาเสนอ การเตรียมความพรอ้ มในการนาเสนอที่มี
ประสิทธิภาพ ซ่งึ ผู้นาเสนอจะตอ้ งมีทกั ษะและความเชื่อม่ันในการพูดการนาเสนอ โดยมกี ารวเิ คราะหแ์ ละ
กาหนดประเด็นให้สอดคลอ้ งความสนใจของผู้ฟัง ประกอบด้วย เตรยี มตัวและเตรยี มการให้พร้อม กาหนด
รูปแบบ (Format) ทีเ่ หมาะสม ใช้หลักฐานอา้ งองิ (Evidence) ทม่ี นี ้าหนกั จัดทาสอ่ื ประกอบการนาเสนอ
อยา่ งเหมาะสม นาเสนออย่างมรี ูปแบบขัน้ ตอน ตอบคาถามหรอื ข้อสงสยั ไดอ้ ย่างชดั เจน