1 1. สาระสำคัญ 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 3. สาระการเรียนรู้ 4. คำชี้แจงการใช้เอกสารประกอบการสอน 5. แบบทดสอบก่อนเรียน 6. ใบความรู้ที่ 1 เรื่อง ประวัติแข้บักเฮ้า 7. ใบงานที่ 1 เรื่อง ประวัติแข้บักเฮ้า 8. ใบงานที่ 2 ผังมโนทัศน์ เรื่อง ประวัติแข้บักเฮ้า 9. แบบทดสอบหลังเรียน 10. ภาคผนวก 10.1 เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน 10.2 เฉลยใบงานที่ 1 เรื่อง ประวัติแข้บักเฮ้า 10.3 เฉลยใบงานที่ 2 ผังมโนทัศน์ เรื่อง ประวัติแข้บักเฮ้า 10.4 เฉลยแบบทดสอบหลังเรียน 10.5 แผนการจัดการเรียนรู้ ส่วนประกอบของเอกสารประกอบการสอน เล่มที่ 1 ประวัติแข้บักเฮ้า
2 สาระสำคัญ \ จุดประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ แข้บักเฮ้า ตำนานพื้นบ้านอีสานของอำเภอวังสามหมอ จังหวัดอุดรธานี เป็นสถานที่แห่งตำนานพื้นบ้านที่มาของอำเภอวังสามหมอ เป็นแหล่ง ท่องเที่ยวที่สวยงามจากเขื่อนลำพันชาด สถานที่พักผ่อนหย่อนใจ ซึ่งเป็น ดินแดนที่มีความอุดมสมบูรณ์ ด้วยมรดกธรรมชาติของท้องถิ่น จึงเป็นแหล่งที่ หลอมรวมเรียบเรียงเป็น คำขวัญของอำเภอวังสามหมอ 1. นักเรียนบอกคำขวัญอำเภอวังสามหมอได้ 2. นักเรียนบอกประวัติความเป็นมาของแข้บักเฮ้าได้ 3. นักเรียนบอกประวัติความเป็นมาของตำนานวังสามหมอได้ 4. นักเรียนมีความพึงพอใจและตระหนักในความสำคัญ การสืบทอด ตำนาน พื้นบ้านอีสานของอำเภอวังสามหมอ จังหวัดอุดรธานี 1. ประวัติความเป็นมาของตำนานวังสามหมอ 2. ประวัติแข้บักเฮ้า ตำนานพื้นบ้านอีสานของอำเภอวังสามหมอ จังหวัดอุดรธานี 3. คำขวัญอำเภอวังสามหมอ
3 ส ำหรับครู 1. ครูแจกเอกสารประกอบการสอนให้นักเรียนศึกษา 2. ครูใหน้กัเรียนศึกษาจุดประสงคก์ ่อนการเรียนรู้เรื่อง ประวัติแข้บักเฮ้า 3. ครูใหน้กัเรียนทา แบบทดสอบก่อนเรียน 10 นาที โดยครูเตรียมกระดาษค าตอบ ไว้ให้ 4. ครูให้นักเรียนศึกษาใบความรู้ที่ 1 ประวัติแข้บักเฮ้า แล้วอภิปรายร่วมกัน ภายในกลุ่ม 5. ครูร่วมกบันกัเรียนสรุปเน้ือหาในใบความรู้ที่ 1 เรื่อง ประวัติแข้บักเฮ้า 6. ครูให้นักเรียนท าใบงานที่ 1 เรื่อง ประวัติแข้บักเฮ้าแลว้ปฏิบตัิตามคา ช้ีแจง 7. ครูให้นักเรียนท าใบงานที่ 2 ผังมโนทัศน์ เรื่อง ประวัติแข้บักเฮ้า 8. ครูเฉลยและตรวจใบงาน หรือ ให้นักเรียนตรวจค าตอบจากเฉลยในภาคผนวก 9. ครูให้นักเรียนท าแบบทดสอบหลังเรียน 10 นาที โดยครูเตรียมกระดาษค าตอบ ไว้ให้ 10. ครูเป็นผตู้รวจใหค้ะแนนแบบทดสอบก่อนเรียนและหลงัเรียน แลว้แจง้ให้นกัเรียน ทราบคะแนน ค ำชี้แจงกำรใช้เอกสำรประกอบกำรสอน
4 ส ำหรับนักเรียน 1. นกัเรียนทา แบบทดสอบก่อนเรียน เรื่อง ประวัติแข้บักเฮ้า ใช้เวลา 10 นาที แล้วน ากระดาษค าตอบส่งครู 2. นักเรียนแต่ละกลุ่มศึกษาใบความรู้ที่ 1 เรื่อง ประวัติแข้บักเฮ้า 3. นักเรียนท าใบงานที่ 1 เรื่อง ประวัติแข้บักเฮ้า ตรวจค าตอบจากเฉลย ในภาคผนวก 4. นักเรียนท าใบงานที่ 2 ผังมโนทัศน์ เรื่อง ประวัติแข้บักเฮ้า แล้วตรวจดูเฉลย จากภาคผนวก ซึ่งผังมโนทัศน์อาจไม่เหมือนกันกับตัวอย่างของผังมโนทัศน์ ในเฉลยก็ได้ 5. นักเรียนท าแบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง ประวัติแข้บักเฮ้า ใช้เวลา 10 นาที แล้วน ากระดาษค าตอบส่งครู ค ำชี้แจงกำรใช้เอกสำรประกอบกำรสอน
5 แบบทดสอบก่อนเรียน เรื่อง ประวัติแข้บักเฮ้า รายวิชานาฏศิลป์พื้นฐาน ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนวังสามหมอวิทยาคาร สังกัดเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาอุดรธานี คำชี้แจง ให้นักเรียนเขียนเครื่องหมายกากบาท ลงในช่องตัวเลือก ก ข ค ง ในกระดาษคำตอบที่เห็นว่าถูกต้องที่สุด 1. เพราะเหตุใดนางอินถวาจึงได้สมญานามว่า “นางคำบาง” ก. เพราะหุ่นบางร่างเล็ก ข. เพราะนางมีความเมตตาธรรมต่อสัตว์ทุกชนิด ค. เพราะพระยาสุทัศน์ผู้เป็นพระบิดาตั้งชื่อให้ ง. เพราะนางมีรูปผิวพรรณสวยงาม 2. เหตุใดจระเข้“บักเฮ้า” ที่เป็นสัตว์เลี้ยงของนางคำบางจึงต้องหลบหนีไปกลบดานที่หนองน้ำ กลางป่าใหญ่ ก. เพราะต้องการเป็นอิสรภาพ ข. เพราะต้องการหาที่อยู่อาศัยที่กว้างขวางกว่าที่เดิม ค. เพราะตามธรรมชาติของสัตว์ไม่ชอบอยู่ที่สถานเดิมๆ ง. เพราะกลัวอาญาแผ่นดินจึงต้องหนีไปกลบดานที่หนองน้ำกลางป่าใหญ่ 3. หลังจากที่จระเข้บักเฮ้า และหมอปราบจระเข้ตายเจ้าเมืองท่าขอนยางได้นำศพไปบำเพ็ญกุศล ที่สถานที่ใด ก. วังป่าใหญ่ ข. วังสามหมอ ค. วังใหญ่ ง. วังพญานาค 4. สถานที่ฝังพระศพของพระธิดา ได้เกิดดอกไม้สีขาวบริสุทธิ์มีกลิ่นหอมได้ขยายพันธุ์ไปยัง ภาคกลางและภาคอื่นๆผู้คน เรียกดอกไม้ดังกล่าวว่าดอกอะไร ก. ดอกอินถวา ข. ดอกคำบาง ค. ดอกพุดซ้อน ง. ดอกมะลิ
6 5. ดอกพุดซ้อนสีขาวบริสุทธิ์มีกลิ่นหอมได้ขยายพันธุ์ไปทางยุโรปเรียกดอกไม้ดังกล่าว ว่าดอกอะไร ก. ดอกการ์ดิเนีย ข. ดอกทิวลิบ ค. ดอกเยอร์บิร่า ง. ดอกอินทนิน 6. ข้อใดคือคำขวัญของอำเภอวังสามหมอที่ถูกต้อง ก. เมืองผักหวาน อุทยานวังป่าใหญ่ น้ำใสไหลหลาก มากด้วยปู นา ประเพณีเลอค่า ภูผานาสมบูรณ์ ข. เมืองผักหวาน อุทยานวังน้ำใหญ่ น้ำใสไหลหลาก มากด้วยปู ปลา ประเพณีงามค่า ดงผาป่าสมบูรณ์ ค. เมืองผักหวาน อุทยานวังใหญ่ น้ำใสไหลหลาก มากด้วยปู ปลา ประเพณีล้ำค่า ภูผาป่าสมบูรณ์ ง. เมืองผักหวาน อุทยานวังใหญ่ น้ำใสไหลหลาก มากด้วยปลา ปู ประเพณีล้ำค่า ภูผาป่าสมบูรณ์ 7. ทำไมจระเข้ “บักเฮ้า” ที่เป็นสัตว์เลี้ยงของนางคำบางหรือนางอินถวา จึงต้องคาบนางคำบาง ไว้ในปาก ก. เพราะจระเข้บักเฮ้าต้องการกินเป็นอาหาร ข. เพราะนางคำบางพลัดตกน้ำ จระเข้จึงคาบช่วยชีวิตไว้ ค. เพราะกลัวนางคำบางได้รับอันตรายจากการต่อสู้กับจระเข้บักนนท์ ง. เพราะจระเข้บักเฮ้าต้องการหยอกล้อกับนางคำบาง 8. เหตุใดจึงเรียกว่าอำเภอ “วังสามหมอ” ก. เพราะผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานีเป็นผู้ตั้งชื่ออำเภอ วังสามหมอ ข. เพราะจากตำนานนางคำบางมีหมอปราบจระเข้บักเฮ้าสามคน ค. เพราะอำเภอวังสามหมอมีหนองน้ำใหญ่ ชื่อว่า วังสามหมอ ง. นายอำเภอวังสามหมอคนแรกเป็นคนตั้งชื่อให้เพื่อความเป็นสิริมงคล
7 9. จากตำนานอำเภอวังสามหมอให้คุณค่าด้านใดมากที่สุด ก. ด้านวัฒนธรรมความเป็นอยู่ ข. ด้านวิถีชีวิตความเป็นอยู่ ค. ด้านเศรษฐกิจ ขนบธรรมเนียมประเพณี ง. ด้านวิถีชีวิตและวัฒนธรรมท้องถิ่น 10. หมอที่ปราบจระเข้บักเฮ้าชื่อว่า ก. หมอยาแม่คำเหมย ข. หมอยาแม่คำหม่อน ค. หมอพรหม ง. หมอบุญ
8 ใบความรู้ที่ 1 เรื่อง ประวัติแข้บักเฮ้า รายวิชานาฏศิลป์พื้นฐาน ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 1.1 ตำนานวังสามหมอ ในราว พ.ศ. 2394 คือประมาณ 153 ปี ล่วงมาแล้ว บ้านเมืองสงบเรียบร้อย ประชาชน อยู่กันด้วยความร่มเย็นเป็นสุข อาหารการกินอุดมสมบูรณ์ ชาวประชาแซ่ซ้องสาธุการไปทั่วหน้า และในแผ่นดินสมัยนี้ แดนดินถิ่นวังสามหมอยังเป็นป่าทึบ มีขุนเขา ลำห้วยมากมาย ยากที่จะหา ผู้ใดมากล้ำกรายได้ จึงไม่มีผู้ใดรู้จัก จนกระทั่งมีหน่วยล่าจระเข้ของพระยาสุทัศน์ แห่งเมืองท่าขอน ยางมาพบเข้า ความลี้ลับต่าง ๆ ของวังสามหมอ จึงได้ถูกเปิดเผยออกมา ประชาชนจาก ถิ่นต่าง ๆ จึงได้หลั่งไหลเข้าไปตั้งรกราก อาศัยทำมาหากิน จนกระทั่งปัจจุบัน ก่อนที่นกัเรียนจะศึกษาเน้ือหา และ ฝึ กปฏิบัติการแสดง ฟ้อนแข้บักเฮ้า นักเรียนต้องทราบถึงต านานวังสามหมอ และ ประวัติแข้บักเฮ้า ซึ่งเป็ นมูลเหตุในการแสดง ฟ้อนแข้บักเฮ้าก่อน เป็นเบ้ืองตน้นะคะ ภาพที่ 1 ศาลหลักเมืองอ าเภอวังสามหมอ จังหวัดอุดรธานี
9 พระยาสุทัศน์เป็นเจ้าเมืองท่าขอนยาง ( ปัจจุบันคือบ้านท่าขอนยาง อำเภอเมือง จังหวัด มหาสารคาม) มีมเหสี ชื่อนางจันทรา อันว่าเมืองท่าขอนยางนั้น เป็นเมืองที่อุดมสมบูรณ์ เพราะ ตั้งอยู่ริมฝั่งลำน้ำชีประชาชนมีความรักใคร่สามัคคี มีความสนุกสนานในฤดูมีงานประเพณีต่าง ๆ พระยาสุทัศน์กับมเหสี มีพระธิดาคนหนึ่งชื่อ นางอินถวา มีความเมตตาธรรมต่อสัตว์ทุกชนิดจนได้ สมญานามว่า “คำบาง” เนื่องจากเป็นพระธิดาคนเดียว จึงทำให้พ่อแม่รักมาก ได้สรรหาสิ่งต่าง ๆ มา ให้เล่น และให้เป็นเพื่อน ในสิ่งของที่พระยาสุทัศน์ หามาให้นางคำบางเล่นเป็นเพื่อนนั้น มีสิ่งหนึ่งคือ จระเข้ พระธิดาได้เอามาเลี้ยงเป็นเพื่อนตั้งแต่ยังเล็ก ๆ โดยเลี้ยงไว้ที่ลำน้ำชี หน้าจวนของเจ้าเมือง เจ้าเมืองได้ตั้งชื่อจระเข้ตัวนี้ว่า " ฉันท์ " แต่ชาวบ้านทั่วไปเรียกว่า " บักเฮ้า " นางคำบางมีความสนิท สนมกับบักเฮ้ามาก และเคยเล่นกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ เวลาจะลงอาบน้ำ นางก็มักจะขี่หลังบักเฮ้าลงไป เป็นประจำ เนื่องจากบักเฮ้าได้รับการเลี้ยงดูมาเป็นอย่างดี และอยู่กับคนมานาน ทำให้มันเกิดความรู้ จักสิ่งต่าง ๆ เช่นรู้จักรัก รู้จักกลัว รู้จักงาน และรู้จักอื่น ๆ ตามวิสัยของสัตว์ ภาพที่ 2 ลำน้ำชี จนกระทั่งนางคำบางมีอายุได้ 17-18 ปีเป็นสาวเต็มตัว และมีความสวยงามมาก สมกับ เป็นพระธิดาของเจ้าเมือง ฝ่ายบักเฮ้านั้น ร่างกายของมันก็ใหญ่โตขึ้นมากตามอายุ วันหนึ่งเวลาพระ ตีกลองแลง (ประมาณบ่าย 4 โมง ) นางคำบางได้ลงไปอาบน้ำในลำชีกับนางสนม โดยขี่หลังบักเฮ้า เหมือนกับที่เคยขี่ทุกครั้ง บักเฮ้าได้พานางคำบางลอยเล่นไปตามที่ต่าง ๆ ในลำน้ำได้รับความสนุก เพลิดเพลิน ทั้งบักเฮ้าและนางคำบาง ขณะที่สนุกสนานอยู่นั้น ได้มีจระเข้ตัวหนึ่ง ชื่อว่าบักนนท์ อัน ว่าบักนนท์นี้ เป็นจระเข้ป่า คือไม่มีใครเลี้ยง อาศัยอยู่ในลำน้ำชีมีความใหญ่โตพอๆ กับบักเฮ้า เป็น จระเข้ที่เกเร ชอบไล่ฟาดกินคน และสัตว์เลี้ยงอยู่เนือง ๆ เมื่อบักนนท์มองเห็นคนขี่หลังบักเฮ้า มันจึง รี่เข้ามาหมายจะใช้หางฟาด และงับกินเป็นอาหาร จึงได้เกิดการต่อสู้กัน ระหว่างบักเฮ้า กับบัก นนท์ เนื่องจากเป็นจระเข้ขนาดใหญ่ทั้งสองตัว การต่อสู้จึงเป็นไปอย่างรุนแรง ท้องน้ำบริเวณที่ต่อสู้ กันปั่นป่วน คลื่นกระแทกฝั่งชีเป็นระลอก ๆ บักเฮ้าเห็นว่าการต่อสู้ครั้งนี้หนักมาก ประกอบกับมี ความพะวักพะวง กลัวนางคำบางจะตกจากหลัง แล้วถูกบักนนท์คาบไปกิน จึงได้ถอยผละออกจาก การต่อสู้ชั่วคราว พร้อมกับคาบนางคำบางไว้ในปาก บักนนท์ เมื่อเห็นบักเฮ้าผละหนีจึงได้ตรงรี่เข้าไป ไล่คาบบักเฮ้าเป็นการใหญ่ บักเฮ้าจึงได้หันกลับไปต่อสู้อีกครั้งหนึ่ง และหลงกลืนนางคำบางลงไปใน
10 ท้อง การต่อสู้จึงลงเอยด้วยชัยชนะของบักเฮ้า โดยบักนนท์ได้หลีกหนีไป พร้อมด้วยบาดแผล เหวอะหวะทั้งตัว ภาพที่ 3 นางคำบางเล่นน้ำ กับ จระเข้ บักเฮ้า ฝ่ายบักเฮ้าเมื่อได้รับชัยชนะแล้ว จะพานางคำบางกลับท่าน้ำก็เป็นเวลาค่ำแล้ว ซ้ำมองหา นางคำบางที่เคยขี่อยู่บนหลังก็ไม่เห็น และมองดูบนฝั่งเห็นเจ้าเมืองและคนอื่น ๆ มองดูอยู่เต็มฝั่ง จึงได้คิด ทบทวนเหตุการณ์ดู จึงได้รู้ว่าตนเองได้หลงกลืนนางคำบางลงไปในท้องแล้ว ถ้าจะเลยไปท่าน้ำ ก็กลัว เจ้าเมืองจะจับฆ่า และถ้าจะอาศัยอยู่ที่นี่ก็กลัวหมอจระเข้ของพระยาสุทัศน์ จะทำร้าย เพราะโทษในครั้ง นี้ใหญ่หลวงนัก จำเป็นต้องหนีไปให้ไกลที่สุด ฝ่ายเจ้าเมืองพร้อมพระมเหสี และข้าราชบริวารทั้งหลาย ต่างก็พากันเศร้าโศกเสียใจที่นาง คำบางต้องถูกบักเฮ้ากลืนกินเข้าไป ทุกคนพากันเคียดแค้นชิงชังบักเฮ้าเป็นอย่างมาก บรรดาหมอจระเข้ ทั้งหลายได้มาอาสาขอตามไปปราบ และฆ่าบักเฮ้ามากมาย ในจำนวนนี้มีหมอจระเข้ผู้หญิงรวมอยู่ด้วย คนหนึ่ง มีอายุมากแล้ว ชาวบ้านทั่วไปเรียกว่า" ยาแม่ " (คุณแม่) ขึ้นต้นก่อนจะถึงชื่อ ขบวนล่าบักเฮ้าได้ ออกเดินทางเลียบไปตามฝั่งลำน้ำชีมุ่งหน้าลงไปตามทางน้ำ ได้เห็นรอยบักเฮ้าอย่างชัดเจน คณะติดตาม จึงได้ติดตามเรื่อยมา ภาพที่ 4 ลำน้ำชี เส้นทางการเดินทางของจระเข้บักเฮ้า คณะเดินทางจนถึงลำห้วยแห่งหนึ่ง ได้พักผ่อนอยู่ที่ลำห้วยนี้ ซึ่งมีการพันสาด (เสื่อ) เก็บไว้ที่ ลำห้วยแห่งนี้ ลำห้วยแห่งนี้จึงได้ชื่อว่า "ห้วยพันสาด" ภายหลังได้เรียกชื่อเพี้ยนมาเป็น ห้วยพันชาด จนกระทั่งบัดนี้ ณ ที่พักนอนแห่งนี้เป็นแก่งหิน บางแห่งเป็นหาดทรายน่านอนมาก และที่แห่งนี้มีต้น
11 ก้านเหลืองปกคลุมร่มรื่นเย็นสบาย จึงได้ชื่อว่า"แก่งก้านเหลือง" ( อยู่ด้านเหนือของสะพานคอนกรีต ข้ามลำพันชาดตอนบ้านหนองลุมพุก อ.วังสามหมอ จ.อุดรธานีไปบ้านหนองกุงใหญ่ กิ่ง อ.สามชัย จ. กาฬสินธุ์) เมื่อคณะติดตามพบรอยบักเฮ้าลงไปอยู่ในแอ่งน้ำแห่งหนึ่งมีขนาดลึกมากและแคบ บักเฮ้าอยู่ ไม่ได้จึงขึ้นมาจากแอ่งแล้วรีบหนีลงมาตามลำพันชาดไม่ได้ขึ้นบกอีก คณะติดตามได้เดินเลียบฝั่งลำพัน ชาดลงมาเรื่อยๆพร้อมกับสำรวจแอ่งน้ำตลอดทาง เมื่อมาถึงที่แห่งหนึ่งพบว่าเป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่ มีน้ำตกเป็นระยะทางยาว ทำให้เกิดวังน้ำ กว้างใหญ่เป็นที่น่าเกรงขามยิ่งนัก บรรดาหมอจระเข้ทั้งหลายไม่กล้าลงไปสำรวจ เป็นเพียงเสี่ยงเทียน ลอยเทียน และนั่งทางในดูเท่านั้น เนื่องจากวังน้ำแห่งนี้เป็นที่น่าเกรงขามจึงได้ชื่อว่า "วังเกรง ขาม" ภายหลังได้เพี้ยนมาเป็น "วังแก่งขาม" จนถึงปัจจุบัน ผลของการเสี่ยงเทียน ลอยเทียน และนั่งทางในดูปรากฏว่า บักเฮ้าไม่ได้อยู่ที่นี่ เป็นเพียงผ่าน ไปเฉยๆ โดยมุ่งหน้าลงไปทางใต้ คณะติดตามจึงได้มุ่งหน้าติดตามลงไปอีกประมาณ 2 กิโลเมตรเศษ จึงได้พบวังน้ำขนาดใหญ่เห็นรอยบักเฮ้าลงที่นี่ วังน้ำแห่งนี้มีขนาดกว้าง 2 เส้น ยาว 6 เส้น และลึก 1 เส้น หมอจระเข้ได้ทำพิธีกรรมตรวจหาบักเฮ้าดูก็รู้ได้ว่าบักเฮ้าได้อาศัยอยู่ที่นี่ โดยไม่รอช้า หมอจระเข้ ลงไปจับคนแรกคือ "หมอบุญ" ลงน้ำไปตั้งแต่เช้าจนกระทั่งค่ำก็ไม่เห็นขึ้นมา หมอคนที่สอง คือ "หมอ พรหม" ตามลงไปดูและช่วยเหลือตลอดทั้งคืน ตอนเช้าก็ยังไม่เห็นโผล่ขึ้นมาทั้งสองคน จึงเหลือแต่ หมอคนสุดท้าย คือ หมอผู้หญิง ตามที่เล่าไว้ตั้งแต่ต้นแล้ว หมอผู้หญิงคนนี้มีชื่อว่า "ยาแม่คำหม่อน" ยาแม่คำหม่อนได้พิจารณารอบคอบแล้วเห็นว่า หมอบุญกับหมอพรหม นั้นถูกบักเฮ้ากินแน่ แล้ว เพื่อความแน่นอนจึงควรที่จะได้ลงไปดูอีกครั้ง ยาแม่คำหม่อนจึงได้ใช้มนต์คาถาแหวกน้ำให้เป็น ช่องลงไปตรวจดูจนทั่วทั้งวัง พบจระเข้มากมายแต่ไม่เห็นบักเฮ้า เมื่อยาแม่คำหม่อนตรวจดูโดย ละเอียดอีกครั้งหนึ่งจึงได้พบถ้ำในระดับความลึก 30 เมตร อยู่ทางด้านใต้ของวัง ได้พบบักเฮ้าอยู่ใน ลักษณะอ้าปากปิดปากถ้ำจึงคิดได้ว่าหมอบุญกับหมอพรหม คงหลงกลเดินเข้าไปในปากบักเฮ้าโดยนึก ว่าเป็นปากถ้ำ และคงถูกบักเฮ้ากลืนกินในลักษณะนี้ เมื่อแน่ใจดังนั้นแล้วยาแม่จึงได้ขึ้นมาจากน้ำ เพื่อจัดเตรียมอาวุธโดยใช้หวายฝั้นเป็นเกลียว ผูกกึ่งกลางของเหล็กแหลม ที่แหลมเป็นฉมวก ทั้งสอง ด้าน มีเหล็กค้ำยันปากจระเข้อยู่ในตัว ป้องกันไม่ให้งับลงมาได้ปลายเชือกหวายข้างหนึ่งนำไปผูกไว้ กับโคนต้นประดู่เมื่อทุกอย่างเป็นที่เรียบร้อยแล้วยาแม่จึงได้ร่ายมนต์คาถาแหวกน้ำลงไปเหมือนวัน ก่อน บักเฮ้ายังเตรียมพร้อมอยู่ในลักษณะเดิม ยาแม่คำหม่อนได้ถือเหล็กแหลมทางตั้งเดินตรงเข้าไปใน ปากบักเฮ้า ฝ่ายบักเฮ้าเมื่อเห็นคนเดินเข้ามาในปากลึกพอประมาณ จึงได้งับปาก ลงมาอย่างแรง เสียงดังก้องทั่วทั้งวังน้ำ ด้วยความแรงของการงับ ทำให้เหล็กแหลมเสียบประกบปาก ทั้งบนและล่าง จนทะลุไม่สามารถถอนหรืองับลงมาได้อีก ยาแม่คำหม่อนเห็นได้ทีจึงรีบออกจากปากแล้วขึ้นฝั่งพร้อม สั่งกำลังพลทั้งหมด ให้ช่วยกันลากดึง
12 ภาพที่ 5 ยาแม่คำหม่อน หมอคนที่สามที่ปราบจระเข้บักเฮ้าได้ หลังจากนั้นพวกที่ชำแหละได้ทำการตัดคอบักเฮ้าออกไว้ต่างหาก แล้วผ่าท้องดูเห็นกระดูก ของหมอบุญกับหมอพรหมอยู่ครบทุกชิ้นส่วน นางคำบางนั้นคงเห็นเฉพาะกะโหลกศีรษะและ เส้น ผมเท่านั้น จึงได้นำกระดูกของคนทั้งสามชำระล้างที่วังแห่งนี้จนสะอาดเรียบร้อยแล้วใช้ผ้าขาวห่อทั้ง สามห่อ ออกเดินทางกลับเมืองท่าขอนยาง พร้อมหามหัวบักเฮ้าลงไปด้วย ถึงแม้ว่าบักเฮ้าจะตายไป นานแล้วก็ตาม แต่วิญญาณบักเฮ้ายังวนเวียนเฝ้ารักษาวังน้ำแห่งนี้บางครั้งผู้ที่บุกป่าฝ่าดงเข้าไป อยากจะเห็นจระเข้ เมื่อไปถึงฝั่งได้พูดขอให้เจ้าพ่อปรากฎตัวให้ดูก็จะเห็นเจ้าพ่อขนาดใหญ่ไม่ น้อย กว่า 3 ตัว ลอยให้เห็นทันที เพราะความเฮี้ยนดังกล่าว คนทั้งหลายจึงได้เรียกวังน้ำแห่งนี้ว่า" วังสามหมอ" มาตราบจนกระทั่งทุกวันนี้ ภาพที่ 6 ภาพเขื่อนลำพัดชาด หนึ่งในตำนานวังสามหมอ
13 1.2 ประวัติแข้บักเฮ้า พระยาสุทัศน์เจ้าเมืองท่าขอนยาง มีพระธิดาทรงสิริโฉมนามว่านางอินถวา มีความเมตตา ธรรมต่อสัตว์ทุกชนิดจนได้สมญานามว่า “คำบาง” ช่วงวัยเด็กได้ลูกจระเข้มาเลี้ยงไว้ จนกระทั่ง นาง คำบางมีอายุได้ 17-18 ปีเป็นสาวเต็มตัว และมีความสวยงามมาก สมกับเป็นลูกสาวของเจ้าเมือง ฝ่ายบักเฮ้านั้น ร่างกายของมันก็ใหญ่โตขึ้นมากตามอายุ วันหนึ่งเวลาพระตีกลองแลง (ประมาณบ่าย 4 โมง ) นางคำบางได้ลงไปอาบน้ำในลำชีกับนางสนม โดยขี่หลังบักเฮ้าเหมือน กับที่เคยขี่ ทุก ครั้ง บักเฮ้าได้พานางคำบางลอยเล่นไปตามที่ต่าง ๆ ในลำน้ำได้รับความสนุกเพลิดเพลิน ทั้งบักเฮ้า และนางคำบาง ขณะที่สนุกสนานอยู่นั้น ได้มีจระเข้ตัวหนึ่ง ชื่อว่าบักนนท์ อันว่าบักนนท์นี้ เป็น จระเข้ป่า คือไม่มีใครเลี้ยง อาศัยอยู่ในลำน้ำชีมีความใหญ่โตพอๆ กับบักเฮ้า เป็นจระเข้ที่เกเร ชอบ ไล่ฟาดกินคน และสัตว์เลี้ยงอยู่เนือง ๆ เมื่อบักนนท์มองเห็นคนขี่หลังบักเฮ้า มันจึงรี่เข้ามาหมายจะ ใช้หางฟาด และงับกินเป็นอาหาร จึงได้เกิดการต่อสู้กัน ระหว่างบักเฮ้า กับบักนนท์ เนื่องจากเป็น จระเข้ขนาดใหญ่ทั้งสองตัว การต่อสู้จึงเป็นไปอย่างรุนแรง ท้องน้ำบริเวณต่อสู้กันปั่นป่วน คลื่น กระแทกฝั่งชีเป็นระลอก ๆ บักเฮ้าเห็นว่าการต่อสู้ครั้งนี้หนักมาก ประกอบกับมีความพะวักพะวง กลัวนางคำบางจะตกจากหลัง แล้วถูกบักนนท์คาบไปกิน จึงได้ถอยผละออกจากการต่อสู้ชั่วคราว พร้อมกับคาบนางคำบางไว้ในปาก บักนนท์ เมื่อเห็นบักเฮ้าผละหนีจึงได้ตรงรี่เข้าไปไล่คาบบักเฮ้าเป็น การใหญ่ บักเฮ้าจึงได้หันกลับไปต่อสู้อีกครั้งหนึ่ง และหลงกลืนนางคำบางลงไปในท้อง การต่อสู้จึง ลงเอยด้วยชัยชนะของบักเฮ้า โดยบักนนท์ได้หลีกหนีไป พร้อมด้วยบาดแผลเหวอะหวะทั้งตัว ด้วยความกลัวอาญาแผ่นดิน จระเข้จึงหนีไปกลบดานหนองน้ำกลางป่าใหญ่ เจ้าเมืองเข้าใจ ผิดจึงให้หมอจระเข้สามคนตามล่า หมอสองคนแรกถูกจระเข้กินเรียบร้อย ส่วนหมอคนที่สามเป็น ผู้หญิงใช้สติปัญญาเข้าช่วยและปราบจระเข้สำเร็จ ต่อมาเมื่อเจ้าเมืองทราบความจริง จึงนำร่างจระเข้ และศพหมอจระเข้ 2 คน ไปบำเพ็ญกุศลและตั้งชื่อหนองน้ำแห่งนั้นว่า “ วังสามหมอ” ส่วนพระศพ พระธิดาได้นำไปฝังข้างวังต่อมาได้เกิดเป็นต้นไม้ออกดอกสีขาวบริสุทธ์มีกลิ่นหอม ชาวบ้านจึงเรียก ดอกนี้ตามนามพระธิดาว่า ดอกอินถวา เมื่อดอกนี้แพร่ขยายพันธุ์ ไปยังภาคกลางและภาคอื่นๆ จึง เรียก “ ดอกพุดซ้อน” ต่อมามีฝรั่งเข้ามาค้าขายในไทย จึงนำดอกนี้ไปปลูกและแพร่หลายทางยุโรป เรียกว่า “ ดอกการ์ดิเนีย” ปัจจุบันวังสามหมอเป็นอำเภอหนึ่งในจังหวังอุดรธานี
14 1.3 คำขวัญอำเภอวังสามหมอ เมืองผักหวาน อุทยานวังใหญ่ น้ำใสไหลหลาก มากด้วยปูปลา ประเพณีล้ำค่า ภูผาป่าสมบูรณ์
15 ใบงานที่ 1 เรื่อง ประวัติแข้บักเฮ้า รายวิชานาฏศิลป์พื้นฐาน ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 คำสั่ง ให้นักเรียนตอบคำถามต่อไปนี้ (ทำกิจกรรมกลุ่ม) 2. ค าขวัญอ าเภอวังสามหมอ มีว่าอย่างไร (2 คะแนน) ตอบ……………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………… 3. จงบอกประโยชน์และคุณค่าจากการบอกกล่าวค าขวัญอ าเภอวังสามหมอ (2 คะแนน) ตอบ……………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………… 1. สรุปประวัติแข้บักเฮ้า และต านานวังสามหมอ (พอสังเขป) (2 คะแนน) ตอบ……………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………
16 4. ประโยชน์และคุณค่าจากการเล่าประวัติความเป็ นมาของนางค าบางหรือนางอินถวาและ ประวัติความเป็ นมาของต านานวังสามหมอ คือ (2 คะแนน) ตอบ……………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………… 5. แสดงความรู้สึก ความคิดเห็นจากการบอกค าขวัญอ าเภอวังสามหมอ เล่าประวัติความ เป็ นมาของแข้บักเฮ้า และประวัติความเป็ นมาของต านานวังสามหมอ (2 คะแนน) ตอบ……………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………… ตั้งใจท ำนะคะ ไม่ยำกเลยค่ะ
17 ใบงานที่ 2 ผังมโนทัศน์ เรื่อง ประวัติแข้บักเฮ้า รายวิชานาฏศิลป์พื้นฐาน ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 คำชี้แจง ให้นักเรียนออกแบบการเขียนผังความรู้ (mind mapping) เกี่ยวกับประวัติแข้บักเฮ้า ให้ ถูกต้องและครอบคลุมเนื้อหาที่สุด
18 แบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง ประวัติแข้บักเฮ้า รายวิชานาฏศิลป์พื้นฐาน ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนวังสามหมอวิทยาคาร สังกัดเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาอุดรธานี คำชี้แจง ให้นักเรียนเขียนเครื่องหมายกากบาท ลงในช่องตัวเลือก ก ข ค ง ในกระดาษคำตอบที่เห็นว่าถูกต้องที่สุด 1. เพราะเหตุใดนางอินถวาจึงได้สมญานามว่า “นางคำบาง” ก. เพราะหุ่นบางร่างเล็ก ข. เพราะพระยาสุทัศน์ผู้เป็นพระบิดาตั้งชื่อให้ ค. เพราะนางมีรูปผิวพรรณสวยงาม ง. เพราะนางมีความเมตตาธรรมต่อสัตว์ทุกชนิด 2. หลังจากที่จระเข้บักเฮ้า และหมอปราบจระเข้ตายเจ้าเมืองท่าขอนยางได้นำศพไปบำเพ็ญกุศล ที่สถานที่ใด ก. วังป่าใหญ่ ข. วังสามหมอ ค. วังใหญ่ ง. วังพญานาค 3. เหตุใดจระเข้“บักเฮ้า” ที่เป็นสัตว์เลี้ยงของนางคำบางจึงต้องหลบหนีไปกลบดานที่หนองน้ำ กลางป่าใหญ่ ก. เพราะกลัวอาญาแผ่นดินจึงต้องหนีไปกลบดานที่หนองน้ำกลางป่าใหญ่ ข. เพราะต้องการหาที่อยู่อาศัยที่กว้างขวางกว่าที่เดิม ค. เพราะตามธรรมชาติของสัตว์ไม่ชอบอยู่ที่สถานเดิมๆ ง. เพราะต้องการเป็นอิสรภาพ 4. สถานที่ฝังพระศพของพระธิดา ได้เกิดดอกไม้สีขาวบริสุทธิ์มีกลิ่นหอมได้ขยายพันธุ์ไปยัง ภาคกลางและภาคอื่นๆผู้คน เรียกดอกไม้ดังกล่าวว่าดอกอะไร ก. ดอกคำบาง ข. ดอกอินถวา ค. ดอกพุดซ้อน ง. ดอกมะลิ
19 5. ดอกพุดซ้อนสีขาวบริสุทธิ์มีกลิ่นหอมได้ขยายพันธุ์ไปทางยุโรปเรียกดอกไม้ดังกล่าว ว่าดอกอะไร ก. ดอกการ์ดิเนีย ข. ดอกทิวลิบ ค. ดอกเยอร์บิร่า ง. ดอกอินทนิน 6. ข้อใดคือคำขวัญของอำเภอวังสามหมอที่ถูกต้อง ก. เมืองผักหวาน อุทยานวังป่าใหญ่ น้ำใสไหลหลาก มากด้วยปู นา ประเพณีเลอค่า ภูผานาสมบูรณ์ ข. เมืองผักหวาน อุทยานวังน้ำใหญ่ น้ำใสไหลหลาก มากด้วยปู ปลา ประเพณีงามค่า ดงผาป่าสมบูรณ์ ค. เมืองผักหวาน อุทยานวังใหญ่ น้ำใสไหลหลาก มากด้วยปู ปลา ประเพณีล้ำค่า ภูผาป่าสมบูรณ์ ง. เมืองผักหวาน อุทยานวังใหญ่ น้ำใสไหลหลาก มากด้วยปลา ปู ประเพณีล้ำค่า ภูผาป่าสมบูรณ์ 7. ทำไมจระเข้ “บักเฮ้า” ที่เป็นสัตว์เลี้ยงของนางคำบางหรือนางอินถวา จึงต้องคาบนางคำบาง ไว้ในปาก ก. เพราะจระเข้บักเฮ้าต้องการกินเป็นอาหาร ข. เพราะนางคำบางพลัดตกน้ำ จระเข้จึงคาบช่วยชีวิตไว้ ค. เพราะกลัวนางคำบางได้รับอันตรายจากการต่อสู้กับจระเข้บักนนท์ ง. เพราะจระเข้บักเฮ้าต้องการหยอกล้อกับนางคำบาง 8. จากตำนานอำเภอวังสามหมอให้คุณค่าด้านใดมากที่สุด ก. ด้านวัฒนธรรมความเป็นอยู่ ข. ด้านวิถีชีวิตความเป็นอยู่ ค. ด้านเศรษฐกิจ ขนบธรรมเนียมประเพณี ง. ด้านวิถีชีวิตและวัฒนธรรมท้องถิ่น
20 9. หมอที่ปราบจระเข้บักเฮ้าชื่อว่า ก. หมอยาแม่คำเหมย ข. หมอยาแม่คำหม่อน ค. หมอพรหม ง. หมอบุญ 10. เหตุใดจึงเรียกว่าอำเภอ “วังสามหมอ” ก. เพราะจากตำนานนางคำบางมีหมอปราบจระเข้บักเฮ้าสามคน ข. เพราะผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานีเป็นผู้ตั้งชื่ออำเภอ วังสามหมอ ค. เพราะอำเภอวังสามหมอมีหนองน้ำใหญ่ ชื่อว่า วังสามหมอ ง. นายอำเภอวังสามหมอคนแรกเป็นคนตั้งชื่อให้เพื่อความเป็นสิริมงคล
21 บรรณานุกรม กาณี ศรีพรหม.ตำนานวังสามหมอ. อุดรธานี : โรงเรียนวังสามหมอประชาสรรค์, 2536. วัฒนา ช้างรักษา. ตำนานพื้นบ้าน : อินถวานางฟ้าแห่งวังสามหมอ. อุดรธานี : ไอโอนิคเพรส, 2541. กศน.วังสามหมอ ประวัติอำเภอวังสามหมอ. อุดรธานี : ห้องสมุดประชาชนอำเภอวังสามหมอ , 2552. ชมรมศิลปวัฒนธรรมอีสานจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. ตำนานท่าขอนยาง. สืบค้นเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2556 จากเว็บไซด์ http://www.isan.clubs.chula.ac.th บังอร วันชูเสริฐ. ประวัติชุมชนวังสามหมอและตำนานวังสามหมอ. อุดรธานี : โรงเรียนอนุบาล วังสามหมอ, 2541.
22 ภำคผนวก
23 รายวิชานาฏศิลป์พื้นฐาน เรื่อง ฟ้อนแข้บักเฮ้า ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เรื่อง ประวัติแข้บักเฮ้า ชื่อ .............................................. นามสกุล..................................................เลขที่ .............. ...... วันที่สอบ....................เดือน ..............................................พ.ศ. ..................ชั้น ........................ เกณฑ์การประเมิน 8 - 10 คะแนน ระดับคุณภาพ 3 หมายถึง ดี 5 - 7 คะแนน ระดับคุณภาพ 2 หมายถึง พอใช้ น้อยกว่า 5 คะแนน ระดับคุณภาพ 1 หมายถึง ควร ปรับปรุง สรุปผลการประเมิน ประเมินผล ก่อนเรียน คะแนนเต็ม 10 คะแนนที่ได้ ข้อ ก ข ค ง 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 กระดำษค ำตอบ
24 เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน เรื่อง ประวัติแข้บักเฮ้า รายวิชานาฏศิลป์พื้นฐาน ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนวังสามหมอวิทยาคาร สังกัดเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาอุดรธานี 1. ข 2. ง 3. ค 4. ค 5. ก 6. ค 7. ค 8. ข 9. ง 10. ข
25 เฉลยใบงานที่ 1 เรื่อง ประวัติแข้บักเฮ้า รายวิชานาฏศิลป์พื้นฐาน ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 คำสั่ง ให้นักเรียนตอบคำถามต่อไปนี้ (ทำกิจกรรมกลุ่ม) 2. ค าขวัญอ าเภอวังสามหมอ มีว่าอย่างไร (2 คะแนน) ตอบ เมืองผักหวาน อุทยานวังใหญ่ น้า ใสไหลหลาก มากด้วยปูปลา ประเพณีล้า ค่า ภูผาป่ าสมบูรณ์ 3. จงบอกประโยชน์และคุณค่าจากการบอกกล่าวค าขวัญอ าเภอวังสามหมอ (2 คะแนน) ตอบ ท าให้รู้ว่าอ าเภอวังสามหมอมีวัฒนธรรมประเพณีที่ดีงาม และวิถีชีวิตความเป็ นอยู่ที่ดี 1. สรุปประวัติแข้บักเฮ้า และต านานวังสามหมอ (พอสังเขป) (2 คะแนน) ตอบ แข้บักเฮ้าเป็ นต านานพ้ืนบา้นอีสานของอา เภอวงัสามหมอ ซ่ึงแข้บักเฮ้าเป็ นสัตว์ เล้ียงของนางค าบางแข้บักเฮ้าได้หลงกลืนกินนางค าบางไว้ในปาก เพราะต้องการปกป้อง นางค าบางไว้จากการต่อสู้กับจระเข้บักนนท์จนนางค าบางตาย พระยาสุทัศน์จึงได้สั่งให้ หมอมาปราบจระเข้3 คน จนแข้บักเฮ้าตาย จึงเป็ นที่มาในการต้งัชื่อของอ าเภอวังสาม หมอ 4. ประโยชน์ และคุณค่าจากการเล่าประวัติความเป็ นมาของแข้บักเฮ้า และประวัติความ เป็ นมาของต านานวังสามหมอ คือ (2 คะแนน) ตอบ ได้ทราบถึงประวัติความเป็ นมาของแข้บักเฮ้า ซึ่งเป็ นต านานพ้ืนบา้นอีสานของ อ าเภอวังสามหมอจังหวัดอุดรธานี และไดท้ราบถึงตา นานวงัสามหมอก่อนที่จะแต่งชื่อ เมืองอ าเภอวังสามหมอ
26 5. แสดงความรู้สึก ความคิดเห็นจากการบอกค าขวัญอ าเภอวังสามหมอ เล่าประวัติความ เป็ นมาของแข้บักเฮ้า และประวัติความเป็ นมาของต านานวังสามหมอ (2 คะแนน) ตอบ อ าเภอวังสามหมอเป็ นอ าเภอที่มีวัฒนธรรมประเพณีที่ดีงาม มีวิถีชีวิตความเป็ นอยู่ ที่ดีมีวรรณคดีพ้ืนบา้นอีสานของอา เภอวงัสามหมอที่น่าศึกษา ไม่ยำกเลยนะคะ
27 เฉลยใบงานที่ 2 ผังมโนทัศน์ เรื่อง ประวัติแข้บักเฮ้า รายวิชานาฏศิลป์พื้นฐาน ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 คำชี้แจง ให้นักเรียนออกแบบการเขียนผังความรู้ (mind mapping) เกี่ยวกับประวัติแข้บักเฮ้า ประวัติแข้บักเฮ้า ค ำขวัญอ ำเภอวังสำมหมอ ต ำนำนดอกพุดซ้อน หรือ ดอกกำร์ดิเนีย ต ำนำนอ ำเภอวังสำมหมอ ต านานวังสามหมอได้กล่าวถึง ต านานนาง ค าบางได้ตายเพราะจระเข้บักเฮ้าและต้อง ใช้หมอปราบจระเข้ ถึง 3 คน จึงต้งัชื่อเมืองว่า วงัสามหมอ จระเข้บักเฮ้าได้หลงกลืนกินนางค าบาง จนนางค าบางตายได้เกิดเป็ นดอกไม้สีขาว บริสุทธิ์ นามว่า ดอกอินถวา หรือ ดอกพุดซ้อน/ดอกการ์ดิเนีย เมืองผักหวาน อุทยานวังใหญ่ น้า ใสไหลหลาก มากด้วยปูปลา ประเพณีล้า ค่า ภูผาป่ าสมบูรณ์
28 เฉลยแบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง ประวัติแข้บักเฮ้า รายวิชานาฏศิลป์พื้นฐาน ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนวังสามหมอวิทยาคาร สังกัดเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาอุดรธานี 1. ง 2. ค 3. ก 4. ข 5. ก 6. ค 7. ค 8. ง 9. ข 10. ก